เพราะน้องฟางเองก็ไม่ได้ ผิดไปจากที่น้องกราฟว่าสักเท่าไหร่ น้องฟางเดินชนแก้วพี่ๆทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ไอ้หน่า ที่มันถลึงตาใส่ น้องฟางยังไม่กลัว ไอ้หน่าเลยต้องยกแก้วไปด้วยความจำใจ น้องฟางดูจะขี้อ้อนเป็นพิเศษเมื่อผมเห็นน้องพูดจาอ่อนหวานใส่เพื่อนไอ้ฉานทุกคน ไม่เว้นแต่ไอ้แกละ และ ยังเผื่อแผ่มาถึงเพื่อนๆผม พวกเพื่อนผมก็ชอบสิครับ ผู้หญิงมาคลอเคลีย ออดอ้อน เอาใจ เป็นใครจะไม่ชอบ ยกเว้นไอ้ไผ่ ที่มันทำท่าแสดงออกมาแบบชัดเจนว่า ไม่ปลื้มอาการออดอ้อนของน้องฟางในครั้งนี้ ผมว่าไอ้ไผ่นี่มันเป็นเก้งแน่ๆ
“เมฆ กูว่า สั่งเก็บอีน้องฟางกันเหอะหวะ แมร่ง มึงดูดิ๊ มันจะเอานมไปสีแขนผัวมึงอยู่แล้ว” ไอ้หน่ามันข้ามหัวไอ้ไม้มาคุยกับผมครับ
“เฮ้ยๆ กูฟังด้วย อย่าข้ามหัวกูสิ แก้วสามดวง” ไอ้ไม้เองมันก็ไม่ยอม อยู่นอกเขตให้บริการครับ ตามสันดาน คือต้องสอดรู้
“เออ กูละขัดใจ แมร่ง ชะนีนางนี้พอเมา แล้วร่อนไปทั่ว กรูละมึน” ไอ้หน่ามันทนไม่ไหว มันลุกขึ้นมานั่งยองๆระหว่างผมกับไอ้ไม้
“มึงอย่าคิดมากน่า สนุกๆ น้องเค้าเมาแล้วก็งี้ เราก็ช่วยกันดูแล้วกัน ว่าอย่าให้ใครสอยน้องเค้าไปได้” ถึงแม้ผมจะสะอึก กับคำพูดที่ว่า น้องฟางเอาหน้าอกมาสีแขนไอ้ฉาน แต่มาเที่ยวแบบนี้ ดูจะเป็นเรื่องธรรมดา เหล้ามักจะทำให้กล้า
“กูดูให้อะได้ แต่ถ้าน้องเค้าเต็มใจให้ใครหิ้วไปเอง นี่กูไม่รู้นะ” ไอ้หน่า มันย้ำจุดยืนชัดเจนครับ
“เออ แล้วถ้ามันกะหิ้วสามีมึงคืนนี้ละเมฆ มึงจะทำยังไง” ฉึก!!!! ผมไม่คิดว่าจะมีคำถามนี้เกิดขึ้นครับ เลยคิดไม่ออก
“ก็คง เอ่อ เฮ้ยยยยย ใครจะยอมวะ “ นั่นสิครับ พี่เมฆจะคิดมากไปทำไม ใครจะมาสอยไปเรื่องอะไรจะยอมละครับ
“เออ แล้วไป กูคิดว่าจะเป็นพระเอก ยอมคนขึ้นมาเหมือนละครช่องเจ็ด” ไอ้หน้ามันถอนหายใจโล่งอก เหมือนมันพอใจกับคำตอบของผม
“ตกลงมึงว่าเค้ามองใคร” เสียงน้องกราฟกับน้องฟางครับ ผม ไอ้หน่าไอ้ไม้ เลยมองตามเสียงไป ว่าน้องเค้าถกถึงรื่องอะไรกัน
“เค้ามองมึงมั้ง อีสวย ยิ้มการค้าซะขนาดนี้ “ น้องกราฟตอบประชดน้องฟางไปเต็มๆ ไอ้หน่าเริ่มเอามือกุมขมับ
“เค้ามองกระเทยแปลกอย่างมึงต่างหากละกราฟ “น้องฟางเองก็ไม่ยอมแพ้ครับ
“แต่เราว่านะ เค้ามองพี่เมฆอ่ะ “ ตึงโป๊ะ !! น้องคนนึง มาขอร่วมวงสนทนาด้วยอย่างอดไม่ได้
แต่พี่เมฆสิครับ ตะลึงงันไปแล้ว มองไปที่ต้นเหตุ ที่น้องๆเค้ากำลังถกกันอย่างออกรสชาติ ก็ปรากฎว่า เป็นผู้ชายคนเดิมที่พี่เมฆ รู้สึกว่าเค้ามองมาตั้งแต่แรกนั่นแหละครับ แต่ไม่เคยคิดว่า เค้าจะมองผมอ่ะ
“เฮ้ย น้องว่าอะไรนะ” ไอ้หน่า ถลาไปจับแขนน้องคนนั้น เขย่าถาม เหมือนกับว่าเป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติยังไงยังงั้นแหละครับ
“ คือผมคิดว่า คนนั้นเค้ามองพี่เมฆอะครับ เห็นเค้ามาทางเราอยู่นานแล้ว ผมสังเกตุว่าเค้ามองพี่เมฆเป็นส่วนใหญ่ครับ นานๆจะมองไปที่ ฟางกับกราฟบ้าง” ตกลงพี่เมฆไม่ได้คิดไปเองคนเดียวใช่มั้ยครับ ว่าเค้ามอง เพราะน้องก็บอกอยู่ว่าสังเกตุเหมือนกัน
ไอ้หน่าเดินมาจับผมที่ทำหน้างง มือนึงถือแก้วเหล้า แล้วหมุนๆ ตัวผมไปมา เหมือนกรรมการกำลังพิจารณา หนุ่มคลีโออะครับ
“มึงจะหมุนหาขี้เกลืออะไรวะหน่า เดี๊ยวกูอ๊วกใส่ ไอ้นี่” ผมเริ่มมึนจริงๆนะครับ ก็ไอ้หน่าเล่นหมุนยังกะผมเป็น ม้าหมุนเด็กเล่น กำลังกรึ่มๆ เดี๊ยวได้อ๊วกสาดหน้ากันบ้าง
“จะดูว่าตัวมึงมีทองติดรึเปล่า ทำไมมีเสน่ห์ต่อเพศเดียวกันวะมึง” ผมตบหัวมันไปทีนึง แค่ไม่มีผู้หญิงมาสนใจก็ช้ำใจพอแล้ว นี่มันยังมาตอกย้ำ เรื่องเป็นที่สนใจของผู้ชายด้วยกันอีก
“มีอะไรกันวะพวกมึง เมฆเมาเหรอ ไหนมาดูดิ๊” ไอ้ฉานครับ ไม่รู้สะบัดหลุดจากหนวดปลาหมึกอย่างน้องกราฟกะน้องฟางมาได้ไง
“เปล่า กูยังไม่เมา จิบๆ เอง” พี่เมฆไม่ได้โกหกนะครับ หมายถึง หลังๆมานี้ น้องเค้าชนกันครบคนแล้ว พี่เมฆเลยได้แต่จิบๆอะครับ
“อืม แล้วไป ถ้าเมาก็บอกนะ จะพากลับ” ไอ้ฉานมันกำชับผม มือมันก็จับข้อมือผมไว้ ผมรุ้สึกว่า ไอ้คนโต๊ะนั้น ก็กำลังมองอยู่เหมือนกัน
“พอดีกราฟกันฟางเค้าเถียงกันอะครับ ว่าผู้ชายโต๊ะนู้นมองใคร ผมเลยบอกว่ามองพี่เมฆ ไม่งั้นคงเถียงกันไม่จบอะครับ”
“ไอ้คิม มึงไม่พูดก็ไม่มีใครว่ามึงเป็นใบ้นะเว้ย” อ๊อ น้องผู้สังเกตุการณ์ชื่อคิมนี่เองครับ เพราะไอ้หวาน ที่มันกำลังโยกย้าย ตามน้องฟางกับน้องกราฟอยู่ ถึงกะออกจากวงมาตบหัวน้องเค้าทันที
“อะไรนะ ใครมองใคร” ไอ้ฉานซักทันทีครับ น้องคิมเริ่มหน้าถอดสี หลังจากเอามือลูบหัวตัวเองป้อยๆ
“ไอ้ห่านี่มันเริ่มเมาแล้วเพ้ออะฉาน ไม่มีอะไรหรอก มึงไปเต้นต่อได้แล้วไป น้องๆมองหามึงแล้ว อย่าปล่อยให้ไอ้แกละแย่งซีนดิวะ มึงดูมันเต้นท่าประหลาดอะไรของมันวะนั่น นึกว่าเท่ห์ตายหละไอ้บ้า” ผมรู้สึกขอบคุณไอ้หวานอยู่ในใจครับ ที่เบี่ยงเบนประเด็นความสนใจไอ้ฉานไปได้ ไม่งั้น คืนนี้ได้มีเรื่องกลางร้านแน่ๆ
ไอ้ฉานเดินไปสมทบกับน้องๆ และไอ้แกละ แต่ก็ไม่วาย มองมาทางผมอยู่เป็นระยะๆ ดูก็รู้ว่ามันเองไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่
ผม ไอ้หน่า ไอ้ไม้ เริ่มหมดสนุกลงไป นิดหน่อยครับ แต่เหล้าก้ช่วยได้เยอะ เมื่อพวกผมรู้สึกไม่สนุก ก็กินไปให้มันสนุกครับ
ผมเริ่มกลับมาโยกตามจังหวะเพลงอีกครั้ง ไอ้หน่ามันเห็นผม ไม่ได้กังวลอะไร มันก็พลอยโล่งใจขยับเข้าจังหวะเพลงตามผมไปด้วย
ยึ่งดึก ยิ่งคึก ยิ่งเมา ยิ่งมันส์
เหล้าหมดไปกี่ขวดแล้วไม่รู้ แต่ที่รู้คือเริ่มมีน้องๆบางคน ร่วงกันเป็นแถว
บ้างก็หลบไปอ๊วกในห้องน้ำ แล้วมาฟุบลงบนโต๊ะ
น้องฟาง น้องกราฟ ไอ้ฉาน ไอ้แกละ และน้องๆคนอื่น ยืนเต้นกันหน้าเวทีครับ น้องๆเมาแต่ไม่ได้ดื่มกันแล้ว ออกไปเต้นกันแทน ไอ้ฉานออกมาลากผมไปเต้นด้วยอยู่สองสามเพลง ผมก็ต้องยอมแพ้ เนื่องจาก คนเบียดกันเยอะ แถมไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย เต้นเยอะก็ปวดเมื่อย เลยกลับมานั่งจิบเหล้า เป็นเพื่อนไอ้ยอน ไอ้ไม้ ไอ้ดิว ที่มันยังสแตนบาย รินเหล้ากันต่อไป
“ เฮ้ย อย่าเยอะๆ เดี๊ยวเมา “ ไอ้ฉานมันออกมาตอนไหนไม่รู้ แต่ตอนนี้มันดึงแก้วในมือผม ไปกินแทนน้ำแบบหมดแก้วก่อนจะส่งให้ไอ้ดิวชงใหม่ ผมนั่งอยู่ที่โต๊ะ มีไอ้ฉานยืนอยู่หลังผม มือมันจับหัวผมโยกไปโยกมา
“ไงวะ หมดแรงแล้วเหรอมึง แก่แล้วก็งี้ เต้นสู้เด็กไม่ได้” ไอ้ไม้มันวางแก้ว เพื่อแซวไอ้ฉานโดยเฉพาะครับ
“ใครว่า กูออกมาจะเอาน้องไปส่ง เมากันหมดแล้วเนี่ย ไอ้แกละ แมร่งเริ่มคลานแระ “ ผมหันไปดูไอ้แกละแล้วอดหัวเราะไม่ได้ครับ มันเมามาก แล้วมันก็สนุกมาก จนตอนนี้มันคงหมดแรงแต่ยังอยากสนุกอยู่ ถึงได้เกาะขอบโต๊ะแล้วโยกตามเพลง
“แล้วเป็นไงวะมึง กระเทยกับผู้หญิง อะไรเร้าใจกว่าวะ กูเห็นสีมึงจนแขนไหม้แล้วมั้ง ไหนเอาแขนมาดูสิ” ผมแกล้งล้อไอ้ฉานเล่น เอาแขนมันมาพลิกดู
“ปากดีจริงๆ เมียกู ใครเร้าใจกูไม่รู้ แต่ที่รู้ กูว่าคืนนี้มีคนไม่ได้นอนอ่ะ” ผมปล่อยแขนมันทันที ที่เรื่องชักเริ่มเข้าตัวผม
ไอ้ดิว ไอ้ไม้ รวมถึงไอ้ยอน มันหัวเราะผมใหญ่เลยครับ ที่โดนไอ้ฉานย้อนแบบนี้ พวกมันรู้ว่า ผมเถียงชนะทุกเรื่องยกเว้นเรื่องแบบนี้ ที่พูดกี่ที พี่เมฆก็แพ้ กูอาย กูอายที่จะพูดเรื่องบนเตียงของตัวเองนี่วะครับ
“แล้วนี่พวกมึงเอาไงวะ กลับพร้อมกันเลย หรือยังไง” ไอ้ฉานมันหันมาถามความเห็น ไอ้สามคนนี้ครับ ส่วนพี่เมฆ มันไม่ต้องถาม เพราะยังไง มันก็กำกับได้อยู่แล้ว พี่เมฆเลยนั่งฟังแบบหล่อๆไป
“มึงขนบางส่วนไปส่งก่อนก็ได้ เพื่อนกับน้องบางคนยังสนุกกันอยู่เลย” ไอ้ดิวมันออกความเห็นครับ
“เอางั้นเหรอ งั้นกูคงต้องเอาน้องๆไปส่งก่อน ฝากมันด้วยนะ “ ไอ้ฉานมันเป็นคนที่รับฟังความเห็นเพื่อนทุกคนเสมอครับ ยกเว้น ผม
“ กูดูแลตัวเองได้น่า มึงบ้าปะ ร้านนี้มาจนนอนแทนบ้านได้แล้วมั้ง” จะมาฝากฝังพี่เมฆทำไมวะครับ พี่เมฆแมนจะตาย ยังไงก็ดูแลตัวเองได้
“เออ มึงรีบไปรีบมาเหอะ เดียวเมียมึง กูดูให้ แต่ไม่ดูอย่างเดียวได้มั้ย ไอ้เมฆแมร่งๆนั่งใกล้ กูคิดว่าหอมอะไร ที่ไหนได้ หอมออกมาจากตัวมันนี่เองหวะ” ไอ้ไม้มันตั้งใจจะแกล้งไอ้ฉานแหละครับ มันแกล้งเอาจมูกมาใกล้ๆ คอผม กำลังจะเข้าใกล้ต้นคอ ก็โดนไอ้ฉานดึงคอเสื้อออกไปซะก่อน
“วอนตีนกูแระไอ้เชี้ยไม้ กูวางใจให้ดูมัน มึงจะมาเชี่ยเอง เดี๊ยวเจอตีนกู” ไอ้ฉานกำคอเสื้อไอ้ไม้แน่น กัดฟันพูดน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม (แต่มันแกล้งทำ)
“ค๊าบๆ ผมกลัวแล้วค๊าบพี่ค๊าบ ไว้ชีวิตผม ไถ่โคไถ่กระบือเถอะค๊าบ “ ไอ้ไม้แกล้งยกมือขึ้นไหว้ประหลกๆ ทำเสียงร้องขอชีวิต แบบอ้อนตีนสุดขีด นี่กะว่าถ้าไอ้ฉานไม่จัด พี่เมฆจะจัดให้แล้ว เล่นซะเว่อร์เกิ๊น
“เออ เดี๊ยวกูมา” ไอ้ฉานมันปล่อยคอเสื้อไอ้ไม้ ก่อนจะไปปลุกแต่ละชีวิตที่นิ่งเป็นศพให้กลับบ้าน
“ผัวมึงแมร่ง ดุฉิบหาย จะหวงอะไรหนักหนา มึงมีดีอะไรวะเมฆ” ไอ้ไม้ มันยังไม่วายบ่นพึมพำตามหลังไอ้ฉานไปครับ
“ไม่บอก มึงไม่ต้องรู้หรอก ไม่มีบุญเห็นเองก็ไม่ต้องรู้” ผมยักคิ้วให้
“เออๆ ท้องขึ้นมา อย่ามาร้องหาของรับขวัญหลาน นะมึง” ไอ้ไม้มันตบกบาลผม แล้วหันไปชนแก้วกับไอ้ดิว ไอ้ยอนต่อ
ปล่อยให้ผมนั่งมองบรรยากาศในร้านไป จิบเหล้าไป เห็นไอ้หน่าเข้าไปร่วมวงเต้นแร้งเต้นกากับน้องๆแล้ว น้องกราฟกับน้องฟางนี่แรงดีไม่มีตกเลยทีเดียว มองเพลินไปถึงโต๊ะ ที่แอบมองมาที่โต๊ะผมบ่อยๆ ไม่เห็นไอ้คนแปลกหน้าที่ชอบมองมาทางนี้แล้ว แต่คนอื่นๆ ยังอยู่ มีหายไปบ้าง มาเพิ่มบ้าง ผมเองก็ไม่ได้สนใจอะไร
เดี๊ยวไอ้ฉานกลับมา ก็คงจะเช็คบิล แล้วก็คงจะกลับ ผมขอตัวเดินออกมาเข้าห้องน้ำ
อยากจะล้างหน้าล้างตา ให้มันหายมึนๆ ไม่ได้เมาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่า มีสติครบถ้วนอะไร
เดินลัดเลาะมาทางเดินโรยกรวด ถึงบริเวณที่จัดไว้สำหรับดูดบุหรี่ เป็นลานกรวดใต้ต้นไม้ใหญ่ ผมเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงตามความเคยชิน ก็เจอกับซองบุหรี่ ของไอ้ฉาน มันมักจะฝากผมไว้เสมอ เมื่อเรามากินเหล้า ผม ไอ้ฉาน และเพื่อนๆ ไม่มีใครติดบุหรี่ แต่จะดูดเวลาเรามากินเหล้ากัน ผมนั้นบางครั้งก็ดูด บางครั้งก็ไม่ดูดแล้วแต่อารมณ์
ไอ้ฉานเวลากินเหล้า มันมักจะดูดบุหรี่จัด เรียกได้ว่ามวนต่อมวน ถ้ามีบุหรี่วางอยู่ตรงหน้า มันเลยให้ผมเก็บไว้ เพื่อที่มันจะได้ดูดไม่จัดเท่าไหร่ คนส่วนใหญ่ชอบไปดูดบุหรี่ในห้องน้ำ ที่ลานใต้ต้นไม้ จึงไม่มีคนมายืนดูดกันมากนัก ผมนึกเปรี้ยวปากจึงหยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ที่ปาก ก่อนกดไฟแช็คจุดบุหรี่ จนมันมีแสงวาบขึ้นมานั่นแหละ ผมถึงได้สูดควันเข้าปอดแล้วปล่อยออกมา กำลังสบายอารมณ์ เดินชมต้นไม้ (กลางคืน)
อยู่ๆมีมือนึงมาจับแขนผมไว้แล้วอีกมือนึงอ้อมมาอุดปากผม ก่อนที่มันจะกระชากตัวผมไปหลังต้นไม้ใหญ่
“เฮ้ย จะทำอะไรวะ” ผมโวยวาย ทันที่ ที่ปากเป็นอิสระ แต่ข้อมือยังโดนดึงไว้ ผมตัวเกร็ง แต่ก็ยังสู้ นี่มันในร้านประจำที่ปลอดภัยเสมอ เลยไม่คิดว่ามีอะไรที่จะต้องกลัว ถึงแม้ใจจะเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว
“เงียบๆ อยากให้คนอื่นเค้าแตกตื่นแห่กันมารึไง” มันสั่งผมพร้อมๆกับที่มันอ้อมมาประจันหน้ากับผม
“นะ นาย” มันคือไอ้คนที่มองมาทางโต๊ะผมบ่อยๆ มองไปครั้งสุดท้าย ไม่เห็นมัน ก็คิดว่ากลับไปแล้ว
“บอกว่าเงียบ” มันยกนิ้วขึ้นมาแตะปากตัวเอง พร้อมกับที่มือมันรัดมือผมไว้จนแน่น
“ปล่อย นายมีอะไรกับผม” ผมพยายามมีสติและพูดกับมัน ถึงแม้ไม่รู้ว่ามันมีจุดประสงค์อะไร
“ดูดบุหรี่ด้วยเหรอ” มันเปลี่ยนเรื่องคุยหน้าด้านๆ
“ผมถามคุณว่า มีอะไรกับผม ถ้าไม่มี ผมขอตัว” ผมกัดฟันพูด พยายามสร้างช่องว่างให้รู้ว่า เราไม่ได้รู้จักกัน
มันปล่อยมือผม ก่อนจะเอามือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋า ผิวปากแบบสบายใจ ในขณะที่ผมต้องลูบข้อมือตัวเองไปมาด้วยความเจ็บ และรู้สึกโกรธ มันเป็นใคร อยู่ๆกระชากผมมาโดยไม่มีธุระอะไร ถามอะไรก็ไม่ตอบ กำลังจะก้าวเดินออกไปจากตรงนั้น ก็โดนกระชากแขนกลับไปอีก
“จะไปไหน โมโหง่ายจัง ทั้งๆที่ยิ้มง่ายอยู่แท้ๆ ขอดูดบุหรี่ด้วยคนสิ” มันพูดเสียงเรียบง่าย ไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ใดๆ
“เอาไป” ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าอีกครั้ง ดึงออกมาทั้งบุหรี่และไฟแช็ค ยื่นให้มันแบบฟูลออฟชั่น จะได้จบๆไป ผมเองก็ได้ไปจากที่นี่สักที เผื่อบางที ตอนนี้ไอ้ฉานจะกลับมาแล้ว
“ไม่เอาแบบนี้สิ” มันเริ่มตีรวน ผมเริ่มมองหน้ามันแบบไม่ยอม ผมโกรธ และกำลังจะหมดความอดทน ผมกำมือแน่นจนปลายเล็บเริ่มจิกเข้าไปในเนื้อ
“แบบนี้” มันกระชากผมกลับเข้าไปหาตัวมันอีกที ก่อนจะประกบปากลงมาที่ปากผม มันพยายามจะส่งลิ้นเข้ามาในโพรงปาก
แต่เสียใจ ผมกัดฟันแน่น มองหน้ามันอย่างโกรธแค้น มันเรื่องอะไร กูไม่ใช่ผู้หญิง แล้วก็ไม่ใช่ใครที่มันจะมาทำแบบนี้ด้วยได้
“ทำไมต้องเล่นตัว เมื่อกี้ยังให้ไอ้เหี้ยนั่นจับได้นี่ แค่นี้ทำไมไม่ได้หละ” ผมกำหมัดแน่น โกรธจนตัวสั่นเป็นยังไง วันนี้ก็เพิ่งรู้
“นี่ขนาดแต่เอาปากแตะ ยังหอมขนาดนี้ หอมจนแทบจะไม่รู้เลยนะว่า นายดูดมาร์ไลท์ “ พอกันที ไม่จำเป็นต้องมีความอดทนกับคนพรรค์นี้อีกต่อไป ผมปล่อยหมัดแรกไปที่ปลายคางมันแบบตั้งใจ มันคงไม่ทันจะระวังตัว หรือไม่ มันคงคิดว่าผมกลัวจนไม่กล้าจะทำอะไรมัน มันเอามือลูบปลายคาง และก้าวย่างเข้ามาหาผม ปลายขาผมส่งไปโดนหน้าแข้งมันแบบเต็มๆ มันทรุดตัวลงกับพื้น มองมาที่ผมแบบคาดไม่ถึง หรือกำลังคิดอะไรในใจอยู่ผมไม่รู้ แล้วไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาสนใจ
“หมัดนั้น สำหรับที่มึงจาบจ้วงกูนะ แล้วตีนที่กูฝากไว้นั้น สำหรับความกล้าที่มึงเรียกแฟนกูว่าเหี้ย จำเอาไว้มึงกับกูไม่รู้จักกัน กูไม่ใช่เพื่อนเล่น” ผมทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด ไม่เข้าแล้วห้องน้ำ หน้าตาก็ไม่ต้องล้างแมร่งแล้ว
ตอนนี้ผมอยากกลับห้อง อยากเจอไอ้ฉาน อยากไปจากร้านนี้ วันนี้มันวันไม่ดีสำหรับพี่เมฆ
ผมเดินออกมา เจอเพื่อนๆ นั่งกันอยู่ที่โต๊ะแล้ว แบรนด์เลิกเล่น กลายเป็นเปิดแผ่นเพลงช้า บอกให้รู้ว่าเป็นเวลาปิดร้านแล้ว
“ไปไหนมาวะเมฆ” ไอ้ดิว มันถามผม จากสายตาตอนนี้ คงไม่มีใครมีสติพอที่จะสังเกตุว่าผมหายไปไหน ไปทำอะไร และไปเจออะไรมา
“ไปดูดบุหรี่ ไอ้ฉานมายัง” ผมตอบไป สายตาก็มองหาคนของผมไป
“มาแล้ว ไปเคลียร์บิลอยู่ นั่นไงมันมาพอดี”
ไอ้ฉานเดินยิ่มร่า กลับมาที่โต๊ะ
ตอนนี้ไอ้ฉานยิ้มโครตจะสดใส ผมน่าจะดีใจ
แต่ทำไม ผมอยากร้องไห้จังครับ
๐ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่ตามกันมาตั้งแต่ตอนแรก จนถึงตอนนี้
ขอบคุณค่ะ...... 
ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกคนด้วยนะค่ะ ๐.....
