อะกาลิโก..รักไร้กาล
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อะกาลิโก..รักไร้กาล  (อ่าน 64631 ครั้ง)

humanculus

  • บุคคลทั่วไป
ไปแอบอ่านมาจากบลอกหมดแล้วงะ  เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

รอภาคใหม่  เมื่อรายจะมาน้า

 o22 o22 o22 o22

ออฟไลน์ εїзป่วงน้อยεїз™

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
 ในที่สุดก็ตามอ่านทันค่า อ่านจบสงสารไตติลาขึ้นมาในทันทีเลย (อ่านไปร้องไป แอบปวดตามนิดๆ :sad2:)

เป็นกำลังใจให้ค่า

aojroonra

  • บุคคลทั่วไป
 :z13:

รออ่านตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ อย่าช้านะ เด๋วขาดใจก่อน

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
เหมือนมีอะไรมาจุกที่คอเลย
เฮ้อ~ เศร้า

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ไม่อยากให้จบอ่ะ ทำไงดี



 :try2:

kenshinkenchu

  • บุคคลทั่วไป
กำลังเข้ามาอ่านค่ะ  กำลังจะเริ่ม แต่อ่านเมนต์แรกๆ แล้วงง เราต้องไปอ่านเรื่องไหนก่อนเรื่องนี้เปล่าคะ

กลัวจะอ่านไม่รู้เรื่อง


รบกวนช่วยตอบด้วยน้า   :กอด1:

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ไม่ต้องหรอกค่ะ เริ่มอ่านได้เลย 
เพราะตอนต้นๆน่าจะกล่าวถึง เรื่องสั้นก่อนหน้า เมศเขียนเป็นโครงเรื่องสำหรับเรื่องนี้ค่ะ
เเต่ถ้าอยากจะอ่าน ก็ลองเสิร์ชได้นะคะ "เรื่องสั้น ๒๔ ชั่วโมง รักไร้กาล" เจอเเน่นอนค่ะ อิอิ



ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ตอน ๑๖

   ท้องฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว คริษฐ์คิด เมื่อมองท้องฟ้าผ่านกระจกหน้ารถยนต์ ขณะรถติดอยู่บนถนนในชั่วโมงเร่งด่วนเช่นนี้  ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน พลางขยับคลายเนคไท และกระดุมเสื้อให้สบายขึ้น  หลายเดือนมานี้ เขาเหนื่อยเหลือเกิน  เหนื่อยใจกับสภาพแวดล้อม  เหนื่อยใจกับเรื่องของหัวใจ  เหนื่อยใจกับคนรอบกายที่รายล้อม แต่ไม่มีใครเลยที่จะเข้าใจ หรือเห็นใจเขาจริงสักคน  ราวกับคนเหล่านั้นเสียสติกันไปหมด....หรือไม่ อาจจะตัวเขาเสียเองที่เสียสติ

   คริษฐ์รู้สึกตัวว่า ตนเองกำลังหลงทาง  หลงทางในเขาวงกตของความสัมพันธ์ที่ตัวเองเป็นคนทำเงื่อนปมขึ้นโดยไม่รู้ทางแก้  และพันเกี่ยวเข้ารัดคอตนเองแน่นเข้าทุกที  ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือของตนขึ้นจากเบาะข้างกาย เมื่อเขาพลิกมือลงวางโทรศัพท์ลงบนอีกมือหนึ่ง จึงได้เห็นแหวนเงินที่นิ้วนางข้างขวาที่ตนสวมไว้  แหวนที่นิทเชทำให้ ด้วยความตั้งใจ ในทุกรายละเอียดอ่อน เอาใจใส่   แหวนทีมีเพียงชิ้นเดียวในโลก  ทำมาด้วยหัวใจรักของใครอีกคน....ทว่ามันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว

   คริษฐ์เริ่มใช้ชีวิตอย่างคนบ้างาน เพราะงานเป็นอย่างเดียวที่ทำให้เขาดับความว้าวุ่นของหัวใจตัวเองได้  เขาจึงทุ่มเทกับมันจนก้าวหน้าเกินกว่าที่คาดหวัง  เขาใช้งานเป็นเกราะซ่อนตัวจากข่าวคราวใดๆจากเมืองไทย เขาไม่อยากรับรู้รับฟังอะไร หากการไม่รับสารใดจะช่วยให้เขาตัดใจจากนิทเชได้เร็วขึ้นอีกนิด  ให้ตัวตนที่เสียศูนย์ของเขาหายลับไปเสียที คริษฐ์เริ่มเช็คสายที่ไม่ได้รับ ก่อนจะเช็คข้อความเสียงที่ถูกฝากไว้  มีเพียงข้อความเดียวเท่านั้นสำหรับวันนี้

“ไอ้คริษฐ์ กูไม่แน่ใจว่าจะบอกมึงดีไหม.....”เสียงเพื่อนสนิทของเขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักใจ  คริษฐ์รอฟังเงียบๆ

“นิทเชรถคว่ำ อาการสาหัส  กูรู้ข่าวนี้เมื่อเย็นนี้เอง....”  คริษฐ์จำไม่ได้ ว่าเพื่อนของเขาฝากข้อความใดๆไว้อีก  ได้ยินเพียงเสียงหัวใจตนเองถูกฉีกกระชากออกจากอกนี้ โดยไม่ทันแม้แต่จะตั้งตัว




   คริษฐ์พยายามติดต่อเพื่อนที่เมืองไทย แต่ด้วยเวลาที่ห่างกันร่วมสิบชั่วโมง จริงไม่ได้ความคืบหน้าอะไร  ชายหนุ่มเดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้อง กระวนกระวาย ว้าวุ่น บางคราวก็นึกโทษตนเองทื่ไม่อยู่กับนิทเชในเวลาแบบนี้  แต่แล้วกลับเกิดคำถามอื่นขึ้นกับตนเองอีกเช่นกัน

‘อยู่กับนิทเชในถานะอะไร?’  เพื่อนหรือ? ครั้งสุดท้ายที่เป็นเพื่อนกันเมื่อไหร่หนอ..สิบปีที่แล้ว?

‘คนรักเก่าหรือ?’ แล้วถ้านิทเชพบใครใหม่แล้ว เขายังจะสนใจเราอีกทำไม?   คริษฐ์คิดด้วยความว้าวุ่น เขานั่งลงที่ปลายเตียงของตัวเอง ทอดมองเหล่าภาพใหญ่น้อยที่ตั้งไว้ที่โต๊ะหัวเตียง   

   มือแข็งแรงนั้นเอื้อมไปคว้ากรอบรูปนั้นขึ้นมา  ภาพตัวเขาเองที่ก้มลงผูกเชือกรองเท้า ดวงหน้าก้มเล็กน้อยๆ พร้อมกับดวงตาราวกับคนกำลังครุ่นคิด  คริษฐ์แกะรูปนั้นออกจากกรอบ ไล้มือแผ่วเบาลงรูปนั้นด้วยเพราะคิดถึงคนที่ถ่ายรูปใบนี้ ก่อนจะพลิกดูด้านหลัง คำห้าคำที่เขียนด้วยลายมือคุ้นตา  ทำให้คริษฐ์ยิ้มจางกับตัวเอง  ‘ใช่ว่าไม่รักกัน’   เขาจ้องมองตัวอักษรนั้น คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆอย่างเงียบๆ

‘คริษฐ์ชอบเราตรงไหนกัน?’ นิทเชในความทรงจำ ทำตาโตถาม ในอดีตที่เคยมีร่วมกันมา  ในวันที่เขารวบรวมความกล้าเข้าไปบอกรัก

‘เชน่ารักดี  เป็นคนมองโลกในแง่ดี ใครอยู่ใกล้ก็สบายใจ’

‘ทั้งที่เราหน้าจืดๆเหมือนเต้าหู้ขาวอย่างนี้นะหรือ?’ เจ้าตัวพูดพลางหัวเราะร่า

‘เต้าหู้ขาวใช่ว่าไม่อร่อยนิ  จริงไหม?’ ดวงหน้าขาวๆนั้นซับสีเลือด ตัดกับเสื้อสีขาวสะอาดของชุดนักศึกษาที่อีกฝ่ายสวมใส่

   คริษฐ์ไม่เคยวาดฝัน ว่าอายุขัยความรักของตนจะยืนยาว เขารู้เพียงว่านิทเชยังเป็นที่รักเสมอ  ยิ่งนานวันเข้าความผูกพัน กลับพันผูกให้คนสองคนเหนียวแน่นยึดติดต่อกัน  ความรักที่มีมากเกินไปทำให้ตัวตนของทั้งคริษฐ์และนิทเชกลับจางหาย  และพวกเขาแสร้งเป็นมองไม่เห็นมาหลายปี เก็บกักความอึดอัดเอาไว้กับอก สุดท้าย ความรักที่ต้องจบ ทั้งที่ยังรัก     คริษฐ์ยังจำรอยยิ้มสดใสของนิทเชได้  จำสีหน้าและแววตาของอีกฝ่ายในยามที่ทำสิ่งที่รัก  จำสัมผัสผิวเนื้อ กลิ่นเฉพาะตัวของอีกฝ่ายได้แม่นยำนัก  ชายหนุ่มหลับตาลง...ขบคิด  และตัดสินใจ

๖๖๖๖๖๖๖๖๖๖


   นิทเชจำได้ว่าตนเองตื่นขึ้นพร้อมกับแสงสว่างเจิดจ้า  สองตามองเห็นแต่เพียงฝ้าเพดานขาวสะอาดราวกับโลกทั้งใบมีเพียงสีขาวและดำ  ได้ยินเสียงอุทานด้วยความตระหนก  เสียงฝีเท้าเร่งร้อน  ไม่กี่อึดใจต่อมา นิทเชได้ยินเสียงเรียก  เสียงเรียกชื่อของเขาเอง   นิทเชทำได้แต่เพียงเบือนหน้าไปมอง  คนกลุ่มหนึ่งทอดสายตาเป็นห่วงระคนโล่งอก  นิทเชเพียงแต่มองดูเงียบๆ มองหาบางอย่างจากคนกลุ่มนั้น ทว่าไม่เจอ

   ร่วมอาทิตย์ถัดมา นิทเชออกจากโรงพยาบาลได้ อาจเพราะนิทเชยังต้องชดใช้กรรมอีกมากมาย เขาจึงยังมีเวลาบนโลกใบนี้ต่อไปราวกับปาฏิหาริย์  ด้วยดวงหน้าบวมช้ำ เนื้อตัวเป็นจ้ำเขียวเคล็ดทั้งตัว  และกระดูกมือขวาที่แตกแทบละเอียด เพียงเพราะชั่วระยะที่เกิดอุบัติเหตุ เขากลับคว้ากล้องตัวหนึ่งกอดไว้แน่น...นับเป็นโชคดีของนิทเชที่กล้องตัวนี้ปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน นอนนิ่งในกระเป๋าให้เขาลูบคลำเล่น ในขณะที่รถทั้งคันแทบกลายสภาพเป็นเศษเหล็กหลังอุบัติเหตุ    มือบางลูบคลำกล้องในกระเป๋าเล่นเบาๆ  สัมผัสเป็นตามผิวขรุขระของตัวกล้องอย่างถนอมยิ่ง แม้อายุใช้งานของมันจะนานมากแล้วก็ตาม

‘มันแพง!’ นิทเชยังจำเสียงอุทานของตัวเองได้

‘แต่เชชอบมันไม่ใช่หรอ  ผมรู้ว่าเชมาลูบๆคลำๆมันมาหลายทีแล้ว....แทบจะทุกครั้งที่เราแวะมาที่นี่’ นิทเชยังจำได้ว่าอีกคนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอย่างไร

‘เชจะเก็บเงินซื้อเอง  อีกไม่กี่เดือนก็ได้แล้ว’

‘ถือเสียว่าเป็นของขวัญวันครบรอบปีที่สี่  ให้ผมได้คืนอะไรกลับให้เชบ้าง....ได้ไหม?’  นิทเชคิดแล้วก็อดยิ้มกับตัวเองไม่ได้  ทุกครั้งที่คริษฐ์ทำสายตาอ้อนวอน ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะขัดขืนได้

   แล้วในตอนนี้นิทเชเหลืออะไรบ้าง?....เจ้าตัวพยายามคิดหาคำตอบให้ตัวเอง  งานของนิทเชหยุดชะงักเพราะบาดเจ็บเช่นนี้ ทำงานไม่สะดวกเท่าใดนัก  หากโชคร้าย มือข้างถนัดนี้อาจใช้ได้ไม่เหมือนเดิม นิทเชอาจมีเพื่อนฝูงรายล้อมรอบกาย แต่จะมีใครบ้างเข้าใจเขาอย่างที่ใครคนหนึ่งเคยเข้าใจ  แต่น่าเสียดาย.....ความรักครั้งหนึ่งทำให้ทั้งคู่ต่างสายตามืดบอด  ลบเลือนตัวตนของกันและกันอย่างช้าๆ  จนสุดท้าย จึงจากกันทั้งที่รัก  ทำให้คริษฐ์ที่นิทเชรู้จัก หายลับไปอย่างน่าใจหาย   นิทเชตักอาหารค่ำของตนเข้าปากอย่างทุลักทุเล สำหรับมือข้างที่ไม่ถนัด  พลางทอดสายตามองแมวหลงตัวหนึ่งที่ลักลอบเข้ามาในบ้านเขา ด้วยสภาพผอมโซ  นิทเชจึงใจอ่อนแบ่งอาหารให้ ทั้งที่รู้แมวจร ประเดี๋ยวก็จากไป

   นิทเชเงี่ยหูฟังเสียงรอบกายทั้งบ้านเงียบสงบ ได้ยินเพียงเสียงน้ำที่ไหลจากก๊อก กระทบลงบนจานเซรามิก  เสียงใบไม้เสียดสีกัน ในยามที่สายลมอ่อนเบาของฤดูฝนพัดผ่าน  นิทเชกำลังใช้ความคิดอย่างเงียบๆ ว่าจะจัดการกับจานชามที่เคยสะอาด  แต่บัดนี้มีคราบติดแน่นด้วยมือเพียงข้างเดียวอย่างไร    นิทเชสะดุ้ง เมื่อมือคู่หนึ่งยื่นเข้ามารับหน้าที่ต่อจากเขา มือแข็งแรงนั้น ขัดล้างจานใบนั้นเบาๆ โดยไม่มีเสียงใดดังไปกว่าเสียงของน้ำ  เพียงไม่นาน จานใบนั้นก็กลับไปสะอาดดังเก่า ราวกับไม่เคยถูกใช้งานใดๆ 

“กลับมาทำไม?”  นิทเชถามขึ้น หลังจากคนทั้งสอง ไม่ได้ปริปากแม้แต่ทักทาย

“กลับมาหานิทเช”  สายตาที่มองกลับมายังนิทเชนั้น มองมาด้วยสายตารวดร้าว ห่วงหา ขณะที่มือแข็งแรงนั้น คล้ายจะแตะลงบนรอยบอบช้ำที่ใบหน้า ทว่าไม่มีแม้ปลายก้อยที่สัมผัสลงไป 

“เชอยู่ได้”

“ผมรู้” น้ำเสียงนุ่มนวลนั้นกล่าวเพียงแผ่วเบา

“ผมรู้ว่าเชอยู่ได้ .....แต่ผมอยู่ไม่ได้”  นิทเชมองตามชายร่างสูงใหญ่ตรงหน้าตนนี้ ก้มกายลงอุ้มเจ้าแมวจรเอาไว้ โดยไม่นึกรักเกียจเนื้อตัวสกปรกของมัน

“เช...ขอโทษที่เคยว่าคริษฐ์ว่าเป็นคนไร้หัวใจ” นิทเชพูดพลางยิ้มเจือจางอยาในหน้า

“เพียงแต่เวลา...ทำให้คริษฐ์เป็นคนแข็งกระด้างต่างหาก”

“ก็อาจจะใช่  เวลาที่ห่างกันของเรา ไม่ใช่แค่ให้เราตามหาตัวตนของเรากลับมาเท่านั้น  แต่กลับทรมานหัวใจเราด้วย จริงไหม?”   

   ทั้งคู่เงียบไปนาน รอบกายพลันเงียบสงัด  มีเพียงเสียงใบไม้ ที่ถูกลมพัด คราวนี้ไม่ใช่เป็นเพียงสายลมอ่อนๆ ทว่าบางคราวกรรโชกพัดบางคราวแผ่วผ่าน 

“งานที่ทำสนุกไหม?”

“สนุก! บางทีวันนี้ถ่ายรูปกรุงเทพ  พรุ่งนี้ถ่ายรูปงานวัด  มะรืนไปถ่ายรูปที่ชายแดนไม่ก็เข้าป่าเป็นเดือนๆ!”

  “ ผมก็สนุก! วันนี้ทำผิด  พรุ่งนี้ทำผิด มะรืนนี้ก็ยังผิด  ทำตัวผิดๆมาเป็นปีๆ!”


 คนกล่าวแย้มรอยยิ้มอ่อนจาง รอยยิ้มที่หัวใจนิทเชโหยหามาแสนนาน  อีกครั้งที่คนทั้งคู่เงียบงัน  ทำเพียงทอดสายตามองเงาของตนเองและอีกฝ่ายโดยไร้ซึ่งคำพูดใดๆ จะเอ่ย  ด้วยเพราะความรู้สึกในหัวใจดวงนี้ ซับซ้อนเกินกว่าจะหาคำใดบรรยายออกมาได้  ปล่อยให้เงาของทั้งสองคนที่ตามติดเจ้าตัวไปทุกหนแห่ง  บอกเล่าบางอย่างโดยไร้สุ้มเสียง  เงาร่างสูงใหญ่ที่ทอดยาวกว่าเงาอีกเงาหนึ่งนั้น  เอื้อมมือมาคว้ามือข้างดีของอีกเงากอบกุมไว้เงียบๆ  สัมผัสของมือนั้นเย็นชื้น แค่เพียงมือข้างนั้นสัมผัส ร่างของนิทเชกลับสั่นสะท้าน 

“ความผิดของผม คิดว่าคนอื่นจะยกโทษให้หรือเปล่า?”  เงาของนิทเชกำลังส่ายหน้าเบาๆ

“แล้วความผิดของผม เชจะยกโทษให้หรือเปล่า?”   นิทเชไม่ได้ตอบ  เพียงแต่ทอดมองเงาของมือสองข้างที่กลับมากอบกุมกันไว้อีกครั้ง  ก่อนที่เขาจะบีบกระชับเบาๆ  ปล่อยให้เงาของคนสองคนสื่อสารกันในความเงียบต่อไป

   

   คริษฐ์กำลังคิด  ว่าวันเวลาให้พิสูจน์แล้ว ว่าเขามีความผิด  ผิดที่ตัดสินใจผิดพลาด  ผิดที่ไม่อาจทานทนความเหงา ผิดที่ไม่อาจรักใครได้มากกว่าไปเจ้าของเงาเล็กๆนี้ ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ราวกับจะรวบรวมความกล้า  นับแต่นี้ ความผิดใดๆที่เขาได้ก่อไว้ เขายินดีจะรับผลของมันอย่างเต็มใจ...ขอเพียงสิ่งเดียว  อย่างให้มีสิ่งใดพรากพลัด คนที่เป็นดั่งเนื้อหัวใจของเขาไป

“คริษฐ์ชอบเชตรงไหน?”  คนถูกถามหัวเราะกับคำถามนั้น ทั้งที่ใครฟังอาจจะไม่เห็นขัน

“ เต้าหู้ขาวสำหรับผม อร่อยเสมอแหล่ะ”

   นิทเชหัวเราะ มือที่กอบกุมกันไว้ ถ่ายเทความอบอุ่นอ่อนโยนสู่หัวใจอีกฝ่ายดังเก่าก่อน  อาจเพราะอายุขัยความรักของคนทั้งคู่ยังไม่สิ้น  นิทเชนึกสงสัย ว่าอายุขัยความรักของตนเองนั้น จะดำรงอยู่อีกนานเท่าใด  ทว่าคริษฐ์กลับมั่นใจนัก ว่าความรักจะอยู่กับตน ตราบจนสิ้นลมหายใจ

“ผมกำลังคิดว่า จะย้ายกลับมาประจำสาขาเดิม”

“งานก็ก้าวหน้าดีไม่ใช่หรือ?”

“ใช่ ก้าวหน้าดีมากเชียวล่ะ  แต่ผมจะเลือกอยู่ที่นี่” นิทเชมองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย  ที่บ่งบอกถึงการตัดสินใจอย่างแน่นหนัก

“แต่เชไม่ออกจากงานง่ายๆหรอกนะ”  น่าแปลก...นิทเชที่เคยเอาแต่โอนอ่อนผ่อนตามกลับยืนกรานหนักแน่นเช่นกัน เพราะนิทเชรู้ ขอบเขตของการรักตนเองก่อนใครๆนั้น ไม่ใช่สิ่งเลวร้าย เพื่อทำร้ายใคร  แท้จริงแล้วเพื่อตนเองทั้งนั้น

“เอาไว้เชอยากได้คนช่วยหิ้วกระเป๋ากล้องเมื่อไหร่  คริษฐ์ว่างเสมอ  ดีไหม?”

“แหม ค่อยคุยกันง่ายหน่อย”ทั้งคู่หัวเราะ เมื่อนิทเชทำเสียงโล่งใจ

   นิทเชมองดวงหน้าคมสันที่มีเค้าอิดโรยนั้น    เขามองริมฝีปากหยักสวยนั้นที่เคย ยกยิ้ม หรือแม้แต่กล่าววาจาเชือดเฉือนนั้น มองดวงตาที่เหน็ดเหนื่อยนั้น ฉายประกายต่างๆหลากหลาย  รัก หลงใหล หนักแน่น หรือแม้แต่ ‘เป็นสุข’  นอทเชหลับตาลง เมื่อริมฝีปากนั้น สัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อน รู้สึกถึงร่างกายที่สั่นสะท้านของตนเองในอ้อมแขนใครอีกคน 

   เวลาร่วมปีที่ผ่านพ้นไปอย่างยากลำบากนั้น ได้พิสูจน์แล้ว ว่าทุกการกระทำ ทั้งที่สร้างรอยสุข ทั้งที่ทิ้งรอยทุกข์  ล้วนแล้วแต่มาจากสาเหตุเดียว อาจเพราะหัวใจของทั้งคู่ ระลึกได้เสมอ ความรักของพวกเขาจึงยืนหยัดผ่านกาลเวลา ทั้งเป็นสุข  นิ่งเฉย หรือเป็นทุกข์มาได้  ด้วยสองหัวใจนึกรู้ ทำการกระทำนั้น ทำลงไปด้วยเพียงสาเหตุเดียว

‘มิใช่ไม่รักกัน’

โปรดติตามบทส่งท้าย






ไปเถิดทั้งคู่ ไปสู่ประตูสวรรค์~

จากตอนนี้ หลายคนอาจจะอ่านเเล้วไม่อิน อ่านเเล้วนอยด์ๆ ให้กลับไปรับยาเเก้นอยด์ที่ตอนสอง ถ้ายังนอยด์อยู่ให้ตีลังกาอ่าน (ไม่ใช่ละ)

เอาน่า อีกหน่อยเขาก็ไปจากติลาเเล้ว เห็นไหม เมศไม่ใจร้ายน๊า

ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็น

ตอนหน้าส่งท้ายรักไร้การเเน่นอนเเล้วนะคะ

mama

  • บุคคลทั่วไป
อ่านตอนนี้แล้วแอบยิ้มได้

kenshinkenchu

  • บุคคลทั่วไป
โฮก..................................

ตายแล้ว  เราลองอ่านเรื่องคร่าวๆ ก่อน จะเป็นลม

ไปอ่านตอน 14.2

โฮก..............  ต้องรีบมาเมนต์ก่อน  ตอนนี้น้ำตากำลังหยดติ๋งๆ เลยค่ะ T_T

ไม่ไหวล่ะ  เศร้าขนาด

ทำไมเราเสิร์ชหาเรื่องสั้นไม่เจออ่า  เจอแต่เรื่องสั้น มี ไม่มี

เดี๋ยวไปหาที่บอร์ดปิด น่าจะหาง่ายกว่า ><

edit: อ่ะ  ไปเสิร์ชเจอในนู้นแล้ว  เดี๋ยวตามไปอ่านในบอร์ดโน้นนะคะ  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2010 05:44:15 โดย kenshinkenchu »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
ฮืออออ บทส่งท้ายต้องเตรียมผ้าซับน้ำตาผืนโตๆ อีกมั้ยค๊าพี่เมศ >.<

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
เรื่องสั้น จริงๆก็อยู่ในทู้เดียวกันกับ มี ไม่มี นั่นเเหล่ะค่ะ  เมศลงเรื่องสั้นรวมๆไว้ในทู้เดียวกัน

ส่วนส่งท้าย คงไม่ต้องเตรียมผ้ามาด้วย  เเต่ระวังอาการ ผงเข้าตาไว้ ก็ดีนะคะ 55+

ปล.ส่วนท่านที่ตามไปอ่านในบลอค ขอย้ำว่า ในบลอคอาจไม่ใช่เวอร์ชั่นล่าสุดนะคะ  เเต่ถ้าเป็นเวอร์ชั่นลงในบอร์ดต่างๆ จะล่าสุดเเล้ว  เเละเมศจะยินดีมาก หากจะฝากความคิดฮอด ประทับรอยจารึกไว้ว่า ผ่านเข้ามาอ่านในบลอคเมศด้วยการเมนต์ นิดหน่อย เเต่ไม่บังคับกันค่ะ

 :กอด1:

kenshinkenchu

  • บุคคลทั่วไป
โฮก.............  อ่านทันแล้วค่ะ   :-[

แบบว่าน้ำตากำลังไหลเลยอ่ะ   เสียใจนะเนี่ยะ

สะเทือนใจมาก  ไม่รู้จะเมนต์ยังไงเลย   :sad4:

ติลาทั้งโชคดีและโชคร้ายเลย

โชคดีที่คนคนนั้นเป็นคุณดิสที่มีความรักที่มั่นคงอบอุ่นให้   ประทับใจคุณดิสมากค่ะ  แบบว่าเวลาทั้งชีวิตของคุณดิสคือติลาเลย

ในขณะที่ติลาเราก็เห็นอยุ่แล้วล่ะว่าติลารักคุณดิสมาก  และถ้าเทียบกัน  วันข้างหน้าต่อไปเราก็ไม่รุ้ว่าติลาจะเป็นยังไงต่อไป

รักของติลาที่เราเห็นๆ เนี่ยะรุนแรง ลุ่มหลง แต่มันก็อาจเป็นชั่วระยะเวลาหนึ่ง

แต่เราได้เห็นแล้วว่าตลอดชีวิตของคุณดิสเป็นยังไง  ติลาโชคดีมากที่ได้รับความรักนี้จากคุณดิส

เรื่องนี้เราสงสารคุณดิสที่สุดเลยค่ะ  พอมาคิดถึงว่าช่วงเวลาห้าสิบกว่าปีที่จากกันคณดิสใช้ชีวิตทั้งๆ ผูดมัดความรักไว้กับติลา 

โห.......  เจ็บปวด  ช่างยาวนานจนน่ากลัว  เราชอบตอนที่ติลาให้แหวนคุณดิส แล้วคุณดิสบอกว่า ความรักของคุณดิส คือรักที่ต้องการให้ตลาอยู่ได้ต่อไป

โอ้ว.............  น้ำตาร่าวงเผาะๆ  ซึ้งใจมาก  กระซิกๆ  ติลาช่างโชคดีจริงๆ  :monkeysad:

ยิ่งช่วงการบรรยายบทท้ายๆ ตั้งแต่ติล่าได้เจอคุณดิสอีกครั้งนี่สะเทือนใจจนเราร้องไห้เป็นช่วงๆ เลยคะ เขียนดีมากเลย

ไม่รู้ทำไมทั้งๆ ที่ เขียนสะท้อนถึงความรักที่มากจนน่าอิจฉา  แต่ถ้าเป็นเรา เลือกได้เราจะไม่ขอมีความรักแบบนี้เลยนะ

เรารู้สึกว่าความรักและทุกข์  มันมากเกินไป เกาะกินใจเกินไป จนถ้าเลือกได้ขอไม่รุ้จักความรักนี้เสียดีกว่า

ชีวิตที่มีรักแต่พอดี  น่าจะมีความสุขมากกว่า  Y_Y  (มักน้อยอ่ะ)

แต่แหม.... จะบอกตามตรง  ไม่ชอบอีกคู่เลยค่ะ  เป็นเพราะเรามักเป็นแม่ยกนายเอกชัดเจน  

ดังนั้นถ้าตัวละครไหนที่ทำให้นายเอกช้ำใจเนี่ยะ  ไม่ว่าเค้าจะรักกันปานจะกลืนกิน ซาบซึ้งแค่ไหนเราก็ ไม่ชอบอ่ะ  ฮ่าๆ

ยิ่งประโยคนี้   โห...  อยากพุ่งเข้าไปตบหัว   ก๊ากๆ   :m16:
อ้างถึง
“แต่เธอก็ขี้เหงาพอให้ชั้นเล่นสนุกด้วยไม่ใช่หรือ”


อยากรู้จังเลยค่ะว่า ภาคต่อไปจะเป็นเรื่องของคู่ใครจะ  ออกตัวก่อนเลย  ถ้าไปเขียนคู่นิทเชต่อนี่  อ่านไม่ไหวอ่ะค่ะ  อินจัด  ยังเกลียดคู่นั้นอยู่   :laugh:


แหม... แต่ถ้าเขียนถึงคุณสมิทธ์  กับ ติลา ก็โอเค นะคะ    :o8:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2010 20:26:15 โดย kenshinkenchu »

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
รอบทส่งท้าย
แฮปปี้แล้วสินะคุณคริษฐ์ - -+
ยังหมั่นไส้เฮียแกอยู่นิดๆ ตบเกรียนส่งท้าย  :fcuk:
คราวนี้ก็ตาติลาเรา
ซัมติงกะคุณสมิทธ์ก็ไม่เลวนะ  :laugh:
รอคร้าบ  :L2:

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
ยินดีด้วยมากค่ะคุณคริษฐ์..กลับไปเลิฟ ๆ กับเชน่ะดีแล้วค่ะ
ไม่มีใคร(ทน)รักคุณได้เท่านิชเชแล้วนะคะ  :laugh:
เตรียมคอตตอนบัดมาสะกิดเอาผงออกค่ะ
ว่าแต่..จะมาเมื่อไหร่อ่ะคะคุณเมศ?
กอด หอม ซุกไซร้คุณเมศหลาย ๆ ที
 :o8: :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
เเหม  เห็นคนอ่านเเสดงความรักให้คริษฐ์กันเยอะขนาดนี้

อยากจะให้ปรากฏตัวในภาคต่อจริงๆ

(ซึ่งปัจจุบันยังไม่เริ่มเขียนสักกะตัวเลยค่ะ555+)

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
เเหม  เห็นคนอ่านเเสดงความรักให้คริษฐ์กันเยอะขนาดนี้

อยากจะให้ปรากฏตัวในภาคต่อจริงๆ

(ซึ่งปัจจุบันยังไม่เริ่มเขียนสักกะตัวเลยค่ะ555+)

 :กอด1: เป็นกำลังใจในการเขียนภาคต่อ
ขอคุณดิสของดิชั้นกลับมาดี๊ด๊ากับติลาในภาคต่อได้มั้ยคะ?
เรื่องคุณคริษฐ์..ดิชั้นแสดงความรักในแบบของดิชั้นเสมอค่า55+

ออฟไลน์ pure_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :L1:
ชอบจังเลยค่ะ มีความสุขที่ได้อ่าน  แต่งได้ดีจริงๆเลยค่ะ  อ่านแล้วน้ำตาซึม แต่ก็มีอมยิ้มไปด้วย

ขอบคุณนะค่ะ ที่แต่งเรื่องดีดีให้อ่านกัน  จะดีมากถ้าคู่ต่อไป ไม่ใช่ คริช-เช  ไม่ใช่ไม่รักนะ แต่รับการจากลาแบบนั้นไม่ได้จริงๆ

แต่ถ้าจะให้สมิท + ติลา ก็ออกจะสงสารดิษ ไม่น้อย  ทำใจลำบากจริงๆ เลยค่ะ

ตัวละครทุกตัว  เหมาะกับบทของเค้าแล้ว  จะเอามามิกซ์จับคู่ใหม่  ทำใจอ่านยากจริงๆ เลยค่ะ

เอาเป็นว่าแล้วแต่ไรท์เตอร์แล้วกันค่ะ  ยังไงก็จะติดตามผลงานต่อไปเรื่อยๆ ขอสมัครเป็นแฟนพันธ์แท้ ด้วยคนนะค่ะ ^^

ออฟไลน์ ภาณุเมศพลัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ส่งท้าย รักไร้กาล


   ไตติลารวบรวมตำราเรียนของตนเอง ใส่ในตู้ข้างเตียง เขามองอย่างพิจารณารายชื่อหนังสือในตู้นั้น ก่อนจะจัดเรียงเสียงใหม่ ให้เป็นไปตามลำดับอักษร  ไม่นานก็เรียงครบเป็นระเบียบเป็นที่น่าพอใจ  ไตติลาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ยิ้มให้กับห้องของตนเองที่เป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาดสะอ้านน่าอยู่  เหมาะสำหรับบรรยากาศของการเปิดเทอมที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า  ไตติลาตัดสินใจกลับมาเตรียมตัวสำหรับเทอมใหม่เร็วขึ้นราวสัปดาห์จากกำหนดเดิม  ทางครอบครัวเองก็เข้าใจและเคารพในการตัดสินใจ ว่าเขาต้องการเวลาเตรียมตัว   ร่างโปร่งนั้น ก้าวช้าๆบนผืนพรมหยาบๆมาหยุดลงที่กระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกตรึงไว้  ไตติลามองแบบบ้านในกระดาษตรงหน้า ด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยาย  ในอกนั้นแม้จะเจ็บแปรบ ทว่า ลึกๆในความรู้สึกนั้น กลับปะปนไปด้วยความรู้สึกของการถูกปลดปล่อย แต่นั่นก็เล็กน้อยเกินกว่าที่ไตติลาจะรู้สึกยินดีใดๆ  มือนวลนั้นเอื้อมออกไป ปลดหมุดยึดที่มุมข้างหนึ่งออก ก่อนจะชะงักด้วยเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือ

“ครับ?”  ไตติลานิ่งฟังเสียงที่ปลายสายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปักหมุดยึดนั้นกลับคืนที่เดิม 

“ได้ครับ เดี๋ยวผมลงไปรับ”

“หาไม่ยากหรอกครับ เลี้ยวเข้าถนน ก็เห็นเลย อยู่ทางซ้ายมือ” ไตติลากวาดสายตาตรวจตราความเรียบร้อย อีกครั้ง ก่อนจะเอื้อมมือซ้ายที่ประดับด้วยหยกแดงที่นิ้วนาง ขึ้นแตะขยับ  เครื่องประดับห้องชิ้นน้อยบนโต๊ะ ให้เป็นระเบียบราวกับจะไม่ให้ผิดไปแม้สักองศา


   ไตติลาหันมามองภายในห้องของตนเองอีกครั้ง ก่อนจะสวมรองเท้าแล้วก้าวยาวๆไปที่ประตูอพาร์ทเม้นต์เจ  เพื่อลงไปที่ด้านหน้าของอาคาร  หลังจากยืนรอไม่นานนัก รถยนต์คันหนึ่งก็จอดเลียบกับฟุตบาต พร้อมกันใครคนหนึ่งที่ไตติลากำลังรอ ก้าวลงมาส่งยิ้มให้

“คุณไตติลาใช่ไหม?”  ไตติลารับคำ พลางส่งยิ้ม ทั้งที่ในหัวใจไม่ได้อยากจะแย้มรอยยิ้มแม้แต่น้อย

“ทางนี้ครับ”ร่างโปร่งนั้นนำอีกฝ่ายขึ้นไปยังอพาร์ทเม้นต์เจ

“เงียบดีนะครับ”

“ส่วนใหญ่จะเงียบแบบนี้ล่ะครับ จะมีบ้างที่จะจัดปาร์ตี้แต่ไม่บ่อยนัก มีแต่มาซ้อมร้องเพลงกันตอนบ่ายบางวัน” ไตติลาพูดพลางไขกุญแจเข้าอพาร์ทเม้นต์ของตนเอง  ก่อนจะเปิดประตูให้ผู้มาเยือนเข้าไปก่อน 

“เป็นครัวกึ่งเปิด ติดกับห้องนั่งเล่น พื้นครัวเป็นกระเบื้อง ทำความสะอาดง่ายครับ”เจ้าของห้องอธิบายด้วยน้ำเสียงไม่ดังหรือเบาเกินไป  ติดจะรายเรียบไร้ความรู้สึก

“มีห้องย่อยอีกสามห้อง ห้องน้ำสองห้อง อยู่ในห้องนอนใหญ่ห้องหนึ่ง แต่ตู้ชาวเวอร์ ขอบยางกันน้ำไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คงจะต้องให้แลนด์ลอร์ดมาดูอีกทีนะครับ”   

“แล้วรูมเมตละครับ?”

“ก็ดีครับ เป็นนักศึกษาคนหนึ่ง กับอีกคนทำงานแล้ว แต่ไม่ค่อยได้กลับมานอนที่นี่บ่อยนัก”

“ขอดูในห้องคุณหน่อยแล้วกันนะครับ?”ไตติลายิ้มรับก่อนจะพยักหน้าเบาๆ

“อือฮือ นี่ถ้าไม่บอก ผมไม่เชื่อนะครับว่าเป็นห้องหนุ่มโสด  ถ้าเป็นผมอยู่ เห็นจะไม่สะอาดนิ้งอย่างนี้” ผู้มาเยือนหัวเราะ ก่อนจะกวาดสายตามองห้องนั้นอย่างพึงพอใจ

“เอ๊ะ นั่นคุณร่างเองหรือเปล่า?” ผู้มาเยือน ชี้ไปยังกระดาษที่ถูกยึดไว้บนบอร์ด

“เปล่าหรอกครับ”  ไตติลาทอดสายตาสงบนิ่งมองอยู่อึดใจ ก่อนจะเบือนหน้า

“พร้อมให้ผมย้ายเข้ามาเมื่อไหร่ครับ?”  ไตติลานิ่งคิด

“ผมจะย้ายออกราวๆเดือนหน้า ช่วงต้นๆเดือน  ถ้าคุณสะดวก”

“ตกลงครับ” ไตติลาคลี่ยิ้มอ่อนๆในหน้า  ด้วยหัวใจเย็นเยียบ


   ไตติลาทอดสายตามองที่สุดถนน ณ จุดที่ผู้มาเยือนของตนได้ขับรถจนลับสายตาไป   พลางคิดไปว่า จะจัดการกับบ่ายวันนี้อย่างไรดี  ไตติลาเดินกลับไปไขตู้ไปรษณีย์ของอพาร์ทเม้นต์เจ  กวาดโบรชัวร์โฆษณาและจดหมายจากธนาคารออกมา เสียงลากกระเป๋าเดินทางทำให้ไตติลาเงยหน้าขึ้นมอง  ร่างสูงคุ้นตาไตติลาก้าวเดินลงบันไดหน้าอพาร์ทเม้นต์ ก่อนจะหันไปยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่  เพื่อนำไปใส่ในกระโปรงท้ายของรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามของอพาร์ทเม้นต์   

   ไตติลาพอจะรู้มาบ้างว่าคริษฐ์จะย้ายกลับไปประจำสาขาที่ประเทศไทยอีกครั้ง  ไตติลาเห็นดีด้วย  อย่างน้อย คริษฐ์จะได้อยู่ใกล้ใจมากกว่าอยู่ที่นี่  ให้ไม่ทำร้ายใครๆ หรือไม่ถูกใครทำร้ายๆ อย่างที่ไตติลาเคยทำ  และเคยถูกกระทำมาก่อน ไตติลาไม่ได้ร้องทักใดๆ เพียงแต่ยืนมองคริษฐ์เงียบๆ จนรถแท็กซี่คันนั้นเคลื่อนออกไป ไตติลาจึงหยิบโทรศัพท์ของตัวเอง พิมพ์ข้อความสั้นๆส่งให้ชายหนุ่มที่กำลังออกจากชีวิตไตติลาไปเสียอีกคน

‘sorry…for  everything’  ไตติลาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงตนเอง พลางเดินกลับขึ้นที่พักของตนเองบ้าง  ทั้งอาคารเงียบสงัด ราวมีเพียงไตติลาอาศัยอยู่คนเดียว ราวกับมีเพียงไตติลาเท่านั้น ที่ต้องวนย้อนกลับมาสู่กับดักที่ไม่อาจสลัดหลุดได้โดยง่าย...ทั้งที่แม้แต่คริษฐ์ กลับจากไป เพื่อพบความสุข ในขณะที่ตนเองแม้แต่จินตนาการยังไม่อาจทำได้

   ไตติลาอยากจะหลอกตัวเอง ทว่าทำไม่ได้  หัวใจกลับเฝ้าตอกย้ำ ว่ากษิดิสที่เป็นเจ้าของหัวใจไตติลาทั้งหมด  ลาลับจากโลกนี้ไปแล้ว  โดยที่ไตติลาไม่แม้แต่จะไปร่วมไว้อาลัยครั้งสุดท้าย  เพียงเพราะความอ่อนแอในหัวใจตนเองที่ไม่อาจทานทนต่อความจริงนั้น ทว่ากลับไม่อาจหลอกตัวเองได้เช่นกัน  ร่างโปร่งนั้นเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของใครอีกคน เคยเป็นที่ๆ ทำให้ทั้งสองมาพบกันด้วยเพราะเวลาเกิดบิดเบือน  ไตติลาหยุดยืนมองลายเส้นในกระดาษที่ถูกตรึงไว้อีกอึดใจ  ก่อนจะค่อยๆถอนหมุดที่ตรึงไว้ ออกทีละตัว

เขาพับกระดาษใบนั้น ความเก่าจนเหลืองกรอบทำให้กระดาษฉีกขาด  ทว่าไตติลาไม่สนใจ กลับพับมันต่อไปจนสุดท้าย กระดาษใบนั้นกลายเป็นเศษเล็กเศษน้อยที่ไม่อาจรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้อีก  เขาทอดสายตามองเศษกระดาษนั้น ด้วยความรู้สึกสงบนิ่งราวกับไม่รู้สึกรู้สา ก่อนจะตวัดสายตาขึ้นมอง ภาพถ่าย ที่เคยเป็นรูปคู่กัน บัดนี้มีเพียงใบหน้าของตนเองเท่านั้น ในขณะที่ใบหน้าคมสันที่ไตติลานึกรักกลับกลืนหายกลายเป็นสีขาวทั้งหมด  มือนวลถือรูปนั้นไว้ในมือ  ทอดมองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย  แล้วทิ้งทุกอย่างลงในถังขยะ โดยไม่รู้สึกใดๆอีก  นอกจาก.......ความว่างเปล่า

ไตติลาเตรียมอาหารคำของตนเองอยู่ในห้องครัว   ด้วยสูตรอาหารอย่างง่ายๆที่ปริ้นท์ออกมาพลางเงี่ยหูฟังเสียงเพลงจากเพื่อนร่วมอพาร์ทเม้นต์ที่มักรวมกลุ่มกันร้องเพลงในวันว่าง  มือนวลหยิบจับเครื่องครัวอย่างทะมัดทะแมง  สายตาของไตติลาสะดุดกับแหวนหยกแดงที่สวมไว้ที่นิ้วนางข้างซ้ายของตัวเอง  ก่อนจะหยิบมีดขึ้นหั่นผักสำหรับปรุงอาหาร ทว่าเสียงออดหน้าประตูดังขึ้นเสียงก่อน  ไตติลาจึงพละไปเปิดประตู


   สมิทธิ์ ไทสรรค์ กำลังจ้องมองไตติลาราวกับจะค้นหา  สายตานั้นทอดมองมาอย่างห่วงหาระคนหวาดหวั่น  สำหรับคนที่เสียคนรักไป จนไม่อาจทำใจได้แม้แต่มาร่วมงานพิธี และเลือกที่จะหนีหายไปเสียเฉยๆอย่างไตติลาที่เขาพบที่เมืองไทย  กับไตติลาที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขานี้ ต่างจากที่เขาคาดไว้มากนัก ดวงตาคู่นั้น ไม่ได้สื่อถึงความเศร้าโศกรวดร้าว ไม่ได้แสดงรอยแห่งความคร่ำครวญ มีเพียงความสงบนิ่ง เดียวดาย และอ้างว้างสะท้อนอยู่ในดวงตาคู่นั้น

“เข้ามาสิ”  ไตติลาเชื้อเชิญ ทว่าร่างสูงนั้นกลับนิ่งงัน

   มือแข็งแรงคู่นั้น ยืนออกไปแตะแก้มนวลเบาๆ  ก่อนจะโอบไหล่บางมากอดไว้แนบอก โดยไม่มีใครปริปากพูดสิ่งใด   ไตติลาไม่แม้แต่ยกมือขึ้นสัมผัสตอบ กลับทิ้งมือทั้งสองข้างลงข้างกาย  จมูกได้กลิ่นเครื่องหอมจากเรือนผมและจากเสื้อสีดำของสมิทธิ์สวมใส่  กลิ่นของมันคุ้นเคยในความรู้สึก...ไตติลาแน่ใจว่ามันคือกลิ่นธูป ความรู้สึกเจ็บร้าวที่ไม่รู้ที่มาแล่นพรูขึ้นจับหัวใจไตติลา แม้จะอยู่ในอ้อมกอดแข็งแรงนั้น ดวงตาของไตติลากลับรื้นด้วยน้ำตา  ทว่าไม่อาจหยาดหยด

อะไรเอ่ย?.....มีก็เป็นทุกข์ไม่มีก็เป็นทุกข์

อะไรเอ่ย?...ยิ่งวิ่งหนียิ่งเข้าหา

อะไรเอ่ย?....ยิ่งโหยหากลับขาดแคลน






สำหรับไตติลาแล้ว คำตอบคือ.....ความรัก






ภาคต่อคงไม่มาเร็วนักนะคะ  เพราะว่าช่วงนี้เข้ายุคมืดของเมศละ ยุ่งหัวหมุน กว่าจะค่อยสงบ ก็คงกลางเดือนหน้าเป็นอย่างเร็วค่ะ ยังคงฝากความคิดเห็นเเละฟามคิดถึงกันได้เรื่อยๆนะคะ เมศเข้ามาดูบ่อย(อู้งานนั่นเอง)

ยินดีรับฟังทุกความเห็นนะคะ


ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
อ่านแล้วปวดแปลบในอก..ติลาเข้มแข็งจัง
ยินดีกับคริษฐ์นะคะ..ที่กลับมามีหัวใจได้อีกครั้ง
สมิท..มาหาติลาด้วยความรู้ใดกันหนอ?
รอคุณเมศมาบอกในภาคสองนะคะ
แต่ก็ยังแอบหวังค่ะ..ว่าคุณดิส(ของดิชั้น)จะกลับมาเลิฟ ๆ กับติลาในภาคต่อนี้
ความหวังอันริบหรี่..คุณเมศจะทำให้มันเป็นจริงได้มั้ยคะ?
 :pig4: :กอด1: :impress:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 13:01:21 โดย jira »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






humanculus

  • บุคคลทั่วไป
สงสารไตติลา  เหมือนตัวเองยังงัยยังงั้นเลย   ช่างกล้า เอิ้กกกกกกก

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
ภาคต่อไปไม่ต้องมีคริสก็ได้  แค่ภาคนี้ภาคเดียวก็จี๊ดใจมากพอแล้วค่ะ
ภาคต่อไปขอเป็นสมิทกับติลานะคะ  คงคิดถึงติลามาก ๆ ถ้าไม่มี

heavenly**yaoi

  • บุคคลทั่วไป
จบเศร้า เง้อ   ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย  ภาคต่อ จบสวยใช่มั้ยค่ะไรท์เตอร์
ไม่อย่างงั้น ไรท์เตอร์จะจบไม่สวยน้า 555+
ไตติลา กับ กษิดิส เป็นรักไร้กาล เฮ้อ~

ออฟไลน์ pure_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :กอด1:

กอดเป็นกำลังใจให้ติลา สู้ๆ ต่อไป


ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
จบเศร้านะ
รอภาคต่อ :กอด1:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เพิ่งจะดีใจกับคริษฐ์และนิทเช ที่พบสิ่งที่ตัวเองต้องการและยังได้อยู่กับสิ่งนั้น

มาเจอพาร์ทของ ติลา เศร้าซะหาทางไปไม่ถูกเลย  :m15:

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยค่ะ คิดถึงคุณดิส สงสารติลาด้วย
ส่วนคุณคริษฐ์กับนิทเช อันนี้ดีใจมากๆที่กลับมาคุยกันด้วยดี
ประทับใจค่ะ ขอบคุณมากๆสำหรับภาคนี้ เป็นกำลังใจให้นะคะ

ออฟไลน์ อิสระ

  • ถ้า add ให้กอด,ถ้า give five ให้จุ๊บ,ถ้า ment ให้เบอร์ คิคิ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +232/-8
    • https://www.facebook.com/%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-1433707443445407/?modal=admin_todo_tour
พยายามสะกดใจไม่กดอ่านเรื่องนี้เพราะรู้ว่าต้องม่าม่าบิ๊กแพคแน่ๆ
แต่....วันเหงาๆอดใจไม่ไหวเผลอกดเข้ามาอ่านแล้ว.....
โอย....ทั้งเหงาทั้งเศร้าทั้งซึ้งเหมือนดูตำนานรักดอกเหมย
เสียน้ำตาดังที่คาด
ดีที่อ่านอยู่ในห้องไม่ได้อ่านอยู่ในร้านไม่งั้นคงโดนหาว่าบ้าแหง
อ่านแบบรวดเดี๋ยวแบบอ่านเอาอารมณ์ด้วยไม่ใช่แค่รีบๆอ่านรีบๆตามให้ทัน
เลยใจระบบตามติลาไปเต็มๆ
ไรเตอร์จ๋า ภาคสองขอให้น้องติลาได้เจอกับความสุขสมหวังบ้างเถอะ
นะ  นะ  นะ
 :กอด1: :กอด1:

kenshinkenchu

  • บุคคลทั่วไป
ความจริงอ่านจากบล๊อคล่ะ
แต่เมนต์เสริมสร้างกำลังใจกันสักหน่อย  :laugh:

เราชอบตอนสุดท้ายที่เขียนบรรยายว่าคุณสมิทธ์ใส่ชุดดำ และ ได้กลิ่นธูป

แบบว่าสะท้อนใจเหลือเกิ๊น...

ว่าคุณสมิทธ์เห็นติลาสำคัญแค่ไหน

เสร็จงานศพไม่แม้แต่จะเปลี่ยนเสื้อผ้า  ก็รีบบินมาหาติลาแล้ว

จิ้นไปไกล  หวังว่าติลาคงมีความสุขกับรักใหม่   :-[

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
+1 ให้เมศ ชอบเรื่องนี้ แล้วจะรออ่านภาคต่อ
จริงๆก็อยากอ่านงานใหม่ๆของเมศด้วยเหมือนกันแล้วจะรออ่านน๊า
ของยุคมืดสว่างสดใสไวๆนะ อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด