เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เธอคือ...ลมหายใจ by Anonymus  (อ่าน 2506891 ครั้ง)

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
ริวไม่คิดอคติแต่กูคิดเว้ย! :m31: เซ็งไอ้พี่กรนี่จริงๆ มารจอมขัดขวางจริงวะ ไอ้เรื่องงานแสดงนี่ก็เหมือนกัน อย่าบังคับได้มะ เมืองนอกนะ(ชาติตะวันตก) นักแสดงก็คือนักแสดง นักร้องก็คือนักร้อง นางแบบก็นางแบบ เล่นละครเวทีก็ละครเวที เป็นสัดส่วน มีบ้างที่นักร้องมาแสดงหนัง แต่ก็น้อย แล้วนี่อะไร! รู้ทั้งรู้ว่าริวเกลียดการสัมผัสตัวคน นี่ถ้าริวแสดงท่าทางอะไรที่บ่งบอกถึงความรังเกียจออกไปไม่ยิ่งเป็นข่าวใหญ่เรอะ! อยากให้วงเป็นที่จับตามองก็ไม่เห็นต้องให้มาแสดงละครกันทุกคนเลยนี่หว่า อย่างที่ไวย์ว่านั่นแหละ งานส่วนตัวก็เยอะอยู่แล้วยังต้องมาเจียดเวลาไปแสดงอะไรบ้าๆบอๆอีก
นี่ถ้าเห็นโดนบังคับให้ริวไปแสดงจริงๆจะเคืองมากๆ! แม่งคิดแต่จะรักษาหน้า ไม่คิดถึงคนที่ถูกบังคับบ้างเลย :m16: 
...อยากให้อลันเข้ามาเบรกไว้ให้จัง ช่วงนี้หายไปเลยนะ งานหลักของริวคือเล่นหุ้นนี่นา ไม่เห็นตามข่าวบ้างเลยอ่ะ o8
ู^
ขอบคุณมาก ถูกใจสุดๆ

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-15
ฮึๆๆ o18ไม้ตายของกรคงเป็นพี่ไฝ่แน่ เพรารายนี้ต้องให้พี่ไฝ่เป็นเหยื่อ
รึพี่ไฝ่แสดงด้วยนะ
ริวไม่คิดอคติแต่กูคิดเว้ย! :m31: เซ็งไอ้พี่กรนี่จริงๆ มารจอมขัดขวางจริงวะ ไอ้เรื่องงานแสดงนี่ก็เหมือนกัน อย่าบังคับได้มะ เมืองนอกนะ(ชาติตะวันตก) นักแสดงก็คือนักแสดง นักร้องก็คือนักร้อง นางแบบก็นางแบบ เล่นละครเวทีก็ละครเวที เป็นสัดส่วน มีบ้างที่นักร้องมาแสดงหนัง แต่ก็น้อย แล้วนี่อะไร! รู้ทั้งรู้ว่าริวเกลียดการสัมผัสตัวคน นี่ถ้าริวแสดงท่าทางอะไรที่บ่งบอกถึงความรังเกียจออกไปไม่ยิ่งเป็นข่าวใหญ่เรอะ! อยากให้วงเป็นที่จับตามองก็ไม่เห็นต้องให้มาแสดงละครกันทุกคนเลยนี่หว่า อย่างที่ไวย์ว่านั่นแหละ งานส่วนตัวก็เยอะอยู่แล้วยังต้องมาเจียดเวลาไปแสดงอะไรบ้าๆบอๆอีก
นี่ถ้าเห็นโดนบังคับให้ริวไปแสดงจริงๆจะเคืองมากๆ! แม่งคิดแต่จะรักษาหน้า ไม่คิดถึงคนที่ถูกบังคับบ้างเลย :m16: 
...อยากให้อลันเข้ามาเบรกไว้ให้จัง ช่วงนี้หายไปเลยนะ งานหลักของริวคือเล่นหุ้นนี่นา ไม่เห็นตามข่าวบ้างเลยอ่ะ o8

ใจจริงก็แอบคิดอย่าง คุณเกริด้า นะ แต่ว่ามันอาจมีเรื่องสนุกๆ และเป็นตัวกระตุ้นความสัมพันธ์ของริวกับพี่ไฝ่ก็ได้

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
กรตัวขัดขวางอีกแล้วแน่เลย ฮ่วยๆ
อยากอ่านต่อ~!!  :serius2:
แอบเห็นด้วยกะรีบนๆ
ไม้ตายอาจจะเป็นไผ่ก็ได้เนอะ  ฮึๆ o8
รอตอนต่อไปอย่างจดจ่อ

aekporamai2

  • บุคคลทั่วไป
เอาไปเล่นละครกับพสุ...น้องริวยอม..อิอิ

ออฟไลน์ didi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1000
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-8
อยากอ่านต่อค่ะ :serius2: :serius2: :serius2:
คนอัพบำรุงไรเตอร์ดีๆ ได้ไหมค่?จะได้อ่านต่อเร็วๆ.
ยังไม่หายคิดถึงน้องริวและไผ่เลย :z3: :z3:
 :call: :call: :call: :call:
 :L1:

ออฟไลน์ aeecd

  • :: 8018 ::
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-0

ออฟไลน์ iranen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ริวทำยังไงดีละที่เนี๊ย
ไผ่ไปไหนนะ
ทิ้งริวไว้คนเดียว

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
ริวจ๋าาาาา

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
พี่ไผ่ไปไหนอ่ะ
รีบร้อนจัง
ทิ้งริวไว้ด้วย  :fire:

ออฟไลน์ aehJTS

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-8
อย่าบังคับน้องได้ปะ อะไรกันพวกนี้

 :pig4: writer คะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Safina_safe

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อไหร่ริวจะบอกพี่ไผ่อะจ้ะ แต่ตอนนี้ก้อน่ารักดี ดูแล้วพี่ไผ่จะคิดเกินน้องไหมน้า o13 :bye2:

vita.Min

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากเลยครับ
ลุ้นทุกตอน  :L2:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
จะอะไรยังไงก็ตามแต่  ขอแค่ให้ริวหายจากอาการบ้าๆนี่ ก็พอ
ถ้าการรับงานแสดงของริวในครั้งนี้ จะมีส่วนมาช่วยเยียวยา อาการของริว ให้ดีขึ้นอ่ะนะ
อยากให้การทำงานทุกอย่างของริว หมือนกับการฉีดยา หรือการให้ยา เพื่อเข้าไปรักษาอาการนะ
เพราะอาการของริว ถ้าเรายิ่งทำเหมือนสนับสนุนให้ริวหนีการอยู่ท่ามกลางฝูงชน หนีการถูกสัมผัส
แล้วเมื่อไรอาการนี้มันจะดีขึ้น สู้เราให้ริวค่อยๆปรับ ค่อยๆเผชิญหน้ามันจะไม่ดีกว่าหรือ แล้วบรรดาพี่ๆทั้งหลาย
คอยอยู่ข้างๆ คอยประคับประคอง คอยให้กำลังใจ คอยชี้แนะ คอยเป็นหลักพิงให้ริว
ในขณะที่ริวยังไม่แข็งแรง ยังไม่แกร่งพอ คิดว่า น่าจะเป็นอะไรที่ดีกว่า รักแล้วคอยแต่จะปกป้อง
จนริวยืนหยัดด้วยตนเองไม่ได้นะ ถ้ารักและหวังดีกับริวจริงต้องคิดเผื่อวันข้างหน้าให้ริวด้วย
ริวต้องอยู่ในสังคมนะ อยากให้ริวยืนให้มั่นด้วยสองขาของตัวเอง ไดยไม่ต้องอิงพี่ไผ่ตลอดไปอ่ะ
โลกนี้มันไม่มีอะไรที่แน่นอน ถ้าเกิดวันนึงไม่มีพี่ไผ่ ริวต้องอยู่ต่อไปได้อย่างเข้มแข็งและมีความสุข
พร้อมกับใช้ความสามารถขั้นอัจฉริยะหลายๆอย่างที่ริวมี สร้างสุข สร้างประโยชน์ให้กับริวเองและสังคมได้


ซีเรียสมากไปป่ะคะ เพื่อนๆรีดเดอร์ทั้งหลาย และคุณไรเตอร์ ถ้ามากไป ก็ขออภัยไว้ด้วยจ้า

ออฟไลน์ BP109

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-0
ไม่มากไปหรอกค่ะ yayee2 คิดเหมือนกันว่าการได้เจอคนเยอะๆ จะทำให้ริวปรับตัวได้

แต่เขียนออกมาสละสลวยแบบ yayee2 มะเป็น  อิอิ :-[




ออฟไลน์ Wr@iTh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
ริวเอ๊ยยยย!!! อดทนหน่อยนะ...เพื่อพี่ไผ่ๆๆๆ ท่องไว้ :call:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ให้ริวไปเล่นละครมันจะแย่ไปกว่าเดิมไหมละเนี่ย

fungfung

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าได้เล่นกับพี่ไผ่ก็ดีไปริวจะได้หายไว้ๆ
แต่พี่กรจะขัดขวางริวเลยนะ
น้องมันน่าสงสารมากพอแล้วน้า

dragonfly08

  • บุคคลทั่วไป
เป็นกำลังใจให้น้องริว

ออฟไลน์ aeyja55

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
รู้สึกเหมือนตะเริ่มมีอะไรมาแทรกระหว่างริวกับไผ่แน่ๆ เลย

ออฟไลน์ justlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :เฮ้อ:อดทนไว้ริว  คิดจะรักกะพี่ไผ่ อยู่กะพี่ไผ่ เชื่อขนมได้เลยว่า ต้องวนเวียนอยู่ในวงการนี้แระ
สู้โว๊ยยยย

 :z13: จิ้มไรท์เตอร์ ให้มาส่งต่อตอนใหม่ไวๆ เ็ห็นคนโพสบอกว่าจะหมดสต๊อคแร้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






V_we

  • บุคคลทั่วไป
ไม่เข้าใจเลยว่าจะไปบังคับน้องมันทำไมนะ
คนอื่นๆ ในวงก็ออกทีวีกันอยู่แล้ว
มันก็น่าให้คนดูคุ้นหน้า
แล้วถ้าเป็นไผ่คือไม้ตายก็ยิ่งไม่เข้าใจใหญ่
ไม่อยากให้ทั้งสองใกล้ชิดกัน
แต่ถ้าได้เล่นละครด้วยกัน
มันจะยิ่งไปเด่นชัดและตกเป็นข่าวหรือ
 :m16:
ยังไงก็อยากให้อีตาเขมชาติรู้จริงๆว่าใครคือเจ้านายของอลัน
คนที่เป็นหุ้นส่วนของตัวเองจริงๆ น่ะคือใคร
คงไม่ไปจุ้นจ้านวุ่นวายกับชีวิตของน้องมันแน่
+1 ขอบคุณค่ะที่มาต่อให้
เป็นกำลังใจให้จ้า
 :กอด1:

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
แล้วริวจะรอดเหรองานนี้
แต่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับตัวน้องก็ได้

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ไม่มากไปหรอกค่ะ yayee2 คิดเหมือนกันว่าการได้เจอคนเยอะๆ จะทำให้ริวปรับตัวได้

แต่เขียนออกมาสละสลวยแบบ yayee2 มะเป็น  อิอิ :-[




ดีใจจังเจอคนอ่านที่ใจตรงกัน
และขอบคุณค่ะ BP109 ที่บอกว่า YaYee2 เขียนได้สละสลวย (คิดเข้าข้างตัวเองไว้ก่อนว่าเป็นคำชม หุ หุ)
เคยเจอและเคยช่วยเด็กที่มีปัญหามาบ้างน่ะจ้ะ เลยคิดแล้วเขียนจากประสบการณ์

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ขอบคุณจ้า

ออฟไลน์ mutoo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-37
คราวนี้มาช้าจังเลย
 :z10:

bbc52

  • บุคคลทั่วไป
ติดอ่านนี้มากมายยย

ริวสู้ๆๆๆๆ นะ

จิ้ม writer มาต่อเร็วๆๆๆนะ คนอ่านจะลงแดงแล้ว หุหุ

ออฟไลน์ maio2000

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :o12: ยังไม่มาอัพอ่ะ

อยากอ่านนะเข้ารอทุกวันเลย

 :call: อัพที่เถอะนะ

ออฟไลน์ spring

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-7
มาช้าหน่อยนะกั๊บ ช่วงนี้งานเข้าเหลือเกิ๊นนนนน  :o12:


*********************************


ตอนที่ 30



“สวัสดีครับพี่กร  มาถึงนี่มีอะไรหรือเปล่าครับ” พสุออกมารับหน้าอย่างแปลกใจที่เห็นกรเวชมาหาถึงบ้าน  เขาเองก็เพิ่งกลับมาถึงได้สักพักเช่นกัน  และพบว่าริวกลับมาถึงก่อนเขาด้วยซ้ำ

“น้องละไผ่”

“นอนแช่น้ำตามเคยครับ...ท่าทางไม่ค่อยสบายใจ” ความจริงพสุก็อารมณ์ไม่ดีมาจากข้างนอกเหมือนกัน  ที่เขาต้องรีบออกไปจากห้องประชุมเพราะป้าใจโทรมาบอกว่าแม่ทะเลาะกับพ่อใหญ่โต  แต่ก็เหมือนเดิมที่พอเจอหน้าเขาแม่ก็บ่ายเบี่ยงที่จะเล่าความจริงให้ฟัง  ซ้ำยังออกปากปกป้องพ่อเหมือนเคย  จนพสุอ่อนใจ แต่พอกลับมาเจอริวนั่งหน้าหงอยแช่น้ำอยู่ในอ่างก็นึกเป็นห่วงจนลืมเรื่องเครียดๆ ของตัวเองไป

“ก็เรื่องรับงานนั่นแหละ...คุณเขมก็เลยให้พี่มาคุยให้”

“ริวไม่ยอมรับงาน?” พสุถามอย่างไม่แปลกใจเท่าไหร่ 

“อืม”

“แล้วจะยอมคุยเหรอครับ”

“คิดว่ายอม”

“พี่กรมีของดีอะไร” พสุถามยิ้มๆ  ยังนึกภาพไม่ออกว่าริวจะเล่นละครได้ยังไง  แต่ดูสีหน้ามั่นใจของกรเวชแล้วเขาก็อดนึกสนุกไม่ได้  อยากรู้เหมือนกันว่าระหว่างเด็กดื้อ  กับคนช่างตื๊อ  ใครจะชนะ

“รับรองว่ามี”  กรเวชตอบยิ้มๆ  ทั้งที่ไม่ได้มั่นใจขนาดนั้น

“ถ้าพี่มั่นใจก็ตามสบายครับ  เดี๋ยวผมจะไปเรียกริวให้” พสุเดินหายเข้าไปข้างใน ครู่เดียวก็กลับมาพร้อมกระเป๋าสตางค์และกุญแจรถ

“ผมเรียกให้แล้ว  อีกเดี๋ยวคงออกมา...ผมจะออกไปปากซอย  พี่จะเอาอะไรไหมครับ” ปากซอยที่พสุพูดถึงคือแหล่งการค้าขนาดใหญ่  มีทั้งห้างสรรพสินค้า  โรงแรมดัง  และตลาดสด  แต่ซอยที่พสุอยู่นี้เป็นย่านคนมีเงิน  ในซอยจึงไม่พลุกพล่านเหมือนข้างนอก

“ไม่ละขอบใจ”

“ครับ” พสุเดินควงกุญแจรถออกไป  กรเวชจึงเดินดูรูปถ่ายในบ้านแล้วก็สังเกตเห็นว่า  นอกจากรูปของพสุที่ถ่ายไว้ตั้งแต่ตอนเป็นดาราเพียงไม่กี่รูป  นอกนั้นเป็นรูปถ่ายจากเวทีคอนเสิร์ตบ้าง  จากงานอีเว้นต่างๆบ้าง  และแทบทุกรูปมี   ริวอยู่ข้างๆพสุเสมอ 


ล่าสุดคือภาพถ่ายของพสุตอนไปเที่ยวช่วงวันหยุดที่ผ่านมา  รอยยิ้มกว้างของพสุแบบที่เขาไม่เคยเห็น กับคนในครอบครัวและริว  แสดงถึงความสนิทสนมของทั้งคู่  ทำให้กรเวชต้องถอนใจยาวด้วยความหนักใจ


“พี่กรสวัสดีครับ...แล้ว...พี่ไผ่ละครับ?”


กรเวชเกือบสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ริวก็เข้ามาทัก  ใบหน้าอ่อนเยาว์ผ่องใส  เส้นผมด้านหน้าชี้ปัดไปมายังเปียกชื้น  สีผิวที่คล้ำลงเล็กน้อยทำให้ริวดูเข้มขึ้น  จนกรเวชรู้สึกเหมือนเด็กหนุ่มโตขึ้นอย่างประหลาด


“ไผ่ไปซื้อของปากซอย...ริวคงรู้ว่าพี่มาเรื่องอะไร” กรเวชถามตรงๆ  สำหรับริวการพูดตรงๆเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

“ผมไม่รับงาน” ริวปฏิเสธตรงๆเช่นกันแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา  กรเวชเดินตามไปนั่งฝั่งตรงข้ามเพื่อคุยกันได้ถนัดๆ

“พี่ก็ไม่อยากบังคับให้ริวรับ  แต่ผู้จัดคนนี้เคยช่วยเคลียร์งานไผ่ตอนจะเก็บตัว  ทั้งๆที่ไผ่มีสัญญาละครกับเขาตั้งหลายเรื่อง  แต่เขาก็ไม่ได้งอแงเลยนะ  ทางเราก็เลยรับปากว่าถ้าอยากได้นักร้องในสังกัดไปแสดงเมื่อไหร่  เราจะส่งไปให้” กรเวชยกเรื่องพสุขึ้นมาอ้าง  ตามสายตาของเขา  หากเรื่องไหนที่เกี่ยวพันกับพสุ  เขาเชื่อว่าริวไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน

“แล้วเขาเลือกผม?”

“ใช่...พี่จ๋าเขาบอกว่าเขาเอ็นดูริวมาก  ชอบตั้งแต่ตอนที่ริวไปงานเลี้ยงปิดกล้องกับไผ่แล้ว”  กรเวชใจฟูเมื่อเห็นดวงตาโตเป็นประกายวาบอย่างจำได้  สีหน้าเคร่งเครียดของเด็กหนุ่มดูคลายลงอย่างเห็นได้ชัด 

“อ๋อ!... ครับ  ผมจำได้แล้ว”

“อืม...แล้วบทของริวที่พี่ดูก็โอเคนะ  ริวจะไม่พิจารณาดูสักหน่อยก่อนเหรอ” กรเวชวางบทที่อุตส่าห์ขับรถไปเอามาจากพี่จ๋า  ให้ริวตรงหน้า  ริวมองอย่างลังเล  ยังไม่ยอมหยิบขึ้นมาดู

“แต่ผมไม่ชอบแสดงละคร  ผมเล่นไม่ได้หรอก”

“ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเฟคนะริว  ริวเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่  พี่คุยกับพี่จ๋ามาให้แล้ว...อีกอย่าง  พี่จ๋าเขาก็รับรู้ปัญหาเรื่องไม่ชอบให้ใครสัมผัสของริวแล้ว  เขารับรองว่าบทนี้แทบจะไม่ต้องแตะตัวใครเลย  แล้วแก้วกุดันที่เขาจะมาแสดงคู่กับริวนี่ก็แบบนิสัยดีมากๆนะ  พี่อยากให้ริวได้ลองทำงานร่วมกับเขา” กรเวชอธิบายเจื้อยแจ้ว  โดยไม่ทันสังเกตอาการสะอึกนิ่งของริวตั้งแต่ได้ยินชื่อแก้วกุดัน

“แก้วกุดัน?  แฟนเก่าพี่ไผ่นะเหรอครับ?”

“ริวรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ?” กรเวชถามงงๆ  เขาไม่คิดว่าริวจะรู้เพราะตอนริวมาจากอเมริกา  ข่าวพสุกับแก้วกุดันเงียบไปเป็นปีแล้ว

“ครับ...แล้ว...ทำไมเขาเลิกกัน”

“พี่ว่าริวเอาไว้ถามไผ่เขาเองดีกว่า  แต่ถึงไม่ได้เป็นแฟนกัน  เขาก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ” กรเวชบอกดักทาง  เขาไม่อยากทำแบบนี้เลย  แต่ก็ไม่อยากเห็นริวต้องเจ็บปวดถ้าถลำตัวไปมากกว่านี้

“แค่เพื่อนเหรอครับ?” ริวถามย้ำ  คำนี้เคยได้ยินจากปากพสุมาแล้ว  แต่ริวไม่กล้าถามสักทีว่าสำหรับพสุแล้วแก้วกุดันเป็นแค่เพื่อนจริงๆ หรือเปล่า

“ก็เขาบอกพี่ว่าแค่เพื่อน  แต่จะมากกว่านั้นไหม  ริวต้องถามไผ่เอง...มาโน่นแล้ว”

“อ่ะริว...วันนี้พี่ไปทันซื้อพอดีเลย” พสุบอกแล้วส่งกล่องเค้กยี่ห้อดังมาให้  เค้กเจ้านี้มีฉายาว่าเค้กไฮโซ  เพราะนอกจากจะราคาแพงลิ่วแล้ว คนทำยังทำเพียงแค่ไม่กี่ปอนด์ต่อวัน  และไม่มีการทำเพิ่ม  แม้จะมีลูกค้ายืนรอต่อคิวซื้ออยู่หน้าร้านก็ตาม

“เค้กมะพร้าว! ขอบคุณคร้าบ”  ริวไหว้แล้วรับกล่องเค้กหน้าบาน  เด็กหนุ่มอุ้มกล่องเค้กเข้าไปในบ้านเพื่อจัดใส่จานด้วยท่าทางรื่นเริงสุดขีด

“ตามใจกันเข้าไป  พี่ก็ว่าปากซอยใกล้แค่นี้ทำไมหายไปนานนัก  ที่แท้ไปเข้าคิวซื้อขนมเจ้านี้เนี่ยนะ?”

“ก็นานๆจะซื้อทันสักทีนี่ครับ  ผมก็อยากกินขนมอร่อยๆ ให้สะใจบ้างแหละน่า” พสุตอบยิ้มๆ 


แค่เห็นสีหน้าดีใจสุดๆ ของริวก็คุ้มกับที่ไปยืนขาแข็งคอยอยู่เป็นนานสองนาน  คราวที่แล้วริวไปเข้าคิวอยู่นาน  สุดท้ายเค้กก็หมดก่อนถึงเด็กหนุ่มเพียง 2 คน  ริวถึงกับหน้าจ๋อยที่อดกิน  ทำให้พสุหมายมาดไว้ในใจว่าจะต้องซื้อมาให้ริวกินให้ได้


“เอาเถอะ  พี่จะพยายามเชื่อ” กรเวชเย้ายิ้มๆ  อยากจะเตือนพสุถึงความสนิทสนมของทั้งคู่แต่ก็ยังไม่เหมาะ  เพราะตอนนี้เรื่องอื่นสำคัญกว่า

“แล้วตกลงว่าพี่กรกล่อมริวสำเร็จไหมครับ”  พสุถามแล้วนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับที่ริวลุกไป

“ยังไม่รับปากเลย”

“โห...ผู้จัดคนไหนหนอ  ที่ทำให้พี่กรลงทุนมาตื้อริวด้วยตัวเองขนาดนี้” พสุถามยิ้มๆ  ขณะที่ริวประคองถาดออกมา  เสิร์ฟเค้กให้พสุและกรเวชด้วยตัวเอง

“ละครของพี่จ๋าน่ะ”

“อ้าว!เหรอครับ” พสุอุทานแล้วหันมองหน้าริวทันที  ริวสบตาพี่แล้วก็ตัดสินใจถามความเห็นจากพสุ

“พี่ว่าริวรับดีไหม”

“งานพี่จ๋านี่รับประกันเรื่องคุณภาพเลยนะริว  ก็อยู่ที่ริวแล้วล่ะว่าชอบบทหรือเปล่า”


แม้จะเกรงใจพี่จ๋า  แต่พสุก็ไม่คิดจะบังคับน้อง  ริวเกลียดสัมผัส  เขาไม่รู้ว่าริวจะทนทำงานแบบนี้ได้หรือไม่  เพราะคราวนี้คงพาช่างแต่งหน้าไปเองเหมือนอย่างที่ผ่านมาไม่ได้  แล้วไหนจะฉากเข้าพระเข้านางที่ยังไม่รู้ว่าจะมีมากน้อยแค่ไหนอีก


“พี่ดูให้ริวหน่อยสิ  ถ้าพี่ว่าดี  ริวก็รับ” ริวบอกอย่างมั่นใจ  เขาเชื่อว่าพสุรู้ใจเขากว่าใคร  พสุจะไม่มีทางเลือกสิ่งไม่ดีให้เขาอย่างแน่นอน

“เอางั้นเหรอ?” พสุถามอย่างลังเล  ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการก้าวก่ายงานของริวมากเกินไปหรือเปล่า

“ไงไผ่ก็ดูบทให้น้องก่อนก็ได้  แล้วถ้ารับไม่รับก็โทรไปบอกพี่” กรเวชบอกแกมขอร้อง  เขาเชื่อว่าถ้าพสุรับปาก  แปลว่าริวต้องยอมรับงานนี้อย่างแน่นอน 

“ครับ” พสุรับคำแล้วเหลือบมองริวอย่างเป็นห่วงนิดๆ  เห็นทีเขาคงต้องโทรหาพี่จ๋าด้วยตัวเองอีกสักครั้ง



.........................



รถจอดเรียงกันเป็นตับดูคึกคักกว่าปกติ  เพราะเป็นวันบวงสรวงเปิดกล้อง  นอกจากทีมนักแสดงที่จะมากันเกือบครบแล้ว  ยังมีนักข่าวจากหลายสำนักมาร่วมงานด้วย

พสุดีใจที่เขาคิดถูกไม่ขับเจ้าคู่ชีพมา  แต่เปลี่ยนมาใช้รถคันซีดานของริวแทน  ส่วนรถสปอร์ตนั้นริวจอดทิ้งไว้ที่บริษัท  ไม่ได้เอาออกมาใช้เพราะสะดุดตาคนเกินไป 

ครั้งแรกที่เขารู้ว่ารถสปอร์ตที่อยู่ในโรงรถบ้านพักของบริษัทเป็นของริว พสุก็ตกใจในความร่ำรวยของเด็กหนุ่ม  เขาไม่เข้าใจว่าถ้าริวรวยขนาดนั้น  ทั้งยังเก่งทางดนตรีจนเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะ  แล้วทำไมถึงเลือกจะมาเป็นนักร้องในค่ายเล็กๆไกลถึงประเทศฝั่งตะวันออก  จนได้คุยกันถึงรู้ว่าริวไม่ได้ซื้อเอง  รถคันนั้นผู้ปกครองของริวซื้อมาให้  ริวไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารถคันนั้นยี่ห้ออะไร  ราคาเท่าไหร่ 

พสุคิดว่าผู้ปกครองของริวคงเป็นมหาเศรษฐีใจบุญจึงรับอุปการะริวแล้วให้ข้าวของราคาแพงๆ  แต่คงไม่มีเวลาดูแล  ริวถึงได้เติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวและไม่เดียงสาต่อโลกเลยแม้แต่น้อย  เหมือนนกน้อยในกรงแก้ว

รถซีดานคันนี้ฟิล์มกรองแสงค่อนข้างทึบทำให้พสุสามารถเข้าไปจอดด้านในได้โดยไม่มีนักข่าวคนไหนเห็น


“พี่...ไปหาพี่จ๋ากับริวนะ” ริวหันมาชวนแล้วจ้องหน้าพสุอย่างรอคอยคำตอบ

“อย่ามาอ้อน  ทำยังกับไปเรียนอนุบาลวันแรก” พสุบ่นแต่หันมาจัดปกเสื้อให้ริว  แล้วกวาดตาดูความเรียบร้อยอีกครั้ง  ทั้งๆที่ตัวเขาเองก็เล่นละครมาเป็นสิบๆเรื่อง  แต่พอน้องจะเล่นละครบ้างพสุกลับตื่นเต้นแทน

“นะพี่  ไปกับริวหน่อย  แป๊บเดียวก็ได้” ริวทำเสียงออดๆ  พลางส่งสายตาวิงวอนจนพสุเกือบขยี้ผมให้แล้ว  ถ้าไม่กลัวว่าผมริวจะเสียทรงที่เซตมาอย่างดี

“ไปก็ไป  มาถึงนี่แล้ว  ไม่เข้าไปไหว้พี่จ๋าสักหน่อยคงไม่เหมาะ”


ริวยิ้มออก ยอมลงจากรถแต่โดยดี  พสุพาริวเดินเข้าประตูด้านข้างซึ่งเป็นส่วนที่พนักงานในบริษัทใช้กัน  ชายหนุ่มถือกระเช้าดอกไม้ไปแสดงความยินดี  พี่จ๋ายิ้มร่ามาแต่ไกลเมื่อเห็นพสุกับริว


“ยินดีด้วยครับพี่จ๋า”

“แต้งกิ้วจ้าไผ่ ริว” พี่จ๋ากอดทักทายสองหนุ่มอย่างสนิทสนม  ริวแม้จะออกอาการเกร็งๆ อยู่สักหน่อย  แต่ก็ไม่มากนัก 

“ไผ่อยู่บวงสรวงก่อนมะ  หรือมีงานอื่น?” พี่จ๋าหันมาถามหลังจากส่งกระเช้าดอกไม้ให้คนเอาไปเก็บแล้ว

“อยู่ได้พักเดียวครับ  เดี๋ยวคงต้องขอตัวแวบ  เพราะยังต้องไปทำงานอีก  ยังไงก็ขอให้ละครเรื่องนี้เรตติ้งแรงตั้งแต่เปิดกล้องเลยนะครับพี่จ๋า”

“จ้าสมพรปากเถอะ...งั้นพาน้องไปรอที่ห้องรับรองก่อนนะจ๊ะ”

“ครับ”


พสุพาริวเข้าไปห้องรับรองด้านหลัง  ที่ชุมนุมของนักแสดงทั้งหมด  เกือบทุกคนหันมาทักพสุด้วยความยินดี  พสุเลยถือโอกาสฝากริวกับนักแสดงคนอื่นๆ  โดยเฉพาะเหล่านักแสดงอาวุโส  ซึ่งทุกคนก็ให้ความเอ็นดูริวเป็นอย่างดี  ก่อนที่พสุจะอาศัยช่วงชุลมุนหลบออกไประหว่างที่ทุกคนออกไปให้สัมภาษณ์สื่อในลานพิธีด้านหน้าบริษัท

งานบวงสรวงผ่านพ้นได้ด้วยดี  แม้นักข่าวจะค่อนข้างมาก  แต่ผู้จัดคนเก่งก็ทำได้อย่างที่รับปาก  เธอปล่อยให้นักข่าวสัมภาษณ์ริวไม่นานนักและอยู่ด้วยตลอดเวลา  ก่อนจะให้คนส่งตัวริวกลับไปขึ้นรถได้โดยที่นักข่าวไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มกลับไปตอนไหน


“มีอะไรหรือเปล่า  เห็นมองหน้าพี่มาตั้งแต่ออกจากงานแล้ว”

“เปล่าครับ” ริวตอบแล้วหลบตาวูบ  เพิ่งรู้ตัวว่าเผลอจ้องพสุจนถูกจับได้

“จริงอะ?...อย่าปิดพี่เลย  มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

“วันนี้...เอ่อ...แก้วกุดันเขาไม่มา” ริวตอบอึกอักแล้วก้มหน้างุดๆ  เป็นกิริยาที่เด็กหนุ่มทำทุกครั้งที่เกิดความกลัวว่าพสุจะไม่พอใจ

“หืม?...นึกยังไงถึงพูดถึงเขา” พสุถามพลางเหลือบมองหน้าเด็กหนุ่ม  เห็นริวหน้าซีดๆ ก็อดเป็นห่วงไม่ได้

“คือ...พี่กับเขา...ทำไมถึง...” ริวไม่กล้าถามต่อทั้งที่คาใจมาตลอด  ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อแก้วกุดัน  หัวใจเขาจะทรมานแปลกๆ เสมอ

“ทำไมถึงเลิกกันน่ะเหรอ?”

“ครับ...ขอโทษ...ที่ริวถามเรื่องส่วนตัว” ริวขอโทษปากคอสั่น  กลัวว่าพสุจะโกรธ  แต่ก็ใจชื้นขึ้นเมื่อพสุยังคงมีสีหน้าปกติ  และยังส่งยิ้มมาให้

“ไม่เป็นไรหรอก  จริงๆ ก็...ไม่เชิงเลิกหรอกนะ”

“พี่ยังคบกับแก้วกุดันอยู่เหรอ!” ริวหลุดปากถามอย่างลืมตัว  ตาโตเบิกกว้างจ้องพสุเขม็ง

“ก็ยังคบอยู่...แต่ในฐานะเพื่อนนะ” พสุรีบแก้ความเข้าใจผิดทันทีที่เห็นริวหน้าซีดเมื่อเขาบอกว่ายังคบกับแก้วกุดันอยู่  นึกขำสีหน้าที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเวลาของริว

“...นึกว่ายังเป็นแฟนกันอยู่”

“เราเหมาะที่จะคบกันแบบเพื่อนมากกว่า  ระหว่างพี่กับแก้วมันเหมือน...เหมือนมีช่องว่างที่มองไม่เห็น...ยิ่งคบนานช่องว่างนั้นมันก็ยิ่งกว้างจนจูนกันไม่ติด  เราก็เลยตัดสินใจถอยห่างกันคนละก้าว  ไปๆมาๆเราก็สบายใจกับฐานะเพื่อนมากกว่าคนรัก”


พูดไปแล้วพสุก็แปลกใจตัวเอง  นี่เป็นครั้งแรกที่เขากล้าพูดความรู้สึกตัวเองที่มีต่อแก้วกุดันตรงๆ  แม้แต่กับแก้วกุดันเองเขายังไม่เคยพูด  แต่พอหลุดปากเล่าให้ริวฟัง  เขากลับรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก  ความรู้สึกผิดที่แปลบปลาบอยู่ในใจทุกครั้งที่นึกถึงแก้วกุดันเหมือนจะลดน้อยลงไปด้วย


“โล่งใจไปที”

“ทำไม...ริจะจีบสาวรุ่นพี่หรือไงเรา  คู่แข่งเยอะนะจะบอกให้” พสุแซวขันๆ  ก่อนจะตีไฟเปลี่ยนเลน  เพื่อขึ้นทางด่วนไปยังร้านอาหารที่นัดไว้กับแม่  วันนี้แม่เป็นเจ้ามือฉลองให้ริวที่ได้เล่นละครเรื่องแรก  แต่เขายังไม่ได้บอกริว

“ริวไม่สนหรอกว่าใครจะจีบแก้วกุดัน  ขอแค่พี่ไม่จีบเขาก็พอแล้ว”

“เรียกเขาพี่แก้วดีกว่ามั้ง  เขาอายุไล่ๆ กับพี่นี่แหละ”

“ครับ”


พสุเหลียวมองเด็กหนุ่มเห็นนั่งอมยิ้มก็อดหัวเราะไมได้


“เป็นเอามากนะเรา  นั่งยิ้มตลอดทางเชียว  นี่ขนาดยังไม่เคยเจอตัวเขานะเนี่ย”

“ไม่ใช่อย่างที่พี่คิดหรอกน่า” ริวปฏิเสธแล้วเดาะปากเล่นอย่างเขินๆ

“จริงเร้อออ”

“จริงสิ”  ริวย้ำเสียงหนักแน่น  พสุส่ายหน้าแล้วกลั้นยิ้ม  อยากรู้ว่าริวจะปากแข็งไปได้อีกสักเท่าไหร่ 

“เอาเถอะไม่เถียงด้วยหรอก  แต่จะรอดูละกัน”

“พี่...ริวหิวข้าว” พอหมดเรื่องสงสัยริวก็เริ่มหิว  เด็กหนุ่มลูบท้องป้อยๆ  แล้วทำหน้าละห้อยให้พสุเห็น

“อ้าว! แล้วตะกี้ในงานไม่ได้กินอะไรกับเขาเหรอ” พสุถามงงๆ  ก็เห็นอยู่ว่าพี่จ๋าตั้งโต๊ะบุฟเฟ่ต์ไว้ให้ด้านในติดกับห้องรับรองที่เขาพาริวไปส่งไว้

“เขาให้กล้วยมาลูกเดียวเอง” 

“อันนั้นมันของบวงสรวง”

“เขาบังคับให้กินด้วยนะพี่” ริวรีบฟ้องต่อเพราะอยากให้พสุรู้ว่าโดนบังคับให้กินของที่ไม่ชอบ

“ต้องกินสิ  เป็นเคล็ดไง  ว่าจะทำงานได้ง่ายๆ  ไม่มีปัญหา”

“เหรอ...” เด็กหนุ่มหน้าม่อย  รู้สึกว่าอะไรๆ ก็ไม่เป็นใจเลยสักอย่าง  อยากให้พสุเห็นใจแต่กลายเป็นว่าเขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย

“คือคนไทยเขามีสำนวน ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก  หมายความว่าเป็นงานที่ง่ายๆ  สบายๆ” พสุอธิบายเสียงอ่อนโยน  เพราะนึกสงสารริวที่นั่งหน้าจ๋อย  แต่พอได้ยินคำตอบของริวเขาก็แทบจะเปลี่ยนใจจากสงสารเป็นเขกหัวเด็กหนุ่มสักโป๊กมากกว่า

“แต่กล้วยดิบปอกไม่ง่ายนะ”

“เฮ้อ! แล้วใครจะกินกล้วยดิบๆล่ะริว”  พสุบ่นพร้อมกับตีไฟเลี้ยวเข้าร้านอาหาร  ริวหน้าชื่นเพราะหิวข้าวเต็มที  แต่พอเห็นสุดาเด็กหนุ่มก็วิ่งเข้าไปกอดแล้วยกเธอขึ้นจนตัวปลิว

“ตายแล้วริว  ตัวสูงขึ้นอีกแล้วเหรอลูก” สุดาที่ยังลอยอยู่ในอ้อมแขนของเด็กหนุ่มตบไหล่ริวเบาๆอย่างแปลกใจ

“สูงขึ้นแค่ 3 เซนเองครับ  แต่หนักขึ้นตั้ง4 กิโล”  ริวยิ้มแป้น  เขาไม่ได้วัดส่วนสูงมาหลายเดือนแล้ว พอไปวัดแล้วพบว่าสูงขึ้นอีก 3 เซนติเมตร  แต่ที่น่าดีใจคือน้ำหนักขึ้นมาถึง 4 กิโลกรัมในเดือนเดียว  และกล้ามเนื้ออกกับไหล่ชัดจนครูฝึกชมเปาะ ขนาดว่าสวมเสื้อยืดหลวมๆ ยังมองออกว่าไหล่ริวหนาขึ้น

“มิน่าตัวโต๊โต  แม่ไม่เจอริวแค่ 3 อาทิตย์เองนะ”

“ตอนนี้เขากินเก่งขึ้นแล้วครับแม่  ว่าแต่วันนี้เตรียมตังค์มาพอแน่เหรอครับ  ระวังจะต้องอยู่ช่วยน้าเอมทำกับข้าวนะครับ”

“เชอะ! แม่กลัวซะที่ไหน การ์ดพิเศษที่ไผ่ทำไว้ให้ยังไม่ได้ใช้เลย  แม่จะรูดให้เราแหละจ่ายซะให้เข็ด”

“อ้าว! แล้วอย่างนั้นแม่จะเป็นเจ้ามือเลี้ยงฉลองให้ริวได้ยังไงละครับ” พสุท้วงขำๆ  เห็นแม่ยิ้มระรื่นแบบนี้เขาก็มีความสุขไปด้วย

“แม่เลี้ยงไง  แต่ไผ่จ่าย...มาลูกริว  มื้อนี้เต็มที่ พี่ไผ่จ่ายเองหมด” สุดาหันมาควงแขนริวไปนั่งที่โต๊ะประจำ 

“คร้าบบบบบ” ริวกอดเอวสุดาหมับ  แปรพักตร์ไปเข้าข้างแม่หน้าตาเฉย  พสุจึงแกล้งชี้หน้าคาดโทษ  แต่เด็กหนุ่มยิ้มกริ่มเพราะรู้ว่าพสุไม่โกรธจริง...............



..............................................................


ออฟไลน์ N.T.❁

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
รอได้ค่าา  :กอด1:

ดีใจที่น้องริวไม่มีปัญหาอะไร
พี่ไผ่เข้าใจว่าน้องชอบแก้วกุดันซะงั้น 555
สองคนนี้นับวันยิ่งผูกพันเนอะ แต่เห็นน้องริวมีความสุขก็โอเค ^^

ออฟไลน์ mimilove

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
แล้วเมื่อไหร่จะรักกันละเนี่ย ๕๕๕๕
พี่ไผ่เข้าใจผิดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
โอเค ๆ ค่อย ๆ เป็นค่อยไปก็ได้ :)
สู้ ๆ นะคะคนแต่ง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด