ขอโทษทีครับผม วันนี้ไปซ่อมรุ่นน้องมา เหนื่อยจริงๆ กับการทำให้มันเป็น ปิ๊กแผ่นเนี่ย เรื่องวันนี้มันก็เเลยดูเหนือ่ยๆ อะไรที่นึกได้ก็พยายามเขียน เหตุการณ์ที่หยิบมา ก็ล้วนแต่เป็นส่วนที่ประทับใจทั้งนั้น ถ้าไม่ประทับใจอะไร ผมคงลืมเลือนไปบ้างแล้ว เห้ยง่วง วันนี้ อาจจะไม่สนุก
ก็เหมือนกับชีวิตคนละครับ จะสนุกทุกวัน คงไม่่เรียกว่าชีวิตคนปรกติแล้วครับ
แต่ผมก็ไม่ปรกตินะ อิอิอิ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การเปลี่ยนแปลง
“มิ๊กๆ มิ๊กๆ ไปปิดนาฬิกาปลุกทีดิ รำคาญ” อะไรว่ะ ทำไมมันเช้าเร็วแบบนี้ เหมือนได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมงเอง ดันตัวเองให้ลุกขึ้น เหลือบไปมองหน้าต่าง วันนี้ฟ้ามันมืดๆ สงสัยฝนจะตก นอนต่อดีไหมเนี่ย ตัวตนที่แท้จริงของผมมันเสนอความเห็น แล้วผมก็ทิ้งตัวลงนอนต่อ โดยมีไอ้มิ๊ก นอนอยู่ข้างๆ
“ยังไม่ตื่นอีกไงว่ะโอมห์ เมิงขี้เกียจไปไหนเนี่ย ลุกๆ” อ้าวเวง กรูไม่ใช่รึที่บอกให้เมิงตื่นก่อน กลายเป็นกรูผิดสะงั้น
“ตื่นแล้วเมิงก็ไปอาบน้ำสิว่ะ ไอ้มิ๊ก จะมาบอกกรูทำไมครับ จะนอนต่ออีกสัก 10 นาทีได้ไหมเนี่ย” ตาผมยังปิดอยู่
“ไม่ได้เมิงต้องมารีดผ้าให้กรู ลุกๆ วันนี้มีเรียนวิชาของเจ๊ใฝ่นะ” มันเป็นประโยคคำสั่งใช่ไหมครับ อืมใช่จริงๆด้วย
“อืม.........เดี่ยวกรูจัดการให้” ผมไล่มันให้ไปทำอะไรก็ไป แล้วก็นอนต่อ
“โอมห์ เวฟกาแฟให้ด้วยนะ” คราฟ ไอ้ท่านชาย เมื่อก่อนกรุไม่เห็นเป็นขี้ข้าเมิงแบบนี้เลย
ผมทนความรำคายไม่ไหว เลยลุกขึ้นมาเปิดข่าว ลุงสร... แล้วก็ตั้งโต๊ะรีดผ้า กำลังจะเดินไปตู้เสื้อผ้า ไปหยิบ เสื้อมารีด แต่ก็ ต้องเจอกับ
“มองอะไรเมิง ทำยังกับไม่เคยเห็น กรูลืมหยิบผ้าเช็ดตัว หลบๆๆๆ” มันเดินแก้ผ้าออกมา แล้วพูดแบบ เฉยๆ ไม่มีไรเกิดขึ้น แล้วก็แทรกตัวมาหยิบผ้าขนหนู แล้วก็เดินจากไปในห้องน้ำอีกครั้ง อะไรของเมิงเนี่ย
“โอมห์ เร็วๆนะเมิงเดี่ยวไปเรียนไม่ทัน” เสียงตะโกนมาจากห้องน้ำ ผมรีบรีดเสื้อช๊อปทั้ง 2 ตัว แล้วก็เวฟกาแฟให้ท่านชาย แล้วมานั่งรอให้มันออกมาจากห้องน้ำ
“นานไปไหมเมิง นานไปละ ทำอะไรอยู่ว่ะมิ๊ก” ไม่มีเสียงตอบ ออกมาจากห้องน้ำ
“มิ๊ก.....มิ๊ก......เมิงทำเหียไรอยู่ว่ะ ชักว่าวไง” ไม่มีเสียงตอบรับจากเป้าหมาย ผมเริ่มจะเป็นห่วง
“มิ๊ก กรูเปิดนะ” ผมยังรออยู่ เผื่อมันจะตอบกลับมา แต่ก็ยังเงียบอยู่ เห็นท่าจะไม่ดีละ เลยเปิดประตูห้องน้ำเข้าไป ดู
ปรากฏว่า เห็นมิ๊กนอน อยู่ในอ่างอาบน้ำ (ห้องน้ำผมเป็นอ่างอาบน้ำครับ) ตัวแดงเป็นลูกหนุเลยตอนนี้ ก็มันแก้ผ้าอยู่นิครับ
“เห้ย มิ๊ก ตื่น ดิ มิ๊ก มิ๊ก ” ผมตกใจทำไรไม่ถูก ได้แต่เรียกมัน “มิ๊กๆ ไหวไหมเนี่ย”
“ไหว กรูไหว” มันพยายามจะพูด ผมก็เลย เอ๋อ อย่างน้อยก็เมิงก็ไม่ได้มาเป็นศพในส้วมนี้ละ
ผมลากมันมาที่เตียง ให้อุ้มคงไม่ไหว เพราะตัวมันใหญ่ วันนี้คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องไปเรียนแล้ว คงต้องอยู่ดูไอ้มิ๊กแล้วละครับ ดีเหมือนกันกรูก็ไม่อยากไป วันนี้เหมือนฝนจะตกด้วย
“โอมห์วันนี้เมิงจะมาเรียนไหมว่ะ ” โทรสับเข้า เสียงปลายสายนำมาก่อนที่ผมจะทันดูเบอร์คนโทรเข้าสะอีก ไอ้ไนท์
“ไอ้มิ๊กมันไม่สบายว่ะ เมื่อกี้เป็นลมในห้องน้ำอ่ะ กรูคงต้องอยู่ดูมันว่ะ” ดูมันจะตื่นเต้นกับคำตอบของผมมากๆ
“เห้ย จริงดิ มันเป็นไรมากป่าวว่ะ ไปโรงบาลไหมเดี๋ยวกรูโทรบอกให้พอดีแม่กรูเป็นพยาบาลอยู่โรงบาลสวน...” เอ๋อ ผมลืมคิดเรื่องโรงบาลไปสะสนิทเลย
“รอดูสักอาการมันพักก่อน เดี๋ยวถ้ามันแย่กว่านี้เดี่ยวกรูโทรบอกเมิงแล้วกันนะ ” จริงๆอยากจะบอกว่ากรูขอนอนต่อสักพักก่อน แล้วถ้าจะไปโรงบาลขอสายๆแล้วกัน
“กอดกรูหน่อยดิ กรูหนาวว่ะ” ไอ้มิ๊กพยายามจะพูดกับผม
“ผ้าห่มก็มีเมิงก็ห่มดิ ผมบอกมัน” แล้วก็ดึงผ้าห่มมาห่มให้
“เมิงก็ห่มดิ เดี่ยวกรูก็ติดไข้ไปกับเมิงแล้วใครจะมาดูแลว่ะ” ผมบอกมัน คือรำคาญด้วย กรูอยากนอน
“บอกให้กอดก็กอดดิ” เห้ย โทรสับสั่นอีกแล้วผมหยิบโทรสับผมขึ้นมาดู อ้าวไม่ใช่เครื่องกรูนิว้า สงสัยเป็นเครื่องมิ๊ก
ผมเดินหามือถือมันไปทั่วห้อง กว่าจะเจอ โทรสับก็เงียบไปแล้ว
1 สายไม่ได้รับ
พอผมกำลังจะส่งให้มิ๊ก โทรสับมิ๊กก็สั่นอีกรอบ
หนู๋ แนน
ชื่อคนโทรเข้า กรูจะรับดี รึเปล่าว่ะ แต่ถ้ากรูไม่รับ เดี่ยวมันก็โทรมาอีก
“พี่มิ๊ก อยู่ไหน เมื่อคืนทำไมไม่มากินข้าวก่ะแนน” อิเวง เมิงจะไม่รอให้กรูพูดก่อนรึว่ากรูไม่ใช่ไอ้มิ๊ก
“มิ๊กนอนอยู่ มันป่วย มีไรป่าวครับ” 555555+ หน้าแตกเลยเมิง
“อ้าว พี่มิ๊กเป็นอะไรมากไหมค่ะ ”
“ก็ คนป่วย มันต้องเป็นยังไงละครับน้องถามแปลกจริงๆ” ผมเริ่มจะกวนละ
“อ้าวพี่ค่ะ ก็หนูอยากรู้นิค่ะ เดี่ยวหนู่เข้าไปหาพี่มิ๊กแล้วกัน” มันรู้จักห้องกรูด้วยรึ
“......... รู้จักห้อง อ่อครับน้อง” ผมถามด้วยความสงสัย
“รู้สิค่ะไปออกบ่อย” จี๊ดเลย จี๊ดเลย ผมพูดไรไม่ออกแล้ว
“ใครโทรมาอะโอมห์” ไอ้มิ๊ก ทำท่าจะลุกขึ้นมานั่ง เพราะเห็นผมคุยโทรสับของมันอยู่
“ไม่มีไร เขาโทรผิด” ผมบอกมัน แล้วไม่อยากจะพูดอะไร เดินไปใส่เสื้อผ้า ไปมหาลัยดีกว่า
“อ้าวเมิงไม่หยุด มาอยู่กรูรึไงวันนี้” ผมถามผม
“อยู่ทำไมว่ะเดี๋ยวก็มีคนมาดูเมิงแล้ว กรูไปเรียนดีกว่า จะได้ลาครูให้เมิงไง” ผมพยายามเก็บความรู้สึก ไว้ไม่อยากจะให้มันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็เดินออกจากห้อง
มันทำไมรู้สึก แบบนี้ อึ้ง พูดไรไม่ออก ดูงงๆ มึนๆ เมื่อตะกี้ตอนตื่น กรูยังเป็นคนที่ รีดผ้า ชงกาแฟ เหมือนเป็นแม่บ้านที่โครตมีความสุข แต่ ไอ้คำพูดที่ว่า เคยมาออกบ่อย นี้มันอะไร
“ไปไหมครับพี่ เสียงคนในลิฟท์ถามผม” มาตั้งแต่เมื่อไรว่ะ
“ไปครับ” เห้ย คอนโดเรานิมีคนหน้าตาดีเยอะจริงๆเลยวุ้ย
“พี่เรียนคณะอะไรครับ” ถามใครว่ะ ผมมองดูคนในลิฟท์ มีกันแค่สองคนนิว้า
“อ่อพี่เรียนวิดวะไฟฟ้าครับ” ถึงพอดี พอสิ้นคำพูดผม ประตูลิฟท์ก็เปิดพอดี ไม่ได้ใส่ใจในประโยคคำถาม เพราะกำบังคิดเรื่องในห้องค้างอยู่
คาบแรกเช้านี้คงไม่ทันจริงๆ นี้ก็ เก้าโมงกว่าแล้ว ผมเลยตัดสินใจไปกินข้าวรอเวลาก่อนเข้าเรียนอีกวิชาดีกว่า
วันนี้โรงอาหารคนไม่มาก อาจจะเป็นเพราะอากาศ ที่มันดูไม่สดใส + กับตอนนี้ก็ เก้าโมงกว่าแล้ว นักศึกษาคงเข้าเรียนกันหมด ผมเดินตรงไปร้านอาหารประจำของผม
“เอาพแนงไก่ ขอแห้งๆไม่ต้องเอาน้ำแกงราดมาบนข้าวนะครับ แล้วก็ไข่ดาว ขอสุกๆด้วย” ใครว่ะสั่งเหมือนกรูกินเลย
“แล้วก็เอา อันนี้ อันนี้ อันนี้ เก็บเงินที่คนนี้นะครับ” สั่งเสร็จแล้วก็ให้ป้ามาเก็บเงินที่ผม
“เห้ย มาเก็บไรที่กรูว่ะเนี่ย” ผมยังสงสัยอยู่
“อ้าวเมื่อคืนบอกว่าจะเลี้ยงข้าวกรู จำไม่เคยได้นะเมิง” อ้าวไอ้โน้ตนิเอง
“เท่าไรครับป้า” ผมถามป้า
“ไม่ต้องหรอกจ๊ะ หนุ่มคนนั้นจ่ายไปแล้ว” แล้วจะมาให้กรูเลี้ยงทำไมว่ะ
“เมิงมากับใคร ” มันถามผม
“เมิงเห็นกรุเดินมากับใครละ เห็นไหม ถ้าเมิงไม่เห็นกรูแสดงว่ากรูมาคนเดียว” ผมบอกมัน
“ดี มื้อนี้กรูเลี้ยงเมิง ถือว่าเป็นการขอทาที่กรูแกล้งเมิงเมื่อวานแล้วกัน แต่ข้าวกรู กรูยังไม่ลืมนะ”
มันเดินนำผมไปนั่งที่โต๊ะ ที่ตั้งอยู่บนระเบียงที่ยื่นออกไปในคู่น้ำ วันนี้แดดไม่ออก อากาศก็ไม่ร้อน เลยนั่งได้ถึงแม้ว่าตอนนี้จะ เก้าโมงแล้วก็ตาม
“รู้ได้ไงว่ากรูชอบกรุแบบนี้” ก็มันสั่งแบบที่ผมเคยสั่งทุกครั้งเลย
“ป่าวกรูเดาเอา ทำไมเมิงไม่ชอบไง เทให้หมาแด๊ก ก็ได้นะ”
“ป่าว ก็กรูชอบอะดิ กรุถึงถาม แปลกใจว่าเมิงรู้ได้ไง ”
“ชอบก็ดีละ แด๊กๆเข้าไป ” มันออกคำสั่ง
“นิ กรูไม่ใช่รุ่นน้องเมิงนะ อีกอย่างคณะเมิงก็กรูก็ไม่กินเส้นกัน มานั่งกินด้วยกันแบบนี้เมิงไม่กลัวรุ่นน้องเมิงเห็นไง”
“กลัวทำไมว่ะ กรูไม่ได้ขอเงินพวกมันกิน ” มันตอบแบบขอไปที ได้กวนจริงๆ
“ป่าว กรูแค่สงสัย”
“มีเรื่องอะไรอีกไหมครับคุณโอมห์ที่เมิงไม่สงสัย”
“เมิงจำชื่อกรูได้ด้วยไงเนี่ย”
“ชื่อเมิงกรูรู้มาตั้งนานแล้ว”
“ฮืม.............อะไรนะ เมิงรู้ชื่อกรูมาตั้งนานแล้ว หมายความว่าไงว่ะ” ไอ้นี้ชักจะยังไงแล้วนิ
“ป่าว ไม่มีไร กินข้าวเถอะ” โน้ตมันออกปากพูดแล้วก็ไปสนใจเรื่องกินแทน ผมก็กินข้าวได้นิดหน่อย เพราะมันไม่อยากสักเท่าไร
“ทำไมว่ะ กินข้าวกับกรูมันไม่อร่อยรึไง” ผมพูดเสียงเศร้ากับผม
“ป่าว แค่ไม่ค่อยสบายใจว่ะ ” คงเป็นเพราะเรื่องเมื่อเช้า
“คนร่าเริงแบบเมิงมีเรื่องให้ไม่สบายใจด้วยรึไงว่ะ” เวงกำ กรูก็คนนะ
“เมิงมีเรียนกี่โมงว่ะ” มันถามผม
“11.00 ทำไมอ๋อ”
“ดีงั้นเดินไปกับกรูหน่อย”
“ไปไหนว่ะ” ผมสงสัย
“มาก็มาเถอะ”
มันพาผมเดินมาเรื่อยๆ ตัดออกจากโรงอาหาร ข้ามสะพาน มาถึงวังหลัง เดินผ่านคณะเรียนของมัน แล้วก็มาหยุดที่ ห้องสมุด
“มาทำไมว่ะที่ห้องสมุด ”
“เมิงอย่าถามมากได้ไหมว่ะ เด็กไฟฟ้ามันถามมากแบนี้ทุกคนป่ะ” มันบ่นเสร็จ ก็เดินไปคุยอะไรสักอย่างกับพี่ที่เคาเตอร์
“ป่ะ ตามกรูมา” มันเดินนำผมมาที่ห้องอะไรสักอย่างเล็กๆ คนส่วนมากชอบเรียกว่าห้องคาราโอเก๊ะ เพราะพวกบรรดาคณะสาวๆชอบมาร้องกัน แต่ผมคิดว่า เจตนาจริงๆน่าจะเป็นห้องดูพวกสื่อการเรียนการสอนเสียมากกว่า
“เข้าไปดิ จะมายืนทำไมว่ะ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น” ออกคำสั่งอีกละ ผมเดินเข้ามาตามที่มันบอก ข้างในมีโซฟา ยาวๆ สีดำ 1 ตัว นั่งแล้วรู้สึกสบายจริงๆ แล้วมันเดินไปเปิดทีวี
“กรูจะมานอน วันนี้เป็นครั้งแรกที่เมิงกับกรูจะมานอนด้วยกัน” ฮืมๆ ดีๆ มานอนด้วยกัน
“เห้ย เมิงจะบ้าไง จะชวนกรูมานอน กรูคิดว่าชวนกรูมาทำอะไร” ผมตะโกนใส่มัน
“เมิงจะตะโกนทำไมเนี่ย เมิงคิดว่ากรูจะพาเมิงมาทำอะไร ไอ้นี้นิ” เอาว่ะ อีกตั้ง เกือบ 2 ชั่วโมง หาไรดูไปพลางๆฆ่าเวลาดีกว่า ตอนนี้ผมยอมรับว่าผมลืมเรื่องไอ้มิ๊กไปเลย ทั้งเรื่องเมื่อคืน แล้วก้เรื่องเมื่อเช้า
“อันนี้สนุก เมิงดูดิ ” มันเอารีโมท เปิดช่องสารคดี เกี่ยวกับงู ซึ่งกรูไม่ชอบ ไม่ใช่ว่าผมกลัวนะครับ แต่ผมไม่ชอบลายมัน เห็นแล้วใจไม่ดี
“ไม่เอาอะ กรูไม่ดู ไม่ชอบงู”
“งั้น ดูอย่างอื่นแล้วกัน เมิงมีเรื่องอะไรไม่สบายใจว่ะ เล่าให้กรูฟังได้นะโว้ย” มามุขไหนว่ะ ห่วงกรูรึว่า จะแกล้งกรูอีก
“กรูลืมแล้วว่ะ” ผมบอกมัน
“อะไรว่ะ เรื่องไม่สบายใจลืมง่ายขนาดนั้นเลยไง เมิงนิแปลกคนจริงๆเลยว่ะ สงสัยเรื่องไฟฟ้ามากสมองจะเพี้ยน”
“ก็เพราะเมิงนั้นละ” ผมตีหัวมันเบาๆ
“ทะลึ่งละ เพื่อนเล่นไงเนี่ย เดี่ยวกรูกระทืบแม๋งเลย มานี้ดิ มาใกล้ๆนิ” มันบอกผม
ฮืมๆ เวงละ มาหอมแก้มกรูทำไมเนี่ย
“กรูเอาคืนที่เมิงมาตบหัวกรู “ โห่ สัดแรง ถ้ากรูเตะเมิง เมิงไม่ปล้ำกรูไงว่ะ
“เมิงเป็นตุ้ดป่าวว่ะไอ้โน๊ต” ผมหมั่นไส้มันมาหอมแก้มกรู
“กรูดูเหมือนตุ้ดไหมละ ไอ้เหียนิถามแปลก” มันด่าผมอีกละ
“อ้าวใครจะรู้ พวกเมิงนิเก็บกด อาจจะชอบอะไรแปลกๆ” 55555+ กรูเอาคืน
“ไอ้โอมห์ ถ้ากรูชอบชอบของแปลกนะ งั้นแสดงว่าเป็นต้องเป็นของแปลกสำหรับกรู” ไอ้เหี้ย มุขควาย ไม่จี้เลย กรูพูดไม่ออกเลยสัด
“เงียบ สัด เงียบเลย ไม่มีอะไรจะถามแล้วใช่ไหมพอคนช่างถาม” ผมไม่รู้จะคุยอะไรแล้ว จบประโยคสนทนา
“กรูนอนละ ดูอาจารย์ให้ด้วยละ” แล้วมันก็หลับไป ทำไมคนสองคนมันช่างเหมือนกันเสียเหลือเกิน แต่มันก็ต่างความรู้สึก เราอยู่กับอีกคนได้โดยที่เราสบายใจเหลือเกิน ทุกครั้งที่เราเจอมัน เราไม่ต้องคิดอะไร ถึงจะงุนงิดในท่าทางมันบ้าง แต่มันก็ทำให้เรายิ้มได้ ส่วนอีกคนเราอยู่ด้วยแล้วเรารู้สึกอบอุ่น มีความสุข แต่บ้างครั้งมันก็ดูธรรมดาไป บ้างทีชีวิตก็ต้องการเรื่องสนุกๆบ้างๆ