เอาครึ่งแรกหวาน ๆ มาเสิร์ฟก่อนค่ะ
ส่วนครึ่งหลังของอีกคู่ .........

ไว้ค่อยมาต่อนะคะ
คุณตำรวจยอดรัก
บทที่ 12
=========
โทนี่ขับรถพาภามไปส่งที่อพาร์ตเมนต์ของชายหนุ่มอย่างไม่รีบร้อนนัก เขาขับเรื่อย ๆ เสียจนคนนั่งข้าง ๆ ต้องลอบมองเป็นระยะอย่างหมั่นไส้ เพราะเมื่อก่อนก็เคยนั่งรถที่ชายหนุ่มขับมาแล้ว และที่แน่ ๆ เจ้าตัวเหยียบเร็วเสียจนตำรวจอย่างเขาต้องตำหนิ
ไฟแดงตรงหน้าทำให้โทนี่ต้องชะลอรถจอด เจ้าตัวเหม่อมองสัญญาณตัวเลขที่นับถอยหลัง แล้วหันมาพึมพำบอกกับภาม
“เมื่อก่อนผมไม่ชอบไฟแดงเลยนะครับ มันน่ารำคาญ เสียเวลา … แต่ถ้าเป็นตอนนี้ ที่มีคุณนั่งอยู่ใกล้ ๆ ผมกลับชอบมันขึ้นมาแทนเสียแล้ว”
นัยน์ตาสีดำซึ่งแฝงความรักเต็มเปี่ยมจับจ้องมองอยู่ที่ใบหน้าของคนนั่งข้าง ๆ ภามนิ่งอึ้ง นัยน์ตาคู่นั้นมันแสดงออกเด่นชัด ว่าเจ้าตัวคิดยังไงกับเขา แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าขรึมของผู้กองหนุ่ม ก็ยังคงเสแสร้งทำเป็นไม่รู้ แล้วหลุบตาหลบ จนคนมองถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงรถคันหลังบีบแตรเร่ง
“เวลาแห่งความสุข มันสั้นจังเลยนะครับ”
โทนี่พึมพำ ก่อนจะเหยียบคันเร่งเคลื่อนรถไปข้างหน้า หนุ่มลูกครึ่งขับไปสักพัก ก็เลี้ยวไปจอดที่หน้าอพารต์เมนต์ ของคนข้าง ๆ แล้วหันมาฝืนยิ้มทำเป็นร่าเริงให้อีกฝ่าย
“ให้ผมไปส่งที่หน้าห้องไหมครับ”
“ไม่ต้อง ผมกลับห้องตัวเองถูก”
ภามปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ทำให้โทนี่ลอบถอนหายใจเบา ๆ และก็ต้องแปลกใจที่เห็นภามยังไม่ยอมลงจากรถไปสักที
“มีอะไรหรือครับผู้กอง?”
โทนี่ถามอย่างสงสัย ภามนั้นนั่งนิ่ง สีหน้าเหมือนจะลังเล ก่อนจะเม้มปากนิด ๆ แล้วตัดสินใจพูดออกไป
“มิสเตอร์หว่อง สำหรับผม คุณเป็นเพื่อนที่ดี … และคงเป็นได้แค่นั้น”
“คุณภาม…”
โทนี่เรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเบาหวิว ไม่คิดว่าภามจะตัดเยื่อใยเขาอย่างรวดเร็วขนาดนี้
“ผม… ลืมอรไม่ได้ …ผมไม่อยากหลอกใช้ความอ่อนโยนของคุณ ยึดคุณเป็นที่พึ่ง …คุณเป็นคนดี…โทนี่ … ผมไม่อยากให้คุณมาเสียเวลากับคนไร้ค่าอย่างผม”
คำสารภาพตามมาของอีกฝ่าย ทำให้หนุ่มลูกครึ่งที่กำลังตกตะลึงชะงักกึก ความรู้สึกรักที่มีต่อผู้กองหนุ่มยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น จนยากจะตัดใจ แม้อีกฝ่ายจะพยายามขับไล่ไสส่งเขาให้ออกจากชีวิตของเจ้าตัวก็ตาม
“คุณไม่ใช่คนไร้ค่าหรอก คุณภาม … อย่างน้อย สำหรับผม คุณก็มีค่ามาก…มากเหลือเกิน”
โทนี่จับมือของอีกฝ่ายขึ้นกุม แล้วจูบเบา ๆ ในทีแรกภามพยายามจะรั้งมือฉุดกลับ แต่เพราะคำพูดและการกระทำอันแสนอ่อนโยนของชายหนุ่มก็ทำให้เขานิ่งเงียบ
“ผมมองคุณมาตลอด … มองคุณมาก่อนคุณจะเจอกับคุณอรด้วยซ้ำ คุณรู้บ้างไหม”
โทนี่สารภาพความจริง …ความจริงที่เขาก็เพิ่งจะมารู้ใจตัวเองในภายหลัง ทั้งที่ก็คบหาเป็นเพื่อนคู่ค้ากับอีกฝ่ายมาแล้วหลายปี
“โทนี่…”
ภามเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงแผ่ว เขาไม่คิดว่าจะได้ยินความจริงเช่นนี้ ใจที่พยามจะต่อต้าน ก็เริ่มหวั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง
“ผมชอบคุณ แล้วก็ชอบคุณอรด้วย เธอเป็นคนดี คุณสองคนเป็นคู่ที่เหมาะสมกัน … ผมยินดีที่คุณคบกัน รักกัน …แม้ในใจลึก ๆ ผมจะรู้สึกเจ็บแปลบอย่างประหลาด…ใช่แล้ว ตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้ตัว ว่าผมน่ะคิดกับคุณไปไกลเกินกว่าเพื่อนแล้ว”
โทนี่ยังคงพูดต่อ เขาไม่อยากเก็บงำความในใจของตนอีกต่อไป อย่างน้อยถ้าจะผิดหวัง ก็ขอให้ภามได้รับรู้ความรู้สึกของเขาทั้งหมดก็พอ
“ในวันที่คุณอรจากไป … ผมเห็นคุณเจ็บ เห็นคุณเสียใจ คุณรู้ไหมคุณภาม ใจผมมันก็เจ็บไปด้วย ตอนที่คุณโกรธผม เกลียดผม และโทษว่าเป็นความผิดของผมที่ทำให้คุณเสียเธอไป ผมไม่โกรธคุณเลยสักนิด … แต่ผมเสียใจ ที่ไม่สามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของคุณให้น้อยลงได้”
มือใหญ่ของหนุ่มลูกครึ่งที่เกาะกุมมือของอีกฝ่าย เริ่มเปลี่ยนไปเป็นรั้งร่างของผู้กองหนุ่มมาโอบกอดโดยไม่รู้ตัว ทั้งคนกอด และคนถูกกอด
“จนวันที่เห็นคุณเดินลงทะเล … ผมถึงได้รู้ใจตัวเองสักที ว่าคุณสำคัญสำหรับผมขนาดไหน คุณจะเกลียดผมก็ได้ จะพบรักกับใครก็ได้ที่ไม่ใช่ผม … แต่อย่างน้อย ขอผมอยู่เคียงข้างคุณแบบนี้ ขอให้ผมเป็นคนเดียวที่จะคอยรับฟังความทุกข์ของคุณ เป็นที่พึ่งให้คุณ อย่าคิดว่าการพึ่งพาผมเป็นการหลอกใช้ …ผมเต็มใจนะคุณภาม เต็มใจอย่างที่สุด ถ้าจะสามารถช่วยแบ่งเบาความทุกข์ของคุณได้บ้าง”
“โทนี่…ผมลืมอรไม่ได้…ผมรักเธอ”
ภามพึมพำ เขาปล่อยร่างให้อีกฝ่ายกอดโดยไม่คิดขัดขืน โทนี่ยิ่งกระชับอ้อมแขนนั้นแน่น แล้วบอกกับชายหนุ่ม
“ไม่ต้องลืมครับ …คุณไม่จำเป็นต้องลืมเธอ คนที่คุณรักและรักคุณ … เพียงแต่เหลือที่ว่างในใจให้ผมบ้างก็พอแล้ว”
ภามซบหน้ากับอกกว้างของอีกฝ่ายนิ่งสักพัก เขาหลับตาลงแล้วค่อย ๆ ดันกายออก ซึ่งหนุ่มลูกครึ่งก็ปล่อยผู้กองหนุ่มให้เป็นอิสระแต่โดยดี แม้จะนึกเสียดายก็ตาม
“ให้เวลาผมบ้างได้ไหม”
ภามพึมพำในถ้อยคำที่ทำให้คนฟังหัวใจพองโต
“ได้สิครับคุณภาม …สำหรับคุณ ผมรอได้ตลอดชีวิตอยู่แล้ว”
โทนี่บอกแล้วยิ้มกว้างอย่างดีใจ จนคนมองต้องหน้าแดงระเรื่อนิด ๆ แล้วเบือนสายตาหนี
“งั้นก็รอไปตลอดชีวิตแล้วกัน”
ผู้กองหนุ่มแกล้งบอก ซึ่งก็ทำให้ใบหน้ายิ้มแย้มนั้นหุบยิ้ม ก่อนจะเปลี่ยนเป็นอ้อนแทน
“โธ่! อย่างน้อยก็อย่าให้นานนักแล้วกันครับ เดี๋ยวจะเตะปี๊บไม่ดัง ใช้การไม่ได้กันพอดี”
คำพูดของหนุ่มลูกครึ่งยิ่งทำให้ภามหน้าแดงหนัก เขาพึมพำบ่นใส่อีกฝ่าย แล้วเปิดประตูลงจากรถ จ้ำอ้าวขึ้นไปบนตึก โดยมีโทนี่มองตามไปด้วยใบหน้าระบายยิ้ม เขาสัญญากับตัวเองแล้วว่า จะไม่ทำพลาดเหมือนตอนที่อยู่บ้านพักชายทะเลอีกแน่ เขารักภามและอยากได้หัวใจของอีกฝ่าย …จริงอยู่เพราะรักจึงทำให้อยากกอด อยากเป็นเจ้าของเรือนร่างนั้น เขาแน่ใจว่าถ้าเขาเอาจริง ก็สามารถทำให้ภามเป็นของเขาได้ไม่ยาก แต่ถ้านั่นมันต้องแลกมากับการที่เขาต้องสูญเสียความไว้วางใจจากผู้กองหนุ่มไปตลอดกาลล่ะก็ … เขายอมเป็นฝ่ายรออยู่แบบนี้ดีกว่า
เสียงถอนหายใจดังขึ้นจากเจ้าของรถยนต์คันงามอีกครั้ง เจ้าตัวออกมายืนรอ จนกระทั่งเห็นไฟห้องหนึ่งเปิดเขาจึงยิ้มน้อย ๆ แล้วกลับขึ้นรถออกไป โดยมีสายตาอ่อนโยนของใครบางคนจากบนตึกสูง เฝ้ามองผ่านผ้าม่านห้องตามไปจนอีกฝ่ายลับตา
---(จบครึ่งแรก)----