[ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289  (อ่าน 483841 ครั้ง)

boofuu

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่4 11.06 - 13/06/10
«ตอบ #120 เมื่อ20-06-2010 18:48:31 »

มาช่วยดันๆๆ  :z1:

autthawat

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่4 11.06 - 13/06/10
«ตอบ #121 เมื่อ21-06-2010 13:04:59 »

รอครับ...........

kimagain

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่4 11.06 - 13/06/10
«ตอบ #122 เมื่อ21-06-2010 20:20:40 »

รออยุ่น๊า :sad4:

MM.Dog

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่4 11.06 - 13/06/10
«ตอบ #123 เมื่อ22-06-2010 20:02:56 »

หายปายเลยอ้ะ

อยากรู้ความเป็นไปแล้วนะคะ  กรุณามาต่อด่วน

ออฟไลน์ pu4755

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่4 11.06 - 13/06/10
«ตอบ #124 เมื่อ25-06-2010 10:00:44 »

แวะมารอตอนต่อไปจ้า 

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่4 11.06 - 13/06/10
«ตอบ #125 เมื่อ25-06-2010 12:40:23 »

ได้เวลาอาบน้ำแล้วซิ
ฮ่าฮ่าฮ่า

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่4 11.06 - 13/06/10
«ตอบ #126 เมื่อ25-06-2010 19:20:15 »

แวะมาดันจ้า

รออ่านอยู่น้า ^^

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่4 11.06 - 13/06/10
«ตอบ #127 เมื่อ26-06-2010 11:36:26 »

   หรือว่า?
    พาทิศพุ่งเข้าไปที่รูเล็กๆ ทางซ้ายของหัวเตียงเขาอย่างรวดเร็ว ไม่รอช้าที่จะแนบดวงตาข้างขวาลงไปที่รูนั้น แล้วก็ต้องยิ้มขึ้นที่มุมปากเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้าเข้า ใต้ฝักบัวนั้นเองมีสิ่งสิ่งหนึ่งที่ ถูกน้ำไหลซ่าลงบนตัวกระเด็นลงพื้นปูกระเบื้อง เป็นเสียงซู่คล้ายฝนตกอย่างที่เขาได้ยิน
    หนุ่มน้อยผิวบางนวลเนียน สีขาวจัดตัดกับเส้นผมสีดำขลับที่ตัดไว้เป็นทรงหลักแจว อย่างหยาบๆ ดวงหน้าที่ได้เห็นใกล้ชิดเพียงนี้ดูจับใจพาทิศอย่างน่าประหลาด ตั้งแต่คิ้วเข้มเหนือดวงตาคู่เล็กเป็นประกาย จมูกค่อนข้างโด่ง มาจนถึง ริมฝีปากเล็กๆสีชมพูใส ที่ทำให้พาทิศอดคิดไม่ได้ว่าหากเขามีโอกาส ชายหนุ่มจะอยากจุมพิตริมฝีปากคู่นั้นให้ได้อย่างเนิ่นนานเพียงใด ถัดต่ำลงมาเป็นเรือนร่างที่ดูอ้อนแอ้นต่างจากชายหนุ่มทั่วไปที่เขาพบเห็น เอวบางคอด ราวกับเอวสตรี ตัดกันกับหน้าอกแบนราบ และ สิ่งที่อยู่ถัดลงมาเป็นสิ่งที่บ่งบอกให้รู้ว่า หนุ่มน้อยตรงหน้านี้ เป็น “หนุ่มน้อย” จริงๆ ไม่ใช่ หญิงสาวที่ไหน
    ผู้ที่ถูกจ้อง ไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนที่อยู่อีกฝากหนึ่งของบ้านกำลังมองลอดรูเล็กๆมายังเขา หนุ่มน้อยได้แต่นั่งทอดอาลัย มองอย่างไร้จุดหมายไปที่เพดาน ให้น้ำไหลกระทบร่างราวกับจะให้สายน้ำนั้นชะล้างความเศร้าโศกในหัวใจออกไปให้สิ้น ปากบ่นพึมพำซ้ำไปซ้ำมา ด้วยคำที่พาทิศไม่อาจจับได้ว่า เป็นคำว่าอะไร
   ภาพตรงหน้าแม้จะกระตุ้นให้กิเลสในใจ ของพาทิศเรียกร้องอะไรบางอย่างมากเพียงใด แต่ก็ไม่อาจสู้ความรู้ผิดทุกข์แทนหนุ่มน้อยตรงหน้าได้เลย พาทิศ พร่ำเรียกหนุ่มน้อยเบาๆ หลายครั้ง แต่ก็พบว่า ไม่ว่าจะตะโกนอย่างไร หนุ่มน้อยที่อีกฝั่งก็ไม่ได้ยิน ราวกับฝั่งนั้นของกำแพงอยู่ห่างออกไปเป็นกิโลเมตร
    ชายหนุ่มไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เขารู้แต่ว่า เขาจำอะไรหลงจากนั้นไม่ได้อีกเลย

    พาทิศรู้สึกตัวอีกทีก็มานั่งอยู่ในเรือลำน้อย แจวช้าๆมาตามลำคลองข้างเรือนเทาของหลวงพินิจราชอักษร ที่ดูใหญ่กว่าที่เขาเห็นวันนี้ตอนกลางวัน บ้านไม้กึ่งตึกทาสีเทา ดูขรึมกว่าทุกครั้งที่เขาเคยเห็น ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากโดยที่ไม่รู้สึกตัวว่ายิ้มทำไม ทันทีที่เรือถึงท่า เขาก็เดินขึ้นบกมา มุ่งหน้าไปยังตัวตึกสีเทาดูเย็นตา บรรยากาศรอบๆดูเงียบ ไม่เหมือนกรุงเทพที่เขาเคยรู้จัก ไม่มีโรงแรม และตึกแถวที่นั่นอีกต่อไป มีเพียงต้นไม้ขึ้นเขียวครึ้ม เป็นไร่ๆ โอบล้อมตัวบ้าน เขามองเห็นถนนเล็กๆ เป็นทางดินผ่านหน้าบ้านของหลวงพินิจราชอักษร ฝั่งตรงข้ามเป็นละเมาะไม้ขึ้นรกแบบที่ไม่มีใครเข้าไปดูแล หลังบ้านเป็นสระบัวขนาดย่อม มีศาลาไม้ฉลุลายสวยงาม ตั้งยื่นลงไปในสระบัว อีกฝั่งหนึ่งเป็นเรือนไม้ประกอบหลังย่อม เล็กกว่าตึกใหญ่เพียงนิดเดียว มีคนที่แต่งตัวแบบที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนทั้งนั้น นั่งบ้าง ยืนบ้าง มีเด็กเล็กๆวิ่งเล่นบ้าง มีคนงานกำลังจัดดอกไม้ริมสระบัวอย่างขยันขันแข็ง ทุกคนสวมโจงกระเบนสีเข้มเหมือนย้อมด้วยครั่ง ผู้ชายไว้ผมทรงหลักแจว ผู้หญิงไว้ผมทรงกระทุ่ม เหมือนกันทุกคน จนพาทิศแทบแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร
    ฉับพลัน

    เหมือนมีคนมาฉายหนังให้เขาเห็นอยู่ตรงนั้นเอง จะพิเศษหน่อยก็ตรงที่ หนังที่เขาดูอยู่นั้น มีทั้งรูปรสกลิ่นเสียง และสัมผัสเหมือนจริงทุกประการ พาทิศเข้ามาอยู่ในบ้านตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ตัว สภาพบ้านที่เขาเดินอยู่ขณะนี้ จะต่างจากบ้านที่เขาเห็นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วก็เพียงนิดเดียวเท่านั้น การจัดของ เครื่องใช้ต่างไปเพียงนิด ตามผนังพื้นเพดาน ก็ดูใหม่เอี่ยมไม่มีที่ติ เหมือนกับว่า เพิ่งเปิดให้คนเข้ามาอยู่ไม่กี่วัน
    หลวงพินิจราชอักษรนั่งอยู่บนตั่งขนาดใหญ่ตรงห้องนั่งเล่น แปลก เขาไม่ยักรู้สึกกลัวหรือแปลกใจกับการเห็นหลวงพินิจราชอักษรนั่งอยู่ตัวเป็นๆอย่างนี้เลย
    เพราะไปอยู่ต่างประเทศ คุณหลวงจึงติดนิสัยใส่เสื้อในบ้าน เหมือนฝรั่งมังค่า แม้ว่าค่านิยมของคนไทยในสมัยนั้น ยังไม่ค่อยชอบใส่เสื้อเวลาอยู่ในบ้านนัก เพราะจะติดสบายเสียมากกว่า ซ้ำยังเลิกตัดผมทรงมหาดไทย หรือทรงหลักแจว แต่หันมาไว้ผมรองทรง คือไว้ยาวทั้งหัว ไม่ใช่มีเพียงผมปีกด้านบน แล้วไถสั้นเกรียนสามด้าน แบบ พวกบ่าว ไพร่ที่พาทิศเห็นข้างนอก คุณหลวงอยู่ในโจงกระเบนสีน้ำตาล มีเสื้อสีน้ำตาลอ่อนกว่าสวมทับด้านบน ไม่มีเครื่องประดับใดๆ เพราะ ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวดีไว้ต้อนรับแขกผู้มาเยือน ในเมื่อเจ้าหล่อนนั้น อ่อนกว่าเขาทั้งอายุ และยศศักดิ์
     ตรงที่พาทิศยืนอยู่นั้น เป็นตำแหน่งที่มองเห็นประตูทางเข้า ห้องนั่งเล่น ได้ชัดเจน เสียงเคาะประตูดังขึ้น สอง สามครั้ง พร้อมกับเสียงตอบเบาๆ อย่างไม่ใส่ใจ ให้เข้ามาได้ ผู้หญิงสองคนเดินนำเข้ามาก่อนอื่น คนแรก นุ่งโจงกระเบน สีเข้มมีผ้าแถบคาดอก แบบทาสสาวทั่วไป แต่คนที่ตามมานี่สิเป็นหญิงสาวดูดีมียศศักดิ์ แตกต่างจากคนแรกอย่างเห็นได้ชัด ดวงหน้าเนียนละเอียด ดุจกลีบกุหลาบสีขาว จ้องมองมาที่หลวงพินิจฯ อย่างรักใคร่ รูปหน้ารูปไข่นั้น ดูคุ้นตาเสียจนพาทิศต้องสะกิดใจ
    ดวงตาของหญิงสาวกลมโตแต่ไร้แววประกาย ดูไม่มีชีวิตชีวา จมูกโด่งแต่ไม่เป็นสันแบบฝรั่ง ปากเป็นกระจับ เหยียดยิ้มออกอย่างอารมณ์ดี หน้าผากเนียนสวย เป็นรูปโค้งอย่างดี ดูออกว่ามีบ่าว มีไพร่คอยดูแล เก็บไรผมให้จนเรียบสนิทกัน ผมยกไว้เป็นทรงดอกกระทุ่มด้วยขี้ผึ้งอย่างดี ไม่มีผมหลุดรุ่ยเป็นเส้นๆ แบบที่เห็นได้ตามหนัง ละครพีเรียดที่คนยุคของพาทิศทำเลียนแบบอย่างไรก็ไม่สวยเท่า ผมทรงนี้ เป็นทรงที่นิยมกันมาก แม้จะมีบางคนไว้ผมยาวประบ่า ตามที่พระพุทธเจ้าหลวงทรงกำหนดให้เปลี่ยนเมื่อราวปี พศ. 2414 ก็ตาม ดังนั้น สาวที่ไว้ ผมปีกบนกลางหัวเหมือนเมื่อตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์จึงหาได้ยากแล้วในสมัยนั้น
    เสื้อผ้าอาภรณ์นั้นเป็นแบบ ที่นิยมใส่กันของหญิงสาวที่พอมีฐานะ คือเป็นเสื้อทรงฝรั่ง ทำจากแพรไหม เป็นลายลูกไม้ สีครีมดูอ่อนช้อยรับกับใบหน้า แขนยาว ตรงต้นแขนพองแบบหมูแฮม มีผ้าแพรสีชมพูอ่อน คาดเป็นสายคล้ายสไบเฉียงอยู่บนตัวเสื้ออีกที เครื่องประดับของเธอนั้น เป็นสร้อยมุกสีขาวเนียน สวมไว้หลายเส้น ท่อนล่างเป็นโจงกระเบนสีชมพูเข้ม มีเข็มขัดทอง คาดไว้ที่เอว ไม่ให้โจงกระเบนหลุด เวลาเดินเหินจะได้ไม่ต้องคอยระวังตัวมากนัก ท่อนขา ถูกปิดไว้ด้วยถุงเท้าสีขาวสะอาด ยาวเลียบน่องมาถึงเข่า ที่ขณะนี้ กำลังค่อยๆ ย่อลงนั่งกับพื้น พออีกฝ่ายทักขึ้นก่อน หญิงสาวก็แย้มปากตอบ อย่างนอบน้อม
    "มาหาพี่ถึงบ้านมีธุระ กระไรหรือแม่หยาด... ไม่ ไม่ต้องนั่งพื้น นั่งตั่งเถิด"
    แม่หยาด จึงเดินอย่างช้าๆ มานั่งที่ตั่งใกล้ๆ หลวงพินิจราชอักษร ดวงตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าคมเข้มตรงหน้า เสื้อผ้าอาภรณ์แบบฝรั่งของหล่อน ดูยับไปเล็กน้อย แบบดูออกว่าคงไปทำอะไรมาก่อนที่จะมาพบเขาแน่
    "คุณหลวงจำ เรื่องบ่าวลูกเจ๊ก ที่ดีฉันเล่าให้ฟังได้ฤา ไม่เจ้าคะ"
    "ว่ามาซีแม่หยาด"
    "วันนี้ ดีฉันพาตัวมาให้คุณหลวงดูเจ้าค่ะ เผื่อจะชอบใจ" หญิงสาวหันไปทางประตู น้ำเสียงอ่อนหวานทอดพยางค์อย่างงดงาม เป็นเสียงไพเราะดุจจังหวะดนตรี ไม่เหมือนกับที่เรามักจะได้ยินในสมัยปัจจุบันที่ล้วนแต่พูดห้วนๆ ตามอารมณ์ที่เร่งรีบไปกับสภาพบ้านเมือง และ สังคม "อ้ายเส็ง เอ็งเข้ามาซี ทำจดๆจ้องๆอยู่ได้ น่ารำคาญ"
    อ้าย เส็ง เดินเข่า เข้ามาอยู่ตรงหน้าหลวงพินิจราชอักษร ดวงหน้าก้มต่ำ ทำให้เห็นได้เพียงแต่ ผมทรงหลักแจว ที่ตัดไว้หยาบๆ บนด้านบนของศีรษะ เท่านั้น
    "นี่อย่างไรเจ้าคะ อ้ายเด็กคนที่ ดีฉันเคยพูดถึง เอามันมาฝากให้คุณหลวง ไว้เป็นบ่าวคอยรับใช้เจ้าค่ะ" แม่หยาดจีบปากว่า
    หลวงพินิจราชอักษรจ้องมองทาสหนุ่มตรงหน้า อายุมันยังน้อยนัก ท่าทางเรียบร้อยเสียอย่างกับไม่ใช่ผู้ชาย มีเพียงร่างกายท่อนบน เหนือผ้าโจงกระเบนสีเข้มขี้นไปนั้น ที่แม้จะขาวนวลเนียน ราวกับไม่เคยทำงานหนักมาก่อนเลย ตลอดชีวิต แต่ก็ยังดูล่ำสัน ยืนยันได้ว่าเด็กคนนี้ เป็นผู้ชายแน่นอน คุณหลวงหนุ่ม พิจารณา โครงหน้าของเด็กคนนั้น ก็พบว่า แม้เขาจะไม่หล่อรูปงาม เหมือนตัวคุณหลวงเอง ซึ่งเป็นคนไทยแท้ๆ หากแต่ เด็กคนนี้ ก็หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ปากนิดจมูกหน่อยไม่แพ้แม่หยาดคู่หมั้นสาวของเขาเลย จะต่างกันบ้างก็ตรงที่ เด็กหนุ่มข้างหน้า มีดวงตา เหยียดชี้ออก แต่ดูใสเป็นประกายในขณะที่ดวงตาของแม่หยาดนั้น แม้จะกลมโตแต่กลับดูจืดชืดไร้ชีวิตชีวา แบบ เดียวกับนิสัยของหล่อนนั่นแหละคุณหลวงพินิจฯ ถึงไม่เคยโปรดเธอเลยไม่ว่าจะเจอกันครั้งไหน
    "อ้ายนี่รูปร่าง อรชร อ้อนแอ้นนัก ให้ไปแบกข้าวของ หรือ ขุดดินทำสวนมันจักมีแรงไปทำกระไรได้หรือ"
    แม่หยาดยิ้มขึ้นที่มุมปาก
    "เห็นอย่างนี้แล้วก็จริง แต่ฝีมือการทำกับข้าว แลเย็บปักถักร้อยนี่ก็ไม่ใช่เล่นเลยนะเจ้าคะ" หญิงสาว มองไปยังทาสหนุ่ม "ตอนที่อยู่บ้านดีฉัน ก็ทำกับข้าวกับปลาให้ดีฉันรับประจำเวลาที่ ยายแม้นป่วย จนเกือบได้ ปลดยายแม้นออกจากตำแหน่งเสียแล้ว"
    "งั้นเทียวรึ" คุณหลวงยังคงไม่เปลี่ยนสายตา ออกจากทาสหนุ่มที่เห็น "เอ็งชื่อกระไรนะ"
     หนุ่มตี๋สะดุ้งเล็กน้อยแต่ยังก้มหน้าไม่มองมาทางผู้ถามเพียงแต่ตอบออกไปเบาๆให้ได้ใจความโดยไม่คิดถึงการพร่ำพรรณนา แต่อย่างใด
    "ชื่อเส็งขอรับ"
    "เอ็งมันลูกจีน เหตุใด จึงพูดภาษาเราได้ชัดอย่างนี้ ฮึ"
    "อ้ายเส็ง มันเกิดที่นี่เจ้าค่ะ คุณหลวง ปู่มันอพยบมาจากเมืองจีน มาได้ผู้หญิงไทยคนหนึ่ง แถวๆ วัดสามปลื้มนี่แหละเจ้าค่ะ จนมามีพ่อมัน ก็แต่งงานกับคนไทยอีก บ้านมันรับของจากจีนมาขาย ตอนนี้ตายทั้งคู่เจ้าค่ะ ตอนเกิดเหตุเพลิงไหม้ เมื่อต้นปีไงเจ้าคะ คนที่อยู่แถวนั้น ก็ตายไปเยอะเหมือนกัน มีอ้ายเส็งนี่ เอาของไปส่งให้ญาติมันแถวนั้น ก็เลยรอดกลับมาเจ้าค่ะ หลวงพ่อ ที่วัดสามปลื้มเห็นรูปร่างลักษณะดี เลยรับไปอยู่ที่วัดคอยทำความสะอาด ลานวัด งานหนักๆมันไม่เคยจับดอกเจ้าค่ะ แต่พวกทำความสะอาด รดน้ำต้นไม้ มันใช้ได้เทียวนะเจ้าคะ ตอนไปทำบุญดีฉันเห็นมันเข้า ว่าลักษณะมันดูสะอาดเรียบร้อย เลยขอซื้อตัวมาเป็นบ่าวคอยรับใช้ เห็น คุณหลวงย้ายมาเรือนเทานี้ขาดบ่าวอยู่มาก ดีฉันจึงมาให้คุณหลวงใช้รองบาทเจ้าค่ะ"
    "แม่หยาดเล่นตอบ แทนอ้ายเส็งมันหมด เห็นทีพี่คงต้องรีบรับไว้กระมัง แม่หยาดจะได้ไม่ต้องเสียแรงสนับสนุนขนาดนี้" คุณหลวงขัด ยิ้มๆ จน แม่หยาดต้องยิ้ม อย่างกระดาก ขวยเขิน
    "แหม คุณหลวงก็ ดีฉันกลัวว่าคุณหลวงจะไม่มีบ่าว ไว้คอยรับใช้นี่เจ้าคะ"
      "เอาเป็นว่า พี่พอใจก็แล้วกัน" หลวงพินิจว่า "ว่าแต่เอ็งเถอะจะมาช่วยให้ข้าสบายหรือจะยิ่งเพิ่มภาระให้ข้าฮึ"
    "หามิได้ ขอรับ"
    หลวงพินิจยิ้มที่มุมปาก
    "เออ เอาเป็นว่า ข้าจักให้เอ็งไปทำงานสวนเสียก่อน หากว่าทำไม่ไหวจริงๆ ค่อยมาช่วยยายนอมเตรียมกับข้าวกับปลาก็แล้วกัน"
    "ขอรับ"
    "อ้าย มั่น" คุณหลวงร้องเรียกทาสหนุ่มอีกคน ที่กุลีกุจอเข้ามา คุกเข่าอยู่เบื้องหน้า "เอ็งมาพา อ้ายเส็งไปหาห้องหับห้องนอน แล้วให้มันไปช่วย ตา มี ปลูกดอกไม้ตรงศาลาเสีย"
    "ขอรับ"
     สองหนุ่มเดินออกจากประตูพ้นไปได้ไม่ถึง นาที คุณหลวงก็ลุกขึ้นจากตั่ง ทำท่าจะเดินตามออกไป
    "คุณหลวงจะไปไหนเจ้าคะ ดีฉันมาหาไม่คิดจะทักทายปราศัยกันบ้างหรือ?"
    "แม่หยาด เราเป็นคู่หมั้น กันแล้ว มิใช่เพื่อนเล่นสมัย เด็กๆ แม่หยาดจะให้เรา มานั่งคุยนั่งเล่นด้วยกันนานๆ ไม่ได้ดอก ผู้ใหญ่มาเห็น จักว่าเอาได้"
    "ผู้ใหญ่ที่ไหนเจ้าคะ จะมาว่าให้หยาด เจ้าคุณพ่อท่านออก จะรักหยาดเสียยิ่งกว่าลูกสาวแท้ๆ แถมถ้าจะว่ากันไปตามจริง เจ้าคุณพ่อท่านก็บังเอิญมิได้อยู่เรือนนี้ด้วยมิใช่หรือเจ้าคะ"
    ‘แม่หยาด พี่จะเข้าหอพระ ไปสวดมนต์ แม่หยาดกลับบ้านไปก่อนเถิด ไว้วันหน้าค่อยมาหาพี่ก็แล้วกัน" ราวกับถูกตบหน้าก็ไม่ปาน แม่หยาดลุกพรวดขึ้นอย่างไม่พอใจ เตรียมตั้งท่าจะออกไปจากห้อง พอดี หลวงพินิจก็เอ่ยขึ้น
    "อ้อแม่หยาด ขอบใจเธอมากนะ เรื่อง อ้ายเส็งนี่"
    "ดีฉันไม่คิดกระไรดอกค่ะ แต่หาคนมาช่วยคุณหลวงเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดเรื่องคุณงาม ความดีกระไรเลย" หญิงสาวเดินออกจากเรือนไปในไม่กี่นาทีต่อมา แล้วขึ้นรถ ออกไปในที่สุด

ออฟไลน์ O_cha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
«ตอบ #128 เมื่อ26-06-2010 11:54:47 »

เริ่มย้อนอดีตแล้วสินะ

ติดตามตอนต่อไป

ให้กำลังใจครับ   :L2:



ออฟไลน์ ayanae

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
«ตอบ #129 เมื่อ26-06-2010 20:07:44 »

พาทิศเริ่มย้อนไปในอดีตแล้ว
มาถึงก็พบคนต้นเรื่องทั้งสามคนเลย
ดูแล้วเหมือนคุณหลวงจะไม่ได้รักคุณหยาด แต่ต้องแต่งกันเพราะผู้ใหญ่เลยนะ
รอตอนต่อไปค่า  จะติดตามและเป็นกำลังใจให้นะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
« ตอบ #129 เมื่อ: 26-06-2010 20:07:44 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
«ตอบ #130 เมื่อ26-06-2010 20:27:16 »

 :-[ เ้ข้ายุคโบราณแล้ว ช๊อบชอบ +1 จัดให้ ระทึกดีค่ะ
รอตอนต่อไป :oni1:

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
«ตอบ #131 เมื่อ26-06-2010 22:57:50 »


วุ้ย ให้ไปทำสวน....เห็นที นายเส็ง จะได้ปลูกแห้วมากำนัล คุณหยาด ฤๅหาไม่ อิอิ
๓๑ + ๑ = ๓๒
ขอบคุณนะคะ คุณ Purple_Sky


kimagain

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
«ตอบ #132 เมื่อ26-06-2010 23:14:52 »

มาร่วมลุ้นอดีตหนุ่มน้อยด้วย :เฮ้อ:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
«ตอบ #133 เมื่อ27-06-2010 02:36:16 »

ชีวิตเส็ง น่าสงสารจัง
จากชีวิตอิสระ พอเสียพ่อแม่
ตัวเองกลายเป็นคนใช้
รออ่านต่อ อย่าหายนาน
+1 เป็นกำลังใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2010 03:03:15 โดย Little Devil »

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
«ตอบ #134 เมื่อ27-06-2010 08:51:46 »

แต่งดีมากๆ เลยค่ะ ปรบมือและกดบวกให้ๆๆๆ
ชอบอ่านย้อนอดีต พระเอกเราย้อนกลับไปได้ไงเนี่ย

boofuu

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
«ตอบ #135 เมื่อ27-06-2010 09:25:13 »

มันส์สุดๆ


ข้าน้อยจะรออ่านตอนต่อไปนะขอรับ นายท่าน  :really2:

fungfung

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
«ตอบ #136 เมื่อ27-06-2010 11:28:47 »

จะเป็นไงต่อไปน้า
แล้วพาทิศไปเกี่ยวกับเค้าตรงไหนเนี้ย
อยากรู้มาต่อไวๆ

MM.Dog

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
«ตอบ #137 เมื่อ01-07-2010 21:10:21 »

พาทิศถูกเส็งหรือคุณหลวงดึงจิตเข้าไปในอดีตกันแน่

ออฟไลน์ ayanae

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
«ตอบ #138 เมื่อ04-07-2010 23:05:58 »

เข้ามาดันค่า
นิยายดีๆแบบนี้ต้องช่วยๆกันดัน อิ อิ


MM.Dog

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
«ตอบ #139 เมื่อ06-07-2010 21:07:16 »

มาจิ้มค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
« ตอบ #139 เมื่อ: 06-07-2010 21:07:16 »





ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่4 11.35 - 26/06/10
«ตอบ #140 เมื่อ07-07-2010 23:19:25 »

ขอโทษทีครับที่หายไปนานเลย งานยุ่งมากๆ
ไปติดตามกันต่อเลยนะครับ

*****************************************************************************


   อากาศยามเช้าไม่ร้อนเท่ากับตอนกลางวันแต่ก็ไม่หนาวเท่าเมื่อคืน
    พาทิศไม่เคยนอนเปิดหน้าต่างมาก่อน เวลานอนแอร์ อุณหภูมิมันจะคงที่อยู่ที่เดิมตลอด จะไม่มีลมพัดเข้ามาให้สั่นอย่างนี้ พาทิศยังไม่ชินก็เลยมีอาการคัดจมูกบ้างนิดหน่อย พาทิศลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจสองสามที ก่อนจะเดินไปแปรงฟันหน้ากระจกในห้องน้ำ เขารู้สึกมึนๆ แปลกๆ เมื่อคืนนี้เขาฝัน แต่เป็นฝันที่สมจริงเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ที่เขาเห็นในฝันจริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พาทิศจำอะไรในฝันไม่ได้เลย จำได้อย่างมากก็แค่มีหลวงพินิจราชอักษร มีผู้หญิง มีเด็ก เท่านั้นเอง
    พออาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ เขาก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าเขาฝันถึงอะไรกันแน่ มีบ้าน มีคนนั้นคนนี้ แต่จำเหตุการณ์ไม่ได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น ใครทำอะไรกันบ้าง ชายหนุ่มเดินลงมาด้านล่างก็จัดแจง เอาเกี๊ยวกุ้งปรุงสุกแช่แข็งมาอุ่นใน ไมโครเวฟ เทใส่ชาม แล้วก็เดินออกมานั่งกินที่หน้าบ้าน ข้างหน้าบริเวณบ้าน เป็นสนามหญ้าขนาดย่อมๆ มีเก้าอี้ยาวสีขาวตั้งอยู่ ดูก็รู้ว่าเป็นของใหม่เพิ่งแต่งเติมเข้าไปพุ่มไม้ที่รายล้อมตัวบ้านเป็นของที่ปลูกขึ้นใหม่ พาทิศใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ แบรนด์ดัง นั่งเคี้ยวเกี๊ยวกุ้งช้าๆ อย่างมีความสุข อากาศยามเช้าบริเวณนี้สดชื่นอย่างที่เขาไม่ค่อยได้สัมผัสนัก จริงอยู่บ้านที่เชียงใหม่เช้าๆก็เป็นแบบนี้ แต่เขาก็มักจะอุดอู้อยู่แต่ในบ้านมากกว่าจะออกมารับบรรยากาศข้างนอก
    ตาเหลือบไปยังอีกฟากหนึ่งของบ้านก็เห็นว่า หน้าต่างบานเดิมที่เขาเคยเห็นเด็กหนุ่มลึกลับคนนั้นเปิดออกกว้าง เหมือนวันแรกที่เขาได้มาเห็นบ้านหลังนี้ไม่ผิดกัน
    
    พาทิศวางชามใส่เกี๊ยวกุ้งลงที่ม้านั่ง ก่อนจะลุกเดินไปยังกำแพงสีขาวสูงตระหง่านที่กั้นเขาออกจากชายที่เขาหมายปอง มือทั้งสองข้างจับกำแพงไว้ด้านบนพลางดึงตัวขึ้นให้โผล่พ้นกำแพงนั้น ปากก็ตะโกนขึ้นดังๆ
    "คุณครับ มีใครอยู่ไหมครับ"
    ไม่มีเสียงตอบใดๆ พาทิศเดินวนไปด้านหน้าของตัวบ้าน แล้วลองตะโกนเรียกอีกครั้ง
    "ขอโทษนะครับ ถ้าคุณอยู่ในบ้าน ช่วยออกมาให้ผมเห็นหน่อยได้ไหมครับ"
    "ไม่มีใครอยู่หรอกคุณ" เสียงแหบพร่าของชายชราดังขึ้น เบาๆอย่างเห็นเหนื่อยทางด้านหลังของพาทิศ พอชายหนุ่มหันมา ก็พบว่าตัวเองกำลังยืนจ้อง ลุงอิ่มอยู่ด้วยใจเต้นโครมครามเพราะความตกใจ "ลุงบอกคุณชายแล้วไง ว่าฝากนั้นของบ้านน่ะ ไม่มีใครอยู่..."
     "แต่ผมเห็น" พาทิศว่า แล้วหันกลับไปมองที่หน้าต่างบานนั้น เขาไม่แปลกใจเลยที่มันปิดสนิทนิ่งอยู่เหมือนทุกครั้ง... หน้าต่างบานนี้เปิดต่อเมื่อเขาจ้องมองมันคนเดียว ไม่มีคนอื่นอยุ่ด้วย อย่างนั้นก็แสดงว่า เด็กหนุ่มคนนั้นต้องการให้เขาเห็นแค่คนเดียวไม่ใช่ใครอื่น เป็นเพราะอะไรกัน หรือเด็กหน้าตี๋คนนั้นแอบเข้ามาอยู่ในบ้าน อย่างไม่ถูกต้องจริงๆ
    "คุณไม่เห็นอะไรหรอกคุณพาทิศ บ้านซีกนั้นน่ะ ปิดมาสองสามเดือน ก่อนคุณตัดสินใจซื้ออีก คุณเห็นไหม ว่ากุญแจอยู่ที่ลุง" ชายชรายก กุญแจพวงใหญ่ขึ้นสนับสนุนคำพูดของตัวเอง "วันนี้ ลุงกะจะมาทำสวนให้คุณชายครับ กะให้เจ้าเอกทำกับข้าวเช้าให้ทาน แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว"
     ดวงตาของชายชราเลื่อนลอย แต่ก็จับจ้องอยู่ที่ชามใส่เกี๊ยวกุ้งได้พอดิบพอดี อยู่ในสายตา
    "เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหมล่ะครับ"
    "อ้อ หลับสนิททีเดียวครับ" ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างห้ามไม่อยู่ เพราะใจพาลนึกไปถึงความฝันเมื่อคืนนี้อย่างห้ามไม่ได้ ใครสักคนที่มีความสำคัญอย่างมากในความฝัน เตือนเขาให้คิดให้ออกทุกครั้ง แต่เขาก็ยังคงจำเหตุการณ์อะไรในฝันไม่ได้อยู่ดีราวกับว่าดวงตาของเขาเป็นฝ้า จะนึกถึงภาพในฝันเมื่อคืนทีไร ก็ไม่เห็นอะไรแน่ชัด ภาพใบหน้าของบุคคลในฝันก็มืดมัวสลัวรางนัก
    "อย่าโกหกลุงเลยคุณพาทิศ" ชายหนุ่มใจเต้นโครม หรือชายแก่คนนี้ จะรู้อะไรเข้าแล้ว ...เป็นไปได้ไหมว่า ตาแก่นี่รู้ว่าเขาแอบส่องชายหนุ่มผิวสะอาด ที่ฝั่งโน้นของบ้าน "ลุงแก่แล้ว รู้ทันพวกเด็กๆ อย่างคุณดีนักแหละ"
    หยาดเหงื่อผุดขึ้นที่หน้าผากของชายหนุ่มเป็นเม็ดเล็กๆ พร่างพราว ราวกับเอาเศษเพชรมาประดับไว้อย่างสวยงาม ที่บนผ้าแพรสีเนื้อละเอียด เอาเป็นว่า ชราคงเห็นเขาแอบมองน้องตี๋คนนั้น แล้ว ... ไปด้วย ว่าแต่เห็นได้อย่างไรในเมื่อเขาอยู่ชั้นสองของบ้าน แถมบ้านของ ลุงอิ่มยังอยู่เสียไกลจากตัวบ้านของเขา มองจากบ้านลุงอิ่มอย่าว่าแต่ให้เห็นเขาแอบมองเลย เห็นหน้าต่างบ้านของเขาก็คงจะยากแล้ว
    "เด็กๆ อย่างคุณน่ะ ลุงดูออกหรอกว่า พอไม่มีแอร์ ไม่มีทีวีละก็ คงนอนกระสับกระส่ายทั้งคืนซี"
    "เอ๊ะ" พาทิศอุทาน
    "ตกใจละซีที่ลุงรู้ทัน"
    "แหะๆ ครับ" พาทิศแทบซ่อนสีหน้าโล่งใจไว้ได้ไม่ทัน อย่างนี้หรือที่เขาเรียกว่า วัวสันหลังหวะ หรือ กินปูนร้องท้องน่ะ ลุงอิ่มไม่ได้รู้เรื่องหนุ่มตี๋ซักหน่อย แค่ตั้งใจแหย่เขา เรื่องความเป็นอยู่ของเขาต่างหากล่ะ
    "แล้วกะจะทำอะไรเล่าคุณพาทิศ ใกล้ๆนี้มีตลาด อยากออกไปซื้อของละก็ ให้เจ้าเอกนำทางไปได้นะครับ แล้วค่อยกลับมานั่งเล่นอ่านหนังสือที่บ้าน" ลุงอิ่มยิ้มอย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะชี้ให้เห็นว่าถ้าจะไปตลาดจะต้องไปทางไหน
    "ไม่ละครับ วันนี้ผมจะไม่อยู่บ้าน ว่าจะไปบ้านเพื่อนนะครับ ต้องรบกวนคุณลุงช่วยดูแลบ้านให้ด้วย"
    "ยินดีครับ วันนี้คุณหนูสร้อยน่าจะเข้ามาคุยกับคุณ แต่ไม่เป็นไรครับ ถ้าหากไม่สะดวกละก็ผมจะเรียนให้คุณหนูทราบว่า คุณชายจะไม่อยู่บ้านแล้วกันครับ"
    พาทิศยิ้มให้ชายชรา
    "ขอบคุณที่ช่วยเป็นธุระให้นะครับ ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัวก่อนละครับ" จบประโยคชายหนุ่มก็ยกมือไว้อย่างเรียบร้อย ลูบผมที่ต้นคออย่างเคยชินแล้วเดินออกจากตัวบ้านไปขึ้นรถสีดำสนิทของเขา แล้วเคลื่อนรถออกไป โดยไม่ลืมที่จะเหลียวหลังกลับมามองบ้านหลังนั้น เพื่อพบว่า เมื่อชายชรา และ หลานชายหันหลังให้เขาแล้ว หน้าต่างบานที่เขามองเป็นประจำ กลับเปิดอ้าขึ้นอีกครั้ง อย่างน่าประหลาด

    บ้านของณัฐอยู่ในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง บนถนนราชพฤกษ์ที่เป็นย่านใหม่ของกรุงเทพ เมื่อรถไฟฟ้าขยายสถานีมาลงถึงฝั่งธนแล้ว ร้านอาหาร ร้านค้า และ หมู่บ้าน ตึกแถว คอนโด ก็ผุดขึ้นเร็วราวกับดอกเห็ด หมู่บ้านนี้อยู่ห่างจากบ้านโบราณหลังใหม่ของพาทิศไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เดินรถเลยทางเข้าหมู่บ้านตั้งตระหง่านอยู่หน้าถนนใหญ่ทำเป็นซุ้มขนาดใหญ่ ด้านบนเป็นรูปสลักนูนสูง รูปหัวสิงโตสีขาวงาช้างดูสง่างามกว่าหมู่บ้านไหนๆ ถัดเข้ามาจากซุ้มประตูคือทางเข้าหมู่บ้าน ทอดตัวยาวลึกลงไป สองข้างทางปลูกต้นลีลาวดีออกดอกสีขาวสะอาด ร่วงหล่นดูคล้ายพรมสีขาว เจือน้ำตาลตามที่รถแล่นทับมันผ่านไป ตรงเกือบปลายถนนเป็นป้อมยามรักษาความปลอดภัยขนาดใหญ่ มีการแลกบัตรเพื่อเข้าติดต่อข้างในหมู่บ้าน สอบถามบ้านเลขที่และเจ้าของบ้าน จากนั้น รปภ. หนุ่มใหญ่ก็ปล่อยให้พาทิศขับรถผ่านเข้าไปด้านใน พาทิศเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา และขวาอีกที ก็พบว่าตัวเองกำลังขับผ่านทะเลสาบใหญ่กลางหมู่บ้าน
    อีกฝั่งของทะเลสาบเป็น ทำเลที่ดีที่สุดในหมู่บ้าน มันเป็นบ้านขนาดใหญ่ตกแต่งแบบสมัยใหญ่ตั้งอยู่บนเนินขนาดใหญ่ หันหน้าเข้าหาถนนที่ตัดอ้อมบ้านไป ด้านหลังเป็นห้องนั่งเล่นผนังกระจก ทำทรงคล้ายหอคอยแปดเหลี่ยม ไว้ใช้ประชุมหรือจัดงานรื่นเริงสำคัญๆ น่าแปลกที่บ้านที่ทั้งใหญ่ทั้งสวยขนาดนี้ เป็นสมบัติของเด็กหนุ่มวัย ยี่สิบกลางๆแทนที่จะเป็นมหาเศรษฐีสักคน
    พาทิศจอดรถที่หน้าบ้าน กดกริ่งครั้งหนึ่งพอให้เจ้าของบ้านรู้ตัวว่ามีแขกมาหา แล้วลงจากรถจัดแจงเปิด ประตูรั้วไป พอดีกับที่เจ้าของบ้านเปิดประตูบ้านสวนออกมา
    “อุตส่าห์มาหากูที่นี่แต่เช้า น้ำในเลคจะระเหยหมดเสียแล้วมั๊ง” เพื่อหนุ่มทักทายอย่างเป็นกันเอง พลางยิ้มให้อย่างดีใจที่เห็นหน้า
    “เออ กูคิดถึง”
    พาทิศ แทรกตัวผ่านเพื่อนหนุ่มที่ยืนขวางอยู่ที่ประตูเข้าไปในบ้านที่ แม้จะใหญ่โต แต่ก็สวยงามและอบอุ่นเหมือนชายเจ้าของบ้าน
    ณัฐ อยู่ในเสื้อยืดคอกลมสีขาว และกางเกงขาสั้นสีดำ ผมสีน้ำตาลเข้มอยู่ยุ่งเหยิง และชื้นน้อยๆ หยาดน้ำยังคงเกาะอยู่บนแก้มขาวสะอาดอมชมพู เรียบเนียนนุ่มน่าสัมผัส เหมือนเพิ่งออกจากห้องน้ำ แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาเกือบสิบโมงครึ่งแล้วก็ตาม  เพราะหนุ่มๆในกลุ่มเพื่อนของพาทิศ ไม่มีงานต้องทำ ดังนั้นจึงไม่มีเวลาที่ต้องตื่นอย่างแน่นอน คือแม้จะตื่นกี่โมงก็ตาม ก็ไม่จำเป็นต้องลุกออกจากเตียง สามารถนอนบิดไป กลิ้งมาอยู่บนเตียงได้โดยไม่ต้องห่วงอะไร ส่วนข้าวเช้า ก็กลายเป็นมื้อที่ไม่จำเป็นเสียแล้วสำหรับหนุ่มณัฐ เพราะกว่าจะอาบน้ำทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เฉียด สิบเอ็ดโมงแล้ว ดังนั้นจึงสามารถทานข้าวเที่ยงได้เลย ประหยัดไปได้หนึ่งมื้อ
    “มึงว่างป่ะ” พาทิศถามทันทีเมื่อเข้าบ้านมาได้ไม่เท่าไหร่ เพราะไม่อยากให้เสียเวลานัก
    “ว่าง มีอะไรวะ?” เพื่อนหนุ่มเดินนำเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นจัดแจงให้นั่งลงบนโซฟาหนังแท้ที่เรียงตัวสวยอยู่ในห้องนั่งเล่น
    “มึงไปดูหนังกับกูมั๊ย”พาทิศพูดเบาๆอย่างเขินอาย ด้วยไม่เคยขอให้เพื่อนหนุ่มคนสนิทคนนี้ไปเที่ยวมาก่อนเลย อย่างมากก็รอให้นายณัฐถามก่อน แล้วเออ ออแบบไม่ไว้ตัวเอาเวลาอยากไปเที่ยวกับเขา
    “ไงล่ะมึง” ณัฐจับบ่ากดให้พาทิศนั่งลงบนโซฟาเสียก่อน “เลิกกับน้องเป๊กแล้วหรือไง”
    พาทิศพยักหน้าแบบขอไปที
    “เออสินะ ถ้าเกิดว่าไม่เลิกกัน มึงก็คงไม่เห็นหัวกูหรอก” ณัฐพูดเบาๆ ระคนน้อยใจ “มึงนั่งรอก่อนก็แล้วกัน”
    ชายหนุ่มมองเพื่อนหน้าใสวิ่งขึ้นบันไดไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องนั่งเล่นนั้นเรียงรายไปด้วยรูปวาดสีน้ำ และสีน้ำมัน รวมถึงแจกันใบใหญ่ที่จัดดอกไม้ไว้ในรูปแบบต่างๆ ที่พาทิศรู้เองว่าเพื่อนหนุ่มของเขาทำขึ้นเองทั้งหมดอย่างแน่นอน เพราะเพื่อนหนุ่มของเขาคนนี้ จบคณะศิลปกรรมศาสตร์มาจากมหาวิทยาลัย ชื่อดัง นอกนั้นยังวาดภาพเป็นงานอดิเรกมานานแล้ว ภาพวาดสีน้ำที่เป็นฝีมือของณัฐเองก็ได้ไปอยู่บนกำแพงบ้านของพ่อแม่ของเขาด้วยเช่นกัน
    ช้อย แม่บ้าน ยกน้ำเปล่า มาเสิร์ฟให้ถึงที่โดยที่ไม่ต้องมีใครมาบอก แม่บ้านบ้านนี้ต่างก็รู้กันดีว่าควรจะทำอะไรอย่างไรกับแขกของ คุณณัฐ ด้วยเงินมหาศาลที่ได้รับต่อเดือนแล้ว บรรดาแม่บ้านพวกนี้ต่างก็แทบจะยอมรับใช้ทั้งคุณณัฐ และแขกของเขาแทบจะยกหัวถวายเลยด้วยซ้ำ
    “ขอบคุณครับ”
    “ยินดีค่ะคุณชาย” แม่บ้านรุ่นเก๋ายิ้มให้พาทิศอย่างเป็นกันเอง “คุณชายไม่ได้มาเยี่ยม คุณณัฐนานแล้วนะคะ คุณณัฐแทบไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ นั่งอยู่ในห้องริมทะเลสาบ วาดภาพสีน้ำทั้งวันเลยล่ะค่ะ”
    “แย่จังเลยครับ ช่วงนี้ผมยุ่งๆเสียด้วย วันนี้ก็ตั้งใจพาณัฐมันออกไปเที่ยวเสียหน่อยน่ะครับ ชดเชยความผิดที่ทอดทิ้งเสียหน่อย”
    เสียงกระแอมดังขึ้นข้างหลัง
    ณัฐกลับมาในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าอ่อน และกางเกงยีนส์ขายาวสีเข้มทรงขาแคบแบบที่เขาชอบใส่ประจำ เดินลงบันไดมาราวกับเทพบุตรที่ลงมาจากสวรรค์ แสงอาทิตย์ส่งทำมุมกับหน้าเขาราวกับว่าตัวเขาเปล่งประกายสีแสงสว่างออกมาจากตัวอย่างไรอย่างนั้น  ผมสีน้ำตาลสั้นเซตไว้ยุ่งๆบนหัว ดูลำลองต่างจากชุดที่ใส่ ด้วยกลัวว่าจะดูเชยเกินไป
    “คุยอะไรกัน แม่ช้อย ไอ้ทิศ”
    “เปล่า ค่ะคุณณัฐ” แม่บ้านร่างท้วมว่าอย่างเคอะเขิน... “เห็นทีดีฉันต้องขอตัวไปซักเสื้อผ้าคุณณัฐต่อเสียแล้วค่ะ … เอ่อ ดีฉันไปก่อนนะคะ”
    “ดีแล้ว วันนี้ผมไม่อยู่บ้าน แม่ช้อยช่วยดูแลบ้านด้วยดีๆล่ะ”
    “ค่ะ”
    สองหนุ่มเดินออกจากบ้านไป พาทิศเปิดประตูให้เพื่อนหนุ่ม แล้วปิดเมื่อณัฐก้าวขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว ตัวเขาเองเดินอ้อมไปขึ้นรถ มีสองสิ่งที่รบกวนจิตใจเขาอยู่ ณ. ขณะนั้น ทำให้ไม่ทันได้สังเกตว่าโทรศัพท์มือถือของเขา ปิดเสียงอยู่ และเบอร์โทรศัพท์ของมารดา โชว์หราอยู่แม้เขาจะถือมันอยู่ในมือก็ตาม... อย่างแรกคือ คำว่า “แม่ช้อย” มันคุ้นหูเขาอย่างน่าประหลาด ... ไม่ใช่ “แม่ช้อยนางรำ” แต่ชื่อของใครสักคนสะท้อนอยู่ในหัวของเขา ใครบางคนที่เขาฝันเห็นเมื่อคืน แม่ช้อย... แม่หยาด หรือ?
    อย่างที่สอง เขามองผ่านกระจกหลังเมื่อรถเคลื่อนออกมาจากบ้านหลังนั้นได้สักพัก
    ผ้าใบที่ขึงอยู่บนขาตั้ง หันหลังให้เขาอยู่ในห้องกระจกริมทะเลสาบ เขาอยากเห็นเหลือเกินว่า ภาพที่อยู่บนผ้าผืนนั้น ภาพสีน้ำนั้นจะเป็นเพียงภาพวิวของเลคนั้น หรือเป็นภาพของใคร... จะเป็นไปได้ไหมว่าเป็นภาพของเขาเอง?
    
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2010 23:23:57 โดย Purple_Sky »

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่5 11.21 - 07/07/10
«ตอบ #141 เมื่อ08-07-2010 05:28:15 »


๓๕ + ๑ = ๓๖
ขอบคุณนะคะ คุณ Purple_Sky


ออฟไลน์ ayanae

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่5 11.21 - 07/07/10
«ตอบ #142 เมื่อ08-07-2010 06:29:45 »

เอาแล้วซิพาทิศเอ๊ย ฝันเห็นเรื่องในอดีตแต่กลับจำไม่ได้ หรือว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะรู้

เอากำลังใจมาฝากค่า
มาต่อตอนต่อไปเร็วๆนะคะ

panang

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่5 11.21 - 07/07/10
«ตอบ #143 เมื่อ08-07-2010 10:56:52 »

งงค่ะ งง

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่5 11.21 - 07/07/10
«ตอบ #144 เมื่อ08-07-2010 16:56:42 »

อ่านแล้วได้บรรยากาศเหมือนดูละครพีเรียดมาก ๆ แต่ให้ความรู้สึกละเมียดละไมมากกว่า
อ่านมาจนถึงตอนนี้แล้วอดรู้สึกไม่ได้ว่าณัฐจะเกี่ยวพันกับอดีตนั่นด้วยหรือเปล่า
....  แล้วอีกความรู้สึกหนึ่ง ก็คือ รู้สึกเศร้าลึก ๆ เมื่อได้อ่าน part ของเส็ง
เส็งรอคุณหลวงเป็นร้อย ๆ ปีเลยเชียวเหรอ  มันเศร้ามากเลยนะ

+1 ชอบมากค่ะ  ไม่ค่อยมีนิยายแนวนี้ให้อ่านซักเท่าไหร่  ภาษาสวยดีค่ะ

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่5 11.21 - 07/07/10
«ตอบ #145 เมื่อ09-07-2010 02:48:38 »

 o2 ณัฐเกี่ยวยังไงด้วยอ่ะ...???
 :oni1:รอตอนต่อไป....

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่5 11.21 - 07/07/10
«ตอบ #146 เมื่อ09-07-2010 06:20:50 »

+ ให้จ้า

แต่งได้ซับซ้อนมากอ่า เดาไม่ถูกเลย อยากอ่านต่อๆๆ

sky-cafe

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่5 11.21 - 07/07/10
«ตอบ #147 เมื่อ09-07-2010 20:08:49 »

ปกติเราไม่อ่านแนวนี้ เพราะกลัว - - แต่เรื่องนี้สนุกมากกกกกกกกก ถึงแม้อ่านไปจะหวาดผวาไปก็ตามที ฮี่ๆๆ XD

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่5 11.21 - 07/07/10
«ตอบ #148 เมื่อ10-07-2010 00:51:00 »

ณัฐ จะเป็นตัวละครอีกตัวที่ต้องไปเกี่ยวโยงกับเรื่องราวในอดีตหรือเปล่าเนี่ย

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่5 11.21 - 07/07/10
«ตอบ #149 เมื่อ10-07-2010 13:20:23 »

ลึกลับซับซ้อนดีจังเรื่องนี้

ยังคงสนุกเหมือนเดิมจ้า เดาไม่ถูกว่าจะเป็นไงต่อ

แต่ณัฐนี้จะเกี่ยวข้องกะใครในอดีตรึเปล่าเนี่ย

รอลุ้นตอนต่อไปจ้า ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด