ตอนที่ 23
ความรู้สึกอุ่นแผ่ซ่านไปถึงกระดูกสันหลัง ผมยืนอ้าปากไม่พูดจาอยู่ตรงนั้น
กิลคือ…น้องชายของพี่โจมาร์
“พี่…?” เสียงผมเบาราวกระซิบ
“ใช่ ข้าเพิ่งถูกเกณฑ์เข้ามาทำงาน… ” เด็กหนุ่มตอบ ฉีกยิ้ม “ยินดีที่ได้พบนะ นากัล..”
“ด..เดี๋ยว.. แล้วเจ้ารู้ได้ไงว่าเป็นข้า”
“ฮะๆ” กิลหัวเราะ จะว่าไป หน้าตาเขาก็คล้ายพี่มาก เพียงแต่ดูซุกซนกว่า ผมสีดำขลับยุ่งเหยิง มีคราบดินติดตามท้ายทอย
“มีเด็กยิวผมทองกี่คนในวังกันล่ะ นากัล…พอเจ้าเดินลงมาข้าก็รู้เลย”
“แล้วพี่เป็นยังไงบ้าง?” ผมรู้สึกแปลกจังเลยฮะ ผมไม่ได้พูดถึงเรื่อง ชีวิตนอกวังกับใครเลยตั้งแต่เข้ามาที่นี้…มีแค่ท่านเซอซัสเท่านั้นที่รู้ว่าผมเป็นโสเภนี แล้วก็ไม่มีใครถามถึงอดีต เหมือนทุกคนจะตั้งใจอยู่กับปัจจุบันกันเหลือเกิน
“ไม่ต้องห่วง เขาฝากให้บอกเจ้าแบบนี้ …”
“แล้วทำใมข้าไม่เคยเจอเจ้าแถวท่าเรือมาก่อนเลยล่ะ”
“เราแยกกันทำงานน่ะ ข้าช่วยแม่ค้าขายหมูในตลาดเมือง”
“ข้าอยากเจอเขาอีกจัง” ผมบอกกิลเศร้าๆ ผมนึกภาพพี่โจมาร์กำลังชักกระโดงเรือ ลมทะเลพัดทุกอย่างไสว …ผมคิดถึงกลิ่นปลาที่ฝังอยู่ในเสื้อของพี่ รูปร่างสูงโปร่งของพี่
“เขาบอกว่า ข้ากับเจ้าจะได้เจอเขาอีกไม่นานนักหรอก” ใบหน้าคล้ายคลึงพี่โจมาร์พูด
ผมชะงัก
“เจ้าพูดจริงหรอ?? ต้องทำยังไงล่ะ” ผมร้อง
มีเสียงเลลาห์ตะโกนมา “ได้แจกันแล้วนากัล มาช่วยขนหน่อยเร็ว”
“ผมเองขอรับ” กิลพรวดตัดหน้าผม เดินฉับๆไปหาเลลาห์ เขาตัวสูงเท่าเลลาห์เลยทั้งๆที่อายุน้อยกว่า
“อ้ะ ดีจริง…งั้นนากัลถือดอกไม้นะ ”
เลลาห์ให้ผมหอบช่อดอกไวโอเล็ต กิลหอบแจกัน พวกเราเดินตามเธอออกมา เข้าอุโมงค์
ผมหันไปซักกิลอีก
“…ข้าจะเจอพี่อีกได้ยังไง” ผมกระซิบ
กิลภายใต้แสงคบเพลิงในอุโมงค์ เหมือนพี่โจมาร์อย่างน่าประหลาด
กิลมองแผ่นหลังของเลลาห์ ชะลอฝี่เท้าลง กระซิบใส่ผม “คืนพรุ่งนี้ตอนนี้คาบหนึ่ง แอบมาเจอข้าหน้าอุโมงค์ เจ้ามีบางอย่างที่ต้องรู้”
กิลผละออกไป เราสาวเท้าต่อ
“แต่ว่า- -”
“จุ จุ…” แววตาของกิลบอกผมว่า อย่าเพิ่งพูด ผมได้แต่ขมวดคิ้ว ส่ายหน้า
“ข้ามาไม่ได้- -”
“ข้าขอร้องล่ะ นากัล” กิลบอก แล้วอยู่ๆเขาก็อุ้มแจกันด้วยมืออีกข้าง ถกแขนเสื้อตัวเองขึ้น
แผลฮะ…
รอยแผลเป็นที่แขน แบบเดียวกับของผม รอยกรีด…
“ได้โปรด…”
“นี่เธอ…” เลลาห์หันขวับมา จ้องกิล “ ต้องให้ฉันร่ายกฎใหม?? สนมของพระ- -”
“ขอโทษจริงๆขอรับ” กิลก้มหัว แบกแจกันคั่นระหว่างผมกับเขา ผมถูกเลลาห์ลากไปเดินข้างๆ
===============
น้องชายพี่โจมาร์ มีรอยแผลแบบเดียวกับของผม?? ท่านเซอซัสเป็นคนทำหรอ? ท่านทำแบบนี้กับเด็กทุกคนรึเปล่า? ไม่ใช่หรอก…นากัล สนมคนอื่นๆก็ไม่มีหนิ่
ทำใมกิลถึงอวดรอยแผลนั่น แล้วก็ทำท่าขอร้องผมแบบนั้น
คืนพรุ่งนี้ ตอนกลางดึก….ผมต้องเจออะไรอันตรายอีกแล้วแน่เลย
ผมคิดแล้วเสียวสันหลัง
ไม่เอาหรอก…ผมไม่กล้าดอดไปคนเดียว
ผมควรจะบอกใครซักคน
ผมควรจะบอกท่านเซอซัส?
เรื่องแผลท่านก็ไม่ได้ตอบผมเลยน๊า…ท่านเซอซัสอะ ผมคิด ทำแก้มป่อง
แต่ไอ้แผลนั้นมันต้องมีความหมายอะไรซักอย่างแน่ๆ มันต้องสำคัญมากๆ
ท่านเซอซัส… แต่ผมไม่อยากให้ท่านรู้เรื่องพี่โจมาร์นี่หน่า งื้อ…ทำไงดี ทำไงดี
“เป็นอะไร นากัล นอนขมวดคิ้วใหญ่เชียว” ท่านบาลิธทอดสายตามาจากโต๊ะเขียนหนังสือ ผมนอนแผ่อยู่บนเตียง ห่มผ้านวมถึงคาง
“ป่าวฮะ ท่านบาลิธ” ผมกดกลางหน้าผากตัวเองย้ำๆ
“อยากออกไปเดินข้างนอกมั๊ย?”
“อะไรนะฮะ ?” ผมเด้งตัวลุกขึ้น ตอนนี้ก็ดึกแล้ว พวกขบวณกษัตริย์กลับมาท่านอาหารค่ำ แล้วประชาชนทั่วเมืองฉลอง เพราะเขาป่าวประกาศเรื่องสิงโต
“ข้าต้องทำงานให้เสร็จ กว่าจะเสร็จคงอีกนาน ถ้าเจ้าเบื่อก็ออกไปเดินเล่นแถวนี้ก่อนสิ สุดทางเดินฝั่งขวามีระเบียงที่กว้างที่สุดของวัง เจ้าจะได้ดูเมืองวันฉลอง”
ผมลุกขึ้นจากเตียง ร่างเปลือยเปล่า เดินเข้าไปหาท่านบาลิธ
ท่านหันมาเลิกคิ้วสงสัย ผมกระโจนกอดท่านหมับ
“ขอบคุณนะฮะ” ผมยิ้มร่า “เดี๋ยวผมกลับมานะฮะ”
ท่านหัวเราะพลางลูบหลัง “ตกลง… นากัล ใส่เสื้อหนาๆด้วยนะ อากาศเย็นแล้ว ไปค้นเอาในตู้น่ะ ปะ…” ท่านบาลิธหอมหน้าผาก และจุมพิตที่ปากผมทีนึง
อยู่ๆความคิดเรื่อง อโดนิสก็แว๊บเข้ามา… ตอนนั้นท่านบาลิธจะทำแบบนี้รึเปล่าน๊า?
ผมเดินไปเอาเสื้อมาสวม ยิ้มให้ท่านแล้วเดินออกจากห้องไป
คงไม่หรอกมั๊ง ผมคิด ตอนนั้นทั้งสองคนเป็นเด็กทั่งคู่นี่หน่่า…เท่าผมกับชาทรัช
แหวะ !!…ถ้าให้นอนกับเจ้าชาทรัช สู้ไปให้สิงโตกินยังดีกว่า
ผมคิดระหว่างเดินทรงตัว ให้อยู่ในเส้นพรมไปเรื่อยๆ บนโถงระเบียง ที่ทหารเฝ้ายามอยู่เงียบๆ ตอนที่ผมผ่าน
ว่าแต่ อโดนิสตายเพราะอะไรน่ะสิ สงสัยฮะ..
ผมเดินมาเห็นปากประตูกว้าง ออกสู่ระเบียงหินอ่อนขนาดใหญ่ มีเสียงประทัดจากที่ไกลๆ แล้วก็เสียงดนตรี
ผมวิ่งแจ้นออกไป ก่อนจะชะลอลงเพราะได้ยินเสียงไม่เข้ากับบรรยากาศ
“อืม…อืม..อย่างงั้นแหละ ”
“อีร่านเอ้ย กระชากหัวขึ้นมาสิ”
ถ้าจำไม่ผิด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมบังเอิญเดินมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ตอนดึก แล้วครั้งนี้ก็เป็นคนเดิมๆ ซึ่งก็มีเคอร์ ทหารแดสผู้หยาบคายคนนั้น แต่ครั้งนี้น่าตกใจมากฮะ เพราะว่า มีท่าน เนนันตาร์อยู่ตรงนั้นด้วย
นายทหารเดสยืนพิงระเบียงดอกไม้ วิวท้องฟ้าด้านหลัง เคอร์กำลังอยู่ในท่าคลาน ท่านเนนันตาร์สอดใส่เขา ขยับอย่างรุนแรง ทหารเดสย่อเข่าลงมา ดึงผมเคอร์ให้เขาเงยหน้าขึ้น เอาไอ้จ้อนผลุบเข้าริมฝีปาก
ผมยืนนิ่ง ธ่อ…ผมอยากดูไฟเมืองซะหน่อย แต่ถ้าตรงนี้ไม่ว่าง ผมก็ไปวิ่งเล่นตรงอื่นก็ได้
“อ๊าา…แรงๆครับ…โอ้ย โอ้ย! จะออกแล้ว”
เคอร์ดูไม่ได้ขัดขืนเหมือนครั้งนั้น สีหน้าเขาเปี่ยมสุข ร้องครวญคราง มือข้างหนึ่งจิกต้นขานายทหารเดส มืออีกข้างก็เล่นไอ้จ้อนตัวเอง แต่ผมไม่ใช่พวกถ้ำมองซะหน่อยนะ…
“อื้มมมมม!!! ข้าจะปล่อยเข้าไปแล้วนะ เคอร์”
“ดูดแรงๆสิ โอ้วว…โอ้”
“อ๊าาา…”
เสียงประทัดดีงอีกลูก ผมถอยไปหนึ่งก้าว ท่านเนนันตาร์อนุญาติให้องค์รักษ์มามีอะไรกับสนมด้วยแบบนี้เลยแฮะ
ผมหมุนตัวกำลังจะเดินกลับ
“เฮ้ นากัล!!”
สันหลังชาวาบ
“ข้ารู้แล้วว่าเจ้าอยู่ตรงนั้น ไม่ต้องคิดหนีหรอก” เสียงสยองๆของท่านเนนันตาร์
=================================
ครึ่งหลังมาต่อพรุ่งนี้นะคะ วันนี้นอนละค้าา
รักคนอ่านนที่ซู้ดดดเลยยย จุ้ฟๆๆๆ กอดๆๆๆ อิอิอิ
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงสำหรับกำลังใจค่า