ช่วงปิดเทอมของจุนเจือ ผ่านไปกับการไปเดินเล่น ชอปปิ้งไปตามประสา เนื่องจากปิดเทอมนี้ บาสไปเที่ยวเชียงใหม่กับเอกอีกแล้ว จึงทำให้เด็กหนุ่มดูเบื่อๆ เงินเดือนจากการฝึกงานหมดไปกับรองเท้าคู่ใหม่จากห้างกลางเมือง ถุงชอปปิ้งอยู่เต็มมือทั้งสองข้างขณะที่นั่งอยู่บนรถไฟฟ้าวันนี้
เมื่อครู่เขาเจอชุดแซกสีชมพูสวยหวานอยู่ชุดหนึ่ง เด็กหนุ่มคิดว่ามันต้องเหมาะกับพี่สาวของเขาแน่ๆ จึงได้ซื้อกลับมา .. และอยากจะเอาไปให้เธอลองใส่เสียเดี๋ยวนี้ นิสัยตรงนี้ไม่ได้ต่างอะไรจากที่สาวเลย คิดได้แบบนั้น จึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางไปยังแอร์พอร์ตลิ้งเพื่อไปหาเจนสุดาถึงที่บ้านของเธอ
ช่วงสายแบบนี้ คงกำลังทำงานอยู่แน่นอน .. ปกติตัวเขาไม่เคยโผล่ไปในเวลาแบบนี้เลย คงจะเซอร์ไพรซ์น่าดู
++++++++++++++++++
"ใครคะ...อ้าว...เจือ" เจนสุดาวันนี้สวมชุดแปลกตาน้องชายอีกแล้ว เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบๆแต่กลับดูเด่นด้วยการตัดเย็บที่ประณีต กระโปรงเข้ารูปสีน้ำตาลยาวเหนือเข่าเล็กน้อยเด่นด้วยเข็มขัดเส้นโตบนเอวเล็กผอมบางของพี่สาว ผมสยายดูพริ้วไหวตามแรงเมื่อร่างเล็กเดินมาเปิดประตูหน้าบ้าน น่าแปลกที่วันนี้พี่สาวของเขาดูกังวลไม่ได้ต้อนรับอย่างยิ้มแย้มด้วยการโอบกอดเช่นทุกที
"เซอร์ไพรซ์ไหมฮะ?.. เจือไปช็อปปิ้งมา เลยซื้อชุดมาฝากล่ะ " เขาชูถุงช็อปปิ้งมากมายจนเต็มมือนั้นให้พี่สาวดูก่อนจะแทรกตัวเจ้าไปในบ้าน เนื่องจากวันนี้เป็นวันทำการปกติ ทินกฤตไปทำงาน จึงไม่ต้องกลัวที่จะเผชิญหน้ากับใครบางคน ก่อนจะแซวพร้อมวางถุงช็อปปิ้งนั้นลงบนโต๊ะรับแขก
"ว่าแต่วันนี้พี่เจนแต่งตัวเหมือนสาวออฟฟิตเลยแฮะ "
"อืม...ก็ต้องแต่งตัวให้ดูดีหน่อย..."เจนสุดาว่าพลางยิ้มน้อยๆ ดวงตาคู่สวยเหลือบมองนาฬิกา
"อ้าว .. จะออกไปข้างนอกเหรอฮะ? "ท่าทางแปลกๆของพี่สาวทำให้คิ้วเรียวขมวด ก่อนจะถามเสียงอ่อย "หรือว่าเจือมารบกวนพี่? "
"เปล่า ไม่ได้รบกวนอะไรหรอก พูดอะไรแบบนั้น...พี่ว่าจะไปข้างนอกน่ะ" เจนสุดาว่าพลางมองหาถุงที่อีกฝ่ายบอกว่าซื้อมาให้
"ไหนล่ะที่ซื้อมาฝากน่ะ"
"อะนี่ไง..ชุดนี้ สวยไหมๆ " จุนเจือรีบหยิบชุดแซกแขนกุดคอวีสีชมพูหวานให้พี่สาว
"ผมว่ามันต้องเหมาะกับพี่แน่ๆ "
"โอ้โห...น่ารักจัง ขอบใจนะเจือ "หญิงสาวว่าพลางยกชุดขึ้นพิจารณาการออกแบบ น้องชายคนนี้ยังคงรักและเป็นห่วงเธอไม่เปลี่ยน น่าเสียดายที่สิ่งที่เธอกำลังจะบอกเขาคงจะทำให้เด็กหนุ่มคนนี้ใจสลายอยู่ไม่น้อย...แต่เธอก็ทำให้พ่อและแม่ใจสลายไปแล้วเหมือนกัน....
ตั้งแต่เดือนที่แล้ว ก่อนที่จุนเจือจะกลับมาที่อยู่ที่บ้าน เธอกับทินกฤตหอบเอาเอกสารเกี่ยวกับการเงินทั้งหมด เข้าไปหาพ่อแม่รวมไปถึงเชิญให้พ่อกับแม่ของทินกฤตมาที่บ้านด้วยเพื่อแจ้งให้รู้ถึงการแยก
ทางกันของทั้งสองคน แน่นอนคำถามแรกๆจากปากของพ่อและแม่ของทั้งสองฝ่ายคือ
"ทำไมถึงจะหย่า"
ซึ่งพวกเขาก็สรรหาคำโกหกที่ดูน่าเชื่อถือมาให้ทั้งสองบ้านฟังจนได้แม้ทุกคนจะจะไม่ได้พอใจในคำตอบนัก โดยเฉพาะพ่อแม่ของทินกฤตที่ดูจะช็อคไป ฝ่ายพ่อนิ่งงัน ส่วนฝ่ายแม่ก็เข้าเขย่าแขนลูกให้กลับมาดีกับเธออีกครั้ง แต่ทินกฤตก็ปั้นสีหน้าลำบากใจออกมาได้อย่างแนบเนียน...หรือแท้จริงแล้วเขาเองก็กำลังเครียดกับเรื่องของน้องชายคนนี้ของเธอก็ไม่อาจรู้ได้ เจนสุดารู้ดีว่า เจือไม่มีทางยอมให้เธอไปอเมริกาเป็นแน่ และคำถามที่อาจจะฮอตฮิตที่สุดในวงสนทนาในวันนั้น ก็คือ
"แล้วจะทำยังไงกับสินสมรส"
ทินกฤตยื่นเอกสารทั้งหมดให้พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายได้ดู จำนวนเงินระหว่างที่ได้มานั้นมีมากโข
"ผมพยายามทำดีที่สุด เพื่อ เรา แล้วครับ...แต่ระหว่างผมกับเจน คงจะมาถึงเพียงแค่จุดนี้" ชายหนุ่มว่าพลางก้มหัวลง
"คุณพ่อคุณแม่คะ ยอมรับการตัดสินใจของพวกหนูด้วยนะคะ ...เราพยายามแล้ว" เจนสุดาเองก็แสดงสีหน้าเสียใจออกไปเช่นกัน สัญญาระหว่างเธอกับทินกฤตกำลังจะจบลงแล้ว
พ่อกับแม่ของทั้งสองฝ่ายได้รับรู้และดูเหมือนจะไม่อยากจะยอมรับเท่าไร มีการส่งสัญญาณกันอีกครั้งว่าอาจจะมีการคุยนอกรอบกันระหว่างทั้งสองบ้าน เธอและทินกฤตรู้ดีว่าอาจจะมี "ลูกตื๊อ" หลังจากนี้อีกยาวแต่...พวกเขาก็จะหย่ากันให้ได้อยู่ดี ...ถึงเป็นที่มาของการนัดกันเพื่อไปที่สำนักงานเขตในวันนี้
"เจือ......เดี๋ยวพี่จะไปสำนักงานเขตนะ นัดเทียนไว้...ไม่นานหรอก เดี๋ยวพี่ก็กลับ"
"สำนักงานเขต?................พี่จะไปทำไมเหรอ? " ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะทิ้งช่วงไปนานนับนาทีก่อนจะถามออกมาแบบนั้น ดวงตาคู่สวยสบตาพี่สาวนิ่ง
เจนสุดาค่อยๆบรรจงพับชุดสวยที่น้องชายอุตส่าห์ซื้อให้วางไว้ข้างตัว ดวงตาคู่สวยหันกลับมามองหน้าน้องชาย
"พี่จะไปเซ็นต์หย่ากับเทียน"" ....................................................... " เด็กหนุ่มมองตามมือของพี่สาว ก่อนจะก้มหน้านิ่ง มือทั้งสองข้างสั่นอย่างช่วยไม่ได้ เจนสุดาทำตามแผนของเธอทุกอย่าง .. พี่สาวของเขาเด็ดเดี่ยวเสมอนั่นแปลว่าเธอตัดสินใจแล้ว...อาจจะเรียกได้ว่า ยึดมั่นมาตลอดที่จะหย่าแล้วไปอยู่กับคนที่เธอรัก การตัดสินใจทั้งหมดของเจนสุดานั้น...อาจจะมีมาตั้งนมนานแล้วก็เป็นได้ จุนเจือสูดลมหายใจลึกแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับผู้เป็นพี่อีกครั้ง
" ให้เจือไปส่งนะฮะ "คำตอบนั้นเป็นเหมือนกุญแจดอกเดียวที่จะปลดพันธนาการออกจากตัวของผู้เป็นพี่ เจนสุดสูดลมหายใจเข้าลึกทั้งๆที่มีความรู้สึกบางอย่างที่กำลังทำให้ใจของเธอสั่น ร่างเล็กโผเข้ากอดน้องชาย หญิงสาวร้องไห้ออกมาด้วยห้ามความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่
"ขอบใจนะเจือ...ขอบใจ.....ขอบใจ" น้ำเสียงนั้นเกือบจะฟังไม่รู้เรื่องเพราะแรงสะอื้น สองมือกอดเด็กหนุ่มเอาไว้แน่นจนเสื้อของจุนเจือยับยู่ไปตามแรง
"ไม่..ไม่เอาน่า พี่เจน อย่าร้องสิฮะ..ไม่เอานะฮะ..เดี่ยวไม่สวยนะ "หยดน้ำตาอุ่นๆที่เปรอะกับอกเสื้อกันหนาวบางๆทำให้เด็กหนุ่มเจ็บ
" เจือขอโทษนะที่รั้งพี่เอาไว้..พี่เจนไปอยู่กับพี่อลิสเถอะ..เจือไม่เป็นไรหรอกฮะ " มือเรียวทั้งสอง ลูบหลัง ลูบไหล่บางที่สั่นเทิ้มนั้นเพื่อปลอบทั้งหัวใจของตนเองและผู้เป็นพี่ เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเพดานด้วยดวงตาที่ร้อนผะผ่าว เขาควรจะห้ามน้ำตาของตัวเองไว้ เพื่อไม่ให้เจนสุดาต้องร้องไห้หนักไปมากกว่านี้
"พี่ขอโทษ พี่ขอโทษที่พี่เอาแต่ใจ...แต่พี่...พี่แค่อยากไปทำตามความฝัน ไปอยู่กับคนที่พี่รัก ไป...ไปให้พ้นๆ จากสายตาของพ่อกับแม่ ...พี่กลัวเกินกว่าจะบอกเขา พี่ขี้ขลาดมากใช่ไหมเจือ..." เป็นครั้งแรกที่ได้พูดออกมาถึงความนึกคิดทั้งหมดของตนเองต่อหน้าของอีกฝ่าย เจนสุดาเม้มริมฝีปากแน่น พยายามจะสกัดกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองเอาไว้ เธอต้องเข้มแข็งเพราะอีกฝ่ายก็คงเสียใจไม่ต่างกัน
"ไม่หรอก..เจือเข้าใจ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะยอมรับ..เจือก็.. " ผู้เป็นน้องพยายามหาถ้อยคำปลอบใจพี่สาวให้หยุดร้อง แต่สุดท้ายคำพูดเหล่านั้นก็ทำให้เขานึกถึงเรื่องของตนเองกับทินกฤตจนได้ ถ้อยคำจุกอยู่ที่คอไม่อาจพูดอะไรออกไปได้อีก เด็กหนุ่มได้แต่ยิ้มฝืนๆออกไป ก่อนสูดลมหายใจลึก แล้วเปลี่ยนเรื่อง
" เอาล่ะ..ไปกันเถอะฮะ ..
พี่เทียนเขาคงรออยู่ " จุนเจือปั้นยิ้มให้พี่สาวเมื่อผละออกมา นิ้วเรียวปาดน้ำตาออกจากหางตาให้ผู้เป็นพี่
"จ้ะ... ไปกันเถอะ" เจนสุดาปาดน้ำตาออกจากข้างแก้ม ก่อนจะลุกไปส่องกระจก แล้วหัวเราะเจื่อนๆกับดวงตาช้ำๆของตัวเอง
"แย่เลย...ว่าจะไม่ร้องแล้วเชียว" หัวเราะไปพลางก็หยิบกระดาษทิชชูมาซับน้ำตาที่ทำมาสคาร่าของเธอเปื้อนไปพลาง
" ฮะ ฮะ..หมดสวยเลยเห็นไหมล่ะ? "
++++++++++++++++++
เจนสุดาของเวลาเล็กน้อยเพื่อจัดการกับเมคอัพบนใบหน้าอีกรอบ และภายในเวลาไม่กี่นาทีก็เดินกลับออกมาพร้อมกับใบหน้าที่สวยงามเหมือนเช่นเคย เด็กหนุ่มเดินตามหลังพี่สาวออกจากบ้านหลังนั้นไป ตลอดทางก็พยายามชวนเจนสุดาคุย เขารู้ดีว่าถึงเรื่องหย่าจะอยู่ในแผน แต่ก็คงไม่มีใครไปหย่าอย่างหน้าชื่นตาบานเป็นแน่
ถนนค่อนข้างโล่งเหมือนเปิดทางให้ หญิงสาวมาถึงที่หน้าที่ว่าการเขตพร้อมกับน้องชาย มองไปอีกฝั่งของที่จอดรถมีรถเอสยูวีสีดำคันใหญ่โตของทินกฤตจอดรออยู่แล้วส่วนเจ้าของรถเองก็ยืนรออยู่ ที่หน้าประตูทางเข้าสวมเสื้อเชิ้ตผูกเนคไทในมือมีสองเอกสารถือพร้อมอยู่ ท่าทางเหมือนขอออกมาก่อนเวลางาน
เด็กหนุ่มร่างสูงเพรียวในชุดลำลองด้วยเสื้อยืดทับด้วยเสื้อกันหนาวบางๆสีเขียวตัวโปรด กับกางเกงผ้าพับขากางเกงขึ้นตามสมัยนิยม เปิดประตูรถลงมา จอดรถเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเดินอ้อมไปเปิดประตูรถให้พี่สาว วันนี้เขาอาสาขับรถมาส่งเจนสุดาเอง
"ขอบใจนะเจือ... "สีหน้าของเด็กหนุ่มทำให้ท้ายเสียงของเจนสุดาแผ่วลง ก่อนจะหันไปมองหน้าของทินกฤต คนที่กำลังจะกลายเป็น "อดีตสามี" ของเธอ
"เจือ...จะรอพี่อยู่นี่ก็ได้นะ"
" ไม่..เป็นไรฮะ " ดวงตาคู่สวยเหลือบมองใบหน้าของพี่เขย
" ให้เจือไปส่งพี่เจนให้ถึงที่สุดเถอะนะ "
เจนสุดาถอนหายใจออกมาเบาๆ ระหว่างสองคนนี้ เธอไม่ได้ไต่ถามอะไรทั้งจากน้องชายและทินกฤตมากนัก สังเกตเห็นว่าน้องชายกำลังกลุ้มใจจนร่างกายผ่ายผอม จะมีดีขึ้นก็ช่วงหลังที่ย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านที่ดูจะสดใสขึ้นมาบ้าง ส่วนทินกฤตเองก็ดูจะเงียบขรึมลงไปมาก บางครั้งที่เธอสังเกตได้ทินกฤตจะนั่งมองโทรศัพท์มือถือชื่อดังของเขาอยู่นาน...หยิบขึ้นมาและก็วางลงไป....ก่อนจะถอนหายใจ เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จะได้ยินเสียงบ่นพึมพำในบางครั้ง
"การจะเชื่อใจกัน...มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ..." เจนสุดาเคยได้ยินคำนี้หลุดปากทินกฤตออกมาแต่ก็ไม่เข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ซักเท่าไรนักเธอจึงเลือกที่จะเงียบ และเป็นคนคอยสังเกตการณ์ต่อไป
"รอนานไหมเทียน" เจนสุดายิ้มให้กับอีกฝ่าย
"ไม่หรอก...ก็เพิ่งมาถึงน่ะ" ทินกฤตว่าพลางยิ้มตอบ
"โอเคนะ?" เสียงทุ้มถามขึ้นทันทีที่เห็นสีหน้าของเจนสุดาที่แม้จะแต่งหน้าใหม่กลบเกลื่อนแต่ก็ไม่พ้นสายตาของเขาจนได้
"แล้วทำไม....." เขาเหลือบมองหน้าของจุนเจือก่อนจะหันไปมองหน้าของเจนสุดา
"น้องเขา...แวะไปหาน่ะ เจนเลยบอกเขา แล้วเจือเขาก็อาสาจะมาส่งนี่ล่ะ"
"เหรอ..."ทินกฤตรับคำเบาๆ เขาหันไปมองหน้าของจุนเจือ ยิ้มให้ แต่ในใจลึกๆก็กลัวและไม่กล้าคาดหวังสีหน้าที่จะได้รับตอบกลับมา
จุนเจืออดที่จะสงสัยในรอยยิ้มของคนที่กำลังจะกลายเป็น"อดีต"พี่เขยไม่ได้ รอยยิ้มหมายถึงสิ่งใดกัน .. ทินกฤตยินดีที่จะได้หย่ากับเจนสุดา อย่างไม่ต้องสงสัย.. แล้วเขาล่ะ ควรจะยิ้มกลับไปในฐานะอะไร? แม้จะยังสับสนอยู่บ้างแต่จุนเจือก็ยังไม่อยากคิดถึงมันตอนนี้ .. ในวันที่เขาจะเป็นกำลังใจให้กับพี่สาวคนเดียวของเขา มือเรียวจับมือเย็นๆของเจนสุดาเอาไว้ยิ้มให้กำลังใจพี่สาว ก่อนใบหน้าสวยจะหันไปทางพี่เขยอีกครั้ง
" พี่พร้อมแล้วนะ? " ว่าพลางมองดูเอกสารของคนทั้งคู่ .. ทั้งพี่เขยและพี่สาวของเขาคงเตรียมตัวมาเพื่อวันนี้กันเป็นอย่างดีแล้ว ..
".................."ทินกฤตแปลกใจกับคำถามนั้นของอีกฝ่าย
"อืม..." ชายหนุ่มรับคำเบาๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าของเจนสุดาแล้วเป็นฝ่ายเดินนำเข้าไปก่อน
จุนเจือถามเขาแบบนั้นทำไม ทินกฤตอดไม่ได้ที่จะถามตัวเอง แต่อีกฝ่ายก็พูดกับเขา มองตาเขา เท่านั้นเขาก็พอใจแล้ว การที่เด็กหนุ่มมายืนอยู่ที่นี่นั้นทำให้ใจของเขาพองโต จุนเจือได้ตัดสินใจแล้ว เลือกที่จะปล่อยพี่สาวของเขาไป เจนสุดาเองก็จะได้มีความสุข ส่วนตัวเขา...ก็คงต้องเดินต่อไปพยายามที่จะกรุยทางให้เพียงพอสำหรับสองคน
++++++++++++++++++
"เรียบร้อยแล้วนะครับ" นายทะเบียนยื่นใบหย่าให้กับทั้งทินกฤตและเจนสุดาเอาไว้เป็นหลักฐานเมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อย ทินกฤตลุกขึ้นยื่นมือให้เจนสุดาจับเพื่อลุกขึ้นยืน ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆให้เจนสุดา ก่อนจะเป็นคนเดินนำออกไปเหมือนอย่างตอนที่เดินนำเข้ามา ร่างสูงโปร่งหยุดเมือออกมาด้านนอก อากาศร้อนอบอ้าว ต่างจากแอร์เย็นฉ่ำข้างในไม่น้อย
"จบแล้วซิ่นะ...." ทินกฤตเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยากจะคาดเดาอารมณ์ เขาทำท่าเหมือนจะยิ้ม แต่ริมฝีปากนั้นก็หาได้คลี่ออกไม่ เหมือนกำลังกระอักกระอ่วนใจเล็กๆกับอิสรภาพที่ได้ กับการที่จะต้องจากลาคนที่อาศัยอยู่ด้วยกันฉันท์สามีภรรยามาเกือบครึ่งปี
"ค่ะ...จบแล้วล่ะ สัญญาของเรา" เจนสุดายิ้มด้วยสีหน้าที่ไม่ต่างกัน แม้ทั้งสองคนจะไม่ใช่คนรักของกันและกัน แต่ก็ผูกพันกันอยู่ไม่น้อยด้วยปัญหาอะไรหลายๆอย่างที่มีเหมือนๆกัน ร่างเล็กของหญิงสาวยกแขนขึ้นโอบร่างของทินกฤตก้มลงมากอดเธอเอาไว้หลวมๆ
"ไว้ไปกินข้าวกันก่อนคุณเดินทางนะ..." ทินกฤตเอ่ย
"ผมจะเลี้ยงส่งให้อ้วนเลย อลิสจะได้ว่าผมไม่ได้ว่าผมใช้งานคุณจนผอม"
"อื้ม ...ไว้ดูอีกทีนะ ตารางยุ่งจังเลยช่วงนี้" เจนสุดาตอบกลับ พลางผละออกมา
"ไปนะ" ปลายนิ้วเรียวขยับน้อยๆเมื่อโบกมือลา ทินกฤตไม่ตอบแต่ก็โบกมือให้กับอีกฝ่าย ดวงตาคมเหลือบมองใบหน้าของจุนเจือพลางยิ้มน้อยๆให้ เขายังคงไม่มั่นใจในคำตอบของอีกฝ่ายนัก
....ช่วยยิ้มให้พี่หน่อยจะได้ไหม.....
....ช่วยทำให้พี่มั่นใจซักนิด...... ดวงตาคู่สวยของเด็กหนุ่มสบตาอีกฝ่าย ก่อนจะหันไปทางพี่สาว ร่างเล็กของเจนสุดาเดินนำหน้าเขาไปโดยที่ไม่ได้รอเช่นทุกครั้ง เด็กหนุ่ม พะว้าพะวัง อยากจะพูดอะไรกับทินกฤตบ้าง แต่พี่สาวของเขาที่เดินไปถึงรถที่จอดอยู่แล้วก็ทำให้เขาต้องได้แต่ก้มหัวลงน้อยๆให้กับชายหนุ่มแล้วรีบตามเจนสุดาไป
เด็กหนุ่มที่ดูลังเลคนนั้นเดินจากไป ทินกฤตเองก็อยากจะเรียกชื่ออีกฝ่ายเอาไว้แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะร่างสูงโปร่งของเด็กหนุ่มนั้นเดินจากไปเร็วเสียเหลือเกิน
++++++++++++++++++
talk : ช่วงนี้ไม่ค่อยได้พูดคุยกับรีดเดอร์เลยน้อ ..สำหรับหลายๆคอมเม้นนั้น ไรเตอร์อยากจะบอกว่า ชีวิตมันก็แบบนี้แหละค่า..คิดจะรักก็ต้องทุกข์เป็นธรรมดาน้อ..ขึ้นอยู่กับว่าทั้งสองฝ่ายจะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นยังไง..เอาเป็นว่า ช่วยเป็นกำลังใจให้พี่เทียนกับน้องเจือต่อไปนะคะ^^
http://www.youtube.com/v/FPEND5w6fUw?fs=1&hl=th_TH