มาต่อบทที่ 6 แล้วอาจหายยาวสักวันสองวันค่ะ ^^"
บทนี้อาจสั้นไปนิด แต่ยกให้นายโทนี่ กับผู้กองภาม เต็ม ๆ ไปเลยค่ะ
==========================
คุณตำรวจยอดรัก
==============
6
โทนี่เปิดน้ำอุ่นใส่ในอ่าง เขาวางร่างของภามแช่น้ำอุ่นไว้สักพัก ก่อนจะเตรียมผ้าขนหนู และเสื้อผ้าผลัดเปลี่ยนสำหรับผู้กองหนุ่มเอาไว้
“อือ … หนาว”
เสียงครางเบา ๆ ของคนในอ่างน้ำทำให้โทนี่ชะงัก เขารีบช้อนร่างนั้นขึ้นมาถอดเสื้อผ้า เช็ดตัวให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แล้วอุ้มไปนอนบนเตียง ก่อนจะใช้ผ้าห่มผืนใหญ่ห่มเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายนั้น
“หมดสภาพเลยนะครับ ผู้กอง”
โทนี่พึมพำ แล้วยิ้มน้อย ๆ ออกมาอย่างเอ็นดู เขาลูบไล้เส้นผมอ่อนนุ่มนั่นแผ่วเบา ก่อนจะเดินไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าของตนเช่นกัน สักพักใหญ่ชายหนุ่มจึงเดินออกมา มองคนที่นอนหลับตา ด้วยใบหน้าระบายยิ้ม ก่อนจะตั้งใจเดินไปนอนที่โซฟามุมห้อง แต่กลับถูกมือของคนที่น่าจะหลับไปแล้วฉุดเอาไว้เสียก่อน
“มีอะไรครับผู้กอง?”
โทนี่ถามด้วยความแปลกใจ แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำตอบของอีกฝ่าย
“อย่าทิ้งผมไป …ผมไม่อยากอยู่คนเดียว …อยู่เป็นเพื่อนผมด้วย”
หนุ่มลูกครึ่งมองนายตำรวจอดีตลูกค้าของเขาด้วยความสมเพชเวทนา ภามไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็นเลยสักครั้ง แม้กระทั่งในงานศพของพิราอร แต่ถึงวันนี้ชายหนุ่มคงเก็บมันเอาไว้ไม่ไหว และระเบิดความรู้สึกทั้งหมดออกมาในทะเลนั่น จนถึงเดี๋ยวนี้
“ครับ … ผมจะอยู่เคียงข้างคุณ ไม่ทิ้งคุณไป”
โทนี่บอกแล้วจึงขึ้นไปนอนข้าง ๆ กอดร่างของผู้กองหนุ่มเอาไว้อย่างอ่อนโยน จนใบหน้าคมสันนั้นค่อย ๆ หลับลงอย่างคลายกังวล
“อร…ผมรักคุณ”
ภามพึมพำละเมอกับตัวเอง แต่ทำให้คนที่กำลังกอดเขาอยู่ชะงัก หัวใจปวดแปลบขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ แล้วจึงฝืนยิ้มพร้อมกับจูบเบา ๆ ที่หน้าผากของอีกฝ่าย
“ขอให้ความฝันของคุณคืนนี้ เป็นฝันที่ดีนะครับ ผู้กอง”
ภามตื่นขึ้นมาในยามเช้า แล้วก็ต้องพบกับอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงจากการเมาค้าง เขานิ่งคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนจะสะดุดกับใบหน้าเกลี้ยงเกลาดูดีที่นอนอยู่ข้าง ๆ เขา
“มิสเตอร์หว่อง!”
“อืม…เรียกโทนี่สิครับ ตื่นแล้วหรือครับผู้กอง”
โทนี่พึมพำเบา ๆ แล้วก็กอดร่างข้าง ๆ แน่นไปอีก ทำให้ภามที่ตื่นเต็มตาตกใจ แล้วรีบดันกายของตนออกมาทันที
“นี่เกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณมานอนอยู่กับผมได้!”
“ใจร้ายชะมัด … เมื่อคืนใครกันที่มาอ้อนผม ให้ผมอยู่ด้วย แถมยังนอนกอดผมแน่น จนผมกระดิกกระเดี้ยตัวไปไหนไม่ได้อีก”
น้ำเสียงอ้อนพร้อมกับแววตาสีดำเจ้าเล่ห์ที่มองมา ทำให้ภามหน้าแดงระเรื่อ เขาก็พอจำได้ลางเลือน แต่ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นไปได้ถึงขนาดนั้น
“ผม…ขอโทษ”
“รับผิดชอบมาเลยนะครับ ผมไปเป็นเจ้าบ่าวให้ใครไม่ได้แล้วนะเนี่ย”
โทนี่ตีหน้าเศร้า แล้วทำเสียงร้องไห้กระซิก ๆ ทั้ง ๆ ที่ดวงตาสีดำคู่สวยยังเปล่งประกายวิบวับผิดกับคำพูดลิบลับ
“มิสเตอร์หว่อง!”
ภามตะโกนเรียกอีกฝ่ายด้วยความอาย แต่โทนี่กลับยิ้มแป้นแล้วย้อนกลับ
“เรียกโทนี่สิครับ ”
“คุณนี่มัน …”
ภามบอกแล้วถอนหายใจ ก่อนจะทรุดนั่ง เพราะตะโกนมากไปเลยรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเสียแล้วในตอนนี้
“ใจเย็น ๆ ผู้กอง เมื่อคืนคุณเมามาก ผมเลยพามาที่ห้องผม เพราะผมไม่รู้จักห้องคุณ และเพราะดันไปแช่น้ำทะเลเย็น ๆ กลางคืน ไม่เป็นปอดบวมก็ดีหนักหนาแล้ว เพราะงี้ผมเลยต้องนอนกอดให้คุณหายหนาว แต่รับรองไม่ได้ทำอะไรล่วงเกินคุณเด็ดขาด คุณตรวจเช็คสภาพตัวเองได้เลย”
โทนี่บอกยิ้ม ๆ พร้อมกับนอนตะแคงเอียงมองผู้กองหนุ่ม ด้วยรอยยิ้มที่คนถูกมองไม่ค่อยชอบ เพราะมันเหมือนกับว่าอีกฝ่ายเหนือกว่าเขา ภามพึมพำขอบคุณเบา ๆ แล้วทำท่าจะลุกขึ้นเดินออกไป โทนี่เลยดึงมือของอีกฝ่ายรั้งเอาไว้ จนผู้กองหนุ่มเสียหลัก ล้มไปบนเตียงอีกครั้ง
“โอ๊ะ ขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
โทนี่ชิงบอกก่อนที่จะได้รับเสียงตวาดของอีกฝ่าย
“จะกลับแล้วสินะ เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีไหม ใส่ชุดนอนเดินออกจากห้องผมแบบนี้ ใครเห็นเข้า ระวังนะจะไปเป็นเจ้าสาวไม่ได้นะ”
“บ้ารึ!”
ภามตวาดเสียงค่อยรอดไรฟัน เพราะไม่อยากจะปวดหัวอีก โทนี่หัวเราะเบา ๆ เขาโบกมือขอโทษอีกฝ่าย แล้วจึงลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของตน เลือกเสื้อผ้าลำลองส่งให้ชายหนุ่ม
“เสื้อผ้าคุณเปียกหมด ผมยังไม่ได้ซักเลย ใส่ตะกร้าผ้าไว้ในห้องน้ำ ถ้ายังไงคุณเปลี่ยนใส่ตัวนี้ไปก่อนก็ได้ ไซส์คุณกับผมก็ใกล้เคียงกันนั่นล่ะ”
ภามรับเสื้อผ้าชุดนั้นมาอย่างจำใจ โทนี่นั้นสูงกว่าเขาไม่มากนัก รูปร่างดูภายนอกก็โปร่งบาง แต่จากสัมผัสที่ถูกอีกฝ่ายกอดมา ก็ทำให้ภามรู้ว่าคนตรงหน้านี่ก็ซ่อนรูปไม่ใช่ย่อย
“จ้องผมทำไม หลงรักแล้วล่ะสิ”
โทนี่แกล้งทำเป็นล้อ ทำเอาคนที่จ้องอีกฝ่ายอย่างลืมตัวชะงัก แล้วรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทางอย่างตกใจ ก่อนจะนิ่งเงียบไปพักใหญ่
“เอ่อ…ผมแค่ล้อเล่นน่า ผู้กอง ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถิดครับ เดี๋ยวจะได้ไปทานข้าวเช้ากัน”
หนุ่มลูกครึ่งเป็นฝ่ายเปิดการสนทนาขึ้นก่อน ถ้าเจ้าตัวโกรธ หรือตวาดใส่ เขายังพอจะหาเรื่องแก้ตัวเปลี่ยนบรรยากาศไปได้ แต่ภามนิ่งเงียบแบบนี้ ก็ทำเอาเขาทำอะไรแทบไม่ถูกไปเหมือนกัน
ทางด้านผู้กองหนุ่ม เขาลอบหันมามองคนที่อยู่ร่วมห้องอีกครั้ง ก่อนจะเดินหายเข้าห้องอาบน้ำไป ความรู้สึกอบอุ่น อ่อนโยน ห่วงใย ที่โทนี่มีต่อเขา ทำให้ภามคิดอยากจะยึดเอาอีกฝ่ายเป็นที่พึ่งขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ และพอรู้สึกตัว ชายหนุ่มก็ได้แต่สมเพชเวทนาตัวเอง ที่เผลอคิดเรื่องที่เห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจออกไปได้เช่นนั้น
“ผู้กอง! เป็นอะไรหรือเปล่าครับ! ตอบผมสิ!”
ภามชะงัก เขาเผลอคิดอะไรเพลิน ๆ และปล่อยให้ฝักบัวไหลรินรดตัว จนตัวเย็นซีดไปหมด ชายหนุ่มปิดฝักบัวแล้วตอบกลับไป
“ผมไม่เป็นไร กำลังจะออกไป”
บอกแล้วชายหนุ่มก็หยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดตัวเองลวก ๆ แล้วหยิบเสื้อผ้าของโทนี่มาใส่ พอเปิดประตูออกไป ก็เห็นว่าหนุ่มลูกครึ่งมีสีหน้าที่ห่วงใยและวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“คุณอาบน้ำประสาอะไร ดูสิปากเขียวซีดไปหมดแล้ว มานี่!”
โทนี่ตวาดด้วยความเป็นห่วง แล้วดึงร่างภามมาด้วยกันที่เตียงจับอีกฝ่ายกดนั่งลงไป พร้อมกับที่เขาไปหาผ้าขนหนูผืนใหม่ มาเช็ดหัวที่เปียกโชกของอีกฝ่ายให้แห้ง
“ไม่ต้อง ผมเช็ดเองได้”
ภามบอกสั้น ๆ แต่พยายามหลบตาชายหนุ่ม ทำให้โทนี่ชะงักมือ แล้วยื่นผ้าขนหนูไปให้อีกฝ่าย
“เอ้า”
ภามหันกลับมาจะรับผ้าขนหนู แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อโทนี่จับคางเขาล็อกไว้ พร้อมกับทรุดเข่านั่งตรงหน้า ให้ตาประสานกัน
“เป็นอะไรไปครับผู้กอง มีอะไรบอกผมสิ ผมยินดีให้คำปรึกษาคุณทุกเมื่อนะ”
“ผม…ไม่”
ภามบอก แล้วพยายามหลบตาอีกฝ่ายสุดกำลัง โทนี่ชักเริ่มที่จะโมโห เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ ชายหนุ่ม แล้วกระซิบสั่ง
“บอกผม…”
“ไม่”
ภามปฏิเสธเสียงแข็ง โทนี่เม้มปากแน่น แล้วเอ่ยต่อ
“ผู้กอง… ผมจะให้โอกาสคุณอีกครั้ง บอกผม”
“ไม่!”
ภามยังคงยืนกรานเช่นเดิม ทำให้หนุ่มลูกครึ่งต้องถอนหายใจแรง ๆ แล้วจึงพึมพำแผ่วเบา พร้อมกับชะโงกหน้ามาใกล้
“ผมเตือนคุณแล้วนะ คุณภาม”
ภามสะดุ้งเฮือก เมื่อใบหน้าของอีกฝ่ายชะโงกใกล้เข้ามาชิด ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปนั่นจะประกบปิดริมฝีปากของเขาที่กำลังจะอ้าประท้วงพอดิบพอดี
“อื้อ…อือ …อือ!”
ผู้กองหนุ่มครางประท้วง มือทั้งสองพยายามจะดันอกของอีกฝ่ายให้ห่างออกไป แต่ก็ถูกมือใหญ่จับรวบเอาไว้ เรี่ยวแรงในตัวที่เคยมีมันก็หายไปหมดตั้งแต่ตอนที่ถูกริมฝีปากของอีกฝ่ายมาสัมผัสโดนแล้ว
“คุณภาม … ผมต้องการคุณ”
โทนี่บอกเสียงกระเส่า ริมฝีปากหวาน ๆ ของอีกฝ่ายทำเอาเขาเบลอ จนลืมเรื่องผิดชอบชั่วดีไปจนหมดสิ้น หนุ่มลูกครึ่งจับร่างของภามกดลงไปบนเตียง แล้วจูบซุกไซ้ไปทั่วใบหน้าและลำคอของอีกฝ่าย
“อย่า …มิสเตอร์หว่อง …ไม่…ได้โปรด”
ร่างบนเตียงร้องขอเบาหวิว สัมผัสจากริมฝีปากของโทนี่ทำเอาภามเองก็เริ่มควบคุมสติไม่อยู่ แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อมือใหญ่ของอีกฝ่ายล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นของเขา
“อย่า! ไม่!”
ภามบอกแล้วผลักร่างของชายหนุ่มออกไปเต็มแรง โทนี่ไม่ทันระวังตัวเลยเกือบจะล้มหงายหลังไป แต่เขาก็ยังคงไว เอามือยันได้ทันท่วงที ก่อนจะรู้สึกตัวเมื่อเห็นร่างของอีกฝ่าย นอนหอบหายใจ แล้วเอียงหน้าหลบไม่ยอมสบตาเขา
“ผู้กอง …ผมขอโทษ”
ภามยังคงนิ่งเงียบ จนโทนี่ใจไม่ดี ชายหนุ่มเดินเข้าไปนั่งใกล้ ๆ ร่างนั้น แล้วจับมือของอีกฝ่ายขึ้นมา
“ต่อยผม ตบผมก็ได้ แต่อย่านิ่งเงียบแบบนี้เลย …ผมขอโทษจริง ๆ”
“…ผมจะกลับบ้านพัก”
ภามพูดออกมาได้ในที่สุด โทนี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วรีบบอก
“ให้ผมไปส่งนะครับผู้กอง”
“…แล้วแต่คุณ”
ภามตอบเรียบ ๆ แล้วยันกายขึ้นนั่ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินโซเซ ขาสั่นนิด ๆ จากสัมผัสที่ยังคงหลงเหลือเมื่อครู่
“คุณภาม ระวังครับ”
โทนี่เตรียมประคองรับร่างที่ทำท่าจะล้มไว้ แต่ภามกลับปัดมือของชายหนุ่มออกทันที
“ไม่ต้อง ผมเดินเองได้”
น้ำเสียงห้วนเอ่ยปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ทำให้โทนี่เงียบกริบ เขาฝืนยิ้มแล้วเดินตามอีกฝ่ายไปเงียบ ๆ เฝ้ากร่นด่าตัวเองในใจไปตลอดทาง ทั้ง ๆ ที่ภามยอมเปิดใจให้เขาแล้ว แต่ตัวเขาเองนี่ล่ะ ที่ทำให้ทุกอย่างมันยิ่งเลวร้ายลงไปกว่าเดิม
“ถึงคุณจะรังเกียจผมขนาดไหน แต่เมื่อใดที่คุณมีทุกข์ ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ผมยินดีรับฟังความทุกข์นั้นของคุณเสมอนะครับ ผู้กอง”
โทนี่พึมพำตามหลังของภามไป ร่างนั้นนิ่งไม่โต้ตอบ ยังคงเดินเรื่อย ๆ ทำให้คนที่เดินตามยิ้มเศร้า ๆ และเดินตามไปเงียบ ๆ จนถึงหน้าบ้านพักอีกฝ่าย
“ผมกลับล่ะครับ”
โทนี่บอกกับคนที่ไม่ยอมแม้แต่จะหันกลับมามองเขา และเมื่อหนุ่มลูกครึ่งหันหลังกลับ และกำลังเดินจากไป เสียงหนึ่งก็ดังไล่ตามหลังเขาขึ้นมา
“ผมไม่ชอบในสิ่งที่คุณทำ … แต่ก็ไม่ได้รังเกียจคุณหรอกนะ …โทนี่”
โทนี่ชะงักกึก เขาหันขวับกลับไปมองคนพูด ที่เห็นแต่หลังไว ๆ เพราะเจ้าตัวเดินเข้าบ้านพักแล้วปิดประตูหนีไปแล้ว หนุ่มลูกครึ่งยืนนิ่ง พูดอะไรไม่ออก ก่อนจะเผลอร้องไชโยดัง ๆ จนคนอื่นแถวนั้นมองเขาอย่างประหลาดใจ แม้แต่ภามเอง ที่หลบอยู่หลังประตูยังถอนหายใจออกมาอย่างระอา แล้วยิ้มกับตัวเองน้อย ๆ อย่างลืมตัว
=== TBC ===