รุ่นน้องวุ่นรัก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รุ่นน้องวุ่นรัก  (อ่าน 74412 ครั้ง)

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
 :monkeysad: วันนี้ไม่ได้ลงนะคร้าบ ไปเทสเรื่องแพ้อาหารมา มึนหัวไปหมดแล้ว  :monkeysad:

ออฟไลน์ ┠┨ ¡ Þ Þ ☻ ❣ ╰╰

  • นู๋ รัก BoYs' lOvE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 723
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-0
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ...ยังไม่ถึงไหนเลย...จะเร่งสปีดตามหั้ยทันในเร็ววัน...

เนื้อเรื่องน่ารักอ่ะ...กิ้วๆ...

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
คุณนัทพักผ่อนเยอะ ๆ น้า......
น้องต้อมหึงได้น่ารักมาก......
คุณนัทต้องเอาใจน้องมาก ๆ.....
เด็ก ๆ ก้องี้แหละ...ต้องการการเอาใจใส่...
คนอ่านลำเอียงเห็น ๆ เนอะ....... :L2: :bye2:

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
มาต่อแล้วครับ ขอโทษที่ให้รอนาน :L2:

.............

ตอนที่45

เรานั่งคุยกันสักพักก็ขึ้นมาอาบน้ำนอนกัน ผมรอจนต้อมหลับสนิทผมก็แอบลุกลงมาข้างล่าง ผมลงมานั่งถักเสื้อให้ต้อมที่ห้องข้างล่าง ผมนั่งถักเสื้อจนถึงตีสี่กว่าๆผมก็กลับขึ้นไปนอน พอขึ้นมานอนผมก็นอนกอดต้อมแล้วก็หลับทันที ผมรู้สึกเหมือนนอนได้สักพักต้อมก็ปลุกผมให้ตื่นซะแล้ว

วันนี้ผมนั่งทำงานไปแอบหลับไปจนต้อมผิดสังเกต ผมก็บอกว่าเหนื่อยจากงานเท่านั้นเองไม่มีอะไรมาก มันก็ไม่ได้ถามอะไรผมต่อ เรารู้กำหนดการเดินทางของต้อมแล้วตอนนี้ ต้อมจะเดินทางหลังจากวันรับปริญญาสองวัน เท่ากับว่าตอนนี้ผมเหลือเวลาที่จะอยู่ด้วยกันอีกแค่ 12 วันเท่านั้นเอง

พอผมคิดแบบนี้ผมก็รู้สึกใจหายยังไงก็ไม่รู้ แต่นี่เป็นสิ่งที่ผมตัดสินใจแล้วว่าจะให้ต้อมไป ผมต้องทำใจให้ได้เวลานี้ เพราะถ้าผมมีแสดงอาการว่าไม่อยากให้มันไป หรือว่าเสียใจที่มันจะต้องไปเรียนผมว่าต้อมมันต้องไม่ไปแน่ๆเลยคราวนี้

“ต้อมเย็นนี้ไปกินราเม็งกันนะ” ผมหันไปชวนต้อมที่กำลังเคลียงานอยู่ข้างหลัง เพราะอาทิตย์หน้าต้อมก็ไม่มาทำงานแล้ว แต่ต้องไปคอยจัดการกับเอกสารที่จะไปเรียนต่อกับพวกหนังสือเดินทางด้วย

“ไปสิพี่แต่ว่าจะไปกินที่ไหนละ” ต้อมเงยหน้าขึ้นมาถาม

“เซ็นทรัลนะแหละวันนี้เย็นมากแล้ว เดี๋ยวกว่าจะกลับถึงบ้านเหนื่อยเปล่าๆ” ผมบอก

ตอนเย็นเราก็ไปกินโออิชิราเม็งกัน ระหว่างกินเราก็คุยกันถึงเรื่องเก่า อย่างเช่นตอนที่เจอแจ็คอีกครั้งก่อนที่จะมีปัญหากัน แล้วก็เรื่องที่เรามากินข้าวด้วยกันครั้งแรกที่ MK ต้อมบอกว่ายังจำได้ดีไม่นึกว่าผมจะจำได้เหมือนกัน ถึงผมจะขี้ลืมแต่เรื่องพวกนี้ผมไม่ลืมง่ายๆหรอกครับ

ระหว่างกินข้าวต้อมบอกว่าเสาร์อาทิตย์นี้จะไปบ้านผมที่ตจว. บอกว่าจะไปลาพ่อกับแม่ผมสักหน่อย มันกลัวพ่อกับแม่ผมจะว่าเรื่องที่ไปเรียนต่อแล้วไม่บอก ผมบอกให้โทรไปบอกมันก็ไม่เอามันบอกว่าจะไปบอกด้วยตัวเอง ผมเลยต้องตามใจมันแหละครับ

กลับมาถึงบ้านเราก็อาบน้ำเข้านอนคืนนี้ก็เหมือนเดิม พอต้อมหลับไปได้สักพักผมก็ต้องแอบลงมาข้างล่าง ลงมาถักเสื้อต่อเพราะกลัวว่าจะเสร็จไม่ทันก่อนที่ต้อมมันจะไป ผมนั่งทำอยู่จนถึงตี4เหมือนเดิมแต่วันนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากกว่าเดิมแล้ว

ตอนเช้าผมก็มาทำงานพร้อมกับต้อมเหมือนเดิม วันนี้ผมเพลียมากๆเพราะอดนอนมาสองคืนแหละ แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับเพราะผมเต็มใจที่จะทำแบบนี้เอง วันนี้พี่น้ำเลยเรียกผมเข้ามาคุยเรื่องงานว่าจะเอายังไงต่อหลังจากที่ต้อมออกไปแล้ว

“นัทเราจะเอาผู้ช่วยอีกเปล่าพี่จะได้ลงประกาศรับสมัครให้” พี่น้ำถาม

“ไม่แล้วดีกว่าพี่เพราะว่าเอกสารส่วนใหญ่ผมก็ทำจนชินหมดแล้ว แล้วส่วนมากก็ลูกค้าเก่าไม่ค่อยยุ่งยากอะไรหรอกครับ” ผมบอกเพราะผมไม่อยากได้ผู้ช่วยแล้วจริงๆถ้าไม่ใช่ต้อม

“อืม เอาอย่างงั้นก็ได้ตามใจเรา แต่ว่าเราทำไหวแน่นะคนเดียวนะ” พี่น้ำถามย้ำ

“ไหวครับพี่ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวผมจะรีบบอกพี่เลย” ผมบอก

“ก็ดีแหละ แต่ว่าช่วงนี้นัทเป็นอะไรไม่สบายหรือเปล่าดูเพลียผิดปกติ” พี่น้ำถามผมคงเพราะเห็นสภาพอดนอนผมแน่ๆ

“ก็ผมแอบนั่งทำของให้ต้อมมันตอนไปเรียนต่อนะครับ เลยต้องแอบทำตอนมันนอนแล้วกว่าจะได้นอนก็ตี4ทุกวันแหละพี่” ผมบอกพี่น้ำนั่งอมยิ้ม

“คิดไว้แล้วเชียว งั้นเอามาทำที่นี่ก็ได้นะ เอาขึ้นมาทำบนห้องพี่นี่แหละ เดี๋ยวพี่บอกมันเองว่าให้ขึ้นมาช่วยงาน อีกสามวันมันก็ไม่มาทำงานแล้วนี่ เราค่อยเอาลงไปทำข้างล่าง” พี่น้ำนั่งยิ้มใหญ่เลย

“เออ แล้วต้อมว่างวันไหนละพี่ว่าจะเลี้ยงส่งมันซะหน่อย” พี่น้ำถาม

“วันอังคารหน้าแหละครับพี่ เพราะว่าเสาร์อาทิตย์นี้มันจะไปลาพ่อกับแม่ผมที่ตจว.”

“งั้นวันอังคารหน้าพี่นัดเลี้ยงส่งต้อมมันนะ บอกมันให้พี่ด้วยละ” พี่น้ำบอกแล้วให้ผมกลับลงมาทำงานต่อ

ตอนนี้เท่ากับว่าผมได้นั่งถักเสื้อให้ต้อมทั้งวันทั้งคืนเลย เพราะเอามาถักที่ทำงานด้วยแล้วก็เอากลับมาถักที่บ้านด้วย ทำให้เสื้อเป็นรูปเป็นร่างเร็วขึ้นเหมือนกันเพราะตอนนี้ช่วงตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนวันที่จะกลับบ้านตจว.ผมแอบไปถามที่ร้านอีกเพราะผมถักตรงคอไม่ได้ แต่ตอนนี้ได้แล้วครับ

เช้าวันเสาร์ต้อมขับรถมาบ้านพ่อกับแม่ผม ผมได้โอกาสก็นั่งหลับมาตั้งแต่รถออกจากบ้านที่กรุงเทพเลยครับ ต้องตุนการนอนไว้ก่อนเพราะช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้นอนเลย ผมมาตื่นอีกทีก็ถึงบ้านผมแล้วละครับต้อมซื้อของมาฝากพ่อกับแม่ผมเหมือนทุกครั้งที่มาเยี่ยม

พ่อกับแม่ผมก็ต้อนรับต้อมเต็มที่เหมือนเดิม ตอนเย็นที่นั่งกินข้าวกันต้อมก็บอกพ่อกับแม่ผมเรื่องที่จะไปเรียนต่อ พ่อกับแม่ผมยังบอกให้ตั้งใจเรียนและอวยพรให้อีกด้วย ต้อมมันยังบอกพ่อกับแม่ผมว่าให้ดูผมให้ด้วยเวลามันไม่อยู่ อย่าให้ผมแอบนอกใจมันและให้คอยเตือนผมเรื่องดูแลตัวเองด้วย เพราะผมเวลาทำงานจะบ้างานมากๆไม่ค่อยสนใจเรื่องอื่นเลย แต่คิดดูนะครับมันฝากผมกับพ่อแม่ผมเองนี่นะ

เช้าวันอาทิตย์ผมพาต้อมไปทำบุญกับหลวงตาที่บ้านผมไปหาประจำ ให้หลวงตาให้ศีลให้พรเวลาเดินทางจะได้ปลอดภัยนะครับ ช่วงบ่ายเราก็ลาพ่อกับแม่ผมกลับมากรุงเทพกัน พอกลับมาที่กรุงเทพเราแวะกินข้าวกันที่ร้านโปรดของต้อมก่อนกลับบ้านพอถึงบ้านอาบน้ำเสร็จต้อมก็หลับเลยคงเพราะเหนื่อยจากการขับรถแน่ๆ
ผมก็แอบลงมาถักเสื้อต่อเพราะว่าใกล้จะถึงวันที่ต้อมจะไปแล้วด้วย วันนี้ผมนั่งทำจนเกือยถึงตี5เลยกว่าจะเข้านอน นอนได้สักพักต้อมก็ปลุกผมขึ้นมาแล้ว วันนี้ต้อมมาส่งผมที่ทำงานก่อนที่จะไปจัดการกับเรื่องเอกสารเดินทาง ผมถักเสื้อใกล้เสร็จแล้วเหมือนกัน เพราะผมทำทั้งวันทั้งคืนนี่ครับตอนกลางวันเอามาทำที่ออฟฟิศ กลางคืนแอบลงมาทำข้างล่างจนช่วงนี้ผมตาโหลเป็นหมีแพนด้าแล้วครับ

“พี่นัททำไมพี่ดูโทรมแบบนี้ละ พี่ทำงานหนักไปหรือเปล่า” ต้อมถามผมหลังจากที่ผมอดนอนมาหลายคืน

“อืม ไม่มีอะไรหรอก ทำไมกลัวพี่ไม่หล่อวันงานรับปริญญาเราหรือไง” ผมแกล้งถาม

“ไม่ใช่อย่างนั้น ต่อให้พี่เป็นยังไงพี่ก็ดูดีที่สุดสำหรับผมอยู่แล้ว” ดูมันมาทำปากหวานอีก

“ผมแค่เป็นห่วงพี่นะกลัวพี่จะไม่สบายซะก่อน” ต้อมพูดต่อ

“อืม แบบนี้รักตายเลย แต่พี่ไม่เป็นไรหรอก วันงานเราพี่จะทำตัวให้ดูดีที่สุดเลย” ผมบอกเพราะตอนนี้ผมทำเสื้อเสร็จแล้ว เสร็จก่อนวันรับปริญญาต้อมสองวัน
ผมพาเรื่องนอกเรื่องอย่างอื่นคุยกัยต้อมแทนจนเข้านอน วันนี้เป็นคืนแรกที่ผมจะได้นอนกอดต้อมแบบเต็มๆคืน  ผมอยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้ ต้อมก็คงคิดเหมือนกันกับผมแน่ๆเพราะต้อมก็กอดผมเหมือนกัน ผมรู้สึกอบอุ่นมากๆเลยตอนนี้

วันนี้เป็นวันรับปริญญาของต้อม ผมแต่งตัวด้วยเสื้อเชิตแขนยาวสีฟ้าอ่อน ตัวที่ต้อมซื้อให้ต้อมเห็นแล้วก็อมยิ้ม เรามาถึงที่งานแต่เช้าเพราะกลัวไม่มีที่จอดรถ สักพักพ่อกับแม่ต้อมก็มาแล้วห็พวกเพื่อนๆผมกับเพื่อนๆต้อมมัน ผมช่วยต้อมแต่งตัวก่อนที่เราจะมาถ่ายรูปกัน เราถ่ายรูปกันจนต้อมเข้าไปในพิธี พ่อแม่ของต้อมก็ขอบใจผมที่ช่วยพูดกับต้อมจนต้อมยอมไปเรียนต่อ

ตอนเย็นเราก็ไปกินเลี้ยงกันทั้งครอบครัวมีหนุ่ยไปด้วย เพื่อนผมกลับไปกันหมดแล้วเพราะมาแค่พักเดียว เรากินเลี้ยงกันสักจนดึก ก็กลับมาที่บ้านก่อนออกจากบ้านผมได้แอบเอาเสื้อที่ห่อไว้เรียบร้อยแล้วว่างไว้ที่โซฟากลางบ้าน ผมแกล้งปล่อยให้ต้อมเข้าไปก่อน ผมบอกว่าขอเก็บของจากหลังรถก่อน
ต้อมเดินไปที่โซฟาทันทีที่เข้าไปถึงในบ้าน ต้อมอ่านการ์ดที่ผมเขียนวางไว้ให้

ถึงคนที่รักที่สุด
   อีกสองวันเราก็จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ แต่พี่คิดว่าเวลาแค่สองปีมันคงไม่นานเกินไปหรอกนะ ถึงเราสองคนจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่พี่สัญญานะว่าพี่จะคิดถึงเราทุกวัน พี่ไม่มีวันจะเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นแน่ๆ มีแต่เรานะแหละไปอยู่ที่นั้นเจอฝรั่งน่าตาดีจะเปลี่ยนใจหรือเปล่า พี่ขอให้เราตั้งใจเรียนนะแล้วพี่จะรอเรากลับมา

                  รักต้อมเสมอ

                     พี่นัท



ปล. ของขวัญนี่พี่ทำเองกับมือเลยนะ อาจจะไม่สวยไปบ้างแต่พี่ก็ตั้งใจเต็มที่แล้ว

ต้อมวางการ์ดแล้วหยิบห่อของขวัญของผมขึ้นมาแกะออก ต้อมหยิบเสื้อไหมพรมสีเลือดหมูที่ผมถักให้ขึ้นมา แล้วคลีออกมาดูตอนนั้นผม็เดินกลับเข้ามาในบ้านพอดี ต้อมหันหลังกลับมากอดผมไว้ทันที

“ขอบคุณครับ จริงๆแล้วพี่ไม่ต้องทำอะไรให้ผมก็ได้ แค่นี้พี่ก็ให้ผมมามากพอแล้ว” ต้อมกอดผมแน่นมาก

“พี่อยากทำให้เรานะ เพราะหน้าหนาวที่นั่นจะหนาวมากนะ แล้วอีกอย่างเวลาเราใส่จะได้เหมือนว่าพี่กับเราอยู่ใกล้กันด้วยไง” ผมบอกเหตุผลต้อมไป

ต้อมมองหน้าผมแล้วยิ้มก่อนที่จะก้มหน้ามาจูบผม เรายืนจูบกันนานมากเหมือนอยากที่จะถ่ายเทความรู้สึกของเราทั้งหมดให้อีกฝ่ายได้รู้ผ่านการจูบครั้งนี้ หลังจากนั้นต้อมก็พาผมมานั่งที่โซฟา ต้อมถามว่าผมแอบทำตอนไหนผมก็เล่าให้ต้อมฟัง ต้อมยังบอกว่าถึงว่าช่วงที่ผ่านมาผมดูเหมือนคนอดนอน

คืนนั้นเรานั่งคุยกันจนดึกก่อนขึ้นไปนอน ผมลาหยุดสองวันเพราะว่าจะใช้เวลากับต้อมให้คุ้มก่อน และช่วยต้อมเก็บของด้วย

เช้านี้ผมตื่นแต่เช้าลุกขึ้นมามองหน้าต้อมที่นอนหลับอยู่เงียบๆ ผมนั่งมองอยู่นานจนต้อมตื่นขึ้นมา

“พี่นัทมานั่งมองหน้าผมทำไม ทำไมไม่ปลุกผมละ” ต้อมงัวเงีย

“ก็พี่เห็นเรากำลังหลับสบายเลยก็เลยไม่ปลุก” ผมบอกต้อมก็ดึงผมเข้าไปกอด

“ถ้าผมไปอยู่นั่นแล้วใครจะปลุกผมละทีนี้” ต้อมมันอ้อนผมแต่เช้าเลยแล้วผมสิ ใครจะมาอ้อนผมแบบนี้อีกนานเลย

“ไม่เอาแหละเลิกอ้อนได้แล้ว เดี๋ยวพี่ก็ไม่อยากให้ไปพอดี ลุกๆไปอาบน้ำได้แล้วเดี๋ยวต้องไปซื้อของกันวันนี้” ผมบอก

“ไม่ให้ไปก็ดีสิผมก็ไม่ได้อยากไปอยู่แล้ว” ต้อมยิ้ม

“ไม่ได้หรอกนะอย่ามาหาเรื่องไม่ไปเลย” ผมบอกพร้อมกับลุกดึงต้อมให้ขึ้นจากที่นอน

เราไปเลือกซื้อของใช้ที่จำเป็นกับเสื้อผ้ากันทั้งวันเลย ก่อนที่จะกลับบ้านวันนี้ผมทำกับข้าวของโปรดให้ต้อม เรานั่งกินข้าวกันต้อมยังบ่นว่ากว่าจะกลับมากินข้าวฝีมือผมอีกนานเลย ยิ่งใกล้จะเดินทางต้อมมันยิ่งปากหวานเอาใจผมมากขึ้นจริงๆ

กินข้าวเสร็จผมก็ไปช่วยต้อมจัดกระเป๋า ต้อมเป็นคนเตรียมของมาวางไว้ผมอาสาจะจัดลงกระเปาให้ ผมค่อยๆเก็บเสื้อผ้าของต้อมลงกระเป๋าช้าๆ เพราะผมรู้แล้วว่ายังไงพรุ่งนี้ต้อมก็ต้องไปเรียนต่อแล้ว ถ้าจะให้บอกจริงๆผมก็ยังทำใจไม่ได้หรอกครับที่จะให้มันไป แต่ผมต้อมทำเป็นแข็งใจไว้มันจะได้ไปเรียนแบบไม่ห่วงผม

ผมเก็บเสื้อไปก็ไปเจอเสื้อสีฟ้าตัวหนึ่ง มันคุ้นๆตาผมมากผมเลยคลีออกมาดู มันมีรอยคราบเลือดอยู่ที่เสื้อด้วย ผมจำได้ว่าเสื้อตัวนี้เป็นตัวที่ต้อมให้ห้ามเลือดให้ผมตอนรับน้อง นี่มันยังเก็บเสื้อตัวนี้ไว้อีกหรอผมนึกว่าจะทิ้งไปแล้ว พอผมรู้ว่าต้อมมันให้ความสำคัญกับผมมากขนาดนี้ น้ำตาผมมันก็ไหลออกมาเองเลยตอนนี้

ผมรีบหันหลังให้ต้อมทันทีเพราะไม่อยากให้มันเห็น แต่ก็ไม่พ้นสายตาของมันจนได้มันเดินเข้ามานั่งข้างผมทันที

“พี่นัทเป็นอะไรไปพี่ พี่ร้องไห้ทำไม” ต้อมจับมือผมที่ยังถือเสื้อสีฟ้าตัวนั้นไว้ในมือ

“เปล่าไม่มีอะไรหรอก พี่แค่ดีใจเท่านั้นเอง” ผมบอก

“พี่ดีใจที่ผมจะไปเรียนต่อหรอ” ต้อมทำหน้าแปลกใจ

“ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก แต่เพราะว่าพี่รู้แล้วว่าเรารักพี่มากขนาดไหน แค่นี้พี่ก็หมดห่วงเรื่องเราจะแอบไปมีคนอื่นแล้ว” ผมบอก ผมว่าทุกคนแหละครับถ้าแฟนเราไปที่อื่นไกลๆยังไงๆเรื่องกลัวแฟนจะแอบไปมีคนอื่นต้องคิดกันแหละ

ต้อมมองเสื้อในมือผมแล้วมันก็ยิ้มก่อนที่จะดึงผมไปกอด

“ผมสัญญากับพี่หลายหนแล้วไงว่าผมจะไม่รักใครอีกนอกจากพี่คนเดียว พี่ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลย”

“แทนที่ผมจะเป็นคนงอแงนะแต่กลับเป็นพี่นัทซะเอง” ต้อมกอดผมจนแน่นเลยทีนี้

ผมกับต้อมไม่ได้นอนกันเลยเมื่อคืน เราสองคนนั่งคุยกันจนเช้าหลังจากเก็บของเสร็จ ผมกับต้อมนั่งแท็กซี่มาที่สนามบินสุวรรณภูมิกัน หนุ่ยก็มาถึงไล่กับผมสักพักพ่อกับแม่ต้อมก็มาถึงเหมือนกัน เราคุยกันสักพักต้อมก็ไปเช็คอินตั๊ว พอใกล้เวลาต้อมต้องเข้าไปข้างในแล้ว ต้อมลาพ่อกับแม่กับหนุ่ยก่อนพ่อกับแม่ก็กลับเลย แกบอกให้ผมได้ลากันสองคนส่วนหนุ่ยเดินไปยืนรอไกลๆเพราะหนุ่ยอาสาจะพาผมกลับบ้าน

“ตั้งใจเรียนนะ จะได้จบเร็วๆกลับมาหาพี่ไวๆ” ผมบอก

“ครับผมจะตั้งใจเรียน จะได้กลับมาหาพี่ไวๆ”

“แล้วถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องกลับมาบ่อยๆนะมันเปลืองเงิน” ผมบอกต้อมไว้เพราะผมกลัวว่าต้อมจะแอบกลับมาบ่อยๆ

“เข้าไปได้แล้วเดี๋ยวต้องตรวจนั่นตรวจนี่อีกข้างใน”

ต้อมดึงผมเข้าไปกอดไว้จนแน่นมากๆเหมือนไม่อยากจะไปเลย ผมก็กอดมันกลับเหมือนกันตอนนี้ต้อมมันร้องไห้ออกมา เห็นทำหน้าระรื่นมาหลายวันวันนี้ดันร้องไห้ ผมว่ามันคงไม่อยากให้ผมกังวลแน่ๆ

“ไม่เอาน่าเดี๋ยวไม่หล่อตอนขึ้นเครื่องนะ” ผมแซวมันเพราะอยากให้มันหายเศร้า

ต้อมมันเริ่มยิ้มออกมาแหละตอนนี้ ใจจริงผมก็เกือบจะร้องไห้ตามมันแหละ แต่ต้องเข้มแข็งไว้ก่อนมันจะได้เดินทางสบายใจ ผมจับมันออกจากตัวผมก่อนบอกให้เข้าไปได้แล้ว ต้อมก็เดินเข้าไปข้างในผมยืนมองจนต้อมเดินหายลับตาไป ผมก็เดินมาหาหนุ่ยเพื่อกลับบ้าน


.......................ง

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ Cupcake

  • @--##-หนูน้ำตาล-##--@
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
ต้อมไปแล้ว เหงาแทนคนที่ยังอยู่ แต่คนไปก็คงเหงาไม่ต่างกัน

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
คนที่อยู่ด้วยกันแทบตลอดเวลานี่จากกัน แล้วอีกนานกว่าจะเจอกันมันจะหวิวหวิวในใจขนาดไหนน๊าตอนจากกัน

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
เพื่ออนาคตต่อไปที่ดี......
บางครั้งก้อต้องยอมเจ็บบ้างใช่มั๊ยคะ..... :เฮ้อ:

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
มาซะดึกเลย วันนี้งานยุ่งทั้งวันได้เขียนค่ำๆเอง

กว่าจะปั่นเสร็จตั้งสามเรื่อง

.......................

ตอนที่46

ระหว่างที่นั่งรถกลับบ้านผมก็นั่งเงียบตลอดทาง ก็มันรู้สึกใจหายยังไงก็ไม่รู้ตอนนี้เพราะว่าต้อมไม่ได้อยู่ข้างๆผมแล้ว ผมพยายามที่จะคิดแค่ว่าเวลาสองปีมันก็แค่แปบเดียวเท่านั้นเอง แต่ทันก็ทำใจไม่ได้ทุกทีเพราะตลอดเวลาหลายปีมานี่เรียกได้ว่าผมกับต้อมเราไม่เคยห่างกันเลยดีกว่า แต่พอมาวันนี้ต้องห่างกันจริงๆยังไงมันก็รู้สึกเหมือนขาดอะไรไปก็ไม่รู้

“พี่นัทเป็นอะไรไปพี่ นั่งเงียบเลยอย่าบอกนะว่าพี่คิดถึงต้อมมัน” หนุ่ยถามผม

“เปล่าๆนี่พี่ไม่เป็นอะไรสักหน่อย” ผมบอกผ่านๆไป

“พี่นัทผมว่าพี่ไม่ต้องทำเป็นว่าเข็มแข็งทำใจได้หรอกพี่ ยังไงต้อมมันก็เดินทางไปแล้ว” ยังไงหนุ่ยมันก็เป็นคนที่เข้าใจผมมากๆอยู่ดี

ตอนนี้ผมคงไม่ต้องทำท่าทางเข็มแข็งให้ใครเห็นอีกแล้ว ผมเลยร้องไห้ออกมาทันทีหนุ่ยเอามือมากุมมือผมไว้เพื่อปลอบใจ แต่นั้นกลับยิ่งทำให้ผมร้องไห้หนักเข้าไปอีก หนุ่ยจอดรถข้างทางก่อนที่จะดึงผมเขาไปกอดไว้เพื่อปลอบใจ

“ต้อมไปแล้วหนุ่ย พี่ไม่อยากให้ต้อมไปเลย” ผมสะอึกสะอื้นในอ้อมกอดของหนุ่ย

“พี่นัทมันไปแค่สองปีเอง เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว” หนุ่ยเอามือลูบหลังผมเพื่อปลอบใจ

"พี่นัทให้โอกาศผมบ้างได้ไหม"

ผมงงกับที่หนุ่ยพูดเพราะถึงต้อมไม่อยู่ผมก็คงไม่คบใครอีก มันรู้เรื่องนี้อนู่แล้ว ผมดันตัวออกมามองหน้าหนุ่ยด้วยความสงสัยทั้งที่ยังไม่หยุดร้องไห้

"ผมไม่ได้ขอให้พี่มาคบผม ผมแค่ขอโอกาศให้ผมดูแลพี่แทนต้อมมันก็เท่านั้นเอง" หนุ่ยยิ้มก่อนที่จะกอดผมอีกครั้ง

หนุ่ยกอดผมสักพักจนผมหยุดร้องไห้ หนุ่ยเลยบอกว่าวันนี้จะไปไปเลี้ยงข้าวปลอบใจ แต่มันพาไปกินที่ไหนรู้ไหมครับมันพาผมมากินร้านอาหารที่มันเปิดเอง ดูมันจะเลี้ยงทั้งทีแต่ก็ช่างเถอะครับเพราะผมก็ไม่ได้เกี่ยงอยู่แล้วที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น เข้ามาถึงพนักงานรีบออกมาต้อนรับกันใหญ่เลย สงสัยจะเอาใจเจ้าของหวังขึ้นเงินเดือนแน่ๆ

หนุ่ยสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะเลยบอกว่าเมนูเด็ดของร้านทั้งนั้น ระหว่างกินหนุ่ยก็คอยตักอาหารมาให้ผมตลอดเวลา ผมสังเกตเห็นเด็กในร้านมันแอบมองมาที่ผมบ่อยๆ พวกเขาคงสงสัยว่าผมเป็นใครแล้วทำไมหนุ่ยถึงเอาใจผมแน่ๆ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้วก็ไม่ได้บอกหนุ่ยด้วย

หลังกินข้าวเสร็จผมเลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน ตอนที่ผมเดินมาถึงห้องน้ำผมก็ได้ยินเสียงคนกำลังพูดถึงผมอยู่พอดี ผมเลยยืนฟังยังไม่เข้าไปในห้องน้ำ

“นี่แกคุณหนุ่ยเขามากับใครนะ ดูแลกันดีจังเลยหรือว่าเป็นแฟนแกวะ” เสียงผู้ชายที่กระเดียดออกไปทางสาวเทียมพูด

“คงไม่หรอกมั้งแกออกจะน่าตาดี คงไม่คบคนหน้าตาแบบนี้หรอก ฉันยังดูดีกว่าตั้งเยอะ” เสียงอีกคนที่ไม่ต่างกันเท่าไหร่ตอบ

ทีแรกผมก็จะไม่คิดอะไรแล้วนะครับ แต่นี่พวกมันเล่นว่ากันขนาดนี้ อีกอย่างตอนนี้อารมณ์ผมยิ่งไม่คงทีอยู่ด้วย ผมเลยเปิดประตูเข้าไปข้างใน เห็นทั้งสองคนทำหน้าตกใจก่อนที่จะรีบเดินออก ระหว่างที่เดินสวนกันผมก็เลยหันไปเรียก

“เออน้องครับ ที่คุยกันเมื่อกี้นะเข้าใจใหม่ด้วยนะครับ ถึงพี่จะหน้าตาแบบนี้แต่หนุ่ยเขาก็ชอบพี่นะ มันก็คงดีกว่าพวกที่คิดว่าหน้าตาดีแล้วไม่มีคนมองนะครับ” ผมเห็นทั้งสองคนทำหน้าเหวอเลยทีเดียว ผมก็หันหลังเดินเข้าห้องน้ำไป

ตอนเดินออกมาหนุ่ยกำลังยืนคุยกับพนักงานในร้านอยู่รวมทั้งสองคนนั้นด้วย ผมเลยเดินเข้าไปยืนข้างๆหนุ่ยผมเห็นสองคนนั้นทำหน้าเสียทันที คงกลัวว่าผมจะบอกหนุ่ยแน่ๆแต่ผมไม่บอกหรอกครับเรื่องแค่นี้เอง หนุ่ยสั่งงานพนักงานแปบหนึ่งก็ชวนผมกลับ ตอนเดินกลับผมแกล้งเดินเข้าไปโอบเอวหนุ่ยไว้ ก่อนที่ผมจะหันไปมองหน้าสองคนนั้น มันสองคนยิ้มเจื่อนๆกลับมาให้ผม แล้วหันไปซุบซิบกันทันทีแต่ว่าผมทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรนะ ผมก็ยังไม่เข้าใจตัวเอง

“พี่นัทมากอดเอวผมทำไม เป็นอะไรหรือเปล่าเนี่ย” หนุ่ยถามขณะที่กำลังเดินออกจากร้าน

“เปล่านี่ไม่อยากให้กอดเอามือออกก็ได้” ผมบอก แต่หนุ่ยกับเอามือมาจับมือผมไว้ไม่ให้เอาออก

“ใครจะให้เอาออกละครับ นานๆพี่จะกอดผมสักที ถ้าพี่จะให้ผมดูแลแทนต้อมก็ได้นะ” มันบอกพร้อมกับยิ้มหน้าทะเล้นเชียว

“เกินไปแหละ แหมเพื่อนไม่อยู่แปบเดียวจะตีท้ายครัวเลยนะ” ผมแกล้งแซวหนุ่ยมันไป

“ถ้าได้ก็ดีครับ แต่พี่คงไม่ยอมผมหรอก” ดูมันสิคิดจริงจังแน่ๆ ผมเลยใช้มือข้างที่โอบเอวมันไว้หยิกไปที่เอวของมันจนมันร้องเสียงหลงเลย

“โห แต่นี้ต้องใช้กำลังด้วย ผมก็พูดเล่นเหมือนกันแหละครับ แต่เรื่องดูแลพี่แทนต้อมเนี่ยผมทำจริงนะ” หนุ่ยหันมายิ้มให้ ผมก็ยิ้มตอบเพราะเรื่องนี้คงห้ามมันไม่ได้แน่นอน

หลังจากนั้นหนุ่ยพาผมกลับบ้านหนุ่ยเข้ามานั่งคุยกับผมพักใหญ่ๆ ก่อนกลับหนุ่ยยังถามว่าจะให้มาอยู่เป็นเพื่อนหรือเปล่า ดูมันทำอย่างกับผมเป็นเด็กอยู่คนเดียวไม่ได้ซะงั้น

คืนนี้เป็นวันแรกที่ผมอยู่บ้านนี้คนเดียว แล้วก็ติดต่อต้อมไม่ได้ด้วยเพราะป่านนี้คงยังไม่ถึง ผมอาบน้ำเข้านอนพอล้มตัวลงบนที่นอน ผมหันไปมองฝั่งที่ต้อมเคยนอนด้วยกัน แต่วันนี้มีแต่ผมคนเดียวมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปก็ไม่รู้ ผมพยายามข่มตานอนแต่ก็นอนไม่หลับ

คืนนี้ผมผุดลุกผุดนั่งทั้งคืนเลยมันคิดถึงแต่ต้อม กว่าผมจะหลับได้ปาเข้าไปตีสี่แล้วพอหกโมงเช้าผมต้องตื่นไปทำงานอีก

วันนี้ผมต้องตื่นเช้ากว่าปกติเพราะเป็นวันแรกที่ผมจะต้องนั่งรถเมล์ไปทำงาน จริงๆพ่อกับแม่ต้อมก็ให้ผมเอารถต้อมไว้ใช้นะครับ แต่ผมไม่เอาเพราะเกรงใจเขานะครับ ผมขึ้นรถเมล์มาทำงานวันแรกเหนื่อยมากคงเพราะเมื่อคืนนอนน้อยรวมทั้งผมไม่ได้นั่งรถเมล์มานานมากแล้วก็ได้

“นัทวันนี้ทำไมโทรมจัง” พี่น้ำถามผมเมื่อเจอกันที่ออฟฟิศ

“เมื่อคืนนอนไม่หลับครับพี่ แล้วยังต้องตื่นเช้านั่งรถเมล์มาอีก” ผมบอกแกไปตามจริง

“นอนไม่หลับคิดถึงต้อมมันหรือไง อะไรต้อมมันเพิ่งไปแค่วันเดียวเองนะ” พี่น้ำแซวผม แต่มันก็จริงแหละครับ

“โธ่ พี่ก็ผมรักของผมนี่ แล้วพี่เคยเห็นผมห่างกันไหมละ”

“เออ จริงของมันเอาน่าเดี๋ยวก็ชิน สองปีแปบเดียวเอง” พี่น้ำเดินมาตบไหล่ผมเบาๆ ก่อนเดินขึ้นไปที่ห้องทำงาน

“ตึง ตึ่ง ตึ้ง” เสียงเอ็มผมดังขึ้นมาขณะที่ผมกำลังนั่งทำงานเพลินๆ ในช่วงบ่าย

เป็นเอ็มของต้อมนี่นามันถึงที่พักเรียบร้อยแล้วหรือไง ถึงผมสงสัยแต่ก็ดีใจมากกว่าผมเลยกดหน้าต่างเอ็มขึ้นมาดู

“คิดถึงพี่นัทจังเลยครับ วันนี้ทำงานเป็นยังไงบ้าง คิดถึงผมบ้างหรือเปล่า” ต้อมพิมพ์ข้อความมา

“คิดถึงสิครับคิดถึงมากด้วย เมื่อคืนนอนไม่หลับทั้งคืนเลย แล้วนี่เราถึงที่พักเรียบร้อยแล้วหรอ” ผมพิมพ์ตอบ

“ถึงได้สักพักแล้วครับ เนี่ยรีบจัดของแล้วรีบออนเอ็มหาพี่นัทเลยนะครับ”

“แล้วไม่พักผ่อนละ เดี๋ยวเราต้องไปทำเรื่องเข้าเรียนอีกไม่ใช่หรอ”

“คร้าบแต่ผมขอเข้ามาบอกพี่ก่อนไง ไม่รู้จะนอนหลับไหมคืนนี้”

“ผมรักพี่นะครับ บะบาย” ต้อมพิมพ์ลา

“พี่ก็รักเราเหมือนกัน ดูแลตัวเองดีๆนะ” ผมเป็นห่วงมันเรื่องนี้จริงๆ

แล้วต้อมก็ออกเอ็มไปตอนนี้ผมมีกำลังใจทำงานมากขึ้นแหละ ผมเลยก้มหน้าก้มตาทำงานใหญ่เลย

“แหม พี่นัทเมื่อกี้คุยกับต้อมละสิ คุยเสร็จมีแรงทำงานงานเลยนะ เมื่อกี้ยังดูหง่อยๆอยู่เลย” วุฒิแซวมาจากด้านหลังผม

“ก็นิดหน่อยน่า หรืออยากให้พี่หง่อยเหมือนเดิม” ผมหันไปมองวุฒิ

“ไม่ต้องเลยพี่แบบนี้แหละดีแล้ว พี่หง่อยไปคนออฟฟิศเงียบไปเลย” วุฒิยิ้มให้แล้วก้มหน้าทำงานต่อ

วันนี้ตอนเย็นหนุ่ยมารับผมที่ทำงาน คนอื่นมองหน้าผมกันใหญ่เลย เพราะทุกคนเขารู้ว่าหนุ่ยคิดยังไงกับผม คงคิดว่าผมจะเปลี่ยนใจไปชอบหนุ่ยละสิ แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรกับใครเพราะผมรู้ตัวผมเองอยู่แล้ว

“วันนี้นึกยังไงมารับพี่ละ” ผมถามเมื่อขึ้นมานั่งบนรถแล้ว

“ก็ผมบอกแล้วไงว่าผมจะดูแลพี่แทนต้อมเอง” หนุ่ยหันมายิ้ม

“อย่าเลยลำบากเปล่าๆ พี่เป็นคนเอาแต่ใจนะ” ผมแกล้งพูดไปยังงั้นแหละ

“ยังไงผมก็รับได้อยู่แล้วครับ ขนาดไอ้ต้อมมันยังทำให้พี่ได้เลยแล้วผมทำไมจะทำไม่ได้”

“เฮ้ย พี่พูดเล่น แต่อย่าเลยต่อให้เรามาทำดีกับพี่ยังไงพี่ก็ไม่เปลี่ยนใจหรอกนะ พี่บอกไว้ก่อนเลย”

“คร้าบ เรื่องนั้นผมรู้แล้ว ผมก็ไม่ได้บอกว่าจะให้พี่มาชอบผมนี่ครับ แค่ผมจะดูแลพี่แทนเพื่อนผมเท่านั้นเอง” หนุ่ยหันมายิ้มอีกที

ผมขี้เกียจเถียงกับหนุ่ยเรื่องนี้แล้ว ผมเลยชวนมันคุยเรื่องอื่นวันนี้มันก็พาผมไปกินข้าวที่ร้านมันเหมือนเดิม พนักงานในร้านยิ่งสนใจผมเข้าไปใหญ่เลยทีนี้ โดยเฉพาะสองคนเมื่อวันนั้น แต่ครั้งนี้มาแปลกตรงเข้ามาสวัสดีผมด้วยครับผมรับไหว้แทบไม่ทัน

วันนี้หนุ่ยให้ผมเป็นคนสั่งกับข้าวเอง ผมก็สั่งมาแค่สามอย่างเพราะว่าสั่งมาเยอะก็กินไม่หมดเสียดายของเปล่าๆ หนุ่ยจะสั่งเพิ่มผมก็ไม่ยอมบอกว่าเสียดายของสองคนกินไม่หมดหรอก หนุ่ยก็ไม่ได้ว่าอะไร ระหว่างกินข้าวหนุ่ยก็ดูแลผมอย่างดีเหมือนเดิม คอยตักกับข้าวให้ต่างๆนาๆ ผมว่าตอนนี้เด็กที่ร้านมันต้องคิดว่าผมเป็นแฟนมันแล้วแน่ๆ

“พอเถอะ เดี๋ยวเด็กที่ร้านมันคิดว่าเราเป็นแฟนกันพอดี” ผมบอกหนุ่ย

“ก็ช่างมันสิครับ มันคิดแบบนั้นก็ดี” หนุ่ยยิ้มหน้าทะเล้นให้ผม

“หรอ งั้นเอากน้ามาใกล้สิ มีไรจะบอก” ผมบอกหนุ่ยก็ยื่นหน้ามาผมเลยเขกหัวมันไปทีหนึ่ง

“เป็นไงทีนี้หายทะลึ่งได้ยังเรานะ” ผมยิ้มคืนบ้างทีนี้

ผมเขกหัวมันไปแล้วก็นึกได้ว่านี่ที่ร้านมันนี่หว่า ผมเลยกันไปสังเกตุพนักงานในร้านมัน ตอนนี้บางคนยืนซุบซิบกันแล้วมองมาที่ผมกันก็มี แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากแล้วตอนนี้ ก็มันไม่มีอะไรจริงๆนี่นา ก่อนกลับผมก็ไปเข้าห้องน้ำก่อนมันติดเป็นนิสัยแล้วครับ ว่าต้องเข้าไปล้างมือก่อน

“พี่เป็นแฟนคุณหนุ่ยจริงๆใช่ไหมครับ” มีคนถามผมจากข้างหลังตอนที่ผมกำลังก้มหน้าล้างมืออยู่ ผมเงยหน้ามองคนที่ถามผ่านกระจก เป็นสองคนที่แอบนินทาผมเมื่อวันก่อนนี่เอง

“ถ้าใช่แล้วจะทำไมหรอ” ผมหันไปถามด้วยเสียงที่ราบเรียบ ก็ผมไม่รู้นีว่ามันจะมาไม้ไหนหันอีก

“เปล่าไม่มีอะไรหรอกครับ พวกผมแค่จะมาขอโทษเรื่องวันก่อน พี่อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกนะครับ ไม่งั้นพวกผมโดนไล่ออกแน่ๆ” ทั้งสองคนยืนหน้าจ๋อยเลยตอนนี้

“อืม ขอคิดดูก่อนแล้วกัน ถ้าไม่สบอารมณ์ก็คงจะบอกนะ” ผมแกล้งพวกมันบ้างตอนนี้

“พี่ครับอย่าบิกเลยนะครับ พวกผมขอโทษจริงๆ” มันสองคนรีบยกือไหว้ขอโทษผม จนผมต้องรีบรับไหว้เลย

“ไม่ต้องมาไหว้พี่หรอก พี่ล้อเล่นแต่คราวหน้าอย่าแอบนินทาใครอีกแล้วกัน ถ้าเป็นลูกค้าละแย่เลย” ผมยิ้มแล้วก็เดินผ่านทั้งสองคนออกมา

“อ้อ อีกอย่างพี่กับหนุ่ยไม่ได้เป็นแฟนกันหรอกนะ” ผมหันมาบอกก่อนที่จะเดินออกจากห้องน้ำไป ผมเห็นทั้งสองคนทำหน้าแปลกใจกันใหญ่เลย

ผมกลับมาที่โต๊ะก็ชวนหนุ่ยกลับบ้าน กลับมาถึงบ้านผมอาบน้ำแล้วก็ออนเอ็มทิ้งไว้เผื่อต้อมจะเข้ามาอีก ระหว่างที่ผมแต่งตัวก็ได้ยินเสียงเอ็มดังขึ้นมา ผมรีบวิ่งไปดูทันทีแต่ไม่ใช่ต้อมกลับเป็นหนุ่ย ผมดูนาฬิกาก็นึกขึ้นมาได้ว่าตอนนี้ที่นั่นมันตั้งตีอะไรแล้ว ต้อมจะอยู่ออนเอ็มได้ยังไง

คืนนี้ผมก็ยังนอนไม่ค่อยหลับเหมือนเดิม ก็ต้องทำใจแหลหะครับเพราะคงไม่มีใครที่ปรับตัวได้ทันทีหรอกนะเรื่องแบบนี้

ll
ll
v
หกเดือนต่อมา

ผมเริ่มชินกับการที่ต้องอยู่คนเดียวแล้ว ไม่ใช่ว่าผมรักต้อมน้อยลงนะครับ แล้วจะให้ผมรักกันน้อยลงได้ยังไงในเมื่อเราคุยกันทุกวัน ก็ทางMSNไงครับแถมยังเปิดกล้องเห็นหน้ากันด้วย มันทำให้คลายความคิดถึงไปได้เยอะเหมือนกัน ตอนนี้ต้อมเริ่มชินกับที่นั่นแล้วด้วย

ตอนนี้ต้อมเข้าเรียนในมหา’ลัยที่นั่นแล้ว ต้อมเรียนภาษาแค่สามเดือนก็สอบผ่านแหละ เก่งเหมือนกันนะแฟนผมคนนี้ มันบอกว่าต้องตั้งใจเรียนจะได้เรียนจบเร็วๆ อยากกลับมาหาผมใจจะขาดแล้ว เห็นแต่หน้ากอดไม่ได้สักทีผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน

ส่วนหนุ่ยก็ยังมาคอยดูแลผมเหมือนเดิม เราไปกินข้าวที่ร้านมันอาทิตย์หนึ่งก็สองสามครั้งครับ จนผมคิดว่าพนักงานที่นั่นต้องเหมาว่าผมกับหนุ่ยเป็นแฟนกันแน่นอน เพราะพอเห็นผมมาทีไรรีบเข้ามาต้อนรับเอาใจกันใหญ่เลย ผมเลยขี้เกียจแก้ข่าวแล้วตอนนี้
ll
ll
v
ครบหนึ่งปีพอดี

ผมกำลังหลับอยู่ก็รู้สึกว่ามีคนมาจูบปากผมเบาๆ ผมสะดุ้งตื่นเพื่อดูว่าใครที่มาแอบลักจูบผมกันแน่

................................

ขอไปต้มมาม่ากินก่อนนะครับ อีกสองเรื่องมาต่อให้หลังอิ่มแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Cupcake

  • @--##-หนูน้ำตาล-##--@
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
แล้วแบบนี้หนุ่ยจะไม่เจ็บหรอ

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
สงสัยต้อมกลับมาเยี่ยมบ้านนะ อย่าบอกนะเจ้าหนุ่ยมาลักหลับ อิอิอิ

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
ใครมาจูบน๊า

ต้อมแน่ๆ เลย อิอิ

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
มาต่อด่วนๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
แล้วแบบนี้หนุ่ยจะไม่เจ็บหรอ

อันนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ แต่เขาเลือกแบบนี้เอง

ผมก็ไม่อยากให้ใครมาดูแลหรอกครับ


ปล.ขอบคุณทุกกำลังใจด้วยนะครับ :L2:

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
ตอนที่47

ผมรีบลืมตาตื่นขึ้นมาดูทันที ที่รู้สึกว่ามีคนมาแอบลักจูบผม แต่คนที่ผมเห็นกลับเป็นต้อมครับ ต้อมมันกลับมาได้ยังไง หรือว่าผมจะฝันไปเพราะคิดถึงมันมากเกินไป ผมขยี้ตาตั้งหลายรอบแต่ก็ยังเห็นเป็นต้อมนั่งยิ้มหน้าบานอยู่ข้างๆผมเหมือนเดิม

“พี่นัท ผมกลับมาแล้ว พี่ไม่ได้ฝันไปหรอกเลิกขยี้ตาได้แล้ว” ต้อมเอามือมาจับมือผมที่กำลังขยี้ตาออก

ตอนนี้กลับเป็นผมที่ยิ้มออกมาแล้ว ผมลุกขึ้นดึงมันเข้ามากอดทันที มันกอดผมตอบ

“จะกลับมาทำไมไม่บอกพี่ละ” ผมมองหน้าต้อม เพราะผมอยากเห็นหน้ามันชัดตอนนี้

“ก็ผมจะทำให้พี่ตกใจไง แต่ทำไมดูพี่เหมือนไม่ค่อยจะดีใจเลยที่เห็นผม” ต้อมทำหน้าสงสัย

“ทำไมพี่จะไม่ดีใจละ พี่ดีใจมากที่สุดเลยรู้ไหม แล้วจะให้พี่ทำยังไงละ หรือว่าแบบนี้ดี” ผมก็ดึงหน้ามันมาจูบ

หลังจากที่เราจูบกันสักพัก “พี่นัทยังไม่ได้ล้างหน้าเลยนะ” ต้อมบอก

“อะไรไม่เจอกันไม่เท่าไหร่ รังเกรียจแล้วหรอ เมื่อก่อนไม่เห็นพูด” ผมแกล้งงอนมัน

“ไม่ใช่แบบนั้นครับ ผมไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ” แล้วต้อมก็ดึงผมเข้าไปจูบใหม่

“ไม่ว่าตอนไหนพี่ก็หอมเสมอและสำหรับผม” แล้วก็หอมแก้มผมอีกที ก่อนที่จะดึงให้ผมลุกไปอาบน้ำ บอกว่าต้องไปทำงาน

ผมอาบน้ำแต่งตัวโดยที่ต้อมนั่งมองผมอยู่ตลอดเวลา วันนี้ต้อมพาผมมาทำงานผมเดินเข้ามาคนเดียวก่อน เพราะต้อมไปหาที่จอดรถ  ผมเดินเข้ามาด้วยหน้าตาที่เบิกบานเป็นที่สุด ก็แฟนผมกลับมาแล้วนี่ครับ

“นัทวันนี้อารมณ์ดีอะไรมา ยิ้มมาแต่ไกลเลย” พี่น้ำทักทันทีที่ผมเปิดประตูเข้ามา

“นั่นสิไม่เห็นพี่นัทยิ้มแบบนี้มานานแล้วนะ” วุฒิถามต่อ

“ไม่มีอะไรหรอกครับก็แค่...” ตอนที่ผมกำลังจะบอกว่าต้อมกลับมาแล้ว ต้อมก็เปิดประตูเข้ามาพอดี

ทุกคนทำหน้าตกใจนิดๆก่อนที่จะยกมือรับไหว้ต้อมกันใหญ่

“ยังว่าอยู่อะไรทำให้นัทมันอารมณ์ดีได้ขนาดนี้ ต้อมกลับมานี่เองแล้วกลับมาเมื่อไหร่ละเรา” พี่น้ำถามต้อม

“ผมเพิ่งมาถึงเมื่อเช้านี้เองแหละครับ ถึงปุ๊บก็ตรงมาหาพี่นัทเลยครับ” ต้อมตอบยิ้มเขินๆ

ต้อมมานั่งข้างผมตลอดเวลาตอนทำงาน จนคนอื่นแซวพวกผมกันใหญ่เลย วันนี้พี่น้ำเลยให้ผมกลับบ้านเร็วกว่าปกติได้ ผมเลยได้กลับบ้านเร็วกว่าปกติ

“พี่นัทวันนี้ทำกับข้าวให้กินหน่อยนะคร้าบ ผมไม่ได้กินกับข้าวฝีมือพี่นัทนานแล้วนะ อยากกินจังเลย” ต้อมเริ่มอ้อนผมแล้วครับ ถึงมันไม่อ้อนผมก็ทำให้อยู่แล้ว

“ได้สิ แต่ว่าเราอยากกินอะไรละ จะได้แวะซื้อของกันก่อน” ผมหันไปมองหน้าต้อมที่กำลังขับรถอยู่

“อืม.. แพนงหมู ผัดเห็ดรวม ต้มจืดเต้าหู้ จริงๆผมอยากกินอักเยอะเลยนะ แต่เอาแค่นี้ก่อนเดี๋ยวแฟนผมจะเหนื่อยเปล่าๆ” ดูมันยังไม่วายยอดคำหวานอีก

เราแวะคาร์ฟูร์กันต้อมเดินจับมือผมตลอดเลย จนคนที่นั่นมองกันใหญ่เลยแต่ผมไม่ได้สนใจหรอกครับ ความดีใจมันเยอะมากกว่าตอนนี้ เราเดินเลือกซื้อของกันบ้างครั้งผมยังกอดเอวต้อมเลย ทำไงได้ละครับก็ผมคิดถึงของผมนี่ครับ เราเดินเลือกของกันหลายอย่างมาก คนก็มองพวกเราตลอดเวลาแต่ตอนนี้เราสองคนเหมือนอยู่ในโลกส่วนตัวแล้วครับ

“ต้อมอยากกินอะไรอีกเปล่า จะได้ซื้อไปเผื่อเลยที่เดียว” ผมหันไปถามมันขณะที่กำลังเลือกเนื้อสัตว์อยู่

“อืม.. ที่ผมอยากกินก็เหลือแต่...” ต้อมทำเงียบไม่ยอมบอก

“อยากกินอะไรละ บอกมาสิจะได้ซื้อถูก” ผมถามย้ำ

“ให้ผมพูดจริงๆหรอ” อะไรของมันนักนะแค่ของกิน ผมเลยพยักหน้า

ต้อมยื่นหน้ามาใกล้ๆหูผม “ก็พี่ไงครับที่ผมอยากกิน” ต้อมกระซิบ ผมหน้าแดงเลยตอนนี้ ผมเลยหันไปหยิกพุงมัน จนมันร้องโอ๊ยออกมา คนมองผมกันใหญ่เลย

“ไปอยู่เมืองนอกแปบเดียวกลับมาทะลึ่งเชียวนะ ไปอยู่นั่นแอบไปทำอะไรกับใครหรือเปล่า” ผมทำหน้าจริงจัง

“โห พี่คิดไปได้เนอะ ผมจะไปมีใครละเลิกเรียนก็กลับบ้านมาคุยกับพี่เลยทุกวัน” ต้อมพูดไปลูบท้องตัวเองไป

“กลับบ้านกันเถอะ ผมหิวข้าวแล้ว” ต้อมชวน

กลับมาบ้านต้อมก็เข้ามาช่วยผมทำกับข้าว ผมตั้งใจทำอย่างเต็มทีเลยวันนี้ เพราะต้อมไม่ได้กินรสมือผมนานแล้ว เรานั่งกินข้าวไปคุยกันไปมีความสุขมากเลยตอนนี้ มันไม่รู้จะพูดยังไงดีมันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเลยครับ รู้แต่ว่ามันมีความสุขมากๆจนผมต้องยิ้มเกือบตลอดเวลาเลย

“แล้วนี่กลับมากี่วันละ แล้วทำไมไม่บอกกันบ้าง” ผมถามต้อมหลังจากที่เราเก็บของกันเสร็จแล้ว มานั่งที่โซฟา

“สองอาทิตย์นะพี่ เขาหยุดยาวช่วงสิ้นปีนะครับ” ต้อมนอนตักผมนอนมองหน้าผมแล้วยิ้มตลอด

“แล้วพ่อกับแม่รู้หรือยัง” ผมเอามือลูบหัวต้อมเล่นตอนนี้

“รู้แล้วครับ ผมขอมาหาพี่ก่อนแล้ว เดี๋ยววันเสาร์อาทิตย์นี้เราค่อยไปหาด้วยกันนะครับ” ต้อมทำเสียงอ้อน

“อืมได้สิพี่ไม่ได้ไปเยี่ยมท่านตั้งนานแล้วเหมือนกัน” ผมยิ้ม

“พี่นัทคิดถึงผมไหมครับ” ต้อมลุกขึ้นมานั่งมองหน้าผม

“คิดถึงสิ ทำไมจะไม่คิดถึงละ”

“คิดถึงแค่นั้นหรอครับ” เอ มันจะมาลูกอ้อนไหนของมันอีกละคราวนี้

“อ่าว คิดถึงแล้วจะให้พี่ทำยังไงละ” ผมสงสัย

“ก็นี่ไง” ต้อมมันทำปากจู๋ใส่ผม ผมก็เข้าใจทันที

ผมเลยยื่นหน้าเข้าไปจูบมัน มันก็จูบตอบแล้วเอามือมาโอบคอผมไว้ไม่ให้ผมเลิกจูบมันได้ 

“ถึงเวลากินของที่ผมอยากกินที่สุดแล้วตอนนี้” ต้อมเงยหน้ามาทำหน้าหื่นใส่ผม

“ไม่เอาอะ จะกินตรงนี้เลยหรอ ไม่ให้กินหรอกน้ำก็ยังไม่ได้อาบเลย” ผมดันตัวต้อมไว้เพราะมันทำท่าหื่นออกมามากๆ

“ยังไงพี่ก็ไม่รอดผมหรอก อย่าถ่วงเวลาเลย ผมคิดถึงพี่มาเป็นปีแล้ว ได้แต่มองผ่านกล้องตอนที่จับต้องได้แล้ว ผมจะยอมให้เสียเวลาทำไม อดใจตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว” ว่าแล้วต้อมก็จับมือผมที่ดันมันไว้ออก

ต้อมกดตัวผมให้นอนลงไปบนโซฟาทันที มือทั้งสองข้างกดมือผมไว้กับโซฟาเหมือนกลัวว่าผมจะขัดขืน จริงๆไม่ต้องกดก็ได้ผมยอมอยู่แล้วแหละครับ เล่นตัวไปงั้นแหละ   อิอิ ต้อมกก้มลงมาจูบปากผมทันทีก่อนที่จะเลื่อนไปที่ส่วนอื่นๆชองร่างกาย การกลับมาครั้งนี้ของต้อมดูเหมือนจะหื่นมากเลยทีเดียวกับเรื่องนี้ เพราะต้อมเล่นซะผมเข่าอ่อนไปเลยที่เดียวคืนนั้น กว่ามันจะเลิกได้ก็ปาเข้าไปตี 3 ไม่รู้มันเอาเรียวแรงมาจากไหนของมันสิ

วันนี้ผมหมดแรงไปทำงานไม่ไหวแล้ว ผมเลยโทรไปขอลาหยุดกับพี่น้ำ แกก็ไม่ได้ว่าอะไรอีกอย่างวันนี้วันศุกร์ด้วยงานไม่ค่อยเยอะอยู่แล้ว หลังจากผมโทรไปลางานตอนเช้าเสร็จผมก็หลับต่อ จนมารู้สึกว่ามีอะไรเย็นที่แก้ม ผมเลยลืมตาขึ้นมาดูก็เห็นต้อมมันเอาปากคาบน้ำแข็งมาถูแก้มผมอยู่ ดูมันสิครับคิดวิธีปลุกแต่ละอย่าง

“อืม อะไรอีกละ พี่ยังไม่หายง่วงนอนเลย” ผมบอก

“ไม่เอาวันนี้พี่นัทหยุดงานทั้งที ไปเที่ยวกันเถอะนะนี่ก็สายมากแล้วด้วย” ต้อมเขย่าแขนผม

“อยู่บ้านที่แหละดีที่สุดแล้ว พี่ยังเพลียอยู่เลย”

“ถ้าอยู่บ้านระวังจะเพลียกว่าเดิมนะ ว่าไงเลือกเอา” ดูมันข่มขู่ผมสิครับ นึกว่าผมจะกลัวหรือไง ก็ผมอยากนอนนี่ครับตอนนี้

“ไม่ไปจริงๆใช่ไหม” ว่าแล้วต้อมมันก็จับผมพลิกตัวให้งายหน้ามองมัน มันขึ้นมานั่งบนตัวผมแล้วตอนนี้ หน้ามันหื่นไม่ต่างจากเมื่อคืนเลย ถ้าเป็นแบบเมื่อคืนอีกผมตายแน่ๆ

“ยอมแล้วๆ พี่ไปเที่ยวด้วยก็ได้ ลุกจากพี่ก่อนนะๆ” ผมอ้อนมันแทนแล้วตอนนี้

“จริงๆนะพี่จะไปเที่ยวกับผมจริงๆนะ” ต้อมยิ้มออกมาแทนแล้วตอนนี้ มันรีบลุกขึ้นแล้วดึงตัวผมให้เข้าไปอาบน้ำทันที

ผมแต่งตัวเสร็จลงมาหาต้อมที่นั่งรออยู่ข้างล่าง พอมันเห็นผมลงมามันก็รับดึงมือผมไปขึ้นรถทันที พอขึ้นรถได้ต้อมก็ขับรถออกไปทันที แล้วตกลงนี่มันจะพาผมไปไหนกันนี่

“ต้อมตกลงเราจะไปไหนกัน ยังไม่ได้บอกพี่เลย” ผมหันไปถาม ต้อมมันก็ยิ้มแต่ไม่ยอมบอก

ผมเห็นมันไม่บอกผมก็ไม่ถามต่อ รู้แต่ว่ามันกำลังขับรถออกไปตจวแน่ๆ

“เออ แล้วนี่หนุ่ยรู้หรือยังว่าเรากลับมาแล้ว” ผมถามเรื่องอื่นแทน

“ยังหรอก ผมไม่ได้บอกใครเลย มีแต่พอกับแม่ผมที่รู้” มันหันมามองหน้าผมแปบหนึ่งก่อนจะพูดต่อ

“อะไรผมไม่อยู่แค่นี้ เป็นห่วงกันมากเลยหรอ” ดูมันกวนผมสิ

“อ่านะ หาเรื่องอีกแหละ ก็รู้อยู่นี่นาว่าพี่คิดกับมันแค่น้อง หาเรื่องแบบนี้อยากให้พี่อารมณ์เสียใช่เปล่า” ผมแกล้งทำหน้าไม่พอใจ

“พี่นัทผมล้อเล่นครับ ผมรู้อยู่แล้วว่าพี่ไม่คิดอะไร พี่อย่างอนนะเดี๋ยวเที่ยวไม่สนุก” มันมาง้อผมแล้วทีนี้ คิดจะแกล้งใครให้มันรู้ซะบ้าง เหอๆๆ

“รู้แล้วพูดทำไมละ” ผมยังแกล้งต่อ

“โอ๋ๆๆ พี่นัทหายงอนนะนะนะ” มันเอามือมาจับมือผมไว้

“ฮ่า ฮ่า” ผมเผลอหัวเราะออกมาจากท่าทางของต้อมที่มันคิดว่าผมโกรธจริง จนมันหันมามองหน้าผม

“ล้อเล่น ฮ่า ฮ่า อยากมาแกล้งพี่ก่อนทำไมละ” ผมยังขำค้างอยุ่เลย

“ร้ายนะพี่นัท ฝากไว้ก่อนเดี๋ยวคืนนี้จะเอาคืน” พอได้ยินคำนี้ผมเริ่มจะขำไม่ออกแล้ว ถ้ามันทำแบบเมื่อคืนอีก ผมคงตายคาอกมันแน่ๆคืนนี้

“ไม่เอาแล้วนะ แบบเมื่อคืนนะพี่ไม่ไหวแล้วนะ” กลายเป็นฝ่านอ้อนมันแล้วตอนนี้

“ไม่มีทางอยากมาอำผมก่อนทำไม คืนนี้ไม่รอดแน่” ต้อมยิ้มอย่างผู้มีชัยแล้วคราวนี้

ผมสิครับแค่คิดก็เหนื่อยแล้ว ขับรถมาสักพักผมก็พอจะเดาออกแล้วว่าต้อมพาผมมาที่ไหน ก็ตลาดน้ำที่ผมชอบมานี่เอง ตลาดน้ำอัมพวาผมจะชอบมาบ่อยมากๆ เพราะใกล้กรุงเทพฯแถมยังเป็นบ้านยายผมด้วย แล้วที่ตลาดน้ำยังมีของกินโบราณๆที่ผมชอบมากมายอีกด้วย

ผมคงยังไม่เคบบอกสินะครับว่าผมนะชอบกินขนมโบราณมากที่สุดเลย คงเพราะผมอยู่กับปู่ย่าตายายมาตั้งแต่เล็กนะครับ แต่มันก็อร่อยนะครับแต่กินเยอะแล้วอ้วนนะครับระวังกันด้วย

เราเดินเลือกซื้อของกินของฝากเยอะมาก เพราะว่าจะเอาไปฝากพ่อกับแม่ต้อมพรุ่งนี้ด้วย เราเดินกันจนคนเริ่มเยอะเราก็กลับกัน เพราะเรามาเดินกันตั้งแต่ช่วงบ่ายๆแล้ว

“เย็นนี้ไปกินข้าวที่ไหนดีละ” ผมถามต้อมเพราะเย็นมากแล้วกลับไปทำคงไม่ทันกินแน่ๆ

“ไปกินร้านไอ้หนุ่ยกันดีกว่า ผมอยากเจอมันด้วยวันนี้มันน่าจะอยู่ร้านนะ” ต้อมบอกมันคงคิดถึงเพื่อนรักมันเหมือนกัน

“อืมก็ดีเหมือนกัน พี่มีเรื่องเคลียกับที่นั่นเหมือนกัน” ผมนึกถึงเรื่องที่พนักงานว่าผมเป็นแฟนกับหนุ่ย

“เรื่องอะไรหรอพี่ แล้วทำไมไม่บอกไอ้หนุ่ยมันจัดการให้ละ” ต้อมทำหน้าสงสัย

ผมก็เล่าเรื่องพนักงานที่ร้านนั้นให้ต้อมมันฟัง ต้อมก็หัวเราะใหญ่เลย แถมยังบอกว่าผมใจร้าย แค่ยอมเป็นแฟนเพื่อนมันเฉพาะในร้านก็ไม่ได้ ผมเลยบอกว่าจะให้เป็นไหมละ พอเอาเข้าจริงๆมันก็ไม่ยอม โธ่แล้วทำเป็นมาปากดีทีแรก ผมโทรถามหนุ่ยก่อนว่าอยู่ร้านหรือเปล่า บอกว่าจะเข้าไปกินข้าวแต่ไม่ได้บอกว่าต้อมมาด้วย
ผมเดินเข้าไปในร้านคนเดียวก่อนเพราะอยากทำให้หนุ่ยแปลกใจ พอพนักงานเห็นผมเดินเข้ามาก็รีบวิ่งมาต้อนรับเอาหน้ากันใหญ่เลย มันคงคิดว่าแฟนเจ้าของร้านมาแล้วต้องรีบเอาใจหน่อยละมั้ง

พนักงานพาผมมานั่งโต๊ะที่ผมนั่งประจำกับหนุ่ย ผมนั่งสักพักหนุ่ยก็เดินออกมาหา คงเพราะมีคนไปบอกมันแน่ๆ พอมันเดินมาถึงโต๊ะ ผมก็บอกว่ามีคนอยากเจอหนุ่ย แต่เขาอายไม่กล้าเข้ามาเดี๋ยวขอโทรไปตามแปบ หนุ่ยทำหน้างงผมก็โทรไปบอกให้ต้อมเข้ามา

ตอนนั้นหนุ่ยไม่ได้สนใจคนอื่นเท่าไหร่ ชวนผมคุยเรื่องอื่นไปทั่ว จนต้อมเดินมาถึงหนุ่ยยังไม่รู้ตัว ต้อมเลยตบหัวมันไปทีหนึ่ง หนุ่ยตกใจรีบหันไปมองทันที

“เฮ้ย ไอ้ต้อมมาได้ไงวะ” ว่าแล้วหนุ่ยลุกขึ้นไปกอดต้อมทันที พนักงานในร้านมองมาที่โต๊ะผมกันใหญ่เลย พนักงานร้านหนุ่ยหน้าจะไปทำงานนักสบเนอะ ช่างสนใจเรื่องชาวบ้านดีจริงๆ

“เออ กูเอง ได้ข่าวว่าจะตีท้ายครัวกูหรอไงมึงนะ” ดูมันทักเพื่อนมันดิครับ กวนซะไม่มีเลย

“กูแค่ช่วยมึงดูแลเท่านั้นเอง กลับมาก็ปากหมาเลยนะ อีกอย่างทำอย่างกับพี่นัทเขายอมกูยังงั้นแหละ” หนุ่ยบอกมันกลับ

“เออ แล้วเป็นไงบ้าง ร้านใกล้เจ้งหรือยัง” ดูมันยังไม่วาย

หนุ่ยตบหัวมันทันที “ปากหมาจริงนะมึงนะ ตกลงไปเรียนวิชาปากหมากลับมาใช่มะ”

“กูล้อเล่น แต่มึงสบายดีนะ หน้าตาแจ่มใสเชียว”

“เออ สบายดีแต่มึงกลับมาเมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกกันบ้างว่ะ” หนุ่ยถาม

ต้อมคุยกับหนุ่ยสักพักหนุ่ยก็ขอกลับไปเคลียบัญชีก่อนเพราะจะสิ้นเดือนแล้ว อีกอย่างมันคงอยากให้ผมได้อยู่กับต้อมสองคนแน่ๆ

เราสั่งกับข้าวมาสองสามอย่าง ระหว่างนั่งกินต้อมมันคอยตักข้าวมาป้อนผมบ่อยๆ บางครั้งผมก็ป้อนมันเหมือนกัน พนักงานในร้านเริ่มจับกลุ่มคุยกันอีกแล้ว คงคิดว่าผมพาแฟนใหม่มาเยาะเย้ยเจ้านานมันหรือไง แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ นานหนุ่ยก็จะเดินมาคุยกับผมแหละต้อมที จนกินข้าวเสร็จผมก็ไปเข้าห้องน้ำล้างมือเหมือนเดิม

“พี่ตกลงพี่เลิกกับคุณหนุ่ยแล้วหรอ” พนักงานสองคนเจ้าเก่าเดินเข้ามาถามผม

“ผมบอกตอนไหนว่าเป็นเป็นแฟนหนุ่ย ผมว่าเคยบอกไปแล้วนะ” ผมตอบเรียบๆ สงสัยมันสองคนจะชอบหนุ่ยอยู่แน่ๆ ถึงได้เดือดร้อนกันนัก

“แล้วพี่ก็มีแฟนคนเดียวก็คือคนนี้แหละ จำใหม่ด้วยนะ” แล้วผมก็เดินออกมาจากห้องน้ำ มันสองคนนี่อะไรกันก็ไม่รู้ เดี๋ยวบอกให้หนุ่ยไล่ออกเลยดีมั้ยนะ แต่ก็อดสงสารไม่ได้อีกผม

หลังจากกินเสร็จผมก็กลับมาบ้านก่อนกลับไม่ลืมเอาของฝากให้หนุ่ย หนุ่ยยังบ่นๆว่าไปเที่ยวไหนไม่ชวนกันบ้าง ต้อมก็บอกว่าคนเขาจะสวีทกัน ผมเริ่มสงสัยเหมือนหนุ่ยแหละ ว่าตกลงมันไปเรียนวิชาปากหมากลับมาใช่เปล่าเนี่ย

พอกลับมาถึงบ้านผมอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน เพราะพรุ่งนี้จะไปหาพอ่กับแม่ต้อมกัน ตอนที่ผมกำลังจะปิดไฟนั่นเอง ต้อมก็ขึ้นมาทับตัวผมไว้ทันที

“ผมยังไม่ลืมเรื่องเมื่อกลางวันนะ ถึงเวลาเอาคืนแล้วตอนนี้” พอต้อมมันพูดแค่นั้นแหละ มันก็กดมือผมไว้กับที่นอนทันที

“ไม่นะต้อม เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปบ้านพ่อกับแม่ไม่ไหว” ผมบอกเพื่อให้มันเลิกหื่น

“ไม่มีทาง พี่ไม่มีแรงผมก็อุ้มพี่ไปได้ อย่าคิดว่าจะรอดเลยคืนนี้” แล้มมันก็ไม่ได้ผลจริงๆ


........................................


ไปเวียนเทียนกันนะครับวันนี้ :L2:

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
ปีนึงไม่เจอต้อมตักตวงมากมาย ให้สมกับข้ามน้ำข้ามทะเลมา แต่ก็ยังคงน่ารักเหมือนเดิม

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
เรียนวิชาลัฝีปากจิงๆ


ลูกเล่นแพรวพราวขึ้นนะ

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
คู่รักหวานแววแห่งปี..ยกให้ไปเลยยยย....... :L1: :L1:

กด+ ให้ ต้อม กะ นัท

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
กลับมาสักที

น่ารักได้อีกคู่นี้ อิอิ

salemon

  • บุคคลทั่วไป
นั่งอ่านตั้งแต่ สองทุ่มยังถึงตอนนี้
อ่านไปยิ้มไป หวานมากเลยค่ะพี่นัท
ชูฮกให้เลยแบบว่า ไม่แคร์คนอื่นเลยอิอิ

พี่นัทโชคดีนะค่ะมีแฟนที่น่ารัก
อาจจะหึง ไปนิด หวงไปหน่อย
แต่อย่างไงก็เข้าใจกันดี

แอบฮาตอน เซีย จุนซู
อ่านแล้ว เหมือนน้องไม่มีผิด
แอบมีหึงดาราเกาหลี (แต่น้องชอบแจจุงนะ)

อย่างไงก็ขอให้รักกันจนเก่าจนเฒ่านะค่ะ
จะติดตามทุกวันเลย อิอิ

+1ให้ความหวาน :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2010 02:20:55 โดย €H_bO[51] »

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
เอาตอนพิเศษมาลงขั้นนะคร้าบบ

...............................

ตอนพิเศษ 2

มีเรื่องไรสาระมาฝากอีกแล้วนะครับตอนนี้เหมือนไรสาระ แต่ตอนนั้นมันโมโหจริงๆนครับลองอ่านกันดูเองแล้วกันนะครับ แต่คราวนี้เป็นผมเองแหละที่ไรสาระ หุหุ
ปกติถ้าเราเบื่อๆเราก็จะไปเดินเล่นที่มาบุญครองกัน ไปดูหนังกินข้าวกันประจำที่ขาดไม่ได้ไอศกรีมเซเวนเซนต์ เราจะไปนั่งตรงที่ติดกระจกด้านในสุดของร้าน(แต่ตอนนี้ไม่รู้ยังมีอยู่เปล่านะครับเพราะเห็นมันปิดที่ชั้น2ไปแล้ว อีกอย่างช่วงนี้เดินแต่พารากอนแทน) เป็นที่ประจำเลยครับ(มารู้ตอนหลังว่าที่นั่งประจำของชาวเรานี่เอง) ไอศกรีมยอดฮิตที่กินกันเป็นคู่คงไม่พ้นเอิรธเควสหรอกครับ

เวลาผมมากินที่นี่พนักงานจะชอบมองที่ผมกับต้อมประจำ ทีแรกก็รำคาญนิดหน่อยแต่หลังๆก็ชินแล้วครับก็มากันบ่อยจนพนักงานจำหน้าได้แล้ว ผมคิดว่าพนักงานคงคิดว่าคู่ผมมันคบกันได้ไงแน่ๆต้อมก็ดูดีซะ ส่วนผมนะหรออย่าพูดถึงดีกว่าครับ

เราสั่งไอศกรีมเสร็จระหว่างนั่งรอมีพนักงานชายคนหนึ่งจะเดินผ่านตรงที่ผมกับต้อมบ่อยๆที่แรกก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกครับแต่ว่าภายใน5นาทีเนี่ยมันเดินไม่ต่ำกว่า10รอบแล้วครับ

“มันจะเดินทำไมนักนะ พี่ว่ามันแอบชอบต้อมแน่ๆเห็นมันแหล่ๆอยู่นะ” ผมคุยกับต้อมตอนที่มันเดินผ่านมาจะเป็นรอบที่ 15แล้ว

“ไม่หรอกมั้งพี่ คนเยอะวันนี้เขาคงเดินตามปกติแหละ” ต้อมบอก

ผมนั่งสังเกตอยู่พักใหญ่ๆพนักงานคนนี้ก็หน้าตาใช้ได้ทีเดียว ผิวขาวขนาดอยู่ในชุดพนักงานยังดูดีเลยนะ พนักงานคนนั้นมันจะคอยมารินน้ำให้โต๊ะผมตลอดเลยจิบนิดเดียวมันก็มาเติมแล้วครับโดยเฉพาะแก้วต้อม ผมสังเกตเห็นมันมองหน้าต้อมตลอดเลยตอนมาที่โต๊ะ แบบนี้มันต้องชอบแฟนผมชัวร์เลยฟันธง(ยืมคำหมอลักษณ์มาหน่อยนะครับ)

จนไอศกรีมมาที่โต๊ะเราก็นั่งกินกันไปแย่งรสที่ชอบกันไป จนผมสังเกตเห็นพนักงานคนนั้นยืนอยู่แถวๆหลังผมไกลๆ เอาวะผมคงต้องทำให้รู้แหละว่าผมกับต้อมเป็นแฟนกัน ผมคิดในใจ

ผมเลยตักไอศกรีมไปป้อนต้อมแต่ต้อมมันไม่ยอมกินสิครับ ครั้งแรกผมคิดว่ามันไม่อยากกินรสที่ผมตักให้ ผมเปลี่ยนใหม่มันก็ยังไม่กินอีกจนมีรอบสามมันก็ยังไม่กิน มันยังไงๆอยู่นะคราวนี้ทุกทีมันก็กินแล้วมันยังชอบป้อนผมด้วย แต่คราวนี้ไม่ยอมกินเลยผมหันไปมองเห็นพนักงานคนนั้นจ้องมาที่โต๊ะผมอยู่เลยพอเห็นผมหันไปมองรีบหันไปทางอื่นทำเป็นจัดของซะงั้น

ที่ต้อมมันไม่กินเพราะไอ้พนักงานคนนั้นใช่ไหม มันคงไม่อยากให้รู้ว่าผมเป็นแฟนมันใช่ไหม หรือมันคิดอะไรกับพนักงานนั่น ตอนนี้ในหัวผมความคิดต่างๆผุดขึ้นมามากมายไปหมด แล้วอารมณ์โมโหมันก็เกิดสิครับตอนนี้นี่ขนาดต่อหน้าต่อตานะนี่

“อิ่มแหละ กินไปคนเดียวเลยนะ” ผมบอกต้อมหันมามองหน้าผมงงๆ

“ทำไมละพี่เพิ่งกินไปนิดเดียวเอง เป็นอะไรหรือเปล่า” ต้อมทำหน้าเป็นห่วงขึ้นมา แต่มันไม่ทันแล้วผมโมโหมากกว่า

“เปล่า ก็มันอิ่ม ไม่อยากกินแล้วกลับยัง” ผมชวนต้อมกลับบ้านเพราะไม่อยากจะโมโหมากกว่านี้เดี๋ยวทะเลาะกับมันเปล่าๆ

“เดี๋ยวกินให้หมดก่อนสิพี่ กินไปนิดเดียวเอง” ต้อมบอกแล้วตักไอศกรีมมาจะป้อนผมทีนี้ เหอะไม่มีอารมณ์กินแล้วผมก็เลยไม่ยอมกิน ผมปล่อยต้อมกินไปสักพักพนักงานก็นะครับเทียวเดินอยู่นั่นแหละ ผมเห็นต้อมมองมันบ้างบางครั้งจนผมขี้เกรียดทนแหละ ผมก็ลุกขึ้นไปจ่ายเงินเลยต้อมยังนั่งกินที่โต๊ะอยู่เลย แล้วผมก็เดินออกมาจากร้านเพื่อจะกลับบ้านเลย

ผมเดินออกมาสักพักต้อมก็วิ่งตามมาจนทัน

“พี่นัทเป็นไรอีกเนี่ย” มันยังมาถามผมอีกนะทำไรไม่รู้ตัวอีกแล้วหรือไง

“เปล่าก็เปิดโอกาสให้เราไง เห็นเดินมองกันจังเผื่อจะขอเบอร์กันไง” ผมเริ่มเหวี่ยงแล้วตอนนี้ เวลาผมโมโหอะไรก็ฉุดไม่อยู่หรอกครับ

“อะไรเนี่ยพี่ ผมยังไม่รู้เรื่องเลยนะมารู้ก็ตอนพี่บอกนี่แหละ” ต้อมมันทำหน้าแบบอะไรกับกูเนี่ยกูไม่รู้เรื่อง แต่ผมไม่ได้คิดอะครับตอนนี้โมโหไปแล้ว

นั่งรถกลับบ้านผมผมก็ไม่คุยกับต้อมมันอยู่ดีถึงมันจะชวนผมคุยก็เถอะนะ จนถึงบ้านผมก็ขึ้นห้องไปเลย

“พี่นัทยังไม่หายงอนผมอีกหรอพี่ ผมไม่รู้เรื่องจริงๆนะ”มันเข้ามากอดผมทันทีที่ตามเข้ามาในห้อง

“ไม่รู้เรื่องอะไร พี่เห็นมองกันจัง” ผมพยายามแกะมือมันออก มันกลับดึงผมไปที่เตียงแล้วผลักผมให้นอนลงไปบนที่นอน แล้วขึ้นมานั่งคร่อมบนหน้าท้องมือสองข้างจับมือผมกดไว้กับที่นอน

“ผมก็มองตามที่พี่บอกผมนั่นแหละ แต่ผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆนะ” มันมองหน้าผมแล้วพูดผมพยายามจะดิ้นให้หลุด แต่มันก็จับผมแน่นจริงๆ

“ไม่คิดอะไรแล้วพี่ป้อนไอติมทำไมไม่กิน เห็นมองกันอยู่นั่นแหละ”

“ไม่ใช่อย่างนั้น ผมมองว่าเขามองเราทำไม แล้วพอผมจะหันไปกินพี่ก็เอากลับไปกินเองแล้วทุกที” มันก้มหน้าเข้ามาใกล้ผมจนผมต้องหันหน้าหลบ

“นี่แสดงว่าพี่หึงผมใช่ไหม ผมบอกแล้วไงว่าผมรักพี่นัทคนเดียว ก็แฟนผมน่ารักอย่างนี้ผมจะไปสนใจคนอื่นได้ไง” โห ดูมันมาปากหวานซะฟังแล้วเขินเลยอะ

“ใครหึงเราเนี่ยก็เปิดโอกาสให้เราเลยนะเห็นปะ” ผมแก้ตัว

“แหนะปากแข็งด้วยนะ เดี๋ยวจะทำให้พูดความจริงให้ได้เลย” แล้วต้อมก็ก้มหน้ามาจูบปากผม

“ปากแข็งจริงๆด้วย เดี๋ยวผมทำให้นิ่มเอง” มันเงยหน้ามาพูดแล้วก็จูบลงมาอีกครั้งไม่ยอมให้ผมพูดตอบโต้อะไรเลย

แล้ววันนี้วันนี้เบจิต้าผมก็ชนะโงกุนไป 1 – 0 ปฏิบัติการง้อของต้อมนี่ทำเอาเพลียไปเหมือนกัน ผมก็ไม่ได้โกรธต้อมแล้วจริงๆหายตั้งแต่โดนจูบแล้วละครับ แต่เล่นตัวไว้ก่อนแค่นั้นเอง ตอนไปอาบน้ำต้อมมันก็ยืนยันว่าไม่ได้คิดอะไรจริงๆยังงงเลยว่าผมเป็นอะไร ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้วครับก็จริงๆผมรู้อยู่แล้วว่าต้อมมันรักผมแค่ไหน แต่ตอนนั้นอารมณ์มันพาไปนะครับ

วันหลังเราไปกินไอศกรีมกันอีกเจอพนักงานคนนั้นอีก คราวนี้ผมไม่ต้องทำไรเลยต้อมมันแสดงตัวเองว่าเป็นแฟนผมเรียบร้อย ทั้งนั่งจับมือป้อนไอศกรีมเช็ดปากให้ คราวนี้ผมกินแบบสบายมากเลย ผมแอบเห็นพนักงานคนนั้นทำหน้าเซงๆด้วย แล้วคุยอะไรก็ไม่รู้กับเพื่อนมันแล้วมองมาทางผม 555 อิจฉาละสิที่แฟนผมหน้าตาดีแถมรักผมมากด้วย 555


............................

ไร้สาระไหมนี่ผม

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
เหอๆๆๆไม่ไร้สาระหรอก ก็คนมันรักแฟนนิเข้าใจ เข้าใจ

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
เห็นด้วยค่ะ....ของใครใครก้อหวงทั้งนั้น.......

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ -~iK@iZ_KunG~-

  • Tomorrow Never Die!!!
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-2
อยากทำแบบนี้กับแฟนมั่งจัง

เสียดายไม่มีแฟนสักที

salemon

  • บุคคลทั่วไป
อิจฉา
แอบสมน้ำหน้าพนักงานคนนั้นจัง
อิอิ

ออฟไลน์ Cupcake

  • @--##-หนูน้ำตาล-##--@
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1183
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
เข้าใจๆ ฮิฮิ

เป็นกำลังใจให้นะคะ!!

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
รักกันแบบนี้ก้อดีนะ

เราอิจฉาเลย


แฟนเราไม่เปงแบบนี้เลย


นิดก้อไม่ได้


หน่อยก้อไม่เอา


อารมณ์เปลี่ยนตลอดเลย



ตั้งแต่คบกันผมไม่เคยมีความสุขเลย


จะเลิกก้อทำใจไม่ได้


เห็นรักกันแบบนี้ก้อดีใจด้วยครับ


 :monkeysad: :monkeysad: :m15: :m15:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด