artical 7
ตอนเย็นป๊ามารับผม แล้วก็ไม่สงสัยอะไรมาก โล่งอกไปที แล้วผมก็ไม่รู้ว่าพวกพี่เต้กับไอ้เพลย์ไปเคลียร์กับพวกพี่คิวยังไง แต่พอตอนเช้ามาหน้าแต่ละคนมีรอยช้ำไปตามๆกัน
“ไปเคลียร์กันยังไงเนี่ยถึงได้เป็นแบบนี้”ผมพูดแล้วเอานิ้วไปจิ้มรอยช้ำที่หน้าไอ้เพลย์
“เจ็บนะโว้ย...แต่ก็ช่างเหอะยังไงเรื่องมันก็จบไปแล้วขี้เกียจเล่า”ไอ้เพลย์มันตัดบท เพราะขี้เกียจเล่าให้ผมฟัง มันช่างเป็นเพื่อนที่แสนดีจริงๆ
“มาคุยกันหน่อยสิ”ไอ้พี่เต้ที่มาจากไหนก็ไม่รู้เดินมาจับแขนผมแล้วพาไปคุยที่ศาลาริมน้ำ(มันเป็นบ่อน้ำไม่ใหญ่มากน่ะครับ)
“ไม่เป็นอะไรแล้วใช่มั้ย”มันถามผมเสียงนิ่มๆ เดี๋ยวเถอะจะโดน...หลงรัก ไม่ ไม่ ไม่ อย่าไปหลงมันสิ
“อื้อ”ผมก้มหน้า ไม่อยากมองหน้ามันเดี๋ยวหวั่นไหว มันจะมาไม้ไหนของมันอีกเนี่ย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
“ก้มหน้าทำไม”
“เปล่า...” ใครจะไปบอกมันตรงๆล่ะว่ากลัวหวั่นไหว
“...เรื่องไอ้คิวมันจบแล้วนะ...มันคงไม่มายุ่งวุ่นวายอีกแล้วแหละ”ผมมองหน้าไอ้พี่เต้ พึ่งสังเกตหน้ามันก็มีรอยช้ำด้วยเหมือนกัน
“แล้วพี่ล่ะเมื่อ...” ผมกลั้นใจบอกมันไป ผมไม่อยากคิดไปไกลมากกว่านี้ แต่มันก็พูดขัดผมไว้ก่อนที่ผมจะพูดจบ
“ถ้าจะให้กรูเลิกยุ่งกับมรึงล่ะก็ ไม่มีทาง ก็บอกแล้วไง ว่ากรูไม่ปล่อยมรึงไปง่ายๆแน่”มันทำหน้าจริงจัง
“...” ใบ้กิน พูดไม่ออกเลยครับ
...
ตอนเย็นไอ้เพลย์บอกว่าจะไปค้างบ้านผมเพราะบ้านมันไม่มีใครอยู่ มันไม่ต้องหอบเสื้อผ้ามาหรอกครับเสื้อผ้าของมันกินเนื้อที่ในตู้ผมไปเกือบครึ่งแล้ว เพราะมันมาบ้านผมบ่อยเหมือนกัน
“เซ็งว่ะ”ผมนอนเล่นอยู่บนเตียง ส่วนไอ้เพลย์มันนั่งเล่นเกมส์อยู่ข้างเตียง
“เซ็งอะไรวะ”ไอ้เพลย์มันพูดโดยที่ตามันยังจ้องหน้าจออยู่
“เซ็งชีวิตสิวะ แมร่งอะไรนักหนาก็ไม่รู้”ผมกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงอย่างเซ็งๆ มาคิดดูแล้วเพราะไอ้พี่เต้นั้นแหละที่ทำให้เรื่องมันยุ่งขนาดนี้
“อะไรของมรึง”
‘เพื่อนเลว แมร่งสนใจแต่เกมส์ แต่ไม่สนใจกรู’
“กรูถามจริงๆเหอะ...มรึงว่ากรูน่ารักป่ะ”ในที่สุด ไอ้เพลย์หันมาจากหน้าจอแล้วจ้องหน้าผม
“อือ”มันตอบแล้วมันก็หันกลับไปเล่นเกมส์ต่อ
“มรึงจะไม่ลังเลสักนิดเหรอ” ช่วยลังเลหน่อยเหอะ
“ไม่” สักนิดเหอะ
“...”ผมทำหน้ามุ่ยเลยครับ ทำไมป๊ากับม๊าถึงทำร้ายผมแบบนี้ โฮ แง ใช่เพราะไอ้พี่คลีนคนเดี๋ยวแย่งความหล่อของผมไป (พาล)
“ทำหน้ามุ่ยไมวะ”ไอ้เพลย์เอื้อมมือมาขยี้หัวผม
“กรูอยากหล่ออ่ะ”
“555 ชาติหน้าแล้วกันมรึง”อ้าว!ไอ้เพื่อนชั่วให้กำลังใจกรูจัง
“เลวและ คอยดูนะกรูจะไปฟิตกล้ามให้โคตรแมน” ผมทำหน้า เพ้อฝัน ‘คอยดูนะมรึงจะต้องตะลึงผู้ชายหน้าไหนก็ไม่กล้ามาจีบ’
“ตื่นด่วนเลย กรูเห็นมรึงมีแต่ก้าง อ่ะเอานมไปแดกมรึงจะได้สูงขึ้น ไอ้แคระ”ไอ้เพลย์มันโยนกล่องนมข้างตัวมันมาใส่ผม(ไอ้เพลย์มันชอบกินนมครับ ถ้ามันมานมแทบจะเกลี้ยงตู้เย็น มันเป็นตัวกันนมบูดดีๆนี่เอง)
“ไอ้เพลย์มรึงตาย”ผมกระโดดทับมันแล้วจี๋เอวมัน ไอ้เพลย์มันบ้าจี้ครับ
“เฮ้ย! ฮ่าๆ...ไอ้มีนกรูไม่เล่น...ฮ่าๆ”ไอ้เพลย์มันดิ้นใหญ่เลยครับสะใจจริงๆ ปากหมาดีนัก เดี๋ยวกรูจะไปเรียนสัตวแพทย์แล้วมาผ่าหมาออกจากปากมรึงให้เอง...เพื่อนร้ากกก
“ยอมยัง”ผมถามมันก่อนที่มันจะขาดใจตายไปซะก่อน มรึงยังตายไม่ได้หรอก อยู่ให้กรูทรมานมรึงก่อน(เริ่มโรคจิต)
“ฮ่า...ยะ...ยอม...แล้ว”ในเมื่อมันยอมแล้วผมก็ปล่อยมันสิครับ แต่ท่ามันแปลกๆชอบกลผมนั่งอยู่บนพุงมันครับ ไม่รู้มันจุกไปถึงไหนแล้วตัวผมก็ไม่ใช่เบาๆนะครับ ผมสงสารมันก็เลยลุกออกไปแล้วยืนเยาะเย้ยมัน(แน่ใจนะว่าสงสาร)
“หมดฤทธิ์แล้วเหรอวะ” ในที่สุดก็หายแค้นมีความสุขจริงๆ ไอ้เพลย์นอนแผ่หมดแรงข้าวต้มเลยครับ
“ฝากไว้ก่อนเหอะเดี๋ยวกรูจะเอาจุดอ่อนมรึงไปบอกพี่เต้” ‘อ้าว! ชั่วแล้วขึ้นเอาไปบอกกรูก็เสร็จมันอ่ะดิ’อยากรู้นะน่ะว่าจุดอ่อนของผมคืออะไร แต่ไม่บอกหรอก 555
“มรึงเป็นเพื่อนกรูจริงป่ะเนี่ย”ผมนั่งบนเตียงแล้วใช้เท้าเขี่ยไอ้เพลย์เบาๆ
“มรึงไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม...เรื่องนั้นน่ะ”ไอ้เพลย์เข้าสู่โหมดจริงจัง แล้วเรื่องนั้นของมันก็หมายถึงเรื่องที่ผมเกือบโดนพี่คิวมันxxxน่ะ
“อือ...ไม่เป็นไรแล้วแหละ”ผมยอมรับว่ายังกลัวอยู่ แต่ก็ไม่มากแล้วแหละครับ
“เออใช่...กรูถามจริงเหอะมรึงไปคบกับพี่เต้ตอนไหนวะ”ผมอยากจะตะโกนบอกมันซะเหลือเกินว่า กรูไม่ได้คบกับมัน กรูโดนมันมัดมือชก แต่ก็บอกไม่ได้
“ช่างแมร่งเหอะ”ผมทำเป็นไม่สนใจเบี่ยงประเด็นไปก่อนครับ
“ช่างไม่ได้...ปกติมรึงมีอะไรก็เล่าให้กรูฟังตลอดไม่ใช่เหรอ”ไอ้เวรเอ๊ย! มรึงจะมาคาดคั้นกรูทำไมวะ
“ก็...ก็กรูกลัวมรึงรับไม่ได้นิ” ไอ้เพลย์มันหรี่ตาลงเหมือนจะจับผิดผม โอม จงรอด จงรอด
“อย่าโกหก”มันลุกขึ้นมานั่งจ้องหน้าผม ‘ไม่รอดแล้วเรา ไม่น่าเป็นเพื่อนสนิทมันมานานเลย(ผมเป็นเพื่อนกับมันมาตั้งแต่อยู่ม.1)จับโกหกกรูได้ทุกที’
“มรึงก็อย่าคาดคั้นกรูดิ...นะตัวเอง...อย่าคาดคั้นเก๊าดิ”ตอนแรกผมเก๊กหน้านิ่งก่อน แล้วค่อยทำน้ำเสียงและหน้าตาปัญญาอ่อนใส่ไอ้เพลย์ แล้วออดอ้อนมัน ซึ่งมันจะยอมผมทุกที หึหึ(หัวเราะแบบมีแผน)
“...เออๆกรูจะไม่คาดคั้นมรึง...ถ้ามรึงพร้อมเมื่อไหร่ค่อยเล่าให้กรูฟังก็ได้”นั่นไงไอ้เพลย์มันยิ้มแล้วครับ ค่อยโล่งใจไปหน่อย
“ขอรับคุณท่าน”
“เออดีมากมานวดให้ข้าหน่อยสิ เจ้าคนรับใช้”ไอ้เพลย์มันขึ้นมานอนบนเตียงแล้วนอนเหยียดยาว
“มากไปและไม่เอาขาพาดคอกรูซะเลยล่ะ”ผมประชดมันครับ แต่มันเสือกจะเอาจริง ผมลุกหนีแทบไม่ทัน ไอ้นี่นิชอบลามปาม(ไม่ดูตัวเองเลย) ก่อนที่พวกผมจะเล่นกันรุนแรงกว่านี้แม่ผมก็เรียกให้ไปกินข้าวซะก่อนไม่งั้นมียาว
วันนี้ผมนั่งรถเมล์มาโรงเรียนพร้อมกับไอ้เพลย์เพราะม๊าผมต้องรีบไปทำงานเลยมาส่งไม่ได้ พอมาถึงโรงเรียนไอ้เพลย์มันก็รีบหายหัวไปหาเด็กของมันทันทีทิ้งผมให้ฉายเดี่ยวซะงั้น ระหว่างที่เดินไปที่โต๊ะก็เห็นรังสีอำมหิตมาแต่ไกลเลยครับ
“ไอ้มีน”อุ้ย! ไม่ใช่ใครที่ไหนพี่โอ๊คนั่นเอง เสียงเข้มมาแต่ไกลเลย
“แฮ่ๆ”ผมยิ้มแหยๆ เมื่อวานลืมเข้าชมรมไปซะสนิทเลย ‘พี่โอ๊คเอากรูตายแน่’
“ไม่ต้องมายิ้ม เมื่อวานหายหัวไปไหนมา”อย่าขู่ดิผมกลัวนะ
“ก็เมื่อวาน ม๊าให้กลับเร็วอ่ะพี่ ผมนะอยากจะไปเข้าชมรมใจจะขาด ชักแม่น้ำมาหมดทุกสายแล้ว ม๊าก็ยังไม่ยอมเลย” ‘สตอเบอแหลมากเลยกรู แต่เอาวะเพื่อความอยู่รอด’
“แน่นะ”ไอ้พี่โอ๊คมองหน้าผมอย่างจับผิด
“แน่ดิพี่”ผมทำหน้าจริงจัง เพื่อความหน้าเชื่อถือ
“แล้วไปแต่วันนี้ห้ามขาด มรึงต้องไปคุยเรื่องคัดตัวนักบาสกับไอ้เพลง(กัปตันของทีมบาส)”ซวยเลยครับอดชิ่ง แต่คุยแป๊บเดียวคงไม่นานหรอกมั้ง แต่ว่านะความจริงเรื่องการคัดคัวผมไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งนิ
“แล้วผมไปเกี่ยวอะไรกับการคัดตัวด้วยเนี่ย” ต้องถามให้หายข้อง(ใจ)ครับ
“เอาไว้คุยกันตอนเย็น”ไอ้พี่โอ๊คมันมองหน้าผมแปลกๆ แล้วตัดบทไปเฉยเลย ‘เอาแล้วสิพี่โอ๊คทำท่าแบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ’
“ผมว่ามันแปลกๆ”ผมมองไอ้พี่โอ๊คอย่างจับผิด
“อย่าสงสัยมากน่า...กรูต้องไปและ”ไอ้พี่โอ๊ครีบชิ่งไปก่อน ผมเลยไม่ทันได้คาดคั้นคำตอบจากมัน
พอเลิกเรียนผมก็ตรงไปที่ชมรมทันที วันนี้โชคดีหน่อยที่ไอ้พี่เต้มันไม่มาโรงเรียน เลยไม่เจอหน้ามัน แต่ก็อดรู้สึกแปลกๆไม่ได้ ผมไม่ได้คิดถึงมันนะ เลิกกันคิดไปได้เลย ไปเข้าชมรมกันดีกว่า
“มาได้แล้วเหรอ”พี่เพลงพูดเมื่อเห็นหน้าผม แหมทำอย่างกับผมชอบโดดชมรมอย่างงั้นแหละ(โดดประจำ)
“คร้าบบ”
“ไอ้พวกนั้นน่ะมานี่”พี่เพลงหันไปเรียกสมาชิกบาสมา(นักบาสทั้งหมดถ้ารวมถ้ารวมพี่เพลงด้วยก็มีอยู่ 10 คนแล้วการคัดตัวจริงก็เปิดโอกาสให้คนในชมรมอื่นมาคัดได้ด้วย)
“ไอ้มีนมาได้แล้วเหรอวะ”ไอ้นี่มันชื่อโจอยู่ห้อง 5 ม.เดียวกับผม
“เออ”
“ขยันโดดจริงนะผู้จัดการ...”พี่เก่งพี่แกอยู่ม.6 แล้วครับ ผมกับแกแซวกันเล่นแบบนี้ประจำแหละ
“อยู่แล้ว”ยอมรับอย่างไม่อาย
“เลิกคุยกันได้แล้ว”พี่เพลงคงทนไม่ไหว เลยบอกให้พวกผมเลิกคุยกัน พี่แกโหดซะด้วยไม่งั้นคุมพวกทโมนในทีมไม่ได้หรอกครับ
“แล้วตกลงมีเรื่องไรจะคุยกับพวกผมอ่ะพี่”ไอ้โจถามพี่เพลง
“ก็วันจันทร์หลังเลิกเรียนกรูจะคัดนักบาสไปแข่งมีตัวจริง 5 คนตัวสำรองอีก 5 กรูต้องการคนที่มีฝีมือจริง...ส่วนมรึง”พี่เพลงหันมาหาผม เล่นเอาตกใจหมดเลย
“มีหน้าที่ดูแลทุกคนที่มาคัดตัว...อ่ะชุดยูนิฟอร์มมรึง”ไอ้พี่เพลงมันโยนชุด ที่บอกว่าเป็นยูนิฟอร์มแต่ว่ามัน เป็นเสื้อสีขาวข้างหลังสกรีนว่าผู้จัดการชมรมบาส กับกางเกงขาสั้นสีดำ(คล้ายกางเกงใส่วิ่งอ่ะครับโคตรสั้น)
“พี่นี่มันอะไรเนี่ยทำไมผมต้องใส่ชุดนี้ด้วยล่ะ”ผมประท้วงครับ เรียกร้องความยุติธรรม นอกจากใช้ผมเยี่ยงทาสแล้วยังมาบังคับให้แต่งชุดนี่ทำไมอีกก็ไม่รู้
“อย่าพูดมากน่า นอกจากโดดแล้วก็หัดทำประโยชน์ให้ชมรมบ้างสิ” ‘หนอยแล้วที่จิกหัวใช้กันอยู่นี่ไม่ทำประโยชน์ให้รึไงวะ’
“แต่ผมไม่เห็นว่าใส่ไอ้นี่แล้วจะทำประโยชน์ให้ชมรมเราตรงไหนเลย”ผมแย้งแล้วชูไอ้ยูนิฟอร์มห่วยๆนี่ขึ้น เพื่อเป็นที่ประจักแก่สายตาของทุกคน
“เออน่า...เนี่ยเป็นชุดเก่าของผู้จัดการชมรม ปกติเค้ามีแต่ผู้หญิงเป็น มีมรึงเป็นผู้ชายคนแรก ฉะนั้นอย่าบ่น” ว่าแล้วไอ้พี่เพลงมันคงไม่ลงทุนขนาดยอมให้ซื้อยูนิฟอร์มใหม่มาหรอกครับ สรุปผมต้องใส่มันใช่ไหมเนี่ย เมื่อหมดเรื่องแล้วผมก็กลับบ้านครับ แต่เอ๋แม่คุยกับใครอยู่ในบ้านเนี่ย ปกติผมจะอยู่กับแม่สองคนนี่ พอผมเดินเข้าไปในบ้านเท่านั้นแหละแทบลมจับ ไอ้พี่เต้ครับตัวเป็นๆไม่ใช้สแตนอินทร์ ไม่ใช้ตัวแสดงแทน (มันมาบ้านกรูได้ไงฟะ)
“อ้าวกลับมาแล้วเหรอลูก นี่พี่เค้ามารอตั้งนานแล้ว...พาพี่เค้าไปบนห้องไป...ให้พี่เค้ามาติวหนังสือให้ไม่ใช่เหรอ” งงเต็ก ผมไปบอกมันตอนไหนเนี่ย(ไอ้ตอแหลเอ๊ย)
“อ่า...”พูดไม่ออกเลย
“คุณแม่ครับงั้นผมขอไปติวหนังสือให้น้องมีนก่อนนะครับ”(น้องมีนนนนน อ้วก สร้างภาพสุดๆ แม่ไปหลงเชื่อมันได้ไง)
“จ๊ะ เดี๋ยวแม่ไปทำกับข้าวก่อนวันนี้เต้อยู่ทานข้าวกับแม่นะลูก”(แม่ไปรับมันเป็นลูกตอนไหนกัเนี่ย)
“ครับแม่” โฮ หนีมันไม่พ้นจริงๆสินะ
ผมเดินนำมันขึ้นไปที่ห้องผม พอมันเข้าห้องผมปุ๊บมันก็กระโดดไปที่เตียงเลย (น้อยๆหน่อยห้องกรูนะ)ส่วนผมก็ยืนห่างจากเตียงประมาณสามล้านปีแสง(เวอร์)
“มานี่ดิ”ไอ้พี่เต้มันรียกผมไปหาครับ ผมก็ส่ายหน้าสิใครจะไป
“จะมาดีๆหรือจะให้ไปลากมา” (กัก ขัง ฉัน เถิด กัง ขัง ฉันไป นี่กรูกำลังแสดงจำเลยรักอยู่ใช่ไหมเนี่ย)
“จะเรียกผมไปทำไมล่ะ”มันไม่น่าไว้ใจ
“อย่าถามเดินมาเร็วๆ มานั่งนี่”มันเร่งผมแล้ว ผมเลยเดินไปหามันช้าๆ แล้วนั่งตรงขอบเตียง
“มีอะไรล่ะ”ผมถามมัน
“คิดถึง”มันพูดแล้วกอดเอวผมไว้ ทั้งที่มันนอนอยู่
(ฮ๊ะ! ผมหูฝาดไปใช่ไหม ไอ้ปีศาจนี่บอกว่าคิดถึง)
“อ่าเหรอ...ผมไปอาบน้ำดีกว่า”คงคิดว่าผมจะเขินใส่ไหมล่ะ หยุดไปเลยนะ ผมไม่ได้เขิน และไม่ได้หวั่นไหว
ก็แค่
หน้าร้อน
หัวใจเต้นแรง
ทำอะไรไม่ถูก
ไม่กล้ามองหน้ามัน
วิ่งหนีเข้าห้องน้ำ
ผมไม่ได้เขินจริงๆนะ
...
ขอบคุณทุกรีพลายนะครับ