[Short Story] ,, ตั ว เ ลื อ ก ,,
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [Short Story] ,, ตั ว เ ลื อ ก ,,  (อ่าน 114466 ครั้ง)

benxine

  • บุคคลทั่วไป
[Short Story] ,, ตั ว เ ลื อ ก ,,
« เมื่อ23-05-2010 19:56:24 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
-----------------------------------------
 

 
เรื่องสั้นตามอารมณ์ ,,, นึกคึกอะไรไม่รู้หันมาจับเรื่องสั้นอีกแล้ววว  

ขอให้ทุกคนสนุก กับ เรื่องสั้นเรื่องนี้ด้วยนะครับ

มีอะไรติชมบอกได้เลยนะครับ  ไม่ต้องเกรงใจ

,,, นายซิน ,,,

----------------------------------------



*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 16:16:57 โดย THIP »

benxine

  • บุคคลทั่วไป
พาร์ท ๑

ผมเอนฟุบอยู่บนโซฟาในร้านกึ่งผับทั้งชุดนักศึกษา ขวดเหล้าที่พร่องไปกว่าครึ่งกับแก้วใบใสวางตั้งอยู่ใกล้ๆ
เหม่อมองเข็มนาฬิกาประดับผนังของร้าน

อีกไม่กี่ชั่วโมง.....ชีวิตผมก็จะผ่านไปอีกหนึ่งวัน.....

....อย่างว่างเปล่าและเดียวดาย.....



ผมหลับตาลงอย่างคนไม่รู้จะทำอะไรและไม่มีอะไรจะทำ

ถ้าต้องกลับบ้านที่ไม่มีใครคอย สู้อยู่ให้เสียงดนตรีเป็นเพื่อนคงจะดีกว่า


เบาะนั่งด้านข้างยุบยวบลงจนรู้สึกได้....แต่ผมไม่ได้สนใจจนกระทั่งสัมผัสอุ่นร้อนแตะทาบตรงข้อศอก
ผมเบี่ยงแขนหนีก่อนจะชักสายตาตำหนิใส่


แขกไม่รับเชิญไร้มารยาทคนนั้นเป็นผู้ชายผิวขาวจัด.....ปากสีแดงบนใบหน้าหล่อเหลาพึมพำคำขอโทษพร้อมรอยยิ้มสุภาพ


“ผมอัคนี อัครสิริ หรือเรียกว่า สายฟ้า ก็ได้ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”


อ้อ นายคนดังนี่เอง
ชื่อที่ผมเพิ่งได้ฟังคือชื่อเดียวกับที่ฟุ้งอยู่ทั่วมหาวิทยาลัยขนาดลอยเข้าหูพวกไม่ใส่ใจโลกอย่างผมได้


คนดังประจำมหาลัยแนะนำตัวเองว่าอยู่คณะสถาปัตยกรรม เห็นชุดนักศึกษาของผมเลยอยากจะทำความรู้จักในฐานะเพื่อนร่วมสถาบัน ไม่น่าเชื่อนักหรอก จุดประสงค์มันออกจะใสสะอาดผิดฉายาราชาคาสโนว่าเกินไปหน่อย


ผมคงไล่ตะเพิดหรือไม่ก็ลุกหนีซึ่งๆหน้าไปแล้ว...

ถ้าเขาจะไม่เข้ามาในจังหวะที่ผมอ่อนไหวไปกับอารมณ์บ้าบอคอแตกอย่างตอนนี้

เขาคุยเก่งและมีรอยยิ้มน่ามองจนผมเริ่มผ่อนคลาย บทสนทนาแกล้มเสียงหัวเราะดำเนินไปจนกระทั่งเขากระซิบถามผมข้างใบหู


“ไปหาที่สงบๆคุยกันสองคนดีไหม”


ผมเข้าใจความหมายของประโยคคำถามนี้ดี

แต่ก็ยังยื่นมือออกไป


ไม่ใช่ความมึนเมาจากเมรัยรสหวานหรือความร้อนแรงที่ผู้ชายคนนี้ปรนเปรอ

สิ่งที่ผมต้องการ....

ก็แค่ใครสักคนที่จะทะนุถนอมผมเหมือนสมบัติล้ำค่า


จะหลอกลวงก็ช่าง
ผมอยากได้อ้อมแขนที่จะช่วยผมจากความหนาวเหน็บที่เรียกว่า

ความเหงา

ผมตื่นขึ้นมาพร้อมอาการปวดพร่าไปทั้งหัวจนต้องพยุงตัวลุกนั่งช้าช้า ไม่แปลกใจนักเมื่อพบว่าตัวเองอยู่ในห้องกว้างนี้เพียงลำพัง.....ผมไม่ได้อ่อนเดียงสาขนาดไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ที่สายฟ้าหยิบยื่นจะยืนยาวเพียงข้ามคืนเท่านั้น


ถึงอย่างนั้นก็ยังเหลือบสำรวจไปทั่วห้องโดยที่ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังหวังอะไรอยู่.....

สายตาผมสะดุดเข้าตรงปึกธนบัตรที่วางทับกระดาษแผ่นเล็กบนโต๊ะข้างเตียง ลายมือไม่คุ้นตาแต่คาดเดาตัวคนเขียนได้นั้น

ส่งให้ผมยอมฝืนสังขารร่างกาย รีบเอื้อมหยิบเพื่อจะอ่านข้อความบนนั้น


ค่าโรงแรมผมวางไว้ให้แล้ว ส่วนที่เหลือถือซะว่าเป็นค่าเสียเวลาของคุณ
อาจจะเสียมารยาท
แต่ขอให้คุณลืมเรื่องเมื่อคืนนี้ซะ

สายฟ้า



หน้าผมชาเหมือนถูกฟาดด้วยตัวอักษรสั้นๆพวกนั้นจนไม่คิดจะอ่านทวนซ้ำ แผ่นโน๊ตถูกขยำแล้วปาทิ้ง

ไม่ได้โกรธ...ในเมื่อผมเองทำตัวเหมือนเด็กใจแตก ยอมตามผู้ชายที่เพิ่งคุยกันครั้งแรกมาง่ายๆ


ผมแค่นยิ้มทั้งที่ไม่มีอารมณ์จะขำ

ถือซะว่าเป็นค่าเสียเวลางั้นหรือ....

ราคาถูกจังนะ,,,เรน


ผมโซซัดโซเซเข้าห้องน้ำ ไม่คิดจะแตะต้องหรือแม้แต่ย้อนมองค่าเสียเวลาที่สายฟ้าทิ้งไว้ดูต่างหน้า
ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ยังคั่งค้างทำให้ร่างกายหนักล้าไปหมด กระทั่งการปลดกระดุมยังยากลำบากเหลือเกิน


เอะ...
มือที่กำลังจัดการเสื้อเชิ้ตต้องชะงักเมื่อสำเหนียกถึงสิ่งผิดปกติ ผมพบว่าตัวเองยังสวมใส่เครื่องแบบนักศึกษาเต็มยศ
แม้แต่เนคไทหรือเข็มขัดก็ไม่มีร่องรอยว่าถูกหย่อนคลายสักนิด


หมายความว่ายังไงกัน ? ,,,

ความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลือนรางจนแทบจะเป็นศูนย์

เศษเสี้ยวเดียวที่ประทับแน่น...ฝังจำในความรู้สึก


คืออ้อมกอดอุ่นหวาน
ที่ทำให้ใจเต้นแรงได้ เพียงแค่นึกถึง


อยากได้...

ผมอยากได้ไออุ่นจากมือคู่นั้นอีกสักครั้ง

.......................................................

อยากพบ...

ความรู้สึกนั้นมากพอจะพาให้เด็กอักษรศาสตร์หนึ่งคนมายืนตุหรัดตุเหร่อยู่กลางคณะสถาปัตย์


เมื่อวาน หลังจากปล่อยให้สายน้ำเย็นฉ่ำสาดชะโลมล้างอาการมึนงงทั้งหลาย
สมองก็ปลอดโปร่งพอจะประมวลผลได้ว่าสายฟ้าไม่ได้ล้ำเกินไปกว่าการกอดหรือ....อาจจะจูบ


ซากมวนจำนวนมากในที่เขี่ยบุหรี่ ยืนยันให้รู้ว่าเก้าอี้บุนวมข้างหน้าต่างถูกใช้งานเป็นระยะเวลานานพอดู
ผมหย่อนธนบัตรทั้งหมดลงในตู้รับบริจาค ตัดสินใจจะกลับบ้านไปพักและ “ลืม” อย่างที่ใครคนนั้นร้องขอ


แต่ผมทำไม่ได้


ตัวผมที่เคยเมินเฉยได้กับทุกสิ่ง กลับต้องร้อนรนอึดอัดเพราะผู้ชายที่ครอบงำความคิดคำนึงของผมไว้จนสลัดไม่หลุด
ลองถามตัวเองว่ามันยากนักหรือกับการเลิกนึกถึงคนคนหนึ่ง....
ใช่ ... มันสมควรจะง่ายดายเหมือนใช้ยางลบลบรอยดินสอที่เขียนผิดพลาด


แล้วทำไมกัน....ทำไมสมองผมยังไม่ยอมลบภาพเขาออกไปเสียที


ผมพยายามคิดข้อเฉลยของอาการแปลกๆนี้หัวแทบแตก
เพียงเพื่อจะรู้สึกตัวในสิ่งที่ไม่สมควรเลยสักนิด


ผมไม่ควรชอบเขาเลย



ความอดทนสำแดงผลเมื่อคนที่รอคอยปรากฏตัวขึ้นในที่สุด ร่างสูงเดินตรงมาโดยไม่มีที่ท่าว่าจะมองเห็นผมเลยแม้แต่น้อย
ใบหน้าหล่อจัดนั้นกำลังให้ความสนใจกับบทสนทนาระหว่างเพื่อนในกลุ่ม


ผมตัวเกร็ง หายใจติดขัดด้วยความตื่นเต้นในขณะที่ขาเรียวยาวนั้นก้าวผ่านไป กลิ่นน้ำหอมคุ้นจมูกพาให้สติกระเจิดกระเจิงจนลืมคิดถึงความเหมาะสม ผมคว้าแขนแข็งแรงนั้นไว้ก่อนจะทันรู้ตัว


เขาชะงักหันมามองงงๆ แต่แล้วแววสงสัยในหน่วยตาคมก็พลันเข้มขึ้นอย่างขัดเคือง
ผมควรดีใจหรือเปล่าที่อย่างน้อยสายฟ้าก็ยังจำผมได้

“จะมาเรียกร้องให้รับผิดชอบหรือไง”

ริมฝีปากสีแดงยิ้มหยันเสริมเติมให้ถ้อยคำเชือดเฉือนนั้นบาดลึกยิ่งขึ้น ผิดกับน้ำเสียงแผ่วหวานเมื่อวานราวคนละคน ผมสูดหายใจเรียกขวัญตัวเอง

“คุณไม่ได้ทำอะไรที่ต้องรับผิดชอบนี่ครับ”

********************
,,,,โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2010 22:11:07 โดย Zhenelle[♥] »

timeless

  • บุคคลทั่วไป
เนื้อหาดูหนักๆดีจังครับ อ่านเเล้วเเอบสงสารนายเอก คนเราอ่อนไหวเเบบนี้... เศร้าอะ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
เป็นกำลังใจให้น้องชายของเฮีย

 :กอด1:



รอตอนต่้อไป เพราะมันสั้น อิอิ


 :fire:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ถูกใจนายเอกเป็นอันมาก
เหงาแต่ไม่ง่าย ไม่งี่เง่าแบบนี้ต้องถนอมค่ะ

เจิมและบวกหนึ่ง

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
มารอเป็นกำลังใจแล้วนะครับ

ออฟไลน์ LingNERD*

  • จบแล้ว...รักที่เคยมี *
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
ชั้นแวะมาดัน เด๋วมาอ่านนะ 555

ออฟไลน์ อนันตกาล

  • กาลเวลา ไม่อาจทำให้คนเปลี่ยน แต่ทำให้ความคิดเปลี่ยน
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +931/-14
มาอ่านแล้วว 

เดี๋ยวมาดิทเพิ่มพึ่งตื่น

ยังอึนๆๆ

benxine

  • บุคคลทั่วไป
ต่อจากพาร์ท ๑

เกือบปีแล้วที่ผมด้านหน้าดึงดันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของนายอัคนี  อัครสิริ....และเกือบปีเช่นกันที่สายฟ้ากันเรนไว้ ในฐานะตัวละครที่แสนจะน่ารำคาญ

ผมมายืนรอที่คณะสถาปัตย์บ่อยเสียจนกลุ่มเพื่อนสายฟ้าจำหน้าได้ นานวันเข้าก็ทักทายเล่นหัวถึงขั้นชวนร่วมโต๊ะโดยไม่สนเสียงคัดค้านของคนตัวโตสักนิด

สองคนที่ผมเจอเป็นประจำคือปฐพี หรือ หินที่เรียนภาคออกแบบอุตสาหกรรมเหมือนสายฟ้า และก้อนเมฆ หรือเมฆ คนรักของหินที่อยู่สถาปัตย์ภาคอินเตอร์ ทั้งคู่สนิทสนมกับสายฟ้ามาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายเพราะใฝ่ฝันถึงคณะเดียวกัน
ด้วยความที่คุยถูกคอ ผมจึงเรียกชื่อเล่นของคนทั้งสองได้ชินปากในเวลาไม่นานนัก

และไม่นานเช่นกันที่ผมบังเอิญสังเกตเห็นสายตาที่สายฟ้ามีให้เมฆ
แม้จะหลุดรอดออกมาน้อยนิดในยามที่สายฟ้าเผลอไผล แต่ช่างตีความได้ง่ายเหลือเกินสำหรับคนที่มองสายฟ้าด้วยสายตาแบบเดียวกันนั้นอยู่ตลอดเวลาอย่างผม

"สายฟ้ารักนายก้อนเมฆ"

ภายใต้ฉากหน้าเสเพล
สายฟ้าเก็บซ่อนคำตอบที่ไม่อาจครอบครองไว้อย่างมิดชิดแล้วสวมบทบาทเพื่อนที่ดีเสมอมา

โต๊ะหินอ่อนหน้าคณะวิศวะคือสถานที่ที่ผมจะมาพบคนทั้งสามตอนพักกลางวัน อันที่จริงผมไม่ได้ชื่นชอบช่วงเวลานี้มากนัก
ความทรมานเสียดแปลบขึ้นมาทุกครั้งที่สายฟ้าปฏิบัติราวกับผมเป็นฝุ่นธาตุที่ไม่อยากจะหายใจให้ระคายจมูก

แต่สองขาผมยังพามาหยุดที่นี่และทรมานตัวเองทุกวัน
ด้วยเหตุผลเดิมๆ

ผมอยากเจอนายสายฟ้า

“หิน! ฟังอยู่รึเปล่าเนี่ย”
เสียงโพล่งติดจะหงุดหงิดของเมฆดังแทรกภวังค์ฟุ้งซ่านทำเอาผมเผลอสะดุ้ง ผิดกับคนโดนเรียกที่แค่เหลือบตาจากนิตยสารรถยนต์แล้วเลิกคิ้วขึ้นนิดเดียว

“หิน...อ๊ะ!...”

เมฆวีนต่อได้ค่อนคำก็ต้องเซเพราะแรงฉุดของคนรัก หินตวัดทีเดียวจอมโวยวายก็สิ้นฤทธิ์อยู่ในวงแขนเรียบร้อย

“ถ้านายหยุดดิ้น ชั้นจะพาไปร้านเค้กที่นายพูดเย็นนี้เลยดีไหม”

แค่นั้นหน้างอง้ำของเมฆก็แย้มร่าสดใสทันที ยอมซบอกกว้างนิ่งๆให้หินได้อ่านหนังสือต่ออย่างสบายอารมณ์
ซีนหวานชื่นมื่นนั้นทำให้ผมอดจะเหลือบมองผู้ชายตัวโตอีกคนหนึ่งไม่ได้

สายฟ้ากำลังขะมักเขม้นกับแมกกาซีนรถยนต์จนเหมือนจะลืมใส่ใจเรื่องราวรอบตัว
แต่มือที่เกร็งแข็งจนข้อนิ้วซีดขาวนั่น....จะให้ผมเชื่องั้นหรือว่าสายฟ้าไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร

แล้วจู่ๆ.....โครงหน้าคมจัดก็เงยขึ้นมาประสานตาให้ผมสะดุ้งเป็นคำรบสอง

“เรน เย็นนี้ว่างไปดูหนังกันมั้ย”

ผมนิ่ง....ความเคลือบแคลงสั่งให้ผมคิดหาข้ออ้างปฏิเสธ แต่น้ำเสียงออดอ้อนที่เขาใช้ไล่ให้ผมจนแต้ม ยอมพยักหน้าเบาๆไปจนได้

แวบหนึ่งที่มุมปากแดงอิ่มกระตุกขึ้น
ผมก็ชักจะคาดเดาจุดประสงค์ของสายฟ้าได้ลางเลา

.


.




.




.

.

.
.


หนึ่งชั่วโมง....


สองชั่วโมง....


ผมรอมานานเท่าไหร่แล้วนะ?

คำถามเดิมเดิมผุดขึ้นในหัวขณะที่ยืนแหงนมองท้องฟ้าสีเทาครึ้มเพราะกลุ่มเมฆฝน....
ผมคงจะยังรอต่อไปเรื่อยๆถ้าหยดน้ำเย็นๆไม่หล่นลงกระทบปลายจมูก
พื้นคอนกรีตปรากฏรอยเปียกเป็นจุดดวง อึดใจเดียวถนนคนเดินก็เกลื่อนไปด้วยร่มหลากสีสัน

ผมวิ่งหลบไปอาศัยชายคาของอาคารร้านค้าแถวนั้นเป็นเครื่องกำบัง ตัดสินใจกดโทรศัพท์หาสายเผื่อว่าจะคลาดกันเพราะสายฝน

ฟังเพลงรอสายอยู่สักพักอีกฝ่ายจึงกดรับ แต่เพราะไม่มีเสียงคนพูดทำให้ผมไม่แน่ใจนักว่าเครือข่ายสัญญาณรวนเพราะสภาพอากาศหรือเปล่า

ผมกดหูแนบกับโทรศัพท์เพื่อจะฟังให้ชัดขึ้น....แล้วผมก็ได้ยิน

เสียงของสายฟ้าพูดคุยหยอกล้อกับใครบางคน

เสียงทุ้มแหบกลั้วหัวเราะ น่าฟังอย่างที่ผมไม่เคยได้รับ

ผมพับมือถือปิด....แค่นี้ก็เพียงพอจะช่วยยืนยันในสิ่งที่ผมเองรู้ดี แต่ยังรั้นยืนรอด้วยความหวังลมๆแล้งๆ
ก็เหมือนทุกครั้ง....ที่สายฟ้าแค่แกล้งสร้างนัดหลอกๆแล้วปล่อยให้ผมคอยเก้อเพื่อระบายความหงุดหงิดเรื่องหินกับเมฆ เหมือนเด็กที่โกรธแต่ไม่มีกำลังพอจะตอบโต้จึงลงโทสะเอากับข้าวของใกล้มือ

และผมคือของใกล้มือสายฟ้า

ไม่มีค่า ไม่สำคัญ ไม่ต้องถนอมรักษา
จะแตกหักยับพังตรงไหนก็ไม่น่าใส่ใจ

สายฟ้าถึงทำร้ายได้โดยไม่ลังเล

ผมสาวเท้ามุ่งไปยังโรงภาพยนตร์ ทำตัวไร้เหตุผลด้วยการซื้อตั๋วสองใบแล้วเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมขนาดกว้าง สถานที่สำหรับคู่รัก

ในที่ที่ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครจ้องมอง
ภายใต้ความมืดที่ผู้คนสนใจเรื่องราวบนจอภาพ

ผมปล่อยให้น้ำตาไหลรินลงมาเงียบๆ


น้ำตาจากของไร้ค่าที่มีหัวใจ


.................................................................


“เป็นหวัดเหรอสายฟ้า”

เมฆถามขึ้นหลังจากที่ได้ยินผู้ชายตัวใหญ่จามติดๆกันสามครั้ง ผมไม่สนใจหรอก จะเป็นหวัดมันก็สาสมแล้วกับที่ปล่อยให้ผมยืนรออย่างนั้น....สายฟ้าใช้หลังมือถูจมูกพลางพยักหน้า

“นิดหน่อยน่ะ เมื่อวานโดนฝนตอนไปส่งน้ำใส”

แล้วผมก็ได้รู้คำตอบพร้อมกันถึงสองข้อ หนึ่งคือสายฟ้าไม่สบาย และสอง คือชื่อเจ้าของเสียงหวานๆที่ผมได้ยินผ่านโทรศัพท์....

ความจริงที่เปรียบเสมือนค้อนแข็งหนัก ตอกซ้ำย้ำซัดให้สำนึกความโง่เง่าเขลาขลาดของตัวเอง

“เดี๋ยวสิ เมื่อวานนายนัดดูหนังกับเรนจังไม่ใช่เหรอ”

“อา...แย่ล่ะ ขอโทษทีนะเรน ชั้นลืมสนิทเลย”

ผมเข้าใจ....เหมือนที่สายฟ้าต้องการให้เข้าใจ
ไม่มีอะไรในแววตาของสายฟ้า นอกเหนือไปจากความสะใจ....สาแก่ใจในชัยชนะ
คำขอโทษที่ไม่ได้หมายความมากเกินกว่าคำสมน้ำหน้า เยาะหยันถากถางลูกไก่โง่ๆที่ไม่เคยคิดหาทางหนีจากมือสายฟ้า

แค่สายฟ้าออกแรงบีบก็ขาดอากาศตายง่ายดาย.....เพียงแต่สายฟ้าเลือกที่จะคลายมือในวินาทีสุดท้าย
และหัวเราะขบขันสภาพน่าสังเวชนั้น

“ไม่เป็นไร”

ยิ่งแสดงออก...สายฟ้าก็ยิ่งเพิ่มแรงเค้น
ผมจึงเลือกจะซ่อนความเจ็บปวดไว้ภายใต้สีหน้าและน้ำเสียงเรียบเฉยอย่างที่ทำได้ดีเสมอมา

เมฆทำเสียงฟึดฟัดไม่เห็นด้วยที่ผมยอมยกธงง่ายๆ แต่ในเมื่อเจ้าทุกข์ไม่ถือสา เมฆก็มีมารยาทพอจะไม่หาความต่อ

อาการกลางวันมื้อนั้นกร่อยไปถนัดตาและจบลงด้วยการขอตัวแยกกลับคณะภาคของหินกับสายฟ้า ผมว่างคาบบ่ายเลยเสนอตัวเดินไปส่งเมฆถึงห้องเลคเชอร์

“ให้ตายสิ เพื่อนชั้นมันกลายเป็นผู้ชายใจร้ายใจดำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

เสียงบ่นพึมพำจากปากของเมฆ ฟังดูก็รู้ว่าหนักใจเพราะห่วงเพื่อนมากกว่าจะกล่าวหาว่าร้าย ผมยิ้มให้ความใจดีนั้นโดยไม่ได้พูดตอบโต้อะไร จนเราสองคนมาหยุดตรงหน้าห้องเรียนขนาดใหญ่ผมจึงดึงแขนรั้งตัวเมฆไว้


“สายฟ้าแค่มีทางมากมายให้เลือก....แล้วตัวสายฟ้าเองก็มีสิทธิ์จะเลือกคำตอบ....มันก็แค่นั้น”


คนรักของหินขมวดคิ้วมุ่นคิดตามคำพูดที่ได้ฟัง ก่อนจะพยักหน้าหงึกหงัก

“เฮ้อ ภาวนาให้เป็นอย่างนั้นเถอะ....อยากรู้นักว่าคำตอบของหมอนั่นจะเป็นใคร”

ผมจุดยิ้ม รุนไหล่ให้อีกฝ่ายเข้าไปจับจองที่นั่ง ก่อนจะหันหลังก้าวเท้ากลับในเส้นทางเดิม....
รอยยิ้มปั้นแต่งที่สร้างขึ้นมากลบเกลื่อนอารมณ์สั่นไหวยังฉาบเต็มริมฝีปาก

อย่ารู้เลย...ก้อนเมฆ....
คำตอบที่สายฟ้ายอมทนเก็บซ่อน เพียงเพราะไม่อยากเห็นคุณเสียใจ
รักของนายสายฟ้าไม่ได้มีเพื่อทำร้ายนายก้อนเมฆ

และมันก็เป็นเหตุผลเดียวกันกับที่ผมจะปิดปากอยู่อย่างนี้

เพราะรักของผมไม่ได้มีไว้เพื่อทำร้ายนายสายฟ้าเช่นกัน

..........................................................

,,, จบพาร์ท ๑
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2010 22:12:43 โดย Zhenelle[♥] »

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาให้กำลังใจก่อน
เด๋วค่อยย่องไปอ่าน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aiwjun

  • aiwjun
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
 :serius2:  สงสารเรนอ่ะ

เกลียดนายสายฟ้าแล้ว

คอยดูน่ะถ้าเรนไม่สนใจจะสมน้ำหน้า   :angry2:


Classical

  • บุคคลทั่วไป
 :z13: :z13: :z13:




ตามมาอ่านแล้วนะ

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
รักของนายสายฟ้าไม่ได้มีเพื่อทำร้ายนายก้อนเมฆ

และมันก็เป็นเหตุผลเดียวกันกับที่ผมจะปิดปากอยู่อย่างนี้

เพราะรักของผมไม่ได้มีไว้เพื่อทำร้ายนายสายฟ้าเช่นกัน



It's true............ :กอด1:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
  :mc4: เรื่องสั้นอีกแล้ว พักนี้มีแต่เรื่องสั้นมาให้อ่าน
เรื่องเปิดเรื่องโอเคทีเดียว โดยรวมค่อนข้างดีจ้า
เนื้อเรื่องชวนในติดตามว่าแล้วอะไรคือบทสรุปของเรื่องนี้ อะไรคือคำตอบ
แม้ว่าบางคนอาจคิดว่านั่นล่ะคำตอบสุดท้ายแล้วของเค้า
แต่บางทีมันก็ไม่มีอะไรแน่นอนหรอก เพราะเรื่องของหัวใจมันเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
แล้วจะรออ่านต่อน๊า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2010 22:53:26 โดย [N]€ẃÿ{k}uñĢ »

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
โอย...

เจ็บปวด



นายทนได้ยังไงนะเรน

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
เศร้าจังเลยค่ะ ทนอยู่ได้ยังไง

เป็นเค้าหนีไปนานเเล้ว

เอาใจช่วยห่างๆนะคะ

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
ห้ามเศร้านะตัว :monkeysad:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ BlackClover

  • ◥≡Pe'un≡◤
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
โอ้  อ่านแล้วเจ็บปวดดีแท้ ให้กำลังใจค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Phing

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
เนื้อเรื่องเขียนดีมากเลย o13

 :monkeysad:เจ็บปวดนิดๆๆ
เศร้าแต่ก็ชอบเรื่องแนวนี้

 :กอด1:

+1เป็นกำลังใจให้จร้า

benxine

  • บุคคลทั่วไป
พาร์ท ๒


เครื่องมือสื่อสารสั่นสะเทือนกระทบโต๊ะไม้ดังครืดคราด หน้าจอเปล่งแสงวิบวับเป็นสัญญาณเตือนว่ามีข้อความเข้า ผมคว้ามือถือตัวจ้อยแล้วล้มแผ่ลงบนเตียงนุ่ม การแช่น้ำอุ่นช่วยให้สบายตัวจนต้องฮัมเพลงเบาๆในลำคอขณะเปิดดูข้อความ

“มาหาชั้นหน่อยสิ
ร้านที่เราเจอกันครั้งแรก”
สายฟ้า

ผมกำโทรศัพท์ค้าง
รู้สึกไม่ต่างจากเชือกไหมพรมที่ถูกดึงเล่นจนพันกันยุ่งเหยิงสักเท่าไหร่

สับสน

ผมอิงศีรษะกับผนังห้อง หลับตาลงอย่างอ่อนแรง
ไป หรือไม่ไป

ผมถอนหายใจแรงขณะดึงโค้ทกันลมออกจากไม้แขวน ผมก็ยังเป็นผม
ที่โง่งมกับสายฟ้าได้ทุกเรื่อง



ครึ่งชั่วโมงต่อมาผมก็มาหยุดยืนอยู่หน้าประตูกระจกติดฟิล์มสีมืด ป้ายไฟสีฉูดฉาดบอกให้แน่ใจว่ามาถูกร้าน...ผมสูดหายใจลึกก่อนจะผลักบานกระจกหนาเข้าไปในแสงสลัวนั้น

นีออนสีชมพูสว่างพอจะมองหาคนได้ไม่ลำบากนัก เสียเวลาไม่นานก็พบเจ้าของข้อความที่เรียกผมมาถึงที่นี่
สายฟ้าก็ยังเป็นนายสายฟ้าที่โดดเด่นและมีผู้หญิงมากมายรุมล้อมเอาอกเอาใจเหมือนทุกครั้ง....ตัวเลือกของสายฟ้ามีอยู่ล้นเหลือเสมอ วูบหนึ่งที่ผมอยากจะหันหลังกลับ แต่คิดอีกทีมันก็คือเรื่องปกติที่ผมควรจะชินชาได้แล้ว

ผมเดินเข้าไปใกล้ และหินที่นั่งทำหน้าเบื่ออยู่ในกลุ่มเป็นคนแรกที่เห็นผม หินสั่นหน้าทำท่าอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่เพราะอาการนั้นทำให้คนอื่นพากันจ้องผมเป็นตาเดียว


“เชื่องอย่างที่คุยมั้ยล่ะ สั่งให้มาก็มา”


หนึ่งคนที่ไม่แม้แต่จะปรายตามามอง คือสายฟ้าที่เจตนาพูดเสียงดังให้แน่ใจว่าผมจะได้ยิน
และผมก็ได้ยินมันอย่างที่เขาหวัง

เจ็บ อย่างที่สายฟ้าหวัง

“คงคิดว่ามาแล้วนายจะสงสารบ้างล่ะม้าง ฮ่าฮ่าฮ่า”

เพื่อนที่ดูจะเมาได้ที่คนหนึ่งโพล่งออกมาดังลั่นจนคนอื่นต้องรีบยัดแก้วเหล้าเข้าปาก

ผมบังคับตัวเองให้นิ่งสงบ....เลือกจะมาทั้งที่รู้...จะโดนหัวเราะเยาะมันก็ช่วยไม่ได้
ผมยิ้มอย่างผู้แพ้ก่อนจะตอบเบาๆ

“ครับ...ถ้าผมจะมีดีในสายตาเขาขึ้นมาบ้าง ต่อให้ต้องคลานมาผมก็จะทำ

ทุกถ้อยทุกคำ....ไม่ได้เคลือบแฝงการประชดประชันเสียดสีหรือตัดพ้อต่อว่า....
ผมพูดตามความคิดโง่ๆของตัวเอง.....ความคิดที่สายฟ้าช่วยพิสูจน์ด้วยรอยยิ้มเย็นชาแล้วว่า

มันไม่มีค่า

ผมยิ้มให้สายฟ้าแล้วถอยห่างออกมา

จบหน้าที่ของ “ ตัวตลก ” แล้ว


สองขาฝืนก้าวมาได้แค่บันไดหน้าร้านก็ต้องทรุดตัวลงอย่างคนเสียศูนย์ เสียงประตูเปิดด้านหลังบอกให้รู้ว่าควรจะลุกขึ้นสักที ตรงนี้พลุกพล่านเกินกว่าจะมานั่งแสดงความอ่อนแอให้ใครมอง...ยังอายไม่พออีกหรือเรน
ผมเตรียมจะหยัดกายยืน คนมาใหม่ก็ดันไหล่ให้นั่งลงตามเดิมแล้วยองตัวลงมายื่นแก้วบรรจุน้ำสีใสให้ผม

เป็นหินนั่นเอง ใบหน้าคมขรึมไม่มีรอยยิ้ม แต่กริยาเอกเขนกตามอารมณ์นั้นสร้างบรรยากาศสบายๆได้อย่างประหลาด ผมขอบคุณน้ำใจของหินแล้วรับแก้วมาจิบตามมารยาท กลิ่นแอลกอฮอล์อ่อนๆกับรสอุ่นที่ล่วงผ่านลำคอแห้งผากช่วยให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่สิ่งที่ช่วยเยียวยาจริงๆคงเป็นมือใหญ่ที่ลูบหัวผมเบาๆโดยไร้คำปลอบโยนกระมัง

“เลิกซะไม่ดีกว่าหรือ”

ความห่วงใยในน้ำเสียงช่วยยืนยันว่าหินเป็นคนใจดีกว่าที่แสดงออก
ผมตอบหินได้ทันที...เพราะมันเป็นคำถามเดียวกันกับที่ผมถามตัวเองซ้ำซากอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

“ผมรออยู่น่ะฮะ”

หินเลิกคิ้วเป็นเชิงสั่งให้ผมขยายความ ผมเสยกแก้วขึ้นจิบอีกครั้งเพื่อเรียบเรียงคำอธิบาย
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับคนที่เงียบเก่งกว่าพูดอย่างผม

“ผมเชื่อว่าคนเรามีขีดจำกัด....แล้วผมก็แค่รอให้ถึงขีดจำกัดนั่น....เผื่อว่าถ้าเจ็บจนทนไม่ได้ขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมอาจจะกล้าตัดใจจากคนคนนั้นเสียที”

ตาผมจรดอยู่ที่หัวเข่า ไม่กล้ามองหน้าหินตรงๆ
ผมกลัวจะได้รับแววตาสงสารมาให้รู้สึกสมเพชตัวเองอีกครั้ง

ถึงจะอยากหัวเราะแล้วบอกว่า ไม่ต้องห่วง ผมชินจนชา
แต่ผมทำได้แค่บอกลาหินด้วยรอยยิ้มหมองเศร้า

แค่บังคับน้ำตาไม่ให้ไหล ผมก็เต็มกลืนแล้ว


ยังไม่ทันก้าวขาออกเดิน ประตูบานเดิมก็เหวี่ยงเปิดพร้อมเสียงเรียกชื่อหินดังลั่น ผมคงถือโอกาสนี้ปลีกตัวกลับเงียบๆถ้าเพียงแต่ประโยคต่อมาจะไม่มีชื่อสายฟ้าอยู่ในนั้น


“หิน! ไอ้สายฟ้าล้มไปแล้ว!”


ผมกับหินช่วยกันพยุงสายฟ้าให้นอนพักบนเตียงอย่างทุลักทุเล
ตัวนายสายฟ้าร้อนเหมือนไฟ....คงเพราะเป็นหวัดอยู่แล้วยังจะเอาร่างกายไปแช่อากาศหนาวๆแถมดื่มเครื่องมึนเมา ตัวใหญ่แค่ไหนก็ทรุดได้ล่ะ


“ไอ้บ้าเอ้ย ไม่สบายยังสะเหร่อไปเที่ยวให้เพื่อนเดือดร้อนอีก”

หินบ่นปนสมน้ำหน้า ใช้ปลายเท้ากระทุ้งขาเพื่อนแรงๆอย่างหมั่นไส้ก่อนจะหายตัวเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้ผมยืนเกร็งอยู่ในห้องส่วนตัวสายฟ้าที่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีโอกาสมาเหยียบ

ผมคุกเข่าลงข้างเตียงที่คนทั้งป่วยทั้งเมานอนอยู่ เอื้อมมือไปทาบสัมผัสบนหน้าผากขาวนั้นแผ่วเบา

ครู่เดียว หินก็กลับมาพร้อมผ้ากับถังน้ำอุ่นซึ่งถูกยัดใส่มือผมทันทีโดยไม่ไถ่ถามความสมัครใจใดใดทั้งสิ้น

“ชั้นต้องรีบกลับ ฝากไอ้สายฟ้าไว้กับนายได้หรือเปล่า”

ผมพยักหน้ารับงงๆหินจึงอธิบายตำแหน่งที่วางของใช้จำเป็นทั้งหลายให้ฟังคร่าวๆ ก่อนจะเอ่ยลาแล้วคว้าเสื้อโค๊ทเดินฉับออกไปรวดเร็วจนแทบจับต้นชนปลายไม่ถูก

เสียงปิดประตูช่วยกระแทกให้ประสาทผมหายเบลอและสำนึกได้ในเวลาเดียวกัน

ผมอยู่กับสายฟ้า....สองต่อสอง


เกือบหลุดขำตัวเองที่เพิ่งมาใจเต้นแรงเอาป่านนี้ สะบัดหัวเรียกสติสตังให้กลับร่าง
สายฟ้าป่วยอยู่เห็นหรือเปล่า ไม่ใช่เวลามาดีใจนะนายเรน สั่งตัวเองแบบนั้นแต่ผมก็หุบยิ้มไม่ลงอยู่ดี

เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อให้คนตัวใหญ่เสร็จก็มานั่งพาดแขนวางปลายคางเกยบนขอบเตียง....

ที่นี่....ตอนนี้...มันคือช่วงเวลาที่มีความหมายสำหรับผมมากมายนัก
ได้มองสายฟ้าเท่าที่อยากมอง....ได้รักสายฟ้าเท่าที่อยากรัก....


ผมไล้แตะข้างแก้มขาวเพื่อวัดอุณหภูมิ แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อมืออุ่นจัดกำรอบข้อแขนของผม สายฟ้าขยับพลิกตัวให้ผมต้องกลั้นหายใจลุ้นก่อนจะนิ่งไปทั้งที่ยังพันธนาการมือผมไว้ไม่ยอมปล่อย

ผมหันรีหันขวางกระวนกระวาย แรงเกาะกุมไม่แน่นหนานักแต่ผมไม่กล้าจะสะบัดหนี ตลกแย่แน่ถ้าสายฟ้าตื่นมาเห็นผมอยู่ในห้องตัวเองแบบนี้ พยายามบิดมือออกเบาๆเขาก็ดันกระชับแน่นเข้าเสียอีก

รอยยิ้มเปื้อนแก้มที่ก่ำแดงเพราะพิษไข้เหมือนชอบใจมือผมนักหนานั้นทำเอาผมใจอ่อน ล้มเลิกความคิดจะดึงแขนกลับ นายสายฟ้าที่ไร้กำแพงน้ำแข็งห่อหุ้ม...แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเป็นคนคนเดียวกับที่ทำร้ายผมสาหัสสากรรจ์ได้หน้าตาเฉย

ผมเกือบจะหลุดขำท่าทางที่สายฟ้าดึงมือผมไปกอดแนบกับตัว ถ้าเพียงแต่สายฟ้าจะไม่พูดออกมาแค่คำเดียว




“เมฆ”



คำเดียวที่ฆ่านายเรนคนนี้ทั้งเป็น



ผมกัดปากตัวเองกลั้นเสียงสะอื้นฮัก พยายามแหงนเงยหน้า....แต่น้ำสีใสก็ยังไหลลงอาบเปรอะเต็มทั้งสองข้างแก้ม


“ก้อนเมฆ”


ถึงจะยกมือขึ้นปิด ซุกหน้าลงกับหัวเข่ายังไงก็ยังได้ยิน
เสียงเรียกชื่อใครอีกคนที่ผมต้องรับฟัง
เจ็บ....เจ็บ....เจ็บ....
เจ็บเหลือเกิน



“เมฆ

ผมชื่อเรน






“เมฆ”

ผมชื่อเรน



“อยู่กับชั้นนะ เมฆ”


ผมชื่อเรน




“อืม...หลับเถอะ...ชั้นจะ....อยู่ข้างๆนายนะ”

ผมกระชับมือตอบ กระซิบข้างหูเขาด้วยน้ำเสียงสั่นระริกพลางซับเม็ดเหงื่อที่ผุดตามไรผมและแนวคางให้คนป่วยนอนสบายตัวขึ้น สายฟ้ายิ้มกว้างก่อนจะเงียบเสียงลง ลมหายใจหนักหน่วงค่อยผ่อนจนสม่ำเสมอ

ผมเบือนหน้าหนี

นี่ไงล่ะเรน....

รอยยิ้มของเขา....น้ำเสียงของเขา...ไออุ่นของเขา....
ทั้งหมดทั้งมวลที่นายเรียกร้องต้องการมาตลอด

สะใจดีไหมที่ได้มันมาทั้งหมด



แต่ไม่มีอะไรเป็นของนายเลย
สักอย่างเดียว




ผมร้องไห้ให้กับความสมหวังอันแสนโหดร้ายเงียบๆ
สัมผัสอ่อนโยนจากฝ่ามือใหญ่ที่เฝ้าใฝ่ฝัน เกาะเกี่ยวกุมมือผมไว้อย่างทะนุถนอม....ความละมุนละม่อมที่นายสายฟ้ามีเพื่อนายก้อนเมฆ....กำลังซัดกระหน่ำให้ผมเจ็บร้าวไปทั้งใจ


พระเจ้า....ท่านโกรธเกลียดผมนักหรืออย่างไร....
ถึงแกล้งประทานสิ่งที่ผมโหยหามาวางตรงหน้า แต่ไม่อนุญาตให้ครอบครองเช่นนี้
หรือท่านต้องการจะย้ำให้เจ็บ ซ้ำให้จำ

ต่อให้ดิ้นรนสักเท่าไหร่....ผมก็ไม่เคยมีตัวตนสำหรับนายสายฟ้าคนนี้เลยสักนิดเดียว

....................................................................

ออฟไลน์ BlackClover

  • ◥≡Pe'un≡◤
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
เจ็บแปล๊บขึ้นมาทันที อกหักใช่ไหมแบบนี้ (เหมือนบ่งบอกอายุคนเม้น =*=)

ตัดใจเถอะเรน  คนไม่เห็นค่าของเราอ่ะ

ตอนนี้สายฟ้ามันเจ็บปวดเ้พราะรักคนที่ไม่สมควรรัก  ปล่อยให้มันเจ็บไปคนเดียวเถอะ

ถอยออกมาซะ ...รักห้ามใจไม่ได้  แต่เราห้ามไม่ให้ตัวเราไปใกล้กับเขาได้นี้


benxine

  • บุคคลทั่วไป
เจ็บแปล๊บขึ้นมาทันที อกหักใช่ไหมแบบนี้ (เหมือนบ่งบอกอายุคนเม้น =*=)

ตัดใจเถอะเรน  คนไม่เห็นค่าของเราอ่ะ

ตอนนี้สายฟ้ามันเจ็บปวดเ้พราะรักคนที่ไม่สมควรรัก  ปล่อยให้มันเจ็บไปคนเดียวเถอะ

ถอยออกมาซะ ...รักห้ามใจไม่ได้  แต่เราห้ามไม่ให้ตัวเราไปใกล้กับเขาได้นี้



ขอบคุณเหยื่อรายแรก เอ้ย คนเม้นนแรกคร๊าบบ

คิคิ 

ดูกันต่อไป อีกไม่กี่ตอนก็จบล่ะ

คิคิ

Donpopper

  • บุคคลทั่วไป
อย่าไปรอเลยครับ คนที่ไม่มีค่ายังไงก็ไม่มีค่า

คนๆหนึ่งหากเขาต้องเลือกที่จะทำร้ายคนใดคนหนึ่ง ระหว่างคนที่เขารัก กับคนรักเขา

คนยอมที่จะทำร้ายคนที่รักเขา เพราะไม่ว่าอย่างไร คนที่รักเขาก็ไม่มีทางจะทิ้งเขาไปง่ายๆหรอก

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
+1 ให้เลยสำหรับตอนนี้ ภาษาดีกว่าตอนที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด อิอิ
ดีกรีความเศร้าทำให้นึกไว้ถ้า ซินเขียนจะต้องดรามาทิกแน่เลย แล้วจะรออ่านต่อ

ออฟไลน์ Phing

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1489
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-0
 :sad11:
 สงสารเรนอะ
แต่ก็เลิกเถอะ ตัดใจจากสายฟ้าเถอะ
ยิ่งเราวิ่งตาม เค้าก็ยิ่งวิ่งหนีเรา

 :L2:เป็นกำลังใจให้จร้า

ออฟไลน์ Cha Ris Ma

  • สาระไม่ค่อยมี...หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +670/-0
 :o12:
ไม่น่าเชื่อว่าแค่คืนเดียว
ทำให้คนคนนึงเป็นไปได้ถึงขนาดนี้

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
ฮืออออ
ร้องไห้เลยอ่ะ
สายฟ้าบ้า
นิสัยอ่ะ
ล้อเล่นกะหัวใจคนแบบนี้ได้ไงอ่ะ
เรน ถึงขีดจำกัดซักทีเหอะ
เจ็บแล้วจำ
แล้วเลิกยุ่งกะคนแบบนี้ซักที
มันจะเจ็บไม่เลิกนะเว่ย
ถ้าเค้าไม่เห็นค่าเรา
เราก้อเลิกเห็นค่าของเค้าซักที

สงสารเรนโว้ยยยยยย

ออฟไลน์ Ayame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
อ่านแล้วเจ็บแทนเรน   :m15:

หวังว่าเรนจะถึงขีดจำกัดเร็วๆ จะได้ตัดใจได้ซะที 

อีกไม่กี่ตอนจะจบแล้วเหรอ ไม่เอานะ สายฟ้ายังไม่เจ็บเหมือนที่เรนเจ็บเลย   :sad4:


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด