คนละปลายทาง
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คนละปลายทาง  (อ่าน 166822 ครั้ง)

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
คนละปลายทาง
« เมื่อ09-05-2007 16:18:00 »

                    ผมเคยมีความเชื่ออย่างแรงกล้ามาตลอดว่า รักแท้ไม่ได้ถูกตีกรอบเอาไว้แค่เพียงในกลุ่มชายหญิงธรรมดาเท่านั้น มนุษย์ทุกคนควรจะมีสิทธ์เท่าเทียมกันโดยชอบธรรมที่จะได้พบเจอกับความรักแท้ รสนิยมทางเพศไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่าบุคคลคนนั้นมีสิทธ์ที่จะสมหวังในความรักหรือไม่ ในเมื่อคนที่มีเพศธรรมดามีสิทธิ์ที่จะฝันหารักแท้ได้ แล้วทำไมเกย์อย่างผม ถึงจะฝันถึงมันไม่ได้...........

                    ใครกันนะช่างดูแคลนความรักของชาวเกย์เอาไว้ว่า “รักแท้ไม่มีในหมู่เกย์” บางครั้งผมสงสัยว่าคนที่พูดประโยคนั้นขึ้นมาคนแรกเป็นใคร เขามีเพศอะไร ชายหญิงธรรมดา หรือเกย์อย่างเราๆ และเพราะเหตุใดเขาถึงได้พูดประโยคนั้นออกมา แต่แค่ประโยคสั้นๆเพียงเท่านั้น มันกลับมีพิษสงในการบั่นทอนความศรัทธาในความรักของชาวเกย์ได้อย่างร้ายกาจ โดยเฉพาะกับเกย์ผู้ผ่านชีวิตรักมาอย่างโชกโชน ช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ก็ในเมื่อมนุษย์ทุกคนต่างก็ต้องการความด้วยรักกันทั้งนั้น.... แล้วเกย์ไม่ใช่มนุษย์หรือยังไง ถ้าเพียงแค่ใจเรารักกัน อุปสรรคใดๆก็ไม่อาจจะมาขวางกั้นความรักของผมได้..........

                    และแล้วโชคชะตาก็เล่นตลกกับผมจนได้ โดยได้นำพาให้ได้มาพบกับเขาคนนั้น เรื่องราวระหว่างเรามันเกิดขึ้นโดยบังเอิญอย่างที่สุด เสมือนพระเจ้าท่านจะแกล้งทดสอบความเชื่อมั่นในความรักของผมโดยแท้  แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผมยอมรับว่า ณ ช่วงเวลานั้น ความศรัทธาในความรักของผมถูกสั่นคลอนจนแทบจะถอนรากโคนออกไปจากหัวใจของผมเสียสิ้น พร้อมๆกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาของเขา ถึงตอนนี้ผมชักไม่มั่นใจแล้วว่า มุมมองของผมที่มีต่อความรักในแบบเกย์นั้น ได้เปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังคงจะตามหาคนคนนั้นของผมต่อไป.......

                    เคยมีเพลงอยู่เพลงหนึ่ง พูดถึงความรักของสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ระหว่างแมงมุมกับหิ่งห้อย ที่บังเอิญเกิดขึ้นในค่ำคืนที่แสนจะมืดมิด โดยเจ้าหิ่งห้อยผู้แสนดีได้ออกมาเที่ยวบินเล่นเพียงลำพัง และได้พบกับแมงมุมผู้น่าสงสารซึ่งกำลังเดินหลงทางอยู่ในความมืด เจ้าแมงมุมอยู่ในสภาพที่หนาวเหน็บ และหวาดกลัว ด้วยความสงสาร เจ้าหิ่งห้อยจึงอาสาใช้แสงของตัวเองนำทางพาเจ้าแมงมุมกลับไปยังบ้านของมัน ในระหว่างที่พวกมันเดินทางไปด้วยกัน มันทั้งสองได้พบเจอกับสิ่งต่างๆร่วมกันมากมาย จนเกิดเป็นความผูกพันธ์และกลายเป็นความรักในที่สุด ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ามันทั้งสองนั้นแตกต่างกันมากมายเพียงใด และอนาคตของความรักจะริบหรี่สักเพียงไหน แต่สุดท้ายหิ่งห้อยก็เผลอรักเจ้าแมงมุมไปจนสุดหัวใจ............

                    เมื่อทั้งสองเดินทางมาถึงรังของเจ้าแมงมุม ด้วยความรักและไว้ใจ จนไม่ทันได้ระวังตัว เจ้าหิ่งห้อยที่น่าสงสารก็บังเอิญบินไปติดที่ใยของเจ้าแมงมุมจนไม่สามารถดิ้นหลุดออกมาได้ และสุดท้ายมันก็ต้องจบชีวิตของมันลงภายใต้คมเขี้ยวของเจ้าแมงมุมอย่างน่าเวทนา.....ก่อนที่ความรู้สึกสุดท้ายของมันจะดับสูญไปตราบชั่วนิรันดร์  เจ้าหิ่งห้อยน้อยจึงได้เรียนรู้ว่า ไม่มีชีวิตใดที่จะไปด้วยกันได้ไกล.....ถ้าหากทั้งสองนั้นมีจุดหมายในชีวิตที่แตกต่างกัน แต่ถึงอย่างไรกผ้ตาม.....มันก็ไม่เคยเสียใจในทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ทุ่มเททำลงไปตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา.....เพียงเพราะคำว่ารัก เพียงคำเดียว ...............

       ตามผมมาสิ แล้วคุณจะได้รู้ว่า ผมควรเป็นหิ่งห้อย หรือ ควรเป็นแมงมุมกันแน่....................
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2007 11:08:29 โดย moody »

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #1 เมื่อ09-05-2007 16:23:53 »

เป็นกำลังใจให้คร้าบบบบบ

 o13

abcd

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #2 เมื่อ09-05-2007 17:52:55 »

การนำเสนอเรื่องน่าติดตามดี  o13


ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #3 เมื่อ09-05-2007 17:59:27 »

ตามไปด้วยคน  :teach:


ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #4 เมื่อ09-05-2007 20:12:55 »

อารัมภบท ได้น่าติดตามมาก ๆ   :impress:
เป็นกำลังใจให้นะคะ   :teach:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #5 เมื่อ09-05-2007 21:45:38 »

บ่นได้น่าสนนะยะหล่อน อิอิ

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #6 เมื่อ10-05-2007 12:02:19 »

ตามมานั่งกางร่ม  ปูเสื่อรอ  ด้วยอีกคนนะคร้าบบบ

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #7 เมื่อ10-05-2007 12:56:09 »


..........."เพราะบางทีสิ่งที่สำคัญ...ไม่ใช่ปลายทาง.........

...........แต่หากเป็นระหว่างทาง.........ว่าเราได้อะไรจากมันมา".........

...........นำเรื่องได้น่าติดตามมากคับ.....................มาต่อเร็วๆนะ.............

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
คนละปลายทาง
«ตอบ #8 เมื่อ11-05-2007 10:39:09 »

                                                                                 ตอนที่ 1
                                                                          The origin of love

          ผมเป็นนักเรียนไทยธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่บังเอิญโชคดีได้รับทุนรัฐบาล เพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาเอกใน
มหาวิทยาลัยชั้นนำของเมืองไทย แถมยังมีทุนให้เดินทางไปทำวิจัยยังต่างประเทศอีกด้วยนะ แจ๊คพ็อตสองชั้นเลยใช่มั้ย
ล่ะ  แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ ก็ไปตั้งเมืองนอกนะ แถมยังต้องไปคนเดียวอีกด้วย แค่คิดขึ้นมาท้องไส้ก็เริ่มจะปั่นป่วนซะแล้ว ก็คนอย่างผมชอบไปไหนมาไหนคนเดียวซะที่ไหนล่ะ ปกติจะกินข้าวที ก็ต้องคอยอาศัยไหว้วานให้เพื่อนๆตามกันไปเป็น
โขยง.....ก็อย่างว่าล่ะครับ คนมันน่ารักและแสนดีขนาดนี้ เพื่อนๆก็ต้องรัก...ต้องห่วงเป็นของธรรมดา จะปล่อยให้เดินลอย
ชายไปไหนมาไหนคนเดียวได้ยังไง...เดี๋ยวได้ตกเป็นเหยื่อ ปากเหยี่ยวปากกาแถวนี้กันพอดี....อิอิ.. ดังนั้นเวลาจะ
ไปไหนมาไหนที ผมต้องมีองครักษ์คอยตามไปพิทักษ์อยู่ตลอดเวลา..รู้สึกดีจัง..... แต่เอาน่า....ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ไปก็ไปวะ ทีคนอื่นยังบินไป บินมายังกะได้ตั๋วฟรี ดูหน้าตารึก็รุ่นลูก รุ่นหลานทั้งนั้น ไฉนเลยนักศึกษาปริญญาเอกอย่างผมจะไปเมืองนอกไม่ได้ คิดได้แค่นี้ก็ค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย ทั้งๆที่ในใจลึกๆนั้น รู้สึกตุ้มๆต่อมๆพิกล...เฮ้อ........

          ฟังๆดูชีวิตผมก็ดูจะมีความสุขดีใช่มั้ยล่ะ? แต่ดังคำที่ว่า "โลกนี้ไม่เคยมีอะไรสมบูรณ์แบบ" ผมเองก็เป็นปถุชน
ธรรมดาคนหนึ่งเช่นกัน ดังนั้นจึงย่อมไม่อาจจะฝืนกฎเกณฑ์ธรรมชาติดังกล่าวไปได้ แถมยังเป็นการไม่สมบูรณ์แบบที่น่า
เศร้าที่สุด นั่นก็คือ ผมยังไม่มีแฟน..... เฮ้อ... แต่ก็เอาเถอะ ได้ข่าวว่าเพื่อนๆบางคนไปเมืองนอกแล้วได้แฟนฝรั่งกลับมาเป็น
กระบุงโกย เราเองก็คงจะไม่ยอมให้เสียเวลาไปโดยเปล่าดายเช่นกัน อุตส่าห์เอาทุนหลวงท่านไปแล้วนี่ คงต้องทำประโยชน์ให้
คุ้มค่าที่สุดนั่นแหล่ะ....ทำแลปไป...หาแฟนไป...ได้กำไรสองต่อ...จริงมั้ย? คิดได้อย่างนี้ก็ค่อยมีกำลังใจขึ้นมาหน่อยนึง แต่จะคิดไปอีกที เราเองก็ไม่นิยมฝรั่งดั้งขอ ถ้าเป็นตี๋ๆขาวๆล่ะก็ยังพอว่า แล้วไอ้เมืองฝรั่งนี่มันจะมีอะไรให้น่าพิสมัยเหลืออยู่อีกมั้ยเนี่ย...วัยรุ่นเซ็ง.....

          สุดท้ายผมก็เดินทางมาถึงต่างแดนอย่างปลอดภัยจนได้ ค่อยหายใจทั่วท้องขึ้นมาหน่อย ยังมีเหลือให้ลุ้นระทึกอีกทีก็อีตอนขากลับ แต่เอาไว้ค่อยว่ากันอีกทีก็แล้วกันเนาะ อย่างน้อยๆก็อีกตั้งห้าเดือนล่ะ....แต่จะว่าไปแล้วไอ้เมืองนอกนี้มันก็สวยดีอยู่หรอกนะ.....อะไรๆก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจไปเสียหมด ทั้งอาคารบ้านช่อง ดอกไม้ดอกไร่ก็ดูสวยงามแปลกตา แต่จะให้ผมควักเอากล้อง
จากกระเป๋าขึ้นมาถ่ายภาพง่ายๆน่ะเหรอ ไม่มีวันซะหรอก ประเดี๋ยวเค้าก็ได้รู้กันพอดีว่าผมน่ะ ยังไม่เคยมาเมืองนอก....อิอิ...เรื่องจะให้ขายขี้หน้าฝรั่งน่ะ....ไม่มีวันซะล่ะ..
          อากาศของที่นี่ก็จัดว่าเย็นสบายดีไม่น้อย ผู้คนก็ดูหลากหลายเชื้อชาติ มีทั้งหัวทองหัวดำเดินกันให้ควั่ก มองดูเผินๆนึกว่าเป็นเมืองจีนเสียด้วยซ้ำไป แต่อย่าเผลอไปพูดภาษาจีนกับเขาเข้าล่ะ เพราะอาตี๋อาหมวยที่นี่ พูดภาษาอังกฤษเป็นไฟ แต่ภาษาจีนใบ้รับประทานครับ

          โชคดีที่ผมได้ที่พักใกล้กับมหาวิทยาลัย การเดินทางไปมาสะดวก แถมอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้เหงาอย่างที่คิด เพราะมีนักเรียนไทยอยู่หลายคน คิดๆดูแล้วผมเองก็โชคดีไม่น้อยที่ไปไหนมาไหนมักจะมีคนมาคอยดูแล ห้อมล้อมตลอด ทั้งๆที่เราเองก็ไม่ได้จะไปรู้จักมักคุ้นกับเค้ามาก่อน แต่ถ้าเป็นในอดีตชาติก็คงจะไม่แน่ ดังนั้นในระยะแรกๆจึงมีกิจกรรมให้ทำตั้งมากมาย แต่อย่าคิดว่าผมจะหลงระเริงจนลืมหน้าที่นะ ถึงยังไงก็ผมคอยระลึกอยู่เสมอแหล่ะว่า...มาที่นี่เพื่ออะไร ดังนั้นในระหว่างนั้น ผมจึงใช้เวลาว่างที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือคอยสอดแนมทรัพยากรผู้ชายรอบๆตัว.....

          เริ่มต้นจากที่แลปก่อนเลยดีกว่า คนแรกคือดร. ลี เป็นชาวเกาหลี ตานี่มาทำวิจัยหลังปริญญาเอก ดูแล้วค่อนข้างจะผอมแห้ง แถมแก่ไปหน่อย ทั้งยังมาสืบรู้ทีหลังว่ามีเมียแล้ว จึงตัดทิ้งได้เลย คนต่อมาชื่อเดฟ เป็นนักศึกษาปริญญาเอก ดูท่าจะเป็นลูกครึ่งอาหรับ อีตานี่ชอบมาทำท่าว่าปลื้มเมืองไทยนักหนา เจอผมทีไรทำเป็นมาคุยเป็นคุ้งเป็นแคว ฟังเพลินๆบางทีก็เคลิ้มจนเกือบจะตามไปคุยต่อที่ห้องเค้าเหมือนกัน แต่เสียดายตัวโตไปหน่อย แถมน้ำหนักยังเกินซะจนน่าตกใจ เพราะฉะนั้นผมจึงตัดทิ้งทันทีที่เจอ โดยไม่ต้องใช้ไขสันหลังคิดให้เสียเวลา อีกคนหนึ่งชื่อไบรอัน เป็นนักศึกษาปริญญาโท คนนี้หน้าตาดูเข้าที ตัวสูงใหญ่ แต่ดูเซอร์ไปหน่อย ถึงยังไงก็อย่าเพิ่งตัดทิ้งตอนนี้เลย เก็บเอาไว้ก่อนดีกว่า ผู้ชายยิ่งมีน้อยๆอยู่ ส่วนอีกคนที่น่าสนใจชื่อเคนตะ เป็นนักศึกษาปริญญาตรี เชื้อชาติญี่ปุ่น แต่เกิดและโตที่นี่ หน้าตาก็ดูน่ารักเข้าที แต่ดูเหมือนตานี่จะมีสัมผัสที่หกยังไงก็ไม่รู้ เวลาเจอผมทีไรชอบเดินเลี่ยงไปทุกที ไม่ค่อยจะกล้าสบตา แต่ทีกะคนอื่นคุยน้ำไหลไฟดับเชียว.....ไม่ง้อก็ได้...แต่ผมยังไม่ตัดทิ้งหรอกนะ ยังไงจะต้องหาหนทางเอาชนะใจเค้าให้ได้ ต้องลองดูกันสักตั้ง...นี่คือปณิธานที่หาญมุ่ง......

         ถึงที่แลปพอจะมีผู้ชายอยู่บ้างแต่ก็ยังไม่เข้าตากรรมการชนิดคว้าคะแนนเต็มสิบสักคน มีแต่ขาดๆเกินๆทั้งนั้น ชนิด
ที่ว่าคัดให้เข้ารอบมาแบบฝืนใจกรรมการยังไงยังงั้น แต่อย่ากระนั้นเลยนักเรียนไทยก็ยังมีตั้งเป็นกระบุงนี่นา แรกเริ่มเดิมทีผมเองก็ใช่ว่าจะนิยมคนเชื้อชาติอื่นที่ไหน ไอ้ที่จะมาเห็นว่าฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น เกาหลีนั้น วิเศษกว่าคนชาติตัวเห็นจะไม่มีทางเป็นแน่....ถ้ายังงั้นเรามาลองพิจารณาดูดีกว่าว่า พอจะมีหนุ่มไทยคนไหนที่น่าสนใจมั่ง..........คิคิ......................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-05-2007 11:20:14 โดย moody »

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #9 เมื่อ11-05-2007 10:56:54 »

 เป็นกำลังใจให้ครับ

 :teach:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2007 13:50:41 โดย หมูพูห์ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #9 เมื่อ: 11-05-2007 10:56:54 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #10 เมื่อ11-05-2007 12:40:07 »

แรกเริ่ม เกริ่นได้ดีมากครับ ชอบอ่ะ เลยอยากมาติดตามอ่านดูคับ

เป็นกำลังใจให้นะม่ลงต่อเรื่อยๆนะครับผม  :teach:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #11 เมื่อ11-05-2007 13:18:21 »


เอ่อ.....เขียนอัตชีวประวัติเจ้หรอเคอะเนี้ย  ทำไมมันคุ้นๆ จังเลยคร้า  :o9:

ออฟไลน์ LingNERD*

  • จบแล้ว...รักที่เคยมี *
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-0
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #12 เมื่อ11-05-2007 14:50:50 »

ตามมาดัน :impress2: และ เปงกามลางใจให้คับ :teach:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #13 เมื่อ11-05-2007 20:23:21 »

น่าสนุก น่าสนุก  :interest:
เป็นกำลังใจให้นะคะ  o15

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #14 เมื่อ15-05-2007 10:52:13 »

               โลกเรานี่ก็แปลกอยู่อย่างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนๆ ก็มักจะมีผู้ชายน้อยกว่าผู้หญิงเสมอ และที่นี่ก็เช่นเดียวกัน ผู้ชายไทยที่ผมรู้จักมีเพียงสองสามคน ที่น้อยทั้งปริมาณและคุณภาพ เป็นอันว่าโครงการสำรวจชายไทย ณ ต่างแดนเป็นอันต้องพับไปโดยปริยาย.....ดังนั้นรวมความแล้ว คนดวงอับผู้ชายอย่างผม ยังๆไงก็ยังคงตามคอนเซ็ปส์เดิมไม่เปลี่ยนแปลง  ก็คือ อับผู้ชายต่อไป....

               สรุปว่าบรรดาผู้ชายที่อยู่รายรอบตัวผม ณ เวลานี้ ล้วนมีน้อยและไม่เป็นที่เจริญหูเจริญตาเท่าที่ควร แม้บรรยากาศที่นี่จะทั้งหนาวเย็นและแสนจะโรแมนติกสักเพียงใด แต่แทนที่ผมจะซาบซึ้งดื่มด่ำกับมัน.....เปล่าเลย.....มันกลับยิ่งทำให้ผมทวีความคิดถึงบ้านมากขึ้นเป็นลำดับ...แล้วผมจะอยู่อย่างไรต่อไปอีกตั้งห้าเดือน โดยที่มีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ต่ำเช่นนี้......

               หน้าที่หลักๆของผมที่นี่ (ถ้าตัดเรื่องสำรวจทรัพยากรผู้ชายออกไปแล้ว เพราะเนื่องจากไม่คุ้มค่ากับการลงทุนลงแรงแต่ประการใด) ก็คือตื่นเช้ามาไปทำแลป ตกเย็นกลับห้อง และซุกตัวเงียบๆอยู่แต่ในห้อง ดูทีวี ทำกับข้าว เล่นเนต เพราะเนื่องจากบรรยากาศที่หนาวเย็นดังกล่าว ไม่เอื้อต่อการใส่ขาสั้นออกมาเดินเล่นตามชายหาดแม้แต่น้อย....และแล้วความเหงาก็เข้ามาเกาะกุมหัวใจของผมทีละน้อย “คิดถึงบ้าน” เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับผมบ่อยๆ จนเราแทบจะคุ้นเคยกันเหมือนเพื่อนสนิท.......

               เวลาที่คนเราไม่มีใคร รู้สึกเดียวดาย เราจะเริ่มคิดถึงบ้าน คิดถึงเพื่อน คิดถึงคนที่รักเรา แต่เหมือนผีซ้ำด้ามพลอย เพราะเนื่องจากเวลาของที่นี่ต่างกับเมืองไทยประมาณสิบสองชั่วโมง ดังนั้นในช่วงเวลาพักผ่อนหลังเลิกงานของผม จึงตรงกับช่วงเวลาที่ค่อนข้างดึกของเมืองไทยแล้ว ทำให้ผมมีเวลาแค่เพียงช่วงสั้นๆ ในการติดต่อ พูดคุยกับญาติ พี่น้อง รวมทั้งเพื่อนฝูงที่เมืองไทย ความรู้สึกของผม ณ เวลานั้น คือ ทั้งเหนื่อย..ทั้งเหงา....และไม่มีใครให้พูดจา ผมจึงเริ่มหาทางออกด้วยการหาเพื่อนคุยทางอินเตอร์เนต แต่ขอบอกเอาไว้ก่อนว่าผมไม่เคยศรัทธากับการหาแฟนทางอินเตอร์เนตเลยแม้แต่น้อย เพราะผมมีความคิดว่า มันทั้งง่ายและฉาบฉวย รวมทั้งเต็มไปด้วยสิ่งที่เราทั้งสองฝ่ายปรุงแต่งขึ้นมาจนแทบจะหาความจริงไม่เจอ บางทีผมน่าจะหาแค่เพื่อนคุยมากกว่า.... แต่คิดดูอีกที ใครเค้าจะอยากมาคุยกะคนที่เค้าไม่ได้สนใจที่จะจีบในช่วงเวลาตีหนึ่งตีสองของเมืองไทยแบบนี้ แม้กระทั่งตัวผมเองก็เถอะ ผมเองก็อยากจะคุยกับคนที่เราสนใจ ไหนๆก็เสียเวลาแชทไปแล้วนี่ เพราะฉะนั้นก็น่าจะหาทั้งเพื่อนคุยและก็หาแฟนไปด้วยเลยดีกว่า ถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว.........

                หลังจากที่ผ่านความพยายามมาได้สักระยะหนึ่ง  ผมก็พบว่า มันฉาบฉวยอย่างที่ผมคิดตั้งแต่แรกจริงๆนั่นแหล่ะ ไม่มีใครสนใจอยากจะเรียนรู้ซึ่งกันและกันทางอินเตอร์เนตหรอก ผมเบื่อที่จะต้องตอบคำถามซ้ำๆซากๆ ราวกับว่าพวกเขาเหล่านั้นได้ท่องมันเอาไว้จนขึ้นใจแล้ว “อย นน สส แบบไหน แถวไหน” ทำไมไม่มีใครถามมั่งว่า กินข้าวรึยัง  อาหารที่ชอบคืออะไร หรือไม่ก็กรุ๊ปเลือดอะไร พรรณนั้น

              ถ้ายังงั้นก็ลองเปลี่ยนแนวใหม่ดีกว่า ในเมื่อการแชทไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของผม ดังนั้นผมจึงหันมาค้นหาจากผู้ที่มาลงประกาศหาแฟนในเวปต่างๆแทน โดยผมจะเลือกดูจากข้อความที่เค้าบรรยายถึงตัวเองเอาไว้ รวมทั้งคุณสมบัติของแฟนที่อยากจะได้ แบบนี้น่าจะดูจริงจังมากกว่า อย่างเช่น ผมนาย ก หาแฟนวัยทำงาน ไม่สาว...... ผมนาย ข หาแฟนที่เป็นแมนเหมือนกัน และ ผมนาย ค หาคนที่ไม่แสดงออกเหมือนกัน อืม....... ยากแฮะ มีแต่คนอยากมีแฟนแมนๆเหมือนตัวเอง สรุปแล้วเกย์แมนน้อยกว่าอย่างผมจะขายออกเหรอนี่ ก็ในเมื่อเกย์แมนก็ดันไปจับคู่กับเกย์แมน ซะหมดแบบนี้.....

               หลังจากที่ควานหามานาน ผมก็มาเจอคนที่คิดว่าน่าสนใจที่สุด เค้าเขียนบรรยายเอาไว้สั้นๆ ว่า เค้าอายุสามสิบหก วัยทำงาน และกำลังมองหาคนที่จะคบกันอย่างจริงจัง ที่สำคัญเป็นเกย์แมนซะด้วย อิอิ  ถึงหน้าตาจะยังไม่เคยเห็น แต่เค้าบอกว่าเค้าหน้าตาใช้ได้ ถึงจะยังไงก็เถอะ ผมน่าจะหันมาพิจารณาคนที่คุณสมบัติอื่นมากกว่าหน้าตาบ้างดูแล้ว จากนั้นผมจึงเริ่มดำเนินการส่งเมลไปถึงเค้า โดยบรรยายว่าผมเป็นใคร ตอนนี้กำลังทำปริญญาเอกอยู่ และมาทำแลปที่เมืองนอก อยากรู้จักเค้าให้มากกว่านี้ ผมพยายามที่จะเขียนสั้นๆแต่ได้ใจความ โดยเน้นให้เค้าเห็นว่าผมมีความพิเศษกว่าคนอื่นๆแค่ไหน จากนั้นผมก็แค่นอนกระหยิ่มรอเก็บผลเพียงอย่างเดียว.......อยากให้เค้าติดต่อมาเร็วๆจัง........

               ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ในใจของผม มั่นใจเหลือเกินว่า คนคนนี้จะต้องติดต่อมาอย่างแน่นอน จนกระทั่งเช้าวันจันทร์ วันนั้นผมมีงานที่แลปแต่เช้าตรู่ วันนั้นผมเปิดเช็คเมลจากเครื่องของมหาวิทยาลัย โดยในใจลึกๆแอบหวังว่า บางทีเค้าน่าจะติดต่อมา.......และแล้วเค้าก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง  “ หวัดดีคับ พี่ชื่อดุ๊ก ยินดีที่ได้รู้จักน้องกั้งนะคับ กั้งจบมหาลัยเดียวกันกับพี่เลย พี่จบตรีวัสดุศาสตร์ แล้วก็ไปต่อโทที่ลอนดอน ตอนนี้กลับมาช่วยที่บ้านทำโรงงานเซรามิกส์ อยู่ทางโน้นเป็นยังไงบ้าง เรียนเหนื่อยมั้ยครับ”  อืม..... ไม่เลวสำหรับคุณสมบัติเบื้องต้นของเค้า แต่อย่าเพิ่งเทคะแนนให้เชียว ก็ในเมื่อหน้าตาก็ยังไม่เคยเห็นสักนิด มันไม่เร็วขนาดนั้นหรอกน่า.... คืนนั้นผมเข้านอนแต่หัวค่ำ แถมยังหลับฝันดี ความหว้าเหว่ในใจของผมกำลังส่อเค้าว่าจะจางหายไปในไม่ช้านี้แล้ว........
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2007 10:53:49 โดย moody »

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #15 เมื่อ15-05-2007 12:55:22 »

 o21  ไอ้พี่ดุ้ก  มันออกมาแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววว  :oak:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #16 เมื่อ15-05-2007 14:17:15 »

               เราสองคน (พี่ดุ๊กและผม) เริ่มติดต่อกันทางเมลถี่ขึ้นเรื่อยๆ........จากวันละหนึ่งครั้ง กลายเป็นวันละสองหรือสามครั้ง.....ดังนั้นกิจวัตรประจำวันที่เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งของผมคือ รอเมลจากพี่ดุ๊ก.......เค้าจัดว่าเป็นคนที่มีแนวคิดใช้ได้ทีเดียว คือ มีความตั้งใจจริงที่จะใช้ชีวิตคู่แบบเกย์ ไม่เจ้าชู้เหลาะแหละ และเห็นคุณค่าของสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากคุณสมบัติภายนอก อืม....แบบนี้แหล่ะที่ผมกำลังตามหา เราเริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้นเรื่อยๆ เค้าเริ่มส่งรูปของตัวเค้าเอง รูปแม่ และหลาน แม้กระทั่งสุนัข มาให้ผมดู......แปลกดี ผมยังไม่เคยเจอใครแบบนี้มาก่อนเลย....ส่งรูปหมาที่บ้านมาใด้ดูเหรอ....คิคิ...เค้าชอบเล่าเรื่องเกี่ยวกับแม่ หลาน ที่ทำงาน รวมถึงเจ้าหมาที่น่ารักทั้งสองตัวของเค้า.....เราคุยเรื่องพวกนี้กันอยู่บ่อยๆ จนผมรู้สึกคุ้นเคยกับคนที่บ้านและหมาของเค้า.....ดูท่าทางเค้าจะจริงจังกับความสัมพันธ์ของเราค่อนข้างมากทีเดียว.......แต่ผมกลับรู้สึกลังเล......

               จะว่าไปแล้วเค้าไม่ใช่คนหล่อ จัดว่าหน้าตาธรรมดาๆ... เมื่อเทียบกับหน้าตาและคุณสมบัติอย่างผมแล้ว ผมน่าจะหาคนที่ดูดีกว่าเค้าได้หลายเท่า แต่ด้วยคุณสมบัติ และความคิดอ่านของเค้า มันทำให้ผมคิดว่า......น่าเสียดายถ้าจะปล่อยเค้าหลุดมือไป......ในเมื่อรูปกายเป็นของที่ไม่เที่ยงแท้แน่นอน แล้วทำไมผมจะต้องไปใส่ใจกับเรื่องพวกนั้น และนี่ก็อาจเป็นโอกาสสุดท้ายก็ได้ ที่ผมจะได้เจอคนดีๆแบบนี้ เค้าคือคนที่ผมตามหามาตลอดชีวิตไม่ใช่เหรอ........ผมจึงเริ่มสะกดจิตตัวเองให้ชอบเค้า.....ดุ๊กๆๆๆๆๆๆ

               จากเพียงแค่การเมลคุยกันบ่อยๆ พี่ดุ๊กเริ่มรู้สึกว่า.....มันยังไม่เพียงพอที่จะลดช่องว่างของระยะทางระหว่างเราลงได้......ดูท่าเค้าจะชอบผมมากทีเดียว.........เค้าเริ่มโทรมาคุยเสมอๆ.......ผมยอมรับว่าประทับใจในความพยายามของเค้ามาก.....ทั้งๆที่ยังไม่เคยได้พบตัวจริงของกันและกัน....โทรทางไกล เสียตังไม่ใช่น้อยๆ........ทุกครั้งที่ได้รับโทรศัพท์จากพี่ดุ๊ก ผมรู้สึกตื่นเต้น ดีใจ แต่อีกใจลึกๆ ผมกลับรู้สึกกลัว......กลัวที่จะเสียเค้าไป.......แต่ในขณะเดียวกันก็กลัวกับการลุกล้ำของเค้าเข้ามาในอาณาจักรของผมทีละน้อย ทำไมผมยังหวงพื้นที่ส่วนตัวกับคนคนนี้ อาจเป็นเพราะผมเองก็ไม่แน่ใจว่าคิดอย่างไรกับเค้ากันแน่......แต่อย่างไรก็ดีเราได้ทำข้อตกลงกันเอาไว้แต่ต้นแล้วว่า “เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเจอกัน เราจะคบกันแบบคนรักหรือไม่ ค่อยว่ากันอีกที”.....อืม

               ในระหว่างนี้ โดยทางเทคนิคแล้วถือว่าผมคบอยู่กับพี่ดุ๊ก....ผมจะเก็บเค้าเอาไว้เป็นตัวเลือก....ฟังดูอาจจะเห็นแก่ตัว....แต่จะรู้ได้ยังไงว่าผมเองก็ไม่ใช่ตัวเลือกของเค้าเช่นกัน......ก็ลองคิดดูสิ คนไม่เคยเห็นหน้าค่าตา จะให้รักกันเข้าไปได้ยังไง ผมเองก็คิดว่าเค้าน่าจะเข้าใจในข้อนี้ดี.....รัก ไม่รัก เจอกันที่เมืองไทยเดี๋ยวก็รู้.....

               “พี่กั้ง นักเรียนไทยเค้ามีนัดกินข้าวที่ร้านอาหารจีนเย็นนี้ ไปป่าว”
               นักเรียนไทยที่นี่มักจะมีนัดปาร์ตี้กันเสมอๆ อย่างน้อยก็อาทิตย์ล่ะครั้ง ตอนนี้ผมกลายเป็นพ่อครัวประจำกลุ่มไปโดยปริยาย ทั้งๆที่อยู่เมืองไทยไม่เคยว่าจะได้ทำกับข้าว แต่ของอย่างนี้มันอยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว คนทำกับข้าวอร่อย หยิบจับอะไรก็อร่อยไปหมดแหล่ะ..ที่นี่วัตถุดิบจากเอเชียหาง่ายมาก มีขายเยอะแย่ะที่ร้านเอเชียน ชอปส์ เสียอยู่อย่างเดียว ราคาแพงกว่าที่เมืองไทยตั้งสามเท่าแน่ะ....เมนูอาหารไทยๆจึงถูกเรียกร้องเสมอๆ เวลาที่นักเรียนไทยมาชุมนุมกัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนทำกับข้าว...หุหุ

               น่าแปลกที่คราวนี้มาจัดเลี้ยงกันที่ร้านอาหาร ไม่ยักกะทำกับข้าวกินที่ห้องเหมือนเคย.....ดีเหมือนกัน ไม่ต้องเหนื่อยแรง.....ถึงผมจะอยู่มาสามเดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้พบนักเรียนไทยทั้งหมด เพราะช่วงที่ผมมาอยู่ที่นี่....เป็นช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนพอดี นักเรียนไทยบางคนจึงถือโอกาสกลับบ้าน หรือไปเที่ยวพักร้อนกัน....ดังนั้นงานเลี้ยงครั้งนี้จึงมีหลายคนที่ผมยังไม่ทันได้รู้จัก.....

               ผมมาถึงที่ร้านช้ากว่าคนอื่นๆ ด้วยความที่โต๊ะกินข้าวที้ร้าน นั่งได้จำนวนจำกัด เราจึงแยกกันนั่งสามโต๊ะ....หลังจากที่ทักทายกันพอหอมปากหอมคอ...ผมจึงเริ่มกวาดตาสำรวจดูแต่ละโต๊ะว่ามีใครแปลกหน้ามามั่ง....พลันสายตาผมก็ไปสะดุดกับสายตาคู่หนึ่ง....ผมตะลึงไปชั่วขณะ....ได้แต่พยายามซ่อนอาการตื่นเต้นเอาไว้ในใจ......หล่อ...นี่คือความคิดแวบแรกที่ผมรู้สึก... ไฮโซ....เกย์.....แต่เดี๋ยวสิ....อาจจะไม่แน่เหมือนกัน....เสียดายที่นั่งอยู่คนละโต๊ะ.....ผมรู้สึกแค่ว่า เค้าชอบแอบชำเลืองมองมาที่ผมบ่อยๆ....อาจจะเป็นเพราะเค้าอาจจะสงสัยใคร่รู้ว่าผมเป็นใคร....หรืออาจเป็นเพราะผมดูน่าสนใจ......อิอิ

               หลังจากกลับจากงานเลี้ยง ข้อมูลที่ได้ก็คือ เค้าชื่อเต้ จบถาปัตย์จากเมืองไทย แล้วมาต่อโทที่นี่ ด้วยทุนที่บ้าน....ว้าว....รวย...ข้อมูลที่เหลือผมยังไม่กล้าล้วงลึก.....เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นที่โจษจั่นของคนอื่นๆ....ได้แต่คิดเอาไว้ในใจว่า “มีชุมนุมกันคราวหน้าอีกเมื่อไหร่ นายต้องเสร็จผมแน่ นายเต้”

               การพบเต้ครั้งนั้นทำให้ชีวิตอันแห้งแล้งในดินแดนอันไกลบ้านเกิดของผม กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันที.....ขณะนั้นในใจของผมได้ลืมพี่ดุ๊กไปเสียสิ้น.....ก็มีเกลืออยู่กับตัว จะมัวไปกินด่าง ก็คงจะเสียสติเต็มที....ใจผมตอนนี้มีแต่คนชื่อเต้ๆๆๆๆๆ ผมต้องจัดการเค้าให้อยู่มือ.....แต่จะทำยังไงล่ะ.....ในเมื่อผมไม่มีช่องทางที่จะเข้าถึงตัวเค้าได้เลย.....คืนนั้นผมจึงนอนวางแผนเงียบๆอยู่ในใจคนเดียว.....ต้องมีสักทางสิน่า.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2007 16:32:19 โดย moody »

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #17 เมื่อ15-05-2007 16:01:51 »

..........นี่แหละหนา........ชีวิตเกย์........... :o11:

..........ไขว่คว้ากันไม่รู้จักจบจักสิ้น........... o8

..........ว่าแต่คล้ายชีวิตเจ๊สองเลยเนอะ.......... :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #18 เมื่อ15-05-2007 19:46:04 »

เขียนได้น่าติดตามดีค่ะ  :teach: ชอบมาก  :like6: เป็นกำลังใจให้นะคะ   :impress:
ปล. สงสัยจะคล้ายกับชีวิตเจ้อย่างมาก เจ้ถึงออกอาการขนาดนี้  :o9:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #19 เมื่อ15-05-2007 21:03:23 »


ตกลงกระเทยทำไมต้องเป็นแม่ครัวตลอดเลยเคอะ  เหมือนเจ้เลย  อิอิ


ปล. อีสองรีบนหัวอิชั้นเนี้ย  รู้ดีจริงจริ้ง  o12

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: คนละปลายทาง
« ตอบ #19 เมื่อ: 15-05-2007 21:03:23 »





ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #20 เมื่อ15-05-2007 21:57:30 »

กร๊ากมันๆๆ
อ่านแล้วเหมือนถูกดึงให้ลอยไปใช้ชีวิตเมืองนอกเลย
 :impress2:

แถมได้อ่านชีวิตของสองด้วยแหะ
 :laugh:

อย่างที่แก๊บว่า มันเป็นเช่นนั้นแล
 :o12:

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #21 เมื่อ16-05-2007 16:51:52 »

มั่วแล้ว! สอง....เสิง ที่ไหน ไม่เห็นจะรู้จัก คิคิ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #22 เมื่อ16-05-2007 17:01:03 »


เอ่อ.....เขียนอัตชีวประวัติเจ้หรอเคอะเนี้ย  ทำไมมันคุ้นๆ จังเลยคร้า  :o9:

อันเนี๊ยะ เลยคิดว่าชีวิตที่เล่าคงไปคล้ายสองเข้าพอดีด้วยอ่ะครับ
เพราะไปทำวิจัยเมืองนอกเหมือนกัน

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #23 เมื่อ17-05-2007 13:35:08 »

               เมลจากพี่ดุ๊กยังคงมีมาเสมอๆ  สลับกับการโทรศัพท์บ้างเป็นครั้งคราว จะว่าไปแล้วเค้าก็มีส่วนช่วยทำให้ผมหายเหงาไปได้ไม่น้อย.... แต่ถึงยังไงผมก็ยังไม่คิดจะจริงจังกับเขามากนัก..... เรื่องนี้เอาไว้ค่อยคิดกันอีกทีตอนกลับเมืองไทยแล้วดีกว่า....
              “ถ้ากั้งกลับมาเมืองไทยแล้ว พี่จะพากั้งไปแนะนำกับแม่ และเพื่อนสนิทของพี่ พี่ภูมิใจมากเลยนะที่จะมีแฟนเป็นถึงดอกเตอร์” พี่ดุ๊กมักบอกผมแบบนี้เสมอเวลาที่เราคุยกัน......ผมได้แต่รับฟังเงียบๆโดยไม่ได้แสดงอาการโต้แย้งใดๆ.......ความจริงผมยังไม่อยากจะจินตนาการไปไกลถึงขนาดนั้น.....แต่บางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยอารมณ์ให้เตลิดไปตามวิมานในอากาศที่เค้าพยายามสร้างมันขึ้นมา....นี่ผมกำลังจะปล่อยใจตัวเองให้รักคนที่ยังไม่เคยเห็นแม้กระทั่งตัวจริงกระนั้นหรือ...จะฝันเฟื่องไปหน่อยแล้วมั้ง...บางครั้งอารมณ์คนเราก็อ่อนไหว ยิ่งกว่าเปลวเทียนในยามต้องลมเสียอีก.....โดยเฉพาะในยามที่อยู่ไกลบ้าน ไร้ญาติขาดมิตรเช่นนี้...เค้าเป็นสิ่งเดียวที่ผมพอจะยึดเหนี่ยวได้ ณ เวลานั้น...

               นี่ก็ล่วงเข้าเดือนที่สี่ในต่างแดนของผมแล้ว........พี่ดุ้กหายไปพร้อมกับเมลสุดท้ายของเขา “อาทิตย์หน้า พี่จะไปเปิดบู๊ตแสดงสินค้าที่เยอรมัน ว่าจะไปหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆแถวนั้นบ้าง ไม่แน่ว่าที่โน่นจะมีอินเตอร์เนตใช้หรือเปล่า ยังไงพี่จะพยายามหาทางติดต่อมานะครับ”
              เยอรมันเหรอ?.... ไปนานเป็นอาทิตย์แบบนี้ ผมก็เหงาแย่สิ......ส่วนข่าวคราวงานปาร์ตี้ครั้งต่อไปของนักเรียนไทยก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า....หนทางที่ผมจะได้รู้จักเต้ก็ดูเลือนรางเต็มที.....เฮ้อ..อุตส่าห์วาดฝันเอาไว้ตั้งนานนม.....ถึงจะสนใจในตัวเต้มากแค่ไหน แต่ผมก็คงทำอะไรไม่ได้มากเพราะไม่ใช่จริตนิสัย....คนอย่างผมทำได้มากที่สุดก็คงแค่สร้างสะพานเสริมใยเหล็กทอดเอาไว้เงียบๆเท่านั้น...หากเค้าไม่ประสงค์จะก้าวข้ามมาเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี ก็คงจะจนด้วยเกล้า...สิ่งที่ผมพอจะทำได้สำหรับเต้ในตอนนี้ ก็คือการนึกคิดจินตนาการเล่นๆไปร้อยแปด ตามแต่ใจปราถนาภายในใจอันแสนซื่อของผมดวงนี้ก็เท่านั้นเอง.....

               ช่วงนี้งานที่แลปเริ่มทวีความหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ..... ผลแลปไม่เป็นไปดังที่ผมคาดหมายเอาไว้ จากความเรื่อยเฉื่อย...สบายๆ....กลับกลายมาเป็นความตึงเครียดเข้ามาแทนที่.....ผมจะไม่ยอมกลับไปเมืองไทยมือเปล่าแน่นอน....อย่างน้อยๆจะต้องได้ผลแลปกลับไปด้วย.....แม้จะไม่ได้เปเปอร์ดังที่ฝันเอาไว้ตั้งแต่แรกก็ตาม.....ระยะหลังนี้ผมจึงเริ่มเก็บตัวเงียบ.....ไม่อยากสุงสิงกับใคร.....มีเพียงทีวีและอินเตอร์เนตเท่านั้นที่คอยเป็นเพื่อนคลายเหงาในยามค่ำคืน หลังจากการกรำงานในแลปที่แสนจะน่าเบื่อมาทั้งวัน......ผมกลับมาเหงาเหมือนเดิมอีกแล้ว...และเริ่มกลับมาติดแชทอีกครั้งอย่างไม่น่าให้อภัย........มีสิ่งที่น่าแปลกอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ผมไม่สามารถเข้าไปคุยในห้องเกย์เชียงใหม่ได้..... แต่กลับเข้าได้เฉพาะห้องเกย์กรุงเทพเท่านั้น... แต่ก็ช่างมันเถอะ จะที่ไหนๆก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ ผมเองก็แค่อยากหาเพื่อนคุยฆ่าเวลาไม่ใช่หรือยังไง......ห้องเกย์กรุงเทพจึงเป็นที่ ที่ผมคอยแวะเวียนเข้าไปหาเพื่อนคุยอยู่เสมอๆ....แต่จนแล้วจนรอด ผมก็ยังไม่เจอใครที่ถูกใจเลยสักคนเดียว....
   
               คืนนี้ก็เป็นอีกคืนหนึ่งที่แสนจะน่าเบื่อ.....หลังจากเพื่อนที่เมืองไทยในเอ็มเอสเอ็น คนสุดท้ายของผมออฟไลน์ออกไปแล้ว ผมจึงเปลี่ยนมาเข้าห้องแชทแทน ด้วยหวังว่าจะหาใครสักคนคุยเล่นก่อนเข้านอน ถ้าเทียบกับเวลาที่เมืองไทย ก็คงจะเป็นเวลาประมาณหกทุ่มพอดี...
               ผมมีหลักการในการเลือกเพื่อนคุยอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ผมจะเลือกคนที่ใช้ชื่อในการเล่นขึ้นต้นด้วยคำว่า “Guest” เสมอ เพราะเนื่องจากผมคิดเอาเองว่า คนจำพวกนี้น่าจะเป็นประเภทขาจร คงไม่ได้แวะเวียนเข้ามาแชทบ่อยๆ เพราะฉะนั้นผมจึงน่าจะเจอเพื่อนคุยที่ถูกใจบ้าง....คุยหาเพื่อนหรือแฟนแต่ไม่เน้นเรื่องเซ็กส์...
               “หวัดดีคับ” ผมเปิดฉากทักคนๆแรกที่เจอ
               “หวัดดีครับ” อีกฝ่ายตอบกลับมาเกือบจะในทันที
               “มีเพื่อนคุยหรือยังคับ” ผมรีบถามต่อ
               “ยังครับ เพิ่งเข้ามา”
               “เล่นแถวไหนครับ” ผมยิงคำถามต่อตามความเคยชินประสาคนที่ผ่านการเล่นแชทมานาน
   “เชียงใหม่”
               เฮ้ย! เชียงใหม่ เหรอ .....มาอยู่ห้องเกย์กรุงเทพได้ไง? ผมอุตส่าห์มาเล่นที่ห้องกรุงเทพ...ยังดันมาเจอคนจากเชียงใหม่ด้วยกันจนได้... โลกนี้ช่างกลมจริงๆ.....จะว่าไปแล้วผมเองก็นับว่าโชคดีไม่น้อย เพราะถึงยังไงเราก็อยู่เชียงใหม่เหมือนกัน คุยอะไรกันก็น่าจะรู้เรื่องมากกว่าคนจากที่อื่น...อีกทั้งการได้คุยกับคนเชียงใหม่ก็ทำให้ผมคลายความคิดถึงเชียงใหม่ไปอีกอักโข.......
   “ทำไมเล่นห้องเกย์ กรุงเทพล่ะ”
   “ไม่รู้เหมือนกัน ผมเพิ่งหัดเล่นครั้งแรก”
               ไม่อยากจะเชื่อว่าเค้าจะพูดความจริง แต่ในตอนนั้นผมกลับเชื่อสนิทใจ.....มิหนำซ้ำยังบังอาจไปสอนวิธีการเล่นแชทให้เค้าต่างๆนานาอีกต่างหาก.....ใสซื่อจริงหนอเรา.....

               คืนนั้นเราคุยกันอย่างออกรส ผมบอกเค้าว่าผมเองก็เรียนอยู่ที่เชียงใหม่เหมือนกัน ตอนนี้มาทำแลปที่เมืองนอก แต่ผมไม่ยักกะบอกเค้าว่ากำลังเรียนปริญญาเอกอยู่ คงเป็นเพราะถ้าผมบอกไป เค้าอาจจะคิดว่าผมแก่และเรียนมากเกินไปก็ได้ เลยจะพาลไม่อยากคุยด้วยเสียเปล่าๆ...ปล่อยให้เดาเอาเองดีกว่า...
   หลังจากที่คุยกันมาได้สักพัก.....ผมจึงขอแอดเค้าในเอ็มเอสเอ็น......เค้าก็ตอบตกลงทันทีโดยไม่ลังเล...เสร็จผมล่ะ....อิอิ....จากนั้นเราจึงขอแลกรูปกันดู.....ท่าทางเค้าดูจะพอใจที่ได้คุยกับผมเหมือนกัน...... เค้าบอกว่าชื่อนัท กำลังเรียนหมออยู่ที่เชียงใหม่ปีสุดท้าย ช่วงนี้ว่างๆเลยอยากหาเพื่อนคุยเล่น 
   “ผมเป็นไบ อยากมีแฟนเป็นผู้หญิงมากกว่า”
                หึ....ตลกล่ะ.....อยากมีแฟนเป็นผู้หญิง แต่มาเข้าห้องเกย์นี่นะ.....ไปหลอกเด็กอนุบาลเถอะ 

               นัทมีกล้องด้วย ทีแรกเค้าไม่ยอมเปิดกล้องให้ผมดู โดยให้เหตุผลว่าเขิน....แต่เมื่อผมรบเร้าหนักเข้า...สุดท้ายเค้าจึงยอม.... ความรู้สึกของผมเมื่อมองนัทผ่านทางกล้อง....ดูท่าทางเค้าค่อนข้างจะขี้อาย....สงสัยคงจะไม่ค่อยได้ทำเรื่องแบบนี้บ่อยนัก....ดูน่ารักทีเดียวแหล่ะ....เรียกได้ว่าเป็นผู้ชายในแบบที่ผมชอบเลยล่ะ....สูงร้อยแปดสิบ....เป็นคนจีน...ตี๋....ขาว.....ใส่เหล็กดัดฟัน....แถมเรียนหมออีกต่างหาก....เพอร์เฟคส์..
ผมให้สัญญากับนัทว่าคราวหลังจะไปซื้อกล้องมาติดที่แลปทอปของผมบ้าง....เพื่อที่เค้าจะได้มีโอกาสมองเห็นผมผ่านทางกล้องเช่นกัน......

              หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป.....นัทกลายเป็นเพื่อนคุยขาประจำของผมในยามค่ำคืน เค้าเป็นคนแปลก บางทีก็ดูไม่มั่นใจในตัวเอง.....แต่บางทีก็ดูเอาแต่ใจตัวเอง.....บางทีก็พูดขวานผ่าซาก.....ถ้าจะเรียกว่าเถื่อนก็น่าจะเหมาะสมที่สุด.....เมื่อก่อนเพื่อนๆมักบอกผมเสมอว่า “อย่างแกมันโรคจิต...ชอบอะไรเถื่อนๆ” ซึ่งก็คงจะจริง ผมพอใจในตัวนัทมาก ยิ่งได้คุย...ยิ่งติดเค้าแจ วันไหนไม่ได้คุยจะมีอาการกระวนกระวาย.....อะไรบางอย่างในหัวบอกผมว่าผมกำลังจะปล่อยอารมณ์ตัวเองให้อ่อนไหวมากเกินไปแล้ว.....แต่นิสัยของผมที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไม่เคยห้ามใจตัวเอง.....นัทเองก็คงจะรู้ข้อนี้เช่นกัน...เค้าเริ่มเอาแต่อารมณ์ วันไหนอยากคุยก็จะคุย วันไหนถ้าเค้าจะเล่นเกมส์เค้าก็จะไม่สนใจผมเลย.....ผมปล่อยให้เค้าทรมานผมด้วยความเย็นชาของเขาอยู่แบบนี้ได้พักหนึ่ง จนสุดท้ายมันก็กลายเป็นความชาชิน.....ผมจะไม่สนใจเค้าอีกแล้ว.....อยากจะคุยก็คุย...ไม่อยากคุยก็ตามใจ...แต่เชื่อมั้ย...มันเป็นเหมือนยาเสพติด...ยิ่งห้ามใจตัวเอง...ใจมันกลับยิ่งถวิลหา...วันไหนที่เค้าอารมณ์ดี...เค้าจะร้องเพลงให้ผมฟังผ่านทางเอ็มเอสเอ็น...เพลงประกอบละครฟูลเฮ้าส์.... อืม...อยากจะร้องก็ร้องไปเถอะ ผมไม่ได้สนใจจะฟังมากนักหรอก แค่เพียงได้ยินเสียงเค้า ก็สุขใจพอแล้ว....

              ผมเริ่มป่าวประกาศไปยังบรรดาเพื่อนๆที่เมืองไทย ถึงช้อยส์ทั้งสองของผม (พี่ดุ๊กและนัท) คนนึง นิสัยดีและ ทัศนคติเยี่ยม รวย การศึกษาดี แต่แก่และหน้าธรรมดา.....ส่วนอีกคน อยู่เชียงใหม่เหมือนกันกับผม กำลังเรียนหมอ สูงขาวยาวใหญ่...แต่เด็ก...คงจะหาแก่นสารอะไรไม่ได้..
              บรรดากูรูทั้งหลายต่างฟันธงพร้อมเพรียงกันว่า ให้ผมเลือกที่ความเหมาะสม ดีกว่าจะมาช้ำใจในภายหลังเพราะเด็กไม่มีความคิด....เช่นนั้น......ผมจึงเริ่มสะกดจิตตัวเองให้คล้อยตามทัศนะของกูรูทั้งหลายดังกล่าว....แต่ในใจลึกๆของผมรู้ดีว่าผมชอบเล่นกับไฟมากกว่า........


             พี่ดุ๊กหายไปนานมากกว่าหนึ่งอาทิตย์แล้ว เค้าน่าจะติดต่อมาบ้าง.....ข่าวคราวของเค้าเงียบหายไปพร้อมๆกับความน้อยใจที่เริ่มพอกพูนในตัวผมมากขึ้นทุกวัน......จะน้อยใจทำไมนะ ในเมื่อตัวเราเองก็ไม่ได้ว่าจะชอบเค้าเสียด้วยซ้ำไป.....มนุษย์เราก็เป็นแบบนี้เสมอ....จะรู้คุณค่าของบางอย่างก็ต่อเมื่อได้สูญเสียมันไปแล้ว.....ผมกระหน่ำเมลไปตัดพ้อต่อว่าเค้าสารพัด.....แต่ทุกอย่างก็ยังเงียบหายเหมือนเดิม.....ประหนึ่งก้อนหินที่ถูกขว้างลงเหว....นี่เค้าจะทิ้งผมจริงๆหรือนี่?

            ในขณะที่ผมกำลังข่มจิตใจไม่ให้ฟุ้งซ่านเรื่องการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของพี่ดุ๊ก ทั้งยังอยู่ในสถานการณ์ลุ่มๆดอนๆสามวันดีสี่วันไข้กับนัท ผมก็ได้รับฟอร์เวิร์ดเมลจากเพื่อนนักเรียนไทย ส่งต่อๆกันมา เพื่อถามความสมัครใจในการเข้าร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดของรุ่นพี่นักเรียนไทยคนหนึ่งช่วงสุดสัปดาห์นี้....ผมเห็นมีรายชื่อของเต้อยู่ในลิสต์ของฟอร์เวิร์ดเมลด้วยเช่นกัน.....หัวใจของผมพองโตขึ้นมาในทันที.....โอกาสที่ผมรอคอยกำลังจะมาถึงแล้ว....ผมได้แต่ภาวนาอยู่ในใจเงียบๆว่า ขอให้เต้มางานนี้ด้วยเถิด เพราะตั้งแต่เจอกันที่ร้านอาหารจีนคราวนั้น ผมก็ยังไม่มีโอกาสได้พบเค้าอีกเลย....ถ้าหากได้เจอเค้าในเวลานี้อารมณ์เซ็งโลกทั้งหลายของผมคงจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น.....เจ้าประคู๊ณณณณ ขอให้มาทีเถ้อะ...เพี้ยงงงงงง…..

            หน้าที่ของผมในงานนี้ก็คือการเป็นกุ๊กกิตติมศักดิ์นั่นเอง....ในระหว่างที่ตระเตรียมรายการอาหาร อีกใจผมก็คอยลุ้นระทึกว่าเมื่อไหร่เต้จะตอบเมลกลับสักทีว่า จะเข้าร่วมได้หรือไม่......สุดท้ายเค้าก็มาตอบกลับมาว่า.....เข้าร่วมได้...เย้......ค่อยมีกำลังใจขึ้นมาหน่อย....เป็นไปอย่างที่ผมภาวนาเอาไว้จริงๆ....ผมตั้งใจว่าจะทำกับข้าวให้สุดฝีมือเลยทีเดียว....เสน่ห์ปลายจวักน่าจะยังคงใช้ได้เสมอ ถึงแม้ว่ากาลเวลาจะล่วงเลยมาจนถึงยุคปัจจุบันแล้วก็ตาม.......

            ผมรวบรวมสมัครพรรคพวกไปเป็นลูกมือในการจ่ายตลาดได้สองสามคน....หลังจากมาถึงที่ห้องของเจ้าของงาน (ซึ่งไม่อยู่ ทิ้งไว้แต่กุญแจ) บรรดาลูกมือต่างก็พากันสลายตัวไปด้วยเหตุผลนานาประการ...สรุปคือผมต้องทำกับข้าวเพียงคนเดียวเพื่อเลี้ยงคนนับสิบคน....เอาล่ะจะเริ่มต้นจากอะไรก่อนดี...ลาบไก่...ต้มไก่...น่องไก่ชุบแป้งทอด.....ผัดซีอิ้ว....ข้าวเหนียวเปียกใส่เผือก....บวชฟักทอง....และรายการอาหารเจอีกหนึ่งอย่างสำหรับคนกินเจ (กระแดะจริงจริ๊ง ใครนะช่างอยากกินเจ) ....มีเวลาเพียงแค่สี่ชั่วโมง...โอเค ต้องตั้งสติให้ดีว่าจะทำอะไรก่อนหลัง...

           แม้จะเหนื่อยในการทำกับข้าวแต่ผมก็มีความสุขใจ....ถ้าจะให้บรรยายถึงความสุขในการได้ทำกับข้าว คนที่ชอบทำกับข้าวน่าจะบอกได้ดีว่า ความสุขนั้นไม่ได้มาจากการได้ทำกับข้าวให้อร่อย หรือ หน้าตาน่ารับประทานเท่านั้น แต่ความสุขที่สุดของการทำกับข้าวของผมอยู่ที่การได้เห็นคนกิน...กินอย่างเอร็ดอร่อย...โดยเฉพาะคนที่เรารัก...อิอิ...ปลื้มสุดๆเลยล่ะ

           กับข้าวเสร็จทันเวลาเฉียดฉิว....ผมมีเวลาสำหรับการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพียงครึ่งชั่วโมง...อาหารอร่อย แต่คนทำกับข้าวสภาพโทรมไม่น่ามอง...คงต้องเสียชื่อเป็นแน่....มันต้องน่ากินทั้งกับข้าวและคนทำสิ ถึงถูก...จริงมั้ย?
           พอตกเย็น นักเรียนไทยก็เริ่มทยอยกันมาเรื่อยๆ...คนที่นี่จะมีธรรมเนียมอยู่อย่างหนึ่งเวลาไปงานปาร์ตี้ ซึ่งน่าจะตามอย่างพวกฝรั่ง ที่เรียกว่าพอตลักซ์..นั่นก็คือแต่ละคนจะนำอาหารติดไม้ติดมือมาคนละอย่างสองอย่าง..ไม่เห็นมีใครเดินมามือเปล่าอย่างที่เมืองไทยทำกันเลยสักคนเดียว ของที่นำมาก็อาทิเช่น กับข้าว ขนม ไอติม น้ำอัดลม เบียร์ แต่ส่วนใหญ่จะนิยมซื้ออะไรง่ายๆเนื่องจากไม่มีเวลาและไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะทำ...พอเลิกงานเจ้าภาพก็จะแบ่งของที่เหลือใส่กล่องแจกทุกคนกลับบ้านไป...เรียกได้ว่าทั้งสนุก..อิ่มท้อง...และได้อาหารกลับไปตุนไว้กินต่อ....ประหยัดไปได้อีกหลายมื้อ...เฮ......จึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยหากนักเรียนไทยในต่างแดนจะนิยมจัดงานปาร์ตี้อยู่เสมอๆ เหตุผลประการแรกก็คือ ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนชาติเดียวภาษาเดียวกัน พอให้คลายคิดถึงบ้านลงได้บ้าง......การมาอยู่ไกลบ้านท่ามกลางคนต่างเชื้อชาติต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม เป็นความรู้สึกที่โดดเดี่ยวไม่ใช่น้อย เพราะฉะนั้นในต่างประเทศจึงมักจะเจอคนไทยรวมกลุ่มกันอยู่เป็นกระจุก..... บางคนเกาะติดคนไทยด้วยกันแจ......อยู่เมืองนอกสองสามปีภาษาไม่กระดิกหูก็มี.....ส่วนเหตุผลอีกประการก็คือ ทุกคนจะได้มีโอกาสกินอาหารไทย หลังจากที่ต้องอดทนกินนม เนย หรืออาหารขยะทั้งหลายแหล่มาเป็นแรมเดือน....ดังนั้นใครมีฝีมือในการทำอาหารประเภทไหน ก็จะเป็นโอกาสดีที่จะได้งัดฝีมือออกมาโชว์เพื่อนๆกันอย่างสุดความสามารถ....

   และแล้วคนที่ผมเฝ้ารอคอยก็มาถึงในที่สุด.....วันนี้เค้าดูหล่อกว่าครั้งแรกที่เราเจอกันเสียอีก...จะว่าไปแล้วผมกับเต้ยังไม่ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการเสียที เนื่องจากไม่เห็นจะมีใครมีแก่ใจจะแนะนำให้รู้จักกันนั่นเอง....ไอ้ครั้นผมจะเสนอหน้าไปทักทายเค้าเสียเอง ก็เกรงว่าจะไม่งาม....พอดีพอร้ายเค้าจะได้มองว่า ผมอยากจะรู้จักเค้าเสียจนเนื้อเต้น (แต่ก็จริงนะ คิคิ) จึงได้แต่ทนนั่งนิ่งอยู่ไม่ไหวติงกายา ทั้งที่ใจนั้นเดือดปุดๆ อยากจะกระโดดเข้าไปซบที่อกงามๆของเค้าเต็มที....บางทีอาจมีคนแอบเห็นรังสีพิฆาตที่ผมพยายามส่งไปถึงเต้บ่อยๆก็เป็นได้ จึงพากันหลีกเลี่ยงที่จะแนะนำให้รู้จักกันเสีย เพราะไม่มีใครอยากจะเตะเนื้อเข้าปากหมานั่นเอง.......
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2007 16:43:21 โดย moody »

MyLoveMyBabe

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #24 เมื่อ17-05-2007 14:06:39 »

ตกลงเรื่องนี้คือประวัติเจ้สองเหรอคับ  แล้วตกลงเจ้ได้กะครายย พี่ดุ๊กหรือเต้ค้าบบ อิอิ 

เอ  หรือสงสันเจ้เหมาทั้งสอง เอิ๊กๆๆ    :o9:

แซวเล่นนะค้าบบบเจ้


คุณmoody เล่าเรื่องสนุกดีคับ น่าอ่านดี มาลงต่อเรื่อยๆนะค้าบบบ


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #25 เมื่อ17-05-2007 14:29:53 »

คนที่เราชอบ กับคนที่ชอบเรา มักจะเดินกันคนละทางเสมอ

 :dont2:

gobgab

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #26 เมื่อ17-05-2007 15:42:26 »


..........มารอต่อคราบ........

..........จะได้คุยกับเต้ไหมหนอ..... o3 o3

yuttaya

  • บุคคลทั่วไป
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #27 เมื่อ17-05-2007 16:53:29 »

.........ขอย้ำอีกครั้งว่า ผม กับ คุณ สองเป็นคนละคนกัน ก่อนที่จะมีการเข้าใจผิด ลุกลามบานปลายกันไปมากมายกว่านี้ .......


..........แต่ก็แปลกเนาะ ทำไมใครๆถึงคิดว่าเป็นเรื่องของคุณสองนะ......


..........สงสัยต้องขออนุญาติเจอตัวจริงสักวันหนึ่งแล้ว.....
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2007 19:08:39 โดย moody »

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #28 เมื่อ17-05-2007 18:54:19 »

หุหุ รับทราบค่ะว่าคนละคนกัน  :teach:
จะรอติดตามต่อนะคะ  :impress:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: คนละปลายทาง
«ตอบ #29 เมื่อ18-05-2007 02:22:13 »


กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :serius2:

ร้ายนะเคอะเนี้ย  อย่างนี้หรือเปล่าเคอะที่เค้าเรียกว่า "แรดนะ....แต่ไม่แสดงออก"  :laugh:

ปล. คิดถึงสมัยตอนที่อยู่เยอรมันเมือง  นักเรียนอยู่ที่ไหนก็สุมหัวกันดีแท้ ยกเว้นที่อังกฤษ แมร่ง เชิดใส่กันสุดๆ ชั้นเรียนยูฯนั้นแกเรียนยูฯนี่   ชั้นมาทุนส่วนตัว  แกมาทุนหลวง  ชั้นอยู่อพาร์ตเม้นท์หรูแกอยู่ห้องแบ่งเช่า  อิชั้นเกลียดจริงๆ

ปล. แคนนาดาก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่น่าไปเรียนต่อ  ค่าเรียนถูกกว่าเมกา  เรื่องคุณภาพก็ไม่ด้อยไปกว่ากัน เสียอย่างเดียว หิมะแปดแดดสี ก็เท่านั้นเอง  0 องศาเนี้ยเรียกว่าร้อนแล้วนะเคอะ ใส่ขาสั้นกันเป็นทิวแถว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด