เสียงกระซิบจากลมหนาว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เสียงกระซิบจากลมหนาว  (อ่าน 46377 ครั้ง)

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
 :monkeysad:สงสารไอดินจับใจ

ลม ก็ใจอ่อนเกินไป  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
มาอ่านเรื่องนี้แล้วคนละอารมณ์กะเรื่องไป่เลยนะคะ

เศร้าๆ อึมครึม ดีจังเลย

ลมโหยหาความรักจนลืมรักของคนที่อยู่ข้างๆ กายไปซะแล้ว

น่าสงสารไอดิน  :impress3:

CocO naTtH mIlK

  • บุคคลทั่วไป
ปกติก็ไม่ค่อยได้ออกความเห้นหรอกนะครับ เพราะว่าอ่านแล้วก็สนุกดี แต่ว่าเรื่องนี้ ไม่ไหวอ่ะ อ่านแล้ว "สมเพช" ลม มากมาย ทำไมถึงได้ทำตัว "ต่ำ" ขนาดนี้ก็ไม่รู้....อ่านแล้วมันให้ความรู้สึกของคนที่อยู่อีกด้านนะครับ

ต้องขอชื่นชมคนแต่งนะครับ ที่เขียนได้เห็นภาย เห็นความรู้สึกชัดมากมาย แต่ในเรื่องโดยทั่วไปก็ยังรู้สึกว่า ลม เป้นคนที่น่าสมเพชอยู่นั่นเอง...วิธีการแก้ปัญหา หรือว่าอยู่ใกล้กับคนที่รัก หรือจะทำอะไร มีเยอะแยะไป ปัญหา 1 ข้อ ไม่ได้จำกัดวิธีการแก้ไขที่ 1 วิธีการ แต่เพียงคุณลองได้พิจารณาแล้วมองดูมัน คุณก็จะได้คำตอบเองว่าควรทำอย่างไร

ทำอะไรก็ทำได้ แต่อยู่บนความถูกต้องและไม่สร้างความเดือดร้อน อันนั้นน่าจะดีกว่า

 :L2:มอบให้คนแต่งครับ

diedfoxx

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ:
มีหลายคำที่อยากบอก
แต่ จะรอติดตามต่อไป :)
ยังไงก็ยังเป็นกำลังใจให้น้องลมอยู่เสมอ
...
 :กอด1:

ออฟไลน์ IRIS

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 434
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
ขอบคุณค่า..

ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกรังเกียจสายลมเหลือเกิน..เห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว..

ไหนๆ ก็จะเลือกพี่ชาย แล้วทำไมไม่ปลดปล่อยไอดินเสียดี..โลภเกินไปรึป่าว..

สุดท้ายสายลมคงไม่เหลือใครซักคนละมั้ง..

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ไอดิน คงเสียใจน่าดูที่ได้ยินซัมเมอร์เรียก ลม ว่า วินด์

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
เรื่องอะไรกันเนี่ย อินจนจิตตก
แต่ก็ชอบนะ ปมเยอะดี

Lunaeve

  • บุคคลทั่วไป
ลมก็คือลม ลมที่ไม่เคยหยุด

nanohuman

  • บุคคลทั่วไป
                                                                     เสียงกระซิบจากลมหนาว 21




"ไอดิน......กู....."


"กูอยากอยู่คนเดียว......"


     ไอดินเดินจากไปแล้วแต่ผมยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน อยากยืนอยู่ตรงนี้......ยืนรอให้เขาเดินกลับมาแล้วบอกว่าไม่เป็นอะไร ไม่มีอะไร


นี่ผมหวังมากไปเหรอเนี่ย


   เมื่อกี้ท้องฟ้ายังสดใสอยู่เลย แต่ตอนนี้ท้องฟ้ากลับอึมครึมลงและหม่นหมอง เหมือนหัวใจของผมตอนนี้ ฟ้า......ฟ้าก็กำลังโกรธเราอยู่ใช่ไหม โกรธ......ที่เราไม่เชื่อใจไอดิน โกรธ......ที่เราทำให้ไอดินร้องไห้


    ผมเดินเรื่อยเปื่อยไปตามถนนที่ถอดยาว ยังไม่อยากกลับบ้าน ผมอยากหนีไปให้ไกล หนีจากปัญหาที่ตัวเองเป็นคนก่อ.....ผมมันทุเรศสิ้นดี.......


     ฝนโปรยปรายลงมาทำให้ผมต้องหลบไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ ฟ้ากำลังร้องไห้......ร้องไห้ที่ผมทำให้พี่ชายของเธอเจ็บปวด ผมนี่มันไม่ได้เรื่องจริงๆ


"ขอนั่งด้วยคนได้ไหมคะ" เสียงเล็กๆเรียกความสนใจของผมให้หันไปมองผู้มาใหม่ เธอส่งยิ้มเล็กๆให้ผมก่อนจะนั่งลงข้างๆ

"ลมมาทำไรแถวนี้เหรอ....." เธอเอามือกอดอกตัวเองอย่างหนาวสั่น ผมถอดเสื้อนอกของตัวเองให้เธอใส่ เหลือแต่เสื้อกล้ามสีขาวสะอาดของตัวเอง เธอส่งยิ้มให้ผมอย่างขอบคุณ

"ขอบใจจ๊ะ.....ลม.....ลมรู้จักเรารึเปล่า.....คงไม่รู้จักล่ะสิ" ดูเหมือนเธอจะพูดเองเออเองเสียมากกว่า เธดูสดใสเหมือนพระอาทิตย์ยามเช้าเลย

"เราชื่อน้ำ สายน้ำ....สายน้ำกับสายลม ว้าววว ชื่อเข้ากันดีจัง อย่างนี้เป็นแฟนกับเราไหม" เธอพูดติดตลก

"แล้วน้ำรู้จักชื่อเราได้ยังไง"

"ก็แหม ลมเราน่ะเพื่อนเยอะจะตายไป สายข่าวทั่วโรงเรียนแหละ และยิ่งลมสนิทกับซัมเมอร์ด้วยแล้วทำไมจะไม่รู้จักล่ะ"

"เหรอ"

"อื้มมม" แล้วเราก็เงียบกันไปพักใหญ่ ฝนยังลงตกอย่างบ้าคลั่งทำให้ตัวของผมเปียกซกไปหมด

"น้ำนี่ดีจังเลยเนอะ......." น้ำหันมาสนใจผมอีกครั้ง ไม่รู้สิ.....เวลานี้ ผมรู้สึกอยากระบายออกไปบ้าง..... ระบายให้เธอฟัง ด้วยอะไรก็แล้วแต่.....ทั้งๆที่เราแทบไม่รู้จักกันเลยแท้ๆ

"ก็น้ำน่ะ......มีเพื่อนฝูงมากมาย มีรอยยิ้มที่สดใส......ใครก็อยากคบหา ไม่เหมือนเรา........."

"ลม.....การมีเพื่อนมากก็ใช่ว่าจะดีหรอกนะ เพราะเราเข้ากับคนง่าย เลยทำให้เรามีเพื่อนมากมาย แต่.....เราไม่มีเพื่อนสนิทเลยซักคน เราไม่มีเพื่อนที่ยืนอยู่เคียงข้างเรายามที่เราเสียใจ ไม่มีเพื่อนที่เราสามารถไว้ใจสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่มีเพื่อนที่เชื่อใจเรายามที่คนอื่นพากันหันหน้าหนี"

"........."


"เราเห็นไอดินอยู่กับลมตลอด รู้ไหมมันทำให้เราอิจฉาลม อิจฉาที่ลมมีเพื่อนที่แสนดีอย่างไอดิน อิจฉาลม......อิจฉาที่ชีวิตนี้เราคงหาเพื่อนที่ดีอย่างไอดินได้อย่างลมหรอก"

"แล้วเมื่อลมมีอยู่......ลมก็รักษาเพื่อนคนนี้ไว้ดีๆล่ะ"

แต่......แต่ผมทำร้ายเค้าจนเกินอภัยแล้ว.....ไอดิน......

"และการที่เราอยากจะได้ความรักจากคนอื่นน่ะ เราต้องรู้จักการให้ก่อน ให้ความรักกับเค้า ให้ความจริงใจที่เรามีอยู่.....แล้วซักวัน.....เค้าก็จะมองเห็นมันเอง"

"..........."

"เชื่อเรานะลม ถ้าลมอยากมีเพื่อนเยอะอย่างเรา ลมต้องรู้จักที่จะยื่นมิตรภาพให้เค้าก่อน รู้จักให้ก่อนจะรู้จักรับ ไม่มีอะไรได้มาโดยไม่ต้องเสียอะไรไปหรอก เพียงแต่สิ่งที่เสียไปและได้มามันจะคุ้มกันไหม แค่นั้นแหละ"

"อืม......."

"และเห็นไหม ตอนนี้เรากับลมก็เป็นเพื่อนกันแล้ว คิดดูสิ.....ถ้าเราไม่มาทักลม มาคุยกับลม แล้วเราจะเป็นเพื่อนกันไหม.....แต่ลมนี่ก็น่าอิจฉานะ มีเพื่อนหล้อหล่ออย่างไอดิน อิอิ"

"ขอบใจน้ำมากนะ....."

"แหม ไม่เป็นไรหรอก แต่เราจะเตือนลมอย่างนะ เรื่องสองพี่น้องออทัมซัมเมอร์น่ะ" คำพูดของน้ำทำเอาผมสงสัย

"ก็สองพี่น้องตัวแสบนั่นน่ะ ชอบพนันกันแปลกๆบ่อยๆ ระวังตัวด้วยนะลม แล้วจะเสียใจ....เราไปแหละ ฝนหยุดแล้ว"


     คำพูดของเธอ ทำให้ผมได้คิดอะไรหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องของไอดินหรือเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมา......ผมหวัง.....หวังที่จะเป็นผู้รับตลอดมาเลยสินะ......

ผมไม่เคยให้เลย





::::::ไอดิน::::::


    ไม่ว่าเมื่อไหร่ เขาคนนั้นก็ไม่เคยเลย ไม่เคยที่จะเชื่อใจกัน ไม่เคยจะเชื่อมั่นในความรักความห่วงใยที่ผมมอบให้ แต่ว่า.....แต่ว่าทำไม ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ไม่เคยที่จะหยุดรัก

     เมื่อวานเป็นวันเกิดของไอ้วินด์มัน ผมรู้ว่ามันต้องการอะไร และหากผมหามาให้ได้แม้ดาวและเดือนผมก็พร้อมหาไปไขว่คว้ามามอบให้ แต่มันก็ยังเป็นมัน มันที่มีชิวิตยึดติดกับอดีต ผมพามันไปยังสถานที่ๆวินเทอร์มันอยากไป แม้ว่าหัวใจของผมจะถูกทำร้าย แต่ผมก็เอาหัวใจออกห่างจากมันไม่ได้ เหมือนๆกับที่มันจะแยกจากอดีตไม่ได้นั่นแหละ

      ผมเดินเข้าไปในบ้านนั้นกับมัน ภายในบ้านกำลังคึกคักกันได้ที่ ดูๆไปมีแต่เพื่อนๆในกลุ่มของไอ้สองพี่น้องนั่น ผมกลัวเหลือเกิน กลัวว่าวินด์มันจะตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ไม่ปลอดภัย ไม่รู้สิ.....ผมไม่เคยเชื่อใจคนพวกนี้  ไอ้ซัมเมอร์จะให้ไอ้วินด์ค้างกับมันแต่ผมไม่ยอม เถียงกันไปนิดหน่อยแต่สุดท้ายก็ต้องยอม มันเดินมากระซิบกับผมว่า 'ไม่ว่ายังไงคืนนี้เมียมึงก็ต้องเป็นของกู' ผมแทบอยากจะเข้าไปฆ่ามัน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะผมรู้ว่าผลสุดท้ายคนที่จะเจ็บที่สุดคือไอ้วินเทอร์

     ไอ้ซัมเมอร์ลาไอ้วินด์ออกไปแล้ว ผมเดินตามไปเพราะไม่อาจจะไว้ใจให้ไอ้วินด์อยู่กับไอ้ซัมเมอร์ตามลำพัง สงครามปาเค้กเริ่มขึ้นและจบลงด้วยสภาพเสื้อผ้าที่เละเทะไม่มีชี้นดี ไอ้วินด์ถูกแยกจากผมไปแล้ว ผมห้ามอะไรไม่ได้เลย ทำไมผมถึงทำได้แค่นี้? ผมรู้สึกว่าตัวเองเริ่มด้อยค่าขึ้นมาทันที....

    ขณะที่เดินไปตามทางเดิน พวกของไอ้ซัมเมอร์กลุ่มใหญ่ก็มาขวางทางเอาไว้ สงสัยว่าวันนี้ผมคงจะได้ออกกำลังอย่างหนักซะแล้วสิ.......

   

****
ท้ายๆนี่งงหน่อยนะคะ
คือเราก็งงๆอยู่ด้วยเหมือนกัน เนื้อเรื่องก็เลยไปด้วย แฮะๆ

ออฟไลน์ iranen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
วินด์เมื่อไหรจะคิดได้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 21
« ตอบ #99 เมื่อ: 29-04-2010 02:09:19 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
วินด์กำลังทำให้ทุกคนเจ็บ ตัวเองก็เจ็บด้วย

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
รอบนี้มาสั้นจัง

ไอดินสู้ๆๆๆๆๆๆ :L2:

NUKWUN

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeysad:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เอาอีกอ่า...นะน๊าาา :impress2:
มัน... :sad4:

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1756
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
ง่ะเศร้า :m15:
ชีวิตบัดซบ :L3:

Laxxeez

  • บุคคลทั่วไป
เศร้ามาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยคับเรื่องนี้ Winter น่าสงสารสุด ๆ :m15:

nanohuman

  • บุคคลทั่วไป
                                                               เสียงกระซิบจากลมหนาว 22








   แท้จริงแล้วพระเจ้าหรือใครเป็นคนกำหนดโชคชะตากัน ชีวิตของผมเริ่มยุ่งมาตั้งแต่ตอนไหนกันนะ ตั้งแต่ผมตัดสินใจมากรุงเทพหรือตั้งแต่ผมรู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกของแม่กันแน่


รู้ว่าตัวเองมีพี่น้องอยู่.........รู้ว่าผู้ให้กำเนิดกับผู้ที่ชุบเลี้ยงมาไม่ใช่คนๆเดียวกัน


รู้ว่า.....พวกเค้าทิ้งผมเอาไว้


แล้วผม ผมก็ต้องการจะตามหา


โดยที่ผมก็ให้เหตุผลกับตัวเองว่า อยากจะรู้จัก อยากจะเก็บรอยยิ้มของพวกเค้าไว้ในความทรงจำ


แต่แล้วนับวัน......มันยิ่งมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น


    เหมือนไม่รู้จักพอ ปัญหาหาทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคำว่า.....อยาก.....คำเดียว แล้วทางแก้ล่ะ มันคงไม่ยากหากเราจะทิ้งคำว่า.....'อยาก'ไป


    แต่ผมกลับทำมันไม่ได้ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ทำให้ทุกคนเสียน้ำตา แต่ผมกลับคิดว่าเป็นผมเองที่เจ็บกว่าทุกคน ทั้งๆที่ความจริงแล้วทุกคนก็เจ็บไม่ต่างกัน ผมมันมองความเพียงด้านเดียวสินะ


ขอโทษนะครับ ขอโทษที่ผมมันเป็นตัวปัญหา ขอโทษที่มองแต่ตัวเอง


สุดท้ายก็ได้แต่ขอโทษ.....แล้วเอาอะไรกลับมาไม่ได้


........เอาความรู้สึกที่เสียไปกลับคืนมาไม่ได้ เอาน้ำตาที่แห้งเหือดไปแล้วกลับมาไม่ได้.........




     เช้าวันใหม่อากาศสดใสกว่าที่เคยเป็น แต่ผมกลับรู้สุกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะจับไข้ มองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อขอกำลังใจจากคนๆนั้น คนที่อยู่ในใจของผมตลอดมา


ฟ้าก็ยังเป็นฟ้าของผมเสมอ


เหมือนกับที่ผมยังเป็นสายลมของเธอ



"ผมไปเรียนก่อนนะครับแม่"

     บอกลาแม่ก่อนจะเดินขึ้นรถ เหลือบมองไปทางบ้านของไอดินก็พบว่ามันปิดสนิทและเงียบกริบ ยังโกรธอยู่แน่ๆเลย ผมจะทำยังไงมันถึงจะยอมยกโทษให้ผมนะ



"มาแล้วเหรอวินด์ มานั่งนี่สิ" ผมพาร่างที่เริ่มจะหนักอึ้งของตัวเองไปนั่งลงข้างๆพี่ซัมเมอร์ พี่หันมายิ้มสดใสให้ผมก่อนจะใช้แขนคล้องคอผมเอาไว้

"นายทำร้ายไอดินเหรอ" พี่ซัมเมอร์เพียงแค่แสยะยิ้มก่อนจะหันกลบเกลื่อนรอยยิ้มนั่นด้วยการดึงผมเข้าไปใกล้ยิ่งขึ้น เพื่อนๆของพี่ซัมเมอร์ก็มีแต่ส่งยิ้มให้กันอย่างแปลกๆเท่านั้น

"อะไรทำให้นายคิดแบบนั้นล่ะ" เขาช่วยปัดปรอยผมที่ตกลงมาปกหน้าของผมออกให้ แล้ววาดแขนโอบเอวของผมจากด้านหลัง

"ไอ้ไอดินมันบอกเหรอ........"

พูดเหมือนรู้

"แล้ววินด์ก็เชื่อ เราไม่ทำแบบนั้นหรอกน่า ก็ไอดินเป็นเพื่อนของวินด์นี่ เราไม่ทำอะไรเค้าหรอก วินด์ไม่เชื่อเราเหรอ"

     ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อหรือไม่อยากจะเชื่อ แต่ว่าไอดินเป็นคนๆนึงที่ผมสามารถเชื่อได้เลยกับคำพูดของเขา เพราะเขาไม่เคยโกหกผมเลยแม้แต่ครั้งเดียว

"ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ว่าไอดินไม่เคยโกหกเรา"

"งั้นกลายเป็นเราที่โกหกว่างั้น......." พี่ซัมเมอร์กอดผมแน่นขึ้นเรื่อยๆด้วยแรงโทสะ ลมหายใจติดขัดอย่างพยายามควบคุมอารมณ์ ผมได้แต่นั่งเฉยๆเพราะเริ่มมึนขึ้นเรื่อยๆ

"วินด์ไม่เชื่อเราเลยใช่ไหม วินด์จะเชื่อแต่มันใช่ไหม!!"

".........."

"ใช่สิ เราไม่ได้รู้จักกับวินมาตั้งแต่เด็ก ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิท ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องของนายนี่!!"

     ผมได้แต่กล้ำกลืนเอาคำพูดที่แสนจะบาดลึกเข้าไปในหัวใจนั้น ก่อนจะหันมาพยายามแกะมือของพี่ซัมเมอร์ออก มือหนาที่แข็งแกร่งดังคีมเหล็กไม่ยอมลดย่อนแรงเลยแม้แต่น้อย มีแต่จะเพิ่มขึ้น.....เพิ่มขึ้น......และเพิ่มขึ้น

"เราคงจะใจดีกับวินด์เกินไปใช่ไหม วินด์เลยถึงได้ดื้อกับเราแบบนี้ อย่าดิ้น!!!"

"......ปล่อยเรา......" ผมพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

"ปล่อยเหรอ ฝันไปเหอะ"พี่ซัมเมอร์ออกแรงลากผมออกมาจากห้องเรียน ก่อนจะยัดผมเข้าไปในห้องเก็บของที่ทั้งแคบและอับ

"นายต้องการอะไรจากเราอีกล่ะ" เสียงที่แหบและเริ่มจะหายไปเรื่อยๆพร้อมกับสติของผมที่มันเลือนลางเต็มทน แต่ผมต้องเข้มแข็งเอาไว้.....

    ใบหน้าของเขาที่บิดเบี้ยวไปด้วยความโกรธเริ่มชิดเข้ามา จนระยะห่างของเราเหลืออยู่ไม่กี่เซนต์ พี่ซัมเมอร์ขึงแขนทั้งสองข้างของผมติดกำแพง แรงบีบที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทำให้ผมต้องนิ่วหน้าลงด้วยความเจ็บปวด

"ไอ้ไอดินมันลีลาเด็ดมากนักหรือไง มึงถึงได้ติดใจขนาดนั้นน่ะ"

".........." ได้แต่ร้องไห้ ผมมันอ่อนแอจริงๆ เพราะผมอ่อนแอถึงต้องเจ็บอยู่แบบนี้สินะ

"อ่อ.......แล้วติดใจพี่กูรึเปล่าล่ะ กูจะได้เรียกมาร่วมวงด้วย"

    สมองของผมเริ่มประมวลคำพูดของพี่ซัมเมอร์ก่อนจะเบิกตากว้าง เมื่อความหมายที่ออกมามันทำเอาผมแทบจะล้มลงไปกองกับพื้น......ที่พูดแบบนั้นหมายความว่ารู้มาตลอดรึไง รู้มาตลอดใช่ไหม

พี่รู้เรื่องทุกอย่างเหรอ.......

แล้วทำไม.....ทำไมถึงปล่อยให้มันเกิดขึ้นล่ะ!!!!


"ทะ......ทำไม.......ล่ะ.....ทำแบบนั้น.......กับผม...ทำ.....ฮึก....ไม" ทุกถ้อยคำกลั่นกรองออกมาอย่างยากลำบาก

"ร้องไห้เลยเหรอ หน้ามึงตอนร้องไห้นี่ก็ยั่วอารมณ์ดีนะ"

".........."

"พี่กูคงติดใจใบหน้านี้สินะ ถึงได้แอบไปหามึงบ่อยๆ"

"หยุด........."

"มึงก็ติดใจไม่ใช่เหรอ เห็นๆกันอยู่ เพราะมึงไม่ยอมบอกผัวมึงเลยนี่ ที่แอบไปเริงรักกับชู้บ่อยๆน่ะ"

"............." ผมเม้มปากแน่น รู้สึกราวกับว่าโลกใบนี้มันถล่มลงมาตรงหน้าเสียแล้ว ทำไมพี่ที่ผมเทิดทูนมาตลอดถึงได้เป็นคนแบบนี้ ทำไมพวกคุณถึงทำกับผมได้ล่ะ!!!

"มีชู้เพิ่มอีกคนเป็นไรไปล่ะ กูก็อยากจะรู้วว่าอย่างมึงนี่มันน่าติดใจตรงไหนกัน"

"หุบปากหมาๆของมึงซะที!!!" ผมตะคอกออกไปอย่างเหลืออด แรงอารมณ์ที่มันปะทุเดือดขึ้นมานั้นทำให้ผมลืมทุกสิ่งไปแล้ว

"มึง......มึงว่าไงนะ"

"........หยุดสบประมาทผมซะที!!หยุดซะที!! ฮึก.......ผมไปทำอะไรให้พวกคุณ!! ทั้งๆที่.......ผมแค่ต้องการอยู่ใกล้พวกคุณ.....ผมผิดมากนักรึไง!!"

"............"

"ทั้งๆที่เป็นอย่างนั้น........และทำไม......ทำไมถึงได้ทำร้ายกันขนาดนี้ด้วย!!!"

"ทำไม......ฮึก.......ทำไมล่ะ ทำมายยยยยยยยยยย!!!!" กรีดร้องแลละดิ้นพล่านอย่างดันทุรัง แต่ก็สู้แรงเขาไม่ได้ ได้แต่กรีดร้องทุรนทุรายราวกับคนบ้า








ผมเริ่มรู้สึกว่าแสงสว่างห่างไกลออกจากตัวทุกที......เหมือนกับว่าร่างกายค่อยๆจมลงในความมืดที่เวิ้งว้างและเงียบเหงา


ลึกลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ


ลึกเสียจนผมกลัวเหลือเกิน.......


กลัวว่าผมอาจจะออกมาจากความมืดนั้นไม่ได้เสียแล้ว......






***
อัพจนจบเลยดีกว่าเนอะ
แฮ่ๆ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2010 17:44:34 โดย nanohuman »

nanohuman

  • บุคคลทั่วไป
                                                                เสียงกระซิบจากลมหนาว 23





แหมะ.........แหมะ......


     เสียงน้ำหยดลงกระทบอะไรซักอย่างปลุกผมให้ลืมตาตื่นขึ้นมา ที่นี่ที่ไหนกัน.......หรือว่าผมจะตายแล้ว? ผมเก็บความสงสัยเอาไว้ก่อนจะพยายามเรียกสติกลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้มันก็ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องพยาบาลของโรงเรียน

"............"


    ความเงียบที่อยู่เป็นเพื่อนทำให้ผมหันมองไปรอบๆ และพบกับใครคนนึงที่คุ้นตานั่งสับผงกอยู่ข้างๆเตียง ใครคนนึงที่ผมไม่อยากจะมองหน้า


   หันหน้าหนีไปทางหน้าต่างก่อนจะพยายามยันตัวขึ้น ทันทีที่เท้าของผมสัมผัสกับพื้นที่เย็นเหยียบ คนที่ผมไม่อยากให้ตื่นก็ลืมตาตื่นขึ้นมาเสียได้

"ตื่นแล้วเหรอ......อยู่ๆก็สลบไปเล่นเอาตกอกตกใจหมด" คนๆนั้นหันมาคาดโทษ


    ต่อไปนี้......คงไม่มีอีกแล้ว.......รอยยิ้มที่สดใสราวกับพระอาทิตย์ยามเช้า.....เสียงหัวเราะดั่งระฆังแก้วจากสรวงสวรรค์.....ความอบดุ่นดั่งฤดูร้อนเฉกเช่นชื่อของเจ้าตัว


ไม่มีอีกแล้ว.......ไม่มีอีกเลย


    ก็ในเมื่อทั้งหมดมันคือเรื่องที่เขาเสแสร้งแกล้งทำขึ้นมาเองหมด! จะให้โทษชะตาฟ้าดินหรือใครกันที่เรื่องราวมันออกมาแบบนี้ หากแต่คำตอบผมก็รู้เองอยู่แล้วว่าทั้งหมดมันเป็นเพราะผม.......


เป็นเพราะผมที่ดันทุรังดิ้นรนเอง


   แล้ววันนี้เจ็บพอมั้ยล่ะ กับบทเรียนแสนล้ำค่าที่ทุกคนมอบให้.......กับความเจ็บปวดเกินจะเยียวยาให้มันหายไปจากจิตใจ เพียงแค่มองหน้าพวกเขา.....หัวใจของผมมันก็เต้นตุบๆไปด้วยความเจ็บปวดและความทรงจำแสนโหดร้ายที่ตามมาคอยทำร้ายจิตใจอยู่เสมอๆ


"เรามาต่อจากเมื่อกี้กันดีมั้ย......"

    ผมมองเขาคนนั้นอย่างผิดหวังในคำพูด แต่ก็นั่นแหละ.....จะเอาอะไรกับคนอย่างเขากัน ก็ในเมื่อเขายอมเข้าใกล้ผมเพราะเรื่องแบบนั้นอยู่แล้ว......แต่ผมทำไม่ลง ผมแลกเรื่องแบบนั้นกับความรักไม่ได้อีกแล้ว บทเรียนก็มีให้เห็นอยู่


"นายมันทุเรศ"

"หึ.......เหรอ ก็คงไม่ทุเรศไปกว่าตัวมึงหรอกนะ อะไรกันกับอีแค่ยอมรับกูเป็นผัวอีกคน มันจะตายเลยหรือไงกัน?"

"หยุด......."

"ทำไม รับไม่ได้หรือไง กูพูดความจริงทำเป็นรับไม่ได้นะ"

ผลัก!!!

   ร่างของพี่ซัมเมอร์เซไปตามแรงก่อนจะล้มลงกองพื้น ผมมองมือของตัวเองที่ชกหน้าเขาสลับกับใบหน้าที่ขึ้นสีไปข้างนึงของเขา เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลลงจากมุมปากช้าๆก่อนที่เขาจะใช้มือเช็ดมันออกอย่างไม่ใยดี

"มึง!!"

"ผะ.......ผม......ผมขอโทษ"

    ผมรีบเข้าไปผยุงพี่ซัมเมอร์แต่กลับถูกพี่เขาผลักออก ร่างสูงเดินหุนหันพลันแล่นออกไป ทำให้ผมวิ่งตามด้วยความรู้สึกผิด พี่ซัมเมอร์วิ่งไปเรื่อยๆลัดเลาะผ่านตึกเรียนต่างๆจนออกจากเขตโรงเรียน

"ซัมเมอร์!! ซัมเมอร์!!!"

    วิ่งตามทั้งๆที่ร่างกายอ่อนล้าเต็มทน แต่ก็กัดฟันข่มฝืนเอาไว้.......นั่นไง......พี่ซัมเมอร์อยู่นั่น เขากำลังจะข้ามถนนไปแล้ว......

"ซัมเมอร์!!พี่ซัมเมอร์!!!"

     ผมวิ่งตามเขาไปเรื่อยๆจนไปกึ่งกางถนน พี่อยู่แค่เอื้อม.......แค่ผมเอื้อมมือออกไป แต่......แต่ทำไมมันเหมือนอยู่ไกลเหลือเกิน เสียงตะโกนโหวกแหวกอึ้งอึงไปหมด จนหูของผมแทบจะไม่ได้ยินหรือรับรู้เสียงแตรรถที่ดังถี่ๆนั่นเลย......


   ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง......เมื่อพี่ซัมเมอร์หันมาสบตากับผมก่อนจะเบิกตากว้าง.......เหมือนพี่จะพูดอะไรซักอย่างแต่หูของผมเหมือนจะพิการไปชั่วขณะ

"ระวัง!!!!!!!"


    ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งก่อนที่ร่างของผมจะถูกแรงอะไรซักอย่างผลักออกไปอย่างสุดแรง ร่างของผมลอยไปตามแรงก่อนจะกระแทกลงกับพื้นถนนอย่างแรง เสียงกรี๊ดและเสียงวัตถุกระทบกันดังสนั่นไปหมด ผมนอนนิ่งด้วยความจุกและทำอะไรไม่ถูกจนมีใครซักคนวิ่งเข้ามาช่วยผยุงผมเอาไว้

"หนูๆ เป็นอะไรรึเปล่า!!"

     ผมส่ายหน้าก่อนจะมองรอบๆด้วยความขลาดกลัว......เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น......และเมื่อสายตาผมเหลือบไปเห็นร่างโชกเลือดของใครคนนึง เหมือนมีใครเอาค้อนมาทุบเข้าศรีษะอย่างจัง เหมือนหัวใจมันจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆยังไงยังงั้น.......

"พี่ครับ!! ฮึก......พี่ ฟื้นสิ ฟื้นสิ!!!"

     ผมกอดร่างที่โชกเลือดของเขาเอาไว้ ก่อนจะกระโกนอย่างบ้าคลั่ง......พี่อย่าเป็นอะไรไปนะ อย่าทิ้งผมไปนะ.....เพียงแค่พี่ลืมตาตื่นขึ้นมา ขอเพียงแค่พี่ตื่นขึ้นมา.....แล้วต้องการอะไรจากผม.....แม้ชีวิตของผม หากพี่ต้องการผมก็ให้ได้


เพียงแต่ตอนนี้.......ได้โปรดตื่นขึ้นมาเถอะครับ!!


    เสียงเบรกรถเสียงดังตามมาด้วยบุรุษพยาบาลกรู่เข้ามา ผมได้แต่มองพวกเขาพาร่างของพี่ซัมเมอร์ขึ้นรถอย่างทุลักทุเล.....

"อ่าว.....หนูรีบขึ้นรถสิ"

    สิ้นคำพูดของเขาผมก็รีบวิ่งขึ้นรถทันที ไม่สนเลือดที่ซึมออกมาจากเข่าแม้แต่น้อย......เวลานี้ผมไม่มีอารมณ์มาสนใจอะไรทั้งนั้น......ได้แต่กุมมือของเขาเอาไว้แน่น พร้อมๆกับหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะรัวเร็วแต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ไหลเวียน

"พี่อย่าเป็นอะไรไปนะ......อย่าเป็นอะไรไปนะครับ......พี่ครับ พี่........"

     ได้แต่ละเมอเหมือนคนบ้า น้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้มหยดลงบนมือเย็นเหยียบของพี่ซัมเมอร์ช้าๆ พี่อย่าเป็นอะไรไปนะครับ......อย่าเป็นอะไรเพราะคนอย่างผมเลย

   พระเจ้าครับ ผมขอร้องนะครับ.....ได้โปรดมอบลมหายใจแก่เขา.......ได้โปรดอย่าพรากชีวิตเขาไป หากเป็นไปได้.......เอาลมหายใจผมไปเถอะครับ เอาลมหายใจของผมไป.......เพื่อต่อลมหายใจของเขา


"ทำแผลของหนูก่อนเถอะนะคะ แผลกว้างและลึกหน้าดูเลย" ผมส่ายหน้าปฏิเสธพี่พยาบาลก่อนจะหันมามองใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยเลือดของเขาอีกครั้ง ทันทีที่ล้อหยุดหมุนหมอและพยาบาลนับสิบคนก็กรู่เข้ามา พร้อมๆกับเขนเตียงของพี่ซัมเมอร์เข้าห้องฉุกเฉินไป


    ทุกเวลา ทุกนาทีที่ผ่านไปในความรู้สึกผม ช่างเชื่องช้าราวกับชั่วกัปชั่วกาล เสียงตึงๆรัวเร็วเข้ามาใกล้ผมทีนั่งทรุดกับพื้นเรื่อยๆ ร่างของคุณป้า คุณลุงและพี่ออทัมปรากฎต่อหน้าผมทันทีที่ผมเงยหน้าขึ้นมอง

"ซัมเมอร์.....ฮื่อๆๆ คุณคะ ลูกของเราจะเป็นอะไรมั้ย"

"ลูกของเราต้องไม่เป็นอะไร หมอสมัยนี้เก่งจะตาย เค้าต้องช่วยลูกเราได้อยู่แล้ว คุณก็ต้องใจเย็นๆนะ......"

"แต่ลูก........"

    คุณลุงพยุงร่างของคุณป้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด คุณป้ามองเข้าไปยังห้องห้องนั้นอย่างไม่วางตา ส่วนพี่ออทัมมองมาทางผมอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ


แต่ผมยังพูดไม่ออก



"มันเกิดอะไรขึ้นลม ทำไมซัมเมอร์ถึงถูกรถชนได้ล่ะ........" เมื่อคุณป้าสงบ คุณลุงก็หันมาถามผมที่นั่ง้งียบอยู่นานแล้ว ทำให้ตอนนี้ทุกคนหันมามองผมกันหมดเพื่อนรอฟังความจริง

"........."

"พ่อกูถามมึงก็ตอบสิ"

"ออทัม"คุณลุงปรามเบาๆ

"คือ.......คือผมทะเลาะกับพะ.....กับซัมเมอร์เค้าครับ......แล้วทีนี้ผม.......ผมก็เลยวิ่งตามเค้าออกมา.......แล้วรถ......รถจะชนผม......ฮึก......ซัมเมอร์........เลยผลัก....ฮึก....ผะ.....ผมออกมา...."ทุกคนเงียบรวมทั้งผมด้วย



เพี๊ยะ!!!!


     หน้าของผมหันไปตามแรง ก่อนจะล้มลงกับพื้น คุณป้ามองผมอย่างโกรธจัด ใบหน้าที่ผมเคยคลาดหวังจะได้เห็นรอยยิ้มอ่อนโยน ตอนนี้กลับแทนที่ด้วยความบึ้งตึงและเกลียดชัง


ผมถูกเกียจซะแล้ว.......

"เพราะแก!!! เพราะแกเลยไอ้ตัวดี!!! แกทำให้ลูกของฉันต้องโดนรถชน!! ทั้งๆที่ควรจะเป็นแก!!ไม่ใช่ลูกของฉัน!!!"

"............" ผมได้แต่เงียบและซึมซับทุกถ้อยคำนั้นเอาไว้

"แกมันตัวซวย!!ถ้าลูกฉันเป็นอะไรไปแกต้องชดใช้!!!........ไปตายซะ!!คนอย่างแกมันไม่ควรจะมีชีวิตอยู่หรอก!! อย่าเอาชีวิตซวยๆของแกมาทำให้ครอบครัวของฉันแปดเปื้อนอีก!!!ออกไป!!!"

"คุณ.....พอเหอะน่า.....มันไม่ใช่ความผิดของเด็กมันซะหน่อย"คุณลุงปราม หากแต่หูของผมกลับได้ยินเพียงเสียงของคุณป้าที่พร่ำด่าทอ และไล่ผมไปให้พ้นทาง


ออกไปจากชีวิตของพวกเค้า........


ชีวิตซวยๆ.......


ไปตายซะ........เหรอ


   เมื่อผู้ที่ให้กำเนิดพูดถึงขนาดนี้ ไล่กันถึงขนาดนี้ อยากให้ผมตายถึงขนาดนี้ แล้วผม........ผมจะอยู่ต่อไปอีกทำไมนะ



อยู่ไปก็ไม่ได้รับรอยยิ้มอันอบอุ่นที่มอบแก่คนในครอบครัว



มีเพียงความเกลียดชังที่มอบมายังคนนอก



"แก!!ไอ้สวะ!!จะไปตายที่ไหนก็ไป!!ออกไปจากตรงนี้ซะ!!!ต้องรอให้ฉันขาดใจตายก่อนหรือไงถึงจะยอมออกไป!!!"



     ผมพยุงร่างของตัวเองเดินลัดเลาะออกจากโรงพยาบาลมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่จากโรงพยาบาลไปไหน ผมอยากจะรอฟัง......รอฟังว่าพี่ซัมเมอร์ไม่เป็นอะไรและเขาจะกลับมาเหมือนเดิม


      ห้าชั่วโมงผ่านไปพร้อมๆกับหัวใจของผมที่มันแหลกสลายไม่มีชิ้นดี ทั้งๆที่อยากเรียกว่าแม่.....ทั้งๆที่อยากพูดคุยไถ่ถามสารทุกสุขดิบ อยากจะลองสัมผัสอ้อมกอดนั้น อยากได้รับรอยยิ้ม และน้ำเสียงอ่อนโยน ทั้งๆที่มันควรจะเป็นอย่างนั้น.........

แต่แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ........


    เตียงของพี่ซัมเมอร์ถูกเขนออกมา แขนซ้ายของและขาซ้ายของเขาถูกเฝือกสีขาวห่อหุ้มอยู่ ตรงศรีษะก็มีผ้าสีขาวพันอยู่เช่นกัน จากที่ผมมองไกลๆพี่เขาคงปลอดภัยแล้ว.......ด้วยความลืมตัวผมรีบวิ่งออกจากมุมที่ซ่อนตัวทันที

ผมอยากขอโทษเค้า.......แม้ว่าเขาจะไม่อยากได้ยินก็ตามที

หลังจากนั้น.......ผมก็จะไป........จะหายไปจากชีวิตของพวกเค้าตลอดกาล



"แก!!!มาทำไมอีก!!!" คุณป้ารีบวิ่งเข้ามาจิกทึ้งผมทันที ผมได้แต่ก้มหน้าก้มตารอรับการลงทัณฑ์เท่านั้น ขอเพียงแค่......ขอเพียงแค่ได้รู้ว่าพี่ซัมเมอร์ปลอดภัย......

"เขาปลอดภัยแล้วใช่ไหมครับ......."

"ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ!!!อยากเห็นเขาตายใช่ไหมแกถึงจะพอใจน่ะ!!!หา!!!!"

"คุณใจเย็นๆ หนู......ซัมเมอร์พ้นขีดอันตรายแล้ว.....ตอนนี้หมอย้ายไปนอนห้องพิเศษน่ะ"

"ผมอยากจะเจอเค้า......" ผมก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม

"ไม่ได้!!!อย่าเข้าใกล้ลูกฉันอีก!!!ตัวซวยอย่างแกน่ะ!!น่าจะตายๆไปซะ!!" อย่าผลักไสไล่ส่งกันอีกเลย แค่นี้ผมก็ไม่อาจจะทนหายใจได้อีกแล้วครับ

"งั้นผม........ผมฝากไปขอโทษเขาด้วยนะครับ......."

"..........."

"พ่อ.......แม่........ฮึก......"


    ทั้งชีวิตของผมเฝ้าไฝ่ฝันมานานแล้วว่าจะได้เรียกผู้ให้กำเนิดตัวเองแบบนี้ซักครั้ง......แม้ว่า......พวกเค้าไม่อยากจะได้ยินก็ตามที


"ฮะ......อะไรนะ!!!อย่ามาเรียกฉันแบบนั้น~!!! ลูกของฉันมีแค่สองคน!!แกไม่มีสิทธิ์!!!"


   นั่นสินะ.......ท่านมีลูกสองคน ส่วนอีกคนเป็นเพียงสายลม.........เป็นเพียงสายลมที่คุณคงไม่มีวันจะมองเห็นมัน แม้เพียงเสี้ยวเดียวสินะ.........


ลาก่อนครับ........พ่อ.......แม่......พี่ชาย........ทุกคนที่ผมรักยิ่ง


'ลาก่อน'


*****

nanohuman

  • บุคคลทั่วไป
                                                                         เสียงกระซิบจากลมหนาว 24







      ผมเดินเรื่อยเปื่อยไปตามท้องถนนที่ผู้คนคลาคลั่ง แต่ผมกลับรู้สึกโดดเดี่ยว......แล้วช่วงเวลาแบบนี้ผมคิดถึงใครที่สุด.......อยากให้ใครมาอยู่เคียงข้างมากที่สุด......


และแล้ว........ภาพของชายคนนึงก็แวบขึ้นมาในสมอง


ใบหน้าขาวใสเกลี้ยงเกลา คนที่มีรอยยิ้มอบอุ่นประดับบนใบหน้าและส่งมาให้ผมเสมอๆ


และเขาคนนั้นก็มักถูกคนอย่างผมทำร้ายเสมอๆเช่นกัน


ไอดินมึงอยู่ไหนกัน ตอนนี้.......ตอนนี้กูหัวสมองกลวงโบ๋ไปหมด ความรู้สึกมันก็ชาๆพร้อมๆกับหัวใจที่มันเต้นตุบๆเต็มไปด้วยความทรมาณ


เหมือนกับว่าใครเอาโว่ตรวนมาถ่วงเอาไว้


เหมือนกับว่าหัวใจมันไม่ใช่ของกูอีกต่อไป


ไอดิน......มึงอยู่ไหนกัน ได้ยินกูไหม.......ได้ยินกูรึเปล่า.......ไอดิน





"ฟ้า.......เราจะไปหาฟ้าแล้วนะ รอเราก่อนนะ......."

    ท้องฟ้าที่สดใสนั่นหมายความว่าฟ้ากำลังยิ้มให้ผมอยู่ใช่ไหม เธอกำลังยินดีที่ผมจะไปอยู่เคียงข้างเธอใช่ไหม ยินดี.......ที่สายลมอย่างผมจะอยู่เคียงคู่กับเธอตายนิรันดร์ใช่หรือเปล่า




    เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ผมมาถึงบ้าน รู้ตัวอีกทีผมก็อยู่ในห้องน้ำพร้อมกับมีดโกนที่ไปหยิบมาแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ มือที่ซีดสั่นของผมค่อยๆกรีดลงบนแขนของตัวเองอย่างเชื่องช้าแต่ทุกครั้งที่ใบมีดมันเฉือนลงบนผิด คำพูดของแม่ก็ดังก้องประกอบกันไปด้วยราวภาพฉายซ้ำ


ไปตายซะ!!!


    ใช่......ผมกำลังจะทำตามที่คุณบอกแล้วไง คุณจะได้ดีใจและรักผม รักผมที่ทำอย่างที่คุณต้องการ หากชีวิตของผมแลกกับการที่คุณไม่ต้องเจ็บปวดเมื่อยามมองหน้า


ผมก็ให้มันได้.......อย่างไม่ปฏิเสธ


เพราะคุณ.......คุณให้ชีวิตผมมา........ผมก็จะคืนให้คุณแล้วไง


    ตอนนี้แม้แต่น้ำตาซักหยดก็ไม่มี หัวใจของผมกำลังร้องไห้ ใช่.......ร้องไห้อยู่เพียงลำพัง ร้องไห้อย่างที่มันเคยเป็นมาตลอด เหมือนกับมนุษย์ที่ไม่เคยหลุดออกจากโคลนตมสีดำมืดของความเจ็บปวด


    เลือดหยดแล้วหยดเล่าไหลลงไปในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ผมเอนตัวลงนอนและหลับตาลงอย่างช้าๆ มันไม่เจ็บเลย.......ไม่เท่าหัวใจของผมเลย


หัวใจที่เจ็บจวนเจียนระเบิด


    หยดแล้วหยดเล่าผ่านไป เรื่องราวในวัยเยาว์เริ่มฉายขึ้นมาดังสไลด์จากคอมพิวเตอร์ ภาพตอนที่ผมวิ่งเล่นกับไอดินและกลิ่นฟ้า ภาพของแม่......แม่ที่จับมือผมเอาไว้ตอนไม่สบาย

มือของแม่ที่สั่นเทาและอบอุ่น


แม่ที่คอยปลอบใจผมก่อนเข้าห้องผ่าตัด


แม่ที่มีรอยยิ้มตอนผมกลับจากโรงเรียน


   แม่ผู้ให้ทุกอย่างอย่างไม่มีข้อแม้........แล้วทำไมผมไม่นึกถึงท่าน.......ทำไมผมถึงลืมคำพูดของท่าน ทำไมถึงไม่นึกว่าถ้าผมตายไปแล้วท่าน......ท่านจะอยู่อย่างไร


แต่ว่าแม่ครับ........ผมขอโทษ........



       น้ำตาหยดสุดท้ายของผมร่วงลง พร้อมๆกับสติที่ขาดหาย ด่ำดิ่งสู่ความมืดมิดที่เวิ่งว้างอีกครั้ง โดดเดี่ยวกว่าที่เคยโดดเดี่ยว น่ากลัวกว่าความกลัวทั้งมวลที่เคยพาลพบ..........


นี่สินะ.......โทษทัณฑ์ของคนอย่างผม








"เฮ้~!! พวกมึงรู้เรื่องริยังว่าซัมเมอร์ถูกรถชน!!"

     เสียงของใครคนนึงปลุกผมออกจากผวังค์ความคิด ทุกคนต่างกรู่เข้าไปถามคนๆนั้นอย่างใคร่รู้ ทำให้ผมที่รู้สึกไม่ดีมาตั้งแต่เมื่อครู่เริ่มใจเสียกว่าเดิม

"ได้ไงอ่ะ.....ทำไมซัมเอร์ถึงโดนรถชนได้ล่ะ!! แล้วเค้าเป็นอะไรมากมั้ย @ # @ 6 % $ 0 ( ฿" และอีกมากมายหลายคำถามจนผู้ชายคนนั้นตอบไม่ทัน

"หยุดถาม เดี๋ยวกูเล่าเอง!!!"

"เออ!!"

"คือว่าเมื่อกี้กูเพิ่งเข้าโรงเรียนมาแล้วเผอิญเห็นลุงยามคุยกับพวกผู้ปกครองของเด็กอยู่น่ะ กูเลยเข้าไปสอดแนม"

"เร็วๆดิวะ แม่งงงง" เพื่อนๆคนอื่นๆเร่ง

"เค้าบอกว่ามีเด็กผู้ชายสองคนวิ่งออกจากโรงเรียนไป แล้วเหมือนว่าทะเลาะอะไรกันซักอย่าง ทีนี้ไอ้ซัมเมอร์มันก็ข้ามถนนไปได้แล้ว......แต่ได้เด็กอีกคนมันโง่ไม่ดูตาม้าตาเรือแล้วรถมันวิ่งแหกโค้งมาจะชนมันเข้า ไอ้ซัมเมอร์เลยวิ่งมาผลักไอ้คนนั้นออกแล้วตัวเองเลยโดนชนแทน!!!"


   ใจผมหายวาบเมื่อได้ยิน ต้องเป็นไอ้วินด์แน่!!ต้องเป็นมันแน่ๆเลย!! ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้.......มือไม้ผมสั่นอย่างห้ามไม่อยู่และไม่รู้จะทำยังไงต่อไป รู้สึกใจคอไม่ดียังไงไม่รู้ เหมือนใจมันหวิวๆชอบกล

"แล้วซัมเมอร์เป็นไงบ้าง!!"ผู้หญิงคนนึงถามขึ้นมา

"ปลอดภัยแล้ว......แต่ว่าคงต้องขาดเรียนไปอีกนานเพราะแขนกับขาต้องเข้าเฝือก หยอดน้ำข้าวต้มไปเป็นเดือนเลยล่ะ"

".............."


     ผมไม่อยู่รอฟังจนคนพวกนั้นพูดจบหรอก เมื่อรู้ที่อยู่โรงพยาบาลแน่ชัดแล้วผมก็วิ่งตรงไปเลย ขอร้องล่ะ......อย่าให้เกิดอะไรขึ้นเลย


วินด์.......วินเทอร์ของผม........


ขออย่าได้เกิดเรื่องร้ายๆกับสายลมที่อ่อนโยนของผมเลย


    เพียงเวลาไม่นานรถแท็กซี่ก็จอดเทียบกับฟุตบาทหน้าโรงพยาบาล ผมจ่ายเงินและออกตัววิ่งอย่างไม่คิดชีวิต สอบถามจากนางพยาบาลได้ความว่าไอ้ซัมเมอร์มันพักอยู่ห้องไหนก็รีบพุ่งตรงไปราวกับพายุ


ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆ

   ผมเคาะประตูรัวเร็วอย่างร้อนใจ ซักพักประตูห้องก็เปิดออกเผยให้เห็นใบหน้าที่ผมเกลียดชัง ไอ้ออทัมมองผมนิ่งและก็ไม่ได้เชิญผมเข้าไปในห้อง ซึ่งผมก็ไม่ได้อยากเข้าไปอยู่แล้ว

"ไอ้วินด์ล่ะ......." น้ำเสียงแหบแห้งขึ้นมาเสียดื้อๆ เมื่อมันส่ายหน้า

"มาถามจากกูทำไม มันจะไปไหนกูจะรู้มันเหรอ......" ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆและพยายามกล้ำกลืนก้อนสะอึกเอาไว้

"มันอยู่ในเหตุการณ์ตอนไอ้ซัมเมอร์โดนรถชนรึเปล่า........" คำตอบที่ได้มาคือความเงียบ......แสดงว่าใช่สินะ

มันคงเจ็บมาก........วินด์.......อย่าเพิ่งร้องไห้นะ

"แล้วมันมาโรงบาลด้วยไหม.........." เงียบอีกเช่นเคย

วินด์.......รอกูก่อนนะ ไม่รู้ทำไมหัวใจของผมถึงได้เจ็บปวดขึ้นทุกขณะ เหมือนกับว่า........มันเหมือนกับว่าจะสูญเสียสิ่งสำคัญไปยังไงยังงั้น

คงไม่ใช่............!!!!

"แล้วพวกมึงไล่มันไปรึเปล่า........ได้ไล่มันเหมือนหมูเหมือนหมารึเปล่า" ผมเค้นเสียงถามและคาดเดาไปต่างๆนาๆ ไม่รู้สิ.......ก็ครอบครัวนี้ทำให้ผมเห็น........เห็นความแล้งน้ำใจของพวกเค้ามาตลอด


กลัวเหลือเกินว่าสิ่งที่ผมคิดจะเป็นเรื่องจริง......



   และคำตอบที่ได้มาก็เหมือนเดิม ผมกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรงก่อนจะจ้องมันด้วยสายตาคาดโทษ

"พวกมึงมันใจดำ......อย่าหวังว่าชาตินี้จะได้เจอมันอีก......."

     ทิ้งคำพูดไว้แค่นั้นก่อนจะหยิบโทษศัพท์ขึ้นโทรหาแม่ของไอ้วินด์ เสียงรอสายผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ผมก็ไม่เลิกโทร เพียงไม่นานเสียงของคุณป้าก็ตอบกลับมา

"คุณป้าครับ!!ลมกลับบ้านรึยังครับ!!" ผมละล่ำละลักถามด้วยหัวใจเต้นระทึก

"กลับมาแล้ว ถามก็ไม่ยอมตอบซักคำ สงสัยจะไม่สบาย.....ตอนนี้ขึ้นห้องไปแล้วล่ะ ไอดินมีอะไรรึเปล่าจ๊ะ....."

"ปละ......เปล่าครับ"

   ผมไม่อยากจะตีตนไปก่อนไข้ ไอ้วินด์ถึงบ้านแล้ว.......มันถึงบ้านแล้วคงไม่เป็นไร.......ขออย่าได้เป็นอะไรเลย.......เรียกแท๊กซี่แล้วบอกทางเสร็จสับ ปากก็พร่ำบอกคนขับให้เหยียบให้มิด เพียงเวลาไม่กี่สิบนาทีก็มาถึง ผมรีบวิ่งเข้าไปในตัวบ้านและตรงไปยังห้องนอนของไอ้วินด์ทันที

ก๊อกๆๆๆๆๆ

"วินด์!!!วินด์!!!!เปิดประตูที กูเอง!!กูไอดินเอง!!เปิดประตูหน่อย!!!"



    ไม่มีเสียงตอบรับ คุณป้าที่ตกอกตกใจรีบวิ่งขึ้นมาดูด้วยคน ผมตัดสินใจดันประตูแต่ประตูก็ไม่เปิด ซักพักคุณป้าที่วิ่งลงไปเอากุญแจสำรองก็กลับมา........ ผมรีบไขกุญแจอย่างสั่นๆ พอประตูเปิดออกเผยให้เห็นสภาพภายในห้องที่ปกติดี แต่ไอ้วินด์ไม่อยู่


     ผมวิ่งตรงไปในห้องน้ำเพราะได้ยินเสียงน้ำไหล ก่อนจะผลักประตูเข้าไปเพราะมันไม่ได้ล๊อกเอาไว้.........ภาพที่ผมเห็นทำเอาผมแทบทรุด


หัวใจเหมือนจะแหลกสลายลงให้ได้........


     วินเทอร์นอนในอ่างอาบน้ำที่เต็มไปด้วยของเหลวสีแดงสด ใบหน้าของมันซีดเซียวและดวงตาหลับพริ้มอย่างสงบ
 
"ลมลูกแม่!!!!"

     คุณป้ากรีดร้องก่อนจะเป็นลมล้มลงโดยมีแม่บ้านช่วยพยุงเอาไว้ ผมรีบวิ่งเข้าไปอุ้มร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดเอาไว้ในอ้อมแขน และสาบานกับตัวเองว่าหากมันเป็นอะไรไป ผมจะไม่ยอมให้อภัยตัวเองเลย


      ตลอดทางบนรถผมกุมมือเรียวเล็กที่เย็นเฉียบเอาไว้แน่น ลมหายใจแผ่วเบาที่ขาดเป็นห้วงๆทำให้หัวใจของผมยิ่งรวดร้าว ป้าพิณแม่ของไอ้วินที่นั่งมาด้วยได้แต่ร้องไห้ปริ่มขาดใจและกอดมันไว้แน่น  เช่นเดียวกับผมที่ร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด


"อย่าเป็นอะไรไปนะลูกแม่......."




*****

   

nanohuman

  • บุคคลทั่วไป
                                                              เสียงกระซิบจากลมหนาว 25








     ในที่สุดก็มาถึงโรงพยาบาลเสียที เวลาในรถมันช่างเชื่องช้าเหลือเกินในความรู้สึก ผมอุ้มร่างเล็กลงจากรถก่อนจะวางบนเตียงที่บุรุษพยาบาลเข็นมารออยู่แล้ว ผมรู้สึกเหมือนว่า.......มันห่างผมไปทุกที......ทุกที........ทั้งๆที่ผมยังกุมมือมันไว้มั่นตลอดทางไปห้องฉุกเฉิน


ประตูบานนั้นปิดลงพร้อมๆกับร่างของมันที่หายวับไป เบื้องหลังประตูบานนั้นจะเป็นยังไงกันนะ......มีเพียงพระเจ้าที่ล่วงรู้คำตอบ


    แต่พระเจ้าครับ.......หากแลกได้....หากแลกชีวิตกับมันได้.......พระเจ้าเอาชีวิตผมไปแทนเถอะครับ.........ขออย่าให้มันเป็นอะไรไปเลย



ผมคงอยู่ไม่ได้หากต้องเสียมันไปอีกคน......



     ทุกครั้งที่ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก เหมือนกับว่าความหวังจะก่อขึ้นแต่แล้วก็หลุดร่วงไป เป็นอย่างนี้เรื่อยๆจนกระทั่งมีคุณหมอร่างท้วมในชุดสีเขียวเดินออกมา

"ไม่ทราบว่าใครเป็นญาติของคนไข้ครับ คนไข้เสียเลือดมากแล้วเลือดของทางโรงพยาบาลเราไม่เพียงพอครับ ไม่ทราบว่าใครมีเลือดกรุ๊ปโอเนกาทีฟบ้างครับ"

"ฉันเป็นแม่เค้าค่ะ.......ฉันเลือดกรุ๊ปเอบี ไม่ทราบว่าใช้ได้ไหมคะหมอ......" คุณป้าเขย่าตัวหมออย่างมีความหวัง

"ขอโทษด้วยนะครับ คือเราต้องให้เลือดโอเนกาทีฟกับคนไข้เท่านั้นครับ"

"แล้วถ้าเลือดกรุ๊ปโอเฉยๆล่ะครับคุณหมอ" ผมถามออกไปทั้งๆที่ก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว......แต่ว่า......แต่ว่าอาจเป็นไปได้ก็ได้นี่.......


ตราบที่มีลมหายใจ เราก็ไม่ควรหมดหวัง


"ขอโทษนะครับ เดี๋ยวทางโรงพยาบาลจะประกาศรับบริจาคครับ แต่ว่า......คงมีเวลาไม่มาก......"


   คำพูดของคุณหมอทำให้ทั้งผมและคุณป้าอึ้ง ไม่จริง!!!มันต้องไม่เป็นอะไร!!สายลมอันอ่อนโยนของผมต้องไม่เป็นอะไร!!!


ใช่แล้ว!!! ครอบครัวนั้น!!! พ่อแม่และพี่ๆของมันต้องมีซักคนที่กรุ๊ปเลือดตรงกัน!!!


"คุณป้าครับ......ลมต้องรอดครับ!!มันต้องไม่เป็นอะไร มันหนังเหนียวจะตาย......" ดวงตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังของผมทำให้คุณป้ายิ้มบางๆอย่างอ่อนแรง

"ลมน่ะ......ความจริงแล้วเค้าอาจต้องจากป้าไปตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะ......"

"............" ผมได้แต่เงียบฟัง

"ป้ารู้นะ ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาน่ะ เค้าต้องเจ็บปวดขนาดไหนกับเรื่องต่างๆ เขาเปราะบางเกินไป บางครั้งป้าก็คิดว่า........."

"ไม่นะครับป้า!! เราต้องไม่หมดหวัง มันต้องรอด วินมันต้องไม่เป็นอะไร!! ผมจะไปขอร้องครอบครัวนั้น!!" คุณป้านิ่งไป

"คุณป้าจำพี่ชายฝาแฝดของลมได้มั้ย ตอนนี้มันรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ ผมจะไปขอร้องพวกนั้น!!" และก็เป็นอีกเช่นเคยที่คุณป้าเงียบไป


ผมไม่รอฟังคำตอบอะไรจากท่านอีกแล้ว วินต้องรอด.....มันต้องไม่เป็นอะไร!!!


ก๊อกๆๆๆๆๆๆ

    เป็นอีกครั้งที่ผมรัวประตูห้องนี้ ซักพักคนที่เดินมาเปิดประตูคือคนเดิม คนที่แล้งน้ำใจที่สุดและทำให้ไอ้วินของผมเจ็บปวดที่สุด!!!

"มีอะไรอีก"

"มึงเลือดกรุ๊ปอะไร!!" มันทำหน้างงก่อนจะมองผมด้วยสายตาสงสัย แต่ผมไม่มีเวลาแล้ว.....คนที่ผมรักมากที่สุดกำลังจะจากไป ผม........ผมยอมละทิ้งทุกสิ่งแม้ศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อคนที่ผมรัก!!

"มึงจะมาไม้ไหนเนี่ย! น้องกูต้องการพักผ่อน"

"ถ้ากูบอกว่าน้องมึงกำลังจะตายล่ะ!!น้องมึงกำลังจะตายได้ยินไหม!!"

"มึงพูดเหี้ยอะไรของมึงเนี่ยไอ้เหี้ย!! อยู่ๆมาแช่งน้องกูเพื่ออะไร!!" ไอ้ออทัมขยุ่มคอเสื้อของผมไว้แน่น พ่อกับแม่ของมันวิ่งออกมาดูเหตุการณ์อย่างตกใจ

"เพราะพวกมึงทุกคน!!!เพราะพวกมึงนั่นแหละ!!!!ไอ้วินถึงกำลังจะตาย!!!!ได้ยินไหม!!!!"

".......อะ........อะไรนะ" ไอ้ออทัมถามเสียงสั่น ผมปาดน้ำตาก่อนจะจ้องมันอย่างเครียดแค้น

"เพราะมันมีพ่อแม่และพี่เลวๆอย่างพวกมึงนั่นแหละ.......พวกมึงไล่มันไปตาย!!!!"

     จากที่คิดจะมาขอร้องและคุกเข่าอ้อนวอน มาตอนนี้มันกลับตลาปัตรไปหมด ความแค้นที่มันฝังลึกในใจของผมระเบิดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ มันมาจนสุดทางแล้ว

"มะ......หมาย......หมายความว่า......ยังไง เธออย่ามาพูดมั่วๆนะ" หึ น่าสมเพชจริงๆ ตกใจอะไรกันคุณป้า หรือว่าคุณมีลูกแค่สองคนจริงๆล่ะ


"ผมไม่ได้มั่ว!!คุณก็ลองคิดดูดีๆสิว่าคุณมีลูกกี่คน!!!"

    ไม่มีคำตอบรับหรือปฏิเสธใดๆทั้งสิ้น ผู้ใหญ่ทั้งสองคนนิ่งเงียบและไม่ไหวติงไปไหน เหมือนกำลังจอมจมอยู่ในวังวนแห่งอดีต และห้วงความคิดที่ผมก็ไม่อาจจะหยั่งถึง

"มึงหมายความว่าไงไอ้ไอดิน!!มึงต้องการอะไรกันแน่ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!!"

   อะไรจะโง่ขนาดนั้น ทีอย่างอื่นน่ะฉลาดจัง พอมาเวลานี้มึงกลับโง่เง่ามองไม่เห็นความจริงที่ผมพยายามจะสื่อออกมา

"เขา......ละ.....ลูก.......ลูกของฉันอยู่ไหน........"
 
      เสียงสั่นๆกับใบหน้าซีดเซียวบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าอีกฝ่ายพอจะประติดประต่อเรื่องได้แล้ว ร่างกายของหญิงสูงวัยสั่นเทิ้มไปด้วยความหวาดกลัวหรืออะไรก็แล้วแต่เท่าที่คนๆนึงจะแสดงอาการออกมาได้ คนเป็นสามีเองก็หน้าซีดเผือดลงเช่นกัน แต่ก็ยังพอมีสติอยู่บ้าง

"เค้า.......เค้า.......ฮึก........"

     ผมกัดริมฝีปากตัวเองจนเป็นเส้นตรง มาเสียใจอะไรตอนนี้ เมื่อก่อนไม่เคยเห็นจะดีกับมันเลย ไม่มีแม้เยื่อใยบางๆที่คนเป็นแม่เป็นลูกควรจะมีให้กัน อะไรกันที่ขวางกั้นเส้นใยนั้นเอาไว้  ผมไม่รู้และไม่ได้อยากจะรู้เรื่องนั้น แต่อยากจะรู้จริงๆว่าทำไมกัน......ทำคุณถึงทอดทิ้งมันได้ ทอดทิ้งมันไปได้ถึงสองครั้ง

ทั้งอดีต และตอนนี้.......

"ผม........ป้าผิณบอกว่า คุณทิ้งมัน คุณยกมันให้ป้าพิณจริงรึเปล่า........" ปากพูดไปทั้งๆที่ความจริงก็รู้กันอยู่ในใจ แต่ก็อดที่จะเจ็บแทนมันไม่ได้จริงๆ

แต่มันก็โง่เหลือเกิน.......ไม่เคยโกรธ ไม่เคยเกลียด แต่กลับพยายามเข้าหา......ทั้งๆที่ครอบครัวนี้ตั้งแง่รังเกลียดมันขนาดนั้น

    คุณสูงวัยเม้มริมฝีปากแน่น ร่างนั้นสั่นเทิ้มยิ่งขึ้นกว่าเดิม ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจเมื่อได้ยินคำถามที่แทงใจดำๆที่เต้นตุบๆอยู่ในร่างตรงหน้านั้น เสียงสะอื้นปนเสียงพรึมพรำของครอบครัวนั้นไม่ได้ศิวิลัยกับผมแม้แต่น้อย


    ยังไงก็แล้วแต่.....คนพวกนี้ต้องไปช่วยไอ้วินด์ก่อน จากนั้นผมก็จะถีบหัวส่งให้คนพวกนี้ไปไกลๆจากชีวิตของไอ้วินด์จริงๆจังๆเสียที อาจจะดูเลว.....แต่ผมจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว


ไอ้วินด์มันต้องเสียใจแค่ไหนที่โดนคนพวกนี้ทำร้าย


ต่อจากนี้........ผมจะพามันโบยบินหนีความเจ็บปวดนี้เอง







     คนที่ให้เลือดคือไอ้ออทัมคนที่เป็นพี่ชายแท้ๆของมันเอง ดูเหมือนทุกคนจะไม่พูดไม่จากันแม้แต่น้อย มีเพียงความเงียบกับใบหน้าที่ฉายชัดว่ากังวลใจอย่างถึงที่สุดเท่านั้น เบื้องหลังประตูบานใหญ่ไม่รู้ว่ามันจะโดดเดี่ยวซักเพียงไหน หรือหนาวเพียงใด


แต่ขอให้รู้เอาไว้ว่าคนๆนี้รู้สึกไม่ต่างไปจากมึงเลย.......


"ทำไม.......ทำไมถึงไม่เคยบอกกัน......ฮึก.....ทำไม........" อยู่ๆคนที่สะอื้นฮักในอ้อมกอดของสามีก็ทะลุกลางป้องขึ้น ไม่ผมไม่สนใจคำถามนั้นแม้แต่น้อย สนใจก็แต่คำตอบที่ผมเคยถามคุณไปแต่ไม่ได้คำตอบนั่นแหละ

"............."

    มีเพียงความเงียบเป็นคำตอบ ผมที่รู้ความจริงข้อนี้ก็ไม่คิดจะตอบให้พวกเขากระจ่างหรอก คุณป้าเองก็คงไม่ต้องการจะพูดด้วยเพราะมันก็ดูเหมือนจะใจร้ายเกินไปหากจะบอกว่าที่ทำไปทั้งหมด เพียงเพราะไม่อยากให้ไอวินห่างอ้อมอกไป


     เพราะคุณป้ารักมันมากเกินไป มากจนทำทุกอย่างเพื่อที่จะรั้งมันเอาไว้ในอ้อมกอด รั้งมันเอาไว้ไม่ให้จากไปไหน จนลืม......ลืมความรู้สึกของมันไป


ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะความเห็นแก่ตัวของมนุษย์


เกิดขึ้นเพราะกลัวสูญเสีย กลัวจะต้องพลัดพรากจากคนที่ตนรัก


       ประตูบานนั้นถูกผลักออก พร้อมๆกับไอ้ออทัมที่ใบหน้าซีดเซียวมือของมันกำแน่น ก่อนจะมองมาทางผมด้วยสายตาที่อ่อนล้า ไม่สงสารหรอกนะ......กูไม่สงสารคนที่ทำร้ายคนที่กูรักอย่างมึงหรอก

".......นะ......น้องเป็นยังไงบ้างลูก......."

"............"

      มันไม่ตอบแต่กลับกำมือแน่น สายตาน่ากลัวถูกส่งไปยังแม่ของมันเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมองคนที่ให้กำเนิดมันอย่างนั้น ครอบครัวนี้เริ่มสั่นคลอนแล้วสินะ แต่ว่าถ้าไอวินมันรู้.....รู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุ มันจะเป็นยังไงนะ

"เขาไม่ใช่น้องผมใช่ไหม........แม่มีแค่ผมกับไอ้ซัมเมอร์ใช่ไหม!!"

    พายุอารมณ์โหมพัดหอบเอาความร้อนรุ่มเข้ามาในหัวใจ สภาพจิตใจของแต่ละคนตอนนี้แตกต่างกันไป กรุ่นโกรธกับความจริงที่ไม่เคยรู้ เสียใจกับการกระทำในอดีต และรู้สึกผิดจนไม่อาจให้อภัยตัวเอง

".............."

"ทำไมไม่ตอบผมล่ะแม่!!ไอ้ลมไม่ใช่น้องผมใช่ไหม!!"

"เขาเป็นน้องของลูก.......และ......เป็นแฝดคนละฝากับซัมเมอร์ ชื่อของเขา.......ชื่อของเขา.......ฮึก.......แม่ตั้งให้ว่า'วินเทอร์'"


".............."


"ฤดูหนาวที่แม่ชอบ" คนเป็นแม่หยุดพูดก่อนจะซบหน้าลงกับมืออีกครั้ง ต่อให้ร้องไห้จนขาดใจตายไปตอนนี้ มันก็ไม่เพียงพอที่จะต่อลมหายใจใครหรอก

".......แต่.......ผม.......โธ่โว้ยยยยยย"

    ไอ้ออทัมชกมือของตัวเองลงบนกำแพงแข็งแกร่งด้านหน้า มันชกรัวจนมือแตกเลือดซึมออกมา ผมไม่คิดจะห้ามหรอก คนอย่างมันแค่นี้ยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ


   น้อยเสียจนเทียบไม่ได้กับสิ่งที่มันเคยทำกับคนของผมเลยแม้แต่น้อย


"แม่บอกผมสิ!!!บอกผมว่ามันไม่จริง!!!! ผมไม่เชื่อ!!มันต้องไม่ใช่อย่างนี้สิวะ!!!!" เสียงโวยวายทำให้นางพยาบาลที่อยู่ใกล้ๆวิ่งมาแล้วรีบตักเตือนเสียยกใหญ่ว่าอย่าส่งเสียงดังรบกวนคนอื่นเขา จะบอกว่าสมน้ำหน้าก็คงจะใช่

เป็นไงล่ะ เข้าใจความรู้สึกของไอ้วินมันมั่งรึยัง

เข้าใจบ้างมั้ย!!

"มันคือเรื่องจริง!! ไอ้วินเป็นน้องของมึง น้องที่คลานตามกันมา น้องชายที่ตามหาพี่ชาย โหยหาความรักจากครอบครัวที่อบอุ่นในฝัน แต่อะไรล่ะ......อะไรที่มึงมอบให้มัน!!~" ผมทนฟังไม่ได้อีกต่อไป ไอ้ออทัมปราดเข้ามาดึงคอเสื้อผมไว้ ก่อนจะชกเปรี้ยงเข้าให้จนผมลงไปกองกับพื้น

"มึงอย่ามาโกหก!!เพราะมึงอิจฉากู มึงอิจฉาที่ไอ้ลมมันรักกูใช่ไหม!"

"กูไม่เคยอิจฉามึง แต่กูสมเพชและเวทนา ที่คนอย่างมึงไม่เคยรู้ความจริง!!"
 
    ไอ้ออทัมทำท่าจะปราดเข้ามาชกผมอีกครั้ง แต่ก็ถูกพ่อมันเอ่ยปากห้ามไว้เสียก่อน ดูเหมือนคนดื้ออย่างมันจะไม่หยุดตามคำสั่ง มันเรียกผมให้ตามออกไปข้างนอก แม้ว่าใจจริงจะอยากรออยู่หน้าประตูนี้ไม่ไปไหน แต่ก็จำยอมตามมันออกไปเพราะอยากจะยุติปัญหาสัปรังเคพวกนี้ให้จบๆเสียทีเหมือนกัน






"ไอ้ลมเคยมีอะไรกับกู เพราะฉะนั้นกูกับมันคงไม่ใช่พี่น้องกัน"

"มึงจะบอกว่าถ้าพวกมึงเป็นพี่น้องกันจริงๆ สวรรค์จะดลใจไม่ให้มึงทำอะไรว่างั้น......." ผมถึงกับประชดออกไปกับความคิดงี่เง่าของมัน มันถูกที่มันเคยบังคับไอ้วิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นเพราะว่ามันไม่รู้ ส่วนไอ้วินมันคงสู้ไม่ได้ หรือไม่มันก็ยอมทำทุกอย่างเพียงเพื่อความรักของพี่ชาย.....

".............."

"หากมึงยังไม่ลืม มึงคงจะคิดได้ว่ามันเคยบอกอะไรมึงไปบ้าง เพียงแค่มึงจะเห็น.......เห็นสายตาของมันที่มองไปยังพวกมึงอย่างชื่นชมและภาคภูมิใจ"

"..............."

"กูยอมรับว่ากูเกลียดพวกมึงและต่อแต่นี้คงไม่ยอมให้มันเข้าใกล้พวกมึงอีก แล้วกูก็ขอร้องพวกมึงว่าต่อแต่นี้ไอ้วินเทอร์ได้ตายไปแล้วจริงๆ เหลือเพียงไอ้ลม ไอ้สายลมที่อ่อนโยนของพวกกูเท่านั้น"

      มันหลับตาลงอย่างอ่อนล้า ผมเดินออกมาทิ้งมันไว้เบื้องหลัง ใจจริงอยากจะฆ่ามันกับมือของตัวเอง แต่ว่าตอนนี้มันก็คงเจ็บปวดไม่ต่างจากตายทั้งเป็น.......กับความจริงที่ถูกเปิดเผย






หน้าห้องฉุกเฉิน


      ผมเดินกลับมายังห้องฉุกเฉินกพบว่าคุณป้ากับแม่ของไอ้วินทะเลาะกันอยู่ ด้วยเรื่องอะไรผมก็พอจะเดาออก.......

"ถ้าเธอไม่พาลูกฉันหนีไป เค้าก็ไม่ต้องเป็นแบบนี้!!"

"เธอก็กล้าพูดนะว่าฉันพาลูกเธอหนีไป อาจจะใช่ที่ว่าฉันพาเขาไป แต่เธอเองก็เต็มใจที่จะให้เค้าไปกับฉันไม่ใช่เหรอ!!"

"พิณ!!"

"ทำไมษร......ถ้าเธอไม่ยกเด็กคนนั้นให้ฉัน ป่านนี้เค้าคงไม่มีชีวิตอยู่มาให้พวกเธอทำร้ายได้ถึงขนาดนี้หรอก!! เด็กคนนั้นต้องฟันฝ่ามาเท่าไหร่เธอไม่รู้หรอก เพราะเธอน่ะ......ฮึก.....เธอคิดแต่ว่าถ้าเค้าป่วยขึ้นมาเมื่อไหร่ เธอก็กลัวแต่ว่าจะไม่มีปัญญารักษา......"

"............"

"เธอกลัวแต่ว่าเค้าจะตาย เธอไม่รู้เลยรึไงว่าสิ่งที่เค้าต้องการมากที่สุดไม่ใช่มีชีวิตอยู่ แต่เด็กคนนั้นต้องการแค่ความรักและอ้อมกอดของแม่......มืออุ่นๆที่จับเอาไว้ยามที่ไม่สบาย"


    คุณป้าพูดถูก แม้ยามที่มีอุปสรรคขวากหนามย่างกลายเข้ามาในชีวิต ขอเพียงแค่มืออุ่นๆกับรอยยิ้มอบอุ่นช่วยกันประคับประคองให้ผ่านพ้น เพียงแค่นั้น.....แค่นั้นแหละ ที่ต้องการ


"เธอให้เค้าได้ไหม เธอมอบเค้าให้กับฉันยามที่เธอลำบาก แต่พอเธอกลับมาร่ำรวยอีกครั้ง เธอก็จะมาขอเค้าคืนอย่างนั้นเหรอ เธอไม่คิดว่าฉันจะรักเค้า จะผูกพันกับเค้า เธอไม่คิดถึงจิตใจของลูกเธอบ้างรึไง!!!"

"..........."ป้าษรได้แต่เงียบ

"ต่อไปนี้......ให้เรื่องมันจบเพียงเท่านี้ ส่วนเรื่องของเด็กคนนั้น ให้เจ้าตัวตัดสินเอาเองว่าจะเอายังไงต่อไป"


     มีเพียงความเงียบที่คลืบคลานเข้ามาอีกครั้ง ใบหน้าของแต่ละคนอิดโรยไม่ต่างกัน ภายในห้องที่แสนโดดเดี่ยวอ้างว้างนั้น เขาคนนั้น.......จะเป็นยังไงบ้างนะ




****
ฮึก จะ.....จะจบแล้ว เย้  :o12:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: เสียงกระซิบจากลมหนาว ตอนที่ 25
« ตอบ #109 เมื่อ: 25-05-2010 18:19:31 »





nanohuman

  • บุคคลทั่วไป
                                                                      เสียงกระซิบจากลมหนาว 26








แปะ.........แปะ........


      เสียงน้ำหยดกระทบกับอะไรซักอย่างเรียกให้เปลือกตาของผมเปิดออก ค่อยๆพยุงร่างของตัวเองขึ้นก่อนจะมองไปรอบๆตัวอย่างสังสัย


นี่ผมตายแล้วเหรอ?


    แล้วนี่สวรรค์หรือนรกกัน มีแต่ป่าไม้สีเขียวชอุ่มเต็มไปหมด หมอกสีขาวขุ่นปกคลุมไปทั่วทำให้อากาศโดยรอบเย็นแต่กลับทำให้ผมรู้สึกดีอย่างประหลาด กระต่ายป่าสีน้ำตาลตัวอ้วนวิ่งมาทางผม ทำให้ผมรีบวิ่งตามมัน ท่ามกลางป่าที่เงียบสงัดแต่ผมกลับไม่รู้สึกเหงาเลย ลืมไปหมดสิ้นกับเรื่องที่ผ่านมา รู้เพียงแต่อิ่มเอมกับสถานที่แห่งนี้


   เจ้ากระต่ายซุกซนวิ่งไปเรื่อยๆราวกับกำลังเล่นไล่จับกับผมยังไงยังงั้น สถานที่แห่งนี้.......ทำให้ผมได้พบกับความสุขอย่างแท้จริง ความสุขที่เกิดขึ้นในใจ ความสุขที่ผมไม่ต้องวิ่งตามมันอีกต่อไป


อยากอยู่ที่นี่ตลอดไปจัง


   วิ่งลัดเลาะไปเรื่อยๆผมก็พบว่าเบื้องหน้านั้นคือขุนเขากว้างใหญ่ มีสะพานที่พาดไปอีกฟากฝั่งทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา ทางขึ้นสะพานมีใครคนหนึ่งยืนรอผมอยู่ ใครคนนั้นสวมใส่ชุดสีขาวสดใส ใบหน้าอิ่มเอมไปด้วยความสุข

"มาส่งเราเหรอ"

     ผมงงกับคำตอบ แต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเห็นดวงหน้าคุ้นเคยนั้นชัดๆ

"ฟ้า!!!ฟ้าจริงๆด้วย!!"

   เธอคือนางฟ้าที่อยู่ในใจผมเสมอมา และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ผมวิ่งเข้าไปกอดร่างบางนั้นเอาไว้อย่างโหยหา นานเท่าไหร่แล้วนะ......นานเท่าไหร่ที่ผมไม่ได้กอดเธอเอาไว้ในอ้อมกอดของตัวเองแบบนี้

"คิดถึงฟ้าจังเลย"

"ฟ้าก็คิดถึง มาส่งฟ้าจนได้นะ"

    ผมงงกับสิ่งที่เธอพูด ฟ้าต้องการจะสื่ออะไรกับผมกันแน่ ไม่เข้าใจจริงๆ ฟ้ายังคงเป็นฟ้า ท้องฟ้าที่มักส่งยิ้มให้ผมเสมอๆ

"ฟ้าพูดอะไรน่ะ เราไม่เห็นเข้าใจ" เธอส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ พร้อมๆกับเดินเข้ามาจับแก้มผมเอาไว้ ร่างที่เตี้ยกว่าผมนิดหน่อยเขย่งปลายเท้าขึ้นก่อนจะประทับริมฝีปากลงแผ่วเบา

     เหมือนเวลาหยุดหมุนลงไปชั่วขณะ ผมตอบรับจูบที่แทบจะทำเอาผมล่องลอยนั้นอย่างอ่อนหวานไปแพ้กัน เป็นจูบที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาแต่มันกลับรู้สึกถึงความขมขื่นไม่น้อยไปกว่ากัน


เหมือนมันจะเป็นจูบลา


ไม่จริงหรอก.......ผมตามมาอยู่กับฟ้าแล้วไง จะหนีกันไปไหนอีก


"ไม่ได้จะหนี แต่ต้องไปแล้วจริงๆ" ผมกอดร่างเล็กๆนั้นเอาไว้อย่างไม่ยอมปล่อย ไม่อยากจะปล่อยมือเธอครั้งที่สอง มันเหมือน......เหมือนต่อจากนี้จะไม่มีวันได้จับมือนุ่มนิ่มนี้อีกแล้ว

"ไม่เอาน่า โตแล้วนะยังทำตัวเป็นเด็กไปได้"

"ไม่ได้เป็นเด็กซะหน่อย" ผมพูดอย่างอนๆ

"คงมีแต่ฟ้าคนเดียวสินะที่ได้เห็นเวลาที่คุณสุดหล่อคนนี้งอน" ก็อาจจะใช่ ก็เธอเป็นแฟนผมนี่ครับ มันก็ต้องมีบางครั้งที่ผมจะงอลหรืออ้อนเธอบ้าง ซึ่งมีแต่เธอเท่านั้นที่ได้เห็นผมในส่วนนี้

"เอาล่ะๆ ต้องไปจริงๆแล้ว ต่อไปนี้มีความสุขให้มากๆนะ"

".........."

"ความสุขกับความทุกข์น่ะ แท้จริงแล้วคือด้านกลับของกันกัน มันก็เหมือนกลับเหรียญนั่นแหละ ที่พอเราพลิกมันแล้วก็จะเป็นอีกหน้านึงที่แตกต่าง"

"หาเหรียญอีกด้านให้เจอนะ"

    ร่างของฟ้าค่อยๆห่างผมออกไปเรื่อยๆพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขที่ประดับบนใบหน้าของเธอไม่เสื่อมคลาย

'ลาก่อน'

    การบอกลาครั้งนี้ไม่มีน้ำตา แต่ก็จะบอกว่าไม่มีความเสียใจเลยก็เป็นไปไม่ได้ การที่พบกันครั้งที่สองแล้วต้องพรากจากกันอีกครั้ง มันทรมาณมากๆเลยล่ะครับ แต่ว่าเธอกำลังมีความสุข ผมก็ดีใจแม้ว่าความดีใจนั้นจะมีรสฝืดเฟื่อนอยู่มากก็ตาม









"..............."

     
        ผมกระพริบตาปริบๆสู้กับแสงที่ส่องลอดบานหน้าต่างเข้ามา ทันทีที่สมองเริ่มประมวลผมความรู้สึกเจ็บแปร๊บที่ข้อมือก็แล่นเข้ามาเล่นงานทันที มืออีกข้างก็รู้สึกเหมือนมีอะไรทับไว้จนมันชาไปหมด ในห้องสีขาวสะอาดคาดว่าน่าจะเป็นโรงพยาบาลทำให้ผมเข้าใจได้ทันทีว่าผมยังคงมีชีวิตอยู่

"ลม......ฟื้นแล้วเหรอ"

        ไอดินเงยหน้าจากที่ฟุบเอ่ยเสียงตื่นเต้น เขาจับมือข้างที่ชาดิกของผมไว้แน่นก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าต้องรีบไปเรียกหมอมาดูอาการ จึงหุนหันพลันแล่นออกไปทันที

แอดดด

     บานประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงคุ้นตาก้าวเข้ามา นัยส์ตาที่มักจะมองผมต้อยต่ำตอนนี้ฉายชัดว่ากำลังเหนื่อยล้าเพียงไหน


"เป็นยังไงบ้าง"


"............"

      เขาคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ข้างเตียง มือหนาเอื้อมมาจับข้อมือที่พันด้วยผ้าสีขาวขึ้นมาอย่างแผ่วเบาหากแต่ผมสะบัดออกด้วยความตกใจ

"เจ็บเหรอ.......พี่ขอโทษ"

"............"

    ไม่มีแม้เสียงใดเล็ดลอดออกจากริมฝีปากผม ได้แต่มองเขาอยู่อย่างนั้นด้วยแววตา ท่าทาง เหมือนคนห่างเหินกัน ไม่อยากจะเจ็บอีกแล้ว แค่นี้......แค่ที่ผ่านมาหัวใจของผมก็ปวดร้าวเจียนตายแล้ว ไม่อยากจะตกนรกไปมากกว่านี้ ไม่อยากจะทำให้ทุกคนต้องเจ็บปวดกับการกระทำของผมอีก


ไม่อยากให้แม่ต้องเสียใจ


ไม่อยากให้ไอดินต้องทุกทรมาณ


และไม่อยากเสียรอยยิ้มของท้องฟ้าไป


   ต่อไปนี้ผมคือลม ลมลูกรักของแม่ ลมสายลมที่จะมีแต่ความอบอุ่น ไม่ใช่ฤดูหนาวที่แสนอ้างว้างอีกต่อไป พอแล้วสำหรับความดันทุรังและดื้อรั้น พอเสียที


"วินด์ มองหน้าพี่หน่อยสิ อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนอย่างนี้ได้ไหม......วินด์"

      น้ำเสียงเว้าวอนนั้นทำให้ใจของผมสั่นไหวอย่างห้ามไม่อยู่ แต่เมื่อผมหันหลังให้ทุกสิ่งแล้ว......ได้โปรดเคารพการตัดสินใจของผมด้วย


"............"

"พูดกับพี่ซักคำสิ"

      ไม่มีแม้เสียงตอบรับหรือปฏิกิริยาตอบสนองเขาแม้แต่น้อย น้องชายของเขาได้แต่หันหลังให้และเหม่อมองท้องฟ้าราวกับกำลังพูดคุยกับใครซักคนบนนั้นอยู่อย่างนั้น ออทัมกำมือแน่นอย่างสะกัดกั้นอารมณ์ไว้ และสั่งห้ามน้ำตาลูกผู้ชายของตัวเองเอาไว้ ไม่ให้มันไหลออกมามากกว่านี้

"อย่าทำเหมือนไม่รู้จักกัน อย่าทำอย่างนั้นได้ไหม ยกโทษให้พี่ได้ไหม"


"มาขอกันง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ ไม่ง่ายไปหน่อยไหม"

     เสียงของผู้มาใหม่ทำให้ออทัมหันไปมอง โดยไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร ไอดินเดินเข้ามาพร้อมกับคุณหมอเจ้าของไข้ของคนเป็นน้อง คุณหมอเดินตรงไปตรวจอาการก็พบว่าไม่มีอะไรมากแล้ว นอกเสียจากอาการที่เหม่อลอยและไม่ยอมพูดยอมจา ซึ่งนั่นคงต้องปรึกษาจิตแพทย์อีกทีเกี่ยวกับภาวะจิตใจของคนไข้

"ออกไปให้พ้นหน้าพวกกูซะ ไอ้ลมมันไม่อยากเห็นหน้าพวกมึงหรอก"

     การที่อีกฝ่ายเรียกชื่อน้องชายแบบนั้น ทำให้ออทัมกรุ่มโกรธเป็นอย่างมาก น้องเขาชื่อวินเทอร์ วินเทอร์ที่พ่อกับแม่ตั้งให้คล้องจองกับชื่อออทัมและซัมเมอร์

"น้องกูชื่อวินเทอร์!!"

   ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มเหยียดๆก่อนจะจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างสมเพช ค่อยๆย่างเข้าไปหาร่างเล็กบนเตียงแล้วดึงมากอดโชว์ให้อีกฝ่ายเห็น

"มันชื่อลม ลมที่เป็นเพื่อนกูมาตั้งแต่เด็ก ลมที่มีรอยยิ้มเสมอๆ ลมที่เป็นที่รักของพวกกู มึงคงเข้าใจผิดอะไรแล้วล่ะ เพราะคนที่พวกมึงได้ตามหามันได้ตายไปแล้วตั้งแต่พวกมึงสั่งมันไปตายไงล่ะ!!!"

"............." ไม่มีแม้คำแก้ตัว


"ให้แล้วต่อกันไปเถอะนะ เพื่อตัวมันเอง ให้มันได้เจอกับความสุขบ้าง......"


"วินด์ต้องอยู่กับพวกกูสิมันถึงจะมีความสุข"


"เอาอะไรมาคิดกัน ว่าถ้ามันอยู่กับพวกมึงแล้วมันจะมีความสุข มันชอบกินอะไรหรือแพ้อะไรพวกมึงรู้เหรอ แล้วคิดเหรอว่ามันจะอยู่กับพวกมึงได้สนิทใจ ก็ในเมื่อมึงเคยทำแบบนั้นกับมัน!!!" หมดแล้วซึ่งหนทางเมื่ออีกฝ่ายหยิบยกเรื่องความผิดที่ไม่มีวันลบล้างของตนขึ้นมา


"ถือว่ากูขอร้อง ต่อไปนี้........อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับมันอีกเลยนะ"


"งั้นขอครั้งสุดท้าย ให้พวกกูได้กอดมัน ได้ดูแลมันครั้งสุดท้าย ได้ไหม" น้ำเสียงเว้าวอนสั่นสะท้าน


      หากเป็นไปได้ก็อยากจะดูแลอีกฝ่ายตลอดไป แต่หากรับมาดูแลแล้วใครกันเล่าที่จะเจ็บปวดที่สุดหากไม่ใช่คนตัวเล็กที่เค้าเคยทำร้ายอย่างไม่น่าให้อภัย แต่ขอแค่ครั้งนี้แค่ครั้งสุดท้าย ครั้งเดียวในชีวิต......ขอแค่ได้อยู่กันพร้อมหน้า ได้เป็นครอบครัวเดียวกัน แล้วจะปล่อยมือนี้......จะปล่อยให้ไปตามทางที่หัวใจของฝ่ายนั้นเลือกจะโบยบิน




"วินด์ลองทานนี่สิลูก"

      ไม่มีปฎิกิริยายจากคนตรงหน้า ทำให้ผู้เป็นมารดาหน้าเสียไป ได้แต่กล้ำกลืนความขมขื่นลงลำคอ ก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อนแล้วหันไปตักอาหารอีกอย่างให้อย่างไม่ท้อถอย

"นี่ก็อร่อยนะ ลองทานสิลูก"


"..........."

     


      สุดท้ายแล้วนี่หรือคือสิ่งที่ต้องการมาตลอด นี่หรือคือผลตอบแทนที่มันคุ้มค่ากับการรอคอย ทำไมมันถึงได้ว่างเปล่าขนาดนี้นะ


ไม่เลย.........ไม่ใช่อย่างนี้


เพียงแค่นี้ก็จงพรึงรับรู้ได้แล้วว่าสิ่งที่ต้องการมาตลอด สุดท้ายก็ไม่มีค่าอะไรเลย


ไม่มีอะไรที่จะเติมเต็มหัวใจดวงนี้ได้


เมื่อในหัวใจนี้มีหลุมดำที่เป็นจุดเล็ก แต่แท้จริงแล้วกว้างใหญ่


จะหยุดมันได้ก็ต่อเมื่อรู้จักคำว่าเพียงพอ


     แต่มนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาเพราะกิเลสตัณหา ย่อมยากที่จะตัดความโลภออกไปจากใจ เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วมันกลับต้องการมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น ไม่มีที่สิ้นสุด


เหมือนท้องฟ้าที่ยิ่งใหญ่  ที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจตามหาสุดขอบฟ้าเจอ


     หัวใจที่แม้จะเต้นตุบๆด้วยความยินดีปรีดาหรือความเศร้าหมอง สุดท้ายเมื่อมันหยุดเต้นลงความรู้สึกทั้งมวลก็จะจางหาย พร้อมๆกับการเวลาที่หมุนไปอย่างไม่ย้อนกลับ

**********

    เหรียญอีกด้านที่ตามหาอยู่นั้น แท้จริงแล้วมันอยู่ตรงไหนกัน กับการที่ต้องวิ่งตามหาความรักจนเหนื่อยล้า และทุ่มเทให้ไปเท่าไหร่ แต่สุดท้ายแล้วสิ่งตอบแทนกลับไม่เติมเต็มหัวใจดวงนี้ได้เลย สิ่งที่ขาดหายไป......สิ่งที่ทำให้ใจตัวนี้มันกลวงโบ๋......




ก้มลงดูรอยแผลเป็นที่นูนออกมาตอกย้ำการกระทำที่แสนงี่เง่าของตน....แล้วเกิดคำถามขึ้นภายในใจ



กับการที่ไม่ได้รับความรักจากคนอื่น แล้วใยต้องทำร้ายตัวเองด้วย



วินาทีนั้นก็ได้ค้นพบความรักที่หายไปเสียที



ความรักที่คนๆนี้ขาดไปโดยตลอด



คือ......ความรักที่มอบให้กับตัวเอง





ยิ้มให้กับความงี่เง่าและวันเวลาที่แสนเหนื่อนล้า




วันนี้ได้ค้นพบเหรียญอีกด้านที่หายไปเสียที











จบบริบูรณ์






***
ข้างล่างที่ดอกจันทร์ไว้คือแต่งเพิ่มค่ะ มันจึงขัดกันนิดหน่อย แฮ่ๆ
แต่ว่าก็ยังอยากจะใส่ค่ะ
เพราะอยากให้รู้ว่าตัวละครในเรื่องนี้ขาดอะไรไป และกำลังตามหาอะไร
อาจจะงงๆ
ไว้วันหลังจะมาเพิ่มเติมให้ค่ะ
สวัสดี

Laxxeez

  • บุคคลทั่วไป
โห เศร้ากระชากอารมณ์ให้ดิ่งลงเหวยิ่งกว่าเก่า ไขว่คว้าตามหาความรักจากครอบครัวที่เป็นฝ่ายทอดทิ้งไป สุดท้ายสิ่งที่ได้กลับมาแค่........... :m15: :m15: วินเทอร์ :m15:

Phelyra

  • บุคคลทั่วไป
ชีวิตของลมน่าสงสารตั้งแต่บรรทัดแรกจนบรรทัดสุดท้ายเลยค่ะ :m15: :m15: ขอบคุณนะค่ะ Writer สำหรับเรื่องดี ๆ แสนเศร้าที่นำมาให้เค้าอ่าน :o12:

ping2226

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าอ่ะ เม้นไม่ถูก แต่บอกได้ว่าสงสารวินเทอร์ที่สุดเลย :o12:
ตามหาความรักมาตลอด สุดท้ายก็ตัวเองนี่แหล่ะคือความรักที่ตามหา...ชอบจังครับ

ขอบคุณ writer มากๆเลยน้า กับเรื่องที่ดีๆแต่เศร้ามากๆเรื่องนี้  :L2:

Safina_safe

  • บุคคลทั่วไป
พอจะมีตอนพิเศาบ้างไหม....ฮือ.....โคตรเศร้า :m15:


ดราม้าเรย....... :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
สุดท้ายก็ :z3:
วินด์รักตัวเองมากๆนะจ๊ะ อีกอย่างไอดินก็รักวินด์มากอยู่แล้ว
พี่ออทัมกลับใจตอนจบนะ ทั้งที่ผ่านมาน่า :beat: มาก
อยากอ่านตอนพิเศษอ่าค่ะ  :impress2:
ขอบคุณนะคะ ที่แต่งนิยายเศร้าๆให้อ่าน สงสารวินด์ของไอดินมากมาย :monkeysad:

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1756
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3

cipher

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้สงสารไอดินที่สุด :sad11:
ทำทุกอย่างเพื่อลม
แต่ลมคิดถึงแต่ตัวเอง
รู้สึกสมเพชลมมากกว่าน่ะ
ครอบครัวของออทัมก็สมควรที่จะโดนอย่างนี้
ปล.1 รอตอนพิเศษ อยากให้ไอดินมีความสุขอ่ะ o13
ปล.2 +1 ให้คนแต่ง

ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
จะรอตอนพิเศษครับ :pig4:

ครอบครัวนั้นกว่าจะรู้อะไรก็สายไปแล้ว

ลม โชคดีมากที่มีไอดินอยู่ข้างกาย :กอด1:

และหวังว่าตอนพิเศษจะเป็นไอดินกับสายลม :L2: :bye2:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด