เวลาเกือบอาทิตย์ที่นั่งรอเอกสารทำให้คนที่รอแทบจะขาดใจ ทินกฤตนึกอยากติดปีกบินไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่ในเมื่อเขายังอยู่บนโลกของความเป็นจริงและยังรู้สึกได้ถึง "สายตา" ที่ยังคงมองมา...แม้ไม่ได้ใกล้ชิดเกาะติดเหมือนทุกทีแต่ก็ยังคงเฝ้ามองอยู่ในระยะห่างนั้นทำให้ต้องเก็บอาการให้สำรวมและเหมาะสมเอาไว้
+++++++++++++
ชายหนุ่มเก็บกระเป๋าเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นในกลางฤดูหนาว เมื่อออกจากตัวเครื่องก็แทบจะคว้าเอาเสื้อโค้ทยาวสีดำมาคลุมทับเสื้อสูทแจ็คเก็ตดีไซน์สวยของตัวเองเอาไว้แทบไม่ทัน ยังดีที่ข้างในแอบเปลี่ยนเป็นสเวตเตอร์ขนสัตว์สีเข้มเอาไว้เรียบร้อยแล้วก็ช่วยบรรเทาความหนาวได้ไม่น้อย
มือถือราคาแพงของตัวเองจัดแจงเปิดโรมมิ่งเสร็จสรรพเผื่อไว้ว่างเกิดเหตุฉุกเฉินคุยกับแท็กซี่ไม่รู้เรื่องจะได้โทรหาอดีตภรรยาให้มาใช้ความสามารถทางภาษามาช่วยเขาได้ทันท่วงที ร่างสูงก้าวฉับๆทั้งด้วยอากาศหนาวและด้วยความเร่งรีบยื่นกระดาษที่จดที่อยู่ของอดีตภรรยาให้กับพนักงานขับรถทันที
เป็นเวลานานกว่าจะขับรถเข้ามาจากสนามบินเข้ามายังตัวเมือง ตัวเลขมิเตอร์แท็กซี่ขึ้นพรวดพราดจนทินกฤตต้องเหลือบมองหาสัญลักษณ์บัตรเครดิตที่ตัวเองพอจะเลือกหยิบนำออกมาใช้ได้ ในใจก็นึกพาลโทษเด็กหนุ่มคนนั้นที่กล้าแต่งตัวยั่วเย้ากิเลสให้ความอารมณ์ขึ้นได้ถึงเพียงนี้
...เจือนะเจือ......
....ทำพี่เสียเงินเสียทองขนาดนี้นะ จะเอาคืนเสียให้เข็ด..... +++++++++++++
รถแท็กซี่สีเข้มเข้าจอดที่หน้าอพาร์ตเม้นท์ที่มีโลเคชั่นดีแห่งหนึ่ง มองไปเห็นซุปเปอร์มาร์เก็ตอยู่ไม่ได้ห่างออกไป เป็นอพาร์ทเม้นต์ที่อยู่ลึกเข้าไปจาถนนใหญ่เล็กน้อยแต่เมื่อครู่รถก็เพิ่งจะขับผ่านสถานีรถไฟมา ไม่ได้ห่างจนทำให้ลำบากอะไรเลย ทินกฤตจ่ายเงินค่าแท็กซี่ด้วยบัตรเครดิต ร่างสูงในเสื้อโค้ทสีดำยาวยืนนิ่งอยู่ก่อนที่จะดึงเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขโทรศัพท์โทรหาอดีตภรรยาทันที
"โมชิ โมชิ" เสียงรับโทรศัพท์ด้วยนำเสียงหวานเช่นทุกที
"เจน...นี่เทียนนะ"ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มฟังดูจริงจังจนน่าตกใจ
"อุ๊ย..เทียน .. มีอะไรรึเปล่า? ฟังเสียงดูแปลกๆจัง? "น้ำเสียงจริงจังนั้นปลุกหญิงสาวให้ตาสว่างทันทีก่อนจะเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง พลางมองดูนาฬิกาในเวลาแบบนี้ทินกฤตจะโทรมาหาเธอทำไมกัน
"โทษทีนะที่โทรมาแต่เช้า แต่ช่วยลงมาเปิดประตูให้หน่อยได้ไหม...ผม...อยู่หน้าอพารท์เมนท์ของเจนน่ะ....เข้าไม่ได้ หนาวด้วย"
"เอ๊ะ หา?! .. เทียนมาทำไมเหรอ ว๊าย เดี๋ยวนะ เดี่ยวเจนไปเปิดให้ " เมื่อได้ยินแบบนั้นเจนสุดาก็รีบวิ่งออกจากห้องไปอย่างตกใจ เธอนึกไม่ถึงว่าอดีตสามีจะบินมาถึงที่นี่ ต้องมีเรื่องใหญ่อะไรแน่ๆเลย
ไม่นานประตูกระจกด้านหน้าอพาร์ทเม้นต์ก็เปิดออกหลังจากได้ยินเสียงปลดล็อค หญิงสาวร่างบางสวมเสื้อสเวตเตอร์ตัวใหญ่สีสันฉวัดเฉวียนชวนเวียนหัวกับกางเกงวอร์มสีตุ่นๆ...ทินกฤตขมวดคิ้วแทบจะในทันที ความง่วงงุนที่ทำให้มึนอยู่เดิมถูกเสริมให้ยิ่งมึนเข้าไปใหญ่
"ชุดอะไรน่ะ..."
"ก็ชุดกันหนาวไงล่ะ มาเทียนเข้าห้องก่อน หนาวแย่เลย " มือเล็กดึงแขนของอดีตสามีแต่ในนามให้เข้ามาในห้องอุ่นๆก่อนจะหนาวตายอยู่ข้างนอก
+++++++++++++
เจนสุดาพาทินกฤตขึ้นลิฟท์ไปบนชั้นสาม ทินกฤตลากกระเป๋าเดินไปตามทางเดินแคบๆจนกระทั่งถึงหน้าห้อง หญิงสาวพาเขาเดินเข้าไปด้านใน รับฮีทเตอร์อุ่นจัดที่ทำให้รู้สึกผิวหน้าร้อน แต่ก็ใช่ว่าจะชื่นชมกับความอบอุ่นนั้นในทันที ทินกฤตเหลียวมองซ้ายขวาทันควัน ห้องกว้างขวางพอจะอยู่กันได้สามคนซึ่งรายได้ของอลิสก็คงพอจะจ่ายค่าห้องได้ และทางเจนเองก็มีเงินมากพอจะช่วยในเรื่องอื่นๆได้ ไม่มีอะไรน่าห่วงนอกจาก...
"เจือล่ะ"
"อ้าวววว มาหาเจือหรอกเหรอ..เนี่ย.. "หญิงสาวอุทานเสียงสูง พลางเอียงคอมองหน้าของทินกฤตอย่างพิจารณาริมฝีปากแย้มยิ้มหวาน
"กะจะมาเซอร์ไพรซ์ แอบทำโรแมนติกก็ไม่บอกน้า~ "
“เซอร์ไพรซ์อะไรกัน เจน นี่เรื่องคอขาดบาดตายเลยนะ” ทินกฤตสวนกลับทันควัน
“แล้วน้องล่ะ”
เธอยิ้มกับท่าทางร้อนรนในแบบที่ไม่เคยเห็นของคนตรงหน้าก่อนจะเอ่ยออกมา
"แต่ว่า.เจือไปเที่ยวโอซาก้าน่ะ ไม่อยู่หรอก"
"หา ไม่อยู่? ไปไหน? ไปกับใคร???" ทินกฤตแทบล้มทรุดลงไปตรงนั้น
"ก็ไปกับเพื่อนๆที่เรียนภาษาด้วยกันอะ .. นี่ๆ แต่เทียนไม่ต้องห่วงนะ มีแต่ผู้ชายไปด้วยกันตั้งสี่-ห้าคนแน่ะ "มือเล็กตบบ่า แล้วพูดปลอบใจ ก่อนจะจิ้มนิ้วกับคางตัวเอง
" แล้วก็เห็นว่าจะไปเที่ยวเกียวโตกันต่อ ก็อีก ...อื้ม สาม-สี่วัน กว่าจะกลับล่ะมั๊ง "
"....หยุด เจน หยุดก่อน...." ทินกฤตยกมือเชิงห้าม ข้อมูลเขามีเยอะเกินไปแล้วในตอนนี้
"ไม่ให้เทียนห่วงได้ยังไงเจน
น้องมันถ่ายรูปอะไรก็ไม่รู้....แล้วตอนนี้ก็ไปไหนก็ไม่รู้กับใครก็ไม่รู้ แล้วจะให้เทียนทำให้ไม่รู้เรื่องบอกว่าไม่เป็นไรได้ยังไง...."ร่างสูงเดินไปทิ้งตัวลงกับโซฟาด้วยเหนื่อยและเพลีย เหลือเกิน
"เทียนอ่ะ .. พูดแบบนี้แสดงว่าเห็นแล้ว แล้วจะมาว่ารูปอะไรไม่รู้ได้ยังไงกัน ออกจะสวย .. เดี๋ยวนะ " หญิงสาวทำหน้ามุ่ยกับคำพูดของทินกฤต ก่อนจะเดินไปรื้อชั้นหนังสือแล้วยื่นสมุดภาพที่นักศึกษากลุ่มนั้นได้มอบเอาไว้เป็นที่ระลึกให้กับทินกฤต
" นี่จ้า~ .. สวยจะตายไป เจือน่ะ เหมือนนายแบบมืออาชีพเลยน้า เจนไม่เคยเห็นน้องของเจนสวยขนาดนี้มาก่อนเลย "
"นายแบบ....นี่มันเกือบจะโป๊นะเจน....ผมเข้าใจว่าน้องเจน แต่...แฟนผมนะ ผมไม่ได้มีแฟนเป็นนางแบบเหมือนยัยอลิสนี่นาให้ผมทำใจ....ไม่ได้หรอก" ทินกฤตดูหัวเสียสับสนและง่วง ชายหนุ่มดูจะโมโหไปหาวไป
"เทียนเนี่ย หัวโบราณเป็นบ้าเลย อ้าว ง่วงเหรอนอนพักก่อนก็ได้นะ..เดี๋ยวเจนไปเอาหมอนกับผ้าห่มมาให้ " เจนสุดาบ่นอุบกับมุมของทินกฤตที่เธอไม่เคยเห็นเลยตั้งแต่แต่งงานกันมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง หญิงสาวถอนหายใจเล็กๆ ก่อนจะวิ่งไปหยิบหมอนกับผ้าห่มมาให้อดีตสามี เจนสุดาบ่นอุบกับมุมของทินกฤตที่เธอไม่เคยเห็นเลยตั้งแต่แต่งงานกันมา อย่างน้อยก็ช่วงระยะเวลาหนึ่ง หญิงสาวถอนหายใจเล็กๆ ก่อนจะวิ่งไปหยิบหมอนกับผ้าห่มมาให้
" แล้วเทียนจะไปไหนต่อล่ะ? "
"ก็น้องไปที่ไหน เดี๋ยวผมขอรายละเอียดซักหน่อยก็แล้วกัน...เดี๋ยวจะลองตามไปหา เบอร์โทรเจือผมมีแล้ว...อืม....."ทินกฤตดึงผ้าห่มขึ้นคลุมกาย "เจนจะว่าผมหัวโบราณก็ช่างนะ ผม
หวงของผมนี่นา...." ทินกฤตตอนนี้เหมือนเด็กที่กำลังพึมพำพลางขยับตัวให้สบายขึ้นบนโซฟาขึ้น
หญิงสาวได้ยิ้มอย่างเอ็นดูกับชายหนุ่มที่ฝ่าลมหนาวมาถึงที่นี่ เห็นที เธอคงต้องให้ข้อมูลของจุนเจือไปเสียแล้วล่ะ ส่วนการตามหาก็แล้วแต่ทินกฤตเองว่าจะสามารถไปถึงที่นั่นได้อย่างไร ยังมีเรื่องอีกหลายเรื่องที่ชายหนุ่มยังไม่รู้ และนั่นจุนเจือจะต้องเป็นคนบอกเอง ในสิ่งที่ได้ตัดสินใจลงไปแล้ว..
+++++++++++++
จนสายกว่าทินกฤตจะตื่นขึ้นมา พบกับร่างเล็กของเจนสุดาที่นั่งขดตัวอยู่บนเก้าอี้โซฟาที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ร่างบางของอดีตภรรยาห่อด้วยผ้าห่มขนสัตว์ผืนหนาดูอุ่น ในมือถือถ้วยกาแฟร้อน ดวงตาจับจ้องรายการวาไรตี้ช่วงเที่ยงอย่างตั้งใจ
"ฟังรู้เรื่องด้วย เก่งจริง" ทินกฤตแหย่พลางลุกขึ้น สังเกตเห็นว่าผ้าห่มนั้นมีเพิ่มมากขึ้นกว่าตอนที่หลับไป อีกฝ่ายคงจะเอามาให้
" อ๊ะ ตื่นแล้วเหรอ? .. กาแฟไหม เดี๋ยวเจนไปทำให้ " ว่าแล้วก็ทำท่าจะลุกขึ้นจากหน้าจอโทรทัศน์
"กาแฟ ขอกาแฟให้เทียนหน่อย...." ทินกฤตใช้สองมือตบหน้าตัวเองเสียงดังไล่ความง่วงงุนออกไป
"เจน....." ชายหนุ่มหันมองตามร่างบางไป ดูเหมือนเจนสุดาจะ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเรียบร้อย อีกฝ่ายดูจะเหมาะกับเสื้อคอเต่าสีขาวนั้นมาก...ชายหนุ่มยิ้ม
"เจนสบายดีนะ..." ชายหนุ่มถามออกไปพลางมองหน้าของหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเห็นภรรยา เขาก็คิดถึงอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย
"อื้ม..สบายดี ช่วงที่อลิสมีงานเจนก็อยู่ที่ห้องนี่ล่ะ ก็หาอะไรทำไปเรื่อย แต่ก็ยังดีนะที่ได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ อยู่กับอลิสได้มากกว่าเมื่อก่อนนิดหน่อย ก็อาจจะเรียกได้ว่าดีกว่าอยู่ที่โน่น... แต่เจนเองก็เสียใจนะที่ทิ้งปัญหาเอาไว้ให้เทียนขนาดนั้น " หญิงสาวก้มหน้ามองหม้อต้มกาแฟ
"ทำให้เจือต้องมาเจ็บปวดไปด้วยแบบนี้.. เจนขอโทษนะ.. "
"ไม่เป็นไรหรอก...เรื่องของผมกับเจือมันเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีใครคาดคิดเอาไว้นี่นา...มันก็ดีในส่วนนึง ที่พอทุกคนรู้เรื่องคือผมกับเจือก็ไม่ต้องโกหกใครอีกแล้ว...ผมเองก็พยายามจะแคร์คนหมู่มากที่น้อยลง...แล้วหันมาสนใจ คนที่รักเราแคร์เราจริงๆให้มันมากขึ้น...กับพ่อแม่เองถึงเขาจะไม่เห็นด้วยไปซะทุกเรื่อง แต่สุดท้ายสิ่งที่พวกเขามีก็เหลือแค่พวกเรานี่ล่ะ และเราก็มีแค่พวกเขาเหมือนกัน ...ก็ต้องหาทางที่จะอยู่กันให้ได้น่ะ...เจนเองก็...ถ้าพร้อม เจนก็น่าจะลองบอกกับพ่อแม่เขาดูนะ...เพื่อตัวเจนเองด้วย" ทินกฤตมองแผ่นหลังบางของคนที่ยืนอยู่หลังเคาท์เคอร์ในห้องครัว เมื่อมองแบบนี้แล้วเพราะเหตุใดถึงเห็นว่าร่างนั้นเล็กและเปราะบางและดูเศร้าสร้อยเช่นนั้นก็ไม่รู้ เหมือนกับว่าความหนาวเย็นรอบข้างกำลังห่อหุ้มรอบตัวเจนสุดาอยู่ก็ไม่อาจทราบได้
กลิ่นหอมกรุ่นของความขมเข้มนั้นลอยเข้ามาแตะจมูกแทนคำตอบ เมื่ออดีตภรรยาเทกาแฟลงแก้ว หล่อนถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะเดินกลับมาแล้วยื่นมันให้กับทินกฤต
"ดื่มนี่ก่อนนะ ..เดี๋ยวเจนไปจดโรงแรมกับชื่อละครเวทีที่เจือไปดูมาให้ "เจนสุดาเดินเลี่ยงเข้าไปในห้อง เพียงไม่นานก็กลับมาพร้อมกับกระดาษโน้ตหนึ่งใบ
" นี่จ๊ะ "
"อ่ะ ขอบใจ..."ทินกฤตรับมา อ่านตัวหนังสือภาษาอังกฤษนั่นก่อนกระพริบตาปริบ....
"ว่าแต่นะ...เจน....ผมจะไปยังไงล่ะ? เงินมีไม่ต้องห่วง พร้อมจ่าย แค่อ่านไม่ออกไปไม่เป็นเท่านั้นล่ะ" ชายหนุ่มยิ้ม
"จองตั๋วรถไฟอะไรนั่นน่ะให้หน่อยได้ไหม ชิงกันเซ็นน่ะนะครับ..." ไม่วายยังอ้อน
"อะ..อ้าว เทียน ไม่รู้อะไรจริง ผู้ชายนี่ล่ะก็นะ...พระเอกจะต้องไปตามหานายเอกเองนะถึงจะเท่ห์ " เจนสุดาทำหน้ามุ่ย อยากจะเห็นผู้ชายคนนี้ทำท่าเหมือนพระเอกนิยายชายรักชายแบบโรมานซ์ชวนฝันที่อ่านมาตั้งแต่ไหนแต่ไรซักครั้งในชีวิต
"พอดีพระเอกมันรักสบาย...แหมเจน พระเอกในนิยาย อะไรๆมันก็อำนวย ผมมันผู้ชายธรรมดา จะวอนให้นางฟ้าใจดีช่วยเนี่ย ไม่ได้เหรอครับ" ดวงตาคมมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง ไม่พอมือแกร่งจับมือของอดีตภรรยาขึ้นมากุมไว้ส่งสายตาอ้อนเต็มพิกัด
"เฮ้ออออ ... เทียนนี่ล่ะก็ ..งั้นเดี๋ยวเจนจัดการให้ก็แล้วกัน แต่แค่ชินคันเซ็นนะ ที่เหลือเทียนต้องไปตามหาเจือเอาเองด้วย" หญิงสาวหมุนตัวไปโทรศัพท์เพื่อจัดการจองตั๋วรถไฟให้ทินกฤต ทำเอาหนังสือภาพที่ได้รับมาจากเด็กมหาวิทยาลัยพวกนั้นตกลงตรงหน้าทินกฤตอีกรอบ
"หืม?...." ทินกฤตวางแก้วกาแฟลงก่อนจะเอื้อมไปหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาแล้ว ภาพของเด็กหนุ่มใบหน้าสวยก็แทบจะกระแทกตาเขาอีกรอบ จุนเจือกับผิวแก้มบนหน้ากระดาษนั้นเนียนใส ดูจะขาวขึ้นด้วย จากทั้งเมคอัพและแสงไฟที่ซัดสาด ปลายนิ้วไล้เบาๆ อยากสัมผัสผิวนิ้วมือของอีกฝ่ายเหลือเกิน แต่เขาต้องอดทน ต้องอดทนเท่านั้น
"โอ้ยยย....เจือ เจือ โอ้ย เจน....ใครให้น้องไปถ่ายแบบนี้เนี่ย โอ้ย "ทินกฤตไม่รู้จะร้องออกมาเป็นภาษาอะไร จะหึงก็หึง อยากจะรัก ก็ใช่....เจ็บใจก็เจ็บใจที่ไม่ได้อยู่ใกล้อีกฝ่ายตอนนี้
" ขา~~ .. นี่ เทียน เจนจองรถไฟให้แล้วนะ เดี๋ยวเก็บของแล้วไปได้เลยนะ "หญิงสาวขานรับไปแบบนั้น ไม่ได้สนใจที่ชายหนุ่มต่อว่าเธอเอาเสียเลย แถมยังจะไล่ออกจากบ้านเสียด้วยซ้ำ
"อะไรกัน...ไล่เลยเหรอ..."ทินกฤตว่า
"ก็ดีนะ รีบเผ่นก่อนยัยอลิสจะกลับบ้านมาบ่นผมอีก...ว่าแต่...ขออาบน้ำแป๊บนึงนะ ไม่ไหวจริงๆ หมักมานานแล้ว" ทินกฤตยังจะอ้อน แต่เพราะใส่ชุดนี้มาตั้งแต่เมื่อคืนมันก็เริ่มจะทนตัวเองไม่ไหวเหมือนกัน ทั้งๆที่ก็รู้ดีอยู่ว่าอีกฝ่ายกำลังไล่ให้เขาไปรีบรับบทพระเอกในนิยายเสียที
+++++++++++++
talk:จะได้เจอกันไหมน้า~ แต่ก่อนอื่น โพสต์รูปจุนเจือถ่ายแบบให้ดูไปพลางๆก่อนนะคะ