ช่วงสายๆของวันเสาร์แบรตกับแซคกลับมาด้วยกัน สภาพแซคเมื่อวันศุกร์และวันเสาร์ช่างต่างกันจริงๆ เขาตัวเหม็นหึ่งยังกับซากศพ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า
แบรตสามารถลากเขามาได้ยังไง มันไม่เกี่ยวเรื่องขนาดตัวที่พอๆกันของเขากับแซคหรอก แต่ที่ผมสงสัยคือเขาทนกลิ่นนี่ได้ยังไงกัน
“นายไม่คิดจะช่วยฉันหน่อยเหรอเนท” ผมถอยออกมาสองสามก้าวให้ห่างจากพวกเขา แล้วสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดเต็มที่ก่อนจะกลั้นหายใจแล้วเข้าไปช่วยแบรต......แต่โชคดีพระเอกขี่ม้าขาวของผมก็มาช่วยผมไว้ โอลิเวอร์เดินเข้าไปพยุงแชคอีกข้าง
“โชคดีที่เรามีห้องนอนสำหรับแขกอยู่ชั้นล่าง ให้เขานอนที่นี่ก่อนแล้วกัน” แบรตพยักหน้าเงียบๆ เขาไม่ได้ปฏิเสธโอลิเวอร์แต่ก็ไม่ได้แสดงความขอบคุณหรือยินดีด้วย ผมถือว่าความสัมพันธ์ที่จะญาติดีระหว่างพวกเขาไม่ได้ยากแล้วล่ะตอนนี้
ช่วงบ่ายผมออกไปรับเจสัน แล้วก็ได้โอกาสแวะซื้อเบอร์เกอร์ให้กับบีเจ แบรต โอลิเวอร์และคนอื่นๆด้วย ขณะขับรถกลับผมก็โทรบอกแกสเรื่องมื้อเที่ยงของเรา เขาตกลงที่จะทานมื้อเที่ยงเรียบๆกับเรา ระหว่างที่คุยโทรศัพท์ผมได้ยินเสียงโวยวายเสียงดัง แต่ผมไม่ได้ถามเขาหรอกว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะแกสรีบวางสายไปซะก่อน แต่ก่อนที่เขาจะวางสายเขาบอกผมว่าอีกห้านาทีเขาก็จะถึงที่บ้านของผม
“นี่บาร์บีคิวเบอร์เกอร์ของบีเจ โอลิเวอร์และเจสัน” ผมส่งแต่ละกล่องให้พวกเขา แบรตเข้ามาหาพวกเราที่โซฟา ตอนนี้สภาพเขาดูดีขึ้นเยอะเพราะเขาอาบน้ำแล้ว แต่ก็ยังมีกลิ่งเหล้าอ่อนๆออกมาจากตัวเขา
“นี่บาร์บีคิวเบอร์เกอร์ของนาย” ผมส่งให้เขา แต่เขาไม่ได้ยื่นมือออกมารับไว้
“แฮมเบอร์เกอร์ของฉันสุกกลางๆหรือเปล่า”
“ใช่”
“หั่นชิ้นและไม่หวาน”
“ใช่”
“เพิ่มซอสแยกต่างหาก”
“ใช่”
“หอมทอดด้วย”
“ใช่”
“เพิ่มขนมปังด้วย”
“พวกเขาไม่เพิ่มให้ เสียใจด้วยแบรต” ผมบอกเขาอย่างเบื่อหน่าย เจสันมองเราสลับไปมาด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูก
“นายประท้วงอย่างขึงขังหรือเปล่า”
“เปล่า”
“งั้นทำไมนายไปนานนัก”
“กินไปเหอะน่า!” เขารับกล่องของเขาไป และนั่งลงข้างๆเจสัน ซักพักเขาก็ลุกออกไปจากโซฟา ผมเดาว่าหมอนี่ต้องไปหาไดเอทโค้กกับน้ำแข็งสามก้อนแน่ๆ ขณะนั้นเองคาแบลท์ แกส คาลอส และเชลดอนก็เดินเข้ามาด้วยกัน....ให้ตายสิพวกนี้มาอยู่บ้านผมกันครบก๊วนเลยแหะ....ไม่อยากจะคิดต่อเลยว่าเรื่องมันจะเป็นไงต่อ
“ว้าว!หอมทอด” เจสันหยิบหอมทอดในกล่องของแบรตขึ้นมา
“โอ้วไม่....ไม่” ผมและบีเจส่ายหน้าพร้อมกัน
“ทำไมเหรอ” เจสันหันมาถามผมและบีเจ
“นั่นของแบรต เขาไม่ชอบให้ใครแตะต้องอาหารของเขา”
คาแบลท์ แกส คาลอสและเชลดอนพูดออกมาพร้อมกันว่า “ฉันไม่ได้ทำนะ” ผมหันไปมองด้านหลังก็เห็นว่าแบรตเดินมาพร้อมกับไดเอทโค้กและน้ำแข็งสามก้อน เขามีท่าทีขึงขังแล้วจ้องหน้าเจสันอย่างเอาเป็นเอาตาย เจสันวางหอมทอดของเขาลงแล้วกล่าวขอโทษ แต่แบรตไม่ฟังเขาด้วยซ้ำ หมอนั่นหยิบกล่องหอมทอดนั่นขึ้นมาแล้วเอาไปทิ้งที่ลงถังขยะ
“ฉันขอโทษ” เจสันเดินตามเขาไปแล้วกล่าวขอโทษอีกครั้ง
“ฉันไม่ชอบให้ใครมาแตะอาหารของฉัน นายทำอย่างนั้นทำไม”
“ฉันไม่รู้นี่ แล้วฉันก็หิว มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ซักหน่อย นายไม่เห็นต้องเทมันลงถังขยะทั้งหมดเลยนี่”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่งั้นเหรอ นายแตะมันแล้ววางมันลงไป นั่นทำให้ชิ้นอื่นเสียหายไปด้วย นายโดนหนึ่งสไตรค์”
“ห๊านายว่าไงนะ พ่อจอมเรื่องมาก”
“สองสไตรค์ หนึ่งนายแตะอาหารฉัน สองนายเรียกว่าพ่อจอมเรื่องมาก”
“โอ้ที่รัก นี่บ้านนายไม่มีรถเมล์ผ่านเลยใช่ไหม” เจสันเดินกลับมานั่งที่โซฟา เชลดอนและคาลอสกระซิบกันว่า ‘มันตลกจริงๆ เมื่อไม่โดนเข้ากับตัว’
“เจสัน ฉันคิดว่าฉันอาจจะผ่อนปรนกับนาย แต่ดูเหมือนตอนนี้นายกำลังจะเป็นสมาชิกถาวรกับครอบครัวของฉัน ฉันจึงคิดว่านายควรได้รับมาตรฐานเหมือนคนอื่นๆ”
“ยินดีด้วย นายได้เป็นสมาชิกอย่างถาวรกับพวกเราแล้ว” คาแบลท์พูดล้อขึ้น ส่วนเจสันทำหน้างงๆเหมือนกับแกส
“พวกเรา พวกเรา พวกเรา” เชลดอนและคาลอสโห่ร้องขึ้นมา
“แหม ตื่นเต้นตายล่ะ” เจสันถอนหายใจแล้วนั่งลงบนโซฟา
“นั่นที่ของฉัน” แบรตเดินเข้ามาบอกเขา
“นี่นายล้อเล่นใช่ไหม”
“เนท เขานั่งที่ของฉัน” แบรตหันมาบอกผม
“รู้แล้วๆ เจสันนายช่วยลุกไปนั่งที่นั่งของนายได้ไหม คืองี้นะ ไม่ว่ายังไงฉันคงต้องเป็นน้องของหมอนี่ไปตลอดชีวิตน่ะ”
“ฉันไม่สน ฉันจะลุกขึ้นโต้แย้ง”
“ก็ได้ พอกันที นายโดนสามสไตรค์ นั่นหมายถึงนายถูกไล่ออก”
“อูวววววว สไตรค์สามแล้วไงห๊ะ”
“ออกไปจากบ้านหลังนี้ซะ”
“ไม่” แบรตเข้าชาร์ตตัวเจสัน จับเขาอุ้มพาดบ่าแล้วเดินออกไปที่ประตูบ้าน เราทุกคนเดินตามพวกเขาไปด้วย
“ไม่ ไม่ ไม่ นี่ฉันถูกเนรเทศจริงๆเหรอเนี่ย” แบรตวางเขาลงแล้วชี้นิ้วไปทางประตูรั้ว
“ฉันขอโทษด้วยเจสัน แต่แบรตน่ะ ถ้าเขาเกิดอุบัติเหตุขึ้นในห้องทดลองอีกครั้งหมอนี่ก็จะกลายเป็นจอมวายร้ายที่สุดในโลกแล้วล่ะ” ผมเดินเข้าไปคุยกับเจสัน เขาพยักหน้าแล้วบอกผมว่าไม่เป็นไรเขาไม่โกรธผม แต่เขากลับเดินเข้าไปประชิดตัวแบรต
“ไม่เคยมีใครเคยทำกับฉันอย่างนี้ ฉันเจสัน เมลโลวิซของเปิดศึกกับนาย” แบรตกอดอกแล้วยิ้มเยาะเขา
“ก็เอาสิ แล้วจะได้รู้กันว่าสมองระดับไอคิวมากกว่าคนปกติเกือบสามเท่าอย่างฉัน กับบาร์บี้อย่างนายใครจะชนะ” แบรตส่งเสียงฮึมในลำคอก่อนที่เขาจะเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับเพื่อนๆในก๊วนของเขา— ยกเว้นคาแบลท์ เพราะแกสขอร้องให้เขาไปส่งเจสัน แล้วเจสันเองก็คิดว่าเขาควรจะกลับด้วยเหมือนกัน
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกคนแรกที่ถูกเรียกว่าบาร์บี้คือน้องสาวต่างแม่ของฉัน แน่นอนเธอคือแม่ของบีเจ คนที่สองก็คือนาย ยินดีด้วยเจสัน เอาล่ะตามฉันมา ฉันจะไปส่งนายอย่างปลอดภัยเอง”คาแบลท์บอกเจสัน ผม แกส และโอลิเวอร์มองหน้ากันอย่างประหลาดใจ
----------------------------------------------------------
จบตอนพิเศษของเรื่องนี้แล้วล่ะคะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ

