คุณตำรวจยอดรัก
==============
24
นายเฉินมองชายหนุ่มสองคนที่แต่งชุดลำลองเป็นเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์ธรรมดามาหาตนตามเวลานัด พลางยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาที่แสดงถึงการตัดสินใจของทั้งคู่
“มากันตรงเวลาดี ถ้างั้นผมจะได้แนะนำถึงกฎ ระเบียบ และวิธีการใช้ชีวิตย่อ ๆ ในร้านนี่ ไม่ให้ผิดสังเกตง่าย ๆ แล้วกัน”
“ครับ!”
ทั้งอาชวินและกานต์พยักหน้ารับคำแล้วตั้งใจฟังในสิ่งที่อีกฝ่ายอธิบาย จากนั้นพวกเขาก็ถูกนำมายืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า โดยมีเฉินคอยบอกให้พวกเขาเปลี่ยนชุดเป็นชุดในตู้แทน
“ทำงานแบบนี้ มันต้องเน้น ๆ โชว์ ๆ สักหน่อย เปลือยอก เน้นก้น ให้ลูกค้ามองแล้วคึกคัก ๆ เป็นคุณถ้าไปเที่ยวผู้หญิง ก็ชอบมองพวกแต่งตัวเซ็กซี่ ๆ โชว์เนื้อหนังมังสากันมากกว่าใช่ไหมล่ะ”
เฉินอธิบายเมื่อเห็นผู้หมวดทั้งสองตีสีหน้าทะแม่ง ๆ
“ผู้หญิงใส่มันก็น่าดูหรอกคุณเฉิน แต่พวกผมให้แต่งรัดติ้วแบบนี้นี่นะ... ผมกลัวลูกค้าจะกินข้าวไม่ลงเอาน่ะสิ”
กานต์มองกางเกงยีนส์ตัวสั้นจิ๋ว ที่ใส่แล้วคงเน้นทั้งเป้าและบั้นท้ายเขาให้เห็นเด่นชัดกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ส่วนอาชวินหยิบเสื้อเชิ้ตบาง ๆ ที่มองทะลุไปถึงไหน ๆ ขึ้นมาพิจารณาแล้วนิ่วหน้าทันที
“เสื้อแม่งบางโคตร เอาผ้าขาวบางมาตัดเสื้อแทนหรือเปล่าวะแบบนี้!”
เฉินหลุดหัวเราะกับคำวิจารณ์ของตำรวจทั้งสอง แล้วโบกไม้โบกมือให้ทั้งคู่เลิกกลุ้มใจเสีย
“เอาน่า ครั้งแรกอาจจะยังไม่ชิน แต่ใส่ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ชินเอง อีกอย่างในร้านก็แต่งกันแบบนี้ทั้งนั้น มีเพื่อนแต่งมันก็ไม่อายเท่าไหร่หรอกครับคุณ”
สองตำรวจหนุ่มจ้องหน้ากันตาปริบ ๆ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ตามมา
“เอาไงเอากัน ไหน ๆ ก็หลวมตัวมาขนาดนี้แล้วนี่นะ”
กานต์บ่น แล้วจึงจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าเช่นเดียวกับอาชวิน ที่พยายามเลือกชุดที่มันโป๊น้อยสุดมาแต่ง เฉินมองสภาพหลังสลัดคราบแปลงโฉมของทั้งคู่ ก็ถึงกับตกตะลึงตาค้าง แล้วตบมือดังอย่างถูกใจ
“แหม่! เสียดายจริง ๆ เลยแฮะ นี่ถ้ามาทำประจำมีหวังลูกค้าติดใจเข้าร้านเพียบ! ว่าไงคุณตำรวจ หลังจบคดีนี้คิดจะมารับจ๊อบที่นี่หรือเปล่า รับรองผมจะช่วยปิดเรื่องหน้าที่คุณให้มิดไม่ให้ใครจับได้แน่”
“เหอะ ๆ เอาแค่คืนนี้ให้รอดก่อนเหอะคุณเฉิน ผมกลัวจะทนไม่ไหวกับสภาพตัวเอง จนเผลอสติแตกเอาเข้าง่าย ๆ ก็ได้ล่ะนะ”
กานต์บอกอย่างนึกปลงสภาพตัวเอง เหลือบไปมองอาชวิน ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ที่เห็นอีกฝ่ายนั้นมีสีหน้าอนาถสภาพตัวเองไม่แตกต่างกับเขานัก
จากนั้นผู้หมวดหนุ่มทั้งสองที่ไม่รู้ว่าตัวเองน่ารักน่ามองขนาดไหน ก็เริ่มเข้าคอร์สติวเข้มกับเฉิน โดยต่างคนก็ต้องเปลี่ยนชื่อเรียกกันเสียใหม่ เฉินนั้นเป็นลูกพี่ใหญ่ในร้านที่อยู่มานาน และมีหน้าที่ดูแลในส่วนบริการแขกอยู่แล้ว จึงสามารถประกบและสอดส่องดูแลทั้งสองคนได้โดยตรง ทำให้ทั้งกานต์และอาชวินค่อนข้างอุ่นใจมากขึ้นกว่าเดิม
ตกค่ำ เสียงดนตรี แสงไฟหลากสี และแขกมากหน้าหลายตา ที่ล้วนแล้วแต่คุ้น ๆ หน้าว่าจะเป็นพวกนักธุรกิจ หรือนักการเมืองที่มีเบื้องหลังกันแทบทั้งนั้น
กานต์กับอาชวินตอนนี้กำลังแยกกันรับมือแขก เฒ่าหัวงูหื่น ๆ ซึ่งมีรสนิยมรักร่วมเพศ โดยพวกเขาทั้งคู่นั้นแทบจะไม่มีเวลาว่างคอยสังเกตการณ์รอบด้านสักเท่าใด เพราะทันทีที่ลูกค้าเห็นพวกเขา ชายหนุ่มทั้งสองก็ถูกเรียกให้ไปนั่งร่วมดื่มที่โต๊ะ จนเกือบจะเกิดการวางมวยแย่งเด็กดริงค์กันด้วยซ้ำ โชคดีที่นายเฉินออกมาไกล่เกลี่ย และจัดคิวเด็กใหม่ทั้งสองให้แขกแต่ละโต๊ะ เรื่องจึงจบลงด้วยดีนั่นเอง
“น้องกานดาครับ ดื่มเหล้ากับพี่หน่อยสิครับ พี่ไม่เห็นน้องดื่มเท่าไรเลย”
เฒ่าหัวงูหน้าตาหื่นวัยเกือบห้าสิบที่เดาะเรียกตัวเองว่าพี่ชวนให้คนฟังคลื่นไส้ แต่ก็ต้องแกล้งทำเป็นยิ้มหวานประจบ
“ขอโทษครับพี่ พอดีผมคออ่อน เมาง่าย ...แถมเมาแล้วชอบอาละวาดด้วย ผมเลยกลัวจะทำเรื่องไม่ดีให้พี่โกรธเอาน่ะครับ”
กานต์เน้นคำว่าอาละวาดเป็นพิเศษ พร้อมกับส่งแววตาดุ ๆ คมกริบให้อีกฝ่าย แต่ดูเหมือนว่าชายผู้นั้นจะไม่ได้กลัวคำขู่ดังกล่าว หนำซ้ำยังถูกใจยิ่งขึ้นเสียอีก
“งั้นก็ดีสิครับ ยิ่งรุนแรง พี่ยิ่งชอบ”
กานต์ฝืนยิ้ม แล้วจึงหยิบแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นมาดื่มอย่างเสียไม่ได้ อีกฝ่ายปรบไม้ปรบมือชอบใจ แล้วขยับกายเบียดแนบชิดคนข้าง ๆ เขาไปอีก
“น้องกานดานี่น่ารักจังเลยนะครับ พี่มาเที่ยวที่นี่หลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่เคยเจอใครน่ารักเท่าน้องกานดามาก่อนเลยนะครับเนี่ย”
“ขอบคุณครับ แต่ก็คงเพราะที่นี่มันมืด ๆ มากกว่า เลยทำให้พี่เห็นผมไม่ค่อยชัด ถ้าเห็นชัด ๆ มีหวังอาจจะตกใจเป็นลมไปเลยก็ได้”
กานต์บอกพร้อมกับพยายามแกะมือไม้ที่มาหมุบหมับแถวท่อนขาของตน
“ฮ่า ๆ น้องกานดานี่มีอารมณ์ขันจังเนาะ ...แล้วเล่นพูดแบบนี้ ทำให้พี่ชักอยากเห็นน้องแบบชัด ๆ สองต่อสองเสียแล้วสิครับ”
เฒ่าหัวงูตรงหน้าตีความของกานต์เป็นว่าอีกฝ่ายให้ท่าตน แล้วจึงรีบลงมือต่อรองทันที
“นะครับ ...เลิกงานแล้วไปกับพี่ไหม รับรองพี่ทุ่มไม่อั้นเลยนะ อย่างน้องกานดานี่ จะให้พี่เลี้ยงดูออกนอกหน้า พี่ก็ยอม”
กานต์ฝืนยิ้มหวานให้ ทั้งที่ในใจนึกกร่นด่าเจ้าเฒ่าหัวงูใกล้ ๆ เขาเสียไม่มีชิ้นดี
“อย่าเลยพี่ ...ผัวผมขี้หึงน่ะ เดี๋ยวจะโดนมันฆ่าเอา”
กานต์กระซิบบอก ทำเอาคนที่กำลังทำตาเยิ้มชะงักกึก แล้วถามอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
“น้องกานดามีผัวแล้วเหรอครับ…”
“ใช่ครับพี่ ...ก็อยู่แถว ๆ นี้นั่นล่ะ มันหึงโหดจะตายพี่ แถมเข้าออกโรงพักเป็นว่าเล่น ผมงี้กลัวมันจะตาย ไม่งั้นผมไปเป็นเด็กขายแทนแล้ว ไม่มาเป็นเด็กดริงค์อยู่แบบนี้หรอก”
กานต์ใช้ยุทธวิธีอย่างที่เฉินแนะนำ หากเจอแขกช่างตื๊อมาก ๆ และก็ได้ผล เพราะอีกฝ่ายค่อย ๆ ขยับออก พร้อมกับเหลือบมองไปมาด้วยความหวาดระแวง เพราะยังไงแถวนี้ก็รังโจร แถมแต่ละรายก็ร้าย ๆ ชนิดถ้าเลือดขึ้นหน้าก็ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมอะไรกับเขาแทบทั้งนั้น
แม้ผู้หมวดหนุ่มจะค่อนข้างกระดากปากอยู่บ้าง แต่เมื่อผลลัพธ์ออกมาดี ชายหนุ่มก็ยิ้มน้อย ๆ อย่างพอใจ จากนั้นจึงนั่งจิบเหล้าเป็นเพื่อนแขกคนนั้นไปจนอีกฝ่ายเช็คบิลกลับ เพราะเสียวว่าจะโดนผัวจอมโหดของคนน่ารักข้าง ๆ แอบดักตีหัวนอกร้านเข้าให้
เสียงถอนหายใจยาวเฮือกใหญ่ดังขึ้นเบา ๆ ชายหนุ่มสวมแว่นตาดำ มาดเข้ม กำลังจิบไวน์ราคาแพงอยู่มุมที่นั่งฝั่งวีไอพีของร้าน สายตานั้นจับจ้องที่ชายหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงยีนส์สั้นฟิต อวดรูปร่าง ที่พอเขาเห็นแวบแรก ก็แทบจะหิ้วเจ้าตัวกลับบ้านด้วยความโมโห แต่ก็ต้องอดทน เพราะไม่อยากให้เรื่องมันพังเสียก่อน และเขาอาจจะโดนอีกฝ่ายโกรธเข้าให้ในภายหลังก็ได้
“คุณเควิน สวัสดีครับ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”
ชายหนุ่มหน้าตี๋ หุ่นผอมบาง อายุราวสามสิบปลาย ๆ ใส่สูทราคาแพงลิบ เดินเข้ามาโค้งทักทายคนที่นั่งอยู่ด้วยความคุ้นเคย
“สวัสดีคุณฟง การค้ารุ่งเรืองดีนี่ครับ แขกหน้าใหม่ ๆ มากันเพียบเลยทีเดียว”
เควินเอ่ยตอบพร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งอีกฝ่ายก็ขออนุญาตร่วมนั่งสนทนา โดยที่หนุ่มลูกครึ่งก็พยักหน้าต้อนรับด้วยความเต็มใจ
“พวกขาจรหลัง ๆ ก็เริ่มมีมาเยอะเข้า บางทีก็ต้องตรวจสอบเข้มงวดกันสักหน่อย เพราะไม่รู้ว่าจะมีสายตำรวจแฝงมาบ้างหรือเปล่านั่นล่ะครับ”
“มิน่า ถึงดูเรื่องมากชอบกล แถมยังมีการขอดูบัตรสมาชิกอะไรนั่น ทีแรกผมคิดว่าจะเข้าไม่ได้แล้วเสียอีก”
เควินบอกขำ ๆ อย่างไม่คิดถือสา เมื่อนึกถึงตอนที่เขาเข้าร้านมา
“เรื่องนั้นต้องขออภัยด้วยครับ พอดีเด็กใหม่ยังไม่ค่อยกว้างขวางนัก เลยเสียมารยาทเข้า สำหรับคุณเควินถึงไม่มีบัตรสมาชิก ทางเราก็ยินดีต้อนรับทุกเมื่ออยู่แล้วครับ”
ฟงบอกอย่างนอบน้อม ซึ่งเควินก็ยิ้มรับ ก่อนที่สีหน้าจะกลับเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมลง
“แล้วเรื่องที่ผมขอร้องไป...”
“ลำบากอยู่นะครับ ลูกค้าในที่นี้แต่ละคนถ้าไม่ระดับวีไอพี ก็พวกมีแบล็กอัพหนาทั้งนั้น จะให้ลงมือล่วงเกิน ทางผมก็ลำบาก”
ฟงกระซิบบอกอย่างลำบากใจ แล้วจึงสั่งให้ลูกน้องขยับถอยห่างออกไปเหลือเพียงแค่เขากับเควินที่คุยกันตามลำพัง
“ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยเปิดทางให้คนของผมเข้าใกล้เขาหน่อยได้ไหมล่ะ แล้วทางนั้นจะจัดการต่อเอง”
“หือ? คนของคุณ ...อย่าบอกนะครับว่ามีปะปนมาในร้านผมด้วย”
เควินยิ้มโดยที่ไม่ตอบคำถามของฟง ทำเอาเจ้าของร้านหนุ่มใหญ่ต้องถอนหายใจ แล้วสั่นศีรษะไปมา
“คุณเควินนะ คุณเควิน หาเรื่องปวดหัวให้ผมอีกแล้ว”
เพราะความที่อยู่แวดวงเดียวกัน และคบหากันมานาน จึงพอจะทำให้ให้ฟงเดาใจอีกฝ่ายออก อีกอย่างเขาเองก็รู้ถึงข่าวของเควินกับคนรักลับ ๆ ที่เป็นตำรวจอยู่บ้าง เพราะดูเหมือนเควินจะไม่คิดปิดบัง แถมก็ไม่มีใครจะกล้าเข้าไปกระตุกหนวดเสือเล่นเสียด้วย
“ผมรู้ว่าผมไว้ใจคุณได้ ก็เท่ากับที่ผมจะไม่นำเรื่องเดือดร้อนมาสู่ร้านคุณ เพราะอย่างนั้นผมถึงเลือกวิธีติดต่อคุณโดยตรง เพื่อล่อเป้าหมายที่เราจะจัดการให้ออกไปจากร้าน จะได้ไม่เกี่ยวข้องกันอีก ...แล้วยิ่งมารู้ทีหลังแบบนี้ว่าคนของผม แฝงตัวเข้ามาในลักษณะไหน ผมก็ยิ่งอยากให้เรื่องนี้มันจบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ท้ายประโยคเควินเอ่ยเสียงเข้ม เสียจนทำให้ฟงต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเหลือบไปไล่สายตามองเด็กใหม่สามสี่คนที่เฉินพามา แล้วหรี่ตาพิจารณาว่าคนไหนกันแน่ที่เป็นคนของเควิน
“งานนี้ โทนี่คิดจะลุยซึ่ง ๆ หน้าแต่แรก แต่เพราะเราเปลี่ยนแผนเป็นเล่นตามเกม เลยต้องมาลงมือยุ่งยากแบบนี้”
พอได้ยินชื่อโทนี่ ฟงก็เงียบกริบ ก่อนจะสั่นศีรษะอย่างเอือมระอาอีกครั้ง
“ถ้าผมไม่ช่วยอำนวยความสะดวก ร้านผมก็พังแน่ใช่ไหมครับ”
เควินหัวเราะเบา ๆ กับคำตอบที่ได้รับ เจ้าตัวยกไวน์ขึ้นจิบ แล้วจึงเอ่ยตอบ
“คุณก็พูดเกินไปคุณฟง ...แต่จะว่าไปหมอนั่นในตอนนี้ก็เดาใจยากอยู่ เป้าหมายครั้งนี้มันล้ำเส้นเอง คุณคงจำได้ใช่ไหม ตอนที่ลูกน้องคนโปรดหมอนั่นโดนยิง โทนี่ไปตอบแทนคนยิงแบบไหนบ้าง”
ฟงแค่นยิ้ม ทำไมเขาจะจำไม่ได้ ก็ในเมื่อเขาเองก็นั่งดื่มอยู่ในคลับชั้นสูงแห่งนั้นด้วย แถมยังเกือบโดนลูกหลงกระสุนของอีกฝ่ายเข้าให้ แล้วผลสรุปหลังจากนั้นก็คือ เจ้าของคลับโดนเก็บโหดตายอนาถ แถมยังถูกรื้อหลักฐานมาโปรยให้ตำรวจที่ตามมาทีหลังจัดการรวบยกแก๊งตบท้ายอีกด้วย
“งานนี้หมอนั่นเป็นฟืนเป็นไฟยิ่งกว่าครั้งก่อนอีก เพราะคนโดนยิงน่ะสำคัญกับเจ้าตัวมาก แต่ก็นะ เพราะโดนเบรกจากหลาย ๆ ฝ่าย ที่มีอิทธิพลกับเขา หมอนั่นก็เลยจำใจต้องเล่นตามเกมให้มันยืดเยื้อแบบนี้”
พอเควินพูดแบบนี้ก็ทำให้ฟงมองภาพเหตุการณ์ทะลุปรุโปร่ง แล้วยังรู้ดีว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ เพราะคนที่ก่อคดีอุกอาจ ให้เป็นที่กล่าวขวัญทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังในช่วงนี้ ก็มีแค่รายเดียวเท่านั้น
“จะพยายามช่วยแล้วกันครับ ...แต่รสนิยมของหมอนั่นค่อนข้างเฉพาะทางหน่อยนะครับ”
“เฉพาะทาง?”
เควินทวนคำอย่างสงสัย ซึ่งฟงก็พยักหน้าแล้วอธิบายตามมา
“ครับ เด็ก ๆ ใส ๆ เจ้าตัวไม่สน เขาชอบมาดแมนแบบพอฟัดพอเหวี่ยงกัน ยิ่งแมนดูดีเท่ชนิดสาวมองได้ ผู้ชายมองดี ก็ยิ่งชอบ...อ้อ แบบเด็กใหม่คนนั้นล่ะครับ สเป็คเจ้าตัวเลย”
ฟงชี้ไปที่กานต์ที่กำลังนั่งยิ้มให้แขกคนใหม่ที่มานั่งดื่มกับตน เควินมองตาปริบ ๆ แล้วจึงกระดกไวน์ในแก้วรวดเดียวหมด ก่อนจะวางกระแทกค่อนข้างแรง
“รสนิยมดีนี่ครับ...หมอนั่น”
เสียงห้วนเยียบเย็นที่ทำให้คนฟังสะดุ้ง แล้วจึงค่อย ๆ เหลือบมองไปที่กานต์อีกครั้ง ก่อนจะเหลือบกับมามองชายหนุ่มลูกครึ่งที่นั่งอยู่ด้วยกัน พลางลอบถอนหายใจเบา ๆ
“คนนั้นหรือครับ...คนของคุณ”
เควินไม่ตอบ เขาเงียบพร้อมกับเทไวน์ลงแก้วเพิ่ม
“แต่ก็ดีออกนะครับ มืออาชีพลงมือเอง งานก็สำเร็จง่ายขึ้น ดีกว่าให้เด็กไม่รู้อิโหน่อิเหน่ลงมือตั้งเยอะ”
ฟงพยายามปลอบ แต่เควินก็ได้แค่เพียงพยักหน้ารับรู้ พลางกระซิบบางอย่างกับฟง ซึ่งเจ้าตัวก็ถอนหายใจ ก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วเดินตรงไปที่โต๊ะซึ่งกานต์กับแขกนั่งดื่มกัน สักพักกานต์ก็เดินตามฟงมาต้อย ๆ อย่างกังวล เช่นเดียวกับเฉินและอาชวินที่ทำงานอยู่แถวนั้น
“มาแล้วครับ น้องใหม่ของเรา ...น้องดูแลแขกท่านนี้ด้วย ท่านเป็นแขกวีไอพีของเราเชียวนะ”
ฟงหันมากระซิบแล้วยิ้มอย่างนึกขำ เมื่อเห็นกานต์ยืนนิ่งอึ้งด้วยสีหน้าตื่นตระหนกคาดไม่ถึง จากนั้นเจ้าของร้านหนุ่มใหญ่ก็เดินไปบริการดูแลโต๊ะอื่นต่อ ปล่อยให้กานต์อยู่กับเควินที่โต๊ะนั้นตามลำพัง
“ทำไม...นาย”
“นั่งสิ มัวแต่ยืนค้ำหัวแขกอยู่ได้ หรือที่ร้านนี้เขาไม่สอนมารยาทกัน”
น้ำเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นเย็นชา ทำให้กานต์กัดฟันกรอด แล้วจึงนั่งกระแทกลงใกล้ ๆ อีกฝ่าย ที่รวบเอวเขาไปกอดแนบชิดทันที
“น่ารักดีนี่ เผลอ ๆ จะน่ารักกว่า ‘เมีย’ ที่บ้านฉันเสียอีก ว่าไง สนใจให้ฉันส่งเสียเลี้ยงดูไหม รับรองอยากได้เท่าไรก็ให้ไม่อั้น”
เควินแกล้งพูดเหมือนกับเป็นคนไม่รู้จัก ทำให้กานต์นึกหงุดหงิดจึงประชดกลับไปอย่างงอน ๆ
“ไม่ได้หรอกครับ เพราะ ‘ผัว’ ผมมันขี้หึง หึงได้หึงดี แถมยังนิสัยเสีย ชอบทำตัวเป็นสโตกเกอร์โรคจิตคอยตามติดไม่ห่างอีกต่างหาก หาอิสระไม่ได้เลย จนบางครั้งนึกอยากจะหาผัวใหม่ที่ใจกว้าง ใจป้ำแทนเหมือนกัน”
คนที่กำลังอมยิ้มชะงักกึก แล้วรั้งเอวของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ พร้อมกับกระซิบตอบเสียงเข้ม
“ถ้าฉันเป็นผัวนายล่ะก็...ได้ยินแบบนี้ คงกลับไปจับมัดผูกติดกับเตียงไม่ต้องให้เห็นเดือนเห็นตะวันกับเขาเลยแล้วล่ะ!”
“เอากับแกล้มมาเพิ่มให้ครับ!”
เสียงร่าเริงของใครบางคนเอ่ยขัดขึ้น เควินทำท่าจะพูดว่ายังไม่ได้สั่ง แต่ก็ชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นอาชวินนั่นเอง
“นั่งด้วยคนได้ไหมครับ อยู่แถวนั้นเง๊าเหงา ไม่มีเพื่อนคุยเลย”
ชายหนุ่มแกล้งบอก แต่ความจริงแล้ว เพิ่งจะหาเรื่องปลีกตัวจากแขกจอมเจ้าชู้หื่นกามแต่ละรายมาได้สด ๆ ร้อน ๆ ต่างหาก
“เชิญครับ พอดีผมกำลังติดต่อธุรกิจกับน้องคนนี้เขาสักหน่อย อยากขอซื้อตัวไปนอนบ้านสักคืน แต่น้องเขาบอกว่าผัวเขาโหด ผมเลยกำลังลังเลอยู่”
เควินตอบเรียบ ๆ ทำเอาอาชวินหลุดพรืดเกือบปล่อยก๊าก ในขณะที่กานต์นั่งหน้ามุ่ยด้วยความงอน
“ไม่คิดเลยนะครับว่าจะได้มาเจอกันที่นี่ ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงมายังไงกันแน่ครับ คุณเควิน”
อาชวินเริ่มพูดเป็นการเป็นงานหลังจากที่ปรับอารมณ์ของตนได้บ้างแล้ว
“ผมเป็นห่วงเมียผม กลัวจะถูกจับได้เสียก่อนจะเจอเบาะแส ก็เลยเข้าหาเจ้าของร้านให้ช่วยใช้เส้นสายจัดการให้เรื่องมันไวขึ้นหน่อย”
“ก็แล้วทำไมไม่บอกกันก่อนเล่า!”
กานต์โพล่งใส่ด้วยเสียงที่ไม่กล้าดังมากนัก
“ก็บอกอะไรเคยคิดจะฟังบ้างไหม เอะอะก็หน้าที่ ๆ บอกว่ามันเสี่ยงก็ไม่คิดจะสน แล้วถ้าบอกแต่แรกว่าจะช่วย เดี๋ยวก็อ้างโน่นอ้างนี่ ไม่ยอมให้ช่วยง่าย ๆ อีก หาว่าใช้อิทธิพลก้าวก่ายหน้าที่ อยากสืบอยากจับตัวคนร้าย ด้วยฝีมือตัวเอง มากกว่าใช่ไหมล่ะ!”
เควินกระแทกเสียงใส่อย่างหงุดหงิดไม่แพ้กัน แต่คำพูดของหนุ่มลูกครึ่งทำเอาผู้หมวดหนุ่มเงียบกริบ เถียงไม่ออก แล้วก็ต้องก้มหน้าสลดเมื่อเควินบ่นตามมาชุดใหญ่
“แล้วดูสภาพสิ บอกว่าจะแฝงตัวเข้ามาหาเบาะแส ใครจะไปคิดล่ะว่า จะมาแต่งตัวล่อตาผู้ชายคนอื่นแบบนี้ ...ถ้ารู้ก่อนหน้าล่ะก็ จะไม่ยอมให้ออกจากห้องมาเลยด้วยซ้ำ!”
เควินขู่ซึ่งก็ดูเหมือนจริงมาก จนอาชวินชักจะหวาด ๆ แล้วเริ่มเหลือบมองซ้ายขวา ว่าคริสโตเฟอร์จะบ้าจี้ตามเข้ามาสะกดรอยเขาในนี้ด้วยอีกคนไหม
“ก็ห่วง...”
กานต์พึมพำอุบอิบ จนคนฟังไม่ได้ยิน อีกทั้งเป็นเพราะเสียงเพลงที่ดังมากในร้านนั่นด้วย
“อะไร?”
เควินถามเสียงห้วน จนอาชวินกลัวคู่รักจะทะเลาะกันเข้าให้ต่อหน้าเขา
“ก็ฉันเป็นห่วง! ไม่อยากให้เรื่องของฉัน ทำให้นายต้องบาดหมางกับคนในวงการเดียวกัน ...แล้วถ้าร้านนี้เป็นฝ่ายตรงข้ามกับนายล่ะ สถานะนายจะเป็นยังไง นายอาจจะโดนพวกนั้นฉวยโอกาสเล่นงานก็ได้ ...ไม่ใช่แค่อยากดำเนินการเรื่องนี้ตามกฎหมายเท่านั้น แต่เพราะเป็นห่วงก็เลยอยากทำคดีนี้กันเอง ไม่อยากลากนายมายุ่งด้วย ...เข้าใจกันบ้างไหมล่ะ!”
กานต์โพล่งความรู้สึกออกไป แล้วเบือนหน้าไปอีกทางอย่างนึกน้อยใจ ทว่าคนที่ได้ฟังคำสารภาพของคนรัก ถึงกับนิ่งอึ้งแล้วทิ้งตัวพิงพนักโซฟาอย่างหมดแรง ก่อนจะหลุดรอยยิ้มอ่อนโยนออกมาจากใบหน้าหล่อเหลานั้น
“ให้ตายเหอะ ...นายทำเอาฉันแพ้หมดรูปเลยนะกานต์”
คำพูดของอีกฝ่ายทำให้กานต์หันกลับมามองคนรักอย่างสงสัย แล้วก็ต้องชะงักหน้าแดงวาบเมื่อเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนของอีกฝ่าย ที่นาน ๆ จะเห็นสักที จนทำให้เขาอดใจเต้นแรงขึ้นมาไม่ได้
“อะแฮ่ม! หวานกันจริ๊งจนน่าอิจฉา งั้นผมไม่ขัดจังหวะละ ไปหาทิปเพิ่มดีกว่า จะว่าไปงานนี้ก็เงินดีนะกานต์ เสร็จคดีแล้วแอบมาทำกันสองคนดีไหม”
คำชวนของอาชวินทำเอาชายหนุ่มที่กำลังยิ้มน้อย ๆ เปลี่ยนเป็นหน้าบึ้งทันควัน แล้วมองเขม่นใส่ผู้หมวดหนุ่มทันที
“เห็นจะไม่เหมาะมั้งครับคุณวิน จะว่าไปผมก็ขอเตือนให้คุณระวังตัวหน่อยดีกว่า เพราะเหมือนผมจะเห็นบอดี้การ์ดของคุณคริสโตเฟอร์ผ่านตาอยู่รายสองราย ...เพราะงั้นตัวเจ้านายก็คงไม่อยู่ไกลเกินไปนักหรอกครับ”
เควินบอกเสียงเข้มแล้วยิ้มเยาะตามมา ทำเอาคนฟังสะดุ้งโหยงแล้วรีบมองลนลานซ้ายขวาอย่างลืมตัว
“มีจริงหรือครับคุณเควิน อย่าขู่กันสิครับ!”
“ใครจะกล้าข่มขู่ตำรวจล่ะครับ ...ขออวยพรให้โชคดีล่วงหน้าเลยแล้วกันครับ”
อาชวินยิ้มเจื่อน ๆ แล้วจึงเดินตีหน้าเซ็ง กลับไปที่กลางร้าน โดยมีกานต์มองตามเพื่อนอย่างนึกสงสารและเป็นกังวลแทน
“มาจริงหรือเด็กนั่นน่ะ?”
เควินยักไหล่ พลางก้มลงจูบหน้าผากคนรัก แล้วตอบคำถามนั้นหน้าตาเฉย
“ไม่รู้เหมือนกัน ฉันแค่หมั่นไส้ที่อยากมาชวนเมียฉันไปเป็นเด็กดริงค์เลยแกล้งแหย่เข้าให้ ...แต่มันก็ไม่แน่หรอกนะ เด็กคนนั้นนึกอยากทำอะไรขึ้นมา ใครจะไปรู้ล่วงหน้าได้ แถมเขาก็มีอิทธิพลพอตัวเสียด้วย”
“เหอะ ๆ หวังว่าคงจะไม่มาก่อเรื่องป่วนในร้านหรอกนะ ไม่งั้นที่ลงทุนแต่งตัวทุเรศ ๆ น่าอายนี่ ก็เปล่าประโยชน์กันพอดี!”
เควินมองคนรักที่บ่น ๆ ชุดตัวเองอย่างนึกขำ แม้ทีแรกเขาจะโกรธมากก็ตามที่เห็นกานต์แต่งตัวโชว์เนื้อหนังเน้นสัดส่วนให้ชายคนอื่นเห็น แต่พอคิด ๆ ไป โอกาสที่จะได้เห็นกานต์แต่งตัวแบบนี้ก็แทบไม่มีทางเอาเสียเลย เพราะตามปกติแล้วถ้าไม่เมา หรือครึ้มอกครึ้มใจขึ้นมา เจ้าตัวไม่มีวันยอมใส่ให้เห็นแน่
“น่ารักออก ...คราวหน้าแต่งแบบนี้ตอนอยู่กันสองคนบ้างนะ”
“ไม่มีทาง!”
กานต์แยกเขี้ยวยิงฟันใส่ แล้วลุกพรวดขึ้นยืน ก่อนจะยิ้มกว้างยั่ว
“เสียใจนะครับคุณลูกค้า เวลาเป็นเงินเป็นทอง ผมต้องรีบทำยอดขาย เดี๋ยวจะอดโบนัสปลายเดือนนี้พอดี”
เควินหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ เพราะรู้ว่าคนรักต้องการจะแกล้งยั่วให้ตนเองโมโห เขาจึงแกล้งฉุดมือของอีกฝ่ายให้ล้มลงมานั่งบนตักของตน
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะสั่งเครื่องดื่มที่แพงที่สุดในร้าน เพราะอย่างนั้น นายก็นั่งเป็นเพื่อนฉันจนหมดเวลานี่ล่ะ”
พอพูดขาดคำ เควินก็ยกมือเรียกพนักงานบริกรแถวนั้นสั่งไวน์ขวดใหม่ เป็นยี่ห้อที่จัดว่าแพงสุดในร้าน พนักงานพอได้ยินก็รีบโค้งรับออเดอร์ แล้วรีบจัดการสั่งให้อีกฝ่ายอย่างว่องไว ส่วนพนักงานคนอื่นก็พากันซุบซิบว่ากานต์นั้นมีฝีมือมากไม่เบา ทั้งที่มาวันแรก แต่ถึงขนาดทำให้แขกยอมเปิดไวน์ราคาแพงได้ขนาดนี้
---TBC---