ไปต่อกันเลยนะครับ ตอนนี้คุณจะได้รู้สักทีว่าอะไรเป็นอะไร หลังจากปล่อยให้คลุมเครืออยู่นาน ไปติดตามกันเลยครับ!
**********************************************************
๒๙
หลวงพินิจราชอักษรตกใจมากเมื่อได้ยินสิ่งที่หยาด พยายามเล่าให้เขาฟังด้วยสติที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนัก เขากำลังจะตำหนิหยาดอยู่ที่หายไปนานเหลือเกินทิ้งให้เขากลับบ้านคนเดียว แต่พอฟังเรื่องเทิดแล้ว หลวงพินิจก็ไม่อยากจะว่าอะไรอีก ได้แต่นั่งเฉยๆบนเตียงมองหญิงสาวเต็มสองตา
แต่ไหนแต่ไร เขาไม่เคยรักหล่อนเลย ไม่เห็นใจ ไม่สงสาร ไม่เคยมีความรู้สึกใดต่อหญิงสาวคนนี้อยู่ในจิตใจเขา แต่วันนี้ เขากลับสมเพชหล่อนเหลือเกิน หล่อนช่างทำได้นะ ไปมีลูกกับคนอื่นแล้วมาหลอกว่าเป็นลูกของเขาเพียงเพื่อให้ได้แต่งงานกับเขา เป็นเสี้ยนหนามในชีวิตรักของเขากับเส็ง แต่ต่อให้เกลียด สมเพชเวทนาหญิงสาวแค่ไหน เขาก็อดสงสารหล่อนไม่ได้ ในเมื่อเทิดก็เป็นสามีของหล่อน และเป็นพ่อของลูกหล่อนด้วย
แต่หลวงพินิจก็ไม่ได้ปลอบหยาด เขานั่งเงียบไปเฉยๆ จนหยาดอึดอัดและเดินจากห้องไปเสียเอง
พิธีฌาปณกิจศพของเทิดเริ่มขึ้นง่ายๆ ญาติพี่น้องมากันไม่มากนัก สวดอยู่สามวันก็เผา เมื่อควันลอยออกจากเมรุแล้วก็เท่ากับว่า เทิดจากภรรยาของเขาไปในที่สุด หล่อนไม่เหลือสิ่งใดในชีวิตแล้วนอกจากลูกของหล่อนคนเดียวเท่านั้น หญิงสาวยินประสานมืออยู่เงียบๆ มองควันไฟที่ลอยล่อง พาเทิดไปเกิดใหม่
หล่อนอธิษฐานในใจ
“เทิดเอ๋ย เธอกับฉันเจอกันช้าไป หากฉันได้รู้จักกับเธอก่อนที่จะรู้จักคุณหลวง ฉันคงรักเธอแล้วหมดหัวใจ เราคงไม่ต้องพึ่งเหตุบังเอิญเพื่อให้ได้รักกัน หากชาติหน้ามีจริง ฉันขอให้เธอได้มารักฉันอีก รักก่อนที่ใครจะรักฉัน รักฉันแต่เด็กเหมือนที่ฉันรักคุณหลวง เมื่อนั้นแล้วฉันก็มั่นใจว่า ฉันจะรักเธออย่างตั้งใจ และมีแต่เธอคนเดียวตลอดไปเช่นกัน”
หยาดอุ้มลูกนึกในใจว่าจะตั้งชื่อลูกว่า “ทศ” ให้คล้องกับชื่อพ่อว่า เทิด และเพราะเด็กคนนี้อายุครบ 10 เดือนพอดีเมื่อพ่อของเขาจากไป
หญิงสาวทิ้งระยะห่างไปอีกสองเดือน มีชีวิตอยู่ด้วยความซึมเศร้าในหัวใจ เมื่อลูกของหล่อนโตได้ครบหนึ่งขวบเริ่มเดินได้ เริ่มพูดได้ หน้าของเขาก็เอนเอียงไปทางทนายหนุ่มผู้ล่วงลับอย่างชัดเจน หล่อนแน่ใจแล้วว่าไม่นานหลวงพินิจคงจะระแคะระคายเรื่องที่เด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเขามากขึ้นเป็นแน่ จึงต้องรีบทำอะไรสักอย่างก่อนที่ความจริงจะถูกตีแผ่ออกมา
หล่อนพูดกับลูกยามที่เด็กน้อยหลับไม่รู้เรื่อง เสมอว่า
“ลูกเป็นทุกอย่างของแม่ แม่ต้องให้ลูกเติบโตไปเป็นใหญ่ได้เหมือนหลวงพินิจราชอักษคนที่แม่รักหมดใจ แม้เขาไม่ใช่พ่อของลูก แต่ลูกต้องมียศ มีศักดิ์ มีสกุล แม่จะไม่ให้หนูลำบากเหมือนพ่อเด็ดขาด ดังนั้นแม่จะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าพ่อที่แท้ของหนูคือพ่อเทิด หนูต้องเติบใหญ่ในฐานะหลานปู่ของพระยาไพรัชกิจ เมื่อฝ่ายนั้นเสียไป ลูกต้องได้สมบัติทุกอย่าง แม่ต้องแน่ใจว่าชีวิตของหนูจะเป็นอย่างที่แม่วาดไว้ แม่ถึงจะตายตาหลับ”
หล่อนผสมยาพิษให้หลวงพินิจกินทุกวัน วันละเล็กวันละน้อย จนหลวงพินิจไม่อาจลุกจากเตียงไปไหนได้อีกแล้ว ได้แต่นอนซมอยู่บนเตียงรอวันตายไปเท่านั้น หยาดเข้าไปหาหลวงพินิจราชอักษรในวันหนึ่ง พร้อมถาดยาและน้ำดื่ม
“ยาค่ะ” หล่อนส่งยาให้หลวงพินิจกินเข้าไป ชายหนุ่มกลืนยาอย่างยากลำบากเต็มทนพูดด้วยเสียงแหบๆ แบบคนไม่มีแรงจะพูดขึ้นว่า
“กินยาของแม่หยาดทุกวัน ไม่เห็นอาการฉันจะดีขึ้นเลย” เขาหายใจเฮือกใหญ่ “อ้ายหนูไปไหนล่ะ”
“ลูกทศหรือคะ นอนอยู่ค่ะ” คุณหลวงได้ยินชื่อก็ทำหน้าประหลาดใจ “เมื่อคุณพี่ไม่ตั้งชื่อลูก น้องก็จะเรียกลูกว่าทศ เป็นเครื่องเตือนใจว่า เรามีลูกด้วยกันเมื่อครั้งเดินทางไปหัวหินในเดือนสิบ”
“จนป่านนี้แม่หยาดยังจะไม่เลิกโกหกอีกหรือ” เขาว่า หยาดตาโตขึ้นทันทีเมื่อได้ยินคำพูดที่รู้ทันของคุณหลวงหนุ่ม “เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของฉัน เป็นลูกของเทิดต่างหาก”
เป็นอันว่าหลวงพินิจตัดสินใจบอกหล่อนแล้วซีนะ ว่าเขารู้ทัน ดีแล้วเรื่องอะไรต่อมิอะไรก็คงจะง่ายขึ้น แทนที่จะกลัวหยาด กลับยิ้มออกมา
“อ๋อใช่ค่ะ แหมคุณพี่นี่ก็รู้เร็วเหลือเกินนะเจ้าคะ”
“รู้มานานแล้ว แต่อยากจะดูซิว่าแม่หยาดจะบอกฉันวันไหน” เขาหายใจแรง แรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเริ่มรู้สึกอัดอัดที่หน้าอก “แม่หยาดบอกว่ารักฉัน แต่เปล่า แม่หยาดรักแต่ตัวเอง”
“ค่ะ” หล่อนตอบอย่างไม่เกรงกลัวอะไร “ตอนนี้น้องรักแต่ตัวเอง แต่หากคุณพี่ไม่ทำอัปรีย์ไว้กับน้อง น้องก็คงจะรักคุณพี่พอๆกับที่รักตัวเองเช่นกัน!”
“ถ้าพูดถึงเรื่องเส็ง ขอให้เคารพกันบ้าง ว่าฉันรักเส็งจริง และเส็งก็รักฉันจริงเหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องอัปรีย์เหมือนอย่างที่แม่หยาดทำกับเทิด และฉัน” หลวงพินิจราชอักษรไออย่างแรงจนรู้สึกเจ็บคอไม่มีแรงจะพูดอะไรต่อไปอีก เขายกมือขึ้นกุมคอ มองถาดยาอย่างรู้ทัน
“ความรักมันไม่มีจริงดอกค่ะคุณพี่ มันอาจจะมีหลงบ้างแต่มันก็ผ่านมา ตั้งอยู่และดับไป ไม่มีทางจีรังอยู่ได้หรอกค่ะ ดูอ้ายเส็งซี สุดท้ายมันหมดความหลงมันก็จากคุณพี่ไป”
“ฉันไม่เชื่อ แม่หยาดต้องมีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้แน่ ฉันยังคงรักเส็งอยู่แม้จนวันนี้ที่แม่หยาดวางยาฆ่าฉัน ฉันก็เชื่อว่าเส็งยังไม่หมดรักฉันเช่นกัน!”
“อ้อ ไม่ค่ะ น้องไม่ได้ฆ่าคุณพี่” หล่อนยิ้มอย่างเย็นชา “เมื่อหลายเดือนที่แล้วคุณพี่ออกไปตามหาเส็งกับน้องแต่หาไม่พบ คุณพี่จึงหายตัวไปเฉยๆอย่างหมดอาลัย และเพื่อประชดชีวิตคุณพี่ไปซื้อยาพิษมาไว้เตรียมจะฆ่าตัวตาย เผอิญว่ามีเรื่องเทิดถูกฆ่าไปเสียก่อน คุณพี่จึงทิ้งเรื่องให้ผ่านมาอีกหลายเดือนกระทั่งวันนี้ วันที่น้องมาคุยกับคุณพี่เรื่องเส็ง ว่าน้องตามมันพบแล้ว กำลังมีความสุขอยู่กับชายอื่น และนั่งรถไฟออกหัวเมือง คุณพี่จึงตัดสินใจกินยาตายในที่สุด”
หลวงพินิจหน้าซีด แหงนมองหยาดจากเบื้องล่าง
“แม่หยาด... เรื่องเส็งน่ะ จริงหรือ”
หยาดยิ้มอย่างผู้ชนะ หลวงพินิจทำปากพะงาบคล้ายจะพูดอะไรต่อ หยาดไม่อาจรู้ได้เพราะหลวงพินิจราชอักษรสิ้นใจไปแล้วในที่สุด หล่อนยิ้มอย่างผู้มีชัยชนะ เป็นยิ้มครั้งที่สามนับจากวันที่เส็งกับคุณหลวงถูกแยกออกจากกัน วันที่เส็งตาย และในวันนี้ที่คุณหลวงตาย
หญิงสาวกวาดตามองไปรอบๆ สมบัติพัสถาน ทั้งหมดนี้ ตกเป็นของหล่อนและลูกชายแล้วอย่างแน่นอน หยาดน้ำตาไหลด้วยความปิติ ในที่สุดหล่อนก็ได้ทุกอย่างในชีวิตที่หล่อนต้องการ
หยาดสูดหายใจลึก กรีดร้องออกมาสุดเสียง จนบ่าวไพร่ทั้งเรือนได้ยินกันหมด “ช่วยด้วย คุณหลวงกินยาฆ่าตัวตาย!”