[ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289  (อ่าน 486159 ครั้ง)

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
โอย หวานมากกกกก ^^

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
ชอบมากเลยครับ บรรยายได้เห็นภาพเลย

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
คุณหลวงหยอดได้หยอดดี หยอดวันหยอดคืน

จะหวานกันไปไหนเจ้าค่ะเนี่ย

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
เส็งเป็นบัวปริ่มน้ำของคุณหลวงคนเดียวล่ะซิ
หวานมากกกก..
เห็นด้วยกับแก้วที่เป็นบัวใต้น้ำมากเลยล่ะ

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
จะบอกไรเตอร์ให้รู้อะไรใว้อย่างนะครับ
เรื่องนี้นะ  ถึงไรเตอร์จะเขียนได้ยาวขนาดใหนในแต่ละตอน
แต่ก็ยังสั้นสำหรับคนอ่านอยู่ดี  บางทีความรู้สึกว่าสั้นมากด้วย
อยากอ่านไปเรื่อยๆอ่านมากๆ
เพราะอะไรไม่รู้

oattie

  • บุคคลทั่วไป
คุณหลวงกับเส็งหวานกันจริงๆ  :L1:

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
มันจะหวานเกินไปแล้วน้า :serius2: :serius2: :serius2:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
แวะมา+1 รอคุณหลวงของเส็งเจ้าค่ะ

ออฟไลน์ Lady-Rabbit

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 167
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
หวานจัดค่าา

ออฟไลน์ Resonance

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เพิ่งตามมาอ่านค่ะ สนุกมาก หวานได้อีก ว่าแต่คุณชายพาทิศจะฝันนานไปป่าวเนี่ยะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
คุณหลวงหวานได้อีกกกกก

จีบแบบละมุนละม่อม  :-[

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
ไปต่อกันเลยนะคร้าบบบบ

**********************************************************************************************************
๑๒       

    เรื่องน่าแปลกใจอย่างหนึ่งที่มนุษย์เป็นกันทุกคนคือ หากวันรุ่งขึ้นเป็นวันสำคัญ เป็นวันที่จะต้องไปทำอะไรสักอย่างที่เฝ้ารอ หรือไปกับใครที่ต้องการ หรือจะได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ หรือต้องมีใครจากไป เราทุกคนก็มักจะนอนไม่หลับกันเสมอในคืนก่อนที่จะถึงวันนั้น
    คืนก่อนกำหนดเดินทางไปหัวหินของหลวงพินิจ มีคนนอนไม่หลับพร้อมกันในคืนเดียวถึงสามคน

    คนแรกคือคุณหลวงพินิจราชอักษรเอง คุณหลวงหนุ่มนอนอยู่บนเตียงสี่เสากลางห้องนอนของเขานั้น หากแต่ใจยังไม่ยอมหลับแม้จะดับไฟทุกดวงแล้วก็ตาม คุณหลวงสวมเสื้อคอกลมสีขาวบาง กางเกงแพรจีนสวมสบาย นอนตะแคงหันหลังให้กับห้องน้ำที่อยู่ทางซ้ายของเขา มองไปยังที่ที่ มักมีคนมานั่งเป็นเพื่อนยามค่ำ อ่านกลอน หรือ กาพย์ โคลงให้ฟังทุกคืน ป่านนี้ หนุ่มน้อยผู้นั้นคงหลับสบายอยู่ที่เรือนบ่าว คงไม่ได้รู้เลยว่า นายหนุ่มจะนอนไม่หลับ ด้วยคิดถึงคะนึงหาเขาเพียงใด
    พรุ่งนี้แล้วที่หลวงพินิจราชอักษรจะต้องเดินทางไปหัวหินกับเจ้าคุณพ่อ คุณหญิงแม่ และ บ้านไพศาลเสนีย์ คุณหลวงหนุ่มไม่ได้ตื่นเต้นหรอกที่จะได้ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา หรือว่าจะได้ไปติดตามรับใช้ฝรั่งมังค่า เขากำลังครุ่นคิด และกังวลอยู่เต็มหัวใจ ว่าพรุ่งนี้เช้าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นหน้าของเส็ง ก่อนจะเดินทางออกหัวเมือง และจะไม่ได้พบกันอีกไปหลายวัน
    วันนี้เจ้าคุณ และ คุณหญิงไพรัชกิจเดินทางมาพักอยู่กับเขาที่ห้องข้างๆนี้เอง ลูกชายจึงไม่กล้าให้บ่าวหนุ่มมารับใช้ปรนนิบัติถึงบนตึก ด้วยกลัวว่าใครจะล่วงรู้ความจริงในใจของเขาขึ้นมา
    หลวงพินิจมั่นใจว่าเขารักเส็ง
    เขาอาจรู้สึกเพียงสนใจ และเอ็นดูหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มของหนุ่มน้อยเมื่อครั้งแรกพบก็จริง แต่เมื่อยิ่งอยู่ด้วย ยิ่งรู้จัก ยิ่งได้ใกล้ชิดพอจะรู้นิสัยใจคอกันแล้วอย่างนี้ หลวงพินิจก็ยิ่งรู้สึกผูกพัน มากขึ้นเรื่อยๆ จนพัฒนาเป็นความรัก และรักอย่างแรงกล้าจนไม่อาจอยู่ห่างบ่าวหนุ่มได้แม้สักวันเดียว
    ทุกครั้งที่อยู่ใกล้เส็ง หลวงพินิจจะรู้สึกอบอุ่น เหมือนเขาเป็นผู้ดูแล ปกป้องเลี้ยงดูบ่าวหนุ่มได้ เขาชอบที่จะเห็นดวงตามีความสุขเป็นประกายของหนุ่มน้อย เวลาเขาสอนทำอาหารฝรั่ง หรือ พาไปเดินเปิดหูเปิดตาที่ตลาดบางรักเมื่อไม่กี่วันมานี้ ชายหนุ่มชอบที่เส็งเป็นคนน่ารัก ง่ายๆ ไม่จองหองพองขนอย่างแก้วเมื่อเขาให้ความสนิทสนมด้วย เขาชอบที่เส็งเป็นคนซื่อๆคิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ขยัน ใฝ่เรียนรู้ สอนอะไรก็จำได้ขึ้นใจ เข้าใจได้ตลอดลึกซึ้ง แถมยังฉลาด ทะเยอทะยานอยากได้ใคร่ดี หากแต่ไม่ก้าวร้าวจนดูไม่น่ารัก เขาชอบความสามารถของเส็ง ชอบความจริงที่ว่าเส็งเป็นคนเก่ง ทำงานฝีมือได้ ทำอาหารได้อร่อยถูกปาก ทำงานบ้านได้เรียบร้อย อ่านออกเขียนได้จะพัฒนาให้โตไปเป็นคนรับใช้สนิทกัน เป็นทนายหน้าหอของเขาก็คงเป็นไปได้สักวัน
    เขาชอบน้ำเสียงอ่อนนุ่มราวเสียงดนตรี ยามเส็งขับเสภา หรือเอื้อนเอ่ยอ่านทำนองเสนาะให้เขาฟังทุกคืน ชอบที่เส็งรับฟังความทุกข์และปัญหาของเขา อย่างเพื่อน อย่างคนที่ห่วงใย ไม่ใช่ทำตามหน้าที่แบบเทิด หรือประจบประแจงแบบแก้ว หลวงพินิจชอบเส็งไปเสียทุกอย่าง
    และที่ชอบมากที่สุด คือรอยยิ้มที่ใสซื่อ สะอาด จริงใจ ที่น่ารัก สวยงามราวกับภาพวาด แม้เส็งจะไม่ใช่คนหล่อเหลาแบบเขา แต่ยามพูดจา หรือยามยิ้ม จะดูน่ารักไปหมด จนหาที่ติไม่ได้ และด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เอง ทำให้หลวงพินิจรู้แน่ว่า เขาไม่อาจขาดสิ่งเหล่านี้ไปได้สักวันในชีวิต
    เพราะเขาตื่น เมื่อคิดว่าจะได้ตื่นมาเจอเส็ง
   เขาอิ่ม เมื่อมีเส็งนั่งใกล้ๆ เวลากินอาหาร
   เขาสนุก เมื่อได้สอนอะไรใหม่ๆ เมื่อได้พาเส็งไปดูโน่นดูนี่
    เขามีความสุข เมื่อเห็นเส็งมีความสุข ได้หัวเราะ ได้ยิ้ม ไปกับเขา
    เขารู้สึกผ่อนคลาย เมื่อมีเส็งคอยปรนนิบัติพัดวี
    เขาอุ่นใจ เมื่อมีเส็งอยู่ข้างๆ
    เขาหลับได้เต็มอิ่ม เมื่อรู้ว่าหลับตาลงก็จะฝันถึงเส็ง
    กิจกรรมทุกอย่างในชีวิตของเขาบัดนี้ หากไม่มีเส็งเป็นแรงผลักดัน ก็มีเส็งคอยทำให้ หรือทำไปด้วยกัน จนเคยชินเสียแล้วว่า เมื่อตื่นก็ต้องเจอเส็ง ก่อนนอนก็ต้องเจอเส็ง หันไปทางไหนก็ต้องเห็นเส็งตลอดเวลา ยังไม่มีสักวันที่เขาไม่ได้อยู่กับหนุ่มน้อยตั้งแต่รู้จักกันมา กระทั่งวันนี้
    เขาจะพร้อมหรือเปล่า หากต้องไปอยู่ในที่อีกที่หนึ่งที่ไม่มีเส็งอยู่ด้วย แล้วเขาจะอยู่ได้หรือวันใดที่ข้างเตียงของเขาไม่ใช่เส็งที่นั่งอ่านเรื่องขุนช้างขุนแผนให้ฟัง หากแต่เป็น “ภรรยา” ของเขาที่นอนอยู่ร่วมกันแทน
คิดถึงแม่หยาดทีไรหลวงพินิจก็ไม่อาจทำใจให้เป็นสุขได้เลย เขาไม่อยากแต่งงานกับหล่อน เขาไม่ได้รักหล่อน เส็งต่างหากที่เขารักหมดใจ และหากทำได้ก็เป็นเส็งอีกนั่นละ ที่เขาอยากแต่งงานด้วย อยู่ด้วยไปตลอดชีวิต
 แต่หลวงพินิจราชอักษรคนนี้จะทำอะไรได้ เขาไม่อาจฝืนใจพระยาไพรัชกิจ เขาต้องสืบสกุลนี้ต่อไป และไม่อาจนำความเสื่อมเสียมาสู่ตระกูลของเขาได้เลย การที่ชายรักชายในสยามนั้นเป็นเรื่องวิปริตเสียมากไม่อาจเป็นที่ยอมรับได้ แม้ในฝรั่งเศสก็ยังมีให้เห็นน้อยนัก ทำให้เขาไม่อาจอยู่กินกับเส็งได้อย่างออกหน้า ออกตา ทำได้ก็เพียงรักกันแบบหลบซ่อนไปวันๆเท่านั้น
แล้วเส็งมีใจให้เขาบ้างหรือไม่
เขาตอบไม่ได้เต็มปากว่าไม่ แต่ให้พูดว่าเส็งรักใคร่ผูกพันกับเขา หลวงพินิจก็พูดไม่ได้เช่นกัน เส็งมีท่าทีโอนอ่อนนอบน้อมภักดีกับเขาก็จริง แต่จะรักใคร่แบบชู้สาวด้วยหรือ เขาก็ไม่รู้ รู้แต่เส็งไม่ได้สนใจบ่าวผู้หญิงคนใดในบ้านหลังนี้เลยแม้สักคนเดียว แต่นั่นก็ไม่อาจใช้เป็นหลักประกันได้ว่า หากเขาบอกรักบ่าวหนุ่มคนนี้ เส็งจะรับรักเขาตอบด้วย
 แต่อย่างน้อยได้ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้างก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายมิใช่หรือ
ก่อนไปหัวหิน หากได้บอกรัก ได้แนบอิงกับคนที่เขามีใจ ก็คงเป็นเรื่องดีไม่น้อย แต่เขาจะลุกไปหาเส็งถึงเรือนบ่าว เรียกให้ลงมาหาแล้วบอกรักหรือ บ่าวไพร่คนอื่นก็ต้องรู้เรื่อง แล้วถ้ารอถึงพรุ่งนี้เช้าเล่า เจ้าคุณพ่อ กับคุณหญิงแม่ก็ต้องรู้เรื่องเช่นกัน ... ทีนี้จะทำอย่างไรเล่า
 หลวงพินิจลุกขึ้นจากเตียง จินตนาการว่า เส็งอยู่ตรงหน้า
 “เส็งรู้ว่าเราไม่อยากแต่งงานกับแม่หยาด รู้ว่าเรามีคนที่รักอยู่แล้ว เส็งยังเคยถามด้วยว่าคนคนนั้นเป็นใคร วันนี้เราพร้อมแล้วที่จะบอก พร้อมแล้วที่จะให้เส็งรู้เรื่องทุกอย่างว่า... เรารักเส็งมากเหลือเกิน รักสุดหัวใจเท่าที่จะรักใครได้” คุณหลวงหนุ่มรำพึง
ทำอะไรอยู่ อ้ายแสง เอ็งจะบอกรักเขาดื้อๆอย่างนี้เทียวหรือ แล้วจะบอกเมื่อไหร่ อย่างไร มีเวลาหรือที่จะอยู่กับเส็งสองคน
 หลวงพินิจส่ายหัว ไม่ไหว ทำอย่างนี้ไม่ได้
 เขาทรุดตัวลงนั่งบนเตียง มองออกนอกหน้าต่างดูพระจันทร์เสี้ยวที่ส่องแสงน้อยนิดราวจะบอกเขาว่า ความหวังที่เขาจะได้รักกับเส็งนั้นมีน้อยเหลือเกิน คุณหลวงหนุ่มลูบเตียง มองไปยังที่ที่เส็งมักนั่งอ่านหนังสือให้เขาฟัง หากเพียงแต่คืนนี้เส็งมาอ่านหนังสือที่นี่อย่างที่ทำทุกครั้งก็คงดี เขาคงได้บอกทุกอย่างที่เขามีในใจ
แล้วหลวงพินิจราชอักษรนึกขึ้นได้ในที่สุด... บ่าวไพร่อ่านหนังสือไม่ออก มีเส็งเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อ่านหนังสือได้ หากไม่มีโอกาสบอกก็เขียนหนังสือให้ซี เท่านี้ก็ไม่มีใครรู้เรื่องแล้วนอกจากเส็ง
 ไวเท่าความคิด หลวงพินิจย่องออกจากห้องนอนไปยังห้องหนังสือที่อยู่ถัดจากห้องที่เจ้าคุณ และคุณหญิงไพรัชกิจนอนอยู่ เดินไปเปิดประตู และปิดอย่างเบาที่สุดไม่ให้เจ้าคุณพ่อ คุณหญิงแม่ได้ยิน เขาหยิบกระดาษที่วางกองๆไว้อย่างไม่ใส่ใจบนโต๊ะ มาไว้ตรงหน้า หยิบปากกาขึ้นจรดหน้ากระดาษ แล้วเริ่มเขียนกลอนเพลงยาวให้เส็ง ขึ้นด้วยวรรครับตามขนบวรรณคดี
“กายจำต้องห่างแล้วแก้วตาพี่...”

เมื่อต้องนอนพลิกไป พลิกมาอยู่หลายรอบจะทำอย่างไรก็หลับไม่ลงสักที เส็งก็เลิกมุ้งมุดออกมาในที่สุด บ่าวหนุ่มคลำทางในความมืด เดินออกจากหอนอนมายังนอกชาน ด้วยความที่อุดอู้เหลือทน ไม่อาจอยู่ในหอนอนแคบๆรวมกับบ่าวอีกนับสิบโดยไม่อาจข่มใจให้หลับได้อีกต่อไป
หนุ่มน้อยลูกจีน เดินปล่อยความคิดไปเรื่อยเปื่อย ลงจากเรือนบ่าวมายังพื้นสนามหญ้า ลากเท้าผ่านต้นหญ้าที่ตัดไว้สั้นเตียนอย่างไม่กลัวงูเงี้ยว แม้จันทร์คืนนี้จะมืดเหลือเกิน แต่บ่าวหนุ่มก็กำลังว้าวุ่นในใจเกินกว่าจะมัวคิดระแวง ระวัง เขาเดินช้าๆไปที่ท่าน้ำริมคลอง นั่งหย่อนขาลงแม่น้ำอย่างสบายอารมณ์ แกว่งเท้าไปในน้ำอย่างที่คุณหลวงเคยแนะนำว่า ทำอย่างนี้แล้ว “สบายดี”
 สบายน่ะคงสบายอยู่ เพราะน้ำในคลองเย็นสดชื่น อากาศคืนนี้ค่อนข้างอ้าวอยู่แล้ว จึงทำให้ยิ่งสบายใหญ่ หากแต่ใจของบ่าวหนุ่มน้อยไม่ได้สบายเลยแม้สักนิด
 วันนี้เขาไม่ได้เข้ารับใช้ใกล้ชิดคุณหลวงอย่างที่ทำอยู่ทุกวันเลย เพราะคุณหลวงไปบางรักแต่เช้ากลับมาอีกทีก็เกือบบ่าย ซ้ำยังมาพร้อมเจ้าคุณ และ คุณหญิงไพรัชกิจอีกด้วย พอกลับมาถึงแล้วก็ขึ้นตึกอยู่กับเจ้าคุณพ่อคุณหญิงแม่ทั้งวัน เส็งพบคุณหลวงเพียงตอนยกอาหารเย็นไปให้เท่านั้น คุณหลวงพูดจากับเขาเพียงว่า “ขอบใจเส็ง อาหารน่ากินเหลือเกิน” ประโยคเดียว แล้วไม่ได้สนใจเขาอีกเลยจนเส็งต้องออกมานั่งรอที่ห้องหนังสือเหมือนเคย
แต่หลวงพินิจไม่ได้มาที่ห้องหนังสือ บ่าวหนุ่มจึงกลับเรือนบ่าว พอใกล้ค่ำ เส็งกลับมาที่เรือนเทา บ่าวที่เฝ้าอยู่ที่ประตูก็ว่า “คุณหลวงคุยกับเจ้าคุณ ไม่ให้ใครกวน” เส็งจึงเดินคอตกกลับมา นั่งปล่อยเวลาให้ผ่านไปเฉยๆ จะทำอะไรก็ไม่มีกะใจ จะคุยกับใครก็ไม่สนุกเท่าคุยกับคุณหลวง
 คุยเรื่องส่วนตัวของกันและกันบ้าง ไม่อย่างนั้นก็คุยเรื่องวรรณคดี หรือความเป็นไปของบ้านเมือง เส็งได้ยินคุณหลวงเปรยๆอยู่วันหนึ่งว่า “ฝรั่งมังค่าเยอะเหลือเกิน เอาเงินเขามาแลกเงินสยาม เงินเหลือในท้องพระคลังน้อยเต็มที เห็นว่าพระพุทธเจ้าหลวงจะผลิตเงินกระดาษใช้แบบฝรั่ง แล้วให้ยกเลิกเงินเบี้ย เงินพดด้วง เพราะปลอมแปลงกันง่าย และไม่มีพอใช้จ่ายในประเทศ”
บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปมากเหลือเกิน มีโบสถ์มีวัดฝรั่งเต็มไปหมด ที่บางรักก็มีการทำทางลาดยางดูแปลกตาอย่างที่บ่าวหนุ่มไม่เคยเห็นมาก่อน นอกจากนั้นก็ยังมีรถราง รถไฟอะไรไม่รู้เยอะแยะ คนเริ่มเดินทางทางเรือน้อยลงแล้ว เรือจ้าง เรือแจวก็ผ่านมานานๆครั้ง เส็งจะไปไหนมาไหนก็ไม่สะดวก คุณหลวงเคยบ่นๆกับเส็งว่า
 “ฝรั่งเศสมายึดจันทบุรีอยู่เป็นสิบกว่าปี เพิ่งยกทัพออกเมื่อวันที่ 8 มกราคม กลัวเหลือเกินว่าจะกลับมาอีก กลัวเสียเมืองให้ฝรั่งมังค่ามาปกครอง”
 “เราทำอะไรไม่ได้เลยหรือขอรับ” เส็งถามอย่างอยากรู้ ด้วยเป็นห่วงบ้านเกิดเมืองนอน
 “ทำซี ทำอยู่ พระพุทธเจ้าหลวงถึงได้ทรงพัฒนา เปลี่ยนแปลงประเทศเรา ให้ศิวิไลซ์ อย่างฝรั่งเขา จะได้มองว่าเราเจริญแล้ว ไม่ต้องมายึกครองเอาไป อย่างเมืองลาว เมืองเขมร” คุณหลวงตอบ “แปลก เส็งสนใจการบ้านการเมือง เราบ่นกับเทิด เห็นเทิดว่าแต่ อย่าวิตกไปขอรับ หรือไม่ก็ เดี๋ยวก็ดีเองขอรับ เราพูดด้วยไม่ได้อีก เดี๋ยวหาว่าวิตกเกินว่าเหตุ”
เส็งคิดถึงเวลาที่หลวงพินิจเล่าโน่นเล่านี่ให้ฟัง และพาเขาไปเปิดหูเปิดตาที่โน่นที่นี่ เส็งอบอุ่นทุกครั้งที่อยู่ใกล้หลวงพินิจ
 บ่าวลูกจีนเข้าใจว่า ชายไม่สมควรจะรักชายด้วยกัน แต่เขารู้สึกรักและผูกพันกับคุณหลวงเหลือเกิน การได้ปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิดกับคุณหลวงกลายเป็นสิ่งที่สนุกสนาน เพลิดเพลินไปเสียแล้ว มิใช่เป็นเพียงสิ่งที่บ่าวพึงปฏิบัติต่อนายตามหน้าที่อีกต่อไป
 เส็งรู้สึกดี ภูมิใจทุกครั้งที่ได้ดูแล ปรนนิบัติคุณหลวง รู้สึกปลื้มใจเมื่อคุณหลวงกินอาหารที่เขาทำให้อย่างเอร็ดอร่อย จนต้องออกปากชมทุกครั้ง กระนั้นคุณหลวงก็ไม่ได้เป็นฝ่ายให้เขาดูแลอยู่ตลอด กลับคอยช่วยเหลือดูแลเส็งเป็นครั้งคราว อย่างไม่จำเป็นเลย ก็อย่างวันนั้นที่ห่มผ้าให้เขานั่นก็คราวหนึ่งแล้ว หลังจากนั้นก็ยังพาเขาไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา คอยประคองเวลาขึ้นเรือ ลงเรือ หลายครั้ง จูงมือเขาเดินเวลาอยู่ในสวนที่บ่าวไพร่คนอื่นไม่เห็น เมื่อเห็นว่าเขาเดินไม่สะดวกนัก
มีครั้งหนึ่งตอนเข้าสวนไปดูผลไม้ หลวงพินิจถึงกับเอื้อมมือปลดมะม่วงลงมาปอกเฉือนให้เส็งกิน ทำเอาบ่าวหนุ่มขวยเขินไปหมด นั่งกินกันอยู่ในสวนสองคนราวกับว่าเป็นสวนสวรรค์ของทั้งคู่ก็ไม่ปาน อีกครั้งก็ตอนเดินชมสวนดอกไม้ เส็งรำพึงว่าดอกจำปาลาว หรือดอกลั่นทมนั้นสวยเหลือเกินไม่น่าชื่อลั่นทมให้ไม่เป็นมงคลเลย หลวงพินิจก็เด็ดดอกลั่นทมมาให้เส็ง
 “มันอัปมงคลก็แค่ชื่อเท่านั้น ถ้าชอบจะเด็ดให้ทุกวัน”
 เพราะคุณหลวงไปอยู่ต่างประเทศมาเสียนานกระมังถึงได้ปฏิบัติตนเป็นสุภาพบุรุษเหมือนฝรั่งมังค่า ผิดจากนิสัยคนสยาม ที่เชื่อว่าผู้ชายเกิดมาเป็นนาย นั่งสบายให้ผู้หญิงดูแล ถึงอยู่ในฐานะนายจริงๆ คุณหลวงก็ยังอุตส่าห์มีใจดูแลเส็งบ้างเป็นอย่างดี บ่าวหนุ่มแทบจะอยู่อย่างสบายเกินไปเสียเอง
 วันพรุ่งนี้แล้วอ้ายเส็ง วันพรุ่งนี้แล้วที่คุณหลวงของเอ็ง จะออกหัวเมือง ไปหลายวันจะกลับเมื่อไรก็ไม่รู้ เอ็งจะทนได้หรือ อยู่โดยไม่มีคุณหลวงได้หรืออ้ายเส็ง เขานึกในใจ
 เส็งรักคุณหลวง เหลือเกิน อยากอยู่รับใช้ดูแลคุณหลวงไปตลอดชีวิต แม้อยู่ในฐานะบ่าว อ้ายเส็งคนนี้ก็ยอม คุณหลวงใจดี ดีกว่าใครที่เส็งรู้จัก เส็งจึงทั้งรัก ทั้งเคารพ ทั้งภักดีจนไม่อาจทำอะไรล่วงเกินให้คุณหลวงเสียใจ และผิดหวังในตัวเขาได้
มีหลายครั้งเวลาถูกเนื้อต้องตัวกัน เส็งอยากจะอิงแอบแนบชิดคุณหลวงไว้อย่างนั้นทั้งวัน แต่ก็ยังเกรงว่าคุณหลวงจะหาว่าตีตนเสมอท่าน หรือหากคุณหลวงจะไม่คิดแบบเดียวกับเขา คุณหลวงจะพาลรังเกียจแล้วไล่ออกจากบ้านไปเสียจะเข้าไปบอกรัก อ้ายเส็งจะกล้าหรือ หากทำจริงๆแล้วไม่เป็นดังใจหวัง ได้ถูกเรียกว่าบัณเฑาะก์ ถูกตีตราว่าเป็นผู้วิปริตไปตลอดชีวิตเป็นแน่อ้ายเส็ง
เส็งจะรู้ไหมว่า หลวงพินิจก็คิดอย่างเดียวกันนี้ อยู่เช่นเดียวกันไม่ใกล้ ไม่ไกลเท่าไรเลย
บ่าวหนุ่มถอนใจ ลุกขึ้นจากท่าเรือหมุนตัวจะกลับเรือนบ่าว ก็เผอิญเห็นไฟบนห้องหนังสือยังเปิดอยู่ มันเพิ่งเปิดแน่ละ เพราะตอนเส็งลงจากเรือนบ่าว ตึกใหญ่ยังปิดไฟอยู่เงียบสนิท หนุ่มน้อยนึกขึ้นได้ว่าคุณหลวงเคยบอกว่า
   “เวลานอนไม่หลับ จะมาอ่านหนังสือที่นี่”
คุณหลวงนอนไม่หลับเพราะเสียดายที่จะไม่เจอเขาจะเป็นไปได้หรือ หรือว่าตื่นเต้นเพราะจะได้ไปเที่ยวกับคู่หมั้น เส็งรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตนเดินมาอยู่ตรงหน้าต่างห้องหนังสือเสียแล้ว เขาไม่ได้คิด ไม่ได้หวังแม้แต่น้อยว่าจะเห็นสิ่งที่ เขากำลังเห็นอยู่
หลวงพินิจราชอักษร มองจ้องไปยังเรือนบ่าว ด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์เป็นที่สุด หากเส็งจะไม่คิดเข้าข้างตัวเองเกินไปหลวงพินิจก็คิดถึงเขาอยู่เหมือนกัน จะเป็นเพราะเส็งเดินเสียงดัง หรือเพราะหลวงพินิจเห็นเขาจากหางตาก็ไม่อาจรู้ได้ คุณหลวงก้มลงมาพบกับเส็งที่ยืนแหงนหน้ามองเขาอยู่พอดี

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2010 21:45:26 โดย samsoon@doll »

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก ค้างด้วยคน กำลังลุ้นเลยอะ  :serius2:

ออฟไลน์ ayanae

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
น่าสงสารทั้งคุณหลวงทั้งเส็งเลยอ่ะ
รักกันแต่ก็ไม่กล้าบอก ถึงจะใจตรงกันแต่ก็อยู่ด้วยกันไม่ได้
ทีนี้คุณหลวงจะทำยังไงต่อไปนะ

ออฟไลน์ bigbeeboom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
อ่านแล้วรู้สึกทั้งคู่กำลังปวดใจ โอ้ยเศร้า สงสารอย่างแรงอ่ะ
 ไรเตอร์ขออะไรหวานๆให้ชื่นใจอีกได้ป้ะคะ นะๆๆๆ

ออฟไลน์ O_cha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ตามองตา~~~ สายตาก็จ้องมองกัน~~~

หากคืนนี้จะมีคนนอนไม่หลับถึงสามคนแล้ว  คนหนึ่งคือคุณหลวง  สองคือเส็ง  คนที่สาม...


ก็คงเป็นกระผมเองกระมัง  เล่นมาตัดฉับกันเยี่ยงนี้  แล้วต้องรออีกกี่เพลาจึงจะได้อ่านต่อล่ะขอรับ

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
ฉากต่อไปขอหวานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ noina

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
 :z2: :z2: :z2: :z2:ยิ่งอ่านยิ่งชอบอ่ะ

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3
คะ คะ คะ ค้างอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
 :pig4:
มาต่อด่วน.....กำลังค้างเติ่ง...

ออฟไลน์ Lady-Rabbit

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 167
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
โรแมนซ์แบบเงียบๆๆๆ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
มารอตอนต่อไปค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา  :call:

ออฟไลน์ noina

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0

LifeTime

  • บุคคลทั่วไป
 :-[
หวานหยดย้อย จะบอกรักกันแล้ว  :m4:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
หวานปนขม อย่างงี้อึดอัดมากกกกกก


สงสารทั้งคุณหลวงทั้งเส็ง  :monkeysad:



ออฟไลน์ O_cha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
จะได้อ่านสัปดาห์ละครึ่งตอนรึเปล่าครับ  :เฮ้อ:


รอคุณหลวงจนนอนไม่หลับเลย

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
ไปต่อกันเลยค้าบบบบบบบบบบบบบบ

***************************************************************************************************

หลวงพินิจตกใจ คงไม่คิดว่าจะได้พบบ่าวหนุ่มดังที่คิด เขาสะดุ้งแวบแรกที่เห็นใครเดินเข้ามา เมื่อพบว่าเป็นเส็งก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ เขาขยับปากเป็นคำว่า “รอก่อนนะ” แล้วรีบลงมาพบบ่าวหนุ่มข้างล่าง
เส็งดีใจที่มีโอกาสพบหลวงพินิจตามลำพังเพียงใดก็ไม่อาจแสดงออกให้เห็นได้ทั้งหมด เพียงยิ้มมุมปากเมื่อเห็นหลวงพินิจเดินลงจากเรือนมา เปิดประตูด้านหลัง แล้วตรงเขามาหา
“เส็ง พอจะไปคุยกับเราริมสระบัวได้ไหม”
“ขอรับ” เส็งตอบแผ่วเบาอย่างดีใจ ที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับหลวงพินิจเพียงสองคน ก่อนจะไม่ได้พบกันไปอีกนาน พอบ่าวหนุ่มรับคำ คุณหลวงก็เดินนำหน้าไปก่อน ยอบตัวนั่งริมสระ บ่าวหนุ่มก็นั่งตาม เงียบสักพักหนึ่ง ต่างฝ่ายต่างไม่ได้ยินอะไรนอกจากเสียงใจตัวเอง
 “คุณหลวงจะไปพรุ่งนี้แล้ว ควรจะนอนไวนะขอรับ” เส็งเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นเป็นคนแรก
“นอนไม่หลับ”
 “ตื่นเต้นหรือขอรับ”
 “ไม่ใช่ดอก” หลวงพินิจหันมา ก็พบใบหน้าที่เขาฝันถึงในแสงจันทร์สีนวล อยากก้มลงหอมแก้มให้ชื่นใจสักครั้ง แต่ก็สะกดใจไว้ได้อย่างยากลำบากเต็มทน “เส็งก็รู้ว่าเราไม่ได้อยากไปเลย ไม่อยากไปเพราะห่วง”
คุณหลวงหลบตา หันไปมองดอกบัวที่พร้อมใจกันตูมอยู่เต็มสระ
 “ห่วงเส็ง”
บ่าวหนุ่มก้มหน้างุด เขินอายจนหน้าแดง หากแต่ไม่อาจสังเกตได้เพราะความมืดนั้น กระทั้งหลวงพินิจพูดต่อ
 “จะอยู่ได้หรือเปล่าถ้าไม่มีเรา ไม่อยากทิ้งไว้เลย แต่จะเอาไปด้วยเจ้าคุณพ่อก็ไม่อนุญาต” เขาเว้นวรรค ก่อนจะเอ่ยต่อเสียงเนิบๆ “กลัวโดนแก้วมันรังแก”
“บ่าวไม่กลัวขอรับ”
หลวงพินิจหัวเราะ
 “แต่เรากลัว เราเห็นสายตาเวลามันมองเส็ง ดูเคียดแค้นนัก เราดูออกไม่ใช่ไม่รู้เรื่อง นางคนนี้อยากเป็นเมียเราเหลือเกิน เห็นเราเอ็นดูเส็งก็คงอิจฉา” เขากระแอมเบา “เราอยากให้เส็งมีความสุข เมื่ออยู่ที่นี่”
“บ่าวมีความสุขเมื่อได้คิดถึงคุณหลวงขอรับ” แม้อยากพูดก็พูดไม่ได้เส็งได้แต่นึกในใจแล้วไม่พูดอะไรอีกเลย
“เราจะให้เส็งขึ้นมาอยู่เฝ้าตึกใหญ่ตอนเราไม่อยู่ ขออนุญาตคุณพ่อ คุณแม่แล้ว นอนที่ตั่งที่เดิมนะ ถ้าหนาวก็ห่มผ้าของเราไปก่อน” หลวงพินิจว่า เจ้าตัวก็อายเหมือนกันเมื่อพูดถึงผ้าห่ม แต่ก็ใจกล้าพอจะเอ่ยถึง “คราวที่แล้วเห็นนอนสั่นกลัวจะจับไข้ก็ห่มผ้าให้ คราวนี้ไม่ได้อยู่ต้องห่มเองเสียแต่ก่อนนอนแล้วนะเส็ง”
บ่าวหนุ่มยิ้ม
“คุณหลวงกรุณาบ่าวมากขอรับ”
คุณหลวงเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะเอ่ยอีก
“จะเข้าไปอ่านหนังสือก็ได้ตอนกลางวัน กลับมาต้องเล่าให้ฟังนะว่าอ่านเรื่องอะไรไป” เขาว่า “ถือว่าสั่งงานแล้วนะเส็ง”
บ่าวหนุ่มหัวเราะ เบาๆก่อนจะรับคำว่า ขอรับ
“แล้วเหตุใดจึงยังไม่นอน”
เส็งไม่ตอบในทันที ทบทวนคำพูดเสียก่อนจึงกล่าวตอบว่า
 “เป็นห่วงคุณหลวงขอรับ” หลวงพินิจราชอักษร เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจที่เส็งพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อมเหมือนเคย “ไม่ได้ติดตามรับใช้ กลัวคุณหลวงไม่สบายขอรับ”
หลวงพินิจอดใจไม่ได้ เอื้อมมือไปกุมมือบ่าวหนุ่มเอาไว้
“ไม่รู้คุณหลวงจะกลับเมื่อไร อยู่ที่โน่นไม่มีบ่าวอ่านหนังสือให้ฟังคุณหลวงต้องข่มตาให้หลับนะขอรับ ถ้าอ้ายเส็งไม่ได้ทำกับข้าวให้รับ ใครทำอะไรให้คุณหลวงต้องรับนะขอรับ”
หลวงพินิจราชอักษรบีบมือบ่าวหนุ่มเบาๆอย่างรักใคร่
“ขอบใจเอ็งมากนะเส็ง”
เส็งไม่ยิ้ม ไม่ตอบแต่ก้มหน้านิ่งครุ่นคิดอะไรในใจ ทั้งสองหนุ่มจะเปิดปากบอกรักอีกฝ่าย แต่จนแล้วจนรอดก็ทำอะไรไม่ได้ มากไปกว่านั่งจ้องหน้ากันอย่างนั้น หลวงพินิจโน้มตัวลงจะจูบหนุ่มน้อยเมื่ออดใจไม่ไหวอีกต่อไป แต่แล้วนายบ่าวก็ได้สติ ปล่อยมือออกจากมือของบ่าวหนุ่มหลบตาก่อนจะพูดว่า
“ดึกเกินไปแล้ว เราต้องนอนเสียทีนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นไม่ไหว”
“บ่าวก็ว่าอย่างนั้นขอรับ” เส็งหลบตา ต่างฝ่ายต่างเงียบ แม้บอกว่าจะไปก็ยังไม่กล้าไปจนแล้วจนรอด สุดท้ายแล้วหลวงพินิจก็ลุกขึ้นก่อนบ่าวหนุ่มจึงลุกตาม ก่อนที่จะค่อยๆเดินออกไปอย่างไม่แน่ใจว่าควรจะอยู่ต่อหรือไม่
ก่อนจะอยู่ห่างกันเกินได้ยิน หลวงพินิจก็หันมาพูดกับเส็ง
“เอ้อเส็ง เกือบลืมไป พรุ่งนี้ตอนเราออกเดินทางไปแล้ว ขึ้นไปที่ห้องหนังสือข้างบนนะ บนโต๊ะทำงานมีกระดาษแผ่นหนึ่ง เราเอาหินทับไว้ เอ็งเอามาอ่านเสีย อย่าลืมนะเส็ง อ่านตอนอยู่คนเดียวอย่าให้ใครรู้ อ่านให้ได้ตอนเราไปแล้วเท่านั้นนะ”
พอเส็งรับคำ หลวงพินิจก็เดินกลับขึ้นตึก วิธีนี้เป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่บ่าวหนุ่มจะได้รับรู้ความในใจของเขา ในที่ที่ไม่ว่าใครก็จะมารบกวนไม่ได้ ไม่ว่าใครก็จะมาล่วงรู้ด้วยไม่ได้ ในที่ที่ทั้งสองได้กอดกันเป็นครั้งแรกนั้นเอง

แม้สองหนุ่มจะเข้านอนไปแล้ว แต่ยังมีอีกคนที่ยังไงก็ข่มตานอนไม่ได้ หล่อนพลิกตัวไปมาบนเตียงสี่เสาที่เรือนไพศาลเสนีย์ใจยังคิดว้าวุ่นถึงหลวงพินิจราชอักษรคู่หมั้นของหล่อน
พรุ่งนี้แล้วซีนะที่หล่อนจะได้ไปหัวหินกับเขา
หยาดเป็นลูกสาวของเจ้าคุณไพศาลเสนีย์ บ้านของหล่อนและบ้านของเจ้าคุณไพรัชกิจสหายของพ่อหล่อนนั้น เคยอยู่ใกล้กันมาก่อน หล่อนเป็นเพื่อนเล่นกับ “พี่แสง” มาตั้งแต่เด็กๆ สนิทสนมกันพอสมควร เพราะละแวกนั้นมีเพียงหล่อนและ “พี่แสง” ของหล่อนเท่านั้นที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน วันไหนที่เจ้าคุณพ่อของหล่อน ซึ่งในสมัยที่หล่อนยังเป็นเด็กนั้น ยังดำรงตำแหน่ง คุณพระ อยู่เท่านั้น ไปเยี่ยมเยียนเพื่อนหนุ่มบ้านข้างๆ เขาก็จะเอาลูกสาวไปฝากเล่นกับ คุณแสง ของบ้านไพรัชกิจเสมอๆ
หยาดรักแสงแต่เด็ก เพราะแสงเป็นเด็กหน้าตาดี เป็นผู้นำ คอยดูแลปกป้องหยาดอยู่เสมอ ไม่ว่า “น้องหยาด” จะทำอะไร “พี่แสง” ก็จะคอยดูแลเอาใจช่วยแล้วก็เป็นกำลังใจให้ทุกครั้ง กระทั่งหนุ่มน้อยอายุได้สิบขวบ เดินทางไปเมืองนอก หล่อนก็ได้แต่มาร้องไห้ส่งที่ท่าเรือ พอ พี่แสงเห็นน้องหยาดร้องไห้ เขาก็เข้ามาปลอบแล้วบอกว่า
“พี่เรียนจบกลับมาจะมาอยู่กับน้อง อย่าร้องไห้ไปเลย”
หยาดยึดเอาคำพูดนั้นมาเป็นคำมั่นสัญญาตลอดเวลาสิบปีที่พี่แสงไปเรียนต่อ จนเมื่อ พี่แสงกลับมานั้นเอง ที่หล่อนเริ่มไม่แน่ใจว่า คำพูดสุดท้ายที่แสงพูดไว้นั้น จะเป็นเพียงลมปาก ไม่ได้มีความหมายเป็นจริงเป็นจังแต่อย่างใด
พอพี่แสง กลายเป็น หลวงพินิจราชอักษร หยาดก็ยิ่งไม่แน่ใจแล้วว่า “กลับมาอยู่กับน้องนั้น” เป็นอย่างไรเพราะเจ้าคุณพ่อก็รื้อบ้านไปปลูกใหม่ที่แถวคลองสาน หล่อนก็ยิ่งไม่ได้พบพี่แสง กระทั่งเจ้าคุณพ่อเปรยกับคุณหญิงแม่ของหล่อนนั่นแหละ หล่อนจึงเห็นแสงแห่งความหวังรำไรขึ้นมาอีกครั้ง
 “แม่หยาดยิ่งโตยิ่งสวย จะให้มีลูกเจ๊กลูกจีนมามาชอบพอ ติดพันจะดีหรือ ให้ตบให้แต่งไปพอสมเกียรติลูกพระยาไพศาลเสนีย์เสียโดยเร็วเถิด”
 “น้องเห็นด้วยค่ะคุณพี่ แต่จะให้ลูกหยาดแต่งกับใคร น้องยังนึกถึงผู้เหมาะสมไม่ได้สักคนเลยค่ะ”
“เอ้า ก็พ่อแสงอย่างไรล่ะ” เจ้าคุณไพศาลว่า
“หลวงพินิจราชอักษรค่ะ คุณพี่ เขามียศแล้วอย่าไปถอดยศเขาซีคะ” คุณหญิงแม่หัวเราะคิกคัก แก้ความไป
“นั่นแหละ หล่อนก็ลองคุยกับคุณหญิงบ้านโน้นไว้ซีว่าจะอย่างไร ลูกเราก็ไม่ขี้ริ้ว กิริยามารยาทก็ดี แถมสนิทกันมาแต่เด็กบ้านโน้นคงไม่รังเกียจดอกนะ” ด้วยเหตุนี้เอง หยาดจึงกลายมาเป็นคู่หมั้นของหลวงพินิจ
การเป็นคู่หมั้นกับเขาไม่ได้ทำให้หยาดสนิทสนมกับเขามากขึ้นกว่าเดิม ซ้ำหล่อนยิ่งรู้สึกไกลห่างจากเขาออกมาเรื่อยๆ เหมือนว่าเขาไม่เต็มใจจะแต่งงานกับหล่อนเลย พอหล่อนเปรยกับคุณหญิงแม่ ผู้เป็นแม่ก็ตอบว่า
 “เขาเพิ่งกลับมาอยู่ในช่วงปรับตัว อีกอย่างเขาก็ไปโตที่เมืองนอก เมืองนา ลูกอย่าไปคิดให้เขาเหมือนเดิมแบบเด็กๆวิ่งเล่นจับกันเลย เขาโตแล้ว มียศมีศักดิ์ก็ไว้ท่าบ้างพอให้ดูเกรงขาม ลูกไม่ต้องไปคิดมากดอก”
พอหล่อนบ่นว่าอยากถอนหมั้นเจ้าคุณพ่อก็ว่า
 “ถอนหมั้นไปแล้วจะหาใครดีได้เท่าพ่อแสง ฐานะบ้านเราก็ใช้ว่าจะดีอย่างแต่ก่อน พ่ออยากให้ลูกเป็นฝั่งเป็นฝา ไพรัชกิจ ก็มั่งคั่งอยู่ ลูกคงอยู่สบายไปตลอดชีวิต”
แต่กระนั้น หล่อนก็ยังอด รัก “พี่แสง” มากกว่า “หลวงพินิจราชอักษร” ไม่ได้อยู่ดี หล่อนชอบแววตาสดใสของเขา ยามมองหล่อนตอนเล่นหม้อข้าวหม้อแกงกัน มากกว่าแววตาเฉยชา ดุ ดูมีอำนาจของเขา ตอนที่เขาคุยกับหล่อนทุกวันนี้ แต่กระนั้น หยาดก็ต้องแต่งงานกับเขา รักเป็นส่วนหนึ่ง แต่ความอยากสบาย อยากมีทรัพย์สมบัติบ่าวไพร่คอยรับใช้ไปตลอดชีวิต มีมากกว่า และไม่มีใครรู้ข้อนี้นอกจากตัวหล่อนเอง
อย่างไรหล่อนก็ต้องได้เป็นภรรยาของหลวงพินิจอยู่แล้ว ทรัพย์สมบัติ ชื่อเสียงเกียรติยศ หน้าตาในสังคมก็ต้องมีอยู่แล้ว แต่หล่อนก็ยังอยากได้ความรักจากเขาด้วยอยู่ดี และการไปเที่ยวหัวหินกับเขาครั้งนี้ก็คงเป็นโอกาสอันดีที่จะเรียกความรู้สึกดีที่มีในตอนเด็กๆกลับมาได้อีกครั้ง
หยาดนอนลืมตาอยู่ได้อีกไม่ถึงชั่วโมง ความอ่อนล้าก็เอาชนะความกังวลในใจ หญิงสาวหลับไปในที่สุด

ต่อให้นอนดึกแค่ไหน รุ่งเช้าทั้งสามคนก็ตื่นกันเร็วกว่าทุกครั้ง คุณหลวงลุ้นอยากให้เส็งรู้เรื่องเร็วๆ เส็งเองก็อยากรู้ว่าคุณหลวงเขียนอะไรให้เขา ส่วนหยาดก็อยากเจอคุณหลวงให้เร็วที่สุดเท่าที่หล่อนจะทำได้ ทั้งสามคนจึงมาอยู่ต่อหน้ากันโดยที่ไม่รู้ตัว
 หลวงพินิจราชอักษรเดินลงจากเรือนเทามาพร้อมเจ้าคุณ และคุณหญิงไพรัชกิจ ตรงมาที่ท่าน้ำเส็ง เทิด และบ่าวไพร่อีกสองสามคนนั้นรอกันอยู่แล้ว ส่วนบ้านไพศาลเสนีย์ เพิ่งจะนั่งเรือมาถึงได้ไม่กี่นาที นั่งรอกันอยู่ที่ท่าน้ำเช่นกัน พอหลวงพินิจมาถึงก็ทักทายปราศัยกันตามปกติคุยกันไม่กี่นาที เรือใหญ่ที่จะพาทุกคนไปส่งขึ้นรถไฟก็มาถึงพอดี หลวงพินิจจึงหันไปสั่งงานบ่าวไพร่เป็นครั้งสุดท้าย
“ดูแลบริเวณบ้านดีๆ ข้ามอบหมายให้เส็งดูแลเรือนใหญ่แล้วให้ดูห้องหนังสือ อย่าให้ใครไปค่อนแคะ รองจากเทิดแล้ว เส็งรู้เรื่องเกี่ยวกับข้าดีที่สุด ใครมีเรื่องกับเส็ง ก็เท่ากับมีเรื่องกับข้าด้วย” หลวงพินิจว่า มองหน้าเส็งอย่างมีความหมายเมื่อพูดว่า “ห้องหนังสือ” คุณหลวงลงเรือแล้วก็พูดประโยคสุดท้ายกับบรรดาบ่าว หากแต่มองหน้าเส็งอยู่คล้ายว่าจะพูดกับบ่าวหนุ่มน้อยแต่เพียงผู้เดียว “ไม่กี่วันก็กลับแล้ว อยู่กันดีๆ”
เส็งมองหน้าหลวงพินิจราชอักษรแล้วยิ้มให้นายหนุ่มที่เขารัก หากแต่คุณหลวงหนุ่มไม่ได้ยิ้มกลับเพราะต้องวางมาดสุขุมเมื่ออยู่ต่อหน้าบ่าวในบ้าน แต่เมื่อเรือเริ่มพายออกไปแล้ว เส็งก็เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของหลวงพินิจราชอักษร... ยิ้มที่มีไว้ให้เขาแต่เพียงผู้เดียว

    กว่าเส็งจะปลีกตัวออกจากบ่าวไพร่คนอื่นๆได้ก็เกือบเย็น เขาต้องช่วยบ่าวผู้ชายแยกผลไม้ และช่วยซักผ้าผ่อนของคนอื่นๆ เส็งได้รับยกเว้นให้ไม่ต้องยกกระจาดผลไม้อย่างคนอื่นๆเพราะหนักเกินไป หนุ่มน้อยเดินขึ้นเรือนเทาในเวลาที่ไม่มีบ่าวคนใดอยู่แล้ว ชายหนุ่มตรงไปที่ห้องหนังสือชั้นสองอย่างไม่รออะไรทั้งนั้น
    หนุ่มน้อยเดินเข้าห้องหนังสือ ยังจำเหตุการณ์ที่ตนสะดุดเศษกระดาษลื่นล้มจนคุณหลวงต้องช่วยรับไว้ได้ ยังจำสัมผัสแข็งแกร่งของผู้เป็นนายที่กอดกระหวัดร่างของเขาไว้ บัดนี้เจ้าของสัมผัสนั้นไม่อยู่แล้วทิ้งไว้แต่กระดาษแผ่นหนึ่งบนโต๊ะที่คนเขียนบอกว่า ให้อ่านให้ได้
    เส็งหยิบหินแม่น้ำขัดก้อนขนาดเท่ากำปั้นบนโต๊ะออก ก็พบกระดาษแผ่นหนึ่ง พับเป็นแผ่นยาวคล้ายจดหมาย เขียนว่า ... ถึง   เส็ง
   หนุ่มน้อยเปิดออกมาก็พบว่าเป็นกลอนเพลงยาว ขึ้นด้วยวรรครับ จบด้วยเอยตามขนบของกลอนเพลงยาว หนุ่มน้อยเริ่มอ่านตั้งแต่วรรคแรกจนวรรคสุดท้ายด้วยความตั้งใจ ซึมซับทุกตัวอักษร ทุกความหมายระหว่างบรรทัดได้ด้วยใจไม่ต้องแปลแม้สักคำเดียว
   
                กายจำต้องห่างแล้วแก้วตาพี่
หากแต่ใจยังฝากไว้อยู่ตรงนี้     ขอคนดีโปรดรับรู้โปรดเข้าใจ
ถามว่ารักเริ่มขึ้นเมื่อใดเล่า       คงตอบเรารักแรกพบสบสมัย
ตามองตาก็รู้แล้วว่าหัวใจ       ตกเป็นของทรามวัยแล้วแน่นอน
อยู่มานานไม่เคยพบประสบรัก    เพียงประจักษ์รูปงามทรามสมร
ก็มั่นใจรักแล้วแต่บังอร        ไม่มีวันถอดถอนรักคนดี
เจ้าสลักริ้วลายลงหมากปราง    เหมือนริ้วรักสลักกลางดวงใจพี่
ริ้วรอยรักสลักจิตดวงฤดี       จะไม่มีวันลบเลือนออกจากใจ
ฟังสำเนียงเสียงอ่านกลอนเสนาะ    เหมือนเสดาะกลอนประตูที่ปิดไว้
คือกุญแจที่เปิดประตูใจ       รับแต่เจ้าทรามวัยเพียงเท่านั้น
น้องแกะฟักร้อยเรียงเรื่องสังข์ทอง    เหมือนแกะชื่อของน้องในใจฉัน
จะฟูมฟักรักใคร่ทุกทุกวัน       ยกสวรรค์มาไว้ให้เสียบนดิน
ยามเจ้าต้องตัวพี่ในคืนนั้น       พี่ใจสั่นหวั่นไหวจนใกล้สิ้น
ด้วยต้องตาต้องเนื้อต้องใจจินต์   ต้องรักแต่สุดถวิลเพียงต้องกาย
อยู่ใกล้กันประหนึ่งหยุดกาลเวลา    มิรู้ว่าเย็นค่ำหรือเช้าสาย
รู้เพียงพี่รักเจ้าทั้งเพรางาย       มิมลายเสื่อมตามกาลเวลา
โอ้เวรกรรมทำไว้เมื่อใดเล่า      ถึงพรากเราจากกันวันนี้หนา
จากเจ้าแล้วคงมิแคล้วเศร้าโศกา     บอกความในก่อนจากมาให้รู้กัน
อยากจะเก็บเอาไว้ในอกนี้       แต่สุดที่จะเก็บได้ตลอดนั่น
บอกแล้วเล่าเจ้าคิดอย่างไรกัน    รักหรือโกรธเกลียดพลันชี้แจงไป
หากรู้แล้วขุ่นค้องต้องหมองจิต   ไม่อาจคิดกับพี่เป็นอื่นได้
จะตัดรักตัดสวาทตัดอาลัย      ตัดสิ้นแล้วจากไปก็ยินยอม
หากรับรู้แล้วรับรักของพี่ยา      จะอุตส่าห์เลี้ยงดูทนุถนอม
ยุงไม่ให้ไต่ริ้นไรไม่ให้ตอม         มีบ่าวไพร่รายล้อมให้ใช้งาน
จะบังฝนบังแดดมิให้กล้ำ       จะเพรียกพร่ำคำรักไม่หักหาญ
จะทำให้ทุกอย่างที่วอนวาน       จะรักไปแสนนานมิรู้ลืมเอย

    หนุ่มน้อยกอดกระดาษแผ่นนี้ไว้แนบอก เลือดสูบฉีดขึ้นมาจนหน้าแดงไปหมด เนื้อความในจดหมายบอกความรู้สึกของหลวงพินิจราชอักษรไว้หมดแล้ว และบอกอีกว่าหากรู้แล้วเส็งไม่รับรักจะหนีไปไหนเขาก็ยอม แต่หากรับรักเขาอย่างใจจะดูแล รักใคร่อย่างดี ให้ทรัพย์สินเงินทองบ่าวไพร่ แต่หลวงพินิจจะรู้แม้สักนิดหรือไม่นะว่า เพียงบอกว่า “รัก” สั้นๆคำเดียวเขาก็ได้ใจของหนุ่มน้อยไปแล้วทั้งดวง และ หนุ่มน้อยคนนี้ก็ไม่อยากได้อะไรจากคุณหลวงเลยสักอย่างที่บอกไว้ในกลอนเพลงยาว เขาไม่ต้องการทรัพย์สิน เงินทอง บ่าวไพร่ ความสะดวกสบาย หรือการพะเน้าพนอเอาใจอะไรเลย ขอเพียงบาทสุดท้ายก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา ขอเพียงคุณหลวง “รักไปแสนนานมิรู้ลืม” เพียงเท่านั้นเขาก็จะรักคุณหลวงไปตราบสิ้นลมหายใจเช่นเดียวกัน
    เส็งไม่รู้หรอกว่า แม้สิ้นลมหายใจ เขาก็ยังจะรักคุณหลวงฝังใจ มิรู้ลืมแม้เวลาจะผ่านมา เป็นศตวรรษแล้วก็ตาม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2011 13:42:19 โดย Purple_Sky »

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
โอยยยย ซาบซึ้ง
แต่ๆด้กลิ่นมาม่าตลอดดดดดดดดดดดดดดด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด