มาแล้วค่ะ มาตามสัญญาของเดือนนี้เลย
ขอแบ่งแปะเป็นสองโพสนะคะ คนเขียนเวิ่นเว้อ หุหุ
เดี๋ยวแปะโพสแรก แล้วขอเกลาช่วงท้ายตอนอีกนิดจะมาแปะโพสสองค่ะ
(ท้ายตอนยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ แต่ไม่เกินชั่วโมงแน่นอน)
มาค่ะมาอ่านกันเล้ยยยยยยยยยยยย
.......................
เรื่องรัก..ไม่กล้าบอก ตอนพิเศษ
: การดื่มสุรา(ทำให้ความสามารถในการขับขี่ลดลง)
“พี่ฟ้าไม่รับสายอ้ะ.....”
“แล้วเอาไง จะไปป้ะ?”
“.....ไปสิ”
.......................................................
“พวกมึงมีใครยังไม่ครบยี่สิบปะวะ?” เสียงไอ้เพื่อนตัวประกอบที่เคยไร้ความหมายแต่วันนี้กำลังจะมีความหมายชื่อไอ้กล้วยถามขึ้นกลางวงปีสาม ในขณะที่แทบจะทั้งโต๊ะสิบกว่าคนกำลังนั่งหน้าเหนื่อยมองไปทางเวทีที่น้องเฟรชชี่กำลังทำการแสดงละครอะไรสักอย่างเพื่อให้พี่ๆเพลิดเพลินเจริญใจในงานเลี้ยงแสดงความขอบคุณรุ่นพี่ที่ดูแลปีหนึ่งมาเกือบจะครบปี
“ไม.....มึงจะชวนไอ้เด็กน้อยพวกนี้ไปด้วย?”
ยังไม่ทันมีใครตอบคำถามนั้น ก็มีอีกเสียงของไอ้เตย เพื่อนในกลุ่มแต่เรียนอยู่อีกสาขาแทรกขึ้นมาก่อน
“เออดิ แม่งคบกันมาสามปีไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันครบๆสักครั้ง งานแต๊งคส์พี่ปีนี้น้องมันจัดน่าเบื่ออ้ะ กูจะหลับแล้วเนี่ย”
“ไป!!” นั่นไง มันมาแล้วไอ้ตัวโวยวาย
“นุ่น!!” แล้วก็อย่างที่เดาๆกันได้ พ่อคุณทูนหัวของมันก็ส่งเสียงปราม ดุเหมือนจะกินหัวออกมาทันที“แหมๆๆไอ้นุ่น มึงอะตัวดี อายุครบยังเหอะ? ช่วงนี้แม่งตรวจบัตรกันยังก๊ะจะเอาโล่”
“ครบแล้ว ครบเมื่อเดือนก่อน โฮะๆๆๆๆๆๆๆ เออ.....มีไอ้อ่อนอ้ะ ต้องอีกสองเดือน”
“อ่อน......มึง.....” ไอ้เพื่อนเตยจัดการเอาขาหน้าเขี่ยๆพลิกๆที่หน้าเพื่อนอ่อนสองสามที “เออ มึงไปได้ หน้ามึงผ่าน.....ผ่านไปไกลแล้วด้วย”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ เออจริงๆ หน้าผ่านจริงอะไรจริง”
“เออๆ เดี๋ยวไอ้อ่อนจะยอมลดเวลานอนตื่นแต่เช้านอนหลังสามทุ่ม ทาเครื่องประทินผิว เอาให้แก้มใสเป็นแก้มก้นเด็กทารกเลย ไอ้พวกทำลายความมั่นใจเพื่อน”
ไอ้อ่อนผู้น่าสงสารตกเป็นเป้ากลั่นแกล้งของผองเพื่อนแจกค้อนไปรอบวงจนเริ่มเมื่อยคอ แล้วก็หันไปหาไอ้ตัวป่วนเพื่อนรัก ที่ชักจะสนิทกันมากขึ้นหลังจากอาจารย์จัดให้ไปฝึกงานคู่กันมาสองเดือนรวด
“แกแหละไอ้ป่วน ไปได้มั้ย ต้องโทรรายงานพี่ฟ้าก่อนป้ะ?”
“เออๆ ไอ้คนมีเจ้าของเป็นตัวเป็นตน ถ้าต้องรายงานมึงรีบโทรเลยไอ้ป่วน จะสี่ทุ่มแล้ว กว่าจะออกจากนี่ไปถึงทองหล่อ”
การตกลงมีแค่นั้น ก่อนที่ปีสามสิบกว่าคนที่จับกลุ่มกันอยู่มุมหนึ่งของห้องจัดเลี้ยงโถงใหญ่ไฟสลัวจะค่อยๆทยอยทำเป็นเดินออกไปห้องน้ำบ้าง คุยโทรศัพท์บ้าง จนออกไปเจอกันหน้าสถานที่จัดงานแล้วถึงแบ่งกลุ่มขึ้นรถเพื่อนคนโน้นคนนี้ไปเจอกันที่ร้าน
ไอ้สามตัวเพื่อนรักยัดตัวเองเข้าไปในยาริสสีแดงของไอ้เพื่อนกล้วยตัวชวนเที่ยว โดยตัวป่วนกับไอ้นุ่นนั่งเบียดกันอยู่ที่นั่งด้านหน้าข้างคนขับ ด้านหลังรถมีไอ้แผนที่เดินนิ่งๆตามหลังไอ้นุ่นกับไอ้ป่วนมาด้วยเหมือนกะจะไม่ให้คลาดสายตา กับเพื่อนผู้ชายในกลุ่มตัวโตๆอีกสองคนนั่งเบียดกันอยู่
“ไอ้ป่วน ตกลงโทรรายงานพ่อมึงเรียบร้อยยังวะ?” ดูปากไอ้เพื่อนกล้วย พี่อากาศแกเป็นแฟนเว้ย ไม่ใช่พ่อ
“พี่ฟ้าไม่รับสายอ้ะ.....”
“แล้วเอาไง จะไปป้ะ? ให้ไอ้กล้วยมันจอดให้ลงตรงนี้ยังทันนะเว้ย ใกล้บ้านแกด้วย” เสียงถามจากใครสักคนที่เบาะหลังดังขึ้นมา
“.....ไปสิ ไม่เป็นไรหรอก พี่ฟ้ารู้ว่ามางานแต๊งคส์พี่ ไอ้แผนกะไอ้นุ่นก็มาด้วย คงรู้ว่าจะกลับดึกแหละ ที่ไม่รับโทรศัพท์ก็อาจจะหลับไปแล้วก็ได้”“เอาให้แน่นะเว้ย ไม่ใช่พามึงไปเสียเด็ก พ่อมึงตามมาเอาเรื่องล่ะกูซวยแน่”
ไอ้คนขับรถพาเพื่อนมุ่งหน้าสู่ทองหล่อยังไม่วายไม่มั่นใจในสวัสดิภาพตัวเอง ก็เห็นมาตลอด รับรู้มาตลอด แฟนไอ้ป่วนมันเห็นยิ้มๆนิ่งๆท่าทางเป็นผู้ใหญ่ แต่มีเรอะคนไม่ขี้หวงจะตามติดแฟนตัวเองได้ขนาดนั้น
ยังจำได้ว่าช่วงปีแรกนั่นพี่แกเล่นโผล่มาให้เห็นหน้าแทบทุกวัน พอมาปีหลังนี่เองที่ข่าวว่าคุณแฟนของเพื่อนไปทำงานไกล แต่เห็นกลับมากรุงเทพทีไร ก็โผล่มาแสดงความเป็นเจ้าของไอ้เพื่อนตัวป่วนจนออกนอกหน้าได้ทุกที
คราวก่อนที่ไอ้เพื่อนอ่อนเอามาเม้าท์นินทาเพื่อนซะสนุกปาก จนเรียกเสียงฮากันถ้วนหน้าเรื่องที่แฟนไอ้ป่วนไปเปิดศึกกับพี่หมอทายาทเจ้าของโรงพยาบาลที่ไอ้ป่วนไปฝึกงานนั่นยิ่งตอกย้ำ ว่าไอ้เพื่อนตัวดีนี่มันเป็นยิ่งกว่าไข่ในหินของแฟนมันเสียอีก
“ป่วน แกอยากไปเพราะนุ่นมันอยากไปรึเปล่า? ถ้าไงชั้นเอาแกไปส่งบ้านก่อน แล้วถ้าไอ้ตัวดีนี่มันอยากจะไปเรียนรู้หาประสบการณ์ชีวิตนักเดี๋ยวชั้นพามันตามไปหาพวกไอ้กล้วยเอง”
ไอ้คุณแผนส่งคำถามมาจากเบาะหลัง พาดพิงไอ้ตัวดีของมันจนไอ้หนูป่วนถึงกับขำเสียงดังคับรถ เพราะไอ้คุณนุ่นตัวดีของไอ้เพื่อนแผนที่นั่งอยู่ด้วยกัน แอบทำปากขมุบขมิบตามพ่อมันเป็นจังหวะอย่างกับนักลิปซิงค์มืออาชีพ
“ฮ่าๆๆๆๆๆ อยากไป แผน ชั้นก็อยากไปหาความรู้เหมือนกัน ไม่งั้นน้อยหน้าไอ้นุ่นแย่สิ ไม่ดีหรอกเดี๋ยวมันมาเกทับ”
ไอ้หนูป่วนมันว่าอย่างนั้น แล้วก็แอบแท็คมือกับไอ้คุณนุ่นอย่างเงียบๆ หุหุหุ
ทิ้งให้ไอ้คุณแผนที่เบาะหลังต้องลอบผ่อนลมหายใจช้าๆ เพราะนึกรู้ตัวล่วงหน้าว่าคืนนี้คงต้องทำหน้าที่ผู้ปกครองของเด็กน้อยอยากรู้อยากเห็นถึงสองคนแบบไม่มีตัวช่วย ในใจนึกกบฏแช่งพี่อากาศที่มัวหลับลึกอยู่ที่ไหนไม่รู้เนื่องจากไม่ยอมรับโทรศัพท์ไอ้เพื่อนตัวเล็ก
ไม่อย่างนั้นมีหรือ ถ้าได้รู้ว่าคุณแฟนจะมาหาประสบการณ์ยามราตรี ขี้หวงอย่างนั้นจะไม่รี่ตามมา.......แสงไฟที่มีประสิทธิภาพแค่เพียงให้มองเห็นทุกอย่างได้แค่รูปเงา และเสียงเพลงกระหึ่มจากลำโพงของวงดนตรีสามชิ้นที่เล่นสดอยู่บนส่วนที่เป็นยกพื้นด้านในร้านที่เนืองแน่นไปด้วยคนวัยไม่ต่างกัน ทำให้ไอ้สี่ห้าตัวที่เพื่อนอีกเกือบสิบชีวิตเรียกว่าพวกเด็กน้อยพากันตื่นตาตื่นใจ....เอ่อ ยกเว้นไอ้คุณแผนไว้คนก็ได้ เพราะถึงเจ้าตัวจะติดอยู่กับไอ้หนูป่วนกับไอ้เพื่อนนุ่นมาตลอด แต่สถานที่และบรรยากาศแบบไหนก็ไม่ทำให้ไอ้มาดนิ่งๆมันหลุดไปได้สักที
ไอ้เพื่อนเตยไปทำยังไงไม่รู้ถึงจัดการหาโต๊ะมาตั้งในพื้นที่เกือบจะกลางร้านได้ เก้าอี้น่ะไม่มีเหลือแล้วก็จริง แต่ใครจะสนล่ะ ไอ้พวกหัวคิดพาเด็กน้อยออกสู่โลกกว้างสั่งทั้งเหล้าทั้งมิกเซอร์มาพร้อมสำหรับสิบสามชีวิต
กับไอ้ป่วนน่ะ พ่อแผนมันไม่กังวลนักหรอกเพราะรู้ว่าไม่ใช่จะเมาง่ายๆ แต่ไอ้นุ่นเนี่ยสิ ไม่เมามันก็บ้าอยู่แล้ว แถมเมาแล้วดีกรีความบ้ายังเพิ่มขึ้นอีกด้วย ครึ่งชั่วโมงแรกไอ้คุณพ่อที่ต้องดูแลลูกถึงสองคนมันเลยพะวงอยู่แต่กับไอ้ลูกสาว
ขัดใจกับสายตาคนอื่นที่มองมาทางโต๊ะกลุ่มมันไม่ได้ขาด ก็จะไม่ให้มองได้ไง งานเลี้ยงที่น้องจัดทุกปีจะกำหนดธีมงาน แล้วปีนี้ไม่รู้น้องมันอินกับกระแสเกาหลีหรือว่าสำนึกรักบ้านเกิด มันถึงกำหนดธีมมาให้ว่า Asian Spirit แล้วพี่ๆน้องๆที่มาร่วมงานก็ต้องให้เกียรติความคิดน้องเฟรชชี่ด้วยการแต่งตัวให้เข้ากับธีม
ผู้ชายน่ะ ไม่อะไรนักหรอก ส่วนใหญ่ก็เสื้อคอจีนแหละ ถูกหยิบมาใช้กันแทบจะเป็ยยูนิฟอร์มเข้างานสำหรับผู้ชาย จะมีบางคนสำนึกรักบ้านเกิดมันแรงมันก็ล่อม่อฮ่อมใส่กับยีนส์ให้ได้บรรยากาศลูกทุ่งชาวเหนือ
แต่กลุ่มเด็กกิจกรรมอย่างไอ้กล้วยไอ้ป่วนมันไม่เล่นง่ายแบบนั้น แต่กลับเล่นง่ายกว่า เพราะพวกมันนัดกันใส่ยีนส์กับเสื้อยืดขาวตราห่านคู่ ลอกลายคล้ายคลึงกับยันตร์แต่มั่วซั่วกว่าเยอะลงไปบนเสื้อเท่าที่อยากจะทำขลัง พอจะเข้างานก็เอาเศษผ้าที่เตรียมไว้มาม้วนๆพันๆแล้วรัดอยู่ที่ต้นแขน พอเดินเข้างานปุ๊บน้องๆได้แต่อึ้ง ทึ่ง กันถ้วนหน้าว่าพี่ๆของมันช่างกล้าลงทุน ถึงกับยอมเสียเสื้อตราห่านแสนสบายเลยทีเดียว
ส่วนไอ้พวกผู้หญิงก็สนุกสนานกันใหญ่ บางนางมันก็ล่อมาแบบกี่เพ้า บางนางก็แต่งอย่างกับหลุดมาจากเทศกาลฮานาบิ
ไอ้นุ่นตัวร้ายเล่นเอาน้องเฟรชชี่แทบอยากจะกลับไปคิดธีมใหม่ มันเล่นใส่ยีนส์เน่าๆตัวเก่งกับเสื้อแจ็คเก็ตที่ด้านหลังปักมังกรผงาดเอาไว้ทั้งตัว หน้าตาที่ปกติไม่เคยแต่งก็ให้ไอ้อ่อนช่วยละเลงก่อนเข้างานซะเต็มที่ ผมที่ยาวเคลียไหล่ถูกไอ้อ่อนจับรวบขึ้นเป็นหางม้าอยู่เกือบจะกลางกระหม่อม
มีแต่ไอ้แผนพ่อมันกับไอ้ตัวป่วนเพื่อนเลิฟเท่านั้นแหละที่รู้ว่าไอ้นุ่นมันมาทรงนี้เพราะมันงก มันว่าซื้อชุดใหม่เพื่องานนี้อย่างเดียวแล้วเสียดายตังค์ ขุดๆหาเสื้อผ้าในตู้มาใส่ดีกว่า ประหยัดดี
จนตอนมันเดินเข้างานน้องๆถามว่าพี่นุ่น นี่พี่แต่งตามธีมแล้วใช่ป้ะ? ไอ้นุ่นมันก็ชี้หน้าตัวเอง แล้วบอกน้องว่า หน้าอย่างงี้พวกแกว่าพี่มีเชื้อยุโรปหรือแอฟริกันมั้ยวะ? เนี่ยเอเชี่ยนแท้ๆ แล้วก็ชี้ที่เสื้อ บอกว่าพวกแกเห็นมังกรมั้ย? มังกรจีนนะเว้ย ไม่ใช่มังกรโคโมโด อย่างงี้ยังจะว่าไม่เอเชี่ยน สปิริต ได้ยังไง?
ไอ้สิบสามคนที่กองรวมกันเฮฮาเสียงดังไม่เกรงใจสายตาคนรอบข้าง เลยกลายเป็นเป้าความสนใจไปอย่างช่วยไม่ได้ตั้งแต่ผิดอิมเมจนักเที่ยวโผล่เข้ามาในร้าน
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปไอ้หนูป่วนที่รับแก้วจากไอ้คุณเพื่อนมือชงไม่ได้ขาดชักจะถวิลหาการปลดปล่อย ไม่ใช่อะไร น้ำในกระเพาะปัสสาวะชักจะเกินพิกัด พอมองซ้ายมองขวาจะเดินเอียงนิดๆไปห้องน้ำไอ้คนที่เป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่ชายก็ดึงมือเอาไว้
“ไปไหนไอ้ป่วน?”
“ไปห้องน้ำแป๊บๆ”
ไอ้หนูป่วนโบกไม้โบกมือ แต่สภาพเอียงๆนั่นไม่รอดพ้นสายตาคุณพ่อพาร์ทไทม์ไปได้ หันมาสั่งเสียลูกสาวที่โยกหัวพร้อมแหกปากร้องเพลงตามนักร้องบนเวทีอย่างไม่กลัวลูกคอสะเทือน
“นุ่น....แผนไปห้องน้ำเป็นเพื่อนป่วนมัน อยู่กับที่ อย่าไปซนที่ไหนนะ”
ไอ้คุณนุ่นมันทำแค่เงยหน้าแดงก่ำส่งยิ้มตาหยีมาให้ พร้อมกับพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะละความสนใจกลับไปโยกหัวโยกตัวตามจังหวะกลองต่อ
ไอ้แผนเดินคุมหลังลูกชายไปห้องน้ำ เห็นท่าเดินเซๆแล้วชักไม่ไว้ใจ สงสัยมัวแต่ปรามไอ้นุ่นมากเกินไปเลยไม่ได้ดูว่าไอ้ป่วนมันรับแอลกอฮอล์ลงท้องไปขนาดไหนแล้ว รอจนมันออกจากคอกมาล้างมือแล้วเอาน้ำก๊อกสาดใส่หน้าตัวเองแล้วสะบัดๆอีกสองสามทีไอ้หนูป่วนมันก็เงยหน้ามองผ่านกระจกมาส่งยิ้มแหยๆให้คุณเพื่อนที่เคารพ
“สงสัยจะเมา.........” น่านนนน มีการสงสัยว่าตัวเองจะเมาด้วยวุ้ย
“งั้นออกไปก็อย่ากินเยอะแล้วกัน ไอ้นุ่นคนเดียวก็ดูแลยากแล้ว แกห้ามเมานะเว้ย”
ไอ้คุณพ่อถือโอกาสสั่งสอนลูกชายซะตอนมันยังมีสติ
“อืมมมมมมมมมม รู้หรอกน่า”
พอเดินตามกันออกมาจากห้องน้ำ พ้นหลืบที่บังมุมแล้วมองไปทางโต๊ะที่ทิ้งลูกสาวไว้กับกลุ่มเพื่อนอีกสิบคนเท่านั้นแหละ ไอ้คุณแผนเกิดอาการหลุดมาดเบียดแทรกผู้คนตรงไปหาไอ้คุณนุ่นทันที ก็ไอ้สภาพเสื้อตัวนอกไม่อยู่ประจำที่ มีแต่สายเดี่ยวสีไข่ไก่สกรีนลายมังกรสีทองออกสเต็ปไส้เดือนกิ้งกือนัวเนียกับเพื่อนเตยอยู่เกือบชิดติดขอบเวทีนั่น
ก็รู้หรอกนะว่าผู้หญิงบ้านี่เมาแล้วยิ่งบ้า แต่เพิ่งจะรู้สึกก็คราวนี้แหละว่าความบ้ามันแพร่เชื้อได้ เพราะตอนนี้ไอ้พ่อแผนอยากจะเป็นจอมขมังเวทย์แบบท่านขุนแผนตัวจริงๆขึ้นมาทันที เผื่อจะใช้มนต์พวกกำบังกายงำไอ้ผู้หญิงที่เมื่อกี้ยังพยักหน้ารับคำจะไม่ไปซนที่ไหนอยู่ดีเอาไว้ จะได้ไม่ต้องมีสายตาใครมามองเห็น
ไอ้คุณแผนเข้าถึงตัวผู้หญิงบ้าจนลากมันกลับมาที่โต๊ะได้แล้วถึงนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้ทิ้งลูกชายอีกคนไว้ หันซ้ายหันขวาก็ต้องโล่งใจเพราะไอ้หนูป่วนมันเข้าประจำที่ริมโต๊ะเรียบร้อย ที่ทำให้ต้องอ้าปากค้างคงเป็นอาการกระดกแก้วเทของเหลวสีเข้มกว่าที่เคยลงคอแบบไม่มียั้งของมันนี่แหละ
“เฮ้ย ป่วน ไหนบอกว่าจะไม่เมาไง”
“.....................”
เงียบ ไอ้หนูป่วนมันทำแค่เงยหน้าขึ้นมาสบตาคุณเพื่อนหนึ่งแวบ พอให้ไอ้แผนมองเห็นแววตาที่แปลกไปของมัน ก่อนมันจะแย่งขวดแก้วบรรจุน้ำสีอำพันมาจากไอ้เพื่อนมือชงเสียเอง แล้วเทพรวดลงแก้วแบบไม่ต้องมีการชั่งตวงวัด
“สาดดดดดดดดดป่วน มึงไม่ผสมหน่อยวะ กินอย่างงี้เปลืองนะมึง เห็นแก่พวกกูบ้างเฮอะ”
เสียงประนามผนวกวิงวอนจากปากไอ้เพื่อนกล้วยไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ไอ้หนูป่วนมันไม่สะเทือนสักนิด เขย่าแก้วในมือน้อยๆพอได้ยินเสียงน้ำแข็งสองสามก้อนกระทบกันแก๊งๆก่อนจะกระดกพรวดลงคอไปอีกครั้ง
“มิกเซอร์มานนนนนนนนน....แพง”
ไอ้หนูป่วนกระดกเหล้าลงคอไปได้ก็หันไปตอบไอ้เพื่อนกล้วยแบบเริ่มจะย้วยๆยานๆ
ไอ้แผนชักรู้สึกว่าเพื่อนผิดปกติ มองตามสายตาไปก็เห็นจับจ้องอยู่ที่มุมหนึ่งของร้าน เอ่อ.......ไอ้แผนเริ่มจะคุ้นกับรูปร่างและท่าทางของหนึ่งในกลุ่มผู้ชายสี่คนที่นั่งดื่มกินกันอยู่ขึ้นมาหน่อยๆแล้ว
เหลือบตามองสีหน้าเพื่อนตัวเล็กแล้วรู้สึกตัวเองคอแห้งเป็นผงขึ้นมากะทันหัน
ไอ้ป่วนมันเมายาก มันจะปล่อยให้ตัวเองเมาก็แค่เวลาที่อยากเมาขึ้นมาจริงๆ แต่พอเมาที.......อย่างกับพายุเข้า
มือหนึ่งไอ้คุณแผนก็รั้งแขนไอ้นุ่นเอาไว้ไม่ให้ออกไปออกท่าไส้เดือนกิ้งกือได้ ในขณะที่ก้มลงกระซิบกระซาบพอให้ได้ยินกันสองคนกับไอ้ตัวป่วน
“พี่เค้าคงมาเปิดหูเปิดตากับเพื่อนบ้างมั้งวะ คนเราทำงานเหนื่อยๆมันก็ต้องผ่อนคลายกันบ้าง”
“เออน่า..... ช้านนนนนนรุ”
เสียงตอบกลับมาในโทนกระซิบไม่ต่างกัน แต่ที่ต่างคือไอ้คำที่ควรยาวมันสั้น ส่วนไอ้คำที่ควรจะสั้นไอ้เพื่อนตัวดีมันดันออกเสียงลากซะยาว
ฉับพลันไอ้แผนก็เห็นแววตาของเพื่อนตัวเล็กวาววับขึ้นมากะทันหัน พอหันไปมองตามสายตาก็ทันเห็นแก้วเหล้าถูกถอนออกจากปากของผู้ชายคนที่เห็นว่าคุ้นตาเหลือเกิน แล้วที่ไอ้ป่วนมันตาวาวขึ้นมาก็สมควรอยู่หรอก เพราะแทนที่นายอากาศจะดื่มจากมือตัวเอง
นายอากาศผู้ไม่รู้เสียเลยว่าไอ้ตัวเล็กที่แผ่รังสีอำมหิตดำสนิทออกจากร่างอยู่ตรงนี้มองเห็นทุกสเต็ปตั้งแต่หนุ่มน้อยนายหนึ่งหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกันแทบจะเกยขึ้นไปอยู่บนตัก แล้วตามมาด้วยยกแก้วในมือขึ้นจ่อให้ถึงปาก
“เอ่อ.....พี่เขาไม่ได้คิดอะไรหรอก ก็เฮฮาไปเรื่อยเพราะมากับเพื่อนแค่นั้นแหละ”
“อืมมมมมม ก๊อบอกว่ารุและงายยยยยยยยยยยย” ตัวป่วนมันว่าง้านนนนนน ว่าง้านแล้วก็กระดกเหล้าลงคอไปอีกแก้ว
“รู้แล้วก็อย่ากระดกสิวะ นี่แค่ไอ้นุ่นมันดิ้นๆอยู่นี่ชั้นก็จะแย่แล้วนะเว้ย”
“แล้วเกี่ยวรายยยยยยยย........แผนนนนนนนนนนนนน แกะกะดุแลไอ้นุ่นจ๋าของแกปายยยยยยย เด๋วช้านนนนนนนนนนนจากลาบก่าพี่ฟ้า.......”
ไอ้คุณแผนเอื้อมมือข้างที่ว่างรั้งแขนไอ้เพื่อนตัวป่วนไว้แทบไม่ทัน กลัวมันจะโผล่ไปทำเรื่องเอากับพี่อากาศแกทั้งที่ยังไม่รู้อะไรเป็นอะไรเอาน่ะสิ ยิ่งมอมตัวเองจนเมาแบบนี้....น่ากลัวพิลึก
ตัวป่วนมันสะบัดแขนออก แล้วหันมาขมวดคิ้วหน้ามุ่ยใส่ไอ้คุณพ่อ ก่อนจะโบกมือบ๊ายบาย ชี้ๆไปที่ไอ้เพื่อนนุ่นที่ขนาดถูกยึดข้อมือไว้ข้างหนึ่งแล้วมันยังสามารถออกท่าออกทางกิ้งกือไส้เดือนมั่วไปหมดได้ไม่มีพัก
“ม่ายมิเรื่องงงงงงงงงงง เชื่อมือเดะ ร้าบบบบบบรอง โอเค๊ เด๋วไปหาพี่ฟ้าก่อนน้า.........”
“เฮ้ย!!!”ได้แค่นั้นจริงๆ ไอ้แผนทำได้แค่มองตามหลังไอ้ตัวเล็กที่ซอกซอนพาตัวเองไปจนสุดฟากร้าน เพราะไม่กล้าจะปล่อยมือจากไอ้คนเพิ่งตกลงเป็นแฟนกันมาเดือนเดียวได้
แล้วเลยได้แต่จับตามอง......คอยดูว่าจะมีพายุเข้าที่มุมไกลของร้านรึเปล่า ไอ้แผนทำได้แค่นั้นจริงๆ
...............................................
.............(มีต่อค่ะ)....................
............................................