ตอนที่
17 เลลาห์ใช้เวลาปลอบผมอยู่นานบนโต๊ะกินข้าว บากีสบากอสเถียงกันเรื่องท่านเซอซัสไม่หยุด เหมือนเอาบทสนทนาครั้งที่แล้ว มาทะเลาะต่อ
“บากีส เจ้างมงายเรื่องมนุษย์หมาป่า!!”
“โว้ยย บากอส!! ต้องให้ข้าพูดกี่ครั้งว่า เซอซัสไม่เกี่ยวอะไรกับมนุษย์หมาป่า!!”
เพื่อนๆรุมกันถามคำถามผมมากมาย เลลาห์ก็ด้วย ผมได้แต่ส่ายหน้าๆแล้วก็ร้องให้
เอลลี่ที่เพิ่งเปลี่ยนชุดนอนใหม่เดินเข้ามาเกาะใหล่ผม ทุกคนดูเป็นห่วงผมจังน๊า…ทุกคนใจดีจริงๆ
“ไม่เห็นต้องร้องให้เลย”
ผมหยุดสะอื้นแล้ว แต่ตอนนี้ ฟุบหน้าลงกับโต๊ะเงียบๆ
“ฉันเตือนแล้ว” เลลาห์พูดประโยคนี้รอบที่สามร้อย เธอขมวดคิ้วพลางแกะทับทิม
“มันเคยเกิดเรื่องแบบนี้ กับเด็กสนม มาสิบกว่าคนแล้วล่ะ พวกทหารน่ะ เจ้าเล่ห์ ชอบแหย่…แล้วก็ทำให้เข้าใจผิด ฉันไม่ปฎิเสธว่าพวกนั้นมีเสน่ห์ แต่ยังไงหน้าที่ก็คือหน้าที่นะ นากัล”
ผมสูดขี้มูกฟืด เงยหน้าควับ
“ผมชอบท่านบาลิธนะฮะ เลลาห์…ผมชอบท่านมากๆเลย ผมไม่เคยเจอใครดีกับผมขนาดนี้” ผมพูดเสียงขึ้นจมูก “แต่ว่า - - ผมเสียใจอะ- -ฮึก! ที่ท่านเซอซัส- -บอกว่า - ฮือ จะไม่ยุ่งกับผมแล้ว” น้ำเสียงผมขาดห้วงไปเป็นเสียงสูง แล้วผมก็น้ำตาใหลอีก
“โอ้ย !นากัล” เลลาห์ลุกขึ้น เอามือกำหัวผมไว้ “เจ้ายังเด็ก…เด็กเหลือเกิน”
เอลลี่ถอนหายใจ เลื่อนเก้าอี้มานั่งข้างๆ หมอนั่นโน้มมากระซิบ
“ข้าก็เคยจูบกับอาลักษณ์เหมือนกัน”
ผมหยุด เลลาห์กำลังทำท่ายิ่งใหญ่ เกี่ยวกับการรับใช้กษัตริย์
ผมเอียงคอฟังเอลลี่
“แต่ตอนนี้ ข้ารักท่านดันชิมาก…ข้าไม่ชอบคนอื่นแล้ว แต่ข้าจะบอกเจ้าว่า …ถ้าเจ้าอยากทำอะไรกับใคร ถ้ามันไม่มีใครรู้ มันก็เหมือนไม่ได้เกิดขึ้น”
เอลลี่รีบผละออกจากผม เพราะเลลาห์หันมาเห็นว่าเราแอบคุยกันพอดี
“อะไร เอลลี่??”เธอท้าวเอว
“ป่าวคับ” เอลลี่ยิ้มหวาน “เลิกเสียใจเถอะนะนากัล มาเล่นกับ ข้ากับแฝดเถอะ”
ผมปาดน้ำตา สูดหายใจให้ปกติ คว้าลูกทับทิม แล้วเดินตามเอลลี่ไปที่โถง โดยมีเลลาห์โอบใหล่
เลลาห์ประกาศห้ามไม่ให้ใครไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก กำชับกับผมให้ ตั้งสติ เธอจุมพิตหน้าผากผมก่อนส่งเข้านอน…
…
เทียบดับ..เลลาห์ออกจากห้อง
เท่านั้นแหละ เจ้าเอลลี่กลิ้งจากเตียงข้างๆมากระแทก มันกระซฺิบ“นี่ นากัล เล่ามาละเอียดๆสิ”
ผมเลิกคิ้วใส่เจ้าเอลลี่ พูดเนือยๆ “เจ้าไม่ชอบท่านเซอซัสไม่ใช่หรอ”
เอลลี่แยกเขี้ยว “เล่ามาเถอะหน่า! ข้าอุตสาห์จะช่วยนะ นากัล!”
“แน่ใจนะ?” ผมยังไม่มั่นใจ แต่นี้คือเอลลี่ เพื่อนสนิทของผมในวังแห่งนี้ ผมสูดหายใจ ชะเง้อมองแฝด เจ้าพวกนั้นคงทะเลาะจนหลับไปแล้ว
“ข้าจูบกับท่านเซอซัสแหละ…”
ตานกฮูกของเอลลี่เบ่งถลนออกมา เขายิ้ม “ที่ไหน? ตอนไหน?!”
“ไม่บอก…”
“นากัล!! ” เอลลี่ทำท่าจะฆ่าผม
“เอลลี่! ถ้าเจ้าอยากจะช่วยข้าจริงๆ ข้าขอไม่ตอบคำถามพวกนี้ได้มั๊ยนะ ขอร้องล่ะ..”ผมไม่อยากพูดว่าผมแอบหนีไปสนามฝึกจริงๆฮะ เดี๋ยวโดนจับตา แล้วจะอดหนีไปอีกง่ะ
เอลลี่ยึกยักอยู่แปปนึง“ก็ได้… งั้น…นายทำอะไรมากกว่านั่นรึเปล่า?”
ผมส่ายหัว
“แค่จูบเดียวเนี่ยนะ???”
“อืม…ไม่สิ สองครั้ง เขาจูบข้าก่อน แล้วเมื้อกี้ข้าจูบเขา”
เอลลี่หรี่ตา อมยิ้มแก้มตุ่ยใส่ผม เหมือนกำชัยชนะ “ฮ่าๆ นากัล เจ้าชอบคนง่ายกว่าข้าอีกแหน่ะะะะะ ~ ~”
“ ไม่ใช่นะ!!” ผมปาผ้าห่มครอบหัวเอลลี่ เจ้านั่นทุลักทุเลออกมา
“เจ้าบ้า จะปาทำใมเล่า!”
“ขอโทษ” ผมพูดเสียงเอื่อย ยังรู้สึกเศร้าๆในหน้าอกฮะ ผมมองเพดาน
“แต่ท่านเซอซัสไม่เหมือนใครเลยจริงๆนะ …ข้านึกถึงคนที่เป็นแบบท่านเซอซัสไม่ออกเลย”
เอลลี่แกล้งทำท่าหาว เจ้านั่นเขยิบหมอนมาฟัง
“เดี๋ยวเจ้าอยู่กับท่านบาลิธไปนานๆก็เบื่อเซอซัสเองอ่ะแหละ”
ผมเม้มปาก ขมวดคิ้ว “ไม่อะ…ข้าชอบท่านเซอซัสมากเลย ท่านมีอะไรแปลกๆ มีความลับอะ”
“ความลับ? ทำใมต้องชอบคนที่มีความลับด้วยล่า?? ไม่เห็นดีเลย”
“ก็ ..ข้าไม่เคยเจอใครมีความลับเลย…” ผมพูดพลางคิด
ลูกค้า หรือ พวกผู้ชายโตๆอะ ก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ ชอบให้เด็กๆยุ่งกับไอ้นั่น จะใจดีถ้าได้ผลประโยชน์บางอย่าง แต่จะดุถ้าผมไม่ทำตาม เหมือนมาดาม เหมือนมิลล์ เหมือนลูกค้า เหมือนท่านอ้วน เหมือนชายตาบอด และ ทุกคนในงานคัดเลือก
พวกผู้ใหญ่ มีจุดประสงค์ ที่ดูง่ายเสมอ…. แต่ จุดประสงค์ของท่านเซอซัส- -
… ผมเดาไม่ถูกเลยฮะ
“คร่อก~”
เจ้าเอลลี่หลับไปแล้ว
“เอลลี่!!หลับแล้วอะ!! อย่ามาเบียดข้านะ…กลิ้งไปเลย นี่แหน่ะ!” ผมดันเจ้าน้องเล็กออก มันไม่ขยับเลย เจ้าพุงกลมเอ้ย!…เอลลี่หุ่นเหมือนเด็กทารกอะฮะ พุงกลมๆ ขาสั้น…ผมเลิกหุ่นแบบนี้ตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว
ผมกำลังขาเรียวขึ้น เอวคอดลง…จะสูงขึ้นด้วยรึเปล่าน๊าา
ผมดันเอลลี่ออกไปสำเร็จ
ม้วนผ้าห่มรอบตัวเองสองตลบ นอนตาแดง สูดขี้มูก..นึกถึงท่านเซอซัสต่อไปจนหลับ
/////////////////////////////////
สองวันผ่านไปแล้ว…
เช้ามืดวันพุธ ผมตื่นมาในห้องท่านบาลิธ…เมื่อคืนผมเหนื่อยจนผล็อยหลับไป
เมื่อวานมีอาคันตุกะ เข้ามาคุยงานกับท่านบาลิธ เรื่องเส้นทางการเดินเรือ กับ กรีก…ท่านดูเพลียๆไป หลังคุยเสร็จ ผมนวดให้ท่าน ท่านหอมแก้มผมแล้วบอกให้ไปเตรียมน้ำซะ
ตอนผมเดินเข้าห้องน้ำ ผมแอบได้ยินเสียง…เสียงสะอื้นเบาๆ ของผู้ชาย ผมไม่ได้หันไปดูว่าท่านร้องให้รึเปล่า เพราะกำลังก้มหน้าเตรียมอ่าง…
พอท่านเข้ามา ท่านก็ขยำหัวผม …ดึงผมลงไปในอ่างอย่างรวดเร็ว ซักพักนึงถึงสอดใส่สำเร็จ ผมแน่นท้องน้อยมากๆเลยตอนนั้น ท่านทำอยู่นานมาก ราวกับอดอยาก…พอผมปลดปล่อย ท่านก็อุ้มออกมาทำต่อที่เตียง ห้องเปียกน้ำเป็นทางยาวเลย
ผมหนาวสั่น ตอนที่กระเถิบตัวออกจากเตียง…เช้านี้ เสียงนกพิราบเด็ก ร้องจิ๊บแหลมๆ นอกระเบียง
ท่านบาลิธบอกว่า มันชื่อนากัล…
.. .
อ๋า…แต่ผมไม่อยากเป็นนกพิราบนี่หน่า
ผมเดินไปเอาเสื้อท่านบาลิธมาสวมกันหนาว ก่อนจะเกาะหน้าต่าง มองกรงนก
“จิ๊บ จิ๊บ!”
“หวัดดี นากัล” ผมทักทาย ยิ้มๆ
… น่ารักจริงๆเลยน๊า นกน้อยนากัลเนี่ย…
“เฮ้อ…” ถ้าท่านเซอซัสว่าผมน่ารักแบบนี้บ้างก็ดีสิ
ช่วงนี้ผมถอนหายใจบ่อยจัง เหมือนพวกผู้ใหญ่น่าเบื่ออออเลย แอะ!
ผมจำได้ว่าวันนี้ต้องออกเดินทางไปงานล่าสิงโต เมื่อวานเลลาห์และเด็กสนมทุกคนจัดของกันวุ่นวาย พวกคนงานเดินเข้าออกวังเป็นว่าเล่น เพราะต้องเตรียมขน เครื่องใช้ เสบียงต่างๆ สำหรับ สามวันเต็ม
เราจะขึ้นรถม้าตอนอาทิตย์ขึ้น ออกเดินทางจาก บาบิโลน ไป นคร ด้วยม้า จะมีพลทหารติดตาม และ ชาวบ้านออกมาส่งเสด็จ…
ที่สำคัญ ไม่มีใครในหอพูดเรื่องท่านเซอซัสอีก เพราะเลลาห์กำชับไว้ เอลลี่หายไปกับท่านดันชิทั้งคืน แฝดก็มัวแต่ซ้อมดาบ ท่านอะดัทรับสั่งให้สองคนนั้น แสดงดาบ หน้ากษัตริย์เนบูนิดัส คืนล่าสิงโต…
“อรุณสวัสดิ์ นากัล” เสียงนุ่มๆของท่านบาลิธ พร้อมกับวงแขนโอบใหล่
“นากัล ทักทายนากัลแล้วรึยัง” ท่านยิ้มกว้าง เคาะกรงนก
“ฮ่ะๆๆๆ ทักทายแล้วฮะ”
เจ้านากัลร้องจิ้บดังอีก ผมหัวเราะตอนท่านโดนมันจิกนิ้ว
“ขออภัยเพคะ ฝ่าบาท…คนงานมาขนเครื่องใช้เพคะ” เมยาย่องเข้ามา โค้งต่ำ “รถม้าและขบวนองค์รักษ์ พร้อมแล้วเพคะ”
“เนนันตาร์ลงมาแล้วหรอ?”
“ยังเพคะ” ท่านบาลิธถอนหายใจ
“ท่านพ่อล่ะ?”
“ฝ่าบาทเนบูนิดัสกำลังเสวยอาหารเช้าอยู่เพคะ…จะลงไปอีกไม่กี่นาทีเพคะ”
“งั้นเราควรล่วงหน้าไปก่อน รีบเลย นากัล..ขบวณพวกเราต้องออกก่อนท่านพ่อ”
พอท่านบาลิธและผมทานอาหารเสร็จ เสียงแตรลั่น น่ารำคาญก็เป็นตัวต้อนรับ
ตอนที่ลงมาทางบันใดฝั่งขวา
ผมถูกเมยาจูงลาก ตามกลุ่มคนที่รับใช้ท่านบาลิธ ท่านเดินเด่นอยู่ข้างหน้า พอออกมาเดินข้างนอกแบบนี้กับท่าน ผมรู้สึกถึงบรรยากาศอันนิ่งสงบรอบตัวท่านบาลิธ…สง่างามจังเลย
พอมาถึงประตูใหญ่ ผมก็เห็นพวกสนมแต่งตัวกันจัดสุดๆ วิ่งผ่านหน้าไปเป็นฝูง…พูดเสียงดังสนั่น แล้วในนั้นผมก็เห็นคนบางคน
เคอร์เดินบิดก้นอยู่ท่ามกลางเด็กชาย และ เด็กสาว นับสิบ ผมสีส้มทอประกาย เคอร์มีขนนกอยู่ล้านอันบนตัว มงกุฎดอกไม้ใหญ่กว่าหน้าของเขา แล้วเขาก็หันไปคุยกับเด็กผู้ชายอีกคน ท่าทางออกรสฮะ
ผมเห็นเมยาศอกสีข้างเด็กสาวคนนึง เธอกัดฟันพูด “สนมท่านเนนันตาร์..”
ระหว่างเราเดินออกประตูใหญ่ เคอร์ก็กรี้ดขึ้นมา
“ข้าจะเป็นคนรับดอกไม้จากชาวบ้านเอง!!”
“ไม่ ข้าต่างหาก เจ้าตัวเตี้ย”
“แกว่าใคร ไอ้ทุเรส!!”
ดูเหมือนเคอร์จะนิสัยเสียกว่าเก่าแฮะ ...
“จุ้ๆๆๆ ฝ่าบาทบาลิธเดินอยู่ข้างหลังนะ” พี่ใหญ่รีบเตือน พวกสนมรีบหันมาก้มหัวให้ท่านบาลิธกันใหญ่ ท่านยกมือไม่เป็นไร ทุกคนหยุดให้ท่านนำไปก่อน
และตอนกำลังจะแยกขบวณหน้าประตู เคอร์หันมาเห็นผม
“อุ้ย! เจ้ายิวไปด้วย”
ผมชะงัก
สายตาสนมนับสิบจ้องมองหัวจรดเท้า ความรู้สึกที่เพิงมาดามจุกในช่องท้อง
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” สนมเนนันตาร์คนอื่นๆหัวเราะร่วน เมยากระตุกแขนเสื้อ ผมแลบลิ้นใส่พวกบ้า ก่อนจะเดินออกไป
“ระวังไว้นะ เจ้ายิว” พวกเขาตะโกนตามหลังมา
“ขนจู๋ขึ้นรึยังจ้ะ ไอ้หนู” แม้แต่คนงานชายของท่านเนนันตาร์ ก็พูดจาน่าเกลียดต่อหน้าคนเยอะแยะได้หรอเนี่ย??
เป็นพวกน่าขยะแขยงที่สุดเลยฮะ
…
.
พวกเรามาถึงรถม้า ข้างๆคือกำแพงสูง ถนนสีขาวสะอาดทอดตัวยาว ตัดผ่านประตูอิชตาร์ เสียงแตรดังขึ้นพร้อมเสียงสรรเสริญจากประชาชนข้างนอก
“ฝ่าบาทรับสั่งให้เจ้านั่งรถม้าด้วย” เมยากล่าว วางมงกุฎดอกไม้บนหัวผม ผมเหยียบบันใดขึ้นไป รถม้านี้มีล้อที่สูงมาก สูงกว่าผมอีก…ประตูไม้เปิดออก ท่านบาลิธดึงแขนผมขึ้น
“ฮึบ!” ผมยิ้มแฉ่ง ตอนนั่งบนเบาะนิ่ม
“เซอซัสล่ะ?” ท่านบาลิธชะโงกหน้า ถามเมยา
ผมเห็นพวกทหารขี่ม้าอยู่ด้านหน้าเราเต็มเลย…เมยากำลังจะตอบ แต่มีเสียงม้าร้องฮี่!ดังมาจากด้านหลัง ท่านเซอซัสโผล่มาอย่างรวดเร็ว ผมสีดำสบัด ร่างใหญ่ของเขา เกร็งเห็นมัดกล้ามตอนดึงม้าให้หยุด
“ขออภัย ฝ่าบาท!” เขาพูดลวกๆ ก่อนจะกระโดดลงจากม้า ใช้ดาบฝาดกลางหลังนายทหารข้างหน้าดัง แอ่ก! …นายทหารทำท่างกเง่ิน รับสายม้าของเขาไป
ท่านเซอซัสกระโดดขึ้น ทำให้ทั้งรถสะเทือน!! ผมต้องท้าวขอบหน้าต่าง ตอนเขานั่งตึง! ตรงข้ามผม
ท่านบาลิธหัวเราะพรืด
“ออกขบวณได้” คนงานปิดประตูพลางกล่าว ขบวณแล่นออกไปพร้อมเสียงดนตรี
เกิดความเงียบมากคั้นกลาง…ผมก้มหน้า ตัวแข็ง จนท่านบาลิธสังเกตุ
“นากัล คอยรับดอกไม้จากชาวบ้านด้วยนะ…” ท่านเข้ามาโอบ “เป็นอะไร ก้มหน้านิ่งเชียว”
ผมหันมาสบตาท่านบาลิธใกล้ๆ ท่านหอมแก้มผม ดันให้ไปที่หน้าต่าง ผมทำตามอย่างว่าง่าย
แอบเหลือบตาไปมองท่านเซอซัสตรงข้ามแว้บเดียว…
ยักษ์เซอซัสกำลังยิ้มเจ้าเล่ห์ไปนอกหน้าต่างเหมือนกัน สายตาคมเหมือนคิดอะไรตลกๆอยู่ …อึ้ย!! เขาสบตาผมอะ ยิ้มมุมปาก ผมเบนหน้าหนีทันที
ชาวบ้านกำลังโห่ร้องสรรเสริญ เมื่อพ้นประตูอิชตาร์ ผู้คนล้นแน่นตามทางเดิน สวมเสื้อผ้าดูสะอาดตา โรยกลีบดอกไม้ ปลิวเข้ามา “เทพโปรดคุ้มครองพระองค์ !!ทรงพระเจริญ! ” เสียงสรรเสริญแซงแซ่ ท่านบาลิธนั่งสงบอยู่ข้างหลัง
มีคนวิ่งตามรถม้า เขายื่นดอกไวโอเล็ตใส่หน้าผม ตะโกนอวยพร ผมคว้าไว้ทันที
“ดีมาก นากัล อ่ะ ช่อนู้นด้วย รับมาเลย…”
ผมไม่มีสมาธิเลยฮะ งือ…ผมร้องให้เรื่องท่านเซอซัสเมื่อวันก่อน แล้วตอนนี้เขาก็กำลังนั่งอมยิ้มตรงหน้า คืนนั้น ผมเห็นเขาพ่นเหล้าใส่รูปภาพ กษัตริย์บาบิโลน…เขาจะเป็นพวกกบฎเหมือนพี่รึเปล่า?? ทำใมเขาถึงทำแบบนั้น?? ถ้าท่านเซอซัสคิดเหมือนพี่โจมาร์…. พี่ต้องอยากคุยกับเขามากแน่ๆ
“ฝ่าบาท…” เซอซัสเอ่ยเรียบๆ “กระหม่อมเชื่อว่า งานล่าสิงโตหนนี้ อันตรายกว่าที่เคยเป็น”
“ทำใมเจ้าว่างั้นล่ะ?”
“เดือนนี้” เขาปลดมีดพก สอดไว้ใต้เก้าอี้ “สิงโตคลอดลูก…จะดุร้ายเป็นพิเศษ ที่สำคัญทุ่งซูซาร์ โดนปล่อยรกร้างมาก พวกโจรป่าก็อพยพไปตอนหน้าแล้ง…ยังไม่มีใครกลับมาล่าสัตว์”
ท่านบาลิธสีหน้าครุ่นคิด “อืม…เราจะเป็นกลุ่มแรกของปีใช่ไหม?”
ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่าน๊า พอคุยกันสองคนแบบี้ ท่านบาลิธกับท่านเซอซัสไม่เหมือนเจ้านายกับบ่าวเลย แล้วท่านเซอซัสก็พูดแบบไม่ค่อยนอบน้อมด้วย
“ถูกครับ…” ท่านเซอซัส ดึงขวดน้ำจากเข็มขัดมาดื่ม “ฝ่าบาท อาคันตุกะจากรีกเมื่อวันก่อนว่าไงบ้าง…”
ท่านบาลิธจ้องเซอซัสแปลกๆ ก่อนจะส่ายหน้า ยักษ์เซอซัสมองหน้าผม ร้อง อ่อในลำคอ ก่อนจะหยุดดื่มน้ำ และไม่ได้พูดอะไรต่อ…
พวกเขาไม่อยากให้ผมฟังหรอฮะ???
“เนี่ย!” ท่านเซอซัสชี้ขวดน้ำมาที่ผม “ท่านว่าคุ้มทองคำขาวมั๊ย?”
“นากัลเป็นเด็กดี” ท่านตอบเรียบๆ
“ฝ่าบาทไม่มีคำบรรยายลักษณะอื่นแล้วหรือไงพะยะค่ะ? เด็กดีแม่งเกี่ยวอะไรกับเรื่องบนเตียงวะ? พ่ะค่ะ”
ผมสะดุ้งที่เซอซัสพ่นคำหยาบด้วย แต่…
“ฮ่าๆๆๆ…เซอซัส” ท่านบาลิธขำใหญ่เลย “- - ฮ่าๆๆๆ”
“ทรงพอพระทัยมากสิ พะ..ยะ..ค่ะ” เขาเน้นคำหลังแบบถากถาง ท่านบาลิธขำขึ้นอีก
ผมไม่เคยเห็นท่านบาลิธขำขนาดนี้มาก่อนเลย ไม่น่าเชื่อที่สุดฮะ…
“ เซอซัส…เจ้าสมเป็นทหารจรจัดมาก่อนจริงๆ ข้าไม่อยากเชื่อ ว่าในกองทัพเครียดๆของบาบิโลน จะมีคนแบบเจ้าเป็นแม่ทัพ… ฮ่าๆๆ”
เขาเป็นทหารจรจัดมาก่อนเหรอ?? ถึงว่า ทุกคนจึงไม่รู้ที่มา
“หามิได้…ฝ่าบาท พระองค์ทรงโปรดมุขหยาบคายเยี่ยงนี้ล่ะ นากัล”
“นี่ล่ะ องค์รักษ์ข้า เซอซัส..ตอนข้าล่าสิงโต ก็เกาะติดเขาไว้นะ” ท่านบาลิธหัวเราะร่วน ก้มมาพูดกับผม “ถ้าเจ้าชอบคนเถื่อน เจ้าก็ต้องชอบไอ้นี่ล่ะ นากัล”
ผมยิ้มบางๆให้ท่านบาลิธ
ผมสะอึกนิดหน่อยกับคำพูดของท่าน
ผมรู้ว่าท่านบาลิธไม่ได้หมายความว่าให้ “ชอบ” เซอซัสแบบนั้น
รถม้าเคลื่อนกุกกัก คงเริ่มออกจากย่านเจริญแล้ว
ผมไม่รู้ว่าจะเจออะไรที่งานล่าสิงโตบ้าง แต่รู้อย่างหนึ่งคือ ตอนที่ท่านเซอซัสบอกว่าจะไม่ยุ่งกับผมอีกแล้ว…รอบนี้ เขาทำไม่ได้แน่ๆ
///////////////////////////////////////////
ตอนหน้า @ทุ่งซูซาร์
ชีวิตนากัลกับการเป็นสนมจะอันตรายขึ้น
จะก้าวไประดับไหน ต้องติดตามค่าาาา
และ ขอบคุณท่านผู้อ่านเป็นที่สุดดดดดดดดดด ในโลกกกกหล้าาาา รักคนอ่านนนนมากกกกกกกกกกก
-cloud9