หอมกลิ่นกาแฟ Series : คุณแมกซ์&เจ้าน้อย-ภาคพิเศษ-ตอนจบ-(17/08/12)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

โหวดตัวละครใน"หอมกลิ่นกาแฟseries"ที่คุณชอบที่สุด!

ก้อง..ก้องภพ หนุ่มติสต์ท้ายซอย
16 (7.1%)
จิ๊บ....อรรถนันท์ ดอกไม้ขาวีน
31 (13.7%)
เจือ...จุนเจือ น้องเมียตัวแสบ
20 (8.8%)
เทียน...ทินกฤต พี่เขยกำมะลอ
10 (4.4%)
น้อย...สมปอง(ขวัญใจโคไรท์) ตัวเล็กหมัดหนัก
101 (44.7%)
บาส...หล่อ บ้า ฮา รัว
8 (3.5%)
มิน...รามินทร์ คุณชายเอาแต่ใจได้โล่ห์
8 (3.5%)
แมกซ์ ...พศวัตป๋าที่สุด
15 (6.6%)
แมน...กตัญญู พี่ชายพ่อพระ
10 (4.4%)
เอก...สวยสุดซึน (หมัดหนักอีกตะหาก)
7 (3.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 155

ผู้เขียน หัวข้อ: หอมกลิ่นกาแฟ Series : คุณแมกซ์&เจ้าน้อย-ภาคพิเศษ-ตอนจบ-(17/08/12)  (อ่าน 1042974 ครั้ง)

ออฟไลน์ Meen_Emp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
ดีใจจัง...กลับมาคืนดีกันล้ว...

+1

ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
ยังไม่มาต่อเหรอครับ ให้กำลังใจเสมอนะ :3123:

ออฟไลน์ kuruma

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 441
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +527/-3
งานเลี้ยงการของมูลนิธิเพื่อการกุศลที่ทั้งบ้านของทินกฤตและบ้านขอจุนเจือเองต่างก็เข้าร่วมนั้น จัดขึ้นในโรงแรมใหญ่ใจกลางเมือง ผู้คนที่มาร่วมงานนั้นมีมากหน้าหลายตา นักข่าวจากหลายสำนักเตรียมตัวมาเพื่อรอเก็บภาพเหล่า "เซเลบ" และ "ไฮโซ" ที่พาเหรดกันมาร่วมในงานครั้งนี้ ด้วยเงินทุนที่ระดมบริจาคเพื่อองค์การในการช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส ผู้พิการ และคนชราที่มียอดมากมายมหาศาลนั้น ไม่ต้องถามถึงความอลังการของภายในงานเลย

++++++++++++

ทินกฤตขับรถตามมาทีหลัง เขาได้รับโทรศัพท์จากพ่อและแม่ขอเขาแล้วว่าได้มาถึงที่งานก่อนแล้ว จึงรีบเดินตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว ร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำสนิทและเนคไทเส้นสวยที่ "คนรัก" ของเขาเป็นคนเลือกให้นั้นช่วยส่งให้ใบหน้าขาวแบบเชื้อจีนนั้นยิ่งชวนให้มองมากขึ้นไปอีก ชายขยับปลายนิ้วติดกระดุมข้อมือให้เข้าที่เมื่อเดินเข้ามาในงาน ได้ยินเสียงเอ่ยทักจากหญิงสาวลูกหลานไฮโซทั้งหลาย แต่ก็ได้เพียงแค่ยิ้มน้อยๆให้ที่มุมปากเท่านั้น

.....มันเป็นแบบนี้มาตลอด.....
.....ไม่มีใครเคยรู้เลยว่าเขาไม่ได้สนใจผู้หญิงคนไหนเลยแม้แต่น้อย.....


เห็นเด็กหนุ่มร่างสูงเพรียวอยู่ท่ามกลางวงล้อมของเซเลบสาววัยรุ่น เส้นผมสีน้ำตาลแดงที่ถูกจัดทรงด้วยการเสยเก็บขึ้น เผยให้เห็นรูปหน้าที่เรียกได้ว่าสวยคม ดูแปลกตากว่าทุกครั้ง เสื้อนอกสีเมทาลิกกับกางเกงเข้าชุดกันที่กระเป๋าเสื้อสูทพอดีตัวนั้นมีดอกไม้ที่ทางเจ้าภาพเตรียมไว้ให้ผู้ร่วมงานติดอยู่  ท่าทางยิ้มแย้มในมือมีเพียงแก้วคอกเทลอ่อนๆแบบนั้น ดูดึงดูดสายตาใครต่อใครได้ไม่ยากเลย

อยากจะเอ่ยปากเรียกชื่อของเด็กหนุ่ม พร้อมด้วยรอยยิ้ม หรือ โบกมือให้ แต่ก็ทำไม่ได้ ทินกฤตสำรวมอาการของตัวเองเต็มที่ก่อนจะได้ยินเสียงแม่ของตัวเองดังขึ้น มองเข้าไปเห็น ผู้เป็นแม่นั่งอยู่ที่โต๊ะ ...แน่นอนงานแบบนี้เป็นค็อกเทลยืนกันไปหมดคงไม่ไหว....พวกรุ่นใหญ่เขาจะได้ยืนขาแข็งกันเสียก่อน...

"แม่มานานแล้วเหรอครับ พอดีรถติดน่ะครับเลยมาช้า "ชายหนุ่มเอ่ยพลางเดินเข้าไปยืนข้างๆเก้าอี้ของผู้เป็นแม่ ก่อนจะรีบยกมือไหว้เหล่าสมาคมของแม่และพ่อที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วยกัน
"สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า แล้วก็คุณอา..." ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อยเมื่อสบตากับ "อดีต" แม่ยายและพ่อตาที่ยังคงคาดหวังเหลือเกินว่าจะให้เขากลับมาคืนดีกับเจนสุดา
"สวัสดีครับ คุณพ่อ คุณแม่" แม้จะแยกทางกันแล้วแต่ทินกฤตก็ยังคงเรียกคนทั้งคู่แบบเดิม ด้วยความเคยชิน

"ไหว้พระเถอะจ๊ะลูก .. เมื่อคืนนี้แม่โทรหาเจนเค้า ลูกสาวแม่คนนี้น่ะ โกรธง่ายหายเร็ว .. ดูท่าทางเจนเขาอารมณ์ดีขึ้นมาแล้ว ยังไง เทียนก็ไปง้อน้องเถอะนะลูก  ""อดีต" แม่ยายของเขารีบเข้าประเด็นทันที ลูกเขยดีๆ แบบนี้ หาได้อีกที่ไหนกัน

ส่วนทาง"อดีต"พ่อตาเอง มึนตึงกับทินกฤตเล็กน้อย จึงไม่ค่อยอยากจะทักทายเท่าไหร่นัก ชายสูงวัยหันไปกวักมือเรียกลูกชายคนเล็กของตัวเองให้มาทักทาย"อดีต"พี่เขย
" เจือ..มาสวัสดีพี่เขาก่อนสิลูก "เด็กหนุ่มเอ่ยลากับกลุ่มสาวเซเลปรุ่นเล็กนั้นอย่างสุภาพก่อนจะทำตามที่บิดาว่า .. และตามข้อตกลงที่มีต่อกันและกันระหว่างเขากับทินกฤต..

ดวงตาของทินกฤตพิศมองใบหน้าสวยคมของจุนเจือ ชั่ววินาทีหนึ่งที่เขาเกือบจะบังคับตัวเองเอาไว้ไม่ได้ ในใจมันเหมือนจะระเบิดออกมาเสียอย่างนั้น ชายหนุ่มยกมือขึ้นรับไหว้แล้วทำเหมือนทุกครั้งที่เขาจะเบือนหน้าไปหา "อดีต" แม่ยายของตัวเอง

"ถ้ายังไงแล้วผมจะลองโทรไปหาเจนนะครับ...ผม...จะพยายามให้มากกว่านี้ครับ" แม้ปากจะพูดออกไปแบบนั้น แต่ในดวงตานั้นไม่ได้แสดงความเป็นกังวลต่อการที่จะต้อง ไปตามง้องอน "เมียเก่า" เลยแม้แต่น้อย
"คุณพ่อคุณแม่จะรับเครื่องดื่มอะไรไหมครับ ผมจะบอกให้คนเอามาให้" ทินกฤตเสนออย่างสุภาพ พร้อมแจกรอยยิ้มจอมปลอมให้กับทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเหมือนเดิม

" ไม่เป็นไรครับ คุณทินกฤต เดี๋ยวผมจะไปเอามาให้เอง เชิญตามสบายเถอะครับ " จุนเจือปั้นยิ้มเสแสร้ง ยิ้มเยาะเช่นทุกครั้ง .. ยิ่งอีกฝ่ายหย่าขาดจากพี่สาวที่เขารักมาก การเล่นละครว่าเกลียดแสนเกลียดอย่างชัดเจนนั้นก็คงไม่แปลกอะไร ก่อนจะถามผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอย่างสุภาพแล้วเดินไปหยิบเครื่องดื่มที่ว่านั้น

แม้จะรู้ดีว่ามันเพียงละคร แต่เมื่อต้องมาได้ยินอีกฝ่ายพูดด้วยอย่างเย็นชา แสดงท่าทีหมางเมินห่างเหินใส่แบบนี้ ทินกฤต เม้มริมฝีปากแน่น ผู้เป็นแม่เห็นก็คงคิดว่าเขาจะฉุนเฉียวกับท่าทีแบบนั้นขอจุนเจืออีกก็เป็นได้ จึงได้กระตุกแขนเสื้อของเขาเบาๆเชิงปราม สายตานั้นแสดงการตำหนิอย่างเห็นได้ชัด แม้ไม่ต้องพูดแต่เขาก็พอจะรู้ว่าแม่ของเขาคิดอะไรอยู่

"ขอโทษครับคุณแม่ ...ว่าแต่วันนี้ทุกคนมากันพร้อมหน้าเลยนะครับ แสดงว่า เรื่องเงินบริจาคครั้งนี้ต้องไปได้สวยแน่เลยใช่ไหมครับ...ดีจังเลยนะครับมีคนมาช่วยกันทำบุญเยอะเชียว"  ทินกฤตปั้นยิ้มให้แม้แต่กับแม่ของตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องเป็นเรื่องของเงินบริจาค

"ก็ถือว่าช่วยเหลือคนด้อยโอกาสน่ะ เราโชคดีมีกินมีใช้ ก็ต้องแบ่งปันให้คนอื่นเขาบ้าง คนพวกนี้บางคนไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงจะเรียกร้องอะไร แม้จะเป็นคนเหมือนกันแต่บางคนก็ปฏิบัติกับเขาเป็นคนชั้นสอง แบบนั้นไม่ได้หรอก... ทุกคนก็เท่าเทียมกัน มีสิทธิ์เหมือนกันเราก็ช่วยเหลือเขา " คุณป้าคนหนึ่งที่นั่งอยู่พูดออกมา คำพูดของคุณป้านั้นสะท้อนใจของทินกฤตอย่างช่วยไม่ได้

....ผมคงด้อยโอกาสที่จะแสดงความรักกระมัง....

++++++++++++

งานเลี้ยงดำเนินไปจนกระทั่งถึงพิธีการ ผู้ใหญ่ระดับรัฐมนตรีเป็นผู้กล่าวเปิดงานในวันนี้ แสงแฟลชและเสียงชัตเตอร์จากนักข่าวหลายสำนักดังวูบวาบสะท้อนกับเครื่องเพชรที่คุณหญิงคุณนายแต่ละคนใส่มาอวดกัน เสียงหัวเราะจอมปลอมกับคำยกยอปอปั้นช่างน่าเบื่อหน่ายสำหรับเด็กหนุ่มอย่างจุนเจือนัก จนกระทั่ง มีทีมจัดงานคนหนึ่งเข้ามากระซิบกระซาบบอกคิวการแสดงอย่างคร่าวๆ
เด็กหนุ่มพยักหน้าเข้าใจก่อนจะเอ่ยขอตัวกับทุกคนที่อยู่ร่วมโต๊ะ ดวงตาคู่สวยสบตากับอดีตพี่เขยของตนเล็กน้อยแล้วเดินตามทีมงานผู้นั้นไป

++++++++++++

ทินกฤตลุกขึ้นจากโต๊ะ ทำทีเป็นขอตัวว่าจะไปเข้าห้องน้ำ แต่ท้ายที่สุดแล้วกลับเดินไปหามุมมืดมุมหนึ่งใกล้เวทียึดเป็นที่มั่นหวังว่าจะได้เห็นการแสดงของคนรักใกล้ๆ เขาหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องเดิมมา พิมพ์ข้อความส่งไปให้กับเด็กหนุ่ม

.....เล่นให้สุดฝีมือเลยนะครับ....

เพียงไม่นานก็มีข้อความตอบกลับมา

...OK ครับ .. เล่นดีๆ ต้องมีรางวัลด้วยนะ^^..

"รางวัลอะไรกัน...เด็กบ้า" เมื่อเห็นข้อความแบบนั้น ทินกฤตก็หัวเราะออกมาเบาๆ

++++++++++++

เพียงไม่นานแสงไฟบนเวทีก็ค่อยหรี่ให้มืดลง แสงไฟสีอ่อนสาดส่องลงไปบนเปียโนตัวใหญ่ เสียงปรบมือดังขึ้นเบาๆ เมื่อร่างสูงเพรียวของเด็กหนุ่มร่างบางเดินขึ้นมา โค้งให้กับผู้ชม ริมฝีปากได้รูปสวยนั้นโปรยยิ้มให้กับคนดู ก่อนที่จะเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าเปียโน  ทั้งห้องจัดเลี้ยงเงียบเสียงลงเตรียมฟังการแสดงของเด็กหนุ่มหน้าสวยคนนี้ ได้ยินเสียงพูดคุยดังขึ้นจาก กลุ่มเด็กสาวและนักข่าวที่ยืนคอยเก็บภาพ

จุนเจือเหลือบมองไปทางชายหนุ่มที่ยืนอยู่ในมุมมิดคนนั้น ริมฝีปากได้รูปยิ้มน้อยๆ ก่อนจะจรดปลายนิ้วลงบนคีย์ เสียงตัวโน๊ตดังขึ้นเป็นท่วงทำนองหวานหู อ่อนโยน ราวกับจะส่งไปโอบกอดร่างของชายที่อยู่ในห้วงคำนึง ท่วงท่ายามที่สะบัดปลายนิ้วไล่เรื่อยลงไปบนเปียโนนั้นยิ่งดึงดูดสายตาของคนที่เฝ้ามองอยู่ห่างๆให้ยิ่งจับจ้อง ไม่ได้ต่างจากชื่อของเพลงแสนหวานที่เด็กหนุ่มเลือกมาบรรเลงเลยแม้แต่น้อย



ท่วงทำนองอ่อนหวาน บรรเลงด้วยปลายนิ้วเรียวที่สร้างสรรค์เสียงดนตรีอย่างไพเราะ ฝีมือของเด็กหนุ่มนั้นเรียกได้ว่าอยู่ในระดับที่แข่งขันได้สบายมาก แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะพอใจให้เป็นเป็นแค่งานอดิเรกเสียมากกว่า ใบหน้าสวยขยับตามอารมณ์ของเพลง ในบางครั้งก็หลับตาลงเมื่อจินตนาการถึงใครคนหนึ่งที่เขาไม่อาจเปิดเผยให้ใครรับรู้ได้ ความสัมพันธ์ที่เร่าร้อนอ่อนหวาน แต่ในบางครั้งก็รู้สึกราวกับว่าอยู่ในฝัน ดวงตาที่จ้องมองมาที่เขาเสมอด้วยความห่วงหาอาทรนั้น .. เด็กหนุ่มทำได้เพียงแค่บอกกับชายหนุ่มผู้นั้นผ่านเสียงเพลงๆนี้

..ถึงจะไม่สามารถบอกใครต่อใครออกไปได้ว่ารักกันเพียงใด..แต่เขาจะอยู่เคียงข้างผู้ชายคนนี้...

...ตราบเท่าที่จะทำได้..

สิ้นสุดเสียงเพลง ก็มีเสียงปรบมือด้วยความชื่นชมดังให้ได้ยิน ทินกฤตเองก็ปรบมือให้กับอีกฝ่ายเช่นกัน แต่จะมีใครรู้บ้างหรือไมว่าในดวงตาคู่นั้นของประธานบริษัทหนุ่มที่กำลังเป็นที่จับตามอง ทั้งในด้านการทำงานเองก็ดี และในเรื่องส่วนตัวเองก็ดีคนนี้นั้นกำลังมองหน้าสวยคมของจุนเจือด้วยสายตาที่รุ่มร้อนเพียงใด

จุนเจือโค้งขอบคุณเสียงปรบมือนั้น ก่อนจะลงจากเวทีไป ที่บันไดด้านหลังเวทีนั้น หากเดินไปตามประตูก็จะพบว่าเป็นทางเดินด้านนอกระเบียง ตอนที่มาหลังเวที จุนเจือก็ใช้เส้นตางนี้ตามที่ทีมงานเป็นผู้นำมา เพื่อที่จะไม่เป็นการรบกวนพิธีด้านในนั้น ถึงแม้การแสดงต่อหน้าคนมากมายจะเป็นงานถนัดของจุนเจือ แต่การเดี่ยวเปียโนการกุศลเมื่อครู่นี้ ก็ทำให้เขาประหม่าไม่น้อยเลย ยังดีที่เห็นทินกฤตอยู่ในสายตาตลอดจึงสามารถเล่นออกมาได้อย่างเป็นที่น่าพอใจแบบนั้น...

++++++++++++

ด้านนอกมีลมอ่อนๆพัดมา พอให้รู้สึกสดชื่น เด็กหนุ่มสูดลมหายใจเข้าลึก รู้สึกเหมือนได้พักจากการต้องคอยระแวงระวังสายตาของใครต่อใคร สองแขนแกว่งไปมาเล็กๆ อย่างสบายใจ ทันใดนั้นมีแรงกระชากช่วงแขนของเด็กหนุ่มเอาไว้

"เฮ้ย! .. อ้าว..พี่เทียน?" เด็กหนุ่มดึงมือตนเองอย่างตกใจ แต่เมื่อหันไปมองแล้วพบว่าเป็นใครก็ต้องแปลกใจ ดวงตาคู่สวยมองไปรอบๆอย่างระวัง โชคดีที่ไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น

"ตกใจเหรอ..." เสียงทุ้มกระซิบเบาๆ เขารู้ว่าไม่มีใครเดินผ่านมาทางนี้ซักเท่าไรนัก จึงได้มาดักรออีกฝ่ายอยู่ที่นี่ สองแขนแกร่งโอบรอบเอวบางเข้าหาตัว

"แหงล่ะซิ..อย่างกับพวกดักปล้นแบบนั้นล่ะ..เดี๋ยวมีคนมานะ " เสียงโวยวายเบาๆพลางเกร็งตัวเมื่ออีกฝ่ายโอบเอวเขาเข้ามา

"โรงแรมเขาออกใหญ่โต ไม่มีใครดักปล้นหรอก...หรือจะให้พี่ปล้นสวาท หะ?" ทินกฤตว่ายังไม่ยอมปล่อยอีกฝ่ายให้พ้นอ้อมแขน หูของเด็กหนุ่มได้ยินเสียงร่างสูงหัวเราะออกมาเบาๆ

"ไอ้ปล้นแบบนี้น่ะ..ก็ปล้นอยู่ทุกวันไม่ใช่รึไง..พี่เทียน~ ปล่อยก่อนเลย เจือกลัวคนเห็นจริงๆนะ " มือแข็งๆนี่เล่นโอบไว้ไม่ยอมปล่อยแบบนี้ สุดท้ายเด็กหนุ่มจึงใช้วิธีอ้อนให้ปล่อยแทน

"โอเคๆ...ปล่อยก็ปล่อย" ทินกฤตยอมละมือออกจากอีกฝ่ายอย่างเสียดาย ชายหนุ่มเบือนหน้าไปอีกทาง เขาเองก็พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองอยู่ไม่น้อย หลังจากที่ได้ยินเพลงเมื่อครู่ที่แทบจะทำให้ใจของเขาหลุดออกมาอยู่นอกอก ....แน่นอนในเมื่ออีกฝ่ายกำลังบอกรักเขาทางอ้อมแบบนั้นแล้วจะให้อยู่เฉยได้อย่างไรกัน
"ช่างยั่วพี่นักนะเรา... ไป.... จากตรงนี้ไปถึงข้างในยังพอจับมือพี่ได้ใช่ไหม" ว่าพลางยื่นมือแกร่งออกไป
"เดินไปด้วยกันเนี่ยซักสามเมตรก็ได้"

“แค่สามเมตรก็จะเอาเหรอ.. " จุนเจือหัวเราะกับท่าทางอ้อนของอีกฝ่าย .. ตั้งแต่วันนั้นพวกเขาทั้งสองคนก็ดูอจะผลัดกันอ้อนแบบนี้อยู่เรื่อย เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปจับมือของอีกฝ่ายเบาๆ

"สามเมตรก็ยังดีน่า...นานๆทีได้ควงเด็กเดินแบบนี้มันก็ดีเหมือนกันนะ" ทินกฤตยิ้มให้กับอีกฝ่ายพลางล็อคนิ้วเข้ากับมือของเด็กหนุ่ม ถือว่าอีกฝ่ายอนุญาตแล้วเสร็จสรรพ สองขาก้าวเดินช้าๆ ราวกับจะยืดให้สามเมตรนั้นยิ่งยาวออกไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

" เดี๋ยวเจือจะบอกแม่ว่า..จะกลับไปเตรียมพรีเซนต์โปรเจคที่คอนโดนะฮะ "

"จะกลับพร้อมพี่ใช่ไหม....เดี๋ยวพี่จะได้โทรบอกแม่ เขาไม่ว่าหรอกถ้าพี่จะแว่บหายไปไหน...ขาประจำอยู่แล้ว" ว่าพลางก็มีรอยยิ้มอย่างภาคภูมิบนใบหน้า

"อื้ม..เดี๋ยวเจือเข้าไปในงานก่อนนะ..แล้วจะบีบีหานะฮะ " ทั้งสองคนนัดหมายกันเรียบร้อย ก่อนที่เด็กหนุ่มจะดึงมือตัวเองออกช้าๆ แล้วยิ้มให้ จึงแยกเข้าประตูห้องจัดเลี้ยงนั้นไป

ส่วนทินกฤตเองก็หยิบโทรศัพท์อีกเครื่องที่เป็นโทรศัพท์สำหรับใช้ในงานประจำขึ้นมาทำทีเดินสั่งงานไปเรื่อยแล้วเดินออกไปจากงาน

++++++++++++

งานเลี้ยงยังคงดำเนินไป โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่าทั้งทินกฤตและจุนเจือนั้นได้หายไปพร้อมๆกัน เพราะทั้งคู่ก็รายงานตัวกับคนที่มาด้วยคำโกหกของตัวเองไปแล้วว่า มีธุระที่จำเป็นจะต้องไปสะสางจริงๆ ดังนั้นจึงไม่ได้มีใครเอะใจสงสัยอะไร

ทินกฤตยืนรอจุนเจืออยู่ที่หน้าประตูโรงแรม เขาจอดรถคันโตของตัวเองไว้ที่ลานจอดรถด้านล่าง จนเมื่ออีกฝ่ายเดินลงมาก็เดินเคียงกันออกไป จนเมื่อสิ้นแสงไฟสว่างที่สาดส่องลงมาของโรงแรม ทินกฤตจึงได้เลื่อนมือมากอบกุมมือของคนรักของเขาเอาไว้อีกครั้งแล้วเดินไปที่รถด้วยกัน

...คราวนี้ระยะทางนั้นมากกว่าสามเมตรดังที่เคยได้คุยกันเอาไว้ และมือของทินกฤตนั้นคงจะไม่ห่างจากมือเรียวของเด็กหนุ่มที่บรรเลงเพลงแสนหวานไปตลอดทั้งค่ำคืน...

++++++++++++

talk : อย่างหวานนนนน .. ช่วงนี้เอาใจคนอ่านนะคะ หวังว่าคงชอบของหวานๆเนอะ~
ปล : ฟังเพลงประกอบด้วยนะคะ มันได้ฟิลมากๆๆๆ .. เพลงนี้เป็นเพลงประกอบเกมส์ Final Fantasy ภาค 8 ค่ะ ก็สมกับจุนเจือที่ยังเล่นเกมส์แถมยังมีเพื่อนสนิทบ้าเกมส์และการ์ตูนอย่างบาสเนอะ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2011 21:05:11 โดย kuruma »

darajoy

  • บุคคลทั่วไป
หวานได้ใจคนอ่านมากเลยค่ะ

ขอให้คู่นี้เขาได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไป

อย่าให้มีอุปสรรคอะไรอีกเลย

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4
หวานตลอดไปก็จะดีนะจ๊ะ :pig4:

ออฟไลน์ goldfishpka

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-0
    • twitterของp.k.a
ปาดไม่ทันก็แปะไว้ก่อน

หวานจนกลัวว่า คนอ่าน จะป่วยเป็นโรคเบาหวานจริงๆ  :-[ :-[
อยากแปะคลืปบ้าง แต่ โง่เรื่องโค๊ด พยายามแล้ว ทำไมไ่ด้ :serius2:
ก็แปะ ลิงค์ไปก่อน
เพราะอ่านแล้วนึกถึงขึ้นมาทันที ทั้งๆที่ตอนแต่งไม่ได้คิดถึงเลย

day tripper : อยากอยู่ตรงนี้ตลอดไป http://www.youtube.com/watch?v=floxicagoq4
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-04-2011 22:15:05 โดย goldfishpka »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
 :กอด1:น้องเจือ




 :L1:พี่เทียน

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
หวานนนนนนนนนมากกกกกกกกก

ออฟไลน์ mascot

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-10
 :เฮ้อ:หวานแบบกั๊กๆ จะเต็มที่ก็ไม่ได้
อยากให้หวานกันได้แบบเต็มที่ซะที

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ขนมหวาน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +190/-2
หวานเป็นที่น่าพอใจ แต่กลัวว่าความลับจะอยู่ไม่นาน
เอาใจช่วยต่อไปเน้อออออออออออออออ

mumumama55

  • บุคคลทั่วไป
 :z2: เหมือนจะหายใจไม่ทั่วท้องยังไงๆ ไม่รู้แฮะ   :z2:

 :pig4: :pig4:

tawan

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Acacha

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
มีความสุข  :กอด1: แต่ก็แอบกังวลๆ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
อ่านตอนนี้  มันหวานระทมเศร้า  รักที่ต้องหลบซ่อนนี้มันเจ็บแท้หนอ

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: หอมกลิ่นกาแฟ Series>&
«ตอบ #3855 เมื่อ04-04-2011 00:16:55 »

 :z1:

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
หวานค่ะ ชอบบบบบบบบบบบบบบ :impress2: :impress2: แต่ก็อยากให้ได้เปิดเผยซะที  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

 :3123: :3123: :pig4: :pig4:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
กลิ่นอายความเศร้าอบอวล
+1

ออฟไลน์ Piaanie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
มันหวาน แต่แอบเศร้า รักที่ต้องแอบซ่อนมันเจ็บปวดจริงๆ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
หวานก็จริง แต่คงยังต้องแอบคบกันอยู่  :เฮ้อ:
รอวันฟ้าเปิด เมื่อนั้นน้องเจือ กับ พี่เทียน ก็ได้  :n1: อย่างเปิดเผย
+1 ให้คนละแต้ม แล้วก็รอตอนที่หวังไว้  :z2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jimmyjimmy

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1962
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-17
พี่เทียน หื่นว่ะ

" ปล้นสวาท "  ทุกคืนเลยเหรอ  :pighaun:


ออฟไลน์ Kee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
หวานมากกกกกก  หวังว่าจะไม่มีพายุเข้านะคะ

ปล. อยากอ่านตอนพิเศษที่เอาตัวละครทั้งหมดมายำให้อยู่ในตอนเดียวอ่ะ  น่าจะครื้นเครงน่าดู   :monkeysad:
ที่โหวตข้างบนนี่ให้โหวตได้แค่ครั้งเดียวเองเหรอ  เสียดายจัง   

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
เอาใจช่วยทั้ง 2 คนให้ฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้
จะได้เปิดเผยได้ซักที

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
ให้กำลังใจเสมอนะเจือเทียน :L1:

koraorni

  • บุคคลทั่วไป
หวานกำลังดีไม่มากจนเกินไป
เป็นกำลังใจให้กันและกันต่อไป

ออฟไลน์ urmein

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 871
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
ขอหวานตลอดไปเรยได้มั้ยยยยย

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เอาใจช่วยน้องเจือกับคุณเทียน ให้สมหวังนะคะ

ออฟไลน์ rellachulla

  • iiRita♥World Behind My Wall♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-8
กลัวพายุลูกใหม่
ลุ้นต่อไป

ออฟไลน์ Meen_Emp

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-2
ชอบค่ะ...

 :กอด1: :กอด1:

มีความสุขจังเลย...

ออฟไลน์ kuruma

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 441
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +527/-3
"ทำโปรเจคจบแล้วหนีมาเที่ยวแบบนี้จะดีเหรอเจือ" ทินกฤตเอ่ยถามเมื่อขับรถออกมาจากกรุงเทพมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปยังสถานที่ที่ใครต่อใครก็บอกว่าอยากจะไปสูดโอโซนให้มันชุ่มปอดเสียหน่อย

ถนนมุ่งหน้าสู่บ้านพักตากอากาศของเพื่อนของตัวเองที่ใจดีให้ยืมกุญแจไปเปิดบ้านเข้าพักได้ตามสบาย
เพราะเจ้าตัวกำลังวิ่งวุ่นทำทัวร์อยู่แถบประเทศเพื่อนบ้านนั้นเรียงรายด้วยป้ายของรีสอร์ท ลานกงเต้นท์รวมไปจนถึงสวนองุ่น ไร่ไวน์ บ้านลุงคนนั้น สวนป้าคนนี้ ต่างตั้งชื่อกันไปตามแต่ใจเจ้าของต้องการ
ทินกฤตขับรถสบายๆไมได้เร่งมากออกจากรุงเทพมาก็ราวสามชั่วโมงกว่าๆ เห็นจะได้ แวะทานขนมกันแถวสระบุรี ซึ่งจุนเจือก็ดูจะชอบใจไม่หยอก ยิ่งได้ลองทานนมข้าวโพดของขึ้นชื่อก็แทบจะบอกให้เขาซื้อยกลังติดใส่รถไปด้วยแทบไม่ทัน

"เจือ ใกล้ถึงแล้วนะ นอกจากน้ำข้าวโพดแล้วยังจะกินน้ำองุ่นด้วยไหม"

" ไวน์ดีกว่า .. นี่ถ้าผ่านไร่ใหญ่ๆนะ ซื้อเลยนะ " เด็กหนุ่มหันมามองหน้าคนรักผ่านแว่นกันแดดอันใหญ่ ก่อนจะหยิบขนมกะหรี่พัฟจากในกล่องมาใส่ปากอีกชิ้น ท่าทางมีความสุขกับการกินขนมไม่มีเปลี่ยนไปเลย

"ไวน์?...จะมอมตัวเองรึไง" ทินกฤตหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกดโทรศัพท์มือถือหาเพื่อนเจ้าถิ่น
"โหล...เออ กูเอง อยู่ไหนเนี่ย ห๊า เวียงจันทร์ เออๆ สบายดี ....เอ้อ กูจะถามว่าแถวบ้านมึงมีไวน์ไร่ไหนใช้ได้บ้าง ...อ้อเหรอ..เออใกล้แล้วๆ เลี้ยวเข้าไปเลยใช่ป่ะ ได้" ทินกฤตวางสายพลางมองหาป้ายบอกทาง
"เห็นว่าน่าจะใกล้จะถึงแล้ว....นั่นไง..." ชายหนุ่มหันมายิ้มให้คนรัก
"เดี๋ยวได้มอมตัวเองแน่ เจือ ..เพื่อนพี่มันบอกว่าของที่นี่เขาใช้ได้ แล้วก็..มีให้เก็บองุ่นด้วย"

+++++++++++++++

รถสีดำของทินกฤตจอดเข้าที่จอดรถของไร่องุ่นแห่งหนึ่ง มอจากภายนอกแล้วตกแต่งสไตล์คาวบอย แดดค่อนข้างแรงทำให้นึกห่วงเด็กหนุ่มเหมือนกัน
"เจือ....อ้าว.....ไปไหนแล้ว"
เมื่อหันมาก็ต้องแปลกใจจุนเจือแทบจะถลาไปที่ร้านค้าของไร่เสียแล้ว ปากก็บ่นว่าร้อนๆ แต่พอเข้าไปข้างในได้ก็ไม่วายโพล่หน้าออกมาโบกมือบอกว่า ด้านในนั้นแสนจะเย็นฉ่ำ

เจ้าของร่างสูงเพรียวในชุดลำลอง เดินเข้าไปที่ร้านขายผลิตภัณฑ์จากองุ่น สายตาก็สอดส่องหา ไวน์ชั้นดีซักขวด-สองขวดราคาไม่เกี่ยงอยู่แล้ว ริมฝีปากบางยิ้มระระรื่นเมื่อหยิบขวดไวน์ใส่ตะกร้ามาสองขวด โดยที่ไม่ได้ใส่ใจในส่วนผสมเท่าไหร่นักก่อนจะเดินไปหยิบองุ่นใส่กล่องในตู้แช่ กับแยมองุ่นมาอีก ก่อนจะเดินไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์

" พี่เทียนฮะ..มาจ่ายตังค์ " มือเรียวกวักเรียกอีกฝ่ายหยอยๆ

"โห ที่ตอนหยิบไม่เห็นเคยถาม..." ทินกฤตทำทีบ่นแต่ก็หยิบสตางค์ออกมาจ่ายเสียเรียบร้อย นึกโชคดีที่แวะซื้อของสดอะไรมาตั้งแต่ผ่านตัวเมือง เพราะเพื่อนของเขาบอกว่าแถวนี้ถึงจะมีร้านอาหารแต่ช่วงวันหยุดยาวแบบนี้มักจะมีรถทัวร์นักท่องเที่ยวมากันให้ขวักไขว่ไปหมด
"จะเอาอะไรอีกไหม...มาเที่ยวสองสามวันซื้อของปานจะอยู่ซักสามเดือนนะเรา กินให้หมดล่ะ" ทินกฤตถามเหมือนจะบ่น แต่ปากกลับคลี่เป็นรอยยิ้ม

" อืม..ไวน์มีแล้ว น้ำขาวโพดมีแล้ว ขนมปัง แยม แล้วก็..เย็นนี้จะมีคนปิ้งบาร์บิคิวให้กินด้วยใช่ไหมล่ะ? "มือเรียวที่ถือถุงใส่ของแล้วเดินมาใกล้อีกฝ่าย ใบหน้าสวยมองแกมบังคับอีกต่างหาก

"พี่เนี่ยนะ?....นึกว่าเจือจะทำให้พี่กินเสียอีก" ทินกฤตถามทีเล่นทีจริง

" อ้าว.....ไม่กลัวท้องเสียเหรอ? "จุนเจือได้ทีขู่ก่อนจะหัวเราะเบาๆ แล้วเดินกลับไปที่รถ เพื่อออกเดินทางไปยังที่หมาย

+++++++++++++++

บ้านพักตากอากาศของเพื่อนทินกฤตนั้นอยู่ลึกเข้าไปจากถนนสายใหญ่ รายรอบไปด้วยไร่องุ่นสองข้างทางทั้งเล็กและใหญ่ ความเป็นส่วนตัวแบบนั้นทำให้คนทั้งคู่อุ่นใจได้ว่า ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันอีก รถเอสยูวีสีดำคันใหญ่มุ่งไปยังที่จอดรถติดกับบ้านที่ตกแต่งด้วยไม้ทั้งหลัง ระเบียงด้านหน้าบ้านที่มีชิงช้าและม้านั่ง โต๊ะไม้ตัวใหญ่สำหรับปาร์ตี้นั้นดูโดดเด่นไม่น้อยเลยทีเดียว

"เอาล่ะ เข้าไปเลย ....มีเอ่อ....ห้องน้ำ" ชายหนุ่มร่างสูงทำทีเป็นเจ้าของบ้าน แต่ก็เดินสำรวจไปด้วยในที มีห้องน้ำอยู่ที่ชั้นล่าง ห้องครัวพร้อมสำหรับทำอาหาร มีโซฟาขนาดใหญ่ตั้งอยู่หน้าทีวี ทั้งห้องตกแต่งด้วยสีเขียวอ่อนดูสบายตา ทินกฤตพาเด็กหนุ่มเดินขึ้นไปด้านบนที่มีห้องนอน เตียงหลังใหญ่สี่เสาทำให้อดที่จะยิ้มกับรสนิยมของเพื่อนไม่ได้

"บ้านสวยมากเลยฮะ..วิวก็ดีด้วย " จุนเจือในตอนนี้เหมือนเด็กๆที่เดินสำรวจไปทั่ว เมือเรียวผลักประตูระเบียงบานใหญ่ เพื่อไปสูดอากาศที่ระเบียงห้อง
" อากาศก็ดีมากเลย..รู้สึกดีชะมัด " เห็นไร่องุ่นอยู่รอบตัวไปหมด เด็กหนุ่มหลับตาลงสูดอากาศสดชื่นเสียเต็มปอด

"อยากให้เจือพักสมองนี่นา เห็นทำโปรเจค พี่ก็ไม่อยากกวน..."เสียงทุ้มดังขึ้นที่ข้างหูของเด็กหนุ่มสองแขนแกร่งโอบเอวของเด็กหนุ่มเอาไว้จากข้างหลัง

จุนเจือหันมาหาคนที่โอบเอวเขาไว้ สบตาชายคนรักนิ่งก่อนจะพูดออกมาเบาๆด้วยนำเสียงจริงจัง
" ขอบคุณนะฮะ.. "

ทินกฤตตอบรับคำของคุณนั้นด้วยริมฝีปากที่แตะที่หน้าผากของเด็กหนุ่มเบาๆ

สัมผัสอุ่นนั้นทำให้จุนเจือหันกลับมากอดคนรักไว้เสียเต็มรัก หัวใจมันพองโตเสียจนรู้สึกเจ็บ การที่เขาได้มาอยู่ที่นี่ ตอนนี้กับอีกฝ่าย และความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนี้ เขาอยากให้มันเกิดขึ้นตลอดไปจริงๆ
" เจือรักพี่เทียนนะ "

"อะไร...อยู่ๆมาพูดหวานๆ" ทินกฤตหัวเราะแก้เขิน

" ก็..บรรยากาศมันเป็นใจนี่นา " คนอายุน้อยกว่าเถียงงึมงำขณะที่ซบอกอีกฝ่าย แล้วกอดเอาไว้แบบนั้น หากทินกฤตจะมองหน้าเขาตอนนี้คงจะเห็นว่าหน้าขาวๆตอนนี้แดงไปถึงหูเลยทีเดียว

"ไว้พูดตอนกินข้าวอาบน้ำเสร็จยังได้" ทินกฤตหัวเราะมีเลศนัย มือแกร่งลูบศรีษะของอีกฝ่ายเบาๆ

" งั้นไม่พูดแล้วดีกว่า..เสียงหัวเราะ หื่นซะ " จุนเจือทำหน้ามุ่ยแล้วผละออกจากอีกฝ่าย ก่อนจะเดินเข้าไปในตัวบ้าน พลางเปลี่ยนเรื่อง
" เตรียมข้าวเย็นดีกว่า .. พี่เทียนอย่าลืมบาร์บิคิวนะ " ได้ยินเสียงที่เตือนเบาลงพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ห่างออกไป จุนเจือเริ่มสำรวจรอบบ้านอีกแล้ว

+++++++++++++++

เตาบาร์บิคิวประทุด้วยน้ำจากเนื้อหมู ถ่านไม้แตกดังเปรี๊ยะที่ระเบียงด้านล่างของบ้านพักตากอากาศของเพื่อนที่ไว้ใจได้ของทินกฤต กลิ่นหอมของบาร์บิคิวไม้โตที่เต็มแน่นไปด้วยเนื้อหมู หอมหัวใหญ่ สับปะรด และพริกหวาน กระจายไปทั่วบริเวณ ทินกฤตยังอยู่ในชุดลำลองตัวเดิมขณะที่รับหน้าที่พ่อครัวประจำเตาของคืนนี้ ส่วนจุนเจือก็มีหน้าที่เตรียมจานกับเครื่องดื่ม ไวน์แดงถูกแช่ในถังน้ำแข็ง เขาแอบเอาแก้วไวน์อย่างดีออกมาจากตู้ของเจ้าของบ้านเสียเลย

"เจือ...อันนี้สุกแล้วนะ"

" ใส่จานเลย .. อะ พี่เทียน ไวน์เย็นเจี๊ยบ " ลูกมือยื่นจานให้อีกฝ่ายตามด้วยยื่นแก้วไวน์จ่อที่ริมฝีปากได้รูป คะยั้นคะยอจะให้ดื่มเป็นเพื่อนเขาเสียให้ได้ แน่ล่ะ เมื่อตัวเขาดื่มนำหน้าไปหลายแก้วแล้ว
ทินกฤตยิ้มพลางดื่มไวน์ที่อีกฝ่ายยื่นมาให้ ชายหนุ่มจัด บาร์บีคิวใส่จาน มือหนึ่งโอบให้อีกฝ่ายเดินไปนั่งที่โต๊ะ

"โห กินล่วงหน้าเลยนะ" ชายหนุ่มว่าเมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มดื่มไวน์เข้าไปจนไวน์หมดไปเกือบครึ่งขวด
"จะฟังพี่พูดรู้เรื่องไหมเนี่ย"

" แหม..ยังไม่เมาซักหน่อย แค่สนุกๆเอง " มือเรียวโบกไปมา แต่ดูจากนั้นเสียง เจ้าตัวก็ดูคึกคักดีจริงๆ เขานั่งลงที่เก้าอี้ไม้อย่างถูกต้อง ก็นับว่าไม่ได้เมา..มาก

"เหรอ...งั้นยื่นมือมาซิ่ " ทินกฤตยิ้มุมปาก

"เอามือซ้าย หรือ มือขวา? " ใบหน้าเสียงเอียงคอเล็กน้อย พลางยิ้มกวนประสาทเล็กๆ

"มือซ้าย" ชายหนุ่มว่า  จุนเจือยื่นมือซ้ายให้อีกฝ่ายอย่างว่าง่าย ส่วนมือขวาก็คว้าแก้วไวน์ของตัวเองขึ้นมาดื่มอีกแล้ว..

ทินกฤตเหลือบมองหน้าของอีกฝ่าย อมยิ้มน้อยๆเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะดึงเอากล่องเล็กๆกล่องหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเป็นกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้ม ชายหนุ่มวางมันลงบนโต๊ะเปิดออกมาเป็นสร้อยข้อมือ
ทองคำขาวฝังเพชรเม็ดเล็กๆเรียงกันห้าเม็ด ทินกฤตจัดแจงใส่ให้ที่ข้อมือข้างซ้ายของอีกฝ่าย

สัมผัสของวัตถุเย็นๆ ทำให้คนที่ดื่มไวน์แล้วหันไปอีกทางต้องหันมามองหน้าของทินกฤตสลับกับ เครื่องประดับที่ข้อมือตาโตเลยทีเดียว มือขวาแทบวางแก้วไวน์ลงกับโต๊ะไม่ทัน

" พี่เทียน? "

"หืม?" ทินกฤตไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวด้วยยังคงนั่งยิ้มอยู่เช่นนั้น อากาศเย็นสบายติดจะหนาวนั้นพอได้บาร์บีคิวร้อนๆกับไวน์ดีๆแล้วก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นขึ้นได้มาก

"อะ..อะไรฮะ เนี่ย? "นับเพชรได้ห้าเม็ดแบบนั้นก็ทำให้เด็กหนุ่มต้องถามอย่างตกใจ มูลค่ามันมากเกินไปหรือเปล่า

"ถ้าให้แหวนเดี๋ยวจะเด่นไป อันนี้ล่ะใครถามก็จะได้บอกได้ว่าใส่เล่นๆ เพชรก็บอกไปว่าของเก๊..." ทินกฤตเอ่ยเบาๆ มือแกร่งยังไม่ปล่อยออกจากข้อมือบาง

" อ่าวววว..ให้ของเก๊เหรอเนี่ย?? อุตส่าห์ดีใจ " จุนเจือยิ้มเขินๆก่อนจะพยายามดึงมือกลับแต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมปล่อย
" นี่..ให้แล้วไม่ใช่เหรอ? "

"ให้แล้วไง...เลยไม่อยากปล่อย" ทินกฤตหัวเราะกับคำพูดของอีกฝ่าย

"งั้น.. " จุนเจือดึงมือของคนรักขึ้นมาจูบเบาๆ ก่อนจะสบดวงตาคมนิ่ง
" ขอบคุณนะครับ.. "

ทินกฤตยิ้ม มือแกร่งลูบศีรษะของอีกฝ่ายเบาๆ ไล่ลงมาที่ข้างแก้มใส
"พี่จะค่อยๆพูดเรื่อง...เลิกกับเจนให้มันชัดเจนไปนะ จากนั้นจะค่อยๆบอกเรื่องของเราให้พ่อแม่รู้ ...พี่จะเปิดเผยให้ทุกคนได้รู้"

เด็กหนุ่มพยักหน้าแรงๆ รับรู้และเข้าใจในสิ่งอีกฝ่ายพูดดี

ทินกฤตพยายามมาตลอด ตั้งแต่ที่ตัดสินอยู่กันแบบหลบซ่อนนี้ เขาพยายามที่จะทำงานให้ดี อย่างน้อยก็เพื่อผลที่ดีในอนาคต .. อนาคตของพวกเขาทั้งสองคน..

" ครับ..ผมจะรอวันนั้น..แต่ ผมเองก็มีเรื่องจะบอกพี่เหมือนกัน "จุนเจือตัดสินใจพูดขึ้นมา..หากว่าไม่ใช่ที่นี่ ตอนนี้ เขาก็คงไม่มีโอกาสอื่นแล้ว..

"เรื่องอะไรเหรอ.." ทินกฤตเอ่ยถาม สายตาของอีกฝ่ายนั้นดูเป็นกังวล

"ตอนนี้เจือทำโปรเจคเสร็จแล้ว..พรีเซนต์แล้ว..เรียนจบแล้วล่ะฮะ " จุนเจือยิ้มให้อีกฝ่าย รอยยิ้มที่พยายามเสียเหลือเกินที่จะปั้นให้มันสวยงามที่สุด

สำหรับคนที่ดีแต่โกหกมาตลอดชีวิตทำไมเขาจะไม่รู้ว่ารอยยิ้มนั้นหมายถึงอะไร
"เจือจะบอกอะไรพี่ก็บอกมาเถอะ อย่าโกหกพี่นะ"

ดูเหมือนจะนานชั่วอึดใจกว่าที่เด็กหนุ่มจะพูดประโยคหลังนั้นออกมาได้



"พี่เทียน..เจือ...........................จะไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น "



+++++++++++++++

talk : .........จะว่ายังไงดีล่ะเนี่ย....

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด