มาแล้ว NC แบบเด็กๆ

อ่านแล้วติชมด้วยนะตอนนี้ อยากได้แบบไหนบอกได้จ้า
===============================================
ตอนที่ 16“เมฆ กูไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ มึงกะกูจะเกิดอะไรขึ้น แต่ให้กูหยุดตอนนี้ ไม่ได้จริงๆ”
เสียงกระซิบร้องขอพร่าสั่น ราวสัตว์ร้ายของไอ้ฉาน ยากที่ผมจะต้านทานจริงๆ
ในห้วงอารมณ์แห่งปรารถนาที่ผมเพิ่งเข้ามาทำความรู้จักกับมันในครั้งนี้
มันเสียวซ่าน และร้อนแรง สุขซ่านและทรมานสลับกันไป
พายุแห่งราคะ มันพัดโหมเอาอารมณ์ผมฟุ้งซ่านไปถึงไหนต่อไหน
ทั้งน่ากลัวแต่ว่า .............. มันก็น่าลองไปพร้อมๆกัน
ทุกอย่างดำเนินไปตามครรลองที่มันควรจะเป็น
เสื้อผ้าผมและมันเริ่มหลุดหายไปจากร่างกายเราทั้งสอง
เตียงกว้างที่เคยทำเพียงหน้าที่รองรับร่างเพื่อที่จะพักผ่อน
ในตอนนี้กลับกลายเป็นสนามแห่งอารมณ์ ที่ผมกับไอ้ฉานช่วยกันสร้างขึ้น
ร่างกายผมที่เคยภูมิใจนักหนาว่ามีผมเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว
บัดนี้ กำลังถูกสำรวจด้วยมือของคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตอีกคนนึง
จากมือที่เคยให้ความอบอุ่นกับผมตลอดมา
ตอนนี้ไม่ว่ามันลากผ่านไปจุดไหนของตัวผม ร้อนแทบไหม้
แล้วผมก็รับรู้ได้ตอนนี้เองว่า จะหลอมละลายมันเป็นยังงัย
ผมแอ่นทุกจุดที่ได้รับสำผัสจากมือคู่นั้น ราวกับต้องการให้มันแนบชิดมากกว่านี้
ลิ้นร้อนแตะแต้มเล็มไล้ไปทุกส่วนของร่างกาย ลมหายใจที่เป่ารดไล่จากใบหน้า
ใบหูและซอกคอ ก่อนจะมาหยุดกวาดต้อนทุกอย่างไว้ด้วยปลายลิ้นตรงยอดอกผม
ความหวาบหวามเหมือนกระแสไฟฟ้าแล่นพล่านไปทั่วทั้งร่างกาย
ทุกครั้งที่ปลายลิ้นแตะแต้มตวัดดูดกลืน มันวูบโหวงล่องลอย เหมือนโดนกระชากไปที่ไกลแสนไกล
มือผมไขว่คว้าได้แค่ท้ายทอยที่เต็มไปด้วยร่องรอยความชื้นของเหงือที่จับกับปอยผมนิ่ม
ผมพยามยามเกาะบ่าไอ้ฉานไว้ยามที่ลิ้นร้อนมันผ่านมาวนอยู่แอ่งชีพจรตรงสะดือ
ที่นำพาความหฤหรรษ์ ในรสรักครั้งนี้มาให้ผมต้องครางฮึมในลำคอ
เพียงแค่นั้น มันก็ผละจากตรงนั้นมามอบจูบที่เร่าร้อนให้ผมอีกครั้ง
และอีกหลายๆครั้งที่ผมพยายามบดเบียดร่างกายเข้าหาสัมผัสของมัน
เพียงแค่คิดว่า การกระทำนั้นจะลดอาการเสียวซ่าน
ที่เกิดขึ้นทุกขณะที่มีการสัมผัสจากปลายลิ้น ตรงท้องน้อยนั่นได้
เรามาไกลจนยากที่จะกู่กลับแล้วจริงๆ
ใบหน้าผมแหงนเริ่ดขึ้น เมื่อมือนั้นครอบครองตรงส่วนที่อ่อนไหวที่สุดในร่างกายผม
เสียงครางผะแผ่วที่ผมพยายามกลั้นไว้ ไม่ให้เปล่งออกมาเพราะเรื่องที่น่าอายนี้
ถูกจับกระแสเสียงแห่งอารมณ์ได้จากคนที่ก่อมันขึ้นมาเองกับมือ
“ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะเมฆ กูอยากได้ยิน นะ” เสียงนั้นพร่าสั่น ร้องขอ
ผมปล่อยเสียงออกมาจากความอัดอั้นที่กำลังปั่นป่วนจากข้างใน ที่พร้อมจะปลดปล่อยในเวลาอันใกล้
แรงบดเบียดที่ร่างกายผมตอบโต้กับสัมผัสนั้นกลับคืนไป เรียกเสียงครางฮึมในลำคอไอ้ฉานด้วยเหมือนกัน
แต่แล้วผมก็ต้องส่งเสียงที่บ่งบอกชัดว่าได้รับการขัดใจอีกครั้ง
เมื่อมือที่ควรจะทำหน้าที่ของมันส่งผมถึงอีกฝั่งหนึ่งของความสุขนั้นหยุดลง
ผมแหงนหน้าขึ้นมอง สายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม ส่งผ่านไปยังนัยย์ตาของอีกคน
“เราจะไปพร้อมกันเมฆ” เพียงแค่นั้นผมก็รู้แล้วว่า เราต้องทำอะไรต่อไป
ไม่ใช่เรื่องยาก ในเมื่อองค์ประกอบของร่างกายของเราทั้งสองทุกอย่างเหมือนกัน
การปลดปล่อยอารมณ์เป็นรื่องธรรมชาติ ที่ผมเองก็เคยผ่านตรงจุดนั้นมาแล้ว
แต่นั่น มันเป็นเพียงการกระทำลำพังฝ่ายเดียวของผม
แต่ครั้งนี้ ไอ้ฉานกลับดึงมือของผมไปจับส่วนใหญ่โตที่คับแน่นไปทั้งมือของมันไว้
ส่วนมือของมันก็จับตรงส่วนที่คับแน่นและมีร่องรอยที่บ่งบอกว่าอยากจะปล่อยความอัดอั้นในร่างกายเต็มที่แล้วของผมเช่นกัน
เราสองคนช่วยทำในสิ่งเดียวกัน ด้วยท่วงท่าและจังหวะเดียวกัน
ผมต้องกัดริมฝีปากจนเจ็บแปลบ และแหงนหน้าเริ่ดขึ้นทุกครั้งที่สัมผัสนั้นเร่งเร้าด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น ถี่ขึ้น
เสียงของคนสองคนที่ร้องออกมาเยี่ยงสัตว์ร้าย ดังประสานไม่รู้เสียงใครเป็นเสียงใครไปทั้งห้อง
ก่อนทุกอย่างจะถึงจุดที่มันควรจะต้องเป็น ความเสียวซ่านกำลังเล่นริ้วตามไขสันหลัง
จนถึงจุดที่จะต้องปลดปล่อย
ไอ้ฉานปล่อยมือจากส่วนนั้นของผม ก่อนที่จะครอบครองมันอีกครั้งด้วยปากร้อน
ปากนั้นห่อรัดกับส่วนนั้นของผม ดูดกลืนไปหมดสิ้นทุกหยาดหยดแห่งความสุขสม
เสียงร้องครางสั้นและยาวสลับการผ่อนเสียงลมหายใจของเราทั้งสอง
บ่งบอกชัดว่าเวลาแห่งความทรมาน ที่นำพามาซึ่งความสุขสมอันยาวนานนั้น
จบลงแล้ว
เหนื่อยหนักหนา และทว่ามันก็สุขมากมาย
เราทั้งสองล้มแผ่ไปบนเตียงกว้างของผม ต่างหอบหายใจ จ้วงเอาอากาศเข้าปอดให้ได้มากที่สุด
พายุร้อนแห่งอารมณ์เริ่มสงบ
แต่ในใจยังร้อน
ผมกับไอ้ฉานเพิ่งผ่านช่วงเวลาที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นระหว่างเพื่อน
และเราทั้งคู่ต่างเป็นผู้ชายด้วยกัน
ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นเพราะช่วงอารมณ์อันอ่อนไหวของผม
หรือเป็นความพลาด ของอารมณ์ใคร่ที่มันพาเราไป
มือข้างนึงของผมที่ยกขึ้นก่ายหน้าผาก พร้อมเสียงถอดถอนหายใจเฮือกใหญ่
ทำให้มืออีกข้างนึงของคนที่ล้มตัวนอนลงข้างๆผมเมื่อครู่
เอามือผมอีกข้างของผมไปจับเอาไว้
ก่อนจะออกแรงดึงตัวผมเข้าไปซุกในอ้อมกอด
“มึงเสียใจมั้ย เรื่องที่เราทำมันไปเมื่อกี้ “
ผมเงียบ ไม่รู้จะตอบออกไปว่ายังไงดี มันไม่ใช่ความเสียใจ ทุกอย่างดำเนินมาจนจบได้
เพราะเรายินยอมพร้อมใจ แต่ความถูกต้องตามธรรมชาติต่างหากที่มารบกวนจิตใจผม
“มึงจะรังเกียจมั้ย ที่มีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน โดยเฉพาะกับกู” ผมส่ายหน้าไปกับ อกมัน
ถ้านั่นคือสิ่งที่เรียกว่ารังเกียจ มันจะจบลงสวยงามแบบเมื่อสักครู่มั้ย
ผมรู้แค่ว่าไม่เสียใจ ไม่รังเกียจ
แต่แค่ยังสับสน
ในใจลึกๆ ยอมรับว่า มีความสุขและยิ่งสุขเป็นทบทวีเมื่อคนนั้นเป็นไอ้ฉาน ดวงตะวันของผมคนนี้
แต่ผมจะบอกยังไงดี จะบอกยังไงดี
ในเมื่อตอนนี้ผมรู้สึกว่าเลือดทุกหยดในร่างกายมันกำลังรวมตัวกันที่แก้มทั้งสองข้าง
ตอนที่ไอ้ฉานเอามือมาประคองหน้า ไปสบกับตามัน
“มากกว่าที่เป็นอยู่ได้มั้ยเมฆ มากกว่าเพื่อน ได้มั้ย เป็นคนรักของฉานเลยได้มั้ย”มันร้องขอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมาย
“แต่มึงกับกูเป็นผู้ชาย” คำพูดผมเท่านั้นที่ต่อต้าน แต่ใบหน้าหนะ พยักหงึกๆตอบรับมันไปแล้ว
“แล้วยังไงหละ ผู้ชายกับผู้ชายรักกันไม่ได้เหรอ ก็แค่คนสองคนรักกัน มันจะอะไรนักหนา เราเลือกเกิดไม่ได้นี่”
นั่นสินะ สังคมนี้มันจะอะไรนักหนา ทำไมต้องสร้างบรรทัดฐานขึ้นมาว่า
ผู้ชายต้องรักกับผู้หญิงเท่านั้น
แล้วที่ผมกับไอ้ฉานรู้สึกกันอยู่นี้หละ สังคมจะตอบความรู้สึกนี้ของเรายังไง
“แล้วมึงไม่กลัวคนมองเหรอ ผู้ชายรักกันเค้าเรียกว่าเกย์นะมึง แค่ทุกวันนี้คนก็มองจะแย่”
นี่ขนาดก่อนหน้านี้ คนยังแซวผมกับไอ้ฉานซะทั่วทั้งมหาลัย
แล้ววันนี้ วันที่เราเป็นมากกว่าวันวาน
มากกว่าเพื่อนสนิท มากกว่าเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก
ถ้าข่าวนี้ยืนยันออกไปว่าจริงเมื่อไหร่ ผมไม่อยากจะคิดเลย
ว่าอะไรจะตามมาในรั้วมหาลัยอีกสองปีของผม และอีกสามปีของไอ้ฉาน
“มึงแคร์คนมองเหรอ มึงแคร์สังคม แคร์คนมอง แต่แปลกนะ ที่กูอะ แคร์แค่มึง”
ผมเงยหน้าสบตากับมัน ก่อนที่จะผลุบตาลงต่ำ ซุกหน้ากับอกมันอีกครั้ง
เมื่อพบกับแววตาพร่างพราวแบบนั้นของมัน ยังไม่ชินนี่นา แววตาที่บอกว่ามีแต่ผมอ่ะ
“เอาหละ ทีนี้มึงเป็นของกูแล้ว ไม่ว่าใครก็เอามึงไปไม่ได้แล้ว มีสามีแล้ว เอาไปก็ไร้ความหมาย”
มันพูดได้หน้าตาเฉย แถมยังเอาจมูกมาซุกไปมากับซอกคอผมอีกต่างหาก
ยังไม่ทันจะย่นคอหนี ริมฝีปากของไอ้วายร้ายก็ดูดตอดเน้นย้ำหนักบ้างเบาบ้าง ตรงซอกคอผมทันที
เสียวแล้วก็เจ็บจี๊ด
“เชี่ยฉาน เดี๊ยวเป็นรอย กูอายคน แล้วกูเป็นเมียมึงตอนไหน มึงอย่ามั่วสิ กูไม่โง่นะที่จะไม่รู้ว่า ตอนไหนที่เค้าจะเรียกว่าผัวเมียกันหนะ” ก็นะ ช่วงล่างแถวๆบั้นท้ายผมยังอยู่ดีนี่น่า ยังไม่เจ็บจนต้องร้องซี๊ดขึ้นมาสักหน่อย
ผ้าปูที่นอนก้ไม่ได้ด่างพร้อย เป็นด้วยร่องรอยอารยธรรมสีแดง
ถ้าจะมีรอยด่าง ก็คงเป็นจากของมัน ไม่ใช่ของผมแน่ เพราะของผม มันเก็บกลืนไปหมดแล้ว
“ก็ครั้งแรก กูกลัวมึงเจ็บ ไว้ครั้งหน้า เราก็ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปสิ” มันพูดเหมือนเล่มเกมส์อะไรกันสักอย่างที่ใครแพ้แล้วจะโดนดีดนิ้ว
“เมฆ กูเคยบอกมึงยัง”
“หือ บอกอะไร”
“กูรักมึงจัง” ฮื่อ แล้วแบบนี้ผมต้องตอบโต้มันว่าอะไรดี
แล้วเลือดเมื่อไหร่มันจะหยุดรวมตัวกันที่แก้มประจานผมให้อายสักที
แล้วไอ้ฉานมันก็หัวเราะกับท่าทีที่ผมช้อนตาขึ้นค้อนมันยังกะผู้หญิง และซบหน้าซ่อนอายกัยอกมันอีก
แบบนี้รึเปล่า ที่เค้าเรียกกันว่า “สาวแตก”
เราสองคนกอดกันอยู่แบบนั้น เนิ่นนาน
“ฉาน เล่าเรื่องแม่ให้กูฟังหน่อย” ผมยังไม่ลืมเรื่องนี้หรอกครับ แค่รอเวลา
ไอ้ฉานมันเกร็งตัวขึ้นทันทีจนผมรู้สึกได้
“นะ แล้วกูจะตัดสินใจเองว่าจะเอายังไง” ผมยืดตัวขึ้น หอมปลายคางสากๆ ของมันเพื่อเอาใจและให้กำลังใจมัน สักหน่อย
เพราะตอนนี้ กำลังถึงช่วงที่ผมจะต้องเค้นเอาเรื่องสำคัญออกจากปากมัน ให้ได้
=======================================
หวังว่าคงไม่ค้างกันนะ เจอกันตอนหน้าจ้า
