Miracle 08
วันแรกที่เข้าบริษัทสลับกับไปดูงานในองค์กรลับอยู่หลายวัน คือวันที่เซย์จิหงุดหงิดที่สุดในรอบปี
ในตอนที่ออกจากบ้านเซย์จิมั่นใจว่าเขาอารมณ์ดีมากทีเดียว ตลอดเวลาหลายคืนที่ผ่านมาไม่มีคืนไหนที่ชายหนุ่มจะไม่แวะเวียนไปหานาโอะถึงห้องนอน กระนั้นก็ปราศจากการร่วมเพศที่สมบูรณ์แบบ เซย์จิไม่อยากเสียเวลาคอยให้นาโอะหายป่วยหลังถูกครอบครองอย่างรุนแรง จึงตัดสินใจเล่นหมาหยอกไก่ไปเรื่อย ๆ สักพัก
บางครั้งชายหนุ่มจะหยอกล้อเรือนร่างสวยงาม เพื่อปลุกปั่นอารมณ์ใคร่จนเกือบถึงที่สุดของความต้องการแล้วปล่อยให้ค้างคาไว้เช่นนั้น จากนั้นจึงสั่งให้หนูน้อยคลานเข้ามาอ้อนวอนแทบเท้า แน่นอนว่านาโอะไม่มีทางยอมแต่แค่ในช่วงแรกเท่านั้น เมื่อทนต่อความรุ่มร้อนที่กัดกินจิตใจไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องยอมทำตามที่สั่ง
ในบางครั้งจะโจมตีส่วนอ่อนไหวทั่วร่างของนาโอะ ให้ต้องปลดปล่อยออกมานับครั้งไม่ถ้วนจนหมดสิ้นเรี่ยวแรง และในวันที่เหนื่อยมากเซย์จิจะสั่งให้ริมฝีปากเล็ก ๆ ปรนเปรอความสุขให้ตนแทน ทุกคืนเขาจะเฝ้าดูนาโอะอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงสั่นเทา และถูกคาวโลกีย์ค่อย ๆ บ่อนทำลายศักดิ์ศรีทีละน้อยอย่างเป็นสุข
เพลิดเพลินเสียจนไม่ได้แวะไปดูแลผลการทดลองเป็นเวลาหลายวัน เนื่องด้วยใจจดใจจ่ออยู่กับการเล่นสนุกเพียงอย่างเดียว ทว่ากลับไม่มีครั้งใดเลยที่จะยอมพาเทะซึโอะมาเจอ ตามที่นาโอะเฝ้าขอร้องอยู่ทุกค่ำคืนหลังเสร็จกิจ ความสุขอีกอย่างของเขาคือการเยาะเย้ยท่าทีผิดหวังของหนูตัวน้อยด้วยคำพูดถากถางว่านาโอะนั้นแย่มาก ไม่เคยทำให้พอใจได้เลยสักครั้งเดียว
" เจ้านายครับ ถึงบริษัทแล้วครับ "
คนขับรถเอ่ยเรียกสตินายเหนือหัว เมื่อเห็นว่าจอดรถที่หน้าบริษัทนานแล้วแต่เซย์จิยังคงตกอยู่ในภวังค์ ใบหน้าคมระบายยิ้มน้อย ๆ ตลอดเวลา ยามหวนคิดไปถึงเรือนร่างขาวสะอาดดิ้นพล่านเมื่อถูกสอดใส่แท่งพลาสติกเรียวยาวไปยังช่องทางด้านหลังในค่ำคืนที่ผ่านมา ดวงหน้าหวานเปรอะเปื้อนหยดน้ำตา ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ปลุกอารมณ์ใคร่ให้เพิ่มขึ้นได้เสมอ
" เข้าใจแล้ว "
ทันทีที่ก้าวเท้าขึ้นไปยังชั้นบนสุดซึ่งเป็นห้องทำงาน เลขาสาวก็ปราดเข้ามาหาทันทีราวกับคอยอยู่นานแล้ว ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางดูเคร่งเครียดกว่าปกติ
" มีงานด่วนอะไรเหรอไง "
" ไม่ใช่งานด่วนค่ะ มีคนมาคอยเจ้านายอยู่หลายวันแล้วค่ะ บอกว่าจะมาทุกวันจนกว่าจะได้เจอ "
" ใคร ? " คิ้วหนาขมวดมุ่นพลางไล่คิดไปถึงบุคคลที่หาญกล้าบุกมาพบโดยไม่ได้นัดหมาย ตัวเลือกเดียวที่คิดออกคือไดยะ แต่หากเป็นเพื่อนสนิทเลขาของเขาคงไม่มีท่าทีเป็นเดือดเป็นร้อนเช่นนี้แน่
" ไม่ทราบค่ะ แขกไม่ยอมบอกชื่อ "
" ถ้างั้นก็เรียกยามมาลากออกไปสิ "
" ลองทำแล้วค่ะ แต่แขกบอกว่าถ้ากล้าให้คนมาลากออกไป จะแฉเบื้องหลังของเจ้านายให้เสื่อมเสีย " หญิงสาวทำท่าเหมือนจะร้องไห้อยู่รอมร่อ ขณะรายงานเรื่องที่ตนต้องประสบในหลายวันที่ผ่านมาให้ฟัง
" พาไปหาแขกที่ว่านั่นหน่อยสิ " เรียวปากบางเหยียดยิ้มด้วยความรู้สึกท้าทาย
เมื่อรู้ว่าแขกที่สร้างความลำบากใจให้เลขาสาว เป็นเพียงเจ้าของร้านเค้กกับหนุ่มน้อยพนักงานในร้านเดียวกัน ความรู้สึกตื่นเต้นท้าทายที่จะได้เจอคู่แข่งทางการค้า ซึ่งชอบเอาเรื่องไร้สาระมาขู่ให้เซย์จิวางมือจากโลกธุรกิจพลันมอดดับลง
" แค่แมลงสองตัวแค่นี้ทำไมไม่มีปัญญาจัดการ "
การที่เซย์จิเมินหันไปต่อว่าเลขาสาวแทน ยิ่งทำให้ฮิโรกิสุดจะระงับความโกรธได้อีกต่อไป หลังจากที่นาโอะไม่ติดต่อส่งข่าวคราวกลับมาที่ร้านอีกเลยซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก ถึงเริ่มเอะใจสงสัยแล้วไปคาดคั้นเอาความจริงกับฮาจิเมะผู้ที่น่าจะรู้ทุกอย่างดีที่สุดจนได้รู้ความจริงทั้งหมด เขาก็ตั้งใจบุกมาจัดการเซย์จิด้วยตัวเอง นาโอะที่บอบบาง เพื่อนร่วมชายคาที่เฝ้าทะนุถนอมมาตลอดถูกใครหน้าไหนก็ไม่รู้มาทำร้าย แค่คิดฮิโรกิก็โมโหจนแทบฆ่าเซย์จิได้อยู่แล้ว หลังจากที่ต้องคอยมาหลายวันสิ่งที่ได้รับคือการปรายตามองเพียงชั่วครู่ ยิ่งทำให้เพลิงแค้นถาโถมมากขึ้น
" แก! " ฮิโรกิที่กำลังจะพุ่งเข้าทำร้ายร่างกายเซย์จิถูกฮาจิเมะคว้าแขนห้ามเอาไว้ได้ทัน
" ปล่อยผมสิมาสเตอร์ ผมจะช่วยนาโอะ "
" คิดเหรอว่าชกเขาแล้วจะได้นาโอะคุงกลับมา "
ผู้มีสติกว่าเอ่ยท้วง ฮิโรกิจำต้องข่มใจแล้วยืนจ้องเซย์จิแทน ฮาจิเมะเห็นว่าหากปล่อยให้ลูกจ้างเลือดร้อนคนนี้จัดการ ที่ต้องคอยมาหลายวันคงสูญเปล่าจึงเป็นฝ่ายเริ่มเจรจาแทน
" ช่วยคืนตัวนาโอะกับเทะซึโอะมาได้มั้ยครับ "
" พูดเรื่องอะไรอยู่น่ะ " คิ้วหนาเลิกขึ้นคล้ายได้ยินเรื่องประหลาดเข้าให้ก่อนจะกล่าวต่อ
" ผลการทดลองคงคืนให้ไม่ได้หรอก เดิมทีเด็กนั่นเป็นผลผลิตขององค์กรฉันที่ถูกขโมยไป การจะเอากลับคืนมาเป็นเรื่องแปลกตรงไหน ส่วนไอ้หนูเจ้าเล่ห์นั่นฉันก็ไม่ได้ล่ามไว้สักหน่อย อยากกลับไปเมื่อไหร่ก็กลับได้ ไม่ได้ว่าอะไรอยู่แล้ว "
แววตาทรงอำนาจอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่าจับจ้องไปยังแขกทั้งสอง ขณะกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อย แต่ฮาจิเมะกลับรู้ึสึกเหมือนถูกกดดันอยู่ก็ไม่ปาน
" แต่คุณยื่นข้อเสนอให้คนของเราว่า ถ้ายอมทำตามที่บอกจะปล่อยตัวเทะซึโอะ นาโอะคงไม่ยอมกลับถ้าไม่ได้ตัวเด็กกลับมาด้วยแน่ คุณก็น่าจะรู้นี่ครับ "
เจ้าของร้านขายเค้กพยายามสงบสติอารมณ์แล้วกล่าวเกลี้ยกล่อมต่อ ทว่าถ้อยคำแสดงความเป็นเจ้าของกลับทำให้เซย์จิเริ่มมีน้ำโหขึ้นมาบ้าง นอกจากเขาใครหน้าไหนจะมาถือสิทธิในตัวหนูทดลองและผลการทดลองของเขาไม่ได้ทั้งนั้น
" คนของพวกนายงั้นเหรอ ช่วยกรุณาพูดใหม่ด้วย เดิมทีหมายเลข 23 เป็นขององค์กรฉันแต่ดันหนีออกไป อย่ามาเรียกเจ้านั่นว่าคนของนาย ตั้งแต่เมื่อก่อนจนถึงตอนนี้ไม่ว่าเมื่อไหร่สองคนนั้นก็เป็นของ ๆ ฉัน "
" แก๊งค์ทุเรศ ๆ ที่เอาเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมาทำเหมือนเป็นผักปลาแบบนั้น ยังมีหน้ามาเรียกร้องเรื่องพวกนี้อีกเหรอไง " ฮิโรกิอดทนฟังอยู่เฉย ๆ ไม่ได้อีกต่อไป เขาด่ากราดออกมาเสียงดัง
" มันเป็นธุรกิจอย่างหนึ่ง นายนี่เสียมารยาทจังนะ "
" ธุรกิจของแกอยู่ไม่รอดแน่ถ้าฉันบอกเรื่องทั้งหมดให้ตำรวจรู้ เลือกเอาว่าจะยอมคืนคนของพวกฉันมา หรือจะยอมเสียธุรกิจเน่าเฟะของแกไป "
ผู้ก้าวร้าวในสายตาเซย์จิงัดไม้ตายที่เตรียมไว้ออกมาในที่สุด ฮิโรกิลอบยิ้มขณะวาดหวังในชัยชนะที่กำลังจะได้รับ ทว่าผลที่ได้กลับไม่เป็นดังหวัง รอยยิ้มและแววตามาดร้ายยังปรากฏอยู่บนใบหน้าคมคายชวนให้โมโหไม่เปลี่ยน
" ก็เอาสิ ถ้าคิดว่าจะทำอะไรฉันได้ แต่ขอบอกไว้ก่อนตำรวจก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของฉันเหมือนกัน คิดดูเอาเองเถอะว่าฉันกับนายใครกันแน่ที่จะถูกจัดการ "
เซย์จิฉีกไพ่ใบสุดท้ายของอีกฝ่ายทิ้งแบบไม่เหลือดี ก่อนเดินกระแทกเท้าจากไปโดยไม่หันกลับไปมองอีก
..พวกมดปลวกที่น่าหงุดหงิด..
ถ้อยคำที่เหมือนจะบอกว่าทั้งนาโอะและเทะซึโอะไม่ใช่ของเซย์จิ เป็นดั่งเข็มเล่มเล็กคอยทิ่มแทงในใจให้รำคาญอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่ได้กลับคืนมาแล้วเจ้าพวกนั้นยังกล้ามาบอกว่าไม่ใช่ของเขาอีก ชายหนุ่มเริ่มหัวเสียขึ้นมาบ้างแล้ว
------------------
ในเมื่อความคิดที่จะเข้าไปสะสางงานในบริษัทถูกทำลายโดยแขกไม่ได้รับเชิญ ผู้บริหารใหญ่จึงตัดสินใจล้มเลิกแผนการทั้งหมดแล้วกลับบ้านแทน เวลาบ่ายกว่ายังเร็วเกินไปที่จะเพลิดเพลินไปกับเรือนร่างหอมหวาน เขาจึงเลือกขึ้นไปบนชั้นสามแทน ก่อนจะรำลึกได้ว่าหลายวันมาแล้วที่ไม่ได้แวะมาเลย
ทุกอย่างในห้องเรียบร้อยเป็นที่น่าพึงพอใจ เว้นเสียแต่เด็กน้อยที่มีท่าทีดื้อดึงให้พี่เลี้ยงต้องลำบากใจอยู่ในตอนนี้ เทะซึโอะนั่งนิ่งก้มหน้าอยู่กับพื้นไม่ยอมขยับไปไหน ในขณะที่พี่เลี้ยงสาวกำลังพยายามเกลี้ยกล่อมอะไรบางอย่างอยู่
" กินหน่อยเถอะจ้ะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ " เธอพยายามเอาไส้กรอกล่อให้เทะซึโอะหันมามองอาหารตรงหน้า แต่ดูเหมือนความพยายามจะไร้ผลเมื่อเด็กชายยังดื้อเงียบไม่สนใจท่าเดียว
" เกิดอะไรขึ้น "
เซย์จิเอ่ยออกมาเป็นดั่งระฆังช่วยชีวิตของพี่เลี้ยงสาวเลยก็ว่าได้ เธอรีบเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังอย่างรวดเร็ว
" เด็กนี่ซึม ๆ มาสองสามวันแล้วค่ะ ช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยยอมกินข้าวด้วย เอาแต่บอกอยากเจอคนชื่อนาโอะตลอดเลย "
" แล้วทำไมไม่จัดการทำอะไรสักอย่าง " พอรู้ว่าต้องกลับมาเจอปัญหาที่บ้านอีก อาการหงุดหงิดที่มีมาตั้งแต่บริษัทก็ดูจะเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม
" ทั้งเอาของเล่นมาล่อ ทั้งพูดหว่านล้อมสารพัดแล้วก็ไม่ยอมท่าเดียว...."
" พี่ชายพาผมไปหาพี่นาโอะอีกได้มั้ยฮะ "
เด็กชายลุกขึ้นมากระตุกชายเสื้อเซย์จิเรียกร้องความสนใจก่อนขอร้องออกมา แต่สำหรับผู้ถูกร้องขอกลับเป็นการสร้างความรำคาญให้เสียมากกว่า ไม่ว่าอะไรก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด ตั้งแต่แขกที่ไม่ได้รับเชิญมาพูดทำนองว่าไม่มีสิทธิในตัวนาโอะและเทะซึโอะ ไหนจะเด็กชายที่เป็นเด็กดีสงบเรียบร้อยมาตลอดเกิดงอแงขึ้นมาจนเอาไม่อยู่อีก
" นะฮะ ผมอยากเจอพี่นาโอะ ผมยอมเป็นเด็กดีไม่บอกพี่นาโอะว่าอยู่ที่นี่แล้ว เพราะงั้นพาผมไปเจอพี่นาโอะเถอะนะ "
เด็กชายพยายามอ้อนอีกครั้ง เนื่องจากจำได้ว่าผู้ที่พาไปหานาโอะคราวก่อนคือเซย์จิ อีกทั้งตนยังทำตัวเป็นเด็กดีมาตลอด แค่ไม่ได้เจอหน้าพี่ชายเพียงคนเดียวมานานเกินไปจนคิดถึงมากเท่านั้น เทะซึโอะน่าจะมีสิทธิเรียกร้องของรางวัลให้ตัวเองได้บ้าง แต่อาการรบเร้ามากจนน่ารำคาญกลับเป็นตัวกระตุ้นขีดความอดทนของเซย์จิให้ขาดสะบั้น
..จะใครหน้าไหนก็ทำตัวน่าโมโหทั้งนั้น..
" นั่นเป็นสิ่งที่เธอต้องทำต่างหาก อย่าเอาเรื่องพวกนั้นมาเรียกร้องอะไรไปหน่อยเลย ทำตัวสงบ ๆ อยู่นิ่ง ๆอย่าขออะไรมากนักไม่ได้เหรอไง "
ฝ่ามือใหญ่แกะมือเรียวเล็กที่เกาะกุมชายเสื้ออยู่ออก เซย์จิขึ้นเสียงใส่แม้จะไม่ดังมากนัก แต่ด้วยเนื้อความในประโยคซึ่งคล้ายจะดุด่าก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เด็กชายซึ่งถูกประคบประหงมเอาใจใส่ด้วยความรักมาตลอดเสียขวัญได้ และตระหนักได้ในที่สุดว่าที่นี่ต่างจากร้านสไลม์อันอบอุ่นเพียงใด
" ฮึก..ทำไมล่ะ ผมเป็นเด็กไม่ดีเหรอ " เทะซึโอะสะอึกสะอื้นออกมา
" เงียบซะ "
" พี่ชายรำคาญผมเหรอ ถ้างั้น..ฮึก..พาผมกลับไปหามาสเตอร์สิฮะ.."
ถึงตอนนี้ดวงตาสีนิลที่ฉายแววโกรธเกรี้ยวมาตลอดเริ่มหันมาจ้องเทะซึโอไม่วางตา เขานั่งลงในระดับเดียวกับเด็กชาย ฝ่ามือใหญ่จับตัวร่างน้อยให้หันมาเผชิญหน้า
" เมื่อกี้ว่าอะไรนะ "
"..ฮึก..พี่นาโอะ.."
" ฉันถามว่าเมื่อกี้พูดว่าอะไร! " ชายหนุ่มตวาดเสียงดังลั่นเสียจนเด็กชายสะดุ้งสุดตัว แต่ผู้ที่ถูกเพลิงแห่งความโกรธาเผาผลาญจิตใจอยู่ไหนเลยจะใส่ใจ
" ผะ....ผมบอกว่า..จะกลับไปหามาสเตอร์.."
หากไม่ได้เจอนาโอะอย่างน้อยขอกลับไปยังสถานที่ซึ่งมีผู้คอยให้ความรักกับตนก็ยังดี ไม่ใช่พี่สาวไม่คุ้นหน้าที่แค่ทำตามหน้าที่ของตนให้เสร็จ ๆ ไป กับพี่ชายตัวโตคาดเดาอารมณ์ไม่ได้และเพิ่งจะต่อว่าตนอย่างรุนแรง
..นาโอะเอาแต่เรียกหาเด็กเพื่อจะรีบพากลับไป ส่วนเจ้าเด็กนี่ก็เรียกร้องจะออกไปจากที่นี่ มดปลวกพวกนั้นยิ่งน่าโมโหเข้าไปใหญ่
ไม่ว่าใครก็ช่างสรรหาเรื่องมาให้ได้ไม่หยุดหย่อน
ไม่ว่าใครก็อยากจะหนีไปจากเขากันทั้งนั้น..
" ห้ามพูดว่าจะออกไปจากที่นี่อีก!! ไอ้เด็กเรื่องมาก "
เสียงฝ่ามือกระทบเนื้อนุ่มดังลั่นห้องหลายครั้งติด ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บปวด เซย์จิกระหน่ำตีลงบนร่างน้อยด้วยความหงุดหงิดใจที่สั่งสมมาทั้งวัน ไม่เฉลียวใจคิดว่าเทะซึโอะเป็นเพียงเด็กตัวเล็ก ๆ ไม่อาจทานทนได้ จวบจนกระทั่งได้ระบายความโกรธออกไปบ้างจึงค่อยสงบลงได้ แต่ก็สายไปเสียแล้วที่จะมานึกเสียใจในสิ่งที่กระทำลงไป เทะซึโอะทิ้งตัวลงนั่งกับพื้น กรีดเสียงร่ำไห้ไม่สนใจสิ่งใดอีก
" ฮืออ! ผมเจ็บ.."
" หนวกหูน่า! หุบปากซะ "
" พี่นาโอะ..ช่วยผม..ด้วย " เด็กชายยังคงร้องไห้จนหน้าแดงก่ำไปหมด พี่เลี้ยงสาวพยายามเข้ามาปลอบหวังจะเอาใจเจ้านายแต่ก็ไม่เป็นผลใด ๆ
" โธ่เว๊ย! "
..เค้าลางแห่งความวุ่นวายเริ่มก่อตัวขึ้น..
----------------------------------
..ได้ยินเสียงเหมือนเทะซึโอะกำลังร้องไห้..
นาโอะหยัดกายลุกขึ้นนั่งบนเตียงหลังจากนอนกลางวันมาได้พักใหญ่ เสียงเด็กร้องไห้ที่ได้ยินจากที่ไกล ๆ จนไม่อาจข่มตานอนต่อไปได้ รู้สึกว้าวุ่นใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ ทันใดนั้นเองประตูห้องก็ถูกเปิดออก ก่อนจะมีบางสิ่งถูกโยนเข้ามาภายใน เมื่อมองดูจนรู้ว่าเป็นอะไรนาโอะก็ตกใจจนแทบทำอะไรไม่ถูก
" ทำให้เด็กนี่หยุดร้องให้ได้ เดี๋ยวฉันจะมารับกลับ "
บานประตูถูกกระแทกปิดเสียงดังสนั่น แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ นาโอะรีบถลาเข้าไปหาร่างที่นอนสะอึกสะอื้นอยู่บนพื้นด้วยหัวใจที่เจ็บร้าวไปหมด ร่องรอยแดงช้ำมากมายบนท่อนแขนทำให้เดาได้ไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้น นาโอะอยากจะร้องไห้ตามไปอีกคน เขาไม่เคยตีเทะซึโอะเลยแม้แต่ครั้งเดียว หากดื้อก็จะตักเตือนด้วยเหตุผล ถ้ายังไม่ฟังอีกบทลงโทษอื่นอย่างงดของว่างจึงจะตามมา
การกระทำป่าเถื่อนอย่างทำร้ายร่างกายน้องชายตัวน้อย ซึ่งรังแต่จะทำให้ทุกอย่างแย่ลงเป็นสิ่งที่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็จะไม่ทำโดยเด็ดขาด
" เทะซึจัง พี่อยู่นี่แล้วไม่ร้องนะครับ "
น้ำเสียงคุ้นหูกับอ้อมกอดอันอบอุ่นทำให้เด็กชายที่ร้องไห้จนลืมสิ้นทุกสิ่งรู้ตัวขึ้นมาบ้าง กระนั้นเทะซึโอะกลับยิ่งส่งเสียงสะอื้นดังกว่าเก่า นาโอะรู้สึกเหมือนเสียงร้องเหล่านั้นกำลังกรีดลึกลงในใจก็ไม่ปาน เขาไม่เคยเห็นเด็กชายมีท่าทางทรมานอย่างนี้มาก่อน
..ผมทำตามที่บอกมาตลอด แต่นี่คือสิ่งที่คุณตอบแทนกลับมางั้นเหรอ..
" เทะซึจังเจ็บ ฮึกก "
" ใครทำอะไรเทะซึจังบอกพี่มาสิ เดี๋ยวพี่ไปจัดการให้.. " เจ้าของฝ่ามือที่คอยลูบตามเนื้อตัวเด็กน้อยด้วยความทะนุถนอมเอ่ยเสียงสั่น เพราะหัวใจที่แตกร้าวไปแล้ว
" พี่นาโอะ..ฮืออ"
" พี่อยู่นี่แล้ว " มือเรียวใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำมูกที่ไหลเปื้อนใบหน้าเทะซึโอะจนเละเทะไปหมดอย่างไม่นึกรังเกียจ
" อึก..เทะซึจังเป็นเด็กไม่ดี..เหรอฮะ.."
" เทะซึจังเป็นเด็กดีออก "
" ฮึก..ทั้งที่เทะซึจังไม่ดื้อ ทำตามที่พี่ชายคนนั้นบอก ไม่บอกพี่นาโอะด้วยว่าอยู่ชั้นบนสุดของบ้านหลังนี้..ฮึกก..เทะซึจังยังเป็นเด็กไม่ดีอีกเหรอฮะ ก็แค่อยากเจอ..พี่นาโอะ.. "
ด้วยต้องการระบายสิ่งที่สงสัยอยู่ในใจเด็กชายจึงลืมข้อตกลงที่เคยรับปากกับเซย์จิไว้เสียสนิท ร่างผอมบางรับฟังสิ่งที่ได้ยินไม่มีตกหล่นสักคำ จนเมื่อเด็กชายหยุดสะอื้นนาโอะจึงเริ่มไล่ถามสิ่งที่เทะซึโอะหลุดปากออกมา
" เมื่อกี้เทะซึจังบอกวาพี่ชายคนนั้นบอกอะไรเหรอ "
" พี่ชายคนนั้นห้ามไม่ให้บอกพี่นาโอะว่าอยู่ชั้นบนสุดของที่นี่ " ร่างน้อยแนบแก้มเข้ากับแผ่นอกบาง มือเล็กขยำเสื้อของนาโอะแน่น
" ชั้นบนสุดของที่นี่น่ะเหรอ "
" ฮะ "
เมื่อสงบใจลงได้ซ้ำยังได้อยู่ในอ้อมอกอบอุ่นที่ห่างหายไปนาน เด็กชายจึงเริ่มวางใจอย่างที่ไม่ได้รู้สึกมานาน แล้วเริ่มเล่าสภาพความเป็นอยู่ทุกอย่างให้นาโอะรับรู้
พลันคิดไปถึงทางเดินอีกฝากซึ่งไม่เคยย่างกรายเข้าไปด้วยรู้ว่าเป็นห้องนอนของเซย์จิ นาโอะก็เดาต่อได้ไม่ยาก เหมือนชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ต่อกันเป็นรูปภาพขึ้นมา
เทะซึโอะอยู่ใกล้แค่เอื้อมมาตลอด แต่กลับไม่รู้ตัวเลยสักนิด..
" พี่นาโอะ เทะซึจังเป็นเด็กไม่ดีเหรอฮะ ทำไมพี่ชายคนนั้นต้องตีผมด้วย "
" เทะซึจังของพี่เป็นเด็กดีที่สุดในโลก อย่าไปเชื่อที่คนอื่นบอกนะ "
ร่างผอมบางคลึงมือเล็กเบา ๆ ด้วยความรู้สึกโหยหา
" เทะซึจังบอกว่าถูกตีเหรอ เจ็บตรงไหนบ้างให้พี่ดูสิ " ความกังวลที่แล่นขึ้นมาชั่วขณะ นึกกลัวไปว่าเด็กชายอาจเล่าไม่หมด และโดนลองยาไปแล้วจึงต้องขอสำรวจอีกที ใครจะรู้รอยแดงนี่อาจเป็นรอยโดนมัดกับเตียงก็เป็นได้
" ตรงนี้ฮะ พี่นาโอะอย่าแตะนะเทะซึจังเจ็บ "
นิ้วเล็ก ๆ ชี้ไปยังแผ่นหลังของตน นาโอะจึงเลิกเสื้อขึ้นดู สิ่งที่เห็นทำให้หยาดน้ำตาร่วงหล่นลงมาทันที ท่อนแขนแดงช้ำเทียบกับรอยช้ำสีม่วงอมเขียวไม่ได้เลยสักนิด เซย์จิเป็นคนตัวใหญ่ เมื่อลงมือตีเด็ก 5 ขวบตัวเล็ก ๆ จึงไม่น่าแปลกที่การตีครั้งนึงจะสัมผัสเนื้อนุ่มได้มากกว่าปกติ แต่ต้องฟาดสักกี่ครั้งถึงจะสร้างรอยกระจัดกระจายไปทั่วแบบนี้ได้กันนะ
แม้แต่ตัวนาโอะเองที่โตเต็มวัยแล้วยังไม่อาจต้านทานกำลังของเซย์จิได้ แล้วกับเทะซึโอะเล่าจะต้องรับแรงฟาดหนักหน่วงขนาดไหนกัน เพราะอย่างนี้นี่เองเด็กชายถึงได้สะอื้นไห้ด้วยท่าทางทรมานถึงเพียงนั้น
..คุณมันใจร้ายเกินไปแล้ว..
ครึ่งชั่วโมงให้หลังจากที่เด็กชายผล็อยหลับไปแล้วเซย์จิจึงกลับมา ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าห้องยังไม่ัทันได้พูดอะไร นาโอะที่นั่งมองเด็กชายตัวน้อยหลับสนิทอยู่ก็ลุกขึ้นมาสาวเท้าเข้าหาประชิดตัว โดยที่เจ้าของบ้านไม่ทันได้ตั้งตัว จากนั้นกำปั้นหลุน ๆ จึงพุ่งตรงมา ความสูงที่แตกต่างกันทำให้เป้าหมายคลาดเคลื่อนไปเป็นแนวคางได้รูปแทน แต่ก็ทำให้ผู้ถูกโจมตีถึงกับเซถอยหลังไปได้เหมือนกัน นาโอะไม่เคยทำร้ายใครมาก่อนแต่ขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว หากไม่ได้ต่อยเซย์จิให้หายแค้นเขาคงทนไม่ไหว
" นี่สำหรับที่คุณตีเทะซึโอะ "
แววตาเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแม้จะลองยกเรื่องเทะซึโอะมาขู่สักแค่ไหนก็ตาม ทำให้ต้องชะงักไป วินาทีถัดมาจึงค่อยเปลี่ยนเป็นความหงุดหงิด ที่แม้แต่นาโอะผู้ัว่าง่ายมาตลอดยังหันเขี้ยวเล็บเข้าหา
..วันนี้มันวันซวยแห่งปีเหรอไง..
" กล้าดีนี่ "
" กล้าตั้งแต่วินาทีที่รู้ว่าุคุณทำอะไรเทะซึโอะนั่นแหละ "
เสียงหวานกล่าวอย่างไม่เกรงกลัวอีกต่อไป
" ฉันจะทำอะไรเด็กนั่นก็เรื่องของฉัน อย่าลืมสิว่าเป้าหมายที่พาผลการทดลองกลับมาคืออะไร หรือนายอยากจะลองกลับไปองค์กรลับด้วยอีกคนล่ะ"
"..อึก.."
ปฏิกิริยานิ่งเงียบกับดวงตาที่สั่นไหวทำให้เซย์จิกล่าวต่ออย่างย่ามใจ ความขุ่นมัวในใจตลอดทั้งวันเริ่มจางหายไปเมื่อได้เห็นท่าทางเหมือนคนไร้ทางสู้ของนาโอะ
" ถึงนายจะโดนยามาเยอะ ก็น่าจะมีนักวิทยาศาสตร์สักคนรับเข้าไปร่วมโปรเจคแหละไม่ต้องเป็นห่วงไป แต่ร่างกายอย่างนายให้ใช้เป็นหนูลองยาปลุกเซ็กน่าจะเข้าท่าที่สุดนะ ว่าไงล่ะหมายเลข 23 "
ความหวาดกลัวที่ฝังใจในอดีตไม่อาจทำให้นาโอะหวาดผวาได้ ในตอนนี้มีเพียงเทะซึโอะเท่านั้นที่สำคัญ แม้จะวางใจได้ระยะหนึ่งว่าตราบใดที่เซย์จิยังให้เทะซึโอะอยู่ในบ้านหลังนี้เด็กชายจะปลอดภัย แต่ไม่มีสิ่งใดรับประกันได้ว่าคนผู้นี้จะส่งผลการทดลองไปองค์กรเมื่อใด หากเวลานั้นมาถึงจริงนาโอะผู้ถูกกดอยู่ใต้อาณัติคงไม่อาจยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือได้เลย
ถ้าเซย์จินำตัวเด็กชายไปทดลองจริง คงมีแต่ต้องกลั้นใจตายด้วยไม่อาจทนรับได้เป็นแน่แท้
ความคิดต่ำช้าของเจ้าของบ้านหลังงามทำให้นาโอะรู้สึกขนลุกเกรียวด้วยความรังเกียจ
สนุกมากมั้ยที่เอาเด็กมาขู่ผมได้ สะใจคุณหรือยังล่ะ ?
ผมเกลียดคนไม่มีหัวใจอย่างคุณที่สุด
โค้ดลับที่ใช้เรียกเฉพาะในองค์กรเป็นดั่งโซ่ตรวนผูกมัดให้ไม่อาจต้านทานได้
กระนั้นนาโอะก็เฝ้าภาวนาขอให้ตรวนเหล่านั้นช่วยพันธนาการคนใจทรามไว้บ้าง
ให้ต้องเจ็บปวดเสียใจเหมือนที่ทำกับผู้อื่นไว้
..ผมจะทำอะไรคนอย่างคุณได้บ้าง ?..
TBC
ตอบเม้นค่า~
Phelyra => อ่านตอนนี้แล้วจะกลับมาเกลียดเซย์จิเหมือนเิดิมมั้ยคะเนี่ย //เหงื่อตก
pattybluet => เอ่อ..เทะซึจังอาละวาดแล้วค่ะ แต่เซย์จิคงทำตัวไม่ตรงกับที่ต้องการเท่าไหร่ โมโหจนตีเทะซึจังไปแล้วน่ะค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ!
Tifa => รักกันสิค้าา เราไม่ชอบนิยายที่จบเศร้าน่ะค่ะ ที่จริงอยากเขียนให้ถึงฉากนั้นเร็วๆจะแย่อยู่แล้วค่ะ ORZ
hpsky => สรุปแล้วเซย์จิปากแข็งสินะคะ
JJHJJH => ไดยะน่าสงสัยเสมอแหละค่ะ~
BeeRY => เป็นคนขี้โมโหตีเทะซึจังค่ะ สัญญาว่าจะไม่ให้ตีอีกแล้วค่ะถ้าไม่จำเป็น TwT ขอบคุณสำหรับเม้นเช่นกันค่ะ
dahlia => คงจะเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ ^^
anajulia => ก็เค้ามีกันแค่สองคนนี่คะ~
White => ฮ่าๆ นั่นสินะคะ ใจร้ายมาก
BOOM_LOVE => พูดว่าอะไรเหรอค้าาา XD
vvivy => อ่านแล้วตกใจเหรอคะ =A=!
CipheR => มาต่อแล้วค่ะ
ANUNTAYA => จะให้นาโอะแก้แค้นบ้างสินะคะ..
Laxxeez => เราว่าทั้งสองอย่างรวมกันค่ะ~!!
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นค่า >.<