ตอนพิเศษของน้องพีร์กับเฮียแจ๊ค
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ตอนพิเศษของน้องพีร์กับเฮียแจ๊ค  (อ่าน 47535 ครั้ง)

nookkiko

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
พีใจดีเกินไปแล้วววววว

ทำโทษแทนพี  :beat:  :z6:

พีใจดีแต่แจ๊คอย่าเหลิงนะ

ปล.ไรเตอร์บอกวันที่อัพด้วยได้ไหม

เขาจะได้รู้เออไรเตอร์อัพหรือยัง

ขอบคุณครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-08-2010 21:12:10 โดย kokikung »

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
ตอนที่ 4

  พีร์ยิ้มกับหลานชายที่หลับปุ๋ยกับตุ๊กตาตัวโปรดในอ้อมอกของคนเป็นอา เขาสะท้อนใจกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ที่เขาไม่โกรธพลกฤษณ์แล้วนั้นก็เพราะว่าชายหนุ่มยอมรับผิดจริง ๆ และอีกอย่างก็เป็นเพราะว่าครั้งหนึ่งเขาก็เคยนอกใจคนรักเหมือนกัน
  หนุ่มน้อยรู้ตัวดีว่าตอนนั้นเขาเลือกไม่ถูกที่จะรักใครมากกว่ากัน และเพราะความโลเลนี้เองทำให้เขาต้องกลายเป็นคนสองใจระหว่างศิลากับศิริพจน์ แต่สุดท้าย เพราะความโชคดีของเขาที่มีคนรักแบบศิริพจน์เขาเลยเห็นคุณค่าของความรัก และการให้อภัย ว่ามันยิ่งใหญ่ต่อความเป็นคนรักมากแค่ไหน
   พีร์หัวเราะเบา ๆ เมื่อเห็นชายหนุ่มหูชาจากการโดนพ่อแม่ของเจ้าตัวต่อว่า และไหนจะพ่อแม่ของเขาที่โทรศัพท์จากหาดใหญ่ขึ้นมาต่อว่าอีก
 เขาลูบหน้าพลกฤษณ์แผ่วเบา คงจะเจ็บมาสินะที่จับมือเขาไปตบตัวเองแบบนั้น  พีร์คิดในใจ
  พีร์ไม่รู้ตัวว่าเขารักพลกฤษณ์มากเพียงใด เพราะที่ผ่านมาถึงแม้ชายหนุ่มจะบอกรักพีร์บ่อยแค่ไหน แค่พีร์ก็ทำได้แต่เพียงแค่พยักหน้าและยิ้มให้เท่านั้น
  เพราะพีร์เองก็สะดุ้งทุกครั้งที่ได้ยินคำว่ารักจากปากชายหนุ่ม เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนที่ผ่านมาเหมือนกันว่า ความรู้สึกที่มีกับพลกฤษณ์นี้มันจะเท่ากับความรักอย่างที่ชายหนุ่มรักเขาหรือเปล่า
  “แต่ก็ดีแล้วหล่ะ ขืนบอกรักไปก็ปล่อยให้เราเป็นหมาหัวเน่า” พีร์คิดอย่างนั้น เพราะจากความที่พีร์ยังคิดว่าชายหนุ่มเจ้าชู้ บางทีการเล่นเกมบอกรักอย่างนี้มันก็คงจะทำให้ชายหนุ่มไม่เห็นเขาเป็นของตาย

เสียงโทรศัพท์มือถือของพีร์ดังขึ้น ปรากฎเบอร์โทรศัพท์จากทางไกล เขายิ้มดีใจที่ศิริพจน์โทรมาหาเขา

“พจจจจ”
“ว่าไงครับพี”
“พจเป็นไงมั่งอ่า”
“ก็เรื่อย ๆ อ่ะพี คุณล่ะ เป็นไงมั่ง”
“ก็ เรื่อย ๆ หล่ะ”
“แล้วพี่แจ๊คล่ะ”
“หลับไปแล้วล่ะ”
“เหรอ ผมโทรมาปลุกคุณหรือเปล่าเนี่ยะ”
“เปล่าเลย ๆ” พีร์ปฎิเสธ “ดีซะอีกที่คุณโทรมา แล้วคุณแคทเป็นไงมั่ง”
“ก็สบายดีหน่ะ” เขาตอบด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“แล้วคุณกับคุณแคท เป็นไงมั่ง”
“ก็เรื่อย ๆ หน่ะ”
“ยังไงอ่ะ คุณยังไม่ทำตัวหวาน ๆ กันมั่งเหรอ”
“อืม ไม่รู้สิ” เขาคิดไม่ออกเพราะ เขากับแคทเทอรีนนั้นมีความรักและความเข้าใจในแง่มุมของเพื่อนคู่คิดกันมากกว่าคู่รักหวานแหววเหมือนตอนคบกับพีร์
“แล้วคุณรักคุณแคทรึเปล่า”
“ก็ ไม่รู้สิครับพี”
“อืมๆๆ แล้วอยู่นู่นคุณมองใครบ้างหรือเปล่าเนี่ยะ”
“เหอะ ไม่อ่ะ” เขาตอบตรง ๆ “ก็มีคิดถึงบางคนที่เมืองไทยนี่หล่ะ แต่ก็ดีแล้วตอนนี้เค้ามีแฟนเป็นหนุ่มหล่อไปแล้วฮ่ะ ๆๆ”
“ไม่ต้องเลย” พีร์เขิน เลยเหวี่ยงชายหนุ่มไปเหมือนที่เคยเป็น “นี่ก็เพิ่งมีเรื่องกันอ่ะ”
“หะ เรื่องอะไรเหรอพี”
พีร์เลยเล่าเรื่องของพลกฤษณ์กับคู่ขาเก่าให้ศิริพจน์ฟัง
“ตอนนี้ดีกันแล้วใช่มั๊ยพี”
“ก็ อืม”
“ผมดีใจนะที่คุณเข้าใจพี่แจ๊ค”
“หึ ก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่หรอก” พีร์ตอบตรง ๆ เช่นกัน “แต่ก็ เค้ายอมรับผิดจริง และก็สงสารน้องพอลหน่ะ ก็เลยต้องยอมไป”
“พี่แจ๊คเค้ารักคุณมากนะครับพี” ศิริพจน์บอกอย่างเป็นห่วง “ถึงแม้เค้าจะดูเป็นคนอย่างนั้น แต่เค้ารักคุณมากรู้มั๊ย”
“เหรอ...” พีร์รับคำแบบขอไปที แต่เขาก็เห็นด้วยกับศิริพจน์ในส่วนหนึ่ง
“แล้วนี่พจเป็นไงมั่ง ใกล้จบยังอ่ะ”
“ใกล้แล้วหล่ะครับ เหลือแค่ทำวิทยานิพนธ์ผ่านก็เรียบร้อย”
“เหรอ เก่งจังเลยอ่ะ”
“อ่า ขอบคุณครับ”
“แล้วพจจะกลับมาทำงานเมืองไทยรึเปล่า”
“ดูก่อนนะ กะว่าจะหางานที่นี้ทำดู หรือ ถ้ากลับไปจริง ๆ ผมกับแคทคุยกันแล้วว่าอยากไปอยู่ฮ่องกงหรือกลับไปสิงค์โปร์ด้วยกันมากกว่า”
“เหรอ..”
“ถ้าคิดถึงก็บินมาหาผมได้หนิครับพี”
“อือหึ...” พีร์รับคำยิ้ม ๆ
“แล้วนี่พี่แจ๊คยังขับรถแข่งอยู่หรือเปล่าครับเนี่ยะ”
“อืม..เสาร์นี้ก็ไปแข่งที่พัทยาอีกแล้ว” พีร์ตอบเซ็ง ๆ เพราะส่วนตัวเขาไม่ชอบเรื่องรถราอยู่แล้ว แต่ก็ต้องทำใจเพราะมีแฟนแบบพลกฤษณ์ “ก็ไม่อยากไปด้วยเลยอ่ะ ร้อนก็ร้อน น่าเบื่อ ผมไม่อยากไปด้วยเลย”
“ก็คิดซะว่าไปให้กำลังใจพี่แจ็คไงครับ”
“ก็อยากให้ล่ะ แต่อาทิตย์นี้ขอละกัน”
“อืม ครับ ฮ่ะ ๆๆๆ” ศิริพจน์หัวเราะ “คุณนี่ก็เหมือนเดิมจริง ๆ ด้วย”
“อะไร อะไรพจ” พีร์เริ่มเหวี่ยง
“เปล่า...แต่ผมดีใจนะที่เห็นคุณมีความสุขเพราะเป็นตัวของตัวเองแบบนี้ และก็มีคนที่เข้าใจคุณและก็รักคุณมากอย่างพี่แจ๊คอยู่ด้วย”
พีร์เงียบไปเพราะคำพูดของศิริพจน์ที่มักจะสะท้อนให้เขาเห็นถึงตัวเขาเองอยู่เสมอ
“พอเลยพจ...” พีร์เหวี่ยงแก้เก้อ “ว่าแต่คุณเถอะ กับคุณแคทหน่ะ รักเธอให้มาก ๆ เหมือนกันนะ”
“อืม ครับ ผมกับแคทเราเข้ากันได้ทุกเรื่อง ผมก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีนะที่มีแคทอยู่ข้าง ๆ”
“ดีแล้วหล่ะ ดีกว่ามีแฟนเหวี่ยง ๆ อย่างผม”
“เดี๋ยวนี้รู้ตัวแล้วเหรอว่าเหวี่ยง” ศิริพจน์เย้า
“พอเลย..” พีร์ตัดบท “ผมไปนอนล่ะนะ ดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะพจ ฝากความคิดถึงไปให้คุณแคทด้วย”
“ครับ ขอบคุณมากนะพี คุณก็เหมือนกันล่ะ ดูแลตัวเองดี ๆ และก็อย่าลืมว่าพี่แจ๊คเค้ารักคุณมากนะ”
“อ่า ครับ ๆๆ เทคแคร์ล่ะ บาย”
  พีร์วางสายศิริพจน์ไปด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข ถึงแม้เรื่องของเขากับศิริพจน์จะจบลงไปแล้ว แต่ความรัก ความผูกพัน มิตรภาพของคนทั้งสองนั้น ยังคงเดิมเหมือนตอนที่อยู่ด้วยกัน ต่างกันแต่ว่าสิ่งต่าง ๆ ที่มีให้ไม่ใช่ฐานะคนข้างกายอีกต่อไป
  ศิริพจน์กับพีร์นั้นเหมือนเป็นคนรัก เพื่อนสนิท และหลายสิ่งหลายอย่างให้กันและกัน พีร์ยอมรับว่า ศิริพจน์เป็นผู้ชายอีกคนที่รู้จักและรู้ทันเขาดีในทุก ๆ เรื่อง และเขาเองก็รู้สึกดีทุกครั้งที่คิดถึงวันเก่า ๆ ของศิริพจน์กับเขา
  แต่ที่เขาไม่เข้าใจศิริพจน์ก็คือการที่ชายหนุ่มบอกเขาเสมอว่า พลกฤษณ์นั้นรักเขามากแค่นั้น เขารู้สึกว่าศิริพจน์จะชื่นชมพลกฤษณ์เป็นอย่างมาก  เขาก็พอรับรู้ว่าพลกฤษณ์นั้นรักเขาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจในตัวเองเหมือนกันว่า เขานั้นรักชายหนุ่ม เท่ากันหรือมากกว่าชายที่ผ่านมาของเขาหรือเปล่า
  เพราะเขารู้สึกว่าบางทีเขาก็ใจร้ายและเอาแต่ใจกับพลกฤษณ์เกินไป
คำพูดหวาน ๆ การเอาอกเอาใจของเขาที่มีให้ชายหนุ่มจากพีร์นั้น พีร์คิดว่ามันน้อยมากเมื่อเทียบกับคนที่ผ่าน ๆ มาของเขา
อาจจะเป็นเพราะชายหนุ่มกับเขามีความแตกต่างกันในหลาย ๆ เรื่อง ที่ต้องค่อย ๆ ปรับตัวเข้าหากัน
แต่พีร์ก็รู้สึกขอบคุณที่ชายหนุ่มรับเขาได้ ในแบบที่เขาเป็นจริง ๆ

“ไง วิลล์”  พลกฤษณ์รับโทรศัพท์เพื่อนในเย็นวันทำงานวันหนึ่ง
“อื้ม เย็นนี้แกมาฟิสเนสป่าวเนี่ยะ”
“อ่อ ไปสิ แกล่ะ”
“ไป ๆ”
“งั้นเจอกันก็แล้วกัน”
“โอเค”
  เขากดวางสายจากวิลเลี่ยม ชายหนุ่มลูกครึ่งอเมริกันเพื่อนสนิทอีกคนของเขาที่ก็มีแฟนเป็นเด็กหนุ่มอายุน้อยกว่าเหมือนกัน           แต่วิลเลี่ยมกับแพททริคผู้เป็นแฟนเด็กนั้นคบหากันมาหลายปีแล้ว และอีกเป็นความสัมพันธ์ที่มั่นคงต่างจากคนอื่น ๆ ที่ชายหนุ่มพบเจอมา
   พลกฤษณ์เคยคิดว่า วิลเลี่ยมเพื่อนเขาจะทนอยู่กับคน ๆ เดียวได้นาน ๆ จริงหรือ
   แต่เมื่อเขาพบเจอความรักกับตัวเอง คำว่าเขาเข้าใจแล้วว่า ที่เพื่อนเขาอยู่กับคนรัก ไม่ใช่เพราะทนอยู่
แต่เป็นเพราะว่าคนทั้งสองเต็มใจที่จะมีกันและกันเสียมากกว่า

“เป็นไงวะแกอ่ะ” วิลเลี่ยมถามพลกฤษณ์ขณะที่เดินออกมาจากฟิสเนสด้วยกัน
“เรื่องอะไรล่ะ”
“เรื่องข่าวของแกหน่ะ เป็นไงมั่ง แกกับน้องพี”
“อ่อ...” พลกฤษณ์ถอนหายใจ “ก็ทะเลาะกันหน่ะ ตอนแรกพีเค้าทำท่าจะไม่คุยกับชั้นอย่างเดียวเลย แต่ก็เคลียร์กันแล้วนะ”
“เหรอ...” วิลเลี่ยมตอบรับ และถามต่อ “แล้วแกกับน้องพีโอเคมั๊ยล่ะ หมายถึงรวม ๆ นะ”
“ก็ดีนะวิล สำหรับชั้นถือว่าชั้นพอใจในตรงนี้มาก ทั้ง ๆ ที่ชั้นก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะว่าจะจริงจังกับใคร”
“อืม”
“แต่กับพีชั้นก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเค้าจะคิดเหมือนชั้นหรือเปล่า”  พลกฤษณ์ถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงตรงนี้
“อ่าว ทำไมล่ะแจ๊ค”
“ก็บางทีชั้นก็รู้สึกนะว่าพีร์เค้าไม่ได้รักชั้นเหมือนที่เค้าเคยรักคนอื่น”
วิลเลี่ยมได้ยินอย่างนั้นก็หันมามองหน้าเพื่อนอย่างคาดไม่ถึง
“ขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“อืม...” พลกฤษณ์พยักหน้า “ที่เค้ายกโทษให้ชั้นก็ดีแค่ไหนแล้ว ชั้นจะเอาอะไรจากเค้าอีกล่ะวะ”
“อืม...” วิลเลี่ยมตบไหล่เพื่อนเบา ๆ “เค้าคงรักแกบ้างล่ะหน่าแจ๊ค”
พลกฤษณ์ยิ้ม ๆ “ขอให้เป็นอย่างนั้นก็ละกันนะ”

   ชายหนุ่มทั้งสองเดินมาที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่วิลเลี่ยมนัดแพททริคให้มารอรับ หนุ่มลูกครึ่งร่างเล็กยกมือไหว้พลกฤษณ์ตามเคย ก่อนจะเข้าไปสวมกอดกับคนรักร่างใหญ่ที่เดินมาด้วยกัน
“ไงครับ รอนานมั๊ย” วิลเลี่ยมถามคนอ่อนวัยกว่า
“ไม่อ่ะครับ” แพททริคส่ายหน้า ยิ้มน้อย ๆ ขณะที่วิลเลี่ยมนั้นดึงปลายจมูกคนรักเบา ๆ อย่างแสนรัก
  พลกฤษณ์ยิ้มกับภาพตรงหน้า เขารู้สึกได้ถึงความรักของเพื่อนเขากับคนรัก แพททริคถามพลกฤษณ์ต่อว่า
“แล้วนี่พีไม่มาด้วยเหรอครับ”
“อ่อ เดี๋ยวคงมาล่ะ” พลกฤษณ์ตอบ เพราะเมื่อครู่เขาโทรบอกพีร์แล้วว่าเขากับวิลเลี่ยมรออยู่ที่ร้านกาแฟชั้นล่าง
  วิลเลี่ยมกับแพทริคนั้นพยักหน้าตอบรับก่อนจะพูดคุยกันตามประสาคู่รัก พลกฤษณ์ก็รู้สึกดีกับภาพตรงหน้า สักพักพีร์ก็มาถึงที่นัดหมายพอดี
พีร์ยกมือไหว้เพื่อนของคนรักและยิ้มทักทายหนุ่มวัยเดียวกับเขาที่นั่งข้าง ๆ
“เสร็จนานยังอ่ะคุณแจ๊ค”
“อืม ก็สักพักล่ะ”
“เหรอ”
พีร์นั่งลงข้าง ๆ ชายหนุ่มและพูดคุยกับอีกคู่ด้วยความเป็นกันเอง จนสักพักวิลเลี่ยมกับแพททริกก็ขอตัวกลับ พลกฤษณ์สังเกตุว่า วิลเลี่ยมกับแพททริคจับมือกันตลอดเวลาโดยที่ไม่สนสายตาของใคร
  เขานึกถึงตัวเอง ที่ตอนนี้ถึงแม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าเขากับพีร์เป็นอะไรกันแล้ว แต่หนุ่มน้อยกับเขาก็ยังไม่เคยเดินจับมือกันจริง ๆ เลยที
  หลายครั้งที่เขาอยากจะเอามือของพีร์มากุมไว้ แต่หนุ่มน้อยก็เหมือนไม่สนใจเขา เขารู้สึกว่าพีร์นั้นดูจะเพลิดเพลินกับการช้อบปิ้งหรือสิ่งรอบตัวมากกว่า
  จนบางครั้งพลกฤษณ์ก็แอบน้อยใจไม่ได้เหมือนกัน

“ที่รักครับ เสาร์นี้ไปพัทยากับผมมั๊ยอ่า”
“ไม่ไปได้มั๊ย” พีร์ตอบมาตรง ๆ เพราะเขาไม่ชอบเลยที่ต้องไปอยู่ในที่แดดร้อนเปรี้ยง และได้แต่กลิ่นของน้ำมันเครื่อง เขม่า  และเสียงยางรถที่บดพื้นหนวกหู
“ทำไมอ่า...”
“ก็ผมไม่ชอบอ่ะ ที่ผมไปอ่ะ เพราะว่าผมเห็นแกคุณนะ” พีร์ตอบตรง ๆ “ครั้งนี้ผมขอได้มั๊ย ผมได้กลิ่นยางไหม้และก็อากาศร้อน ๆ ทีไรผมจะเป็นลม”
พลกฤษณ์หน้าเสียเล็กน้อย แต่ก็เข้าใจว่าพีร์คงจะไม่ชอบจริง ๆ แค่เจ้าตัวไม่ห้ามเขาทำกิจกรรมนี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว
“โอเค ๆ” พลกฤษณ์ตอบรับ แต่ก็มิวายแซว “อ่าวแล้วไม่กลัวคนอื่นเค้ามาเชียร์ผมแทนคุณเหรอ”
   พีร์มองหน้าชายหนุ่มเหวี่ยง ๆ สายตาของเขาดุชายหนุ่มสื่อไปว่า“เรื่องเก่ายังไม่จบนะคุณแจ๊ค”
แต่พลกฤษณ์ยิ้มหน้าทะเล้น ก่อนจะขอตัวไปนอน ปล่อยให้พีร์สงบความเหวี่ยงของตัวเองคนเดียว

  และวันเสาร์ก็มาถึง พลกฤษณ์นั้นเดินทางไปพัทยาแต่เช้า พีร์ก็แอบรู้สึกผิดเหมือนกันที่ปล่อยให้ชายหนุ่มรู้สึกไม่ได้กำลังใจจากเขา แต่พีร์ก็นึกหมั่นไส้ขึ้นมา ถึงเขาไม่ให้ แต่คงจะมีคนอื่นรอที่จะให้อีกเยอะแยะ
 คิดแล้วพีร์ก็ยักไหล่ เอาสิ จะทำอะไรก็ทำเลย พีร์คิดว่าถ้าคราวนี้ชายหนุ่มมาร้องไห้ให้เขาเห็นอีก เขาก็ไม่ใจอ่อนอีกแน่แท้
  พีร์จะหนีกลับปักษ์ใต้ แล้วถ้าชายหนุ่มตามไป ก็คงจะโดนพ่อกับแม่เขาลงโทษอย่างแน่แท้
  พีร์คิดแล้วก็ยิ้มขำ เมื่อนึกถึงตอนที่พลกฤษณ์ถูกพ่อเขาใช้งาน ถ้าหากว่าเป็นอย่างที่เขาคาดการณ์จริง งานนี้พลกฤษณ์คงได้ถูกใช้หลังอานแน่ ๆ

  “น้าพีค๊าบบบ” หลานชายตัวน้อยวิ่งตื๊อมาหาพีร์อย่างตื่นเต้น
“มีอะไรครับน้องพอล”
“คุณย่าบอกให้พอลมาตามน้าพีอ่าคับ”
“คับ ๆ” พีร์รับคำหลานชายพร้อมอุ้มหลานชายไปด้วย เมื่อเจอคนเป็นแม่ของพลกฤษณ์ที่นั่งรออยู่
“หนูพี ไปพารากอนเป็นเพื่อนม้าหน่อยสิจ๊ะ วันนี้ป๊าเค้าทิ้งม้าไปตีกอล์ฟกับเพื่อนล่ะ”
“อ่อ ได้สิครับ” พีร์รับคำด้วยความเต็มใจ เพราะถ้าเมื่อไหร่ว่าง ๆ เขาก็มีหน้าที่อีกอย่างคือช้อปปิ้งเป็นเพื่อนคุณเจนนิเฟอร์
“น้องพอลไปด้วยนะค๊าบบ”
“แน่อยู่แล้วจ้ะ” คนเป็นย่าลูบหัวหลานเบา ๆ ก่อนนะหันมายิ้มกับคนเป็นแฟนลูก
  “หนูพีไปบอกลุงชัยให้เตรียมรถรอได้เลยนะจ๊ะ”
“ครับ” พีร์รับคำและเดินออกไป คุณเจนนิเฟอร์มองตามพีร์ไปอย่างเอ็นดู เด็กหนุ่มเข้ากับเธอได้ดีในหลาย ๆ เรื่อง อาจจะเป็นเพราะว่าเธอไม่มีลูกสาว และลูกสะใภ้ก็ไม่ได้ปรนนิบัติเธอกับสามี พีร์จึงเหมือนเป็นสะใภ้คนเดียวที่ตอนนี้อยู่กับเธอและสามี
  ถึงแม้พีร์จะไม่ใช่ผู้หญิง แต่เธอคิดว่าพีร์นั้นก็ทำหน้าที่เหมือนลูกสะใภ้ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง ถึงแม้ใครจะมองว่าแปลกไป แต่เธอก็ไม่ได้เห็นเป็นเช่นนั้น ถ้าลูกชายของเธอพาเข้าบ้านมาขนาดนี้ พลกฤษณ์คงมองเห็นบางอย่างในตัวพีร์ว่าต้องเข้ากับคนเป็นพ่อแม่ได้
  
  คนทั้งสามวัยเพลินเพลินกับการเดินห้างหรู พีร์นั้นดูแลหลานชายและแม่ของพลกฤษณ์เป็นอย่างดี จนกระทั่งเกือบบ่ายโมงที่ทุกคนนั่งรถกลับก็มีเบอร์โทรศัพท์แปลก ๆ โทรเข้าเครื่องพีร์

“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับคุณพีร์ใช่มั๊ยครับ” ปลายสายจากน้ำเสียงไม่คุ้นพูดด้วยอาการตื่นตระหนก “นี่เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลนะครับ ผมจะบอกว่าคุณพลกฤษณ์ประสบอุบัติเหตุในสนามแข่งครับ”
“หะ ..อะไรนะครับ” พีร์นั้นแทบเป็นน้ำแข็ง เหมือนหัวใจของเขานั้นร่วงกองไปอยู่ข้างล่างแล้ว
คนเป็นแม่เองก็สงสัย จึงมองหน้าพีร์ที่หน้าเสียลง พีร์หันมามองคนเป็นแม่เหมือนจะบอกอะไร
“ตอนนี้คุณพลกฤษณ์เพิ่งรถอัดขอบสนาม หน่ะครับ แต่ไม่ต้องกังวลนะครับ ตอนนี้เรากำลังพาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ แค่นี้ก่อนนะครับ”
“คะ...ครับ” พีร์พูดออกมาอย่างยากเย็น น้ำตาของเขาค่อย ๆ ไหลมาช้า
“หนูพีมีอะไรเหรอลูก” คนเป็นแม่สงสัยที่สุด
“คุณแจ๊คครับมาม้า...”
“ทำไมลูก แจ๊คเป็นอะไร”
“คุณแจ๊ครถชนในสนามครับ” พีร์พูดได้แค่นั้นก็ปล่อยโฮออกมา คนเป็นแม่เองก็แทบช็อก เธอพยายามตั้งสติ แล้วขอโทรศัพท์ของพีร์มาดูเบอร์ของโรงพยาบาลที่โทรมา แล้วกดโทรออก ขณะเดียวกันเธอก็พยายามปลอบพีร์ไปด้วย ส่วนน้องพอลเองก็กอดคนเป็นน้าไว้เพื่อปลอบโยน
“เดี๋ยวม้าโทรคุยกับทางนู้นนะลูก” เธอลูบหลังพีร์ที่ตอนนี้ร้องไห้อยู่ และก็คุยกับทางโน้นจนได้ความ เธอถอนหายใจพร้อมกับกดวางสาย
“ตาแจ๊ครถอัดขอบสนามหน่ะ อาการตอนนี้ห้าสิบห้าสิบ เห็นเค้าบอกว่าสภาพรถพังยับเลย” คนเป็นแม่พูดได้แค่นั้นก็ร้องไห้ออกมาเช่นกัน
พีร์มองหน้าคนเป็นแม่แล้วก็กอดกันร้องไห้ พีร์นั้นเป็นห่วงชายหนุ่มจับใจด้วยกลัวว่าพลกฤษณ์จะจากเขาไปจริง ๆ ตลอดกาล

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-08-2010 11:02:02 โดย น้ำพริกแมงดา »

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
กรรม ไอ่นี่ก็เม้นท์ปาดตลอด ขอโต้ดดดค่าไรเตอร์ :sad4:
แต่ว่า....เฮียแจ๊ครถคว่ำเลยอะ จะเป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ยยย ยังไม่อยากให้พีร์เป็นแม่ม่ายน้า :o12:
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนวันที่ ไรเตอร์ลองไปที่หน้าแรก โพสต์แรกของกระทู้นี้อะค่ะ แล้วกดตรง modify
ลองดูนะคะ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-08-2010 12:22:33 โดย BeeRY »

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ

ปล.ไรเตอร์บอกวันที่อัพด้วยได้ไหม

เขาจะได้รู้เออไรเตอร์อัพหรือยัง

ขอบคุณครับ

สารภาพค่ะว่าหาไม่เจอว่ามันทำแบบนั้นได้ตรงไหน รบกวนช่วยสอนหน่อยนะคะ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
 :o12: พีร์กว่าจะรู้ใจ ต้องให้แจ๊คเจ็บก่อนเหรอ

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
เป็นเรื่องแล้วสินะ  ให้กำลังใจน้องพีร์จ๊ะ

MaeMoo

  • บุคคลทั่วไป
หรือเหตุการณ์นี้ จะทำให้พีร์ ได้รู้ใจตัวเองสินะ

สู้สู้ค่ะ ไรเตอร์

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
มองในมุมกลับกัน พี่แจ็คก็น่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย...น้อยใจแต่พูดอะไรไม่ได้..

น้องพีร์จะได้รู้ใจตัวเองจริงๆซักทีว่า รักแจ็คมากน้อยแค่ไหน

ออฟไลน์ PEENAT1972

  • Red Rhino
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4698
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +563/-106



ปล.ไรเตอร์บอกวันที่อัพด้วยได้ไหม

เขาจะได้รู้เออไรเตอร์อัพหรือยัง

ขอบคุณครับ

สารภาพค่ะว่าหาไม่เจอว่ามันทำแบบนั้นได้ตรงไหน รบกวนช่วยสอนหน่อยนะคะ



ไปที่หน้าแรกกดจิ้ม แก้ไข

ก่อนจะไปแก้ไขที่หัวเรื่อง ตอนที่ตั้งกระทู้ตอนแรกไงค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ JAROEN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-9
ขอบคุณนะครับที่ส่งข่าวมาบอก


แต่เหมือนจัเศร้ามากเลยนะ


น้ำตาท่วมอีกแล้ว เฮ้อ  :m15:  :monkeysad: :m15: :monkeysad: :m15: :monkeysad: :m15: :monkeysad: :m15: :monkeysad:

ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม ต้องเป็นแบบนี้ ฮือๆๆๆๆๆ :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
โธ่ อิตาคุณแจ๊ค สงสัยไม่มีสมาธิเพราะมัวแต่คิดเรื่องพีร์แน่ อัดขอบสนามเจ็บหนักเลยทีนี้  :a5:

ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
ไม่นะเฮียแจ๊ค  :sad4:


เฮียอย่าเป็นไรนะ

เฮียขี้น้อยใจเหมือนกันนะเนี่ย

ปล.ผมก็ทำไม่เป็นหรอกครับ ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวเข้ามาดูทุกวันก็ได้

ขอบคุณมากๆๆนะครับ

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
ค้างงงงงง

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
คุณแจ็ค
แกเป็นไรอ่ะ
อย่าเป็นอะไรนะ  :laugh:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
มักง่าย หลายใจ

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
พี่แจ๊คจะเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย

รอตอนต่อไปค่ะ

ปล.คิดถึงเรื่องนี้มากเลยค่ะ


ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
ตอนที่ 5

  เมื่อบุรุษพยาบาลเข็นเตียงที่มีร่างโชกเลือดของพลกฤษณ์ที่บล็อกหลังและคอ แต่ก็ยังพอรับรู้ได้บ้างออกมา คนในครอบครัวทั้งหลายต่างก็พากันไปดูชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง โดยเฉพาะพีร์
“แจ๊คอย่าเป็นอะไรไปนะลูก” คนเป็นพ่อกับแม่บอกเสียงสั่น
“คุณแจ๊ค คุณแจ๊คอย่าเป็นอะไรนะ” พีร์ที่วิ่งตามพร่ำบอกทั้งน้ำตา เขาจาจับมือโชกเลือดของชายหนุ่มไว้แน่น
“คุณแจ๊ค คุณแจ๊คได้ยินมั๊ย”
“คุณแจ๊ค คุณแจ๊คอย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ คุณแจ๊ค คุณแจ๊คได้ยินมั๊ยว่าผมรักคุณ ผมรักคุณนะ คุณอย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ ฮือ ๆๆ”
พลกฤษณ์ที่พอมีการรับรู้เหลืออยู่มองหน้าคนรัก น้ำตาของเขาค่อยไหลออกมาช้า ๆ ในที่สุดเขาก็ได้ยินคำว่ารักจากปากของพีร์แล้ว
   “ญาติรอข้างนอกนะครับ” บุรุษพยาบาลบอกทุกคนให้ถอยห่าง พีร์นั้นมองตามพลกฤษณ์ที่เพิ่งเข้าห้องผ่าตัดไปแล้วปล่อยโฮออกมาโดยที่มีคุณเจนนิเฟอร์คอยกอดปลอบ
   การผ่าตัดนั้นใช้เวลาค่อนข้างนาน สักพักนายแพทย์ก็ออกมา
“เป็นไงมั่งครับหมอ” พีร์ร้อนรนถาม
“คนไข้กระดูกหักหลายจุดหน่ะครับ และกระดูกซี่โครงบางส่วนก็ทิ่มปอด หมอได้ผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ต้องรอดูอาการอื่น ๆ และอาการทางสมองต่อไปหน่ะครับ”
   นายแพทย์บอกได้แค่นั้นก็ขอตัวออกไป ทิ้งให้คนในครอบครัวของพลกฤษณ์ต้องมาลุ้นหน้าเครียดกันต่อ คนเป็นแม่ของพลกฤษณ์นั้นก็ปลอบพีร์ไว้อย่างที่เคย เธอนึกเป็นห่วงทั้งลูกชายและก็คนรักของลูกที่ตั้งตัวไม่ทันกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เสียงโทรศัพท์มือถือของพีร์ดังขึ้น ก็พบว่าเป็นเบอร์ของครอบครัวเขาโทรมา พีร์กดรับสายทันที
“ครับม้า”
“พี...แจ๊คเป็นไงมั่งลูก”
“คุณแจ๊คตอนนี้หมอยังให้ดูอาการครับ ยังวางใจไม่ได้”
“...” คนเป็นแม่เงียบไปเหมือนกัน
“ทำใจดี ๆ ไว้นะลูก ม้าเชื่อว่าแจ๊คเค้าต้องไม่เป็นอะไรมาก นะลูกนะ” เธอปลอบใจลูกชาย
“ครับ ขอบคุณครับม้า”
“ขอสายคุณกิมหน่อยได้มั๊ย ป๊าเราเค้าจะคุยด้วย”
“ครับ ๆ” พีร์รับคำพร้อมส่งโทรศัพท์ให้คุณกำชัยที่นั่งหน้าเครียดอยู่
 “ป๊าครับ...ป๊าผมครับ”
“อืม ขอบใจ” เขารับคำ ก่อนจะคุยโทรศัพท์กับเพื่อนตัวเองอย่างเคร่งเครียด

  ศิลาที่ตอนนี้รู้ข่าวว่าพลกฤษณ์ประสบอุบัติเหตุก็รีบมาดูอาการเจ้าตัวพร้อมกับนลพรรณทันที เมื่อมาถึงหน้าห้องไอซียูที่พลกฤษณ์ย้ายมาพักฝื้น เขาก็เห็นครอบครัวของเพื่อนและพีร์อยู่กันครบทุกคน
“สวัสดีครับคุณลุงคุณป้า” เขาและนลพรรณยกมือไหว้คนเป็นพ่อกับแม่เพื่อนตามมารยาท  “แจ๊คเป็นไงมั่งครับ”
“หมอยังต้องดูอาการหน่ะหยก ป้าก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน” คนเป็นแม่พูดเศร้า ๆ
“น้องพี เป็นไงมั่ง” นลพรรณรุดไปหาพีร์ด้วยความเป็นห่วง
พีร์ยิ้มตามมารยาท ตาแดง ๆ ของเขาบ่งบอกว่าผ่านการร้องไห้อย่างหนัก หญิงสาวเห็นอย่างนั้นก็เข้าไปจับมือเด็กหนุ่มอย่างให้กำลังใจ
“เข้มแข็งไว้นะจ๊ะ พี่เชื่อว่าแจ๊คต้องไม่เป็นอะไร”
“ขอบคุณครับพี่แพรว” พีร์รับคำและหันไปมองร่างใหญ่ของคนรักที่นอนอยู่ท่ามกลางเครื่องมือแพทย์ระโรงระยางในห้องกระจก

ศิลานั้นมองพีร์ด้วยความรู้สึกเห็นใจ เขาอยากจะเข้าไปกอดพีร์อย่างที่เคย แต่เขาก็รู้ตัวว่าเขาทำอย่างนั้นไม่ได้ในตอนนี้ เขาได้แต่มองเพื่อนและพีร์ด้วยความเป็นห่วงจากใจ
เขาไม่อยากให้พลกฤษณ์ต้องเป็นอะไร เพราะไม่อย่างนั้น พีร์เองก็ไม่มีใครอยู่ข้าง ๆ
 
คนรู้จักทั้งของเขาและของพลกฤษณ์คนแล้วคนเล่า ต่างก็แวะเวียนมาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสายจนกระทั่งหมดเวลาเยี่ยม ครอบครัวของเขาก็ต้องกลับบ้านเพราะโรงพยาบาลไม่สามารถให้อยู่เฝ้าไข้ต่อได้

 พีร์มองเตียงนอนที่เคยนอนด้วยกันกับคนรักด้วยความรู้สึกที่ต่างไปจากเดิม เขามองไปยังที่ที่คนรักเคยนอนแล้วน้ำตาก็ค่อย ๆ ไหลออกมาด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งรู้สึกคิดถึงที่คืนนี้เขาไม่ได้นอนเคียงข้างกัน ทั้งรู้สึกผิดเพราะที่ผ่านมาเขานั้นไม่ค่อยได้เอาอกเอาใจชายหนุ่ม พีร์ค่อยลูบบนที่นอนแล้วปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น
 ถ้าพลกฤษณ์เป็นอะไรไป เขาจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเป็นอันขาด พีร์คิดอย่างนั้น

   ศิลาที่คืนนี้มานอนที่คอนโดของตัวเองคนเดียว ชายหนุ่มนอนไม่หลับเพราะในหัวคิดวนเวียนแต่เรื่องของพีร์และพลกฤษณ์
เขารู้ตัวเองดีว่า เขายังรักพีร์อยู่ แต่เขาก็ไม่เห็นแก่ตัวที่จะให้พีร์มีความสุขในโลกของความเป็นจริง แต่ว่าวันนี้เขานั้นก็ต้องเริ่มคิดใหม่เมื่อเพื่อนเขาอาจจะไม่ได้กลับมาอยู่กับพีร์
ชายหนุ่มค่อย ๆ พลิกตัวไปยังที่ที่พีร์เคยนอน เขาค่อยลูบที่ตรงนั้นด้วยความคิดถึง
เพราะอย่างที่เขาบอกพลกฤษณ์ว่ามีบ้างที่เขาคิดถึงพีร์
และเมื่อเขาคิดถึงพีร์มาก ๆ เขาก็จะกลับมานอนที่ห้องนี้ ห้องที่เขาเคยมีความสุขกับพีร์ในช่วงเวลาหนึ่ง
ศิลาหยิบหมอนที่พีร์เคยหนุนมากอดไว้ ถ้าหากว่าพีร์จะไม่มีใครจริง ๆ  เขาก็ไม่ปล่อยให้พีร์เป็นคนของใครคนอื่น นอกจากกลับมาเป็นของเขาอีกครั้ง

วันนี้ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ครอบครัวของพลกฤษณ์ไปที่โบสถ์ด้วยกันตามปรกติวีถีคริสต์ชน พวกเขาต่างก็ได้แต่ภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้าให้ช่วยคุ้มครองพลกฤษณ์ให้กลับมาอยู่รอดปลอดภัย พวกเขาได้แต่หวังว่านี่คงไม่ใช่เวลาที่พลกฤษณ์จะต้องไปอยู่กับพระผู้เป็นเจ้า เพราะชายหนุ่มยังอยู่ในวัยที่ยังไม่ควรจะไปจากโลกนี้
เช่นเดียวกับพีร์ที่มาทำบุญที่วัดในตอนเช้า เขาได้ถวายสังฆทานและกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้คนรัก เพื่อหวังว่าอาจจะช่วยพลกฤษณ์จากอุบัติเหตุนี้ได้บ้าง
 เมื่อเสร็จภารกิจดังกล่าว พีร์และครอบครัวของชายหนุ่มที่วันนี้มีเพียงคนเป็นพ่อกับแม่เท่านั้นต่างก็มาดูอาการของชายหนุ่มที่โรงพยาบาลอีกครั้ง เมื่อถามถึงอาการแล้ว นายแพทย์ก็บอกว่ายังคงต้องดูอาการต่อไปในไอซียูนี้ ทำให้ครอบครัวของชายหนุ่มนั้นต่างก็ยังคงต้องลุ้นหน้าเครียดกันเหมือนเดิม
“พี...” พีร์ได้ยินเสียงคุ้น ๆ นั้น เมื่อเขาหันไปมองก็พบว่าเป็นแม่กับพ่อของเขาเองที่มาจากหาดใหญ่
“ม้า..ป๊า..” เขาดีใจ และประหลาดใจเมื่อเห็นพ่อกับแม่ของตัวเอง เขาวิ่งเข้าไปสวมกอดคนเป็นพ่อแม่อย่างหาที่พึ่ง
“โอ๋...ม้าอยู่นี่แล้วนะลูก” เธอลูบหัวลูกเบา ๆ คนเป็นพ่อก็ตบไหล่ลูกชายเพื่อให้กำลังใจ
“ทำใจดี ๆ ไว้นะ แจ๊คต้องไม่เป็นอะไร” คนเป็นพ่อกล่าว
“ครับ” พีร์รับคำ “แล้วนี่ป๊ากับม้า มาได้ไงครับ”
“ก็ ป๊าคุยกับไอ้กิมเมื่อวาน มันก็บอกว่า ถ้าขึ้นมาเดี๋ยวมันจะให้คนรถไปรับที่สนามบิน”
“ครับ”
คนเป็นพ่อแม่ของพลกฤษณ์เดินเข้ามาสมทบ พร้อมกับทักทายพ่อแม่ของพีร์อย่างเป็นกันเอง
“ดีแล้วหล่ะกวง มาช่วย ๆ กันดูหนูพีด้วย นี่แจ๊คคงดีใจที่แกกับคุณฟุงขึ้นมาเยี่ยมเลยนะ”
“เออ ขึ้นมากระทืบมันนี่หล่ะ” คนเป็นพ่อพูดขวาง ๆ “มีอย่างที่ไหนวะ ยกลูกให้แล้วจะทิ้งกันไปอีกและ โทรมาด่าวันนั้นไม่เข็ดใช่มั๊ยวะ ลูกแก”
“เออ ฮ่ะ ๆๆ”
“เดี๋ยวคุณกวง กับคุณฟุงไปพักผ่อนที่บ้านก่อนได้นะคะ เย็น ๆ ค่อยกลับมาดูใหม่ก็ได้”
“อ่อ ขอบคุณค่ะ” คนเป็นแม่พีร์รับคำแล้วถามต่อ “นี่แจ๊คยังต้องอยู่ไอซียูอีกเหรอคะ”
“ค่ะ” เธอรับคำ “หมอยังคงให้ดูอาการ ชั้นก็หวังว่าคงไม่มีอะไรอีกนะคะ”
 ทุกคนมองตามเข้าไปในห้องกระจกด้วยความเป็นห่วงพลกฤษณ์ พวกเขาก็ได้แต่หวังว่า ชายหนุ่มจะพ้นขีดอันตรายออกมาอย่างเร็วไว

พ่อกับแม่ของพลกฤษณ์นั้นให้พีร์พาพ่อกับแม่กลับไปพักผ่อนที่บ้าน โดยทางนี้เขาจะดูแลเอง จนกระทั่งตอนบ่ายคล้อยที่พีร์และพ่อแม่มาหาพลกฤษณ์ที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ จากอาการป่วยของเจ้าตัวเลย
พีร์มองร่างของคนรักเศร้า ๆ แต่ก็ไม่หมดความหวังว่าชายหนุ่มจะมีอาการดีขึ้น

ตอนนี้พีร์อยู่ที่โรงพยาบาลคนเดียว เพราะว่าพ่อกับแม่ของพลกฤษณ์นั้นพาพ่อกับแม่ของพีร์ไปเที่ยวตามประสาคนวัยเดียวกัน ในระหว่างที่เขาอยู่คนเดียวนั้น ก็มีคนที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามาดูอาการของพลกฤษณ์เหมือนกัน
“เธอ ๆ  คุณแจ๊คเค้าเป็นอะไรมากรึเปล่า” เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับพีร์จีบปากจีบคอถามร่างอวบ เขาจำได้ว่าร่างบางในแว่นดำนี้เป็นดาราวัยรุ่นคนหนึ่ง
พีร์ทำท่าจะตอบ แต่ก็ไม่ทันอีกคนที่มาด้วยกัน “แหม แกก็เห็นอยู่ว่านอนไอซียูอย่างนี้ ยังจะถามเค้าอีกนะ”
“อุ๊ย ลืมไปหน่ะ ไม่น่าเชื่อเลยนะแกว่าคุณแจ๊คจะซวยอย่างนี้”
“เอ...หรือว่าซวยเพราะคนแถว ๆ นี้นะ” พวกเขาไม่พูดเปล่า แต่จิกสายตาไปยังพีร์อย่างหาเรื่อง
พีร์มองหน้าพวกนั้นด้วยสายตาไม่พอใจ เขาไม่พูดอะไรนอกจากเม้มปากแน่น
“ก็แน่ล่ะค่ะ แต่ชั้นว่าเค้าซวยตั้งแต่ได้เป็นแฟนแล้วหล่ะ มีอย่างที่ไหนคะ เอาโอ่งสามโคกมาทำเมีย ฮ่ะๆๆๆๆ”
พีร์มองหน้าอย่างไม่พอใจ เพราะมันมากเกินไปแล้ว เขาจึงบอกเรียบ “พวกคุณมีธุระแค่นี้ใช่มั๊ยครับ”
“ก็ไม่รู้สิ......แต่ก็ไม่รู้หล่ะ เค้าตื่นมาอาจจะความจำเสื่อมจำอะไรไม่ได้เลยก็ได้ ทีนี้ล่ะค่ะ ใครบางคนแถวนี้อาจจะได้ตกกระป๋อง”
“พอเถอะแก” เพื่อนที่มาอีกคนพูดอย่างเกรงใจ เพราะเห็นว่ามากเกินไปแล้ว
“แหม แกไม่เคยดูละครเหรอ ที่พระเอกชอบความจำเสื่อม แต่อุ๊ย นี่ลืมไป ชั้นก็พูดตามความเป็นจริงล่ะนะ รถเละขนาดนี้ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะ..”
“เหรอคะ แล้วอยากโดนตบจริง ๆ จนเลี้ยงไม่โตมั่งมั๊ย” เสียงดัดจริตของปกรณ์ดังมาแต่ไกล พีร์ยิ้มออกที่มีคนมาช่วยเขาทันอีกแล้ว
“เจ้จะบอกให้นะคะพวกหนู ๆ อย่าทำตัวเป็นออรี่มาระรานเรื่องของคนอื่นอย่างนี้อีกนะคะ ผัวเมียเค้าอยู่กันดี ๆ ก็พอแล้ว อย่าสะเออะมายุ่ง”
พวกมันมองหน้าปกรณ์แทบกรี๊ด ปกรณ์ไม่รอช้า เลยพูดต่อ “ถึงจะมายุ่ง เจ้ก็เชื่อนะคะว่าคุณแจ๊คคงไม่ตาต่ำยุ่งกับพวกหนูหรอกค่ะ กลับไปหากินแถวสนามหลวงเถอะค่ะหนู ๆ อย่ามาระรานน้องสาวเจ้อีกเลย”
“แอร๊ยยยยยยย”
“กรี๊ดอะไรคะ ที่นี่โรงพยาบาลนะคะ ห้ามกรี๊ด...ไปคะไป” เขาถกแขนเสื้อขึ้นมา “ก่อนจะหน้าแหกไปแผนกศัลย์เพราะโดนเจ้ตบ!”
พวกนั้นรีบเดินออกไปเพราะกลัวร่างยักษ์ของปกรณ์ ปกรณ์หันมาหาพีร์ที่มีสีหน้าดีขึ้น เขาเข้าไปกอดร่างอวบด้วยความเป็นห่วง
“นังหนูเป็นไงมั่งคะลูก”
“ไม่เป็นไรแล้วครับ ขอบคุณครับพี่เป้”
“ค่ะ อย่าไปถือสาพวกมันเลยนะคะ อีโรคจิตพวกนี้มันก็อิจฉาหนูล่ะค่ะ ว่าไปเจ้ก็ยังอิจฉาเลย ฮิ ๆ”
“พี่เป้...” เขารับคำยิ้ม ๆ “แล้วนี่พี่แพรวไม่มาด้วยเหรอครับ”
“อ่อ ไม่มาหรอกค่ะ วันนี้นังแพรวเค้าพาลูก ๆ ไปเรียนพิเศษ” ปกรณ์ถามค่อ “แล้วหนูโอเคนะคะลูก”
“ครับ ขอบคุณครับพี่เป้”
“เจ้ล่ะก็เป็นห่วงหนู” เขาถอนหายใจ“ที่เป็นข่าวกับนังฝรั่งหน่ะหล่ะค่ะ เจ้บอกตรง ๆ ว่าเจ้โกรธแจ๊คมาก ๆ มีอย่างที่ไหนคะ มีเมียอยู่แล้ว แต่ออกไปหาเศษหาเลยนอกบ้าน แต่อย่างว่าล่ะค่ะ ของเค้าเคย  ๆ กัน อีกอย่างนังฝรั่งนี่มันก็ร่านได้โล่อยู่แล้ว”
“ระ..เหรอครับ” พีร์ตกใจ เพราะเดิมทีเขาก็ไม่สนใจเรื่องของพลกฤษณ์อยู่แล้ว เลยต้องประหลาดใจเป็นธรรมดา
ปกรณ์เมาท์ถึงเรื่องที่พลกฤษณ์เป็นข่าวกับนนทวัชต่อ
 “ก็ใช่หน่ะสิคะ ขอให้เป็นผู้ชายมันเอาหมดแหล่ะค่ะ แต่อย่างว่าหล่ะนะคะ มันสวยเลือกได้ ใคร ๆ ก็อยากได้มันและมันก็อยากได้ทุกคน ก็นั่นหล่ะค่ะ โอเค หนุกหนาน”
แต่เหมือนโลกจะกลมมาก เพราะพูดไม่ทันขาดคำร่างบางของนนทวัชก็เดินเข้ามาหาพวกเขา
“อุ๊ยตาย! ตายยากนะคะคนเรา พูดถึงก็มาเชีย”
นนทวัชมองคนทั้งสองอย่างเกรงใจ พีร์มองคนตรงหน้าอย่างไว้ตัวและหยั่งเชิง ปกรณ์เลยชิงถามไปก่อน
“มีธุระอะไรมีทราบยะ!”
“เอ่อ ผมมาดูคุณแจ๊คหน่ะครับ”
“ไม่ต้องหรอกมั๊ง ก็เห็นอยู่แล้วหนิว่าเมียเค้าอยู่นี่ทั้งคน” ปกรณ์ไม่ยอม เพราะหมั่นไส้คนตรงหน้าเหลือเกิน
“พี่เป้ครับ...” พีร์หันไปปรามเบา ๆ และหันมาถามนนทวัช “ขอบคุณนะครับคุณนน” พีร์ตอบรับตามมารยาท
“เอ่อ คุณพีครับ ผมขอคุยอะไรกับคุณได้มั๊ยครับ” นนทวัชพูดเบา ๆ อย่างเกรงใจพีร์
“ครับ” พีร์รับคำ ส่วนปกรณ์ได้แต่อึ้งในท่าทางนิ่งสงบของพีร์
“น้องพี...” เขาออกปากจะห้าม แต่พีร์ก็ไม่สนใจท่าทีนั้น เขาพูดกับปกรณ์ต่อ”เดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับพี่เป้”

  เขานำนนทวัชมาอีกมุมหนึ่งใกล้ ๆ ของไอซียู ซึ่งเป็นที่ที่ไม่มีคนนั่งประจำ แต่ก็มีคนเดินผ่านตลอด เขามองนนทวัชอย่างพิจารณา
เขาเชื่อแล้วว่าตัวจริงของนนทวัชนั้นดูดีสมคำร่ำลือทีเดียว ร่างผอมแต่มีกล้ามเนื้อสวยในเสื้อยืดคอวีธรรมดานั้นสูงแค่เขา ผิวขาวอมชมพูผ่องกับผมสีน้ำตาลอ่อนตามประสาลูกผสม ใบหน้าเรียวเล็กนั้นครบครันด้วยเครื่องหน้าได้รูปเหมาะเจาะทั้งจมูกโด่งเข้ารูป ริมฝีปากบางสีกุหลาบระเรื่อ และดวงตาสีฟ้ากระจ่างคู่สวย จึงทำให้นนทวัชดูเหมือนตุ๊กตามากกว่าคนจริง ๆ
เมื่อเขาย้อนมองดูตัวเองแล้ว ขนาดว่าเขาแต่งเนื้อแต่งตัวและดูแลตัวเองมากกว่าเมื่อก่อน เขายังไม่ดูดีเท่าครึ่งหนึ่งของอดีตคู่ขาของคนรักคนนี้เลย คิดแล้วร่างอวบก็แอบหมดความมั่นใจ
“เอ่อ คุณพี ครับ” นนทวัชพูดออกมาก่อน “คุณแจ๊คเป็นไงมั่งฮะ”
“ก็อย่างที่เห็นหน่ะครับ ยังไม่พ้นขีดอันตราย” ถึงแม้พีร์จะเห็นว่าอีกฝ่ายนั้นดูดีแค่ไหน แค่เขาก็ยังไว้ตัว
“ผม...ผมขอโทษนะครับ” นนทวัชพูดออกมาอย่างเศร้า ๆ
พีร๋ไม่พูดอะไรต่อ ได้แต่ฟังนิ่ง ๆ “ผมขอโทษที่ทำให้คุณกับคุณแจ๊คต้องเดือดร้อนเพราะผม”
“เรื่องในวันนั้นผมผิดเองที่เข้าไปหาคุณแจ๊คก่อน และผมก็เป็นคนเริ่มก่อนในเรื่องอย่างว่า”
พีร์เพิ่งรู้ในเรื่องนี้ แต่ก็ฟังต่อนิ่ง ๆ “คุณแจ๊คเค้าปฎิเสธผมนะ จริง ๆ นะคุณพี เค้าพยายามปฎิเสธผมตลอดเวลาที่ผมเข้าหาเค้า แต่เพราะผมรวบรัดเองหล่ะ ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น”
พีร์อึ้งไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาไม่ได้เชื่อแล้วว่านนทวัชแรงจริงสมคำล่ำลือ แค่เขาตกใจเมื่อรู้ว่าคนรักไม่ใช่คนเริ่มต้นในเกมส์สวาทดังกล่าว
“คุณแจ๊คเค้าคงคิดถึงคุณหน่ะครับ ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าเค้ารักคุณมากเลยนะ” คนหน้าหวานกล่าวยิ้ม ๆ
“ผมหน่ะ ถึงจะเคยคบอยู่กับเค้าพักนึง แต่คุณเชื่อมั๊ยว่า เค้าไม่ได้เป็นเหมือนตอนนี้เลย ตอนนี้คุณแจ๊คเหมือนอีกคนนึงที่ผมไม่เคยรู้จัก ถึงแม้ผมจะพยายามเท่าไหร่ แต่เค้าก็คงไม่หันมาสนใจผมอยู่ดีหรอก เพราะว่า เค้ามีคุณอยู่เต็มหัวใจแล้ว”
พีร์พูดไม่ออกเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขานิ่งไปสักพัก นนทวัชเห็นอย่างนั้นก็เข้าไปจับไหล่พีร์เบา ๆ “ผมดีใจกับคุณแจ๊คนะครับที่มีคนรักอย่างคุณอยู่ข้าง ๆ ผมดีใจด้วยจริง ๆ ผมก็อยากจะขอโทษคุณอีกครั้งจริง ๆ นะครับ”
“ครับ” พีร์พยักหน้านิ่ง ๆ เขาเสียใจที่เข้าใจชายหนุ่มในทางที่ผิด และตกใจที่ชายหนุ่มไม่ได้เล่าเรื่องนี้ในเชิงแก้ตัวกับเขาเลย
“ผมเชื่อว่าพระเจ้าคงไม่ใจร้ายให้คุณแจ๊คไปอยู่กับพระองค์ตอนนี้หรอก” นนทวัชให้กำลังใจพีร์ “ผมเชื่อว่าพระองค์ต้องให้คุณแจ๊คกลับมาอยู่กับคุณแน่ ๆ นะครับ”
“ขอบคุณครับ” พีร์รับคำเบา ๆ นนทวัชยิ้มให้พีร์ ก่อนที่ทำท่าจะเดินออกไป
“เดี๋ยว คุณนน..”  พีร์ร้องเรียก “จะไปไหนเหรอครับ “
“ผมมาแค่ขอโทษคุณ และก็มาดูว่าคุณแจ๊คเป็นยังไงก็พอหน่ะครับ”
“ครับ”
“ผมดีใจนะครับที่คุณแจ๊คมีคุณดูแล”
“ครับ”
“ลาก่อนครับคุณพี พระเจ้าอวยพรครับ” เขายิ้มให้พีร์จากใจ
“ครับ ขอบคุณมากนะครับ” พีร์รับคำและส่งยิ้มจากใจให้นนทวัชเช่นกัน


ปล.มาลงอีกทีตอนเย็น ๆ ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2010 11:22:20 โดย น้ำพริกแมงดา »

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
พี่แจ๊คอย่าเป็นอะไรน้า

อ่านแล้วเครียด  :o12:

ตอนหน้าจะเป็นยังไงต่อเนี่ย เครียดๆ พี่แจ๊คฟื้นสักทีสิคะ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
นนมาขอโทษมันก็ดีหรอกนะ...แต่ว่ามันก็ผิดอยู่ดีอ่ะ รู้ทั้งรู้ว่าเค้ามีใครเป็นตัวเป็นตนแล้วยังจะเข้าไปวุ่นวายอีก :z3:
เอ๊ะ เหมือนบ่นผิดตอน 5555
พีร์คงอยากขอโทษเฮียแจ๊คแล้วแหละ รีบๆฟื้น รีบๆหาย มาปรับความเข้าใจกับพีร์นะคะ เพราะเราชอบให้คนรักกัน  :-[
รออ่านตอนเย็นๆอีกตอนค่าาา :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
น้ำใจของผู้แพ้ :L1:

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
ตอนที่ 6.1
  
    ศิลาลืมตามองร่างอวบของพีร์ในอ้อมกอด เขาดีใจเหลือเกินที่วันนี้พีร์กลับมาเป็นของเขาอีกครั้ง เขาลูบแก้มนิ่มของพีร์ด้วยความคิดถึง ตอนนี้เขากับพีร์เปล่าเปลือยด้วยกันทั้งคู่ เมื่อเขาจ้องมองไปในดวงตาคู่สวยของพีร์ก็พบว่ายังมีเงาของเขาอยู่อย่างเคย
ชายหนุ่มไม่รอช้าที่จะก้มลงมอบจูบดูดดื่มให้กับคนรักให้สมกับที่รอคอย
 วันนี้หล่ะที่ชายหนุ่มจะมีความสุขกับพีร์อย่างเต็มที่ เขาซุกไซร้บนตัวพีร์อย่างหื่นกระหาย และไม่รอช้าที่จะปลดปล่อยความต้องการออกมาอย่างเร่าร้อน
“โอ๊....น้องพี..น้องพี...น้องพี....อ๊า....” เขาปลดปล่อยออกมาอย่างสุขสม และลืมตามาเพื่อจะมองหน้าคนรัก แต่พอลืมตามา เขาก็พบเพียงความว่างเปล่า ร่างกายของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อโดยที่ยังสวมชุดนอน ด้วยตัวชื้นเหงื่อนั้นทำให้เขารู้สึกเย็นขึ้นด้วยอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศ เขาหันไปมองข้าง ๆ ก็พบนลพรรณที่มองเขาอยู่ด้วยอาการตกใจ
ศิลารู้ทันทีเลยว่าเขาฝันไป เขาก้มดูหลักฐานจากความฝันที่ชื้นแฉะแล้วส่ายหน้าออกมาเบา ๆ อย่างผิดหวัง นี่เขาฝันไปจริง ๆ เหรอเนี่ยะ
“หยก คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
ศิลาไม่ตอบอะไรนอกจากถามหญิงสาวกลับ “แล้วคุณล่ะ เป็นอะไรหรือเปล่า ตกใจมากหรือเปล่าแพรว”
“ก็ นิดหน่อย” เธอตอบเกรง ๆ “คุณฝันว่า...เอ่อ...กับน้องพี..ใช่มั๊ย”
ศิลาหยักหน้า ยิ้มเศร้า ๆ “อืม” เขาถามต่อ “ผมทำอะไรลงไปมั่งแพรว”
“ก็คุณก็นอนตัวสั่น ๆ แล้วก็เอ่อ ยังไงล่ะ...กับหมอน แล้วก็เรียกแต่ชื่อน้องพีร์ แล้วก็ อย่างที่เห็นหน่ะหล่ะ”
“โธ่....” ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างผิดหวัง ทั้งผิดหวังที่เป็นแค่ความฝัน และอายหญิงสาวที่ต้องมาเห็นเขาในสภาพนี้
“หยก”
“หืม..”
“แพรวถามจริง ๆ นะ” หญิงสาวกล้า ๆ กลัว ๆ
“อืม”
“หยก..หยกไม่ชอบผู้หญิงจริง ๆ แล้วเหรอ”
ศิลาพยักหน้าตอบอย่างไม่ต้องคิดมาก เขาแน่ใจในตัวเองแล้วว่าจริง ๆ แล้วเขาชอบอะไร
“เหรอ แล้วหยกรู้ได้ไงหน่ะ”
“รู้สิ ตั้งแต่ผมเจอน้องพี ผมก็รู้แล้วว่าจริง  ๆ แล้วผมชอบอะไร”
“ยังไงอ่ะ”
“ไม่รู้สิแพรว เหมือนที่ผ่าน ๆ มา มันเหมือนว่า ผมต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่กับน้องพีผมกลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น”
“ธรรมชาติมันพาไปงั้นเหรอ”
“อืม” เขาพยักหน้า
“คุณมีความสุขมาก ๆ ใช่มั๊ยเวลาทำอย่างนั้น”
“อืม”
“แล้ว....ตอนนี้คุณชอบใครอีกหรือเปล่า”
ศิลาส่ายหน้า “ไม่ล่ะ นอกจากน้องพีร์แล้วผมก็ไม่คิดจะมองใครอีกเลย คุณเข้าใจมั๊ย มันเหมือนว่าเราอยากจะเริ่มต้นและจบลงกับคน ๆ นี้คนเดียว”
“อย่างนั้นเหรอ”
“อืม ผมพูดจริงนะ”
“แล้วนี่คุณเป็นแบบนี้บ่อยหรือเปล่าหยก ที่คุณฝันแบบนี้”
“นาน ๆ ครั้งนะ..” เขาตอบโดยไม่ปิดบังต่อ “แต่ถ้าอย่างอื่นล่ะก็บ่อยกว่า”
“หมายถึงคุณเอาน้องพีไปจินตนาการแล้ว...”
“อืม..” เขาไม่อายที่จะพูดออกมา “ไม่รู้สิ ไม่เคยมีใครทำให้ผมมีอารมณ์ได้เท่าพีร์อีกแล้ว”
“คุณชอบคนอวบ ๆ เหรอหยก” เธอถามเพราะว่าตัวเธอเองเป็นหญิงสาวร่างผอมบางมาก ๆ
“เปล่าหรอก คือ ไงล่ะ ถ้าไม่ใช่น้องพีร์ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“คุณคงทรมานมากสินะที่เป็นแบบนี้”
“ก็ไม่หรอก” เขาส่ายหน้าน้อย ๆ “ถ้าพูดถึงว่าที่ผมให้น้องพีไปอยู่กับไอ้แจ๊คแล้วล่ะก็ ผมคิดว่าก็ดีแล้ว ดีกว่าจะมาอยู่กับคนอย่างผม” เขาถอนหายใจ “ให้ผมเป็นอย่างนี้ดีกว่าจะให้เค้ามาลำบากเพราะผมอีก”
“หยก..” เธอจับมือสามีเบา ๆ
ศิลาถามต่อว่า “คุณรังเกียจมั๊ยที่ต้องมามีสามีแบบผม”
หญิงสาวเข้ามากอดชายหนุ่มไว้กับอก “ไม่เลยหยก ไม่เลย แพรวไม่เคยรังเกียจหยกสักนิด”
ศิลากอดตอบอย่างหาที่พึ่ง “ขอบคุณมากนะครับ” เขากอดหญิงสาวสงบนิ่งสักพัก จนกระทั่งนลพรรณเอ่ยขึ้นมาเบา ๆ
“อืม แพรวเชื่อแล้วหล่ะว่าหยกไม่ชอบผู้หญิงจริง ๆ” เธอยิ้ม ๆ เพราะจากความรู้สึกภายในที่ส่งถึงกัน เหมือนเธอรับรู้ว่าศิลานั้นเป็นชายอีกคนที่ไม่สามารถทำหน้าที่ตามธรรมชาติของชายต่อหญิงได้แล้ว
มันไม่ใช่ความรู้สึกเหมือนที่อยู่กับปกรณ์ มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่เธอเพิ่งเคยสัมผัส
แต่เธอก็รู้สึกอบอุ่นและเบาใจยิ่งขึ้นเมื่อได้ใกล้ชิดกับศิลา

ศิลาแหงนมองหน้าเธอแล้วเป็นฝ่ายกอดเธอไว้ในอ้อมอก เขาดีใจเหลือเกินที่คนใกล้ตัวเข้าใจเขาเป็นอย่างดี ถึงแม้เขาจะไม่โชคดีที่มีคนรักไว้ข้างกาย แต่เขาก็รู้สึกว่าตัวเองโชคคีที่มีนลพรรณคอยเข้าใจ
“ขอบคุณนะครับแพรว”
“อืม” หญิงสาวยิ้ม ๆ  เพราะว่าจากการพูดคุยเมื่อครู่ มันทำให้เธอกับศิลาเข้าใจกันและกันมากขึ้น “แต่แพรวว่าหยกไปอาบน้ำใหม่ดีกว่านะ นอนแบบนี้เหนียวตัวกันพอดี”
“อืม..” เขาพยักหน้ารับคำ “อ่อ มีอีกเรื่อง”
“หืมม์”
“ไอ้แจ๊คหน่ะ ผมกลัวว่าถ้ามันไปจริง ๆ ผมขอกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้มั๊ย”
“หมายความว่า....”
“อืม...”
“จะดีเหรอหยก น้องพีเค้ามีพ่อแม่นะ อีกอย่างทางนู้นเค้าก็ตกลงกันแล้ว มันไม่ง่ายเลยนะ”
“ผมก็แล้วแต่เจ้าตัวหน่ะ” ชายหนุ่มตอบมา ก่อนจะหันหลังเข้าห้องน้ำไป
นลพรรณมองตามศิลาไปอย่างเป็นห่วง เธอไม่อยากให้พีร์ต้องกลับมาเป็นคนในเงาเหมือนอย่างเคย หรือถ้าพีร์ยังคงรักศิลาเหมือนเดิม เธอก็ไม่ทราบแน่ชัด หญิงสาวนั่งลงบนเตียงอย่างกรุ่นคิด และภาวนาให้พลกฤษณ์รู้สึกตัวขึ้นมาเร็ววัน



คืนนี้ (หรือพรุ่งนี้) ต่อ 6.2 ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2010 15:52:26 โดย น้ำพริกแมงดา »

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
อืมม สงสารศิลา นะ เห็นใจ แต่ศิลาก็ควรเรียนรู้ถึงความรักที่ไม่จำเป็นต้องครอบครองด้วย ตราบใดที่ศิลายังมีหน้าที่พ่อและสามี ซึ่งภรรยาและลูกเค้าก็ไม่ได้ทำไรผิด จะทิ้งขว้างเค้าก็ไม่ถูก แต่จะให้พีร์มาอยู่ในเงาอีก ก็ไม่เป็นการเอาเปรียบพีร์เกินไปหรือ? มองทางไหนก็ดูเอาแต่ได้นะ สู้ให้พีร์ได้ครองคู่กับคนที่ยอมรับเค้า และมีเค้าแค่คนเดียวดีกว่ามั้ย

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
สงสารน้องพีร์ ภาวนาให้คุณแจ็คฟื้นเร็วๆแล้วก็ไม่เป็นอะไรมาก...

เห็นด้วยกับคุณแพรวที่ศิลาไม่ควรดึงน้องพีร์กลับมาอยู่ในเงาอีก...น้องพีร์อาจจะไม่มีความสุขก็ได้ ส่วนศิลาเอง ก็น่าจะหักห้ามใจได้แล้วน๊าาา

4life

  • บุคคลทั่วไป
ง่าาาา

สงสารพีอ่ะ เมื่อไหร่จะมีความสุขจริงๆ ซะที

ออฟไลน์ น้ำพริกแมงดา

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +272/-0
    • เข้ามาเป็นคุยกันกับ "น้ำพริกแมงดา" ใน facebook page นะคะ
ตอนที่ 6.2

  พีร์ที่ตอนนี้มาโรงพยาบาลแต่เช้าเพื่อเฝ้าดูอาการคนรักตามเคย เขาพอยิ้มออกได้บ้างเมื่อได้รับโทรศัพท์จากศิริพจน์ที่โทรทางไกลมาหาเมื่อคืน และเขาก็กำลังคุยกับเขียวที่ตอนนี้ไปทำธุระกับสามีที่ต่างจังหวัด

“เข้มแข็งนะแก” หญิงสาวเป็นห่วงพีร์เหลือเกินที่ต้องเจอสถานการณ์แบบนี้
“อืม แข็งอยู่แล้ว”
“เฮ้ยย ชั้นชีเรียสนะ” หญิงสาวตัดบท และขำเพื่อนในใจที่ทะลึ่งไม่ถูกเวลา “มัวแต่เล่นอย่างนี้เดี๋ยวคุณแจ๊คก็ไม่มาแข็งให้แกอีกหรอก”
“ชั้นล้อเล่นนน” พีร์ถอนหายใจ “ก็ต้องรออาการเจ้าตัวดีขึ้นล่ะนะ แต่หมอบอกว่า สแกนสมองแล้วไม่มีปัญหา ชั้นก็โอเคแล้ว”
“อืม..” หญิงสาวรับคำ ก่อนพูดต่อ “แกกลัวเค้าจะเป็นเหมือนที่นังพวกนั้นมันแช่งงั้นสิ”
“แหม เป็นใครใครก็กลัว” เขามองผ่านกระจกไปอย่างเป็นห่วงพลกฤษณ์จริง ๆ
“น่าเสียดายนะ ถ้าชั้นอยู่ด้วยคงสนุก”
“พอเถอะจ้ะ ชั้นไม่อยากลงข่าวอีกนะ ชั้นรู้ว่าแกแรง แต่แค่เจอพี่เป้พวกนั้นก็คงกลัวแล้วหล่ะ”
“อ่าค่ะ ล้อเล่น”
พีร์ยิ้มขำพื่อน เขาหันไปเจอหญิงชราที่นั่งรออยู่อีกมุมหนึ่ง พีร์เห็นอย่างนั้นก็อยากเข้าไปคุยด้วย เขาเลยตัดบทเพื่อน
“งั้นแค่นี้นะแก”
“อ่าค่ะ จะบอกว่าแค่นี้เหมือนกัน เดี๋ยวถึงกรุงเทพแล้วจะไปเยี่ยมนะ ขอให้คุณแจ๊คหายเร็ว ๆล่ะ”
“อ่าจ้ะ ขอบคุณ บะบายแก”
“อืม บาย”

เขากดโทรศัพท์และค่อย ๆ เดินไปนั่งข้าง ๆ หญิงชราอย่างเป็นมิตร
“สวัสดีครับคุณยาย” พีร์ยิ้มแย้ม “คุณยายมาเฝ้าใครหรือเปล่าครับ”
“ยายมาเฝ้าตาจ้ะ” หญิงชราที่แต่งตัวดูดีตามวัยตอบยิ้ม ๆ
“ขอโทษนะครับ คุณตาเป็นอะไรครับ”
“มะเร็งจ้ะ ระยะสุดท้ายแล้ว” เธอตอบยิ้ม ๆ ไ ม่ได้เห็นว่าความตายของคู่ชีวิตเป็นเรื่องโศกเศร้าแต่อย่างใด
“ระ...เหรอครับ...” พีร์ได้ยินอย่างนั้นก็เศร้าลง
“เสียใจด้วยนะครับ”
“จ้ะ” หญิงชรารับคำยิ้ม ๆ “แล้วนี่คุณยายมาคนเดียวเหรอครับ”
“จ้ะ ยายรอลูก ๆ หลาน ๆ มากันพร้อมหน้าหน่ะ” เธอตอบ “ยายทำใจไว้นานแล้วนะว่าสักวันตาต้องจากยายไปแบบนี้ ตอนนี้ยายก็แค่รอคนอื่น ๆ ไปส่งตาพร้อมกันเท่านั้นเอง”
“ครับ”
“หนูล่ะจ๊ะ มาเฝ้าแฟนใช่มั๊ย”
“ครับ” พีร์พยักหน้ารับคำด้วยความเต็มใจ
“ดีนะลูก เป็นคนหนุ่มทั้งคู่ แต่รักกันแบบนี้ แฟนหนูหน่ะโชคดีมากเลยนะ”
“ขอบคุณครับ”
“แล้วคุณยาย ไม่เสียใจมั่งเหรอครับที่คุณตาจะจากไปแบบนี้” พีร์สงสัย
“ก็ มันก็เสียใจล่ะลูก แต่ยายก็ไม่เสียดายแล้วนะ”
“ครับ?”
“ยายกับตาอยู่กันมา 40 กว่าปี หน่ะลูก ตลอดเวลาที่ตากับยายอยู่ด้วยกัน ยายรู้สึกว่ายายดูแลตาดีที่สุดแล้ว” หญิงชราตอบพร้อมรอยยิ้มที่อิ่มเอิบไปด้วยความสุข
“และยายก็ดีใจนะ ที่ยายมีคู่ชีวิตคือตา ยายเลยไม่เสียดายแล้วหล่ะลูก เพราะ 40 ปีที่ยายอยู่กับตานั้น ยายกับตาใช้เวลาด้วยกันคุ้มแล้วจริง ๆ”
  พีร์ได้ยินอย่างนั้นก็นั่งนิ่ง ไม่พูดอะไร เขารู้สึกสะท้อนใจเหลือเกินที่ปล่อยให้เวลาที่อยู่กับพลกฤษณ์ผ่านไปโดยที่เขายังไม่ได้บอกรักชายหนุ่มสักคำ
 “ยายก็ขอให้แฟนของหนูหายเร็ว ๆ นะลูกนะ และก็อย่าลืมรักกันให้มาก ๆ ล่ะ”
“ครับ ขอบคุณมากครับ” พีร์ยกมือไหว้หญิงชราที่จับมือหนุ่มน้อยอย่างให้กำลังใจ เขานั่งอยู่ตรงนั้นสักพัก พยาบาลก็วิ่งตรงมาหาเขา
“คุณพีร์คะ คุณพีร์”
“ครับ ว่าไงครับ”
“คุณหมอให้มาตามไปพบค่ะ มีเรื่องอาการของคุณพลกฤษณ์แจ้งให้ทราบ”
“ครับ ๆๆ” พีร์รับคำอย่างตื่นเต้น หญิงชราลูบหลังเด็กหนุ่มอย่างให้กำลังใจ
“รีบไปเถอะลูก ขอให้เป็นข่าวดีนะ”
“ครับ ขอบคุณมากครับคุณยาย” พีร์ยกมือไหว้หญิงชราอีกครั้งแล้วรีบเดินตามพยาบาลไปทันที
พีร์เห็นนายแพทย์นั้นยืนรอเขาอยู่พร้อมแฟ้มประวั้ติ เขารีบเดินไปหาและรอฟังข่าวอย่างใจจดใจจ่อ
“ครับ”
“หมอขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ ตอนนี้อาการของคุณพลกฤษณ์พ้นขีดอันตรายแล้ว” นายแพทย์บอกเสียงเรียบ ๆ แต่ประโยคนี้จากปากของหมอทำให้พีร์แทบเป็นลมด้วยความดีใจ
“คะ..คุณแจ๊ค รอดแล้วเหรอครับ”
“ใช่ครับ ถึงแม้คนไข้อาจจะยังไม่ได้สติ แต่ตอนนี้สามารถไปพักฟื้นในห้องพักผู้ป่วยได้แล้ว เดี๋ยวหมอขอเช็กอาการอีกสักพักแล้วเชิญคุณพีร์ตามไปที่ห้องพักผู้ป่วยเลยนะครับ”
“ครับ ขอบคุณครับคุณหมอ ขอบคุณมาก ๆ เลยนะครับ” เขาล่ะล่ำละลักขอบคุณ พีร์ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต เขาไม่รอช้าที่จะโทรศัพท์ไปบอกครอบครัวของเขาที่ตอนนี้รออยู่ที่บ้าน และก็บรรดาคนรู้จักที่ใกล้ชิดของเขาทั้งหลายรวมทั้งศิลาและศิริพจน์ด้วย

“เฮ้ออ โล่งอกไปทีนะอากิม” คนเป็นพ่อพีร์พูดกับเพื่อนตัวเองที่ลูบหัวลูกชายเบา ๆ คนเป็นพ่อดีใจที่นายแพทย์สามารถรักษาชีวิตของลูกเขาไว้ได้
“ก็ต้องขอบคุณหมอเค้าหล่ะที่ช่วยเต็มที่ และก็ขอบคุณพระเจ้าที่ยังเมตตาเจ้าแจ๊คมันอยู่” คุณกำชัยตอบรับ
“เฮ้อออ หมดเคราะห์หมดโศกกันซะทีนะคะ” แม่ของพีร์ที่นั่งอยู่กับลูกชายสมทบ
“ค่ะ แต่ก็ต้องรอแจ๊คฟื้นมาก่อนชั้นถึงจะวางใจได้จริง ๆ” คนเป็นแม่ของพลกฤษณ์กล่าวเรียบ ๆ
“น่า คุณเจนนี่ พ้นขีดอันตรายมาอย่างนี้แล้วก็คงไม่ต้องกลัวอะไรมากล่ะครับผมว่า” พ่อของพีร์ช่วยพูดให้คลายกังวล
“เออ นี่จะทุ่มนึงแล้วนี่น่า” พ่อของพลกฤษณ์พูดขึ้นมา “งั้นพวกเรากลับกันดีกว่ามั๊ย พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่”
“ก็ดีเหมือนกันนะ หนูพี ม้าฝากทางนี้ด้วยนะลูก”
“ครับ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ มีอะไรเดี๋ยวผมจะโทรไปบอกทันที”
“ดีลูก” เธอรับคำ “ไปค่ะทุกคน เราปล่อยให้เด็ก ๆ อยู่กันดีกว่า”
 บรรดาผู้ใหญ่ทั้งหลายต่างก็ทยอยออกมา เพราะกลัวว่าพยาบาลจะมาไล่  พีร์มองร่างใหญ่ของพลกฤษณ์ที่ตอนนี้มีเฝือกดามไปที่ลำตัว คอ ขาข้างขวา และแขนซ้าย ใบหน้าหล่อเหลานั้นยังมีรอยบวมช้ำเขียวจากอุบัติเหตุ พีร์ค่อย ๆ ลูบบนหน้าของคนรัก และจะก้มลงจูบบนหน้าผากแต่เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น
  พีร์เดินไปเปิดก็พบว่าเป็นศิลาที่เข้ามาเยี่ยม พีร์ยกมือไหว้ชายหนุ่มอย่างเคย ศิลานั้นก็มองหน้าร่างอวบด้วยความอ่อนโยนเช่นเคย

“น้องพีร์ แจ๊คยังไม่ฟื้นเหรอ”
“ครับ”
“พี่ดีใจด้วยนะที่แจ๊คไม่เป็นอะไรแล้ว”
“ครับ” พีร์รับคำ “แต่ก็ต้องดูอาการต่อไปหน่ะครับ”
“อืม...” ศิลาตอบรับ และนั่งลงบนโซฟา พีร์เดินไปหยิบน้ำดื่มมาให้ชายหนุ่ม และทั้งสองก็นั่งคุยกันถึงเรื่องอาการป่วยของพลกฤษณ์
อยู่ดี ๆ นั้นบทสทนาก็เงียบลง พีร์มองร่างของคนรักที่นอนนิ่งอยู่แล้วก็ค่อย ๆ ร้องไห้ออกมา ศิลาเห็นอย่างนั้นก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปกอดปลอบ
“น้องพี....ไม่เป็นไรนะ” เขากอกร่างอวบของคนรักที่ค่อย ๆ สะอื้นไห้ มือของเขานั้นลูบไปตามเนื้อตัวอย่างปลอบโยน เขากอดพีร์แน่นขึ้น สัมผัสที่เขาร้างลา กลิ่นเนื้อที่เขาโหยหา มันทำให้ความต้องการข้างในของชายหนุ่มตื่นขึ้นทันที
“น้องพี....ไม่เป็นไรนะ” ศิลากอดพีร์ด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไปจนพีร์รู้สึกได้ เขาประคองให้พีร์หันมาประจันหน้ากับเขา ศิลาค่อย ๆ กอดร่างอวบอีกครั้ง แล้วค่อย ๆ เข้าไปเพื่อหมายจะสัมผัสริมฝีปากของเด็กหนุ่ม
  แต่ก็ช้ากว่าพีร์ที่ใช้มือป้องปากชายหนุ่มอย่างนิ่มนวล ศิลาหยุดชะงักแล้วลืมตามอง เขาพบว่าพีร์นั้นจ้องมองเขาอยู่ สายตาอ่อนโยนที่เขาเคยหลงรักของพีร์นั้นได้แปรเปลี่ยนเป็นแววตาแข็งกร้าว พีร์ถอยห่างจากตัวเขา และยืนขึ้นพูดตรง ๆ

“พอเถอะครับพี่หยก พีร์ดูแลตัวเองได้”
“น้องพี พี่..พี่ขอโทษ” เขาพูดออกมาช้า ๆ “พี่ขอโทษที่พี่ยังรักน้องพีอยู่”
“ขอบคุณครับ” พีร์ตอบรับเสียงแข็ง “แต่พีร์ทำแบบนี้ไม่ได้ครับ”
ศิลาหน้าเสียเมื่อได้ยินอย่างนั้น “พีร์มีคุณแจ๊คอยู่แล้ว และพีร์ก็รักเค้ามากด้วย พีร์ขอล่ะครับ พี่หยกอย่าทำแบบนี้อีกเลย”
“น้องพี...”
“หมดเวลาเยี่ยมแล้ว กลับไปเถอะครับ” พีร์เชิญเสียงแข็ง ศิลาพยายามมองร่างอวบ แต่ก็ไม่พบสายตาอ่อนโยนเช่นเคยจากพีร์ เขาจึงบอกว่า
“โอเคครับ พี่กลับก็ได้...” เขายอมแพ้  “พี่ขอโทษจริง ๆ นะครับ”
“ครับ” พีร์รับคำ “ถ้าคุณแจ๊คฟื้นเดี๋ยวพีร์โทรบอกพี่แพรวนะครับ”
“ครับ” ศิลาตอบรับและออกไปจากห้องอย่างเสียใจและรู้สึกผิด เขาเข้าใจแล้วว่า ตัวเองไม่ควรจะคิดกับพีร์ไปมากกว่านี้อีกแล้ว

  พีร์หันหลังกลับมาหาชายหนุ่มที่เตียงนอน เขาค่อย ๆ จับมือข้างซ้ายที่ไม่ได้ใส่เฝือกมากุมไว้ พีร์นั่งลงข้าง ๆ เตียงแล้วค่อย ๆ ร้องไห้ออกมา เขาดีใจเหลือเกินที่วันนี้เขาเข้มแข็งพอที่รักบอกว่าเขารักชายหนุ่มมากแค่ไหน
 เขาเข้าใจตัวเองแล้วหล่ะว่า ที่ผ่านมา เขารักชายหนุ่มมาก แต่เขาเพิ่งรู้ในตอนนี้เองว่า เขารักชายหนุ่มมากแค่ไหน
 พีร์ค่อย ๆ จับมือชายหนุ่มมาลูบหน้าตัวเองช้า ๆ นิ้วยาวเรียวของพลกฤษณ์นั้นเปื้อนไปด้วยน้ำตาของคนรัก พีร์นั้นรู้สึกได้ว่านิ้วชี้กับนิ้วโป้งของคนรักขยับบนแก้มเขาเพื่อเช็ดน้ำตาให้
  พีร์มองหน้าพลกฤษณ์ที่ค่อย ๆ หรี่ตามอง พีร์ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก คนรักของเขาฟื้นแล้ว
“คุณแจ๊ค! คุณแจ๊คๆๆๆๆ” พีร์ร้องเรียกคนรักเสียงหลงอย่างดีใจ “คุณแจ๊คฟื้นแล้วใช่มั๊ย”
“อื้มมมมม ผมฟื้นแล้วว”
“ฮือ ๆๆๆ คุณแจ๊ค....” พีร์ได้แต่ร้องไห้ออกมาด้วยความปลาบปลื้ม พลกฤษณ์ค่อยเอามือที่อยู่บนหน้าพีร์ลูบเบา ๆ เพื่อซับน้ำตา
“ไม่เอาน่า อย่าร้องไห้สิที่รัก”
“ฮือ ๆๆๆ” พีร์ได้แต่จับมือเขาไว้แล้วปล่อยโฮออกมา เด็กหนุ่มดีใจที่สุดที่เขาก็ได้คนรักกลับมาแล้ว
“ไม่เอาหน่ะ อุ๊บส์!...” พลกฤษณ์ไม่ทันได้พูดอะไรพีร์ก็ประกบริมฝีปากจูบทันทีเพื่อไม่ให้ชายหนุ่มตั้งตัว พลกฤษณ์ประหลาดใจแต่ก็ดีใจที่พีร์ทำแบบนี้ เขาจึงไม่รอช้าที่จะรับความหวานแรกของชีวิตใหม่

“คุณพีร์คะ อุ๊ย!...” พยาบาลสาวถือวิสาสะเข้ามาเพราะจะเข้ามาเช็กอาการของพลกฤษณ์ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นฉากรักเล็ก ๆ ของคนทั้งสอง เธอตกใจและเขินแทนไม่ได้เลยปิดประตูออกไปเพื่อจะไปบอกหมอว่าคนไข้ฟื้นแล้ว
พีร์กับพลกฤษณ์ถอนปากออกพร้อมมองพยาบาลอย่างขบขัน พวกเขาไม่รอช้าที่จะแลกจูบกันต่ออย่างหวานมันส์ พีร์ถอนปากออกแล้วหันไปจูบหน้าผากและแก้มทั้งสองอย่างแสนรัก ก่อนจะกลับมาที่ริมฝีปากอีกครั้งเพื่อจูบที่ดูดดื่มลึกซึ้ง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-08-2010 20:21:28 โดย น้ำพริกแมงดา »

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ในที่สุดก็ฟื้นซะทีนะคะเฮียแจ๊ค o7
พีร์เด็ดขาดมากเลยอะ เรื่องพี่หยก ทำเอาอดีตแฟนคลับใจอ่อนยวบเพราะความสงสาร :sad2:
ไม่เป็นไรค่ะ เวลาจะช่วยพี่หยกเองนะ ^^
แต่ว่านะ...เพิ่งฟื้นก็แลกเอนไซม์อะไมเลสกันเลยเหรอ 555+
อยากเป็นนางพยาบาลคนน้านนนนน :laugh:

ออฟไลน์ kokikung

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1594
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-3
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก

คุณแจ๊คฟื้นสะที

ดีใจมากกก

น้ำตาแอบคลอ

สงสารพี่หยกอ่านะ

เมื่อไหร่พี่เขาจะตัดใจสะที

น่าสงสาร


4life

  • บุคคลทั่วไป
เย้ๆ ฟื้นเเล้ววววว

จะว่าไปก็สงสารพี่หยกเนอะ
เฮ้อออออ... ทำไงได้

bbyuqin

  • บุคคลทั่วไป
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  คุณแจ๊คฟื้นแล้ว

น้องพีร์เยี่ยมมากเลยที่เด็ดขาดกับคุณศิลาไปแบบนั้น อย่างที่คุณยายว่า เวลาที่อยู่ด้วยกันถ้าใช้อย่างคุ้มค่า เมื่อถึงเวลาที่คนใดคนหนึ่งจากไปมันจะไม่มีคำว่าเสียใจเลย :กอด1: o13

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด