ช่วงนี้ต้องไม่สนุกแน่ๆ เล่นเอาสะตกไปหน้าสองเลยครับพี่น้อง
มาทิ้งไว้แล้วนะครับ ไม่เป็นไร ถึงไม่มีคนอ่านก็ยังจะเขียนต่อไป
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เริ่มต้นใหม่“08 จัดแถว” เสียงรุ่นพี่ กรูนิว้า รุ่นพี่ปีสี่ที่ผมไม่เคยได้พูดถึง มันเปล่งเสียงเรียกน้องปีสามมาเข้าแถว ตั้งแต่ยังไม่ 7 โมงเช้า
ไอ้มิ๊กจอดแล้วก็รีบวิ่งไปเข้าแถวเลย ส่วนผมก็กำลังจัดการเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
“08 จัดแถว” เสียงเรียกซ้ำอีกรอบ เพื่อนๆผมที่มากันอยู่บ้างแล้ว ทยอยเดินกันไปเข้าแถว ทามกลางสายตาของรุ่นน้องทั้งสองชั้นปี
“นับ” วันนี้มันมาแปลกมากๆเพราะร้อยวันพันปีมันไม่เคยเลยที่จะมายุ่ง ปล่อยให้พวกผมเป็นคนจัดการ ไม่รู้ว่ามันมามุขไหน
“ขาดเท่าไร ” ถามหาจำนวนคนที่ยังไม่มา บ้างส่วนก็คิดว่าไม่มีอะไรจะทยอยมากันในช่วงสาย แต่ผมมากันก่อนเพราะจะมาคุมน้อง พวกที่ไม่ค่อยอยากทำกิจกรรม ก็จะมากันตอนสายๆ
“ดี พวกเมิงนัดน้องกัน แต่พวกเมิงมากันขาด มากันไม่ครบ แล้วจะให้รุ่นน้องมาทำตามรึไง ซีรีย์” ไอ้เหีย พวกเมิงมามุขไหนเนี่ย มากันไม่กี่คนทำเป็นมาสั่งกรูทำโทษ ผมเริ่มจะคิดในใจแล้ว ไรว่ะจะให้กรูมาเหนื่อยแต่เช้า
“เท่ารุ่น คูณ 20 ปฏิบัติ” เวง 160 ครั้ง ฆ่ากรูเลยดีกว่าไหมเนี่ย แต่ทำไงได้ว่ะ ถ้าพวกผมไม่ทำ รุ่นน้องก็จะมองไม่ดี
“1 2 3 4 5 6.........................................................” “ไนท์ กรูจะไม่ไหวแล้วว่ะ ” ผมพูดขึ้นมาตอนที่กำลังจะครบ 100
“เมิงไรว่ะ สู้ๆหน่อยดิ จะ100 อยู่แล้ว ทนหน่อย” มันปลอบใจผม
“เมิงจะบ้าไงว่ะ เหียมาจากไหนไม่รู้ อยู่ดีๆก็มาแกล้งเรา” เหนื่อยๆ ฉิบหาย กรูไม่เคยโดนทำโทษมาเป็นปีแล้ว อยู่ดีๆมาสั่งกรู
“หยุด..............................พวกคุณทำอะไรกัน ” เสียงที่กรูรอคอย ไม่ใช่เสียงรุ่นพี่ปี 5 แน่ๆ แต่เป็นเสียงอาจารย์นั้นเอง
“ใครคนสั่ง ” อาจารย์หันหน้าไปที่ ไอ้พวกปี 4 หน้ามันพวกนี้โครตกวนตีน ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
“ป่าวครับ น้องเขาทำกันเองครับ” ดูมันตอบ กรูจะมาบ้าออกกำลังกายตอนเช้ารึไงว่ะ ไอ้ควาย ตอบมาไม่คิด
“ผมเคยสั่งพวกคุณแล้วใช่ไหมว่าห้ามยุ่งกับพวกน้อง ” อาจารย์ดูไม่พอใจกับสิ่งที่พวกปี 4 ทำไปเอาสะมากๆ
“พวกคุณเดินตามผมไปพบในห้อง ทั้งหมดเลยปี4” เอาละเมิงงานเข้าแน่ๆ ผมล้มตัวลงนั่งไปที่พื้นหญ้าเลยครับมันจะไม่ไหวแล้ว เอากันแต่เช้า กรูก่ะจะมาเล่นน้องเลยไม่มีอารมณ์เลย
“พวกพี่ปีสี่หรอกครับพี่โอมห์” ไอ้เอิท เอ๋ยถาม เดินมาพวกกับเพื่อนๆมัน เรื่องพวกปีสี่ไม่จำเป็นต้องเล่าให้พวกน้องปีสองฟังอีก แต่พวกปีหนึ่ง คงยังไม่รู้อะไร ผมคิดอยู่เหมือนกันว่าจะพุด แต่รอให้จบเรื่องวันนี้ไปก่อน
“อืม ไม่มีอะไรหรอก เดี่ยวตอนบ่ายพี่เล่าให้ฟัง” แล้วไอ้ไนท์ ก็ไปจัดการเรียกน้องเข้าแถว เพราะตอนนี้ ก็ใกล้จะ 8 โมงเช้าแล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่ามิ๊กหายหัวไปไหน ไม่มาดูกรูเลยว่า กรูเป็นอะไรรึเปล่า อารมณ์เสีย
“โอมห์ ครู...เรียกไปหา” เสียงทอมสาวเพื่อนร่วมห้องเดินมาเรียก
“เธอเตรียมพร้อมแล้วใช่ไหม วันนี้เธอนำ นะ” ครูบอกหน้าที่ของผมในวันนี้
“ครับผม ทราบแล้วครับ มันก็หน้าที่ผมมา 2 ปีแล้วนิครับ” ตอนครั้งแรกผมโดนรุ่นพี่ แกล้งให้ทำ สงสัยว่าครูจะเห็นว่าเหมาะกับหน้าที่นี้ เลยได้ทำมาตลอดเลย
การไหว้ครูช่างมันต่างจากไหว้ครูธรรมดายังไงนั้นหรอกครับ คงจะบอกได้ว่าไม่ต่างอะไร มีครูมาให้ไหว้เหมือนกัน แต่ครูก็จะมีแต่ครูผู้ชาย ไม่มีครูผู้หญิง ถ้ามีก็จะมีแค่คน ถึงสองคนเท่านั้น พิธีจะไม่ดูเป็นทางการแบบที่โรงเรียน มัธยมทำกัน ไม่มีการมอบรางวัล นักเรียนดีเด่น หรือทุนการศึกษา มีการผูกข้อมือ แล้วที่สำคัญคือวันนี้จะมีการเปิดสายรหัส สรุปก็ไม่มีเห็นมีอะไรแปลกเลยใช่ไหมครับ
“ปาเจราจริยา โหนฺติ คุณุตฺตรานุสาสกา” ผมเอ๋ยนำน้องๆพี่ๆในคณะ เสียงบทสวด ดังไปเอ๋ยๆจนจบ พิธีการดูจะผ่านไปได้เรียบร้อยดี พานที่ทำกันเมื่อคืน พอถูกนำไปมอบให้ครู ดูอาจารย์หลายๆคนต่างก็พอใจในความแปลกใหม่ของรูปแบบ ตอนนี้ไร้แววของปีสี่โดยสิ้นเชิง ไม่รู้ว่าหายไปไหนกันหมดแล้ว แต่ใครจะสนใจละครับ
และแล้วเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เป็นธรรมเนียมทุกปี ที่หลังเสร็จพิธีการไหว้ครู อาจารย์ในคณะจะสั่งอาหารมาเลี้ยงนักศึกษาไฟฟ้าทุกคน แล้วนี้ก็จะเป็นเวลาที่น้องๆ นำข้าวมาให้สายรหัส แต่ ไอ้มิ๊กก็ยังหายหัวอยู่ มันหายไปไหนของมันว่ะ
“ไนท์เมิงเห็นไอ้มิ๊กไหม” ผมถามหามิ๊กเพราะผมไม่เห็นหน้ามันอีกเลยหลังจากที่ลงมาจากรถ
“ไม่เห็นว่ะ เมิงมีอะไรกับมันรึเปล่า”
“นั้นอะ กรูเห็นน้องรหัสมันถามหา” ผมชี้นิ้วไปที่น้องของไอ้มิ๊ก ให้ไอ้ไนท์ดู
มันหายไปไหนว่ะ ผมบ่นพึมพำกับตัวเอง
“อะพี่ ข้าว ” ไอ้โอบยื่นข้าวมาให้ผม
“กินก่อนเถอะ ไม่หิวว่ะ น้องเมิงละกินรึยัง” แล้วก็ให้มันเรียกไอ้เอิท มา
“เอิท เห็นมิ๊กไหม”
“ไม่อะพี่โอมห์ มีอะไรรึเปล่า” ทำไมจะต้องถามกรูจังว่ะว่ามีอะไรรึเปล่า
“โอบไปเรียกสายไอ้มิ๊กมานั่งกินข้าวด้วยกัน ป่ะ” ผมบอกมัน กรูแบบว่า เป็นห่วงน้องๆ
“ว่าไงน้องโอมห์ ” มีฝ่ามือมาจับอยู่ที่ไหล่ ใครว้า มาถึงเนื้อถึงตัวเลย
“อ้าวพี่อารม์ ก็ดีครับพี่ครับ นิน้องเอิท น้องปี 1 ครับสายผม สายพี่ด้วย ” พี่อารม์เป็นพี่รหัสผมครับ พี่เป็นคนดีมากๆเลยครับ หนังสือ ติวเวลาสอบ มีอะไรเอามาให้ผมตลอด พี่เขาเป็นคนสุโขทัย บ้านใกล้ๆกัน เวลากลับบ้านที่ไรจะมีของมาฝากผมตลอด
“ไหว้พี่เขาสิเอิท เนี่ยรุ่นทวด” ผมบอกน้องเอิท แล้วน้องสายมิ๊กก็เดินมาร่วมโต๊ะพอดี
“เอิทไปตักข้าวมาให้พี่อารม์นะ ” แล้วเอิทก็เดินไปตักข้าวมาให้พี่ปี 4 ของมัน ซึ่งจริงๆแล้วมันหน้าที่ผม
“พวกเรารอแป๊บหนึ่งนะ มิ๊กมันไปทำธุระแถวนี้ละ อยู่กับพี่เนี่ยละดีแล้ว พี่กับมิ๊กสนิทกัน” ผมบอกกับน้องๆของมิ๊ก
เรานั่งคุยกันไปเรื่อย จนตอนนี้ เกือบจะบ่ายโมงเข้าไปแล้ว มิ๊กก็ยังไม่มาสักที่ อีกอย่างผมยังต้องไปที่คณะโยธา เลยไม่รอมันแล้ว บอกไอ้ไนท์แล้วก็น้องรหัสให้ตามผมมาด้วย
ตึกอยู่ฐาน เป็นอาคารที่ถูกล้อมด้วยอาคารอีกที่ 1 วันนี้ ทุกคณะในมหาลัยไหว้ครูเหมือนกันหมด แต่ที่คณะนี้มีบายศรีสู่ขวัญรุ่นน้องในตอนบ่าย นั้นมันเป็นเวลาที่ผมบอกไว้เมื่อวาน ว่าแล้วก็หยิบโทรสับขึ้นมาโทรหาไอ้โน้ต
“โน้ต อยู่ไหนอ่ะ ”
“ในคณะ กำลังจะบายศรี”
“ออกมารับไปหน่อยดิ อยู่หน้าคณะ ” แล้วผมก็วางสายไป ผมไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ผมไม่ได้บอกโน้ตด้วยซ้ำว่ามาทำไม ผมยืนรอไม่เกิน 5 นาที โน้ตก็ออกมาที่หน้าคณะ
“ลมอะไรหอบมาถึงคณะผมละครับ คุณชาย” เจอหน้าก็กวนตีนกรูละ
“พาไปหารุ่นพี่ หน่อยดิ” มันก็อาสาพาไปหาโดยดี ไม่ถามสักคำว่าเรื่องอะไร นี้เป็นครั้งแรกเลยครับตั้งแต่มาอยู่ที่มหาลัยนี้ ที่ได้เดินเข้ามาในตึกโยธา คณะนี้มีตึกใหญ่ที่เป็นตึกหลักอยู่ด้านใน ส่วนด้านนอกจะรวมด้วยตึกที่ใช้เรียนวิชาทั่วไป เอาเข้าจริงๆ ใหญ่กว่าคณะผมหลายเท่าเลย
พอเดินมาสักพัก ก็มาหยุดที่หน้าห้อง ห้องหนึ่ง มองผ่านกระจกเข้าไปเจอหน้าของคนคุ้นเคย นั่งคุยอยู่กับพวกบรรดารุ่นพี่ของพวกโยธาอยู่แล้ว
“เข้ามาสิโอมห์” เสียงมิ๊กเรียก มาจากข้างใน นั้นละครับ คือหน้าของคนที่ผมคุ้นเคย มันหายหัวมาตั้งแต่เช้ามาอยู่ที่นี้นิเอง
พอผมเดินเข้าไปในห้อง ต้องแปลกใจอีกครั้ง กับลักษณะภายในห้องที่เป็นห้องสโลบ สูงขึ้นไป เดาเอาว่าปรกติคงจะเป็นห้องเรียน แต่มองจากด้านนอก ดูไม่รู้เลยว่าภายในจะใหญ่โตขนาดนี้ แถวหน้า มีพวกที่มาตบหน้าผมเมื่อวานผมนั่งอยู่ วันนี้ดูเหมือนจะไม่เก่งเหมือนเมื่อวานสักเท่าไร ผมเดินผ่านหน้ามัน ฉีกยิ้มที่มุมปาก แล้วก็เดินเข้าไปนั่งกับไอ้มิ๊ก
“พี่เขารู้เรื่องหมดทุกอย่างแล้ว กรูมาคุยกับพี่เขาตั้งแต่เช้าแล้ว” มันบอกกับผม แน่ละเมิง หายหัวมาตั้งแต่เช้า ไหว้ครูโยธาไปด้วยเลยไม่ละ
“แล้วยังไง พี่เขาว่ายังไง”
“เมิงถามเขาเองดีกว่า” เนี่ยนะเมิงมาคุยกับพี่เขาทั้งเช้า เสือกให้กรูถามเองอีก
“ พี่รู้เรื่องแล้วครับน้องโอมห์ พี่ต้องขอโทษแทนรุ่นน้องพี่ด้วย” พี่คนที่ออกปากขอโทษผมดูสุภาพไม่น้อย จะว่าไปดูดีๆไม่มีนิสัย รึว่าสันดานเหมือนไอ้พวกเมื่อวานเลยสักนิด กรูนิสงสารจริงๆที่มีรุ่นน้องแบบนี้
“ป่าวครับพี่ เรื่องโต๊ะกินข้าว ถิ่นร้านข้าว ผมเห็นมันเป็นปัญหามานานแล้ว ผมไม่รู้หรอกครับพี่ ว่ารุ่นพี่ของผมมันทำอะไรไว้กับคณะพี่ แต่พ่อผมก็จบจากที่นี้ไป ผมรู้ว่าคณะพี่มีมาก่อนที่คณะผมจะได้เปิดเป็นวิศวะมาก็หลายปี แต่ถ้ารุ่นเก่าๆทำอะไรผิดผมก็อยากจะขอโทษ” ผมพูดเสียงเรียบๆ แต่ใจนิเต้นเป็นกล่องแล้ว
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับน้องโอมห์ เรื่องนั้น พวกพี่ก็มีส่วนผิด แต่ในเมื่อน้องกล้าที่จะมาขอถึงขนาดนี้เราคงจะคุยกันได้ อะไรที่รุ่นเก่าๆทำไปแล้ว พวกพี่ก็จะถือว่ามันผ่านไปแล้ว ” คู่สนทนาผมพูดแบบยิ้มๆ เลยทำให้ผมพลอยโล่งใจไปด้วย ผมยิ้มพวกมาลัยที่เตรียมมาออกมาจากกระเป๋า
“พี่ครับ นี้ถือว่าเป็นการเคารพรุ่นพี่ แล้วกันนะครับ แทนคำขอทาที่พวกผมหรือว่า รุ่นพี่ผมเคยทำอะไรไม่ดีกับพวกพี่ด้วย” ผมส่งพวกมาลัย ให้กับพี่เขา ตอนนี้อาจารย์ประจำคณะเดินเข้ามาพอดี ก็คงสงสัยว่าพวกผมเป็นใคร ท่านไม่พูดอะไรแต่ก็เดินไปประจำที่นั่งของท่าน
“ไม่เป็นไรครับน้องโอมห์ ส่วนเรื่องเมื่อวานตอนเย็น รอพวกพี่บานศรี กันเสร็จก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่จะจัดการให้” พี่เขาจัดไหล่ผม แล้วยิ้มอย่างเป็นมิตรเหลือเกิน
“กลับกันเถอะ เรายังมีกิจกรรมอยู่” ผมบอกคนที่มาด้วย แล้วเราก็เดินกลับมาที่คณะกัน
แต่ !!!!!!!!! ไอ้มิ๊ก ไม่รุ้มันเป็นอะไร มันเดินไปหาไอ้โน้ต ซึ่งผมไม่รู้หรอกครับว่าพวกมันรู้จักกันรึเปล่า แล้วทำท่าจะพูดอะไรกันสักอย่าง แล้วก็เดินมาหาผม
“คุยไรก่ะมันอ๋อมิ๊ก” แบบว่าอยากรู้
“เปล่า แค่บอกมันว่า ของกู”มันพูดหน้าลอยๆ
“อะไรของกู ” ผมงงกับคำตอบไอ้มิ๊ก
“ก็เมิงไงของกรู” - - มันย้ำคำตอบ
“กรูไปยอมเมิงเมื่อไร มาตีตรากรูเป็นทาสเลย”
“เดี๋ยวเมิงได้มีแน่ อย่าพูดมากว่ะ หิวข้าว” อะนะ เขาแด๊กกันไปหมดละ แล้วจะเหลืออะไรให้เมิงกินไหม
“น้องรหัสเมิงคงเก็บไว้ให้ละมั้งมิ๊ก บ่ายโมงจะบ่ายสองแล้ว”
“ไม่เป็นไร ถ้ามันไม่เก็บ มันจะได้ขึ้นสู่ที่สุดแน่” ทิ้งประโยคให้กรูงง แล้วก็จูงแขนกรูกลับแผนก