หอมกลิ่นกาแฟ Series : คุณแมกซ์&เจ้าน้อย-ภาคพิเศษ-ตอนจบ-(17/08/12)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

โหวดตัวละครใน"หอมกลิ่นกาแฟseries"ที่คุณชอบที่สุด!

ก้อง..ก้องภพ หนุ่มติสต์ท้ายซอย
16 (7.1%)
จิ๊บ....อรรถนันท์ ดอกไม้ขาวีน
31 (13.7%)
เจือ...จุนเจือ น้องเมียตัวแสบ
20 (8.8%)
เทียน...ทินกฤต พี่เขยกำมะลอ
10 (4.4%)
น้อย...สมปอง(ขวัญใจโคไรท์) ตัวเล็กหมัดหนัก
101 (44.7%)
บาส...หล่อ บ้า ฮา รัว
8 (3.5%)
มิน...รามินทร์ คุณชายเอาแต่ใจได้โล่ห์
8 (3.5%)
แมกซ์ ...พศวัตป๋าที่สุด
15 (6.6%)
แมน...กตัญญู พี่ชายพ่อพระ
10 (4.4%)
เอก...สวยสุดซึน (หมัดหนักอีกตะหาก)
7 (3.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 155

ผู้เขียน หัวข้อ: หอมกลิ่นกาแฟ Series : คุณแมกซ์&เจ้าน้อย-ภาคพิเศษ-ตอนจบ-(17/08/12)  (อ่าน 1042956 ครั้ง)

ออฟไลน์ ลู่เคอOlive♥

  • แซ่บเว่อร์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 998
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-8
 :haun4: เป็น nc ที่สุดๆ
แล้วจะต้องอยู่ไกลกันไปอีกนานเท่าไหร่เนี่ย
เมื่อไหร่จะได้อยู่ด้วยกันสักที

kittyfun

  • บุคคลทั่วไป
ถูกใจตอนพี่เทียนเอาคืนน้องเจือเหลือเกิน

ฮิๆๆๆๆ

ออฟไลน์ MrTeddy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-1
แกล้งน้องเจือมากไม่ดีนะ เดี๋ยวพี่เทียนจะโดนเอาคืนหนัก
หรือว่าพี่เทียนอยากโดนเอาคืนก็ไม่รู้นะ ชักจะสงสัย
 :oo1:

ออฟไลน์ RAKDEK_KA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1798
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1

hidden-love

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมาก อ่านทีเดียวรวดเลย

ปล.ในอนาคต รวมเล่มไหมครับ?

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
 :jul1:เลือดท่วมหน้าจอ :o8:หื่นได้ใจจิงๆเจือเทียน เอากำลังใจมาฝาก
และขอเอาใจช่วยคนทั้งสองให้ผ่านเรื่องราวร้ายๆไปได้ :L1:

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
NC. แบบกะทันหัน ถูกใจพี่เทียนอ่ะดิ
 :impress2:

ออฟไลน์ CanonDNattari

  • ☆.•:*´เชื่อในสิ่งที่เห็นและต้องการให้เป็น ¨`*:•☆
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
เหมือนไม่ได้มาให้กำลังใจ น้องเจือนานแล้ว มัวแต่ไปลันล้ากับ Kis-My-Ft2  :laugh:
กลับมาอ่านอีกรอบก้าวหน้านะยะ (อ่านตอนล่าสุด :o8: ) ไปไล่อ่านตอนที่เหลือก่อน หลายตอนเลย

+1 ให้้ผู้แต่งทั้ง 2 จ้า

ออฟไลน์ kuruma

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 441
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +527/-3
หลังจากที่ทินกฤตจัดการเรื่องค่าที่พักให้เรียบร้อย ทั้งคู่ก็เดินออกมาด้านนอกโรงแรม

โรงแรมที่ทินกฤตเลือกเป็นโรงแรมหรูติดยี่ห้อดังมาจากอเมริกา ห้องสูทห้องใหญ่และเตียงคิงส์ไซส์ที่เลือกหิ้วกระเป๋าเข้าไปเช็คอินนั้นใหญ่โตโอ่โถงกว่าบิสเนสโฮเตลที่จุนเจือกับเพื่อนเลือกพักเพื่อประหยัดคาเดินทางอยู่ไม่น้อย

ทั้งสองคนเข้าเช็คอินเสร็จก็เดินลงมาที่ชั้นล่าง เพื่อถามฟร้อนท์ว่าที่โอซาก้านี้มีร้านอะไรที่แนะนำให้พวกเขาไปกินหรือสถานที่ใดที่แนะนำให้พวกเขาไปเที่ยวได้บ้าง

คำตอบที่ได้คงหนีไม่พ้นย่านโดะตมโบะริ ซึ่งถือเป็นถนนสายที่รวมของกินเอาไว้มากที่สุดแห่งหนึ่งของโอซาก้า ขึ้นชื่อฤาชาว่ามีของกินของฝากให้เลือกสรรมากมาย ซ้ำยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายภาพปูทะระบะ ตัวโตที่หน้าร้าน รวมไปจนถึงสัญลักษณ์อีกอย่างของโอซาก้า คือ ภาพกของกุลิโกะแมน ชายในชุดสิ่งสีขาว ยืนชูสองแขนนั่นเอง

+++++++++++++++++

"เขาว่าอะไรนะที่ว่าอร่อยๆ " ทินกฤตหันไปหาคนรัก สองมือก็เดินกางแผนที่กับหนังสือนำเที่ยว เมื่อพากันมาถึงแหล่งรวมของกิน อย่างโดะตมโบะริ

" ทาโกะยากิ " จุนเจือตอบกลับมา

"อืม...ใช่ไอ้ลูกกลมๆที่เขายืนต่อแถวนั่นรึเปล่า " ทินกฤตว่าพลางชี้มือไปยังตรงหัวมุมถนนที่มีคนต่อแถวกันยาวเหยียด

"ใช่แล้วๆ "เด็กหนุ่มมองตาม ได้กลิ่นหอมๆของขนมขึ้นชื่อของที่นี่แล้วก็น้ำลายไหล

“นั่น เขาเขียนว่าอร่อยที่สุดในญี่ปุ่นเลยนะ”
"แต่คิวมันยาวเหมือนกันนะ...อีกอย่าง..." ทินกฤตเอ่ยเริ่มจะปากสั่น
"พี่หนาวว่ะครับ...."จนสุดท้ายก็ได้ล้วงเอาถุงมือหนังที่ซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อโค๊ทตัวยาวสีดำขึ้นมาใส่จนได้ มองเผินๆก็ดูจะขัดอยู่ไม่น้อยเพราะเสื้อโค๊ทที่สวมทับเสื้อสเวตเตอร์แบบลำลองนั้น ดูเป็นทางการอยู่ใช่ย่อย ...แต่มันก็อุ่นที่สุดแล้วในความคิดของทินกฤต

"งั้นไปกินโอโคโนมิยากิกันไหม? " มือเรียวภายใต้ถุงมือกันหนาวชี้ไปที่ร้านใกล้ๆ

"อื้ม...งั้นไปลองกินไอ้นั่นก่อนให้อิ่มๆแล้วค่อยออกมากินไอ้นี่ก็แล้วกัน" สังเกตจากที่เห็นคนญี่ปุ่นก็นั่งกินไอ้เจ้าลูกกลมๆนี่กันหน้าตาเฉย เลยคิดว่าคงไม่ใช่อะไรที่จะกินเป็น อาหารจานหลัก ทินกฤตสนับสนุนแนวคิดของคนรักทันที

+++++++++++++++++

ทั้งสองคนเดินลงตามบันไดแคบๆ ลงมายังร้านที่ตั้งอยู่ที่ชั้นใต้ดินของตึก กลิ่นหอมขอโอะโคะโนะมิยะกิลอยมาแตะจมูก

จุนเจือเดินนำเข้าไปในร้านก่อน เด็กหนุ่มดูจะคล่องแคล่ว คุ้นเคยกับการมากินตามร้านอาหารแบบนี้ และสามารถตอบโต้และสั่งอาหารได้อีกด้วย
ทินกฤตนั่งเท้าคางมองอีกฝ่ายสั่งอาหารให้ ไม่ได้เห็นหน้าของจุนเจือมานานเท่าไรแล้ว ในอกของชายหนุ่มในตอนนี้รู้สึกอบอุ่นในหัวใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

ไม่นานนัก แก้วน้ำชาอุ่นๆก็มาเสริฟเพราะจุนเจือรู้ว่าเขาหนาวจึงสั่งชาร้อนมาให้ แต่ดูเหมือนว่าชาร้อนยิ่งจะทำให้ร้อนกันมากขึ้นไปอีกเมื่อกระทะเหล็กตรงหน้าถูกจุดให้ร้อนเตรียมให้พนักงานนำ โอะโคะโนะมิยะกิ ใส่ หมู กับ กุ้งมาเสริฟ

ถ้วยอะลุมิเนียมขนาดกำลังพอดีข้างในมีทั้งผักและกุ้งไข่ และ แป้งผสมคลุกเคล้ากันมาเป็นอย่างดีถูกนำมาวางลงตรงหน้าของทั้งสองคน ก่อนพนักงานในร้านจะโชว์ลีลาการผสมแป้งโดยใช้ช้อนตีส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันอย่างแรง แล้วค่อยๆเทลงบนกะทะร้อนๆ ที่อยู่ตรงหน้า

เสียงของแป้งที่เดือดจัดอยู่บนกะทะเหล็กค่อยๆเงียบลงและแทนที่ด้วยกลิ่นหอมของส่วนผสมที่เริ่มสุก จุนเจือมองกลุ่มก้อนแป้งที่เรียกว่า โอะโคะโนะมิยะกินั้นไม่วางตา ก่อนที่จะใช้ อุปกรณ์คล้ายตะหลิวที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้พลิกหน้ากลับด้าน ทั้งก้อนหน้าหมู และ ก้อนหน้ากุ้ง สีสันโดยรวมมีรอยไหม้เกรียมนิดๆดูน่ากินไม่น้อย

"แล้วนี่จะกินกับอะไรล่ะ " ทินกฤตว่าพลางหันไปมองข้างๆตัวที่มีขวดซอสนั่นผงนี่ วางเรียงราย จุนเจือจึงจัดการ ราดทั้งซอสโอะโคะโนะมิยะกิสลับกับมายองเนส ก่อนจะโรยทับด้วยผงสาหร่ายสีเขียวสด ส่งกลิ่นหอมน่ากินอยู่ไม่น้อย
"เดี๋ยวนะ... เจือกินได้แน่นะ ผักอื้อซ่า แถมยังโรยสาหร่ายเสียเพียบเนี่ย" ทินกฤตเลิกคิ้วถามด้วยสงสัย

" ที่เจือไม่กินผักน่ะ เพราะที่ไทยมันเหม็นหรอก..แต่อยู่ที่นี่ พี่อลิสบังคับให้กินสลัดด้วยทุกมื้อ เจือก็เลยกินได้แล้วล่ะ " จุนเจือยิ้มก่อนจะให้ตะหลิวตัดชิ้นขนมใส่จานให้อีกฝ่าย

"โอ้......"ทินกฤตดูจะทึ่งๆ
"อืม...ยัยอลิสนั่นก็มีข้อดีเหมือนกันซิ่นะ" ว่าพลางก็ต้องยอมรับในข้อดีบางข้อ เช่นในเรื่องของสุขภาพอาหารการกินที่เจ้าตัวคงต้อง รักษาน้ำหนักอยู่ไม่น้อย "แต่อย่ากินแต่ผัก หรือ ทำอะไรจนผอมเกินไปนะ...ยัยอลิสนั่นแทบจะติดกระดูกอยุ่แล้ว เป็นนายแบบนางแบบไม่จำเป็นต้องผอมติดกระดูกก็ได้ เอาพอดีๆเข้าใจไหม"

"พี่น่ะขี้หึงขนาดนี้แล้ว จะยอมให้เจือเป็นนายแบบเหรอฮะ? " เด็กหนุ่มถามออกไปขณะที่ใช้ตะเกียบตัดขิ้นขนมใส่ปาก ความร้อนและรสชาติทำให้เขายิ้มออก

"ก็เจืออยากทำนี่...พี่จะห้ามอะไรได้ แค่....บอกก่อนว่าจะถ่ายอะไร ถ่ายแบบไหน ให้พี่พอเตรียมใจเห็นภาพที่รักของพี่ไปนอน....โชว์นั่นนิดนี่หน่อยให้ใครต่อใครเห็นก็พอ" พูดแล้วก็ยังทำหน้าบูดเมื่อนึกถึงเจ้า โปรเจคจบตัวปัญหาเล่มนั้น
"แม้แต่เจ้าบาสมันยังรู้ก่อนพี่เลย..."

"ไอ้บาสบอกนี่เอง...ตายแน่มึง " จุนเจือพูดถึงเพื่อนพลางทำเสียงเขียว แบบนี้เพื่อนสนิทเขาเองสินะที่เป็นสายให้คนรักแบบนี้
พอโมโหเพื่อนก็เลยตักชิ้นขนมใส่ปากมากขึ้นไปอีก สุดท้ายเลยสั่งเพิ่มมาทานกันอีกชิ้นจนได้

"แต่คงไม่ต้องห่วงมั้งเรื่องจะผอมเนี่ย กินซะขนาดนี้ "ทินกฤตว่าพลางหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วหยิบหนังสือนำเที่ยวขึ้นมาอีก
"ไปไหนกันดีเรา... ปีนปราสาทไหวไหม...หรือจะไป อะไรเนี่ย ชมวิวบนชิงช้าสวรรค์?"

"ไปชิงช้าสวรรค์! " เด็กหนุ่มตอบทันที
" เนี่ยเจืออยากไปถ่ายรูปตรงนั้นด้วยอะ พวกเทนิมิวชอบไปถ่ายรูปกัน จะเอาไปให้น้องสาวไอ้บาสมันดูด้วย " พูดถึงอะไรแบบนี้ทีไร จุนเจือคงไม่ต่างจากเพื่อนสนิท ดวงตาคู่สวยเป็นประกายกับเรื่องที่ชอบ

"อืม...เขาว่าตรงนั้นไปตอนกลางคืนจะสวยกว่า เราไปนี่ดีไหม ปราสาทโอซาก้าอะไรนี่กันก่อน ...ดูแผนที่แล้วมันใกล้ๆตรงนี้มากกว่า แล้วค่อยย้อนกลับไป นั่งรถไฟใต้ดินย้อนกลับไป เพราะยังไงก็ดูจะใกล้โรงแรมเรา....ขึ้นชิงช้าสวรรค์เสร็จพี่จะได้พาเราขึ้นสวรรค์ต่อไง"ไม่วายแหย่ ทินกฤตขยิบตาให้เด็กหนุ่มอย่างมีความหมาย

" หะ..พูดอะไรอายเค้ามั่งซี่ " คำพูดจากของทินกฤตทำให้เด็กหนุ่มต้องปรามเบาๆ เขาล่ะกลัวจะมีคนที่ฟังพวกเขารู้เรื่องมาได้ยินเหลือเกิน

"เจือ...." ทินกฤตว่าพลางยื่นมือออกไปจับมือของเด็กหนุ่มเอาไว้

" ฮะ "ดวงตาคู่สวย สบตาอีกฝ่าย

"อายเหรอ มีแฟนแบบพี่..."

"ไม่..ไม่ใช่แบบนั้นหรอก .. บางที เจือแค่ทำตัวไม่ถูก ที่เมืองไทย เราหลบคนอื่น เราโกหกใครต่อใครจนชิน พอมาแบบนี้ เปิดเผยแบบนี้..เจือไม่ชินเลย "ดวงตาคู่สวยสบตากับคนรักนิ่ง

"งั้นจากนี้ พี่จะมาหาเจือบ่อยๆดีไหม..." ทินกฤตว่าพลางยิ้ม
"กลับไปจะได้ไม่ต้องอายใคร...พี่จะไม่ให้เราต้องหลบไปไหนอีกแล้ว พี่ขอโทษที่ทำให้เจือรู้สึกว่าต้องหลบซ่อนมาโดยตลอด แต่จากนี้ไป เราไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนอีกแล้ว ถ้าใครจะยอมรับเรา ก็ต้องยอมรับที่เราเป็นเรา"

"พี่เทียน...เจือต้องบอกพี่นะ เรื่องนี้...พี่จะอนุญาตไหมถ้า " เด็กหนุ่มกล้าๆกลัวๆ ที่จะถามออกไป

"หืม?" ทินกฤตบีบมือเด็กหนุ่มเบาๆ เหมือนจะบีบเล่นอยู่แบบนั้น

"ถ้าเจือเซ็นสัญญาเป็นนายแบบที่ญี่ปุ่น "เด็กหนุ่มสูดลมหายใจลึกก่อนจะถามออกไป

".............เจือจะไม่กลับไปหาพี่เหรอ?"  ทินกฤตไม่แน่ใจนักในคำถามของอีกฝ่าย สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงแค่ถามย้อนกลับไป ในสิ่งที่เขากลัวที่สุด

"สัญญา..สามปี แต่เจือต้องถามพี่ก่อน "

"สามปีเหรอ...." ทินกฤตใจหายวูบ ไม่คิดว่าจะมาได้ยินเรื่องแบบนี้ แต่เมื่อลองเทียบกับเมื่อก่อนที่จุนเจือนั้น...ดูจะทำตัวหลักลอย ตัดสินใจทำอะไรตามอารมณ์ เรื่องกับข้าวกับปลาก็ดี อาหารการกินก็ดี หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไปมาก และที่ทำให้เขาทั้งดีใจและเศร้าใจได้มากที่สุดก็คือการที่อีกฝ่าย "เลือก" ได้แล้วว่าอยากจะทำอะไร

....ถึงมันจะต้องใช้เวลา สามปี....
....แต่ถ้ามันจะทำให้เจือมีความสุข....


ดวงตาคมของทินกฤตสบตาของเด็กหนุ่มตรงหน้านิ่ง พิศมองเหมือนกับจะมองหาความแตกต่างใดอื่นบนใบหน้าของจุนเจือ ...เขาพบเพียงอย่างเดียวคือความสดใสในดวงตาคูนั้น ...เขาไม่ได้เห็นอีกฝ่ายยิ้มด้วยใจจริงเช่นนี้มานานแค่ไหนกัน

"พี่รอได้นะ....แล้วก็จะมาหาเจือบ่อยๆด้วย” สัมผัสของผิวกายอุ่นจัดที่ข้อมือของเด็กหนุ่มทำให้ทินกฤตนึกขึ้นได้
"สร้อยข้อมือนั่น...โดนยึดไปเหรอ"

"อื้ม..พ่อรู้ว่าเป็นของพี่ เค้าก็ยึดเอาไว้ " จุนเจือพยักหน้าเบาๆ ใบหน้าสวยซึมลงทันทีเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายเดือนก่อน

"ไปซื้อแหวนกันไหม" ทินกฤตเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"แหวน? " จุนเจือทวนคำอีกฝ่าย ใบหน้าสวยมองคนรักอย่างไม่เข้าใจ

"ก็ไหนๆก็ไม่มีสร้อยข้อมือแล้ว อยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องกลัวใครแล้ว กลับไปก็ไม่มีอะไรจะต้องปิดแล้ว...พี่ก็ว่าจะขอเราเลย...สถานที่แย่ไปหน่อยก็เถอะ " ทินกฤตมองไปรอบๆมีแต่ควันโอะโคะโนะมิยะกิคละคลุ้งไปหมด

"ขอ?..ขออะไร? "จุนเจือหันซ้ายขวาตามคนรัก แล้วหันมายิ้มให้กับท่าทางแบบนั้น

"ไม่บอก...ไว้ไปซื้อแหวนก่อนแล้วค่อยบอกทีเดียวดีกว่า" ทินกฤตว่า
"พี่มันพวกอะไรๆก็ต้องสมบูรณ์แบบ” ชายหนุ่มว่าพลางหัวเราะออกมาเบาๆกับมุกตลกของตัวเอง

"คร้าบๆ .. ปะ งั้นไปซื้อเลย " เด็กหนุ่มยิ้มพลางลุกขึ้นเรียกพนักงานมาเก็บเงิน

"ใจร้อนจริงนะ เด็กคนนี้"

+++++++++++++++++

talk : ไปซื้อแหวนๆๆ >///<
ปล. ทริปที่เพิ่งไปมาเมื่อกลางเดือนมิถุนายน เครื่องบินลงที่โอซาก้าก็จริงค่ะ แต่ก็แค่พักอยู่แถวๆสนามบินคันไซ ไอ้ครั้นจะเข้าไปเี่ที่ยวแถวในเมืองอย่าง ชินไซบาชิ หรือ โดะตมโบริ ก็ค่ารถไฟแพงมหาศาลแถมยังต้องนั่งรถยาวมากเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วต้องต่อซับเวย์อีก เพราะฉะนั้นแล้วรอบนี้ก็เลยไม่ได้สัมผัสโอซาก้าซักเท่าไหร่ค่ะ ตะลุยโตเกียวอย่างสะใจเสียมากกว่า ดังนั้น ที่เหลือให้เป็นหน้าที่ของพีจัง อัพรูปโอซาก้านะคะ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-07-2011 00:06:25 โดย kuruma »

ออฟไลน์ goldfishpka

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-0
    • twitterของp.k.a
แปะ จองที่เดี๋ยวมาโพสต์รูป

ชะแว๊บ...กลับมาแล้วค่ะ ทุกคนพร้อมไปเที่ยวกับ พีจัง The Goldfish Tour รึยังคะ
ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลยค่า  :pig2:

ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่ารูปที่จะเอาลงนี่ก็ ขุดๆมาจากไดรฟ์คอมพิวเตอร์นะึคะ อาจดูเก่าบ้างตามอายุและคุณภาพกล้อง
ถ้ารูปไม่ัชัด เบลอ ต้องขออภัยค่า.... m(_ _)m

สถานที่แรกที่จะพาไปตามรอย พี่เทียน กับ น้องเจือ ก็ต้องที่นี่เลยค่ะ โดะตมโบริ นั่งซับเวย์ไปที่ สถานีนัมบะ (จำทางออกไม่ได้)
แต่คลำๆไี่ปเดี๋ยวก็ถึงค่ะ เดินไม่ไกล
ขอเท้าความว่าโอซาก้า เป็นเมืองที่ได้ชื่อว่า ของกินอร่อยค่ะ อะไรๆก็อร่อย ผู้คนเสียงดัง โวยวายแต่ใจดี เหมือนคนไทยเลยค่ะ
แล้วที่โดะตมโบริ นี่ก็ถือเป็นแหล่งของกินที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาดค่ะ ตามตัวบทแล้ว (แหม่...ภาษาวิทยานิพนธ์ข้าพเจ้ามาแต่ไกล) น้องเจือของเราก็ไม่พลาดที่จะพาพี่เทียนไปเที่ยวเหมือนกันค่า...



รูปปูนี่เป็นสัญลักษณ์หน้าร้านค่ะ ด้วยว่าที่นี่มีการแข่งขันด้านการค้ากันสูงลิบๆ อะไรเรียกลูกค้าได้ก็งัดมาใช้ ...ไปๆมาๆ มันก็กลายเป็นสัญลักณ์ของแถบนี้ไปเลยล่ะค่ะ ตัวใหญ่มากกก ยังมีอีกหลายตัวค่ะแต่มุมนี้ถ่ายได้มาตัวเดียว ถามว่าเป็นร้านขายอะไร ก็แน่นอนค่ะ เป็นอาหารทำจากปูทะระบะ ค่ะ ตัวใหญ่ๆขายาวๆ เนื้อขาวๆ อุ้ยยย พูดแล้วน้ำลายไหล แต่.....ไม่เคยเข้าไปกินค่า พอดีว่าทุนน้อย... :เฮ้อ:

และเจ้าปลาปักเป้านี่ก็เช่นกันค่ะ แบบ...มีพี่ปูที่ไหนมีน้องปักเป้าที่นั่น ขายปลาปักเป้าอาหารเปิบพิศดารของพี่ยุ่นเขาล่ะ ไม่ต้องถามนะคะ แพงมากค่ะไม่เคยกินเช่นกัน แต่มันน่ารักดีค่ะ กลมๆ เหมือนลอยอยู่กลางอากาศ จะมีให้เห็นเรื่อยๆตลอดถนนเลยล่ะค่ะ

ต่อมาเป็นภาพเวลากลางคืนย่านโดะตมโบรินะคะ แถวนี้เวลากลางคืนนี่สวยมากค่ะ แสงสี้เสียงอลังการมาก เพราะข้ามสะพานไปหน่อยเดียวก็ถึง ชินไซบะชิ แล้วค่ะ เป็นย่านช็อปช่วงกลางวัน และมีแหล่งเที่ยว ผับ บาร์ ไลฟ์เฮ้าส์ ช่วงกลางคืนค่ะ จะดื่ม กิน เที่ยว ฟังเพลงมีหมดล่ะค่ะ (พีจังเคยไปดูคอนเสิร์ตมาสองสามรอบ) อ้อ...แน่นอนว่ามีโฮสต์คลับด้วยค่ะ แต่ได้แค่เดินผ่านหน้าร้านค่ะ...ไม่มีเงินเข้าอีกเช่นกัน เอิ้กๆ (ยาจกจริง)



แล้วก็นี่เลย ยั่วน้ำลายกันกลางดึกชัดๆ...อันนี้โทษพีจังไม่ได้นะคะ ต้องไปโทษพี่เทียนกับน้องเจือค่ะ ที่พาทุกๆคนตามเข้าไปในร้านโอะโคะโนะมิยะกิ นะคะ .... เรียกกันแบบบ้านเราก็ พิซซ่า ญี่ปุ่นค่ะ ของที่โอซาก้าเขาจะขึ้นชื่อมากเลย
ส่วนใหญ่แล้ว ที่ร้านที่โอซาก้านี่จะเอามาเสริฟเป็นถ้วยๆค่ะ ในถ้วยจะมีหน้าต่างๆที่เราสั่งผสมกับแป้ง ไข่ ผัก แล้วพนักงานเขาจะลงมือคลุกให้ ถ้าขอคลุกเองก็ได้ค่ะแต่ส่วนใหญ่เพื่อประหยัดเวลาเขาจะทำมาเสริฟให้เลย หรือไม่ก็มาทำโชว์ให้ดูที่โต้ะค่ะ
ลงกะทะ ทอดจนสุกเกรียมๆ หอมๆ แล้วก็ทาซอสสูตรเด็ด เสร็จแล้วก็หม่ำได้เลยค่ะ



เอาล่ะ วันนี้ทัวร์ของเราก็ขอพักไว้เท่านี้ก่อนนะคะ ไว้ตอนหน้า เรามาตามเทียนกับเจือไปเที่ยวกันต่อนะค้า.... :bye2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-07-2011 23:17:58 โดย goldfishpka »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ว้าวๆๆๆ หวานแหวว
อ่านตอนสี่ทุ่มกว่าๆ หิวข้าววววว ยิ่งนึกถึงแล้ว...
ลงไปต้มมาม่าดีมั้ยเนี่ย

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
3ปีเหมือนจะนาน แต่ก็ไม่นานหรอกโนะ เจือโตแล้ววว

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

hidden-love

  • บุคคลทั่วไป
อ๊าก เจือเป็นนายแบบ 3 ปี แบบนี้พี่เทียนก็เหงาแย่หล่ะ 5555+++

ปล.เพิ่งอ่านไม่กี่ครั้ง รู้สึกว่าชอบเรื่องนี้ ทั้ง 5 ภาคเลย กดไลท์ๆ

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยย มีความสุข

นานแสนนาน กว่าที่จะอยู่ด้วยกันแบบนี้ เนอะ!!

พี่เทียนของพี่จะซื้อแหวนจับจองน้องเจือของพี่ อิอิ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
อ่านไปยิ้มไปดีใจไปกับคู่นี้ ยิ่งเป็นปลื้มยิ่งนักกับคำพูดตรงนี้ของพีเทียน
"แต่จากนี้ไป เราไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนอีกแล้ว
ถ้าใครจะยอมรับเรา ก็ต้องยอมรับที่เราเป็นเรา"


ไปทัวร์กับพีจังเล่นเอาอิฉันหิวตอนดึก

ออฟไลน์ MrTeddy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-1
เหมือนคู่นี้มาฮันนีมูนกันที่ญี่ปุ่นกันเลยนะ หรือซ้อมไว้ก่อนกันละนี่
แต่ว่า...เข้าหอ ร่วมเตียงกันไปแล้วนิ เที่ยวหนนี้ก็นับเป็นการฮันนีมูนไปเลยก็แล้วกัน
ช่วยพี่เทียนประหยัดงบ เก็บตังไว้มาเยี่ยมเจืออีก 3 ปี อิอิ

kittyfun

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ายน้องเจือมาเป็นนายแบบแล้วเหรอ

พี่เทียนก็ยอมน้องจนได้ เอาเถอะขอให้ได้อยู่ด้วยกัน แล้วพ่อแม่สองฝ่ายยอมรับเร็วๆ แล้วกัน

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ขอบคุณที่มาต่อครับ

ว่าแต่เจือ  จะอยู่สามปีเลยหรือ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
ต่างคนต่างรักกันนี่คะ จะกลัวอะไรล่ะ
ที่เจือต้องบอกพี่เทียนก่อน เพราะรักไม่ใช่เหรอ :กอด1:
 เพราะรักและไม่อยากให้เสียใจในการตัดสินใจอะไรลงไป
 พี่เทียนถึงต้องรีบขอ....คึคึ แต่งงานหรือเปล่าหนอ :L1:

ออฟไลน์ CanonDNattari

  • ☆.•:*´เชื่อในสิ่งที่เห็นและต้องการให้เป็น ¨`*:•☆
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
เปลี่ยนชื่อเป็น หอมกลิ่นโอะโคะโนะมิยะกิ  ชั่วคราวได้ไหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

hidden-love

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ mascot

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1499
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-10
จะขอแต่งงานหรอพี่เทียน

ออฟไลน์ kuruma

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 441
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +527/-3
สุดท้ายแล้วทินกฤตตัดสินใจดึงเอาโทรศัพท์มือถือราคาแพงขึ้นมาเปิดแอพพลิเคชั่นแผนที่ ค้นหาร้านจีเวลรี่ที่อยู่ในบริเวณนั้น โอซาก้าเป็นเมืองใหญ่ การจะหาแหวนสวยๆซักวงมาให้คนรักคงไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนัก






แผนที่นั้นบอกทางแสนละเอียดทั้งสองคนเดินตามเส้นทางนั้นไปไม่นานก็พบกับร้านจีเวลรี่ที่อยู่ในตึกที่มองจากภายนอกแล้วเป็นอาคารคล้ายทรงยุโรป แต่ความจริงแล้วก็เป็นส่วนหนึ่งของห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อ

"Excuse me ...we're looking for a wedding ring" ทินกฤตเอ่ยออกไปเป็นภาษาอังกฤษ พนักงานในทีแรกมีที่ท่าเงอะงะ แต่พอได้ยินคำว่า Wedding ก็ดูจะเข้าใจอะไรได้ไม่ยาก

แม้จะแปลกใจที่เป็นผู้ชายสองคนมาเลือกแหวนแต่งงานด้วยกันก็ตาม แต่หน้าที่การบริหารต้องมาก่อน จุนเจือเอ่ยถามรายละเอียดของแหวนอย่างสุภาพ ซึ่งพนักงานขายก็ให้ข้อมูลเป็นอย่างดี ทินกฤตให้เขาเป็นคนเลือกแหวนอยู่นาน ดวงตาคู่สวยมองแหวนในตู้ก่อนจะสะดุดกับ แหวนทองคำขาวเรียบง่าย ตรงกลางโดดเด่นด้วยเพชรน้ำงามวงละห้าเม็ด

"พี่เทียน..นี่สวยไหม? "เขาถามคนรักเบาๆ

"หืม...ไหน" ทินกฤตชะโงกหน้ามาดู มือแกร่งโอบไหล่คนรัก จุนเจือ คงรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิของมือของเขาที่ร้อนจัดด้วยความตื่นเต้น มันยากเกินกว่าจะใช้ข้ออ้างว่า เครื่องทำความร้อนของห้างนั้นร้อนเกินไปจึงทำให้เขาเป็นเช่นนี้

"วงนี้ไง..ขอเขาดูไหม? " นิ้วเรียวชี้ไปที่แหวนวงที่เขาหมายตาเอาไว้ รู้สึกได้ถึงเหงื่อชื้นที่มือของอีกฝ่าย ก็ต้องยิ้มออกมา
" ตื่นเต้นเหรอฮะ? " เขาถามแหย่ไปแบาๆ

"พี่ไม่เคยนี่..." ทินกฤตยิ้มน้อยๆ พลางมองดูดีไซน์ของแหวนที่เด็กหนุ่มบอกให้เขาดู ใช่แล้ว เขาอยากให้ความรักของเขานับจากนี้เรียบง่ายเหมือนกับแหวนวงนี้นี่ล่ะ

"งั้น..ขอดูเลยนะ? " ถามแต่ก็ไม่รอคำตอบ จุนเจือเอ่ยกบพนักงานขายเพื่อขอดูแหวนวงนั้น

"เขาจะว่าไหมถ้าซื้อแหวนผู้ชายสองวงเนี่ย" ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ หยิบแหวนผู้ชายขึ้นมาดู อันที่จริงดีไซน์ระหว่างทั้งสองวงนั้นแทบไม่แตกต่างอะไรกันเลย

"คนญี่ปุ่นเขาให้เกียรติลูกค้า ไม่มีใครว่าอะไรหรอก " เด็กหนุ่มบอกพลางยิ้มให้พนักงานขาย เด็กหนุ่มลองขนาดแหวนที่นิ้วกลางข้างซ้ายของตนเอง

มือแกร่งตีมือของเด็กหนุ่มแทบจะในทันที
"นิ้วนางซิ่ครับ"

"ฮะ ฮะ ..ลืมนี่นา " จุนเจือต้องหัวเราะอย่างเขินๆก่อนจะลองสวมแหวนเข้ากับนิ้ว มันพอดีราวกับว่าได้เตรียมไว้สำหรับเขาแล้วแบบนั้นแหละ
"สวยไหมฮะ? " เด็กหนุ่มชูมือที่สวมแหวนให้อีกฝ่ายดู

"สวยครับ..." ทินกฤตว่าพลางมองหน้าของอีกฝ่าย ในอกรู้สึกอุ่นเข้าไปถึงข้างใน อยากมีความสุขแบบนี้ตลอดไป

"ถามเขาซิ่ว่ามีวงใหญ่ เท่านิ้วพี่ไหม" ทินกฤตหันไปบอกคนรักที่ดูจะยังชื่นชมกับแหวนวงสวย
"แหวนแต่งงานใส่คนเดียวได้ยังไง"

เด็กหนุ่มหัวเราะออกมาเบาๆกับคำพูดของคนรักแล้วเอ่ยถามถึงแหวนสำหรับทินกฤต โชคดีที่ยังมีแหวนแบบเดียวกันที่ชายหนุ่มใส่ที่นิ้วนางข้างซ้ายได้พอดี

"เหมาะไหมครับ" ทินกฤตนึกสนุกเอ่ยถามกับพนักงานสาวเป็นภาษาไทย ใบหน้ายิ้มแย้มของชายหนุ่มหน้าคม ทำเอาพนักงานยิ้มออกมาอย่างขวยเขิน

"พี่เทียน! " จนเจือตีไหล่ชายหนุ่มเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้น
" เอาล่ะ จ่ายตังค์ได้แล้ว "

"เท่าไรเนี่ย วงเงินพี่รูดจำกัดน้า..." ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่ก็ยินดีที่จะยื่นบัตรเครดิตให้กับพนักงานขายอย่างไม่อิดออดใดๆ เขาตั้งใจแล้วที่จะให้เป็นแบบนี้ มือแกร่งร้อนจัดอีกข้างกุมมือของจุนเจือเอาไว้

ราคาที่พนักงานขายบอกมามันสูงอยู่ไม่น้อยเลย แต่ถ้าเป็นทินกฤตแล้วก็สามารถจ่ายมันได้อย่างสบายมาก แหวนทั้งสองวงอยู่ในกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินของทางร้าน และมันกำลังอยู่ในกระเป๋าเสื้อของทินกฤต

"อ้าว..ไม่ให้ใส่เลยล่ะ? " จุนเจือแบมือทวงแหวนเมื่อออกมานอกร้านแล้ว อย่างแปลกใจ

"ใส่ง่ายๆก็ไม่สนุกซิ่" ทินกฤตว่าพลางฮัมเพลงออกมาอย่างอารมณ์ดี วันนี้โอซาก้าก็อากาศหนาวเหมือนเมื่อวาน

"หิมะจะตกไหมนะ...เรายังไปเที่ยวกันทันไหมเนี่ย" ทินกฤตว่า
"เห็นอะไรพยากรณ์อากาศในรถไฟแว่บๆ แต่พี่อ่านไม่ออกเลยไม่รู้ว่ามันอะไรที่ไหนกันบ้าง"

"ทันสิ..ถ้าไปชิงช้าสวรรค์ ก็จะได้เห็นวิวรอบๆเลยล่ะ "จุนเจือยิ้มกับท่าทางอารมณ์ดีของอีกฝ่าย ก่อนจะสอดมือไปควงแขนของคนรักให้เดินไปด้วยกัน

"งั้น เราเดินถ่ายรูปกันแถวนี้ก่อน...ย้อนกลับไปกินไอ้ลูกๆเมื่อกี้ด้วย ดีไหม แล้วก็ไป เอ่อ...ปราสาทโอซาก้านั่นด้วย..." ทินกฤตดูเหมือนจะไม่ย่อท้อกับการเที่ยว พอได้รู้ใจรู้ความคิดของคนรัก ได้กอดได้สัมผัส ได้เห็นใบหน้ายิ้มแย้มของเด็กหนุ่มเพียงเท่านี้ก็...มีแรงเที่ยวสู้อากาศหนาวขึ้นมาอีกเป็นกอง

+++++++++++++++++++

ทั้งสองคนตะลอนทัวร์กันไปตามสถานที่ท่องเที่ยวที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของโอซาก้า จุนเจือยืนถ่ายรูปชูสองแขนแข่งกับกูลิโกะแมนบนสะพานข้ามแม่น้ำที่ไหลตัดผ่านกลางย่านการค้าของเมือง ท่าทางของเด็กหนุ่มที่ยืนให้ทินกฤตยกกล้องโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปนั้นดึงดูดสายตาผู้คนได้ไม่น้อย
ไม่เว้นแม้แต่กับตุ๊กตาหุ่นใส่แว่นยืนตีกลองที่ต้องเข้าคิวรอถ่ายรูปคู่ด้วยจุนเจือก็โพสต์ท่าเรียกเสียงหัวเราะจากทินกฤตได้ไม่น้อย ทั้งสองคนเดินอยู่แถวบริเวณ โดะตมโบะริ และ ชินไซบะชิอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเร่งทานทาโกะยากิลูกกลมร้อนฉ่าอบอถ่นร่างกายกันอีกนิด ก่อนจะนั่งรถไฟใต้ดินเดินทางไปยังปราสาทโอซาก้าที่ทินกฤตบ่นว่าอยากจะเห็นนักหนา

เดินขึ้นมาจากสถานีรถไฟใต้ดิน มองเห็นบ้านไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางลานกว้าง และแท่งกลมทำจากคอนกรีตที่ผุดขึ้นมาจากกลางลาน ลองนับจำนวนดูแล้วก็เท่ากับจำนวนของเสาของบ้านไม้นั้นจริงๆ ไม่มีคำอธิบายอะไรมากนอกจากป้ายเล็กๆที่บอกว่านั่นเป็น บ้านที่จำลองมาจากบ้านเมื่อหลายร้อยปีก่อนของโอซาก้า ใครจะไปคิดกันเล่าว่า สิ่งปลูกสร้างเล็กๆที่จะลองแบบมาจากของโบราณนี่จะตั้งอยู่ติดกับตึกรูปทรงแปลกตาของสถานีโทรทัศน์ NHK สำนักงานโอซาก้า

ทั้งสองคนเดินฝ่าลมหนาวที่พัดผ่านช่องลมระหว่างตัวตึก ถนนสองข้างทางไม่มีอะไรมากนอกจากต้นไม้ที่ปลูกประดับเอาไว้ รถราหรือก็ไม่ค่อยจะเห็นมีวิ่งผ่านทั้งที่เป็นเวลาเลยบ่ายสองเข้าไปแล้วก็ตามที จนเมื่อเดินมาเข้าเขตปราสาทโอซาก้าที่เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาของเหล่านักท่องเที่ยว ทิวทัศน์ก็เริ่มเปลี่ยนไป
ต้นสนญี่ปุ่นขึ้นเรียงเป็นทินแถว เคียงคู่ไปกับแนวคลองที่โอบล้อมรอบกำแพงสูง มองไปอีกฝั่งมีต้นไม้ไร้ใบขึ้นเรียงกันเป็นแนวยาว

"เจือ นั่นต้นอะไรทำไมไม่มีใบเลย...." ทินกฤตถามออกมา ลักษณะของมันคุ้นๆเหมือนเขาเคยเห็นบนถนนที่นิวยอร์ค

"ซากุระน่ะ..เห็นแต่ต้นเนอะ "เด็กหนุ่มตอบ ควันขาวๆออกจากปากไปด้วยเวลาที่พูดคุยกัน
" พี่เทียนเคยเห็นซากุระญี่ปุ่นไหม..สวยมากเลยนะ "

"อืมมมม ไม่รู้ซิ่ คุ้นๆเหมือนจะเคยเห็นที่นิวยอร์ค" ทินกฤตว่าพลางหรี่ตาลงอย่างใช้ความคิด
"เสียดายนะ ตอนนี้หน้าหนาวยังไม่บาน แต่...ไว้พี่จะหาทางมาดูดอกไม้กับเจือนะ"

"ต้องมาหานะ..สัญญาด้วย " เด็กหนุ่มสบตาอีกฝ่ายแล้วยิ้มให้

"ครับ....สัญญาครับ" ทินกฤตว่าพลางจูงมืออีกฝ่ายให้เดินข้ามสะพานเพื่อเข้าไปในตัวปราสาทชั้นใน ประตูบานใหญ่เปิดรอรับพวกเขาอยู่แล้ว พลันมองเห็นปราสาทโอซาก้าตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ไม่วายยังมีภาพขัดตาด้วยตึกทรงยุโรป ตั้งอยู่ไม่ห่างกันเท่าไร บ่งบอกได้ถึงยุคสมัยที่เปลี่ยนไปของญี่ปุ่น

+++++++++++++++++++

เมื่อเดินเข้าไปอีกหน่อยเห็นซุ้มขายตั๋วอยู่ที่ตรงด้านล่าง เป็นตู้ขายตั๋วแบบอัตโนมัติตั้งเรียงกันอยู่สามถึงสี่ตู้ ถ้าใครมาแบบกรุ๊ปทัวร์ก็ซื้อทีได้เลยครั้งละยี่สิบสามสิบใบ ระหว่างรอจุนเจือซื้อตั๋วก็หันมองไปรอบๆ ได้กลิ่นอาหารลอยมาตามลม มีซุ้มขายอาหารอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามของลานกว้าง ต้นซากุระต้นใหญ่ยืดตัวตระหง่านอยู่กลางลาน เช่นเดียวกันกับตรงด้านล่างของปราสาทไม่ใกล้ไม่ไกลกันก็จะมีต้นซากุระยืนต้นอยู่นิ่ง ยากจะคาดเดาว่ามันยืนต้นที่นี่มานานกี่ปีแล้ว
ทั้งๆที่ภาพในหัวที่คาดการณ์เอาไว้ว่าจะเป็นปราสาทเก่าแก่ มีแต่ของเก่าตั้งเรียงราย แต่สิ่งแรกที่ทั้งสองหนุ่มพบเจอคือ ลิฟท์ที่พาพวกเขาขึ้นไปยังชั้นบนสุด จุดชมวิวชั้นเยี่ยมอีกแห่งของเมือง ด้านบนแคบอยู่ใช่ย่อย เมื่อเดินฝ่ากลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต่างก็อยากจะมาชมวิวออกมาที่ด้านนอก ก็สัมผัสกับลมแรงและอากาศหนาวเย็นบาดผิว ด้านข้างของกำแงมีลวดลายปูนปั้นนูนต่ำรูป นกกระเรียน ภายใต้กรอบพลาสติกขนาดใหญ่ ทิวทัศน์ที่มองได้นั้นต้องมองผ่านลูกกรงขนาดใหญ่ที่คงกั้นไว้เพื่อความปลอดภัยและกันพวกนกพิราบตัวดีทั้งหลายมาทำรัง  มองออกไปเห็นชิงช้าสวรรค์สีแดงที่อยู่ใกล้กับโรงแรมของตัวเองก็พลางชี้ให้จุนเจือดู

"นั่นไง เดี๋ยวรอให้มืดแล้วเราไปชมวิวกลางคืนกัน"

"คร้าบๆ ตื่นเต้นเป็นเด็กๆเลยนะ คนเรา "จุนเจือแซวคนรักพลางหัวเราะเบาๆ

“ใครว่าตื่นเต้น ชี้ให้ดูหรอก ...” ทินกฤตรีบแก้ตัว

+++++++++++++++++++

ทั้งสองคนอยู่กันข้างนอกได้ไม่นานนักก็ตัดสินใจกลับเข้ามาด้านใน เพราะเจอลมเย็นเยียบตีเข้าให้จนผ้าพันคอของจุนเจือเกือบจุหลุดลอยไป สุดท้ายแล้วก็ต้องค่อยๆเดินกันลงมาจากชั้นเจ็ด สลับกับการเดินชมวัตถุโบราณต่างๆที่จัดแสดงเอาไว้ และก่อนจะลาจากปราสาทโอซาก้า ไม่วายจุนเจือยังอ้อนอยากจะได้เหรียญที่ประทับตราเป็นรูปของปราสาทติดเป็นของฝากกลับไปด้วย กว่าทั้งสองคนจะออกมาได้ ฟ้าก็เริ่มมืดแล้วทั้งที่เป็นเวลาแค่สี่โมงเย็นเท่านั้น

ได้ยินเสียงจุนเจือรบเร้าหนัก บวกกับความหนาวเย็นที่ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งอุณหภูมิลดต่ำลงมากเท่านั้น ทินกฤตตัดใจจากการเดินชมศาลเจ้าที่อยู่ใกล้ๆ นั่งรถไฟใต้ดินกลับทางเดิมไปยังสถานีรถไฟใหญ่ใกล้ๆโรงแรมของพวกเขาทันที

ยามกลางคืนในย่านอุเมะดะของโอซาก้านั้นเต็มไปด้วยสีสัน แหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่นั้นยังคราคร่ำไปด้วยผู้คน ทินกฤตพาจุนเจือเดินตามแผนที่ข้ามถนนแคบๆที่มีผู้คนเดินสวนไปมาขวั่กไขว่เดินเข้าไปในห้างชื่อดังที่มีสัญลักษณ์เป็นปลาวาฬสีแดงขนาดมหึมา กับ ชิงช้าสวรรค์สีแดงสดขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่บนยอดตึก HEP Five

ซื้อตั๋วจ่ายกันไปด้วยเงินจำนวนเล็กน้อยก็ได้ขึ้นไปนั่งในกระเช้าทรงกลมสีแดงสด

"เห็นเขาเขียนว่ามันจะหมุนประมาณสิบห้านาที...."ทินกฤตเอ่ยเบาๆเมื่อกระเช้าของชิงช้าสวรรค์ค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นเผยให้เห็นวิวเหนือยอดตึก

"กลัวความสูงรึเปล่าเนี่ย..นี่ พี่อย่ามองไปข้างล่างนะ เดี๋ยวหัวใจวาย " เด็กหนุ่มแหย่คนแก่กว่า พลางหัวเราะ

"ไม่หรอก...ดูซิ่ วิวออกจะสวย" เบื้องล่างท้องฟ้ายามราตรีสีดำสนิทของโอซาก้านั้นคือแสงเรืองรองของตึกสูงและถนนหนทางที่เป็นประกาย ไม่ได้ต่างจากกล่องอัญมณีที่ส่องแสงล่อตาล่อใจของคนที่ได้เฝ้ามอง

"อื้ม..เห็นทั่วเมืองเลยล่ะ .. สวยเนอะ " จุนเจือมองออกไปด้านนอก แสงไฟระยิบระยับนั่นทำให้เขายิ้มออก ยิ่งได้มาดูมันกับคนรักแบบนี้แล้วล่ะก็

รอยยิ้มของเด็กหนุ่มทำให้คนที่ใช้ศีรษะพิงกระจกเย็นเฉียบของตัวกระเช้าต้องขยับตัว พื้นที่ด้านในแม้มีไม่มาก แต่ก็เพียงพอจะให้ทินกฤตหนึ่งคนลงไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าของจุนเจือได้อย่างพอดี มือแกร่งหยิบเอากล่องกำมะหยี่ที่ซุกอยูในกระเป๋าเสื้อของเขามาตลอดช่วงบ่ายขึ้นมา
"เจือ...."

ท่าทางของคนรักทำเอาจุนเจือต้องรีบนั่งเรียบร้อยจนแทบไม่ทัน
" ครับ? "

สิ่งที่อีกฝ่ายทำดูเป็นทางการ จนเริ่มเกร็งอย่างช่วยไม่ได้ ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นแรงจนกลัวว่าทินกฤตจะได้ยินด้วยหรือเปล่า

ภายในตัวกระเช้าเงียบสนิทมีเพียงเสียงของโครงสร้างขนาดยักษ์ที่ค่อยๆขับเคลื่อนไป ชายหนุ่มร่างสูงค่อยเปิดกล่องกำมะหยี่น้อยที่อยู่ในมือ เผยให้เห็นแหวนสองวงที่บรรจุอยู่เคียงกันด้านใน

"จุนเจือ...ช่วยอยู่เคียงข้างพี่ไปตลอดชีวิตเลยจะได้ไหม"

"พี่..แน่ใจนะ ว่าเจือดีพอสำหรับพี่แล้ว?.. " น้ำเสียงสั่นอย่างตื่นเต้นระคนตื้นตันใจ ตั้งแต่เกิดมา เขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะมีโอกาสได้ถูกขอจากใครบางคนแบบนี้ ทินกฤตหัวใจหล่น ดวงตาคมที่สะท้อนแสงไฟสีแดงฉานที่สาดส่องเขามานั้นไหววูบ

"เจือไม่มั่นใจในตัวพี่เหรอ"

"ไม่ใช่ฮะ..ไม่ใช่ " เด็กหนุ่มจับข้อมืออีกฝ่ายไว้ มือของเขาเย็นเฉียบ

" เจือ..เจือน่ะ ดีแต่ทำให้พี่เป็นห่วงอยู่ตลอด .. เจือไม่รู้ว่า เจือจะช่วยอะไรพี่ได้บ้างรึเปล่า ทั้งเรื่องงานแล้วก็เรื่องอื่นแบบนี้  "ดวงตาคู่สวยสบตาอีกฝ่ายนิ่ง
”....... เจือเป็นคู่ชีวิตที่ดีของพี่ได้จริงๆน่ะเหรอ? "

"ไม่ว่าเจือจะถามพี่อีกกี่ครั้ง พี่ก็จะตอบว่าใช่ เจือเป็นคู่ชีวิตของพี่ พี่ไม่เคยรัก หวง ห่วงใครได้มากมายขนาดนี้มาก่อน ชีวิตนี้หากจะให้พี่ต้องดูแลใคร พี่ก็อยากให้คนๆนั้นเป็นเจือ...คนดีของพี่คนนี้ล่ะ" ทินกฤตตอบคำตอบนั้นหนักแน่น เช่นเดียวกับสัญญารักทองคำขาวทั้งสองวงนี้ มือแกร่งยืนไปจับมือของเด็กหนุ่มในขณะที่อีกมือก็ดึงเอาแหวนออกมา เขาวางกล่องกำมะหยี่นั้นไว้ใกล้ๆ ดวงตาคมเงยหน้าสบดวงตาของเด็กหนุ่มนิ่ง

"พี่จะถามเจืออีกครั้ง...ได้โปรดอย่าให้พี่ต้องย้ำคำมากไปกว่านี้....เจือจะอยู่เคียงข้างพี่ไปตลอดชีวิตเลยจะได้ไหม"

"ถ้าพี่รักเด็กดื้อ แถมไม่เอาไหน คนนี้ได้ล่ะก็.............”
ดวงตาคู่เป็นประกายเมื่อสะท้อนแสงไฟ ขอบตาร้อนผ่าว อาการตื้นตันใจมันเป็นแบบนี้นี่เอง
” เจือจะอยู่กับพี่ไปทั้งชีวิต "

ทินกฤตยิ้มก่อนค่อยๆสวมแหวนที่เด็กหนุ่มเป็นคนเลือกแบบให้กับอีกฝ่าย...ที่นิ้วนางข้างซ้าย ก่อนก้มลงจูบที่เพชรเม็ดงามนั่นเบาๆ
"พี่สัญญาว่าจะรัก จะดูแล และจะคอยเจืออย่างอดทนจนกว่าเจือจะกลับไปอยู่กับพี่ที่เมืองไทยนะคับ"

"เจือก็สัญญา ว่าเจือจะเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ จะตั้งใจทำงาน ทำให้ทุกคนยอมรับเจือให้ได้..แล้วถึงวันนั้น เราจะได้อยู่ด้วยกันนะฮะ "เด็กหนุ่มตอบกลับมา

ทินกฤตยิ้ม ดวงตาคมสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง ก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดแน่น ได้ยินเสียงประท้วงแผ่วๆว่ายังไม่ได้สวมแหวนให้กับตัวเองเลย ทินกฤตจึงได้ถอยออกมาแล้วยื่นแหวนวงใหญ่ให้กับอีกฝ่าย พร้อมยื่นมือซ้ายของตัวเองให้กับเด็กหนุ่มแหวนวงใหญ่อีกวงสวมเข้าที่นิ้วนางข้าวซ้ายของทินกฤตด้วยท่าทีเก้อเขินของเด็กหนุ่มร่างบาง

"เพิ่มสัญญาอีกข้อได้ไหม" ทินกฤตเอ่ยเบาๆ มองแหวนทองคำขาวกับเพชรที่เป็นประกายอยู่บนนิ้วสลับกับใบหน้าของอีกฝ่าย

"สัญญาอีกข้อ? " จุนเจือทวนคำของอีกฝ่าย ใบหน้าสวยมองแหวนในมือสลับกับใบหน้าคมของคนรัก

"สัญญาว่าจะเป็นเมียที่ดีของพี่...เริ่มต้นที่คืนนี้เลยนะครับ" ชายหนุ่มตอบพลางยิ้มกว้างอย่างขี้เล่น

"แล้วที่แล้วมา..ไม่ดีเหรอ? " จุนเจือกระซิบถามเบาๆ มือเรียวโอบรอบแผ่นหลังกว้างเข้ามาหาตัว ข้างแก้มเนียนซุกเข้ากับกกหูของอีกฝ่าย ได้กลิ่นหอมจางๆจากน้ำหอมที่อีกฝ่ายใช้ แต่ที่เด่นชัดคงเป็นความอบอุ่นจากผิวกายนี้มากกว่า
" เจือสัญญา ว่าจะเป็นเมียที่ดีของพี่นะ..รักนะครับ "เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มเรียกตัวเองด้วยคำที่เขาอายแบบนั้น ใบหน้าสวยซับกับไล่กว้างหลังจากที่พูดออกไปอย่างอับอาย

"ครับ...พี่ก็รักเจือเหมือนกัน" ทินกฤตเอ่ยเบาๆก่อนขยับถอยออกมา ก้มหน้าลงเข้าหาใบหน้าที่ยังงุดจะซบอกเขาด้วยความเขินอาย ช่วงชิงเอาสัมผัสแผ่วเบาที่ริมฝีปากนุ่มนั้นมาได้เป็นผลสำเร็จ

ทั้งสองจูบกันและกันแผ่วเบา ก่อนจะถอนริมฝีปากออกมายิ้มให้กัน แล้วจึงจูบกันอยู่แบบนั้นซ้ำๆ ท่ามกลางแสงระยิบระยับจากไฟของอาคารเบื้องล่างและจากแหวน"แต่งงาน"ทั้งสองวงในมือของทั้งคู่นั่นเอง

+++++++++++++++++++

talk : หายไปน้าน นานนนนนนนนนนนนนน ต้องขอโทษด้วยนะคะ .. ทุกท่านคะ โค้งสุดท้ายแล้วนะคะ^^

ออฟไลน์ goldfishpka

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-0
    • twitterของp.k.a
แปะ จองที่โพสรูป พาทัวร์ค่า

มาแล้วค่า....  :pig2:
ขอเชิญทุกท่าน ร่วมเดินทางไปกับเรา Goldfish Tour second day...

สถานที่ที่ พี่เทียน กับ จุนเจือ เขาไปสวีทวี้ดวิ้ว กันสถานที่ต่อไปก็คือ ปราสาท โอซาก้าค่ะ
ปราสาทโอซาก้าค่ะ เป็นปราสาทที่สร้างในศตวรรษที่ 15 ค่ะ โดยไดเมียว (แนวว่าเจ้าเมือง เจ้าผู้ครองนคร )
ที่ชื่อ โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ ค่่ะ เห็นเดือนปีที่สร้างแล้วทุกคนคงคิดว่า โหย...มันต้องเป็นโบราณสถาน แนวเดียวกับอยุธยาบ้านเราเป็นแน่แท้ ที่เดินไป จะเห็นก้อนอิฐจริงสลับคอนกรีต... ไม่ใช่เลยค่ะ ...เขาบูรณะเสียใหม่เอี่ยม ไม่มีเสือตะตะมิ ไม่มีประตูบานเลื่อนกระดาษ .....มีลิฟท์ มีประตูอัตโนมัติ และศูนย์มัลติมิเดียในการจัดแสดงนิทรรศการประวัติแบบครบครันเลยล่ะค่ะ
แถมยังเป็นจุดชมวิวที่ดีมากอีกด้วย

บริเวณโดยรอบจะเป็นสวน และมีในส่วนที่เป็นวัด และศาลเจ้าด้วยค่ะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิคนจะเยอะมากถึงมากที่สุด เพราะจะไปนั่งชมดอกไม้กัน เขาก็จะจัดสวนสวยงามมากค่ะ ในเนื้อเรื่อง พี่เทียนกับเจือไม่ได้เห็นดอกไม้ เลยเอาภาพช่วงที่ดอกไม้บานมาให้ชมค่ะ






ส่วนนี่เป็นภาพวิวจากข้างบนค่ะ ที่ถ่ายมาจะติด โอซาก้าโจฮอลล์ค่ะ
เป็นสถานที่จัดคอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬา ต่างๆของโอซาก้าค่ะ

ความจริงถ้าเดินวนไปอีกด้าน จะเห็น ตึกเฮปที่พี่เทียนกับเจือชี้กันนะคะ
...แต่ค้นในไดรฟ์ดูแล้ว เพิ่งสำนึกว่าไม่ได้ถ่ายมุมนั้นมา OTL

ต่อมาคือ HEP 5 ค่ะ เป็นห้างแห่งหนึ่งในย่านอุเมะดะของโอซาก้าค่ะ ตรงนั้นจะเป็นชุมทางรถไฟใหญ่เลยทีเดียวคนเดินกันขวักไขว่ แล้วก็มีแหล่งช็อปปิ้ง กินเที่ยว เอาเป็นว่าแค่ในสถานีอุเมะดะอย่างเดียวก็เดินก็ตาลายเลยล่ะค่ะ
หลงมาหลายรอบ  :z3: ...HEP5ถ้าจะให้พูด มันก็เป็นตึกที่เป็นเหมือนแลนด์มาร์คอีกที่ของโอซาก้าเลยล่ะค่ะ เพราะว่าใครจะ
ไปคิดกันล่ะว่าจะอุตริไปคิดสร้างชิงช้าสวรรค์สีแดงแปร๊ดดดดด บนยอดตึกแบบนั้น ขนาดของชิงช้าสวรรค์ก็ย่อมๆค่ะ ไม่ใหญ่โตมาก แต่...มันเด่นมาก


(รูปนี้ไปขโมยมาค่ะจาก travelpod ค่ะ ชอบสีสัน สวยมาก)

ส่วนรูปนี้เป็นข้างในกระเช้า...ที่พี่เทียนเขาพยายามคุกเข่าลงไปนั่นล่ะค่า...มือสั่นมาก (กล้องห่วยแตกมาก ภาพเลยซุปเปอร์ครูปเปอร์เบลอไปหน่อย....ขอโทษนะคะ) .....เอ...ตอนนั้นไปนั่งกับใครนะ  :o8:
 

ถ้าใครมีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น...อย่าพลาดที่จะแวะโอซาก้านะคะ หลายคนบอกว่า โอซาก้า เหรอ ไม่เอาหรอกไปโตเกียวดีกว่ายังไงมันก็เหมือนกันๆ เชื่อพีจังนะคะ ว่าสถานที่แต่ละสถานที่นั้นมีเสน่ห์ในตัวมันเอง และก็รอให้เราไปค้นพบล่ะค่ะ
พีจังน่ะเหรอ...ตกหลุมรักญี่ปุ่นมานานแล้วล่ะค่ะ เป็นที่ๆ เดินได้โดยไม่ต้องกลัวอะไร สบายใจเหมือนอยู่บ้านเลยล่ะค่ะ ...
ว่าแล้วอยากไปอีกจัง ใครจะไปเที่ยวกับพีจังอีก ยกมือขึ้นนนนน  :bye2:

.....(แต่ไว้รอเรื่องหน้าของพีจังละกันนะคะ! :กอด1:)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2011 13:55:18 โดย goldfishpka »

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[


หวังว่าจะไม่มีปัญหาอะไรอีกนะ

ออฟไลน์ khuan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 353
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
   :o8:เฮ้อออออ  หวานซ๊าาาาา :o8:

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
กรี๊ดๆๆๆ ตอนนี้อ่านไปยิ้มไป
แบบว่า...มีความสุขเบาเบา~~



ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
พี่เทียน-เจือ สู้ๆ พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นความรักที่แท้จริงให้ได้  :กอด1:

ชอบตอนนี้หวานมาก :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด