{{คุณตำรวจยอดรัก}}> 28 ตอนจบ +ตอนพิเศษ 2 ตอนจ้า
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{คุณตำรวจยอดรัก}}> 28 ตอนจบ +ตอนพิเศษ 2 ตอนจ้า  (อ่าน 425527 ครั้ง)

Sherbet:)*

  • บุคคลทั่วไป
ตามมาอ่านจนทันล่ะค่ะ
อ่านไปก็อยากจะเม้นบอกไปว่า
"ตำรวจไทยเสียดุลจริงๆนะเออ"
กร๊ากๆๆ 5555
ชอบคู่ลิตเติ้ลมาเฟียสุดล่ะ
พี่คริสแกหน้าด้านดี
55

รอตอนต่อไปค่ะ
^^



aimaim

  • บุคคลทั่วไป
:call:

หายไปนานพอสมควรแล้วนะ อัพเถิดน้า~~~

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4


คุณตำรวจยอดรัก
==============
21

    “ตามสืบข้อมูลต่อไปเรื่อย ๆ ฉันต้องการที่กบดานของมัน รวมไปถึงพรรคพวกที่มันติดต่อเรื่องอาวุธสงครามด้วย อ้อ! อย่าเพิ่งให้มันรู้ตัวล่ะ งานนี้ถึงจะมอบให้ตำรวจจัดการก็จริง แต่ทางเราต้องตัดกำลังของมันให้ได้เสียก่อน...”
   เสียงคุ้นเคยของใครบางคนที่กำลังคุยโทรศัพท์แว่วเข้ามาให้ได้ยิน ทำให้ร่างอ่อนแรงบนเตียงค่อย ๆ ปรือตาขึ้น สมองยังคงมึนงงเบลออยู่พักใหญ่ ก่อนจะค่อย ๆ ลำดับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเองก่อนจะหมดสติไปอย่างช้า ๆ
   “จริงสินะ...เราโดนยิงนี่...ถ้างั้นที่นี่ก็...”
   ภามค่อย ๆ ตั้งสติ เหลือบมองสายน้ำเกลือที่มือ แล้วไล่สายตามองไปรอบ ๆ ก่อนจะนิ่วหน้าด้วยความเจ็บจากบาดแผลที่ยังคงไม่หายดี
   “ถ้าอย่างนั้นก็แค่นี้นะ ถ้ามีอะไรคืบหน้าก็ติดต่อฉันทันทีเลยรู้ไหม”
   โทนี่กดวางสายสนทนากับลูกน้องที่เขาใช้ให้ไปสืบข่าวของคนร้ายที่ยิงภาม ก่อนจะเดินจากระเบียงนอกห้องพักผู้ป่วย กลับเข้ามาหมายจะเฝ้าร่างที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียงต่อ ทว่า...
   “โทนี่...”
   ภามที่มองมาอยู่แล้วพึมพำเรียกชายคนรักแผ่วเบา ส่วนโทนี่นั้นยืนนิ่งอึ้งตกตะลึงอย่างลืมตัวสักพัก ก่อนที่จะค่อย ๆ เดินเข้าไปหาร่างบนเตียงจับมือข้างที่ไม่ถูกเจาะสายน้ำเกลือขึ้นมากุม แล้วเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
   “คุณภาม...ฟื้นแล้วหรือครับ...ดีจริง ๆ ...”
   ภามรู้สึกถึงหยดน้ำอุ่น ๆ ที่มือของเขาข้างที่ถูกอีกฝ่ายนำไปเกาะกุมแนบใบหน้าของเจ้าตัว
   “คุณหลับไปหลายวัน จนผมใจคอไม่ดี ...จนผมเผลอคิดไปทางแง่ร้ายว่า ถ้าคุณไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย ผมจะทำยังไง ...ผมคงต้องเป็นบ้าไปแน่ ๆ เลย หากเป็นแบบนั้น”
   โทนี่บอกกับคนบนเตียงโดยไม่คิดจะกลั้นน้ำตาของตัวเอง เพราะมันเป็นน้ำตาแห่งความยินดีเมื่อได้เห็นคนรักกลับคืนมาหาเขาอีกครั้ง ทางด้านภามฟังสิ่งที่อีกฝ่ายบอกพลางพึมพำแผ่วเบา พร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ
   “ขอโทษนะ...โทนี่ ที่ทำให้เป็นห่วง...คงกังวลมากสินะ”
    “คุณภาม...ผมขอโทษนะครับ ขอโทษจริง ๆ”
   คำขอโทษที่ตามมาทำให้ผู้กองหนุ่มขมวดคิ้วอย่างสงสัย แล้วก็ต้องหน้าแดงน้อย ๆ เมื่อได้ยินประโยคถัดมาจากปากของคนรัก
   “ถ้าคืนนั้นผมปล่อยให้คุณได้พักผ่อนให้เต็มที่ ...บางที คุณอาจจะไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ก็ได้ ...เป็นความผิดผมเองแท้ ๆ”
   ภามถอนหายใจเบา ๆ ดูจากน้ำเสียงและแววตา โทนี่คงเป็นกังวลและเฝ้าโทษตัวเองเรื่องนี้อย่างมาก โชคดีนะที่เขาสามารถรอดชีวิตมาได้ ไม่อย่างนั้นผู้ชายที่แสนจะอ่อนโยนคนนี้ คงจะไม่อภัยให้กับตัวเองไปตลอดชีวิตเป็นแน่
   “โทนี่...ฟังผมนะ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของคุณ มันเป็นคราวเคราะห์ของผมเองต่างหาก ...”
   ภามพูดแล้วก็นิ่วหน้า รู้สึกเจ็บแผลขึ้นมาแปลบ ๆ อาการเช่นนั้นทำให้โทนี่ตกใจแล้วจึงรีบกดปุ่มฉุกเฉินเรียกพยาบาลข้างนอกห้องมาทันที
   “คนไข้เจ็บแผลครับ ช่วยเข้ามาดูหน่อยครับ!”
   “โทนี่ ...ใจเย็น ๆ ผมไม่ได้เป็นอะไรมาก”
   ภามเอ่ยปรามคนที่มีสีหน้าร้อนรนอย่างเห็นได้ชัดให้ใจเย็นลง โทนี่เฝ้ามองคนบนเตียงอย่างเป็นห่วง และพอพยาบาลเข้ามา เขาก็ขยับห่างออกไปเล็กน้อย แต่ก็ยังคงจับจ้องร่างบนเตียงอย่างไม่วางตา จนเมื่อหมอเข้ามาตรวจอาการเรียบร้อยก็บอกว่า เป็นเพราะภามเพิ่งฟื้นอย่าเพิ่งให้ออกแรงคุยหรือขยับตัวมาก และให้นอนพักผ่อนต่อไปอีกสักระยะก่อน
   “คุณภาม นอนพักซะนะครับ เดี๋ยวผมจะเฝ้าคุณอยู่ใกล้ ๆ นี่เอง”
   โทนี่บอกกับร่างบนเตียงที่กำลังมึนงงเพราะฤทธิ์ยาที่หมอฉีดให้เขาเมื่อสักครู่ เพราะต้องการให้ร่างกายนอนหลับพักฟื้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
   “โทนี่...อย่าโทษตัวเองอีกเลยนะ...เห็นคุณโทษตัวเองแบบนี้ ผมก็ยิ่งรู้สึกผิดตามไปด้วย...เพราะผมเองก็มีส่วนทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นเหมือนกันไม่ใช่หรือ...”
   ภามพึมพำบอก แล้วจึงหลับลงในไม่ช้า ทว่าคำพูดของเขาทำให้คนที่อยู่ด้วยกันข้าง ๆ แย้มยิ้มออกมาได้ โทนี่รู้สึกตื้นตันและซาบซึ้งใจที่คนรักเป็นห่วงเป็นใยความรู้สึกของเขาเช่นนี้ ...โชคดีเหลือเกินที่เขาได้รักภาม และได้รับความรักจากภามอย่างที่เป็นอยู่
   “รักคุณนะครับคุณภาม...หายไว ๆ นะครับ จะได้กลับบ้านของเรากัน”
   โทนี่กระซิบกับคนที่หลับอยู่บนเตียงพร้อมกับจูบเบา ๆ ที่หน้าผากของผู้กองหนุ่ม ก่อนจะนั่งเฝ้าอีกฝ่ายอยู่บนโซฟาข้างเตียงคนไข้เงียบ ๆ ทว่าในสมองกับกำลังคิดถึงวิธีการที่จะไล่ต้อนและจัดการเจ้าคนที่ลงมือทำร้ายคนรักของตน โทนี่สั่งให้คนของเขาคอยตามสืบเรื่องนี้แล้ว โดยประสานงานกับคนของทางเควิน  ทำให้การใช้เวลาตามรอยคนร้ายคืบหน้าไปได้อย่างมากเลยทีเดียว
   
   ระหว่างที่ใครหลายคนกำลังยุ่งวุ่นวายเกี่ยวกับคดีของภาม ผู้หมวดหนุ่มไฟแรงอีกนายหนึ่งก็กำลังปวดหัว ทั้งจากเอกสารที่ต้องอ่าน และจากเด็กหนุ่มที่คอยเดินไปเดินมาภายในห้องของเขา แถมยังโผล่หน้ามาดูว่าเขาทำอะไรอยู่เป็นระยะ  จนคนที่กำลังเคร่งเครียดอยู่ ชักจะเริ่มรำคาญเต็มทน
   “นี่! ถ้านายอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ก็กลับไปเสียเลยไป ฉันจะทำงาน!”
   คริสโตเฟอร์ชะงัก ก่อนจะตีสีหน้าสลด แล้วพึมพำแผ่วเบาตอบ
   “งานอีกแล้ว...สองสามวันมานี่คุณก็เอาแต่ทำงาน แถมพอผมถามก็ไม่ยอมบอกว่างานอะไรอีก ...ผมมันพึ่งพาอะไรไม่ได้เลยใช่ไหม”
   อาชวินชะงักกึก ความหงุดหงิดเริ่มคลายลง เมื่อเห็นสีหน้าหงอย ๆ ของคนรักอายุน้อยกว่าของตน
   “ขอโทษ...นายไม่ผิดหรอก ฉันเครียดมากไปหน่อยก็เลยมาลงกับนาย ขอโทษนะคริส”
   คริสโตเฟอร์ยังคงมีสีหน้าไม่สู้ดี แถมยังยืนอยู่ห่าง ๆ ไม่ยอมเข้ามาออดอ้อนเหมือนเคย จนทำให้อาชวินต้องถอนหายใจ แล้ววางเอกสารในมือลง ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนรัก ซบหน้ากับไหล่ของอีกฝ่าย พลางโอบกอดเจ้าตัวหลวม ๆ
   “คริส...นายมีคนรักเป็นตำรวจนะ นายก็ต้องเจอเรื่องแบบนี้บ่อย ๆ นั่นล่ะ แต่ถ้านายทนไม่ได้ล่ะก็...”
   อาชวินชะงักถ้อยคำของตน อ้อมกอดที่โอบรัดอีกฝ่ายค่อย ๆ คลายออก เงยหน้ามองเด็กหนุ่มที่มีสีหน้าดีขึ้นเพราะถูกง้อ ด้วยสายตาลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะตัดสินใจพูดไปในที่สุด
   “นายจะเลิกกับฉันก็ได้นะ...หาคนรักใหม่ที่เขามีเวลาให้นายมากกว่าฉัน ...”
   ยังไม่ทันพูดจบอาชวินก็ต้องอุทานด้วยความตกใจ เมื่อเขาถูกคนที่สูงน้อยกว่าเขาแค่ไม่กี่เซนจับรวบร่างช้อนอุ้มแบบหญิงสาว เดินไปที่เตียง ก่อนจะวางร่างของผู้หมวดหนุ่มลง พร้อมกับที่เจ้าตัวกดทาบทับตามมาด้วยใบหน้าเคร่งเครียดอย่างที่ไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยนัก
   “คุณวิน! คุณจะใจร้ายกับผมไปถึงไหนกันครับ! เอะอะก็จะหาเรื่องเลิกกับผมตลอด ใช่สิ! ก็คุณไม่ได้รักผมมากเหมือนอย่างที่ผมรักคุณนี่นะ ...หรือว่าคุณแค่อยากแก้แค้นเรื่องที่ผมทำให้คุณเป็นของผมโดยไม่เต็มใจในคืนนั้น ถึงได้ยอมคบกับผมใช่ไหมครับ!”
   อาชวินนิ่งอึ้งเมื่อได้ฟังถ้อยคำตัดพ้อของเจ้าตัว เขาพยายามจะแก้ตัว แต่ก็ดูเหมือนคริสโตเฟอร์จะไม่ยอมฟังเท่าใดนัก
   “ผมไม่ยอมหรอก! ต่อให้คุณเกลียดผมยังไงก็ตาม ต่อให้คุณอยากเลิกกับผมแค่ไหน...ผมก็จะไม่มีวันยอมปล่อยคุณไปเด็ดขาด คุณเป็นของผมแล้วนะ ผมไม่มีวันยกคุณให้ใครหน้าไหนเด็ดขาด ไม่ว่าผู้หญิง หรือผู้ชาย ก็ไม่มีวัน!”
   เด็กหนุ่มผมทองโพล่งใส่ด้วยสีหน้าจริงจังผิดเคย ทำให้อาชวินชะงัก นิ่งเงียบ ก่อนจะค่อย ๆ หลุดยิ้ม แล้วระเบิดเสียงหัวเราะตามมา จนอีกฝ่ายประหลาดใจ แต่ก็ยังคงหน้าง้ำด้วยความงอนไม่หาย
   “ฮะ ๆ ๆ นายนี่นะ ...พอเห็นแบบนี้แล้ว ค่อยคิดว่านายเป็นเด็กสมอายุตัวเองหน่อย...”
   คริสโตเฟอร์เงียบกริบสีหน้าบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์เมื่อถูกเปลี่ยนเรื่องสนทนา แถมยังโดนอีกฝ่ายมองว่าเขาเป็นเด็กอะไรนั่นอีก
   “นายเอาแต่ใจ ฉันก็รู้ ...แต่บางครั้งนายก็ชอบวางท่าทีเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ เสียจนทำให้ฉันลืมตัวบ่อย ๆ ว่านายก็แค่ 16 เท่านั้น”
   อาชวินบอกพร้อมรอยยิ้ม พลางยกมือขยี้เส้นผมสีทองสลวยของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู แล้วบอกตามมาเมื่อเห็นสีหน้าอึ้ง ๆ ของอีกฝ่าย
   “ฉันรักนายนะคริส ก็เพราะรักเลยเป็นห่วงความรู้สึกของนาย ...นายยังเด็ก ยังเป็นวัยสนุกสนาน และรักในอิสระ แต่ฉันไม่ใช่...ฉันมีหน้าที่ มีงานต้องรับผิดชอบ ยิ่งได้รับความรักจากนายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ฉันต้องหวนคิดว่า ฉันจะยังเห็นแก่ตัวยึดนายมาอยู่ในโลกของฉันแบบนี้ดีไหม ...หรือจะปล่อยให้นายไปจากชีวิตของฉัน ให้ไปพบเจอความสุขที่แท้จริงของนายแทนดี”
   คำพูดตรง ๆ ไร้การเสแสร้งแกล้งเอาใจของผู้หมวดหนุ่ม ทำให้เด็กหนุ่มที่คร่อมทับร่างของอีกฝ่ายเงียบไปสักพัก ก่อนจะค่อย ๆ ยันกายขึ้นนั่งหันหลังให้ ไม่ยอมหันกลับมาสบตาอีก จนทำให้อาชวินเริ่มกังวล
   “คริส...โกรธหรือ แต่ฉันเป็นห่วงความรู้สึกนายจริง ๆ นะ...”
   “คุณวิน...ผมไม่ได้โกรธคุณหรอกครับ”
   คริสโตเฟอร์ยอมพูดในที่สุด แต่พออาชวินจับที่บ่าของเขาเด็กหนุ่มก็รีบหันหน้าหลบ แล้วบอกเสียงดัง
   “อย่ามองนะครับ! ผมไม่อยากให้คุณมองหน้าผมตอนนี้!”
   และแม้ถึงจะไม่ได้เห็นหน้าของอีกฝ่ายเต็มตา แต่ใบหูขาว ๆ ของหนุ่มลูกครึ่งตอนนี้กลับกลายเป็นสีแดงระเรื่อ บ่งบอกถึงความรู้สึกของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี
   “คริส ... นายเขินเหรอ?”
   อาชวินถามกึ่งขำกึ่งสงสัย เด็กหนุ่มผมทองยิ่งหน้าแดงหนัก แล้วตัดสินใจหันขวับ กลับมาจับคนข้างเขากดลงไปบนเตียงอีกครั้ง
   “คุณวิน! คุณจะทำให้ผมหลงรักคุณหัวปักหัวปำมากไปกว่านี้ถึงไหนกันครับ ...รู้ไหม ว่าผมจะคลั่งตายเพราะคุณอยู่แล้ว!”
   “ตกลงมันเป็นความผิดของฉันรึไง!”
   อาชวินที่อึ้งกับถ้อยคำต่อว่าทั้งใบหน้าแดงก่ำของเด็กหนุ่ม โพล่งกลับอย่างเริ่มหงุดหงิดขึ้นบ้าง แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นคนรักอายุน้อยผู้นี้ซบหน้าลงกับอกเขา แล้วพึมพำตามมา
   “คุณวิน ...ผมมีความสุขนะครับ มีความสุขที่ได้รักคุณ และได้รับความรักจากคุณ ...อย่าไล่ผมไปไหนเลยนะ ขอให้ผมอยู่รักคุณแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่ได้หรือครับ”
   ถ้อยคำออดอ้อนที่กลั่นมาจากใจของคนพูด ทำให้อาชวินเงียบกริบ แล้วจึงค่อย ๆ แย้มยิ้มออกมาได้ ก่อนจะกอดร่างบนกายของตนกลับไปบ้างอย่างอ่อนโยน
   “แน่ใจหรือ...ถ้าฉันตกหลุมรักนายมากกว่านี้ แล้วนายอยากจากไป ตอนนั้นจะเสียใจก็สายไปแล้วนะ...เพราะฉันจะไม่ยอมปล่อยนายให้หลุดมือแน่”
   คำพูดที่ตามมาของผู้หมวดหนุ่มทำให้คริสโตเฟอร์ชะงัก แล้วชะโงกหน้าขึ้นจูบคนพูดอย่างรวดเร็วและเร่าร้อนจนอาชวินไม่ทันได้ตั้งตัว
   “...คุณวิน วันนี้ผมมีความสุขมากที่สุดในโลกเลย รู้ไหมครับ”
   หลังจากถอนริมฝีปากออกมาแล้ว เด็กหนุ่มผมทองก็พึมพำอ้อยอิ่งบอกกับอีกฝ่าย โดยที่ริมฝีปากของเจ้าตัวก็ยังคงคลอเคลียอยู่บริเวณริมฝีปากของผู้หมวดหนุ่มไม่ห่าง
   “คริส...ฉันก็มีความสุขเหมือนกันนะ ที่มีนายอยู่เคียงข้าง”
   อาชวินบอกไปพร้อมรอยยิ้มหวาน นั่นทำให้คนมองใจเต้นตึกตึก และขณะที่กำลังจะเอ่ยปากขอร่วมรักกับผู้หมวดหนุ่มให้สมใจ เขาก็ต้องชะงักกึก เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของอาชวินดังขึ้น
   “ง่า...ฉันรับโทรศัพท์ก่อนนะ”
   อาชวินรีบบอก หน้าแดงระเรื่อ มองสายตาของคนรักก็พอจะรู้แล้วว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร นี่ถ้าไม่มีโทรศัพท์ดังขัดขึ้นก่อน เขาก็คงยอมปล่อยให้คริสโตเฟอร์ทำในสิ่งที่ทั้งเจ้าตัวและเขาเองต้องการไปแล้ว
   “สวัสดีครับ...หือ กานต์เหรอ ...อะไรนะ! พบเบาะแสแล้วหรือ!  ... หือ ไปคุยกันที่ร้านของคุณโทนี่?  แต่ฉันไปไม่ถูกนี่หว่า...อ้อ ก้องขับรถมารับใช่ไหม งั้นได้ ...อีกสักพักก็มางั้นหรือ โอเค เดี๋ยวจะแต่งตัวรอนะ”
   อาชวินกดวางสายแล้วเหลือบมามองคนที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่บนเตียงนอนเขา ผู้หมวดหนุ่มฝืนยิ้มแล้วบอกกับอีกฝ่าย
   “คริส ฉันต้องไปคุยธุระเรื่องงานน่ะ วันนี้กลับไปก่อนนะ”
   “เรื่องงาน...ตอนเกือบสามทุ่มนี่นะครับ”
   คริสโตเฟอร์บอกอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เขาไม่ว่าหรอกที่อาชวินจะคุยธุระเรื่องงาน แต่ไม่พอใจที่ทำไมคนรักไม่ยอมบอกเขาสักทีถึงปัญหาที่ตัวเองประสบอยู่
   “ก็ช่วยไม่ได้นี่ มันเป็นเรื่องสำคัญ ถึงจะดึกดื่นขนาดไหน ยังไงก็ต้องไปอยู่ดีนั่นล่ะ”
   อาชวินตัดบทแล้วเตรียมจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปข้างนอก แต่คริสโตเฟอร์ก็ยังคงนิ่งเฉยบนเตียงของชายหนุ่ม ไม่ยอมขยับไปไหน ทำให้เจ้าของห้องเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง
   “คริส...ฉันจะไปธุระเรื่องงานนะ ไม่ได้ไปเที่ยวเล่นอะไรที่ไหนให้นายต้องหึงหรอกน่า!”
   คนฟังยักไหล่ แล้วแย้งกลับเรียบ ๆ
   “นั่นผมก็รู้ดีอยู่หรอก แล้วผมก็ไม่ได้หึง แต่น้อยใจต่างหาก ที่คุณไม่ยอมบอกกล่าวอะไรผมเลย ทั้งที่เรื่องพวกนี้ผมก็พอจะช่วยได้อยู่แท้ ๆ”
   อาชวินเงียบกริบ จริงอยู่ว่าด้วยความกว้างขวางและอำนาจเงินที่เด็กหนุ่มมีก็สามารถช่วยเขาสืบสวนได้อีกทางหากเขาขอร้อง แต่นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา และคริสโตเฟอร์เองก็ไม่ควรจะต้องมาเสียเงินและเสียเวลากับเรื่องนี้ด้วย หรืออันที่จริงผู้หมวดหนุ่มนั้นไม่อยากลากให้คนรักอายุน้อยของเขาผู้นี้ มามีส่วนพัวพันกับอันตรายจากลูกหลงของเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้นั่นเอง
   “โอเค ๆ ผมเข้าใจ คุณก็มีโลกของผู้ใหญ่อย่างคุณ เด็กอย่างผมมันก็ไม่ควรจะไปยุ่งเกี่ยวให้วุ่นวายสินะ งั้นถึงเวลานอนของเด็กแล้ว ผมขอตัวกลับไปอาบน้ำเข้านอน ทำตัวเป็นเด็กดีอย่างที่คุณอยากให้เป็นแล้วกัน!”
   คริสโตเฟอร์บอกด้วยน้ำเสียงประชด แล้วเดินออกจากห้องไป ทำให้อาชวินถอนหายใจยาว แล้วพึมพำกับตัวเองตามมา
   “ขอโทษนะคริส ...แต่ฉันไม่อยากลากนายมายุ่งด้วยจริง ๆ ...ถ้านายเกิดเป็นอะไรไป ฉันคงไม่ให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิตแน่”

   จากนั้นผู้หมวดหนุ่มก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า รอเวลาที่ก้องภพมา  และเมื่อก้องภพมาถึง ทั้งเขาและก้องภพก็รีบออกเดินทางมายังจุดหมายปลายทางทันที  แต่พอมาถึงร้านพิงกี้คาเฟ่ของโทนี่ อาชวินก็ต้องเจอกับสิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงตาค้าง พูดแทบไม่ออก ในขณะที่คนซึ่งทำให้ผู้หมวดหนุ่มเป็นเช่นนั้น กลับยิ้มแย้มทักทายอย่างร่าเริง
   “ไงครับคุณวิน มาช้านะครับ ผมมารอคุณเกือบครึ่งชั่วโมงแน่ะ”
   “นาย...มาถูกได้ยังไง  ไม่สิ! ไหนบอกจะกลับบ้านนอนแล้วไงล่ะ!”
   อาชวินถามอย่างตกใจ แต่คนถูกถามยิ้มกริ่ม ในขณะที่คนอื่น ๆ ในที่นั้นพากันสั่นศีรษะอย่างระอา
   “อะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับคุณวิน ผมรู้ทุกเรื่องนั่นล่ะ รวมไปถึงสาเหตุที่คุณเอาแต่หมกตัวกับเอกสาร ไม่ยอมกุ๊กกิ๊กกับผมหลายวันมานี้ด้วย”
   “นายรู้ทั้งหมด?”
   อาชวินทวนคำ ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก
   “ใช่...เห็นคุณเคร่งเครียดแบบนี้ มีหรือที่ผมจะปล่อยนิ่งเฉยได้ แต่ผมก็รอจนกว่าคุณจะยอมขอร้องผมให้ผมช่วย ...ซึ่งผมก็ลืมไปว่าคุณน่ะ หยิ่งในศักดิ์ศรีแค่ไหน เฮ้อ!”
   “ก็ที่เรียกนายมาคุยได้แบบนี้ เพราะได้ข้อมูลเสริมจากเจ้าหนู เอ๊ย คุณคริสโตเฟอร์ นั่นล่ะ ใช่ไหมเควิน”
   กานต์เอ่ยเสริมมา แล้วหันไปทางคนรัก ซึ่งเควินก็พยักหน้ายืนยัน
   “ใช่ครับ ตระกูลรัสเซลของคุณคริสโตเฟอร์กว้างขวางมากเลยนะครับ ถึงจะไม่ใช่มาเฟียโดยตรง แต่ก็ทรงอิทธิพลมากพอสมควร”
   พอได้ยินคำบอกเล่าของเควินก็ทำให้ผู้หมวดหนุ่มอ้าปากค้าง เขาไม่เคยรู้เรื่องทางบ้านของคนรักอายุน้อยกว่าผู้นี้มาก่อน รู้ก็แค่เจ้าตัวเป็นลูกคุณหนูที่รวยมากก็แค่นั้นเอง
   “แหม ๆ คุณเควินก็พูดเกินไป เดี๋ยวคุณวินเข้าใจผมผิดพอดี หาว่าผมเป็นผู้มีอิทธิพลอะไรนั่น ผมก็เป็นแค่เด็กอายุ 16 ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเองล่ะครับ เนอะ คุณวิน”
   กานต์เหลือบมองเพื่อนสนิทที่ยืนอึ้ง ๆ ด้วยความสงสาร พอได้คุยกับคริสโตเฟอร์มาสักพัก ก็พอจะจับทางนิสัยอีกฝ่ายออกว่าเจ้าตัวค่อนข้างเจ้าเล่ห์เพียงใด แต่แน่ ๆ ที่เขารับรู้ได้ก็คือ เด็กหนุ่มผู้นี้รักเพื่อนของเขามากจริง ๆ
   “เอาล่ะครับ หมดเวลาพูดจาหยอกล้อกันแค่นี้ เรามาเริ่มหารือแผนการกันดีกว่าครับ ว่าจะต้องทำยังไงกันต่อไป”
   โทนี่ที่ยืนฟังทุกคนคุยอยู่ได้สักพัก เอ่ยตัดบทด้วยสีหน้าจริงจัง  ทั้งนี้เพราะเขาทิ้งภามไว้ในความดูแลของแพทย์และนางพยาบาลตามลำพัง ถึงแม้ด้านนอกจะมีลูกน้องของเขาคอยเฝ้าระวังภัยอยู่ก็ตาม แต่เขาก็อยากจะรีบ ๆ จบการประชุม เพื่อกลับไปเฝ้าคนรักต่อโดยเร็วที่สุด  คนอื่น ๆ ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พากันเงียบกริบเพราะเข้าใจชายหนุ่มลูกครึ่งดี เนื่องจากพวกเขาแต่ละคนต่างลองคิดกลับกันว่า หากคนที่นอนเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นคนรักของตัวเอง ก็ย่อมที่จะต้องร้อนรน และอยากจัดการเรื่องราวให้เสร็จสิ้นโดยเร็วเช่นกัน


---TBC----


มาต่อแล้วจ้า~~ ช้าไปนิด ต้องขออภัยด้วย ตอนนี้ต้องสับรางหลายเรื่องค่า  :sad4: คาดว่ากลางเดือน พ.ย. คงเป็นปกติสุข เพราะจัดการเรื่องหนังสือทำมือจบสักที - -.

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เอาใจช่วยคณะนี้ติดตามคนร้ายให้ได้ในเร็ววัน
เจ้าหนูคริสนี่ไม่ใช่แค่เด็กอายุ ๑๖ ธรรมดาๆนะจ๊ะ
หมวดวินรู้ดีที่สุด ในส่วนนั้น 555

ออฟไลน์ momo9476

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2
เอาใจช่วยคณะนี้ติดตามคนร้ายให้ได้ในเร็ววัน
เจ้าหนูคริสนี่ไม่ใช่แค่เด็กอายุ ๑๖ ธรรมดาๆนะจ๊ะ
หมวดวินรู้ดีที่สุด ในส่วนนั้น 555


ส่วนไหนอ่ะ โมเป็นคนซื่อๆๆๆ ม่ายยค่อยยยเข้าใจ 5555

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
อ่า ชอบเจ้าหนูคริสจริงๆนะ ถึงจะเด็กแต่ใจไม่เด็ก ปกป้องช่วยเหลือคนรักตลอดเลย

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8

sa~waii

  • บุคคลทั่วไป
คริสเท่จัง อยากกินเด็กมั่งอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ

ออฟไลน์ waan_warunee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เมื่อกี้นี้เห็นลงเรื่องใหม่แว๊บๆ แต่ขอพุ่งเข้าใส่เรื่องนี้ก่อน ^^

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
คริสแมนมากเลย

ปลื้มมมมม

รออ่านต่อออ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
เกือบจะมีฉากหวาน ๆ เรียกน้ำตาลแล้วเชียว  :m25:

คริสกลายเป็นคนรักที่ไม่ธรรมดาที่สุด ในบรรดาหนุ่ม ๆ ที่ริอ่านงาบตำรวจเลยใช่มะ :laugh:

สงสารวินหน่อย ๆ เจอเด็กเจ้าเล่ห์แล้วตัวเองดันออกจะซื่อ(+บื้อ)จะไปตามเด็กทันได้งั้ย o18

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

aimaim

  • บุคคลทั่วไป
ไอเด็กเจ้าเล่ห์แสนน่ารักนะคริส :-[ หวานนิดๆ

ออฟไลน์ knightofbabylon

  • it's sorrow that feeds your lies!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2542
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-51
อ่านยังไงก็รู้สึกว่าคริสนี่เหมาะแก่การถูกจับกดดีแท้  
ด้วยนิสัย ดูแล้วมันน่าถูกจับกดนัก.. :laugh:
แต่คริสน่ารักอ่ะคุณXenon  :-[
แถมประวัติเจ้าหนูไม่ธรรมดา มากๆ ด้วย
 :jul3:


คิดกลับไปกลับมา ให้หนูคริสเป็นแบบที่เป็นอยู่น่ะดีแล้ว เด็กกำลังโต
อาชวินก็เป็นภรรยาทีดีได้
 :laugh:


(วันนี้ฉันพูดอะไรไม่มีสาระเลย ฮ่าๆๆๆ)

Sherbet:)*

  • บุคคลทั่วไป
555 อ่านไปกรี๊ดไป
ชอบที่สุดเลย คู่คริส-วิน เนี่ย
ให็ฟีลประหนึ่งว่า
วินเป็นผู้ใหญ่ที่ทำตัวเหมือนเด็ก
55 และก็มีคริสคอยตามจิกกัด
แสบๆ ปนเจ้าเล่ห์นิดๆ มันส์ดี 55
: P

รอตอนต่อไปค่ะ
^^



namtaan

  • บุคคลทั่วไป
มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน   :laugh:
สำนวนนี้น่าจะพอใช้กับตอนนี้ได้
สามคู่ ช่วยกันไป มีก้องภพเป็นตัวเสริมกำลังอีกแรง เพราะภามยังบาดเจ็บอยู่

บวกอีก 1 แต้มนะคะ ขอบคุณมากค่ะ ^^

ออฟไลน์ Dee^daY

  • ไม่เคย ทำให้ใครเดือดร้อน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +330/-6

ออฟไลน์ waan_warunee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
...แหะ ๆ ขอบคุณทีี่่ดันค่า  รออีกนิดน้าาา ยังไม่ได้ต่อ แต่มาแน่ค่า TT ^ TT

aimaim

  • บุคคลทั่วไป
งั้นร้องเพลงรอล่ะนะ ^__^ :music:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
กานต์มาขัดจังหวะสะได้

ดันๆๆๆๆ

ออฟไลน์ archi_10_001

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
มาดัน ๆ ๆ เจ้าค่ะ เพิ่งได้มาอ่าน ๕๕๕ หื่นเรียกเลือดจริง ๆ ชอบมาก ๆๆๆๆ

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
คริสเนี้ย เด็กแสบดี ๆ นี้แหละ 555+

aimaim

  • บุคคลทั่วไป

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
มาอัพต่อไว ๆ นะจ๊ะ


 :z13: :z13:


 :L2: :L2:  ให้คนแต่ง 

sunda

  • บุคคลทั่วไป
กำลังสนุกเลยอะ เจ้าหนูของเรานี้เจ้าเล่ห์จริงๆ เลย

รอตอนต่อไปคะ มันๆ เร้าใจๆ 555

ออฟไลน์ Xenon

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 705
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-4
คุณตำรวจยอดรัก
==============
22



     “ไม่ได้เด็ดขาด ฉันไม่มีวันยอมปล่อยให้นายไปเสี่ยงแน่!”
   เสียงเข้มโพล่งขึ้นอย่างหงุดหงิด เมื่อได้ยินข้อเสนอของคนรัก ที่คิดจะลอบเข้าไปแฝงกายในรังโจร เพื่อจะสาวตัวถึงคนร้ายที่ยิงภาม และผู้อยู่เบื้องหลังที่ให้การสนับสนุนอาวุธสงครามมาให้หมด
   “แต่ถ้าไม่มีใครเสี่ยง แล้วเราจะเอาหลักฐานออกมาได้ยังไงเล่า! นี่ฟังนะเควิน ฉันเป็นตำรวจสืบสวนปราบปราม เรื่องพวกนี้น่ะ มันก็เป็นหน้าที่ของฉัน แล้วฉันก็เคยทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้วด้วย ไม่ใช่เพิ่งทำ เข้าใจไหม?”
   กานต์เถียงกลับไป ในขณะที่คนอื่น ๆ นิ่งเงียบ โดยเฉพาะคริสโตเฟอร์ เขาเหลือบมองอาชวินอย่างเป็นกังวล ไม่รู้ว่าคนรักอายุมากกว่าของตนคนนี้จะคิดทำแบบเดียวกับเพื่อนของเจ้าตัวหรือไม่
   “แต่ฉันเป็นห่วงนาย ...ถ้าพวกนั้นเกิดจับได้ นายรู้ใช่ไหมว่านายจะโดนอะไรบ้าง”
   เควินลดเสียงลง เพราะรู้ว่าถ้าเถียงกับกานต์ขืนเขาใช้อารมณ์เข้าสู้ ก็มีแต่จะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เท่านั้น
   “ก็นะ...ฉันก็เข้าใจที่นายเป็นห่วง แต่ทำไงได้ล่ะเควิน ถ้าฉันไม่ทำแล้วใครจะทำ ก้องมันก็โดนไอ้บ้านั่นหมายหัวอยู่ด้วย ขืนเข้าไปก็ถูกจับได้พอดี  ส่วนวิน...”
   “ฉันไปด้วย นายเข้าไปคนเดียวมันเสี่ยงไป”
   อาชวินเสริมตามมา แล้วยิ้มยักคิ้วให้ ทำเอาคนนั่งข้าง ๆ เงียบกริบ แล้วขยับแขนไปโอบเอวคนพูดมามองด้วยสายตาอ้อน ๆ แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะอาชวินยังคงไม่สนใจ และมองไปที่เพื่อนของเขานิ่ง
   “จะดีเหรอวิน”
   กานต์บอกอย่างเกรงใจคริสโตเฟอร์ และก็เป็นห่วงเพื่อนของตนด้วย แต่อีกฝ่ายก็ยังคงยืนกรานคำเดิม
   “มันก็ต้องแบบนั้นล่ะ งานเขาต้องทำกันเป็นทีมรู้ไหม เกิดคนใดคนนึงพลาด อีกคนก็ยังช่วยจัดการสานต่อได้”
   คำพูดของอาชวินทำให้กานต์พยักหน้ารับ แต่คนฟังคนอื่น ๆ ในห้องกลับยิ่งเป็นกังวลมากขึ้นไปอีก
   “แล้วอีกอย่าง...ถ้าคิดจะรักตำรวจ ก็ต้องเปิดใจให้กว้าง จริงไหม คริส?”
   อาชวินหันไปถามคนรักของตน ซึ่งอีกฝ่ายก็ฝืนยิ้ม แล้วชะโงกหน้าไปจูบผู้หมวดหนุ่มโดยไม่แคร์สายตาใคร
   “ระวังตัวด้วยนะครับ ถ้าคับขันยังไงก็ติดต่อหาผมเลยนะครับ ผมจะรีบตามไปช่วยคุณทันทีเลย”
   อาชวินทีแรกก็อายที่ถูกคนรักอายุน้อยกว่าจูบเอาโดยไม่เกรงสายตาชาวบ้านแบบนั้น แต่พอเห็นสีหน้าจริงจังที่มองมา เขาก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วยิ้มให้
   “อือ จะทำตามนั้นแล้วกัน”
   พอเห็นอีกคู่ตกลงกันได้ เควินก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วเมินสายตาไปทางอื่น ไม่ยอมสบตากับกานต์ พลางบอกขึ้นเสียงห้วน
   “ถ้านายไม่คิดเปลี่ยนใจ ก็แล้วแต่นาย ฉันก็ไม่รู้จะค้านอะไร ...ยังไงความเห็นฉันมันก็ไม่มีความหมายอะไรอยู่แล้วนี่”
   กานต์กลืนน้ำลายลงคอ รู้ว่าเควินนั้นโมโหแล้วก็น้อยใจเรื่องของเขา แต่คราวนี้เห็นทีเขาคงจะต้องขัดใจคนรักเสียแล้ว เพราะมันมีเรื่องความเป็นความตายของเพื่อนรักและรุ่นพี่คนสำคัญมาเกี่ยวข้องด้วย
   “ขอโทษนะครับ ที่ทำให้พวกคุณต้องมาเสี่ยงแบบนี้”
   โทนี่เอ่ยขึ้นอย่างสำนึกผิด เพราะรู้ดีว่า สำหรับเพื่อนของเขา กานต์นั้นเป็นเสมือนแก้วตาดวงใจและไม่อยากให้ผู้หมวดหนุ่มต้องไปข้องแวะอันตรายใด ๆ กลับกัน หากเขาอยู่ในสถานะอย่างเควิน เขาก็ไม่อยากให้คนรักของตัวเองต้องไปเสี่ยงแบบนี้เช่นเดียวกัน
   “ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกน่า คุณโทนี่ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ ถ้าพี่ภามรู้ คงต้องไม่สบายใจแน่”
   กานต์รีบบอก ส่วนก้องภพที่มองคนอื่นคุยกันก็ถอนหายใจเบา ๆ เขาเองก็ลำบากใจเช่นกัน เมื่อต้องมาอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ และถ้าไม่ติดว่าเขาก็เป็นเป้าหมายหนึ่งล่ะก็ เขาคงรับหน้าที่แฝงกายเข้าไปใกล้ชิดคนร้ายแทนพวกกานต์และอาชวินไปแล้ว
   “โอเค งั้นตกลงตามนี้ ...คุณโทนี่ ที่เหลือก็ฝากคุณด้วยแล้วกันครับ”
   อาชวินเอ่ยสรุป แล้วหันไปทางโทนี่ ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับ
   “ครับ ผมจะให้คนของผมเตรียมการให้เรียบร้อย ที่เหลือก็ต้องอยู่ที่ฝีมือการแสดงของคุณอาชวินและคุณกานต์แล้วล่ะครับ”
   โทนี่บอกด้วยสีหน้าขรึม ๆ ไม่ได้มีสีหน้ายิ้มแย้มขี้เล่นอย่างเคย เขาเป็นห่วงทั้งสองคนที่อาสาเข้าไปเสี่ยงก็จริง แต่เขาก็เห็นด้วยกับกานต์และอาชวินที่ว่า หากจะคิดจับให้มั่นคั้นให้ตายด้วยวิธีทางกฎหมาย ถ้าไม่เสี่ยง ก็ไม่อาจเข้าใกล้และสืบสาวหาหลักฐานและผู้สนับสนุนเบื้องหลังนั่นได้
   ถ้าไม่ติดเรื่องคำนึงถึงความรู้สึกของภามล่ะก็ ป่านนี้เขาใช้ให้ลูกน้องแฝงรอยเข้าไปแล้วเชือดเจ้าคนร้ายที่ยิงภามทิ้งไปนานแล้ว
   “ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ คุณเองก็พักผ่อนมาก ๆ นะครับ ถ้าล้มป่วยไป พี่ภามรู้เข้าจะเป็นห่วงเอา”
   กานต์กล่าวอำลา และเอ่ยเตือนโทนี่ด้วยความเป็นห่วง ซึ่งคนอื่น ๆ เห็นดังนั้นต่างก็ทยอยอำลาชายหนุ่มลูกครึ่งแล้วแยกย้ายกลับบ้านพักของตน  กานต์นั้นเดินตามเควินไปที่รถยนต์ของชายหนุ่มเงียบ ๆ แล้วจึงพึมพำขึ้นเบา ๆ
   “ถ้านายไม่พอใจเรื่องฉัน... คืนนี้ฉันค้างที่อื่นก็ได้นะ”
   เควินชะงักกึก พลางหันขวับมามองคนรักด้วยสีหน้าบึ้งตึงหนักขึ้น
   “จะไปค้างกับใคร?”
   ร่างสูงเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม กานต์นิ่งเงียบด้วยความน้อยใจที่เริ่มก่อตัวขึ้น เมื่อเห็นคนรักยังคงเย็นชาและไม่เข้าใจถึงความจำเป็นที่เขาต้องทำ
   “กับใครก็ได้ ที่เขาเต็มใจให้ค้างด้วย...หรือไม่ก็ไปเปิดโรงแรมนอนสักคืนก็ไม่มีปัญหา ...ถ้าไม่มีทางเลือกจริง ๆ ก็ไปค้างที่สน.ก็ได้”
   ผู้หมวดหนุ่มบอกเรื่อย ๆ แล้วหันหลังให้เตรียมจะเดินจากไป เพื่อซ่อนน้ำตาที่มันกำลังจะไหลโดยที่เขาเองก็ห้ามไว้ไม่อยู่
   “เดี๋ยวกานต์...”
   เควินจับแขนของคนรักรั้งเอาไว้ แล้วก็ได้เห็นอีกฝ่ายพยายามเช็ดน้ำตา และก้มหลบซ่อนหน้าไม่ให้เขาเห็นอย่างเต็มที่
   “กานต์...”
   หนุ่มลูกครึ่งพึมพำเรียกชื่อคนรักแผ่วเบา แล้วดึงร่างนั้นมากอดเอาไว้ โดยไม่สนใจว่าตนกำลังยืนอยู่ในสถานที่แบบใด เคราะห์ดีที่ตอนนั้นเป็นเวลาดึกมากแล้ว จึงไม่ค่อยมีใครผ่านไปผ่านมาแถวนั้นมากนัก
   “โกรธฉันหรือ?”
   เควินกระซิบถามพลางลูบศีรษะของผู้หมวดหนุ่มอย่างปลอบโยน
   “...เปล่า...แค่น้อยใจที่นายไม่พยายามเข้าใจฉันเลย”
   กานต์ตอบออกไปตามตรง จนคนฟังถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วดันร่างของอีกฝ่ายออก พลางก้มลงจูบที่หน้าผากของคนรักแผ่วเบา
   “ไปคุยต่อกันที่บ้านนะ”
   คนฟังพยักหน้ารับรู้ เข้าใจดีว่าสถานที่เช่นนี้คงไม่เหมาะสมกับการปรับความเข้าใจระหว่างกันเท่าใดนัก แม้จะไม่มีคนพลุกพล่าน แต่ยังไงก็ยังมีผู้คนที่เดินผ่านไปมา และเหลียวมองมายังทั้งคู่ด้วยความสนอกสนใจอยู่เหมือนกัน
   
   และเมื่อมาถึงที่พัก กานต์ก็เดินตามเควินกลับขึ้นห้องพักของพวกเขาไปเงียบ ๆ  จนกระทั่งชายหนุ่มมาหยุดนั่งอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก และเรียกเขาไปนั่งฝั่งตรงข้าม
   “ฉันรู้ และเข้าใจดีนะกานต์ เรื่องงานของนาย ...แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นห่วงในความปลอดภัยของนายไม่ใช่หรือ”
   เควินเปิดประเด็นการสนทนา โดยไม่คิดอ้อมค้อม คนฟังนิ่งเงียบแล้วพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะแย้งกลับไป
   “แต่ว่าสิ่งที่นายกระทำ นั่นไม่ใช่แค่ความเป็นห่วง ...แต่นายกำลังจะจำกัดสิทธิ์ในการตัดสินใจของฉันให้เป็นของนาย ... เควิน ฉันรักนายนะ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าฉันจะต้องยอมเชื่อฟังนายทุกอย่าง ...ฉันก็มีอิสระในการคิดและตัดสินใจของตัวเองเหมือนกัน นายเข้าใจใช่ไหม”   
   เควินเงียบกริบและนิ่งคิด
    ...เข้าใจสิ ทำไมเขาจะไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังอธิบาย แต่ถึงจะเข้าใจขนาดไหน เขาก็ไม่อาจจะยอมรับและปล่อยให้กานต์เผชิญหน้ากับอันตราย โดยที่เขาไม่อาจจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือได้อยู่ดี…
   “นายจะบอกว่าให้ฉันทนดูนายเข้าไปเสี่ยงอันตรายอยู่เงียบ ๆ โดยไม่ต้องพูดอะไรให้มากความใช่ไหม”
   เควินเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด ทำให้ผู้หมวดหนุ่มต้องถอนหายใจ แล้วจึงลุกขึ้นมานั่งบนตักของอีกฝ่าย แล้วโอบคอคนรักที่กอดตอบคนบนตักแน่นไม่ต่างกัน
   “ฉันรู้ว่านายห่วงฉัน ไม่อยากให้ฉันเข้าไปเสี่ยงอันตราย แต่ถ้าฉันเป็นคนแบบที่จะคอยให้คนอื่นปกป้องเอาฝ่ายเดียว ฉันก็คงไม่เป็นฉันอย่างทุกวันนี้ และอาจจะไม่มีโอกาสได้พบกับนายก็ได้นะ เควิน”
   คำพูดของผู้หมวดหนุ่ม ทำให้เควินนิ่งเงียบ อ้อมแขนที่กอดรัดร่างบนตักก็ยิ่งกระชับให้แน่นขึ้นไปอีก
   “กานต์...สัญญากับฉันได้ไหม ว่าจะคิดถึงตัวเองเป็นหลัก ...ถ้านายสัญญาได้ ฉันจะยอมปล่อยให้นายไปเสี่ยงแบบนั้น...”
   เควินซุกหน้าพึมพำกับลำคอของคนรัก โดยที่กานต์นั้นถอนหายใจ แล้วตอบกลับไปเสียงแผ่ว
   “อือ...ฉันจะพยายามรักษาสัญญานะ”
   ชายหนุ่มร่างสูงกอดร่างของคนบนตักนิ่งอยู่สักพัก แล้วจึงค่อย ๆ ประคองร่างของคนรักให้นอนราบไปกับโซฟายาวที่เขานั่งอยู่ โดยที่เควินเองก็ขยับมาเปลี่ยนท่าทางมาคร่อมอยู่บนร่างของผู้หมวดหนุ่มแทน
   “อย่าลืมล่ะกานต์...ถ้านายเจ็บ ฉันนี่ล่ะจะเจ็บยิ่งกว่าหลายเท่า...”
   กานต์ยิ้มรับอย่างตื้นตันใจ ต่อความรักของคนที่เขาฝากหัวใจไว้ให้ ชายหนุ่มใช้แขนคล้องลำคอของร่างสูงและรั้งใบหน้านั้นลงมาประทับริมฝีปากแผ่วเบา ก่อนจะเอ่ยตอบ
   “ฉันจะพยายามไม่ทำให้นายเจ็บนะเควิน...ขอบใจที่เข้าใจและเชื่อมั่นในตัวฉัน”
   ...
    ..
   .

   เควินมองร่างของคนรักที่นอนหลับไปแล้วอย่างอ่อนเพลียด้วยสายตารักใคร่ ก่อนจะขมวดคิ้วยุ่ง เมื่อนึกถึงสถานที่ซึ่งกานต์จะแฝงตัวเข้าไปเพื่อสืบหาแหล่งกบดานของคนร้าย และหาหลักฐานที่มาของอาวุธสงครามในครั้งนี้
   ชายหนุ่มลูกครึ่งหยิบมือถือมากดเบอร์ถึงเพื่อนสนิท ซึ่งสักพักก็มีเสียงตอบรับ แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้นอนแต่อย่างใด
   “มีอะไรหรือเควิน?”
   “โทนี่ สายนายคนนี้น่าเชื่อถือได้ขนาดไหน และฝีมือล่ะ เปอร์เซ็นผิดพลาดมีมากไหม”
   เสียงถอนหายใจดังขึ้นมา ก่อนจะมีเสียงหัวเราะในลำคอเบา ๆ ตอบกลับ
   “หึ ๆ นายนี่นะ ฉันว่าฉันขี้กังวล ขี้เป็นห่วงแล้ว ยังไม่ได้ครึ่งของนายเลย”
   “แล้วจะไม่ให้กังวลไหวหรือไง จู่ ๆ ก็คิดจะแฝงตัวเข้าไปในดงโจรแบบนั้น แล้วไอ้พวกเวรนั่น จะมีใครสักคนเคยรู้จักหน้าของกานต์บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยังไงเขาก็เป็นตำรวจที่ทำคดีมาแล้วหลายคดีนี่!”
   เสียงหัวเราะเบา ๆ เงียบหายไป สักพักน้ำเสียงจริงจังจากปลายสายจึงเอ่ยขึ้นตามมา
   “สำหรับเรื่องสายของฉันคนนี้ ไม่ต้องเป็นห่วง หมอนี่ไว้ใจได้แน่ เหลือแต่คนของนายนั่นล่ะ ถ้าไม่ปล่อยพิรุธให้เห็น ก็ไม่มีปัญหา”
   เควินนิ่งรับฟังแล้วถอนหายใจตามมา เมื่อคิดถึงนิสัยเลือดร้อนและแสนซื่อตรงของคนรักของเขา
   “ฉันห่วงก็ตรงนี้ล่ะนะ”
   “มีคุณอาชวินตามไปด้วยคงไม่มีปัญหา คุณก้องภพบอกกับฉันแล้วว่า คุณอาชวินเห็นแบบนั้น แต่ถ้ามีปัญหาเฉพาะหน้าให้ต้องแก้ไข เจ้าตัวมักจัดการได้ดีเสมอ”
   โทนี่เอ่ยปลอบเพื่อนสนิทให้คลายกังวล ทั้งคู่คุยกันอีกสักพัก เควินก็ขอตัวตัดสาย แล้วสั่งให้อีกฝ่ายพักผ่อนบ้าง ไม่ใช่เอาแต่มัวเฝ้าภามจนไม่ได้หลับได้นอนอย่างที่เป็นอยู่เช่นนี้
    จากนั้นเมื่อตัดสายไปเรียบร้อย ชายหนุ่มลูกครึ่งก็ต้องยิ้มน้อย ๆ กับตัวเอง เมื่อหันมาเห็นคนนอนหลับ ละเมออะไรงึมงำเบา ๆ แล้วนอนหลับไปต่อ เควินลูบเส้นผมดำขลับของร่างนั้นอย่างรักใคร่ ก่อนจะมีสีหน้าเคร่งขรึมลง คล้ายดังกับกำลังจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างหนึ่ง

   
   
  
---- TBC ----


กลับมาต่อสั้น ๆ ค่า  ขออภัยที่ทำให้รอนานนะคะ
จะพยายามเข็นออกมาให้ต่อเนื่องเรื่อย ๆ  เฮ้อ..ทำไม๊ทำไม ตอนนี้ รู้สึกไร้ไฟจังเลย
 :เฮ้อ:

pinkky_kiku

  • บุคคลทั่วไป
เย้มาแล้ว  :L1: :L1:
เควินต้องทำอะไรสักอย่างแน่ๆเลย
แต่ก็เข้าใจกานต์นะ เป็นตำรวจนินา
สงสัยจะงานหนักแงะ แต่เคลวิน
ไม่ยอมให้กานต์เป็นอะไรหรอก สู้ๆ
 :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-11-2010 19:17:30 โดย pinkky_kiku »

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นจริงๆ
กานต์ชอบเสี่ยงอีกแล้ว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด