[ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289  (อ่าน 486170 ครั้ง)

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
แวะมาดันรอเจ้าค่ะ ขอเบิ้ลได้ไหมอะคะ 2 ตอนรวดไรเงี้ย อิอิ

ออฟไลน์ Noi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-2
ชอบมากเลยอ่านแล้วเขิน  มาอัพไวไวนะค่ะ :bye2: :bye2:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
แวะมาดันค่ะ

คิดถึงเส็ง  :man1:

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1

    “เทิด มาหาแต่เช้ามีเรื่องอะไรหรือ” หลวงพินิจราชอักษรเอ่ยขึ้น พร้อมกับผายมือให้ทนายหนุ่มนั่งฝั่งตรงข้ามของเขา
    เทิดคนนี้ เป็นชายร่างสูงกำยำ ใบหน้าคมเข้มรูปหล่อเหมือนชาวใต้ คิ้วทั้งสองเข้มหนาเป็นสีดำสนิทรับกันกับดวงตา และเส้นผมทรงหลักแจวหยักศก มองดูคล้ายๆ แขกขายวัวอยู่บ้างเหมือนกัน หากสำเนียงภาษาที่กล่าวออกมาแต่ละคำนั้นเป็นคำสยามที่ฟังชัดเจนถูกต้องตามแบบแผนที่พูดกัน จึงรู้ดีว่าหนุ่มคนนี้เป็นคนสยาม มิใช่แขกเทศอย่างที่ใครๆมักเข้าใจผิด หากเพียงแค่เห็นหน้า
    ทนายหนุ่มเป็นคนรับใช้ใกล้ชิดที่คอยปฏิบัติหน้าที่หลายอย่างให้หลวงพินิจราชอักษร เป็นงานออกหน้าออกตา รับแขกแทนคุณหลวงหนุ่มในกรณีที่เจ้าตัวไม่สะดวกใจ หรือตัดขัดอะไรไม่อาจทำงานนั้นๆได้ ก็จะใช้เจ้าเทิดคนนี้ทำงานให้แทน ไม่ว่าจะรับแขกใหญ่โต อย่างพระน้ำ พระยา ส่งสาส์นจดหมาย หรือทำธุระซื้อขายอะไรแทนหลวงพินิจอยู่บ่อยๆ
    ชายหนุ่มคนนี้ เป็นเพื่อนเล่นมาตั้งแต่เด็กๆของคุณหลวง เพราะเป็นลูกของทนายหน้าหอของเจ้าคุณไพรัชกิจ หวงพินิจจึงเห็นวิ่งเล่นอยู่ในบ้านประจำ อายุก็รุ่นราวคราวเดียวกัน อีกทั้งมีสติปัญญาเฉียบแหลม กิริยามารยาทเรียบร้อย กล้าทำ กล้าคิด กล้าตัดสินใจ จึงทำให้มันได้ขึ้นมาเป็นทนายของหลวงพินิจเมื่อคุณหลวงย้ายบ้านมาอยู่ที่นี่ในที่สุด
    วันนี้มาหาแต่เช้าคุณหลวงก็มั่นใจว่า จะต้องมีเรื่องเริ่งรีบอย่างใด
อย่างหนึ่งแน่นอน
    “เรื่องบ้านใหญ่ขอรับ” บ้านใหญ่ก็คือบ้านของเจ้าคุณไพรัชกิจ นั่นเอง ตั้งอยู่แถวคลองสาน เป็นบ้านทรงไทยแบบเก่าที่คุณหลวงทนอยู่ไม่ได้เลยต้องมาสร้างบ้านสไตล์ฝรั่งอยู่อย่างนี้ ทุกวันนี้ที่บ้านใหญ่ มีเพียงเจ้าคุณ และ คุณหญิงไพรัชกิจอยู่กันสองคน ไม่รวมเรือนเล็กๆที่เป็นที่อยู่ของบรรดาลูกหลานเมียเก็บของเจ้าพระยาไพรัชกิจ หากมีบ่าวไพร่ บริวารอยู่กันมากมาย เพราะนานๆครั้งบรรดาญาติๆ และลูกเมียเล็ก เมียน้อยตามหัวเมืองของท่านเจ้าคุณจะมาอาศัยอยู่นั่นเอง
    แต่เนื่องจากบรรดาเมียเล็กเมียน้อยของเจ้าคุณ รวมถึงลูกหลานเหล่านั้น ไม่เคยมายุ่งอะไรกับคุณหลวงพินิจอยู่แล้ว เมื่อพูดว่า “บ้านใหญ่” ก็ย่อมหมายถึง เจ้าคุณหรือคุณหญิงไพรัชกิจ คนใดคนหนึ่งเท่านั้น
    “เจ้าคุณพ่อ กับ คุณหญิงแม่เป็นอะไรหรืออ้ายเทิด”
    “ท่านทั้งสองยังสุขสบายดีขอรับ หากแต่วันนี้ เจ้าคุณไพศาล มาเยี่ยมจนถึงบ้าน พร้อมด้วยคุณหญิง เห็นว่ามาคุยกันเรื่องงานแต่งขอรับ”
    ราวกับฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาที่กลางศาลา หลวงพินิจสะดุ้งจนสุดตัว ก่อนจะกล่าวกลบเกลื่อนไม่ให้ทนายหนุ่มล่วงรู้ความในใจ
    “ก็ดีนี่ ท่านมาเชิญให้ฉันไปคุยหรืออย่างไร”
    “มิได้ขอรับ เจ้าคุณมิได้ใช้กระผมให้มา แต่กระผมมาเองด้วยต้องการแจ้งให้คุณหลวงทราบว่า กำหนดฤกษ์แต่งคาดว่าจะสิ้นเดือนหน้าขอรับ”
    สิ้นเดือนหน้า หลวงพินิจไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
    “สิ้นเดือนหน้าแล้วหรือ”
    “เร็วไปหรือขอรับ”
    “เร็ว” หลวงพินิจลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินไปอีกด้านของศาลา ทำท่าทีเมียงมองไปยังเรือนบ่าว “เร็วไป ข้ากับแม่หยาดไม่ทันได้รู้จักนิสัยกัน แต่งกันไปเห็นจะอยู่กันไม่รอด”
    “ขอประทานโทษเถอะขอรับ แต่คุณหลวงกับ คุณหยาดลูกสาวเจ้าคุณไพศาล ก็รู้จักกันมาแต่เด็กแล้วนี่ขอรับ”
    หลวงพินิจถอนหายใจ
    “นั่นคงเป็นเหตุผลของเจ้าคุณไพศาลละซี”
    ทนายหนุ่มยิ้มกับพื้นไม้ศาลา ก่อนจะรับคำเบาๆ
    “รู้จักกันก็จริง แต่รู้จักตอนเด็กๆ ข้าไปเมืองฝรั่งตั้งแต่ 10 ขวบ กลับมาเอา เกือบ 20 ช่วงเวลา 10 ปีนั้นก็แทบไม่ได้รู้จักมักคุ้น แม่หยาดเธอเปลี่ยนไปเพียงใดก็ไม่มีใครรู้ แม้ตอนรู้จักกันก็มิได้รู้จักมักจี่รักใคร่แต่อย่างใด เห็นเป็นเพื่อนเล่นคนหนึ่งเท่านั้น”
    หลวงพินิจพักหายใจก่อนจะว่าไปอีก
    “ข้าเห็นอะไรหลายอย่างในฝรั่งเศส เห็นชีวิตแต่งงานที่ไม่ราบรื่น เห็นการหย่าร้าง ทิ้งลูกทิ้งเมียเป็นปัญหาสังคม ข้าไม่อยากเป็นอย่างนั้น”
     “แต่คุณหลวงก็ทราบนี่ขอรับว่ายังไงคุณหลวงก็ต้องแต่งงาน มีทายาทให้เจ้าคุณพ่อ” เทิดกล่าวเบาๆ
    “มีทายาทให้อีก ไม่ได้คิดถึงทายาทที่มีอยู่แล้วบ้างหรือ” คุณหลวงหนุ่มถอนใจอีกครั้ง “บรรดาลูกเมียเล็ก เมียน้อยของเจ้าคุณพ่อ ก็มีหลานให้กันแล้วเยอะแยะ เจ้าคุณพ่อยังไม่พอใจอีกหรือ”
    “หลานที่เกิดจากเมียเล็ก มีเยอะไปก็เท่านั้นขอรับ คุณหลวง เจ้าคุณท่านคงอยากได้หลานเมียคุณหญิงกระมัง ได้เชิดหน้าชูตา ได้อวดใครต่อใครได้”
    “ก็เท่านั้น” หลวงพินิจว่าเบาๆ “อวดใครต่อใคร เห็นประโยชน์ตกอยู่ที่เจ้าคุณพ่อ คุณหญิงแม่ทั้งหมด ข้าอยากมีภาระเพิ่มหรือก็ไม่ เราไม่ได้พูดกันถึงจิตใจของข้ากันเลย ตลอดบทสนทนานี้อ้ายเทิดเอ๋ย”
    “คุณหลวงขอรับ” เทิดว่าเบาๆ เบายิ่งกว่าประโยคไหน “หาว่ากระผมเสือกก็เชิญเถิด คุณหลวงพูดเหมือนว่า จิตใจของคุณหลวง ผูกอยู่ที่ใครอื่นแล้ว”
    หากไม่ใช่เพราะสนิทรู้ใจกัน เทิดคงไม่กล้าพูดเรื่องส่วนตัวขนาดนี้กับหลวงพินิจ และคุณหลววงเองก็คงไม่กล้าตอบเช่นกัน หากแต่ก่อนจะกลั่นคำตอบออกมาจากใจได้ คุณหลวงหนุ่มก็ต้องถอนใจเฮือกแล้ว เฮือกเล่าเป็นเวลานานพอควร
    “เอ็งรู้ใจข้ากว่าทุกคน” คุณหลวงว่า ไม่กล้าสบตาทนายหนุ่ม ฝ่ายพูดฟังก็ก้มหน้านิ่งไม่กล้าเงยหน้ามารับฟังนายบ่าวเต็มสองหูเหมือนกัน “เอ็งรู้ว่าข้าไม่มีวันแต่งงานกับแม่หยาดหรือ ใครก็แล้วแต่ที่ข้าไม่ได้รัก”
    “กระผมรู้ดีขอรับ” หนุ่มทนายเงยหน้าในที่สุด “แต่คุณหลวงยังไม่ได้ตอบคำถามของกระผม ว่าคุณหลวงมีใจรักใคร่ใครแล้วหรือยังขอรับ หากมีกระผมจะได้ช่วยหาทางพูดไกล่เกลี่ย กล่อมคุณพ่อให้พูดกับเจ้าคุณให้เลื่อนงานแต่งออกไปอีก หากไม่เกรงว่าคุณหลวงคงต้องแต่งงานกับคุณหยาดไปก่อนกระมัง ตามความพึงใจของเจ้าคุณ”
    หลวงพินิจถอนตาออกจากเรือนบ่าว หันกลับมาจ้องตาของทนายหนุ่ม
    “มีแล้ว เทิดเอ๋ย ข้าไม่บอกเอ็งละว่าใคร แต่ให้รู้ไว้ว่ากับคนนี้ ข้าตั้งใจจริงว่าจะอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต”
    “เพรียบพร้อมด้วยคุณสมบัติทุกประการหรือขอรับ”
    “จะว่าอย่างนั้นก็ได้ จะมองว่าไม่ใช่ก็ได้เหมือนกัน” หลวงพินิจกล่าว “ความสามารถ สติปัญญาเทียบได้กับเอ็งละ รูปร่างหน้าตาขอบอกว่าพึงใจข้าที่สุด ติดที่ฐานะ วงศ์ตระกูล แต่ข้าก็มิได้สนหรอกคนเราอยู่ด้วยกันเพราะถูกตาต้องใจกันมิใช่เรื่องว่าเป็นเจ้าเป็นนายหรือเป็นลูกพระน้ำ พระยาหรือไม่ เอ็งว่าอย่างไร อ้ายเทิด”
    “กระผมเห็นด้วยกับคุณหลวงขอรับ แต่เกรงว่าเจ้าคุณและคุณหญิง จะไม่คิดว่าเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไร ท่านทั้งสองมองแต่ความเหมาะสมกันทั้งชาติตระกูล การศึกษา ฐานะ และเผอิญว่าคุณหยาดตรงตามคุณสมบัติของเจ้าคุณและคุณหญิงเสียด้วยขอรับ”
    “นั่นซีเอ็ง” หลวงพินิจถอนใจ “เอาเป็นว่าเอ็งช่วยข้าเท่าที่ช่วยได้เถอะวะ ข้าจะขอบใจเอ็งมาก”
    “ขอรับ” ทนายหนุ่มยกมือไหว้ “เอ้อ มีอีกเรื่องขอรับ”
   “ว่าอย่างไร”
    “ที่มาหาจริงๆแล้วเพราะเรื่องเมื่อครู่ แต่ที่หาเรื่องมาจนได้ก็เพราะเจ้าคุณให้มาแจ้งขอรับว่า สัปดาห์หน้าแขกฝรั่งจะมาเยี่ยม แลต้องการไปหัวเมืองชายฝั่งทะเล เห็นว่าคงเป็นที่หัวหิน เจ้าคุณบอกวานให้คุณหลวงรีบทำงานให้เสร็จก่อนถึงเวลานั้น ได้ลางานตามเจ้าคุณไปหัวเมือง พาฝรั่งเที่ยวขอรับ”
    “ขอบใจมากที่อุตส่าห์มาบอก”
    “เจ้าคุณยังบอกอีกขอรับว่า วันสองวันนี้ จะมาร่วมโต๊ะรับประทานอาหารเย็นด้วย จะมาวันไหนคงส่งคนมาบอกขอรับ”
    “ดีละ ให้คนมาบอกล่วงหน้า จะได้เตรียมกับข้าวกับปลาไว้ถูก”
    “ขอรับ เรื่องสุดท้ายแล้วขอรับ”
    “ว่ามาซี”
    “เจ้าคุณ และคุณหญิงไพศาลเสนีย์ รวมถึงคุณหยาดก็จะมาด้วยขอรับ” ทนายหนุ่มจบประโยค หลวงพินิจก็ไม่ว่าอะไรอีก
    เทิดยกมือไหว้แล้วก็ออกไปจากศาลา ทิ้งให้หลวงพินิจราชอักษรนั่งครุ่นคิดถึงสิ่งต่างๆในใจ เดือนหน้าแล้วที่ต้องแต่งงานกับแม่หยาด คุณหลวงต้องทำอะไรสักอย่าง ให้ไม่ต้องได้เข้าพิธีกับหญิงสาวคนนั้นให้ได้

LifeTime

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #274 เมื่อ08-10-2010 16:48:34 »

อุปสรรคด่านแรก กำลังก่อตัวขึ้นแล้ว  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ayanae

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #275 เมื่อ08-10-2010 16:53:35 »

ช่วงนี้มาต่อเร็วดีจังค่า แหมๆคุณหลวงตกหลุมรักเส็งตั้งแต่แรกเจอเลยมั้งเนี่ย ถ้าเส็งมาได้ยินคุณหลวงพูดว่าอยากอยู่ด้วยตลอดชีวิตแบบนี้คงเขินแย่ แต่คนที่น่าสงสารที่สุดก็คุณหยาดเป็นคนพาเส็งมาเจอคุณหลวงแท้ๆ
ชักอยากรู้แล้วซิว่าคุณหลวงจะทำยังไงนะที่จะไม่ต้องแต่งกับคุณหยาด คงต้องรอลุ้นตอนต่อไป   

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #276 เมื่อ08-10-2010 17:03:16 »

ความรักของคุณหลวงกำลังมีอุปสรรคที่ใหญ่หลวงแล้ว

ยังไม่ทันได้เริ่มก็มีอุปสรรคสะแล้วนะเนี่ย สงสารคุณหลวง

ปล. คิดถึงเส็ง

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #277 เมื่อ08-10-2010 17:08:16 »


๖๓ + ๑ = ๖๔
ขอบคุณนะคะ คุณ Purple_Sky


ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #278 เมื่อ08-10-2010 18:00:47 »

ความเศร้าชักจะเข้ามเยือนตะหงิดๆแล้ว
แต่ยิ่งอ่านยิ่งชอบ  เนื้อเรื่องน่าตืดตามมาก

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #279 เมื่อ08-10-2010 19:15:18 »

+1 จ้า เริ่มแล้วซินะว่าแต่คุรหลวงจะทำอะไรอยากรู้จริงๆว่าแต่ตอนนี้สั้นนนนนนนนนนนนนนนนน

555+แล้วมาต่ออีกเร็วๆนะคะค้างคามากมาย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
« ตอบ #279 เมื่อ: 08-10-2010 19:15:18 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #280 เมื่อ08-10-2010 20:49:24 »

ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อซะแล้วว่าคุณหลวงตกหลุมรักอ้ายเส็งซะแล้ว
แต่สมัยนั้น  เรื่องแบบนี้คงถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงที่ไม่สามารถยอมรับได้
คุณหลวงจะทำยังงัยนะ  เฮ้อออ 

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #281 เมื่อ08-10-2010 22:20:38 »

คุณหลวงงานเข้าล่ะงานนี้
แล้วเส็งล่ะคุณหลวงจะเอาเส็งไปไว้ไหน

tawan

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #282 เมื่อ08-10-2010 22:57:37 »

งานช้างเข้าเลยคุณหลวง

 :call:

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #283 เมื่อ09-10-2010 00:27:25 »

แผนสลัดแม่หยาด จะมีหนุ่มน้อยหน้ามลด้วยไหมนะ

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #284 เมื่อ09-10-2010 01:57:05 »

อุปสรรคมาแล้ว

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #285 เมื่อ09-10-2010 18:20:58 »

 :call:เรื่องราวน่าติดตามากมายนนะครับ ขอบคุณที่มาเล่าและแต่งนิยายน่ารักๆและน่าอ่าน

มาต่ออีกนะครับ :call: :call:

Namtarn

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #286 เมื่อ09-10-2010 21:47:13 »

อยากอ่านต่อมากๆๆๆๆๆๆ :serius2:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #287 เมื่อ10-10-2010 08:39:20 »

มาดันรอเจ้าค่ะคุณหลวง

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #288 เมื่อ11-10-2010 00:15:12 »

แวะมาดันประจำวันนี้

คิดถึงเส็ง อิอิ

Lesses

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #289 เมื่อ11-10-2010 09:12:22 »

รอตอนต่อไปครับ น่าติดตาม น่าติดตาม  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
« ตอบ #289 เมื่อ: 11-10-2010 09:12:22 »





MM.Dog

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #290 เมื่อ11-10-2010 20:42:33 »

ชอบเรื่องนี้มากค่ะ
ขอบคุณนะคะที่ยังเขียนให้อ่าน (แม้จะแบบนาน ๆ ที)

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #291 เมื่อ11-10-2010 21:05:01 »

คิดถึงพาทิศ อยากให้พาทิศได้เจอเส็งสักที >.<

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #292 เมื่อ12-10-2010 00:59:50 »

แวะมาดันอีกรอบก่อนเข้านอน  แอบอ่านไปนิด  อ่านไปนึกภาพประมาณเรื่องนางทาสเลย อิอิ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #293 เมื่อ12-10-2010 12:54:34 »

แวะมาดัน ด้วยความคิดถึงจ้า

อยากอ่านต่อแล้ว ^^

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #294 เมื่อ12-10-2010 20:01:35 »

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #295 เมื่อ12-10-2010 20:18:44 »

มารออ้ายเส็งนะครับ

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
Re: ปางบรรพ์ อัพบทที่ 9 15.05 - 8/10/10
«ตอบ #296 เมื่อ13-10-2010 19:55:49 »

    ตะวันคล้อยมากแล้ว ท้องฟ้าเป็นสีน้ำเงินแกมม่วงดูๆไปคล้ายฟ้ามัดย้อมที่ทำมาอย่างสวยงาม ป่านนี้บ่าวผู้หญิงเพิ่งลงจากเรือนมาอาบน้ำอาบท่า ส่วนบ่าวผู้ชายหากไม่ตั้งวงดื่มเหล้า ก็ผ่าฟืนไว้เตรียมทำกับข้าวในวันพรุ่งนี้ มีเส็งกับมั่นเพียงสองคนที่กำลังเดินออกมาจากเรือนไม้นั้นมุ่งหน้าไปตึกใหญ่ เส็งนั้นกำลังจะไปหาคุณหลวงตามที่ผู้เป็นนายสั่งไว้ ส่วนมั่นก็เพียงเดินมาส่งบ่าวลูกจีนเท่านั้น
    “กลางค่ำกลางคืนอาจมีงูเงี้ยวบ้าง ข้าจะเดินไปส่ง”
    เดินมาในความสลัวของยามค่ำ เส็งก็อดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อกลางวันไม่ได้หลังจากกลับมาจากศาลแล้ว แก้วก็ปึงปังขึ้นเรือน เสียงดังจนใครต่อใครหันมามอง บ่าวสาวบ่าวหนุ่มที่นั่งกันอยู่ พูดคุยกันเสียงเบาเมื่อเห็นสำรับกับข้าวที่แก้วกระแทกตั้งไว้บนตั่งไม้ว่า ไม่มีอย่างใดที่คุณหลวงรับหมดเลย มีเพียงโถแก้วของเส็งเท่านั้นที่มะปรางริ้วกินไปแล้วเกลี้ยงไม่เหลือสักเพียงลูกเดียว
    “เอา เอา แม่แก้ว เดินจนเรือนไหวไปทั้งเรือนเป็นอะไรมาอีก”
    เส็งได้ยินเสียงของยายนอม ดังมาจากบนเรือน ป่านนี้บ่าวผู้หญิงทั้งเรือนคงกำลังนั่งเย็บปักถักร้อย ไม่ก็ร้อยมาลัยกันอยู่อย่างเพลิดเพลิน ตัวเอง เอาโถแก้วมาตั้งที่ตั่ง ก็ยังนั่งอยู่ตรงนั้นไม่อยากขึ้นไปเจอหน้าแก้วให้เสียอารมณ์
    “อ้ายเจ๊กนั่นนะซี เอาหน้าคุณหลวง หาว่ามันริ้วมะปรางคนเดียว”
    “เอ้า แม่” คราวนี้เป็นเสียงมั่น “แล้วไม่ถูกหรือ ก็เส็งมันริ้วเองคนเดียวกับมือ อีมะลิ อีชิดมันก็เห็น บ่าวคนไหนที่อยู่เมื่อเช้าก็เห็น”
    แก้วเถียงไม่ออกเพราะที่มั่นพูดมานั้นก็เป็นความจริง แต่หล่อนก็ยังเถียงข้างๆคูๆ ไปได้อีก
    “ก็ถ้ามันไม่เสนอไปบอก ใครเขาจะเชื่อว่ามันทำ”
     “เอ็งอย่าพาลนาแก้ว คุณหลวงจะโปรดอ้ายเส็ง เอ็งจะไปเป็นเดือดเป็นร้อนทำไม” มั่นยังคงเถียงอยู่กับนางแก้วต่อ
    “ข้าเป็นคนโปรดคุณหลวง”
    “อย่างนั้นหรือ คุณหลวงคงโปรดมากจนรับแต่มะปรางอ้ายเส็งให้หมดๆไปไม่ต้องเห็น แล้วไม่รับของเอ็งเหลือไว้ดูต่างหน้างั้นหรือ”
    สิ้นประโยค แก้วก็ปึงปังเข้าหอนอน ไม่ออกมาอีกเลยทั้งวัน
    
    “แก้วมันก็เกินไป กะอีแค่เอ็งมีฝีมือมันก็อิจฉา”
    “พี่มั่นไม่น่าพูดอย่างนั้นจ้ะ” เส็งกล่าวเบาๆ “พี่มั่นยิ่งพูดเขายิ่งแค้น ผูกใจเจ็บ ทีนี้ละตั้งตัวเป็นศัตรูกับฉันแน่”
    “เอ็งกลัวหรือล่ะ” มั่นเดินมาถึงท้ายตึกเรือนเทาแล้ว ก็หยุดพูด “มีข้า มีอีมะลิ อีชิด แล้วก็อีกหลายคนเป็นฝ่ายเราอยู่แล้ว แก้วน่ะมีแม่มันกับพวกบ่าวเด็กๆอีกไม่กี่คนเท่านั้นละเป็นพวก เกิดเรื่องอะไรขึ้นมาเราก็ชนะ ไม่อย่างนั้นคุณหลวงก็เข้าข้างทางเราอยู่ดี”
    เส็งอดยิ้มไม่ได้
   “ข้าส่งเอ็งเท่านี้ จะกลับมานอนก็อย่าลืมลงกลอนประตูด้วย เปิดทิ้งไว้ แมลง หนู งู ยุงจะเข้าเอา” มั่นว่า ก่อนจะเดินกลับไปที่เรือนบ่าว เส็งจึงเดินเข้าตัวเรือนเทาไปเพียงคนเดียว
    ทันทีที่เข้าไปในตัวเรือนซึ่งบัดนี้ไม่มีใครอยู่เฝ้าแล้ว และเปิดไฟไว้ไม่กี่ดวง เส็งก็รู้สึกประหลาด เรือนนี้มีบริวารคอยอยู่แวดล้อม ให้คุณหลวงเรียกใช้สอยตามสบายใจ พอยามค่ำคืนกลับเงียบงัน ไม่มีใครอยู่เลย เพียงเส็งปิดประตูหลังเรือนเบาๆ คุณหลวงก็ส่งเสียงเรียกมา
    “เส็งหรือ”
    “ขอรับ”
   “ขึ้นมาข้างบน ข้าอยู่ข้างบนนี้ เอ็งเดินขึ้นบันได้มาได้”
     ได้ยินแล้ว บ่าวหนุ่มก็เดินผ่านห้องครัวแบบฝรั่งเข้าตัวบ้าน ผ่านห้องอาหารไปทะลุออกห้องโถง ด้านซ้าย ด้านขวา เป็นบันไดขึ้นไปชั้นบนได้เหมือนกัน บ่าวหนุ่มไม่รู้จะขึ้นทางไหน ก็ขึ้นด้านซ้ายไว้ก่อน เพราะอยู่ใกล้กับเขามากกว่า
    พอขึ้นไปข้างบนแล้วก็พบว่า เป็นเฉลียงยาวไปสุด มีตั่งเล็กๆวางไว้ตรงสุดทางเดินด้านขวา ใกล้ๆกันนั้นเป็นบันได ฝั่งขวาที่เส็งไม่ได้ขึ้นมานั้นแหละ พอขึ้นบันไดมาแล้วขวามือของเส็งคือหอพระ ที่เปิดประตูเอาไว้ให้เห็นพระหลายองค์ที่ประดิษฐานอยู่ด้านใน ไม่ทันได้ทำอะไร คุณหลวงก็โผล่พ้นออกมาจากห้องที่อยู่ในสุด
   หลวงพินิจราชอักษรนุ่งผ้าโจงกระเบนลอยชายเพียงผืนเดียว ท่อนบนเปลือยอย่างที่ชายหนุ่มเพิ่งได้เห็น ต่างจากใครต่อใครที่มักจะเปลือยบนอยู่กับบ้านอยู่แล้ว อาจเพราะคุณหลวงติดธรรมเนียมฝรั่งก็ได้กระมัง
    “เส็ง ไหว้พระก่อน” หลวงพินิจเดินมาสมทบกับชายหนุ่มที่ยืนเก้ๆกังๆทำตัวไม่ถูกอยู่ที่อีกปลายเฉลียง ก่อนจะเดินนำเข้าหอพระ ทั้งคู่นั่งลงคุกเข้ากับพื้น กราบเบญจางคประดิษฐ์ครบสามครั้ง ก็เดินออกจากหอพระมา
    “ห้องนอนของข้า”
    หลวงพินิจชี้ให้เห็นห้องที่ถัดมาจากหอพระเป็นห้องนอนของเขา หากมีประตูปิดอยู่เส็งจึงไม่มีโอกาสได้เห็นว่าสวยงามโอ่อ่าแค่ไหน ห้องถัดมา ปิดประตูไว้เช่นกัน คุณหลวงบอกว่า “เป็นห้องนอนอีกห้อง ไว้ให้เจ้าคุณพ่อ และคุณหญิงแม่นอนเมื่อท่านมาเยี่ยม” ห้องปลายสุดเป็นห้องทำงานเวลากลางคืนมีตู้หนังสือเพียงตู้สองตู้ และโต๊ะทำงานตรงกลางเท่านั้น เป็นห้องเล็กๆ พอๆกับหอพระ ไม่ได้ใหญ่โตหรูหราแบบห้องหนังสือข้างล่าง
    “เวลานอนไม่หลับ จะมาอ่านหนังสือที่นี่”
    คุณหลวงเดินนำ เข้าไปในห้องเส็งก็เดินตามเข้าไป ดูความที่มัวสนใจอะไรต่อมิอะไรรอบกาย เส็งจึงไม่ได้ดูทางเหยียบ กระดาษที่ตกอยู่ที่พื้นตรงนั้นลื่นล้ม หลวงพินิจหันมาเห็นเข้าพอดีก็ร้อง “ระวัง” ก่อนจะเขามารับตัวเส็งไว้ได้ทันพอดี ไม่ได้ล้มฟาดไปอย่างที่ใจกลัว
     ผิวกายท่อนบนเปลือยเปล่าของทั้งคู่เบียดแนบกันอย่างไม่ตั้งใจ คุณหลวงหนุ่มรับบ่าวหน้าใสไว้ด้วยมือขวา ดึงมากอดไว้แนบกายด้วยกลัวว่าฝ่ายนั้นจะล้มหัวฟาดกับขาโต๊ะตายไปต่อหน้า เส็งเอ็งเล่าก็กอดคุณหลวงไว้ด้วยอารามตกใจ ต่างฝ่ายต่างยึดเข้าหากัน ใจเต้นโครมไม่เป็นจังหวะ ด้วยตกใจ และด้วยตื่นเต้นเมื่อได้มาอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน
    นุ่มนิ่มเนียนไปหมดทั้งตัว กลิ่นหอมอ่อนๆจากกายเส็งทำให้หลวงพินิจไม่อยากปล่อยตัวชายหนุ่มออกไปให้ห่าง แต่ด้วยความกลัวว่าจะทำให้บ่าวหนุ่มตกใจกลัว และไม่กล้าเข้าใกล้ หลวงพินิจราชอักษรจึงปล่อยตัวเส็งออกจากอ้อมกอดในที่สุด
    ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว ไม่ถึงหนึ่งนาที หากสำหรับคนทั้งสอง มันคือชั่วกาลนาน ราวกันได้กอดกันอยู่อย่างนั้นทั้งคืน
    แข็งแกร่งเหลือเกิน อบอุ่นเหลือเกิน เส็งโหยหาอ้อมกอดนี้จากชายหนุ่มผู้เป็นนายบ่าว ความอบอุ่นจากเรือนร่างทำให้นกน้อยตัวนี้อยากแต่จะซุกตัวอยู่ในรังไม่ไปไหนเสีย ทั้งที่ปีกกล้าขาแข็ง จะบินหนีไปไหนเมื่อไรก็ได้
    คนที่ทำลายความเงียบได้คนแรกคือ หลวงพินิจ
    “ขอโทษ ข้าคงทำกระดาษตกไว้ไม่ได้เก็บ” นายบ่าวก้มลงเก็บกระดาษที่ตนทำตกไว้ พร้อมๆกับที่เส็งเองก็จะก้มลงช่วยผลที่ได้คือ มือทั้งสองเกาะกุมกันและกันอยู่บนกระดาษนั้นเอง อีกดวงหน้าของทั้งคู่ก็ใกล้ชิดกันปานจะแบ่งใช้ลมหายใจร่วมกัน ความกระดากอายเกิดในใจเมื่ออยู่ใกล้กันถึงเพียงนี้
   “เอ้อ เอ็งสนใจอ่านเล่มใดก็หยิบเถิด ข้าจะรอข้างนอก” หลวงพินิจกล่าวเสียงเบา ก่อนจะวางกระดาษบนโต๊ะ ให้หินแม่น้ำขัดละเอียด ทับไว้เรียบร้อยแล้วออกจากห้องนั้นไป
    หลวงพินิจทิ้งตัวนอนตะแคงอิงหมอนสามเหลี่ยม เขาไม่ได้ตั้งใจเรียกเส็งมาเพื่อล่วงเกินหรือลวนลามหนุ่มน้อยแต่อย่างใด เจตนาบริสุทธิ์ของเขาคือเพียงอยากมีหนุ่มน้อยอยู่ข้างๆ มาอ่านหนังสือให้ฟังเท่านั้น
    หนุ่มน้อยกลับออกมาจากห้องพร้อมสมุดไทหนึ่งเล่ม ใบหน้าไม่มีแววโกรธขึ้ง ซ้ำยังมีรอยยิ้มบางๆประดับอยู่ให้หลวงพินิจดีใจ เส็งนั่งห่างจากคุณหลวงประมาณหนึ่งก็เปิดหนังสือออกพร้อมอ่าน
    “นั่งเสียไกล เข้ามาหน่อยเถอะ จะได้ไม่ต้องพูดเสียงดัง” หลวงพินิจว่า เส็งจึงขยับไปนั่งทางเท้าของผู้เป็นนาย ห่างจากตั่งไม้ไม่ถึงศอก “หยิบเรื่องใดมาอ่าน”
    “นิราศอิเหนาของสุนทรภู่ขอรับ”
    “เรื่องนี้เองหรือข้าก็ชอบเอ็งชอบตอนไหนที่สุดหรือเส็ง” หลวงพินิจว่า
    “ตอนที่อิเหนาคิดถึงตอนลักนางบุษบาไปอยู่ป่า แล้วกล่อมนางหลับขอรับ บ่าวว่ามันดู อบอุ่น เปี่ยมไปด้วยรัก แสดงให้เห็นว่าอิเหนารักบุษบาจริงขอรับ”
    หลวงพินิจยิ้มน้อยๆ
    “โรมองติก ซีนะ” หลวงพินิจกล่าวเบาๆ “ภาษาฝรั่ง แปลว่าเปี่ยมด้วยรัก”
    “โรงมองติก” เส็งกล่าวตาม
    “อย่างนั้นแหละ เอ็งเรียนรู้เร็วใช้ได้นะเส็ง ไว้วันไหนมาอ่านหนังสือให้ข้าฟังเร็วกว่านี้ ข้าจะอ่านกวีฝรั่งให้เอ็งฟังบ้าง ได้สอนให้เอ็งพูดได้ด้วย”
    “ขอบพระคุณขอรับ”
    หลวงพินิจยิ้มอย่างเอ็นดู
    “เอ้า อยากอ่านตอนไหน ก็อ่านให้ฟังหน่อยซี ข้าจะได้รู้ว่าเอ็งอ่านหนังสือคล่องเพียงใด”
    เส็งเปิดสมุดไทไปยังหน้าที่เขาต้องการจะอ่าน เป็นตอนที่เขาชอบมากที่สุด คือตอนที่อิเหนากล่อมนางบุษบาให้หลับกลางป่าเขาที่ดูน่ากลัวนั้น เส็งชอบเพราะพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระราชนิพนธ์ไว้ไพเราะยิ่งนัก ยิ่งฟังก็ยิ่งเคลิ้ม หากใครอ่านทอดเสียงเป็นทำนองเสนาะแล้ว คนฟังจะพลอยหลับไปด้วยทุกครั้ง
    เส็งทำอย่างนั้นคือค่อยๆอ่านช้าๆ เป็นท่วงทำนองเสนาะหู ทำเอาคนฟังตกอยู่ในภวังค์ ราวกับว่าที่หนุ่มน้อยกล่าวอยู่คือคาถามหาละลวยให้คนฟังได้หลงใหลได้อาจถอนใจจากผู้อ่านได้กระนั้น

           “นอนเถิดหนายาหยีพี่จะกล่อม
       งามละม่อมมิ่งขวัญอย่าหวั่นไหว
        คิรีรอบขอบเคียงเหมือนเวียงชัย
        อยู่ร่มไม้เหมือนปราสาทราชวัง”
    
    ยามเส็งเอื้อนเอ่ยน้ำเสียงนุ่มลึก หวานซึ้งเพราะจับใจ ริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มสีชมพูสวยนั้นเผยอเข้าออกตามรูปสระ จนหลวงพินิจอดนึกไม่ได้ว่า หากดึงตัวเข้ามาจูบเสีย ปากนั้นจะหวานปานน้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยวาจาหรือไม่ สัมผัสนวลเนียนที่ได้สัมผัสเมื่อครู่จะยังเนียนนุ่ม กลิ่นตัวจะหอมหวานอย่างที่เขาเพิ่งสัมผัสมาหรือเปล่า ทั้งหมดนี้วิ่งวนในจิตใจของหลวงพินิจ ด้วยความรัก ทนุถนอม มิใช่ความใคร่ในตัณหาเพียงอย่างเดียว เหมือนที่เขาเป็นกับคนอื่น
    ยิ่งฟังหลวงพินิจก็ยิ่งเคลิ้ม ยิ่งหลงใหล ราวจะหลับลงไปดุจนางบุษบาในอ้อมแขนของอิเหนากระไรอย่างนั้น หากเป็นไปได้สักวัน หลวงพินิจจะโอบตระคอง เส็งไว้ในอ้อมอก และร้องเพลงกล่อมเขาอย่างนี้ให้บุษบาของเขาหลับใหลแนบใจของเขาทุกค่ำคืน

           “เคยสำเนียงเสียงนางสุรางค์เห่
       มาฟังเรไรแซ่เหมือนแตรสังข์
       เคยมีวิสูตรรูดกั้นบนบัลลังก์
       มากำบังใบไม้ในไพรวัน
       หนาวน้ำค้างกลางคืนสะอื้นอ้อน
       จะกางกรกอดน้องประคองขวัญ
       เอาดวงดาราระยับกับพระจันทร์
ต่างช่อชั้นชวาลาระย้าย้อย”

    จะกางกรกอดน้องประคองขวัญ ไม่ต้องฟังเรไร แต่หลวงพินิจจะกล่อมหนุ่มน้อยด้วยเสียงเห่กล่อม อีกจะคอยพัดวีให้หลับสบายอย่างนี้ไปเสียทุกค่ำคืนใต้ชวาลาระย้าย้อยอย่างในบทพระราชนิพนธ์
            
          “จักจั่นหวั่นแว่วแจ้วแจ้วเสียง
ต่างสำเนียงขับครวญหวนละห้อย
พระพายเอ๋ยเชยมาต้องพระน้องน้อย
เหมือนนางคอยหมอบกรานอยู่งานพัด
โอ้เวลาปานฉะนี้เจ้าพี่เอ๋ย
กระไรเลยแลเงียบเชียบสงัด
น้ำค้างเผาะเหยาะเย็นกระเซ็นซัด
ดึกสงัดดวงจิตจงนิทรา”

    เส็งอ่านจนจบบทก็เงยหน้าขึ้นจากหนังสือ เห็นหลวงพินิจหลับตาพริ้มนอนก็อดไม่ได้จะเทียบกับพระลอที่หลับไหลอยู่บนแท่น ช่างงามราวหยาดฟ้ามาดินกระนั้น เส็งได้แต่มองหน้าอกเปลือยเปล่าของหลวงพินิจที่เคลื่อนที่ยุบพองตามจังหวะหายใจ จะเป็นอย่างไรนะ หากได้นอนหนุนร่างกายที่อบอุ่นแข็งแรงนี้แทนหมอน เส็งคิดไปก็อดเคลิ้มจนยิ้มออกมาไม่ได้ ได้แต่นั่งยิ้มมองใบหน้าของนายบ่าวยามหลับใหล ว่างดงามยิ่งกว่าสิ่งใดที่เขาพานพบมา
    แต่จะดีละหรือ อ้ายเส็ง?
    หนุ่มน้อยถามตัวเองในใจ เขาเป็นนายตัวเป็นบ่าว อีกยังเป็นชายด้วยกันทั้งคู่ แน่ละเส็งเคยมีประสบการณ์กับชายหนุ่มเมื่อตอนยังเด็กกว่านี้ แต่ก็เป็นประสบการณ์ความสัมพันธ์เพียงชั่วครู่ ชั่วคราวเท่านั้นไม่ได้เป็นสัมพันธ์จริงจัง ยืดยาวหวานซึ้งอย่างในวรรณคดีแต่อย่างใดยิ่งกับหลวงพินิจ ต่อให้เส็งเป็น บุษบาที่ปลอมมาเป็นมิสาอุณากรรณ คุณหลวงอิเหนาจะมองเขาหรือ
    เรื่องที่เกิดในห้องหนังสือ อาจเป็นเพียงเรื่องที่บังเอิญเกิดขึ้นและไม่มีวันเป็นจริงอีกก็ได้ คงมิใช่ว่าหลวงพินิจตั้งใจจะกอดเขาเสียหน่อย
    แต่ใบหน้าที่หวานซึ้งของคุณหลวงที่จ้องมาเล่า จะอธิบายตามหลักเหตุผลว่าอย่างไร หากไม่ใช่ว่าคุณหลวงแอบเผลอมีใจให้เขาบ้างแล้ว
    
      “ข้าหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ตัว” คุณหลวงขยับตัวลุกขึ้น หลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆ
    “พักใหญ่ๆ แล้วขอรับ”
    “จริงหรือ” หลวงพินิจหัวเราะลงลูกคอ “เอ็งนี่เก่งจริง ทำเสียข้าหลับได้ วันหลังข้าขอให้เอ็งอ่านกล่อมข้าที่ห้องนอนจะขัดใจหรือไม่ ให้ข้าหลับเสียแล้ว เอ็งค่อยกลับไปนอนที่เรือนบ่าว”
    เส็งเขินจนหน้าแดง
    “บ่าวมิบังอาจขัดข้องขอรับ”
    “ข้าไม่อยากให้เป็นเหมือนต้องทำตามคำสั่งนะเส็ง ถ้าเอ็งไม่เต็มใจ...”
    “บ่าวเต็มใจขอรับ” เส็งรับปากเสียงหนักแน่น จนคุณหลวงอดยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้ “หากเป็นความต้องการของคุณหลวง บ่าวเต็มใจขอรับ”
    หลวงพินิจราชอักษรยิ้มให้เส็งก่อนจะลุกขึ้นจากตั่ง
    “ดึกแล้วเส็งเอ๋ย เดี๋ยวถึงสองยามเสียก่อน ข้ายังไม่ได้ทำแผลให้เอ็ง มาในห้องเถิดนะเส็ง” หลวงพินิจ เดินเปิดประตูห้องนอนกำลังจะเข้าไป ก็เห็นเส็งเก้ๆกังๆ ไม่กล้าเข้าไปอย่างนั้น
    “เอ้า ไม่เข้ามาเล่า”
    “บ่าวมิบังอาจ เข้าถึงที่ส่วนตัวของนายขอรับ”
    “บังอาจอะไรอีก ข้าอนุญาตให้เข้าเอง เข้ามาเถอะ” หลวงพินิจว่า แต่เมื่อเส็งไม่กล้าแล้ว เจ้านายก็จูงมือข้างที่ไม่เจ็บของบ่าวเข้าห้องนอน
    “เอ็งนั่งรอก่อนเดี๋ยวข้าเตรียมอุปกรณ์ให้”
    
    ไม่ถึงห้านาทีหลวงพินิจก็ทำแผลให้เส็งเสร็จ ทั้งคู่พูดคุยกันอีกไม่กี่ประโยค นายหนุ่มก็เดินลงมาส่งเส็งถึงหลังบ้าน
    “จะไปส่งถึงเรือนโน้น ก็จะดูน่าเกลียด” หลวงพินิจว่า “คงส่งได้ถึงตรงนี้นะเส็ง”
    “เป็นความกรุณาแล้วขอรับ”
    “พรุ่งนี้เอ็งมาอีกได้ไหม ฟังเสียงเอ็งแล้วหลับสบาย”
    บ่าวหนุ่มเคอะเขิน อายม้วนไม่ต่างจากหญิงสาวถูกเกี้ยว
    “ขอรับ”
    “ดีละ เอ้อ สองสามวันนี้เจ้าคุณพ่อ กับคุณหญิงแม่จะมา เอ็งช่วยยายนอมเตรียมอาหารไว้เลี้ยงทีเถิดนะ ขอเป็นงานฝีมือแบบที่เอ็งทำวันนี้ ข้าจะอวดฝีมือเอ็งให้เจ้าคุณพ่อเผื่อต่อไปภายหน้า ข้าจะฝากฝังเอ็งทำงานในกระทรวง เอ็งจะได้สบาย”
    เส็งตาโต เขาเนี่ยหรือจะได้ทำงานในกระทรวง
    “จริงหรือขอรับ”
    “จริง” คุณหลวงส่งยิ้มให้ “แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นเอ็งต้องมาฝึกเขียนสยามให้คล่อง ฝึกอ่านคงไม่ต้องฝึกแล้ว แล้วข้าจะสอนภาษาฝรั่งจะได้ดูมีฝีมือ ฝากเจ้าคุณพ่อเข้าทำงานจะได้ไม่อายเขา”
    “ขอบพระคุณคุณหลวงขอรับ” เส็งคุกเข้าลงกราบแทบเท้า จนคุณหลวงต้องรีบรับมือนั้นไว้ ประคองให้ลุกขึ้น แล้วส่งยิ้มให้ด้วยความเมตตา
    “ข้าเอ็นดูคนฉลาด ขยันมีความตั้งใจอย่างเอ็ง ข้าจะเลี้ยงเอ็งให้ได้ดี อย่าเพิ่งไถลทำตัวให้ตกต่ำเล่า เป็นคนดีเป็นยากนัก หวังว่าเอ็งไม่ท้อเสียก่อน”
    “ไม่ดอกขอรับ”
    “ดีละ รีบเข้านอนเถิดพรุ่งนี้ตื่นเตรียมอาหารไม่ทัน”
    เส็งเดินกลับเรือนบ่าว เข้าหอนอนด้วยความรวดเร็ว พอล้มตัวลงนอนก็อดนึกทบทวนเหตุการณ์วันนี้ไม่ได้ ทั้งตอนที่กอดกัน ตอนที่มือสัมผัสกันโดยบังเอิญ ตอนที่คุณหลวงจูงมือเข้าห้องนอน ตอนที่คุณหลวงเปลี่ยนผ้าพันแผลให้ รวมทั้งคำพูดตอนก่อนจากกันมา
    “ข้าเอ็นดูคนฉลาด” คำว่าเอ็นดูนี้ จะใกล้เคียงคำว่า “รัก” หรือไม่นะ เส็งนอนหน้าแดงในความมืดก่อนจะสลัดหัวแรงๆ ทิ้งความคิดนี้ออกไปจากสมอง แล้วนอนหลับไปด้วยความอิ่มเอมใจ

tawan

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่ 9 19.50 - 13/10/10
«ตอบ #297 เมื่อ13-10-2010 20:14:41 »

หวังว่าเส็งคงไม่เป็นอีเย็นนะ

ไม่อยากเสียน้ำตาอะ

ขอแบบรักสมหวัง :กอด1:

 :call:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่ 9 19.50 - 13/10/10
«ตอบ #298 เมื่อ13-10-2010 21:35:19 »

คุณหลวงงงงงงงงงงงงงงงง
โรมองติกม๊าก
บวกให้ค่ะ อยากอ่านอีกๆๆๆๆ

nuewanda

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปางบรรพ์ อัพจบบทที่ 9 19.50 - 13/10/10
«ตอบ #299 เมื่อ13-10-2010 21:41:57 »

ตอนต่อไป จะดราม่า จะอะไรก็ว่าไง

แต่สำหรับตอนนี้ ขอเก็บความโรมองติกให้ชื่นใจก่อน  :o8:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด