ปากงี้...รักเลยซะดีมั้ย? (Mate become True love) : Hie_KunG
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ปากงี้...รักเลยซะดีมั้ย? (Mate become True love) : Hie_KunG  (อ่าน 286109 ครั้ง)

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
มาลุ้นต่อ  o14

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นด้วยคนค้าบ :like6:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
เหอะๆ.. ต้นกลัวไผ่ตอนหื่นๆ อิอิ.. o3

sabishiikant

  • บุคคลทั่วไป
ในชั้นเรียน ทิวไผ่จะยักคิ้วหลิ่วตา ทำหน้าหื่น ๆ ยียวนกวนประสาท ใส่ต้นข้าวตลอดเวลาที่หันหน้ามาสบตากันอย่างบังเอิญ โดยที่ต้นข้าวปรายหางตามองอย่างเคือง ๆ บ้าง จ้องตอบอย่างเอาเรื่องบ้าง ซึ่งอยู่ในสายตาของสายฟ้าทั้งหมด  หนุ่มน้อยร่างเล็ก ได้แต่เก็บมาคิดกลุ้มใจอยู่ฝ่ายเดียว
‘ได้เพื่อนรักกลับมา พร้อมศัตรูหัวใจในคราวเดียว หรอกหรือ... บ้าน่า... สองคนนั้นไม่กินเส้นกันนี่ แล้วเรื่องในห้องน้ำนั่นล่ะ อะไร ๆ มันก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแหละ เฮ้อ...คิดมากไปเปล่าเรา’ สายฟ้าพร่ำรำพันสับสนวุ่นวายใจ

“ต้น ปะ เราไปกินข้าวกัน” สายฟ้า ลุกเดินมาชวนเพื่อน เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง

“อืม...เราไม่ไปกับนายหรอก” ต้นข้าวตอบอย่างเสียงเรียบเฉย จนสายฟ้าปรับสีหน้าไม่ค่อยจะถูกกับอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของเพื่อนรัก

 “อ้าวทำไมล่ะ นายยังไม่หายโกรธเราเหรอ” สายฟ้าถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย

“เปล่า ถ้านายนั่นไปด้วย นายก็ไปกันสองคนเถอะ” ต้นข้าวพูด พร้อมกับ ทำท่าโบ้ยบ้าย ไปทางทิวไผ่

“เปล่า...ใครว่าฉันจะไปกับพวกนายล่ะ” ทิวไผ่ทำปากเบ้ พูดสอดขึ้นมา เมื่อเห็นอาการท่าทางของต้นข้าวที่ทำท่าทางรังเกียจเกลียดชังตัวเขา

“ใช่จ้ะ วันนี้ไผ่เค้าจะไปกินข้าวกับพวกเราต่างหากล่ะ ใช่มั้ยจ๊ะ พ่อรูปหล่อ...” เสียงจีบปากจีบคอ สอดแทรกขึ้นมาท่ามกลางวงสนทนาเพิ่มขึ้นอีกคน ยัยบ๊อบนั่นเอง พูดจบเจ้าหล่อนก็ตรงเข้าคล้องแขนทิวไผ่ กึ่งจูงกึ่งลากไปเข้ากลุ่มทั้งสาวแท้และสาวเทียม เพื่อพาไปกินข้าวกลางวันด้วย

“โชคดีน้า...พ่อหนุ่มเนื้อหอม หึหึ” ต้นข้าวพูดเสียงเยาะ ๆ พร้อมแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ทิวไผ่อย่าง สะใจ
ทิวไผ่ ยิ้มเนือย ๆ ยกมือขึ้นเกาะศีรษะอย่างเขิน ๆ ขณะเดินไปกับกลุ่มสาว ๆ ‘ตกกระไดพลอยโจนซะแล้วเรา’ ทิวไผ่พึมพำ

   ขณะสายฟ้ามีสีหน้าเรียบเฉย แต่ใจกลับเป็นห่วงทิวไผ่และนึกเสียดายที่อดนั่งกินข้าวกับคนที่ตนแอบปลื้ม เพราะตลอดหลายวันมานี้ การมีทิวไผ่นั่งร่วมโต๊ะกินข้างกลางวันด้วย มันทำให้โลกของเข้าดูสดใส เพียงเพราะแค่ได้แอบมองคนที่ตนแอบชอบมันทำให้ใจชื้นและมีความสุขอย่างมากมาย หากแต่ใจหนึ่งยังชุ่มชื้นอยู่บ้างเมื่อเห็นปฏิกิริยาของต้นข้าวเพื่อนรักกับทิวไผ่ ก็ทำให้เบาใจได้ในระดับหนึ่งว่าเพื่อนรักคงไม่มาเป็นศัตรูหัวใจของตน

   “ฟ้า ฟ้า! ไปกินข้าวกันได้แล้ว นายมาชวนเราเองนี่นา ทำไมยืนทึ่มเหม่อลอยเชียว เป็นอะไรไปอีก รึว่าเสียดายที่นายนั่นไม่ได้ไปด้วย” ต้นข้าว เรียกชื่อสายฟ้าหลายครั้ง อย่างอารมณ์ดี และเย้าแหย่เพื่อนรักนิด ๆ

   “ปะ...เปล่า ปะ ไปกันเถอะ หิวแล้ว” สายฟ้าตอบต้นข้าวอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เมื่อเรียกสติกลับคืนมาได้

   สายฟ้าตักข้าวเข้าปากอย่างเหม่อลอย จ้องมองไปทางโต๊ะที่กลุ่มสาว ๆกับทิวไผ่นั่งอยู่ ไม่ได้ใส่ใจกับอาหารตรงหน้าของตนเลยซักนิด จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เพราะมันไปอยู่กับหนุ่มหน้าคมเข้มนั่นซะแล้ว   
ต้นข้าวเฝ้ามองอาการของสายฟ้าเพื่อนรักอย่างเป็นกังวล และห่วงใย ‘ไอ้เจ้าตัวเล็กนี่ เป็นอะไรมากหรือเปล่านะ วันนี้แทนที่จะดีใจร่าเริงแจ่มใส ที่เรากลับมาคุยด้วย ไหงกับเหม่อลอยทำตัวแปลก ๆ พิกล

   ในขณะที่ทิวไผ่นั่งทำหน้าแหย ๆ มีสาว ๆ ทั้งสาวแท้และสาวเทียมนั่งรายล้อมอ้อมข้างอ้อมเอว โดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแค่นั่งอยู่เฉย ๆ ก็มีคนป้อนข้าวปลาอาหาร จนถึงปาก ทั้งขนมนมเนย ไอศกรีม ผลไม้นานาชนิด เขาได้แต่นั่งอ้าปากรับของเหล่านั้นตามการคะยั้นคะยอของพวกหล่อน และได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ เมื่อถูกถามว่า อร่อยมั้ย  เขากินเข้าไปจนอึดอัดไปหมด รู้สึกปวดจุกที่ท้องจนอยากจะอ้วกเอาของเหล่านั้นออกมาเสียให้ได้ จนต้องยกมือขึ้นป้องปากและห้ามไม่ให้สาว ๆ พวกนั้นป้อนต่อ และบอกว่า เขาอิ่มแล้ว แต่ยังไม่วายความซ่ายักคิ้วหลิ่วตาใส่ต้นข้าว ทำฟอร์มเก๊กอย่างภูมิอกภูมิใจในเสน่ห์ของตน เมื่อหนุ่มหน้าใสมองมาทางโต๊ะที่เขาและกลุ่มสาว ๆ นั่งอยู่ ซึ่งต้นข้าวก็ยิ้มตอบอย่างเย้ยหยัน กลับไป


………………………………………………………………….....................................................................

 o14

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เชียร์สายฟ้า เชียร์สายฟ้า  :give2:  :give2:

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
ทิพย์เชียร์สายฟ้าออกนอกหน้าเชียวนะ อิอิ
ฟ้าก็น่ารักดี  ดูเป็นหนุ่มน้อยน่ารัก  นิสัยดี  แต่ว่ามันจืดๆไปน่ะ
สรุป  เชียร์ต้นดีกว่า (จาโดนใครด่ามั้ยเนี่ยตรู)  ท่าทางจะมันส์กว่านา   ตบจูบๆๆ ด่ากัน โกรธกัน จบด้วย... ไง  :laugh:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
จะยียวนกวนกันไปมาถึงไหนเนี่ย

แต่ก็น่ารักดีเนอะ อิอิ

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
อยากดูตอนสวีมกันจังเลยอิๆ :confuse:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
 :เฮ้อ: เมื่อไหร่จาลงตัวนะ  :o8:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
นายไผ่นี่ก็กวนทีนจริงๆวุ้ย  o12
เอาเต๊อะ กวนกันไป กวนกันมา เดี๋ยวก็รักกันเองแหละ 55+  :laugh3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Shumi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
มันต้องมีโกรธกัน ละตบจูบ ๆ แน่ ๆ  :impress2:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
อย่างงี้ก็น่าสงสารสายฟ้าแย่อ่ะดิ่
ก็หลงรักไผ่เข้าไปซะขนาดนั้นี่นา  :o12:

ken_krub

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้ครับ

meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
เชียร์ต้นข้าวกับทิวไผ่สุดใจขาดดิ้น :like6:

dokebi

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh: :laugh3: :laugh: จะเป็นอย่างไรต่อไป .........

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เหอเหอ

เมื่อไหร่จะรักกันหนา

  :impress2:

taebin7

  • บุคคลทั่วไป
ยิ่งอ่านยิ่งมันวุ้ย   :laugh3:


รออ่านน๊า o15

sabishiikant

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 4 : ความห่วงใย

   
   หลังจากเปิดภาคเรียนได้สองเดือนกว่า ๆ ทิวไผ่ก็เริ่มคุ้นเคยและสนิทสนมกับเพื่อนร่วมชั้นมากขึ้น เขาเริ่มที่จะไปไหนมาไหนกับเพื่อน ๆ  หลายคน โดยไม่จำกัดอยู่ในวงแคบอีกต่อไป เพราะเขาเป็นคนอัธยาศัยไมตรีดีและมีมนุษย์สัมพันธ์ คุยสนุกเป็นกันเองกับทุกคน จึงทำให้เขาเข้ากับทุกคนได้ง่าย แต่กับต้นข้าวแล้ว คงเป็นไปไม่ได้เลย เพราะสองคนนี้เจอหน้าค่าตากันทีไรมีอันต้องปะทะคารมกันทุกครั้ง ซึ่งต้นข้าวเป็นคนตั้งป้อมที่จะไม่ยอมญาติดีกับทิวไผ่เอาเสียเลย เพราะความไม่ชอบหน้ากันมาแต่แรกเริ่ม และวีรกรรมที่ทั้งสองสร้างไว้แก่กันมันทำให้ความเกลียดชังในหัวใจก่อตัวจนจับแน่นเหมือนคราบหิวปูนที่ฉาบเกาะอยู่ตามอ่างน้ำประปาไปซะแล้ว
จนทำให้คนกลางอย่างสายฟ้า ต้องลำบากใจ เพราะวางตัวไม่ถูก คนหนึ่งก็เป็นเพื่อนรักที่สนิทกันมานานถึงเกือบหกปีตั้งแต่สมัยเรียนม.ต้น  อีกคนก็เป็นหนุ่มที่ตนเองนั้นมีใจให้ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบเจอ แต่เขา ก็ได้แต่เก็บงำความรู้สึกนี้ไว้กับตัวคนเดียว ไม่กล้าที่จะแสดงออกมากนัก เพราะไม่มั่นใจในสถานภาพของตัวเองหากเปิดเผยความรู้สึกที่แท้จริงออกไป และอีกอย่างเขาเองไม่มั่นใจว่า ทิวไผ่อาจจะคิดกับเขาแค่เพื่อนเท่านั้น เพราะทิวไผ่เองก็เสน่ห์แรงใช่ย่อยมีสาว ๆ ทั้งรุ่นเดียวกันและรุ่นน้องมาจีบมากมาย ไม่มีอะไรบ่งบอกได้เลยว่าเขาจะเป็นแบบตนเองซักนิด   
   
   “นี่ เพื่อน ๆ อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแม่แห่งชาติแล้วนะครับ โรงเรียนเราจัดกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ กันทุกปี ปีนี้ พวกเราทุกคนเป็นรุ่นพี่กันแล้ว และจะต้องไปช่วยอาจารย์ดูแลน้อง ๆ ชั้น ม.4 กับ ม. 5 ที่แปลงปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติด้วย ฉะนั้น เราจึงอยากให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมนะครับ ดูแลสุขภาพกันด้วยเดี๋ยวนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวฝน เดี๋ยวร้อน ถ้าเกิดป่วยขึ้นมา อดไปนะ กิจกรรมนอกสถานที่แบบนี้หาโอกาสไม่ได้ง่าย ๆ สนุกท้าทายดีออก และเป็นการทำประโยชน์ให้แก่สังคมด้วยการคืนป่าต้นน้ำธารให้แก่ธรรมชาติอีกด้วย” ต้นข้าวพูดกับเพื่อน ๆ ในห้อง

   “ตั้งแต่มาเรียนที่นี่เกือบสองเดือนกว่า พึ่งเห็นนาย พูดดีวันนี้แหละ มีหลักการ ซะ... ดูแลตัวเองให้ได้ก่อนเถอะ ก่อนจะมาบอกคนอื่น หน้าใส ๆ หุ่นออกจะบอบบางเป็นคุณหนูขนาดนั้น” ทิวไผ่แขวะต้นข้าวทันทีที่พูดจบ

   “ฉันพูดในฐานะหัวหน้าชั้น มันผิดตรงไหน หนักส่วนไหนของนาย” ต้นข้าวตอบโต้อย่างฉุน ๆที่ถูกทิวไผ่หาเรื่องก่อน

“รับทราบค้าบ... คุณหนูต้นข้าว ข้าน้อยน้อมรับคำสั่ง” ทิวไผ่พูดอย่างประชดประชัน

“และในฐานะหัวหน้าห้อง ฉันของสั่งให้นายหุบปากพล่อย ๆ ของนายเสียที” ต้นข้าวเน้นเสียงอย่างผู้มีอำนาจ เพราะโดนยั่วโมโหแต่เช้า ก่อนเดินกระแทกเท้าออกจากห้องไปด้วยอารมณ์เดือดพล่าน

ทิวไผ่ทำปากเบ้ ไล่หลัง และล้อเลียน ต้นข้าวกับเพื่อน ๆ ในห้องอย่างสนุกสนาน

โรงเรียนจะจัดกิจกรรมเนื่องในวันแม่แห่งชาติในวันที่สิบเอ็ดสิงหาคมของทุกปี ดังนั้นกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติจึงจัดขึ้นก่อนเป็นเวลาสองวัน
เช้าวันที่ 9 สิงหาคม นักเรียนชั้นม.ปลายทุกคนมารวมตัวกันที่หอประชุมของโรงเรียนกันแต่เช้าตรู่ ตามที่อาจารย์ได้นัดหมายไว้ เพราะรถจะออกจากโรงเรียนเวลาเจ็ดโมงเช้า เพื่อไม่ให้แดดร้อน โชคดีที่เช้าวันนี้ยังไม่มีแดด ทุกคนอยู่ในชุดรัดกุมเสื้อแขนยาวกางเกงขายาว รองเท้าบู๊ตหรือผ้าใบ และหมวกกันแดด

รถที่ใช้เดินทางเป็นรถยนต์บรรทุกของทหารที่ทางโรงเรียนติดต่อประสานงานมา จึงมีลักษณะค่อนข้างสูง ยากแก่การปีนขึ้นอยู่พอสมควร แต่เหมาะกับสภาพพื้นที่ที่จะเดินทางไปซึ่งค่อนข้างทุรกันดาร
ต้นข้าวนั่งรถคันเดียวกันกับเพื่อน ๆ ในห้อง ท้ายรถเป็นกระบะสูงมีรั้วไม้ด้านข้าง ที่นั่งเป็นแคร่ไม้สองแถวหันหน้าเข้าหากัน และมีแคร่เสริมอยู่ตรงกลางอีกหนึ่งแถว หลังคาคลุมด้วยผ้าใบ
รถวิ่งออกจากโรงเรียนเป็นขบวน มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออก สู่พื้นที่แปลงปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติในเวลาเจ็ดโมงเศษ ๆ
ภูหินร่องกล้า ดินแดนที่ครั้งหนึ่งในอดีตเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน เคยเป็นสมรภูมิที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือดของนักรบผู้กล้า และทหารหาญมากมาย ที่พลีชีพจากการลุกขึ้นจับอาวุธเข้าประหัตประหารกัน เพียงเพราะความแตกต่างของอุดมการณ์ทางการเมืองเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนไทยด้วยกันทั้งนั้น
บัดนี้ ภาพความโหดร้าย ทารุณ และความขมขื่นในอดีต ได้จางหายไปแล้ว คงเหลือไว้แต่เพียงประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่สวยงาม รอให้ทุกคนขึ้นไปสัมผัสกับความงดงามและความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างวิจิตรบรรจง ด้วยตนเอง
อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไปทางทิศเหนือ ระยะทาง 500 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ ประมาณ 6 ชั่วโมง ห่างจากตัวเมืองพิษณุโลก 120 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) แยกเข้าทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 32 ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท นครสวรรค์ จากนั้นแยกขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 117 ระยะทาง 130 กิโลเมตร ถึงตัวเมืองพิษณุโลก จากตัวเมืองพิษณุโลก เส้นทางที่สะดวกที่สุด คือใช้ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 12 สายพิษณุโลก - หล่มสัก จากนั้นแยกซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2013 ไปทางอำเภอนครไทย ก่อนถึงตัวอำเภอนครไทย มีทางแยกขวามือตามทางหลวงหมายเลข 2331 มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า สภาพเส้นทางสูงชัน และคดเคี้ยวเป็นบางช่วง
 เมื่อรถออกจากตัวเมือง ทัศนียภาพสองข้างทางเต็มไปด้วยท้องนาที่เขียวขจี หลังจากรถวิ่งผ่านชุมชนและท้องทุ่งพื้นราบมาแล้วก็เข้าสู่พื้นที่สูง รถเริ่มวิ่งไต่ระดับไปตามไหล่เขาอย่างช้า ๆ สองข้างทางเขียวชอุ่มไปด้วยป่าไม้ในฤดูฝน ประกอบกับลมที่พัดโชยขณะรถวิ่งด้วยความเร็วทำให้รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก ทุก ๆ คน ต่างเพลิดเพลินกับความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้น ชั่งเป็นการเดินทางที่แสนวิเศษจริง ๆ
เมื่อรถเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่ป่าเขา ถนนเริ่มคดเคี้ยวไปมา และเริ่มสูงชันขึ้นเรื่อย ๆ มิหนำซ้ำ ล้อรถตกหลุมที ทุกคนถึงกับจุกหน้านิ่วคิ้วขมวดไปตาม ๆ กัน แถมก้นกระแทกกับแคร่ไม้จนระบมไปหมด

ต้นข้าวและเพื่อนผู้หญิงส่วนใหญ่ เกิดอาการหน้ามืดตาลายขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่จนต้องดมยาคลายอาการวิงเวียนศีรษะที่เกิดจากการเหวี่ยงตัวโยกไปมาตามสภาพภูมิประเทศ ของรถ

“ฟ้า...เราไม่ไหวแล้ว ขอถุงที จะอ้วก....” ต้นข้าวหน้าซีดเผือด ร้องขอถุงพลาสติกจากสายฟ้าที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ซึ่งรู้สึกเวียนหัวเหมือนกันแต่ไม่หนักหนาสาหัสนัก ไม่ทันขาดคำ อาหารที่กินเข้าไปเมื่อเช้าก็ทะลักพรั่งพรูออกมาจากปากของต้นข้าวจนแทบจะเบี่ยงตัวหันหน้าออกนอกรถแทบไม่ทัน สายฟ้าได้แต่ลูบหลังบรรเทาอาการให้

“เป็นยังไงบ้างต้น ดีขึ้นบ้างยัง” สายฟ้าถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง พลางส่งขวดน้ำให้ดื่มและบ้วนปาก

“ค่อยยังชั่วแล้วล่ะ” ต้นข้าวตอบอย่างเสียงเนือย ๆ

“โธ่เอ๊ย...นึกว่าจะแน่ยังไม่ถึงปลายทางเลยด้วยซ้ำ น็อกซะแล้ว” ทิวไผ่ที่นั่งมองอาการของต้นข้าวอยู่ฝั่งตรงข้าม ทำหน้าเยาะ ๆ พูดอย่างเย้ยหยัน

“หุบปากไปเลยนาย...อุ๊บ…”ต้นข้าวพยายามจะอ้าปากเถียงกลับไป แต่ต้องเอามือป้องปากไว้เมื่อรู้สึกว่าจะอ้วกขึ้นมาอีก ทิวไผ่ทำท่าล้อเลียนกลับมา ต้นข้าวได้แต่จ้องมองด้วยความขุ่นเคือง

“แน้...ตัวเองจะแย่อยู่แล้วยังไปต่อปากต่อคำกับเค้าอีก” สายฟ้าพูดอย่างตำหนิ และลอบมองทิวไผ่อย่างฉงน ‘ทำไมพักนี้ไผ่ชอบตอแยต้นข้าวนักนะ’ สายฟ้า ครุ่นคิดอย่างสงสัย

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
มันเหมือนจะต้องมีต่อใช่ไหมคับนี่

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อิอิ ยังกัดกันเหมือนเดิมเลย รออ่านต่ออีกนะค้าบบบบบบบบบบบบบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






meemewkewkaw

  • บุคคลทั่วไป
กัดกันไปกัดกันมา รักกันเลย o3 o3 o3

รออ่านต่อครับ :yeb:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เป็นกำลังใจให้นะครับบบบ

พี่กานต์สู้ๆ

 o13

Jingjoh

  • บุคคลทั่วไป
หนุกๆ

 o13

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
ท่าทางตาไผ่นี่จะเป็นเอามากเหมือนกันแฮะ o13
สงสัยจะชอบเค้าอ่ะดิ๊ ก็เลยต้องคอยหาเรื่องเค้าบ่อยๆ
จะได้มีโอกาสคุยกัน ใช่ป่ะๆ :o9:

kYos

  • บุคคลทั่วไป
ไผ่ชอบต้น โดยไม่รู้ตัวอ่าซิ 55+ :laugh3:

ว่าแต่..ภูหินร่องกล้านี่ไม่เคยไปเลยอ่ะ ทั้งๆที่ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล  :onion_asleep:

ออฟไลน์ Shumi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เอ้า อินู๋ รักกันไว ๆ นะ  :laugh:

sabishiikant

  • บุคคลทั่วไป
ใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมง ไม่นานนักรถก็ถึงจุดหมายในเวลาเก้าโมงเศษ ๆ เด็ก ๆ ลงรถในสภาพอิดโรย แต่เมื่อได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติเบื้องหน้า ก็ทำให้หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ถึงแม้จะสายถึงเก้าโมงแล้ว แต่บรรยากาศค่อนข้างเช้ากว่าปกติ แตกต่างจากสภาพแวดล้อมในเมืองเป็นอย่างมาก พื้นที่เป็นภูเขาสูง อากาศค่อนข้างเย็น มีสายหมอกสีขาวนวลล่องลอยระเรื่อไปตามทิวยอดไม้ นกป่าน้อยใหญ่นานาพันธุ์ส่งเสียงเจื้อยแจ้วดังก้องสะท้อนไปตามแนวป่าเขา ดั่งเสียงดนตรีจากธรรมชาติที่ไพเราะเสนาะหูยิ่งกว่าเสียงรถราที่วิ่งกันขวักไขว่ในเมืองใหญ่เป็นไหน ๆ

แต่ทุกอย่างใช่จะดีไปทั้งหมด เจ้าหน้าที่อุทยานบอกว่า เมื่อวานฝนพึ่งตกลงมาทำให้สภาพพื้นดินเปียกแฉะกลายเป็นโคลนเหนียวไปหมด เจ้าหน้าที่และอาจารย์บอกให้ทุกคนเดินอย่างระมัดระวังเดี๋ยวหกล้มเอาได้ โชคดีที่ทุกคนใส่ร้องเท้าผ้าใบกันมา
ต้นข้าวถึงจะสดชดชื่นขึ้นบ้างกับสภาพธรรมชาติที่เขียวชอุ่มแต่ก็แหยง ๆ สภาพพื้นดินที่กลายเป็นโคลนเละ เดินเหินไม่ดีจะลื่นล้มเอาได้ง่าย ๆ จนต้องจับแขนสายฟ้าเดินเขย่งไปมาอย่างยากลำบาก ทิวไผ่ก็คอยจ้องแต่จะแซวและกระแนะกระแหนอาการคุณหนูจ๋า ของต้นข้าวอยู่ตลอดเวลา

ต้นข้าวจ้องตอบใบหน้าเหยียด ๆ ของหนุ่มหน้าเข้ม “มองอะไรอยู่ได้น่ารำคาญ”

“ไหนก่อนมาบอกเก่งนักเก่งหนา ทำเป็นมาเตือนคนอื่น ดูตัวเองสิ เอาตัวก็ไม่รอดตั้งแต่ยังไม่ถึงแล้ว ยังจะมาทำปากเก่งอีก” ทิวไผ่อดที่จะแหวกลับไม่ได้

“ฟ้าปล่อยเรา เราเดินเองได้ไม่ต้องมาพยุงหรอก” ต้นข้าวบอกเพื่อนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สายฟ้าถึงกับงง และยิ้มเจื่อน ๆ ในความอวดเก่งและต้องการเอาชนะ ของต้นข้าว ทั้งที่ตัวเองจับแขนเขาอยู่แท้ ๆ

“ทำไมเราจะเดินเองไม่ได้ นี่ไง ไม่เห็นเป็นไรเลย เดินง่ายดีออก” ต้นข้าวพูดพลางก้าวเดินฉับ ๆไปบนพื้นดินที่เปียกแฉะ อย่างไม่ระมัดระวัง ทันใดนั้นรองเท้าเจ้ากรรมก็ลื่นไถล จนคนหน้าใสล้มลงก้นกระแทกพื้น ท่ามกลางสายตาทิวไผ่ สายฟ้า และเพื่อนฝูง
    
   “เฮ้ย...” ต้นข้าวอุทานออกมาอย่างตกใจ ตามด้วยสีหน้าบึ้งตึง หงุดหงิดเพราะเสียงหัวเราะเย้ยหยันของทิวไผ่ และโมโหตัวเองที่เสียท่าอย่างน่าอาย ต้นข้าวกำก้อนดินโคลนขว้างใส่ทิวไผ่อย่างพาล ๆ สายฟ้ารีบเข้าไปช่วยพยุงต้นข้าวลุกขึ้นและพาไปล้างตัวที่ลำธาร ใกล้ ๆ

   “สมน้ำหน้าคุณหนูจัง อวดเก่งดีนัก” ทิวไผ่ส่งเสียงเยาะเย้ยไล่หลัง

   “หุบปากไปเลย” ต้นข้าวสวนกลับมาอย่างโมโห

...


   เจ้าหน้าที่อุทยาน ที่ดูแลแปลงปลูก พาพวกเราเดินเข้าไปยังพื้นที่แปลงปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ ลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาหัวโล้น รกทึบไปด้วยป่าหญ้าคาสูงเกือบท่วมหัว มันมีหน่อแหลมคมเหมือนเข็มแท่งใหญ่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน ใบของมันคมราวกับใบมีดโกน ถ้าไม่ใส่เสื้อแขนยาวกับรองเท้าผ้าใบมารับรองกลับบ้านไปด้วยสภาพเท้าพรุน และตัวลายเลือดไหลซิบ ๆ แสบไปทั้งตัวเป็นแน่
   มีการใช้การใช้รถแทรกเตอร์ไถปราบพื้นดิน ไว้เป็นแถว ๆ สำหรับลงกล้าไม้ ต้นกล้าที่จะใช้ปลูกมี สนสามใบ กระถินณรงค์  ประดู่ แดง และมะค่า เป็นต้น โดยการแบ่งโซนกันปลูกตามกล้าพันธุ์แต่ละชนิด โดยแต่ละแถวและแต่ละหลุมห่างกันสองเมตรครึ่ง
   
   เราจับคู่กัน ในการทำงาน โดยมีจอบและช้อนตักดินเป็นอาวุธประจำกาย โชคดีที่ฝนตกเมื่อวานนี้ถึงจะทำให้ดินแฉะแต่ก็ทำให้ขุดง่าย และยังไม่ต้องหาน้ำมารดตอนปลูกเสร็จอีกด้วย ต้นข้าวจับคู่กับสายฟ้าผลัดกันขุด ผลัดกันปลูก ส่วนสายฟ้านั้นใจจริงแล้วมันบอกว่าอยากคู่กับทิวไผ่ซะมากว่า แต่มันก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งที่เก็บงำไว้ในก้นบึ้งลึก ๆ ของหัวใจ
ทุกคนต่างทำงานด้วยความขยันขันแข็งและสนุกสนาน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความเหนื่อยล้าเข้ามาแทนที่ เมื่อเริ่มสาย แดดเริ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ต้นข้าวและสายฟ้าเหงื่อชุ่มกายจนเปียกไปหมด ส่วนต้นข้าวรู้สึกจะเหนื่อยอ่อนเป็นพิเศษเพราะข้าวที่กินเข้าไปตอนเช้า มันออกมาระหว่างทางหมดแล้ว แต่ก็ยังฝืนทน เพราะเดี๋ยวจะโดนทิวไผ่ล้อว่าเป็นคุณหนูอีก
อาจารย์เรียกทุกคนมาพักเหนื่อยดื่มน้ำเย็น ๆ และกินอาหารวางกันก่อน ให้หายเหนื่อยแล้วค่อยเริ่มทำงานกันต่อ ซึ่งทุกคนเหนื่อยเร็วกว่าช่วงเช้าอย่างเห็นได้ชัด เพราะแดดที่ร้อนจัด ทำให้อากาศอบอ้าว คล้ายกับว่าฝนกำลังจะเทลงมาในช่วงบ่ายนี้ จนมีเพื่อนผู้หญิงหลายคนถึงกับเป็นลม ต้องหามเข้าไปนั่งพัดวี กันใต้ร่มไม้ ที่มีลมพัดโชยเย็นสบาย
    ก่อนจะถึงเวลาพักเที่ยงพวกเราก็ช่วยกันเอาต้นกล้าทั้งหมดลงดินเสร็จพอดี อาจารย์เรียกทุกคนมาพักเหนื่อย เพื่อรอรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน

   ระหว่างพักเหนื่อยต้นข้าวชวนสายฟ้า ไปล้างหน้าล้างตา กันที่ลำธารเพื่อให้สดชื่น สายธารธรรมชาติ เล็ก ๆ จากแหล่งต้นน้ำไหลเอื่อยลัดเลาะไปตามโขดหินใหญ่น้อยที่ขวางกั้น  เสียงน้ำซ่านกระเซ็นเมื่อกระทบกับโขดหิน ทำให้ต้นข้าวและสายฟ้าหยุดฟังอย่างหลงใหลในเสียงดนตรีแห่งธรรมชาตินั้น ก่อนจะพากัน ลงไปวิดน้ำล้างหน้า
   สายน้ำเย็นยะเยียบจนขนลุกซู่ ต้นข้าวกวักมันขึ้นประพรมใบหน้าเนียนใส ที่มีรอยแดงเพราะแดดเผา ความเย็นจากสายน้ำแพร่ซ่านไปทั่วทั้งใบหน้า ด้วยความสดชื่นดุจน้ำทิพย์จากสวรรค์ เหมือนกับว่าอาการเมื่อยล้าเมื่อสักครู่ได้พลันมลายหายไปอย่างสิ้นเชิง

   “แหม แอบมาเล่นน้ำกันสองคนไม่ชวนเราเลยนะฟ้า” เสียงหนึ่งดังขึ้นทำลายบรรยากาศเงียบสงบลง
   
   “ทำไมต้องชวนนายด้วยไม่ทราบ” ต้นข้าวสวนขึ้นอย่างทันควัน

“อ้าวไผ่ ขอโทษนะเราลืมชวน” สายฟ้า ตอบทิวไผ่ อย่างเนือย ๆ

ทิวไผ่ไม่ต่อล้อต่อเถียง เดินลงไปในลำธารวิดสายน้ำเย็นฉ่ำชโลมใบหน้าคมเข้ม และศีรษะ จนเปียกชุ่ม

“มาเล่นน้ำกันเถอะ” พูดจบก็วิดเข้าน้ำใส่ต้นข้าว และสายฟ้าอย่างไม่ยั้งทันที

“เฮ้ย ไอบ้าเดี๋ยวเปียกหมดไม่มีชุดเปลี่ยนนะโว้ย” ต้นข้าวตะโกนด่ากลับไป พลางวิ่งหนี ส่วนสายฟ้าเองก็อยากเล่นด้วยอยู่หรอก แต่ติดที่ไม่มีชุดเปลี่ยนเช่นกันอีกนานกว่าจะถึงบ้านได้เป็นหวัดกันพอดี

“ไม่เอาน่ะไผ่ เราไม่มีชุดเปลี่ยนกันนะเดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา” สายฟ้าปราม

ต้นข้าวเดินกลับมาพร้อมกับยกก้อนหินขนาดเขื่อง  “อยากเล่นนักใช่มั้ยได้ จัดให้” แล้วโยนก้อนหินลงไปในลำธารอย่างรวดเร็ว ก้อนกินกระทบกับผิวน้ำ พร้อมกับสาดสายน้ำกระเซ็นไปรอบ ๆ ถูกทิวไผ่จนเปียกโชกไปทั้งตัว ทิวไผ่ยืนนิ่ง ขณะที่ต้นข้าวหัวเราะลั่นอย่างสะใจ สายฟ้าทำหน้าเจื่อน ๆ ตามเคย
ทิวไผ่ทะลึ่งพรวดขึ้นจากลำธารวิ่งเข้าหาต้นข้าวอย่างรวดเร็ว ขณะที่หนุ่มหน้าใสมัวแต่ยืนหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็งไม่ทันได้ตั้งตัว กว่าจะรู้ตัวหันหลังออกวิ่งทิวไผ่ก็เข้ามาจวนจะถึงตัวอยู่แล้ว

“จะไปไหน...” ทิวไผ่ส่งเสียงคำราม

ต้นข้าวสะดุดก้อนหินเกือบหัวคะมำ ทิวไผ่คว้ามือไว้ได้และดึงหนุ่มร่างบางเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว แล้วรวบตัวต้นข้าว อุ้มไว้ในอ้อมอกอย่างง่ายดาย คนถูกอุ้มดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดฤทธิ์

“ปล่อยฉันนะโว้ย ไอ้ขี้เก๊ก นายจะทำอะไรฉัน ไอ้บ้า ปล่อย...” ต้นข้าวโวยวายและดิ้นไปมาอยู่ในลำแขนแข็งแรงนั้น

“เดี๋ยวก็รู้” พูดจบ ทิวไผ่ก็พุ่งตัวลงสู่ลำธารพร้อมคนในอ้อมกอดอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่อยู่ในสภาพเปียกปอนเหมือนกับลูกหมาตกน้ำ สายฟ้ายืนมองอย่างตกตะลึง

ทิวไผ่ส่งเสียงหัวเราะอย่างสะใจสุดขีดที่สามารถเอาคืนต้นข้าวได้อย่างทันท่วงที ต้นข้าวหน้าบูดบึ้งวิดน้ำใส่ทิวไผ่อย่างโมโห แล้วพรวดพลาดขึ้นไปจากลำธารในสภาพเปียกโชกไปทั้งตัวอย่างหัวเสีย

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เหอเหอ

รอลุ้นอยู่นะค้าบบบบบ

 :o10:

ifwedo

  • บุคคลทั่วไป
อุ๊ยยย มีอุ้มแหละ :laugh3:

TheVOshow

  • บุคคลทั่วไป
 o8 เออให้มันได้งี้สิ  เห็นใจสายฟ้าว่ะ เห็นภาพตำตาตำใจ :o12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด