ชิส์ ตาเรย์มาหาว่าเราไปบีบคอน้องเขามาอีก
รุ่นนี้ไม่ต้องบีบคอหรอก พูดนิดเดียวน้องเขาก็เคลิ้มแล้ว
****************************************************************
บทที่ 1 : เพื่อนใหม่
“แม่เกดค้าบ... พ่อนพค้าบ... ต้นไปโรงเรียนก่อนนะครับ หวัดดีครับ”
เสียงอันสดใสเจื้อยแจ้วสำเนียงปนออดอ้อนบุพการีอันเป็นที่รัก ของหนุ่มน้อยหน้าใสวัยสิบเจ็ดปี ดังแว่วมาแต่ในครัว เมื่อต้นข้าวจัดการขนมปังกับนมสด อาหารเช้าที่ มารดาของตนจัดเตรียมไว้ให้ทุกเช้า ลงไปอยู่ในท้องเรียบร้อย
“จ้ะ ลูกต้น มา หม่ามี้หอมแก้มก่อนนะคะ”
เกศสินี หญิงสาววัยเกือบสี่สิบ แต่ยังดูสาวกว่าวัยเพราะเธอเป็นสาวออฟฟิศไม่เคยกรำแดดกรำฝนอะไร ตอบรับลูกชายสุดที่รักของเธอ พร้อมกับที่ หนุ่มน้อยเอียงแก้มอันเกลี้ยงเกลา บนใบหน้าใส ๆ หล่อเหลานั้น ไปให้มารดาหอมฟอดใหญ่
“เดินทางดี ๆ นะลูก ระวังตัวด้วยล่ะ”
คุณ อรรณพ หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบ ต้น ๆ พูดตบท้ายพร้อมกำชับลูกชายของตนให้รักษาตัวดี ๆ ระหว่างทางเดินไปโรงงเรียน ต้นข้าวเป็นบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียวของเขากับเกศสินี จึงกลายเป็นที่รักของบุคคลทั้งสองเป็นอย่างมาก เลยถูกตามใจทุกอย่าง แต่ต้นข้าวก็ไม่เคยสร้างปัญหาเดือดร้อนอะไรใหญ่โตจากการเอาแต่ใจตัวเองเลย แถมยังชั่งจ้อขี้อ้อนอีกต่างหาก
“ค้าบ พ่อ ต้นไปแล้วนะครับ...”
วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดเทอมในภาคการศึกษาแรกของปี หลังจากที่เด็ก ๆ ต้องห่างจากเพื่อน ๆ และสังคมที่ตนคุ้นเคยในโรงเรียนไปเป็นเวลาถึงสอง เดือนเต็ม ต้นข้าวก็ไม่ต่างไปจากเด็กในวัยเดียวกัน เขาดีใจมากที่โรงเรียนเปิด เพราะจะได้ พบปะ กับเพื่อนฝูง และจะได้เจอกับ สายฟ้า เพื่อนสนิทของเขาที่ไม่ได้เจอกันนาน เพราะสายฟ้าเดินทางไปอยู่อเมริกากับมารดาของตนที่ทำธุรกิจร้านอาหารไทยอยู่ที่ลอสแองเจลิส ระหว่างปิดเทอม
สายฟ้า เป็นเพื่อนสนิทของต้นข้าวมาแต่อยู่ ม.ต้น หนุ่มน้อยผิวขาวตัวเล็ก ๆ น่ารัก ๆ อาศัยอยู่กับตาและยาย สายฟ้าจะคอยเป็นที่ปรึกษาและให้กำลังใจต้นข้าวเวลามีปัญหาเสมอมา คอยห้ามปราม ทัดทานเวลาที่ต้นข้าว วู่วามหุนหันพลันแล่นและเป็นเพื่อนที่จริงใจและดีที่สุดที่ต้นข้าวไว้ใจ
‘ดีล่ะ จะซักเจ้านั่นให้เล่าว่า อเมริกาเป็นไงมั่ง น่าอยู่รึเปล่า คอยดูนะไอ้เพื่อนยาก ไปเมืองนอกทั้งทีไม่มีของฝากเพื่อนฝูงล่ะ น่าดู หึหึ’
ต้นข้าวปรารภกับตัวเองระหว่างนั่งรถเมล์เดินทางไปโรงเรียน
และที่สำคัญ คือ ปีนี้ดูจะเป็นปีที่ภูมิใจเป็นพิเศษสำหรับต้นข้าว เพราะรุ่นเขาเป็นรุ่นพี่ชั้นสูงสุดในโรงเรียน ดูเหมือนเป็นความภาคภูมิใจของเด็กม.ปลายที่ไม่ต้องมีรุ่นพี่มาคอยค้ำหัวพวกเขาอยู่อีกแล้ว
ก้าวย่างแรกที่เท้าแตะพื้นฟุตบาท เมื่อลงจารถเมล์ สายตาเขาจับจ้องเข้าไปในโรงเรียน สถานที่ ที่เขารักและคุ้นเคย เป็นอย่างดี เพราะอยู่มาตั้งแต่เริ่มเข้าชั้น ม.ต้น ต้นข้าวจึงเป็นที่รู้จักจากรุ่นน้องและเป็นที่รักครูอาจารย์เป็นอย่างดี เพราะเขาค่อนข้างเป็นเด็กกิจกรรมช่วยงานโรงเรียนและครูอาจารย์อยู่เสมอ และผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี
มันชั่งดูคึกคักไม่น้อยสำหรับการเริ่มต้นเทอมใหม่ เขาเดินจ้ำอ้าวขึ้นสู่ห้องเรียนสายชั้น ม.6 ทันที
‘ดีใจจัง ไม่เจอกันนาน วันนี้เจอหน้าพวกนั้น คงมีไรมาเม้าส์กันมันส์แน่ ๆ’
“เฮ้ ! พวกเราไอ้ต้นมาแล้ว”
เสียงหนึ่งดังขึ้นในกลุ่มเพื่อนชายหญิงที่จับกลุ่มสนทนากันอยู่มุมหนึ่งของห้องเรียนชั้น ม.6/6 ต้นข้าวเดินเข้าไปรวมกลุ่มด้วยในทันที พลางคิดว่า พวกนั้นนินทา อะไรเขาอยู่รึเปล่า และพบว่า สายฟ้า กำลังเป็น จุดศูนย์กลางของการรวมกลุ่มนั้น ซึ่งต้นข้าวก็พอจะทราบจุดประสงค์เป็นอย่างดี
“หวัดดี” ต้นข้าวกล่าวทักทายเพื่อน ๆ ทุกคน
“เป็นไง ไอ้เพื่อนยาก แหมกลับมาจากเมกาเนื้อหอมเชียวนะ ดูเป็นฝรั่งดองขึ้นมาเชียว ไปอยู่แค่ สองเดือน น่าไปอยู่มั่งจังเนอะ”
ต้นข้าวทักทายสายฟ้าเพื่อนสนิทคู่หูของเขาแบบแกมหยิกแกมหยอกและค่อนขอดนิด ๆ พร้อมกับเดินไปตบไหล่เพื่อนเบา ๆ
“โม้อะไรให้พวกนี้ฟังไม่รอกันมั่งเลยน้า ไหนล่ะของฝาก... อ๊ะ ๆ อ๊า อย่าบอกนะว่าไม่มี ไม่งั้นนายโดนรุมยำแน่”
“เออน่า ไม่มีแล้วจะทำไม อยากกระแนะกระแหนดีนัก” สายฟ้าตอบกลับ
“อ้าว พูดงี้เดี๋ยวโดน เบิ๊ดกะโหลกจริง ๆ เลยนี่ ไอ้นี่”
“เฮ่ย ๆ ๆ พูดเล่นน่ะ...เอ้า! เอาไป ทวงอยู่ได้คิดถึงเพื่อนมั่งป่าวเนี่ย รึว่าห่วงแต่ของฝาก”
สายฟ้าโยนหมวกคาวบอยใบเก๋ให้ต้นข้าว พร้อมทั้งพูดแบบน้อยใจนิด ๆ
“ป่าวน้า ห่วงดิ คิดถึงด้วย หายไปซะนานเลยนะ ขอบคุณค้าบบบ สำหรับของฝาก มามะ มาจุ๊บทีดิ”
ต้นข้าวพูดจบทำท่าจะเข้าไปจูจุ๊บสายฟ้าจริง ๆ ท่ามกลางสายตาและเสียงเชียร์ในกลุ่มเพื่อน ๆ
“เฮ่ย อย่า อายเพื่อนมั่งดิ เล่นไรเนี่ย” สายฟ้าหน้าแดง ออกอาการเขินน้อย ๆ แม้ว่าต้นข้าวจะชอบเล่นแบบนี้กับตนบ่อย ๆ จนเป็นที่เคยชินในหมู่เพื่อน ๆไปซะแล้ว
ต้นข้าว สายฟ้า และเพื่อน ๆ คุยกันอย่างสนุกสนาน ถึงสิ่งที่ทุกคนได้ทำและเจอะเจอมาในระหว่างปิดภาคเรียน โดยเฉพาะสายฟ้า เล่าเรื่องที่ตนเองไปอยู่อเมริกามาอย่างออกรสชาติ เพื่อน ๆ ต่างนั่งตั้งใจฟังกันอย่างหน้าสลอนทำตาปริบ ๆ เหมือนเด็กอนุบาลกำลังนั่งล้อมวงฟังครูเล่านิทานเรื่องหมาป่ากับลูกแกะ ให้ฟังก็ไม่ปาน
‘กริ๊งงง’ เสียงอ็อด บอกเวลา ที่จะต้องเข้าแถวเคารพธงชาติ กรีดร้องดังลั่นทำลายวงสนทนาลงอย่างสิ้นเชิง
“ว้า! กำลังมันส์เลย ไปเข้าแถวกันเถอะพวกเรา เดี๋ยวอาจารย์มาไล่ แล้วค่อยมาฟังสายฟ้าเล่าต่อกันนะ”
ต้นข้าวเสนอ แล้วทุกคนก็ทยอยลงไปเข้าแถวกันที่สนามฟุตบอลหน้าอาคารเรียน
……………………………………………………………………………………………………………………..