fannan - เฮียภามแกเซียนค่ะ หุๆ เป็นผู้กองคนเก่งแห่งหน่วยสืบสวนปราบปรามอยู่แล้ว เรื่องนี้แค่จิ๊บจ๊อย
yayee2 - หายดีแล้วค่ะพี่แก้ว อยากเขียนคู่นายโทนี่ต่อ แต่ตอนนี้ ขอเขียนคู่ใหม่ของนายวินกับน้องคริส ก่อนแล้วกันนะคะ
tawan - คู่สองยังไม่คืบหน้า ใส่มาอีกคู่แล้วค่า
Dee^daY - หุ ๆ ก็เล่นหวานไม่น้อยหน้ากันทั้งสองคู่นี่เนอะ คนอ่านเลยเชียร์ไม่ถูกเลย
nuper - เรื่องนี้เขียนไปเขียนมา ตำรวจเสียดุลหมดแน่เลยค่ะ แต่แหม ตำรวจไทย แมน ๆ เป็นรับ ก็น่ารักดีออก (คนเขียนชอบบบ)
kun - มาแล้วค่า ตอน 8 แต่ยังไม่ใช่คู่โทนี่นะ~
didi - ^ ___ ^
==============================
คุณตำรวจยอดรัก
==============
8
ผู้หมวดหนุ่มผู้ร่าเริงแห่งแผนกสืบสวนปราบปราม วางสายโทรศัพท์ลงหลังจากที่เพื่อนรักโทรมาบอกว่าตอนนี้ถึงกรุงเทพฯ เรียบร้อย และซื้อของฝากมาฝากเขาด้วย และแน่นอนว่าหลังจากกานต์กลับมาจากพักร้อนแล้ว ก็เป็นคิววันพักของเขาต่อนั่นเอง
ถ้าพูดถึงพักร้อนแล้ว ส่วนใหญ่หลายคนจะเลือกไปพักผ่อนหย่อนใจริมทะเล จิบเบียร์เย็น ๆ แกล้มอาหารทะเลสด ๆ แต่สำหรับเขานั้น ไม่ชอบบรรยากาศริมทะเลเท่าใดนัก เขาชอบอากาศบริสุทธิ์ตามป่าตามเขา เสียมากกว่า และเมื่อสิ้นสุดวันทำงานวันสุดท้ายก่อนไปพักร้อน อาชวินที่ทำงานล่วงเวลามาได้สักสองชั่วโมง ก็ตรงกลับบ้านเพื่อพักผ่อน เนื่องจากเขาต้องขับรถไปเอง จึงไม่อยากจะให้ร่างกายอ่อนเพลียก่อนวันเดินทางมากนัก
และในที่สุดเช้าวันเดินทางก็มาถึง...
“เออ กำลังจะออกเดินทางพอดี รู้แล้วน่าไม่ลืมของฝากหรอก แล้วจะเอาสาวชาวเขาสักคนไปฝากนะ แต่แก้ตัวกับแม่สาวเซ็กซี่ที่บ้านให้ดี ๆ ล่ะ งั้นแค่นี้นะ... อืม ขอบคุณที่เป็นห่วง”
อาชวินกดวางสายลงหลังจากสนทนากับเพื่อนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นจึงโยนกระเป๋าเสื้อผ้าในมือใส่หลังรถยนต์ส่วนตัว และขับรถมุ่งตรงไปยังรีสอร์ตที่เขาได้จองเอาไว้ ที่จังหวัดกาญจนบุรี
ระหว่างทาง ผู้หมวดหนุ่มแวะเติมน้ำมันและซื้อของขบเคี้ยวที่ปั๊ม เจ้าตัวซื้อเครื่องดื่มแก้ง่วงมาเปิดดื่มก่อนจะขึ้นรถ แต่แล้วก็ต้องเหลือบชำเลืองมองรถเบนซ์สีดำคันงาม จำนวนสองคัน ซึ่งมาจอดอยู่ไม่ห่างจากเขา มีชายในชุดสูทสีดำ ใส่แว่นตาดำ อย่างกับพวกบอดี้การ์ดในหนัง เดินลงมาจากรถคันหนึ่ง เปิดประตูหลังให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งก้าวลงมา ส่วนรถอีกคันก็มีคนซึ่งแต่งสูทเหมือน ๆ กัน เดินมาคอยล้อมหน้าล้อมหลัง เด็กหนุ่มในเสื้อลำลอง ผมทอง สวมแว่นดำที่ลงมาจากรถคันแรก อาชวินคิดในใจว่าอีกฝ่ายคงจะเป็นพวกลูกคุณหนูที่ไหนมาเที่ยวแถวนี้ เขาละสายตาจากพวกนั้น ทิ้งขวดเครื่องดื่มในมือลงถังขยะ ก่อนจะขึ้นรถขับตรงไปต่อยังรีสอร์ตริมน้ำเหนือเขื่อนศรีนครินทร์ เป้าหมายของเขา
อาชวินขับรถมาเรื่อย ๆ เส้นทางเข้ารีสอร์ตนั้นเป็นทางลูกรังแคบ ๆ แต่รถแล่นผ่านสบาย ไม่ขรุขระเหมือนเส้นลาดยางในกรุงเทพฯ บางสาย บรรยากาศสองข้างทางก็เป็นไร่กว้าง ๆ ดูแล้วสบายตา
ในที่สุดผู้หมวดหนุ่มก็มาถึงรีสอร์ตที่ได้จองไว้ เขาเดินเข้าไปติดต่อห้องพักที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ซึ่งที่พักที่เขาเลือกนั้นตั้งอยู่ริมตลิ่งและทอดยาวไปในน้ำ บรรยากาศดีมาก ถ้าจะไม่มีเจ้าพวกแก๊งสูทดำ ตามมาด้วย และก็แสนจะบังเอิญ ที่บ้านพักริมน้ำ ซึ่งทอดยาวเรียงกันไปจำนวน 5 หลัง เขาอยู่ริมหลังสุดท้าย ส่วนอีก 4 หลังแรก เป็นที่อยู่ของพวกนั้นทั้งหมด
หลังจากจัดของเรียบร้อย ผู้หมวดหนุ่มจึงเดินออกมาตรงบริเวณหน้าบ้านพัก ซึ่งมองเห็นวิวของทะเลสาบกว้างสุดสายตา ด้านหน้ามีเตียงผ้าใบสองเตียงจัดเตรียมไว้ให้ หนุ่มโสดอย่างเจ้าตัวมองเตียงว่าง ๆ ข้างกายแล้วลอบถอนหายใจเบา ๆ แต่สายน้ำกว้าง และสายลมเย็น ๆ ก็ทำให้เขาลืมความเหงาที่ก่อตัวขึ้นลงไปได้
แกร่ก!
เสียงเปิดประตูของบ้านพักข้าง ๆ ดังขึ้น บ้านพักริมน้ำที่นี่ตั้งเรียงทอดยาวอยู่ติดกัน โดยจะมีสวนหย่อมเล็ก ๆ คั่นระหว่างบ้านแต่ละหลัง แต่ก็สามารถเดินข้ามไปหากันได้อยู่ดี แต่ที่แน่ ๆ ก็คงไม่มีใครคิดจะทำแบบนั้น ให้โดนเจ้าของบ้านพักอีกหลังด่าเข้าให้
เด็กหนุ่มผมทองคนที่เขาเจอที่ปั๊ม เดินออกมาสูดอากาศด้านนอก เจ้าตัวหันมามองเขาแล้วยิ้มให้ แว่นดำที่เคยใส่ถูกถอดออกเก็บ เผยให้เห็นนัยน์ตาสีฟ้า และดวงหน้าหล่อเหลา อ่อนเยาว์ ที่อาชวินคาดว่าดูยังไงก็ไม่น่าจะเกิน 18 ปี
“สวัสดีครับ มาเที่ยวคนเดียวหรือครับ”
หน้าคนพูดออกจะฝรั่งเต็มยศ แต่สำเนียงที่พูดนั้นเป็นภาษาไทยชัดเปรี๊ยะ จนคนฟังต้องทึ่ง แม้จะแปลกใจว่าทำไมอีกฝ่ายต้องชวนเขาคุยด้วย แต่อาชวินก็ยังคงรักษามารยาทแล้วตอบกลับไปสั้น ๆ
“ครับ”
“ที่นี่สวยมากเลยนะครับ”
เด็กหนุ่มยังคงชวนคุยต่อ อาชวินจึงจำใจต้องพยักหน้ารับ แม้จะอยากพักผ่อนเงียบ ๆ ส่วนตัวแล้วก็ตาม
“เมืองไทยนี่ดีจังเลยนะครับ ธรรมชาติก็สวย ...คนก็น่ารัก”
ท้ายประโยคนัยน์ตาสีฟ้าเหลือบมามองคนข้าง ๆ อาชวินนั้นไม่ได้สนใจอะไร ได้แต่พยักหน้าแล้วรับคำสั้น ๆ ตามเคย
“ครับ”
“ดูเหมือนคุณอยากจะพักผ่อนเงียบ ๆ แล้วสินะครับ”
เด็กหนุ่มบอกเหมือนจะอ่านสีหน้าเนือย ๆ ของอีกฝ่ายออก อาชวินสะดุ้งน้อย ๆ แล้วรีบแก้ตัวเพราะกลัวจะเสียมารยาท
“ปะ...เปล่านะ ก็แค่ไม่รู้จะคุยอะไร”
“นั่นสิครับ เพิ่งรู้จักกัน ก็ไม่รู้จะคุยอะไร”
อีกฝ่ายทวนคำ แล้วจึงเดินข้ามสวนหย่อมเล็ก ๆ มาทางฝั่งหน้าบ้านพักของอาชวิน ทำเอาผู้หมวดหนุ่มนิ่งอึ้ง
“เอาเป็นว่าผมแนะนำตัวเองก่อนแล้วกันนะครับ ผมชื่อคริสโตเฟอร์ เรียกสั้น ๆ ว่าคริสก็ได้ครับ คุณพ่อผมเป็นคนอังกฤษ คุณแม่เป็นคนไทย ผมโตที่นี่จนถึง 10 ปี และก็ย้ายไปอยู่อังกฤษหลังจากนั้น”
เจ้าตัวแนะนำชีวประวัติตัวเองโดยอาชวินไม่คิดจะขอร้องให้บอก แถมพอบอกจบแล้ว เด็กหนุ่มคริสก็ยิ้มหวานให้เขา แล้วถามขึ้น
“แล้วคุณล่ะครับ จะไม่บอกชื่อให้ผมทราบหน่อยหรือครับ”
ผู้หมวดหนุ่มฝืนยิ้ม คิดไม่ออกว่าไปทำอะไรให้อีกฝ่ายติดใจได้ขนาดนี้กันแน่ เพิ่งเจอกันหนแรกแท้ ๆ นี่ถ้าเดินหนีเข้าบ้านพักไปตอนนี้จะเสียมารยาทไหมเนี่ย
“ง่า...ฉันชื่ออาชวิน เรียกวินก็ได้”
อาชวินแนะนำตัวเองออกไปตามมารยาท พอคริสโตเฟอร์รู้ชื่อของชายหนุ่มแล้ว เขาก็ยิ้มอย่างยินดี แล้วจึงยื่นมือตัวเองออกไป อาชวินมองมือนั้นแล้วจึงยื่นมือเขาไปบ้าง แต่แทนที่อีกฝ่ายจะแค่จับมือทักทายกันเฉย ๆ เจ้าตัวดันจับมือของเขาขึ้นจูบเบา ๆ แล้วยิ้มให้ พร้อมกับถามคำถามที่ทำให้คนฟังนิ่งอึ้ง
“คุณวิน ...คุณเชื่อในเรื่องรักแรกพบบ้างไหม?”
----- (จบครึ่งแรกแบบสั้น ๆ ไว้ครึ่งหลังจะมาต่อยาว ๆ นะคะ) ----
ตอนแรกว่าจะเขียนคู่ให้นายวิน เป็นลูกแกะน้อย น่ารัก ๆ ให้นายวินเป็นตัวกินเด็ก แต่เขียนไปเขียนมา ดูท่าจะถูกเด็กกินซะแล้ว - -"
ตำรวจไทย เสียดุลหมดแน่เลยเรื่องนี้ ฮ่า ๆ (แต่เคะอายุมากกว่าก็น่ารักนา หุ ๆ )
ไว้ตามกันต่อนะคะ ว่ามันจะออกมาในรูปแบบไหน ชอบไม่ชอบก็คุยกันได้นะคะ 