=== ตอนที่ 22 ===
“นะ....นี่.......เราทำอะไรลงไป......” ทำไมผมถึงได้ไปทำเรื่องแบบนั้นกับอ้น....ผมค่อยๆลำดับเหตุการณ์ย้อนกลับไป ผมรู้สึกว่าอ้นไม่ได้ทำตัวห่างเหินกับผมไปเสียทีเดียว หลายๆ ครั้งระหว่างสอนหรือทำอะไรก็ตามในยิม ผมจะชอบรู้สึกว่ามีคนกำลังแอบมองผมอยู่ ยิ่งเวลาผมหยอกเล่นกับบีด้วยแล้ว ผมยิ่งรู้สึกบ่อยมาก ผมพบว่าแท้จริงแล้วคนที่แอบมองผมคืออ้นนั่นเอง อ้นจะชอบยืนมองอยู่ห่างๆ อย่างเงียบๆ จนผมเกือบจะไม่รู้สึกตัว บางครั้งถ้าผมรู้สึกตัวเลยมองกลับไป น้องก็จะรีบหันไปมองทางอื่นอย่างมีพิรุธ
คืนนั้นหลังจากนั่งเขียนสคริปต์เสร็จผมก็เข้านอนไปอย่างกังวลใจหน่อยๆ เพราะการที่ไปทำแบบนี้มันไม่ดีกับตัวผมเองเท่าไหร่ แต่.....สายตาที่เศร้าสร้อยสักหน่อยดูไม่เหมาะกับวัยที่สดใสของอ้นเลย เพียงแค่การใส่ใจเล็กน้อยในวันนี้ก็เพียงพอที่ทำให้เค้าดูมีรอยยิ้มที่สดใสขึ้นมาทันที
….
“วันนี้พอแค่นี้นะครับนักศึกษา ส่วนใครยังไม่เสร็จก็เอา File แนบกับ E-Mail ส่งมาให้อาจารย์แล้วกัน” อาจารย์วิชา xyz บอกเมื่อเข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาสิบเอ็ดโมงตรง
“นักศึกษาทำความเคารพ” “สวัสดีคร๊าบบบ/ค๊า” ช่วงนี้รู้สึกเพลียๆอยากพักผ่อนแฮะ เรื่องเรียนเรื่องงานก็เยอะชะมัด คราวก่อนพาน้องๆไปแข่งมาหลายๆคนก็คงอยากพักผ่อนเหมือนกัน หลังจากเรียนวิชาสุดท้ายเสร็จผมก็โทรหารองประธาน
“ไม้” ผมกรอกเสียงลงไป
“ครับพี่” อีกฝั่งตอบกลับมา
“เดี๋ยวไงรบกวนปริ้นท์ข้อความว่า ‘งดฝึกซ้อมหนึ่งอาทิตย์’ ไปแปะหน้ายิมให้หน่อยนะ”“ได้ครับพี่”“เออ ลงวันที่ด้วยนะ แค่อาทิตย์นี้ก็พอ”“ครับพี่”“ขอบใจๆ” พึ่งพาได้จริงๆ
ผมเก็บของใส่กระเป๋าแล้วก็เดินออกไปกับเพื่อนๆ อีกสี่ห้าคนคุยกันเรื่องงานเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ ผมกลับไปเปลี่ยนชุดเสร็จก็หยิบสมุดสเก็ตช์ภาพกับดินสอสองบี ยางลบ แล้วก็กบเหลาติดมือไปด้วย แล้วก็ขับรถไปที่ยิม ตอนนี้ไม่มีใครเงียบดีผมชอบบรรยากาศแบบนี้นะ แต่จริงๆ บอกว่าชินน่าจะถูกกว่าเพราะยิมบรรยากาศเหงาๆเงียบๆแบบนี้มันก็ไม่ต่างกันกับบ้านที่ผมอยู่คนเดียวเท่าไหร่ ผมนั่งวาดรูปเล่นไปเรื่อยๆจนกระทั่งเวลาสี่โมงครึ่ง? น้องคนแรกที่มาถึงเสมอก็คือน้องบี
“พี่เอ~อ~อ~อ~” บีเรียกผมลากเสียงยาวๆตั้งแต่ประตูยิม วันนี้น้องใส่ชุดพละแฮะ ถอดรองเท้าเสร็จน้องก็เดินๆเอาของมาวางไว้ที่ชั้นแล้วมานั่งลงบนตักผม ผมสวมกอดน้องก่อนจะจูบลงไปที่หลังคอเบาๆ
“พี่ทำอะไรอยู่” พูดจบน้องก็มองไปที่สมุดสเก็ตช์ภาพที่วางอยู่บนโต๊ะ
“วาดรูป” ผมกระซิบข้างหูน้องเบาๆ
“เมื่อวานพี่ไปส่งอ้นเหรอ” “อืมม” ผมซุกลงไปที่หลังหูน้อง
“ทำไมอะ......”“ก็ป๊าอ้นไม่เห็นมารับสักที พี่อยากกลับบ้านเลยไปส่ง”“เหรอ”“บี”“ครับ”“วันนี้เรียนพละแล้วอู้เหรอ”“เง้อออ พี่รู้ได้ไง” เวลาทำเสียงไม่พอใจก็น่ารักเหมือนกันแฮะ
“อิอิ ไม่บอก” จะบอกได้ไงล่ะครับ ว่าผมจูบลงไปที่ซอกคอน้องเผลอเอาปลายลิ้นออกมาด้วยแล้วตอนลิ้นโดนโดนผิวน้องไม่รู้สึกถึงความเค็มเลย บางทีที่ซ้อมเทควันโดผมไปซุกแล้วเผลอเอาลิ้นออกมาด้วยยังเค็มกว่านี้อีก อิอิ แล้วผมก็ซุกหลังคอน้องอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะจูงมือน้องไปร้านสะดวกซื้อใกล้ๆตอนเดินผ่านร้านขายไก่ บีหันไปแลบลิ้นใส่แม่ค้าขายไก่ด้วย แม่ค้าเห็นเข้าก็ทำหน้าเบ้ใส่คืน แล้วบีก็หัวเราะถูกใจ แม่ค้าเองก็ยิ้มออกมาเหมือนกัน
“ติ๊งงง ติ่งงงงงง”“สวัสดีค่ะ” บีรู้หน้าที่ ผมยืนรอที่เคาเตอร์ส่วนบีก็เดินไปหยิบน้ำ ระหว่างรอผมเห็นลูกอมยี่ห้อหนึ่งผมไม่ได้อมลูกอมนานแล้วแฮะซื้อไปอมเล่นดีกว่า หยิบน้ำเสร็จบีก็เดินกลับมา
“บี”“ครับ”“งานสมโภชฯ จัดถึงกี่ทุ่มอะ”“ดึกพี่”“เหรอ”“ทำไมครับ” บีเงยหน้ามองผม
“ห้าสิบห้าบาทค่ะ” เสียงพนักงานทวงเงิน
“พี่สังหรณ์ว่าวันนี้จะได้พามิวไปเที่ยวอะ”“จริงเหรอ ก็ดีซิครับ” บียิ้มท่าทางมีความสุข
“อืม งั้นถ้ามิวได้ไป บีโทรบอกป๊าแล้วกันว่าพี่จะไปส่งจะได้ไปด้วยกันเลย” ผมลูบหัวบีเบาๆ บีแสดงท่าทางตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันทีเลย
“ได้ๆ” จ่ายเงินเสร็จผมก็เดินกลับยิมท่าทางบีร่าเริงขึ้นเยอะแล้วเมื่อเดินผ่านรานขายไก่อีกรอบบีก็หันไปหาแม่ค้าขายไก่แล้วถามว่า
“พี่สาว รับบัตรเครดิดยัง” แม่ค้ายิ้มมุมปากทันทีผมรีบจูงบีเดินออกไปอย่างเร็ว มาถึงหน้ายิมก็เจอน้องๆหลายคนกำลังวิ่งเล่นกันวุ่นวายอยู่ในยิม บางคนผู้ปกครองก็เพิ่งมาส่ง ผมเห็นมิว ต้นกล้า แล้วก็ อ้นกำลังยืนคุยกันอยู่ตรงหน้าต่างหน้ายิม ผมเลยเดินเข้าไปหาแล้วก็พูดคุยกันตามประสา
“มิว ม๊าว่าไง”“ม๊าให้ไปพี่ แล้วให้พี่ไปส่งที่บ้าน”“ต้นกล้าอะ”“ไม่ได้....” ต้นกล้าทำเสียงสลด
“อ้นล่ะ ไปด้วยกันไหม”“ป๊าไม่ให้ไป” อ๊ะ เมื่อวานยังบอกว่ากลับบ้านเล่นเนทอยู่บ้านดีกว่า แต่สุดท้ายก็ไปขอนี่นา หึหึ เด็กน้อย ผมเลือกที่จะไม่ทักเดี๋ยวบรรยากาศพังเหมือนเมื่อวานอีก
“อืมงั้นที่ไปกับพี่ก็มี บี กับ มิวซินะ” เราคุยกันไปสักพักเรื่องทั่วไปวันนี้อ้นคุยกับบีน้อยลงแฮะ เหมือนจะถามคำตอบคำกับบีมากกว่า แต่คนอื่นอ้นก็คุยเป็นปรกติ คุยไปคุยมาผมก็หยิบลูกอมออมาจากกระเป๋า
“อะ ใครจะเอาลูกผมบ้าง ห้าเม็ดพอดีเลย” ทุกคนยกมือหมดเว้นแต่อ้นคนเดียว ผมยื่นลูกอมให้ ต้นกล้า มิว แล้วก็บี
“เหลือเม็ดหนึ่งอะ” พูดจบปั๊บบีก็คว้าลูกอมเม็ดนั้นออกไปจากมือผมทันที
“งั้นผมขอแล้วกัน เกรงใจพี่จัง”“โห...ขนาดเกรงใจนะเนี่ยะ คว้าหมั๊บเลย” ผมแซวบี
“ขนาดเกรงใจยังขนาดนี้ ถ้าไม่เกรงใจคงหยิบของพี่กับคนอื่นไปด้วยนั่นแหละ” อ้นพูดด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์หน่อยๆ
“อะ เออ เอาน่าๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย พี่ก็ซื้อมากะว่าแบ่งๆพวกเรานั่นแหละ จริงไหมมิว” ผมมองไปทางมิว
“คะ..ครับ ใช่ๆไม่เห็นเป็นไรเลย” แล้วเหตุการณ์ก็เคลียร์ไปวันนี้ดูเหมือนอ้นจะมางองแงกับผมหลายอย่างเหมือนจะอยากอ้อนให้ผมสนใจแต่ก็ไม่มากเท่ากับบี แล้วก็จะทำพฤติกรรมคล้ายๆบี คือ ชอบมาอยู่ใกล้ๆ มานั่งตัก หรือ มานั่งพิง บีเองก็ไม่พูดอะไร แล้วการฝึกซ้อมก็ดำเนินต่อไปจนถึงช่วงครึ่งหลัง พี่ป้อมพาน้องๆฝึกฟุตเวิร์คเพื่อเพิ่มความคล่องตัวที่มีความยากพอสมควร ต้องอาศัยแรง ไหวพริบ และ ทักษะ ทั้งยังต้องเตะด้วย แต่....ยังไม่ทันจะถึงห้านาทีน้องๆหลายคนก็แสดงความเหนื่อยอ่อนออกมาอย่างชัดเจน ผมซ้อมเทควันโดมาหลายปี สำหรับการฝึกแค่นี้ห้านาทีเร็วไปที่จะเหนื่อย ผมเลยดุน้องๆบางคน ไม่ได้เหนื่อยจริงๆแต่ทำเป็นเหนื่อย
“น้องครับ มาฝึกเทควันโดนะครับไม่ใช่มาฝึกรำไทยหรือโขนที่ต้องอ่อนช้อยงดงาม ทำอะไรให้มันแข็งแรงหน่อย ต่อย เตะ ออกไปเอาให้มันแข็งแรง เอาให้แบบว่าถ้าเราไปต่อยใครจริงๆหมัดเดียวเค้าหลับไปเลย โดยเฉพาะน้องผู้ชาย ทำอะไรให้มันแข็งแรงสมกับเป็นผู้ชายหน่อย แล้วถ้าใครไม่ใช่ก็บอกพี่ด้วยพี่จะได้ไม่ต้องเน้นให้*1!!” ผมพูดออกไปเสียงดังกึ่งตะคอกแสดงถึงความไม่พอใจพอสมควรน้องๆหลายคนถึงกับเครียดเลยทีเดียว แต่แล้วจู่ๆน้องบีก็ยกมือขึ้น ผมชี้นิ้วไปเป็นสัญลักษณ์ให้ลุกขึ้นพูดได้
“พี่ครับ”“ครับ”“ผมเป็นผู้ชายแท้ๆ ร้อยเปอร์เซนต์นะครับพี่” บีพูดเสร็จก็ยิ้ม หลายๆคนก็ยิ้มบรรยากาศเปลี่ยนจากที่เครียดๆกันอยู่กลับมาผ่อนคลายลงเลยทีเดียว แล้วการฝึกซ้อมก็ดำเนินต่อไปจนกระทั่งซ้อมเสร็จ น้องมิวหยิบกระเป๋าเตรียมตัวไปกับผมทันทีส่วนบีก็กำลังโทรไปเคลียร์กับคุณพ่ออยู่
“พี่ป้อม วันนี้ผมกลับเร็วนะครับ”“อ่า อืม ได้ๆ เดี๋ยวพี่ปิดยิมเอง”“พรุ่งนี้เจอกันพี่” ผมบอกลาพี่ป้อมครับ
ผมคุยกับพี่ป้อมเสร็จก็เดินไปรอที่รถ บีคุยกับป๊าเสร็จพอดีก็หยิบกระเป๋าแล้ววิ่งตามออกมา บีรีบวิ่งขึ้นมานั่งข้างหน้าอย่างรวดเร็วส่วนมิวก็นั่งข้างหลัง ผมค่อยๆออกรถไป ขณะนั้นมี ต้นกล้า กับ อ้นยืนมองอยู่ด้วยสายตาหดหู่เล็กน้อยที่ไมได้ไปด้วย ผมขับรถไปช้าๆเพราะบีเคยบอกว่าถูกลมแรงมากไม่ได้ตาจะแดง ไม่นานนักก็ถึงงานสมโภชฯ คนเยอะมากครับ ถนนเส้นนั้นตลอดแนวรถจอดกันเต็มผมเกือบนึกว่าจะหาที่จอดไม่ได้ซะแล้ว หน้างานที่ร้านอาหารที่ทั้งแจกฟรี แล้วก็ขายจัดอยู่ใกล้ๆกันโดยร้านที่แจกฟรีคนขายจะโพกผ้าสีเหลืองที่หัว ส่วนร้านที่ขายตามปรกติก็จะไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่รวมๆแล้วร้านแจกฟรีคนเยอะมาก ตรงข้ามทางเข้ามีเวทีแสดงทั่วไปอยู่ ทางซ้ายของเวลาที่แสดงไปประมาณสิบเมตรก็มีเวทีแสดงงิ้วซึ่งกำลังเล่นอยู่มีคนไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากกำลังนั่งดูอย่างสนุกสนาน
ตรงข้ามกับเวทีแสดงงิ้วก็เป็นที่สำหรับกราบไว้บูชาที่ถูกจัดคล้ายกับศาลเจ้าขนาดใหญ่ทาด้วยสีแดงมีหลังด้วยแบบเดียวกับศาลเจ้าเลย กระถางธูปวางเรียงกันพร้อมของไหว้บูชาหลายอย่างที่เด่นๆเห็นจะเป็นผลไม้ กลิ่นธูปเทียนเครื่องหอมบรรยากาศแบบศาลเจ้าลอยไปทั่วบริเวณ บีกับมิวจับมือผมไว้แน่น ผมพาน้องเดินถัดไปหน่อยก็เจอเจ้าประจำเลยครับปาลูกโป่ง โยนห่วง ปืนลม ยิงตุ๊กตา เรียงกันเป็นตับหลายร้านเลยทีเดียวแล้วก็มีเครื่องเล่นพวก ม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ บ้านเป่าลม ระหว่างที่เดินกันอยู่บีกับมิวดูจะเข้ากันได้ดีมากๆบีพามิวดูโน้นดูนี่ไปรอบงานเลย มิวเองก็ตื่นเต้นดีใจวิ่งไปมากับบีราวกับเป็นเด็ก (อ่าว ก็เด็กนี่นา ) จนไปหยุดที่ร้านปาลูกโป่งร้านหนึ่ง บียืนมองๆแล้วหันมาทำสายตาอ้อนวอน โดยไม่ต้องใช้คำพูดผมเข้าใจเลยว่าน้องกำลังหมายถึงอะไร
“ปาเป็นเหรอ” ผมเดินมาลูบหัวบีเบาๆ
“เป็นดิ เมื่อวานผมได้ตุ๊กตาตั้งหลายตัว”“ไม่อยากจะเชื่อเลย” มิวพูดเย้ยหน่อยๆ
“ลองดูไหมละ เดี๋ยวเอาตุ๊กตาให้ตัวหนึ่ง” บีหันมามายิ้ม
“อะๆ ได้ๆ” ผมให้บีเลือก บีเลือกแบบเจ็ดดอกยี่สิบบาท
“เฮ่ย บี ยี่สิบนะ เอาให้ได้” พูดจบผมก็มายืนลุ้นกับมิวอยู่ข้างๆ
“ ปั๊ง!!” ดอกแรกปาเข้าไป บีหันมายิ้ม
“ ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง” อีกสี่ดอกตามมาติดๆ บีหันมายิ้มอย่างสะใจใส่มิว
“ปั๊ง ปั๊ง” ได้อีกสองดอก บีหันมามองผมกับมิวก่อนจะเสยผมตัวเองหนึ่งที ก่อนจะปาต่อบีตั้งท่าอย่างดีหมายมั่นปั้นมือจะลบคำเย้ยหยันของมิวให้ได้ แล้วบีก็ปาออกไป.........แต่...เสียดายครับ ไม่แตก....
“อ๊ากกกกก ม๊ายยยยยยย ม๊ายยยยย” บีร้องออกมาให้ดูตลกกลบเกลื่อนความอาย ก่อนจะหันมายิ้ม
“หึหึหึ” มิวหัวเราะเบาๆ บีหันมามองผม
“พี่ขออีกรอบ” บีทำหน้าตาจริงจังมาก ราวกับนักโทษคดีร้ายแรงกำลังร้องขอความเห็นใจต่อคณะผู้พิพากษาให้เค้าได้มีโอกาสเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
“อะๆๆ ได้ๆ เอาแบบไหนอะ” ผมพูดจบบีก็เลือกเอาแบบสามดอกหกสิบบาท
“คอยดูนะแล้วปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น” บีหันมาพูดกับมิว ก่อนจะเงยหน้ามองตาผมอย่างเชื่อมั่น ก่อนจะหันไปยืนนิ่งๆมองไปที่ลูกโป่งที่เรียงรายกันอยู่ในช่องไม้ บีเอานิ้วหนีบปลายลูกดอกไว้ แล้วตั่งท่า......อะไรกันบีกะปาทีเดียวสามดอกรวดเลยเหรอ!!!
“ย๊ากกก!!!” จริงด้วยครับ บีปาออกไปทีเดียวพร้อมกันสามดอกเลย แล้วปาฏิหาริย์ที่น้องว่าจะเป็นเกิดขึ้นได้ไหมเนี่ยะ!?
“ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง!!!” เจ้าของร้าน เด็กดูแล เด็กเป่าลูกโป่ง ลูกค้าที่กำลังจะปา ร้านปาโป่งข้างๆ ร้านขายเกาลัดฝั่งตรงข้าม แม่ค้าร้านกิ๊ฟช๊อป ร้านขายของที่ระลึก หันมาเห็นปาฏิหาริย์ของน้องบีอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เพราะเสียง
“ย๊ากกก” ของบี
“แปะๆๆๆๆๆๆ” เสียงตบมือดังระงม บีเงยหน้ามองดูผลงานตัวเองลูกดอกทั้งสามปักเข้าใส่ลูกโป่งสามลูกแบบเรียงช่องเป็นเส้นตรงเลยทีเดียว
“สุดยอดเลยว่ะน้อง เจ๋งๆๆ” ลูกค้าที่กำลังจะปาถึงกับเดินมาจับมือบีด้วยความตื่นใจ
“อะ...อะ...แฮะๆๆๆ” บียิ้มด้วยความเขินอายที่มีคนชื่นชมกับตนเองมากขนาดนี้มันเกินกว่าแค่ลบคำเย้ยของมิวลงได้เสียอีก มิวเองก็อึ้ง หลังจากดีใจกันเสร็จแล้ว เจ้าของร้านก็ให้บีเลือกตุ๊กตาได้สองตัวเพราะชนะใจกรรมการจำเป็นเหล่านั่นรวมถึงเจ้าของร้านเอง บีเลือกตุ๊กตาลิตเติ้ลเดวิลสีแดงสองตัว ตอนรับมาบีกอดตุ๊กตาอย่างภูมิใจ
“เห็นป่าว ถ้าเราเชื่อมั่นอะไรก็เป็นไปได้” บีหันมาพูดกับมิว
“เออ ยอม” พูดจบมิวก็หัวเราะ
แล้วผมก็พาน้องๆเดินวนออกมาที่ลานแสดงอีกรอบเพื่อตั้งหลักว่าจะไปไหนกันต่อดีแล้วจู่ๆผมก็ได้เจอ.....
“อ่าว บีมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่” ผมมองไปตามที่มาของเสียง
“ป๊า!!” บีตะโกนทักเจ้าของเสียงไป ใช่แล้วครับ เจ้าของเสียงคือป๊าของบีนั่นเอง
“พี่บี” เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาบี แล้วดึงตุ๊กตาจากมือบีออกไปตัวหนึ่ง บีปล่อยมือให้น้องดึงออกไปอย่างง่ายดาย
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ป๊าน้องบี มิวเองก็ยกมือใหว้ตามผม
“เอ เดินดูงานทั่วหรือยัง”“ยังเลยครับ เมื่อกี้โดนไปทางที่เค้าปาลูกโป่งกัน”“ช่ายยย ป๊า เมื่อกี้บีปาทีเดียวสามดอก โดนครบสามดอกเลย เจ้าของร้านเค้าเลยให้บีมาตั้งสองตัว” บีคุยให้ป๊าฟังอย่างภูมิใจ
“จริงเหรอพี่บี” เด็กผู้หญิงที่ตามมาด้วยถามอย่างตื่นเต้น
“ช่ายยยย” บีตอบกลับไป
แล้วไม่นานก็มีเด็กๆวิ่งมากันอีกหลายคนรวมถึงผู้ใหญ่ด้วย ผมยืนมองแบบอึ้งๆเพราะวางตัวไม่ถูกไม่รู้ใครเป็นใคร แล้วป๊าของบีก็เริ่มแนะนำญาติๆให้ฟังว่าเป็นใครกันบ้าง ส่วนบีเองก็ช่วยแนะนำ ระหว่างที่แนะนำบีก็แทรกมุขตลกลงไปด้วยเลยสร้างความเป็นกันเองมากขึ้นหลังจากแนะนำกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วป๊าน้องบีก็หันมามองผมแล้วพูดว่า
“พี่เอ อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนซิ เดี๋ยวคุณแม่น้องบีก็มาแล้ว” คุณพ่อน้องบียิ้ม
“อะ...เดี๋ยวผมกลับแล้วครับ พอดีมีธุระ” แหง๋ล่ะครับเล่นอยู่ทานข้าวกับครอบครัวน้องแบบพร้อมหน้าพร้อมตากันขนาดนี้รู้สึกเกรงใจยังไงก็ไม่รู้
“งั้นเดี๋ยวไปทานข้าวกับน้องก่อนก็ได้”“อะ เอ่อ ไม่เป็นไรครับ”“น่า ป๊าเลี้ยงๆ” ป๊าน้องบีทำท่าทางกับคำพูดแกมบังคับหน่อยๆ
“บีๆพาพี่เค้าไปทานข้าวนะ เดี๋ยวป๊าไปดูแขกก่อน” พูดจบป๊าน้องบีก็เดินออกไป
“ครับป๊า” บีทำหน้าตาชื่นมื่นเลยทีเดียว ก่อนจะคว้ามือผม
“ปะพี่ อยากทานร้านไหนชี้เลย” พูดจบบีก็จูงมือผมเดินหาร้านสรุปสุดท้ายก็ได้ร้านอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ พอหาที่นั่งได้ บี ก็กวักมือเรียกพนักงาน
“พี่ๆ เมนูหน่อย” พนักงานเดินมายื่นเมนูให้อย่างรวดเร็วผมกับมิวนั่งมองบีที่วางตัวราวกับว่ามาทานที่นี่บ่อยๆ พนักงานเองก็ดูจะรู้จักบีด้วย
“มิว พี่เอ ทานไรอะ” บีหันมาถามพร้อมยื่นเมนูให้มิว
“บีเอาไร เขาเอานั่นแหละ” มิวพูดจบก็ยื่นเมนูให้ผม
“พี่ไม่เอาอะ”“พี่ๆ” บีหันกลับไปเรียกพนักงานอีกครั้ง
“ครับ” พนักงานวิ่งเข้ามาพร้อมสมุดเล่มเล็กๆ
“เอาเหมือนเดิมสองนะ” นั่นไง มีเอาเหมือนเดิมด้วยแสดงว่ามาบ่อยจนเค้าจำได้ แล้วระหว่างนั่งรอก็มีการคุยกันเล่นๆ แล้วจู่ๆมิวก็นั่งนิ่งแล้วหันมามองบี ตามด้วยผม
“พี่.....”“ครับ”“ผมขอขี้แป๊บนะ”“อะ..เออ ไปดิ บีห้องน้องไปทางไหนอะ” ยังไม่ทันที่บีจะตอบ
“ไม่ต้องพี่ตรงนี้แหละ” พูดจบมิวก็หยิบช้อนกับซ่อมที่ถูกกระดาษทิชชู่ห่อรวมกันไว้ขึ้นมา แล้วคลี่ออก.....
“เสร็จแล้วพี่” มิวหันมายิ้ม บีถึงกับอึ้งรับประทานเลย
“มิว.....”“ครับพี่”“อันนี่เรียก คลี่ ครับ ไม่ใช่ ขี้” ผมเอามือขยุ้มๆหัวมิว
“ฮ่ะๆๆ” บีหัวเราะชอบใจ
แล้วไม่นานอาหารก็มาเสริฟ คนเสริฟเป็นผู้หญิงคนหนึ่งผิวขาว ตาตี่ๆ แต่งตัวดีไป ไม่น่าจะเป็นพนักงาน
“อะ บี ได้แล้ว อิกจานของใครเอ่ย” สำเนียงจีนจ๋าเลย
“ซาโก หวัดดีครับ” อ๊ะ ญาติน้องอีกแล้ว
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ มิวก็ไหว้ตาม
“รุ่นพี่เหรอ” พูดแบบสำเนียงจีนๆ
“ครับ พี่เอ กับเพื่อน ชื่อ มิวครับ”“เออๆ ดีๆ ฝากดูแลอาบีด้วยนา อีดื้อสุดๆเลย ““โกอะ” บีทำหน้าตาค่อนขอดที่โกมาเผาตรงนี้
“อ่าๆ ก็ล่ายๆพ่อเด็กดี นี่จะเอาอะไรก็สั่งเพิ่มได้เลยนะ มื้อนี้โกไม่คิดเงิน”“ขอบคุณครับ” ผมยกมือไหว้อีกรอบ
แล้วซาโกก็เดินกลับเข้าไปในห้องอะไรก็ไม่รู้ ผมก็นั่งดูบีกับมิวเล่นมุขกันสนุกสนานจนทานเสร็จผมกับมิวแล้วก็บีเดินเที่ยวงานกันอีกครั้งโดยที่บีเดินจับมือผมไปมาตลอดงาน แล้วก็เจอญาติกับคนรู้จักน้องมากมายซะจนผมจำชื่อได้ไม่หมดเลยเครือญาติน้องบีมีเยอะจัง แล้วบีกับมิวก็ขอขึ้นชิงช้าสวรรค์ตอนแรกบีคะยั้นคะยอให้ผมขึ้นด้วยแต่ผมก็ไม่ขึ้น ทำให้บีต้องขึ้นไปนั่งกับมิวสองคน ผมยืนมองจากข้างล่างเห็นสองคนท่าทางตื่นต้นชี้โน้นชี้นี่ คุยกันไปยิ้มกันไป จนสุดท้ายก็ได้ไปนั่งเพ้นท์สีตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์ ผมนั่งมองน้องบีจนเกือบลืมไปเลยว่าน้องมิวมาด้วย เวลาที่บีตั้งใจกับอะไรมากๆสายตาเค้าดูมุ่งมั่นดีนะครับ บางทีก็ระบายไปบ่นไป เหมือนจะเลิกกลางคันแต่ก็ทำจนเสร็จ จากตุ๊กตากบเคโระก็กลายร่างเป็นโดเรม่อนซะงั้น บียิ้มอย่างภูมิใจ ตอนนั้นเวลาก็ล่วงเลยมาจนเกือบๆสามทุ่มแล้ว ดึกมาไปสำหรับเด็กๆแบบมิวกับบี ผมโทรหาป๊าน้องบีเพื่อถามว่าจะให้ไปส่งน้องบีที่ไหน ป๊าน้องบีก็บอกให้รอตรงนั้นเดี๋ยวให้พี่เลี้ยงมารับระหว่างที่รอบียืนจับมือผมไว้ ผมเอานิ้วโป้งลูบไปลูบมาบนหลังมือบีเบาๆจนกระทั่งพี่เลี้ยงมารับ บีก็ยื่นตุ๊กตาลิตเติ้ลเดวิลให้มิว แล้วเดินไปกับพี่เลี้ยง ส่วนผมก็เดินกลับไปที่รถพามิวไปส่งที่บ้าน
“พี่เอ ขอบคุณนะคะ ขอโทษด้วยที่รบกวน” คุณแม่น้องมิวออกมารับที่หน้าประตูบ้าน
“ครับ ไม่เป็นไรครับ” แล้วผมก็ขับรถกลับบ้านวันนี้ผมได้เจอวงศาคณาญาติน้องบีเพียบเลยแฮะเพิ่งรู้ว่าแถวนั้นเป็นเครือญาติแล้วก็คนรู้จักน้องบีทั้งนั้น อืมมม......ผมมาถึงบ้าน ถอดเสื้อผ้าเปลี่ยนชุดระหว่างนั่นผมก็เจอโทรศัพท์น้องบีอยู่ในกระเป๋าเสื้อคลุมผมวางไว้ข้างๆหัวนอน ก่อนจะไปอาบน้ำแล้วก็ขึ้นนอนเลยรู้สึกเพลียมากอยากพักผ่อน ผมนอนมองโทรศัพท์น้องบีอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะหยิบมาวางไว้ใต้หมอนแล้วผมก็นอนคิดเรื่องวันนี้จนกระทั่งผมหลับไป
To Be Con
*1 เน้น คือความใส่ใจครับ เช่นผู้ฝึกคนไหนไม่ทันเพื่อน หรือ ทำไม่ได้จะมีการเข้าไปจี้เป็นรายตัว เพื่อให้ผู้ฝึกสามารถทำได้ทันเพื่อน หรือ ทำได้ดีขึ้น
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับเทควันโด
อุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขันเทควันโด
เดี๋ยวนี้การลงแข่งแต่ละครั้งจำเป็นที่จะต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันให้ครบ ในบางรายการอาจมีการโอนอ่อนให้ แต่ในบางรายการถึงกับไม่ยอมให้ลงแข่งขันจนกว่าจะหาอุปกรณ์ได้เลยก็มี ซึ่งตามกฏแล้วถ้านักกีฬาไม่สามารถลงสนามได้เกิน 3 นาทีจะถูกปรับแพ้ ดังนั้นก่อนไปแข่งเราต้องเตรียมอุปกรณ์ไปให้พร้อมนะครับ เพื่อจะได้ไม่ต้องถูกปรับแพ้ หรือต้องวิ่งไปยืมใช้จากของคนอื่นเค้า ซึ่งอุปกรณ์หลักๆจะมีดังนี้
1.เกราะหัว ( รายการแข่งขันของ กกท มักมีการจัดไว้ให้ยืม )
2. เกราะตัว ( รายการแข่งขันของ กกท มักมีการจัดไว้ให้ยืม )
3. สนับมือ ( รายการแข่งขันของ กกท มักมีการจัดไว้ให้ยืม )
4. เกราะแขน ( รายการแข่งขันของ กกท มักมีการจัดไว้ให้ยืม )
5. เกราะขา ( รายการแข่งขันของ กกท มักมีการจัดไว้ให้ยืม )
6. ถุงเท้า
7. กระจับ
8. ฟันยาง