เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อแหงนมองจันทร์ ผมเห็น “ตะวัน” By TRomance "อัพเดทกล่อง+หนังสือตัวอย่าง P.81"  (อ่าน 838741 ครั้ง)

annestrong

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
หมายถึงตอนพิเศษ ตอน "ซุกเด็ก" ป่ะค่ะ

ที่คนเขียนเค้าเอามาลูบหลัง ตอนกำลังเศร้าๆ อึมครึมๆอ่ะ นะ

ย้อนๆๆไปก่อนตอนจบสักสามสี่ตอนค่ะ

หน้าไหนไม่รู้อ่ะ ลองย้อนๆดูค่ะ

อย่างนั้นเองเหรอครับ ขอบคุณมากๆครับ

ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
อ๊ายยยยย ตี่ตี้น่ารักที่สุดในสามโลก.... :m3:
ชอบมากๆเลย แบบนี้จะให้พี่ไม้ไม่รัก ไม่ห่วง ไม่แคร์ ได้ยังไงอะ น่ากอดมากมายน้องเอ๊ยยยย~

ปล. แอบมีสปอยล์เรื่องใหม่ด้วย >< จะรออ่านนะคะ
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษด้วยค่าาา  :กอด1:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
 :-[

ปล. เข้ามายกมือสนับสนุน ให้รวมเล่มค่ะ

yayu

  • บุคคลทั่วไป
น้องปลื้มน่ารักมาก แบบนี้พี่ไม้ไปไหนไม่รอดแน่นอน  :-[ :-[
ฉาน & เมฆ  :ped149:

ปล.1 ตอนพิเศษจัดมาเลยค่ะ
ปล.2 ถ้ามีรวมเล่ม ยกมือสนับสนุนเต็มที่
ปล.3 รอเรื่องใหม่ด้วย น่าติดตามอีกแล้ว

+ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ   :กอด1:

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27

ออฟไลน์ veevee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ขอบคุณที่เขียนเรื่องราวที่ดีๆ ให้ได้อ่านกัน


แล้วจะติดตามเรื่องต่อไป  :-[ :-[

ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
บวกหนึ่ง ให้น้องปลื้ม ที่รุกได้น่ารัก ขนาดเน้
 :-[
รอเรื่องใหม่ด้วยคะ แต่จะไปวางบอมไหม ขออ่านดูก่อน

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
ไม้น่าร้ากกกกกกกก รุกเจอรุกกว่าแบบนี้งั้นเหรอ 555+

น่ารักสุด ๆ เลย   :impress2:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
พี่ไม้กับน้องปลื้มน่ารัก

แอบมีสปอยเรื่องต่อไปด้วยหรอค่ะเนี่ย

จะรออ่านนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






kittyfun

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาร้องกรี๊ด พร้อมกับบอกว่า คู่ไม้กับน้องปลื้ม

ก็หวานฉ่ำไม่แพ้คุณเมฆกับพี่ฉานเลย

อ๊ากร้อนแรงพอกัน

ทำเอาคนอ่านหน้าแดงไปหมดแล้ว

ออฟไลน์ ณ ที่เดิม™

  • มากกว่าชีวิต...
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-0
ตอนนี้ พี่ไม้หวานได้อีกขอรับ :กอด1:

ออฟไลน์ EunJin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
ตอนพิเศษก็น่ารักมากกกกกกกก
อ่านไปก็แอบอมยิ้มไป ไม่ไหวทนมากกก
ถ้ารวมเล่มจริงๆก็ดีซิ...เค้าซื้อแน่นอนฮะ
^ ^

three

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณ
«ตอบ #1813 เมื่อ17-08-2010 21:57:20 »

ขอบคุณมากๆนะครับไม่อยากให้จบเลย รอตอนพิเศษนะฮะ

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
คู่นี้ก้อน่ารักไปอีกแบบ
อยากอ่านตอนพิเศษนายฉาน น้องเมฆ
+1

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
ก็น้องปลื้มใสขนาดนี้แล้วพี่ไม้จะไม่หลงไหวรึ

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3960
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
ไม้ถึงเป็นเพื่อนกับฉานได้อ่านะ  :laugh:

จะขึ้นเรื่องหน้าแล้วเหรอคะ รออ่านจ้า รวมเล่มก็น่าสนใจนะ แถมสเปเยอะๆเลยนะ 555 คิดถึงฉานกับเมฆมากเลย  :กอด1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เด็กมันยั่วจนพี่ไม้จะหลงทางรักหาทางออกไม่เจอแล้วมั้งนั่น น่ารักดีคู่นี้  :impress2:

ออฟไลน์ banana49

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ จะอ่านอ่านอีกค่ะ ^^
ปลื้มตรงได้อีก พี่ไม้ก็หื่นใช้ได้เลย อิอิ
คิดถึงฉานกับเมฆมากกกกก

Flower night

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ย จัดไป+1 แรงๆเลยยย ขอบคุณมากๆค้าบสำหรับตอนพิเศษ

น่ารักไม่ไหว ใจละลาย กับบทเอ็นซี ฮ่าๆ  :pighaun:

พี่ฉาน กับพี่เมฆ นี่ มันก็น่ารักกก เอาอีกๆ แต่อยากอ่านบทของพี่ฉาน บรรยายมั่งอะ

รัก ร้อง รุก  นี่แบบบหืมมม มันจะน่ารักไปไหนว่านี่ น้องปลื้มมมมม พี่ปลื้มน้องมาก 555(เพ้อและ)

น่ารัก เกรียนๆ ใสใส ดีอ่ะะ อยากได้ อีก คู่นี้ๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ CHIVAS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-1
ไหลลื่น ไม่มีที่ติ เลยนะคะคุณไม้  นี่น้องปลื้มคนแรกจริงป่ะ  อิอิ
น่ารักกกกกกก น้องปลื้ม ใสๆ ตรงๆ แต่แอบเจ้าเล่ห์นะเราว่า  :haun4:
น้องปลื้มรุก แต่พี่ไม้เหนือรุก 

ออฟไลน์ ï_Kiss_U♥

  • รักไม่ได้
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
ซื้อค่ะ ชอบเรื่องนี้มากทำร่วมเล่มเหอะ นะๆ
กระหน่ำมาให้พอเลยตอนพิเศษอ่ะ พร้อมรับอิอิ

ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
ตอนพิเสษก็ยังน่าอ่าน อยากแนะนำเรื่องต่อไปตัดเป็นภาคต่อ ดึงไม้กับน้องปลื้มมาเป็นตัวหลักเลย
เลดี้ขอเชียร์

-N-

  • บุคคลทั่วไป
รักฉานเมฆมากมาย
ตอนนี้เม้นต์ไม่ออก ขอไปอ่านให้ตื่นตันอีกรอบก่อนนนนจ้า

รอตอนพิเศาด้วย โอ้ยยยยยยยย มีฟามสุขจังงงงงงงงงงง รักกกกกคู่นี้ อิอิ

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
ชื่อตี่ตี้ก็น่ารักออกน๊าาาาา  :laugh:

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
เข้ามารอ "รัก.. ต้องแสดงออก" คร้าบบบ

ถ้ารวมเล่ม อยากได้ ก้อนเมฆกับดวงตะวันเป็นของแถม อิอิอิ

 o13 o13 o13

ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
ตอนพิเศษ รัก...ต้องแสดงออก รอก่อนนะ ได้อันนี้มาก่อนเลยเอามาลงก่อน  :z2:
=========================================





ตอนพิเศษ    รัก....(ต้อง) ลองใจ (กันด้วยเหรอวะ)




สำหรับผมแล้ว......การรักใครสักคนไม่ใช่เรื่องยาก
แต่การทำให้ผู้ชายคนนั้นแน่ใจว่าผมรัก......มันยากยิ่งกว่าอะไร
มันเหนื่อย และบางครั้งความน้อยใจก็ทำให้รู้สึกท้อ
แต่รักก็คือรัก ...... ไม่มีความเจ็บปวดไหน ทำให้เลิกรักได้เลยสักที
ถ้าการประชดและความกดดันจากรอบข้าง คือ บทพิสูจน์ความรักของผมได้
ผมก็พร้อม............

!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


ผมไม่เคยเดินหันหลังให้เมฆ …
ไม่เคยแม้แต่จะคิด ถ้าสิ่งนั้นทำให้เมฆอยู่นอกกรอบสายตา
แต่ถนนยังมีจุดหมายปลายทาง
ความน้อยใจก็มีจุดสิ้นสุดของมันเหมือนกัน
ผมไม่เคยหดหู่ใจ เศร้าใจ น้ำตาลูกผู้ชายไม่เคยคลอเบ้าให้กับเรื่องไหน
ยกเว้นเรื่องนี้
จะมีใครปวดใจได้เท่าผม
ถ้าวันหนึ่งคุณรู้ว่า คนที่อยู่ซุกหน้าหลับใหลอยู่ในอ้อมกอดคุณทุกคืน
คนที่คุณอยู่ด้วยแทบจะตลอดเวลา สื่อสารกันทุกภาษาไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือทางร่างกาย
จะเป็นคนสุดท้ายที่คุณคิดถึง.......ตอนประสบปัญหาชีวิตครั้งยิ่งใหญ่
ถ้าคุณเจอแบบนี้ คุณกล้ามองตาผมแล้วพูดได้มั้ย ว่าไม่รู้สึกอะไร
ผมไม่ใช่คนดี เหมือนหน้าตาที่พ่อแม่ตั้งใจปั้นมาหรอก ผมรู้ดี
ชีวิตไม่ใช่ละครและผมก็ไม่ใช่พระเอกช่องเจ็ดที่ขอแค่ได้รัก แม้สุดท้ายเค้าไม่รักก็ไม่เป็นไร
แน่นอนว่าคนอย่างฉานแสงให้ความรักใครไป ต้องได้ความรักตอบแทนกลับมา
วางหัวใจไว้ที่ใคร  คนๆนั้นก็ต้องยื่นหัวใจมาให้ผมเหมือนกัน



วันนั้น......วันที่เดินหันหลังให้เมฆ ผมร้องไห้
อยู่ต่อหน้าผมทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ในใจเจ็บเจียนตาย
ผมเดินผ่านเหมือนคนแปลกหน้า แต่ใครจะรู้ว่าผมต้องหักห้ามใจแค่ไหน
หักห้ามใจ ที่จะไม่หันหลังกลับไปแล้วกระชากเมฆกลับมากอดเอาไว้แนบอก
ถ้ากลืนมันเก็บเข้าไปได้ ผมทำไปนานแล้ว
ความรักของผมไม่ใช่การก้าวเดินตาม แต่เราจะก้าวไปด้วยกัน
ไม่มีใครเดินนำหน้าใคร เราจะจับมือกันไว้ แล้วเดินไปแบบเรียงหน้ากระดาน
ผมยอมรับได้ถ้าเราต้องตายไปพร้อมกัน แต่ถ้าเลือกได้ ผมขอตายก่อนมัน
แต่ถ้าเลือกไม่ได้ สุดท้ายผมก็ต้องตายตามมันไปอยู่ดี



ผมไม่รู้ว่าจะบรรยายความรู้สึกตอนที่รู้ว่า เมฆตัดสินใจจะเผชิญปัญหาใหญ่ขนาดนั้นคนเดียว
คำบอกเล่าทุกคำจากปากไอ้หน่า ผมจำได้ ท่องจำเรื่องราวได้ขึ้นใจ แต่หลังจากนั้นผมเป็นยังไงผมไม่รู้ตัวเลย ในสมองผมขาวโพลน ทุกอย่างว่างเปล่า จริงๆมันควรจะว่างเปล่าตั้งแต่รู้เรื่องราวจากปากคนอื่นแล้ว แต่มันก็ยังฝืนทำความเข้าใจมาได้จนจบ

ผมไม่ได้โกรธ ผมชินแล้ว เรื่องที่เมฆตัดสินใจทำอะไรโดยไม่ปรึกษาผม

แต่มันไม่เคยมีเรื่องไหนที่จะใหญ่เท่าเรื่องนี้

ความอันตรายของมันเท่ากับความเป็นความตาย

ผมไม่ได้หวงตัวมันเท่ากับห่วงชีวิตมันหรอก
ถึงแม้ว่าการที่มันยอมเอาตัวเองเข้าเสี่ยงจะทำให้ผมปวดหนึบในใจขนาดไหน
แต่สุดท้าย
ความรักมันก็เอาชนะได้หมดนั่นแหละ ตัวมันไม่ใช่ผมไม่หวง แต่ถ้าโชคชะตาทำให้มันต้องผ่านใครต่อใคร ผมแน่ใจว่าสุดท้ายผมจะรับมันได้

ผมแยกแยะความรักและความใคร่ออกจากกัน
ถ้าความรักของผมเป็นเพียงความใคร่ แล้วทำไมชีวิตผมถึงได้หมุนรอบตัวมัน
ถ้าความต้องการของผมคือความใคร่ ผมแน่ใจว่าผมไม่ต้องเสียแรงหา
แทบไม่ต้องขยิบตาเลยด้วยซ้ำ .... แค่เพียงผมยืนอยู่กับที่มันก็จะปรี่มาปะทะตัวผมเองแหละ

แต่ผมแน่ใจว่ามันคือรัก ผมถึงได้เจ็บเจียนตายขนาดนี้
ตอนมีความสุขเราแบ่งปันกัน แต่ทำไมตอนมีความทุกข์มันถึงได้เก็บไว้คนเดียว
ที่ผ่านมาผมปกป้องมันน้อยไปเหรอ ผมให้ความมั่นใจมันน้อยเกินไปรึเปล่า
มันปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนทุกคน แต่ให้ผมเป็นคนสุดท้ายที่ได้รับรู้  ไม่ใช่คนแรก
ถ้าเหตุการณ์ไม่บังคับ ผมยังอดคิดไม่ได้ ว่าผมจะได้รู้มั้ย
ผมหันหลังให้มัน เพราะผมเสียใจ น้อยใจ ไม่ได้ประชด
เสียใจนะ ไม่ใช่หมดใจ ผมไม่ได้รักมันน้อยลงไปเลย
ผมแค่ขอเวลาทำใจ  แค่นั้น
เมื่อผมทำใจได้ ยังไงผมก็ต้องเดินตามมันไปห่างๆอยู่ดี
ไม่ว่ายังไง ผมก็ไม่ชินที่จะไม่มีมันอยู่ในสายตา
ถ้ามีสติผมบังคับตัวเองให้เย็นชาได้ แต่พอกลับมาเป็นตัวของตัวเองเมื่อไหร่ สายตาก็ต้องมองหามันทุกที



ขนาดข้อสอบยังมีหลายตัวเลือกให้ตัดสินใจ
บทพิสูจน์ก็ไม่ได้มีเพียงบทเดียวเหมือนกัน
แม่รู้เรื่องผมกับเมฆนานแล้ว เพียงแค่รอว่าเมื่อไหร่ ผมจะเดินไปบอกท่านเองอย่างลูกผู้ชาย
ไม่มีอะไรที่แม่ฝังลงในสมองผมเท่ากับกล้าทำก็ต้องกล้ารับอีกแล้ว
แต่ผมก็ปล่อยให้เวลาผ่านไป เพียงแค่กลัวพวกท่านจะรับไม่ได้และลึกๆแล้วผมกลัวว่าเราต้องถูกจับแยกออกจากกัน
ผมซื้อเวลาไว้ โดยไม่คิดเลยว่า ผมดูถูกความรักของพ่อกับแม่แค่ไหน
เค้าให้กำเนิดผมมา แต่ผมก็ยังคิดว่าเค้าจะเหมือนใครๆในสังคม ไม่เปิดโอกาสให้ความรักที่ผิดไปจากธรรมชาติ
สุดท้ายผมก็ต้องก้มหน้ารับกรรมที่ตัวเองก่อเอาไว้ แบบไม่ได้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว
พ่อผมเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ เอ่ยชื่อบริษัทไปใครๆก็ต้องรู้จัก มีลูกแค่สองคน คือผมกับพี่ฉาย
พี่ฉายเอาดีด้านการเรียน อุทิศตัวเองเป็นคนสร้างอนาคตของชาติ อนาคตของกิจการในครอบครัวก็ต้องเป็นผม
สถาปนิกคือความใฝ่ฝัน แล้วมันก็บังเอิญเอื้อต่อกิจการที่บ้านแบบไปด้วยกันได้ ผมสามารถเป็นสถาปนิกที่ดี พร้อมๆกับเป็นผู้บริหารกิจการของครอบครัว มันจึงไม่แปลกถ้าผมจะต้องวางรากฐานตัวเองก่อนใครๆ เพื่อนสนิทคนหนึ่งของพ่ออยากมอบของขวัญให้ลูกสาวที่เพิ่งเรียนจบ ด้วยการสร้างอพาร์ทเม้นต์ให้  งานนี้พ่อเชื่อใจว่าผมทำได้ และผมก็พร้อมจะสร้างความมั่นใจให้กับพ่อ
แต่ใครจะรู้หละว่า
 แม่จะใช้สถานการณ์นี้ลองใจผม น้องเพชรเป็นลูกสาวคนเดียวของลุงวิชัยเป็นแก้วตาดวงใจของบ้าน น้องเพชรอ่อนกว่าผมแค่ปีสองปี สร้างความภูมิใจให้พ่อด้วยการเทียบชั้นเข้ามหาลัยก่อนเกณฑ์คนทั่วไปแล้วจบได้ในเวลาสามปี น้องเพชรเรียบจบแล้ว แต่ผมเพิ่งขึ้นปีสี่ ผมไม่ได้คิดอะไรกับน้องมากไปกว่าการขอพิสูจน์ฝีมือตัวเอง แต่กริยาเรียบร้อยอ่อนหวานเป็นกุลสตรีไทย ที่ตอนนี้คงหายากกว่าอะไรทั้งหมด ผู้ใหญ่ที่ไหนเห็นแล้วก็ต้องประทับใจชอบใจกันทั้งนั้นแหละ แม่ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น  ขนาดแม่นิ่มของไอ้เมฆยังเป็นไปกับเค้าได้เลย

ปฎิบัติการอวยน้องเพชรให้ผมสนใจ จึงเริ่มขึ้นจากการร่วมมือกันของสองแม่ ทั้งแม่ผมทั้งแม่ยาย
ถ้ารู้ว่ามันเป็นเพียงบทลองใจ
ผมคงไม่จะเป็นจะตายขนาดนี้หรอก จะปรับทุกข์กับเมฆก็ไม่ได้ อยากกอดมันแทบตาย ยังต้องเอาเล็บจิกตัวเองให้อดทนเอาไว้เลย
ที่พึ่งเดียวที่ผมคิดถึงคือพี่ชาย
เราไม่ได้สนิทกันถึงกับจะพูดอะไรกันทุกเรื่องหรอก ตั้งแต่ผมจำความได้ รอบกายพี่ฉายมีแต่กองหนังสือ เปิดเข้าไปมีแต่ตัวอักษรเรียงกันเป็นพรืด ให้ทำยังไงผมก็ทำใจให้ชอบแบบพี่ฉายไม่ได้ รอบตัวผมจึงมีแต่กระดาษเปล่าไม่มีบรรทัด มีทั้งดินสอทั้งสีกระจัดกระจายไปทั่วบ้าน มีลูกน้องร่วมอุดมการณ์ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นไอ้เด็กผู้ชายข้างบ้านที่พี่ฉายยังแอบแซวที่ผมเอามันติดตัวตลอดเวลา ยิ่งกว่ากระติกน้ำตอนเรียนอนุบาลเสียอีก
วันที่ไปส่งพี่ฉายไปเรียนไกลถึงอเมริกา ทั้งๆที่มีแต่ครอบครัวผมและญาติๆ แต่ก็ยังไม่วายมีลูกสมุนอย่างเมฆติดตัวไปส่งพี่ฉายด้วยอยู่ดี เพราะเราห่างกันมาก เราจึงมีความสัมพันธ์ในแบบน้องที่เคารพรักพี่ ไม่ได้สนิทกันแบบเพื่อนที่เล่นหัวกันได้ แต่วันที่พี่ฉายไปเรียนไกลแสนไกลผมก็ยังร้องไห้ แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้ร้องไห้แค่คนเดียว ผมจำได้ว่าตอนที่น้ำตาผมไหลน้ำตาเมฆก็ไหลเหมือนกัน พี่ฉายดึงผมไปกอด อกพี่ฉายปิดบังน้ำตาของผมไว้ แต่เมฆร้องไห้ต่อหน้าใครๆ  ไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย ทุกคนมองเมฆด้วยความเอ็นดู แม้แต่พี่ฉายยังอดใจไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบหัวเพื่อนสนิทที่สุดของผมตอนนั้น
ตอนที่ผมบอกพี่ฉายว่าผมรักเมฆ ไม่ได้รักแบบเพื่อนอีกแล้ว ผมรักมันแบบคนรักมีความสัมพันธ์กับมันอย่างที่คนเป็นแฟนกันเค้าทำ ทั้งๆที่ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นความสัมพันธ์ของเราจะได้เดินต่อไปไหม มันจะจบลงเพราะเราเดินหันหลังให้กันด้วยความไม่เข้าใจรึเปล่า แต่น้ำเสียงที่ผมบอกพี่ฉายไปว่าผมรักมัน ก็พูดออกไปอย่างมั่นใจ ทั้งๆที่ผมกำลังเจ็บเจียนตายแต่ผมก็ปฎิเสธหัวใจตัวเองไม่ได้อยู่ดี
พี่ฉายไม่ได้แปลกใจ ออกจะเข้าใจแล้วก็รับได้ ไม่มีคำต่อว่าใดๆ บอกแค่ว่าอะไรคือความสุขก็ให้เรายึดมั่นในสิ่งนั้น ทั้งๆที่ผมเสียงสั่นบอกว่าแม่แนะนำผู้หญิงให้ แม่ชอบผู้หญิงคนนั้น พี่ฉายก็ยังคงส่งเสียงหัวเราะฝ่ากระแสเสียงที่ผมกังวลสุดหัวใจไปให้ พี่ฉายบอกว่าแม่ชอบ แต่ไม่ได้หมายความแม่จะยัดเยียดคนนี้ให้ผมสักหน่อย ถึงแม้แม่จะประทับใจแต่แม่เคยพูดมั้ยว่าฉานจีบคนนี้สิ
คำตอบคือ “ไม่” แม่แค่ชอบ แค่พูดถึง มันคือความประทับใจ ใครๆก็รู้สึกแบบนี้ได้ เหมือนเราประทับใจนักร้อง ดารา เพียงแต่ไม่ได้ออกนอกหน้าแบบแฟนคลับดาราแค่นั้นเอง ฉานจะคิดมากไปทำไม ถ้าแม่ให้จีบเมื่อไหร่ ก็ให้บอกแม่ไปว่ามีคนรักอยู่แล้ว พี่ฉายบอกว่า หน้าตาในสังคมกับลูก แม่ต้องเลือกลูกอยู่แล้ว จะมีใครที่เดินยิ้มเชิดหน้าในงานสังคมแต่ข้างหลังคือลูกนอนร้องไห้ทุกข์ใจ แล้วบอกใครต่อใครว่านั่นคือชีวิตที่สุขสมบูรณ์ คนที่มีความสุขจริงๆเค้าไม่ป่าวประกาศกันหรอกนะ คนที่มีทุกข์และมีปมในใจเท่านั้นแหละ ที่จะพยายามสร้างเกราะมาปิดบังเอาไว้แล้วบอกใครๆว่าสุขสบายดี พี่ฉายบอกว่าจะช่วยพูดกับแม่ให้ แต่ความจริงแล้วแทบจะไม่ต้องพูดอะไรเลย เพราะแม่เข้าใจลูกๆดีอยู่แล้ว พุดง่ายๆคือผมกังวลใจไปฟรีๆ ถ้าจะมีตีนกาขึ้นหน้า เอาเป็นว่าผมได้มาแบบไม่ต้องลงทุน
แม่เค้าแค่อยากลองใจว่าถ้ามีอะไรมากดดันหรือบีบบังคับ ผมจะพูดออกมามั้ยว่าผมรักใคร
กว่าผมจะรวบรวมพลังแต่ไม่มีกำลังใจเคลียร์เรื่องนี้ได้ ผมหมกตัวเครียดอยู่นาน เมื่ออะไรๆคลี่คลายผมจึงพูดคุยและแสดงออกกับน้องเพชรได้โดยไม่ต้องเกร็งหรือระวังอะไร ผมพูดคุยกับน้องเพชรเหมือนเพื่อนเหมือนน้องคนหนึ่ง แต่อาจจะไม่หยาบคายเท่าพูดคุยกับไอ้หน่า ไอ้นั่นต้องเว้นไว้ เพราะมันคือเพื่อนชายในร่างหญิง

เรื่องที่แม่ลองใจ มันไม่ได้ทำให้ผมจะเป็นจะตายเท่าเรื่องนี้หรอก

วันนั้นวันที่น้าวิชัย น้องเพชรและครอบครัวมาเยี่ยมที่บ้าน เป็นวันที่ผมไม่เป็นตัวของตัวเองที่สุดแล้ว
ต่อให้เจ็บปวดเพราะคนที่รักแค่ไหน แต่ความห่วงใยเท่าเดิม ผมใจแข็งพอที่จะให้เมฆไปส่งอันดาสมัครเรียนพิเศษคนเดียว
อาการผมแสดงออกจนน้องเพชรยังจับได้ ว่าผมเปลี่ยนไป ช่วงเช้าก่อนออกจากบ้าน ผมติดต่ออันดาได้ ผมเตรียมการณ์ทุกอย่างไว้ให้อันดาอีกทาง เผื่อเมฆมันเอ๋อๆ ทำอะไรไม่ถูก จะมีสักกี่ครั้งที่เมฆไปไหนมาไหนคนเดียว จะมีสักกี่ครั้งที่มันจำทางได้ จะมีสักกี่ครั้งที่มันจะไปไหนโดยไม่มีผม ไม่ต้องถึงนิ้วเท้าก็ได้ แค่นิ้วมือก็พอแล้ว เมฆรู้ว่าอะไรอยู่ที่ไหน แต่เมฆมันบอกพิกัดไม่ได้ เรื่องรถโดยสารประจำทางแล้วต่อรถไฟฟ้า ผมให้อันดาตัดออกไปเลย แท็กซี่เท่านั้น ดีที่ไอ้ตัวดีมันไม่คิดจะพาน้องไปลุยอะไรที่ไหน มันเลือกแท็กซี่เลยตั้งแต่แรก

ผมรู้ว่ามันมองมาทางนี้ แต่ผมแกล้งทำเป็นไม่เห็นไม่สนใจ แต่คนไม่สนใจที่ไหนจะจำได้ว่าคนรักตัวเองแต่งตัวยังไง โทรมแค่ไหน และล่องลอยยังไง ไอ้ท่าทางลากถูกันออกไปนั้น ทำเอาผมแทบจะขับรถตามออกไปให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าไม่ติดว่ามีผู้ใหญ่มาฟังผมพรีเซ็นต์เรื่องแบบวันนั้นด้วยแล้ว ผมไม่ปล่อยให้มันไปเผชิญชะตากรรมกันสองพี่น้องหรอก ในเมื่อมันเป็นของผม น้องมันก็เหมือนน้องผมแหละ ผมต้องหักห้ามใจไม่โทรหาอันดา ไม่งั้นมันต้องรู้แน่ๆว่าจริงๆแล้วผมตัดใจจากมันไม่ได้ ผมไม่ได้ต้องการให้มันง้อ แต่ผมต้องการให้มันคิด ให้มันรู้ว่าสิ่งที่มันทำไป ผมเสียใจแค่ไหน รับรู้ความรู้สึกผมสักนิดก่อนจะทำอะไรก็ยังดี

ทั้งๆที่ผมคิดว่า เป็นเวลาที่น่าจะโทรหาอันดาได้ แต่ผมกลับติดต่อไม่ได้
แหล่งข่าวทางเดียวที่ผมจะรู้เรื่องราวของเมฆ ถูกตัดสัญญาณการสื่อสารทุกครั้งที่โทรไป จะฝากข้อความก็ไม่ได้ ไม่มีเรื่องไหนอึดอัดใจเท่าเรื่องนี้อีกแล้ว
ตอนเช้าผมเห็นอันดาลากเมฆเข้าแท็กซี่ไป ตอนบ่ายกลายเป็นเมฆพยุงร่างอันดากลับมา ผมวุ่นวายใจแค่ไหนใครจะรู้บ้าง ผมต้องแสดงท่าทีเฉยๆ ทั้งๆที่อกจะระเบิดขึ้นมาวินาทีไหนยังไม่รู้ ถึงแม้ว่าพ่อจะเหมือนอัศวินม้าขาวช่วยถามเรื่องราวให้ ก็ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรสักเท่าไหร่
อันดาไม่สบาย เพราะคนเยอะ อากาศร้อน นอนน้อย หรืออะไรที่เมฆเอามาอ้างกับผู้ใหญ่ ผมก็รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ใช่แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จะโทรถามอันดาก็ยังไม่กล้าเลย ได้แต่ส่งแม่ไปสืบเรื่องเอากับแม่นิ่ม ฝ่ายนั้นก็รู้แค่ว่าอันดาไม่สบาย ร้องไห้ และซึมเศร้า แต่สาเหตุไม่รู้ว่ามาจากอะไร ยังไม่อยากถามอันดาตอนนี้ อยากให้อันดาพักผ่อน อยู่กับตัวเอง ให้อันดาพร้อมที่จะเล่าเรื่องราวทุกอย่างด้วยตัวเอง แม่นิ่มก็เป็นแบบนี้เสมอ ให้เกียรติ์ทุกคนรอบกาย

เดินเล่นรอบหมู่บ้าน     เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจที่น้องเพชรยกขึ้นมาเพื่อให้ผมหายจากอาการฟุ้งซ่าน หรือพูดอีกอย่างคือน้องคงเหนื่อยใจที่คุยกับผมไม่รู้เรื่อง จับใจความไม่ได้ ถามอย่างผมตอบไปอีกอย่าง เหมือนคนสติไม่อยู่กับร่องกับรอย
สีเขียวของต้นไม้ใบหญ้าและเรื่องราวพูดคุยเกี่ยวกับงานที่ผมออกแบบเรียกสติผมกลับมาได้บ้าง อย่างน้อยผมก็เปิดยิ้มได้ พูดจารู้เรื่อง

ทุกอย่างเหมือนว่าจะดี

ถ้าผมไม่เดินผ่านมุมรั้วข้างบ้าน ถ้าผมไม่เห็นว่ามีรถไม่คุ้นตาคันหนึ่งจอดหลบอยู่ที่มุมรั้ว ต้นไผ่ที่มาบังทำให้ผมไม่รู้ว่ารถใคร แต่ยี่ห้อรถทำให้ผมรู้ว่าไม่มีฐานะคงขับไม่ได้ แล้วก็ไม่ใช่รถของเพื่อนบ้านคนไหนแถวนี้ ผมไม่เคยเห็น BMW Series 5 ที่ตกแต่งประมาณว่าพร้อมลงแข่งฟอร์มูล่าวันอยู่ตลอดเวลา กระจกติดฟิล์มดำธรรมดาก็แทบมองไม่เห็นอะไรอยู่แล้ว นี่มันยังติดฟิล์มแบบรีเฟลกปิดกั้นทุกการมองเห็นจากคนนอก ไม่ต้องหวังเลยว่าถ้าไอ้คนขับไม่ออกมา ผมจะรู้ว่าใครที่มันผลาญเงินพ่อแม่เอารถดีๆมาแต่งซะเสียของขนาดนี้ ถ้าเป็นเพื่อนหรือน้องคนรู้จักในหมู่บ้าน จะเรียกมาตบบ้องหูให้รู้สำนึกแน่ๆ

ในเมื่อเบื้องบนต้องการให้ผมปวดใจ


มันก็ต้องมีอะไรมาดลใจให้เจ้าของรถออกมาปรากฏโฉมจนได้  ผมเดินผ่านรถคันนั้นไปแต่บ่อยครั้งที่ผมหันมามองเพราะสังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าสวนสาธารณะหมู่บ้าน เจ้าของรถคันนั้นก็ออกมายืนพิงรถดูดบุหรี่ ไอ้ใครคนนั้นปล่อยควันออกมาสบายใจ แต่ผมแปลกใจ การแต่งกายคุ้นตาแต่มองไม่เห็นหน้าเลยไม่แน่ใจว่าใคร
น้องเพชรชี้ชวนให้ดูหงส์ในทะเลสาบที่หมู่บ้านเลี้ยงไว้ หงส์อะผมไม่สนใจหรอก ผมกับเมฆเห็นพวกมันมาตั้งแต่ยังเป็ดลูกเป็ดขี้เหร่อยู่เลย แทบจะเขียนพัฒนาการ การกลายเป็นหงส์ออกมาเป็นโฟวชาร์ตได้ด้วยซ้ำ แต่ผมก็ต้องหันไปมองตามมารยาท แถมหงส์ก็ยังว่ายน้ำคู่กันให้ผมสะเทือนใจเล่นอีก
เอาเหอะกรีดมาทีเดิมซ้ำๆให้มันเป็นหนองไวๆเลยก็ดี เค้าว่าแผลฉกรรจ์แค่ไหนถ้ากลายเป็นหนอง แสดงว่าอีกไม่นานก็หาย ถึงผมจะเป็นเด็กยุดใหม่ แต่ผมก็ได้แต่ภาวนาว่าให้มันเป็นอย่างนั้น

ผู้หญิงกับการชื่นชมธรรมชาติ ผมก็เข้าใจว่าเป็นของคู่กัน ถ้าตอนที่ผมปกติก็ยอมรับว่าเป็นอะไรที่น่ามอง ลมพัดผมปลิวสยาย มือบางที่จับปอยผมไปทัดไว้ที่หู หรือรอยยิ้มที่เป็นธรรมชาติ มันเจริญตาเจริญใจหมดแหละ

แต่มันนานไปมั้ย!!!!

 คือผมอารมณ์ไม่ปกติเลยอดที่จะพาลไม่ได้ว่า จะมองให้ดอกมันร่วงแล้วกลายเป็นผลไม้เลยรึไง ความจริงมันอาจจะไม่นาน แต่สวนสาธารณะนี้ ผมกับเมฆสำรวจจนพรุนแล้ว ต้นไหนคือต้นอะไร แม้แต่มะม่วงออกดอกตอนไหนออกลูกตอนไหน เก็บกินได้ตอนไหน ผมกับเมฆยังรู้เลย ยังกะเวลามาขโมยได้ถูก ต้นไม้ที่บ้านก็เยอะแยะ แต่น่าแปลกมันไม่หวานเท่ากับที่เราไปขโมยมาเลยนี่สิ หรือว่าความอร่อยมันอยู่ที่ความตื่นเต้นก็ไม่รู้

ผมพรูลมหายใจด้วยความโล่งอก พ่นออกมาแบบรักษามารยาท ไม่ให้คนที่มาด้วยรู้ว่า ผมรอเวลานี้มานานแค่ไหน
เวลาที่น้องเพชรบอกว่า “กลับบ้านกันเถอะ” ความรู้สึกเหมือนๆกับว่า ผมเป็นทุ่งกุลาร้องไห้ ผืนแผ่นดินแห้งผากแตกระแหงแห้งแล้งสุดๆ อยู่ๆมีฝนปรายมาให้พออายเกลือในดินมีควันพวยพุ่งออกมาตอนรับฝนห่าใหญ่ที่จะตกลงมา น้ำตาฟ้าที่ทำให้ผืนนายิ้มได้


แต่ใครจะไปรู้ว่าเวลาข้างหน้า เวลาที่ไล่เลี่ยกัน จะมีน้ำตาตามมาเหมือนกัน
แต่เป็นน้ำตาผมเอง น้ำตาที่มันไม่ได้ไหลออกมาหรอก มันคั่งอยู่ข้างใน
ลำคอผมตีบตันแห้งผากตั้งแต่มองเห็นคนที่เดินก้มหน้า แต่สายตาระแวดระวัง มองซ้ายมองขวา แล้วก้าวถอยหลังดูเหมือนกำลังหลบเลี่ยงอำพรางอะไรสักอย่าง แต่ใครคนนั้นไม่มองมาข้างหน้า เค้าเลยไม่รู้ว่าต่อให้ไกลแค่ไหน ต่อให้เห็นแค่ปลายผมที่โผล่มา ต่อให้ผมปิดตาแล้วเดินเข้าไปใกล้ๆ ผมก็รู้ว่าคนนั้นคือใคร ผมแน่ใจว่าเดินเข้าไปจับได้ไม่ผิดคนแน่นอน

ดูเหมือนเมฆจะตกใจ แต่ผมกลับปวดหนึบในใจ เสียงรัวของจังหวะหัวใจตอนที่เราหยุดอยู่ตรงหน้ากัน  ทำให้ผมต้องกลั้นใจเอาไว้ ไม่อย่างนั้นไอ้คนตรงหน้ามันต้องรู้แน่ๆว่า ผมอ่อนแอแค่ไหน ไม่ได้ใจแข็งอย่างที่มันตราหน้าเอาไว้หรอก จุดอ่อนของผมที่มันไม่รู้ก็คือ ผมอ่อนไหวเสมอถ้าเรื่องนั้นเกี่ยวข้องกับมัน ตอนนี้ผมก็ยังยืนยันแบบนั้น

กว่าจะทำใจเดินผ่านตรงนั้นมาได้
ผมก็เข่าอ่อนจนแทบทรุด หัวใจมันเจ็บจนชา
 ความกังวลใจเดินทางมาจากไหนก็ไม่รู้ ความห่วงใยก็กรูกันเข้ามาในเวลาเดียวกัน ไอ้ความกังวลและความห่วงใยมันไม่มีมารยาทพอที่จะเข้าแถวกันเข้ามากระทบใจผมเลย มันเข้ามาพร้อมๆกัน ความอดทนผมต้องถูกเรียกมาใช้มากที่สุด อย่างน้อยก็แค่เพียงส่งลูกสาวเพื่อนพ่อให้ถึงจุดหมาย แล้วตอนนั้นผมจะบ้าผมจะคลุ้มคลั่ง ผมก็จะปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ

ลงโทษผมแล้ว ก็ทรมานผมให้สุดๆไปเลย เอาให้ผมตายไปแล้ว ผมก็ยังจำความเจ็บปวดก่อนตายได้

มีคนบอกว่าคนเราก่อนจะตาย ภาพในอดีตที่มันฝังใจจะหลั่งไหลเข้ามาในความทรงจำ
ไม่เกี่ยงว่าใกล้จะตายแบบไหน ขนาดผมที่กำลังจะตายทั้งเป็นมันยังย้อนมาให้เจ็บใจจนวินาทีสุดท้ายเลย เพียงแต่ย้อนอดีตไปไม่ไกลเท่าไหร่ มันย้อนไปถึงตอนที่เมฆประคองร่างบอบช้ำของอันดาลงมาจากแท็กซี่ ตอนนั้นสีหน้าอันดาดูจะเป็นไข้ใจมากกว่าไข้ทางกาย อะไรๆมันประติดประต่อจนต้องกำหมัดแน่น ตัวสั่นจนแปลกใจ ว่าตัวเองยังควบคุมร่างกายอยู่ได้ยังไง ส่งน้องเพชรถึงมือพ่อน้องเค้าได้ ผมว่ามันเหนือความคาดหมายแบบสุดๆแล้ว

เสี่ยง!!!!
เอาตัวเข้าแลก!!!
อันตราย!!!!

ผมไม่รู้ว่าอันไหนคือปฎิกริยาเร่งเร้าที่รุนแรงที่สุด ที่สามารถฉุดขาของผมให้ไปที่รถแล้วเหยียบแบบไม่คิดอะไรได้
เป้าหมาย คือบ้านไอ้จัญไรคนนั้น บ้านผู้มีอิทธิพล ผมสืบรู้มาได้สักพักแล้วว่าอยู่ที่ไหน ทางไปไม่ยุ่งยากหรอก เพียงแต่ตอนนั้นไม่มีเหตุอะไรให้ต้องไปเหมือนตอนนี้ ทำไมจุดหมายของผมถึงเป็นบ้านของไอ้สารเลวนั้นได้ เหตุผลไม่ได้มากมายอะไรหรอก ไอ้ลูกแหง่นั่นมันทำอะไรภายใต้บารมีพ่อ ส่วนพ่อมันรักลูกแต่แยกแยะไม่ได้ว่าอะไรผิดอะไรถูก ไม่ว่าสิ่งที่ลูกจะทำมันจะชั่วช้าสารเลวแค่ไหน แต่ความรักก็ต้องปกป้องลูกไว้ ต่อให้คนชี้หน้าเรียกลูกตัวเองว่าไอ้ฆาตรกร แต่ในสายตาคนเป็นพ่อยังไง ลูกก็ยังเป็นเทวดาอยู่ดี

ผมรู้ว่าเมฆไม่ใช่คนโง่ เมฆฉลาดและออกจะเจ้าเลห์ด้วยซ้ำ
ผมรู้ว่าเมฆช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ต้องเป็นการสู้แบบลูกผู้ชาย ตัวต่อตัวเท่านั้น
ผมรู้ว่าเมฆต้องไม่ยอมง่ายๆ ถ้าจะมีใครมาออกคำสั่งหรือใช้กำลังบังคับ
เมฆไม่ใช่ผู้ชายที่อ่อนหวาน ไม่ใช่คนที่เอาใจ แต่มันเป็นคนที่ใครอยู่ใกล้แล้วมีความสุข
เพราะเมฆเป็นเมฆแบบนี้  เพราะมันมีอะไรที่สะดุดทั้งตาสะดุดทั้งใจ
มันไม่รู้ตัวเองหรอกว่าอะไรคือเสน่ห์ของตัวมันเอง
แล้วอะไรที่ได้มายากๆ ใครๆก็อยากจะเอาชนะเอามาให้ได้
หลายสิ่งหลายอย่างที่รวมออกมาเป็นมันในแบบนี้ จึงทำให้ผมมุ่งหน้ามาที่นี่
ทุกอย่างมันง่าย ถ้าได้ทำในรังของตัวเอง มีพวกพ้อง มีคนกางปีกปกป้อง
แล้วจะมีที่ไหนที่จะทำชั่วได้สะดวกใจเท่าที่นี่ ไม่มีอีกแล้ว


TO BE CONTINUE next time next day next year (อันนี้สงสัยได้โดนกระทืบ)T_Tติดตามตอนต่อไปแล้วแต่น้องเซมากูเตะค่ะ (โยนกันเห็นๆ)



สวัสดีค่ะแม่ยกพี่เมฆท่านฉานพี่ไม้และเด็กแสบข้างบ้านทุกคน
อาจจะแปลกใจเพราะตอนที่แล้วโปรยไว้ว่าเป็นตอน รัก....ต้องแสดงออกแต่คนอ่านของพี่เมฆหลายคนก็สงสัยกันเหลือเกินว่าพี่ฉานมันทะเล่อทะล่าให้ใครเค้ายิงมา เลยกลายมาเป็นตอนนี้ก่อน ถือว่าเฉลยเรื่องที่หลายๆคนสงสัย ก่อนที่จะไปดูว่าเค้าแสดงออกกันยังไงในโรงพยาบาล เอร้ยยยยยยย จะเอาหัวโขกขอบโต๊ะตาย แต่ก็นะ ยังได้ เพราะตอนนี้ช่วยชีวิตไว้แท้ๆ คือมันเขียนไปแล้วเพลิน จบไม่ได้ในตอนเดียว 5555 องค์กวีประทับร่างแบบไม่ดูเวร่ำเวลา ถ้างั้นก็นะ อ่านตอนหน้ากันอีกสักตอน แล้วค่อยไปอ่าน “รัก....ต้องแสดงออก” นะ จะว่าไปลงตอนพิเศษกี่ตอนแล้วเนี่ย เริ่มหมดมุขจะเขียนแล้วมั้ย กรี๊ดดอย่างเพิ่งหวังกับเรื่องใหม่นะ มันได้แค่ตอนเดียวยังไง ก็ยังตอนเดียวอยู่อย่างนั้น 555 แต่มันก็พัฒนาขึ้นนะ จากที่มีพล็อตเรื่อง มีพระเอกมี นายเอก มีตัวอิจฉาที่เสกมาตัวแรก มีตัวประกอบ ใกล้คล้ายละครช่องหลายสีแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องน้ำเน่า ตอนนี้ยุงเริ่มแพ็คกระเป๋าแล้ว  คิดดูว่าแต่งนิยายได้หนึ่งตอน แต่ชื่อเรื่องเพิ่งคิดออกวันนี้ ตอนนั่งห้องน้ำ องค์กวีไม่ดูเวร่ำเวลาจริงๆนะ ชื่อเรื่องว่า “คุณคนเดียว แต่เราสองคน” ว่าจะให้เป็นนิยายปวดใจแต่ไม่รู้ว่าทำไปทำมามันจะกลายเป็นรักกันไปวันๆแบบสองคู่นี้มั้ยนะ เครียดดดดดดดดดดด


ออฟไลน์ kboom

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 498
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
TO BE CONTINUE next time next day next year (อันนี้สงสัยได้โดนกระทืบ)T_Tติดตามตอนต่อไปแล้วแต่น้องเซมากูเตะค่ะ (โยนกันเห็นๆ)

หมายความว่าไงครับที่รัก

กรุณามาต่อ

คริ ๆ ๆ ๆ

lasom

  • บุคคลทั่วไป
:z13:
อัพแบบเงียบๆอีกแล้ว
เพราะรักก็เลยอยากปกป้องคนที่รัก
แต่ทำไมไม่โคกันก่อน :angry2:
เห็นมั้ยโดนยิงเลย  อร้ายยยยยยยยยยยยย
next time next day อ่ะรับได้แต่next year นี่ยังไง
 o22
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-08-2010 18:04:57 โดย lasom »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เปลี่ยนจาก next time next day next year เป็น soon ดีกว่านะคะ

+1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด