-- นั้นมันน้องกรู เพื่อนกรู --ทางเลือก และ มิตรภาพ 04/08/2557
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: -- นั้นมันน้องกรู เพื่อนกรู --ทางเลือก และ มิตรภาพ 04/08/2557  (อ่าน 331293 ครั้ง)

enhumto

  • บุคคลทั่วไป
ผมขออนุญาติฝากเรื่องราว ของอีก 1 คนในเรื่องนี้ไว้ด้วยนะครับ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38581.new#new

ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
จริงๆอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมของเหตุการณ์ที่คุณโอห์มละเอาไว้
แต่มันคงไม่สามารถถูกนำขึ้นมาเขียนถึงได้สินะ...ทิ้งเครื่องหมายคำถามไว้ในหัวเราเยอะเลย
แม้จะไม่สละสลวยนัก แต่ก็ทำให้อ่านจนจบได้ เพราะเรื่องราวชวนติดตามมาก
//จนสุดท้ายก็ยังไม่เข้าใจในบางสิ่ง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเอิร์ท

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
ได้อ่านพาทสุดท้ายพอดี
หาไม่เจอ
นี้เพิ่งไปเจอเรื่องใหม่ของเอิทเลยมาตามหา สรุปว่ามาอยุ่ในพื้นที่นี้เลยหาไม่เจอ
เศร้าเกินทนเห่อ

ออฟไลน์ ►MoNkEy-PrInCe◄

  • อินเตอร์ไลน์
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 726
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
สวัสดีค่ะ คุณโอม:)

ขอบคุณที่มาถ่ายทอดเรื่องราวและประสบการณ์สึขเศร้าเคล้าน้ำตาที่ผ่านมาน่ะค่ะ
เรื่องของคุณคงเป็นกำลังใจให้หลายๆคนที่กำลังท้อใจว่าชีวิตยรอมมีแสงสว่าง
เรื่องของคุณเป็นการผ่านอุปสรรคปัญหาที่ถือว่าคุณแกร่งมากที่ผ่านปัญหาเหล่านั้นมาได้
แต่สุดท้ายนี้คุณก็มีความสุขครองรักกับคุณมิกซ์ใช่ไหมค่ะหรือว่ามิกซ์ก็ยังแต่งงานอยู่
สรุปแล้วตอนจบคนอ่านยังงงๆอยู่ค่ะ
สุดท้ายนี้ขอให้คุณมีความสุขมากๆในชีวิตน่ะค่ะ^^

ออฟไลน์ คนเดี๋ยว

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
 :-[ พี่เขียนได้สุดยอดมากเลยครับ

ออฟไลน์ bosslovely

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-29
เพิ่งเข้ามาอ่านเมื่อวาน แบบว่าสุดๆมากเรื่องนี้ เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย

สงสารปลื้ม และโน๊ตมากๆ. แต่ก็ดีใจที่มิกและโอมห์กลับมารักกันอีกครั้ง  เกลียดสุดก็คงเป็นเอิท รายนี้ไม่รู้จักคำว่าบุญคุณเลย  ไม่คิดว่าตอนมันตกทุกข์ได้ยาก ใครเป็นคนให้ที่พักและเงิน  เฮ้อ

จะบอกว่าเมื่อคืนนอนตีสี่ เพื่ออ่านเรื่องนี้ แล้ววันนี้ก็อ่านทั้งวัน  เพิ่งมาอ่านจบตอนเกือบตี1 อิอิ น้ำยังไม่ได้อาบ

อาลัยแด่โน๊ตและปลื้มด้วยนะครับ  น้องสองคนนี้ นิสัยน่ารักมากๆ

enhumto

  • บุคคลทั่วไป
กราบสวัสดี มิตรรัก นักอ่านทุกท่านครับ ต้องฝากสวัสดีปีใหม่ ย้อนหลัง แล้ว เริ่มต้นชีวิตใหม่ของผมในวันนี้ด้วย บังเอิญว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา ชีวิต มันเป็นเส้น ตรง เลยไม่มีอะไรมาเขียนให้ อ่านเลยครับ จริงๆมีเรื่องแย่ๆแยู่เรื่องหนึ่ง แต่ผมจะเล่ามันไปพร้อมๆกันกับสิ่งที่เกิดขึ้น เลยแล้วกันนะครับ  ที่เหลือตอนนี้ ก็คงเป็นเรื่องที่วุ่นวายในชีวิตผมเหลือเกิน ผมเลวนะครับ แต่จะจบยังไง ขอให้ทุกท่านตามอ่านนะครับ
มีอะไร ติชม ผมวานฝากไว้ในเม้นนะครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

“โอมห์ เราถามอะไรหน่อยดิ”
“อะไรว่ะ นะโม”
“ให้โอมห์เลือกระหว่าง ตกนรก กับ ใช้ชีวิตต่อไปอย่างมืดมน โอมห์จะเลือกอะไร”

สวัสดีครับ ผมชื่อโอมห์ เป็นตัวละคร จากอีก เรื่องหนึ่ง ที่มาอยู่บน เรื่องนี้อีกครั้ง เพราะ ผมกำลังจะทำลายเรื่องเก่าแล้วเริ่มต้นใหม่ ใครสงสัยว่า โอมห์คือใคร คงต้องย้อนไปเมื่อ 3- 4 ปีที่แล้ว โอมห์ เคย มีตัวตนในเรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง วันนี้ อย่าคิดว่าผมเคยเรื่องใหม่เลยนะครับ ให้คิดเสียว่าผมมาเล่าเรื่องงี่เง่า ในมุมของตัวร้ายให้ฟังดีกว่า เรื่องแย่ๆนี้มันคงเกิดขึ้นมาพร้อมๆกับที่ผมรู้จักกับมิ๊ก ใครอยากรู้ว่ามิ๊กคือใคร ไปย้อนอ่านดูนะครับ เราตกลง ว่าเราจะคบกัน รักกัน แล้วก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน จนกระทั่ง วันนี้ ที่มีเรื่องแปลกๆ ผ่านเข้ามาในชีวิต
  มะโนเป็นเป็นเพื่อนของมิ๊ก ต่างมหาวิทยาลัย จริงๆผมเจอเขาตั้งแต่ ที่ผมอยู่ ปี 2 แล้วเห็นจะได้ ถ้านับจากตอนนั้น เรียกได้ว่าผมก็รู้จักนะโมมาไม่น้อยกว่า 5 ปี นะโมอายุมากกว่าผม 2 ปี จริงๆมันเป็นคนที่ดูเงียบๆ แต่หน้าตา ช่างตรงสเป็กผมเหลือเกิน ไว้วันหลังผมจะเอารุปให้ดูนะครับ แต่ถ้าเทียบกับมีกแล้ว ก็คงจะคล้ายๆ กันแต่คนละสไตล์ มากกว่า ในช่วงระยะเวลา 5 ปี เราก็เจอกันบ้างปีละ 1- 2 ครั้ง เพราะ นะโมเองก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว ซึ่งแฟนเขา ก็อายุมากกว่า นะโม กับเท่าตัว เรียกว่าอ่อนกว่าแม่นะโมแค่ 3 ปี ตอนแรกก็คิดว่าเขาอยู่กับเพราะเงิน (ตอนหลังผมก็รู้ว่าเขาอยู่กันเพราะเงินจริงๆ) นะโมเข้ามาใกล้ชีวิตผมจริงๆก็ช่วง เดือน พฤษศจิกายน ที่ผ่านมาเนี่ยละครับ ตอนที่แฟนของเขามีปัญหาทางการเงิน แล้วผมยื่นมือเข้าไปช่วย ซึ่งไม่คิดเลยว่าเรื่องมันจะยุ่งมากมายขนาดนี้

15 วันที่แล้ว ผมกับนะโมยังเป็นแค่เพื่อนกัน จนกระทั่ง ผมกับเขา เริ่มคิดมากเกินกว่าคำว่าเพื่อน จริงผมก็คือว่าไม่จำเป็นต้องมากกว่านี้ก้ได้ แบบนี้ผมกับไอ้นะโมก็รู้สึกดีนะ มันติดอย่างเดียวก็แค่รู้สึกอึดอัด เวลาที่อยู่ใกล้มันก็เท่านั้นเอง จนมีน้องคนหนึ่งสงสัยมันจะดูออก มันก้เลยบอกกับผมว่า
“พี่โอมห์คิดว่าพี่จะมีชีวิตอยู่อีกกี่วันว่ะ” น้องผู้หญิงที่ทำงานด้วยกันอยู่ดีๆก็ถามผมขึ้นมา ขนาดที่ผมกำลังเตรียมทำงานก่ะที่สองอยู่
“ไม่รู้ดิ  ถามทำไม”
“ก็ถ้าพี่ไม่รู้ พี่จะมานั่งถอนใจอยู่แบบนี้ทำไมว่ะ ชอบเขาก็บอกให้เขารู้ ดีกว่าไม่มีโอกาสได้บอก ความสุขของเรากับการหลอกตัวเองไปวันๆมันไม่เหมือนกันนะพี่” แล้วประโยคสนทนาก็จบไป ทิ้งไว้แต่ผมที่อยู่กับความคิด และ มะโนสติที่สร้างขึ้น คืนนั้นทั้งคืนผม ยุ่งกับการทำร้านอาหารเล้กๆของผม จนกับไป ก็มีโอกาสได้คุยเรื่องนี้กับมิ๊กเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรกับประโยคสนทนาพวกนี้มากนัก แล้วต่างคนก็ต่างนอนหลับไปในอ้อมขาและอ้อมแขนกันและกัน 
เช้าวันรุ่งขึ้นผมจำเป็นต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ซึ่งอาจจะค้างรึไม่ค้าไม่รู้ ผมขอให้นะโมมาช่วยที่ร้าน เพราะคิดว่าอาจจะกลับมาไม่ทัน เป้าหมายของผมคือจะไปหาหมอ ดูท่านหนึ่งที่ผมก็นับถือท่านในระดับหนึ่ง และไปจัดการปิดการขายของผมด้วย

ในเวลาที่ค่อนข้างสับสนในเรื่องความคิด อะไรแบบนี้คงเหมาะที่จะสนับสนุนความคิดชั่วๆของผมแน่นอน ผมเนี่ยเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชอบเข้าข้างตัวเอง และ เอาตัวเป็นไปจุดศูนย์กลางของปัญหาด้วย ไพ่มันบอกแบบนั้น ผมมีเรื่องเดือนเนื้อร้อนใจ เพราะบริวารที่รับเข้ามา มันก็บอกแบบนั้นอีก แล้วเรื่องที่ผมกำลังจะทำ มันทำให้ผมมีความสุขนะ แต่ก็จะได้รับความทุกเหมือนกัน เพราะความรักมันตรึงผมให้ติดอยู่กับที่ ยิ่งผมดิ้นมาเท่าไร มันจะทำให้ผมยิ่งอึดอัดมากขึ้นเท่านั้น ความรักเราไม่ได้เหมือนกับหญิงสาว ที่จะมามั่นคง ความรักของพวกเราเกิดมาเพื่อหาความสุข ไม่ใช่ความพอดี มันจะต้องเป็นเราสุขด้วยและเขาสุขด้วย ไม่ใช่มานั่งหลอกว่าสิ่งที่ทำอยู่นี้เรามีความสุขรึว่าเพียงพอแล้ว แต่เขาจะไม่ใช่คู่ชีวิตเราแน่นอน คำทำนายนี้ช่างทำลายครอบครัวผมเสียจริงๆ ผมเสียเงินค่าครุไป 99 บาท จริงๆร้อยหนึ่งนั้นละ เพราะ เขาไม่ได้ทอนผม ผมเก็บเรื่องนี้ กลับมาที่เชียงใหม่ พร้อมกับความคิดต่างๆ นานา ที่มีอยู่ในหัวว่าจะเริ่มบอกมันยังไงดีว่ะ แล้วจะทำตัวยังไงดีว่ะ ผมมาถึงร้านในเวลาเกือบ 3 ทุ่ม อยู่กันครบทุกคน ทั้ง นะโม มิ๊ก แล้วก้ แฟนนะโม
     พอผมพูดถึงตรงนี้ แล้วเริ่มจะคิดออกแล้วใช่ไหมครับ ว่าผมกำลังเป็นตัวร้ายของเรื่องสั้นเรื่องนี้ นะโมเป็นเพื่อนรักของมิ๊ก แฟนของนะโม คือพี่ชายที่ผมเคารพ แล้วนะโม คือคนที่ผมแอบชอบมานานแสนนาน ผมถึงร้านใช่เวลากินข้าวแล้วพูดถึงเรื่องงานกับมิ๊กนิดหน่อย แล้วชวนนะโมออกไปคุยกันข้างนอก ทำเป็นบอกกับทุกคนว่าจะไปหาซื้อขนมหวานกิน ระหว่างทางผมเล่าเรื่องทุกอย่างให้นะโมฟังทั้งหมด ว่าผมไปทำอะไรมา ผมไปคุยกับใครมา แล้ว สุดท้ายผมคิดว่าผมจะพูด ณ ตอนนั้นเลยดีไหม
“โอมห์ นะโมมีไรจะถามว่ะ”
“ว่า”
“ถ้าเราชอบใครคนหนึ่งอยู่ แล้วเรารู้ทั้งรู้ว่าไม่มีทางที่เขาจะรักเรา เราจะยังรักเขาอยู่รึเปล่าว่ะ” มันจะรุ้ไหมว่ะว่าคำถามเมิงเนี่ย ทำใจกรูแทบสลาย
“นะโมชอบใครอยู่หรอ” ผมแข็งใจแล้วก้เปลี่ยนเพลงที่เล่นอยู่
“เปล่าแค่ถามดู บ้างครั้งเราก้แค่อยากเห็นหน้ารึว่าอยากได้ยินเสียง บ้างที่เราพยายามทำให้เขารู้นพว่าเรารักเขาแต่เขาก้ไม่สนใจ” นโมะครับ เมิงจะรู้ไหมเนี่ยว่าตัวกรุเลย ผมปากสั้นแล้วก้พูดอะไรไม่ออก รีบเหยียบรถมามิดไมค์ แล้วทำหน้าปรกติเดินขึ้นร้านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“นะโม พรุ่งนี้ 4 โมงนะ เดียวเจอกัน” นี้คือประโยคสุดท้ายที่ผมบอกนะโม ก่อนที่มีกจะเดินเข้ามาชักสีหน้าใส่ผม
คืนนั้นทั้งคืนมันช่างสับสน วุ่นวายกับคำถามของมัน จริงๆแล้วไม่ใช่เราอยุ่แล้ว แต่เขาต้องการบอกอะไรเรารึเปล่าว่ะ รึว่า มันคืออะไรกันแน่ จนเช้า ทุกๆคืน ตลอดเวลา 1 เดือนที่ยิ่งใกล้กันมากขึ้น ในฝันของผมจะต้องมีนโมติดเข้ามาตลอด ผมคิดว่าผมไม่ได้รักคนที่หน้าตานะครับ ผมคงชอบคนที่นิสัย รึว่าความรู้สึกกว่า เพราะถ้าเอามาเทียบกัน นะโมกับมิ๊ก หน้าตาก็คนละแบบเลย เพียงแต่สองคนนี้คล้ายกัน มาก แต่มีแค่บ้างอย่างที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง ผมใช่เวลาทั้งวันเพื่อทบทวนว่าจะทำดีรึไม่ทำดี พูดรึไม่พุดดี จนเวลาก็ล่วงเลยมาถึง 3 โมงเย็น
    ผมฟังเพลง มันคงเป็นความรัก กว่า 20 รอบในวันนี้ เพื่อปลุกใจว่า ถึงวันนี้ จะไม่ใช่คำตอบที่เราต้องการ แต่เราก็จะรอ เหมือนที่เพลงมันบอกนั้นละ จนผมรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ยืนอยู่ที่กาดสวนแก้วแล้ว

   นโม ใช่เวลาในช่วงพักเพื่อที่จะมาหาผม แต่สิ่งที่นโมคิดคือ ว่าเราจะไปฟิตเนสกัน แต่จริงๆแล้วไม่ใช่สำหรับผม 
“นโม กินข้าวกัน” มันทำหน้างง พร้อมกับเดินตามผมเข้าไปที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง
“โอมห์กินได้หรอ ทำฟันมานิ” ใช่ครับ ผมเพิ่งไปหาเรื่องใส่ตัวมา  จริงๆก้เป็นเพราะอยากให้นโมมันสนใจด้วยละครับ
“สั่งไปเหอะว่ะ กรุมาคุย ส่วนเมิงอ่ะกินไป กินเสร็จแล้วค่อยคุย” นโมทำคิ้วชนกัน สั่งอาหารเสร็จ มองหน้าผม แล้วนโมก้เดินไปตั้งซุปมาให้
“มา พูดมาได้แล้วว่าเรื่องอะไร”
“กินก่อนเหอะ เดียวค่อยคุย”
“โอมห์จะพูดไม่พูดว่ะ ไม่พูดเราก้ไม่กิน”
“เอ๋อ” ผมทำท่าทีอ้ำอึ้ง ใจเต้นแรง
“ว่าไงโอมห์”
“ก้ได้ว่ะ เมิงว่ากรูแปลกๆ ไปป่ะช่วงนี้”
“อืม ”
“แล้ว รู้รึเปล่า”
“รู้ดิ โอมห์ชอบนโมใช่ไหม” มันรู้ นโมมันรู้อยุ่แล้ว แบบที่ผมคิดไว้จริงๆด้วย
“เมิงรู้”
“อืม ตอนไหนว่ะโอมห์ รึว่าเป็นตอนที่เราไปนั่งกอดนายตอนปีใหม่”
“ง่ายไปมั้ง นโม กรุไม่ได้จุดติดง่ายขนาดนั้นนะ”
“แล้วโอมห์ต้องการอะไร อ่ะ”
“ก้ไม่รู้ว่ะ แต่บอกแล้ววันี้ต้องเสียเพื่อนแน่ๆ ”
“เห้ย เราไม่ได้คิดอะไร คนชอบเรามันมีเยอะแบบนี้อยุ่แล้ว”
“เอ่อเมิงหล่อ” แต่ให้เมิงรู้ไว้ว่าจริงๆกรุอยากเอาชนะเมิง
“โอมห์”
“ว่า” ผมพยายามจะกินสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และพยายามจะเคี้ยวเพื่อไม่ให้เจ็บปากไปมากกว่านี้
“แล้วไอ้มิ๊กละว่ะ มันจะว่ายังไงถ้ามันรู้เรื่องนี้ เราไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นวายไปมากกว่านี้ เป็นแบบนี้ก็ดีอยุ่แล้วไม่ใช่รึไงว่ะ”
“ถ้าถามกรู กรุก็ว่ามันก็ดีนะ แต่ ก็แค่อยากรู้ว่าจริงๆแล้วเมิงรู้สึกยังไงกับกรูก็เท่านั้นเองละว่ะ” ผมจบประโยคแล้วก็ปล่อยให้ นะโมใช้เวลาคิดสักคู่ ใหญ่ๆ ในขนาดที่ระหว่างช่วงเวลาที่เราสองคนไม่ได้พูดกัน ผมสังเกตว่าจริงๆแล้ว นะโมน่ารักมากๆเวลาที่เขินแบบนี้
“มองอะไรว่ะ โอมห์”
“มองคน แก ที่มีเด้กคนหนึ่งนั่งคาดคันเอาคำตอบไง” เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ผมกับนะโมมีเวลาคุยกันเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นหลังจากที่เรา เริ่มเจอกัน ผมเดาทางถูกว่า เรื่องนี้มันผิด จริงๆแล้วก็ผิด แต่ผมเองอยากจะเอาชนะ มากกว่า ทั้งชนะใจไอ้ตัวนะโม คงเพราะครั้งหนึ่งผมคิดดูถูกตัวผม เองว่าจะไม่สามารถที่จะมีค่าพอที่จะให้คนอย่างไอ้นะโมสนใจได้ แต่วันนี้ผมว่าผมพร้อมแล้ว มันจะใช่การสวมเขาให้มิ๊กรึเปล่าผมก้ไม่รู้ แต่ผมก็ถามตัวเองตลอดทั้งตอนที่รับฟัง และ เตรียมใจกับคำตอบที่จะได้รับ เพราะ ผมก็มีแค่ 2 อย่างในใจคือ
1 ถ้านะโมตกลงคบ ผมก็ดีใจ
2 ถ้านะโมบอกกับผมว่า เราคงคบกันไม่ได้เพราะ เราทั้งคู่ต่างมีแฟนอยู่แล้ว เป็นเพื่อนได้มัน ผมก็คงจะบอกว่า มันคงเป็นความรัก ที่ทำให้ตัวเรายังจะใช้ชีวิตต่อไปเพื่อที่จะเอาชนะเขาให้ได้ เหมือนเพลงแสตมป์เลย เพราะอย่างน้อยไอ้นะโมก็รู้แล้วนิว่าผมคิดยังไงตลอดเวลาที่ผ่านมา

“โอมห์เดียวเราไปตอกบัตรก่อนนะ แล้วเดียวไปส่งที่รถ” ผมนั่งจ่ายเงินค่าอาหาร แล้วรอ ให้นะโมกลับมา


สักพักไม่นานนะโมก็รีบวิ่งกลับมาหา ผม แล้ว เดินจับมือผมมออกไปจากร้านโดยไม่อายสายตาคนแถวนั้นเลย นะโมพยายามบอกกับผมว่าไม่เป็นไร แล้วชวนคุยเรื่องอื่น จนมาถึงลานจอดรถ

P5
ลานจอดรถ ช่วงเวลา 5โมงเย็นกว่าๆ คนไม่เยอะมาก รถก็ไม่เยอะด้วย แต่ก็มีคนอยู่
“โอมห์ ถึงแล้ว”
“อืม นะโมว่าไง คำตอบ” นะโมเดินเข้ามาใกล้ผม
“มา กอดกัน” นะโมยิ้มแล้วเดินเข้ามาสวมกอดผม ฝ่ายเดียว  ผมแน่ใจนะครับว่าฝ่ายเดียวเพราะผมเขินมาก กับเหตุกานณ์นี้ นะโมเป็นเหมือนคนในความคิดผม ที่ผมไม่คิดว่าจะจับต้องเขาได้ เหมือนเวลาที่เราแอบมองดาราขนาดนั้นเลยนะครับ แต่อ้อมกอดนี้ผม แน่ใจว่าตัวผมไม่ได้โหยหาย แต่ นี้มันคือเซอร์ไพร์สำหรับผม
“โอมห์ ไม่เป็นไรจริงๆนะ” นะโมพูดขนาดกอดผม
“อะไรว่ะนะโม”
“เรากลัวว่ามันจะมีเรื่องยุ่งยากมากกว่านี้ว่ะ เราว่าเราเหนื่อยนะกับชีวิตเราตอนนี้ ถ้าเรามาคบกับนายชีวิตเรามันจะไม่วุ่นวายมากกว่านี้อีกรึไง”
“ไม่รู้วะ นะโม แต่เราไม่สนใจว่ะ ตอนนี้ตัวเราก็มีครบทุกอย่างอยู่แล้ว แล้วทุกสิ่งที่มีมันก็เป็นสิ่งที่เราสร้าง ตอนนี้เราก็เหลือคำตอบแค่นายเท่านั้นละ แต่เชื่อเถอะเราเตรียมคำตอบในใจมาอยุ่แล้ว” ผมค่อยๆ ดึงตัวออกจาก อ้อมกอดของนะโม แล้วเปิดประตูรถเตรียมตัวจะออกจาก ที่ตรงนี้

“โอมห์ ลองดูก็ได้นะ” ผมได้ยินไม่ผิด ใช่ไหม ผมพยายามถามตัวเอง อีกครั้ง
“ว่าไงนะ” จริงผมได้ยินแล้วนะแต่อยากได้ยินให้ชัดมากกว่านี้
“ก็คบไง” ผมยิ้ม หน้าแดง ร้อนแล้วก็
“ไปทำงานเหอะนะโม”
“แค่นี้เอง อ๋อ” นะโมทำหน้าแปลกใจ
“ทำไมอะนะโม เราต้องทำหน้ารึว่า ต้องทำยังไง”
“ไม่รุ้ดิ” ผมคิดอะไรม่ออกเพราะดีใจจนบอกไม่ถูก
“โอมห์ยื่นมือมาหน่อยดิ” ผมยื่นมือให้นะโม
“อะเอาไปก่อน 1 หอม แล้วกลับไปทำร้านได้ละ อย่าให้ไอ้มิ๊กรู้ละ ไม่งั้นเรื่องใหญ่แน่ แม่ครัวอีกคนนะ”
“ครับผม” ผมยืนดูนะโมจนเดินพ้นสายตาไป แล้วเพลงในรถก็ถูกเปิดอย่างดัง ที่สุดตั้งแต่ มีรถคันนี้
------------------------- มันคงเป็นความรัก
ที่ทำให้ตัวฉัน ยังยืนอยู่ตรงนี้
มันคงเป็นความรัก ที่ทำให้ใจฉัน
ไม่ยอมหยุดเสียที ----------------------------------------------

ผมรู้แล้วละ และก็ตะหนักแล้วด้วยว่าเรื่องวุ่นวายในชีวิตผมจะต้องเริ่มต้นที่ตรงนี้แน่นอน คำว่าคบตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับชีวิตผมในอนาคตผมแน่นอน แต่สิ่งที่ผมรู้ตอนนี้คือ นะโมกรุโครตมีความสุขเลยว่ะ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
ย้ายกลับมาให้แล้วนะคะ

เจ้สอง

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :mew1: ดีใจที่โอห์มกลับมา

แต่ตอนนี้ ทำเราช็อค  :a5:
เรานึกว่าหลังจากที่โอห์มสมหวังกับมิ๊กแล้วจะดำเนินมาได้ด้วยดีตลอดซะอีก
เพราะเห็นทั้งสองคนผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย เจ็บทั้งสองคน
แต่สุดท้ายโอห์มก็ไปชอบนะโม และแอบคบกันด้วยเหรอ
 :hao5:เราสงสารมิ๊กจัง เราไม่รู้นะว่าตอนนี้โอห์มรู้สึกกับมิ๊กยังไง คือแค่เพื่อนเหรอ
หรือว่ายังเป็นคู่ชีวิตอยู่ เรานึกไปถึงตอนที่โอห์มคุยกับโน๊ตเลยที่บอกว่าสุดท้าย โอห์มจะได้คบกับคนรักที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุด

ใจจริงถ้าคบกับนะโม เราอยากให้คุยกับมิ๊กจัง ยังงี้มิ๊กเหมือนโดนสวมเขาอ่ะ สงสารเค้านะ

มาต่อเร็วๆนะจ๊ะ ยังคาใจอยู่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ poisongodx

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3

magemann

  • บุคคลทั่วไป
ซวยแล้ว อ่านถึงตอนที่เข้าห้องโน็ตแล้วจู่ๆวีดีโอก็เปิดขึ้นมา
แล้วตอนนี้ผมนั่งอ่านอยู่คนเดียวในมหาลัย กะว่าจะเขียนงานต่อ....... เกิดหลอนขึ้นมากระทันหัน
....จะขี้แตกไหมวะเนี่ยคืนนี้

ออฟไลน์ bosslovely

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-29
รอๆ รอลุ้นต่อไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น

รีบๆมาต่อนะคราฟ

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
เป็นกำลังใจให้คุณโอมเสมอมาน่ะค่ะ^____^

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
เอิ่ม...ค่ะ อ่านข้ามวันข้ามคืน สลบกันเลยทีเดียว เหอะๆๆๆ

enhumto

  • บุคคลทั่วไป
อยากจะเล่าต่อจังเลยครับ
แต่บังเอิญถูกมือที่มองไม่เห็น มาแอบลบ ทุกครั้งที่ เขียนเสร็จตลอด นี้มันจะ ครึ่งปีแล้วยังไม่ได้มาต่อสักทีเลย ผมขออภัยจริงๆครับ แต่ผมจะพยายามเอามาลงให้ทุกท่านที่ยังไม่ลืม ผมนะครับ
โอมห์

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8

enhumto

  • บุคคลทั่วไป
ขออภัยในการห่างตัวไป อย่างไร้ร่องรอย เนื่องจาก เรื่องวุ่นวายทั้งหลาย ผม ไม่ได้มีโอกาส ที่เอาบันทึกประจำวันไม่เรียบเรียงสักที่ วันนี้มีโอกาส เลยได้มาฝากให้เพื่อนๆได้อ่าน ผมจะใช้ความพยายามให้มาก ถึงมากที่สุดในการจบเรื่องนี้ให้ได้นะครับ ขอบคุณครับ ที่ไม่ทิ้งกัน

ทางเลือก
ร้านอาหารที่ผมตั้งใจทำขึ้นมา เพราะไม่รู้จะทำอะไรในช่วงเย็น เรียนจบแล้วต่างก็มีงานประจำทำกัน ผมกับมิ๊กก้ทำงานคนละที่ แต่คนต่างทำงานของตัวเอง แต่เรื่องร้านเหล้าเล็กๆนี้เป็นไอเดียของมิ๊ก ที่อยากจะหาเงินมาผ่อนมิเตอร์ไซค์เล่นๆ แต่เหนื่อยโครตๆ ปีนี้เป็นปีที่ผิดแปลกไปจากทุกๆปี เพราะอากาศหนาวมันอยู่กับเรานานจริงๆ  จนตอนนี้ก็เดือนกุมภาแล้ว ความเย็นยังไม่หายไปไหนเลย ผมเดินทางถึงร้านหลังจากที่ได้รับคำตอบที่เพิ่งพอใจ

ทุกอยู่ดุเหมือนปรกติ เพราะผมก็ทำตัวปรกตินิครับ คืนของอีกวัน ผมไม่ได้เข้าร้าน ปล่อยให้มิ๊กจัดการกับลูกค้าที่ร้านโดยตัวผมออกไปข้างนอก กับนะโม ไม่เชิงว่ากินข้าวรึว่านัดกันเป็นเรื่องเป็นราว แต่ผมแค่ต้องออกไปทำธุระ เลยมีโอกาสได้เจอกันในสถานที่ เห็นหนึ่งเท่านั้นเอง ผมเพิ่งจะรู้ว่าดารรับฟัง หมายถึงเป็นผู้ฟังเรื่องราวที่น่าสงสารพวกนั้นทำให้ผมรู้สึกเป็นห่วงและอิจฉาได้มากขนาดนั้น อันเนี่ยละ ที่เราเรียกว่าหลง และ มันก็สอนให้ผมรู้บทเรียนในภายหลัง

ในวันที่เรื่องราวทุกอย่างถูกเปิดออกมา แบบไม่มีอะไรให้เก็บไว้อีกแล้ว ผมคิดว่าผมคงหลงและคิดน้อยไป ผมเชื่อคำพูดหนึ่งที่ว่า ถ้าเรามีความสุขกับสิ่งที่เราทำก็ทำไปเถอะ ใช่แต่ความสุขมันทำร้ายเรา จนเจียนตาย
“เมื่อไรว่ะโอมห์” มิ๊กยืนกำหมัดแน่น ผมยืนขั้นกลางระหว่าง มิ๊กกับนโม
“ไม่นานนี้เอง แต่พวกกรูไม่มีอะไรกันนะ มันก้แค่ความรู้สึกดีๆ เฉยๆนะมิ๊ก” ผมพูดปนสะอื้น
“ความรู้สึกดีๆ อะไรของเมิงว่ะ ”
“เห้ยพวกเมิงคุยกันดีๆสิว่ะ” นโมพูดแทรกขึ้นมา
“เมิงก็อีกคน ไอ้เหียนโม กรุให้งานเมียเมิงทำ กรูเพื่อนเมิงนะโว้ย แล้วไอ้โอมห์นี้มันหียอะไร” มิ๊กชกเข้าไปที่ปากนโมเต็มแรง
“เห้ยกรุขอโทษ กรุไปก่อนได้” นโมลุกขึ้นยืนทำท่ากำลังจะเดินออกไปจากบ้าน  ผมได้แต่ยืนดุด้านมืดของคนสองคน กรุสมควรรู้สึกดีไหมเนี่ยที่มีคนมาทะเลาะกันเพราะกรู คนไม่ใช่สิว่ะ กรูสงสารนโม แต่มิ๊กกว่ากรูจะมีวันนี้กรูก็เสียไปเยอะเหมือนกันนะ ถ้าต้องเลือก

“เมิงพูดมาดิโอมห์ เมิงจะเลิกใคร” มิ๊กกำแก้วในมือ
“เลือกอะไรว่ะมิ๊ก ไอ้นโมมีเหียอะไรที่ไหน ” มิ๊กขว้างแก้วเหล้าไปใส่ที่ประตู หวิดหัวนโมไปนิดเดียว เอาแล้วสิว่ะ น้ำตาผมเริ่มไหลอาบแก้ม ตอนแรกที่คิดมเรื่องมันไม่ใหญ่ขนาดนี้นิว้า
“เมิงอย่าเพิ่งไป สร้างปัญหาแล้วกรุณาอยู่ให้ถึงตอนจบ”
“มิ๊กใจเย็นๆ ดิ ไอ้นะโมมันก็เพื่อนนะ พวกกรุไม่ได้ทำอะไรเลย ก็แค่ให้มันเข้ามาอยู่บ้านด้วย อีกอย่างบ้านหลังนี้เมิงก็ไม่ค่อยได้อยู่เมิงก็อยู่คอนโดส่วนใหญ่อยู่แล้วนิว้า กรุไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ”
“อ๋อ พวกเมิงก็คุยกันไปสิว่ะ”นโมตอบแล้วพยายาม จะเปิดประตูบ้านออกไป
“ตะกี้มันแค่ประตู รอบบนี้หัวเมิงกรูว่าไม่พลาดแน่ๆ เมิงก่อปัญหา เมิงแย่งเมียกรุ เมิงทำให้คนที่กรูรัก ไปเห็นใจเมิง อยู่ดีๆ เมิงจะเดินออกไปแบบนี้ไม่ได้” มิ๊กซีเรียสกับเรื่องนี้ ผมเห็นมันกำหมัดแน่นมาก บ้านนี้มันเงียบ เงียบเกินไปแล้วจริงๆ ผมอยากให้เรื่องนี้มันจบเร็วๆ สุดท้ายนะโมก็วิ่งออกไป สตารท์รถแล้วก็จากไป ส่วนตัวผมนั้นรึก็เสือกวิ่งตามมันออกไปอีก โดยที่ไม่ได้คิดถึงใจของมิ๊กเลยด้วยซ้ำ

..........ถ้าเรื่องว่ารัก กรูก็คิดว่ากรุรักทั้งคู่ เห็นแก่ตัวว่ะ อยากให้มิ๊กอยู่ข้างๆ โดยที่ก็อยากให้นะโมไม่ไปไหนเหมือนกัน แต่เรื่องราวทุกอย่างต้องจบ ผมต่อสายตรงถึงแม่ โดยทันที เขาว่ากันว่าเวลาที่ลุกมีเรื่องเดือดร้อนให้ปิดบังยังไงก็คงไม่มีทางมิด
“แม่...............” การที่พยายามบอกว่าไม่เป็นไร ในขนาดที่ใจมันสับสนและวุ่นวายขนาดนี้มันยากจริงๆ
“เรื่องมิ๊กใช่ไหมลูก”
“ครับ”
“ไม่ต้องร้องไห้นะ ค่อยๆเล่ามาว่าเป็นยังไง เดียวแม่จะโทรไปคุยกับมิ๊กให้”  แล้วมิ๊กก็เดินจากไป โดยเหตุผลที่ว่าเมิงสมควรอยู่คนเดียวแล้วนั่งคิดว่าเมิงต้องการใครกันแน่ในชีวิตของเมิง

มันบอกผมตลอดว่าชีวิตมันทั้งชีวิตมันยอมทิ้งที่บ้านออกมาเพื่อที่จะยืนอยู่เคียงข้างผมและสร้างสิ่งที่เราขาดให้มันมีขึ้นมาในเวลาเดียวกันมันเองก็ต้องทำงานในหลายด้านเพื่อที่จะเป็นผู้ใหญ่ ส่วนผมนั้นรึ ว่านั่งงมงายบ้าบอกับเรื่องพวกนี้ปล่อยตัวปล่อยใจ แต่ก็บอกได้แค่ว่าตัวกรูหลง และ ทุ่มลงไป เต็มที่ หลังจากที่ผมไม่สามารถเลือกได้ว่าใจต้องการใครกันแน่ เพราะเราห่วง คนทั้งคู่มากจนเกินไป จนสุดท้ายกรูเดินจากไปแล้วปล่อยให้เวลาเป็นตัวจัดการเรื่องราวทั้งหมดเองเลยจะดีกว่า


....ท่านผู้โดยสายที่จะเดินทางไปจังหวัดกระบี่ กับสายการบิน  ....   ผมใช้เวลาหนึ่งคืนกับการนอนบนเตียงครุ้นคิดทุกอย่างและเปิดดูเงินในบัญชีไปมา 2 – 3 รอบ ทำยังไงมันก็นอนไม่หลับตาเรามันเต็มไปด้วยน้ำตา มือถือไม่มีแม้แต่สายเรียกเข้าจากคนทั้งสองคน มีแต่ข้อความที่ส่งมาจากเพื่อนที่รู้จักกันและรู้เรื่องผ่านทางเฟสบุ๊กของเราทั้งคู่  จนผมคิดว่าผมทนอยู่กับบรรยากาศแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว ผมต้องไปที่ไหนสักที่ ที่ที่มันไกลจากเรื่องราวพวกนี้

--กรุขอโทษนะเมิงที่กรูไม่เป็นผู้ใหญ่พอที่จะเลือกในตอนนี้—  โอมห์
ข้อความถูกส่งผ่านมือถือไปยังปลายทาง ผมรอจนแน่ใจว่าปลายทางได้อ่านแล้ว ผมจึงปิดเครื่องและ บอกลาจังหวัดเชียงใหม่ จากกันสักพักนะเรื่องยุ่งๆ ไว้ผมกลับมาเราค่อยเริ่มต้นกันใหม่ แค่ 1 ชั่วโมง จากเชียงใหม่ก็มีทะเลแล้ว ไม่เห็นจะเป็นเรื่องยากถ้าอยากจะสร้างบรรยากาศแบบคนอกหัก ข้อดีในการเดินทางคนเดียวแบบไม่มีการวางแผนคือ ก็ไม่รู้อะไรเลย มือถือนี้ก็ลืมมันไปสักพัก ทั้งเรื่องงาน และ เรื่องอื่นๆ พักยาวๆกันไปเลย คนเดียวที่ผมโทรบอกหลังจากที่เหยียบสนามบินแล้วคือ แม่ เพราะจากเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก็น่าจะมีแต่แม่ที่เป็นห่วงผมมากที่สุด ส่วนนะโมนั้นรึ ผมเคยพยายามติดต่อก็แค่ 10 ครั้ง หลังจากนั้นในเมื่อเขาเป็นคนที่เดินหนีปัญหา ผมก้ไม่จำเป็นต้องไปยุ่งกับปัญหาของมันอีกแล้ว


“พี่โอมห์ ...........” คงมีคนชื่อคล้ายผมแน่ๆ ระหว่างที่เดินออกมามึนๆบริเวรทางออกของสนามบิน
“พี่โอมห์...........” ไม่ใช่แน่ๆ ไอ้น้อย นี้มันเรียกผม
“พี่โอมห์ แม่นก้อครับ” พูดเมืองด้วยนะเนี่ยไอ้น้อยนี้
“เรารู้จักกันด้วย หรอ” ผมถามไปแบบโครตเสียมารยาท ก็กรูตรงนี้ว้า
“รู้จักดิพี่ กินเหล้าด้วยกัน เต้นด้วยกัน ร้องไห้ด้วยกัน ทำอะไรด้วยก็ต้องหลายอย่าง”
“ทำไมจำไม่เห็นได้เลยว่ะ”
“พี่อะไรว่ะเพิ่งจบไป ปีเดียวเลอะขนาดนี้แล้วรึไงว่ะ” มันพูดแบบนี้แสดงว่าคงเป็นรุ่นน้องกรุแน่ๆ
“อยู่ปีไหนละเรา”
“จำผมได้แล้วใช่ไหมพี่”
“กรุจำไม่ได้หรอก แต่คิดว่าน่าจะเป็นรุ่นน้องพี่ว่ะ”
“เอ่อช่างมันเถอะพี่”
“อ้าวไอ้นี้ ไม่บอกแล้วกรูจะรู้ไหมเนี่ย”
“ช่างมันเถอะพี่ ว่าแต่พี่มาทำไมที่เนี่ยอะครับ แล้วมากับใคร แฟนพี่ไปไหนละ ”
“ใครว่ะ ”
“พี่มิ๊ก คนที่ตี่ๆ หล่อๆ ไง”
“มันไม่ว่าง พี่อยากมาก็มาคนเดียวเนี่ยละ”
“ทะเลาะกันอะดิ ผมเห็นสเตตั่นพวกพี่อยู่ เห็นพี่มิ๊กปิด เฟสไปเลย  ไม่เป็นไรนะพี่” ไอ้น้อยนี้เดินเข้ามาโอบไหล่ผมแล้วพยายามลากผมเดินไปกับมัน  นี้กรูกับเมิงสนิทกันตั้งแต่เมื่อไรว่ะไอ้น้อย
“เห้ย ทำไรว่ะ อายเขา” ผมรีบพูด ทั้งที่ในสนามบินมันก็ไม่มีใครสนใจเราอยุ่แล้ว
“โห่ พี่ เราเรียนด้วยกันโครตหลายวิชา กินเหล้าด้วยกันก็บ่อย ร้องไห้ด้วยกันก็มี ” แล้วมันเกี่ยวอะไรกันว่ะ ไอ้น้อย
“แล้วไง ”
“เอาน่าพี่ เที่ยวคนเดียวมันสนุกรึไงครับ”
“เมิงรู้ได้ไง”
“อย่ามา ฟรอมเลยพี่ ผมเห็นพี่ยืน เศร้าๆ คนเดียวตั้งแต่ที่เชียงใหม่ละ แต่ผมไม่ได้เข้าไปทัก เพราะผมกลัวเสียมารยาท อีกอย่างคิดว่าพี่มีกจะมากับพี่ด้วย”
“เอ่อนั้นมันเรื่องของ พี่ป่าวว่ะไอ้น้อย แล้วเมิงมาทำไมที่นี้”
“ผมก็มีจุดหมายของผมเหมือนกันละพี่” จนตอนนี้ผมก็จำไอ้น้อยนี้ไม่ได้หรอกนะครับ คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก แต่ก็เอ่ออ๋อกับมันเพราะอย่างน้อยผมก็ไม่ได้เที่ยวคนเดียว เรื่องที่คุยกับคนที่เราไม่รู้จัก แบบนี้ก็เรียกว่าสร้างมิตร ดีไม่ดีจะได้คนแชรืค่าห้องรอบนี้ด้วยก็อาจจะเป็นได้
“ดีว่ะ พี่แม๋งไม่รู้ว่าจะไปไหนเลย ”กรูว่ากรุไม่ได้ทำหน้าเศร้า เรียกร้องความสนใจเลยนะ แต่กรุไม่มีที่ไปจริงๆนิว้า
“พี่เคยดูกวน มึน โฮ ไหม”มันจะเปิดประเด็นอะไรของมันว่ะ ระหว่างที่มันพาผมเดินไปเรื่อยๆ จนถึงทางออก
“เคยทำไมว่ะ ”
“ก็เราก็เที่ยวกันแบบนั้นไง แค่ที่นี้ไม่ใช่เกาหลี แถมคนที่นี้ก้พูดภาษาไทยคงไม่น้ำเน่าแบบในหนังหรอก”
“แล้วยังไงว่ะพี่ไม่เห็นจะเข้าใจ”
“พี่อยากจะเรียกผมว่ายังไงก็ได้ ส่วนผมจะเรียกพี่ว่าพี่โอมห์ แล้วเราก็ไม่ต้องสนใจเรื่องที่เราเพิ่งเจอมา ดีไหมพี่ พี่ช่วยผม ผมช่วยพี่” ไอ้น้อยนี้มันหมายความว่าอะไรผมไม่รุ้หรอกครับ แต่ไม่ต้องเที่ยวคนเดียว มีเพื่อนคุยด้วย แบบนี้ก้สนุกดีนะ อย่างน้อยเราก้ไม่ต้องมานั่งเศ้รา กินเหล้า ฟังเพลงเศร้า แล้วน้ำตาตกคนเดียว
“เอ่อก้ได้ ไอ้น้อย”
“ใครคือไอ้น้อยว่ะพี่”
“ก้เมิงนั้นละ ให้พี่เรียกว่าอะไรก้ได้ไม่ใช่รึ”
“โห่ โครตเมือง อะ”
“ไปกันรึยัง หิวแล้วว่ะ” ผมเอามือลูบท้อง แล้วยิ้มให้ไอ้น้อย น้องมันไม่ได้ตอบอะไร แต่เดินนำหน้าผมไปขึ้นรถประจำทาง

"เที่ยวคนเดียวไม่ต้องใช้ความกล้าครับ ใช้ความเหงาล้วน ๆ" สายตาผมแอบไปเห็นสถานนะที่ผู้โดยสารข้างๆผมกำลังอับขึ้นบน FB ของตัวเอง แล้วมันก็นั่งอมยิ้ม ทั้งที่อากาศร้อนแบบนี้  แต่ใจผมกับไม่รู้สึกร้อนเหมือนตอนที่อยู่ที่เชียงใหม่ ผมไม่ได้สนใจ Fb ไม่สนใจมือถือ ไม่สนใจอะไรสักอย่างที่อยู่ในโลกเดิมที่ผมจากมา ตอนนี้ปลายทางของผมมีแค่ร้านข้าวและทะเล ปล่อยให้รถทำหน้าที่ของมัน ส่วนผมก็ทำหน้าที่ของผมคือนั่งไปเรื่อยๆและเป็นผู้โดยสารที่ดี


“ป่ะพี่โอมห์ ถึงแล้ว” ผมยื่นเงินไปจ่ายค่ารถให้ลุงคนขับ แต่ไม่ทันไอ้คนที่อยู่ใกล้ น้อยชิงจ่ายเรียบร้อย แล้วบอกว่าค่ารถมันไม่แพง มันเลี้ยงได้ แต่ที่จ่ายค่าข้าวดีกว่า  กรูมีความรุ้สึกว่า ต้องเป็นหน้าที่ของคนเป็นพี่สินะ ไอ้น้อย  เจ้าเหล์จริงๆเมิง  ทะเลที่นี้สวย สวยกว่าหลายๆที่ที่ผมเคยไป แต่ก้รู้สึกเหงาแปลกๆ ที่ไม่มีเขายืนอยู่ข้างๆ ไม่มีคนมาค่อยกวน รึว่าเอาใจ ชวนกินอันโน้นอันนี้ จะไปเหงาทำไมเน๊าะ ก็เราเป็นคนเลือกที่จะเดินหนีเขามาเองนี้หว้า

“เอานี้พี่ แดดเเรงจนตาแดงหมดละ เดียวจะน้ำหูน้ำตาไหลสะเปล่าๆ วันนี้ยังอีกยาว นะครับ” น้อยเอาแว่นกันแดดมาใส่ให้ผม
“ขอบใจ แล้วเราไม่ใส่รึ ”
“ไม่หรอกพี่ คนใส่แว่นตา คือคนที่อยากปกปิดสิ่งที่เขาไม่อยากบอกใคร รึว่าไม่สบายใจ ตอนนี้ผมไม่มีอะไรให้คิดแล้ว”
“กรุถามนิดเดียวตอบสะยาวเลยนะ”
“ยิ้มแล้วรึพี่” นี้เรายิ้มอยู่หรอกว่ะ ทำไมไม่รู้สึกเลยว่าตัวเองยิ้ม
“ยิ้มเหียไร”
“กินข้าวกันเหอะพี่ จะได้ไปหาโรงแรม นอน ”




“เหลือแต่เตียงเดียวนะคร่ะ”
“เอาไงพี่ นี้เราหามา 3 ทีแล้วนะ”
“เอาเถอะ พี่นอนตรงไหนก็ได้ทั้งนั้นละว่ะ ไม่เรื่องมากหรอก”
“หรอ ไม่เรื่องมากเลย ”
“เอ่อพี่ครับ โรงแรมนี้ไม่มีผีใช่ไหมครับ” ผมรีบถามคำถามกับพนักงาน
“พี่โอมห์ ถามแบบนี้มา 3 โรงแรมแล้วละครับพี่ ”
“ไม่มีหรอคร่ะ แต่ที่ชายหาดไม่แน่นะคร่ะ ช่วงสึนามิ เหมามาเยอะเหมือนกัน ตอนกลางคืนอย่าไปเดินเล่นคนเดียว”
“จริงสิพี่” พนักงานทำหน้าอมยิ้ม
“คร่ะ”
“พี่โอมห์ จะไปทำไมคนเดียว จะไปไหนบอกเดียวผมไปเป็นเพื่อน ”ไอ้น้อยยิ้มให้ผม แล้วก็แบกกระเป๋านำหน้าผมไปที่ห้องพัก จริงๆ กรุก้เข้าใจนะว่าห่วงว่าจะเป็นอันตรายสำหรับแขกที่มาพัก แต่ไม่เห็นต้องอ้างเรื่องผีเลยนิว้า
“พี่กลัวพี่ ขนาดนั้นเลย”
“อืม เมื่อคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ”
“ทำไมว่ะพี่”
“ก็...............” จะบอกเขาว่านอนร้องไห้ทั้งคืน ก็น่าเกียจว่ะ มาเที่ยวจะไปนึกถึงเรื่องแย่ๆที่ตัวเองทำทำไม
“ก็อะไรพี่...ไม่ใช่ว่านอนร้องไห้ทั้งคืนเลยรึยังไง ผมเห็นนะ”
“บ้า เมิงเห็นอะไร ถึงละห้อง กรุง่วงจะนอนละ จะทำอะไรก็ทำไปนะ” ผมทิ้งสัมภาระที่ติดตัว แล้วถอดเสื้อถอดกางเกงเตรียมนะขึ้นเตียงนอน
“เห้ยพี่ ทำไมต้องถอดขนาดนี้ว่ะ” ไอ้น้อยมันทำหน้าแปลกใจ
“เมิงจะถามทำไมว่ะ คนจะนอน จะให้ใส่กางเกงยีนท์นอนรึยังไงว่ะ อึดอัด”
“แล้วทำไมต้องถอดเสื้อว่ะพี่”
“เมิงตกใจอะไรของเมิงว่ะ ตอนรับน้องพวกกรุทำกันกว่านี้อีก”
“ก็ใช่พี่ แต่นั้นคนเยอะแยะ นี้มีกันสองคน” โค๊ะบ่านี้ยังไม่เลิกซัก
“เมิงเป็นผู้ชายป่ะเนี่ย อย่าเรื่องมากว่ะ งั้นเมิงนอนบนเตียงเลย กรูนอนโซฟาเอง” ผมลากผ้าห่มลงมากองที่โซฟาแทนแล้วนับ 1 2 3 4 5.................................................. ผมจำได้ว่าฝันกลางวันวันนั้น เป็นเรื่องราวเดิมที่ผมเคยไปอยู่มาแล้วทั้งสองครั้งที่ซ้อนกัน ภาพของโน็ตที่นอนอย่างสงบในโลงไม้ เสื้อผ้าชุดสุดท้าย และการบอกลาของผม ผมนั่งมองเปลวควันค่อยๆ ลอยขึ้นจนสุดท้ายในงานไม่มีใครนอกจากมิ๊กที่จับมือผม  แล้วก็ซ้อนมาอีกงานคือ งานของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่เป็นคนเดินเรื่องของผมอย่างมีสีสัน มันทำให้ผมเห็นอะไรหลายๆอย่างในชีวิต ว่าการที่เราใช้ชีวิตคู่มันไม่ได้มีแค่คนสองคน แต่มันมีโอกาส มันมีความไว้ใจ และเชื่อใจ อุปสรรคมากมาย เอิท เสียชีวิตไปได้เกือบปีแล้ว เป็นเรื่องที่น่าตกใจพอๆกับที่เสียใจ ประโยคสุดท้ายที่น้องมันพูดกับผม ก่อนที่เราจะไม่ได้เจอกัน จนกระทั่งวันนี้ น้องโดนไฟดูดตาย แต่สาเหตุมาจากการฆ่าตัวตาย ฝันของผม ผมกำลังก่อนมิ๊กแล้วร้องไห้ ในฝันผมได้แต่ทาตัวเองว่าผมทำร้ายชีวิตเด็กคนหนึ่ง ถ้าตอนนั้นผมปล่อยให้เอิทอยู่กับมิ๊ก เอิทคงไม่ต้องมีจุดจบแบบนี้ น้องเอิทตรวจพบว่าตัวเองมีเชื้อ ก่อนที่ชีวิตจะจบ สถานนะสุดท้าย

-ผมขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ที่สร้างผมขึ้นมา และทิ้งผมให้โดดเดียวเหมือนกัน วันนี้ผมเหลือตัวเองกับอนาคตที่ผมหาไม่เจอ ขอบคุณพ่อกับแม่ ที่แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่ผมก็ขอบคุณที่ทำให้ผมเกิดขึ้นมา ขอบคุณพี่ ที่ช่วยเหลือให้โลกของผมไม่ดำมืดจนเกินไป ขอโทษนะครับที่ต้องรบกวน แต่ครั้งนี้จะรบกวนเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว -
เอิท ปลอกสายไฟ บ้าน ให้เหลือแต่ทองแดง แล้วใช้มือกำไว้แน่น มีรอบไหม้ที่แขน และก็จากเราไป นี้คือเรื่องราวสุดท้ายที่ผมได้ยิน จากคนรอบข้างของน้องมัน 



“พี่ ”
“พี่โอมห์”
“พี่” ฝันนี้หว้า มันคือความฝันจริงๆ แต่น้ำตาที่ไหลนะของจริง น้ำลายไม่มีนะ แต่คนปลุกเรานี้ดูหน้าประหลาดใจมากๆ   
“พี่ร้องไห้ทำไม”
“ฝัน”
“ฝันอะไรว่ะพี่ จะดราม่าขนาดนี้” ผมสูดน้ำมูกเสียงดัง
“เอ่อฝัน ไม่ดีว่ะ กี่โมงละ”
“4 โมงเย็นละพี่ ไปทะเลกันไหม”
“ทะเลก็อยู่แค่นี้เอง” จะรอกรุทำไมว่ะเนี่ย
“โห่พี่ พี่มาเที่ยวรึพี่มานอนเนี่ย”
“เอ่อไปก็ไป”
“น่ารักที่สุดเลย ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ค่อยน่าคบหน่อย”
“กรูรู้สึกว่ากรุเป็นรุ่นพี่เมิง รึป่าวว่ะ”
“ผมเปลี่ยนเสื้อแป๊บนะพี่” ไอ้น้อยถอดเสื้อ มันเป็นการเภยให้เห็น สิ่งที่มันสร้างขึ้น แบบเต็มตาจริงๆ ทั้งอก ทั้งท้อง แล้วก็รอยสัก เป็นแถบประโยค เล็กๆที่หน้าอก ผมจ้องตาไม่กระพริบเลย เหมือนหลุดออกมาจาก  หนังสือเลย

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
น่าสงสารมิกจังเลย ฝ่าฟันด้วยกันมาก็มากนะโอห์ม  :m15:
กว่าจะมีวันที่ได้อยู่ด้วยกัน ได้รักกัน บอกว่าจะดูแลกันไปตลอดชีวิต
กว่าจะเจอรักครั้งนี้ต้องเสียทั้งโน้ตและปลื้มไปเลยนะ
ขนาดโน๊ตยังมั่นใจเลยไม่ใช่เหรอว่า มิกเป็นความรักของโอห์ม

แล้วลูกของผู้หญิงที่มิกแต่งงานด้วยเป็นไงบ้างเนี่ย แอบสงสัยอยู่ว่าไฟใช่พ่อเด็กป่าว
แถมโตมาอาจจะเหมือนปลื้ม

แอบช็อคเอิทฆ่าตัวตายเพราะได้รับเชื้อ นึกว่าหลังเลิกกับมิกก็ไม่ได้ไปยุ่งใครแล้วซะอีก
หาทางออกไม่ได้เลยต้องฆ่าตัวตาย ฮือ

ขอให้ฝ่าฟันอุปสรรคไปได้นะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
บอกตามตรงนะ โอห์มเป็นคนโลเล เข้าใจใครก็เป็นได้

ในช่วงเวลาที่เราเสียใจ ใครทำดี มีน้ำใจเราก็เอนเอียงเป็นธรรมดา

แต่มันหลายครั้งแล้วนี่สิ...

ทั้งสองคนรักโอห์มแต่ไม่สามารถอยู่กับโอห์มได้ แต่มิกเกือบจะเสียไป 2 ครั้งแล้วแต่ก็ยังมีชีวิตอยู่

เราเชื่อนะว่ามิกคือ คู่แท้กับโอห์ม จงรักษาไว้ให้ดี เค้ายอมทิ้งบ้าน ครอบครัวเพื่อเรา

โอห์มไม่น่าเอาอารมณ์อ่อนไหวมาทำให้เสียรักแท้ไปนะ ถามใจตัวเองดีๆ มีความรักกับตัวเราจะไปแสวงความรักอีกทำไม

ทำไมไม่รักษา ก่อนที่มันจะสายไปแบบโน๊ตกับปลื้ม อย่าลืมว่าผ่านอะไรมาบ้างจนกว่าจะมาอยู่ด้วยกันแบบตอนนี้

เราพูดตามความคิดของเรานะ ถ้าไม่พอใจอะไรก็ขอโทษด้วยแล้วกัน  :mew2:



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-08-2014 00:16:42 โดย Sohso »

ออฟไลน์ ummax

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

tikwatt

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วหนึบ ๆ ในใจนะคับ ติดตามตลอดไปคับ

ออฟไลน์ akkharadech

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
หน่วงจริงๆ อินทุกเรื่องที่มีฉากจับชู้+นอกใจ เพราะเจอมาบ่อยให้อภัยซ้ำซากจนชินสุดท้ายก้อต้องต่างคนต่างไป เข็ดกับการเอาชีวิตไปผูกกะอีกคนจนถึงตอนนี้ไม่กล้ามีแฟนอีกเลย ปล่อยให้คนที่ผ่านเข้ามาให้ผ่านไปเฉยๆเพราะความกลัว ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะครับ อ่านรวดเดัยวจบไม่หลับไม่นอน วางไใ่ลงจริงๆ เหมือนอ่าเรื่องตัวเอง อ่านๆดูแล้วจริงๆเรื่องของมิกกะเอิทตอนที่จับได้คงไม่ใช่ครั้งแรกเพราะตอนอยู่เชียงใหม่ก้อติดต่อไม่ได้หลายๆครั้งนิน่าสงสัยหลายรอบเลยทั้งตอนไปกินข้าวสองคนละกลับดึกๆนั่น และตอนปิดเครื่องตอนขึ้นดอยคงแอบมีไรกันมานานละใช่มะกว่าจะจับได้ คิดว่าตอนนี้แหละที่จี้ดสุดอ่านละเจบจี้ดๆเลยอ่ะ

ออฟไลน์ GMT101

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 234
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2

ออฟไลน์ nisaporn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้เมื่อปี 2018 ยังไงก็ขออวยพรให้ชีวิตของโอมห์มีความสุขนะคะ ว่างๆก็เข้ามาทักทายกันอีกนะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด