มาต่อแล้วจ้า
ใครคือพระเอกต้องลุ้นไปพร้อมๆกับนากัลค่า
แต่ชีวิตนากัลเค้าเจอหนุ่มๆเยอะนา อิอิ
ตอนที่
8
ห้องโถงเกือบทำให้ผมลื่นล้ม ห้องนี้เป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า พื้นหินเป็นมันๆลื่นๆ มีเสาหินสีชมพูอ่อนเรียงราย
เด็กทุกคนงัวเงียนั่งลงบนโต๊ะไม้ตัวใหญ่ เคอร์กระแทกตัวเองกับเก้าอี้ คว้าใบมินต์ซึ่งวางกองในชามเงิน มาใส่ปาก กอดอกหน้าบึ้ง
“เอาล่ะ ที่เรียกออกมาตอนเช้า เพราะมีเรื่องจะประกาศ…”
ผมเดิน ไปถึงเก้่าอี้เป็นคนสุดท้าย
“นั่นไงมาแล้ว…นี่คือ เพื่อนใหม่ของเรา…นากัล ใช่มั๊ย? เซอซัสเป็นคนบอกฉัน”
ผมพยักหน้า นั่งลงอย่างเชื่องช้า เขินจังฮะตอนที่ทุกคนมอง ทุกคนหน้าตาดีกันจัง ผิวขาว ดูสะอาดสะอ้าน ไม่เหมือนเพื่อนๆที่ผมจากมาซักนิด ที่สำคัญ ผู้หญิงวัยรุ่นคนนี้ ก็ไม่ได้แก่อย่างที่ผมคิดเลย เธออายุประมาณมิลล์ด้วยซ้ำ แต่คนละแบบเลย ท่าทางเธอดูสง่างามมาก
“ฉันชื่อเลลาห์ เป็นพี่เลี้ยงของพวกเจ้า” เธอบอกผม “…ฉันต้องการให้ พวกเจ้าทั้งสี่คน ช่วยเตือน บอกนากัล เรื่องต่างๆ โดยเฉพาะตารางเวลาของวัน…สนิทกันไว้น่ะ เข้าใจนะ? ”
เคอร์บิดขี้เกียจดังอึ้ยยาวๆ “หมดแล้วใช่มั๊ย? ” ตอนแรกผมคิดว่าเคอร์เป็นผู้หญิงด้วยซ้ำ ผมสีส้มอ่อนๆ กับ ตาสีเขียว เคอร์ก็คงไม่ใช่คนท้องถิ่นเหมือนกันใช่ไหม? เขาเป็นเหมือนผมรึเปล่า? แต่เขาชอบทำหน้าแบบ เหม็นอะไรซักอย่างแหละ ย่นจมูก แบะปาก…เขาไม่น่าทำแบบนั่นเลย
“ยังไม่หมด ฉันต้องการให้พวกเธอแนะนำตัวเองกับนากัล…เดี๋ยวนี้เลย”
เคอร์กลอกตา พูดไปมองเล็บตัวเองไป “หวัดดี….นา…กัล…แรกๆก็เจ็บมากๆเลยล่ะ หลังจากนั่นก็จะระบมอยู่เป็นอาทิตย์ แต่ฉันเชื่อว่- -”
“พอเลย” เลลาห์ตีใหล่เคอร์ มองมาที่ผม “นี่คือไอ้ตัวแสบ รับใช้ท่าน เนนันตาร์” เธอตีหลังมือเคอร์ ที่ทำท่าจะเถียง
“ส่วนนั่น บากีส บากอส ฝาแฝด บากีสผมสั้น บากอสผมยาว คงจำได้นะ”
“สวัสดี นากัล” แฝดยิ้มกว้างให้ผม “..อยู่เตียงข้างกันนี่เนอะ”
ผมยิงฟันให้ “ฮะ” แฝดดูใจดีจัง
“เรารับใช้ท่านอะดัท”
“อื้ม แล้วนี่ ” เลลาห์เสริม “เอลลี่ น้องเล็กสุดของเรา รับใช้ทั้ง - -เอ่อ จริงๆคือ ทั้งสองพระองค์ ยังไม่มีข้อสรุปแน่นอน - -”
“เรียกว่ารุมทึ้งน่ะ…สนุกมั๊ยล่ะ เอลลี่ ฮ่าๆๆๆๆๆ” เคอร์หัวเราะแหลม
เอลลี่ตัวเล็กกว่าผม ผมสีน้ำตาลอ่อน ใบหน้าเหมือนเด็กอ่อน เขาคุดขู่อยู่บนโต๊ะ งอตัวเองให้เล็กกว่าเดิม ตอนแนะนำตัว เขาก็หันมายิ้มบางๆให้ผม บุคลิคแบบนี้ ดูคล้ายเพื่อนๆที่เพิงมาดามแฮะ
“แต่ก็จะ สรุปได้ไม่เกินวันถวายตัว!!” เลลาห์เพิ่มความดังของเสียง โน้มมาหาเอลลี่ “ไม่ต้องสนใจนะจ้ะ”
เอลลี่ทำหน้าาเศร้าๆ แต่ขานรับ
“ที่นี้ นากัล! ฟังให้ดี เอลลี่ด้วย เจ้าทั้งสองคน จะเข้าพิธีถวายตัวในวันเดียวกัน คืออีกสามวันหลังจากนี้…เอลลี่ผ่านการฝึกแล้ว มีเธอคนเดียวที่ต้อง จะถูกสอนเรื่องต่างๆในวังใหม่หมด ฉะนั้น สามวันนี้…” เธอเคาะโต๊ะ “ต้องตั้งใจอย่างมากนะ”
ผมผงกหัวหลายๆทีอย่างช่วยไม่ได้ เลลาห์เด็ดขาดเหมือนผู้ใหญ่จัง
“…เรื่องที่สามคือ วิชาดาราศาสตร์ ”
“ห้ะ?” เด็กทุกคนรอบผม ตกใจ หน้าตาอยากรู้อยากเห็นสุดๆ
เรียนหนังสือหรอ!!! ผมร้องในใจ ท่านอ้วนพูดจริงด้วย!!! ผมจะได้เรียนหนังสือ!
“- -จะไม่ได้เรียนกันทุกคน เพราะพวกเธอต้องเข้าใจนะ ยังมีสนมโตๆอีก แล้วไหนจะ กลุ่มลูกขุนนาง อาจารย์ท่านต้องการแค่กลุ่มเล็กๆด้วยซ้ำ แค่นี้ท่านก็เหนื่อยกับวิชาอักษร และ คณิตศาสตร์จะแย่อยู่แล้ว ”
“เราไม่ได้มีอาจารย์คนเดียวซะหน่อย” เด็กผมยาวดำ คนนึงร้อง
“สามคน? กับ นักเรียนโง่ๆซักสามสิบคน…ฉันเข้าใจอาจารย์แหละ แค่ดูเเล เด็กบางคนที่นี้ ก็เหนื่อยหนักแล้ว ถ้าจะต้องสอนอีกคง- -” เลลาห์พูดกึ่งหัวเราะ เหล่ตาทางเคอร์
“ข้าสละสิทธ์ !!เชิญแย่งกันเองเลย… - -ยังกะเขาจะให้ไปปกครอง ” เคอร์ลุกพรวด กระแทกเก้าอี้ใส่โต๊ะ สั่นมาถึงผม เขาก็เดินออกไป
เลลาห์ยักใหล่ ริมฝีปากเหยียดยาว “ฮะๆๆ ขอบคุณมากนะ เคอร์ที่รัก…เจ้าจะทำประโยชน์ก็เรื่องนี้แหละ”
ผมไม่เคยเห็นพวกเด็กผู้หญิง ที่มีกิริยา มั่นใจในตัวเองเท่านี้มาก่อนเลย
ผมนึกถึงแมร์รี่…เธอมักจะก้มหน้า ห่อตัว นั่งถักเปียเหี่ยวๆสองข้าง เลลาห์ก็มีเปียเหมือนกัน แต่เปียของเธอตรงยาว ดำขลับ…และ เวลาเธอหันคอ เปียก็ขยับพลิ้วราวกับหางแมงป่อง
“เอาล่ะ ที่นี้..ใครอยากเรียนดาราศาสตร์บ้าง ยกมือขึ้น”
อีกสามคนข้างผมยกมือรวด รวมถึงผมด้วย เลลาห์หัวเราะ
“เดี๋ยวนะครับ มันเกี่ยวกับอะไรอะ?” บากีสถาม
“ดวงดาวบนฟ้า การบอกเส้นทางต่างๆ การทำนายโชคชะตา”
“อ๋า วิชานั่งฟังอีกแล้วหรอ เราสองคนอยากเรียนกีฬามากกว่า” แฝดเสียงผิดหวัง มองหน้ากันบูดๆ
“พวกเจ้าก็เรียนดาบกับทหารอยู่แล้วไม่ใช่เรอะ?”
“ใช่ แต่พวกเขาไม่ยอมให้เราจับธนูเลย”
“….งั้นสรุปไม่เรียน?”
แฝดส่ายหน้า
เลลาห์ยิ้ม “ดีเลย เขาก็ให้สิทธิสนมเด็ก เรียนได้แค่ สองคน - -งั้น นากัล เอลลี่ เจ้าสองคนจะได้เรียนดาราศาสตร์นะ เรียนทุกวันพุธ คาบที่เจ็ด หลังอาหารกลางวัน”
เมื่อกี้พวกเขาเรียกว่าวันอะไรกันน่ะ? วันพุธคือวันไหน?
แต่ผมขนลุกซู่ ผมจะได้เรียนจริงๆ ไม่ว่ามันคืออะไร มันคือวิชาความรู้ ดวงดาวงั้นหรอ? ผมนึกถึงวันนั้น บนเรือกับพี่โจมาร์ มันคงจะดีถ้าได้ เอาเรื่องเรียน ไปเล่าให้พี่ฟังแน่นอนเลยเนอะ
เอลลี่กระตือรือร้นขึ้นมา “คับ …เรียนแน่นอนคับ วิชาอักษรเมื่อวานก็สนุกมากเลย”
“งั้นหรอจ้ะ ดีมากเลยนะ” เลลาห์เดินวนมา ลูบหัวเอลลี่อย่างเอ็นดู
ผมใฝ่ฝันมาตลอด ว่า ผมอยากมีพี่สาว…ตอนไปเล่นทรายกับแมร์รี่ เราจะสร้างบ้านหลังเล็กๆ แล้วผมก็จะปั้นรูป ตัวผม กับ แมร์รี่ สมมติให้ตัวเธอเป็นพี่สาวของผมในบ้านทราย แมร์รี่ทักท้วงว่า เธอไม่อยากมีน้องแบบผม เพราะผมดื้อ ผมไม่เข้าใจเลย ทำใมแมร์รี่ต้องทำตามมาดามสั่งทุกอย่าง
ถ้าเป็น เลลาห์ เธอคงไม่ยอมมาดามแน่ๆ
“เอาล่ะ ไปอาบน้ำ กินข้าวกันได้ สาวใช้เอามาเสริฟตั้งนานแล้ว…แปรงฟันกันก่อนนะ”
แฝดลุกออกจากโต๊ะ แล้ววิ่งผลักกันไปถึงโค้งประตูโบ๋ๆ มุมห้อง
เอลลี่ช้ากว่าผมนิดนึง เลลาห์เดินนำออกไปแล้ว ผมหันมาหาเขา
“นายอายุเท่าไหร่หรอ?”
“สิบเอ็ด นายล่ะ?”
“สิบสองน่ะ แต่จะสิบสามฤดูฝนแล้ว” เป็นครั้งแรก ที่ผมยิ้มพอพูดถึงอายุ
“เพิ่งมาวันแรกหรอ ?” เอลลี่ถาม
“ใช่!”
“ตอนที่เซอซัส เข้ามาน่ะ ข้าตกใจมากเลยแหละ เมื่อคืนเลลาห์ไม่อยู่…นายรู้มั๊ย ว่าเขาเป็นคนน่ากลัวมากๆ ” เขาคว้าใบมิ้นต์ ยื่นให้ผมนึงใบ
“ฮ่ะๆๆๆ นั่นสินะ ก็เขาเป็นยักษ์นี่ ” ผมแปลกใจ ที่เอลลี่ไม่เหงียมเหมือนแต่ทีแรก พอเลลาห์ออกไป เขาก็ยืดตัวตรง “ข้ารู้สึกว่าทุกคนในวังกลัวเขา…เขามีอะไรแปลกๆน่ะ เอ้ย! แต่เจ้ารู้รึยังว่า เจ้าต้องรับใช้พระองค์ใด?” เอลลี่ถาม ตาโตของเขาพองเหมือนนกฮูกเลย
“เอ่อ…ท่านชื่อ ท่านบาลิธ อะไรเนี่ยแหละ” ผมตอบ
“อ้ะ!!จริงหรอ ? ยังงี้เจ้าก็จะโดนเคอร์ - - ไม่หรอก”
“ทำใมล่ะ?” ผมสงสัย
“จริงๆ มันไม่น่าพูดหรอกนะ ก็ฝ่าบาทที่เคอร์รับใช้ ท่านเนนันตาร์อะ ไม่ถูกกับท่านบาลิธน่ะสิ”
เอลลี่กระซิบ
“งั้นหรอกหรือ พวกกษัตริย์ทะเลาะได้ด้วยหรอ” ผมแปลกใจจัง เดินไปข้างๆเอลลี่
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน…” เอลลี่ยักใหล่ ชี้ไปอีกห้อง “ไปแปรงฟันกันเถอะ จะได้กินข้าว”
แล้วผมก็ได้เพื่อนในวังคนแรก ดีใจสุดๆไปเลยฮะ
///////////////////////////////////////////////
ตอนนี้สั้นไปหน่อย
เพราะมีธุระพอดีเลย แต่จะมาต่อตอนกลางวันทันทีนะคะ
ขอบคุณคอมเม้นมากค่า รักทุกคนค่ะ