[fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [fiction] เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) โดย aoikyosuke  (อ่าน 473400 ครั้ง)

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :pigangry2: :pigangry2:  ทีของทาน อ้อนไม่ว่า   :pigangry2: :pigangry2:

ว่าแล้วก็รอทีของอ้อน :fox2: :fox2:  เอาให้เหลือเฟือเลยนะครับ :kikkik: :kikkik:

taebin7

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมเรื่องราวมัน โหดร้ายแบบนี้อ่ะ คนแบบนี้ขออย่าได้เจอเลยยยยยย

เท่าที่เจอมาก้อรับไม่ได้จะแย่อยู่แล้ว  :เฮ้อ: นึกถึงแล้วเครียดวุ้ย :เศร้า2:

รออ่านนะงับ  :yeb:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เจอมาแบบไหนหรือ เล่าให้ฟังบางดิเอ
*****************************************

เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน ตะกอนในใจ

"กลับมาแล้วแม่" อ้อนเดินหูลู่ผมเปียกเสื้อผ้าที่ใส่ตัวหลวมโครก จนต้องพับแขนและขากางเกงเอาไว้ นี่คงเป็นความเมตตาของทานตะวัน
ที่โยนเสื้อชุดนักศึกษาให้ใส่กลับบ้านได้ ส่วนเสื้อผ้าของตัวเองอยู่ในถุงพลาสติกใสที่หาได้ตามมีตามเกิด
แล้วก็เดินลากขาขึ้นบันไดบ้านไป โดยมีสายตาของแม่มองตาม แล้วก็ส่ายหน้า เพราะความไร้มนุษย์สัมพันธ์ของลูกชาย
ไม่รู้ว่าวันนี้ไปทำอะไรมาอีกถึงได้เละเทะกลับมา แต่ก็ทำได้แค่ถามว่ากินข้าวมาหรือยัง หรือว่าทำไมวันนี้กลับเร็ว

เพราะถ้าถามมากกว่านั้น อ้อนจะโมโหใส่แม่ แล้วเดินปึงปังปิดประตูโครมคราม ไม่ยอมพูดอะไรอีกเลย เงียบไปบางทีนานเป็นวัน เป็นสัปดาห์
อยากจะถามว่าลูกเป็นอะไร แต่ก็ได้คำตอบเหมือนเดิมว่า

"เปล่า ไม่ได้เป็นอะไรเลยอย่ามายุ่งกับผมได้มั้ย"

ตั้งแต่อุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อน อ้อนที่เป็นเด็กน่ารัก สมชื่ออ้อน ก็เปลี่ยนไป ไม่พูดไม่คุย ไม่อยากยุ่งกับใครอีก แม้กระทั่งแม่ก็ไม่ยอมพูดด้วย
ส่วนคนเป็นแม่ได้แต่ถอนใจ แล้วก็นั่งคำนวณเงินสำหรับนำไปใช้หนี้สินค่าซ่อมรถที่อ้อนยืมเพื่อนไปขับ ซ่อมไปเกือบสี่แสน สองปีผ่านไป
ยังผ่อนใช้หนี้ไม่หมด แถมซ้ำกระดูกหัวเข่าของอ้อนก็แตก ต้องผ่าตัดซ้ำแล้วซ้ำอีก ใส่เหล็กดามเอาไว้ และวิ่งไม่ได้อีกเลย
สงสารลูก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะอ้อนไม่เคยพูดคุยอะไรอีกเลย นับตั้งแต่อุบัติเหตุคราวนั้น
คนเป็นแม่ส่ายหน้าแล้วยกมือกุมศีรษะ คิดไม่ตกว่าเมื่อไหร่จะหาเงินมาจ่ายค่าซ่อมรถได้หมดสักที

ส่วนตัวของอ้อนเมื่อเดินขึ้นห้องได้ ก็หยุดยืนมองที่หน้ากระจกนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น ก่อนจะทิ้งกายลงนั่งลงบนเตียง แล้วดึงขากางเกงขึ้น
ก้มมองที่รอยแผลยาว แล้วลองใช้นิ้วคลึงบริเวณที่เจ็บ จนต้องนิ่วหน้า
บอกแม่ไม่ได้หรอกว่า เริ่มเจ็บกระดูกที่หัวเข่าอีกแล้ว ไม่อยากผ่าตัดอีก
แม่จะไปเอาเงินที่ไหนมามากมาย แถมตัวเองยังไปทำภาระเพิ่มให้แม่อีก ถ้าแม่รู้ว่าไปติดหนี้ค่ากล้องตัวละเป็นแสนของไอ้ทานอีก
แม่จะทำยังไง หางานทำ ที่ไหนเขาก็ไม่รับ พอเห็นเดินขาลาก เขาก็บอกว่าเดี๋ยวจะติดต่อมาอีกที
สุดท้าย ก็เป็นได้แค่ไอ้ตัวถ่วง แถมยังทำให้แม่ลำบากซ้ำ ๆ ซาก ๆ อีก

"เฮ่อ ทำไมไม่ตายห่าไปซะวะ จะอยู่ทำไมวะ อยู่เป็นภาระชาวบ้าน" อ้อนทิ้งกายลงนอนบนเตียง แล้วก็มองเพดานนิ่ง ๆ หลับตาลงอย่างช้า ๆ
แล้วก็หรี่ตาขึ้น สมองครุ่นคิดถึงเรื่องของคนที่เหนือกว่า
อิจฉาไอ้ทาน อิจฉาร่างกาย อิจฉาตัวตนของมัน อิจฉาความรวยของมัน อิจฉา อิจฉา อิจฉาทุกสิ่งทุกอย่างที่รวมเป็นมัน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่เคยมี แล้วก็ไม่เคยได้ สุดท้ายยิ้มเหยียดหยามตัวเองที่ไม่มีแม้แต่ขาที่จะวิ่งได้เหมือนใคร ๆ

แล้วก็จำใจต้องข่มตาให้หลับลงอย่างช้า ๆ

แม่ แม่อย่ารู้เลยว่าผมเป็นอะไร แค่นี้ผมก็เป็นภาระให้แม่จะแย่อยู่แล้ว ผมมันเป็นลูกที่แย่ หาเรื่องมาให้แม่ทุกวัน ทำให้แม่มีความทุกข์
ผมทุเรศตัวเองเต็มทีแล้วแม่ ไม่มีอะไรที่ผมทำได้เลย ไม่มีเลยสักอย่าง

อ้อนยกแขนขึ้นก่ายหน้าผาก แล้วเลื่อนแขนลงมาปิดตา ก่อนจะปล่อยให้หยดน้ำหลั่งรินจากหน่วยตาหยดลงที่ข้างแก้ม แต่ไม่มีเสียงสะอื้นไห้เลยแม้แต่นิดเดียว
เจ็บที่ขา ปวดที่ใจ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ไอ้เฮงซวยนั่นจะออกฤทธิ์ออกเดชอะไรอีก ไม่อยากให้แม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แค่นี้ก็สร้างปัญหาพออยู่แล้ว
ไม่อยากให้แม่รู้เลยจริง ๆ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 


ทานตะวันกดรีโมทโทรทัศน์ กดเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แล้วนั่งชันขาใช้คางเกยหัวเข่าเอาไว้ ตามองที่หน้าจอไม่กระพริบ
เปิดโทรทัศน์เอาไว้ และปิดไฟหมดทั้งบ้าน นั่งดูหนังสยองขวัญคนเดียว เสียงกรีดร้อง ไม่ได้ทำให้รู้สึกตื่นเต้น แต่ทำให้ง่วงงุนมากขึ้นเล็กน้อย
เพราะความเบื่อหน่าย จนต้องล้มตัวลงนอน และดึงหมอนข้างมากอดเอาไว้ ดวงตายังจับจ้องมองที่หน้าจอโทรทัศน์

ทั้งที่ตามองอยู่ที่ภาพเคลื่อนไหวตรงหน้า แต่ความคิดกลับหลุดลอยไปไกลแสนไกล

คิดไปถึงการแข่งในไม่กี่วันข้างหน้า คิดไปถึงวินาทีที่ตัวเองจะได้รับถ้วยรางวัล คิดไปถึงวินาทีที่ทำประตูได้ แล้วก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
ต้องซ้อม ซ้อมเยอะ ๆ ซ้อมมาก ๆ ถ้าได้ถ้วยรางวัลแล้วจะบอกพ่อ พ่อต้องบอกว่าเก่ง หรือไม่ก็บอกแม่ แม่คงจะบอกว่า ทานตะวันเป็นที่หนึ่งแน่ ๆ
คิดไปถึงพ่อแล้วก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะยกแขนของตัวเองขึ้นจ้องมอง รอยยังอยู่เลยรอยบุหรี่ที่ถูกจี้ที่แขน บางทีเห็นรอยนี้แล้ว ก็เกลียดพ่อ พ่อที่ตบตีอาละวาด
พ่อที่โหดร้าย พ่อที่ต้องการอยากให้เป็นที่หนึ่งมากกว่าใคร ๆ เกลียด เกลียด เกลียด จนอยากจะฆ่าให้ตาย เกลียดที่สุด
แต่ก็รัก อยากให้พ่อบอกว่า เก่ง อยากให้พ่อชม อยากให้พ่อดีใจ อยากให้พ่อทำหน้าดีใจเวลาที่บอกว่าได้เป็นที่หนึ่ง

พ่อกับแม่แยกทางกันแล้ว พ่อได้เป็นนักธุรกิจเพราะการเพาะกล้วยไม้ขาย พ่อเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ พ่อแต่งงานใหม่ไปแล้ว
ส่วนแม่ ก็แต่งงานไปกับผู้ชายที่อายุอ่อนกว่า ไม่ได้เจอกันอีก นาน ๆ จะได้เจอกันที แต่ไม่ว่ายังไง ก็อยากให้มีคนชมว่าเก่ง อยากให้มีใครชื่นชม

ทานตะวันนอนอมยิ้ม เมื่อนึกถึงวันที่ตัวเองจะทำให้พ่อกับแม่ดีใจ แล้วรอยยิ้มก็เปลี่ยนเป็นความหม่นหมอง เมื่อมองไปรอบ ๆ ตัวแล้วพบกับความมืด
บ้านหลังใหญ่ แต่อยู่คนเดียว ทำไมมันถึงได้เหงาอย่างนี้ มืดไปหมด มองไปทางไหนก็มีแต่ความมืด มีแต่ความมืดกับความเงียบงัน

ร่างที่นอนอยู่บนเตียงผุดลุกขึ้นนั่ง แล้วเดินวนไปวนมาอยู่ในห้อง เหมือนไม่รู้จะทำยังไงกับตัวเองดี ก่อนจะลงไปวิดพื้น วิดพื้นเป็นร้อย ๆ ครั้ง
ให้มันเหนื่อย ให้ร่างกายมันล้า ให้ร่างกายอ่อนเพลีย จะได้หลับ
ต้องออกกำลังกายเยอะๆ จะได้หลับ จะได้ไม่ต้องนึกถึงอะไรอีก ใช่แล้ว ใช่แล้ว
แต่ก็เพียงเท่านั้น เมื่อร่างกายหยุดนิ่งและนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพื้นไม้ปาเก้เย็น ๆ

เหนื่อย ร่างกายมันล้า แต่ไม่ยอมหลับ จะทำยังไงดี จะทำยังไง

ใครคนหนึ่งที่ดูเหมือนคนบ้าบอในสายตาใคร ๆ ปล่อยให้น้ำตารินไหลลงอย่างช้า ๆ และขดตัวกอดร่างกายของตัวเองเอาไว้แน่น
หนาว พื้นมันเย็น บ้านก็มืด แถมยังเงียบอีก จะทำยังไงดี จะทำยังไงถึงจะข่มตาให้หลับลงได้สักที

แม่อยากกอดแม่ พ่ออยากให้พ่อชื่นชม แต่ทำไมไม่เห็นมีใครเลย ทำไมต้องอยู่คนเดียวด้วย ทำไม ทำไม ทำไม

จะทำยังไง ถึงจะหลับได้ในคืนนี้

จะต้องทำยังไง ถึงหลับตาลงได้สักที

จะต้องทำยังไง แม่ถึงจะรัก จะทำยังไงพ่อถึงจะสนใจ จะทำยังไง

จะต้องทำยังไงต่อไปดี

TBC.....
 
โดย aoikyosuke

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ทานน่าสงสาร :monkeysad:

มามะเดี๋ยวเราจะปลอบทานเอง :give2:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
สงสารอ้อน

สงสารทาน

เก็บกดด้วยกันทั้งสอง

 :เฮ้อ: แล้วจะเป็นยังงัยต่อหวา

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ในความโหดร้าย ยังมีความเหงาซ่อนอยู่แฮะ  :impress3:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เพราะเรากัดกัน(ผูกพัน) ตอน หลับตา

"กับข้าวที่คุณแม่ทำอร่อยมากเลยครับ เนี่ยผมไม่เคยกินข้าวที่ไหนอร่อยขนาดนี้มาก่อนเลยนะครับ" ทานตะวันตักนั่นตักนี่ใส่จานข้าว แล้วก็กินข้าวอย่างมีความสุข เอ่ยชมอาหารที่แม่ของอ้อนทำไม่ขาดปาก ทำหน้ามีความสุข แล้วก็พูดคุยกับแม่ของอ้อน อย่างสนิทสนม ส่วนอ้อนได้แต่นั่งเงียบ ๆ แล้วก็กินข้าวไปเรื่อย ๆ



ตอแหลชะมัด คุณแม่ครับ คุณแม่ครับ ผมอย่างนั้นผมอย่างนี้ ไอ้ตอแหล เกิดมาไม่เคยเห็นใครตอแหลเท่ามันเลย

ทำเป็นพูดดี แม่กระผมครับไม่ใช่แม่ของท่าน อย่ามาทำเป็นพูดดีไปหน่อยเลย แม่ ถ้าแม่รู้ว่าไอ้ทานมันเลวแค่ไหนแม่จะไม่มีทางอยากคุยกับมันเด็ดขาด แต่ตอนนี้ขอแค่มันไม่พูดเรื่องกล้องออกมาก็พอ มันจะทำอะไรก็เรื่องของมันผมไม่สนหรอก ขอแค่อย่าให้มันหลุดพูดอะไรที่ทำให้แม่ต้องลำบากใจแค่นั้น ผมขอแค่นั้นเอง



"อ๋อ อยู่ที่มหาลัยเหรอครับ ก็เป็นเพื่อนกันครับ สนิทกันดีครับ เนี่ยจนเพื่อน ๆ พากันเข้าใจผิดว่าผมกับอ้อนเป็นแฟนกันไปเลยล่ะครับ จริง ๆ นะครับคุณแม่"



มันยังไม่หยุดตอแหล รักกันงั้นเหรอ รักกันจนมึงเตะกูเล่นเช้าเย็น ตะคอกใส่ทุกทีที่ไม่พอใจสินะ เนี่ยเหรอเพื่อนรักกันมาก พูดออกมาได้ไม่อายปากเลยนะ คนอย่างมึงนี่มัน ทุเรศจริง ๆ



ช้อนถูกรวบเข้าด้วยกัน พร้อมกับที่อ้อนยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเป็นสัญญาณให้รู้ว่าไม่อยากกินข้าวร่วมโต๊ะกับทานตะวันอีกแล้ว แต่แล้วก็จับช้อนแล้วก็ตักกับข้าวกินอีกอย่างจำใจ เพราะรับรู้ได้ถึงแรงกระแทกที่ขา ที่ทานตะวันเตะเข้าให้ที่หน้าแข้ง พร้อมกับที่คนตัวโตถลึงตาใส่ ให้รู้ว่า ห้ามไปเด็ดขาด เท่านั้น อ้อนก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวอีก ทั้งที่ไม่อยากอยู่ตรงนั้นแล้วแท้ ๆ ส่วนทานตะวัน ก็เอาแต่พูดคุยกับแม่ของอ้อน แล้วก็หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

อ้อนได้แต่นั่งมองตาปริบ ๆ แล้วเม้มปากแน่น ด้วยความไม่พอใจ

แม่กูนะ นั่นแม่กู มึงทำเหมือนกับว่า จะแย่งแม่กูไปงั้นแหละ ไอ้สารเลว กูเกลียดมึง ให้ตายเถอะ กูเกลียดมึงจริง ๆ มึงมันตอแหล แถมยังเลวชนิดที่ชาตินี้กูไม่เคยเห็นใครทุเรศเหมือนมึงเลยจริง ๆ

อ้อนนิ่งคิด ส่วนทานตะวันเหลือบสายตามองร่างของคนที่นั่งนิ่งเงียบ แล้วก็หรุบสายตาลงก้มมองที่จานข้าวของตัวเองเล็กน้อย



แม่ของไอ้เป๋ ใจดีจังเลยนะ ถ้ามีแม่แล้วแม่ใส่ใจแบบนี้ จะดีแค่ไหนนะ อิจฉามัน อิจฉาที่มันมีสิ่งที่อยากได้

ไม่อยากได้เงินทอง แต่อยากได้ความรัก อยากให้มีคนเห็นว่ามีตัวตนอยู่ อิจฉาที่ไอ้เป๋มันมีสิ่งที่อยากได้

อิจฉามัน แล้วก็พาลไม่ชอบหน้าของมันไปด้วย ดีแล้วแหละ ดีแล้วที่เป็นแบบนี้ คอยดูนะ กูจะแกล้งมึงเอาให้มึงทนไม่ได้เลย กูอิจฉามึง กูเกลียดมึง มึงมีสิ่งที่กูอยากได้ ไอ้อ้อน คอยดูเถอะ มึงอย่าหวังจะมีความสุขเลย

กูเกลียดที่มึงมีคนรักมึงมาก ๆ กูเกลียดที่มึงมีคนมาใส่ใจ เกลียด เกลียด เกลียด คอยดูเถอะ กูจะแกล้งมึงให้มึงเป็นบ้าตายไปเลยยิ่งดี สมน้ำหน้า สมน้ำหน้าจริง ๆ

ทานตะวันนิ่งคิด แล้วอมยิ้มเล็กน้อย อย่างมีความสุข ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและพูดคุยกับแม่ของอ้อนอย่างมีความสุขส่วนอ้อนได้แต่ตักกับข้าวใส่จาน แล้วก็กินข้าวอย่างเงียบ ๆ เหลือบตาขึ้นมองไอ้คนตอแหล แล้วก็ก้มกลับลงมาอีก

ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ไม่อยากเย็นชา ไม่อยากนิ่งเฉยกับแม่ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงถึงจะกลับเป็นเหมือนเมื่อก่อนได้

ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงจริง ๆ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++





 



"ไอ้เป๋....พรุ่งนี้กูก็จะมากินข้าวกับแม่มึงอีกนะ วันถัดไปด้วย วันถัดไป ถัดไป ถัดไปก็จะมา" ทานตะวันนอนอมยิ้มแล้วก็กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงนอนของอ้อน ส่วนเจ้าของเตียง ลงไปนั่งชันเข่าอยู่บนพื้น แล้วดึงหมอนมากอดเอาไว้นัยน์ตาหม่นหมอง หรุบต่ำลง ไม่ได้พูดอะไรเลยสักนิด นิ่งฟังเงียบ ๆ ให้คนยึดเตียงพล่ามพูดอยู่คนเดียว

"ทำไมเงียบ มึงไม่ฟังกูหรือไง" ทานตะวันลุกพรวดพราดขึ้น แล้วยื่นขาไปเตะที่แขนของคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงด้วยความหงุดหงิดโมโห

"แล้วจะให้พูดอะไร" เป็นคำถามที่ทำให้ความอดทนของคนบ้า ๆ บอ ๆ อย่างทานตะวันถึงจุดสิ้นสุด ร่างนั้นลุกขึ้นแล้วลงมานั่งอยู่ตรงหน้าของอ้อนที่นิ่งเงียบและแสดงท่าทางให้เห็นว่าไม่พอใจ นั่นยิ่งทำให้ทานตะวันหงุดหงิดโมโหมากขึ้น สองมือแกร่งเกาะกุมที่ต้นแขนของอีกฝ่ายแล้วออกแรงบีบอย่างแรง ก่อนจะเขย่า จนร่างตรงหน้าสั่นสะท้านหัวสั่นหัวคลอนไปมา จนต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะทำให้อีกฝ่ายหายโกรธเลยสักนิดเดียว

"อย่ามาพูดอย่างนี้กับกูนะไอ้เป๋ มึงก็รู้ว่าตอนนี้มึงเป็นใคร ถ้ามึงไม่อยากให้กูวิ่งลงไปบอกแม่มึงตอนนี้ หัดพูดจาให้เข้าหูกูหน่อย ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือน"

เพียงเท่านั้นแล้วคนที่ทำให้อ้อนต้องเจ็บก็ลุกขึ้นยืนแล้วไปทิ้งกายลงนอนบนเตียงกระดิกขาเล่น ทั้งที่ยังรู้สึกว่าความหงุดหงิดยังคุกรุ่นอยู่ ดวงตาสีดำสนิทหันไปมองคนที่นั่งอยู่ห่างออกไปอีกครั้ง เห็นว่าฝ่ายนั้นถลกแขนเสื้อขึ้นจ้องมองรอยแดงช้ำที่ต้นแขน แล้วก็นิ่วหน้าด้วยความเจ็บ นั่นยิ่งทำให้คนที่นอนยิ้มอยู่บนเตียงมีความสุข

เจ็บไปสิ ก็เจ็บไปสิ เห็นมึงเจ็บมาก ๆ ยิ่งดี อยากพูดไม่เข้าหูทำไมล่ะ ถ้ายังกล้าพูดแบบนี้ด้วยอีก เดี๋ยวจะทำให้ยิ่งเจ็บมากกว่านี้อีก คอยดูก็แล้วกัน

"มานวดขากูนี่ เร็ว ๆ กูง่วง ปิดไฟด้วยไอ้เป๋ พรุ่งนี้กูจะตื่นตั้งแต่เช้ากูจะไปซ้อมเช้า ปลุกกูด้วย ถ้ากูไปสายมึงโดนดีแน่" พูดได้เพียงเท่านั้น ทานตะวันก็ยื่นขาให้อ้อนนวด ส่วนตัวเองนอนร้องเพลงหงุงหงิง หงุงหงิงมีความสุขอยู่คนเดียว

อ้อนลุกขึ้นแล้วเดินลากขาไปปิดไฟก่อนจะลงมานั่งอยู่ข้างเตียง จัดการออกแรงกดมือไปที่ขาของคนที่ยึดเตียงของตัวเองไปแล้ว ด้วยความไม่พอใจ แต่จะทำอะไรได้ ก็ทำได้แค่ต้องตามใจไอ้เลวนี่เท่านั้น ถ้าไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ ก็ต้องทำ สาธุชาติหน้าฉันท์ใด อย่าให้ผมต้องเจอกับไอ้ห่านี่อีกเลย แค่ชาตินี้ชาติเดียวก็เกินจะพอแล้ว อย่าไอ้ให้ผมต้องเจอะเจอกับมันอีกเลย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 


"เจ็บ โอ้ย ไม่เอาปล่อยผม เจ็บ กลัวแล้ว ฮึก ฮือ" เสียงเอะอะโวยวาย พร้อมกับร่างที่นอนอยู่บนเตียงกระสับกระส่ายไปมา แถมยังร้องโวยวายอย่างเจ็บปวด ทำให้อ้อนสะดุ้งตื่นในกลางดึก ก่อนจะผุดกายลุกขึ้นนั่งหรี่ตาขึ้นมองในความมืดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

"ไอ้ทาน ไอ้ทาน เป็นอะไรเฮ้ย เป็นอะไร" แม้จะพยายามเรียก และพยายามจะเขย่าแขนให้อีกฝ่ายรู้สึกตัว แต่ก็ไม่มีประโยชน์เลย ทานตะวันนิ่งเงียบไปแล้ว และเพียงไม่นาน ก็ร้องโวยวายขึ้นอีกแต่คราวนี้มาพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้

"มาดูทานนะ มานะแม่ต้องมานะ ฮืก ฮือ อย่าทิ้งทานไปเลย มาหาทานนะแม่ แม่"

ประโยคที่พูดฟังไม่ได้ศัพท์แต่ก็พอจับใจความได้บ้าง อ้อนยืนขึ้นแล้วก้มหน้าลงไปดู ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฝ่ามือที่ไขว่คว้าหาทำให้ต้องเอื้อมมือเข้าไปเกาะกุมเอาไว้ แล้วฝ่ามือเย็นเฉียบของทานตะวันก็คว้าทั้งมือ คว้าทั้งร่างของอ้อนลงมากอดเอาไว้แน่น

"เฮ้ย ไอ้ทาน เฮ้ย เฮ้ย"

"แม่ ทานรักแม่นะ แม่อย่าทิ้งทานไปเลย แม่ แม่"

เสียงของทานตะวันขาดหายไปแล้ว แต่ร่างของอ้อนกลับเกยทับอยู่บนร่างของคนที่กอดรัดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

พยายามจะขืนตัวขึ้น แต่ก็ทำได้แค่เพียงการขยับกายเล็กน้อย เพราะว่าคนที่ยึดเตียงไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ

ร่างกายอุ่น ๆ แผ่นอกกว้าง เสียงสะอื้นในลำคอเบา ๆ ทำให้อ้อนไม่กล้าขยับกายกลัวจะทำให้อีกฝ่ายตื่นขึ้นมาอาละวาด เพราะทำให้ไม่ได้นอน

อ้อมแขนแข็งแกร่ง เสียงเต้นของหัวใจ ลมหายใจที่ค่อยปรับให้สม่ำเสมอ ใบหน้าที่ซุกซบลงมาที่เส้นผม

อันที่จริงถ้าจะขืนตัวออก มันก็คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่อ้อนเลือกที่จะนอนนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น พร้อมกับขมวดคิ้วมุ่นพยายามจ้องมองฝ่าความมืดเพื่อจะมองใบหน้าของอีกฝ่ายให้ชัด ๆ

แล้วก็ได้เห็น

หยดน้ำใส ๆ ที่สะท้อนกับแสงจันทร์ ยังคงหลงเหลืออยู่ที่ข้างแก้มของคนที่หลับสนิทไปแล้ว

ฝ่ามือเรียวเอื้อมแตะที่หยดน้ำแล้วก็รับรู้ได้ว่ามันคือน้ำตา

เรียวคิ้วขมวดมุ่นเข้าหากัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของทานตะวันให้ชัด ๆ อีกครั้ง แล้วก้มกลับลงมาซุกซบที่แผ่นอกกว้าง ก่อนจะลองเอื้อมแขนกอดรัดไปรอบเอวของอีกฝ่ายเอาไว้

เตียงมันแคบ นอนไม่ค่อยถนัด ถ้าไม่กอด ก็กลัวตก ถ้าแค่นี้ไม่เป็นไรมั้ง

อย่ามาโทษกูทีหลังแล้วกํน ก็มึงเป็นคนลากกูลงมานอนด้วยนี่หว่า ช่วยไม่ได้ แล้วอีกอย่างนี่มันก็เตียงกูด้วย

ไม่รู้ว่าตอนนั้นอ้อนคิดอะไรอยู่ อยู่ ๆ ก็รู้สึกว่าไม่อยากปล่อยให้ทานตะวันต้องนอนคนเดียวอีก ไม่รู้ว่าความรู้สึกนั้นมันเรียกว่าสงสารหรือเปล่า แต่จำได้ว่า ไม่ว่ายังไงก็ไปไม่ถึงคำว่าสงสาร คนอย่างทานตะวันไม่มีอะไรให้ต้องสงสารเลย เหนือกว่าทุกอย่าง ดีกว่าทุกอย่าง แล้วจะน่าสงสารไปได้ยังไงกัน

แล้วอีกอย่างนี่มันก็เตียงกูนะ มึงเองที่มายึด ถ้าไม่ติดว่าง่วง กูก็ว่าจะลงไปนอนที่พื้นต่อ แต่ตอนนี้ง่วงเต็มทน ขอหลับก่อนก็แล้วกัน

ยังไงกูก็ต้องปลุกมึงอยู่แล้ว เอาไว้ตอนตื่นค่อยมาเคลียร์กันอีกที ตอนนี้กูขอนอนหลับสบาย ๆ อุ่น ๆ ก่อนแล้วกันวะ

แม่ง ง่วงจริง อ้อนหลับตาลงแล้ว และไม่คิดจะสนใจคนที่กอดร่างของตัวเองเอาไว้อีก เรียวแขนยังโอบรัดร่างของทานตะวันเอาไว้แน่น นอนฟังเสียงหัวใจของอีกฝ่ายที่เต้นอย่างสม่ำเสมอ แล้วก็หลับลงอย่างช้า ๆ อีกครั้ง

คืนนั้นทานตะวันฝัน ฝันว่าแม่มากล่อมนอนเหมือนตอนเด็ก ๆ แล้วก็กอดเอาไว้ มีแต่ความสุข ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้ามีแต่เสียงหัวเราะ มีแต่ความอบอุ่น จนต้องยิ้มออกมา ร่างที่นอนหลับสนิท กอดกระชับร่างในอ้อมแขนมากขึ้นแน่นขึ้น เหมือนอยากจะย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง อยากจะมีความสุขไปนาน ๆ และไม่อยากตื่นจากความฝันอีกเลย

TBC.....


 
โดย aoikyosuke

taebin7

  • บุคคลทั่วไป
 
:angry2:  ทำไมทานร้ายแบบนี้อ่ะ  คิดจะแย่งความรักจากอ้อนด้วยอ่ะ   :เฮ้อ:

 อ้อนสู้ๆ  รออ่านอยู่นะงับ  :yeb:

ตามมาดู

  • บุคคลทั่วไป
เศร้าจัง... ไม่รู้จะสงสารใครดี อ้อน หรือทาน...
มาต่อเร็วๆ นะเรย์..

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
ทานน่าสงสารง่ะ :monkeysad:

รออ่านนะครับ :เศร้า1:

ออฟไลน์ GoneOn

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
พอตื่นมาจะเป็นงัยเนี่ย  ต่ออีกนิดไม่ได้เหรอเรย์

แบบว่า มันรู้สึกค้างๆคาๆ    :serius2:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
สงสารทาน สงสารอ้อน ทุกคนล้วนมีปัญหาของตนเอง
ขึ้นอยู่กับว่าจะยอมรับและจัดการกับปัญหานั้นอย่างไร  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
มาแว้วครับ โทษทีให้รออ่าน มีคนติดตามดีจายจังเยย
 :loveu:
*******************************************************************
เพราะเรากัดกัน(ผูกพัน) ตอน เช้าวันใหม่

แขนรู้สึกว่ามันกำลังชา ขยับไม่ได้ แล้วพอหรี่ตาขึ้นเพื่อปรับสายตาให้เข้ากับแสงยิ่งทำให้รับรู้มากยิ่งขึ้น ทานตะวันรู้สึกว่ามีอะไรทับอยู่บนร่าง เรียวแขนของใครสักคนที่โอบรัดที่รอบเอว ศีรษะของใครสักคนที่เอนซบอยู่บนต้นแขน

ใคร?

ใบหน้าคม ผมเผ้ายุ่งเหยิง หันไปมองคนที่มานอนซบอยู่ที่ไหล่ แล้วก็ถึงกับลมหายใจสะดุด

เฮ้ย...?!?

ไอ้เป๋นี่หว่า มาไงวะเนี่ย

นัยน์ตาคมเบิ่งตาขึ้นดูให้ชัด ๆ แล้วเมื่อขยับกายเตรียมจะลุกขึ้นนั่ง กลับได้ยินเสียงบ่นงึมงำจนต้องทิ้งกายลงนอนอีกครั้ง เมื่อเรียวแขนที่โอบรัดไม่ยอมปล่อย แถมยังกอดแน่นขึ้นอีก

“ขอนอนต่ออีกหน่อยไม่ได้หรือไง” อ้าว แล้วทำไมมึงต้องมานอนบนตัวกูด้วยวะ ไอ้เป๋

ถ้าเป็นปกติ ทานตะวันคงโวยวายโมโหแต่เช้า แต่ตอนนี้ยังไม่ตื่นเต็มตา ปฎิกิริยาตอบสนองแบบปกติก็เลยหยุดชะงักไปชั่วขณะ

ใบหน้าคมเหลือบตามองใบหน้ายามหลับของอีกฝ่ายอีกครั้ง ไม่ได้ตั้งใจจะมองให้มาก แต่ก็เผลอมองไปจนได้

สิ่งที่เห็นคือผิวแก้มเนียนใส แพรขนตายาวจนอยากจะเอานิ้วจิ้มเล่น และริมฝีปากสีสดน่าลิ้มลอง

เฮ้ย ไอ้เป๋......นี่มันผู้ชายแน่เหรอวะเนี่ย มองดี ๆ แบบนี้น่ารักใช้ได้นะเนี่ย
หรือว่าตอนนี้ยังเช้าอยู่ สติสตังเลยยังไม่ค่อยสมประกอบ หรือว่ายังไงกันวะ

ทานตะวันขมวดคิ้วมุ่น หันกลับไปนอนมองเพดานห้องอีกครั้ง แต่ในใจกลับครุ่นคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง จนต้องหันกลับมามองคนที่ซุกซบอยู่บนไหล่

ปลายนิ้วเกลี่ยไล้เส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่ปรกที่หน้าผากมนของคนที่ยังหลับใหล
และลองใช้ปลายนิ้วแตะไปที่ริมฝีปากของคนที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยสักนิด ลองแตะแล้วถึงได้รู้ว่ามันน่าสัมผัส จนต้องใช้นิ้วเกลี่ยเล่นจากหัวคิ้ว มาที่ปลายจมูกเล็ก ๆ ลงไปที่ข้างแก้ม และแตะซ้ำที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายเล่น แล้วก็เผลอยิ้มออกมา เพราะถูกใจกับสัมผัสที่ได้รับ

แก้มโคตรนิ่มเลยว่ะ เนียนด้วย เหมือนอะไรนะ เหมือน เหมือน .........

ยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรต่อ แพรขนตาที่ไหวยุกยิก ก็ทำให้ทานตะวันรีบชักมือกลับ แล้วแกล้งหลับตาลงนอนตัวแข็งทื่อในทันที

แล้ว กูทำแบบนี้ทำไมวะเนี่ย

อ้อนยกมือขยี้ตาของตัวเองซ้ำ ๆ เพื่อให้ตื่นเต็มตา นัยน์ตาเหลือบมองไปที่นาฬิกาที่ข้างฝา แล้วก็ขยับกายลุกขึ้นนั่ง

ดีนะเนี่ย ตื่นก่อน ไม่งั้น ไอ้เวรนี่แหกปากโวยวายหาว่าปลุกมันช้าแน่ ๆ ทั้งที่อยากจะตื่นแต่ร่างกายกลับต่อต้าน อยากนอนอีกนิด นิดเดียวจริง ๆ คงไม่เป็นไรน่า

อ้อนกำลังจะทิ้งกายลงนอนอีกครั้ง ฝ่ามือเอื้อมจับที่ข้อมือของอีกฝ่ายที่แผ่หลา ยกขึ้นเพื่อให้ไปวางอยู่บนตัวของทานตะวัน แล้วก็เบียดร่างขดตัว เตรียมจะดึงผ้าห่มคลุมร่าง แต่ทานตะวัน ก็ลุกพรวดพราดขึ้นนั่ง เหมือนไม่สามารถทนอยู่นิ่งเฉยได้อีก

“ร้อนโว้ยยยยยยยยยยย แม่งเอ้ย” เสียงแหกปากแต่เช้า ทำให้อ้อนได้รู้ว่าเวลาแห่งความสุขหมดลงแล้ว แถมซ้ำไอ้คนที่ยึดเตียง ยังเขย่าร่างของอ้อนไปมา ไม่ยอมให้หลับให้นอนได้อีก

“ลงไปเลยมึง เฮ้ย เฮ้ย ตื่นสิวะ”

เฮ่อ สวรรค์ล่มอีกแล้วกู ไอ้ทานนะไอ้ทาน มึงจะตื่นมาทำไมตอนนี้วะ อ้อนอยากจะตะโกนด่าอีกฝ่ายให้สาแก่ใจ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ทานตะวันกลับสอดมือเข้าไปที่แผ่นหลังบางของคนที่กำลังเตรียมจะลุกขึ้น แล้วยกร่างนั้นขึ้นทั้งตัว เขย่าที่ไหล่แรง ๆ จนอ้อนรู้สึกมันหัว แล้วก็ได้รู้ว่าเช้านี้ มันเป็นเช้าแห่งวันนรกแตกแท้ ๆ

“ตื่น ตื่น ตื่น ตื่นนนนนนนนนนน”

กูรู้แล้วโว้ย ไอ้เหี้ยเอ้ย จะตะโกนหาห่าอะไรวะ

ก่อนที่อ้อนจะโวยวาย ร่างกายก็หล่นลงบนพื้นซะแล้วเพราะแรงถีบจากคนบนเตียง หล่นลงมาแบบไม่ทันตั้งตัว แล้วก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะเยาะเย้ยสะใจของทานตะวัน

“โอ้ย เจ็บนะโว้ย เหี้ยเอ้ย ซวยแต่เช้าเลยแม่ง” อ้อนบ่นออกไปอย่างนั้นแล้วรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวเข่า

เจ็บอีกแล้ว ทำไมมันยิ่งเจ็บขึ้นเรื่อย ๆ นะ ยังไม่อยากผ่าตัดตอนนี้ ทำยังไงดี อ้อนขมวดคิ้วมุ่นมองที่ขาของตัวเอง แล้วค่อย ๆ ถลกขากางเกงขึ้นดู โดยเหลือบมองคนที่ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ ร้องเพลงมีความสุขแต่เช้า ทานตะวันไม่ทันมองแล้วก็ไม่คิดจะมองว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร แต่รู้สึกว่าเช้านี้สนุกสนานกว่าทุกวัน ได้แกล้งไอ้เป๋แต่เช้า สวรรค์จริง ๆ เลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า

คนตัวโตเดินเข้าห้องน้ำไปแล้ว ส่วนอ้อนพยายามลุกขึ้นยืน แต่ก็ลุกไม่ได้ พยายามลุกขึ้นอีกครั้งแต่ก็เจ็บจนต้องนั่งลงกับพื้น แล้วนวดคลึงที่หัวเข่าของตัวเอง กัดฟันแน่น แล้วพยายามลุกขึ้น และสุดท้ายก็ลุกขึ้นได้

เฮ่อ โล่งอก ไม่ค่อยเจ็บมาก แต่คงพอเดินไหว ไม่เป็นไรหรอกไอ้อ้อน ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หาย เดี๋ยวก็หาย น่ะ ของแค่นี้ เดี๋ยวก็หาย

ริมฝีปากขบกันแน่น แล้วก็ยิ้มออกมาได้ เมื่ออาการเจ็บแปลบทุเลาลง

นึกว่าจะแย่ ไม่เป็นไรแล้วนี่หว่า ตกใจไปได้ เฮ่อ เดี๋ยวก็ต้องแบกกระเป๋าไอ้ทานอีก แต่คงพอไหวมั้ง ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร

ปลอบใจตัวเองอย่างนั้นแต่อ้อนก็ยังรู้สึกเจ็บที่ขาอยู่ดี
เหลือบมองไปที่ห้องน้ำ แล้วก็ยกนิ้วกลางขึ้นส่งให้ลับหลัง คนกวนประสาท

“เหี้ยไอ้ทาน อย่าให้กูใช้หนี้หมดนะ น่าดูแน่มึง”

ถึงจะคิดก็เป็นได้แค่ความคิด เพราะทานตะวันไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย ส่วนอ้อนก็ได้แต่โมโหโวยวายอยู่เงียบ ๆ คนเดียว

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




มองมันชัด ๆ มันก็น่ารักนะไอ้เป๋เนี่ย

เฮ้ย......น่ารักตรงไหน ไม่มีอ่ะ อย่างนั้นเขาไม่เรียกน่ารักนะ คิดอะไรบ้า ๆ

แต่น่ารักจริง ๆ นะ เนื้อนิ่ม ผิวนุ่ม เอามานอนกอดเล่นได้สบาย

งั้นเหรอ.......ตัวหนักจะตายแถมยังมาทำให้เมื่อยแขนอีกต่างหาก

มองดี ๆ สิตาว้าน หวานด้วยนะ ยิ้มทีมีลักยิ้มที่แก้มสองข้างด้วย แต่นาน ๆ มันจะยิ้ม น่ารักจริง ๆ

พอเหอะไอ้ทาน คิดห่าอะไรแต่เช้าวะเพ้อเจ้อ แม่งกูนี่ท่าจะบ้า

ทานตะวันสะบัดหัวไล่ความคิดเพี้ยน ๆ แล้วก็ปลดเสื้อผ้า เตรียมอาบน้ำ เพื่อไปซ้อมในตอนเช้า วันนี้อารมณ์ดี เพราะฝันว่าเมื่อคืนอยู่กับแม่ แล้วแม่ก็กอด อุ่นมาก ๆ มีความสุขที่สุด

ทานตะวันอาบน้ำเรียบร้อยแล้วยืนอมยิ้มอยู่หน้ากระจก ลองยกมือขึ้นโอบร่างของตัวเองแล้วก็ยิ้มออกมา

เดี๋ยวถ้าได้ถ้วยชนะเลิศนะ แม่จะวิ่งเข้ามาแล้วก็กอด กอดเอาไว้ แล้วบอกว่าทานเก่งที่สุดเลยลูก

นั่นไงล่ะ ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ๆ เลย แค่คิดก็มีความสุขแล้ว ต้องไปซ้อม ต้องรีบไปซ้อม
ยังไงแชมป์ปีนี้ ก็ไม่มีทางพลาดหรอก ชัวร์อยู่แล้ว ซ้อมขนาดนี้ ไม่ได้ถ้วยรางวัลก็ให้มันรู้ไป
ไปซ้อมดีกว่า เช้านี้มีความสุขจริงโว้ย ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ทานตะวัน มีแต่ความมุ่งมั่น รอบตัวมองไม่เห็นใคร นอกจากคำชมของพ่อแม่ที่ว่า

“ทานเก่ง ทานเยี่ยมที่สุด”
ถึงแม้มีคนมากมายมาสนใจ อยากเข้าหา แต่กลับถูกปฎิเสธด้วยคำพูดร้าย ๆ จนพากันต้องวิ่งหนี แม่ถามหลายครั้ง ว่ามีแฟนหรือเปล่า แต่ทานตะวันก็โกหกไปทุกครั้งว่ามี
ทั้งที่ในความเป็นจริง ชีวิตนี้ คนตัวโต บ้า ๆ บอ ๆ ไม่เคยสนใจที่จะมองใครเลย

ไม่เคยมีใครรู้ว่าคนอย่างทานตะวัน ไม่เคยหลงรักใคร และไร้เดียงสากับเรื่องความรักอย่างไม่น่าเชื่อ จนถึงตอนนี้ สิ่งเดียวที่ทำให้ทานตะวันคงอยู่ คือสายตาและความชื่นชมของพ่อแม่นั่นเอง

TBC….

 
โดย aoikyosuke




ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ทานตะวัน ก็แค่เด็กที่โหยหาความอบอุ่นคนหนึ่งเท่านั้น  :monkeysad:

ออฟไลน์ A GE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:  รู้สึกไม่ชอบกันเพราะขาดในสิ่งที่อีกฝ่ายมีเนี่ยะ  เขาเรียกว่าไรดีคับ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ขอให้สองคนเติมเต็มซึ่งกันและกันได้ซักวันหนึ่ง   :เศร้า1:

แอบกลัววันแข่งแฮะ เหมือนจะมีอะไร   รออ่านต่อจ้า  เรย์ เป็นกำลังใจให้นะ  :yeb:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
สงสารอ้อนอะ

ถ้าขาเป็นอะไรขึ้นมาอีก แล้วจะทำยังงัยดี

 :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เกิดมาพึ่งเคยได้ยินนะ ว่าไม่ชอบกันเพราะว่าขาดสิ่งที่ตัวเองมี
พูดหรือคิดอะไรผิดหรือป่าว
 :pandalaugh:
***********************************

เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน แผลที่ขา

น้ำ เหมือนเดิม ผ้าขนหนูเหมือนเดิม แล้วก็แหกปากโวยวายเหมือนเดิม
แล้วไอ้ทานก็วิ่งเป็นบ้าอยู่กลางสนามแดดร้อนเปรี้ยง ๆ เหมือนเดิม

อ้อนยืนแบกทั้งกระเป๋า ทั้งขวดน้ำและผ้าขนหนู ของทานตะวันเหมือนทุก ๆ วัน แต่วันนี้มันแปลกกว่าทุกวัน
เพราะรู้สึกยิ่งขยับขามากขึ้นเท่าไหร่ ความเจ็บก็แล่นพล่านเร็วขึ้นเท่านั้น

ลองยืนนิ่ง ๆ แล้วเหมือนกับว่ากระดูกจะหลุดออกมาซะให้ได้ เจ็บจนต้องนิ่วหน้า เจ็บจนร้าว แต่ก็กัดฟันฝืนทน

ไอ้เหี้ยทาน เมื่อไหร่มึงจะซ้อม ๆ ให้มันเสร็จ เมื่อไหร่จะหมดวัน แล้วเมื่อไหร่กูจะได้พักสักทีวะ

อ้อนยืนกัดฟันแน่น แล้วก็ค่อย ๆ ย่อกายลงนั่งข้างสนามฟุตบอล เจ็บจนทนไม่ไหว จนต้องลงนั่ง ส่วนทานตะวันยังคงแหกปากโวยวายต่อไป จนเสียงนกหวีดหมดเวลาการแข่งขัน ทานตะวันถึงวิ่งโร่หน้าตายิ้มแฉ่ง เหงื่อโทรมกายเข้ามาหา และเรียกขอน้ำ และผ้าขนหนู ก่อนจะลากให้อ้อนลุกขึ้นยืน และกระตุกแขนให้เดินตาม

แต่เพราะว่าเจ็บจนแทบไม่อยากยืนทำให้อ้อนฝืนกายเอาไว้ และค่อย ๆ ก้าวขาโขยกเขยกตามอย่างช้า ๆ นั่นยิ่งทำให้ทานตะวันหงุดหงิด

เป๋แล้วยังเสือกช้า ห่าอะไรวะเนี่ย

“เฮ้ย มึง เดินให้มันเร็ว ๆ หน่อยไม่ได้หรือไง กูอยากอาบน้ำจะแย่แล้ว เหี้ยช้าชิบหายเลยโว้ย” ถึงจะพูด ถึงจะด่าถึงจะตะคอกใส่ แต่อ้อนก็ทำได้แค่กดฟันแน่น แล้วพยายามเดินให้เร็วขึ้น

โอ้ยยยยยยยยย ทำไมมันเจ็บอย่างนี้วะ เจ็บจนแทบก้าวขาไม่ออกแล้ว

คนอื่น ๆ ทยอยกันเข้าไปอาบน้ำ ส่วนอ้อนสะบัดมือของทานตะวัน เพราะทนไม่ไหวอีกต่อไป สุดท้ายทิ้งกายลงนั่ง ไม่สนใจเสียงโวยวายของอีกฝ่าย ที่ตะโกนด่าอย่างไม่พอใจ

“กูรีบ ไม่ได้ยินหรือไงวะ ไอ้เหี้ยเอ้ย เร็วสิวะ” เรียกแล้ว แต่ไม่มีเสียงตอบรับ

อ้อนทิ้งกายลงนั่งข้างสนาม ไม่สนใจจะมองอะไรอีก เพราะความเจ็บปวดที่บริเวณหัวเข่า มันร้าวจนแทบไม่มีแรงลุกขึ้นยืน เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นที่หน้าผาก พร้อมกับที่ใบหน้าเนียนขาว ยิ่งซีดขาวเหมือนกระดาษ

“วันนี้ไม่แกล้งกูสักวันได้มั้ย ขอร้องล่ะ ขอร้อง” ไม่มีคำว่าอดทนหลงเหลืออีก เสียงที่เอ่ยบอกแทบเป็นเสียงกระซิบ ทานตะวันฟังคำพูดนั้นไม่ชัดจนต้องเดินย้อนกลับมาหา คนที่ทรุดนั่งกับพื้น แล้วเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ

“มึงพูดอะไรนะไอ้เป๋….กูรีบ มึงได้ยินมั้ยโว้ยยยยยยยยยยยยยย” คนที่ไม่เคยมองเห็นใครมีตัวตนตะโกนใส่หน้าของคนที่นั่งนิ่ง ๆ อยู่บนพื้นสนามแล้วเตรียมตัวจะเตะที่แขนของอ้อน เพราะความรำคาญ

สำออยจริงนะมึง สำออยจริง ๆ แม่ง

ถึงจะคิดมากเท่าไหร่ ถึงจะโมโห แต่อ้อนไม่มีกระใจพูดอะไรอีกต่อไปแล้ว เพราะความเจ็บปวดกำลังแล่นพล่านไปทั้งร่าง

“ทาน ขอร้องล่ะนะ วันเดียว อย่าแกล้งกูเลย” น้ำเสียงที่เบาหวิว ฝ่ามือแตะที่หัวเข่า แล้วก้มหน้านิ่ง ๆ มองที่ขาของตัวเอง มือกำแน่นเข้าหากัน แล้วจิกเล็บเข้าที่ฝ่ามือแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้คลายความเจ็บปวด ไม่เว้นแม้กระทั่งริมฝีปากที่ถูกขบเม้มจนขึ้นห้อเลือด ปฏิกิริยาและท่าทางของร่างตรงหน้าทำให้ทานตะวัน ต้องเอียงคอมองด้วยความไม่เข้าใจ

มันเป็นอะไรของมันวะ พูดอะไรไม่รู้เรื่อง เอามือกุมที่หัวเข่าตลอด แล้วมันเป็นเหี้ยอะไรของมัน

“ไหน กูดูหน่อยดิ หัวเข่ามึงเป็นอะไร” ฝ่ามือกำลังจะวางทาบอยู่ที่หัวเข่าของอ้อน แต่ร่างนั้นต้องรีบชักขาหนี เพราะคิดว่าทานตะวันคงหาเรื่องแกล้งอีกแน่ ๆ

“อย่า ไม่เอา ไม่เป็นไร ไม่ได้เป็นไร เดี๋ยวตามไปแล้วกันนะ ขอโทษ ขอโทษจริง ๆ” คำตอบที่ตอบกลับมายิ่งทำให้คนฟังไม่พอใจ เป็นเหี้ยอะไรวะ นึกว่ากูอยากจะดูหรือไงว่ามึงเป็นอะไร ไม่มีทางหรอก

แต่กูอยากเห็นเฉย ๆ ไม่ให้ดูกูก็จะดู ไหนดูซิมึงเป็นอะไร ถึงสำออยนัก ไหน ไหน ขอดูหน่อย

กลายเป็นเรื่องสนุกของทานตะวันที่จะได้เห็นอะไรอย่างที่ใจต้องการ

ยิ่งอ้อนพยายามหนีหรือหลีกเลี่ยง คนบ้า ๆ อย่างทานยิ่งหัวเราะเพราะเห็นเป็นเรื่องสนุก ต้องการที่จะดูให้ได้

และสุดท้าย ฝ่ามือก็กระแทกเข้าที่หัวเข่าของอ้อนอย่างแรง จงใจให้เจ็บ จงใจให้ปวด แล้วก็ได้ผลจริง ๆ
แต่ผลที่ได้มันแย่กว่าที่คิด เพราะอ้อนลงไปนอนกับพื้นแล้วคู้ตัวกุมเข่าของตัวเองเอาไว้แน่น เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน ทำให้ทานตะวันตกตะลึง นิ่งงันอยู่อย่างนั้น



“โอ้ยยยยยยยยยย เจ็บ ไอ้ทาน ไอ้สัตว์เอ้ย กูจะฆ่ามึง กูจะฆ่ามึง โธ่โว้ยยยยยยยยยยย”

เฮ้ย มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ เป็นอะไรของมันอ่ะ ใช้เวลาตั้งสติไม่นาน คนตัวโตรีบถลกขากางเกงข้างที่อ้อนกุมเอาไว้แน่น แล้วดูให้ชัดเต็ม ๆ ตา

ห่าอะไรวะเนี่ย

ทั้งเลือด ทั้งหนอง ทั้งรอยช้ำ แถมซ้ำ บางสิ่งบางอย่างที่โผล่ออกมาจากผิวเนื้อ

“เฮ้ย มึงเป็นอะไรเนี่ย ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย” ทานตะวันที่ยังตกตะลึง รีบช้อนร่างของอีกฝ่ายและอุ้มขึ้นโดยง่าย สีหน้าที่แสดงถึงความเจ็บปวด และเสียงกรีดร้อง ยิ่งทำให้หัวใจของทานตะวันเต้นไม่เป็นส่ำ

ไม่ได้ห่วง แต่ตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะเห็นอะไรแย่ ๆ อย่างนี้ ความรู้สึกเก่า ๆ หวลกลับมาอีกครั้ง
เหมือนกับว่าได้ยินเสียงร้องของตัวเองสมัยเด็ก ๆ เสียงร้องที่แสดงถึงความเจ็บปวดทรมาน เสียงร้องที่ทำให้อยากจะร้องไห้ตาม

“อย่าไปโรงพยาบาลเลยนะ ไม่มีเงิน ถ้าแม่รู้แม่ต้องด่าแน่ ๆ อย่าไปเลย ขอร้อง ขอร้อง กินยาแก้ปวดเดี๋ยวก็หายนะ โอ้ยยยยยยยย เหี้ยเอ้ย ไอ้ทานปล่อยกูลงเถอะ เดี๋ยวก็หาย ปล่อยกูสิโว้ยยยยยยยยย”

กินยาแก้ปวด บ้าหรือเปล่า ยาแก้ปวดเหี้ยอะไรวะ ขาแบบนี้มันเกินจะกินยาแก้ปวดแล้วนะ ไอ้โง่เอ้ย

“ต้องไป กูจะให้มึงไป มึงต้องไป” เสียงตะคอกยิ่งทำให้อ้อนยิ่งอยากจะลงเดินให้ได้ ดิ้นรนไม่ยอมอย่างเดียว ฝ่ามือรัวทุบหนัก ๆ ไปที่แผ่นอกของคนอุ้ม เพียงเท่านั้นกลับเพิ่มแรงโมโหของคนบ้ามากขึ้น

“โธ่ไอ้นางเอก คิดว่ากูอยากอุ้มมึงนักหรือไง มึงยังตายไม่ได้หรอกตอนนี้ มึงยังใช้หนี้กูไม่หมดเลย จำไม่ได้หรือไง ห๊า เดี๋ยวกูออกให้ก็ได้ค่าหมอไม่กี่บาท แต่มึงต้องใช้หนี้กูเพิ่มเป็นสองเท่าเข้าใจมั้ย แล้วกูจะไม่บอกแม่มึง”

ฝ่ามือหยุดชะงักแล้ว พร้อมกับที่อ้อนขบริมฝีปากสะกดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่ยังชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ แล้วยิ่งอยากจะร้องไห้ แค่เกือบแสนกูยังไม่มีปัญญาจ่าย มากกว่านี้ กูจะไปเอาที่ไหนมาให้

ไอ้ทานทำไมมึงถึงได้ร้ายกาจขนาดนี้ กูเกลียดมึง เกลียดจนไม่รู้ว่าจะเกลียดยังไงแล้ว ทำไมมึงถึงได้เป็นคนแล้งน้ำใจขนาดนี้ ทำไมกูถึงต้องมาเจอมึงด้วย ทำไม ทำไม

ทั้งเจ็บที่ขา แถมยังเจ็บที่ใจ อ้อนยกแขนขึ้นปาดน้ำตาที่หยดลงที่ข้างแก้ม แล้วเอ่ยบอกคนที่อุ้มเอาไว้ด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน

“อย่าบอกแม่กูนะทาน อย่าบอก แล้วมึงจะให้กูใช้หนี้มึงเท่าไหร่กูก็ยอม” น้ำเสียงที่เบาหวิวและขาดหายไปเป็น
ช่วง ๆ ของคนในอ้อมแขนทำให้คนอุ้มต้องรีบวิ่งให้เร็วขึ้น

เจ็บ

แบบนี้มันเจ็บ

น่ากลัว เวลาเห็นคนเจ็บปวดมาก ๆ ขนาดนี้ยิ่งกลัว ก็แล้วทีแต่ก่อนแกล้งมันตั้งเยอะไม่เห็นมันเป็นอะไร
ไม่เห็นมันเคยร้อง แต่ทำไมคราวนี้ มันถึงต้องร้องด้วย แล้วมันยังร้องไห้อีก ไอ้อ้อนมึงอย่าร้องไห้สิวะ กูกลัวคนร้องไห้ อย่าร้องไห้เลย เห็นแล้วมันทรมาน เหมือนกูตอนเด็ก ๆ ไม่มีผิด ขอร้องล่ะมึงอย่าร้องไห้เลย

“หยุดร้องซะทีสิวะ กูรำคาญโว้ย เดี๋ยวกูโยนทิ้งไว้ตรงนี้เลย” เสียงตะคอกทำให้อ้อนต้องรีบปาดน้ำตาทิ้ง แล้วยกแขนขึ้นโอบรัดรอบคอคนอุ้มเอาไว้แน่น กลัวว่าอีกฝ่ายจะโยนทิ้งให้เจ็บยิ่งกว่าเดิม

ท่ามกลางความรู้สึกขัดแย้งมากมาย

ทานตะวันคงไม่รู้ ว่าหนึ่งในนั้นคือความรู้สึกแปลก ๆ ภายในใจระหว่างคนอุ้มกับคนถูกอุ้ม

บางสิ่งบางอย่างที่ทานตะวันไม่เคยรู้จัก

บางสิ่งบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ

บางสิ่งบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นโดยที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่ทันได้รู้ตัว

TBC….

 
โดย aoikyosuke

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ทานตะวันกำลังจะเริ่มรักอ้อนแล้วใช่ม้าย  :kikkik:  :kikkik:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






taebin7

  • บุคคลทั่วไป
สนุกอ่ะ ทานเริ่มใจอ่อนแล้ววุ้ย    :give2:

อยากอ่านต่อเร็วๆแล้วนะงับ :yeb:
 

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
มาเป็นกำลังใจให้ครับ

 :yeb:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เพราะเรากัดกัน (ผูกพัน) ตอน นิยามของคำว่าดูแล

“อ้อนมันช่วยผมทำรายงานน่ะครับแม่ มันเลยต้องค้างที่บ้านผม รายงานด่วนด้วยแหละครับ ใช่ครับ คุณแม่อยู่ได้นะครับ รบกวนด้วยนะครับ อยากทานอาหารฝีมือคุณแม่จังครับ แต่ต้องทำรายงานเสร็จก่อน ครับ ได้ครับ”

ทานตะวันยืนคุยโทรศัพท์ห่างออกไป โดยมีคนที่เพิ่งออกจากห้องผ่าตัด นอนอยู่บนเตียง และค่อยเงี่ยหูฟังตลอดเวลา

“ทาน.....แม่ฝากดูอ้อนด้วยนะ”

ประโยคถัดมาที่แม่ของอ้อนบอก ทำให้ทานตะวันชะงักนิ่ง หันไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียงห่างออกไป ด้วยความไม่เข้าใจ

ฝากแปลว่าอะไร

ฝากคือให้อยู่ด้วยเหรอ หรือมันจะแปลว่าอะไร

“อะไรนะครับ” ทานตะวันทวนคำพูดอีกครั้งอย่างสงสัย แล้วก็ได้รับคำตอบกลับมา

“แม่ฝากดูแลอ้อนด้วยนะทาน”

ฝากดูแล

แปลว่าต้องดูแล

การดูแลคืออะไร ไม่เคยมีอะไรที่ใครมาฝากให้ดูแลสักอย่าง คำว่าดูแล มันแปลว่าอะไรกันแน่ ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ แต่ทานตะวันก็ตอบออกไป

“ได้ครับคุณแม่ ผมจะดูแลให้ดีที่สุดเลยครับ คุณแม่ไม่ต้องห่วง”

ปลายสายวางไปแล้ว พร้อมกับที่ทานตะวัน ยังขมวดคิ้วมุ่น ครุ่นคิดถึงคำว่า ดูแลหรือคำว่าฝาก ที่แม่ของอ้อนพูด
ทำไมต้องดูแล ทำไมต้องฝาก อย่างกูเนี่ย ฝากอะไรไว้ได้ด้วยเหรอ หรือว่า อย่างกูจะดูแลอะไรได้วะ
ไม่เคยเห็นมีใครมาฝากอะไรเลย คนตัวโตยังคงขมวดคิ้วมุ่น และครุ่นคิดประโยคง่าย ๆ แต่ตัวเองกลับแปลไม่ได้ขึ้นมา แล้วก็ยิ่งสับสน หันไปมองคนที่นอนมองอยู่บนเตียงผู้ป่วย แล้วยิ่งต้องขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจ

ไอ้เป๋นี่เหรอ ที่ต้องดูแลมัน ทำไมกูต้องดูแลมันด้วยวะ ในเมื่อมันติดหนี้กู แล้วมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องมาดูแลมันเลยนี่หว่า แล้วเรื่องอะไร ทำไมต้องดูแลมันด้วยวะ คนที่ต้องดูแลหรือห่วงใยกันโดยปกติแล้ว เขาเป็นอะไรกันถึงต้องมาดูแล ในเมื่อ กูกะไอ้เป๋นี่ ก็แค่เจ้านายกับคนใช้

อ้อนทิ้งกายลงนอนแล้ว และหันไปมองคนที่มายืนขมวดคิ้วมุ่นอยู่ข้างเตียง

“ค่าหมอเท่าไหร่วะ” เสียงของอ้อนทำให้คนที่กำลังครุ่นคิดถึงกับสะดุ้งสุดตัวแล้ว จ้องมองใบหน้าซีดขาวนั้นให้ชัด ๆ ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ

“ไม่มากไม่น้อย แต่ก็มากพอที่มึงต้องใช้หนี้กูอีกนาน”

อ่อ เหตุผลไม่ต้องรู้ใช้มั้ย รู้แค่ว่าต้องใช้หนี้นานเท่าไหร่ก็พอ นั่นสินะ ไม่น่ามาเลย ไม่น่าให้มันพามาโรงพยาบาลเลย ที่จริงกินยาหรือเอาผ้าพันแผลพันไว้ ก็คงไม่เป็นไรมากแท้ ๆ

“กระดูกลูกสะบ้าตรงหัวเข่าอ่ะ มันเป็นเหล็กที่ต้องใส่ดามเอาไว้เหรอ แล้วอย่างนี้มึงก็ไม่มีหัวเข่าอะสิ”

ก็ใช่น่ะสิ ถ้ามีกูคงวิ่งได้แล้ว ไม่ต้องเดินขาเป๋แบบนี้หรอก ดีแค่ไหนแล้วที่ยังมีขาให้เดิน แค่นี้ก็นับว่าบุญแล้ว
ไม่น่ามาถามอะไรโง่ ๆ อย่างนี้เลย สมองเท่าเม็ดถั่วเขียวมั้งเลยคิดได้แค่นี้

“เหรอ เออ หมอบอกว่า พักอีกสองสามวัน แผลคงประสานกันมากขึ้น แต่อย่าขยับเดินไม่งั้นแผลจะอักเสบ”

เหรอ ไม่ต้องบอกกระผมก็รู้ครับท่าน แล้วนี่ต้องนอนที่โรงพยาบาลนานแค่ไหนวะ หัวเข่าก็เริ่มปวดหนึบ ๆ แล้วสงสัยฤทธิ์ยาชาคงหมดแล้วแน่ ๆ ทำไมไม่ตายห่าไปซะวะ จะได้หมดเรื่องหมดราว

“ถึงไม่ขยับ ก็คงต้องขยับใช้มั้ยล่ะ ขืนนอนนาน หนี้แม่งก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นช่วยเอากูออกจากโรงพยาบาลวันนี้เลยแล้วกัน เดี๋ยวก็เดินได้แล้ว มีไม้ค้ำหน่อย ก็ลากกระเป๋าให้มึงได้แล้วแหละไอ้ทาน”

 


ก็เพราะอย่างนี้ พูดจาอย่างนี้ เป็นใครก็ต้องของขึ้น แล้วยิ่งทานตะวันด้วยแล้ว ยิ่งอาการหนักกว่าคนอื่น

“มึงควรรู้นะว่ามึงอยู่ในฐานะอะไร อย่ามาปากดีได้มั้ย จะออกวันนี้เหรอ ได้เลย จัดให้ได้ เดี๋ยวไปบอกหมอเลยว่าให้มึงออกจากโรงพยาบาล แล้วเดี๋ยวเอาบิลมาให้มึงดูด้วย เป็นไง”

ทานตะวันเอ่ยบอกพร้อมกับยักไหล่ ทำหน้าเหมือนมันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลยสักนิด นั่นยิ่งทำให้อ้อน ต้องหรุบสายตาลงต่ำ แล้วกัดฟันแน่น ก็ต้องยอมมันสิ มันมีเงินนี่ ตอนนี้มันจะเอาอะไร จะให้ทำอะไรก็ต้องทำทุกอย่างแหละ

“น้ำก็ยังไม่ได้อาบ เหม็นเหงื่อก็เหม็น แถมยังต้องพาคนเป็นง่อย มาส่งโรงพยาบาลให้เสียเงินอีก เซ็งชิบหาย”

คำพูดร้ายกาจแล้งน้ำใจ ยิ่งทำให้อ้อนเจ็บไปถึงหัวใจ อยากจะเงยหน้าขึ้นแล้วตะโกนด่าออกไปบ้าง ให้อีกฝ่ายรู้ว่าไม่ได้อยากเป็นอย่างที่มันพูดสักนิด แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงในเมื่อมันแย่ขนาดนี้แล้ว

ทานตะวันก้าวขาเดินออกจากห้องไปแล้ว โดยที่อ้อนยังนอนนิ่งอยู่บนเตียง

ขอไปอยู่บ้านไอ้ทานสองสามวัน ไม่รู้มันจะคิดเงินอีกเท่าไหร่ กลับบ้านตอนนี้ไม่ได้ ขืนกลับไปแม่ต้องรู้แน่ ๆ เพราะฉะนั้น อีกสองสามวัน ขอร้องเถอะนะ อีกแค่สองสามวัน ขอให้หายเจ็บขาเถอะ ขอให้ไม่เป็นอะไรขอให้อีกสามวันอาการเจ็บที่ขาทุเลาด้วยเถอะ จะได้ใช้หนี้ใช้สินให้มันหมดซะที ก่อนที่จะมีหนี้พอกพูนไปมากกว่านี้

ใครคนหนึ่งที่ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย ทำให้ทานตะวันต้องหันกลับไปมองอีกครั้ง แล้วก้มลงมองที่มือของตัวเอง

ฝากด้วยงั้นเหรอ การที่พาไอ้เป๋มาโรงพยาบาล เขาเรียกว่าดูแลห่วงใยได้หรือเปล่า
แต่ว่า ตอนนั้นที่เห็นมันร้องไห้เพราะความเจ็บ รู้สึกว่า หัวใจมันเต้นแปลก ๆ ใจเต้นไม่เป็นส่ำเลย แล้วยิ่งเห็นว่าแผลที่ขามันลึกขนาดไหน ยิ่งกลัว รู้สึกกลัวขึ้นมา เห็นมันจิกเล็บเข้าที่ฝ่ามือของมันด้วยแล้ว ยิ่งรู้ว่าความเจ็บปวดสุด ๆ มันเป็นยังไง

ถ้าสิ่งที่ทำลงไปเรียกว่าปกป้อง แล้วนี่กูได้ปกป้องมันหรือเปล่าวะ

ไม่รู้

ไม่รู้โว้ย ทำไมคำถามพวกนี้มันตอบยากจังวะ

ก็แค่คนใช้

ก็แค่คนนวดขาให้ แล้วก็คนคอยถูหลัง หอบของด้วย ใช่มันเป็นคนหอบของ แล้วมันเป็นอะไรอีกล่ะไอ้อ้อนเนี่ย

มันเป็นคนขาเป๋ไง ใช่ ใช่ มันเป็นคนขาเป๋

ไอ้อ้อนมันเป็นคนขาเป๋ คนขาเป๋ที่แก้มใสแจ๋ว แล้วก็ร้องไห้ได้น่ารักที่สุด

เออ ใช่ ใช่ คนขาเป๋ที่แก้มใสแจ๋ว น่าจูบที่สุดในโลกเลย

เฮ้ยยยยยยยยยย เป็นบ้าอะไรวะเนี่ย

TBC…..

 
โดย aoikyosuke

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยแอบมาติดนิยายอีก1เรื่องแล้วนะนี่ อินๆๆ :impress:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ฮือๆๆๆๆ

สงสารอ้อนที่สุดเลย

ทานใจร้ายยยย

อ่านไปน้ำตาก็ไหลไป

ฮือๆๆๆๆๆๆ

 :เศร้า1:

jammy

  • บุคคลทั่วไป
เฮ้อกว่าจะได้มาอ่าน พี่เรย์ลงไปหลายตอนละ ทานเริ่มรู้สึกกะอ้อนเเล้วซิเนี่ย :give2:

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
อ้อนน่าสงสารจัง :monkeysad:

ทานตะวันใจร้ายง่ะ :-[

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
ตกลงทานตะวันนี่ ใจร้ายหรือไร้เดียงสาแน่หว่า  :angry2:

ตามมาดู

  • บุคคลทั่วไป
ตกลงทานตะวันนี่ ใจร้ายหรือไร้เดียงสาแน่หว่า  :angry2:
อันนี้ไม่รู้เหมียนกัลซัน แต่ที่รู้ๆ เรย์ใจร้ายหว่ะ...กั๊กจาง... ลงเอะๆ หน่อยก็ไม่ได้...  :interest:

ออฟไลน์ akitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ชอบ ๆ เรื่องนี้เคยอ่าน  หนุกมาก ๆ  :110011:

ทานตะวันคงกะลังสับสนกะตัวเอง  คนอ่านเลยสับสนกะทานตะวันไปด้วย   :monkeysad:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด