[ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ป า ง บ ร ร พ์] แจ้งข่าว คห.#1289  (อ่าน 486153 ครั้ง)

tawan

  • บุคคลทั่วไป
อีหยาดมันน่าตบจริง ๆ :fire:

 :call:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
สักวัน กรรมจะสนองมึงอีหยาด !
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2010 23:52:28 โดย samsoon@doll »

ออฟไลน์ cancan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +581/-0
 :impress2:
โอ้วว เจ๋งค่ะ o13 ชอบ ชอบ  เพิ่งมาอ่ะค่ะ เดี๋ยวอ่านเรื่อยๆ  อ่านแล้วก็ขนลุกนิด นิด  หึ หึ

ออฟไลน์ Pamphlet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 529
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
เพิ่งเข้ามาตามอ่านค่ะ...อ่านรวดเดียวจบอ่านแล้วไม่อยากหยุดเลยค่ะ
เรื่องนี้พอถึงคราวหวานก็หวานปานน้ำผึ้ง แต่พอถึงยามเศร้าก็เล่นเอาสะเทือนใจไปตามๆกันเลยค่ะ
อยากบอกว่าเป็นนิยายที่ใช้ถ้อยคำได้ละเมียดละไมสวยงามจริงๆค่ะ
แต่ละบทแต่ละคำที่ใช้ก็ทำให้มองเห็นภาพได้จริงและรู้สึกตามได้จริง
แต่ตอนนี้อยากบอกว่าสงสารคุณหลวงแล้วก็เส็งมากเลยค่ะ คนจะรักกันทำไมมันต้องอุปสรรคขนาดนี้นะ  :เฮ้อ:
แล้วคนที่ร้ายด้วยหัวจิตหัวใจจริงๆคงไม่ใช้แก้วสินะ เพราะคนที่สำนึกร้ายๆแสดงออกมาอย่างชัดเจนแล้วก็คือหยาด
แถมจริงๆแล้วคนที่มีปมน่าสงสัยที่สุดในเรื่องตอนนี้ก็คือนายเทิด
เพราะลูกของหยาดจริงๆแล้วอาจจะไม่ใช่คุณหลวงก็ได้ อาจจะเป็นของเทิดก็ได้ใครจะรู้
และถึงแม้จะไม่ใช้อย่างที่พูดมาข้างต้น แต่คนที่น่าสงสัยก็ยังไม่พ้นนายเทิดอยู่ดี
เพราะดูว่าจะรู้ๆอะไรอยู่ไม่ใช่น้อย
แล้วพอกลับมาด้านฝั่งปัจจุบันก็น่าสงสารพาทิศไม่ใช่น้อย ที่ต้องมาเจอกับเรื่องราวแบบนี้
แถมคนรักก็ดูเหมือนจะอะไรๆกับสร้อยอยู่เหมือนกัน
ยังไงตอนจบก็ขอแบบแฮปปี้เอนดิ้งละกันนะคะ สงสารทุกคน(รวมทั้งตัวเองด้วยที่อินจนเศร้าตาม)
มาต่อตอนหน้าเร็วๆนะคะ จะคอยเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะสำหรับผลงานคุณภาพแบบนี้  :L2:

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
หวังว่าคุณหลวงจะไม่ทิ้งเส็งไปก่อนนะ

ออฟไลน์ Natavishi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
T^T   สงสาร  เส็ง  จริง ๆๆ  .....

sornvat

  • บุคคลทั่วไป
ผู้แต่ง ท่าจะเป็นช่างบิ้วท์ อิน เปล่าครับเนี่ย
 ^^ บิ้วท์จนอารมณ์คนอ่านอินตามทั้งคู่แล้ว
ผมอยากมีเส็งบ้างง

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อย่าบอกว่าคุณหยาดร้ายเลย  ผู้หญิงทุกคนที่แต่งงานแล้วโดนทำแบบนี้ก็คงสติแตกทุกคนนั่นแหละ
เพราะคุณหยาดเองก็ไม่ได้รู้แต่แรกว่าคุณหลวงมีคนรักเป็นเส็งอยู่ตั้งแต่แรก
รู้แค่ว่าคุณหลวงไม่ได้รักแค่นั้นเอง  แต่ถ้าคุณหยาดจะไม่น่าสงสารก็น่าจะเป็นเรื่องที่ว่าท้องกับคุณหลวงจริงหรือเปล่านั่นแหละ
เรารู้สึกว่าเทิดมีพิรุธมาก ๆ ๆ กับคุณหยาดและน่าจะเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
สำหรับคุณหลวงคงต้องบอกว่า "ความรักทำให้เห็นสิ่งที่ไม่ควรเป็นสิ่งที่ควรไป"  ในที่นี้หมายถึงเลือกที่จะแสดงออกโดยไม่แคร์อะไร
ทั้ง ๆ ที่สภาพสังคมในตอนนั้นเรื่องโฮโมถือเป็นเรื่องผิดปกติร้ายแรงในสังคมที่ไม่มีใครยอมรับได้
ถ้าคุณหลวงเลือกที่จะแสดงออกความรักอย่างเหมาะสมแล้ว  บางทีเรื่องอาจไม่จบแบบนี้ก็ได้
.... สำหรับแก้วแล้ว  ก็สมควรที่หล่อนจะสำนึกเพราะเรื่องนี้หล่อนไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรเลย
หล่อนก็เป็นแค่แมวขโมยที่จ้องจะมาแย่งปลาย่างของคนอื่นเท่านั้น
... สงสารทุกคน  และจะไม่เดาอะไรอีกแล้ว  เพราะเดาไม่ถูกจริง ๆ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
เกลียดอิคุณหยาด  :beat:

ไม่สำนึกบ้างเลย เลวมาก

ปล.สงสารคุณหลวงกับเส็งมากกก  :m15:

ออฟไลน์ mahmeow

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
น่าสงสารจังเลยคะ...T^T....สมัยนู้นเค้าลงโทษกันรุนแรงจัง...
สงสารคุณหลวงอะคะ....น่าน้อยใจคุณพ่อจริงๆเลย...T_T

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dezzetoeiiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ถ้าเธอจะเห็นว่าความรักเป็นเกมส์ที่ต้องเอาชนะ เธอก็แพ้ไปแล้วตั้งแต่ต้นนั่นแหล่ะแม่หยาด  :z13:

คนที่รักกัน มันจำเป็นเหรอว่าเขาจะต้องเป็นของชั้น ชั้นจะต้องเป็นผู้ที่มีความสุข .. สุขคนเดียว เศร้าเพิ่มขึ้นตั้ง 2 คน
น่าแปลกใจที่คนตั้งต้นจะร้ายมาแต่แรกอย่างแก้วกลับสำนึกผิดได้อย่างรวดเร็ว เพราะความทุกข์ของคน 2 คนที่รักกัน
ในขณะที่คนที่ร้ายลึก กลับเป็นหยาดจอมเอาแต่ใจ .. เหม่ อุตส่าห์คิดว่าเธอจะไม่ได้เจ้าคิดเจ้าแค้นอะไรมากมายขนาดนั้น (ถ้าไม่แค้นเรื่องเศร้าก็ไม่เกิดดิ่!)
ตอนนี้เจ้าคุณโหดร้ายมาก เรื่องความรักมันบังคับกันได้เหรอว๊า ห๊ะ .. มันบังคับกันได้เหมือนสั่งเส้นเล็กต้มยำเหรอ ถึงจะมาสั่งให้รักใคร เลิกใคร

อยู่ด้วยกันก็เหมือนไม่อยู่ด้วยกัน ในเมื่อถูกกักบริเวณอย่างนั้น .. แต่เจ้าคุณไม่ได้สั่งไว้ใช่ป๊ะ ว่าห้ามอ้ายแสงไปหาเส็ง  :laugh:
เรื่องนี้จะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ผีๆ คนๆ มีความสุขได้หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป

ปอลอ. ถ้าผู้แต่งจะทำร้ายจิตใจคนอ่านขนาดนี้  :m15: :m15:

kwa

  • บุคคลทั่วไป
โฮกกกกก น้ำตาร่วงเลย ก็เข้าใจอยู่ว่าในสมัยก่อน การรักเพศเดียวกันมันยังคงน่าอับอายสำหรับวงศ์ตระกูล  แต่สลดใจมาก ที่ถึงกับจะฆ่าจะแกงจนตายกันเลยรึ TTATT
เดาไม่ถูกว่าใครจะเกิดมาเป็นใคร เพราะพอจะเดาคนนี้ คนโน้นก็น่าจะใช่ เลยสรุปกับตัวเองว่า รอเฉลยดีกว่า(ฮา)
ตอนหน้าจะน้ำตาท่วมกว่านี้อีกไหมคะ เพราะดูแววแล้ว จะท่วมเยอะมากเลย
อยากเห็นกรรมตามสนองแม่หยาดเหลือเกินแล้ว หล่อนร้ายลึกชนิดที่ร้ายเปิดเผยอย่างแม่แก้วเทียบไม่ได้เลยทีเดียวเชียว

VitamiN

  • บุคคลทั่วไป
อ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุดเลย o13
ชอบมากๆเลยค่ะ อ่านไปแล้วมันเห็นภาพอ่ะ

ภาพตัวอย่างบ้านคุณหลวง ก็เด๊ะๆเลยกับที่คิดไว้
บรรยากาศโดยรวม ภาษาก็ใช้ได้เลยทีเดียว

นี่ขนาดไปอาบน้ำในหัวยังมีแต่คุณหลวงกับเส็ง แล้วก็เรื่องพาทิศเป็นใคร(ยังเดาอยากอยู่เลยค่ะ แต่มีความคิดแว๊บ!นึงนะ ว่าเป็นคุณหยาด เหอๆๆ แบบเป็นคนสั่งเจาะช่องถ้ำมอง ชาตินี้เลยกลายเป็นคนถ้ำมอง อะไรงี้อ่ะ 555+//////// แต่อีกความคิดหนึ่งก็คิดว่าเป็นคุณหลวงนะ ด้วยเพราะว่าเป็นตัวนำเรื่องก็น่าจะมีบทบาทที่ยิ่งใหญ่ ฮา~ )

ส่วนตาเทิดเนี่ย มีพิรุธมากค่ะ เราคิดว่าลูกหยาดต้องเป็นลูกตาเทิดแหงๆ= =" แบบหยาดก็เมาเธอคงจำไม่ได้เหมือนกันว่ามีอะไรกับใคร แต่ตื่นขึ้นมาเจอคุณหลวง เลยเข้าใจผิดกันหมด(>>เดาๆ)

แล้วมาต่ออีกไวไวนะ :z13:

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
 :m15: คนรักกัน ใกล้ตัวแต่เข้าหาไม่ได้ มันทรมานมากนะ

ออฟไลน์ BiGgYDrIb

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ไม่น่าเชื่อว่าแก้วจะสำนึกผิดได้เร็วขนาดนี้
สรุปว่าคุณนายหยาดใจร้าย แอ๊บใสเหมือนคุณระย้านี่เอง

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
น้ำตาไหล จนจะกลายเป็นสายเลือดตามเส็งไปติดๆ :sad4:
มันอินมากกกกกก...สะเทือนใจสุดๆๆๆๆ ร้องไห้ไม่ไหวแล้ว สงสารเส็ง :o12:
+1 ขอบคุณค่า เรื่องราวมันจะเป็นยังไงต่อไปไม่รู้ ที่รู้คือตอนนี้เศร้าสุดๆ :impress3:

ออฟไลน์ pp_song

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
 :angry2:ทำไมเลวอย่างนี้

ทำให้คนที่รักกันต้องพรากจากกัน

มีความสุขรึยังล่ะ เหอะ ขอหน่อยเถอะ

 :beat: :z6:

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
ไปต่อกันครับ

*************************************************************************************************

๒๕

    พอเจ้าคุณพายเรือลับตาไปแล้ว มั่นก็พาเส็งไปยังเรือนไม้หลังเล็กที่อยู่ลึกเข้าไปในสวน
    เส็งไม่เคยรู้ว่ามีเรือนหลังนี้ อยู่ในอาณาเขตของหลวงพินิจราชอักษรด้วย เพราะเขาไม่เคยเข้ามาในสวนลึกถึงเพียงนี้ จากตรงนั้นไม่ต้องพูดถึงว่าจะเห็นคุณหลวงเลย แม้แต่เรือนเทาเส็งก็ไม่อาจมองเห็นได้อีก ต้นไม้สูงลิ่วแผ่กิ่งก้านใบปกคลุมศีรษะไว้ทำให้ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็ไม่อาจเห็นอะไรได้นอกจากต้นไม้ และฟ้าครึ้มดำที่ส่งเสียงคำราม และโปรยปรายสายฝนลงมาไม่ขาด
    บ้านหลังนั้นเป็นบ้านเล็กๆ ปลูกแบบเพิงไม้ธรรมดาไม่ได้สวยงามหรือยิ่งใหญ่เท่าเรือนเทาที่หลวงพินิจอาศัยอยู่ รอบๆบ้าน มีเล้าไก่ที่บัดนี้ไม่มีไก่อยู่แล้ว วางระเกะระกะไม่เป็นระเบียบ มีแคร่ไม้วางอยู่ใกล้ๆกันเต็มไปด้วยข้าวของที่เก่าเก็บแทบไม่ใช้ แม้ตอนมั่นเปิดประตู ก็แทบจะต้องพังประตูเข้าไปเสียด้วยซ้ำ ด้วยความที่ฝืดอย่างที่ไม่ได้เปิดใช้มานานแล้ว
    เส็งเดินเข้าบ้านไปอย่างหมดอาลัย แม้ฝุ่นจะเยอะ และกลิ่นจะอับอย่างไรหนุ่มน้อยก็แทบจะไม่ได้สนใจ เดินเข้าไปหาตั่งไม้เล็กๆพอนอนทอดกายได้คนเดียว แล้วหย่อนก้นนั่งอย่างหมดอาลัย เนื้อตัวเปียกปอนไปหมด ได้ยินเสียงฝนตกซู่อยู่ข้างนอกดังอยู่ไม่ขาดสาย มั่นจะพูดอะไรเขาก็จับใจความได้กระท่อนกระแท่น ได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง สนใจบ้างไม่สนใจบ้าง เพราะมัวแต่เป็นห่วงคุณหลวงของเขาสุดหัวใจ
    “ตอนยังไม่มีเรือนเทา สวนแห่งนี้ก็เป็นของเจ้าคุณไพรัชกิจอยู่แล้ว แกสร้างบ้านหลังนี้ไว้ให้คนสวนอยู่ คอยส่งผลไม้ขาย พอคุณหลวงมาสร้างเรือนเทา สร้างเรือนบ่าวไว้ก็ให้พวกเราที่เป็นบ่าวดูแลสวน คนสวนเก่าก็เลยกลับไปอยู่บ้านกับลูกเมียที่หัวเมือง พอบ้านไม่มีคนอยู่ก็ปิดเอาไว้อย่างนี้ ไม่ได้ทุบทิ้ง”
    มั่นว่า พลางหาผ้าโยนมาให้เส็งเช็ดเลือดที่จมูก และเช็ดตัวให้แห้ง หนุ่มน้อยรับผ้ามาไว้ก็จริงแต่รับมาถือไว้เฉยๆ ไม่ได้เช็ดตัวอย่างที่บ่าวหนุ่มรุ่นพี่ตั้งใจ เขานั่งแหงนหน้าพิงเสาไม้ตรงนั้น ปล่อยสายตาเหม่อลอยอย่างหมดอาลัย
    “จะมานั่งเสียใจก็ไม่ทันแล้วละเส็ง” มั่นกล่าวอย่างตำหนิ พลางยอบตัวนั่ง เก้าอี้ที่อยู่ตรงข้าม ผู้ฟังได้ยินประโยคนั้นก็ข้องใจ ขมวดคิ้วด้วยไม่เข้าใจคำพูดของบ่าวรุ่นพี่สักนิด “ข้าเตือนเอ็งแล้วหรือไม่ใช่ ว่าให้เลิกเสียก่อนที่เจ้าคุณจะรู้”
    เงียบ ไม่มีใครว่าอะไร กระทั่งเส็งถอนใจออกมานั่นละ มั่นจึงพูดต่อ
    “แต่เอาเถิด ในเมื่อเรื่องมันก็เป็นเช่นนี้ไปแล้วจะแก้ไขอะไรก็ไม่ได้ เสียแล้ว” มั่นกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากเรือน ปิดประตูไม่ถึงนาที ก็เปิดกลับเข้ามาใหม่ “เย็นนี้จะยกกับข้าวมาเอง อยากกินอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า”
    เส็งไม่ตอบ ไม่พยักหน้า หรือส่ายหน้าอย่างที่คุณหลวงชอบทำตามธรรมเนียมฝรั่ง เพียงแต่นั่งนิ่งไม่สนใจมั่นอีกต่อไปแล้ว บ่าวหนุ่มรุ่นพี่จึงถอนใจเฮือกสุดท้ายก่อนจะออกมาจากบ้านไม้หลังเล็กนั้น
    มั่นเดินออกมาจากบ้านก็พบว่าฝนเริ่มจะหยุดตก กระนั้นก็ยังปรอยๆอยู่ให้ตัวเปียกอีกครั้ง มองไปเบื้องหน้าฟ้าก็มืดเสียเหลือเกินแล้ว ไม่รู้ว่าเย็นค่ำอย่างไร ก็รีบเดินกลับเรือนบ่าว เผื่อว่าเย็นแล้วได้ช่วยบ่าวคนอื่นๆทำงานให้เสร็จก่อนมืดค่ำ พอโผล่พ้นออกมาจากสวนก็เห็นแก้วลงจากเรือนกำลังจะตรงสวนมาทางเดียวกับเขา มั่นจึงออกมาขวางไว้ ขมวดคิ้วเข้าอย่างสงสัย
    “เอ็งจะไปไหน”
   แก้วไม่เห็นมั่น แต่เมื่อได้ยินก็สะดุ้งสุดตัว เงยหน้าขึ้นมาเห็นบ่าวหนุ่มร่างใหญ่ ก็ยืนนิ่ง รวบรวมสติ เอ่ยเบาๆว่า
    “จะไปหาอ้ายเส็ง”
    “ไปทำไม” มั่นก้าวเข้าไปหาบ่าวสาวน้อยอย่างหาเรื่อง เพราะคิดว่าหล่อนคงจะไปเพื่อหาเรื่องเส็งเป็นแน่ หากแต่เมื่อเข้าไปใกล้ และเห็นสายตาของหล่อนแล้วเขาก็ยิ่งสงสัยเข้าไปอีก
    ไม่มีเปลวไฟแห่งความริษยาอยู่ในแววตาของแก้วอีกแล้ว หล่อนจ้องหน้าเขาด้วยแววตาอย่าง “ผู้แพ้” เพิ่งรู้สึกตัวว่าที่ทำไปทั้งหมด นั้นเป็นความโง่เขลาของหล่อนเองแท้ๆ สุดท้ายเมื่อหลวงพินิจถูกแยกกับเส็งจริง หล่อนกลับต้องมาเสียใจแทนที่จะสะใจว่าแยกหลวงพินิจกับเส็งได้แล้วในที่สุด หล่อนเป็นคนชอบเอาชนะ ชอบกลั่นแกล้งก็จริง แต่จะอยากทำร้ายให้ถึงชีวิตหรือเจ็บจนหมดสติแบบนี้หล่อนไม่เห็นชอบด้วย เมื่อรู้ว่าทั้งคุณหลวงและเส็งต้องทุกข์ร้อนอย่างนี้ หล่อนก็กลัวบาปขึ้นมาทันตา จะพูดอธิบายก็กลัวมั่นไม่เข้าใจ จะไม่ตอบก็เดี๋ยวจะถูกมองว่าร้ายเกินไปอีก หล่อนจึงตัดสินใจพูดตามแนวหล่อนว่า
    “ฉันจะไปคุยกับมันเรื่องวันนี้” หล่อนกระแทกเสียง แต่ทำได้ไม่แข็งกร้าวเท่าที่ผ่านมานัก “ให้มันรู้ว่าฉันไม่ได้ฟ้อง ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดอะไรอย่างนี้ขึ้น”
    มั่นมองหน้าขาวเหลืองจิ้มลิ้มอย่างสาวพระนครที่กำลังโตเป็นสาวรุ่นเต็มที่ หญิงสาวตรงหน้าเขาสวยเหลือเกิน หากเพียงแต่ใจของหล่อนจะสวยได้เท่ารูปกายละก็ แก้วจะเป็นคนที่ชายหลายๆคนหมายปองทีเดียว
    อยากจะยิ้มก็ยิ้มไม่ได้กลัวเสียฟอร์มจึงพูดเสียงแข็งตามเดิมว่า
    “จะไปพูดซ้ำเติมมันอีกทำไม คนมันเจ็บพอแล้ว ไม่ต้องไปว่าอะไรกับมันดอก ให้เรื่องเงียบไปเฉยๆ ข้าสงสารมัน”
    แก้วหลบตามั่น คำว่า “เจ็บพอแล้ว” ของเขานั้นดูเหมือนหล่อนจะมีส่วนร่วม มีส่วนรู้เห็นอยู่เหมือนกัน จึงรู้สึกผิดพอจะสบตาบ่าวหนุ่มตรงหน้าหล่อนตรงๆ
   “ฉันรู้นะพี่ว่าฉันผิด” หล่อนเอ่ยอย่างไม่อยากยอมรับนัก “อยากให้มันเข้าใจว่าฉันไม่ได้ตั้งใจให้ทั้งคุณหลวง ทั้งมันต้องมาเจ็บถึงเพียงนี้ ฉันจะแกล้งเพราะไม่ชอบ เพราะหมั่นไส้ก็ส่วนหนึ่ง แต่เรื่องจะทำร้ายจะฆ่าจะแกงกันนั้นไม่มี”
    มั่นได้ยินก็คลายสีหน้าบึ้งตึง เกือบจะเป็นยิ้มเป็นครั้งแรกที่คุยกับหล่อน
   “คิดได้ก็ดีแล้ว แต่เส็งคงไม่อยากเจอเอ็งตอนนี้ ข้าจะไปบอกให้เอง”
    แก้วยิ้มเจื่อนๆ อยากยิ้มอย่างสวยงามและสดใสก็ทำไม่ได้ด้วยรู้ตัวว่ามีความผิดติดอยู่ยังไม่คลายไป
    “แล้วก็อยากจะบอกมันว่า ไม่มีใครไปดูคุณหลวงเลย ทุกคนกลัวพี่เทิดจะไปฟ้องเจ้าคุณ” หล่อนกระซิบเบาๆ “คุณหยาดเธอก็คงเสียใจ ปิดประตูลงกลอนอยู่ในห้องยังไม่ออกมา ฉันจะตามเส็งไปหาคุณหลวง คุณหลวงเธอคงอยากเจอมัน”
    มั่นเลิกคิ้วอย่างไม่อยากเชื่อ ยังไม่ทันที่จะถามอย่างไม่ไว้ใจ แก้วก็เป็นฝ่ายกล่าวแก้ตัวเสียเอง
    “ไม่ได้มีแผนอะไร หรือจงใจจะแกล้ง ฉันผิดฉันก็อยากแก้ไข แล้วคุณหลวงก็คงจะไม่ได้เจอมันอีกเพราะพี่เทิดจะมาอยู่ที่เรือนเทาเสียเองนับจากนี้” หล่อนว่า “แต่ป่านนี้พี่เทิดคงกลับแล้วพี่มั่นไปตามเส็งเถอะ”
    มั่นรับคำอย่างเข้าใจก่อนที่แก้วจะเดินกลับไปเรือนบ่าว เขาก็ตัดสินใจรวบรวมความกล้า โพล่งออกไปจนได้ทั้งที่ห้ามใจแล้ว ว่าอย่าพูดออกไปเทียว
    “แก้ว เอ็งคิดได้ก็ดีแล้ว หวังว่าเอ็งจะตัดใจจากคุณหลวงได้ แล้วสนใจคนรอบข้างเอ็งบ้างสักทีนะ” เขาว่าเสร็จก็เงียบรอฟังคำจากอีกฝ่าย
    “สนใจไปก็เท่านั้น คงไม่มีใครอยากได้ฉันดอกพี่มั่น” หล่อนว่า “ฉันคงถูกมองไม่ดีเสียแล้ว”
    “สำหรับข้าคนที่ผิดและกลับใจ ประเสริฐกว่าคนถูกอย่างไม่เคยผิดมากนัก” พูดไปแล้วจะเอาคำพูดกลับมาก็ไม่ได้จึงได้แต่ยืนหลบตา แก้วยิ้มให้อย่างเศร้าสร้อย แล้วจากไปในที่สุด ส่วนมั่นเองพอหล่อนเดินไปลับตาแล้วก็หันกลับจะไปตามเส็ง… เขาไม่แน่ใจว่าเห็นเทิดเดินลงมาจากเรือนเทาหรือไม่ ชั่วขณะที่หมุนตัวจะเดินกลับไปบ้านในสวนนั้นเอง พอมานึกย้อนไปอีกทีก็จำไม่ได้เสียแล้วว่าร่างดำๆตะคุ่มๆนั้นใช่เทิดหรือไม่ แต่เขาเห็นจริงหรือ เทิดบอกว่าจะมาอยู่ที่เรือนเทาก็จริง แต่แน่นอนว่าต้องไม่ใช่วันนี้ แล้วทนายหนุ่มจะมีธุระอะไรที่ต้องขึ้นไปบนเรือนเทาด้วยเล่า ในเมื่อหลวงพินิจก็ไม่อยู่ ซ้ำคุณหยาดเธอก็อยู่ของเธอคนเดียวทั้งบ้าน
    
    เส็งมือสั่นไปหมด เขาจับไหล่ทั้งสองข้างของหลวงพินิจราชอักษรพยายามประคองให้นายหนุ่มลุกขึ้นนั่งแต่ด้วยแรงเท่าที่มีเส็งทำได้เพียงย้ายหลวงพินิจจากที่พื้นขึ้นมาอยู่บนตัวเขาเท่านั้น ทั้งคู่ยังคงอยู่ติดพื้นจะประคองให้ลุกยืนให้ได้ก็ไม่สามารถ เนื้อตัวทั้งคู่เปียกฝน และเปื้อนโคลนไปหมด สภาพดูน่าสมเพชไม่ต่างจากสัตว์สี่เท้าน้อยใหญ่ที่คลุกดินคุลกฝุ่นให้ตัวเปื้อนแล้วก็ไม่รู้จักอาบน้ำ อย่างไรอย่างนั้น
    บ่าวหนุ่มไม่อาจทำใจให้เชื่อได้ว่าจะมีคนใจร้ายพอที่จะไม่เข้ามาช่วยหลวงพินิจ ทั้งที่เขาก็เป็นนายซ้ำยังเลี้ยงดูบ่าวทุกคนในบ้างเป็นอย่างดี พอมาถึงเวลาจริงๆกลับไม่มีใครกล้าตอบแทนบุญคุณ เพียงแค่เข้ามาช่วยพยุงให้พ้นไปจากฝนเท่านั้น แต่คิดๆไปบ่าวไพร่คนอื่นก็คงทำถูกแล้ว เพราะต่อให้หลวงพินิจมีอำนาจใหญ่โตเพียงใดในบ้าน แต่เจ้าคุณไพรัชกิจย่อมมีอำนาจมากกว่า ด้วยเจ้าคุณเป็นพ่อแท้ๆของคุณหลวง เมื่อสั่งอย่างไรก็ต้องทำอย่างนั้น จะฝ่าฝืนไม่ได้เด็ดขาด
    ดวงหน้าของหลวงพินิจราชอักษรยังคงนอนนิ่งดูซีดเซียว อ่อนเพลียเพราะถูกเฆี่ยนเจ็บไปหมด จนไร้สตินอนสลบเพราะทนความเจ็บปวดที่แผลไม่ไหว เจ้าคุณโบยคุณหลวงหนุ่มไปกี่ครั้งก็ไม่มีใครนับ รู้แต่เป็นสิบๆครั้ง เผลอๆจะถึงร้อยก็เป็นได้ อย่างนี้แหละที่เขาว่า ยิ่งรัก ก็ยิ่งแค้น
     เส็งปัดเศษดินออกจากดวงหน้าของหลวงพินิจ ดวงตาของบ่าวหนุ่มแดงก่ำหากแต่ไม่ได้ร้องไห้ ส่วนหนึ่งเพราะร้องมานานมากจนหมดน้ำตาแล้ว แต่อีกส่วนคือเขายังมีความอุ่นใจแฝงอยู่แม้เพียงน้อยก็พูดได้ว่าอุ่นใจ ... อุ่นใจที่เขายังมีคุณหลวงอยู่ในอ้อมอก ได้กอดตระกองคุณหลวงไว้อีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีกต่อไป
    “คุณหลวงของบ่าว” เส็งกระซิบก่อนจะแนบหน้าของเขาลงบนหน้าของคุณหลวงแนบสนิทหลับตาพริ้มด้วยความรัก หากหยุดเวลาได้ เขาก็จะหยุดไว้เสียตอนนี้ เพราะจะย้อนอดีตไปในตอนที่รักกันนั้นย่อมไม่ได้แล้ว แต่อนาคตก็น่ากลัว มืดมนจนเดาอะไรไม่ออก เส็งจึงไม่อยากไปเผชิญ เขาอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ ให้อยู่ในอ้อมกอดของกันและกันอย่างนี้ตราบนิรันดร์
    ฝนยังไม่หยุดตก ลมก็กระหน่ำพัด แรงขึ้นแรงขึ้นจนเส็งรู้สึกตัว ร้องหามั่น
    “พี่มั่น พี่มั่นมาช่วยกันหน่อย พยุงคุณหลวงขึ้นเรือนที”
    มั่นไม่รอให้เรียกซ้ำ แม้เขาจะเบือนหน้าไม่มองเส็งกอดหลวงพินิจไว้อย่างนั้น แต่พอบ่าวรุ่นน้องเรียก เขาก็ตัดสินใจตรงเข้าไปหิ้วปีกหลวงพินิจกึ่งลากกึ่งประคองขึ้นเรือนเทาไป... เรือนเทาที่เส็งจะไม่ได้มาเหยียบอีก เส็งนึกในตอนนั้น สถานที่แห่งความทรงจำ บัดนี้เขาได้มาเหยียบมันเป็นครั้งสุดท้าย ไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสได้กลับมาอีกหรือไม่

    ทันทีที่ลากหลวงพินิจเข้าบ้านไป เส็งก็พบกับหยาด ยืนอยู่ที่หัวบันได
    หล่อนมองเส็ง มองอย่างไม่เหมือนนายเก่าพึงมองบ่าวที่เคยชอบใจหนักหนา หากแต่มองด้วยสีหน้าเย็นชา ราวกับว่าเส็งเป็นเพียงหนอนแมลง น่าเกลียดที่มาคลานอยู่ในบ้านของหล่อนเท่านั้น แม้เสียงที่ผ่านลำคอของหล่อนก็เรียบเฉย เย็นชาจนเส็งไม่แน่ใจว่า ใช่เสียงของนายเก่าเขาจริงๆหรือ
    “เอ็งเข้ามาอีกทำไม” หล่อนเดินตรงเข้ามา “พยุงคุณหลวงมาทำไม เจ้าคุณไพรัชกิจสั่งไว้อย่างไรก็ได้ยิน ยังจะหน้าด้านพาเข้ามาอีกหรือ”
    เส็งขี้เกียจตอบ จึงเดินเลยตัวหล่อนไปอย่างไม่ใยดี ประคองหลวงพินิจขึ้นบันไดไปชั้นบน แต่หยาดก็ยังจะเดินแซงมา ยืนขวางอยู่ข้างหน้า ถามเส็งด้วยน้ำเสียงเดิมที่ทำให้เส็งเริ่มรู้สึกน้อยใจ รำคาญใจอยู่กลายๆ
    “ว่าอย่างไร เจ้าคุณสั่งแล้วมิใช่หรือ ว่าไม่ให้ใครช่วย...”
    “เจ้าคุณเธอไม่ได้เห็นลูกชายจับไข้ตายต่อหน้านี่ขอรับ แล้วคุณหยาดเองต่อให้เห็นสามีเป็นอย่างนั้นก็คงทนได้กระมัง แต่บ่าวเห็นคุณหลวงของบ่าวเป็นอะไรไปไม่ได้ดอกขอรับ” เส็งเด็ดเดี่ยวเดินผ่านหยาดไปอย่างไม่สนใจหล่อนนัก ลากหลวงพินิจเข้าห้องนอน พาเข้าไปถึงห้องน้ำแล้วก็หันมาพูดกับมั่น “ฉัน จะเช็ดตัว เปลี่ยนผ้าให้คุณหลวง”
    “อย่างนั้น ข้ากลับเรือนบ่าวก็แล้วกัน” บ่าวหนุ่มรุ่นพี่ว่าเบาๆ ก่อนจะเดินออกไป    คนที่ยังทู่ซี้ไม่ไปไหนคือหยาด ที่ยืนพิงประตูมองดูเส็ง ค่อยๆถอดผ้าม่วงที่เปียกแฉะออกจากร่างของหลวงพินิจ หยาดเห็นเส็งปลดผ้าคุณหลวงก็หันหน้าไปทางอื่นในใจนึกรังเกียจแต่ก็ขี้เกียจพูด อย่างไรก็คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่เส็งจะได้อยู่กับคนที่เขารัก หยาดรู้ดีเรื่องเกี่ยวกับความรักและความผิดหวังจึงไม่ได้ว่าอะไร
    หล่อนเพียงเอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยว่า
    “เอ็งคงสนิทกับคุณหลวงมากกระมัง ถึงทำกับเธอได้ขนาดนี้”
    “ขอรับ” เส็งตอบแบบขอไปที ลูบผ้าแห้งไปตามตัวหลวงพินิจให้ตัวแห้งจากการเปียกฝน พอมาถึงบริเวณแผลก็ค่อยๆซับเลือด ความเจ็บปวดที่ริมแผลทำให้หลวงพินิจสั่นไหวเล็กน้อยหากยังไม่รู้ตัว เขาเพ้อออกมาเพรียกหาคนที่กำลังเช็ดตัวให้เขาด้วยความรัก
    “เส็ง... เส็ง”
    “บ่าวอยู่นี่ขอรับ” เขากระซิบเบาๆ ตารื้นด้วยน้ำตา ปิ้มว่าจะร้องไห้อีกครั้ง
    เช็ดตัวไปก็เช็ดน้ำตาที่ซึมออกมาไปด้วย พอเปลี่ยนผ้าให้คุณหลวงเสร็จ เส็งก็ค่อยๆ พยุงหลวงพินิจออกมาจากห้องน้ำ หยาดเห็นเส็งไม่ถนัดก็เข้ามาช่วยพยุงพาหลวงพินิจมาถึงเตียงสี่เสา
    “ข้าก็เห็นใจเอ็งนะ” หล่อนว่าเบาๆ ยืนห่างออกมาจากเส็งที่ลูบผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดหน้าเช็ดตาให้หลวงพินิจ “แต่เอ็งเป็นผู้ชายอย่างไรก็คงอยู่กับคุณหลวงไม่ได้ หากเอ็งเป็นผู้หญิงข้าก็คงจะเปิดทางให้ ขอโทษด้วยเถอะนะที่ต้องพูดตรงๆ”
    เส็งเงยหน้ามองหยาด ดวงตาบอกได้ยากว่ารู้สึกอย่างไรแน่
    “วันนี้มีคนพูดตรงๆเยอะแล้วขอรับ” เขาว่าเบาๆ
    หยาดหัวเราะหึๆเบาๆเท่านั้นแล้วก็ว่าต่อไป
    “เอ็งมันโชคดีมากแล้วที่ได้มาเจอคุณหลวง ได้เป็นคนโปรดได้รับใช้ใกล้ชิด อนาคตเอ็งคงจะยาวไกลกว่านี้มากนัก หากเอ็งรู้จักห้ามใจระงับกามตัณหาระหว่างเพศเดียวกันเสียก็คงไม่เป็นอย่างนี้” เส็งขี้เกียจจะเถียงก้มหน้าก้มตาเช็ดตัวหลวงพินิจต่อไป “เอ็งไม่ควรเข้ามาในเรือนเทาอีก เท่าที่อยู่มานานเพียงนี้ก็ถือว่าโชคดีแค่ไหนแล้ว เช็ดตัวเสร็จแล้วก็รีบออกไปเสีย แล้วอย่ากลับมาอีก พรุ่งนี้เป็นต้นไปเทิดจะมาอยู่ที่เรือนเทาหากมันเห็นเอ็งละก็ ได้โดนเจ้าคุณเฉดหัวออกจากเรือนเป็นแน่ ถ้าเอ็งฉลาดเอ็งจะไม่กลับออกมาจากบ้านสวนอีกเลย” 
    เส็งไม่ว่าอะไรอีก พอเช็ดตัวเสร็จก็ไม่สนใจว่าหยาดจะมองหรือไม่ ก้มลงหอมแก้มหลวงพินิจ ก่อนจะกระซิบแผ่วเบาว่า “บ่าวรักคุณหลวงนะขอรับ”
    ก่อนจะออกจากเรือนเทา กลับเข้าสวนไปในที่สุด เส็งรู้ว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้มาเจอหลวงพินิจอีก แต่เขาก็ไม่รู้จริงๆว่า เขาจะไม่มีวันได้เห็นหน้าหลวงพินิจราชอักษรอย่างใกล้ชิดอย่างนี้อีกเลยนับแต่นั้น
    
    

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
    กว่าหลวงพินิจราชอักษรจะตื่นก็สายจนเกือบเที่ยงของอีกวันหนึ่ง ชายหนุ่มปวดหัวแทบจะระเบิด แม้จะรู้สึกตัวแต่เขาก็ยังไม่ลืมตา ยังคอยภาวนาว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นเพียงฝัน หากเขาลืมตาตื่นก็คงพบกับใบหน้าอ่อนเยาว์ขาวเนียน ของเส็ง ริมฝีปากบางเรียวสีชมพูใสคงเผยอ ออกพูดกับเขาว่า
    “ยกสำรับมาแล้ว จะรับเลยหรือไม่ขอรับ”
    แต่เมื่อหลวงพินิจราชอักษรลืมตาขึ้นมาจริงๆ เขาก็มึนหัวไปหมดต้องล้มตัวลงนอนหลับตาแน่นด้วยความเจ็บปวด แล้วทันทีที่หลังถึงพื้นเตียง หลวงพินิจก็ต้องสะดุ้งสุดตัว ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
    แผลที่หลังเป็นของจริง เขาไม่ได้หลับฝันไป เสียงที่ได้ยินไม่ใช่เสียงของเส็ง คนที่พูดอย่างอ่อนหวานว่า “ตื่นแล้วหรือคะ” ไม่ใช่เส็งแต่เป็นหยาด คู่หมั้นของเขา... ไม่ซี ภรรยาของเขา สำหรับหลวงพินิจเขาไม่เคยเห็นหยาดเป็นภรรยาจนแล้วจนรอด “เส็งอยู่ไหน”
    “เรือนในสวนค่ะ” หยาดตอบอย่างไม่ใยดี “คุณพี่นอนคว่ำเถิดค่ะน้องจะทายาให้”
    “ปวดหัว”หลวงพินิจยกมือขึ้นกุมขมับ ไม่ยอมทำตาม
    “อย่างนั้นดื่มยาก่อนค่ะ” หล่อนว่า “ลุกไหวไหมคะดื่มยาก่อนได้หายไวๆ เทิดหยิบยามาที”
    หลวงพินิจรู้ในที่สุดว่าในห้องไม่ได้มีหยาดอยู่คนเดียว แต่ยังมีเทิดอยู่ด้วยอีกคนหนึ่ง เขาไม่ลืมตาขึ้นมองเสียที ได้แต่หลับตาแน่น ด้วยความเจ็บปวดทั้งที่หัวและหลัง ความทรมาณครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตเท่าที่เขาเคยประสบมาก็คือตอนจับไข้เมื่อครั้งถูก “แนจ” หรือ “สโนว์” ในฝรั่งเศสเข้า แต่ครั้งนั้นก็ยังเจ็บปวดทรมาณสู้ครั้งนี้ไม่ได้ เพราะครั้งนี้ นอกจากปวดหัว ครั่นเนื้อครั่นตัวแบบคนเป็นไข้แล้วยังเจ็บหลังเพราะแผลถูกโบยด้วย หลวงพินิจสัมผัสความเย็นของกระเบื้องใส่ยาแผนโบราณกลิ่นเหม็นรุนแรง ก่อนจะสัมผัสความร้อนของตัวยาสีดำขุ่นขลั่กที่เมื่อจิบไปนิดเดียวก็รับรู้ได้ถึงความขม จนเกือบจะอาเจียนออกมา
    “ร้อน! ขม!” เขาร้องอย่างเด็กๆ เบ้หน้าไม่ยอมรับยานั้น “ยาฝรั่ง... ขอยาฝรั่งดีกว่า”
    “ไม่มีค่ะ” น่าแปลกที่หยาดยังควบคุมเสียงของหล่อนให้เป็นปกติได้แม้จะรำคาญหลวงพินิจมากเพียงใด “รับยาสยามไปก่อนเถิด ไว้น้องจะออกไปหายาฝรั่งมาให้ทีหลังก็แล้วกัน”
    ด้วยคำนี้หลวงพินิจจึงต้องจำใจดื่มยานั้นไปจนหมดแก้ว พอดื่มหมดเขาก็แลบลิ้นเบ้หน้าอย่างเด็กๆ ยาขมที่เขาเกลียดนักหนาอย่างที่ถูกบังคับกินตอนเด็กๆ กลับมาทำร้ายเขาอีกจนได้
    “คุณพี่นอนคว่ำค่ะ น้องจะทายาให้”
    หลวงพินิจทำตามอย่างเสียไม่ได้ นอนคว่ำให้หยาด เอาตุ้มยากลิ่นฉุนแรง และส่งไอร้อนอย่างน่ากลัวมาประคบตามรอยแผล
    “โอ๊ย” หลวงพินิจร้อง กระถบตัวหนีแทบทนความเจ็บปวดไม่ได้
    “อย่างดิ้นซีคะ น้องทาครู่เดียวก็เสร็จค่ะ ทนหน่อยนะคะ”
    หลวงพินิจเจ็บจนน้ำตาเล็ด แต่ก็พยายามชวนหยาดคุยเพื่อเบี่ยงความสนใจของตัวเอง เผื่อจะเจ็บน้อยลงได้บ้าง
    “เมื่อวาน... เรากลับมาบนเรือนได้อย่างไร”
    หยาดยิ้มทั้งที่ คนที่หล่อนยิ้มให้ไม่มีโอกาสได้เห็นเพราะนอนคว่ำอยู่ก็ตาม หล่อนตอบว่า “น้องกับอ้ายเทิดช่วยกันค่ะ”
    หลวงพินิจเย็นวาบไปทั้งตัว แม้ยาจะร้อนเพียงใดก็ตาม
    “แล้ว... แล้วเส็งล่ะ”
    “ก็อยู่ในสวนซีคะ ไม่ออกมาอีกเลย”
    หลวงพินิจขมวดคิ้วแน่น เขาจำไม่ได้ก็จริงว่าใครพาเขากลับขึ้นเรือน แต่ก็ไม่อยากเชื่อว่าเป็นหยาด กระนั้นราวหยาดจะอ่านใจเขาออก หล่อนพูดยืนยันอีกครั้งว่า “ก็เจ้าคุณบอกไม่ให้พบ เส็งก็คงไม่กล้ามาพบดอกค่ะ น้องเห็นคุณพี่นอนตากฝนอยู่กลัวจะจับไข้ก็เลยพยุงมาขึ้นบ้าน”
    เส็ง... หลวงพินิจรำพึงในใจ ...กลัวเจ้าคุณพ่อถึงเพียงนี้ ใจร้ายกับเราได้ถึงเพียงนี้หรือ เขาหลับตาแน่น สุดท้ายคนที่เฝ้าปรนนิบัติพัดวีเขาตลอดเวลาที่นอนซมจับไข้ไปอีกสามสี่วันต่อมาก็มีเพียงหยาดเท่านั้น เขาไม่เห็นแม้เงาของเส็งเลยสักวันเดียว
    ตอนเวลาที่เหลือจนถึงวันที่หลวงพินิจจะเดินทางไปยุโรป เขาก็ไม่ได้พบกับเส็งอีกเลย กระนั้นเขาก็ว้าวุ่นใจ คิดถึงเส็งอยู่แทบทุกขณะจิต เมื่อใดที่หยาดไม่อยู่ใกล้ๆ เขาก็จะเรียกมั่นเข้ามาซักทำนองว่า
    “เส็งเป็นอย่างไรบ้าง กินอิ่มนอนหลับดีหรือไม่”
    มั่นก็จะมีหน้าที่วิ่ง โร่ไปมาระหว่างเรือนเทากับ บ้านสวน คอยไปบอกเส็งว่า “คุณหลวงแกถามหา” หรือไม่ก็บอกว่า “สำรับนี้คุณหลวงกำชับให้ข้านั่งดูเอ็งกินให้หมดแล้วเอาจานชามเปล่ากลับไปให้ดู คุณหลวงกลัวเอ็งจะไม่ยอมกินอะไรเดี๋ยวจะผอมตายเสียก่อน”
     ครั้งแรกที่รู้ว่าเส็งเองก็ยังคิดถึงเขา หลวงพินิจก็มีกำลังใจใช้ชีวิตมากขึ้น เขากลับมากินอิ่ม นอนหลับอย่างเดิม ทำอะไรตามปกติมีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมจะไปยุโรป ในใจยึดมั่นอย่างเดียวว่า ไปยุโรปแล้วหาทางกลับมาให้เร็วที่สุด รับเส็งไปอยู่ด้วยกันที่เพชรบุรี กระนั้นเขาก็ไม่เคยบอกแผนการนี้กับใครโดยเฉพาะกับหยาด ที่จนป่านนี้ทั้งคู่ก็ยังไม่ได้นอนด้วยกัน
    แน่ละทั้งสองนอนร่วมกันในห้องเดียว แต่ก็ไม่มีสัมพันธ์อะไรต่อกัน ไม่ว่าจะทางเพศ หรือในทางรักใคร่ แม้จะโอบ จะจูบก็ไม่มีสักนิดเดียวถึงเวลานอนก็หันหลังให้กันต่างคนต่างหลับไปในที่สุด
    หากจะมีสิ่งใดเปลี่ยนไปในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็คงต้องบอกว่า หลวงพินิจราชอักษรใส่ใจหยาดมากขึ้นกระมัง เป็นห่วงเป็นใย ทนุถนอมมากขึ้น ทั้งนี้เพราะท้องของหยาดมันโตออกไปเรื่อยๆ เมื่อย่างเข้าเดือนที่ห้า ก็เริ่มเห็นชัดแล้วว่า หล่อนท้องจริงๆ หลวงพินิจไม่ได้รักหล่อนมากขึ้นจากเดิมสักนิดก็จริง แต่ความเอ็นดูลูกน้อยที่อยู่ในท้องของหยาด ที่กำลังจะมาเกิดนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง
    อย่างน้อยๆหลวงพินิจก็มีความรักลูกอยู่บ้าง
    เขาเคยเอื้อมมือมาลูบท้องหยาดอยู่ครั้งหรือสองครั้งเท่านั้น แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรกับหล่อน ลูบเฉยๆ มองตาลอยๆอย่างไม่มีความหมายไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่เท่านั้นละที่ใกล้เคียงการแสดงความรักของหลวงพินิจต่อหยาดมากที่สุดเท่าที่เคยทำ นอกจากนั้นสิ่งที่พัฒนาไปมากในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็คือ หลวงพินิจเริ่มพูดจาดีๆกับหยาดอย่างสามีพึงปฏิบัติต่อภรรยาบ้างแล้วด้วย
    “ลูกคงจะคลอดตอนพี่ไปยุโรปพอดี คงไม่ทันได้เห็นลูกเกิด”
    “ค่ะ แต่ไม่เป็นไรดอกค่ะ กลับมาแกคงเพิ่งเดินได้ คงวิ่งไล่จับพ่อสนุกเทียว” คำว่า “พ่อ” มีอิทธิพลต่อเขามาก เขากำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว ในอีกไม่นานเท่านั้นเอง กระนั้นทุกครั้งที่นึกถึงลูก เขาก็จะนึกถึงเส็ง นึกถึงคำตัดพ้อของเส็งที่เพชรบุรีว่า
    “คุณหลวงได้มีลูกสักวัน ได้เลี้ยงดูลูกร่วมกับคุณหยาด สุดท้ายคุณหลวงก็จะรักคุณหยาด สุดท้ายคุณหลวงก็จะลืมบ่าว”
    ทุกครั้งที่นึกถึง หลวงพินิจก็จะเขียนข้อความใส่กระดาษฝากมั่นไปให้เส็งทุกครั้ง ซึ่งอีกฝ่ายก็จะเขียนตอบกลับมา ไม่ว่าใครจะเห็นก็ไม่ต้องกลัวว่าใครจะรู้เรื่อง จะบอกรักอย่างไรก็ไม่มีใครมาล่วงรู้
    กระทั่งมั่นมาบอกหลวงพินิจนั่นละว่า
    “บ่าวขอลากลับบ้านขอรับ แม่ของบ่าวป่วยหนักเขาส่งข่าวต่อๆกันมา เห็นว่าจะไม่รอดแน่แล้วอยากกลับไปดูใจ” บ่าวหนุ่มร่างใหญ่ว่าอย่างไม่อ้อมค้อม หลวงพินิจจะว่าอะไรได้นอกจากจะยอมให้ไป จะมีสิทธิ์อะไรไปรั้งมั่นไว้ ในเมื่อมันเป็นเรื่องของความเป็นความตายของแม่เสียอย่างนั้น
    ที่หลวงพินิจแปลกใจคือแก้วจะไปกับมั่นด้วย
    “เอ้า แล้วกัน... นึกอยากไปก็ไปกันทีเดียวหมดหรือ”
    “บ่าวรักแก้วขอรับ จะพาไปเลี้ยงดูอยู่กินเป็นเมียที่บ้าน แม่ได้สบายใจ ว่าบ่าวมีเมียแล้ว ไม่นานคงมีหลานให้แม่ขอรับ แกจะได้มีกำลังใจอยู่ต่อไปอีก”
     ดังนั้นบ่าวในบ้านจึงลดลงไปอีกสองคน มั่นจากไปอย่างเงียบๆ เพราะปกติพรรคพวกบ่าวผู้ชายก็ไม่ค่อยชอบมั่นอยู่แล้วเพราะคิดว่าอยู่เป็นฝ่ายเส็ง จึงไม่มีใครอาลัยนัก อย่างดีก็มะลิ และชิดที่พอคุยกันรู้เรื่องที่กล่าวอำลาอย่างอาวรณ์จริงๆ สุดท้ายก็คือเส็งที่มั่นและแก้วอุตส่าห์ไปหาในวันเดินทาง
    “ถ้าพี่มั่นจะต้องไปจริงๆฉันก็ดีใจ” บ่าวหนุ่มน้อยยิ้มอย่างเย็นใจ “ได้กลับไปอยู่กับแม่ เลี้ยงดูปูเสื่อแกได้ไม่ลำบาก”
    ก่อนไปเส็งอุตส่าห์กล่าวขอบคุณมั่นจากใจจริง
    “ขอบคุณพี่มั่นมากที่ช่วยฉัน อยู่ข้างฉันมาตลอดเวลาที่ฉันอยู่เรือนนี้ตั้งแต่แรกจนพี่มั่นไปในวันนี้ บุญคุณของพี่มั่นฉันจะไม่มีวันลืมเลย”
    ส่วนแก้ว หล่อนเป็นนางมารร้ายมาตลอด แม้จะจากไปแล้วหล่อนก็ยังรักษาท่าทีไม่ให้ดูเป็นนางเอกเกินไปอย่างหน้ามือเป็นหลังมือกลัวเสียหน้า แม้จะเสียใจในสิ่งที่ตนทำลงไป และแม้ว่าจะเห็นใจเส็งมากเพียงใดก็ตาม
    “อยู่ให้ดีนะเอ็ง ไม่มีข้าอยู่ขวางแล้วคงสบายใจ”
    “ฉันขอโทษพี่แก้วถ้าเคยพูดจาไม่ดีเอาไว้กับพี่ หรือทำกิริยาอะไรที่มันไม่ถูกใจพี่ไป ขอให้พี่อภัยให้ด้วย”
    “ฉันไม่ติดใจอะไรย่ะ” หล่อนเชิดหน้าอย่างแสร้งไว้ตัวกระนั้น แต่ท่าทีสุดท้ายก่อนออกนั้นก้ทำให้เส็งเกือบจะเสียดายที่ไม่ได้รู้จักแก้วให้ดีกว่านี้ “ฉันเองก็ผิดกับพ่อเส็งไว้มาก จะขอโทษก็รู้ดีว่าเอ็งคงไม่ให้อภัย แต่ก็ขอให้รู้ว่าฉันสำนึกผิดก็พอ ถ้าหากจะอโหสิกรรมให้ฉัน จะได้หรือไม่เล่า”
    “ฉันไม่เคยผูกแค้นใจอะไรพี่แก้วจ้ะ” เส็งว่าไปตามจริง แก้วก็เดินออกจากบ้านของเส็งไปก่อน มั่นตามไปทีหลัง ทิ้งจดหมายฉบับสุดท้ายที่เขาจะสามารถนำมาส่งให้ได้ ไว้ให้เส็งอ่าน เมื่อเขากลับออกไป เส็งก็อ่านข้อความในกระดาษนั้นอย่างรวดเร็วก่อนจะเผาทิ้งไม่ให้เหลือหลักฐานอะไร
    จดหมายนั้นเขียนไว้ว่า    

    เราจะไปยุโรปอีกสามวันจากนี้ ไปแต่เช้า เส็งมาหาเราที่ปากทางเข้าสวนนะ เราอยากเห็นเส็งครั้งสุดท้ายก่อนไป เราจะรีบไปรีบกลับมารับเส็ง ไปอยู่ด้วยกันสองคนที่เพชรบุรี เราตัดสินใจแน่แล้ว ถ้าเส็งรอได้ขอให้อดทนรอเรานะ แต่หากเส็งลำบากเกินจะทนต่อไป จะจากเราไปก่อนเราก็ยอม ยอมอะไรก็ได้ให้เส็งมีความสุข
 
                เส็งอดทนเพื่อเรานะ…รักสุดใจ
แสง

    สามวันที่รอจะได้เจอหน้าหลวงพินิจราชอักษรเป็นสามวันที่ทรมาณที่สุดเท่าที่เส็งเคยประสบมาในชีวิต มันทรมาณพอๆกับตอนที่รอหลวงพินิจกลับมาจากหัวหิน แต่ตอนนั้นก็ยังมีอะไรให้ทำ มีหนังสือให้อ่าน มีงานให้เขียนให้ยุ่งอยู่ตลอดไม่มีเวลาจะนั่งฟุ้งซ่านอยู่นานขนาดนี้ เพราะที่บ้านสวนไม่มีอะไรให้เส็งทำทั้งนั้น นอกจากนั่งๆ นอนๆ เดินเล่นไปรอบๆเท่านั้น แต่การเดินไปเดินมา ก็ทำให้เส็งพบทางที่เปิดออกไปสู่คลองที่จะพาเขาไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา
    เขาเคยถามตัวเองอยู่สองสามครั้งว่า เหตุใดเขาจึงไม่เรียกเรือจ้างที่ผ่านไปผ่านมาสักลำ แล้วหนีไปจากเรือนนี้ ไม่ต้องมาถูกขังทรมาณอยู่ในเพิงไม้เก่าๆจะพังมิพังแหล่อย่างนี้
    แต่เขาก็ได้คำตอบว่า ก็เขารอคุณหลวงอย่างไรล่ะ รอได้พบคุณหลวงวันที่คุณหลวงจะเดินทางไปยุโรป ได้เห็นหน้าหรือผูกคุยกันสักประโยคก็คงทำให้เขามีแรงพอที่จะอยู่ไปได้อีกสักอาทิตย์สองอาทิตย์... แต่หลังจากนั้นเล่า หลังจากนั้นเขาจะทำอย่างไรให้ทนอยู่บ้านไม้เก่าๆ โดยไม่มีอะไรทำไปอีกหลายเดือนกว่าจะได้พบคุณหลวงอีก กว่าจะได้ไปอยู่เพชรบุรีกับคุณหลวง เล่า
    เขาไม่รู้หรอก รู้แต่คำว่าเพชรบุรี มันเป็นเหมือนอาคมที่ตรึงให้เส็งยังอยู่ที่บ้านนั้นต่อไป เขาฝันที่จะได้มีชีวิตรักที่มั่นคงและสมบูรณ์อยู่กันสองคนอย่างสงบสุขในบั้นปลายชีวิต มีทะเลเป็นเพื่อน มีกันและกันเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิต ข้อนี้ละทำให้เส็งตัดสินใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างหลายเดือนที่เขารอคุณหลวง เขาก็จะรอ รอจนได้มีวันที่งดงามที่รอเขาอยู่ในสุดปลายทาง
    ไม่นานเส็งก็พบความบันเทิงใหม่ของเขา เมื่อพบทางที่เปิดออกสู่คลอง ก็กลายเป็นว่าเขามีช่องทางให้ดูได้ว่าใครจะเข้า ใครจะออกบริเวณเรือนเทาในแต่ละวัน เขาเห็นเทิดพายเรือมาวันหนึ่ง แล้วก็ไม่พายกลับ จึงสงสัยว่าจะพายออกคลองอีกด้านหนึ่ง หรือว่าค้างอยู่ที่เรือนเทากันแน่ เส็งได้แต่สงสัยไม่รู้ว่าจะหาคำตอบให้ตนเองอย่างไร แต่คำตอบก็มาหาเขาอย่างง่ายๆ ในเช้าวันหนึ่งที่มะลิยกสำรับอาหารมาให้ “พ่อเทิดเขานอนบนเรือนเทา” มะลิว่าอย่างสาวช่างคุย
    เส็งจำได้ในที่สุดว่าหยาดเคยบอกเขามาแล้วครั้งหนึ่งเรื่องนี้
    “ทีอย่างนี้ละไม่ว่า พี่เทิดเป็นหนุ่ม อยู่บนเรือนกับคุณหยาดสองคน”
    มะลิส่งสายตาแบบว่า เงียบไปเถอะ ไม่ควรพูด มาให้ก่อนที่หล่อนจะชวนคุยเล่นๆอีกสองสามคำแล้วก็ขอตัวกับเรือนบ่าว มะลิกับชิด ต่อให้ช่างคุยแค่ไหนก็ต้องรีบขอตัวกลับ เส็งก็รู้ว่านางทั้งสองปฏิบัติกับเขาไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แต่ก็ไม่ติดใจอะไร ความคิดเขามุ่งอยู่ที่สองเรื่องเท่านั้น คือเรื่องคุณหลวงและเรื่องเทิด
    เทิดมีท่าทีแปลกๆกับคุณหยาด ตั้งแต่กลับมาจากหัวหินคราวนั้น ทำไมเส็งจะดูไม่ออก เพียงแต่ไม่อาจหาคำตอบให้ได้จนแล้วจนรอด ทั้งงานเทศน์มหาชาติ ทั้งงานแต่ง และทุกครั้งที่เทิดมาเหยียบเรือนเทา และมีคุณหยาดอยู่ด้วย เทิดจะต้องทำตัวแปลกๆทุกครั้ง ...เส็ง ไม่กล้าคิดว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่เขาตั้งใจว่าจะสืบเรื่องนี้ให้รู้เรื่องให้ได้

    วันที่หลวงพินิจราชอักษรเดินทาง เส็งมารอที่ปากทางเข้าออกสวนข้างเรือนบ่าว จากตรงนั้น ไกลพอที่จะเห็นว่าใครทำอะไรก็จริงแต่ไม่อาจเห็นหน้าของหวงพินิจราชอักษรได้ชัดเจนนัก
    หนุ่มน้อยเห็นหลวงพินิจลงจากเรือนเทา สวมชุดราชปะแตน ผ้าม่วงยกจีบสวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นคุณหลวงใส่ กระนั้นเส็งก็ดูไม่ชัดนักว่าบนสีหน้าของคุณหลวงมีความกังวลใจหรือดีใจ หรือเสียใจอย่างไรหรือไม่ รู้แต่ว่าหลวงพินิจราชอักษรเดินมาหยุดที่ท่าเรือ เงยหน้ามองเรือนเทาที่เขาจะต้องจากไปเป็นครึ่งปี นอนบนเรือหรือแม้แต่นอนที่เมืองฝรั่งจะสบายเท่านอนบนเตียงที่นอนร่วมกับเขาหรือ
   หลวงพินิจมองศาลาสีขาวทรงแปดเหลี่ยมตรงนี้เองที่เขารับอาหารเช้าพร้อมเส็งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เมื่อมองเลยมายังเรือนบ่าว ก็มองเลยมายังปากทางเข้าสวนเห็นเส็งยืนอยู่ตรงนั้น อยากวิ่งเข้าไปหา อยากกอด จูบ ลูบผมสีดำทรงหลักแจวนั้นเบาๆ แล้วบอกรักเส็ง ก่อนจะกล่าวคำอำลาอย่างที่เขาควรทำเหลือเกิน แต่เท่าที่หลวงพินิจทำได้จริงก็คือ ยืนมองเส็งอยู่ตรงนั้น นานเท่าที่เส็งจะจินตนาการได้
    “จะไปได้หรือยัง” เสียงเจ้าคุณไพรัชกิจดังขึ้น มันดังพอที่เส็งจะได้ยิน เพียงเท่านี้เส็งก็เข้าใจท่าทีของคุณหลวง เขาไม่อาจวิ่งเข้ามาหาคนรักได้ เพราะเจ้าคุณพ่อมายืนคุมอยู่ที่ท่าเรือนั่นเอง หลวงพินิจเดินขึ้นเรือที่ท่านั้นเอง แล้วคนพายก็พายเรือลำนั้นออกจากท่าไป
    เท่านั้นเองหรือ... ได้เท่านั้นเอง สามวันเต็มๆเขารอมาเพื่อยืนดูหลวงพินิจจากไปโดยไม่ได้พูดอะไรกันเลยเท่านั้นเองหรือ… แต่แล้วเส็งก็นึกออกว่าจะคุยกับหลวงพินิจได้อย่างไร เขาวิ่งกลับเข้าสวน วิ่งไปตามทางที่ถางไว้ให้เดินสะดวก โผล่มาบริเวณเปิดโล่งให้เห็นคลองมองเห็นหลวงพินิจเข้ามาใกล้มากขึ้นมากขึ้น จนห่างกันเพียงสิบก้าวถึง เส็งจำไม่ได้ว่าหลวงพินิจดูเป็นอย่างไรบ้างในตอนนั้น เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเหลือเกิน เขาตะโกนสุดเสียง “บ่าวรักคุณหลวงขอรับ”
    “เส็งจะรอเราได้หรือไม่” อีกฝ่ายตะโกนกลับมา เรือลอยห่างเลยเส็งไปจนหลวงพินิจต้องหันหลังกลับมาเพื่อจะมองใบหน้าที่เขาจะจดจำไว้ตลอดเวลาที่ยุโรป
    “ถ้าบ่าวไม่รอคุณหลวง บ่าวจะเหลือใครในชีวิตให้รอเล่าขอรับ” เส็งตะโกนก้องกลับไป เส็งแน่ใจว่าเขาหมายความอย่างที่เขาพูดจริงๆ

******************************************************************************************

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
เศร้าอ่ะ  แล้วเส็งก็รอจริง ๆ รอข้ามภพข้ามสมชาติมาจนถึงตอนนี้
เทิดกับหยาดซัมติงกันแน่นอน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dezzetoeiiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
เฮ้ย .. หรือเส็งจะตายเพราะไปสืบรู้เรื่องอ้ายเทิดกับนังหยาด  :m15:
ถ้าเป็นอย่างนั้นนี่ .. โอยยย อยู่เฉยๆไว้ดีกว่าจะเส็ง ระหว่างคุณหลวงไม่อยู่เนี่ย ทำอะไรไม่มีคนมาออกโรงปกป้อง อันตรายตายเลย

“ถ้าบ่าวไม่รอคุณหลวง บ่าวจะเหลือใครในชีวิตให้รอเล่าขอรับ” .. เ็ป็นประโยคที่เราชอบมากจริงๆ
แล้วคุณหลวจะรู้หรือไม่ ว่าเส็งรอคอยมาตลอดอย่างที่พูดจริงๆ

แต่หยาดนี่ ร้ายลึกไม่ไหวจะเคลียร์ ตกลงคุณหลวงรู้มั๊ยเนี่ยว่าคนมาพาตัวขึ้นเรือนคือเส็ง ไม่ใช่หยาด ?
แหลกันได้หน้าตาเฉยนะคนเรา   :beat:

รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อนะคะ  :o12:

ออฟไลน์ kit

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-3

ต๊าย ต้องเป็นแม่หยาดกับเจ้าเทิด
ช่วยกันจับเส็งกดน้ำ เพื่อปิดปาก
แน่ๆเทียว

 :serius2:
๑๒๖ + ๑ = ๑๒๗
ขอบคุณนะคะ คุณ Purple_Sky


ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
นั่งอ่านรวดเดียว ตั้งแต่ต้นถึงปัจจุบัน

สงสารทั้งสองเลยค่ะ เหมือนหยาดจะไม่ค่อยร้ายและพอทำใจได้อยู่ว่าคุณหลวงท่านไม่รัก หากเมื่อเอาเข้าจริงแล้วเธอกับคิดแค้นและไม่เข้าใจอะไรเลย
เราเดาว่าพาทิศเป็น หยาด หรือก็พ่อของคุณหลวงมั้งนะเมื่อชาติที่แล้ว แต่ก็ไม่อยากเดาอะไรมากเดี๋ยวผิด รออ่านต่อไปดีกว่า
เทิดกับหยาดต้องมีอะไรกันแน่ๆ แล้วลูกในท้องก็เป็นลูกของเทิด พอเช้ามาก็จัดฉาก ทำเป็นว่าหล่อนมีอะไรกับคุณหลวง ให้มีพันธะจะได้รับผิดชอบแล้วทรัพย์สมบัตรก็จะตกมาเป็นของเธอกับลูก
แค่นี้ก็สบายไปทั้งชาติแล้ว เดา เดา ก็ได้แต่เดาไปก่อนละ

คุณแม่ของพาทิศนี่สปอยคุณลูกแบบสุดๆ แต่ก็เป็นไฮโซที่เลี้ยงลูกมาอย่างไม่ให้งอมืองอเท้า

ณัฐ เราชอบนายมากเลยอ่ะ ดูเป็นคนที่รักมั่นคงดีจากภาพที่ตัวเองวาด ก็บอกได้แล้วละว่าณัฐยังรู้สึกดีกับเขาอยู่
แต่สร้อยนี่สิ จะหวั่นไหวมั้ยน้า????

     เป็นกำลังใจให้ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2010 15:21:01 โดย berlyn »

ออฟไลน์ mahmeow

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
คุณหลวงไม่อยู่แล้วเส็งจะรอดมั้ยยยยยยย....T^T
คุณหลวงไปตั้งนาน...แล้วปล่อยให้เส็งอยู่กับคุณหยาดเนี่ยนะ...
หวังว่าคงจะไม่โดนแกล้งนะคะ....คนอ่านกลัวคุณหยาดแทนเส็งจริงๆเลย...>O<
ผู้หญิงอะไรใจร้าย...ขี้โกหกที่สุดเลย....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2010 02:36:55 โดย mahmeow »

Miku

  • บุคคลทั่วไป
อ้างถึง
“ถ้าบ่าวไม่รอคุณหลวง บ่าวจะเหลือใครในชีวิตให้รอเล่าขอรับ”
เหมือนเป็นสัญญาว่าจะกลับมาเจอกัน มีหวังอยู่แต่ก็เศร้าเป็นที่สุด
เอาใจช่วยเส็งกับคุณหลวง ทุกตอนเลย T^T

ปล.เรื่องแม่หยาดกับนายเทิดน้องเส็งจะไปลืบยังไงได้ล้ะเนี่ย หรือจะแอบดูที่ท่าน้ำอีก? สองคนนี้เค้าต้องแอบมีลับลมคมในแน่นอน
**สงสัยต้องไปแอบดูที่รูคุณหยาด

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ darling

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-7
เศร้า.. :o12:

+1 เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์น๊ะจ๊ะ

ออฟไลน์ Pamphlet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 529
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
เฮ้อ...นี่คงจะเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายของทั้งคุณหลวงแล้วก็เส็งสินะ
ส่วนเทิดนี่น่ากลัวว่าจะเป็นคนที่มีอะไรกับหยาดคืนนั้นที่หัวหินแน่ๆแล้วหล่ะมั้ง
จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ ณยฎา

  • ขอเพียงมีเธออยู่คู่ฉัน แม้นหลับก็มิฝันถึงสิ่งใด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-3
 :a5:

สารภาพตามตรงว่าอ่านทันเมื่อตอนเช้ามืดแต่เพิ่งจะมาเม้นท์ให้ค่ะ แบบว่าตอนนั้นมันหลอนๆอ่ะเนอะ นอนไม่หลับเลย

อ่านอย่างต่อเนื่องรวดเดียว เพราะมันสนุก น่าติดตามจนหยุดไม่ได้จริงๆ

ถึงตอนแรกจะสะดุดชื่อนิยายอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้คลิ๊กเข้ามาอ่าน จนเมื่อคืนนั่นแหละถึงได้รู้ว่าพลาดอะไรไป

จะหาว่าลำเอียงก็ได้ แต่ชอบคู่คุณหลวงกับเส็งมากๆเลย โรแมนติกแบบย้อนยุคดี อยากตอนหวานๆของคู่นี้ซ้ำๆแล้วซ้ำอีก

ให้ความรู้สึกแบบที่บรรยายออกมาไม่ถูก แต่เอาเป็นว่าชอบมากๆก็แล้วกันเนอะ บทในอดีตให้ความสมจริงได้ค่อนข้างมากซึ่งตรงนี้ถือเป็นเสน่ห์ของเรื่อง

รู้สึกได้ถึงความตั้งใจของผู้เขียน ยังไงก็จะรออ่านตอนต่ิไปและจะเป็นกำลังให้นะคะ

 o13

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
กินมาม่ามาสามตอนติดแล้วค่ะ  :o12: :o12:

มันจะไม่ใช่การพบกันครั้งสุดท้ายใช่ไหม สงสารเส็ง

ปล.ระหว่างเทิดกับหยาดต้องมีอะไรแน่ๆเลยอ่ะ  :o

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด