http://www.4shared.com/embed/70897201/5328b731หลังจากที่ผ่านเรื่องราวมาหลายอย่าง วันนี้เป็นสุดท้ายที่ผมจะอยุ่เชียงใหม่ ผมได้รับรู้เรื่องราวหลายอย่าง จริงแล้วผมตั้งใจให้ทุกอย่างมันจบลงนะที่ตรงนี้ เพราะคิดว่าเวลามันพอดี แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เสียแล้ว มันเกิดไปเยอะเลย สำหรับเรื่องราวหลายๆอย่าง สุดท้ายทุกคนอาจจะรู้ว่าผมได้มาทำงานกับบ้านของมิ๊ก แต่คนที่ผมอยู่ด้วยจริงๆละครับ คนที่หายไปเลยคือเอิท แต่คงไม่นานหรอกครับ หลายคนคงต้องแปลกใจกับสิ่งที่โน๊ตเหลือทิ้งไว้ให้ เพลงนี้ผมมอบให้สำหรับคนที่กำลังอินเลิฟก็แล้วกันนะครับ
โชคดีแค่ไหนที่เราได้มีกันและกัน ผมรักที่จะเป็นแบบนี้ ผมดีใจที่ได้เจอเรื่องราวหลายหลากในชีวิต ผมรัก และก็ไม่เคยเสียใจเลยที่ได้เลือกทางเดินมายังที่แห่งนี้
อย่าเพิ่งหมดหวังนะครับ โน๊ตไม่ได้ไปไหนไกล เพราะเรื่องของโน๊ตยังไม่จบเพียงแค่นี้ เอิทจะกลับมาตอบแทนบุญคุรอย่างแสนสาหัญ
จนกว่าจะได้พบกันใหม่
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สิ่งที่โน้ตเหลือทิ้งไว้หลังจากการไปอย่างไม่มีทางหวนกลับมาได้ แม้แต่คำลาที่ผมยังไม่มีโอกาสได้ยิน ก็มีแต่ปลื้มที่อยู่ข้างๆแล้วก็พยายามทำตัวร่าเริงเพื่อที่จะเข้ามาแทนความเศร้า กับความรู้สึกผิดที่ผมมีอยู่ในใจตลอดเวลารึว่าตอนนี้ บ้างทีมันอาจจะถึงเวลาที่ผมจะต้องเดินกลับไปหาของที่เคยเป็นของผมแล้ว
หลังจากงานทำบุญของโน้ต เถ้ากระดูกบ้างส่วนถูกแบ่งมาให้ผม เพราะมีคำสั่งเสียบ้างอย่างที่เหลือทิ้งไว้ให้กับผมใจจดหมายที่โน้ตเขียนทิ้งไว้กับแม่ ผมไม่มีโอกาสว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร แต่ที่ผมรู้คือเมื่อถึงเวลาผมจะได้รับรู้เรื่องพวกนี้เองซึ่งมันจะเป็นเมื่อไร แม่โน็ตก็ไม่ได้บอกไว้ แต่ผมเองก็สบายใจ แล้วตอนนี้ตัวผมเองก็มีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตมากขึ้น
“ขอบใจมากนะลูกโอมห์” แม่โน้ตดูสีหน้าเศร้าไม่น้อย คำพูดที่พูดคุยกับผม ถึงแม้ว่าแม่โน้ตจะไม่รู้ถึงระดับความสัมพันธ์ของผมกับโน๊ต แต่จากแววตาของคนทั้งคู่ ผมเหมือนจะรู้ได้ดีเลยว่าเราสองคนตกอยู่ในหัวอกเดียวกัน
“ครับ ไม่เป็นไรครับผม”
“แล้วนี้พวกเราจะไปไหนกันต่อ”
“คงกลับบ้านครับ ”
“แล้วกลับยังไงละลูก”
“เดี๋ยวผมไปส่งเองครับป้า” ปลื้มเสนอตัวทันที ผมเองกันหน้าไปหาเจ้าของคำพูดเมื่อสักครุ่
“เอ่อดีแล้ว แม่จะได้ไม่ห่วง”
“ป่ะพี่โอมห์” แล้วปลื้มก็ลากมือผมลงมาจากบ้าน ผมมองบ้านหลังนี้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเดินจากออกมา โดยมีอีกมือที่คอยกุมมือผมอยู่ รถเคลื่อนที่ผ่านสถานที่ต่างๆผมตั้งใจว่าจะละทิ้งภาพพวกนี้ทิ้งไว้นะสถานที่เห็นนี้ โน้ตเองก็คงต้องการให้ผมเริ่มชีวิตใหม่เช่นกัน
“ไปไหนกันดีพี่”
“ไม่รุ้ว่ะ”
“แล้วปกติปิดเทรอมพี่ทำอะไรอะ”
“กินนอนเล่นเกมส์”
“ชีวิตพี่แม๋งไร้สาระว่ะ”
“ไปทะเลไหมพี่ เขาบอกว่าคนอกหักต้องไปทะเลาะ”มันมองหน้าผมแล้วก็ยิ้ม ความคิดมันดีว่ะต้องยอมรับเพราะเห็นภูเขา สายน้ำ ลมหนาวแล้วมันหดหู่
“ไม่อะ”
“อ้าวแล้วพี่ยิ้มทำไม”
“ทะเลเขาต้องไปกับแฟนว่ะ ถึงจะมีความสุข ไปแบบนี้ก็ยิ่งเศร้าไปใหญ่”
“งั้นผมเป็นแฟนให้ ระหว่างไปเที่ยวเอาไหม”
“อะนะไหนเมิงบอกว่าเมิงไม่ใช่เกย์ไง”
“ป่าว ก็แค่เป็นให้ระหว่างไปเที่ยว นะพี่นะ ผมอยากไปเที่ยวทะเล ไม่ได้ไปนานแล้ว” ผมเงียบ ไม่ได้พูดอะไร พอรถมาจอดที่บ้าน ผมก็รีบวิ่งขึ้นห้องเลย ปลื้มไม่ได้วิ่งตามขึ้นมาแต่คงคุยกับแม่อยู่ ส่วนผมแยกตัวออกมาอยู่คนเดียวก็มาอีกแล้วความรู้สึกพวกนี้ หยิบโทรสับขึ้นมา
.
.
.
. หมายเลยที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขนาดนี้............................... เบอร์ของมิ๊กเป็นแบบนี้มานานพอสมควรแล้วทุกครั้งที่ผมโทรไปก็ได้ยินแต่เสียงแบบนี้ จากผู้หญิงคนนี้ แถมพอโทรเข้าบ้านก็ได้รับแต่คำตอบว่ามิ๊กนอนอยู่ ทุกครั้งที่ผมฝากข้อความถึงก็เงียบหายไป ผมไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไงแต่
“สรุปว่าไปนะพี่” ความคิดผมถูกเบรกสะงั้น
“ไปไหน” ไอ้ปลื้มหน้าบานเข้ามาหาผม
“ก็ทะเลไง เดี๋ยวผมดุแลพี่เอง ผมขอพี่โน๊ตแล้ว”
“หมายความว่าไงว่ะ เมิงไปขอมันเมือ่ไร แล้วทำไมต้องไปขอมัน”
“เอาน่า เก็บของไป๊” ผมไม่เก็บแต่เปลี่ยนสายตามานั่งดูทีวีแทน ข่าวการเมืองยังคงยึดพื้นที่ทั้งหมดของเนื้อหาข่าวในแต่ละหวัง การช่วงชิงอำนาจยังดุเดือน ผุ้คนเรียกร้อง มีแค่เรื่องของคนที่อยากได้ กลับไม่อยากเสีย เสียงไอ้ปลื้มที่บ่นกรอกหูผม แต่มันก็ไม่น่าสนใจเท่าเนื้อหาของข่าว
“เสร็จแล้วพี่”
“อะไรว่ะ”
“ไปขึ้นรถกัน”
“ไม่ไป”
“จะเดินไปรึว่าจะให้ผมอุ้มไปครับ”
“เมิงไม่ชวนเมียเมิงไปว่ะปลื้ม เดี๋ยวกรุกลับบ้านกรุก็ได้”
“ก้ชวนอยุ่นี้ไง”
“กรูไปเป็นเมียเมิงเมื่อไร”
“ยังไม่เป็นแต่อีกหน่อยไม่แน่”
เราใช้เวลาในการเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ไม่นาน เพียงสิบวัน เราก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับกันละกัน ผมรู้ว่าปลื้มชอบอะไร ผมเห็นว่าความสดใสในแววตา คำพูด และการกระทำที่ดุอบอุ่น เหมือนทุกครั้งที่ผมมองเห็นปลื้ม ก็จะเห็นโน๊ตไปด้วยตลอดเวลา บ้างทีถ้าตอนนี้โน้ตยังอยู่ผมก็เคยสงสัยเหมือนกันว่าจะเป็นยังไง ผมว่าผมชักจะชอบปลื้มแล้วละว่ะ
“เดี๋ยวแวะส่งที่พิโลกหน่อยได้ไหม” ผมบอกโน้ตระหว่างการเดินทางกลับของเราทั้งสองคน
“ไม่แวะได้ไหมพี่ แต่จะรอรับกลับด้วย”
“ดีเกินไปแล้วไหม เกรงใจว่ะ”
“คนเป็นแฟนกันทำไมต้องเกรงใจด้วยละพี่”
“ยังไม่เลิกอินอีกรึไงว่ะ”
“ผมถามจริงๆนะพี่ว่าพี่มีความสุขไหมที่ได้ไปเที่ยว”
“อืม” ผมอมยิ้ม ให้มัน แต่สีหน้าที่มันถามผมดูจริงจังเหลือเกิน
“ผมก็มีพี่”
“มีอะไร”
“ความสุขไง”
“แบบนี้พี่โน๊ตคงดีใจที่เห็นพี่ยิ้มได้สักที”
“ทำไมรึ”
“พี่โน้ตเขาไม่อยากเห็นพี่ร้องไห้ไง ต่อไปนี้นะพี่ผมจะดูพี่เอง” ปลื้มทำท่ายืดอก
“ปลื้ม กรูถามจริงๆนะ”
“ถามอะไรพี่”
“เมิงว่ากรุหล่อไหม”
“ไม่รู้ดิ ผมว่าเฉยๆ ผมยังหล่อกว่าอีกมั้ง” มันยิ้มที่มุมปากแล้วตาก็ย้ายกลับไปมองที่ถนน แต่ก็จริงของมันที่มันว่ามันน่าตาดีนะ
“อืม แล้วเมิงว่ากรูสวยไหม” มันมองงอีกหน้าผมอีกครั้ง
“พี่เอาอะไรมาพุดว่ะว่าสวย หน้าเถื่อนยังกับพวกเก็บคนกู้นอกระบบ”
“แล้วเมิงว่าโน๊ตเป็นเกย์ไหม”
“ไม่นะพี่ ผมรู้จักพี่โน้ตมาตั้งแต่เด็กไม่เห็นพี่แกจะมีท่าทีเป็นตุ้ดเลย”
“แล้วทำไมมันถึงมาชอบกรูละ”
“เขาคงชอบของแปลกมั้ง”
“กรูแปลกตรงไหนว่ะ”
“ไม่รุ้ดิ ตรงที่พี่เป็นพี่เนี่ยละ”
“แล้วเมิงอะคิดไงกลับกรุ”
“ผมอะ ไม่รู้ดิ ยังบอกตัวเองไม่ได้เหมือนกันแต่ตอนนี้จนกว่ามหาลัยจะเปิด พี่ยังต้องเป็นแฟนผมอยู่”
“อะนะ กรุไปยอมรับเมิงเป็นแฟนเมือ่ไร นอนละนะ” หน้าผมร้อนขึ้นมาในทันใด ที่เห็นรอยยิ้มหลังคำพูดของมัน
“ร้อนเน๊าะพี่ เล่นเอาหน้าแดงเลย” มือมันเร็วกว่าความคิดผมเสียแล้ว
“เจ็บนะพี่”
“รางวัลที่ปากดี” ผมยิ้มแล้วก็ดึงเสื้อมาห่ม
“ดุจังเลยแฟนผมเนี่ย”
“แม่เดี๋ยวโอมห์จะกลับบ้านนะ มีใครอยู่บ้านไหม”
“กลับมาทำไม มีอะไรรึเปล่า”
“ป่าวแค่อยากกลับบ้าน”
“อืม โน๊ตมาด้วยรึป่าว”
“เดี๋ยวคุยกันนะแม่”
“จ๊ะลูก”
บ้านผมไม่เคย รวมถึงพ่อกับแม่ผมก็ไม่เคยเปลี่ยนเช่นกัน เมื่อรถจอดสนิทที่บริเวณหน้าบ้าน พอประตูรถเปิด สิ่งแรกที่ผมทำคือวิ่งตรงไปยังผู้หญิงที่กำลังยืนกวาดหน้าบ้านอยู่
“แม่” ผมกอดแม่ผมไว้แน่น
“โน้ตละลูก”
“โน๊ตตายแล้วแม่”
“ว่าไปนั้น”
“จริงครับน้า”
“แล้วนี้ใครละเนี่ยลูก”
“เพื่อนโอมห์ เป็นน้องโน๊ต”
“ร้องไห้อีกละพี่โอมห์”
“อืม ร้องไห้เป็นเด็กเลยลูกฉัน มาๆเข้ามาในบ้านก่อน ” ปลื้มไม่ได้ยกกระเป๋าลงจากรถ เพราะผมคิดว่าจะไม่นอนแค่จะแวะหาแม่เฉยๆ แต่สุดม้ายก้ถูกลากให้นอนจนได้
“ไหนเล่ามาให้ฟังสิเรื่องมันเป็นยังไง” คนที่เล่าไม่ใช่ผมแต่กลายเป็นปลื้มที่นั่งคุยกับแม่แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง ผมใช้เวลาไม่นานในการจากบ้านของมตรงไปยังบ้านมิ๊ก หน้าบ้านมิ๊กก็ยังไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปในวันนี้ก็คงจะเป็นคนในบ้านแล้วละครับ
“พี่อ้อ สวัสดีครับ” ผมทักทายพี่อ้อตามมารยาท
“อ้าวน้องโอมห์มายังไงละค่ะเนี่ย”
“จักรยานครับ”
“ตลกอีกแล้วนะค่ะน้องโอมห์”
“มิ๊กละครับพี่”
“อยู่บนห้องค่ะ”
“ครับ” ผมกำลังจะเดินเข้าไปในบ้าน แต่พอดีว่าเจอแม่มิ๊กเสียก่อน
“อ้าวลูกโอมห์มาหามิ๊กหรือลูก กลับมาตั้งแต่เมื่อไร”
“เมื่อกี้ครับ มาถึงก็ตรงมาที่นี้เลย”
“อืมมิ๊กนอนอยู่นะลูก มาก็ดีแล้วแม่มีเรื่องจะคุยด้วยสะหน่อย”
“มีอะไรรึเปล่าครับ”
“เรื่องมิ๊กนั้นละลูก”
คำร้องร้องของแม่
“เรียนเป็นยังไงมั้ง” แม่มิ๊กเริ่มต้นด้วยคำถามธรรมดา แต่ผมมีลางสังหรณ์ว่ามันจะเป็นเรื่องไม่ดีเสียแล้ว
“ก็ดีครับ”
“สอบได้ใช่ไหม”
“ครับ”
“เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะลูก” ผมยิ้ม
“หลังจากโอมห์กลับไปแม่คุยกับพ่อแล้วเกี่ยวกับเรื่องของมิ๊กครับ แม่อยากให้ลูกเลิกคบกับ”
“หมายความว่าไงครับ”
“ก็หมายความแบบที่ว่านั้นละ ตอนนี้มิ๊กมันจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าโอมห์เคยเป็นอะไรกลับมิ๊ก แม่มีลูกชายแค่คนเดียวนะลุก แม่อยากมีคนไว้สืบทอดตระกูล ลุกโอมห์ไม่เห็นแม่รึไง ลูกโอมห์ไม่กลัวว่ามิ๊กจะต้องอับอายแค่ไหน”
“แม่ครับ ผมไม่ได้ทำอะไรผิดนิครับ”
“ไม่ผิดหรอกจะลูก แต่พ่อมิ๊กเขากลัว ”
“แล้ว แม่คุยกับแม่เราแล้วนะ เรื่องที่จะให้เราย้ายออกจากห้อง”
“ครับ ผมเข้าใจครับ”
“จะขึ้นไปหามิ๊กก็ได้นะลูก แต่ตอนนี้มิ๊กเขาหลับอยู่นะลูก”
“ครับ” ผมค่อยๆเดินออกจากห้องเดี๋ยวสีหน้าที่งุนงงกลับสิ่งที่เพิ่งได้รับฟัง แต่มันก็ไขข้อสงสัยตลอดเวลาหลายเดือนที่ผมพยายามติดต่อกับมิ๊ก ขาที่หมดแรงบังคับให้ตัวเองเห็นเดินไปถึงหน้าห้องมิ๊ก กลิ่นที่คุ้นเคย ประตูสีที่คุ้นตา ผมค่อยๆบิดลุกบิดเข้าไปในห้อง เห็นชายคนหนึ่งที่นอนอยุ่บนเตียง บนผ้าปุที่นอนสีที่มิ๊กชอบเป็นที่สุด ใบหน้ามันตอนนี้ดูนอนหลับอย่างมีความสุขเสียเหลือเกิน ใจผมคิดได้อย่างเดียวว่ามันจะรู้ไหมว่ามีคนที่ยืนดูมัน ใจที่เหมือนแตกสลายซ้ำแล้วซ้ำอีก
“ขอโทษนะมิ๊ก” ผมพูดเบาๆ แล้วค่อยๆ เดินออกมาจากห้องมิ๊ก บังเอิญกับที่ผมได้เจอหน้าพ่อของมิ๊กพอดี
“สวัสดีครัยคุณน้า”
“อืม” ไม่มีรอยยิ้ม ไม่มีคำทักทายเหมือนก่อน มีเพียงเสียงอุทานเล้กน้อยแล้วเดินจากไปด้วยสีหน้าที่ไม่บอกก็รู้ว่าไม่พอใจผมเป็นอย่างยิ่ง