รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักคือ... รัก >>> ส่งข่าว  (อ่าน 537263 ครั้ง)

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
กรรมวางแผนจีบผู้ชาย แต่หารู้ไม่ เขากำลังจะจีบตัวเองตะหาก 555

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
สองคนนี้ใจตรงกัน แต่มีหวัง จีบพร้อมๆกันได้เขินกันเอง งงกันเอง แหงๆๆ คิกคิก

ว่าแต่ ไอ่หนังสืิ ชาย พิชิตใจชายเนี่ย น่าสนใจนะ ....คึคึ

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
รอลุ้นล่ะว่าจะพิชิตใจชายได้มั๊ยแล้วต้องทำงัยมั่ง

Chocorun

  • บุคคลทั่วไป
เดินเข้าไปบอกเลย

"พี่ครับเป็นแฟนผมนะ"

 :z6:

^
^
พี่กันต์เข้าไม่ทำไรหรอก มั้ง???


ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
ตอนที่ 8 เข้าทาง

เช้าของวันทำงานกับการจราจรที่ติดขัดแบบนี้เป็นเรื่องที่แยกจากกันไม่เคยออก และมันก็เป็นเรื่องปกติที่คนในเมืองอย่างผมจะต้องเจอ โดยเฉพาะวันแรกของสัปดาห์แบบนี้รถยิ่งติดมากกว่าวันอื่นๆ ถึงออฟฟิศจะอยู่ไม่ไกลจากคอนโดฯ แต่ก็ยังใช้เวลาในการขับรถไม่ต่ำกว่าสี่สิบนาที แต่ช่วงเวลาที่อยู่บนรถติดๆ แบบนี้ มักจะเป็นเวลาที่ทำให้ผมคิดอะไรใหม่ๆ ได้เสมอไม่แพ้เวลาที่ผมยืนอยู่ที่ระเบียง  เพราะมันเป็นเวลาที่ผมได้สังเกต และมองเห็นสิ่งที่อยู่รอบตัว

แล้วตอนนี้ผมก็ได้ไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมาแล้ว เดี๋ยวตอนเช้าเข้าไปหาข้อมูลอะไรอีกนิดหน่อย น่าจะสรุปได้ทันเอาเข้าที่ประชุมช่วงบ่ายของวันนี้

ปกติช่วงวันจันทร์ถึงวันพุธในสัปดาห์แรกของเดือนผมจะมีประชุมเพื่อฟังการสรุปงานของส่วนต่างๆ โดยวันจันทร์ผมจะประชุมกับทีมงานในส่วนที่ดูแลนิตยสารที่ออฟฟิศที่ผมกำลังจะไป ส่วนวันอังคารและวันพุธผมจะเข้าไปประชุมกับส่วนของโรงพิมพ์และสำนักพิมพ์ที่โรงพิมพ์แถวบางนา

กิจการของครอบครัวผมเริ่มมาตั้งแต่สมัยของคุณปู่ตอนนั้นมีเฉพาะโรงพิมพ์ รับพิมพ์งานทั่วไป ต่อมารุ่นคุณพ่อก็เพิ่มในส่วนของสำนักพิมพ์ และจนปัจจุบันมาถึงผมที่รับช่วงต่อก็เพิ่มในส่วนของนิตยสาร โดยผมคิดรูปแบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมดไม่ได้ซื้อหัวหนังสือจากต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้ยังมีเพียงหัวเดียวคือ “INDEED” ที่เปิดตัวและวางแผนไปเมื่อตอนต้นปี และก็ได้รับการตอบรับดีกว่าที่คาดไว้มากทีเดียว

.............................................................

ตอนนี้ผมมาถึงออฟฟิศแล้ว และกำลังเริ่มต้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่ผมเพิ่งคิดขึ้นมาได้เพื่อที่จะสรุปให้ทันเอาเข้าที่ประชุมในช่วงบ่าย
.
.
.
หลังจากฟังสรุปยอดขาย และผลตอบรับโดยรวมของนิตยสารตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา ก็มาถึงช่วงที่ผมจะพูดถึงเรื่องที่ผมเพิ่งคิดไว้เมื่อเช้า

“ตอนนี้ผมมีแผนว่าจะเพิ่มคอลัมน์อีกหนึ่งคอลัมน์”  

“แล้วคอลัมน์ที่จะเพิ่มเข้ามาจะนำเสนอเกี่ยวกับอะไรคะ” เสียงของแอมที่เป็นบรรณาธิการ

“ผมตั้งใจว่าจะนำเสนอเรื่องของงานดีไซน์ที่มีลักษณะเฉพาะหรือแสดงถึงบุคลิกของคนออกแบบ ที่กำลังได้รับความสนใจ ซึ่งในคอลัมน์นี้เราก็จะแบ่งการนำเสนอออกเป็นสองส่วน โดยส่วนแรกเป็นชิ้นงานที่ออกแบบโดยนักออกแบบที่มีชื่อเสียงหรือเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว และส่วนที่สองผมอยากเปิดโอกาสให้นักออกแบบหน้าใหม่นำเสนอผลงาน โดยเราจะเป็นผู้เลือกชิ้นงานที่น่าสนใจมาลง แล้วผมก็คิดเอาไว้ว่าจะให้เจ้าของผลงานเป็นคนวางรูปแบบการนำเสนอเองเพราะฉะนั้นแต่ละเดือนก็จะมีแนวทางที่แตกต่างกันไป”

“แล้วเน้นงานดีไซน์หรืองานออกแบบทางด้านไหนที่เฉพาะเจาะจงหรือเปล่าครับ” เสียงของต้นหัวหน้าทีมที่ดูแลเรื่องข้อมูลที่นำมาลงในแต่ละคอลัมน์  

“ผมจะไม่จำกัดว่าเป็นชิ้นงานแบบไหน จะเป็นของใช้ เสื้อผ้า งานกราฟฟิคดีไซน์รูปแบบใหม่ๆ หรืออะไรก็ได้ แม้แต่ของเล่นก็ยังได้ แต่ดูแล้วเป็นงานที่ดูแล้วมีเอกลักษณ์ มันอาจจะฟังแล้วเข้าใจยากในตอนนี้ แต่เดี๋ยวผมจะหาตัวอย่างมาให้ดูกันก่อน”

“แล้วทีมไหนจะรับผิดชอบคอลัมน์นี้คะ” แอมถามขึ้น

“ให้ทีมของพีทแล้วกัน แค่หาผลงานที่จะมาลงแล้วก็ติดต่อเจ้าของ ส่วนการจัดวางรูปแบบคอลัมน์ผมตั้งใจให้เจ้าของผลงานเป็นผู้ดูแลเองถ้าเป็นไปได้ คล้ายๆ กับเราจ้างฟรีแลนซ์มาทำเป็นงานๆ ไปนั่นแหละ ให้เขากำหนดรูปแบบเอง เพื่อจะได้รูปแบบที่เฉพาะตัวจริงๆ ผมขอให้คุณบีดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย”

“แล้วจะลงคอลัมน์นี้เมื่อไหร่คะ”

“เดือนหน้านี้เลย ส่วนผลงานที่จะเอามาลงผมก็คิดเอาไว้แล้ว เรื่องของความคืบหน้า ผมจะนัดประชุมกันอีกครั้งในวันจันทร์หน้า ไม่ทราบว่าใครมีข้อสงสัยอะไรหรือเปล่า” หลังจากนั้นก็คุยเรื่องรายละเอียดเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย เพื่อให้เข้าใจตรงกันจริงๆ  
.
.
.
“............”

“ถ้าพอเข้าใจกันแล้ว ผมขอปิดการประชุมไว้เท่านี้ ขอบคุณทุกคนมากนะครับ”  

.............................................................

นี่แหละครับเรื่องที่ผมคิดได้เมื่อเช้า พอดีจังหวะที่รถติดหันไปเจอป้ายโปสเตอร์โปรโมทอัลบั้มของนักร้องคนนึงที่แปะอยู่หน้าร้านขายซีดี ผมว่าคนออกแบบเขาออกมาทำได้น่าสนใจดี เลยคิดเรื่องคอลัมน์ใหม่ขึ้นมาได้

ส่วนเรื่องที่ผมบอกว่า ผมคิดเรื่องผลงานที่จะเอามาลงไว้แล้ว อันที่จริงก็ยังไม่ได้คิดเป็นเรื่องเป็นราวหรอก แค่คิดไว้ว่าจะเป็นผลงานของใครมากกว่าแล้วงานนี้ผมคงต้องพึ่งไอ้อาร์มันหน่อยล่ะ ว่าแล้วก็โทรไปหามันเลย
.
.
.
“ตื๊ด... ตื๊ด...”

“ดีครับพี่”

“ช่วงนี้พอมีเวลาบ้างหรือเปล่า พอดีพี่มีอะไรจะให้อาร์ช่วยหน่อย”

“ได้เลยพี่ ว่ามาได้เลยจะให้ผมช่วยอะไร”

“พี่จะทำคอลัมน์ใหม่ลงหนังสือ เป็นคอลัมน์ที่นำเสนอเรื่องงานออกแบบ พี่เลยตั้งใจว่าจะเปิดคอลัมน์ด้วยงานออกแบบสถานที่ กะว่าจะเอาร้านของมึงมาลงด้วย เดี๋ยวรายละเอียดพี่จะเข้าไปคุยด้วยอีกที” ผมเล่าเรื่องให้อาร์มันฟังคร่าวๆ ก่อน ร้านนี้ไอ้อาร์มันออกแบบเองถือเป็นผลงานของมันจริงๆ แล้วมันก็ทำออกมาดีทีเดียว ไม่เสียแรงที่จบสถาปัตย์กันมา ส่วนผมเองก็ไม่ได้ทิ้งที่เรียนมาไปซะทีเดียว ผมว่ามันก็ได้เอามาประยุกต์ใช้อยู่บ่อยๆ กับหนังสือของผมนี่ล่ะ

“จะเอาจริงหรอพี่” มันถามแบบไม่ค่อยแน่ใจ

“ก็เออสิวะ เดี๋ยวเย็นนี้พี่จะเข้าไปคุยด้วยที่ร้าน”

“ครับ แล้วเจอกันพี่”    
 
.............................................................
………………………………
……………….

ผมออกจากออฟฟิสก่อนเวลาเลิกงานประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อจะได้ไปดูร้านของไอ้อาร์มันตอนที่ยังพอมีแดดอยู่ พอไปถึงก็เดินดูรอบๆ ร้าน แล้วผมก็คิดว่าผมตัดสินใจเลือกไม่ผิด หลังจากนั้นก็เข้าไปนั่งคุยกันถึงรายละเอียดตามที่ผมอยากได้ ว่าอยากให้คอลัมน์นี้ออกมาเป็นแบบไหน จุดของการนำเสนอคืออะไร ส่วนผลงานของนักออกแบบที่มีชื่ออยู่แล้วจะเป็นใคร ซึ่งผมก็มีอยู่แล้วในใจเหมือนกัน และสุดท้ายก็ในส่วนของไอ้อาร์ว่ามันต้องทำอะไรบ้าง
.
.
.
“ถ้าเป็นเรื่องร้านไม่มีปัญหาเลยพี่ ส่วนเรื่องวางรูปแบบการนำเสนอผมว่า เดี๋ยวผมขอให้ไอ้เดย์กับเพื่อนมาช่วยดีกว่า พวกมันเรียนกราฟฟิคดีไซน์ น่าจะทำออกมาได้น่าสนใจ แต่แนวทางหลักๆ ผมคงคิดเอง”

“ก็แล้วแต่มึง เออ งานนี่พี่มีค่าเหนื่อยให้ด้วย”

“ไม่ต้องก็ได้พี่ จริงๆ แล้วมันเหมือนพี่ช่วยโปรโมทร้านไปด้วย ผมต้องขอบคุณพี่มากกว่า”

“เฮ้ย ไม่เป็นไร มันก็เหมือนมึงมาทำงานให้พี่”

“เออ... ครับ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมรีบคุยกับไอ้เดย์แล้วก็เพื่อนมันเลยให้เลยดีกว่าพี่ โดยเฉพาะกร รายนั้นไอเดียกับฝีมือดีเลยพี่ ผมเคยเห็นงานที่มันทำมาบ้าง”

“ถ้างานมันออกมาดีจริง ครั้งต่อไปพี่จะได้เอามาลงในคอลัมน์” พอผมได้ยินชื่อของกร ก็รู้สึกเหมือนว่าอะไรๆ มันจะเข้าทางผมนะเนี่ย

“แล้วพี่อยากเข้ามาคุยกับพวกมันเองด้วยหรือเปล่า ผมได้บอกพวกมัน”

“ก็ดีเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นมึงก็ไปตกลงกับพวกน้องมันก่อน ได้เรื่องยังไงก็โทรไปบอกพี่อีกที แล้วค่อยนัดคุยกัน”

“ครับพี่ เดี๋ยวผมรีบจัดการให้”

“ขอบใจมึงมากว่ะ เดี๋ยวพี่กลับเลยแล้วกัน”

“ไม่ดื่มอะไรหน่อยหรอพี่”

“ไม่ดีกว่าว่ะ พรุ่งนี้ประชุม”

“ครับๆ”

ออกจากร้านของไอ้อาร์มันแล้วก็ตรงกลับคอนโดฯ เลย เผื่อถึงเร็วจะได้ไปว่ายน้ำออกกำลังกายเสียหน่อย   ช่วงที่ขับรถไปก็ยังคงคิดเรื่องงานอยู่บ้าง เพราะไม่มั่นใจว่ามันจะออกมาอย่างที่คิดไว้หรือเปล่า ผมเองก็ยอมรับเหมือนกันว่าตัดสินใจและลงมือทำค่อนข้างเร็ว คิดแล้วลงมือทำเลยแบบนี้ มันก็ทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ตอนนี้ผมเริ่มมองเห็นแล้วว่ามันมีข้อดีมากกว่า

ผมคิดแล้วว่าจะลองเปิดโอกาสให้อีกคน มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายนะผมว่า ถึงเขาจะเป็นผู้ชายเหมือนผมก็เถอะ แต่บางครั้งคนเรามันก็เลือกไม่ได้หรอกว่า ในชีวิตจะได้พบเจอกับอะไรหรือใครบ้าง แต่เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้สิ่งนั้นหรือคนนั้นเข้ามาในชีวิตเราได้หรือไม่ ส่วนเข้ามาแล้วจะอยู่ในชีวิตของเราไปได้นานแค่ไหนมันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ผมเองก็ไม่เคยคิดนะว่าจะมีวันหนึ่งที่ผมเกิดความรู้สึกดีๆ กับผู้ชายคนหนึ่งตั้งแต่ผมได้พบเขาครั้งแรก เขาถึงว่ากันว่า ชีวิตคนเรามักจะมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นอยู่เสมอ แล้วผมก็เป็นคนที่ไม่ชอบปิดโอกาสทั้งของตัวเองและของคนอื่น เพราะฉะนั้นมันคงไม่แปลกอะไรที่ครั้งนี้ผมจะเปิดรับอีกคนเข้ามา


บางทีผมอาจะเจอคำตอบก็ได้ว่า “อะไรคือสิ่งที่ผมกำลังตามหา”


แล้วในเมื่อผมเลือกที่จะเปิดโอกาสนั้นให้กับตัวเองและอีกคนแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะรออยู่เฉยๆ แล้วให้อีกฝ่ายเข้ามาหาหรอกนะ มันไม่ใช่ผมแน่นอน ผมชอบที่จะคว้าโอกาสที่มองเห็นและใช้มันให้เป็นประโยชน์เสมอ ยิ่งรู้ว่าเขาเองก็ชอบผมอยู่แล้วมันคงไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะได้รู้จักกันมากกว่านี้

ถ้าผมรอให้เขาเข้ามา ผมว่าผมคงต้องรออีกนาน ป่านนี้อาจจะกำลังคิดอยู่ล่ะมั้งว่าจะเข้ามาหาผมด้วยวิธีไหน หึหึ รู้เขารู้เราแบบนี้ รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง


แล้วเริ่มก่อนมันมักจะได้เปรียบเสมอ


-----------------------------------------------------
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2010 10:27:22 โดย Angel_K »

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เข้าทางจริงๆด้วย พี่กันต์มาเหนือเมฆสุดๆ ฉลาดอย่างนี้น้องกรจะตามทันม้ายยยยยยยย :m3:

ขอบคุณไรท์เตอร์มากนะคะ ^o^

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
ไม่เฉพาะโอกาสและโชคที่ผลักดันแต่ความต้องชะตาและความชอบก็ดึงเข้าหากัน แบบนี้ยิ่งต้องลุ้นกันล่ะ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
หุหุ...ไม่ค่อยเลยอ่ะ แบบว่าพี่แกมั่นใจเต็มร้อยว่าน้องกรก็กะรุกจีบพี่แกเหมือนกันแน่ๆๆ ...อยากรู้แล้วสิว่าทางน้องกรจะเป็นยังไง เพราะทางนี้ดูมันเข้าที่เข้าทางแล้วอ่ะ

vvivy

  • บุคคลทั่วไป
เข้าทางจริงๆด้วย o18

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
อือหึ พี่กันต์สุดยอดชอบนายเอกฉลาดๆ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Chocorun

  • บุคคลทั่วไป
กรไม่ต้องคิดเยอะแล้ว ตอนนี้อะไรๆ ก็เข้าทางพี่กันต์



ระวังนะ พี่เขายิ่งถือว่าเริ่มก่อนมันได้เปรียบอ่ะ

มัวแต่ช้าเสียเปรียบไม่รู้นะเออ อิอิ

 :o8:


ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
อีป้าแก่ๆว่า สิ่งที่น่าสนใจจริงๆ กำลังถูกขยายผลแล้วสินะค่ะ รอลุ้นต่อไปได้อีกค่ะ 555

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
ตอนที่ 9 คำถามที่ไม่มีคำตอบ

เช้าวันนี้ผมตื่นขึ้นมาเช้ากว่าทุกวัน ผมตื่นขึ้นมาพร้อมฝันร้าย ฝันที่ตามติดอยู่กับผมแม้เวลาจะผ่านเลยไปเกือบสองปีแล้ว แต่เวลาสองปีนั่นก็ไม่ได้ช่วยให้ภาพและเสียงในความฝันนั้นมีทีท่าว่าจะจางหายไป ผมพยายามที่จะลืมมันให้ได้ แต่มันก็เหมือนกับว่ายิ่งผมพยายามมากเท่าไร มันยิ่งกลับทำให้ผมจำมันได้มากขึ้นเท่านั้น


ผมคงได้แต่หวังว่าสักวันผมคงจะลืมมันไปได้


............................................................



วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมมีเรียนเฉพาะตอนบ่าย อยู่ปีสุดท้ายแล้ววิชาที่เรียนเลยไม่เยอะหนักไปทางทำโปรเจคมากกว่า แต่วันนี้คงออกจากบ้านเร็วกว่าปกติเพราะนัดกับไอ้เดย์ไว้ตอนสิบเอ็ดโมง ตอนนี้เพิ่งเจ็ดโมงครึ่งยังเหลือเวลาอีกนานกว่าจะถึงเวลาที่ผมนัดกับไอ้เดย์ เลยกะว่าจะหาหนังดูสักเรื่อง จะให้นอนต่อก็นอนไม่หลับแล้ว ส่วนที่นัดเจอกับไอ้เดย์เพราะเมื่อคืนมันโทรมาหาผมบอกว่าพี่อาร์มีงานมาให้ผมกับมันทำ ส่วนเรื่องรายละเอียดเดี๋ยวมันจะมาบอกอีกที เลยนัดไปกินข้าวกลางวันแล้วก็คุยกันที่ร้าน(ป้า)ไข่ ร้านนี้อยู่ข้างมหาวิทยาลัยถือเป็นร้านประจำของพวกผมอีกร้านหนึ่ง เมนูของร้านนี้ก็ตามชื่อร้านเลย แทบจะเรียกได้ว่ามีทุกเมนูไข่ ก็เหมาะกับพวกผมล่ะ เน้นโปรตีน ไม่เน้นผัก
.
.
.
ขับรถออกมาจากบ้านก็เจอฝนตกระหว่างทาง ร้อนๆ แบบนี้ฝนตกบ้างก็ดีเหมือนกันช่วยคลายร้อนไปได้เยอะ แต่จะไม่ดีก็ตรงที่มันทำให้รถติด ฝนไม่ตกมันก็ติดอยู่แล้ว พอฝนตกมันก็ยิ่งติดหนักเข้าไปอีก  ผมใช้เวลาขับรถมากกว่าปกติไปเกือบครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงที่ร้าน พอเข้ามาในร้านก็ยังไม่เห็นไอ้เดย์ท่าทางคงจะเจอรถติดเหมือนกัน เลยนั่งรอมันก่อน เดี๋ยวมันมาค่อยสั่งข้าวมากินพร้อมกัน นั่งรอสักสิบนาทีมันก็มา

“เฮ้ย!! มึงมาถึงนานยัง” ไอ้เดย์ทักผมก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

“สิบนาที”

“มึงสั่งอะไรไปยัง”

“ยังว่ะ รอมึงมาแล้วก็จะสั่งนี่ล่ะ”

“เออๆ แล้วมึงจะกินอะไร” มันถาม พร้อมกับหยิบกระดาษและดินสอที่ใส่กล่องวางไว้บนโต๊ะมาเตรียมจด

“ข้าวผัดแกงเขียวหวานห่อไข่” มันก็จดตามที่ผมสั่ง แล้วก็ต่อด้วยของมัน

“แล้วเรื่องงานที่มึงบอกว่าจะมาคุยกับกูนี่ตกลงว่างานอะไร แล้วต้องทำอะไรมั่งวะ” ผมถาม จากนั้นมันก็เล่ารายละเอียดให้ผมฟังคร่าวๆ ก็พอเข้าใจแล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง มันบอกว่าเดี๋ยวยังไงค่อยเข้าไปคุยกับพี่อาร์แล้วก็พี่ที่เป็นเจ้าของหนังสืออีกทีวันศุกร์ นั่งคุยกันไปสักพักข้าวที่สั่งก็มา เลยหยุดคุยแล้วจัดการกับอาหารตรงหน้ากันก่อน อิ่มแล้วค่อยคุยกันต่อ  
.
.
.
“แล้วตกลงว่างานนี้มันของหนังสือเล่มไหนว่ะ ตกลงมึงจะบอกกูได้หรือยัง ลีลานักนะมึง หรือต้องให้กูลุกขึ้นไปถีบมึงก่อนมึงถึงจะตอบกูได้” ผมเริ่มหงุดหงิดกับลีลาของมันแล้ว ก็รู้แล้วว่าทำคอลัมน์ลงหนังสือ แต่พอถามว่าลงเล่มไหนมันก็ลีลาอยู่นั่น เดี๋ยวไอ้นี่มันคงโดนผมถีบเข้าจนได้  

“หนังสือที่มึงอ่านประจำ” มันพูดแค่นั้นแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ พร้อมกับยักคิ้วข้างนึงและส่งสายตาแบบกวนๆ มาให้ผมชักอยากจะลุกขึ้นไปถีบมันจริงๆ แล้วตอนนี้ มันจะลีลาอะไรของมันนักวะ

แต่เมื่อกี้มันบอกอะไรนะ “หนังสือที่ผมอ่านประจำ” งั้นหรอ??
 


“…INDEED…เฮ้ย!! จริงหรอวะ” ตอนนี้ไม่รู้จะพูดอะไร กำลังอึ่งๆ อยู่ เพราะหนังสือเล่มนี้ผมก็อ่านประจำอย่างที่ไอ้เดย์มันบอกนั่นแหละ อ่านมาตั้งแต่เล่มแรก ตอนผ่านร้านหนังสือเห็นปกมันอาร์ทๆ แนวๆ ดี เลยลองซื้อมาอ่าน หลังจากนั้นก็ตามอ่านมาเรื่อยๆ ที่จริงก็อ่านกันทั้งกลุ่ม พอผมซื้อมาแล้วมันก็เอาไปอ่าน มันบอกไหนๆ ผมก็ซื้อมาแล้ว อ่านกันหลายๆ คนจะได้คุ้ม

“แล้วเขาจะให้กูกับมึงทำจริงหรอวะ” ผมถามไม่มั่นใจเท่าไร เพราะไม่รู้ว่าเจ้าของเขาคิดยังไงถึงมาให้มือใหม่อย่างพวกผมทำงานนี้ แถมเป็นครั้งแรกที่เปิดคอลัมน์นี้ด้วย ถึงไอ้เดย์มันจะบอกว่าพี่อาร์เป็นคนแนะนำพวกผมเองก็เถอะ  

“มึงนี่จะอะไรนักวะ กูจะโกหกมึงเผื่อ เดี๋ยวศุกร์นี้มึงก็ไปถามพี่เขาเองแล้วกัน พี่เขาคงหลอกมึงเล่นว่ะ”
 
“แล้ว...”

“มึงไม่ต้องถามอะไรกูแล้ว พี่กูก็ยังไม่ได้เล่าอะไรมาก มันบอกรอมึงมาคุยพร้อมกันทีเดียว แต่กูว่าตอนนี้มึงกับกูไปเรียนก่อนเหอะว่ะ”

“เออๆ ก็ได้ว่ะ”

.............................................................
………………………………
……………….

ช่วงบ่ายของวันศุกร์ผมก็เข้าไปคุยเรื่องงานที่ร้านของพี่อาร์ เข้าไปถึงร้านก็นั่งคุยกับพี่อาร์แล้วก็ไอ้เดย์มันก่อน ส่วนพี่อีกคนยังไม่มา พี่อาร์ก็เล่ารายละเอียดให้ฟังอีกครั้งแล้วก็บอกว่าพี่เขาอยากให้งานประมาณไหน ระหว่างที่นั่งคุยกัน พี่อาร์ก็เอ่ยทักคนที่เดินมาจากทางด้านหลังของผม ส่วนไอ้เดย์มันก็ยกมือไหว้

“ดีพี่ นั่งก่อนๆ”

ตอนนี้ผมก็หันไปมองคนที่มาใหม่ “พี่กันต์” ผมพูดชื่อพี่เขาออกไป พี่เขาก็พยักหน้าให้ แล้วก็นั่งลงข้างผม ตกลงว่าเจ้าของหนังสือเล่มนี้คือ พี่กันต์


หลังจากนั้นก็คุยกันเรื่องงาน แล้วก็พากันเดินดูรอบๆ ร้านเพื่อเลือกว่าจะถ่ายรูปมุมไหนไปลงในคอลัมน์บ้าง ตกลงกันเรียบร้อยก็พากันเดินออกมาที่ลานจอดรถ พอคุยเสร็จแล้วจะได้แยกย้ายกันกลับเลย ระหว่างที่เดินดูไปรอบๆ ร้าน สายตาของผมก็ไม่ได้มองไปตามที่พี่เขาพูดเขาบอกแล้วว่ามุมไหนอะไรยังไง ได้แต่มองอยู่ที่คนพูด จนมาสรุปว่าพี่กันต์จะให้ทีมงานมาถ่ายรูปให้วันจันทร์ แล้วจะส่งรูปให้พวกผมวันพุธ พวกผมก็จะมีเวลาทำงานอีกประมาณสามถึงสี่วันก่อนที่พี่เขาจะนัดส่งงาน  


“ส่วนเดย์กับกรถ้าอยากได้อะไรเพิ่ม อย่างพวกโปรแกรมก็บอกพี่ได้ไม่ต้องเกรงใจ หรือจะลองเข้าไปทำที่ออฟฟิสพี่ก็ยังได้”
พี่เขาเสนอมาขนาดนี้ ผมก็ควรจะรับไว้ใช่ไหมแบบนี้

“ขอบคุณครับพี่ แล้วเดี๋ยวยังไงผมจะรีบทำมาให้ดูก่อน เผื่อพวกพี่จะให้เพิ่มเติมหรือแก้ตรงจุดไหน” จริงๆ ก็เริ่มเนียนแล้ว ไหนๆ ก็ไหนๆ ขอใช้เรื่องงานมาเจอพี่เขาบ่อยๆ แล้วกัน

“อืม... ถ้าเสร็จแล้วก็โทรบอกพี่ก็ได้ แล้วนี่กรจะกลับบ้านเลยรึเปล่า” พี่กันต์หันมาถามผม

“ครับพี่”

“พี่จะขอติดรถไปลงแถวนั้นด้วย”

“ถ้าพี่จะกลับคอนโดฯ เดี๋ยวผมเข้าไปส่งก็ได้ครับ” ยินดีให้บริการล่ะงานนี้ เอาวะเข้าใกล้มันไปทีละนิดแบบนี้แล้วกัน

“อืม... พี่กลับก่อนนะ ถ้ามีอะไรก็โทรมา” พี่เขาพยักหน้าตกลง แล้วก็หันไปพูดกับพี่อาร์แล้วก็เดย์

.............................................................


ออกมาจากร้านก็เกือบหกโมงเย็น ฝนก็ทำท่าว่าจะตกอีกแล้ว ฟ้าครึ้มแบบนี้คงตกหนัก ส่วนคนข้างๆ ผมก็ได้แต่นั่งเงียบแล้วก็หันหน้ามองออกไปนอกกระจกทางด้านข้าง ผมก็อยากชวนพี่เขาคุยนะ แต่พอเห็นพี่เขาแบบนี้แล้วก็ไม่ค่อยกล้าเท่าไร พี่เขาดูต่างจากเวลาที่อยู่กับคนเยอะๆ จนเหมือนคนละคน สุดท้ายก็ได้แต่ขับรถไปเรื่อยๆ ไม่ได้พูดอะไรออกไป จนเกือบถึงคอนโดฯ ของพี่เขา ตอนนี้ฝนก็เริ่มลงเม็ดแล้ว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคนข้างๆ ที่นั่งเงียบมาตลอดทาง


“มองอะไร”


“พี่ว่าอะไรนะครับ” เหมือนพี่เขาจะพูดอะไรขึ้นมาแต่ผมไม่ทันได้ฟัง พี่เขาพูดแต่ไม่ได้หันหน้ากลับมา  
 
“ถามว่ามองอะไร” ผมเองก็ตอบไม่ถูก จะให้ตอบออกไปยังไงล่ะ แล้วก็ไม่รู้ว่าพี่เขาถามด้วยอารมณ์แบบไหน หรือจะตอบไปตรงๆ ดี ว่ามองเพราะชอบ ถ้าตอบไม่ถูกใจจะโดนต่อยรึเปล่าวะกู ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป แต่จอดรถเข้าข้างทางแทน จอดข้างกำแพงคอนโดฯ นั่นแหละ แล้วก็หันไปมองพี่เขา


“เอ่อ...” พี่เขาก็หันกลับมามองที่ผมแล้วเหมือนกัน ซึ่งมันทำให้ระยะห่างระหว่างผมกับพี่เขาอาจจะใกล้พอที่เขาจะได้ยินเสียงหัวใจของผมที่มันเต้นดังอยู่ในตอนนี้



“..................” แล้วผมก็ไม่ทันได้ตอบอะไร เมื่อคนตรงหน้ายื่นมือมารั้งท้ายทอยของผมให้เข้าไปใกล้กว่าเดิม แล้วค่อยๆ กดริมฝีปากของเขาลงมาบนริมฝีปากของผมอย่างแผ่วเบา มันเป็นจูบที่นุ่มนวลที่สุดสำหรับผม มันบางเบาจนเหมือนกับขนนก แต่กลับทำให้ผมอยากเรียกร้องความรู้สึกนั้นกลับมากอีกครั้งอย่างคนไม่รู้จักพอ ริมฝีปากนั้นถูกถอนออกไปแล้ว มีเพียงหน้าผากของเราทั้งคู่ที่แนบไว้ด้วยกัน เราต่างนิ่งและมองตากันอยู่อย่างนั้น คล้ายกับว่าเราต่างกำลังมองหาอะไรสักอย่าง...


และเพียงเวลาไม่นานคนตรงหน้าก็เป็นฝ่ายที่เอ่ยประโยคหนึ่งออกมา แม้เสียงที่ออกมาจะเบาจนเหมือนเสียงกระซิบ แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าเขากำลังสั่งผม





“ไปหาคำตอบมาซะ”





ผมได้ยินเพียงแค่นั้น ก่อนที่คนพูดจะปล่อยมือออกจากท้ายทอยของผม แล้วเปิดประตูลงจากรถ จากนั้นก็เดินออกไปท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา

----------------------------------------------------------


แอบมาแก้ไขเล็กน้อยนะคะ  

...................

กวางขอขอบคุณทุกๆ คอมเม้นและทุกๆ กำลังใจเลยค่ะ

ยังไงก็ช่วยติดตามกันต่อไปด้วยนะคะ


:pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2010 10:28:03 โดย Angel_K »

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ปลื้มพี่กันต์ ปลื้มมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

คนเขียนคะ :กอด1:

ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
ต่างคนต่างหาจังหวะในการจีบ จะรู้ไหมนั้น
เนียนกันจริงๆ แล้วมี touch kiss กันด้วยแฮะ
ต่างคนต่างก็มีใจ สุดท้ายคือเรารักกัน

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
โห พี่กันต์ เจ๋งไปเลย  :m4:

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
กรี๊ด................ จุ๊บกันแล้ว อีป้าแก่ๆ จะรอคำตอบคะ

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ต้องหาแล้วคำต่งคำตอบ ชัดเจนซะขนาดนี้  :o8: น่ารักอ่ะ

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
การบ้านแบบนี้คำตอบง่ายๆหวังว่าคงหาได้นะคำตอบอ่ะ ใกล้จะสำเร็จแล้วหาเรื่องใกล้กันจนได้สิน่า

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
พี่กันต์รุกเร็วดี
สุดยอด

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Chocorun

  • บุคคลทั่วไป
แหมๆ พี่กันต์ รุกเร็วได้ใจจริงๆ เดี๋ยวน้องจะตามไม่ทันเอาน้า



เผลอแป๊บเดียวก็ไปจุ๊บเขาซะแล้ว


 :o8:

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
ตอนที่ 10 คำตอบ

ผมนั่งนิ่งอยู่ในรถ มีเพียงสายตาที่คอยมองตามหลังของอีกคนที่กำลังเดินห่างออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งลับสายตา ถึงแม้ว่าพี่กันต์จะลับสายตาของผมไปแล้ว ผมก็ยังคงนั่งเงียบๆ อยู่เช่นนั้นสักพัก ก่อนจะขับรถกลับบ้าน


.....................................................................

หลังจากใช้เวลาอาบน้ำอยู่สักพักใหญ่ๆ ผมก็กลับมานั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานที่อยู่มุมหนึ่งของห้องนอน ตอนอยู่ที่ร้านผมกับไอ้เดย์ตกลงกันแล้วว่าจะเริ่มงานกันคืนนี้เพราะอาทิตย์หน้าพวกผมก็มีนัดส่งงานกับอาจารย์เดี๋ยวจะทำกันไม่ทัน ส่วนไอ้เดย์มันกลับไปเอาโน้ตบุ๊คกับอุปกรณ์ของมันที่บ้านแล้วจะมาค้างที่บ้านของผม ช่วงที่ผมรอไอ้เดย์มันมา ผมก็ใช้เวลาย้อนคิดไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็น

ผมเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วยกขาพาดกับเบาะนวมตัวเตี้ยที่วางอยู่แถวนั้น ก่อนจะยกมือขึ้นแตะและลูบริมฝีปากของตัวเองไปมา


“หึหึ…” ผมยิ้มและหัวเราะกับตัวเองเบาๆ


“ยังไม่ทันจะเริ่มจีบเลย เจอแบบนั้นเข้าไป หมดท่าเลยกู... เฮ้อ!!”


ผมคิดแล้วก็ขำกับตัวเอง กว่าจะตัดสินใจได้ว่าจะเริ่มจีบพี่เขา แต่ยังไม่ทันจะเริ่มก็เจอพี่เขารุกเข้ามาก่อนแบบนี้ จะให้ไปยังไงต่อวะกู สงสัยงานนี้คงไม่ต้องเนียนมันแล้วมั้ง ปกติผมเองก็เจอคนเข้ามาหาก่อนเป็นประจำแต่ผมเองก็มักจะรู้ตัว เพิ่งมีคนนี้นี่ล่ะ ใครมันจะไปคิดว่าท่าทางนิ่งๆ เงียบๆ แบบนั้น แต่พอจะทำอะไรขึ้นมาก็เล่นเอาผมตามไม่ทัน
 

แล้วคำพูดของพี่กันต์ก็ดังขึ้นมาในความคิด
.
.
.
“มองอะไร”



“ไปหาคำตอบมาซะ”


สำหรับคำถามนั้นผมคงไม่ต้องไปหาคำตอบที่ไหนหรอก ผมมีคำตอบอยู่แล้ว เพียงแต่ผมไม่มั่นใจที่จะตอบมันออกไปในตอนนั้น เพราะบางครั้งเรื่องแย่ๆ ที่เราเคยเจอมันก็เป็นเหมือนแผลเป็นที่ติดอยู่กับตัวเราไปตลอด แม้ว่าเราจะมองไม่เห็นรอยแผลนั้นแล้ว แต่เมื่อเราคิดถึงมัน ก็เหมือนว่าความรู้สึกเจ็บในตอนนั้นมันจะกลับมาอีกครั้ง


แต่เมื่อคนที่ต้องการคำตอบทำให้ผมมั่นใจได้ว่า เขาต้องการคำตอบของผมจริงๆ ผมก็ยินดีที่จะให้คำตอบ
.
.
.
“ไว้เราเจอกันครั้งหน้านะครับพี่กันต์ พี่จะได้คำตอบนั้นจากผม”

……………………………………………..


>> แกร้ก...... <<


“เฮ้ย!! นั่งคิดอะไรอยู่วะมึง” ผมหันไปตามเสียงของไอ้เดย์ ตอนนี้มันขนข้าวขนของเข้ามาในห้องผมแล้ว มีพี่สาช่วยถือของตามขึ้นมาด้วย

“มึงจะเอาอะไรของมึงมาเยอะแยะวะ” มันเล่นขนมายังกับจะย้ายบ้าน

“ก็กูชินของกูนี่หว่า เดี๋ยวใช้ของมึงแล้วมันไม่ถนัด”

“เออๆ เรื่องเยอะได้อีกนะมึง แล้วนี่มึงกินอะไรมายัง ถ้ายังเดี๋ยวลงไปกินข้าวพร้อมกูก่อนแล้วค่อยขึ้นมาทำ” ผมถาม ส่วนมันก็กำลังจัดของของมันไป ก็เอาวางไว้ข้างๆ ของของผมนั่นล่ะ โต๊ะทำงานของผมทำเป็น Build in ยาวไปเกือบครึ่งหนึ่งของผนังห้องนอน มันเลยมีที่พอที่พวกผมจะนั่งทำงานกันได้อย่างสบายๆ

“ยังว่ะ เดี๋ยวกูขออาบน้ำก่อนแล้วกัน” มันจัดของเสร็จแล้วก็เดินไปเอาผ้าเช็ดที่อยู่ในกระเป๋าของมัน ส่วนเสื้อกับกางเกงนอนมันก็หยิบเอาจากตู้เสื้อผ้าของผม ไอ้เดย์มันมาทำงานห้องผมบ่อยจนเหมือนเป็นห้องของตัวเองไปแล้ว จนหลังๆ พวกเสื้อผ้าใส่นอนมันยังไม่ยอมเอามา เอามาก็แต่ชุดนักศึกษา

พอไอ้เดย์มันออกมาจากห้องน้ำก็ลงไปกินข้าว แล้วขึ้นมาลุยงานกัน นั่งทำกันอยู่เกือบตีสามก็เสร็จ เหลือแต่เอารูปมาลงแล้วปรับอะไรนิดหน่อยให้เรียบร้อย ตอนนี้ก็ใช้รูปที่เพิ่งถ่ายกันมาเองลงไปก่อน ส่วนรูปที่จะใช้จริงต้องรอทีมงานทางนั้นไปถ่ายแล้วส่งมาให้อีกที เดี๋ยวพรุ่งนี้ไอ้เดย์มันจะเอางานกลับไปให้พี่อาร์ดูว่าตรงตามที่พี่เขาคิดไว้รึเปล่า ถ้าพี่อาร์โอเคหลังจากได้รูปแล้ว ผมคงนัดส่งงานกับพี่กันต์เอง

………………………………………
…………………………
………………

แล้วก็ถึงเวลาที่ผมนัดส่งงานกับพี่กันต์ หลังจากได้รูปที่พี่ทีมงานส่งมาให้งานก็เสร็จเรียบร้อย ไอ้เดย์มันเอาไปให้พี่อาร์ดูก็บอกว่าพี่เขาโอเคกับงานแล้ว ผมเลยโทรไปนัดกับพี่กันต์ว่าจะเอางานไปส่ง มันคงถึงเวลาที่ผมจะต้องตอบคำถามนั้นแล้ว


เรื่องผมกับพี่กันต์ผมก็เล่าให้ไอ้เดย์มันฟัง มันเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเหมือนกันที่ผมเลือกแบบนี้ เพียงแต่ถามว่าผมมั่นใจหรือเปล่ากับสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ ซึ่งผมก็ตอบมันไปว่าผมมั่นใจแล้ว และก็บอกมันไปตามตรงเลยว่าจะขอไปคุยเรื่องงานกับพี่เขาเอง แล้วก็มีเรื่องอื่นด้วย มันก็ไม่ได้ว่าอะไร

.....................................................

วันนี้ตอนบ่ายสองพี่กันต์นัดผมไว้ที่ออฟฟิศซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดฯ ของพี่เขา ตอนที่ผมเข้าไปก็เห็นพี่กันต์นั่งดื่มกาแฟและคุยอยู่กับพี่อีกคนหนึ่งอยู่ที่โต๊ะในสวนเล็กด้านหน้า ออฟฟิศของพี่เขาเป็นโฮมออฟฟิสสีขาวสามชั้นที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี  มีสนามหญ้าโดยรอบและมีสวนหย่อมเล็กๆ อยู่ด้านหน้า บรรยากาศดีมากทีเดียว

พอพี่เขาเห็นผมก็พูดอะไรสักอย่างกับพี่คนนั้น แล้วลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะ ก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปหาพี่เขา

“สวัสดีครับ”

“อืม... เดี๋ยวเข้าไปคุยกันข้างใน” แล้วพี่กันต์ก็เดินนำผมขึ้นไปที่ห้องทำงานของพี่เขาที่อยู่บนชั้นสอง

“นั่งรอพี่ที่โต๊ะก่อน” พอเข้ามาในห้องพี่กันต์ก็ให้ผมไปนั่งที่โต๊ะกลมที่อยู่ทางด้านซ้ายของห้อง คงเป็นโต๊ะที่พี่เขาใช้คุยเรื่องงานหรือประชุมย่อย ใกล้ๆ กันมีชุดโซฟาสีขาววางอยู่ ส่วนพี่เขาเดินไปหยิบโน้ตบุ้คที่อยู่บนโต๊ะทำงาน

“คุยเรื่องงานก่อนแล้วกัน”

“ครับ”

จากนั้นผมก็เปิดงานให้พี่เขาดู พี่เขาก็พอใจกับผลงาน แต่มีจุดที่อยากให้ปรับแก้อีกนิดหน่อย ผมก็ค่อยๆ ปรับระหว่างที่คุยกับพี่เขาไปด้วย ประมาณชั่วโมงกว่างานก็เสร็จเรียบร้อย พี่กันต์ยกโน้ตบุ๊คกลับไปวางที่โต๊ะทำงานอย่างเดิม ส่วนผมลุกไปนั่งที่โซฟาที่มีขนมกับน้ำที่เลขาฯของพี่เขายกเข้ามาให้
.
.
.
แล้วก็เป็นผมที่พูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมาก่อน เมื่อพี่กันต์เดินกลับมานั่งที่โซฟาอีกตัวที่อยู่ใกล้ๆ กัน

“พี่ยังต้องการคำตอบอยู่รึเปล่า”

“คิดให้ดีๆ ก่อนแล้วค่อยตอบ” พี่กันต์ไม่ได้มองหน้าผมระหว่างที่พูด พี่เขาเอนหลังพิงโซฟา ยกมือขึ้นกอดอก แล้วหลับตา จังหวะลมหายใจเข้าออกช้าๆ เหมือนคนกำลังใช้ความคิดไปด้วย

“ถ้าผมบอกว่า ผมชอบพี่ล่ะ” พี่กันต์ลืมตาขึ้นมาแล้วหันกลับมามองผม แต่ยังคงเอนหลังพิงโซฟาแล้วกอดอกไว้เช่นเดิม

“แน่ใจแล้วหรอ...” พี่เขาพูดขึ้นมา แต่ผมก็ไม่รอจนพี่เขาพูดจบ

“ถ้าพี่จะถามว่าแน่ใจแล้วหรอที่ผมบอกว่าชอบพี่ ผมจะบอกพี่ว่าถ้าผมไม่แน่ใจวันนี้ผมคงไม่มาหาพี่ด้วยตัวเอง แต่ก่อนที่พี่จะพูดอะไรต่อไป ผมขอถามพี่ก่อนได้ไหม ว่าพี่ทำแบบนั้นทำไม”

“.......” พี่เขาหันหน้ามองออกไปทางอื่น แต่ยังไม่ตอบคำถามของผม ผมก็ได้แต่มองพี่เขาอยู่อย่างนั้น

พี่เขาเงียบไปสักพักก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตูกระจกที่เปิดออกไปที่ระเบียง แล้วหันหลังพิงประตูกระจกบานนั้นไว้ และมองมาที่ผม ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า



“มันคงเป็นเหตุผลเดียวกับที่กรมองพี่”


“แต่อย่าถามอะไรมากกว่านั้น”



แล้วพี่กันต์ก็หันกลับไปเปิดประตูประจกบานนั้นแล้วก้าวออกไปที่ระเบียงที่จัดสวนหย่อมเล็กๆ เอาไว้

---------------------------------------------------------


อาจจะค้างไปสักหน่อยแต่จะรีบมาต่อให้นะ  :monkeysad:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-05-2010 10:29:23 โดย Angel_K »

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106
ก็ต้องรอต่อไป ใช่ไหมคะ 555

vvivy

  • บุคคลทั่วไป

Chocorun

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาอ่านค่าาา



แล้วก็

 :เฮ้อ:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2010 03:14:36 โดย Chocorun »

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0

ผมก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินตามอีกคนออกไปที่ระเบียง ผมเดินไปยืนอยู่ข้างๆ พี่กันต์ พี่เขาหันมามองผมก่อนจะหันหน้ากลับไป ตอนนี้ฟ้าครึ้มไปหมดและฝนเริ่มตกลงมาปรอยๆ อีกครั้งหลังจากตกหนักไปแล้วในช่วงเช้า

“พี่ยังไม่รู้เลยว่าผมจะถามอะไร บางทีพี่อาจจะมีคำตอบอยู่แล้วก็ได้” ผมพูดก่อนจะหันไปมองคนข้างๆ แล้วยิ้มให้ เมื่อพี่เขาหันกลับมา

“พี่จะไม่ให้โอกาสผมถามเลยหรอครับ ทีพี่ยังทิ้งคำถามไว้ให้ผมได้เลย” พี่เขาจะหาว่าผมกวนรึเปล่าเนี่ย

“แล้วจะถามอะไร”

ผมยังไม่ถามคำถามนั้น แต่ผมเอือมมือไปจับต้นแขนของพี่เขาทั้งสองข้างแล้วค่อยๆ ดึงตัวให้หันมาหาผม ก่อนจะดึงพี่เขาเข้ามาทางด้านในเล็กน้อย เรายืนอยู่แค่ระเบียงชั้นสองมันคงจะไม่ดีนักถ้ามีใครมองขึ้นมาเห็น แต่พอขยับเข้ามาแบบนี้มุมมันก็น่าจะอับพอที่จะไม่มีใครเห็นอะไร แล้วมันก็เหมือนมีแรงดึงดูดที่มองไม่เห็น ค่อยๆ ดึงผมให้ก้มลงไปที่ข้างหูของพี่กันต์อย่างช้าๆ  ก่อนที่ผมจะกระซิบถามคนตรงหน้าออกไป

“ผมแค่อยากถามพี่ว่า แล้วพี่จะคบกับผมได้หรือเปล่าครับ”

“อืม...” แค่เสียงตอบรับเบาในคอเท่านั้นกลับเป็นเหมือนสิ่งที่เพิ่มแรงดึงดูดให้ผมเลื่อนริมฝีปากของตัวเองลงไปใกล้ริมฝีปากของอีกฝ่าย จากนั้นผมก็ทำแค่เพียงแตะมันลงไปเบาๆ แล้วถอนออกอย่างช้าๆ ก่อนที่ผมจะเลื่อนมือทั้งสองข้างขึ้นมาประคองใบหน้าของอีกฝ่ายไว้และกดจูบลงไปอีกครั้ง ผมไล่งับริมฝีปากล่างของอีกคนเบาๆ เหมือนเป็นการกระตุ้นให้อีกฝ่ายตอบสนอง และมันก็เป็นไปตามที่ผมตั้งใจเมื่ออีกฝ่ายเริ่มรุกไล้กลับมาบ้างอย่างไม่ยอมแพ้มือข้างหนึ่งสอดเข้ามารั้งท้ายทอยของผมไว้ ส่วนอีกข้างวางยึดอยู่ที่บ่าเพื่อประคองตัวเอง จากจูบที่หยอกเย้าในคราวแรก กลายเป็นจูบที่แทบจะหลอมลมหายใจให้เป็นหนึ่งเดียวกัน มันแทบจะไม่มีช่องวางให้เราได้หายใจ แต่ก็ยังไม่ยอมถอนปากออกจากกัน จนคล้ายกับว่าเราคือคนที่ห่างหายจากกันไปแสนนานและตามหากันจนเจออีกครั้ง

----------------------------------


เอาครึ่งหลังมาต่อแล้วน้า

จริงๆ ต้องเรียกว่าเอาอีกเสี้ยวนึงมาแปะมากกว่าเนอะ


 :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2010 10:57:14 โดย Angel_K »

ออฟไลน์ naiin

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2421
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-9
ก็ยังค้างอยูดีแหละ ให้ค้างๆนิดๆหน่อยๆก็เอาน้อคนเรา ขอบคุณที่เอามาต่อให้เสี้ยวนึงครับ

ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
เอ่อม ก็ค้าง คบกันเป็นแฟน แล้วไงต่อ รออ่านจ้า

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
พี่กันตืจะมาอึกอักอะไรเนี่ย....หึหึ  ตอบสั้นชะมัด...

มารอลุ้นหลังจากเค้าคบกันดีกว่ามันต้องมีเรื่องอะไรอีกเยอะแน่เลย

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
คิสๆกัน  :-[
กรเหมือนมีอดีตอะไรเลยเนอะ แต่ว่ากับพี่กันต์...แอร๊ยๆ :o8:
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้าา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด