รุ่นน้องวุ่นรัก
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รุ่นน้องวุ่นรัก  (อ่าน 74449 ครั้ง)

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
ได้เลยครับ เพื่อความสะดวกของคนอ่าน

เดี๋ยวผมจัดให้คร้าบ

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
เท่านี้โอเคไหมครับ บอกด้วยนะครับถ้าไม่ได้จะได้เว้นอีก

ตอนที่20

วันนี้ผมตื่นมาแต่งตัวแต่เช้าเพราะวันนี้ผมมีนัดสัมภาษณ์งาน ต้อมขอไปส่งผมก่อนค่อยไปเรียนโชคดีที่บริษัทพี่น้ำอยู่แค่วงเวียนใหญ่เท่านั้นเองใกล้บ้านผมมาก ต้อมมาส่งผมที่หน้าบริษัท

“พี่นัทครับ” ผมหันมาหาต้อมที่เรียกผมก่อนที่จะลงจากรถ

“อย่าลืมที่สัญญานะครับ”แล้วมันก็ยื่นหน้ามาที่ผมผมรู้แหละมันจะให้ผมจุ๊บมันแน่ๆ

“บ้าแหละเดี๋ยวมีคนเห็น ไม่เอาหรอก” ผมบอก

“ไม่เอาไม่งั้นก็ไม่ได้ลงนะคราบ” มันกดล็อคประตูรถทันทีเอากับมันสิ ผมเลยต้องจุ๊บไปที่ปากมันทีหนึ่งมันถึงยอมเปิดประตูให้ผมลง

หลังจากผมส่งต้อมเสร็จผมก็เข้ามาที่บริษัทพี่น้ำ บริษัทของแกก็ไม่ได้ใหญ่มากหรอกครับเป็นตึกแถวห้องเดียว มีสามชั้นชั้นแรกที่ผมเข้ามาจะมีโต๊ะทำงานวางอยู่แค่สี่ห้าตัวเท่านั้นเอง แล้วผมมองเห็นด้านในเป็นเหมือนห้องประชุมเล็กๆเพราะผมเห็นโต๊ะยาวผ่านทางกระจกที่กั้นระหว่างห้องอีกที

พอผมเดินเข้ามาพี่น้ำก็ออกมาหาผมทันที ที่โต๊ะทำงานมีพนักงานนั่งอยู่แล้วสี่คนยังมีที่ว่างอีกทีหนึ่ง สงสัยคนแกคงจะขาดถึงได้อยากได้ผมมาทำงาน ผมเตรียมตัวมาสัมภาษณ์เต็มที่เลยครับซ้อมมาเลยเพราะกลัวตื่นเต้น พี่น้ำเดินมาถึงผมที่ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้า

“เอาทุกคน พี่จะแนะนำผู้จัดการทั่วไปให้รู้จักนะ” พี่น้ำยิ้มให้ผมก่อนหันกลับไปบอกพนักงานของแกที่ก้มหน้าทำงานอยู่ ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองมาที่ผมทันที

“พี่เขาชื่อนัทนะ ต่อไปงานอะไรพี่จะสั่งผ่านเขา พวกเรามีอะไรก็บอกพี่เขาได้เหมือนกันนะ” ตอนนี้ผมงงอยู่ครับคือว่าผมเข้ามายังไม่ได้ทำอะไรเลย ใบสมัครยังไม่ได้ยื่นด้วยซ้ำกลับได้งานทำซะแล้ว แถมยังมีตำแหน่งผู้จัดการอีกต่างหาก ผมเลยหันไปถามพี่น้ำ

“เออ พี่น้ำครับแล้วไม่สัมภาษณ์ผมก่อนหรอครับ”

“สัมภาษณ์ทำไมพี่เคยเห็นนัทตั้งแต่ฝึกงานแหละ กว่าจะหาเจอว่านัทเรียนที่ไหนต้องไปขอจากที่ที่เราฝึกงานตั้งนาน มาแล้วก็ทำงานเลยไม่เข้าใจอะไรก็ถามน้องๆพวกนี้แล้วกัน แล้วนั่นโต๊ะนัทพี่เตรียมไว้ให้ตั้งแต่วันจันทร์แล้ว พี่ยังกลัวว่านัทจะไม่มาแล้วซะอีก” พี่น้ำยิ้มกว้างมากๆให้ผมก่อนที่แกจะพูดต่อ

“หน้าที่นัทตอนนี้นะคือรับงานจากพี่แล้วเอามากระจายให้น้องๆทำอีกที วันนี้นัททำความรู้จักกับคนอื่นๆไปก่อนนะ พอดีพี่นัดลูกค้าไว้ข้างนอกด้วย เดี๋ยวบ่ายๆเราค่อยมาคุยรายละเอียดกันอีกทีเรื่องงาน” พูดเสร็จพี่น้ำแกก็เดินไปหยิบของที่แกเตรียมไปหาลูกค้าแล้วก็ออกไปเลย ก่อนออกยังบอกว่ามีปัญญาอะไรโทรหาพี่ได้เลยนะ

แล้วทีนี้ผมจะทำยังไงละครับเขาจะหาว่าผมใช้เส้นเข้ามาหรือเปล่าหนอ ผมเดินมานั่งโต๊ะที่พี่น้ำชี้บอก ที่โต๊ะทำงานผมมีเครื่องคอมตั้งอยู่แล้วก็มีพวกอุปกรณ์เครื่องเขียนตรายางทุกอย่างยังไม่ได้แกะพลาสติกออกเลยครับ แสดงว่าพี่แกเตรียมไว้ให้ผมจริงๆ ตอนนี้พวกคนอื่นๆเริ่มที่จะจับกลุ่มคุยกันแล้วครับ ผมก็คิดว่าคงไม่พ้นเรื่องของผมแน่ๆผมไม่รู้จะทำตัวยังไงเหมือนกันครับ

ผมเลยนั่งอยู่เฉยๆที่โต๊ะทำงานของผม แต่สักพักผมก็คิดว่ามันคงจะไม่ดีแน่ๆถ้าจะนั่งอยู่แบบนี้ ผมก็ใช่คนที่จะอายคนซะที่ไหนตอนทำกิจกรรมที่มหา’ลัยยังหน้าอายกว่านี้ซะอีก ผมเลยหันไปยิ้มให้คนที่นั่งถัดไปข้างหลังผมแล้วแนะนำตัวอีกที เขาบอกว่าเขาชื่อซีเขาอายุเท่าผม ซีเป็นคนยิ้มเก่งยิ้มทีโลกมืดไปเลยเพราะซีจะหน้าตาออกตี๋ๆหน่อยแต่เป็นพวกตี๋น่ารักนะครับไม่ใช่ตี๋หล่อ ซีจะตัวสูงแต่ตัวเล็กนะครับที่แรกผมก็นึกว่าเขาเป็นคนผอมแต่ก็ไม่ผอมนะเพียงแต่เขาตัวเล็กบางๆนะครับ(อธิบายไปงงไปเหมือนกันนะเนี่ยผม)

ซีก็ทักผมอย่างเป็นมิตรซีเขาเรียนปริญญาโทอยู่แต่เรียนเสาร์อาทิตย์ เขาทำงานส่งตัวเองเรียนนะครับถือว่าเป็นคนเก่งทีเดียว พอผมเริ่มคุยกับซีคนอื่นๆก็เริ่มเข้ามาคุยกับผมบ้างแล้วทีนี้ พวกเขาบอกว่าที่ไม่กล้ามาคุยกับผมเพราะกลัวผมจะหยิ่งเพราะเห็นพี่น้ำแกเอาเรื่องผมมาโม้ไว้เยอะเลย ว่าทั้งเรียนเก่งทำกิจกรรมเก่งแถมยังทำงานเก่งอีกตอนฝึกงานก็ทำงานดีอีกด้วย แถมมาถึงยังให้เป็นผู้จัดการอีกใหญ่รองจากพี่น้ำเลย

หลังจากที่เริ่มคุยกันแล้วทุกคนดูเหมือนจะเลิกเกร็งกับผมแล้ว ผมก็รู้จักกับคนที่เหลือในบริษัททั้งบริษัทมีคนอยู่6คนรวมทั้งผมด้วยแล้วนะ มีพี่น้ำ ซี เก่ง แนน วุฒิ แล้วก็ผม มีพี่น้ำกับแนนที่เป็นผู้หญิงกันสองคน แล้วทั้งสองคนดูเหมือนจะมีนิสัยคล้ายๆกันเลย คือออกห้าวๆแมนๆไปเลยลุยไหนลุยนั่นกันตลอด ซีจะเป็นคนยิ้มง่ายคุยเก่งชอบหามุกตลกมาเล่นแต่มันจะแป้กเสมอเลยครับ เก่งดูเหมือนจะเป็นคนเก็กหล่อนิดนึงถ้าเจอครั้งแรก ท่าทางมันให้จริงนะครับแล้วอีกอยากหน้าตามันก็ค่อนข้างดีออกแนวไทยแท้เลยครับตาคมคิ้วหนา เก่งเรียนต่อโทอยู่ที่เดียวกับซีเลยสนิทกันมากสองคนนี้ วุฒินี่เป็นแฟนพี่น้ำครับอายุน้อยกว่าผมปีหนึ่งรุ่นเดียวกับต้อมครับ พี่น้ำนี่กินเด็กนี่นาวุฒิหน้าตาดีเลยครับแต่เสียดายไม่ค่อยสูงเท่าไหร่แต่ก็สมกับพี่น้ำดีเพราะพี่ออกหมวยๆน่ารักเลยแหละครับ วุฒิจะกล้าคิดกล้าแสดงออกนิดนึง

หลังจากที่ทำความรู้จักกันแล้วบรรยากาศก็ดูไม่อึมครึมอีกแล้วครับตอนนี้ ซีกับเก่งจะชวนผมคุยตลอดและให้ผมช่วยงานบ้างเหมือนเป็นการสอนงานผมมากกว่าครับ จนตอนบ่ายพี่น้ำกลับมาก็เรียกผมขึ้นไปคุยกับแกที่ห้องทำงานแกชั้นสอง ที่ชั้นสองจะเป็นห้องเก็บของกับห้องทำงานของพี่น้ำเท่านั้น พี่น้ำบอกว่าหน้าที่ผมคือให้ผมช่วยงานพวกเอกสารของลูกค้าแล้วให้แบ่งให้คนอื่นๆรับผิดชอบ แล้วมีหน้าที่เอากลับมาให้แกแล้วอีกอย่างให้เป็นวิทยากรเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยี เวลามีงานevent ตามที่ต่างๆเพราะว่าบริษัทของแกทำสัญญากับบริษัทที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์รายใหญ่ไว้ เขาชอบจัดสัมมนาแล้วให้เราหาวิทยากรให้ พี่น้ำเลยจะให้ผมทำตำแหน่งนี้ด้วยและจะได้เงินพิเศษจากค่าจ้างเป็นวิทยากรต่างหาก ผมก็ตกลงสิครับ ได้เงินเพิ่มด้วยแล้วเรื่องเอกสารที่ไม่เข้าใจให้ถามซีได้เลย
งานผมเลิกประมาณห้าโมงครึ่ง เหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงเลยตอนนี้ผมเริ่มเอาเอกสารมาทำบ้างแล้ว

“พี่นัทครับงานยังไม่เลิกอีกหรอคราบ” เสียงต้อมมันอ้อนมาทางโทรศัพท์

“ยังพี่เลิกงานห้าโมงครึ่ง เดี๋ยวพี่นั่งมอ’ไซด์รับจ้างกลับเองได้ เราขับรถกลับบ้านดีๆนะพี่เป็นห่วงแล้วเจอกันที่บ้านนะ แค่นี้ก่อนนะพี่ทำงานอยู่” ผมวางสาย แล้วหันไปถามซีเรื่องเอกสารต่อ

พอเลิกงานผมก็รีบกลับบ้านทันทีกลัวว่าต้อมจะเป็นห่วงยิ่งทำงานวันแรกอยู่ เลยไม่อยากให้เกิดปัญหากันตั้งแต่แรก พอผมกลับมาถึงบ้านต้อมก็เตรียมของกินไว้เยอะแยะเลยครับ มันบอกฉลองที่ผมทำงานวันแรกทำตัวน่ารักอีกแล้วแฟนผม สงสัยคืนนี้ต้องให้รางวัลหน่อยแล้วครับ ระหว่างกินข้าวผมก็เล่าเกี่ยวกับที่ทำงานให้ต้อมฟังดูต้อมตั้งใจฟังมาก สงสัยเอาไว้คอยจับตาดูแน่ๆ

กินข้าวเสร็จเราก็มานั่งดูหนังกันต่อผมนอนตักต้อม อ้อตอนนี้น้าผมไม่ได้อยู่ที่บ้านด้วยแล้วนะครับแกย้ายไปอยู่กับแฟนแกแล้วบอกว่ายกบ้านนี้ให้ผม แถมยังบอกเอาไว้เป็นเรือนหออีกต้อมมันนี่ยิ้มหน้าบานเลยตอนนั้น ผมหลับไปบนตักต้อมตอนไหนก็ไม่รู้คงเพราะเหนื่อยจากการทำงานวันแรก มารู้ตัวตอนต้อมปลุกผมขึ้นไปนอนแต่อย่านึกนะครับว่าผมจะได้นอนเลย มันต้องมีการประลองยุทธระหว่างโงกุนกับเบจิต้าก่อน มันบอกว่าคิดถึงผมทั้งวันเลยขอให้หายคิดถึงหน่อยเอากับมันสิผมไปทำงานแค่วันเดียวนะนี่ แล้วต่อไปผมไม่ต้องเหนื่อยทั้งงานเหนื่อยทั้งเรื่องนี้หรือนี่

ผมทำงานมาได้สองอาทิตย์แล้วตอนนี้ผมก็เริ่มชินกับงานเอกสารแล้วครับ แล้วอีกอย่างทุกคนก็คอยช่วยผมอย่างดีด้วยโดยเฉพาะซีกับเก่ง แต่ซีจะช่วยมากกว่าคนอื่นๆเลยเราเลยสนิทกันเร็วมากบอกแล้วผมเป็นคนเข้ากับคนอื่นง่ายครับ แล้วงานช่วงแรกๆก็ยังไม่มีอะไรมากด้วยพี่น้ำแกบอกจะได้ปรับตัวทัน พี่น้ำก็นิสัยดีมากเลยครับทำกับผมอย่างกับเป็นน้องชายแกคนหนึ่งเลยที่เดียว มีอะไรแกจะมาคุยกับผมหมดทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว จนบางครั้งผมสงสัยว่าทำไมแกถึงไว้ใจผมขนาดนี้ ผมเคยถามแกแกก็บอกว่าคงเพราะถูกชะตากับผมตั้งแต่แรกมั้งแกบอก

วันนี้ผมตื่นแต่เช้าเป็นพิเศษเพราะผมต้องแต่งตัวให้มันดูดีหน่อย วันนี้พี่น้ำจะพาผมไปพบกับลูกค้าที่เป็นบริษัทอิเล็คทรอนิครายใหญ่จะบอกว่าระดับโลกเลยก็ได้ครับ แต่ไม่ขอบอกนะว่าของอะไรแต่ผมก็แปลกใจอย่างว่าทำไมบริษัทใหญ่ขนาดนั้นถึงได้มาจ้างบริษัทเล็กๆของพี่น้ำได้นะ แต่เดี๋ยวไปถึงก็คงจะรู้เองนั่นแหละผมคิดในใจ

“วันนี้ทำไมทำตัวหล่อเป็นพิเศษเลยพี่ มีอะไรหรือเปล่าเนี่ย” ต้อมมันเข้ามากอดข้างหลังผมหลังมันอายน้ำเสร็จแล้ว

“อืม จะไปพบลูกค้านะพี่น้ำแกบอกให้แต่งหล่อๆเลยนะ ลูกค้ารายใหญ่ด้วย” ผมบอกต้อมมันยังกอดผมอยู่นั่นแหละจนผมแต่งตัวไม่ได้แล้วตอนนี้

“ปล่อยพี่ก่อนสิ พี่จะแต่งตัวให้เสร็จเราก็ไปแต่งตัวได้แล้ว จะไปส่งพี่ไหมเนี่ยแบบนี้” ก่อนจะไปแต่งตัวมันยังหอมแก้มผมอีก

ปกติต้อมจะมาส่งผมที่ทำงานทุกเช้าอยู่แล้วครับเพราะมันใกล้บ้านเลยไม่เสียเวลามาก จริงๆผมจะมาเองแต่มันไม่ยอมมันบอกต้องมาส่งทุกวัน ก่อนลงรถผมก็ต้องจุ๊บมันทุกวันด้วยมันจะมาส่งเพราะเรื่องนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้สิครับ ผมนั่งทำงานได้สักพักพี่น้ำก็โทรมาบอกให้ผมออกมารอหน้าออฟฟิศแกจะขับรถมารับ

พี่น้ำพาผมมาหาลูกค้าแถวสุขุมวิท(บอกไว้กว้างๆนะครับบอกละเอียดเดี๋ยวรู้กันพอดีที่ไหน) พาผมขึ้นไปที่ออฟฟิศลูกค้าพอไปถึงพี่น้ำก็แนะนำให้รู้จักพี่กันเพื่อนแกที่ทำงานอยู่ที่นี่ ผมก็ถึงบางอ้อทันทีว่าทำไมเขาถึงจ้างบริษัทเราทำงานเส้นดีนี่เอง เราคุยงานกันจนถึงช่วงบ่ายก็กลับออฟฟิศผมก็ได้งานให้ขึ้นมาอีกแล้ว คือต้องคอยดูแลงานของบริษัทพี่กันทั้งหมดแล้วแกให้ซีกับเก่งมาเป็นผู้ช่วยผมอีกที ผมเพิ่งทำงานได้สองอาทิตย์กว่าๆก็ให้รับงานใหญ่แล้วหรอเนี่ย ผมเริ่มเครียดนิดๆ

saramander39

  • บุคคลทั่วไป
ชอบจังๆมาต่อไวมากๆ :impress2:

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
20 กับ 21 ตอนไหนอ่านง่ายกว่ากันครับ บอกหน่อยนะครับ

ตอนที่21

ช่วงนี้งานผมยุ่งมากเลยครับเพราะบริษัทพี่กันจัดงานเยอะมาก ทั้งสัมมนาทั้ง showcase ทั้งอบรมลูกค้าของแกทำให้ผมยุ่งตลอดเวลาเลยครับ บางครั้งยังต้องเอางานกลับมาทำบ้านด้วยเลยครับ ผมจะให้คนอื่นทำก็ไม่ได้อีกเพราะพี่กันแกไม่ยอมบอกว่าถ้าเปลี่ยนไม่ใช่ผมก็จะเลิกจ้าง อะไรกันนักก็ไม่รู้จนผมรู้ตัวนะครับว่าช่วงนี้ไม่ค่อยมีเวลาให้ต้อมเลย แต่ต้อมก็ไม่ได้พูดอะไรเลยครับกลับคอยให้กำลังใจผมอีกต่างหาก


“พี่นัทกินนมหน่อยนะพี่ ผมอุ่นมาให้ด้วย” ต้อมส่งแก้วนมที่อุ่นแล้วมาให้ผม


“เดี๋ยวก็เสร็จแล้วแหละ จะไปนอนก่อนก็ได้นะดึกแล้วเหมือนกัน” ผมหันไปดูนาฬิกาเห็นว่ามันจะห้าทุ่มแล้วตอนนี้


“เดี๋ยวผมรอไปนอนพร้อมพี่ ไปนอนคนเดียวก็นอนไม่หลับอยู่ดี” เอากับมันสิเล่นอ้อนแบบนี้เลย ผมเลยรีบทำงานให้เสร็จก็เกือบเที่ยงคืนได้ ต้อมนั่งดูหนังอยู่ผมเลยชวนไปนอนเพราะพรุ่งนี้ต้อมมีเรียนเช้าด้วย


ผมหยุดงานวันอาทิตย์ถ้าวันหยุดผมจะอยู่กับต้อมทั้งวัน ถือว่าชดเชยที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันช่วงวันธรรมดา แล้วผมจะตามใจมันเป็นพิเศษเลยครับอยากได้อะไรทำให้หมดทุกอย่างเลยครับ แล้ววันนี้เราก็ไปกินข้าวกับดูหนังกันเพราะไม่ได้ดูมากันนานแล้ว ก่อนกลับก็แวะซื้อของมาทำกับข้าวกินกันผมจะทำกับข้าวกินกับต้อมทุกวันหยุดแหละครับ ช่วยกันทำเหมือนมีกิจกรรมร่วมกันไงครับ


“พี่นัท พี่เหนื่อยไหมทำงานทุกวันเลย” ต้อมถามตอนที่เราขึ้นมาบนห้องแล้ว


“ก็เหนื่อยนะแต่กลับมาเจอต้อมก็หายแหละ” ผมปากหวานมั่งแล้วทีนี้ ต้อมมันยิ้มหน้าบานเลย


“งั้นเดี๋ยวผมนวดให้นะ” แล้วต้อมก็ลุกขึ้นมานั่งแล้วก็นวดให้ผม


มันช่างสบายจริงๆเลยเวลาที่มีคนมานวดให้ แต่มันชักยังไงๆอยู่นะครับก็ต้อมมันเล่นนวดอยู่แถวต้นขานานมาก นวดจนมาใกล้เบจิต้าผมเลย โดนแบบนี้ผมไม่ใช่พระอิฐพระปูนนะครับเบจิต้าผมมันก็โกรธสิครับ มันเริ่มจะแปลงร่างแล้วตอนนี้ผมเห็นต้อมมันหันมายิ้มให้ผมอีกแหนะ พอต้อมมันเห็นแบบนี้มันถอดกางเกงผมออกแล้วเอามือมานวดเบจิต้าทันที


“แล้วพี่จะหายเหมื่อยไหมนี่แบบนี้ นวดแบบไหนกัน” ผมยกหน้าขึ้นมามองต้อมที่กำลังนวดเบจิต้าผมจนมันโกรธแปลงร่างขั้นสุดยอดแล้วตอนนี้


ต้อมมันหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ “ก็นวดด้วยปากไงครับ อยู่นิ่งๆนะครับ” พูดแล้วมันก็ก้มลงไปใช้ปากนวดเบจิต้าผมทันที สงสัยการนวดครั้งนี้จะเหนื่อยแทนซะแล้ว
ตกลงเมื่อคืนเบจิต้ากับโงกุนผลัดกันรุกคนละสองครั้งเช้ามาทำเอาผมตาโหลไปเหมือนกัน ต้อมก็ไม่ต่างจากผมหรอกครับแต่ก็ยังไปส่งผมที่ทำงาน


“นัท นัทมีแฟนแล้วหรอ” ซีถามผมตอนที่กำลังกินข้าวเที่ยงกันอยู่


“อืม ทำไมหรอแล้วรู้ได้ยังไงละ” ผมหันไปมองหน้าซีเพราะสงสัยว่าซีรู้ได้ยังไง


“ก็เราเห็นคนมาส่งนัททุกเช้า แล้วอีกอย่างวันนี้ทีคอนัทมีรอยอะไรด้วย” ซีทำท่าท่างเขินๆเมื่อพูดถึงตรงนี้


“หือ รอยอะไร” ผมหันไปยืมกระจกแนนที่นั่งอยู่ข้างๆ เอามาส่องดูมันมีรอยจริงๆด้วยแต่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็นนะครับเพราะเสื้อมันปิดอยู่ แต่ซีก็ยังจะมาเห็นอีกอีกอย่างต้อมนี่มันแก้ไม่หายจริงๆนิสัยชอบแอบฝากรอยรักเนี่ย


ผมก็ได้แต่ยิ้มๆแหละครับมันก็อายเหมือนกัน แต่ทำไมซีถึงรู้เรื่องผมเยอะจังทั้งเรื่องที่ต้อมมาส่งด้วย แต่ช่างมันเถอะงานมันยุ่งเกินกว่าที่ผมจะเก็บเอามาคิด พรุ่งนี้ยังมีนัดกับพี่กันคุยงานกันอีกแล้วอีกอย่างถึงรู้ก็ไม่เห็นเป็นไรก็ผมมีแฟนแล้วจริงๆนี่นา แถมยังรักผมมากอีกด้วยแล้วผมจะกลัวอะไร


วันนี้พี่กันนัดผมที่เซ็นทรัลลาดพร้าวครับ เพราะพี่แกมีงานที่อื่นต่อเลยนัดเจอกันข้างนอก พอคุยงานกันเสร็จผมเลยคิดว่าจะแวะเข้าไปหาต้อมที่มหา’ลัยสักหน่อย รอกลับบ้านด้วยกันเลยเพราะผมไม่ต้องเข้าออฟฟิศแล้ว และกะว่าจะทำให้ต้อมแปลกใจด้วยไงครับ


ก่อนมาผมแวะซื้อขนมเค้กที่ S&P มาฝากต้อมด้วย ต้องเอาใจกันหน่อยช่วงนี้ยิ่งไม่ค่อยมีเวลาให้มันอยู่ด้วย แถมมันก็ไม่เคยบ่นอะไรอีกต่างหาก ผมมาถึงช่วงบ่ายๆผมจำได้ว่าต้อมยังไม่ถึงเวลาเรียนผมเลยเดินเข้าไปหาที่ซุ้ม ผมเห็นต้อมแต่ไกลแล้วครับมันนั่งหันหลังให้ผมที่กำลังเดินเข้าไปหาอยู่ มันนั่งคุยกับรุ่นน้องคนหนึ่งไม่ใช่หนุ่ยด้วยผมเห็นคุยกันอย่างสนิทสนมเชียว ผมเลยแกล้งเดินให้มันช้าลงเพื่อแอบสังเกตมันเพราะถ้าผมเข้าเขตซุ้มน้องคนอื่นๆที่เห็นผมก็ต้องทักจนมันรู้ตัวแน่ๆ


แล้วผมก็เห็นน้องคนนั้นโอบเอวมันไว้ที่แรกผมก็ไม่คิดอะไรนะเชื่อใจไงครับ แต่ก็นานแล้วนะมันยังไม่เอามือออกเลยแถมยังคุยกันอย่างสนุกสนานอีกด้วย ผมว่ามันชักจะยังไงๆอยู่นะอย่างนี้ ถึงว่ามันถึงไม่เคยว่าผมเลยช่วงที่ไม่ค่อยมีเวลาให้มันเพราะแบบนี้นี่เอง ตอนนี้ผมโมโหขึ้นมาทันทีผมรีบเดินเข้าไปหาทันทีน้องคนอื่นทักผมก็แค่หันไปพยักหน้ารับแค่นั้นเอง มันโมโหอยู่นี่ครับอยากรู้ว่าถ้าเห็นผมมันจะทำยังไงนี่ถ้าเห็นผมเข้า


จนผมเดินเข้ามาถึงที่โต๊ะมันยังไม่ปล่อยมือออกจากเอวต้อมเลยครับ ยิ่งเห็นแบบนี้จากแค่โมโหกลายเป็นโกรธแทนแล้ว


“อะ ซื้อมาฝากกะว่าจะแวะมากลับบ้านพร้อมกันซะหน่อย แต่เดี๋ยวกลับเองก็ได้ไม่รบกวนแล้ว” ผมโยนขนมให้มันที่โต๊ะ เห็นมันทำหน้าตกใจแต่ผมไม่ได้สนอะไรแล้วหันหลังเดินกลับออกมาทันที


ผมรีบเดินกลับออกมาเพื่อจะเรียกแท็กซี่หน้ามหา’ลัย แต่ก็มีคนมาดึงมือผมไว้ก็คงไม่ใช่ใครต้อมนะแหละครับที่มันวิ่งมาดึงมือผมไว้


“พี่นัทเป็นอะไรของพี่เนี่ย” ต้อมมันถามผม มันไม่รู้ตัวจริงๆหรือไงนะ


“ยังจะให้พี่ต้องพูดอะไรอีกหรอ ถ้าพี่ไม่มาหาก็คงจะไม่รู้แน่ๆคงจะโง่โดนหลอกอยู่นั่นแหละ” ผมโกรธมากแล้วตอนนี้ที่มันทำเป็นไม่รู้ว่าผมโกรธเรื่องอะไร


“หลอกอะไรใครหลอกพี่ ผมไม่เห็นจะเข้าใจเลย” มันยังทำหน้าไม่รู้เรื่องอีก


“จี้จ๋ากันขนาดนั้นยังต้องให้บอกอีกหรอไง ถึงว่าเดี๋ยวนี้เอาใจพี่มากเป็นพิเศษ” ผมเริ่มพาลไปทั่วแล้วตอนนี้ เห็นแบบนี้ใครจะทนไหว


“มันไม่ได้เป็นแบบที่พี่เห็นนะ ไม่มีอะไรจริงๆ”


“ไม่มีอะไรหรอเห็นหน้าบานกันทั้งคู่เลย แล้วจะให้พี่คิดยังไงละพี่น้องที่ไหนเขาโอบเอวกันแบบนี้บ้าง” ยิ่งพูดผมก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก


“พี่มีเหตุผลหน่อยสิครับ ฟังผมอธิบายบ้างสิ” โหมันว่าผมไม่มีเหตุผลอะคราวนี้ เมื่อก่อนให้ทะเลาะกันยังไงมันก็ไม่เคยจะว่าผมเลยนะ


“นี่เราว่าพี่ไม่มีเหตุผลหรอ ถ้างั้นเราก็ไปคุยกับคนที่มีเหตุผลก็แล้วกัน ปล่อยมือพี่เดี๋ยวนี้” ตอนนี้มันโกรธยิ่งกว่าโกรธแล้วครับ


“ผมว่าเรากลับไปคุยกันที่บ้านดีกว่า ผมไม่อยากทะเลาะกับพี่ที่นี่เดี๋ยวผมไปเรารถมารอผมอยู่นี่นะ” มันรีบวิ่งไปเอารถก่อนไปยังย้ำว่าให้ผมรออยู่ตรงนี้อย่าหนีไปไหนเด็ดขาด ถ้าเป็นคุณจะอยู่หรอครับ


ผมก็เรียกแท็กซี่ขึ้นไปทันทีตอนนี้ผมโกรธมันมากจริงๆ มันไม่เคยที่จะเป็นแบบนี้มาก่อนเลยตั้งแต่คบกันมา ที่มันเป็นแบบนี้มันเริ่มจะเบื่อผมแล้วใช่ไหม ไหนมันบอกว่าจะอยู่กับผมคนเดียวไงทำไมมันทำแบบนี้นะ หรือเพราะผมไม่มีเวลาให้มันเหมือนเมื่อก่อน แต่มันก็ต้องเข้าใจสิว่าผมต้องทำงานแต่ถึงผมทำงานผมก็พยายามหาเวลาให้มันตลอดนะครับ แล้วมันจะมาทำแบบนี้กับผมได้ยังไง ผมยังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้เพราะมันคงต้องไปรอผมที่บ้านแน่ๆ


“ซีหรอเลิกงานแล้วว่างไหมไปกินเหล้ากัน” ผมโทรหาซีบนรถแท็กซี่ ก็ผมไม่รู้จะชวนใครแล้วนี่ครับไอ้ตี๋กับไอ้แนทมันได้งานที่ต่างจังหวัดกันทั้งสองคนเลย นานๆมันจะกลับมาทีผมก็เลยโทรหาซีนี่แหละ


“ว่างสิแต่กินที่ไหนละ แล้วนึกไรขึ้นมาถึงอยากกินเหล้า ปกติไม่เห็นจะเคยกิน” ซีถามเพราะปกติเวลาพี่น้ำพาไปเลี้ยงหลังเลิกงานผมก็ไม่ค่อยกินเหล้า ก็ไม่อยากให้ต้อมมันเป็นห่วงนี่ครับแต่ตอนนี้คงไม่ต้องแล้วมันคงห่วงคนอื่นไปแหละ


“งั้นเจอกันที่ร้าน....นะ ชวนเก่งกับแนนไปด้วยสิ คนเยอะๆสนุกดี” ผมบอกซี ซีก็บอกเดี๋ยวจะชวนให้แล้วก็วางสายกันไป


ระหว่างที่นั่งรถไปร้านที่นัดกับพวกซีไว้ต้อมมันก็โทรเข้ามาหลายครั้งมาก แต่ผมไม่ได้รับหรอกครับยังไม่อยากได้ยินเสียงมัน จนสักพักเป็นเบอร์หนุ่ยโทรเข้ามาแทน มันคงให้เพื่อนมันโทรมาให้แน่ๆเอารับดูหน่อยว่าหนุ่ยจะพูดว่าไง


“ว่าไงหนุ่ย มีอะไรหรอ” ผมรับสาย


“พี่นัทอยู่ที่ไหนครับตอนนี้ ต้อมมันจะบ้าไปแล้วนะพี่” มันยังคิดถึงผมอยู่อีกหรอ


“มันยังจะห่วงพี่อีกหรอ มันไม่ได้ห่วงคนอื่นมากกว่าพี่แล้วหรือไง” ผมประชดใส่หนุ่ยซะงั้น


“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะพี่นัท ไอ้ต้อมมันไม่ได้มีไรกับน้องคนนั้นจริงๆ ผมก็อยู่ด้วยผมไม่ยอมให้มันนอกใจพี่หรอกครับ” หนุ่ยมันช่วยต้อมแก้ตัว


“เรามันเพื่อนกันนี่นะก็ช่วยกันปิดอยู่แล้วนี่ พอพี่ไม่อยู่ก็ไม่มีคนคิดถึงพี่สักคนหรอกพี่ว่า” ผมเหวี่ยงสุดๆแล้วตอนนี้


“ไม่ใช่แบบนั้นนะพี่ อีกอย่างน้องคนนั้นนะ...” ผมไม่อยากฟังที่หนุ่ยแก้ตัวให้ต้อมมันอีกแล้วผมเลยตัดสายทิ้งไป


หนุ่ยโทรกลับมาอีกแต่ผมก็ไม่รับแล้วละครับรับไปก็ช่วยกันแก้ตัวอีก ผมเห็นกับตาขนาดนี้แล้วถ้ายอมรับผมยังจะโกรธน้อยกว่านี้อีก เพราะคนเรามันเผลอตัวกันได้ถ้ากลับตัวได้ยอมรับผิดผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกครับผมมาถึงร้านที่นัดกับพวกซีไว้ก่อน พอดีร้านนี้มีคาราโอเกะด้วยผมเลยเข้าห้อง V.I.P. แล้วโทรไปบอกซีว่าอยู่ห้องไหน ผมสั่งเหล้ามากินก่อนเลยครับ ผมกินไปพอตึงๆแล้วซีก็มาถึงมีเก่งมาด้วยอีกคนส่วนแนนไม่ได้บอกที่บ้านไว้ก่อนเลยไม่ได้มา


พวกซีถามผมว่าคิดยังไงถึงชวนกินเหล้า ผมก็บอกแค่ว่าวันนี้นึกอยากกินแค่นั้นเอง พวกซีร้องเพลงกันสนุกสนานมากส่วนผมก็กินเหล้าอย่างเดียวเลยครับ หมดขวดผมก็สั่งเพิ่มอีกผมอยากกินให้มันเมาจะได้ลืมเรื่องพวกนี้เสียที ตื่นมาผมคงจะใจเย็นคุยกับต้อมได้แล้ว


ผมไม่รู้ว่ากินไปกี่ขวดแล้วรู้แต่ว่าผมเมามากแล้ว แล้วพวกซีกับเก่งก็ท่าทางจะเมาแล้วเหมือนกัน ผมเลยชวนกลับกันเพราะดึกมากแล้วอีกต่างหาก เก่งแยกกลับไปคนเดียวเพราะบ้านไปคนละทางกับบ้านผมและซี ส่วนผมกลับกัยซีเพราะพอผมลงบ้านแล้วซีจะได้นั่งแท็กซี่ต่อไปบ้านมันเลยยังไงบ้านผมก็ทางผ่านอยู่แล้วจะได้แชร์ค่ารถด้วย พอขึ้นรถไปได้สักพักผมก็หลับครับก็เมามากขนาดนั้นนี่ครับ



ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
ตอนที่22

ผมรู้สึกปวดหัวมากเลยตอนนี้คงเพราะเหล้าเมื่อคืนแน่ๆ แต่ว่าทำไมต้อมไม่ปลุกผมอาบน้ำไปทำงานนะ ผมเลยลืมตาขึ้นมามองหาต้อม แต่ทำไมมันไม่คุ้นตาเลยผ้าปูที่นอนกับปลอกหมอนสีฟ้าลายการ์ตูนสดใส ผมได้สติขึ้นมาทันทีเลยตอนนี้เพราะผมไม่รู้ว่าผมอยู่ที่ไหนนะสิครับ ผมเริ่มมองสำรวจรอบๆห้องเป็นห้องที่ไม่ใหญ่มากมีตู้เสื้อผ้ากับโต๊ะเครื่องแป้งตั้งอยู่ที่มุมห้อง มีโทรทัศน์กับเครื่องเสียงอยู่ที่ปลายเตียง ระหว่างที่ผมกำลังสำรวจรอบๆห้องอยู่นั้น


“อ่าวตื่นแล้วหรอนัท กำลังว่าจะเข้ามาปลุกพอดี” ซีเปิดประตูเข้ามา ท่าทางเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จเพราะยังนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่เลย


“เรามาอยู่นี่ได้ยังไงละ” ผมหันไปถามซีทันที


“อ๋อ นี่บ้านเราเองก็เมื่อคืนนัทหลับบนรถเราปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น เราไม่รู้จักบ้านนัทด้วยเราก็เลยพามาบ้านเราก่อน” ซีหันมายิ้มให้ผมแล้วหันกลับไปแต่งตัวต่อ
ผมพอจะเข้าใจเรื่องแล้วแต่ตอนนี้ผมเริ่มเป็นห่วงต้อมแล้วครับ เพราะปกติเราทะเลาะกันยังไงก็กลับบ้านครับ คุยกันที่บ้านเคลียกันที่บ้านมากกว่า แต่คราวนี้ผมไม่ได้กลับบ้านต้อมมันคงเป็นห่วงผมมากแล้วแน่ๆเลย ผมเลยล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกง แต่ผมกลับหากระเป๋ากางเกงไม่เจอผมเลยก้มลงมอง เฮ้ยนี่ทำไมผมมาใส่ชุดนอนสีฟ้าลายสก๊อตได้ยังไงกัน ผมกำลังจะถามซี


“ชุดเราเอง เราเปลี่ยนให้นัทเอง ดีนะที่เราชอบใส่ชุดนอนตัวใหญ่นัทใส่ได้พอดีเลย” แล้วมันจะมาเปลี่ยนชุดให้ผมทำไมกันเนี่ย ผมเลยถามหาชุดของผมซีก็ชี้ไปที่ราวตากผ้าที่อยู่ข้างๆเตียง


ผมรีบลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ผมถอดตรงนั้นเลยแหละครับเพราะผมไม่ได้อายอะไรอยู่กับเพื่อนก็ทำกันแบบนี้ทั้งนั้น ผมเห็นซีแอบมองอยู่ด้วยแต่ผมไม่ได้สนใจอะไรเพราะผมกำลังรีบ ผมอยากกลับบ้านให้เร็วที่สุดแล้วตอนนี้ พอเปลี่ยนเสร็จผมก็บอกซีกลับบ้านก่อนแล้วผมก็ออกมาเลย พอขึ้นแท็กซี่ได้ผมหยิบโทรศัพท์มาดูต้อมโทรมาร้อยกว่าครั้งได้ ป่านนี้มันคงกลุ้มใจแย่แล้วแน่ๆ


ผมคิดว่าจะโทรหาต้อมแค่ผมโทรหาพี่น้ำก่อนดีกว่าเพราะจะลาหยุดวันนี้ พอผมตัดสินใจได้ก็โทรหาพี่น้ำทันทีบอกว่าไม่ค่อยสบายขอลาหยุดพี่น้ำก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่บอกว่าให้ส่งเมลที่ไปคุยกับพี่กันมาให้ด้วยผมก็รับปาก หลังจากคุยเสร็จผมก็โทรหาต้อมต่อทันที แต่มันดังครั้งเดียวพอต้อมรับเครื่องมันก็ดับไปเลย โอ๊ย ทำไมแบตมันต้องมาหมดตอนนี้ด้วยนะ แบบนี้ต้อมยิ่งคิดมากขึ้นอีกแน่ๆมันยิ่งเป็นคนคิดมากอยู่ด้วย


ผมบอกให้แท็กซี่เร่งความเร็วหน่อยเพราะผมรีบ บ้านซีก็อยู่ตั้งสะพานควายเช้าๆรถติดด้วย ผมกลับมาถึงบ้านเกือบเก้าโมงเช้าแต่รถต้อมยังอยู่แสดงว่าไม่ได้ไปเรียน ผมเห็นรถหนุ่ยจอดอยู่นอกบ้านผมด้วยมันคงมาอยู่เป็นเพื่อนต้อมแน่ๆเมื่อคืนนี้ ผมกำลังไขประตูเข้าบ้านประตูก็เปิดออกมาทันทีเป็นต้อมที่เปิดประตูออกมา มันโผเข้ามากอดผมทันทีที่เห็นว่าเป็นผม


“พี่นัทหายไปไหนมา พี่นัทอย่าหนีผมไปไหนอีกเลยนะ” ต้อมมันกอดผมแน่นมากแล้วมันก็ร้องไห้ออกมาหน้าซบอยู่ที่ไหล่ผม


“พี่ไม่ได้หนีไปไหนหรอก พี่กลับมาแล้วนี่ไง” ผมกอดตอบแล้วเอามือลูบหัวมันเพื่อปลอบใจ ตอนนี้ผมลืมเรื่องที่โกรธมันไปหมดแล้วเห็นมันเป็นแบบนี้


ผมยืนปลอบมันสักพักจนรู้สึกว่ามันดีขึ้นแล้วก็เข้ามาในบ้านกัน พอเข้ามาถึงก็เห็นหนุ่ยนั่งอยู่กับน้องคนที่ผมเห็นกอดเอวต้อมเมื่อวาน แล้วมันมาอยู่นี่ได้ไงกันผมหันไปมองหน้าต้อม


“พี่นัทนี่น้องชายผมเองครับ ชื่อเนย คนที่ไปช่วยต้อมเลือกสร้อยพี่ตอนนั้นไงครับ” หนุ่ยพูดทันทีที่เห็นผมทำหน้าสงสัย เนยก็ยกมือไหว้ผมผมก็รับไหว้


“ผมจะบอกพี่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่บอกไม่ทันพี่ตัดสายไปก่อน” หนุ่ยพูดต่อ สงสัยผมจะเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบที่ต้อมมันว่าจริงๆนั่นแหละ พอโกรธก็ไม่ยอมฟังอะไรเลยผม


หลังจากที่ผมเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้วหนุ่ยกับน้องมันก็ขอตัวกลับก่อน พอหนุ่ยกลับไปแล้วต้อมก็ดึงมือผมมานั่งที่โซฟา ตามันยังแดงจากที่ร้องไห้เมื่อกี้อยู่เลยผมเห็นแล้วก็อดสงสารไม่ได้ ผมทำมันทุกข์ใจเพราะผมอีกแล้ว


“เมื่อคืนพี่หายไปไหนมา ผมตามหาจนทั่วโทรไปที่ออฟฟิศเขาก็บอกไม่รู้ ผมต้องเป็นบ้าแน่ๆถ้าวันนี้พี่ไม่กลับมา” ต้อมยังไม่หายหน้าเครียดเลยตอนนี้


แล้วผมจะบอกยังไงดีละถ้ามันรู้มันจะโกรธผมไหมนี่ แต่ผมคงต้องบอกความจริงมันไปแหละไม่อยากมีปัญหาที่หลังอีกผมเลยเล่าเรื่องเมื่อคืนให้ต้อมฟังทั้งหมด แต่ไม่ได้เล่าเรื่องที่โดนเปลี่ยนเสื้อผ้านะครับใครจะกล้าเล่าละครับเรื่องแบบนั้น


“พี่นัทถ้าต่อไปพี่นัทเมาเหล้าต้องโทรหาผมได้ไหม พี่สัญญากับผมได้ไหม” ต้อมจ้องผมตาเขม็งเลยครับ


“พี่สัญญาก็ได้ว่าต่อไปถ้าพี่เมาเหล้าจะโทรหาเราคนแรก” แล้วถ้าผมเมาหลับผมจะโทรยังไงหว่าลืมคิดข้อนี้ไปเลย


หลังจากคุยกันจนเข้าใจผมก็ชวนต้อมไปอาบน้ำเพราะมันยังอยู่ในชุดนักศึกษาอยู่เลย ผมก็ไม่ได้อาบตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว(ผมคิดว่าซีมันคงไม่ได้อาบน้ำให้ผมหรอกนะ) หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็เอาnotebook มาทำงานบนที่นอน ผมมีโต๊ะที่คล้ายๆโต๊ะกินข้าวในโรงพยาบาลนะครับที่มันมีขาข้างเดียวแล้วเป็นแทนยื่นออกมานะครับ เอาไว้นั่งทำงานบนที่นอนจะได้ไม่ต้องนอนทำให้ปวดหลัง ผมบอกว่าขอส่งงานให้พี่น้ำก่อนวันนี้ลางานหนึ่งวันอยากอยู่กับแฟน หยอดคำหวานซะหน่อยทำผิดไว้นี่ครับ ต้อมมันก็เลยโทรไปให้หนุ่ยลาอาจารย์ให้มันเหมือนกัน


ต้อมนอนหนุนตักผมตอนที่ผมกำลังส่งเมลให้พี่น้ำ พอผมส่งเมลเสร็จต้อมก็หลับไปแล้วคงเพราะเมื่อคืนไม่ได้นอนแน่ๆ ผมค่อยๆขยับตัวเพื่อเลื่อนโต๊ะทำงานออกไปแล้วทิ้งตัวนอนบ้างสักพักก็หลับไปโดยที่ต้อมยังนอนอยู่ที่ตักผม ผมก็หลับตามไปบ้างคงเพราะเหล้าที่กินไปเมื่อคืนนี้แน่ๆ


ผมมารู้สึกตัวก็ตอนที่ต้อมมันจูบผม ผมลืมตาขึ้นมามองผมเห็นเสื้อผ้าผมกองอยู่ที่ปลายเท้า มันถอดเสื้อผ้าผมตั้งแต่เมื่อไหร่กันทำไมผมรู้เรื่องเลย


“ตื่นจนได้ ขนาดผมถอดเสื้อผ้าหมดแล้วยังไม่รู้ตัวเลย อย่างนี้ต้องตรวจร่างกายหน่อยแล้วว่าใครแอบทำอะไรพี่นัทหรือเปล่า” อ่าวนี่มันแอบไปเรียนหมอมาตั้งแต่เมื่อไหร่ จะมาตรวจร่างกายคนอื่นเขาแบบนี้


ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรตอบต้อมมันก็จูบผมอีกครั้ง แล้วมันก็สำรวจร่างกายผมจริงๆครับมันจูบลงทุกส่วนของร่างกายผมเลย ผมงี้เสียวจะแย่เลยพอมันตรวจผมจนทั่วทั้งตัวแล้วมันก็มาทักทายเบจิต้าผมทันที มันบอกว่าตรงนี้ต้องตรวจเชิงลึกนะครับแล้วมันก็ใช้ลิ้นตรวจทันที ต้อมมันลงลิ้นแทบจะทุกตารางนิ้วของเบจิต้าผมเลยครับโดยเฉพาะที่หัวของเบจิต้า ทำเอาผมต้องบิดตัวเพื่อลดความเสียวลงไปบ้าง พอผมจะไม่ไหวแล้วต้อมก็จะหยุดทันทีแล้วไปตรวจที่อื่นแทน


ต้อมทำอย่างนี้อยู่สองสามหนจนผมบอกว่าไม่ไหวแล้วอย่าแกล้งผมอีกเลย สงสัยมันจะแก้แค้นผมเรื่องเมื่อคืนแน่ๆ พอต้อมเห็นผมเป็นแบบนี้แล้วก็ขยับตัวมาขึ้นคร่อมผม แล้วเอาเบจิต้าผมเข้าไปในตัวมันทันที วันนี้ดูท่าทางต้อมจะมีอารมณ์มากเป็นพิเศษเพราะในตัวต้อมตอดรัดอย่างมากเลยวันนี้ ต้อมอยู่อย่างนั้นสักพักก็เริ่มโยกตัวจากช้าแล้วเร็วขึ้นตอบรับกับการยกเอวขึ้นของผม สักพักผมก็ทนไม่ไหวแล้วครับก็เบจิต้าผมโดนต้อมกดดันด้วยปากมาสองสามหนแล้วนี่ครับ พอผมบอกต้อมว่าไม่ไหวจะระเบิดพลังแล้วต้อมก็เอาเบจิต้าผมออกมาจากภายในเขา แล้วก็กลับตัวก้มลงไปใช้ปากให้ผมต่อทันที แล้วหันเอาโงกุนของมันมาที่หน้าผมผมก็เลยทักทายโงกุนสักหน่อย ผมเอาโงกุนเข้าไปในปากจนหมดดุท่าทางต้อมจะเสียวมากเหมือนกันเห็นครางออกมาทั้งๆที่เบจิต้าผมยังอยู่ในปาก ผมเห็นแบบนี้ยิ่งเสียวไปใหญ่จนระเบิดพลังออกมาต้อมก็กินพลังผมไปจนหมด


“ผมจะเมาไหมนี่ รสเหล้าออกมาเลยเมื่อคืนกินเยอะขนาดไหนเนี่ย” ต้อมมันหันมาบอกหลังจากที่กินพลังของผมไปจนหมด ผมเพิ่งรู้นะนี่ว่ามันเปลี่ยนรสได้ด้วย
ผมไม่ได้ตอบหรอกครับก็โงกุนมันอยู่ในปากนี่นา แล้วต้อมก็ลุกขึ้นหันหน้ามานั่งคร่อมบนอกผมแทน ตอนนี้โงกุนมันยื่นหน้ามาหาผมแล้วครับ ผมก็เลยยกหัวเอาปากไปทักโงกุนอีกรอบ แต่คราวนี้ไม่ต้องไรมากเพราะต้อมส่งโงกุนเข้าออกปากผมเอง ต้อมดูเสียวมากๆครางออกมาตลอดเวลาเลย เรียกชื่อผมตลอดด้วยเช่นกัน
ต้อมส่งโงกุนเข้าปากผมสักพักก็เอาออกเลื่อนตัวลงมาอยู่ที่หว่างขาผมแล้วตอนนี้ ต้อมเอาหมอนลองก้นผมไว้แล้วเอาขาผมพาดไว้ที่เอว แล้วต้อมก็เอาโงกุนเข้ามาในตัวผมอย่างช้าๆ พอโงกุนเข้ามาจนหมดแล้วต้อมก็เริ่มโยกสะโพกทันที จากช้าๆจนผมครางออกมาต้อมก็เริ่มเร่งจังหวะเร็วมากขึ้น ผมเสียวมากจนเอามือไปจิกไว้ที่ต้นขาของต้อม แต่มันเหมือนเป็นการกระตุ้นมันเลยครับมันกลับยิ่งเร่งจังหวะเร็วมากขึ้นอีก จนผมต้องครางเรียกชื่อมันออกมาตลอดเหมือนกัน


ครั้งนี้ผมเสียวมากจนผมต้องระเบิดพลังออกมาอีกรอบ โดยที่ต้อมไม่ได้ทำอะไรให้ผมเลยผมคิดว่าตอนนี้ในตัวผมก็คงจะรัดโงกุนจนแน่นแล้วแน่ๆ ผมเห็นต้อมเร่งจังหวะแล้วก็เปลี่ยนมาเน้นอีกสองสามครั้งก่อนจะล้มตัวลงมานอนทับตัวผมไว้ เราสองคนหายใจหอบแข่งกันเลยครับตอนนี้


“พี่นัทผมรักพี่นะครับ รักมากด้วย” ต้อมหายใจหอบพูดข้างหูผม


“พี่ก็รักเรามากนะ” ผมก็ไม่ต่างจากต้อมเท่าไหร่หรอกครับ


หลังจากหายเหนื่อยเราก็ไปอาบน้ำกันแล้วออกไปกินข้าวนอกบ้านกัน ก่อนกลับแวะดูหนังกันอีกรอบต้องเอาใจกันหน่อยครับ กลับมาถึงบ้านตอนก่อนนอนต้อมขอเข้าไปในออฟฟิศผมพรุ่งนี้ มันบอกว่าจะไปขอบคุณซีที่ช่วยดูแลผมเมื่อคืน อืมมันคิดอะไรของมันหว่าแต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรครับดีซะอีกมันจะได้รู้จักคนในออฟฟิศผมด้วย


ตอนเช้าผมก็พาต้อมเข้ามาในออฟฟิศด้วยกันครับ ทุกคนก็หันมามองต้อมคงคิดว่าผมพาใครมาด้วยแน่ๆ ต้อมมันยกมือไหว้พี่น้ำเพราะมันเคยเจอพี่น้ำแล้วครั้งหนึ่ง


“พาน้องมาเที่ยวออฟฟิศหรอนัท” พี่น้ำถามผม เพราะเห็นว่าต้อมใส่ชุดนักศึกษาด้วยมั้งครับ


“เออ..” ผมกำลังจะตอบต้อมก็แทรกขึ้นมาทันที “ผมเป็นแฟนพี่นัทครับไม่ใช่น้อง” เฮ้ย มันมาไม้ไหนเนี่ย อยู่ๆก็มาประกาศตัวซะงั้น หรือว่านี่คือจุดประสงค์ที่มันอยากมาออฟฟิศผมวันนี้ คราวนี้ทุกคนหันมามองหน้าผมกันหมดแล้ว คราวนี้ผมจะทำยังไงละครับ

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
ตอนที่23


งานเข้าผมแล้วครับตอนนี้ก็ต้อมเล่นเข้ามาประกาศตัวถึงที่ออฟฟิศผมเลย ตอนนี้ทุกคนมองผมเป็นตาเดียวกันแล้วครับ ผมสังเกตเห็นโดยเฉพาะซีมองหน้าผมแบบแปลกๆ หรือว่ามันจะไม่ชอบที่ผมเป็นเกย์กันแน่เมื่อวานยังพาผมไปค้างที่บ้านมันอีกด้วย


“จริงหรอนัท” พี่น้ำหันมาถามผม หลังจากที่อึ้งกับคำพูดต้อมสักพัก


แล้วจะให้ผมตอบว่ายังไงละครับเพราะมันเป็นความจริงแถมเจ้าตัวเขามาบอกเองถึงที่เลยนะ ผมก็พยักหน้าแทนคำตอบถ้าเกิดเขาไม่ชอบผมคงตกงานแน่คราวนี้ เฮ้อยิ่งคิดยิ่งกลุ้มใจจริงๆ


“เออ เจ๋งว่ะมันกล้าเอามาเปิดตัวกันเลย ดีแล้วไม่ปิดบังกันแบบนี้พี่ชอบ” เออเอากับเขาสิดันถูกใจซะอีก ผมบอกแล้วพี่น้ำอะนิสัยแมนโคตร ผมโล่งใจไปเปาะหนึ่งแล้วครับ ที่นี้ก็เหลือแต่เพื่อนกับน้องที่ทำงานจะว่ายังไง


ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงต้อมมันแล้วพี่น้ำถูกใจมันมากชวนมันนั่งคุยไปแล้ว ผมสิยืนมองหน้าคนอื่นๆอยู่คนเดียว

 
“พี่นัทมีแฟนหล่อขนาดนี้ไม่บอกกันเลยนะ เงียบมาได้ตั้งนานคนนี้เปล่าที่มาส่งทุกเช้า” แนนเปิดประเด็นก่อนเลย


หลังจากนั้นผมก็โดนยิงคำถามอีกชุดใหญ่จากทุกคนเลยครับ ยกเว้นซีที่ดูเงียบๆไปนิดหรือมันจะรับผมไม่ได้ก็ไม่รู้ เพราะมันมีแฟนแล้วครับเป็นผู้หญิงหน้าตาน่ารักดี ผมเคยเจอสองสามครั้งตอนที่ทำงานนอกสถานทีแล้วเขาแวะมาหาซีนะครับ แต่ใครก็ไม่เท่าแนนกับวุฒิหรอกครับที่ทึ่งมากเมื่อรู้ว่าผมกับต้อมคบกันแบบเปิดเผยมาก เพราะพ่อแม่เรารู้กันทั้งสองฝ่ายเลยนี่ครับ แถมเรายังอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปีแล้วด้วย


ต้อมขอตัวไปเรียนก่อนพี่น้ำเลยเดินมาคุยกับผมบ้างคราวนี้


“เออนัทพี่ชอบคู่เราดีวะ จริงใจดี ทำตัวเหมือนเดิมนะแหละไม่มีใครว่าอะไรหรอก ออกจะหน้าอิจฉาด้วย ทำได้ไงวะมีแฟนเด็กแถมยังหล่อขนาดนี้” โห ดูพี่แกพูดสิครับทำอย่างกับว่าผมไปหลอกเด็กมาซะงั้น


“ผมก็ชมรมเดียวกับพี่แหละครับ ชมรมคนรักเด็กแต่ของผมยังห่างกันแค่ปีเดียว สู้พี่ไม่ได้หรอกครับ” หึหึ เอาคืนซะหน่อยแซวเราดีนัก ของตัวเองอะเด็กกว่าตั้งห้าหกปีทำไม่พูดมาแซวเราได้


“อ่านะ ย้อนพี่แล้วไหมละ ของพี่ไม่ได้หลอกมันอะหลอกพี่ต่างหาก ดูหน้ามันดีแก่กว่าพี่อีก” พวกเราหัวเราะกันหมดเลยครับแต่วุฒิสิอายไปเลย แถมยังบอกพี่น้ำว่าฝากไว้ก่อนทีใครทีมัน แต่จริงๆวุฒิก็ไม่ได้หน้าแก่อยากที่แกบอกหรอกครับ ออกจะหน้าใสด้วยซ้ำไปแต่แค่แก่แดดทางความคิดไปหน่อย(หุหุของแอบว่าสักหน่อย)
วันนี้ทั้งวันผมโดนถามแต่เรื่องต้อมตลอดเลยผมเลยบอกว่าวันหลังจะทำเป็นสารคดีมาแจก แต่ซียังดูเหมือนแปลกไปนิดๆอยู่ดี ผมก็ยังไม่มีโอกาสถามด้วยงานก็เยอะหยุดไปวันกลับมางานเต็มโต๊ะเลย จนเลิกงานผมกับซีและเก่งจะกลับพร้อมกันทุกวันครับก็แค่เดินออกมาปากซอยด้วยกันแล้วมาแยกกันที่ป้ายรถเมล์ แต่วันนี้เก่งยังทำงานไม่เสร็จผมเลยกลับกับซีก่อนผมจะได้มีโอกาสคุยกับซีสักที ผมอยากรู้ว่าเขาจะไม่ชอบที่ผมเป็นแบบนี้หรือเปล่า


“ซีมีอะไรจะพูดกับเราหรือเปล่า เราเห็นซีแปลกๆไปตั้งแต่รู้เรื่องต้อมนะ” ผมไม่รู้จะยังไงนี่ครับเลยถามไปตรงๆแบบนี้แหละ


“ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่เราแอบอิจฉาต้อมเท่านั้นเอง” ซีพูดเสียงเบามากจนผมไม่ค่อยได้ยิน เพราะริมถนนเสียงก็ดังมากอยู่แล้ว ผมเลยได้ยินแค่ประมาณว่าอิจฉาคู่ผมอะไรแบบนี้อะครับ


“จะมาอิจฉาพวกเราทำไม ซีเองก็มีแฟนน่ารักออกแถมยังเปิดเผยได้ง่ายกว่าเราอีก” ผมหันไปยิ้มให้


“อืมคงจะอย่างนั้นแหละ แต่ว่านัทไม่อายหรอถ้าคนอื่นเขารู้ แล้วเขาไม่ชอบนัท”


“ก็ไม่นะเรามีคนที่รักเรามากขนาดนี้จะอายทำไม เราเปิดเผยมาตั้งแต่สมัยเรียนแล้วคนที่อายน่าจะเป็นต้อมมากกว่านะที่มีแฟนหน้าตาแย่ๆแบบเรา ส่วนคนไม่ชอบมันก็เรื่องของเขาสิ อีกอย่างเราไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครด้วย” ผมหันไปบอกซีเดินหันหน้ามาตั้งใจฟังค่อยหันไปมองทางเป็นระยะๆ


“ไม่เห็นจะน่าอายเลยถ้าได้คบกับนัท ถ้าเจอกันครั้งแรกนัทดูธรรมดาก็จริง แต่ลองได้มาคุยกับนัทสิรับลองใครก็ต้องหลงนัททุกคนแหละ” นี่จะเวอร์ไปหรือเปล่าเนี่ย แล้วอยู่ดีๆมาชมผมทำไมเนี่ยมันเขินนะครับ


“อ่านะ ชมกันแบบนี้เดี๋ยวเราก็ลอยหรอก จับไว้หน่อยแล้วกันเดี๋ยวลอยสูงไปจะแย่เอา” แล้วผมก็เอามือจับไหล่ซีไว้เหมือนว่ากันตัวเองจะลอยได้ ซีเริ่มที่จะยิ้มออกแล้ว ผมคิดว่ามันคงยังตั้งตัวไม่ทันเรื่องของผมแหละครับ แต่ตอนนี้คงจะดีขึ้นแล้ว


ผมกลับมาถึงบ้านเจอตัวต้นเหตุนั่งรอผมอยู่ที่บ้านแล้ว ผมกลับบ้านมาถึงมันก็เข้ามากอดผมก่อนเลยครับ


“ไม่ต้องมาอ้อนเลยเรา วันนี้คิดยังไงทำแบบนี้หา ถ้าเขาไม่ชอบแล้วให้พี่ออกจากงานจะว่ายังไงหือ” ผมดุต้อมทั้งๆที่มันยังกอดผมอยู่


“ก็ดีสิครับพี่นัทจะได้อยู่กับผมคนเดียว แต่ก็ไม่มีอะไรไม่ใช่หรอ” ดูมันยังไม่สำนึกสักนิดเลย


“อืมก็ถือว่าโชคดีไป ทำอะไรคราวหน้าบอกพี่ก่อนนะ เล่นแบบนี้หัวใจจะวายเอา” ผมพูดจบมันก็หอมแก้มผม มันอ้อนใหญ่เลยมันรู้ว่าผมต้องเคืองมันไงครับ
มันชวนผมไปกินข้าวมันเตรียมไว้แล้ว ตอนจะเดินไปมันก็เปลี่ยนมากอดด้านหลังผมแล้วเดินตาม ทำยังกะลูกลิงเลยมัน


“พอแหละ พี่ไม่ได้โกรธหรอกมันเดินลำบาก” ผมหันไปบอกแต่ต้อมมันไม่ได้ฟังผมเลย เดินแบบนั้นมาจนถึงโต๊ะกินข้าวเลยครับ


มันเอาใจผมทุกอย่างเลยครับเรียกว่าวันนี้จะหยิบอะไรต้อมมันทำให้หมดเลยครับ นี่แหละวิธีอ้อน&ง้อของมันทำที่เดียวทั้งสองแบบอะครับ จนถึงเข้านอนเลย


“สบายใจยังทีนี้ เขารู้หมดแล้วว่าพี่มีแฟนเป็นเรา พี่น้ำบอกเราหล่อหล่อตรงไหนนะ ดำก็ดำ” ผมแกล้งว่ามัน


“ถ้าไม่ชอบดำแล้วมารักผมทำไมละ” อ่าวมันงอนกลับซะแล้ว เรื่องดำนี่ว่าไม่ได้เลยนะครับ


“อืมใช่ไม่ชอบหรอก” ผมยังแกล้งมันต่อ มันนอนหันหลังให้ผมทันทีเลยครับตอนนี้ 555 แกล้งง่ายจริงๆ


“ก็ไม่ได้ชอบจริงๆ แต่รักเลยละรักมากด้วย” ผมชะโงกหน้าไปกระซิบที่ข้างหูมัน แล้วหอมแก้มไปอีกทีก่อนล้มตัวลงนอน


มันหันหน้ากลับมาหาผมแล้วทีนี้ยิ้มหน้าบานเลย “พูดจริงนะ” มันยังมาถามย้ำอีกดูมันสิ ผมพยักหน้าแล้วก็กอดมันไว้


“ไม่เอาพยักหน้า พูดใหม่เลย” แหนะได้คืบจะเอาศอกจริงๆมัน “ก็บอกว่ารักเลยไงคราบบบบรักมากด้วย ได้ยินชัดยัง” ผมพูดซ้ำ มันยังนอนยิ้มอยู่นั่นแหละท่าจะบ้าไปแล้วแฟนผม


หลังจากวันนั้นที่ต้อมไปเปิดตัวมันก็มักจะแวะไปหาผมที่ออฟฟิศบ่อยๆถ้าว่าง มันมาช่วยงานผมเรื่องเอกสารด้วยครับพี่น้ำก็ไม่ได้ส่าอะไร ก็มันไม่ได้มากวนนี่นาแถมยังมาช่วยทำงานอีกต่างหาก แบบนี้เขาเรียกจ้างหนึ่งได้สองนะนี่กำไรเห็นๆแล้วแกจะว่าทำไมละครับ ต้อมก็สนิทกับทุกคนในออฟฟิศผมแล้วครับโดยเฉพาะซี
ช่วงนี้ใกล้สอบไฟนอลผมเลยไม่ให้ต้อมไปหาที่ออฟฟิศอีก ให้อ่านหนังสือรอที่บ้านกลับมาผมจะติวให้อีกที เพราะผมอยากให้ต้อมผ่านแล้วได้คะแนนดีๆด้วยครับ ผมวางแผนการเรียนให้ต้อมแล้วครับจาก 5 ปี เหลือสี่ปีครึ่งมันจะได้จบแล้วมาทำงานด้วยกันเร็วๆ


ช่วงนี้ผมเลยเหนื่อยเป็นสองเท่าเลยครับทั้งเรื่องงานเรื่องติวให้ต้อม บางวันสามเท่าเลยครับถ้าเราเติมความรักให้กัน ช่วงที่ต้อมไม่ได้มาที่ออฟฟิศซีก็จะเข้ามาหาผมเยอะขึ้น ซีดูเหมือนจะช่วยงานผมเยอะขึ้นนะครับตั้งแต่วันที่รู้ว่าผมเป็นเกย์ สงสัยจะทำแก้ตัวที่ตอนแรกทำเหมือนไม่ชอบผมละมั้ง อันนี้ผมคิดเอาเองนะครับ
ก่อนวันที่ต้อมจะสอบวันสุดท้ายผมมีงานที่ต้องไป showcase ของพี่กันที่มหา’ลัยแถวบางนาสองวัน มันไกลจากที่บ้านมากถ้าไปกลับก็ไม่คุ้มเพราะต้องนั่งแท็กซี่อย่างเดียว ผมเลยของบพี่น้ำนอนโรงแรมที่แรกมีผมคนเดียว แต่ตอนหลังซีขอพี่น้ำว่าจะตามไปช่วยผม และเรียนเรื่องเทคโนโลยีจากผมอีกทีด้วยพี่น้ำก็อนุญาต
ต้อมก็อยากมาด้วยใจจะขาดแต่ติดว่าต้องไปสอบครับ เลยจำใจต้องอยู่บ้านคนเดียวผมบอกว่าจะโทรหาจนกว่าจะนอน ตอนกลางวันผมต้องคอยอธิบายถึงพวกเทคโนโลยีใหม่ๆให้พวกนักศึกษาฟัง ซีจะเป็นคนคอยเปิด DEMO ต่างๆที่พี่กันจัดให้มา จนประมาณบ่ายสี่โมงเราก็เก็บของกันกว่าจะเสร็จตั้งห้าโมงกว่าแล้ว ก็ของมันเยอะแล้วราคาแพงด้วยต้องเก็บมิดชิดหน่อยหายไปชิ้นโดนหักเงินเดือนหลายเดือนแน่นอนพวกผม


เราโทรเรียกแท็กซี่มารับไปโรงแรมที่โทรจองไว้ เข้ามาถึงที่โรงแรมผมจองผมเดินที่เช้าไปที่ประชาสัมพันธ์


“ผมชื่อ ณัฐ..... ...... จองไว้สองห้องครับ” ผมเดินเข้าไปบอกที่ฟรอนท์ เพื่อขอกุญแจห้อง


“คุณณัฐ..... ทางเราขอโทษด้วยจริงๆนะคะ พอดีเราเหลือห้องเดียวคะ ทางเราไม่ได้โทรไปแจ้งก่อน” พนักงานรีบขอโทษผมใหญ่เลย อืมแล้วจะเอายังไงดีละทีนี้นี่ก็มืดแล้วด้วย แล้วทำไมมันต้องมาเต็มวันนี้ด้วยนะไม่เห็นจะมีคนเท่าไหร่เลยมันเต็มได้ไงหว่า


ผมเลยไปบอกซีว่าเหลือห้องเดียวคงต้องนอนด้วยกัน ซีบอกไม่เป็นไรนอนได้ไม่ได้คิดอะไร แต่ผมสิคิดเพราะกลัวต้อมจะว่าไรหรือเปล่า แล้วคิดว่าซีเขาจะกลัวว่าผมจะแอบทำไรเขาหรือเปล่าอีกด้วย เพราะห้องที่ว่างเป็นเตียงเดียวไม่ใช่เตียงคู่ด้วย ผมก็ต้องตกลงอยู่ดีผมขี้เกรียดไปหาที่อื่นแล้วตอนนี้ เหนื่อยอยากนอนมากเลยตอนนี้


พอขึ้นไปถึงบนห้องผมก็โทรบอกต้อมก่อนเลยครับ จะได้ไม่มีปัญหาที่หลังต้อมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมันก็สนิทกับซีอยู่เหมือนกัน ตอนที่ผมคุยโทรศัพท์กับต้อมซีก็เข้าไปอาบน้ำแล้วมานอนที่เตียงอีกฝั่งที่ผมนั่งอยู่ ผมคุยกับต้อมนานมากจนผมเห็นว่าซีหลับไปแล้วผมเลยจะอาบน้ำบ้าง ผมจะว่างโทรศัพท์ต้อมมันก็ไม่ให้ว่ามันบอกว่าให้เอาเข้าห้องน้ำไปด้วยหันก็กำลังจะอาบน้ำ จะได้เหมือนอาบน้ำพร้อมกันเหมือนทุกวันอ่านะมันก็คิดของมันได้เนอะ


ผมก็ต้องตามใจสิครับทีผมขออะไรมันยังให้ผมได้เลย แล้วผมเห็นว่าซีหลับแล้วด้วยไงครับเลยกล้าทำ แต่ต้อมสิมันยิ่งกว่านั้นอีก พออาบน้ำมันชวนผมมีเซ็กโฟนกันอีกมันบอกเปลี่ยนบรรยากาศมั่ง แต่ผมบอกว่าเดี๋ยวซีได้ยินมันก็บอกว่าซีหลับแล้วไม่ได้ยินหรอก ให้ผมทำเบาๆก็ได้เอากับมันสิเรื่องแบบนี้หัวครีเอตจัง มันอ้อนจนผมต้องยอมมันจนได้แต่ก็ตื่นเต้นและเสียวไปอีกแบบนะครับ เพราะผมกลัวซีจะได้ยินด้วยพอโงกุนกับเบจิต้าของผมระเบิดพลังด้วยมือของตัวเองทั้งคู่ ผมก็ขอวางโทรศัพท์เพื่ออาบน้ำแล้วบอกให้มันนอนเลยด้วยเพราะพรุ่งนี้มันมีสอบตอนเช้า ทีนี้มันยอมง่ายเชียวครับแหมสบายตัวแล้วละสิแฟนตู


วางสายผมก็ได้อาบน้ำจริงๆสักทีผมเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างแล้วลงไปแช่ ช่างสบายตัวจริงๆเลยครับผมอายน้ำนานพอสมควรพอไม่มีใครต่อคิวผมแล้วนี่ครับ แถมซีก็หลับไปแล้วอีกต่างหาก ผมอาบน้ำเสร็จก็นุ่งผ้าเช็ดตัวเปิดประตูห้องน้ำออกมา เจอซียืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำผมตกใจเหมือนกัน แล้วเมื่อกี้ซีจะได้ยินไหมว่าผมทำอะไรกับต้อม


ซีมองมาที่ผมที่เพิ่งเปิดประตูห้องน้ำออกมา ผมเลยทำไม่รู้ไม่ชี้เดินเลี่ยงซีออกมาเพื่อจะแต่งตัว เพราะซีคงตื่นมาเช้าห้องน้ำแล้วซีก็เดินเข้าห้องน้ำไปจริงๆ

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
ตอนที่24


ระหว่างที่ซีเข้าห้องน้ำผมก็แต่งตัวแล้วก็นอนเลย ก่อนนอนผมยังเอาหมอนข้างกั้นตรงกลางไว้ด้วยเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่ายไงครับ เผื่อซีไม่ไว้ใจผมอะไรแบบนี้ไงครับผมกำลังจะเคลิ้มหลับเลยครับ ซีก็กลับมานอนแล้วแน่ๆผมสังเกตจากการยุบตัวของเตียง


“นี่นัทไม่อยากนอนใกล้เราจนต้องเอาหมอนมากั้นเลยหรอ” ซีถามหลังจากลงมานอนแล้ว


“เปล่านะเราไม่ได้คิดแบบนั้น เรากลัวซีจะไม่สบายใจไงเดี๋ยวจะหาว่าเราล่วงเกิน”


“เราก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่” ซีพูดเสียงค่อยๆอีกแล้ว หรือว่าหูผมไม่ดีเองนะถึงได้ยินไม่ค่อยชัดอยู่เรื่อยเลย


“เมื่อกี้ซีว่าอะไรนะ เราไม่ได้ยิน” ผมถาม


“เราแค่บอกว่ามันดูอึดอัดนะ เราไม่คิดมากหรอกเอาออกนะ” พูดแล้วซีก็ดึงหมอนข้างไปไว้อีกฝั่งของที่นอน ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรตอนนั้นง่วงมากแล้ว ผมก็หลับไปเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าไปทำงานต่ออีก


ตอนเช้าผมกำลังจะปลุกต้อมที่นอนกอดผมอยู่ แต่ไม่ใช่สิผมไม่ได้กลับบ้านนี่นางั้นคนที่กอดก็ไม่ใช่ต้อมสิแต่เป็นซี ผมเลยค่อยๆเอามือซีออกเพราะเดี๋ยวมันตื่นมันคงนอนดิ้นมากอดผมแน่ๆ แล้วผมก็ลุกไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวอาบเสร็จค่อยมาปลุกซี เกือบลืมต้องโทรไปปลุกต้อมก่อนเดี๋ยวไม่ยอมตื่นไปสอบละแย่เลย


ผมนุ่งผ้าเช็ดตัวเตรียมจะอาบน้ำแล้วแต่โทรไปหาต้อมก่อนดีกว่า ผมเลยนั่งลงบนที่นอนหันหลังให้ซีที่หลับอยู่ พอผมโทรไปต้อมก็รับสายทันทีมันอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว มันยังบอกว่าผมไม่อยู่นอนไม่ค่อยหลับเลยนอนคิดถึงผมทั้งคืนเลย ปากหวานแต่เช้าเลยแฟนผมแล้วแบบนี้จะไม่ให้รักยังไงไหว ผมก็เลยบอกว่าคิดถึงมันเหมือนกันเดี๋ยวคืนนี้จะทำให้หายคิดถึงเลย มันยังย้อนผมอีกว่าแล้วอย่ามาบ่นว่าเหนื่อยแล้วกันเอากับมันสิ คุยกับต้อมเสร็จผมก็ไปอาบน้ำจนเสร็จก็กะจะมาปลุดซีแต่ซีตื่นมานั่งบนที่นอนแล้ว


“กำลังจะปลุกพอดีเลยอาบน้ำได้แล้วเดี๋ยวไปจัดของไม่ทัน” ผมบอกแล้วก็ยืนแต่งตัวที่หน้ากระจกในห้อง ผมเห็นซีมองผมตลอดเวลาผ่านทางกระจก จนผมสงสัยว่ามองอะไรผมจึงหันหน้าไปมองซี ซีก็หลบหน้าแล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำทันที


วันนี้ก็เหมือนเดิมแต่ที่น่าแปลกเด็กที่มาฟังกลับเป็นเด็กกลุ่มเดิมส่วนมาก สงสัยเมื่อวานผมอธิบายไม่เข้าใจหรือไงนะ ผมว่าผมอธิบายแบบง่ายที่สุดแล้วนะครับ งานวันนี้หมดแค่ช่วงบ่ายเพราะจะได้เก็บของกันทัน แต่ของผมไม่ต้องเก็บครับเพราะพี่กันแกส่งคนมาเก็บอุปกรณ์ของแกเอง ผมมีหน้าทีดูแลไม่ให้เสียหายก็พอแล้วครับ


ระหว่างที่ผมดูคนที่มาเก็บของอยู่นั้นก็มีนักศึกษากลุ่มหนึ่งเข้ามาหาผม ประมาณ4-5คนเข้ามาบอกว่าอยากรู้เพิ่มเติมอีก จะเอาไปทำรายงานอะไรเนี่ยแหละครับผมเลยต้องอธิบายให้น้องๆฟังอีกรอบ แต่ว่าเด็กสมัยนี้หน้าตาดีกันเยอะจริงๆนะครับ หน้าใสกันเชียวเห็นแล้วก็อิจฉาเหมือนกันเนอะ หลังจากผมอธิบายเสร็จแล้วก็ขอตัวเพราะต้องกลับออฟฟิศอีกไกลเลย จริงๆแล้วผมอยากกลับไปหาต้อมมากกว่านะครับ


ผมมาช่วยซีเช็คของว่าครบหรือยังแล้วเซ็นต์ส่งของเรียบร้อยแล้ว กำลังเก็บของส่วนตัวจะได้กลับซะทีก็มีน้องคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาผม


“พี่ครับขอเบอร์หน่อยได้ไหมครับ เพื่อนผมมันชอบพี่เลยให้มาขอ” เด็กสมัยใหม่ใจกล้าจริงๆ ทีแรกผมก็นึกว่ามันจะเป็นแค่ไอ้แจ็คคนเดียวซะอีก(คงยังจำมันได้อยู่นะครับ)


“จะมาชอบพี่เรื่องอะไร แล้วทำไมไม่มาขอเองละ ถ้าไม่มาเองก็ไม่ให้หรอกครับ” ผมบอกน้องมันไปเก็บของไป มันวิ่งกลับออกไปสงสัยจะไปบอกเพื่อนมันแน่ๆ
ผมเก็บของเสร็จก็เดินกลับออกมาเลยเพราะเดี๋ยวเย็นมากกว่านี้รถจะติดเอา ก่อนที่ผมจะเดินออกมาหน้าประตูห้องที่จัดงานน้องกลุ่มเดิมก็มาดักรออยู่ ซีมองหน้าผมใหญ่เลยตอนนี้จะมองทำไมก็ไม่รู้แค่เด็กพวกนั้นผมก็แย่แล้ว ดีนะต้อมไม่ได้มาด้วยไม่งั้นละไม่อยากจะคิด


“มึงไปขอพี่เขาสิวะ พี่เขาบอกให้ไปขอเองเดี๋ยวพี่เขากลับแล้วนะ” ผมได้ยินพวกมันคุยกันแล้วผลักเพื่อนมันคนหนึ่งให้ออกมา ผมหันไปมองน้องคนนั้นก็หน้าตาดีมากเลยครับหน้าเหมือนพิธีกรรายการเพลงวัยรุ่นตอนหลังเที่ยงคืนเลย


แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอกครับผมมีต้อมอยู่แล้วทั้งคน หล่อไม่แพ้ใครเหมือนกัน(ชมแฟนตัวเองก็ได้นะผม) ผมก็เดินผ่านน้องกลุ่มนั้นมาเลยครับ ผมคุยกับซีจนจะออกนอกตึกแล้วน้องคนนั้นก็วิ่งมาเรียกผมไว้ เออมันเอาจริงวะแล้วผมจะทำไงดีละทีนี้ ดันบอกไปแล้วด้วยว่าถ้ามาขอเองแล้วจะให้หาเรื่องใส่ตัวอีกแล้ว ให้ไปก่อนเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีแล้วกันผม


ตกลงผมก็ให้เบอร์น้องคนนั้นไปก่อนให้เบอร์ผมบอกว่าผมมีแฟนแล้วนะ มันทำเป็นไม่สนใจฟังซะงั้นผมไม่เข้าใจเด็กสมัยนี้จริงๆ ถ้าเป็นผมเขามีแฟนแล้วละก็ไม่ยุ่งเด็ดขาดครับ(ถ้าไม่รู้ก็อีกเรื่องนะครับอิอิ) ให้เบอร์แล้วผมก็ได้กลับออฟฟิศซะทีเรานั่งแท็กซี่กลับเลยครับจากบางนามาวงเวียนใหญ่ ไกลเหมือนกันแถมรถเริ่มติดแล้วด้วย


“นัทนี่เนื้อหอมเหมือนกันนะ มาแค่สองวันมีคนมาชอบซะแล้ว” ซีหันมาแซวผมขณะที่นั่งอยู่บนรถแท็กซี่


“อ่านะไม่ใช่แหละ เด็กมันคงชอบของแปลกละมั้ง” ผมก็กวนไปเรื่อยอะครับตามนิสัย


“แปลกตรงไหน นัทนะมีเสน่ห์จะตายไม่รู้ตัวอีก” ผมหันไปมองหน้าซีตอนนั้นซีมองหน้าผมอยู่ พอผมหันมามองก็รีบหันกลับไปมองทางอื่นเลยครับ
เออช่วงนี้ซีมันชอบพูดอะไรแปลกๆแหะ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนิสัยผมชอบเป็นอย่างนี้แหละครับไม่ชอบคิดมากปวดหัวเปล่าๆ จะคิดมากก็เรื่องที่บ้านกับต้อมเท่านั้นแหละครับ เย็นนี้รถติดมากจริงๆนั่งเป็นชั่วโมงยังไม่ถึงเลย ซีคงเหนื่อยเพราะไม่ค่อยได้ออกมาทำงานข้างนอก ผมเห็นซีนั่งหลับปกติผมเวลานั่งรถจะไม่หลับหรอกครับคอยดูทาง ซีหลับได้ซักพักหัวซีก็มาซบที่ไหล่ผม ผมก็ไม่ได้เอาออกหรอกครับก็เพื่อนกันจะเป็นไรไป ปกติผมกับพวกไอ้ตี๋ไอ้แนทเวลาไปไหนใครจะหลับก็นอนกันแบบนี้แหละครับ บางทีนอนตักเลยก็มีครับก็พวกเราไม่ได้คิดอะไรกันอยู่แล้วเพื่อนกันทั้งนั้น


ซีหลับจนมาถึงออฟฟิศเลยครับจนผมต้องปลุกให้ตื่น พอมาถึงออฟฟิศผมก็นั่งทำงานต่อนิดหน่อยเพราะไม่ได้เข้ามาสองวัน งานเต็มโต๊ะไปหมดเลยครับตอนนี้ต้องรีบเคลียแบ่งงานให้คนอื่นทำก่อน ผมนั่งทำงานไปสักพักต้อมก็เดินเข้ามาในออฟฟิศ มันทักทุกคนก่อนดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆผม


“มาทำไม เดี๋ยวก็จะกลับบ้านแล้ว แล้วสอบเป็นไงบ้างทำได้ไหม” ผมถามทั้งที่กำลังเคลียเอกสารอยู่ มันนั่งข้างผมได้ก็เอามือมาโอบเอวผมไว้เอาหัวมาหนุนแขนผมด้วย ทำมาอ้อนเป็นลูกแมวไปได้ที่ออฟฟิศผมเขาชินผมกับต้อมแล้ว พี่น้ำยังเคยแซวว่าถ้ามดขึ้นออฟฟิศจะหักเงินเดือนผมด้วย แล้วมันเกี่ยวกับผมตรงไหนกัน


“ทำได้สิครับมีคนติวเก่งขนาดนี้ ถ้าทำไม่ได้เสียชื่อพี่นัทหมด” มันยังเอาหัวมาซบแขนผมอยู่นั้นแหละ ผมทำงานไม่ถนัดนะเนี่ย แต่จะว่ามันก็ไม่ได้อีกเดี๋ยวงอนอีกเมื่อคืนไม่ได้กลับบ้านด้วย


“เออ นัทแล้วเบอร์ที่ให้น้องคนนั้นไปจะทำไงละ” อยู่ๆซีก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ผมลืมไปแล้วจริงๆนะตอนนี้ ต้อมยกหัวมามองหน้าผมทันทีเลยครับตอนนี้


“ให้เบอร์อะไรหรอพี่ซี ใครให้ใคร” ต้อมหันไปถามซี เอาแล้วครับงานใหญ่กำลังจะเข้าผมอีกแล้ว ซีนะซีเวลาอื่นทำไมไม่ถามมาถามเอาตอนนี้นี่นะ


ซีก็เล่าให้ต้อมฟังเป็นฉากๆเลยทีนี้ จากลูกแมวผมมันกำลังจะเปลี่ยนเป็นเสือไปแล้วครับ ผมคงต้องหาตัวช่วยแล้วทีนี้ คิดเร็วเข้าไอ้นัทก่อนที่หัวจะขาด เพราะตอนนี้ต้อมมันหันกลับมามองหน้าผมแล้ว มันคงกำลังรอคำอธิบายจากผมอยู่แน่ๆ เอาวะบอกตามที่คิดแล้วกัน


“อะไรมองหน้าพี่ทำไม พี่ไม่ได้คิดอะไรซักหน่อยพี่บอกมันไปแล้วว่ามีแฟน ไม่ใช่ไม่ได้บอกแล้วอีกอย่างมันมาขอพี่ไม่ให้ก็ยังไงอยู่ แล้วพี่ก็ไม่ได้ให้แบบส่วนตัวนะพี่ให้นามบัตรไป ใช่ไหมพี่น้ำถ้าไม่ให้เขาจะว่าถึงบริษัทเอาได้ใช่ไหมพี่” ผมหาตัวช่วยทันที ผมรู้ว่าพี่น้ำต้องช่วยผมอยู่แล้ว


“เออ พี่ก็ว่าไม่แปลกนะถ้าเป็นพี่ก็ต้องให้ตามมารยาท เราไม่ได้คิดอะไรซะหน่อย อย่าคิดมาก” พี่น้ำช่วยผมจริงๆด้วย แต่มันก็เรื่องจริงผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆลืมไปแล้วด้วยซ้ำ


“พี่ไม่ได้คิดอะไรจริงๆ พี่ลืมไปแล้วด้วยซ้ำ เอางี้ถ้ามันโทรมาพี่ให้เรารับเลยตกลงไหม” ผมพูดแบบนี้ต้อมมันก็ยิ้มออกแล้ว กลับมาเป็นลูกแมวของผมเหมือนเดิมแล้ว


ผมรีบเคลียงานแบ่งให้แนนกับเก่งไปรับผิดชอบ ส่วนซีผมให้ช่วยผมสรุปเรื่องงานที่ไปทำด้วยกันมา แล้วผมก็ขอตัวกลับบ้านก่อน พอผมขึ้นมาบนรถต้อมก็ถามผมทันที


“พี่นัทแล้วพี่ไปให้เบอร์มันทำไม” แหนะมันยังไม่จบอีกหรอ นึกว่าจะไม่สนใจแล้วซะอีก


“ก็บอกแล้วไงให้ตามมารยาท พี่ไม่คิดอะไรจริงๆบอกก็บอกไปแล้วว่ามีแฟน ไม่ใช่ไม่บอกซะที่ไหนละ” ผมหันไปมองหน้าต้อม


“แล้วถ้าไปที่อื่นมีคนมาขออีกละพี่ก็ให้อีกหรอไง” เอาแล้วองค์ลงอีกแล้วโรคคิดมากคิดไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้มัน


“งันเอาอย่างนี้แล้วกัน พี่จะไม่ให้เบอร์ใครอีกนอกจากลูกค้า กับคนที่มาติดต่องาน แบบนี้โอเคไหมละ”


“พี่สัญญาแล้วนะ” ต้อมหันมามองหน้าผมแปบนึงก่อนหันไปมองทางขับรถต่อ ต้อมขับรถพาผมไปกินผัดไทยที่ประตูผีเจ้าอร่อย คงเพราะผมบ่นว่าอยากไปกินก่อนไปทำงานแน่ๆ มันยังจำได้อีกเห็นเปล่าครับแล้วแบบนี้ใครจะนอกใจลงละครับ


ก่อนกลับบ้านเรายังแวะซื้อขนมปังกับนมสดที่ร้านมนต์นมสดกลับไปกินกันอีก กลับมาที่บ้านเราก็มานั่งดูหนังกันแต่วันนี้ผมนอนตักต้อมนะครับ เพราะผมบอกว่าเมื่อยนั่งรถทั้งวันเลย ต้อมมันก็นั่งกินขนมปังสังขยาที่ซื้อมาไปดูหนังไป ไม่รู้มันกินท่าไหนสังขยาหยดมาใส่แก้มผมด้วย


“กินยังไงเนี่ยหกใส่หน้าพี่แล้ว” ผมบ่นแล้วเอื้อมมือไปหยิบทิชชู จะเอามาเช็ดสังขยาออกจากหน้า แต่ต้อมมันกลับจับมือผมไว้ แล้วดึงให้ผมลุกขึ้น


“เดี๋ยวผมเช็ดให้เอง” ต้อมมันยื่นหน้าเข้ามาหาผมผมก็รู้แล้วมันจะทำอะไร ผมเลยเอาอีกมือที่ไม่โดนมันจับผลักหน้ามันไว้


“ไม่เอาเช็ดดีๆเลย แบบนี้มันจั๊กจี้” ผมบอกแต่ต้อมมันยอมที่ไหน เอามืออีกข้างจับมือที่ผมดันหน้ามันไว้ออกแล้วยื่นหน้าเข้ามาใหม่ มันทำหน้าได้หื่นมากๆตอนนี้แค่เห็นผมก็ขำแล้ว


“ขอกินพี่นัทหน้าสังขยาหน่อยนะ” มันทำทาแลบลิ้นมาเลียริมฝีปาก โหยทำไมมันดูหื่นยังงี้


ผมได้แต่หัวเราะแล้วเอาหน้าหลบไปมาแค่นั้นแหละครับ ก็ตอนนี้ต้อมมันขึ้นมานั่งทับผมไว้แล้วกันผมลุกหนี ตอนที่มันเอาลิ้นมาเลียแก้มผมนะจั๊กจี้มากๆเลยครับ ผมหัวเราะจนปวดท้องไปหมดเลยต้อมมันชอบใจใหญ่เลยที่ได้แกล้งผม จนผมต้องบอกว่ายอมแล้วให้เลิกแกล้งผมซะที


“พี่นัทพูดเองนะว่าจะยอมผม” แนะมันยังมาพูดอีกถ้าไม่ยอมคงหัวเราะจนขาดใจตายแน่ๆ


“ยอมๆๆ ถ้างั้นเลิกแกล้งได้แล้วนะ ปวดท้องไปหมดแล้ว” ต้อมมันถึงยอมลุกจากตัวผมแล้วไปนั่งกินขนมกับดูหนังต่อ ผมก็นอนตักมันต่อเหมือนกันเฮ้อคืนนี้ผมต้องเสียเปรียบมันอีกแล้วแน่ๆ


แล้วคืนนี้ผมก็เสียเปรียบจริงๆสงสัยมันเก็บกดจากเมื่อวาน วันนี้มันทำแฮททริกเลยผมดิเหนื่อยมากกกกก แต่ก็มีความสุขนะครับ


เช้าขึ้นมาผมแทบไม่อยากตื่นเลยแต่ก็ต้องตื่นไปทำงาน วันนี้ต้อมต้องกลับบ้านเพราะที่บ้านมีเรื่องอยากให้ต้อมช่วยไปทำให้หน่อย ต้อมบอกผมตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแล้วบอกว่าคงไปค้างที่บ้านสองสามวัน ผมจะรอดูว่ามันจะอยู่ถึงสามวันไหม บอกแบบนี้ทุกทีพอถึงพรุ่งนี้ตอนเย็นมันก็กลับมาแหละ


ต้อมมาส่งผมที่ทำงานแล้วก็เลยกลับบ้านเลย วันนี้ที่ออฟฟิศเหลือผมกับซีสองคนคนอื่นพี่น้ำพาไปช่วยงานข้างนอกหมด ผมนึกได้ว่าต้องขึ้นไปเอาของที่ลูกค้าอยากดูแบบที่ห้องเก็บของมาเตรียมไว้ เพราะพรุ่งนี้ต้องเอาไปให้ลูกค้าดูผมก็เลยขึ้นไปห้องเก็บของชั้นสอง ระหว่างที่ผมกำลังหาของอยู่นั้นไปก็ดับในห้องเก็บของมืดมากจนผมมองอะไรไม่เห็นเลย ผมเลยค่อยๆคล้ำหาประตูทางออก เพราะถ้าไม่ระวังอาจโดนของหล่นใส่เจ็บตัวเอาได้


ผมคลำหาทางมาสักพักก็เจอประตูทางออกแล้ว พอผมเปิดประตูก็มีคนเข้ามากอดผมทันที ผมตกกระใจทีแรกเพราะนึกว่าอาจเป็นขโมยที่เข้ามาตอนไฟดับก็ได้ ผมกำลังจะยกมือชกไฟก็ติดซะก่อน แต่คนที่กอดผมกลับเป็นซีนะสิครับผมงงว่าซีมันมากอดผมทำไมตอนนี้

kk_oi1983

  • บุคคลทั่วไป
มาแล้วครับ มาดันครับ แฟนคลับพี่นัทช่วยกันดันด้วยครับ จะได้หาไม่ยาก

NUKWUN

  • บุคคลทั่วไป
โอเคครับอ่านง่ายขึ้นเยอะเลยเดียซกลับไปตามเก็บรายละเอียดก่อน
เดียวมาเม้นให้อีก ค่อยๆลงก็ได้นะคร้าบไม่ต้องรีบ 555

...

+1เป็นกำลังใจให้กับความขยันลงเรื่องนะคร้าบ

Classical

  • บุคคลทั่วไป
ชอบครับ  ชอบๆๆๆ ชอบครรักกัน อิอิ

ถ้าจะ +24 แปลว่าให้ทุกตอนนี่  โมฯ จะว่าหรือป่าวหนอ


 :z13: :z13: :z13: :z13:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






kk_oi1983

  • บุคคลทั่วไป
จะพิมแบบเว้นไม่เว้น ก็อ่านได้หมดแหละครับ พี่นัทเขียนซะอย่าง สนุกอยู่แล้ว ติดตามไปทุกๆที่ครับ

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
ตอนที่25


“เกิดอะไรขึ้นหรอซี มากอดเราทำไม” ผมถามซีเผื่อว่าจะมีอะไรข้างล่าง ที่ทำให้ซีตกใจแต่ซีกลับไม่ตอบ


ผมเลยจะแกะมือซีออกเพื่อลงไปดู ซีกลับกอดผมแน่นขึ้นไม่ยอมให้ผมแกะมือออกได้ ยิ่งทำให้ผมแปลกใจเข้าไปอีกว่าซีเป็นอะไรของมันกันแน่


“นัทช่วยอยู่เฉยๆตรงนี้ก่อนได้ไหม” เอ้ มันชักยังไงๆแล้วนะสถานการณ์แบบนี้ ใช่ว่าผมจะไม่เคยเจอทั้งหนุ่ยทั้งแจ็ค แล้วตอนนี้จะมีซีอีกคนหรอ แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้นะก็ซีมันมีแฟนแล้วนี่นาแถมเป็นผู้หญิงด้วย ผมคงคิดมากไปเองมั้ง เอาลองดูว่ามันจะยังไงต่อไป


ผมเลยยืนเฉยๆอยู่อย่างนั้นสักพักซีก็เลิกกอดผม แล้วยืนมองหน้าผมแทน


“ตกลงเกิดอะไรขึ้น ซีเป็นไรกันแน่” ผมถามอีกครั้ง


“เออ เราขอโทษนะเรากลัวความมืดนะ” เฮ้อผมคิดมากไปเองจริงๆด้วย ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรผมก็เลยกลับไปหาของต่อซีก็เลยมาช่วยผมหา บอกว่ากลัวไฟดับอีก
วันนี้ผมไม่ต้องรีบกลับบ้านเพราะต้อมไม่อยู่เดี๋ยวผมไปหาอะไรกินก่อนแล้วค่อยเข้าบ้าน ผมเลยชวนซีไปกินข้าวด้วยกันก่อนกลับบ้าน แถวออฟฟิศผมมีร้านอาหารอร่อยๆเยอะไปหมด ก่อนกินข้าวผมโทรไปหาต้อมต้อมก็กำลังจะออกไปงานกับที่บ้านเหมือนกัน


กินข้าวเสร็จเราจะแยกย้ายกันกลับบ้านแต่ซีขอไปบ้านผม ซีบอกว่าคราวหน้าจะมีอะไรจะได้พาไปส่งบ้านถูก ผมก็พามาครับดีเหมือนกันคราวหน้าซีจะได้พากลับบ้านถูก ไม่ต้องพาไปค้างที่บ้านมันอีกแต่คงไม่มีแล้วแหละเพราะผมคิดว่าจะไม่เมาอีกแหละ เมาทีไรมีแต่เรื่องทุกที(ไม่เคยทำได้หรอกครับ)


ซีมาถึงบ้านผมก็บอกว่าบ้านน่าอยู่ดีแล้วถามว่าอยู่กันแค่สองคนหรอ ผมก็ตอบว่าใช่ผมอยู่สองคนมาก็สามปีได้ แต่เราคบกันมาได้เกือบห้าปีแล้ว ซีทำหน้าทึ่งๆแล้วถามเรื่องผมกับต้อม ระหว่างที่ผมกับซีคุยกันอยู่ก็มีคนมาหน้าบ้านผมก็ไปเปิดเป็นหนุ่ยแวะมาหาครับ ปกติหนุ่ยจะแวะมาหาผมกับต้อมบ่อยๆอยู่แล้วครับ


หนุ่ยทำหน้าแปลกใจที่เห็นซีอยู่ในบ้านกับผม ผมเลยบอกว่าเพื่อนที่ออฟฟิศหนุ่ยก็ยกมือไหว้ซีก็รับไหว้ หนุ่ยจะมาชวนผมกับต้อมไปดูหนัง แต่ต้อมไม่อยู่หนุ่ยเลยนั่งคุยกับผมกับซีแทน นั่งคุยกันสักพักหนุ่ยก็เรียกผมไปคุยที่ครัว บอกมีเรื่องจะคุยด้วยส่วนตัวนิดหน่อย ซีก็ไม่ได้ว่าอะไร


“พี่นัท ผมว่าพี่เขาต้องคิดอะไรกับพี่นัทแน่ๆเลย” หนุ่ยบอกเบาๆเหมือนกลัวซีจะได้ยิน


“คิดมากไปเปล่า ซีมีแฟนแล้วเป็นผู้หญิงอีกต่างหาก จะมาคิดอะไรกับพี่ได้ยังไง” ผมบอกเรื่องซีให้หนุ่ยฟัง


“ไม่รู้สิแต่พี่เชื่อผมสิ ยังไงพี่ก็ระวังจะเกิดเรื่องแล้วกัน” หนุ่ยเตือนผมแล้วก็เดินกลับมา ซีก็เลยขอตัวกลับบ้านก่อนเพราะมืดแล้ว ส่วนหนุ่ยนั่งคุยกับผมสักพักก็กลับไปเหมือนกัน


ก่อนนอนต้อมโทรมาหาผมบ่นว่านอนไม่หลับไม่มีคนให้กอด ผมก็บอกว่านอนไม่หลับเหมือนกันคิดถึงแฟน เราคุยกันจนเกือบเที่ยงคืนถึงวางสายเพราะผมต้องไปทำงานเช้าอีก ส่วนต้อมตอนนี้ปิดเทอมแล้วรู้สึกว่าหนุ่ยจะจบแล้วนี่นาลืมดีใจกับน้องที่สอบเสร็จเลยผม


ผมมานั่งเคลียงานแต่เช้างานผมมันเยอะจริงๆโคตรคุ้มเงินเดือนเลยผมว่า วันนี้อยู่ออฟฟิศกันครบทุกคนเลยไม่มีใครออกไปข้างนอก


“นัทต้อมมันปิดเทอมหรือยัง” พี่น้ำเดินมาถามผมที่โต๊ะทำงาน


“ก็ปิดแล้วนะครับ ทำไมหรอพี่” ผมเงยหน้ามองพี่น้ำ สงสัยว่าแกถามถึงต้อมทำไม


“พี่ว่าจะให้มาช่วยงานซะหน่อย จะได้ไม่ต้องไปหาคนอื่น แถมยังไว้ใจได้อีกต่างหาก” พี่น้ำบอก ผมก็ว่าดีเหมือนกันมันจะได้ไม่ต้องอยู่เฉยๆ


“ก็ดีนะพี่เดี๋ยวผมบอกมันให้ แล้วพี่จะให้มันมาช่วยวันไหนละครับ แล้วพี่จะให้มันทำตำแหน่งอะไรละครับ”


“ก็จะให้มาเป็นผู้ช่วยนัทนะแหละ กลัวจะตายคางานซะก่อน แล้วพร้อมวันไหนก็ให้มาเลยก็ได้ แต่พี่ให้เป็นรายวันนะตกลงไหม” พี่น้ำบอกข้อตกลง


คุยกันจบพี่น้ำก็ขึ้นไปห้องทำงานของแกข้างบนไปทำงานต่อ ก็ดีเหมือนกันนะได้ทำงานด้วยกันคนอื่นแซวผมเรื่องนี้อีกแล้ว มีแต่ซีที่เงียบไปนิดหน่อยเวลาพูดเรื่องนี้ วันนี้เลิกงานผมต้องโทรไปบอกข่าวดีต้อมหน่อยแล้ว ตอนเย็นพี่น้ำพาไปเลี้ยงข้าววันนี้ทำให้ผมกลับบ้านดึกนิดหน่อย แต่ทำไมตอนเย็นต้อมไม่โทรหาผมเลยนะมันทำอะไรอยู่


ผมกลับมาถึงบ้านก็เกือบสามทุ่มแล้วผมไขประตูเปิดเข้าบ้าน พอประตูเปิดเท่านั้นแหละครับมีคนโผเข้ามากอดผมอีกแล้ว ทำไมช่วงนี้มีคนกอดผมเยอะจังแล้วก็คงไม่ใช่ใครต้อมแน่ๆ ผมตั้งตัวได้ก็หันไปมองคนที่มากอดผมก็เป็นต้อมจริงๆ เห็นไหมละครับผมบอกแล้ววันเดียวมันกลับมาแล้ว แล้วมุขมันนะเหมือนเดิมตลอดซุ่มในบ้านมืดๆใครจะไปตกใจทุกรอบละครับ


“ไหนจะไปสองสามวันไง นี่คืนเดียวเองนะ” ผมหันไปพูดกับมันทั้งที่มันยังกอดผมอยู่


“ก็มันคิดถึงนี่นา แล้วนี่ไม่ตกใจบ้างหรอ” มันเลิกกอดผมแล้วเห็นผมไม่ตกใจ


“ใครจะตกใจได้ทุกครั้งละ มาแบบนี้มีคนเดียวแหละ”


“เดี๋ยวคราวหน้าคิดใหม่ คอยดูแล้วกัน” เออมันทำยังกับผมไปทำอะไรให้มันแค้นใจอย่างนั้นแหละ


พอเข้ามาในบ้านผมก็คุยกับต้อมเรื่องที่พี่น้ำบอกให้มันไปช่วยงานผม มันดีใจใหญ่เลยบอกว่าจะได้อยู่กับผมตลอดเวลา ผมอยากรู้จริงๆมันไม่เบื่อผมบ้างหรือไงแต่มันไม่เบื่อนะดีแล้ว ถ้ามันเบื่อผมจริงๆผมคงแย่เหมือนกัน มันบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะเข้าไปคุยกับพี่น้ำเลย ใจร้อนจริงทีนี้เดี๋ยวทำงานแล้วถ้าบ่นจะโดนแน่ๆ


ต้อมมันตื่นแต่เช้าดูกระตือรือร้นมากที่จะได้ทำงานกับผม แต่ก็ดีนะที่มันอยากทำไม่ต้องบังคับกัน เพราะผมกะว่าถ้ามันไม่อยากทำผมก็จะบังคับมันเหมือนกัน อยากให้มันมีประสบการณ์ก่อนจบเยอะๆไงครับ มาถึงออฟฟิศพี่น้ำก็เรียกต้อมขึ้นไปคุยลายละเอียดกันข้างบน ผมนั่งทำงานอยู่ตอนที่ต้อมกลับลงมาพี่น้ำจะให้มันไปนั่งโต๊ะที่ไว้รับแขก แต่มันไม่เอาบอกจะนั่งกับผมพี่น้ำก็ตามใจ ดีนะครับที่โต๊ะผมมันยาวกว่าคนอื่นๆเพราะเอกสารทั้งหมดมันต้องมากองที่โต๊ะผมก่อน เลยนั่งกันได้ไม่เบียดมาเอาของลงวางพื้นบ้างบางอย่าง


พี่น้ำแซวก่อนขึ้นทำงานต่อว่าอย่าหวานกันจนไม่ได้งานนะ ไม่งั้นจะจับแยกกันนั่งผมนะไม่เท่าไหร่หรอกครับ ต้องไปเตือนต้อมมากกว่า พอถึงเวลาทำงานต้อมมันก็ตั้งใจทำนะครับอืมเป็นคนรับผิดชอบดีอีกด้วย ถ้าไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามผมตลอด นี่ผมต้องมองต้อมใหม่แล้วมันดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาเชียว


พี่น้ำแกแอบลงมาดูบ่อยๆครับ ผมสังเกตเห็นแกแต่พอแกเห็นแบบนี้ก็ยิ้มได้แล้ว ตกเย็นพี่น้ำบอกวันนี้จะเลี้ยงต้อนรับต้อมหน่อย พาเราไปกินข้าวที่ร้านอาหารติดแม่น้ำเจ้าพระยาเลย พอถึงร้านพี่น้ำนั่งหัวโต๊ะถัดมาฝั่งซ้ายเป็นผมฝั่งขวาเป็นวุฒิ ต้อมนั่งต่อจากผมมาถึงผมก็คุยกับพี่น้ำกับวุฒิเรื่องงานที่ยังค้างอยู่ ต้อมก็นั่งฟังกับผมด้วยให้พวกแนนเก่งซีเป็นคนสั่งอาหาร พอคุยเรื่องงานจบพวกผมก็หันมาคุยเล่นกับคนอื่นๆกันระหว่างรออาหาร


อาหารเริ่มทยอยมาเสริฟแล้วตอนนี้พวกเราเตรียมตัวกินกันเต็มที่ อยู่ดีๆต้อมก็เอามือมาปิดตาผมทำไมไม่รู้พอผมจะเอามือมันออกมันก็ดึงหน้าผมไปซบอกมันแทนอะไรของมันเนี่ย ผมจะเอาหน้าออกมาก็มันทำอะไรก็ไม่รู้มันเป็นไรของมันนะ


“อยู่เฉยๆเลยพี่นัท ไม่งั้นโต๊ะกระจายแน่ๆ” ผมพอจะเข้าใจความหมายของมันแล้ว ผมคิดว่าตอนนี้คนอื่นคงมองผมกับมันอยู่แน่ๆ


“พี่น้ำจานนี้คืนเขาได้ไหมพี่ ถ้าไม่ได้เดี๋ยวผมจ่ายเอง แต่ให้เขาเอากลับไปเลยครับ” ต้อมบอกพี่น้ำผมไม่เห็นอะไรเลยตอนนี้ เพราะผมก็หลับตาด้วยกลัวเห็นคงจำกันได้นะครับว่าผมกลัวอะไร แต่ผมว่าทุกคนคงกำลังทำหน้าสงสัยปนงงอยู่แน่ๆ


“เออ คืนไปเลยก็ได้เดี๋ยวพี่จ่ายเอง แต่ว่ามันทำไมหรอ” เสียงพี่น้ำดูงงมากๆๆ นึกถึงก็ขำทุกที ผมว่าพนักงานก็คงงงพอๆกันแหละครับ


พี่น้ำบอกให้พนักงานเอาไปกินกันเลยเดี๋ยวจ่ายเงินเอง พอพนักงานเอาจานเจ้าปัญหาออกไปแล้วมันก็ปล่อยมือที่จับให้ผมซบอกมันไว้ออก ตอนนี้ทุกคนมองมาที่ผมกับต้อมเป้นตาเดียวกันอีกแล้ว


“ตกลงมัยทำไมหรอจานนั้นนะ มันมีอะไร” พี่น้ำถามย้ำอีก หน้าแกยังไม่หายงงเลยครับตอนนี้ คนอื่นๆก็ไม่ต่างกันเลยครับ แต่ผมไม่รู้จะบอกยังไงนี่นามันก็อายเหมือนกันนะเรื่องแบบนี้


“ก็พี่นัทนะครับ เขากลัวข้าวโพดอ่อนมาก ถ้าเมื่อกี้ผมไม่เห็นก่อนนะผมว่าโต๊ะนี้กระจายไปแล้ว” ต้อมตอบแทนผม ทีนี้ทุกคนมองมาที่ผมคนเดียวแล้วคงจะมองว่าผมทำไมกลัวอะไรแปลกๆแน่ๆ


“จริงหรอพี่นัท กลัวข้าวโพดอ่อนจริงๆหรอ” วุฒิถามขึ้นมาบ้างคราวนี้ แถมทำหน้าเหมือนไม่เชื่ออีกต่างหาก


ผมพยักหน้าก็ตอนนี้มันเริ่มเขินแล้วทุกคนเล่นมองผมคนเดียวเลย ก็คนมันกลัวมันแปลกตรงไหนเนี่ย(ผมว่าไม่เห็นจะแปลกเลยเนอะ) จนต้อมเล่าให้ฟังถึงตอนที่ผมไปเที่ยวงานตอนนั้น คนอื่นๆยังว่าผมเลยว่ากลัวไรแปลกๆ แล้วไม่ยอมบอกกันไว้อีกดีนะที่วันนี้ต้อมมาด้วย ไม่งั้นคงเหมาร้านแน่ๆ


กินข้าวกันเสร็จเราก็ยังนั่งคุยกันต่อผมเลยขอตัวไปห้องน้ำก่อนซีก็ขอไปด้วย


“นัทกลัวจริงๆหรอ” ซีถาม


“อืม จริงดิใครจะแกล้งกลัวละ แค่เห็นไกลๆก็ไม่เอาแล้ว” ผมบอกทำท่าขนลุกไปด้วย


“เดี๋ยวคราวหน้าเราจะดูให้นัทเอง” ซีพูดเสร็จก็เดินเข้าห้องน้ำไปเลย เออมันชอบพูดไรแปลกๆช่วงนี้


กลับมาจากห้องน้ำพี่น้ำก็จ่างเงินเรียบร้อยแล้วเราก็แยกกันกลับบ้าน พอผมขึ้นมาบนรถได้ผมก็หันไปหอมต้อมทีหนึ่ง ผมหันมามองหน้าผมงงเพราะปกติผมไม่ค่อยจะหอมมันถ้าไม่ใช่ในบ้านหรือที่ส่วนตัวจริงๆ


“ก็ให้รางวัลไง” ผมบอกมันยังทำหน้างงอีก


“ก็เรื่องที่โต๊ะอาหารไง” ตอนนี้มันยิ้มออกแล้ว


“รางวัลแค่นี้ไม่พอหรอก ต้องกลับไปต่อที่บ้าน” อ่านะเข้าทางมันอีกแล้วครับ แต่ผมก็ชอบนะครับ หุหุ


แล้วคืนนี้ผมก็ต้องเหนื่อยอีกแล้วแต่พักหลังผมจะเสียเปรียบบ่อยแล้วนะนี่ เริ่มจะไม่ดีแหละแบบนี้เดี๋ยวต้องหาทางเอาคืนบ้างแล้ว


ต้อมมาช่วยงานผมได้สองอาทิตย์แล้วต้อมทำงานได้ดีกว่าที่คิดมาก พี่น้ำก็ชมต้อมเหมือนกันผมละแอบปลื้มจริงๆแฟนผม มันไม่เคยบ่นเรื่องงานด้วยนะครับมันบอกว่าแค่ได้ทำงานอยู่กับผมก็ไม่เหนื่อยแล้ว ปากหวานจริงๆถึงว่าผมเลยชอบจูบปากมัน


ตั้งแต่ต้อมมาทำงานซีก็เหมือนจะเงียบลงไปนิดหน่อย คงเป็นเพราะผมอยู่กับต้อมด้วยละมั้งครับ วันนี้เป็นวันที่ต้องจัดของในห้องเก็บของซีก็อาสาที่จะช่วยผม ผมเลยให้ต้อมทำงานอยู่ข้างล่างช่วยพวกเก่งเพราะข้างล่างก็จัดของเหมือนกัน


ผมขึ้นมาห้องเก็บของชั้นสองตอนนี้มันรกมากเลยครับ เพราะเวลาพวกผมมาเอาของไปใช้เสร็จแล้วส่วนมากตอนเก็บจะโยนเอานะครับ มันเลยรกเป็นพิเศษแค่เห็นก็เหนื่อยแล้วครับ ซีเข้าไปนั่งเก็บของอยู่ข้างหน้าผมผมยืนบนเก้าอี้เตี้ยๆเพื่อจัดของด้านบน  ขาเก้าอี้ที่ผมใช้มันดันหักผมเลยจะล้มลงไปทับซีของข้างบนก็หล่นลงมาเสียงดังไปหมด ผมก็ล้มลงไปทับซีนะแหละครับเพียงแต่ผมใช้แขนค้ำไว้ได้พอดี หน้าผมกับหน้าซีใกล้กันมากเลยตอนนี้ถ้าผมไม่แขนยันไว้หน้าเราคงชนกันไปแล้ว


“พี่นัทเกิดอะไรขึ้น” ต้อมเปิดประตูเข้ามาดู ซีกลับดึงหน้าผมเข้าไปจูบทันที

kk_oi1983

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อเร็วๆ นะครับ

KM

  • บุคคลทั่วไป
โหหหหหห ลายตา

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
ตอนที่26


ผมรีบดันตัวเองเอาหน้าออกทันทีแล้วรีบลุกขึ้นซีก็ลุกขึ้นตาม ผมรีบหันไปมองต้อมตอนนี้ต้อมเดินตรงมาผมกับซีแล้วครับ มาถึงต้อมก็ดึงคอเสื้อซีแล้วยกหมัดชกออกมาเลย ผมเห็นแบบนั้นเลยเอาตัวเข้าไปบังซีไว้เพราะผมไม่อยากให้ต้อมมันมีเรื่องหรอกครับ มันยังเรียนไม่จบถ้าซีเอาเรื่องจะมีผลกระทบต่อการเรียนได้ พอผมคิดได้แบบนั้นก็เลยเอาตัวเข้าไปบังหมัดนั้นแหละครับ โดนเต็มๆหน้าเลยครับหมัดต้อมก็หนักใช่เล่นทำเอาผมทรุดลงไปนั่งกับพื้นเลยครับ นับดาวตอนกลางวันยังได้เลยตามันเห็นดาวระยิบระยับไปหมดเลย เท่านั้นไม่พอมือผมยังละของในชั้นหล่นลงมาอีกด้วย ผมรู้สึกว่ามีอะไรหนักๆตกใส่ขาผมด้วย


“พี่นัทเป็นอะไรหรือเปล่าพี่” ต้อมเขย่าตัวผมให้รู้สึกตัว


“เกิดอะไรกันขึ้น แล้วนี่นัทเป็นอะไร รีบพาไปนอนในห้องทำงานพี่ก่อนเลย” ผมรู้สึกได้ยินเสียงพี่น้ำดังมาไกลๆ


ต้อมพยุงตัวผมลุกขึ้นแล้วพาตามพี่น้ำที่เปิดประตูห้องแกรออยู่  ผมรู้สึกเจ็บที่ขาแปล๊บๆแต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร ตอนนั้นกำลังเมาหมัดต้อมอยู่ครับ พี่น้ำให้ต้อมพาผมไปนอนที่โซฟาในห้องทำงานแก แล้วแกก็ถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ให้เล่ามาให้หมด ต้อมก็เล่าเรื่องที่เห็นให้พี่น้ำฟังผมเห็นหน้าพี่น้ำเริ่มเครียดแล้วตอนนี้ ผมก็ค่อยยังชั่วขึ้นมากแล้ว แต่พี่น้ำบอกยังไม่ให้ลุกให้นอนไปก่อน


พี่น้ำก็ออกไปคุยกับซีข้างนอกต้อมเข้ามานั่งข้างๆผม เอามือแตะที่โหนกแก้มผมที่โดนหมัดของมันเข้าไปเต็มๆ


“เจ็บมากไหมพี่นัท ผมขอโทษนะผมหยุดไม่ทันจริงๆ แล้วพี่เข้ามาบังให้มันทำไม” ต้อมมันไม่เรียกซีว่าพี่แล้วตอนนี้ ผมเลยบอกเหตุผลที่เข้าไปกันซีให้มันฟัง มันก็เข้าใจนะครับแถมยังขอโทษผมอีกที่ใจร้อน แต่มันบอกว่าเห็นแบบนั้นต่อหน้าต่อตาใครจะทนไหว ผมก็เข้าใจมันนะครับเลยไม่ได้ว่ามันต่อแค่บอกให้ใจเย็นๆลงบ้าง
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นคงต้องมีคนรับผิดชอบ เพราะว่าถ้าเป็นแบบนี้ผมกับซีคงมองหน้ากันไม่ติดแน่ๆ แล้วอีกอย่างของก็เสียหายเยอะด้วย แล้วเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นมาเพราะผมผมคงต้องรับผิดชอบแล้วทีนี้


สักพักพี่น้ำเปิดประตูเข้ามา “นัทกับต้อมพี่ขอโทษนะที่เกิดเรื่องแบบนี้ พี่ก็ไม่รู้มาก่อนว่าซีมันจะเป็นแบบนี้” พี่น้ำดูหน้าตาเคร่งเครียดมากตอนนี้


“นัทจะเอายังไงกับเรื่องนี้ดีกว่าว่ามาเลย เดี๋ยวพี่จะจัดการให้” พี่น้ำแกเป็นคนเด็ดขาดนะครับพูดคำไหนคำนั้นตลอด


“ผมว่าเรื่องที่เกิดขึ้นผมเป็นต้นเหตุเองพี่ เอาเป็นว่าผมขอลาออกแล้วกัน บริษัทพี่จะได้ไม่มีปัญหาด้วย” ผมตัดสินใจแบบนี้แหละครับ เพราะถ้าผมยังอยู่ซีพี่น้ำคงให้ออกแน่ๆ แต่เขายังต้องหาเงินเรียนอยู่นี่ครับ ผมก็เป็นคนแบบนี้แหละครับนึกถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ ถึงเขาจะคิดดีหรือไม่ดีกับผมก็ตามเพราะพ่อแม่ผมสอนมาแบบนี้นี่ครับ


“เฮ้ย ไม่ได้นะเราเป็นฝ่ายเสียหาย ถ้าจะออกก็ต้องซีมันโน่น เรื่องนี้พี่ไม่ยอมแน่” พี่น้ำทำหน้าเครียดยิ่งกว่าเดิมอีกตอนนี้


“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ ถ้าซีออกแล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนเรียนต่อละพี่ งานสมัยนี้หายากด้วย แต่ถ้าเรายังอยู่ทั้งสองคนบรรยากาศในออฟฟิศคงไม่ดีแน่ แล้วผมก็ไม่อยากให้ต้อมต้องมานั่งระแวงผมจนไม่มีความสุขด้วย” ผมบอกเหตุผลที่ผมขอลาออกให้แกฟัง


“แต่พี่คิดว่ามันไม่ยุติธรรมกับเราเลยนะ คนไม่ผิดกลับต้องมาลาออก”


“เรื่องนี้ผมตัดสินใจเองครับ ไม่เกี่ยวกับใคร แล้วค่าของพี่หักจากเงินเดือนๆสุดท้ายของผมนะครับ” ผมยืนยันความคิดเดิม


ผมคุยกับพี่น้ำตั้งนานกว่าแกจะยอมเพราะแกบอกมันไม่ใช่ความผิดผมกับต้อม ต้อมนั่งฟังเงียบๆตลอดคงเพราะไม่กล้าขัดการตัดสินใจของผมหรอกครับ มันอยู่กับผมมามันรู้ดีสักพักวุฒิก็เดินมาคุยอะไรกับพี่น้ำก็ไม่รู้ เห็นพี่น้ำรีบเดินออกไปทันที


“พี่นัทจะลาออกจริงๆหรอพี่” วุฒิถามผม


“อืม พี่ไม่อยากให้ทีนี่มีปัญหาเพราะพี่ ยังไงพวกวุฒิก็อยู่กันมานานแล้ว พี่เพิ่งเข้ามาได้สองสามเดือนเอง” ผมบอก แล้วพยายามจะลุกขึ้นนั่งต้อมเห็นเลยช่วยพยุงผมนั่ง ตอนนี้ขาข้างที่ของตกใส่ผมรู้สึกปวดตุ๊บๆแล้วครับ แต่ก็ยังไม่ได้บอกใครเพราะตอนนี้เรื่องอื่นมันวุ่นวายมากกว่า


วุฒิทำหน้าเครียดไปด้วยแล้วตอนนี้ สักพักพี่น้ำก็กลับเข้ามาหน้ายุ่งไปหมดแล้วตอนนี้


“นัทพี่ว่าการลาออกมันไม่ใช่ทางแก้ปัญหาจริงๆนะ เราคิดดูใหม่ได้ไหมพี่ให้เราไปพักร้อนสองอาทิตย์เลย แล้วค่อยกลับมาบอกพี่อีกที ถ้านัทยังยืนยันคำเดิมพี่ก็ไม่ว่าอะไรแล้ว” พี่น้ำยืนข้อเสนอใหม่ให้ผม ผมก็บอกจะลองคิดดูแล้วแกบอกให้ผมกลับไปพักผ่อนที่บ้าน


“โอ๊ย” ผมร้องเพราะเจ็บขาข้างที่โดนของตกใส่มากตอนที่กำลังจะยืนขึ้น จนต้องนั่งลงกับโซฟาอีกครั้ง


“นัทเป็นอะไร” พี่น้ำรีบถามทันทีที่เห็นอาการผมแบบนั้น


“ขาซ้ายนะพี่มันโดนอะไรไม่รู้ตกใส่ ทีแรกมันไม่เจ็บเท่าไหร่แต่ตอนนี้ขยับยังไม่ไหวเลยพี่” ผมบอกต้อมรีบนั่งลงมาดูขาผมทันที


“พี่นัทถ้าเจ็บแล้วบอกนะ” ต้อมจับขาผมยกขึ้นแล้วค่อยๆเอามืออีกข้างจับเบาๆไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ


“โอ๊ย” ไม่ทันบอกแล้วครับผมร้องออกมาเลย มันเจ็บมากตรงแถวกลางหน้าแข้งผมพอดี ต้อมทำหน้าไม่ดีเลยมันถกกางเกงขายาวผมขึ้นมาทันที มันมีรอยเขียวช้ำใหญ่มากตรงแถวนั้น


“พี่น้ำครับช่วยไปเอารถให้ผมหน่อยได้ไหมครับ ท่าทางขาพี่นัทจะหักนะครับ” พี่น้ำทำหน้าตกใจแล้วต้อมส่งกุญแจรถไปให้(ที่ไม่ใช้วุฒิเพราะวุฒิขับรถไม่เป็นครับ) พี่น้ำรีบออกไปจากห้องทันที วุฒิก็ดูตื่นเต้นไม่แพ้พี่น้ำเลยตอนนี้ ต้อมให้ผมขี่หลังลงมาจากชั้นสองโดยมีวุฒิช่วยประคองอีกที ตอนนี้ทั้งเก่งทั้งแนนดูวุ่นวายกันไปหมดแล้วแต่ผมไม่เห็นซีแล้วนะครับ


ตกลงพี่น้ำเป็นคนขับรถมาส่งที่โรงพยาบาลเองเลย แกบอกว่ากลัวต้อมใจร้อนแล้วเกิดอุบัติเหตุได้ มาถึงผมก็เข้าห้องฉุกเฉินเลยครับ หมอเอ็กซ์เรย์ขาผมดูปรากฏว่ามันหักจริงๆครับ ไม่รู้ต้อมมันรู้ได้ยังไงหมอเข้าเฝือกให้ผมแล้วบอกว่าให้นอนดูอาการก่อนหนึ่งคืน ถ้าพรุ่งนี้เอ็กซ์เรย์ดูอีกรอบไม่มีปัญหาอะไรก็จะให้กลับบ้านได้
พี่น้ำจัดการเรื่องค่าพยาบาลให้ผมทุกอย่าง แถมยังให้ผมนอนห้องพิเศษอีกต่างหาก ผมเกรงใจบอกนอนห้องรวมก็ได้แต่แกไม่ยอม แกบอกมันเป็นความรับผิดชอบของแกเพราะเรื่องมันเกิดในบริษัทแกด้วย ผมก็ต้องยอมแกไปแหละครับแค่นี้แกก็ดูกลุ้มใจมากพอแล้ว


ตอนเย็นแนนกับเก่งก็มาเยี่ยมที่โรงพยาบาลซื้อของมาฝากเยอะเลย เก่งกับแนนไม่ได้รู้เรื่องผมกับซีหรอกคับ พี่น้ำบอกว่าไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่โตผมก็เห็นด้วย รอยช้ำที่หน้าใครถามผมก็บอกว่าของตกใส่เหมือนกันแหละครับ แนนกับเก่งมาสักพักก็กลับไปพี่น้ำกับวุฒิก็กลับไปใกล้ๆกันครับ เดี๋ยวหนุ่ยก็คงจะมาแน่ๆเพราะผมเห็นมันเพิ่งโทรมาหาต้อม


สักพักหนุ่ยก็มาถึงจริงๆด้วยมาถึงก็ถามเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้น ทีนี้ต้อมมันเล่าแทนผมหมดเลยหนุ่ยยังหันไปว่าต้อมที่ต่อยผมแล้วก็หันมาทางผม


“ผมบอกพี่นัทแล้วว่าให้ระวังตัวก็ไม่เชื่อ พี่นัทยังมาหาว่าผมคิดมากอีก ใครจะเหมือนพี่ละมองโลกในแง่ดีเสมอเลย” หนุ่ยมันเริ่มบ่นลามมาถึงผมแล้วทีนี้


“ก็พี่จะไปรู้ได้ยังไงละ ก็เห็นมันก็มีแฟนแล้วเป็นผู้หญิงอีกต่างหาก ใครจะคิดว่ามันจะเป็นแนวนี้ด้วย” ผมแก้ตัวไปเรื่อยแหละครับ ก็มันคิดไม่ถึงจริงๆนี่ครับ


แล้วหนุ่ยมันก็บ่นนั่นนี่โน่นของมันต่อไป จนผมยังแซวมันว่าแก่กว่าผมแล้วตอนนี้บ่นเก่งจัง ส่วนต้อมก็ยังดูหน้าไม่ค่อยสบายใจอยู่เลย หนุ่ยอยู่พักใหญ่ๆก็กลับไปยังบอกต้อมว่าถ้าพรุ่งนี้หมอว่ายังไงให้โทรบอกด้วย พอหนุ่ยไปก็เหลือผมกับต้อมสองคนแล้วทีนี้


“เป็นไรไปเรา ทำหน้าอมทุกข์ไปได้ เดี๋ยวก็หน้าแกกว่าพี่หรอก” ผมพูดเล่นให้มันหายเครียด


“พี่ยังเจ็บหน้าอยู่เปล่า ผมทำพี่เจ็บตัวอีกแล้ว” มันทำหน้าเศร้าเพิ่มขึ้นอีกอย่างแล้ว


“พี่ไม่เจ็บแล้วเรื่องแค่นี้เอง พี่ไม่ทะเลาะกับเราก็ดีมากแล้ว” ผมเอามือขยี้หัวมันเบาๆดูมันจะผ่อนคลายลงมาบ้างแล้วตอนนี้


ต้อมมันคอยดูแลผมทุกอย่างเพราะผมยังเดินไม่ได้ตอนนี้ ตอนนอนมันก็มานั่งจับมือผมหลับอยู่ข้างเตียงแหละครับผมให้ไปนอนที่นอนคนเฝ้าไข้ก็ไม่ยอม ผมนอนมองต้อมจนหลับไปเหมือนกัน


“ก๊อก ๆๆๆ” เสียงคนมาเคาะประตูแต่เช้า คงเป็นพยาบาลเข้ามาวัดไข้ตอนเช้า


ผมตื่นขึ้นมามองไปที่ประตู ต้อมเองก็ตื่นแล้วเหมือนกันตอนนี้แต่คนที่เปิดประตูเข้ามากลับเป็นซี ซีจะมาทำไมอีกตอนนี้แค่นี้เรื่องมันยังไม่เยอะพออีกหรอไง ผมเห็นแบบนั้นผมรีบจับมือต้อมไว้ก่อนเลยมีอะไรจะได้ห้ามมันทัน




kk_oi1983

  • บุคคลทั่วไป
เฝ้าติดตามต่อไปครับ

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
ตอนที่27


ซีมาพร้อมกับกระเช้าผลไม้ในมือซีเดินตรงมาที่เตียงผม ต้อมลุกขึ้นยืนทันทีที่ซีเดินเข้ามาผมจับมือต้อมไว้แน่นเลยตอนนี้ แล้วหันไปมองหน้าบอกให้ใจเย็นๆก่อน เพราะผมก็อยากรู้ว่าซีจะมาทำไมเหมือนกัน เขาอาจจะมาขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นก็ได้


“มีธุระอะไรถึงมาแต่เช้า” ผมถามเสียงเรียบๆ ต้อมจ้องหน้าซีเต็มที่เหมือนกับถ้าเห็นอะไรไม่ชอบมาพากลมันคงกระโดดใส่มันที


“เราแวะมาหานัทนะ เรื่องเมื่อวานเราขอโทษนะ แต่เราก็ไม่ได้เสียใจที่ทำแบบนั้น” เออ มันพูดยังไงของมันกันนะขอโทษแต่ไม่เสียใจ แต่ต้อมตาเขม็งแล้วเมื่อได้ยินแบบนั้น


“พี่หมายความว่ายังไงที่พูดแบบนั้น พี่มานี่ต้องการอะไรกันแน่” ต้อมเสียงแข็งเชียวตอนนี้


“ในเมื่อพี่ยอมแสดงตัวขนาดนี่แล้ว พี่ก็คงไม่ยอมอะไรง่ายๆด้วยเรื่องแค่นี้หรอก พี่จะมาบอกแค่นี้” ซีมองหน้าต้อมตอบ ก่อนหันมามองหน้าผมแล้วก็หันหลังเดินกลับออกไปเลย


ผมหันมองหน้ากับต้อมกับสิ่งที่ซีพูดเมื่อกี้นี้ ต้อมนั่งลงข้างๆผมเหมือนเดิมแล้วตอนนี้ ผมก็คลายมือที่จับต้อมไว้แต่ยังไม่ได้ปล่อยนะครับ ต้อมทำสีหน้ากังวลมากเลยตอนนี้


“เมื่อไหร่ผมจะเรียนจบนะ ผมจะได้ทำงานแล้วให้พี่นัทอยู่บ้าน” อยู่ๆมันก็พูดขึ้นมา


“จะให้พี่อยู่บ้านทำไม พี่ก็ต้องทำงานช่วยเราสิ” ผมไม่เข้าใจความหมายที่ต้อมมันพูด


“อยู่บ้านนะถูกแล้วผมจะได้ไม่ต้องมากังวลแบบนี้อีก ผมทำงานเลี้ยงพี่ได้คอยดูนะ” ทีนี้ผมเริ่มเข้าใจความหมายของมันแล้ว มันหวงผมนี่เอง


“ไม่เอาหรอก ถ้าเราไปเจอคนอื่นแล้วเบื่อพี่พี่จะทำไงละ” ผมบอกต้อมหันมามองหน้าผมทันที


ต้อมยืนขึ้นเอามือจับหน้าผมไว้แล้วก้มหน้ามาใกล้ “ฟังผมให้ชัดๆเลยนะ ผมจะไม่มีวันเบื่อพี่นัทเด็ดขาด ผมรักพี่นัทมากจนผมขาดพี่ไม่ได้อีกแล้ว ถ้าไม่มีพี่ผมขอตายดีกว่า” ดูมันพูดเข้าสิ ผมก็รู้ว่ามันพูดจริง ผมเลยดึงหน้ามันมาจูบเพื่อตอบรับกับความรักที่มันมีให้กับผม


“ขอโทษนะค่ะ ขอวัดไข้หน่อยค่ะ” เสียงพยาบาลบอก แต่ตอนนี้ผมยังจูบต้อมอยู่เลยครับ ต้อมเลยเลิกจูบผม


“เชิญเลยครับ” ต้อมหันไปบอกพยาบาลคนนั้น ผมเห็นเขามองหน้าผมกับต้อมสลับกันไปมาหลายรอบมากเลยตอนนี้ ก่อนที่จะเอาปรอทมาวัดไข้ผมรอบเช้า ผมไม่ได้อายแล้วครับตอนนี้


ตอนสายหนุ่ยก็มาเยี่ยมผมหนุ่ยมาได้สักพักพี่น้ำกับวุฒิก็มาถึงซีก็มาด้วย เท่านั้นไม่พอแจ็คยังมาอีกคนใครเป็นคนบอกมันกันนะว่าผมไม่สบาย ทีนี้เหมือนชุมนุมศิษย์เก่าของผมเลยครับตัวปัญหาเต็มห้องเลย  หนุ่ยกับต้อมนี่มองซีจนจะเผาไหม้กันได้แล้วมั้งครับ ส่วนไอ้น้องแจ็คไม่ต้องสนมันเลยมันไม่สนใจใครอยู่แล้วนอกจากผม มันนั่งข้างเตียงเอาน้ำเอาขนมป้อนผมไม่ได้สนใจใครเลย


มีแต่พี่น้ำกับวุฒิที่งงกับบรรยากาศในห้องที่เป็นแบบนี้ จนแกขอคุยกับผมเป็นการส่วนตัวหน่อย ก่อนทุกคนออกไปผมบอกให้หนุ่ยดูต้อมด้วย พี่น้ำก็ให้วุฒิออกมาคุมสถานการณ์ข้างนอกอีกคนหนึ่ง


“นัทพี่ถามจริงๆเถอะนั่นคู่กรณีนัทหมดเลยหรือเปล่า” ดูพี่แกถามแกคงอึดอัดมานานแน่ๆ ผมได้แต่ยิ้มแล้วพยักหน้าตอบ แกยังทำหน้าแปลกใจอีก


“ไม่ใช่เล่นนะเรานะ ถึงว่าต้อมมันถึงหวงของมันมากขนาดนี้”


“แต่ว่าพี่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผมหรือครับ อย่าบอกนะเรื่องนี้ที่อยากคุย” ผมรีบเปลี่ยนเรื่องก่อน


“เออ เกือบลืมมัวแต่แปลกเรื่องนัทนะสิ พี่คุยกับพี่กันเรื่องนัทแล้วนะ ถ้านัทออกพี่กันก็ไม่ยอมเหมือนกัน บริษัทพี่แย่แน่คราวนี้พี่กับพี่กันเลยจะปรับให้นัทไปเป็นผู้ช่วยพี่กันแทน ย้ายไปอยู่ที่ออฟฟิศพี่กันมีงานอะไรก็ส่งมาให้พี่ที่บริษัท รับเงินเดือนจากพี่เหมือนเดิม นัทว่าไง” พี่น้ำบอก


“งั้นผมขอคุยกับต้อมก่อนได้ไหมครับพี่ ถ้ามันไม่ว่าอะไรผมก็ไม่มีปัญหาหรอกครับ พี่เข้าใจผมนะครับ” พี่น้ำก็ไม่ได้ว่าอะไรกลับเดินไปเรียกต้อมเข้ามาคุยข้างในอีกคน พี่น้ำก็คุยกับต้อมเรื่องอยากให้ผมอยู่ทำงานต่อ พี่น้ำอธิบายกับต้อมตั้งนานกว่าต้อมมันจะยอม มันบอกว่าเพราะพี่น้ำดีกับพวกเราถึงได้อยากช่วย แต่พี่น้ำต้องสัญญาว่าจะไม่ให้ซีมายุ่งกับผมอีก พี่น้ำก็รับปากถึงได้ตกลงกันได้


จนเกือบเที่ยงหมอก็เข้ามาดูอาการผม หมอบอกว่าให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้ แต่คงต้องเข้าเฝือกไว้หนึ่งเดือนโชคดีที่กระดูกที่หักไม่ได้เคลื่อนย้ายมาก ทำให้น่าจะกลับมาติดกันได้เร็วเดือนเดียวน่าจะกลับมาเดินได้ตามปกติแล้ว แล้วก็ให้พยาบาลมาสอนผมใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตัว พยาบาลคนนี้ก็มองหน้าผมกับต้อมแปลกครับสงสัยคนก่อนคงจะเอาเรื่องผมไปเล่าไปทั่วแล้วแน่ๆ


ช่วงบ่ายๆผมกลับมาถึงบ้านต้อมดูแลผมอย่างดีเหมือนเดิม ผมนั่งดูหนังอยู่โดยที่เอาขาข้างที่เข้าเฝือกวางพาดไว้กับเก้าอี้ ต้อมล้างจานเก็บของเสร็จก็ลงมานั่งข้างๆผม ผมเลยหันไปมองต้อมก็มองกลับมา


“พี่นัทถ้าผมเรียนจบทำงานแล้วพี่นัทอยู่บ้านเฉยๆได้ไหมพี่” ต้อมมันกลับมาเรื่องเดิมอีกแล้ว


“นี่เราคิดอะไรอีกแล้วหือ”


“ผมไม่อยากให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกแล้ว ผมเหนื่อยตัวผมไม่ว่าหรอกแต่ผมเหนื่อยใจนี่สิ” โหเล่นมาพูดกันแบบนี้เลยหรอ แล้วผมผิดตรงไหนเนี่ยเรื่องทั้งหมดผมก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นซะหน่อย กลายเป็นว่าที่มันต้อมมาเหนื่อยใจก็เพราะผมอย่างนั้นหรอ ผมน้อยใจขึ้นมาทันทีนี่ถ้าผมเดินได้ถนัดผมคงไม่อยู่ตรงนี้แล้ว


“ถ้าเราเหนื่อยใจนักก็ไม่ต้องมายุ่งกับพี่สิ เราจะได้สบายใจพี่ขอโทษนะทีทำให้ลำบากขนาดนี้” ผมน้อยใจสุดๆเลยตอนนี้


ผมหันไปหยิบไม้เท้าเพื่อที่จะพยุงตัวเองขึ้นไปข้างบน แต่ต้อมกับมาดึงเอาไม้เท้าออกไป


“ผมไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นนะพี่ ผมไม่เคยคิดว่าลำบากเพราะพี่เลยนะ” ต้อมจับมือผมไว้


“ถ้าไม่คิดแล้วเราจะพูดแบบนี้หรอ พี่มันคงจะเป็นตัวปัญหาสำหรับเรามากสินะ ทำให้เราเหนื่อยมากเลยสินะ” ตอนนี้น้ำตาผมไหลออกมาแล้วครับ มันน้อยใจมากที่สุดเลยครับผมก็รู้ว่าปัญหาส่วนมากมันเกิดขึ้นจากผม แต่ผมก็ไม่เคยคิดนอกใจหรือเป็นอย่างอื่นเลยนะครับ


ผมพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดแล้วสำหรับเรื่องเราสองคน แต่นี่ต้อมกลับมาพูดเหมือนผมทำให้มันลำบากและไม่มีความสุขเอาซะเลย ผมมันคงเป็นคนที่แย่มากเลยนะครับที่ทำให้คนที่เรารักคิดแบบนั้น


“พี่นัทผมไม่ได้คิดจะว่าพี่แบบนั้นนะ จะให้ผมพูดยังไงกับพี่ดีทีนี้” ต้อมเริ่มทำหน้าเสียแล้วที่เห็นผมร้องไห้ออกมา


“พี่นัทอย่าร้องไห้นะพี่นะ ผมขอโทษผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นจริงๆ” ต้อมเอามือมาเช็ดน้ำตาให้ผม ผมเลยหันหน้าหนี


“อย่าทำแบบนี้สิพี่นัท ผมขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ” ต้อมเข้ามากอดผมแต่ผมก็ไม่ได้กอดตอบหรือหันหน้ามามองด้วยซ้ำ


“ผมขอโทษนะ ผมขอโทษจริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้พี่เสียใจ ผมขอโทษนะครับ” ต้อมเริ่มร้องไห้บ้างแล้วตอนนี้ แต่ปากก็ยังบอกขอโทษผมไม่หยุดเลย

Classical

  • บุคคลทั่วไป
มาต่ออีกเร็วๆ นะพี่นัท



 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:



ชอบๆๆๆ ชอบคนรักกัน    +1   ให้เลย



พี่นัท  ผมถามไรหน่อยดิพี่  งงๆๆ อ่ะ


ผมขึ้นมาห้องเก็บของชั้นสองตอนนี้มันรกมากเลยครับ เพราะเวลาพวกผมมาเอาของไปใช้เสร็จแล้วส่วนมากตอนเก็บจะโยนเอานะครับ มันเลยรกเป็นพิเศษแค่เห็นก็เหนื่อยแล้วครับ ซีเข้าไปนั่งเก็บของอยู่ข้างหน้าผมผมยืนบนเก้าอี้เตี้ยๆเพื่อจัดของด้านบน  ขาเก้าอี้ที่ผมใช้มันดันหักผมเลยจะล้มลงไปทับซีของข้างบนก็หล่นลงมาเสียงดังไปหมด ผมก็ล้มลงไปทับซีนะแหละครับเพียงแต่ผมใช้แขนค้ำไว้ได้พอดี หน้าผมกับหน้าซีใกล้กันมากเลยตอนนี้ถ้าผมไม่แขนยันไว้หน้าเราคงชนกันไปแล้ว


“พี่นัทเกิดอะไรขึ้น” ต้อมเปิดประตูเข้ามาดู ซีกลับดึงหน้าผมเข้าไปจูบทันที

ผมรีบดันตัวเองเอาหน้าออกทันทีแล้วรีบลุกขึ้นซีก็ลุกขึ้นตาม ผมรีบหันไปมองต้อมตอนนี้ต้อมเดินตรงมาผมกับซีแล้วครับ มาถึงต้อมก็ดึงคอเสื้อซีแล้วยกหมัดชกออกมาเลย ผมเห็นแบบนั้นเลยเอาตัวเข้าไปบังซีไว้เพราะผมไม่อยากให้ต้อมมันมีเรื่องหรอกครับ มันยังเรียนไม่จบถ้าซีเอาเรื่องจะมีผลกระทบต่อการเรียนได้ พอผมคิดได้แบบนั้นก็เลยเอาตัวเข้าไปบังหมัดนั้นแหละครับ โดนเต็มๆหน้าเลยครับหมัดต้อมก็หนักใช่เล่นทำเอาผมทรุดลงไปนั่งกับพื้นเลยครับ นับดาวตอนกลางวันยังได้เลยตามันเห็นดาวระยิบระยับไปหมดเลย เท่านั้นไม่พอมือผมยังละของในชั้นหล่นลงมาอีกด้วย ผมรู้สึกว่ามีอะไรหนักๆตกใส่ขาผมด้วย



ซีผิดตรงไหนอ่า  ยังไม่เห็นซีทำไรลยอ่ะ  ผมแค่สงสัยเฉยๆ นะ




แล้วมาต่อเร็วๆ เน้อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2010 12:57:29 โดย Classical »

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
อืมนะจะตอบไงดีอะว่าซีผิดยังไง ก็นะคนเขามีแฟนแล้วแถมแฟนเขาเข้ามาเห็นยังจะดึงไปจูบไปจูบได้อีกน้อ :sad4:

ตอนที่28


เอาอีกแล้วไงครับผมอะเห็นต้อมร้องไห้ไม่ได้เหมือนกันครับ ใจอ่อนทุกทีก็มันร้องไห้ที่ไรน่าสงสารนี่ครับที่แรกจะทำใจแข็งไม่สนใจแต่ก็ทำไม่ได้นะครับ ยิ่งมันพูดขอโทษผมไม่หยุดแบบนี้อีกด้วยใครจะไม่ใจอ่อนไหว ผมเลยเอามือไปลูบหัวปลอบใจมันบ้างแล้วทีนี้


“พี่นัทไม่โกรธผมแล้วใช่ไหมครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้พี่เสียใจนะครับ ผมขอโทษ” ต้อมเสียงสั่นๆอยู่เลย


“พี่ก็ไม่ได้โกรธเราตั้งแต่แรกแล้ว พี่แค่น้อยใจเท่านั้นเองที่เราเห็นว่าพี่ทำแต่ปัญหาให้กับเรา พี่มันคงไม่ดีพอใช่ไหมละหรือว่าต้อมยังไม่เชื่อในความรักที่พี่มีให้กับต้อมใช่ไหม” ผมเอามือจับตัวต้อมให้หันหน้ามามองหน้าผม


“ไม่ใช่พี่ไม่ดีพอพี่นะดีมากเลยสำหรับผมดีจนผมคิดว่าจะไม่มีใครดีกับผมได้แบบนี้อีกแล้ว แต่ผมต่างหากที่กลัวว่าถ้าพี่เจอคนที่ดีกว่าผม พี่จะทิ้งผมไปแล้วผมจะทำยังไงต่อไปได้ละ ผมบอกแล้วผมคงขาดพี่ไม่ได้แล้วชีวิตนี้” ตามันแดงไปหมดเลยตอนนี้น่าสงสารมาก


“มันไม่มีอะไรหรอกหรือที่ผ่านมาพี่ยังทำให้เราเชื่อไม่ได้อีกหรอ ว่าพี่จะรักเราแค่คนเดียวเราลืมปัญหาที่เราผ่านด้วยกันมาหมดแล้วหรือไง หรือว่าเราคิดว่าพี่ยังรักเราไม่มากพออีก” ผมเอามือเช็ดคราบน้ำตาให้ต้อม


“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ความรักที่พี่มีให้ผมผมรู้ว่ามันมากแค่ไหน มากเสียจนผมคิดว่าผมขาดมันไม่ได้เสียแล้ว นั่นกลับยิ่งทำให้ผมกลัวมากยิ่งขึ้น กลัวว่าถ้าวันไหนพี่นัทเปลี่ยนไปผมคงทำอะไรต่อไปไม่ได้อีกแล้วแน่ๆ” ต้อมเอามือมาจับมือผมไว้ที่ตรงแก้มมันแบบนั้น


“ไม่ใช่ผมไม่ไว้ใจพี่แต่ผมไม่ไว้ใจคนอื่นต่างหาก เพราะพี่มองคนในแง่ดีมากเกินไปจนพี่ไม่ได้สนใจเลยถึงแม้คนอื่นจะเข้ามาทำร้ายพี่ก็ตาม พี่ยังเป็นห่วงคนๆนั้นได้เลยนี่แหละคือสิ่งที่ผมกลัวว่ามันจะมันจะทำให้พี่ต้องแยกกับผม” มันจับมือผมแน่นมาก


“ถ้างั้นพี่ขอให้เราเชื่อใจพี่ได้ไหม ไม่ว่ายังไงจะไม่เปลี่ยนไปพี่จะรักเราคนเดียว ถึงแม้ว่าเราจะไม่รักพี่แล้วก็ตาม ส่วนเรื่องคนอื่นต่อไปพี่จะระวังตัวให้มากขึ้น เราจะได้ไม่ต้องคอยห่วงพี่มากแบบนี้” ผมเลยจูบต้อมหลังจากที่ผมพูดจบ ต้อมก็จูบกลับเพื่อตอบรับกับคำสัญญาที่ผมให้กับมัน จากนั้นมันก็ค่อยๆดันผมจะให้นอนลงบนโซฟา


“โอ๊ย..” ผมเจ็บขาเพราะตอนนี้มันหล่นจากที่พาดไปที่พื้นแล้วครับ ต้อมรับหันไปดูขาผมทันทีแล้วค่อยยกขึ้นมาบนโซฟาแทน


“พี่นัทเจ็บมากไหมพี่ ผมลืมไปว่าพี่เขาเจ็บอยู่” ต้อมทำหน้าจ๋อยๆ ผมเลยเรียกให้ต้อมเข้ามาใกล้เหมือนว่าจะกระซิบบอกอะไร พอต้อมยืนหน้าเขามาผมก็จับหน้าต้อมไว้แล้วดึงมาจูบใหม่อีกครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ไม่มีปัญหาอีกแล้วเพราะผมนอนอยู่บนโซฟาแล้วนี่ครับ


หุหุ ขนาดขาเป็นแบบนั้นผมกับต้อมยังเติมความรักกันด้วยปากกันบนโซฟาจนได้แหละครับ พวกผมนะทะเลาะกันที่ไรง้อกันเสร็จเหนื่อยทุกทีสิครับ ไม่รู้คู่อื่นจะเป็นแบบผมหรือเปล่า แล้วเราก็ขึ้นไปอาบน้ำกันต้อมเอาเก้าอี้เข้าไปสองตัวให้ผมนั่งตัวอีกตัวไว้วางขาช้างที่ใส่เฝือก จะได้ไม่โดนน้ำแล้วก็อาบน้ำให้ผมสบายจริงๆช่วงนี้ มีคนทำให้ทุกอย่างเลย


ช่วงนี้ผมไม่ต้องไปทำงานครับพี่น้ำบอกให้หยุดจนกว่าจะถอดเฝือก ผมเลยคิดว่าจะกลับบ้านเพราะที่บ้านก็เป็นห่วงผมเหมือนกัน หลังจากที่ต้อมโทรไปบอกแม่ผมผมเลยจะกลับไปอยู่บ้านจนใกล้กำหนดถอดเฝือกแล้วค่อยกลับมาใหม่ ต้อมก็ไม่ได้ไปทำงานกับพี่น้ำแล้วครับพี่น้ำก็ไม่ได้ว่าอะไร ต้อมเลยไปบ้านต่างจังหวัดกับผมครับ


พอมาถึงบ้านแม่มายืนรอรับตั้งแต่หน้าบ้านเลย ยังบ่นผมอีกว่าไม่ยอมโทรมาบอกตั้งแต่แรก ต้องให้ต้อมเป็นคนโทรมาบอกแกผมก็ได้แต่ยิ้มให้แล้วก็กอดเอวแม่ไว้แหละครับ อ้อนไว้ก่อนแกจะได้ไม่บ่นเยอะมากก็ลูกเจ็บทั้งคนนี่นะ แม่จัดห้องไว้ให้ผมจนเรียบร้อย


ผมกลับมาอยู่บ้านได้สามอาทิตย์แล้วครับตอนนี้ ระหว่างสองอาทิตย์นี้ซีก็พยายามโทรหาผมตลอด แต่ผมก็ไม่ได้รับสายหรือถ้าจะรับก็จะเป็นต้อมที่รับแทน ซียังคุยกับต้อมนะแถมยังฝากความคิดถึงผมผ่านต้อมมาอีก ถ้าจะพูดจริงทำจริงคราวนี้ผมกับต้อมเจอศึกใหญ่แน่ๆ เราก็คุยเรื่องซีกันตลอดนะครับผมเลยบอกว่าผมจะพยายามเลี่ยงให้เจอกันน้อยที่สุด เพราะยังไงก็ต้องทำงานร่วมกันอยู่นี่ครับ แล้วถ้ามีอะไรเกิดขึ้นผมจะต้องบอกต้อมทุกเรื่องเราจะไม่ปิดบังกัน


พรุ่งนี้ผมว่าจะกลับกรุงเทพแล้วครับเพราะอีกไม่กี่วันก็ถึงวันหมอนัดแล้ว ก่อนวันกลับผมกับต้อมก็ไปซื้อของฝากพี่น้ำกับหนุ่ยกัน แถมยังนึกถึงความหลังตอนสงกานต์คราวนั้นด้วย ต้อมบอกว่ายังจำได้ผมนึกว่ามันจะลืมไปพร้อมกับตอนที่รถชนข้างทางไปแล้ว มันบอกว่าตอนนั้นเป็นตอนที่มันตัดสินใจได้ทันทีว่ามันคงจะไปรักใครไม่ได้อีกแล้ว เพราะคงไม่มีใครที่จะยอมเจ็บตัวเพราะมันแบบผมอีกแล้ว ผมยังแซวต่อว่าถ้างั้นวันไหนมีคนมาช่วยมันไว้แบบผมอีกมันจะไปชอบคนนั้นแน่ๆ มันกลับงอนผมอีกหาว่าว่ามันเป็นคนโลเลเออเป็นงั้นไป


กลับมาถึงกรุงเทพต้อมก็เอาของฝากไปให้พี่น้ำคนเดียว ไม่ยอมให้ผมไปด้วยเพราะไม่อยากให้ผมเจอหน้าซี แต่ผมก็กลัวมันจะใจร้อนทำไรไม่คิดจริงๆครับ แต่ต้องให้มันไปแหละครับเพราะถึงไปก็เดินลำบากแล้วเดี๋ยวมันจะหาว่าผมไม่เชื่อใจมันอีก ส่วนของหนุ่ยโทรไปหาแล้วหนุ่ยบอกว่าเดี๋ยวจะแวะมาเอาเอง ช่วงนี้หนุ่ยก็เริ่มยุ่งๆเพราะส่าหนุ่ยกำลังจะเปิดกิจการของตัวเอง ใบ้ให้นิดนะครับเป็นร้านอาหารไทยเรานี่และปกติอยู่ข้างถนน แต่หนุ่ยมันเอาขึ้นห้างซะงั้นเดี๋ยวนี้มีเกือบทุกห้างเลยร้านมันอะครับ ผมไปกินประจำแต่ไม่ค่อยบอกมันหรอกครับถ้ามันรู้มันให้กินฟรีตลอดเลย


แล้ววันที่ผมรอคอยก็มาถึงสักทีวันที่หมอนัดถอดเฝือก ต้อมพาผมมาแต่เช้าดูเหมือนพยาบาลยังจำพวกผมได้ เห็นมองหน้าผมสองคนแล้วยิ้มให้ตลอด จนพาผมไปเอ็กซ์เรย์ช่วงรอฟังผลจากหมออยู่นั้น มีบุรุษพยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผมกับต้อมที่นั่งคุยกันรอพบหมออยู่


“ขอโทษนะครับ” ผมกับต้อมหันไปมองหน้าเขาทั้งคู่


“คือว่า...คุณสองคนเป็นแฟนกันหรือเปล่าครับ” เขาถามผมกับต้อม เราหันมองหน้ากันอืมเขาจะอยากรู้ไปทำไมนะ


“ครับ เราเป็นแฟนกันมีอะไรหรือเปล่าครับ” ต้อมหันไปตอบแล้วหันมายิ้มให้ผม


“ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็พยาบาลพวกนั้นแหละครับอยากรู้ ผมเลยมาถามให้แต่น่าอิจฉานะครับ คบกันมานานหรือยังครับ” เขายิ้มแล้วชวนคุยต่อ


ต้อมก็ตอบแล้วคุยกันสักพักก็ถึงคิวผมที่ต้องพบหมอแล้ว เขายังบอกว่าอิจฉาคู่ผมอยู่นั่นแหละผมก็ได้แต่ยิ้มตอบ พอพบหมอหมอก็บอกว่ากระดูกสมานกันดีแล้ว ถอดเฝือกออกได้แต่ต้องใช้ไม้เท้าช่วยไปก่อนแรกๆ เพราะถ้าลงน้ำหนักเต็มที่เลยมันอาจเจ็บแปลบๆได้ ตอนถอดเฝือกสอครับน่ากลัวมากผมปิดตาจับมือต้อมแน่นเลย ก็หมอเขาเอาของที่เหมือนเลื่อยไปฟ้าเล็กๆมาผ่าออกนี่ครับ ผมกลัวมันจะเลยไปโดนขาผมมากแล้วเสียงเครื่องนะ ทรมานจิตใจมากเลยลุ้นสุดๆผมยิ่งชอบดูหนังฆาตกรรมอยู่ด้วย พอเห็นแบบนี้แล้วมันนึกถึงภาพในหนังไงครับ


หลังถอดเฝือกก็กลับมาบ้านผมลองเดินไม่ใช้ไม้มันก็เสียวแปลบๆที่กระดูกอย่างที่หมอบอกจริงๆครับ แต่ก็ยังดีกว่าตอนที่ใส่เฝือกแหละครับ


“ครืน ๆ ๆ” เสียงโทรศัพท์สั่นบนโต๊ะ ผมหยิบขึ้นมาดูเป็นเบอร์พี่น้ำก็กดรับ


“สวัสดีครับ มีอะไรหรอครับ” ผมถามทันทีเพราะถ้าไม่มีอะไรพี่น้ำไม่ค่อยโทรหาผมหรอก


“อืมนัทถอดเฝือกวันนี้แล้วใช่ไหม” แกถาม


“ใช่ครับเพิ่งกลับถึงบ้านเลยเนี่ย ทำไมหรอครับ” ผมเริ่มสงสัย


“งั้นอีกสองสามวันคงเดินไหวแล้วใช่เปล่า พอดีมีงานใหญ่เข้ามาพอดี”


“เดินไหวแล้วพี่นี่ก็ไม่ใช้ไม่เท้าแล้วครับ แต่ว่างานอะไรหรอครับ” ผมถามรายละเอียด


“งาน....... เขาจัดที่ศูนย์ประชุมสิริกิตนะ งานพี่กันนะแหละเขาอยากให้นัทไปช่วยต้อนรับลูกค้าหน่อย อ้อต้อมด้วยนะพี่อยากให้ต้อมมาช่วยด้วย อีกอย่างมันจะได้สบายใจเพราะงานนี้ไปทำกันทั้งออฟฟิศเลย”พี่น้ำอธิบายรายละเอียดทันที


“ผมนะไม่มีปัญหาหรอกครับ แต่พี่คุยกับต้อมเองแล้วกันนะครับ” ผมบอกแกแล้วเรียกต้อมมารับสาย


สิ่งแรกที่ต้อมถามหลังจากฟังที่พี่น้ำพูดมานาน คือใครไปบ้างงานนี้มันทำหน้าคิดนิดหน่อยแต่ก็ตอบตกลงว่าจะไปช่วยเหมือนกัน ผมก็คิดว่ามันต้องไปอยู่แล้วแหละมีหรอมันจะให้ผมไปทำงานกับซีโดยที่ไม่มีมันอยู่ด้วย แต่งานก็คืองานแหละครับผมก็จะพยายามเลียงไม่ให้อยู่ใกล้ซีเอง


วันนี้วันงานวันแรกผมกับต้อมมาที่บูธจัดงานภายในศูนย์ประชุมฯเลยครับ เพราะพี่น้ำไม่ได้ให้มาช่วยวันเซ็ตอัพเพราะเห็นว่าขาผมเพิ่งหาย ผมกับต้อมถูกว่างให้คอยต้อนรับลูกค้าที่จะเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับเทคโนโลยีตัวใหม่ที่เอามาออกงาน คงไม่ต้องบอกนะครับว่างานที่ศูนย์ประชุมคนเยอะแค่ไหน


“พี่นัทไหวไหมพี่ เจ็บขาเปล่ายืนนานๆนะ” ต้อมเข้ามาถามเป็นห่วงผม


“ก็นิดหน่อยนะ ยืนนานๆมันก็เริ่มเจ็บนิดๆแล้ว แต่สักพักเดี๋ยวพี่เข้าไปพักในห้องสโตร์เอง” ผมยิ้มให้ต้อมที่เป็นห่วงผม


ตอนคุยกับลูกค้าต้อมก็คอยมองมาที่ผมตลอด เพราะตอนนี้ผมก็เริ่มจะเจ็บขาจริงๆแล้ว จนต้องยกขาขึ้นมาจับบ่อยๆแต่คนก็เข้ามาสอบถามเยอะมากเลยครับ ผมคุยกับลูกค้าอยู่มองไปที่ต้อมไม่เห็นแล้ว หายไปไหนนะไม่เห็นมาบอกกันบ้างเลย แต่ผมก็ไม่ได้สนใจมากเพราะตอนนี้กำลังคุยกับลูกค้าอยู่


“พี่นัทไปพักก่อนเถอะพี่ เจ็บข้าแล้วใช่ปะ เดี๋ยวผมอยู่แทนให้” วุฒิเดินเข้ามาบอกผม ตอนนี้ต้อมกลับมาคุยกัยลูกค้าอยู่แล้ว


“อืม แต่เรารู้ได้ไง” ผมสงสัยที่วุฒิรู้ได้ยังไง เพราะวุฒิต้องคอยดูลูกค้าอีกฝั่งหนึ่ง


“ก็ต้อมไงพี่ มันบอกพี่น้ำพี่แกเลยให้ผมมาเปลี่ยนพี่นี่แหละ” วุฒิบอกอ้อถึงว่ามันหายไปไหนมา ผมเลยหันไปยิ้มให้มันมันก็ยิ้มตอบแล้วทำมือไล่ให้ผมไปพัก
ผมเข้ามานั่งในสโตร์อยู่คนเดียวเพราะยังไม่ถึงช่วงพักของคนอื่นเลยตอนนี้ สักพักก็มีคนเปิดประตูเข้ามาเป็นซีครับที่เข้ามา ซีถือถุงข้าวกล่องถุงใหญ่มาด้วยทั้งสองมือคงเป็นข้าวที่พี่กันสั่งมาส่งแล้วแน่ๆ ผมเลยหลบแล้วคิดว่าจะออกไปดีกว่าเพราะขาผมก็หายเจ็บแล้ว ผมเลยลุกเดินสวนออกไปซีกลับทำถุงกับข้างหล่นขวางทางผมไว้ ซีก้มลงไปเก็บผมก็ก้มลงไปช่วยเก็บด้วยจะข้ามของกินก็ไม่ใช่เรื่อง(ที่บ้านผมสอนว่ามันไม่ดีนะครับ ทุกบ้านก็น่าจะสอนนะ)


“เฮ้ย...” ถุงที่ผมเก็บมันเป็นผัดวุ้นเส้นแต่มันใส่ข้าวโพดอ่อนมาด้วยสิ


ผมตกกระใจมากโยนถุงทิ้งแล้วด้วยความลืมตัว ผมเลยโผเข้าไปกอดซีที่นั่งเก็บอยู่ข้างๆเอาหน้าซุกที่ไหล่มันไว้ ก็ผมกลัวและตกใจนี่น่าตอนนี้เลยไม่ทันคิด แต่ซีมันก็กอดผมตอบด้วยนะเอากะมันสิ


ผมได้ยินเสียงเปิดประตู “เฮ้ยทำไรพี่นัท” เสียงต้อมดังเข้ามาทางหน้าประตู

..............................

ปล. ยังไงก็ฝากเรื่องใหม่ด้วยนะครับ มนต์รักบ้านทุ่ง :L2:

Classical

  • บุคคลทั่วไป
อืมนะจะตอบไงดีอะว่าซีผิดยังไง ก็นะคนเขามีแฟนแล้วแถมแฟนเขาเข้ามาเห็นยังจะดึงไปจูบไปจูบได้อีกน้อ :sad4:



..............................




 :pigha2: :pigha2:

อ่อ เป็นอันรู้  แต่ว่าพี่นัดไม่เห็นพิมพ์ไว้เลยอ่า ว่าซีดึงพี่เข้าไปจูบ ผมเลยงง


แล้วมาต่อให้อีกเน้อ ให้ว่องๆ ด้วยน๊ะ  แฮะๆๆๆ


อ่า แล้วก็ไปต่อมนต์รักด้วยเน้อ จารออ่าน


ว่าแต่ข้าวโพดอ่อนเนี่ยป๋มว่ามันอาย่อยนาพี่นัท อิอิ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2010 21:29:34 โดย Classical »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
ตอนที่29


พอผมได้ยินเสียงต้อมผมก็จะเลิกกอดซีแต่ว่าผมกลับดันตัวไม่ออก ซีกลับกอดผมไว้แน่นมากจนผมขยับไม่ได้เลยครับ ตอนนี้ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะแล้วกลัวต้อมมันจะมีเรื่องกับซีกลางงานนะสิครับ ต้อมเดินเข้ามาดึงตัวผมจนลอยขึ้นมาจากที่นั่งอยู่เลยครับ ผมก็ตัวไม่ใช่เบานะครับสงสัยเพราะแรงโมโหแน่ๆ ตอนนี้ผมลืมเรื่องข้าวโพดอ่อนไปแล้วละครับ พอผมหลุดออกมาจากการกอดของซี ต้อมก็เดินเข้าไปหาซีเลยครับผมพยายามดึงแขนต้อมไว้แล้วแต่มันสะบัดจนหลุดออกไปได้ ทำเอาผมเสียหลักล้มไปที่ของที่เก็บอยู่ในนั้น จนลังที่ซ้อนกันอยู่หล่นลงมาใส่ผมหมดเลย ดีนะครับที่เป็นลังเปล่าเสียส่วนมาก ทำไมเวลาที่ต้อมมันทะเลาะกับคนอื่นผมต้องเจ็บตัวทุกทีเลยสินะ ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน


“พี่นัทเป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงต้อมกำลังลื้อลังหาตัวผมอยู่


“เกิดอะไรกันขึ้น ทำไมมันเละไปหมดอย่างนี้ละ” ผมได้ยินเสียงพี่น้ำแต่ผมยังมองไม่เห็น เพราะลังยังอยู่บนตัวผมเต็มไปหมด แต่ผมก็ไม่ได้เจ็บอะไรนะครับแต่ตกใจมากกว่า ก็ลังเปล่านี่ครับมีเจ็บบ้างก็ที่มุมกล่องมันตกลงหัวนี่แหละครับ


“พี่นัทอยู่ในนี้พี่” ต้อมหันตะโกนบอก


“ตายแล้ว ช่วยกันก่อนเร็ว” ทีนี้ผมรู่สึกว่ากล่องมันจะลดปริมาณลงเร็วมาก จนผมมองเห็นคนอื่นๆแล้วต้อมหน้าตากังวลมาก สงสัยกลัวผมจะเป็นอะไรไปอีกแน่ๆ หน้าพี่น้ำกับซีก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกครับ


พอเอากล่องออกจากตัวผมหมดแล้วต้อมก็พาผมไปนั่งอีกมุมที่ไม่มีของวางอยู่ มันกับพี่น้ำแล้วก็ซีช่วยกันเก็บกล่องที่หล่นเข้าที่จนหมด ก็เดินเข้ามาหาผม


“นัทเป็นอะไรหรือเปล่า ไปหาหมอก่อนไหม” พี่น้ำเป็นห่วง


“ไม่เป็นไรพี่แต่ตกใจมากกว่าครับ” ผมบอก


“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นทำไมมันถึงระเนระนาดขนาดนี้ ใครจะบอกพี่ได้บ้าง” พี่น้ำถามพร้อมกับหันมองหน้าเราทั้งสามคน ต้อมมานั่งข้างๆผมแล้วจับขาซ้ายผมขึ้นมาบีบเบาๆดู มันกลัวว่าจะหักซ้ำอีกแน่ๆ


“เดี๋ยวผมเล่าให้พี่ฟังเอง แต่ว่าให้ซีออกไปก่อนได้ไหมครับ” ผมบอกพี่น้ำเพราะกลัวว่าถ้าซียังอยู่ในนี้เดี๋ยวต้อมมันเลิกห่วงผมจะหันไปเล่นงานซีอีก พี่น้ำก็หันไปบอกให้ซีออกไปก่อน


ผมก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทั้งพี่น้ำและต้อมฟังไปพร้อมๆกันไปเลย จริงๆแล้วซีมันก็ไม่ได้ผิดเท่าไหร่หรอกนะผมว่า ก็ผมไปกอดมันก่อนเองนี่นาแต่ว่าตอนนั้นมันตกใจนะครับ ต่อให้ใครอยู่ตรงนั้นผมก็กอดหมดแหละครับ แต่มันมาผิดตรงที่ไม่ยอมปล่อยผมนี่สิเมื่อเห็นต้อมเข้ามา กลับยิ่งกอดผมไม่ยอมปล่อยจนเกือบเกิดเรื่องแต่ถ้ามีเรื่องจริง คนที่เสียเปรียบต้องเป็นต้อมแน่ๆผมว่าซีต้องมีแผนไว้ในใจแล้วละถึงทำแบบนั้น


พี่น้ำทำหน้าลำบากใจกับเรื่องนี้เพราะจะไปว่าซีมันทั้งหมดก็ไม่ได้ ผมเลยบอกว่าไม่ต้องไปว่าซีหรอกครับถ้าจะว่าก็แค่เตือนสติให้ซีรู้หน่อยว่าผมมีแฟนแล้ว แล้วผมก็ขอคุยกับต้อมตามลำพังพี่น้ำก็เลยออกไปข้างนอก


“ต้อมโกรธพี่เปล่าที่เรื่องเป็นแบบนี้” ผมหันไปถามต้อมทันทีที่พี่น้ำเดินออกไป


“ผมจะไปโกรธพี่ทำไมละ แต่ผมโกรธมันมากกว่า ผมว่ามันจงใจไม่ยอมปล่อยพี่นัทให้ผมโกรธแน่ๆ” ต้อมยังดูเคืองๆซีอยู่


“ถ้าเรารู้แบบนั้นแล้วทำไมไม่ใจเย็นๆละ ถ้ามีเรื่องคนที่ลำบากจะเป็นเรารู้หรือเปล่า” ผมเอามือสองข้างจับหน้าต้อมให้มองมาที่ตาผม


“ต่อไปเราต้องใจเย็นกับเรื่องนี้นะ เพราะไม่รู้ต่อไปซีจะทำอะไรอีก” ผมเข้าไปกอดต้อมไว้ตอนนี้


“พี่รักเรานะ แล้วจะรักเราคนเดียวไม่มีวันเปลี่ยนใจด้วย” ผมบอกต้อม


“ผมก็รักพี่นะ รักมากด้วย” ต้อมบอกผมกลับมา


แล้วผมกับต้อมก็ออกมาข้างนอกเห็นพี่น้ำยังยืนคุยกับซีอยู่เลยครับ ผมก็กลับไปด้านหน้าทำงานเหมือนเดิม กว่าจะผ่านวันนี้ไปได้ผมรู้สึกอึดอัดมากเลย เพราะซีไม่เหมือนคนอื่นๆที่ผมเคยเจอเลย ซีพยายามที่จะทำทุกอย่างให้ต้อมมีเรื่องให้ได้ หนักใจจริงๆเลยผมตอนนี้นี่ถ้าไม่เพราะพี่น้ำกับพี่กันแกดีกับผมนะป่านนี้ผมลาออกไม่กลับมาที่นี่แล้ว


กลับถึงบ้านวันนี้ผมเหนื่อยมากกว่าปกติเลยทีเดียว ผมอาบน้ำเสร็จก็เข้านอนต้อมนอนกอดผมเหมือนทุกวัน


“พี่ไม่เข้าใจทำไมซีถึงไม่ยอมเลิกสักที หรือเขาคิดว่าจะเปลี่ยนใจพี่ได้งั้นหรอ แต่ทำแบบนี้นี่นะมันไม่ประทับใจเลยนะ” ผมคุยกับต้อมที่นอนมองหน้าผมอยู่


“พูดอย่างกับว่าถ้าประทับใจจะรับพิจารณาเลยนะ” ต้อมทำหน้าบึ่งเฉยเลย


“ไม่ใช่และ คิดมากอีกแล้ว ใครจะไปพิจารณาคนอื่นได้ละ พี่รักได้คนเดียวนี่แหละ” แล้วผมก็ยืนหน้าไปจูบมัน


“รักแค่นี้พอไหม” ผมพูดหลังจากจูบมันไปสักพัก ต้อมมันส่ายหัวแทนคำตอบ


“ยังไม่พออีกหรอ งั้นรับไปเต็มๆเลยนะ เตรียมตัวให้ดีละ” ตอนนี้ผมลุกขึ้นไปเอาตัวไปคร่อมต้อมไว้แทน


“เอ๋ หรือจะเปลี่ยนใจ ไม่บอกแล้วดีกว่า” ผมทำทาจะกลับไปนอน


“ไม่ทันแล้วพี่ตอนนี้ ถ้าพี่ไม่บอกผมบอกพี่เองก็ได้” ต้อมพลิกกลับมาคร่อมอยู่บนตัวผมแทนแล้วทีนี้


ไม่ต้องพูดอะไรมากเลยตอนนี้ต้อมมันก็ก้มมาจูบปากผมทันที แล้วค่อยๆเลื่อนไปที่คอมือต้อมก็จัดการกับเสื้อผ้าผมกับของตัวมันเองจนหมดแล้วตอนนี้ แล้วเราสองคนก็บอกรักกันอย่างนิ่มนวลและเนินนานที่เดียว จนเราสองคนหลับกันอย่างมีความสุขจากการบอกรักกันครั้งนี้


ผมต้องมาทำงานที่หอประชุมสิริกิตอีกสามวันครับ แต่ว่ามันเหมือนยาวนานมากจริงๆเพราะมันมีคนที่จะทำให้เราเกิดปัญหาอยู่ด้วยไงละครับ ผมเลยแก้ปัญหาด้วยการจะไม่อยู่คนเดียวตามลำพัง ถ้าผมจะไปไหนก็จะไปกับต้อมหรือไม่ก็วุฒิ เพราะว่ายังไงซีมันก็ยังเกรงใจต้อมที่เป็นแฟนพี่น้ำ ถึงแม้ว่าวุฒิจะอายุน้อยกว่าซีก็ตามที ทำให้ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นมาอีก


วันนี้เป็นวันสุดท้ายของงานแล้ว ผมก็ยังทำเหมือนเดิมคือไม่ยอมไปไหนคนเดียว เพราะยิ่งวันสุดท้ายผมยิ่งกลัวว่ามันจะเกิดเรื่องนะสิครับ ผมเลยพยายามที่จะอยู่กับต้อมให้มากที่สุด กินข้าวหรือเข้าห้องน้ำพร้อมกันของแบบนี้ป้องกันไว้ดีกว่าแก้นี่ครับ


ตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้วงานปิดแล้วแต่พวกผมต้องเก็บของเช็คของที่จะส่งให้บริษัทส่งของเอาไปเก็บอีกที ผมเก็บของเสร็จเกือบเที่ยงคืนแล้วเลยว่าจะไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าก่อนกลับซักหน่อย ผมเลยชวนต้อมไปเป็นเพื่อนเพราะตอนนี้แทบไม่มีคนแล้วที่นี่เพราะเขากลับกันเกือบหมดแล้ว ยังเหลือแค่บูธผมกับอีกสองสามบูธที่ยังเก็บของไม่เสร็จ


มาถึงห้องน้ำผมกับต้อมก็ล้างหน้าล้างตากันจนเสร็จ ต้อมมันหันมองซ้ายมองขวาเห็นไม่มีคนมันก็ดึงผมไปจูบ ดูมันทำชอบหาเรื่องตื่นเต้นทำไปเรื่อย ผมก็ผลักมันออก


“เล่นอะไรไม่เข้าท่าอีกแล้ว คนอื่นเข้ามาเห็นจะทำยังไง” ผมดุต้อม แต่มันยังยืนยิ้มอยู่ได้


“เดี๋ยวพี่ยิงกระต่ายก่อนออกไปรอข้างนอกก่อนก็ได้นะ” ต้อมเลยออกไปรอข้างนอกผมก็ไปจัดการยิงกระต่ายของผมไป


อยู่ประตูห้องน้ำที่อยู่ข้างในก็เปิดออกมีคนเดินออกมาสองคน สองคนนั้นเดินไปยืนที่อ่างล้างหน้าผมเห็นมันซุบซิบอะไรกันก็ไม่รู้ ตอนนั้นผมก็ชักจะยังไงๆกับสองคนนี้แล้ว ผมเลยเลิกยิงกระต่ายแล้วจะเดินออกไปหาต้อม ตอนที่ผมจะเดินผ่านอ่างล้างหน้าเพื่อออกไปข้างนอก มันคนหนึ่งก็หันมาดึงมือผมไว้ทันทีแล้วยังไม่ทันที่ผมจะตั้งตัวได้ มันก็ต่อยเข้ามาที่ท้องผมอย่างแรงมากๆๆจนผมจุกพูดอะไรไม่ออกทรุดลงไปนั่งกับพื้นเลยครับ


แล้วอีกคนก็เดินไปล็อคประตูห้องน้ำก่อนที่จะมาช่วยกันพาผมไปที่มุมห้องน้ำด้านใน พวกมันใช้เข็มขัดมัดมือกับขาผมไว้ เอาผ้าเช็ดหน้าของผมมาอุดปากผมไว้กับใช้ผ้าอะไรไม่รู้มาปิดตาผม ตอนนี้ผมเริ่มกลัวแล้วว่าพวกมันต้องการอะไร ถ้ามันจะเอาแค่ของในตัวผมผมก็คงยอมให้มันหมดแหละครับ เพราะยังไงผมก็หาใหม่ได้ดีกว่าขัดขืนมันแล้วมันทำร้ายจนตายได้นะครับ แต่ไม่ใช่อย่างที่ผมคิดแล้วตอนนี้


“อยากรู้นักมีดีอะไรนักหนา ไอ้หน้าหล่อนั่นถึงได้ติดใจไปไหนตามกันแจเลย” คนหนึ่งในนั้นมันพูดกับผม


“เออกูก็อยากรู้เหมือนกัน กูเห็นตั้งแต่วันแรกแล้ว แล้ววันนี้มาเห็นแม่งจูบกันในห้องน้ำอีก เห็นแล้วอยากเลยวะ” ผมว่าท่าทางแบบนี้มันไม่ได้เอาของจากผมแน่ ผมพยายามที่จะดิ้นแล้วตอนนี้แต่มันก็มาต่อยท้องผมอีก


ผมนึกในใจว่าเดี๋ยวต้อมต้องเข้ามาช่วยผมแน่ๆเพราะเห็นว่าผมยังไม่ออกจากห้องน้ำ จนพวกมันคนหนึ่งเริ่มที่จะปลดกระดุมเสื้อผมแล้ว ส่วนอีกคนก็เอามือมาลูบที่โคนขาของผม แต่ทำไมต้อมไม่เข้ามาตามผมซักทีนะต้อมทำอะไรอยู่ ผมกลัวจนน้ำตาไหลออกมาแล้วตอนนี้ ถึงผมจะไม่ใช่คนขี้กลัวก็เถอะแต่เจอแบบนี้ผมก็กลัวมากเหมือนกัน


แต่พวกมันเหมือนไม่สนใจผมเลยว่าจะรู้สึกยังไง มันเริ่มที่จะลวนลามผมมากคน จนผมรู้สึกว่าจะมีคนถอดเข็มขัดผมออกผมก็พยายามดิ้นมากยิ่งขึ้น ผมก็โดนต่อยท้องมากขึ้นด้วยเช่นกันจนผมรู่สึกปวดในท้องไปหมดแล้ว แต่ยังไงผมก็ไม่ยอมพวกมันแน่ๆ ผมคิดว่าผมยอมตายดีกว่าที่จะยอมพวกมันอีกในตอนนี้

 
ผมจึงยกขาถีบเข้าไปที่คนที่ยุ่งอยู่กับการปลดเข็มขัดของผม คราวนี้ผมกลับถูกต่อยเข้าที่หน้าอย่างจัง มึนไปเลยครับตอนนี้แต่ผมตัดสินใจแล้วนี่ว่าตายเป็นตายละครับงานนี้ ผมยังขัดขืนสุดชีวิต


“ปังงงงง” เสียงเปิดประตูแรงมาก ต้อมคงเข้ามาช่วยผมแล้วแน่ๆ


“เฮ้ยมีคนมา ตัวใครตัวมันโว้ย” ผมได้ยินคนหนึ่งมันตะโกนออกมา ก่อนได้ยินเสียงคนวิ่งออกไป แล้วมีเสียงคนวิ่งเข้ามาทางผม

 
ในที่สุดต้อมก็มาช่วยผมไว้ทันจนได้ ไม่งั้นผมคงยอมตายดีกว่าที่จะยอมพวกมัน ต้อมพยุงผมลุกขึ้นแล้วแกผ้าผูกตาผมออก ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาดูแต่ไม่ใช่ต้อมนี่นากลับกลายเป็นซีไปได้ยังไง แล้วต้อมหายไปไหนทั้งๆที่ผมให้ไปรอหน้าประตู

Classical

  • บุคคลทั่วไป
ค้างอ่ะ  เป็นแบบนี้ได้งายอ่ะ




 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

Classical

  • บุคคลทั่วไป
มาดันกระทู้รอพี่นัท

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
มาต่อให้แล้วนะครับทั้งสองเรื่องเลย ทั้งมนต์รักบ้านทุ่ง กับรุ่นน้องวุ่นรัก

อ่านเพิ่งเบื่อคนเขียนซะก่อนนะครับ

ตอนที่30


“นัทเป็นอะไรหรือเปล่า” ซีแกะเข็มขัดที่มันมือผมออก แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรเพราะตอนนั้นมันระบมไปหมดเลย


“พี่นัทเกิดอะไรขึ้น” คราวนี้เป็นเสียงต้อมที่วิ่งเข้ามาหาผม ซีกำลังแกเข็มขัดที่เท้าผมออกพอดี ต้อมผลักซีออกไป


“ไม่ต้องมายุ่ง มันเกิดอะไรขึ้น” ต้อมแต่งตัวให้ผมใหม่ ซีเป็นคนเล่าเรื่องให้ต้อมฟังเพราะผมยังไม่อยู่ในสภาพที่จะเล่าอะไรให้ใครฟังเลยตอนนี้


ซีโทรศัพท์หาพี่น้ำทันทีต้อมก็ช่วยประคองผมออกมาจากห้องน้ำแล้วตอนนี้ ออกพ้นทางเข้าห้องน้ำมาพี่น้ำกับวุฒิวิ่งหน้าตื่นมาเลยตอนนี้ พี่น้ำโทรแจ้งผู้จัดงานให้ช่วยดักสองคนนั่นแต่คงไม่ทันแล้วละครับ พี่น้ำพาผมไปนั่งในห้องพักของหอประชุมฯ


“นัทไปแจ้งความเถอะ คนเราสมัยนี้มันแย่จริงๆ” พี่น้ำบอกผม


“ผมไม่รู้จะแจ้งข้อหาอะไรนะพี่ ผมอายเขาด้วย” ผมก็อายจริงๆนะแหละไปแจ้งความว่าจะโดนข่มขืนเนี่ยนะ


“แล้วจะเอายังไงละครั้งนี้”


“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ผมยังคิดอะไรไม่ออก” ผมเจ็บท้องมากกว่าตอนนี้


“เราหายไปไหนมาพี่คิดว่าเราจะมาช่วยพี่ซะอีกตอนนั้น” ผมหันไปถามต้อม มันทำหน้าเศร้าๆ


“พอดีผมเจอเพื่อนนะพี่ยืนคุยกันอยู่ ผมเห็นพี่ซีเดินเข้าห้องน้ำไป แล้วมีคนวิ่งออกมาผมก็เลยรีบตามเข้ามา” ต้อมเอามือมาจับหน้าผมตรงแผลที่โดนชก


“ซีขอบคุณมากนะที่เข้ามาช่วย ถ้าไม่ได้ซีเราคงแย่เหมือนกัน” ผมหันไปมองหน้าซีซึ่งยืนอยู่ที่ปลายเท้าผม ซีได้แต่ยิ้มตอบ


พี่น้ำเลยให้ต้อมพาผมกลับบ้านมาก่อน ผมรู้สึกระบมไปหมดแล้วตอนนี้ทำไมเรื่องแบบนี้มันต้องเกิดขึ้นกับผมตลอดเลยนะ มีแต่เรื่องเจ็บตัวเสมอเลยวันนี้ก็เกือบจะเสียตัวอีกด้วย


“พี่นัทผมขอโทษนะที่ผมไม่ได้ดูแลพี่ให้ดีกว่านี้” ต้อมพูดตอนพาผมมานอนบนที่นอน


“ไม่เกี่ยวกับเราหรอก มันเป็นที่พี่ซวยเองแหละ อย่าคิดมาก” ผมบอกมันหลังจากนอนลงบนที่นอนแล้ว มันเจ็บท้องไปหมดเลย และก็ปวดตุ๊บๆที่หน้าด้วย


ต้อมเอาน้ำแข็งมาประคบหน้าให้ผมแล้วเอามือลูบท้องผมด้วย ช่วยคลายความปวดไปได้เยอะเลยครับ ต้อมมีสีหน้าที่กังวลตลอดเวลาเลย ผมเลยเอามือไปลูบหัวมันเบาๆ


“คิดอะไรอยู่ หน้ามุ่ยเชียวยังโทษตัวเองอยู่หรือไง” ผมหันไปยิ้มให้เพื่อมันจะได้ผ่อนคลาย


“ถ้าผมสนใจสักนิดเรื่องมันคงไม่เป็นแบบนี้หรอก พอมีปัญหาอะไรทุกครั้งผมไม่เคยที่จะปกป้องพี่เอาไว้ได้เลย แล้วผมยังมีหน้ามาหวงพี่ไว้อีก ผมคงเป็นคนรักที่แย่ที่สุดเลยใช่ไหมครับ” ต้อมตาแดงน้ำตาคลอเบ้าแล้วตอนนี้ แต่มันไม่ใช่ความผิดของต้อมเลยสักนิดเดียวนะผมว่า แล้วปัญหาส่วนมากก็เกิดขึ้นจากผมมากกว่าอีก


“ใครบอกเราแบบนั้นกันละ พี่ต่างหากที่มักจะมีแต่เรื่องที่ทำให้เราต้องลำบากใจตลอดเลย แค่เราทำให้พี่ทุกวันนี้มันก็ดีมากเกินกว่าที่จะพูดออกมาได้แล้ว แค่เรายังรักพี่อยู่แค่นี้มันก็ดีมากจนเกินพอสำหรับพี่แล้ว เพราะงั้นเราอย่าคิดมากอีกเลยนะ ถือซะว่าเป็นคราวซวยของพี่เองแล้วกัน” ผมดึงมือต้อมที่ลูบท้องผมมาหอม


“ผมอยากเรียนจบเร็วๆจัง ผมจะไม่ยอมให้พี่นัทต้องมาทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว”


“ทำอะไรแบบนี้เรื่องงานนะหรอ ถ้าไม่ทำแล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้” ผมแย้งความคิดต้อง


“ผมจะดูแลพี่เอง พี่แค่อยู่บ้านแล้วรักผมก็พอแล้ว” ต้อมพูดบีบมือผมไว้เบาๆ


“ไม่เอาหรอกแบบนี้เราก็ลำบากคนเดียว พี่ไม่ยอมหรอกแล้วอีกอย่างถ้าเราเกิดไปมีกิ๊กที่ทำงานพี่จะทำยังไงละ ยิ่งหล่อๆอยู่ด้วยแฟนพี่อ่า เดี๋ยวพี่ก็กลายเป็นตาแก่เฝ้าบ้านคนเดียวเลยทีนี้” ต้อมยิ้มออกมานิดหน่อยแล้ว


“ผมไม่ทำแบบนั้นแน่นอนพี่ ถึงจะแก่ผมก็ยังรักของผมนะ”ตอนนี้มันยิ้มกว้างเลย ผมเห็นแล้วสบายใจขึ้นมาหน่อย


ต้อมพาผมอาบน้ำหายาให้ผมกินแล้วพาผมเข้านอน ต้อมยังนอนลูบท้องผมอยู่เลยแต่มันก็สบายขึ้นจริงๆนะครับ จนผมหลับไปทั้งแบบนั้นเลย


ผมรู้สึกว่ามีคนมาจับหน้าผมไว้ผมเลยตื่นขึ้นมาแต่มันเป็นใครก็ไม่รู้ครับ ทำไมเข้ามาอยู่ในห้องผมได้ยังไงแล้วต้อมหายไปไหนกัน คนนั้นจับผมมัดมือไว้กับเตียงของผมจนผมไม่สามารถขยับได้ หรือว่าจะเป็นโจรขึ้นมาบนบ้านแล้วต้อมจะเป็นยังไงบ้างแล้วตอนนี้


หลังจากที่โจนมันจับผมมัดมือเสร็จแล้วมันก็เริ่มลวนลามผมทันที นี่จะเกิดเรื่องแบบนี้อีกแล้วหรอไงกัน มันค่อยๆถอดเสื้อผ้าผมออกจนหมด แล้วมันก็ถอดกางเกงมันออกมันก็แทรกตัวเข้ามาที่ตัวผมทันที ผมไม่ยอมมัยแน่นอนผมดิ้นอย่างสุดกำลัง


“ไม่นะอย่าทำแบบนี้” ผมร้องบอกมัน


“พี่นัท พี่นัทตื่นสิครับ พี่นัท” เสียงต้อมเรียกผมนี่นา ผมค่อยๆลืมตาขึ้นเห็นต้อมนั่งอยู่ข้างๆผมแล้ว แสดงว่าเมื่อกี้ผมฝันไปใช่ไหม ผมลุกขึ้นเข้ากอดต้อมทันทีเลย ต้อมก็กอดผมตอบเอามือลูบหลังปลอบใจผมอย่างแผ่วเบา


“พี่นัทแค่ฝันร้ายนะพี่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ไม่ต้องกลัวนะ” ต้อมยังลูบหลังปลอบใจผมอยู่


“พี่ฝันเห็นพวกมันมันกำลังจะ..”ผมก็ร้องไห้ออกมาอีก(เป็นไหมครับถ้าเราอยู่กับคนที่เรารักเรามักจะร้องไห้ง่ายมากเลย ผมละคนหนึ่งเลยที่เป็นแบบนี้) ต้อมกอด
ผมแน่นเข้าไปอีกทำให้ผมอบอุ่นใจมากขึ้นและรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นด้วยเช่นกัน


“โอ๋ๆๆ เงียบซะนะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ทำไมแฟนผมขี้แงแบบนี้นะ” ต้อมปลอบใจผม


ผมยังกอดต้อมร้องไห้สักพักต้อมก็ปลอบผมอยู่แบบนั้นแหละครับ พอผมดีขึ้นต้อมก็บอกให้ผมนอนพักผ่อนต่ออีกหน่อย เดี๋ยวจะโทรไปลางานพี่น้ำให้เองแต่ผมนอนไม่หลับหรอกครับเพราะผมกลัวฝันแบบเมื่อกี้อีก ต้อมเลยชวนผมไปเที่ยวกันดีกว่าจะได้ลืมเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นด้วย แล้วเราก็ไม่ได้ไปเที่ยวกันสองคนนานแล้วด้วย


ต้อมเลยโทรไปลางานพี่น้ำให้ผมแต่ต้อมขอลาสามวันบอกว่าจะพาผมพักผ่อนจะได้ลืมเรื่องเครียดอื่นๆไปด้วย พี่น้ำก็อนุญาตต้อมเลยเก็บของเราสองคนโดยที่ผมนั่งมองอยู่บนเตียง เก็บของเสร็จเราก็มาขึ้นรถกันจนต้อมขับรถออกมาจากบ้านแล้วผมยังไม่รู้เลยว่าจะไปไหนกัน


“ตกลงเราจะไปไหนกัน จะไม่บอกบ้างเลยหรือไง” ผมหันไปถามต้อมที่กำลังขับรถอยู่


ต้อมหันมายิ้ม “เดี๋ยวพี่นัทก็รู้เองแหละ พี่นัทนอนพักไปก่อนเลยอีกนานกว่าจะถึง” แล้วต้อมก็เปิดเพลงซึ้งๆให้ผมฟังจนผมหลับไป


“พี่นัทถึงแล้วครับพี่” ต้อมปลุกผมให้ตื่นหลังจากจอดรถแล้ว


ผมมองออกไปรอบๆรู้สึกว่าที่นี่คุ้นตามากเหลือเกิน อ้อผมจำได้แล้วมันเป็นที่ผมพาพวกต้อมมารับน้องตอนปีหนึ่งนี่เอง มันนึกยังไงถึงพาผมมาที่นี่นะหรือจะพามาระลึกถึงความหลัง ก่อนลงจากรถต้อมมันหยิบแว่นraybanของมันจากหน้ารถมาใส่ให้ผม สงสัยจะให้ปิดรอยเขียวตรงใกล้ตาแน่ๆ


“เพิ่งเคยเห็นพี่นัทใส่แว่นกันแดดนะนี่ หล่อเหมือนกันนะ” มันมาอีกแหละปากหวานมาเชียว


“ไม่ต้องมาแซวเลย แต่นึกยังไงถึงมาทีนี่ละ” ผมถามระหว่างเดินไปที่ฟร้อนท์


“ก็ผมอยากมารำลึกความหลังกับพี่ไง” ต้อมบอกแล้วเดินเข้าไปเช็คอินให้ผมนั่งรอที่โซฟารับแขกก่อน ต้อมเลือกห้องเดิมที่ผมนอนตอนมารับน้องมันยังจำได้อีก
หลังจากเราเข้าไปเก็บของกันแล้วเราก็ออกไปเดินเล่นแถวชายทะเลกันเพราะเรามาถึงก็บ่ายมากแล้ว


“พี่นัทจำได้เปล่าตอนที่มือพี่โดนแก้วบาดนะ ผมตกใจมากเลยตอนที่เห็นเลือดที่มือพี่นะ แต่พี่สิกลับไม่รู้สึกตัวคนเราเลือดไม่ไหลจนหมดตัวก้ดีแล้ว” ดูมันมาว่าผม


“นี่เรากล้าว่าพี่แล้วหรอ ลืมกฎไปแล้วหรือไงเดี๋ยวสั่งลงโทษลุกนั่งซะเลย” ต้อมหัวเราะแล้วทำท่าลุกนั่งให้ผมดู ผมก็หัวเราะไปด้วยครับตอนนั้น


เราเดินไปนึกถึงเรื่องตอนรับน้องของพวกเราไป จนผมสบายใจมากขึ้นเหมือนกัน ผมยังจำตอนที่เอาพริกสองเม็ดให้ต้อมกินได้เลยตอนนั้น นึกถึงหน้าต้อมตอนนั้นก็ขำออกมาเลย จนต้อมถามว่าผมขำอะไรผมก็เลยบอกว่ากำลังนึกถึงหน้ามันตอนกินขนมปังพริกกระปิไง มันนึกออกทันทีแล้วยังบอกผมอีกว่ายังไม่ได้เอาคืนเลยเรื่องนี้ อย่างกับว่าผมจะกลัวอย่างนั้นแหละ 555


ตอนเย็นเรากินร้านอาหารแถวเขาตะเกียบกันเพราะที่นั่นร้านอาหารอร่อยๆเยอะมาก กินเสร็จเราก็เข้าไปเที่ยวตลาดโต้รุ่งเดินหาซื้อของกินกันต่อ จนดึกค่อยกลับมาที่ห้อง


“พี่นัทจำได้ไหมว่าผมเคยแอบจูบพี่ตอนหลับในห้องนี้” ต้อมถามผม


“ทำไมจะจำไม่ได้ละ เรานะชอบแอบมาจูบพี่ตอนหลับประจำเลย ไม่รู้ชอบอะไรนักหนาตอนคนหลับ”


“ผมก็ไม่รู้สิทุกวันนี้ผมยังแอบจูบอยู่เลยนะ” ต้อมยิ้มกว้างให้ผมเลย


“อ่านะ งั้นต่อไปก็ไว้จูบแต่ตอนพี่หลับแล้วกันนะ” ผมแกล้งมันละทีนี้


“เรื่องอะไรละ ตอนนั้นพี่ยังไม่ยอมมาเป็นแฟนผมนี่นา แต่ตอนนี้พี่เป็นแฟนผมแล้วนะผมจะจูบตอนไหนก็ได้สิ แบบนี้ไง” ว่าแล้วมันก็ดึงหน้าผมไปจูบผมก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรนะครับ สุดท้ายคืนนั้นก็จบลงด้วยการสู้กันของเบจิต้ากับโงกุนซึ่งผลัดกันรุกผลัดกันรับไปคนละหนึ่งยก ก่อนที่เราจะอาบน้ำแล้วนอนกอดกันเหมือนเดิม


ตอนเช้าเราตื่นไปเดินเล่นชายหาดกันได้สูดอากาศบริสุทธิ์แบบนี้ก็สบายดีเหมือนกัน ตอนนี้ผมสบายใจมากลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไปหมดแล้วด้วย ระหว่างที่เราเดินเล่นกันก็เดินสวนผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาน่ารักเลยทีเดียวตาโตจมูกโด่งมากเลยครับ ผู้หญิงคนนั้นมองหน้าพวกเราแปลกๆแต่ผมไม่สนใจเดินผ่านไปเลยกับต้อม แล้วผู้หญิงคนนั้นก็มาสะกิดต้อม


“เออ ขอโทษนะคะใช่ต้อมหรือเปล่าค่ะ” เธอทักทายต้อม ผมเห็นต้อมทำหน้าสงสัย


“ใช่ครับ แต่ว่าคุณคือ..” ต้อมพยายามนึกใหญ่เลย


“เราไงปลา จำเราไม่ได้หรอไง” เธอแนะนำตัวเอง ต้อมทำหน้านึกนิดนึงก่อนยิ้มออกมา


“อ๋อ เราจำได้แล้วแต่ว่ามาทำอะไรที่นี่” ต้อมบอกปลาไป


“เรามาเที่ยวกับที่บ้านนะสิ แล้วนี่มากับใครหรอ” ปลาหันหน้ามามองผม


“อ๋อรุ่นพี่ที่มหา’ลัยนะ” ผมเห็นต้อมรู้จักคงเป็นเพื่อนเก่ากันละมั้ง ผมเลยเดินเลยออกมาก่อนแต่ครามนี้ทำไมมันแนะนำผมว่าเป็นรุ่นพี่นะ ทุกทีชอบแสดงตัวว่าเป็นแฟนหรือไม่อยากให้เพื่อนเก่ารู้มั้ง ผมไม่อยากคิดมาก


“ว่าไงครับรุ่นน้อง คุยกันกับเพื่อนเสร็จแล้วหรอ” ผมแอบมีเคืองนิดๆเลยประชดมันไป


“อะไรอีกละพี่นัท งอนอะไรผมอีกเนี่ย” ต้อมเดินเข้ามากอดเอวผม


“ใครงอนอะไร เราเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันจะงอนอะไรได้”


“เลิกงอนได้แล้วนะเดี๋ยวยิ่งแก่ไม่รู้ด้วย ผมแค่ยังไม่อยากให้ปลารู้เท่านั้นเอง” นั่นยังมาว่าผมแก่อีกเอากะมันสิ แล้วมันก็เอาหัวมาหนุนไหลผมไว้ ผมเลยผลักหัวมันออกก็มันเดินไม่ถนัดนี่ครับ มันก็ยอมที่ไหนเอากลับมาหนุนอีกจนผมต้องปล่อยมันไปแล้วเดินแบบนั้นนะแหละ


หลังจากเที่ยวเสร็จผมก็กลับมาทำงานตามปกติ แต่ผมย้ายไปอยู่ที่ออฟฟิศพี่กันแทน เจอซีบ้างบางครั้งแต่ผมก็ไม่ได้อะไรแล้วเพราะยังไงมันก็เคยช่วยผม แต่คนที่ทำตัวแปลกคือต้อมนี่สิตั้งแต่กลับมาจากเที่ยวกัน ช่วงนี้โทรศัพท์บ่อยมากขึ้นแล้วชอบออกไปคุยนอกห้องคนเดียวบ่อยๆ ผมถามว่าใครโทรมาก็บอกว่าเพื่อนจนผมเริ่มสงสัย


“ครืน ๆๆ” เสียงโทรศัพท์ต้อมดังขึ้น ต้อมเข้าห้องน้ำอยู่ผมเลยหยิบขึ้นมาดูว่าใคร เป็นชื่อของปลาผมเลยกดรับสาย


“ต้อมทำอะไรอยู่วันนี้ไม่โทรมาหาเลยนะ ไมรู้หรือไงมีคนคิดถึง” ปลาพูดทันทีที่ผมกดรับสาย ตอนนี้ผมรู้สึกแปลกๆแล้วครับ เพื่อนกันไม่น่าจะพูดกันแบบนี้


“เออ ไม่ใช่ต้อมนะครับต้อมเข้าห้องน้ำอยู่ มีธุระอะไรจะฝากไว้ไหมครับ” ผมพยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด


“ขอโทษคะงั้นบอกว่าปลาโทรมานะค่ะ” แล้วปลาก็วางสายไปเลย

...............................


Classical

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อให้แล้วนะครับทั้งสองเรื่องเลย ทั้งมนต์รักบ้านทุ่ง กับรุ่นน้องวุ่นรัก

อ่านเพิ่งเบื่อคนเขียนซะก่อนนะครับ





ว่าแต่คนเขียนเหอะ ไม่ขี้เกียจเขียนบ้างเหรอ 55555  


ปลานี่แฟนเก่าต้อมป่าวหว่า  หรือว่า ต้อมแอบนอกใจ   อย่างนี้ต้อง :z6: :z6: :z6: :z6:


แต่อย่าขี้เกียจเลย เด๊วผมอดอ่าน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-05-2010 12:25:15 โดย Classical »

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
เกือบลืมลงเรื่องนี้เลย :-[ :-[

ช่วยอ่านทั้งสองเรื่องเลยนะครับ :pig4: :pig4:

ตอนที่31


หลังจากที่วางโทรศัพท์ของปลา ผมรู้สึกไม่ดีอย่างมากนี่ต้อมมันกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ หรือว่ามันกับปลาจะแอบชอบกัน แล้วอย่างนั้นผมละต่อไปผมจะเป็นยังไง ระหว่างที่ผมกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ต้อมก็ออกจากห้องน้ำมาพอดี

“ต้อมมีอะไรจะบอกพี่บ้างหรือเปล่า” ผมถามต้อมมันก็มองหน้าผมแบบงงๆ ผมก็มองตอบเพราะผมอยากรู้จริงนี่ครับมันจะมีอะไรบอกผมไหม

“ไม่มีนี่ครับ พี่จะให้ผมบอกอะไรหรอ ถ้าจะให้บอกก็ผมรักพี่ไงครับ” มันยังจะมาบอกรักผมได้อีกหรอ

“เปล่าไม่มีอะไร แต่เมื่อกี้ปลาโทรมา” ผมบอกต้อมก็หยิบโทรศัพท์แล้วเดินออกไปนอกห้องเลยทันที

ผมรู้สึกใจคอไม่ดีเลยยังไงไม่รู้ถ้าเป็นแบบที่ผมคิดจริงๆ แล้วผมจะทำยังไงต่อไปละทีนี้ผมเลยอยากรู้ว่าปลานะเป็นใคร เออทำไมผมไม่โทรหาหนุ่ยละมันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยมนี่นา ก็น่าจะรู้จักปลาเหมือนกันนะ

“ว่าไงพี่นัท คิดยังไงถึงโทรหาผม” เสียงหนุ่ยรับสาย

“หนุ่ยพี่มีเรื่องอยากถามเราหน่อยสิ แต่พี่ของอย่างเดียวเราต้องบอกพี่ทุกอย่างที่เรารู้เลยได้เปล่า” ผมเสียงเคร่งเครียดมากตอนนี้

“มีอะไรหรือไงพี่ไอ้ต้อมมันทำอะไรอีก พี่ถามมาเลยถ้าผมรู้ผมจะบอกทุกอย่างเลย” หนุ่ยพูด

“เรารู้จักคนที่ชื่อปลาหรือเปล่า แล้วปลาสนิทกับเรากับต้อมมากแค่ไหน” ผมลุ้นไปกับคำตอบของหนุ่ยแล้วตอนนี้

“รู้จักสิพี่แต่ว่าพี่นัทรู้จักปลาได้ยังไง” เสียงหนุ่ยเริ่มแปลกๆไป

“เอาเป็นว่าพี่รู้แล้วกัน แล้วเขาสนิทกับต้อมมากแค่ไหนเรายังไม่ได้บอกพี่เลย” ผมถามซ้ำเพราะผมอยากรู้คำตอบนี้มาก เพราะเรื่องที่ผมคิดมันอาจไม่ใช่ก็ได้ถ้าต้อ
มกับปลาเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่คงไม่อยากให้รู้เรื่องผมเราก็ได้

“เออ...คือว่า...เออ ผมจะบอกพี่นัทยังไงดีละ” หนุ่ยดูเหมือนอึดอัดไม่กล้าบอก

“บอกมาเถอะ เราสัญญากับพี่แล้วนะว่าจะเล่าให้ฟังทุกอย่าง” ผมเริ่มทวงสัญญา แต่ใจผมเต้นรัวแล้วตอนนี้มันต้องมีอะไรแน่ๆหนุ่ยถึงได้ไม่กล้าบอกผม

“คือว่าปลามันเป็นแฟนเก่าต้อมก่อนที่จะมาเจอพี่นัทนะครับ แต่ว่าพี่อยากรู้เรื่องนี้ไปทำไมกัน” หนุ่ยถามผมกลับแต่ตอนนี้ผมตอบไม่ถูกแล้วครับ แสดงว่าต้อมต้องกำลังจะกลับไปคบกับปลาอีกก็ได้ แล้วมันก็กำลังปิดบังผมอยู่นี่ผมกำลังจะถูกทิ้งแล้วใช่ไหม

“พี่นัทพี่ยังไม่ตอบผมเลยว่าพี่ถามไปทำไม” เสียงหนุ่ยดังออกมาจากปลายสาย

“เออ...ไม่มีอะไรหรอก แต่อย่าบอกต้อมนะว่าพี่ถามเราเรื่องนี้ งั้นแค่นี้นะขอบใจมากเลย” แล้วผมก็ตัดสายทิ้งไปเลย

นี่ผมกำลังจะโดนคนที่บอกรักผมอยู่ทุกวันหักหลังผมหรอไงกัน แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกน่าก็ต้อมรักผมมากจะตายไป แต่นั่นก็เป็นแฟนเก่าของมันนะแถมยังน่ารักมากด้วย แล้วถ้าต้อมกลับไปคบกับปลาก็ไม่ต้องระแวงหรือคอยปิดบังเหมือนอยู่กับผม แต่ต้อมก็ยังบอกรักผมอยู่เลยนะเมื่อกี้นี้ผมเริ่มสับสนกับตัวเองไปหมดแล้ว ใจหนึ่งก็คิดว่าต้อมจะกลับไปคบกับปลา อีกใจก็คิดว่ามันยังรักผมอยู่ หรือว่านี่เป็นแค่การเข้าข้างตัวเองของผมกันแน่นะ

ต้อมเดินกลับเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า มันคงจะมีความสุขมากละมั้งที่ได้คุยกับปลา ผมเลยนอนหันหลังให้ทางที่ต้อมนอน มันก็เข้ามากอดผมจากข้างหลัง

“พี่นัทเป็นอะไรอีกละทำไมนอนแบบนี้” ต้อมมันชะโงกหน้ามาถาม

“ต้อมพี่ถามจริงๆมีอะไรที่จะบอกพี่หรือเปล่า” ผมอยากให้มันบอกกับผมมาตามตรง ถ้ามันจะกลับไปชอบกันหรือว่ายังไง ผมอาจจะยังพอทำใจได้ขึ้นมาบ้างที่ได้ฟังเรื่องนี้จากตัวมันเอง

“พี่นัทต้องมีอะไรแน่เลยแบบนี้ พี่จะให้ผมบอกอะไรผมก็บอกไปแล้วไงว่าผมรักพี่ไงครับ” ตอนนี้ผมไม่ได้อยากได้ยินคำว่ารักหรอก มันดูเหมือนว่ามันจะยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บขึ้นมามากกว่า ผมเลยดึงผ้าผมขึ้นมาคลุมโปงไว้

“พี่นัทโกรธอะไรผมเนี่ย” ต้อมคงจะงงว่าผมเป็นอะไร ก็มันอยากปิดบังผมก่อนทำไมละ แต่มันก็ยังนอนกอดผมทั้งๆทีหันหลังให้มันแบบนั้น

เช้าผมก็ตื่นออกมาทำงานเลยไม่ได้รอให้ต้อมมาส่งเหมือนทุกวัน ผมยังคิดว่ามันจะโทรมาหาผมหลังจากที่ตื่นแล้วเลย แต่ว่ามันก็ไม่ได้โทรหาผมเลยวันนั้นทั้งวัน ต้อมมันเปลี่ยนไปจริงๆตั้งแต่เจอกับปลา ผมคิดว่าตอนนี้ผมไม่ได้คิดมากไปเองอีกแล้ว ผมทำงานแบบไม่มีความสุขเอาซะเลยตอนนี้มันมีแต่เรื่องต้อมวนเข้ามาในหัวผมตลอด จนผมแทบไม่ได้คิดเรื่องงานเลยตอนนี้จิตใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยครับ

จนเลิกงานผมกำลังจะขึ้นแท็กซี่กลับบ้านเห็นต้อมมายืนรอผมอยู่พอดี ต้อมมารับผมกลับบ้านแต่นั่งรถมาผมก็ไม่ได้คุยอะไรกับมันเลย ต้อมมันเลยเปิดเพลงทำลายความเงียบ แต่เพลงที่มันเปิดสิครับผมได้ยินละอึ้งเลย ก็มันเป็นเพลงรักสามเศร้าของพริกไทยนะครับ ยิ่งตรงท่อนฮุกนะผมละอึ้งไปเลยไม่เคยคิดว่าเพลงมันจะโดนขนาดนี้

คนหนึ่งเขาช่างดีกับฉันจะทิ้งเขาลงยังไง
คนหนึ่งเคยทิ้งไปแต่รักไม่เคยจางหาย
ฉันไม่ใช่เจ้าหญิงจากไหนก็คงต้องเลือกสักทาง
ทางที่รักสามเศร้าต้องจบ

เหมือนมันจะบอกอะไรผมเป็นนัยหรือเปล่านะ หรือแค่เพลงมันบังเอิญพอดีแค่นั้นเอง แต่ว่าตอนนี้มันกระทบกระเทือนใจผมอยากมาก จนผมต้องหันหน้าไปทางหน้าต่างแอบเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา ตอนนี้ผมคงเป็นตัวเลือกของต้อมอยู่แน่ๆ และผมก็คิดว่าผมคงไม่ใช่คนที่ต้อมเลือกด้วยอีกต่างหาก แต่ต้อมมันสังเกตเห็นจนได้มันจอดรถเข้าข้างทางทันที แล้วดึงให้ผมหันหน้าไปทางมันตอนนี้ผมคงตาแดงและมีน้ำตาคลออยู่แน่ๆ

“พี่นัทเป็นอะไรร้องไห้ทำไม” ต้อมมันทำเสียงเป็นห่วงผม ยิ่งทำให้น้ำตาผมไหลออกมาอีก มันรีบดึงผมเข้าไปกอดไว้ทันที

“พี่นัทเกิดอะไรขึ้น พี่ร้องไห้ทำไม” ต้อมพยายามปลอบใจผม

“ต้อมถ้าพี่ถามอะไรเราจะบอกความจริงพี่ได้ไหม” ผมตัดสินใจที่จะถามเรื่องราวทั้งหมด เพราะผมไม่อยากอึดอัดอีกต่อไปแล้ว ถ้าจะเลิกกันก็ได้เลิกกันตั้งแต่ตอนนี้ไปเลย

“เรื่องอะไรพี่ถามมาเลย ผมไม่เคยปิดบังอะไรพี่อยู่แล้ว” ผมดันตัวออกจากกอดของต้อม

“เรากับปลาเป็นอะไรกันมาก่อนที่จะมาคบกับพี่” ผมมองหน้าต้อม

“เราก็เป็นเพื่อนกันเท่านั้นเองครับ” ต้อมตอบผมแต่ก็ยังไม่ใช่ความจริงอยู่ดี

“แต่พี่รู้แล้วนะว่าเรากับปลาเคยเป็นอะไรกัน ทำไมเราต้องโกหกพี่ด้วย ไหนว่าจะพูดความจริง” ตอนนี้ต้อมทำหน้าแปลกใจพร้อมกับเคร่งเครียดขึ้นมาทันที

“พี่รู้เรื่องนี้แล้วหรอ พี่รู้จากใครผมว่าคงเป็นไอ้หนุ่ยใช่ไหม ผมก็แค่ไม่อยากให้พี่ไม่สบายใจเท่านั้นเอง” มันจับมือผมไว้

“แต่พี่ว่าการที่เราไม่บอกพี่มันทำให้พี่ไม่สบายใจมากกว่าอีก ทั้งที่พี่พยายามจะให้เราบอกความจริงพี่หลายครั้งแล้ว แต่เราก็ยังปิดบังพี่อยู่ถ้าเราจะกลับไปชอบกันก็บอกก็พี่ได้เลยนะ เดี๋ยวพี่จะเป็นคนที่เดินออกไปเอง” ผมระบายความอัดอั้นของผมออกมา

“มันไม่ใช่แบบนั้นนะพี่ ผมกับปลาไม่มีอะไรกันแล้วจริงๆผมแค่ไม่อยากให้พี่ไม่สบายใจก็แค่นั้นเอง” ต้อมยังยืนยังเหมือนเดิม

“แล้วทำไมเวลาเขาโทรมาเราต้องออกไปรับสายที่อื่นด้วยละ ทำไม่ต้องมีเรื่องปิดบังกันด้วยหรอ” ตอนนี้ต้อมทำท่าทางเหมือนบอกไม่ถูกอะไรแบบนั้น

“เห็นไหมเราก็ตอบพี่ไม่ได้ ถ้าเรายังรักเขาอยู่ก็บอกพี่นะ อย่าทำให้พี่เหมือนคนโง่อยู่อย่างนี้เลย” เฮ้อน้ำตามันมาอีกแล้วแต่มันก็ช่วยให้ผมหายอึดอัดไปได้เยอะ
เหมือนกัน

“พี่นัทมันไม่ใช่แบบนั้นจริงๆนะพี่ ผมยังรักพี่คนเดียวนะตอนนี้” ต้อมมันพยายามอธิบายให้ผมเข้าใจ

“ก็คงแค่ตอนนี้ใช่ไหมละ ถ้าต่อไปคงไม่ใช่แล้วยังไงเขาก็เป็นคนรักเก่าของเรานี่นะ พี่มาที่หลังอยู่แล้วแล้วถ้าเราบอกว่าไม่มีอะไรก็น่าจะบอกความจริงพี่ตั้งแต่แรกแล้ว” ผมเช็ดน้ำตาเพราะไม่อยากร้องให้กับเรื่องนี้อีกแล้ว

“พี่นัทมันไม่ใช่..”

“กลับบ้านเถอะพี่ไม่อยากพูดเรื่องนี้อีกต่อไปแล้ว” ผมพูดแทรกขึ้นมาทันที ต้อมยังคงไม่ยอมออกรถ แต่พยายามที่จะบอกให้ผมเข้าใจมัน

ผมไม่อยากได้ยินเรื่องนี้แล้วเพราะผมไม่รู้ว่าต้อมมันกำลังพูดเรื่องจริงหรือโกหกผมอยู่ ผมเลยบอกว่าถ้าต้อมไม่พาผมกลับบ้านผมก็จะนั่งรถแท็กซี่กลับเอง ต้อมเลยยอมขับรถกลับบ้านมาถึงบ้านผมก็ยังไม่ได้คุยกับมันอีกเลย ผมอาบน้ำเสร็จก็เข้านอนเลย แต่วันนี้ผมนอนห้องรับแขกข้างล่างห้องที่เคยเป็นห้องเก่าของน้าผมแหละครับ ผมจัดไว้เวลาพ่อกับแม่หรือเพื่อนๆมาจะได้มีที่นอน ผมนอนล็อคห้องไม่ให้ต้อมเข้ามาหาผมได้ ต้อมมาเคาะประตูเรียกผมหลายครั้งจนอ่อนใจไปเอง
ผมออกมาทำงานแต่เช้าเพราะวันนี้มีประชุมด้วย ผมอยากทำงานเพื่อจะได้ลืมเรื่องต้อมผมจะได้ไม่รู้สึกไม่ดี เราประชุมกันจนถึงบ่ายโมงผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นต้อมโทรเข้ามาไม่ต่ำกว่าห้าสิบสายผมเห็นแบบนั้นก็เลยตัดสินใจโทรไปหามันหน่อย เพื่อมันอยากจะบอกอะไรผมอีกบ้าง

“ฮัลโหล ต้อมไม่อยู่นะค่ะ พี่นัทมีอะไรจะหรือเปล่าค่ะ” เสียงปลารับสายให้ต้อม

..................................

ปล. ถ้าผมลืมลงนานก้ช่วยเตือนด้วยนะคร้าบ

Classical

  • บุคคลทั่วไป
โฮะ ๆ  ๆ   ๆ  ทำไมลงแค่นี้ล่ะ พี่นัท รู้ไหม มันค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :z3: :z3: :z3: :z3:



ทามไมไม่มีคนมาเม้นท์ให้กำลังใจซักคนเลยอ่า 


สู้ต่อปายยย

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
โฮะ ๆ  ๆ   ๆ  ทำไมลงแค่นี้ล่ะ พี่นัท รู้ไหม มันค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :z3: :z3: :z3: :z3:



ทามไมไม่มีคนมาเม้นท์ให้กำลังใจซักคนเลยอ่า 


สู้ต่อปายยย

สู้อยู่แล้วคร้าบบบบ

แค่เข้ามาอ่านก็ดีใจแล้ว แต่ถ้าเม้นท์รักตายเลย :กอด1:

Classical

  • บุคคลทั่วไป
โฮะ ๆ  ๆ   ๆ  ทำไมลงแค่นี้ล่ะ พี่นัท รู้ไหม มันค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :z3: :z3: :z3: :z3:



ทามไมไม่มีคนมาเม้นท์ให้กำลังใจซักคนเลยอ่า 


สู้ต่อปายยย

สู้อยู่แล้วคร้าบบบบ

แค่เข้ามาอ่านก็ดีใจแล้ว แต่ถ้าเม้นท์รักตายเลย :กอด1:


โฮะๆๆ 

เป็นกำลังใจให้คราบ

ออฟไลน์ nataxiah

  • โปรดอย่าถามว่าเขาเป็นใคร เพราะฉันไม่ตอบ อิอิ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +423/-56
มาต่อแล้วครับ ดึกไปหน่อยอย่าว่ากันนะครับ

ตอนที่32


“เออ...ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่เห็นเขาโทรมาเลยคิดว่ามีธุระอะไร งั้นพี่ไม่รบกวนแล้วนะ” ผมพยายามทำเสียงให้นิ่งที่สุด แล้ววางสายไป
ผมรู้สึกยังไงก็ไม่รู้แล้วตอนนี้มันอึดอัดไปหมด หัวมันตื้อไปทันทีตรงหัวใจก็รู้สึกเจ็บจนต้องเอามือมากุมหน้าอกไว้ นี่ต้อมคงจะกลับไปคบกับปลาแล้วหรือยังไง แล้วผมจะเป็นยังไงต่อไปถ้าผมต้องอยู่คนเดียวโดยไม่มีต้อม

ผมจะทำยังไงดีผมยังไม่อยากจะเจอเรื่องแบบนี้ตอนนี้ ผมยังไม่อยากที่จะกลับบ้านยังไม่อยากที่จะเจอต้อม ผมกำลังสับสนกับตัวเองอย่างมากเลยตอนนี้ อีกใจผมก็อยากที่จะจบเรื่องนี้ไปเหมือนกัน ผมจะได้ทรมานไปที่เดียวเลยถ้าจะทนไม่ได้จนตายผมก็คงโทษใครไม่ได้ คงเพราะผมอ่อนแอเองผมกำลังคิดอะไรเพลินๆ พี่น้ำก็เดินมาจับไหล่ผมทำให้ผมหลุดพ้นจากความคิดที่แย่ๆนั่น

“นัทแล้วจะให้ใครไปเชียงใหม่กับซีดีละ มีแต่คนงานยุ่งทั้งนั้นเลย” พี่น้ำถามผม ผมคิดอะไรออกแล้วหนทางที่ผมจะไม่ต้องเจอกับต้อมในตอนนี้

“เดี๋ยวผมไปเองครับพี่” ผมบอกพี่น้ำมองหน้าผมแบบงง เพราะว่าผมเป็นคนที่เลี่ยงที่จะไปไหนมาไหนกับซีเสมอ จากเรื่องที่เกิดขึ้น

“จะดีหรอพี่ว่าให้คนอื่นไปดีกว่าไหม พี่ไม่อยากให้เรามีปัญหากับต้อมอีกนะ” พี่น้ำทำหน้ากังวลนิดๆ

“ไม่เป็นไรหรอกพี่มันคงไม่มีเวลาสนใจผมหรอกช่วงนี้ แต่ว่าไปวันนี้เย็นเลยใช่ไหมพี่” ผมหันไปมองพี่น้ำยังทำหน้าแปลกใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรผม

“อืม ใช่เย็นนี้แหละงั้นเราจะกลับไปเก็บของก่อนหรือเปล่า”

“ไม่หรอกครับเดี๋ยวไปซื้อใหม่เอา ผมไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่มานานแล้วด้วย จะได้ถือโอกาสนี้หาซื้อเลยไงพี่” ผมหันไปยิ้มเจื่อนๆให้พี่น้ำเพราะอารมณ์ผมตอนนี้ไม่ได้ดีขนาดจะยิ้มให้ใครแล้วครับ

ระหว่างนั้นต้อมก็โทรหาผมตลอดแต่ผมไม่ยอมรับสาย ผมยังไม่กล้าที่จะรับสายตอนนี้ด้วย ตอนเย็นรถตู้ก็มารับตกลงผมเลยไปเชียงใหม่กับซีสองคน ขึ้นรถตู้ผมนั่งแถวแรกต่อจากคนขับซีนั่งแถวถัดไป พอรถออกมาจนพ้นกรุงเทพมาถึงประมาณแถวนวนครผมถึงรับโทรศัพท์ต้อมที่โทรมาหาตลอด

“พี่นัทตอนนี้พี่อยู่ไหนครับ ทำไมไม่ยอมรับสายผมเลย” เสียงต้อมดูร้อนรนมากตอนนี้

“พี่จะไปทำงานต่างจังหวัด เราอยู่ของเราให้สบายใจนะ จะได้ไม่ต้องมาระแวงว่าพี่จะรู้อะไรอีก”

“พี่นัทพูดอะไรของพี่กัน ผมระแวงอะไรแล้วพี่รู้เรื่องอะไร ผมไม่เห็นจะเข้าใจที่พี่พูดเลย” ต้อมทำเสียงสงสัย

“ก็เรื่องเรากับปลาไงพี่รู้หมดแล้วนะ ว่าเราจะกลับไปคบกันใช่ไหม” ผมเริ่มจะน้ำตาคลอแล้วตอนนี้

“ใครบอกพี่ มันไม่ใช่อย่างที่พี่เข้าใจนะครับ ผมกับปลาไม่มีอะไรกันแล้วนะพี่เพราะเป็นแค่เพื่อนกัน” ต้อมพยายามอธิบายให้ผมฟัง แต่เรื่องมันเป็นถึงขั้นนี้ยังจะมาโกหกผมอีกหรอนี่

“ไม่มีใครบอกพี่หรอก พี่รู้เองวันนี้เราก็อยู่กับปลาสองคนไม่ใช่หรอ ถ้าเรายังไม่เข้าใจตัวเองว่าจะเอายังไง พี่ว่าช่วงที่พี่ไปทำงานนี่เรามาทบทวนกันดีกว่านะ ว่าเรายังรักพี่อยู่หรือเปล่าหรือว่าเราเริ่มที่จะไปรักคนอื่นแล้ว แล้วพี่กลับมาเราค่อยคุยกัน” ผมวางสายหลังจากพูดเสร็จ ตอนนี้ผมร้องไห้ออกมาแล้วผมไม่รู้ว่าซีย้ายมานั่งข้างผมเมื่อไหร่ แต่ซีดึงผมเข้าไปกอดตอนนี้ผมก็เลยร้องไห้ออกมาทั้งๆที่ซบอกของซีอยู่ ซีเอามือมาลูบหัวผมจากข้างหลังเพื่อปลอบใจผม

ผมเริ่มที่จะทำใจได้ผมก็เงยหน้ามามองหน้าซี ซียิ้มให้ผมแล้วก็ย้ายกลับไปนั่งที่เดิม ผมก็ไม่ได้พูดอะไรกับซีเลยต้อมก็ยังโทรเข้าเครื่องผมตลอดเวลา ผมเลยปิดเครื่องแล้วหลับไปเพราะผมไม่อยากคิดอะไรตอนนี้อีกแล้ว ผมหลับตลอดทางจนถึงเชียงใหม่มาตื่นก็ตอนซีปลุกว่าถึงโรงแรมที่จองไว้แล้ว

ซีไปจัดการเช็คอินเสร็จก็เข้าห้องเพราะเราต้องไปพบลูกค้าตอนบ่าย ผมต้องนอนห้องเดียวกับซีเพราะช่วยบริษัทประหยัดด้วยครับ แต่นอนเตียงคู่นะครับคราวนี้พอล้างหน้าอาบน้ำเสร็จผมเลยจะออกไปซื้อเสื้อผ้าก่อน ก็ผมไม่ได้เอามาเลยนี่ครับจะใส่ชุดเก่าไปก็กระไรอยู่ ผมให้ซีเตรียมเอกสารที่จะไปคุยกับลูกค้าไปก่อน ผมก็ให้พี่คนขับรถตู้พามาที่เซ็นทรัลแอร์พอร์ตเพื่อหาซื้อเสื้อผ้า ผมมาถึงก็รีบเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าเพราะว่าเดี๋ยวต้องกลับไปรับซีแล้วไปหาลูกค้าอีก แต่ผมคงรีบมากไปหน่อยพอซื้อของเสร็จผมจำไม่ได้ว่าเอากระเป๋าเงินไปวางไว้ที่ไหน ผมจะทำยังไงดีเงินนะผมไม่ค่อยสนใจหรอกครับแต่เอกสารส่วนตัวนี่สิ ไหนจะบัตรเครดิตอีกคงวุ่นวายน่าดูถ้าจะต้องทำใหม่หมดเลย ตอนนี้กระวนกระวายนึกถึงกระเป๋าเงินอยู่นั้น

“พี่ครับนี่ของพี่หรือเปล่าครับ” มีคนเรียกผมจากข้างหลัง ผมเลยหันไปมองเป็นน้องนักศึกษาหน้าตาดีตามสไตล์เด็กเหนือเลยครับ ยื่นกระเป๋าเงินของผมมาให้

“อะ ใช่ครับขอบคุณมากครับ กำลังนึกว่าจะหาเจอหรือเปล่าพอดีเลย” ผมผงกศีรษะให้เล็กน้อยพร้อมด้วยรอยยิ้ม แล้วรับกระเป๋ากลับมา

“ไม่เป็นไรครับ คราวหน้าอย่าลืมวางไว้ทั่วอีกนะครับ” เขายิ้มให้ผม

“ครับขอบคุณอีกครั้งนะครับ เออ..แล้วพี่จะตอบแทนเรายังไงดีเนี่ย” ผมเริ่มบ่นกับตัวเอง เพราะปกติเวลาที่ผมทำของหายผมจะต้องตอบแทนคนที่เก็บมาคืนเสมอ ปกติก็ให้เงินเล็กน้อยแหละครับ แต่น้องคนนี้ให้เงินคงน่าเกรียด

“ไม่ต้องตอบแทนผมหรอกครับผมเต็มใจ ผมเป็นพลเมืองดีครับ” น้องมันยิ้มแล้วก็เดินไปเลย เดินไปได้สักพักยังหันกลับมายิ้มให้ผมอีกครั้ง

หลังจากได้กระเป๋าคืนผมก็รีบกลับมาที่พักเพราะต้องมาเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วต้องไปหาลูกค้าต่อเราคุยงานกับลูกค้าถึงงานที่จะจัดขึ้นอีกสองวันข้างหน้า ที่เชียงใหม่จะจัดงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีจัดที่หอประชุมของม.ช. หลังจากคุยตกลงรายละเอียดกับลูกค้าเสร็จเราก็กลับกัน

ผมเพิ่งนึกได้ว่าลืมเปิดโทรศัพท์ผมเลยหยิบมาเปิด ต้อมโทรเข้ามาเป็นร้อยสายได้เลยตอนนี้ พร้อมข้อความเข้ามาอีก 4 ข้อความผมเลยเปิดอ่าน

“พี่นัทมันไม่ใช่แบบที่พี่นัทคิดนะ รับโทรศัพท์ผมหน่อยนะครับ”

“พี่นัทอย่าทำแบบนี้เลย ผมทรมานใจมากเลยรู้ไหมครับ”

“พี่นัทครับรับสายหน่อย ผมอธิบายทุกอย่างได้นะครับ”

“พี่นัทไม่รักผมแล้วใช่ไหมถึงทำกับผมแบบนี้ ผมทรมานใจมากแค่ไหนไม่รู้หรือไงครับ”

ผมก็ทรมานใจไม่แพ้มันหรอกครับตอนนี้ แต่ผมอยากให้มันเข้าใจตัวเองมากกว่า อาจเพราะผมกับต้อมอยู่ใกล้ชิดกันตลอดเวลาก็ได้ เลยทำให้เราเริ่มแยกระหว่างความรักกับความผูกพันธุ์ออกไม่ถูก บางทีที่มันบอกยังรักผมอยู่อาจเป็นแค่ความผูกพันธุ์ก็ได้ แล้วในเมื่อผมตัดสินใจแบบนี้ไปแล้วผมก็เสียใจหรอกครับ แม้ผมสุดท้ายผมจะต้อมทรมานเจียนตายก็ตาม ผมเลยส่งข้อความกลับไปหามันบ้าง

“พี่ไม่ได้เลิกรักเรานะ แค่อยากให้เราได้คิดเรื่องที่พี่พูดบ้างก็แค่นั้น กลับไปเราค่อยคุยกัน”

ผมกดส่งข้อความไปยังไม่ถึงนาทีก็มีข้อความตอบกลับมา

“คุยตอนนี้เลยนะครับ ผมทนแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว พี่นัทกลับมาหาผมเถอะนะครับ”

ผมอ่านแล้วคิดว่าต้อมต้องไม่เลิกส่งข้าความแน่ๆแบบนี้ ผมเลยส่งกลับไปอีกครั้ง

“ถ้าเรายังไม่เลิกส่งข้อความมาอีก พี่จะเปิดเครื่อง”

แล้วก็ได้ผลครับต้อมไม่ได้ส่งข้อความมาอีก ซีคอยแอบมองผมตลอดเวลาที่ผมส่งข้อความ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรผมก็เข้าไปอาบน้ำเพื่อจะนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องเข้าไปดูสถานที่จัดงานพร้อมกับทำบูธอีก ผมเข้านอนผมหันหลังให้ซีเพราะผมเห็นซีนอนมองผมอยู่จากอีกเตียง

สายๆผมก็มาถึงที่จัดงานผมดูบล็อกที่จะตั้งบูธเสร็จก็โทรหาพี่น้ำ ผมรายงานรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่จัดงานแล้วก็จุกที่จะลงบูธ พี่น้ำเลยนัดว่าตอนเย็นช่างที่จะมาตั้งบูธจะมาถึงให้ผมเข้ามาดูแลความเรียบร้อยด้วย แล้วพี่น้ำยังบอกว่าให้เพื่อนแกจ้างเด็กแถวนั้นมาช่วยวันงานแล้ว พรุ่งนี้คงเข้ามาหาที่บูธเพื่อให้ผมอธิบายข้อมูลของสินค้าให้ฟัง

ตอนเย็นผมยุ่งกับเรื่องจัดสถานที่จนลืมเรื่องต้อมไปได้เหมือนกัน นี่ถ้าผมอยู่เฉยๆคงเป็นบ้าไปแล้วตอนนี้ ผมอยู่ดูช่างทำบูธจนเกือบถึงตีสอง จนซีต้องชวนผมกลับห้องไปพักผ่อนที่แรกผมไม่ยอมไปแต่ซีก็ดึงมือผมให้กลับจนได้ กลับมาผมก็อาบน้ำแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ต้อมส่งข้อความมาข้อความเดียววันนี้ผมเลยกดอ่าน

“พี่นัทเมื่อไหร่จะคุยกับผม จะทรมานผมไปถึงไหนกัน หรือต้องให้ผมเป็นบ้าซะก่อน”

ผมเลยส่งข้อความกลับไปทันที

“ยังไม่ถึงเวลาตอนนี้ ดูแลตัวเองด้วยนะ”

ผมก็ยังอดเป็นห่วงต้อมไม่ได้อยู่ดีเพราะผมรู้ว่าถ้าผมไม่อยู่ต้อมต้องไม่ยอมทำอะไรแน่ๆ หลังส่งข้อความเสร็จผมก็อาบน้ำนอน ขณะที่ผมกำลังจะเคลิ้มหลับซีก็ถามผม

“นัททะเลาะกับต้อมมาหรอ” ซีนอนมองหน้าผมจากอีกเตียง

“อืม แต่ไม่มีไรมากหรอก เรื่องไม่เป็นเรื่อง” ผมโกหกซีไปเพราะผมไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้

“แล้วนี่ต้อมรู้เปล่าว่ามากับเรา”

“ไม่รู้หรอกยังไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่วันมา นอนเถอะเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย” ผมตัดบทแล้วนอนหันหลังให้ทันที

ผมตื่นแต่เช้าเพื่อมาดูความเรียบร้อยตรงที่จัดงาน แล้วมารอน้องที่จะมาช่วยงานด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะมาตอนไหน ส่วนซีก็ไปพบลูกค้ารายอื่นๆ คงจะเข้ามาหาผมก็
ตอนเย็นๆนั้นแหละครับ

“พี่ชื่อนัทเปล่าครับ พี่แก้วเขาให้ผมมาหานะครับ” มีคนทักผมตอนที่ผมกำลังดูเขาประกอบบูธอยู่พอดี ผมเลยหันหลังกลับไปมอง(พี่แก้วเป็นเพื่อนพี่น้ำนะครับ) ก็เห็นว่าเป็นน้องคนที่เก็บกระเป๋ามาคืนผมนี่เอง

“อ่าว น้องนั่นเองพี่แก้วให้มาใช่ไหม” ผมทักน้องเขา

“อ้อ พี่ที่ทำกระเป๋าเงินหาย ครับพี่แก้วบอกให้มา” ดูมันทักผมสิตอกย้ำกันอีก

“อ่านะ แล้วพี่แก้วบอกยังว่าต้องมาทำอะไรบ้าง” ผมถาม

“ก็แค่บอกว่าต้องมาช่วยอธิบายลูกค้าอะไรนี่แหละครับ” มันยิ้มให้ผม

“อืม.. งั้นเดี๋ยวพี่อธิบายให้ฟังนะรอแปบพี่ดูเขาทำบูธก่อน เออแต่ว่าเราชื่ออะไรละ”

“ผมชื่อบาสครับ” บาสยิ้มให้ผมแล้วเดินไปหาที่นั่งรอแถวๆนั้น

ผมดูงานส่วนที่สำคัญเสร็จก็เข้ามาคุยกับบาสที่นั่งรออยู่ต่อ ผมอธิบายเกี่ยวกับงานที่ต้องทำพรุ่งนี้และเรื่องสินค้าที่ต้องคุยกับคนที่เข้ามาในบูธ บาสก็ให้ความสนใจมากบางครั้งบาสยังทำให้ผมนึกถึงต้อมขึ้นมาเหมือนกัน เพราะนิสัยบาสกับต้อมดูจะคล้ายๆกันมากเลย ทำให้ผมกับบาสสนิทกันเร็วมากๆช่วงเย็นซีก็มาที่จัดงาน ซีมองบาสที่คุยกับผมอย่างสนิทสนมใหญ่เลย ผมคุยกับบาสอีกครู่ใหญ่ๆก็แยกกันกลับแล้วบาสขอเบอร์ผมไว้ด้วย

“นัทรู้จักกับน้องคนนั้นมาก่อนหรอ” ซีถามผมตอนที่นั่งรถกลับที่พัก

“ก็เปล่านะเพิ่งจะรู้จักกันนี่แหละ” ผมหันไปมองซีว่าทำไมถามแบบนี้

“อืม แต่ทำไมดูสนิทกันจัง” ซีบ่นเบาๆคนเดียว แล้วผมก็ไม่ได้คุยกับซีอีกจนถึงที่พัก

ผมอาบน้ำจะนอนแล้วโทรศัพท์ก็สั่นขึ้นที่ข้างเตียง ผมหยิบมาดูเป็นเบอร์แปลกๆผมเลยกดรับ

“สวัสดีครับ” ผมรับสาย

“พี่นัทผมบาสเอง ผมยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่พี่นัทสอนวันนี้เลย พี่นัทช่วยออกมาสอนผมอีกทีได้ไหมครับ” บาสบอกมาตามสาย

“อย่างงั้นเรามาหาพี่แล้วกันนะ พี่อยู่ที่... เดี๋ยวเจอกันที่ฟร้อนท์นะ” ผมนัดกับบาส แล้วก็แต่งตัวลงมาข้างล่างตอนนั้นซีอาบน้ำอยู่ ผมเลยบอกว่าจะลงไปข้างล่างเท่านั้นเอง

.................................

จะมาต่อเรื่อยๆนะครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด