[ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289  (อ่าน 486170 ครั้ง)

ออฟไลน์ *SparklinG*

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
โหยยย อยากรู้ สงสารเส็งอ่ะ = = "

ออฟไลน์ Sorso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 795
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-3

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เส็งจ๋า ตะเองน่าสงสารจัง :monkeysad:
เฮ้อ เดาไม่ถูกเลย แต่ก็เดาต่อไปเรื่อยๆ อยากรู้ว่าจะตรงกับใจไรท์เตอร์อ๊ะป่าว :z1:
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปน้าาา :impress2:

tawan

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงเส็งแล้วนะ

เมื่อไรมา

 :call:

ออฟไลน์ ayanae

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
สงสารเส็งจัง เมื่อไหร่พาทิศจะรู้เรื่องในอดีตนะจะได้ช่วยเส็งให้ได้ไปเกิดซะที การต้องอยู่คนเดียวมันเหงานะ

zeen11

  • บุคคลทั่วไป
ตอนนี้อ่านแล้วหลากอารมณ์ดีจัง ตอนพาทิศกับณัฐก็ออกแนวซึ้งๆ พาทิศคงจะรู้ตัวแล้วว่าชีวิตนี้ควรหยุดที่ใคร


แต่พอมาถึงเส็ง อารมณ์เศร้ามาเลยค่ะ สงสารเส็งมากๆ  :m15:
เมื่อไหร่คุณหลวงจะมารับเส็งเสียที  :serius2:

+++++++++++

เห็นรูปนักแสดงแต่ละคนแล้ว ตรงใจมากเลยค่ะ ตรงอิมเมจแป๊ะเลย มาร์คกับน้องเก้า แอร๊ยยยยยย คิดแล้วน่ารัก  :z1:


โพสรูปได้แล้ว เฮ


พอเห็นรูปนักแสดงแล้วเลยอยากลองหาชุดที่พอจะเข้ากับยุคมาทำภาพประกอบดู พอจะได้ไหมคะ :impress3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2012 01:48:04 โดย oaw_eang »

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อยากจะเดาว่าพาทิศคือคุณหลวง  แต่ความรู้สึกบอกว่าไม่น่าใช่
เพราะตอนพาทิศกรวดน้ำ  เห็นเส็ง คุณหลวง  และคุณหยาดมองมา
เหมือนกับว่าพาทิศน่าจะเป็นใครซักคนในอดีตที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นงั้นแหละ
ไม่รู้สิ ... ภาพประกอบคุณหลวงโดนมาก ๆ และผู้หญิงทุกคนด้วย
อ่านตอนนี้แล้วสงสารณัฐมาก ๆ พาทิศทิ้งขว้างความรู้สึกของณัฐมาตลอด
จะมานึกถึงก็ตอนที่ตัวเองมีความทุกข์นี่แหละนะ  เฮ้อ

ออฟไลน์ noina

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
ยังคงแอบคิดว่าพาทิศคือคุณหลวงเหมือนเดิม   ณัฐอยกจะบอกว่าชอบนายมากเลยอ่ะ  เป็นคนที่ศรัทธาในรักมาก





ปล.ย้ำคำเดิมว่าชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ w1234

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1

Lesses

  • บุคคลทั่วไป
สงสารน้องเส็งจัง ไม่อยากเห็นน้องร้องไห้
ป.ล. รูปน้องน่ารักจัง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
อ่านบนๆก็ดีหน่อยพอมาถึงช่วงของเส็งแอร๊ยน้ำตาไหลเลย สงสารเส็งมากๆ

ออฟไลน์ noina

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0

ออฟไลน์ noina

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
๑๕

   บ้านของจิตรา เกือบอยู่ในสภาพที่เหมือนเดิม ไม่ต่างอะไรจากที่พาทิศเคยมาครั้งแรก หากจะต่างก็คงต่างที่พาทิศไม่ได้รู้สึกกลัวบรรยากาศวังเวงเงียบเชียบอย่างน่าประหลาดของที่นี่อีกแล้ว แม้การถือศีลแปดเพียง หนึ่ง อาทิตย์จะไม่ได้ทำให้เขากลายเป็นคนสงบเยือกเย็นอย่างป้าจิตราได้ แต่อย่างน้อยก็สงบลงกว่าแต่ก่อนมาก ไม่รู้สึกบวก หรือลบมากเกินไปกับอะไรอีกแล้ว
    ถึงจะบอกว่า หลังจากวันที่มาที่นี่ครั้งแรก ชายหนุ่มจะเริ่มถือศีลแปดเลยก็ตามแต่พอถึงเวลาจริงๆแล้ว พาทิศก็ทำไม่ได้ มาเริ่มทำเอาจริงๆก็เพิ่ง สามสี่ วันหลังจากนั้นมา เวลานัดกับจิตราจึงคลาดเคลื่อนมาเป็นวันนี้ทั้งที่ควรเป็นตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว
    หลายๆข้อสำหรับพาทิศไม่ใช่เรื่องลำบากนัก ฆ่าสัตว์ พาทิศไม่ฆ่าอยู่แล้วหากแต่ต้องระมัดระวังมากขึ้นเวลายุงกัดจะตบก็ไม่ได้ เห็นมดจะเอามือบี้อย่างเคยชินก็ไม่ได้ ข้อสองลักทรัพย์พาทิศก็ไม่เคยขโมยของใครอยู่แล้วผ่านไปได้สบาย ข้อสามเป็นไปได้ลำบากหน่อย เพราะสำหรับศีล แปด ข้อสามไม่ใช่แค่ไม่ผิดลูกเมียคนอื่น แต่ต้องเว้นจากการเสพเมถุนโดยสิ้นเชิง เมื่อมาอยู่กับณัฐก็ยิ่งทำได้ยาก พาทิศไม่ใช่พระอิฐ พระปูน เวลาถูกเนื้อต้องตัวณัฐหลายครั้งที่เขาเกิดความต้องการทางเพศ แต่ก็ต้องระงับเอาไว้อย่างนั้น จริงๆก็ไม่ถือว่าทำยากเท่าไหร่ ข้อพูดปดยากหน่อยแต่จนแล้วจนรอดก็ทำได้สบายๆ  ข้อสุดท้ายเว้นจากเหล้าบุหรี่ ข้อนี้ยิ่งง่ายที่สุดเพราะเหล้าบุหรี่เป็นเพียงของที่พาทิศเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยเรื่องสังคมไม่ได้ติดอย่างที่หลายๆคนมักจะเป็น ดังนั้นเมื่อตั้งใจว่าจะไม่ยุ่งก็ไม่ใช่เรื่องลำบาก
    แต่พูดว่าไม่ลำบากก็ไม่ได้หมายความว่าทำได้ดีสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซนต์ โดยเฉพาะ ข้อสาม ข้อสี่ ข้อห้า ที่มักมาพร้อมกันหากมีเรื่องของเพื่อนมาเกี่ยวข้อง เพราะนั่นหมายถึงงานสังสรรค์ การพูดคุยหยาบคาย ลามก เหล้าบุหรี่ และจบลงบนเตียง อย่างเมื่อวันแรกๆที่คิดจะถือศีล พวก วรวิทย์ พิพัฒน์ และ เลมอน ก็มาเยี่ยมพาทิศถึงบ้านเมื่อรู้ข่าวกันว่าพาทิศกลับมาแล้ว จะรู้จากไหนไม่รู้แต่มาถึงบ้านในเช้าวันหนึ่งพร้อมของสำหรับงานเลี้ยง แน่นอนว่าไม่ได้หมายถึงอาหารอย่างเดียว แต่หมายถึงเหล้า เบียร์ ของเมาทั้งหมดทั้งสิ้นด้วย
    พาทิศ เล่าให้ณัฐฟังเรื่องที่เขาคุยกับป้าจิตราแล้ว เพื่อนหนุ่มเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็เห็นใจมากกว่าจะคัดค้าน พาทิศจึงตกลงกับณัฐไว้ว่า จะไม่บอกใครเรื่องนี้อีก ให้คนที่รู้มีเพียง จิตรา สร้อยฟ้า และ ณัฐ สามคนเท่านั้น เมื่อเพื่อนๆคนอื่นมาเยี่ยมพาทิศจึงบอกแค่ว่า
    “ไปเที่ยวมา ตอนนี้กลับมาแล้ว” เท่านั้น
    พาทิศพาเพื่อนๆ เดินดูบริเวณรอบๆบ้าน มีเลมอน และ พิพัฒน์เท่านั้นที่รู้สึกชอบบ้านหลังนี้ ส่วนวรวิทย์บอกว่าคร่ำครึไม่น่าอยู่ แต่ไม่มีใครกลัว เหมือนอย่างตอนที่พาทิศมาอยู่ใหม่ๆ
    วันนั้น เพื่อนๆ ทำบาร์บีคิวกินกันที่ลานสนามหน้าบ้านนั้น พาทิศยืนมองห่างๆ เห็นเนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่เสียบไม้ปิ้งกับสับปะรด พริกหวาน มะเขือเทศก็น้ำลายสอ พิพัฒน์ทำบาร์บีคิวอร่อยกว่าทุกคนที่พาทิศรู้จัก ชายหนุ่มกลืนน้ำลาย อยากกินก็กินไม่ได้เพราะต้องกินมังสวิรัติ
    จริงๆแล้วอาหารมังสวิรัติไม่ลำบากสำหรับพาทิศ เพราะ มังสะ คือเนื้อหนัง วิรัติ คืองด กินมังสวิรัติ ก็คืองดกินเนื้อหนังเท่านั้น นม ไข่ เนย พาทิศยังกินได้ปกติ เขายังไม่รู้สึกแปลกหรือขาดนัก เมื่อณัฐทำ ขนมปัง ไข่ดาวให้กินทุกวันตอนเช้า กลางวันพาทิศกินเบเกอรี่ได้ทุกอย่างรวมไปถึงพวกพาสต้าหรือก๋วยเตี๋ยว แค่เอาเนื้อสัตว์ออกก็ไม่เป็นปัญหาอะไรแล้ว เห็นได้ว่า พาทิศไม่กินผักเลยสักมื้อ มีปนมาได้ แต่ไม่กินเป็นอาหารหลักอย่างป้าจิตราที่กินแต่ผัดผักหรือ สลัดผักอย่างนั้น
    พอเห็นเพื่อนๆทำบาร์บีคิวกินกัน พาทิศก็อยากกินบ้าง พอชายหนุ่มหยิบเนื้อย่างมาไม้หนึ่งไม่ทันจะกิน ณัฐก็ส่งสายตาเขียวปั้ดมาให้แทน
   “ไอ้ทิศกินมังโว๊ย ไม่ต้องให้มันแดกเนื้อนะ ใครเห็นมันกินเนื้อ ถีบมันได้มันบอกกูว่าอนุญาต”
    ด้วยเหตุนี้ พาทิศจึงกินได้แต่สับปะรดย่างกับซอสบาร์บีคิว ชายหนุ่มส่งค้อนให้ณัฐ ฝ่ายนั้นก็ขยับปากเป็นคำว่า “แล้วแต่ จะกินก็ได้นะ” แบบพ่อแง่แม่งอน พาทิศจึงอดเซ็งไม่ได้
    พอหมดมื้ออาหาร ห้าหนุ่มก็เข้าบ้านนั่งคุยกันเรื่องต่างๆ เลมอนอาสาชงเหล้าให้เพื่อนๆ พอส่งให้พาทิศณัฐก็แย่งออกไปจากมือ
    “เอ้า ทำไมล่ะเหล้าไม่มีเนื้อสัตว์”
    “สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา ศีลข้อห้างดเหล้า และของมึนเมาทุกชนิด” ณัฐว่า เพื่อนๆคนอื่นเริ่มรู้สึกงานกร่อย โดยเฉพาะวรวิทย์เพื่อนสนิทที่สุดของพาทิศที่เป็นคนรักสนุกชอบเที่ยวชอบเล่น ถึงกับนั่งหน้าหงิกไม่พูดไม่คุยกับใคร
    “ไอ้ทิศ เป็นเหี้ยไรวะ” พิพัฒน์เอ่ยปากถาม “ไม่แดกเนื้อ ไม่แดกเหล้า... ท้องเหรอมึง”
    “ท้องเหี้ยไร” พาทิศตอกกลับ แต่ณัฐก็มองตาขวางมาอีก ทำนองว่า ศีลข้อสี่ ห้ามพูดปด หยาบคาย ส่อเสียด เพ้อเจ้อ ทำให้ชายหนุ่มต้องนับ หนึ่งถึงสิบในใจ ตอบโต้ด้วยเสียงเรียบ ไร้อารมณ์ใดๆ “ผมถือศีลแปดอยู่ครับ”
    ทั้งโต๊ะหัวเราะกันครืน
    “ถือทำไม คนอย่างมึงเข้าไปถ่ายรูปในวัดยังไม่เข้า มาถือศีลหาอะไรที่บ้าน” เลมอน ถามแกมส่อเสียดถากถางด้วยคำพูด
    พาทิศจะอ้าปากตอบ ณัฐก็รีบแย่งพูดเพียงว่า “แก้บน” กลัวเลมอนจะถามว่าบนอะไรอีก ณัฐก็รีบเปลี่ยนเรื่องคุยอะไรสัพเพเหระเองสุดท้ายเพื่อนก็ไม่ใส่ใจ และ ลากลับบ้านกันทีละคน โดยไม่กลับมาอีกเลย เหมือนคำทำนายเซียมซี ที่พาทิศลืมทิ้งที่วัด แต่เก็บมาด้วยอยู่ในกระเป๋ากางเกงไม่มีผิด “ถามเพื่อนฝูงจะห่างหายไม่เห็นหัว”
    ชายหนุ่มยังไม่ได้บอกณัฐว่าใบเซียมซีที่เก็บมาจากวัดยังนอนอยู่ในลิ้นชักห้องนอนอย่างลืมเอาไปทิ้ง
    ตอนกลางคืน เป็นช่วงเวลาที่ลำบากที่สุดสำหรับพาทิศ หนึ่งเพราะเขากินข้าวเย็นไม่ได้ สองเขาต้องนอนพื้นจะนอนบนเตียงกับณัฐก็ไม่ได้ สุดท้ายดูหนังฟังเพลงพักผ่อนหย่อนใจก็ไม่ได้ พาทิศบ่น ไม่อยากทำเริ่มเหนื่อยกับสิ่งที่ทำอยู่ แต่พอณัฐถามว่า “แล้วถ้าหลับฝันไปอีก อยากตายไปเลยหรือไง” ชายหนุ่มก็เงียบ เขายังกลัวข้อนี้อยู่มากที่สุดจึงยังมุ่งมั่น ถือศีลแปดอย่างเคร่งครัดเท่าที่จะทำได้รอวันไปฝึกกรรมฐานกับป้าจิตรา
    
    พาทิศไปหาพ่อแม่ หลังจากวันที่ไปหาป้าจิตรามาแล้ว พ่อแม่เขาตกใจมากที่เห็นลูก พอๆกับที่รู้ว่าลูกหายไป แต่จะร้องไห้เสียใจตัดพ้อต่อว่า พาทิศก็รู้ดีว่าคุณนาย เพลงพิณ ดีใจเหลือล้นที่ได้เห็นหน้าลูกชายอีกครั้ง
    “คุณแม่ตกใจแทบแย่ค่ะ ตอนที่ติดต่อคุณลูกไม่ได้ ตัดใจไปแล้วเสียอีกว่าชาตินี้ ก็คงไม่เจอ”    พาทิศบอกแม่ว่าไปถือศีลกับป้าจิตรา และก็กำลังถืออยู่ คนเป็นแม่ก็เห็นดีเห็นงามด้วย
    “แล้วทำไมไม่บวชเสียเลยล่ะคะคุณลูก คุณพ่อ คุณแม่จะได้เกาะชายผ้าเหลืองลูกขึ้นสวรรค์”
    “ผมยังบาปเยอะอยู่ครับ อยากให้มันน้อยลงกว่านี้ ฝึกสมาธิอะไรไปกับป้าจิตราก่อนแล้วว่าจะบวชครับ” ตอบไปอย่างนั้นไม่ได้คิดว่าจะบวชจริงๆ แต่คุณนายเพลงพิณได้ยินแล้วก็ได้ปลื้ม จะลอยขึ้นสวรรค์ตามไปจริงๆ
    “ช่วงนี้ผมจะไปถือศีลที่บ้านป้าจิตราอีก แล้วก็ผมจะตัดขาดจากการติดต่อกับโลกภายนอก อาจจะสักเดือนหนึ่ง คุณแม่อย่าเป็นห่วงนะครับ ถ้าจะโทร โทรถามณัฐก็ได้ ผมอยู่กับณัฐตลอดเวลา”
    “คุณแม่ได้ยินก็ดีใจ คุณลูกตัดทางโลกได้ก็ดีแล้ว คุณแม่ไม่เห็นด้วยแต่แรกที่ไปกินเหล้า สังสรรค์อะไรกับเจ้าวรวิทย์น่ะ” คุณนายเพลงพิณ ทำเสียงสะบัด ราวกับเล่นละครวิทยุอยู่ “ทำแบบนี้ก็ดี ยังไงแม่ฝากตาชายไว้กับลูกณัฐด้วยนะลูก”
    “ครับ คุณน้า”
    “อู๊ยยย เรียกแม่เถอะจ้ะ คุณแม่ไม่ถือ” เพลงพิณส่งตาแบบรู้ทันให้ณัฐทำนองว่า หล่อนสนับสนุนให้คบกันไปแบบนี้ได้ ไม่เป็นไร แต่พ่อของพาทิศที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ข้างหลังก็กระแอมอย่างหมั่นไส้ ราวจะต่อว่า ว่าส่งเสริมลูกเกินไป คุณนายเพลงพิณก็ทำหน้าเบ้
    “ผมลาล่ะครับคุณแม่” พาทิศกราบแม่ จนคุณนายต้องหันไปมองหน้าสามีอย่างประหลาดใจที่ลูกเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้ “หากผมทำอะไรให้คุณพ่อ คุณแม่ต้องเคยทุกข์ใจ เสียใจมาก่อน ผมต้องขอให้คุณพ่อคุณแม่อโหสิกรรมให้ผมด้วย”
    “ตายแล้ว พูดอะไรอย่างนั้น ทำอย่างกับจะตายจากกันไปไหนงั้นล่ะค่ะคุณลูก” หล่อนวี๊ดว๊าย “... แต่เอาเถอะ แม่อโหสิกรรมให้”   
   “อโหสิกรรมให้ผมนะครับ คุณพ่อ”
    ผู้เป็นพ่อลอบถอนใจเบาๆ เพราะคิดว่านี่คงเป็นอีกนิสัยศิลปินของลูกชาย  เดี๋ยวถือศีลจนเบื่อแล้ว ก็จะเปลี่ยนไปสนใจ ไปทำอย่างอื่นแทน หลังจากเป็นอย่างนี้มาตลอด แต่เขาก็ลูบหัวลูกเบาๆก่อนจะบอกว่า “พ่ออโหสิกรรมให้”

    

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
 พอทำตามที่จิตราบอกไปแล้วครบทุกอย่างคือ กินมังสวิรัติ ทุกคนอโหสิกรรมให้ แล้ว รวมถึงถือศีลครบหนึ่งอาทิตย์ ชายหนุ่มจึงมายืนอยู่ที่นี่ เคาะประตูเรียกเจ้าของบ้าน เวลานัดคลาดเคลื่อนมาเป็นอาทิตย์ พอสร้อยฟ้ามาเปิดประตูรับ หญิงสาวจึงทักเป็นอย่างแรกว่า
    “สวัสดีค่ะ คุณพาทิศ เราควรจะเจอกันตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วนะคะ”
    “ขอโทษครับ” ชายหนุ่มยิ้มนิดๆที่มุมปาก “กว่าจะถือศีลแปดได้จริงๆ ครบอาทิตย์นี่ ก็ลำบากครับ สำหรับคนไม่เคยอย่างผม”
    “ค่ะ” หล่อนว่า กำลังจะถามว่าคุณณัฐอยู่ไหนล่ะคะ ก็เห็นชายหนุ่มเดินตามมาสมทบพอดี “สวัสดีค่ะคุณณัฐ เข้ามาดื่มอะไรก่อนไหมคะ”
    “ดีครับ ได้ยกของไปไว้ให้พาทิศด้วย”
    สร้อยฟ้ายิ้มรับก่อนจะ หลบให้สองหนุ่มเดินเข้าบ้านมา พาทิศเดินมือประสานกันอยู่ด้านหน้าราวกับเป็นพระ เข้ามาในบ้านก่อน ตามมาด้วยณัฐที่ถือกระเป๋าเสื้อผ้าของพาทิศตามมา
    “คุณพาทิศพักห้องนี้นะคะ” หล่อนเป็นประตูห้องนอนแขกที่อยู่ชั้นล่างให้ “คับแคบหน่อยแต่หวังว่าจะอยู่ได้ ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นเองค่ะ”
    ห้องนั้นเล็กกว่าห้องนอนของหลวงพินิจราชอักษรไม่มากนัก แต่ก็ถือว่าคับแคบ หากคิดว่าพาทิศเคยนอนบ้านใหญ่ๆ ราวกับวังมาก่อน กระนั้นชายหนุ่มก็ไม่บ่น ไม่ แม้แต่จะไม่พอใจด้วยซ้ำ
    “เล็กเนอะ พาทิศนอนได้หรือเปล่า”  ณัฐถาม คำเรียก ไอ้ทิศ กลายเป็นพาทิศไปเมื่อเพื่อนหนุ่มพูดจาไพเราะเสียจนณัฐต้องเปลี่ยนตาม เพราะละอายเมื่อเขาพูดหยาบคายเพียงใด พาทิศก็จะพูดตอบมาแบบสุภาพทุกครั้ง
    “ได้ แบบไหนก็ได้ทั้งนั้น ยังไงก็ต้องนอนพื้น”
    “อยู่ได้ก็ดีค่ะ คุณณัฐไม่ได้มาค้างด้วย ดิฉันเข้าใจถูกไหมคะ”
    “ครับ มาส่งเฉยๆ แล้วก็ไป แต่ว่าจะมาอยู่ที่บ้านนี้ เป็นเพื่อนทุกวัน”
    “อ้อค่ะ” สร้อยฟ้ายิ้ม “ดิฉันก็คงอยู่ต่อไม่ได้ เพราะว่าจะรบกวนสมาธิของเขากันน่ะค่ะ”
    “ถ้าอย่างนั้นจะรังเกียจไหมครับ ถ้าผมจะชวนไปหาข้าวเที่ยงทานกันข้างนอก” ณัฐถามอย่างสุภาพไม่ได้มีเจตนาใดแฝงอยู่เหมือนผู้ชายทั่วไปที่เข้าหาหล่อน
    “ยินดีค่ะ คุณณัฐอุตส่าห์เอ่ยปากแล้ว ถ้าปฏิเสธก็คงดูใจร้ายไปนะคะ” หล่อนยิ้มให้อย่างกันเอง เมื่อออกมาอยู่ห้องนั่งเล่นได้ไม่นาน จิตราก็เดินลงมาจากชั้นบน นุ่งขาวห่มขาวไม่ต่างจากครั้งก่อน
    “คุณพาทิศ เชิญข้างบนค่ะ” หญิงชราเอ่ย
    พาทิศหันมาหาทั้งคู่ห่างสำรวมก่อนจะบอกว่า
    “ขอตัวก่อนนะ ไว้เจอกัน”
    ทั้งคู่มองพาทิศเดินขึ้นไปข้างบนจนลับสายตา ณัฐก็ชวนสร้อยฟ้าออกไปกินข้าว ทิ้งให้พาทิศอยู่กับจิตราสองคน ในบ้านที่แสนจะน่ากลัวแห่งนี้

    ห้องพระของจิตรา อบอวนไปด้วยกลิ่นธูป หน้าต่างแม้จะเปิดไว้แต่ควันธูปก็ไม่อาจระบายออกไปได้หมด ห้องพระของจิตรา มีโต๊ะหมู่บูชาตั้งไว้กลางห้องประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดย่อม มีกระถางธูปและที่ไว้เทียน จิตรานั่งลงหน้าพระพุทธรูปนั้น ผายมือเป็นเชิงให้พาทิศทำตาม เจ้าตัวก็นั่งลงข้างๆ ค่อนไปด้านหลังของจิตรา
    หญิงชราคุกเข่ากราบเบญจางคประดิษฐ์ สวดมนต์อะไรพึมพำพาทิศก็ทำตามอย่างไม่เคอะเขิน พอไหว้พระกล่าวบูชาพระรัตนตรัยแล้ว จิตราก็หันมาคุยกับชายหนุ่ม
       “เป็นอย่างไรคะคุณพาทิศ ได้ทำตามที่ดิฉันบอกหรือเปล่า”
    “ครับ ผมทานมังสวิรัติแล้วก็ถือศีลแปดอย่างเคร่งครัดมาตลอดสัปดาห์หนึ่งแล้วครับ”
    “ค่ะ” หล่อนพยักหน้าอย่างสงบ “แต่ดิฉันอยากให้รู้นะคะว่า ไม่ใช่ทุกคนที่ทำอย่างนี้แล้วจะสามารถฝึกจิตได้ คุณพาทิศมีสัมผัสที่หกอยู่นิดหนึ่งอยู่แล้วจึงจะสามารถทำการฝึกกรรมฐานอย่างที่ดิฉันจะสอนนี้ได้ เพียงแต่ต้องชำระจิตให้สะอาดขึ้นก่อน จึงจะทำได้อย่างแน่นอน สำหรับคนอื่นๆ อย่างหนูสร้อย สอนอย่างไรก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากมีสมาธิขั้น อัปนาสมาธิเท่านั้น”
    พาทิศพยักหน้าอย่างเข้าใจ
    “เรามาลองทำขั้นแรกกันค่ะคุณพาทิศ คือ การฝึกกายาวิปัสสนา หรือการควบคุมกายมีหลายขั้นตอน หลายวิธีนักแต่วันนี้ดิฉันจะให้คุณพาทิศทำวิธีที่ง่ายที่สุดเสียก่อน คือ อาณาปานสติ”
    “กำหนดลมหายใจหรือครับ” พาทิศอดประหลาดใจจนต้องถามไม่ได้ วิธีง่ายๆแบบที่เขาเรียนมาตอนเด็กๆเท่านั้นหรือ จะทำให้เขาระลึกชาติได้
    “ค่ะ ฟังดูเหมือนง่ายค่ะ แต่เอาเข้าจริงๆ ดิฉันว่าคุณพาทิศทำไม่ได้ตลอดหรอกค่ะ” หล่อนหัวเราะเบาๆ “ขั้นแรกคือกำหนดลมหายใจเข้าออกเพียง ยุบหนอ พองหนอเท่านั้น ตามจิตให้ทันว่าตอนนี้คุณทำอะไรอยู่ หายใจเข้า-ออกอยู่เฉยๆ เท่านั้น อย่าให้มีสภาวะทางจิตอื่นใดเกิดขึ้นกับคุณค่ะ”
    แล้วหล่อนก็นั่งขัดสมาธิ ข้อมือซ้ายวางเหนือขาขวา มือขวาวางซ้อนอยู่บนนั้น นั่งหลับตานิ่งเท่านั้นเอง ง่ายๆ อย่างนั้นแหละพาทิศก็ทำตาม แรกๆเหมือนมันจะง่ายดายไปหมด คือเหมือนนั่งอยู่เฉยๆ เพียงแต่ต้องกำหนดรู้ว่ายุบตอนไหน พองตอนไหนเท่านั้นเอง สักพักพอนั่งไปได้ไม่กี่นาที พาทิศก็ลืมกำหนดลมหายใจเข้าออก ไปคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้แทน
    “คุณพาทิศ หลุดออกจากสมาธิแล้วค่ะ คุณกำลังฟุ้งซ่านอยู่”
    ชายหนุ่มประหลาดใจว่าหญิงชรารู้ได้อย่างไร แต่ก็ตัดสินใจไม่ถามดึงตัวเองกลับเข้าสู่สมาธิ ตั้งสติไว้มั่นแล้วกำหนดหายใจเข้าออกต่อไป แต่พอเริ่มนั่งไปนานๆเข้า พาทิศก็เริ่มเมื่อย เหงื่อไหลเพราะความร้อน ปวดข้อเข่า ข้อเท้าไปหมด จนเริ่มตัวสั่น ชาตามข้ออย่างเจ็บปวดทรมาณ ความเจ็บปวดมากขึ้นกระทั่งลามไปทำให้เขาปวดหัว พาทิศปวดหัวมากกระทั่งลืมตาขึ้นมา จิตหลุดออกจากสมาธิทันที
    “คุณแพ้ค่ะ คุณพาทิศ” หญิงชราว่าแม้หล่อนจะหลับตาอยู่ก็ตาม “จิตคุณหลุดออกจากสมาธิ ทั้งที่นั่งมาเพียง สี่สิบ นาทีเท่านั้น”
    สี่สิบ นาทีแต่มันช่างยาวนานเหลือเกิน นานแบบที่ชายหนุ่มคิดว่า คงจะเป็นชั่วโมงแล้วเป็นแน่ ว่าแต่จิตราอยู่ได้อย่างไรว่าเขาลืมตาแล้ว จิตรารู้ได้อย่างไรว่าเวลาผ่านไปเพียง สี่สิบ นาที
    “เหมือนคุณแช่น้ำในลำธารอยู่น่ะค่ะ” หล่อนอธิบายทั้งที่พาทิศไม่ได้ถามออกมาเป็นคำพูดแม้แต่น้อย “หากสายน้ำที่ไหลมาเอื่อยๆอยู่ดีๆ ไหลแรงขึ้นคุณก็ย่อมรู้ หรือหากน้ำไม่ไหลคุณก็ย่อมรู้ น้ำนิ่งๆในสระ กับน้ำในแม่น้ำ และน้ำทะเลเคลื่อนไหวต่างกันค่ะคุณพาทิศ ต่อให้คุณไม่ต้องลืมตามามองคุณก็ต้องย่อมรู้ว่าน้ำมันเคลื่อนที่ต่างกันอย่างไร”
    จิตราเงียบไปพักหนึ่ง พาทิศมองหน้าหล่อนก็เห็นว่าหญิงชราไม่มีแววเหนื่อย ร้อนเหงื่อไหลอย่างที่เขาเป็น หล่อนยังงามสง่าไม่มีเหงื่อสักหยดในแบบของหล่อน ในขณะที่พาทิศเปียกโชกไปทั้งตัวอย่างกับคนไปออกกำลังกายมาอย่างใดอย่างนั้น
    “คุณพาทิศลองอีกสักครั้งเถอะค่ะ คราวนี้หากได้สักหนึ่งชั่วโมงก็คงพอแล้วไว้วันพรุ่งนี้นั่งได้นานๆเราค่อยเพิ่มรายละเอียดขั้นตอนที่ลึกกว่านี้ลงไปอีกก็ได้ค่ะ” หล่อนยิ้มอย่างใจดี เป็นการให้กำลังใจพาทิศด้วยความมั่นใจว่า ชายหนุ่มรู้ดีแล้วว่าสิ่งที่เขาคิดว่าง่ายๆนั้นไม่ได้ง่ายเลยแม้แต่น้อย หากแต่ยากกว่าสิ่งใดที่เขาเคยทำมาทั้งหมดในชีวิต
    หลังจากนั้นเป็นเวลาหฤโหดที่สุดสำหรับพาทิศ ชายหนุ่มคิดว่าพอมานั่งสมาธิแล้วทุกอย่างก็จบเขากลับไปกินเนื้อสัตว์ได้ กลับไปนอนเตียง กินข้าวเย็น ดูทีวีได้อย่างคนอื่น แต่เปล่าเขายังต้องยึดถือศีล 8 ไปอีกนาน กินมังสวิรัติไปอีกเรื่อยๆ ตามที่ป้าจิตราบอก หลายๆครั้งเขาอยากเลิก ไม่ทำแล้ว กลับไปใช้ชีวิตปกติ บ้านหลังนั้นก็ขายไปเสีย แล้วไปอยู่กับณัฐ สองคนที่บ้านไหนก็ได้ที่เขามีอยู่ แต่พอคิดถึงเส็ง คิดถึงหลวงพินิจราชอักษร พาทิศก็กล้ำกลืนฝืนทำทุกอย่างต่อไปอย่างที่จิตราบอก อะไรบางอย่างมันทำให้เขาไม่ยกเลิกเรื่องนี้ง่ายๆ และอะไรนั้นก็ไม่ใช่แค่ความอยากรู้อยากเห็นเสียด้วย
    กิจวัตรของพาทิศเป็นเหมือนๆกันทุกวันมาเกือบเดือน ชายหนุ่มตื่นแต่เช้า มาทำอาหารไปใส่บาตรกับป้าจิตรา อาหารที่เหลือก้นหม้อก็เป็นข้าวเช้า พอสายๆก็ออกเดินจงกรม นั่งสมาธิจาก สี่สิบ นาที เป็นหนึ่งชั่วโมง จนมากขึ้นเรื่อยๆ พอกลางวันก็ไปวัดทำบุญ ฟังเทศน์ฟังธรรมบ้าง อ่านหนังสืออยู่กับบ้านบ้าง ตกเย็นมาก็นั่งสมาธิอีกรอบ พอสองทุ่มก็ต้องเข้านอน แรกๆพาทิศรู้สึกอึดอัดราวกับว่าถูกบังคับมาอยู่ค่ายปฏิบัติธรรม แต่พอทำไปได้สักครึ่งเดือน เขาก็เริ่มชิน และเห็นว่า การใช้ชีวิตอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็ไม่ต้องเครียดว่าจะกินอะไร จะทำอะไร จะไปไหน เพราะรู้ว่าทุกอย่างวางไว้พร้อมแล้วสำหรับเขา
    ณัฐมาเยี่ยมเขาทุกวัน พอๆกับที่สร้อยฟ้าก็มาเยี่ยมป้าของหล่อนทุกวัน แต่จนแล้วจนรอด พาทิศก็ยังไม่ได้พบสร้อยสุวรรณน้องสาวของหล่อนเสียทีเพราะ“สร้อยสุวรรณ เป็นนางแบบค่ะ แฟนเป็นดารา งานเยอะกันจนไม่มีเวลามาเหลียวแลญาติพี่น้อง”
    ไปๆ มาๆ สร้อยฟ้ากับณัฐก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปเสียอย่างนั้น เวลามาเยี่ยมพาทิศ หากไม่นัดกันมา ก็บังเอิญเจอกันข้างนอกก่อนแล้วจึงชวนกันเข้ามาที่นี่ พอมาถึงก็นั่งคุยกันอย่างสนิทสนม มากกว่าที่เคยเป็นมากนัก เพราะทั้งคู่มีเรื่องที่สนใจตรงกัน คือณัฐชอบเรื่องของงานศิลปะ ส่วนสร้อยฟ้าก็สนใจประวัติศาสตร์ พอมารวมกันจึงกลายเป็นคุยกันเรื่องประวัติศาสตร์ศิลป์ สนุกไปหมด จนบางครั้งพาทิศและจิตราแทบไม่ได้คุยกับสองหนุ่มสาว กลายเป็นมานั่งฟังสองคนนั้นคุยกันเองไปเสียอย่างนั้น
    พาทิศยังไม่เห็นนิมิตอะไรอีกเลยนับแต่วันที่เขาฟื้นขึ้นมา เขาสงสัยว่าเป็นเพราะเขาอยู่ที่นี่หรือเปล่าไม่ใช่ที่บ้านของหลวงพินิจนั้น เขาก็ได้คำตอบจากจิตราว่าเป็นประมาณนั้น เพราะคนที่ทำให้พาทิศเห็นเรื่องในอดีต ยังวนเวียนอยู่แถวบ้านที่พาทิศไปซื้ออยู่ พอมาอยู่ที่นี่ก็เลยไม่สามารถเห็นภาพเหตุการณ์ในอดีตได้อีกเลย
   “แต่หากคุณพาทิศฝึกเพ่งกสิณจนถอดจิตได้แล้วคิดว่าจะนึกถึงเหตุการณ์นั้นได้เองไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนค่ะ” ด้วยเหตุนี้ พาทิศจึงต้องเร่งฝึกสมาธิควบคุมจิตอะไรไปตามที่จิตราสอน ให้มากขึ้น เข้มข้นขึ้นจนสามารถระลึกชาติที่แล้วได้ด้วยตัวเอง
    การฝึกสมาธิสองสามวันแรกเป็นไปเช่นเดียวกับครั้งแรกที่เขาเริ่มฝึก คือไม่อาจทนนั่งอยู่นิ่งๆได้ ความปวดเมื่อย และความร้อนจนอึดอัดมีมากเสียจนชายหนุ่มต้องยอมแพ้ จิตหลุดออกจากสมาธิอยู่บ่อยๆ แต่พอเริ่มนานไป เริ่มชิน พาทิศก็พบว่า พอจิตราบอกให้ลืมตาได้ เวลาก็ล่วงเลยมา สองสาม ชั่วโมงแล้ว ทั้งที่เขาไม่รู้สึกเลยว่าเวลาผ่านไปได้กี่มากน้อย
    “จิตเป็นอกาลิโกค่ะ มันไม่ขึ้นกับกาลเวลา”
    พอเริ่มนั่งสมาธิได้นิ่ง จิตราก็เริ่มให้พาทิศกำหนดอิริยาบถต่างๆ นอกจากยุบหนอพองหนอแล้ว พาทิศยังต้องรู้ตัวด้วยว่าเขาทำอะไรอยู่บ้าง เช่นพอจิตราเคาะพื้น พาทิศต้องกำหนดว่าเขา ได้ยินหนอ หรือ เวลาร้อนก็ต้องรู้เท่าทันตัวเองว่า ร้อนหนอ เมื่อยหนอ ปวดหนอ อย่างนี้ เท่ากับรู้เท่าทันตัวเองว่า ทำอะไรอยู่ รู้สึกอะไรอยู่ ได้มีสติอยู่กับตัวเองตลอดเวลา
    พอหนักๆเข้าพาทิศก็เริ่มกำหนดสติรู้มั่นเวลาดื่มน้ำ หรือกินข้าว เขาเริ่มรู้ว่าน้ำไหลผ่านหลอดอาหารลงไป ที่กระเพาะอาหารได้อย่างไร พอเพ่งสติไปตามการกลืนน้ำ เขาก็รู้สึกเย็นวูบเป็นทางตามที่มันไหล ลงไปจนถึงกระเพาะได้ หรือเวลาเดินไปไหนมาไหนก็เริ่มรู้ตัวว่า ก้าวเท้าซ้ายหรือเท้าขวาก่อน แล้วจบที่เท้าไหน จิตราให้พาทิศกำหนดสติแม้ในตอนที่เขาหลับ พาทิศขจัดเรื่องในใจออกไปได้หมดกำหนดรู้เพียงว่าเขากำลังหายใจเขาหรือออก ยุบหนอพองหนออยู่ตลอดเวลาที่นอนอยู่ ชายหนุ่มค้นพบอย่างมหัศจรรย์ว่า พอรุ่งเช้าเขาก็ตื่นขึ้นเองอย่างอัตโนมัติทั้งที่ไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุก จิตราบอกว่า
    “คุณมีสติ รู้เท่าทันตัวเองว่านอนมาครบกำหนดแล้ว จิตคุณจึงปลุกคุณขึ้นมาจากภวังค์หลับได้”
    เวลาล่วงเลยมาเป็นเดือนแล้ว พาทิศพบว่าจิตของเขานิ่งมากกว่าเมื่อก่อน เขารู้ตัวทุกขณะเมื่อคิดอะไร รู้สึกอะไร ทำอะไร เขามีสมาธิจนนั่งอยู่ได้เป็นวันๆ “คุณพาทิศเรียนรู้เร็ว บางคนใช้เวลาฝึกนานมากกว่านี้ กว่าจะเป็นเช่นนี้กันได้”
    แต่กระนั้น พาทิศก็ยังไม่เห็นอดีตอีกเลยนับจากนั้น จนจิตราเริ่มฝึกเขาขนาดหนักถึงขั้นที่ว่า หล่อนทำให้พาทิศตกอยู่ในสภาวะจิตสงบจนหล่อนป้อนภาพนิมิตของหล่อนเองเข้าไปในจิตของพาทิศ “เมื่อคุณเห็นลูกแก้วลูกนี้เมื่อใด ให้คุณถอดจิตออกจากนิมิตทันที เข้าใจไหมคะ” หล่อนชูลูกแก้วขนาดเท่าไข่นกกระทาให้เขาดู ให้เขานั่งสมาธิ แล้วจึงป้อนภาพนิมิตเข้าจิตของเขา

    ป้าจิตราในวัยรุ่น สวมกระโปรงสีดำแคบสั้นเพียงครึ่งต้นขาแถมผ่าสูงไปอีกเกือบนิ้ว สวมเสื้อนักศึกษารัดรูป ผมหยิกฟูแบบสาวเปรี้ยวในสมัยก่อนเดินเข้ามาในบ้านนี้ในสภาพที่ไม่เหมือนหล่อนแม้แต่น้อย จิตราแต่งหน้าจัด ดูฉุนเฉียวและไม่ยอมให้ใครง่ายๆ หล่อนโยนกระเป๋าโครมบนตั่งในห้องนั่งเล่น เดินกระแทกเท้าปังๆขึ้นบ้าน กระทั่งพ่อแม่ของหล่อนต้องออกมาดุว่า
    “เป็นอะไรอีก แม่จิตราเดินอย่างกับจะพังบ้านลงมาทั้งหลัง”
    “ลูกเบื่อ ลูกไม่อยากเรียน” หล่อนตวาดผู้เป็นแม่ “ลูกอยากออกจากมหาวิทยาลัย แต่งงานมีลูกมีผัวแล้ว”
    “แม่จิตรา เธอพูดอะไรของเธอ ทำไมพูดจาน่าเกลียดเพียงนี้ เป็นผู้หญิงยิงเรือแท้ๆ เทียว”
    “ลูกรักเขาค่ะ แล้วไม่ว่าคุณพ่อจะห้ามลูกยังไงลูกก็จะแต่งงานกับเขา”
    “คนเดียวที่ลูกต้องแต่งงานด้วยเมื่อเรียนจบคือ ผ่านฟ้า เขาเป็นคนดี ร่ำรวย มีชื่อเสียง ฉลาด เหมาะสมกับลูกกว่าใครทั้งหมด”
    “แต่ลูกไม่แต่งค่ะ คุณพ่อบังคับลูกไม่ได้หรอก วันนี้เขาไปรับลูกที่มหาลัย อายเพื่อนล้อจะแย่ คนอะไรเชยก็เชยแต่งตัวน่าเกลียดใส่แว่นหนาเตอะ ลูกรับไม่ได้ค่ะ ถ้าคราวหน้าคุณพ่อยังให้เขามารับลูกอีก ลูกจะไปนอนบ้านชมนาด และไม่กลับมาอีกเลย”
    สิ้นเสียง จิตราก็กระแทกเท้าปึงปัง ผ่านพ่อแม่ไปเข้าห้องนอน ปิดประตูดังปัง จนลูกแก้วลูกหนึ่ง บนหิ้งหน้าห้องพระตกลงมาจากหิ้ง กลิ้งตกบันไดไปทีละขั้น ทีละขั้น ดังปั้ก ปั้ก ราวจะปลุดให้พาทิศตื่น
    “ตื่นค่ะคุณพาทิศ ดึงจิตคุณออกมาจากนิมิตซีคะ”
   ไม่ พาทิศ อยากรู้เรื่องต่อ จิตเข้าวิ่งผ่านประตูห้องนอนเข้าไปในห้องของจิตรา เห็นหญิงสาวทิ้งตัวลงบนเตียงร้องไห้อย่างน่าสมเพช ไม่มีอะไรเหมือนจิตราที่นั่งอยู่ต่อหน้าเขาแม้แต่น้อย
    “คุณพาทิศคะ กรุณาดึงจิตของคุณออกจากนิมิตด้วยค่ะ”
    กระนั้น พาทิศก็ยังดื้อดึง เขาได้ยินชื่อ ผ่านฟ้า ได้ยินชื่อป้าของเขา เขาอยากรู้เรื่องเขาอยากรู้มากกว่านี้
    “ไม่ได้แล้วค่ะคุณพาทิศ ตื่นเถิด”
    พาทิศลืมตาขึ้นในที่สุด จิตราจ้องเขาเขม็ง
    “คุณไม่ดึงตัวออกจากนิมิต ทั้งที่คุณควบคุมจิตของตัวเองได้แน่นอนแล้ว ความอยากรู้ของคุณจะทำให้คุณหลับไปอีก ไม่ฟื้นเชียวนะคะ”
    “ผมขอโทษครับ”
    “ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ แต่คุณต้องพยายามมากกว่านี้”
    “คุณป้า ดูไม่เหมือนคุณป้าเลยครับ” พาทิศถาม “คุณป้าเคยเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือครับ”
    “จริงค่ะ” หล่อนถอนใจ “ความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติของคุณไม่ยอมปลุกคุณขึ้นจากนิมิตจริงๆ ขนาดเป็นเรื่องของดิฉันที่ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลยนะคะ ไม่ได้แล้วค่ะ คุณต้องพยายามมากกว่านี้”
    
    พาทิศจึงฝึกใหม่ในวันต่อไป แต่เขาก็ยังดื้อไม่ยอมดึงตัวเองออกจากนิมิตของจิตราครั้งแล้วครั้งเล่า จนจิตราไม่อาจดึงเขากลับมาในปัจจุบันได้อีก พาทิศไปไกลจนรู้ว่า จิตราถูกบังคับให้แต่งงานกับผ่านฟ้า แต่หล่อนไม่ยอม กลับไปคบกับรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย จิตราหนีตามไปอยู่กับเขาจนท้อง ทำให้ผ่านฟ้าถอนตัว ไม่แต่งงานกับหล่อน ทำให้พ่อแม่ต้องเสียน้ำตามากมาย สุดท้ายพอคนรักของจิตรารู้ว่าจิตราท้องก็ผลักไสไล่ส่งเพราะเขามีแฟนอยู่อีกหลายคน จิตราเสียใจมากจนตัดสินใจไปทำแท้ง! เรื่องนั้นยิ่งทำให้พ่อแม่ของหล่อนทุกข์ใจ จนพ่อเส้นเลือดในสมองแตกตาย แม่ก็ตรอมใจตายตามไปด้วยอีกคน จิตราเองก็กินยาฆ่าตัวตายตาม จนน้องสาวต้องพาไปส่งโรงพยาบาลเพื่อล้างท้อง
    พาทิศเห็นนิมิตมาจนถึงตอนนี้ ก็หมดความอยากรู้ ด้วยไม่อาจทนภาพของจิตราที่บ้าคลั่ง พยายามจะกัดข้อมือตัวเองให้เลือดหมดร่างตายที่โรงพยาบาลได้ เขาถอดจิตของตนออกจากนิมิตได้ในที่สุด
    “คุณป้า ผมขอโทษ ผมไม่น่าฝืน ผมไม่น่าเห็นเลย”
    กระนั้น จิตราก็ยังคงหน้าเรียบเฉยของหล่อนไว้ดังเดิม
    “วันนี้คุณทำดีมากค่ะที่ดึงตัวเองออกมาได้” หล่อนว่า “แต่นั่นเป็นเพราะคุณสมเพชดิฉัน และไม่อยากเห็นเหตุการณ์ต่อไป แต่หากคุณยังอยากรู้ ดิฉันมั่นใจว่าคุณจะดูมันต่อ จนแม้ดิฉันก็ปลุกคุณขึ้นจากนิมิตไม่ได้”
    พาทิศนั่งเงียบ อย่างรู้สึกผิด
    “เรามาลองกันใหม่ค่ะ คราวนี้คุณต้องอยากรู้เรื่องแน่ๆ แต่ขอให้ฝืนใจ ดึงตัวเองกลับมาจากนิมิตให้ได้เถอะนะคะ”

******************************************************************************************************

ต่อละคร้าบบบบ ทั้งบทเลย มันยาวไปโพสต์เดียวไม่ได้ต้องแยกเป็น 2 รีพลายอ้ะ
ใครคิดถึงเส็ง อีกประมาณ 2 บทเขาจะกลับมาละคร้าบบบ

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
ณัฐชนะเลิศ น่ารักแสนดี
แอบเซงพาทิศ ทำไมเมื่อก่อนถึงใจร้ายจัง
ต่อจากนี้ไปดูแลณัฐดีๆด้วย
ปล. อยากรู้เรื่องอดีตจัง

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
พาทิศเริ่มเทพแล้ว จะได้เข้าใจอดีตซะที
 :z12: ถามนิดนึงน๊า สงสัยเรื่องการอัพเดทชื่อหัวกระทู้อ่ะจ้า ทำไมอัพวันที่ 18 แต่ เขียนว่า 15/11/10 หรอ หรือเจงงเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2010 18:59:33 โดย JJHJJH »

ออฟไลน์ ayanae

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
พาทิศใกล้จะได้เห็นอดีตแล้ว
ตั้งหน้าตั้งตารอเส็งค่า อีกสองตอนก็จะย้อนอดีตอีกแล้ว ทีนี้จะได้รู้อดีตกันซะที

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
โอ้ กว่าจะเห็นสัจธรรมก็เกือบหมดแล้วทุกอย่างจริงๆ :m15:

เนื้อเรื่องน่าติดตามมากเลย
 :L1:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงเส็งแต่กลับว่ามันจะเศร้าอะซี :sad4: :sad4: :sad4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-11-2010 16:47:35 โดย samsoon@doll »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
พาทิศสู้ๆ ทำให้ได้นะ

คิดถึงเส็งมากเลยจ้า

ปล. ไม่คิดว่าป้าจิตราตอนวัยรุ่นจะเป็นคนแบบนั้น อย่างกับคนละคนเลยอ่ะ

ออฟไลน์ noina

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80

ออฟไลน์ bigbeeboom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
แอบรู้สึกว่า ถ้ากลับบ้านโน้น พาทิศจะได้กลับมามั้ยอ่ะ เพราะแบบถ้าอยากรู้เกินไป กลับไม่ได้แน่เลย ตื่นเต้นๆ

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

๘๗ + ๑ = ๘๘
ขอบคุณนะคะ คุณ Purple_Sky


ออฟไลน์ mook0007

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
คิดถึงเส็งอ่ะ สรุปแล้วพาทิศเป็นใคร หวังว่าไม่ใช่แก้วนะ

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
“คุณหลวงขอรับ คุณหลวง....” เส็งสะอื้นไห้อย่างนี้ทุกค่ำคืน คืนนี้ก็ไม่ต่างไปจากที่เคย

อ่านจบประโยคนี้ขนลุกเลย ให้ตายเถอะ

คุณป้าจิตตรา มีอดีตแบบไม่น่าเชื่อเลย ว่าจะสงบได้ถึงขนาดนี้

+ ให้คนเขียน เขียนเก่งมากกกกก  :L2:

ออฟไลน์ Lady-Rabbit

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 167
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อย่าเพิ่งอยากรู้อยากเห็นเรื่องคนอื่นเลยน้า
เพราะคนอ่านอยากรู้เรื่องของคุณหลวงกับเส็งแล้ว

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งตามอ่านค่ะ พาทิศเราว่าน่าจะเป็นคุณหลวงนะ
อาจจะมาแก้ไขให้วิญญาณเส็งไปสู่สุขติรึเปล่า
อันนี้เดาเอา อิอิ แต่แอบเศร้านะคะเนี่ยะ  :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ noina

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 719
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด