รักจัง Byคุณ Meae แจ้งข่าวค่ะ [15/02/2012]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักจัง Byคุณ Meae แจ้งข่าวค่ะ [15/02/2012]  (อ่าน 559514 ครั้ง)

ออฟไลน์ qq_oo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +143/-4
Re: รักจัง....(by คุณ meae)...
«ตอบ #480 เมื่อ23-10-2010 19:46:58 »

สนุกมากมาย

Flower night

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักจัง....(by คุณ meae)...
«ตอบ #481 เมื่อ23-10-2010 20:54:35 »

 :pig4: ที่แต่งเรื่องดีๆอย่างนี้ให้อ่าน
อยากเจอคนอย่าง มิค บ้างอะไรบ้าง
เรื่องนี้สนุกมาก ทั้งตื่นเต้น เสียว เลือดสาด หวาน มีครบทุกรสชาติ
ไม่ผิดหวังเลยที่ได้มาอ่านเรื่องนี้ 

 :กอด1: คุณหมี คนโพสต์ และน้องกิม พี่มิค 555

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
Re: รักจัง....(by คุณ meae)...
«ตอบ #482 เมื่อ28-10-2010 14:35:40 »

คิดถึงพระเอกเลยต้องขอกลับมานั่งเป็นแฟนพันธุ์แท้อ่านกันใหม่ไปอีกรอบ  :m15:
อยากให้แต่งภาคต่อจังเลย พออ่านจบคำสุดท้ายมันเหมือนโหวงๆยังไงบอกไม่ถูก
 :bye2:

ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1
Re: รักจัง....(by คุณ meae)...
«ตอบ #483 เมื่อ31-10-2010 18:02:01 »

อ่านแล้วอิจฉากิม
มิคพระเอกสุดๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุกสนาน
และงานเขียนดีๆอีกหนึ่งชิ้น
 o13

SE_Lifestyle

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักจัง....(by คุณ meae)...
«ตอบ #484 เมื่อ01-11-2010 12:45:46 »

สนุกมาก ชอบนิสัยมิกอ่ะ
กิมก็นิสัยเเอบเด็กๆ  น่ารักน่าเตะดี  ง้องเเง้งได้กะมิกคนเดียวนะเง่ยกิม
มิเช่นนั้นจะโดนมิกได้

ขอบคุณที่เเต่งนิยายดีๆมาให้อ่านกัน
เป็นกำลังใจๆ

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: รักจัง....(by คุณ meae)...
«ตอบ #485 เมื่อ01-11-2010 14:27:22 »

โอ้วว ซับเลือดๆ
บรรยายได้เห็นภาพสุดๆกร๊ากก

fakelove

  • บุคคลทั่วไป
Re: รักจัง....(by คุณ meae)...
«ตอบ #486 เมื่อ06-11-2010 00:07:56 »

รักมิคโคตรๆ

คนแบบนี้จะมีอีกไหม

ออฟไลน์ วิหคท่องนภา

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: รักจัง....(by คุณ meae)...
«ตอบ #487 เมื่อ08-11-2010 01:04:32 »

 :m25: โอ้ยยยย   ชอบสุดๆ  กะไว้แล้วตั้งแต่โดนหิ้วพาดบ่าตอนเมา 5555

>____<แต่งเก่งจริงๆเลย  สำนวนแบบว่า ต้องอ่านเร็วๆอ่ะ มันส์มาก !!

ติดตามต่อไปจ้า

ออฟไลน์ padang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
Re: รักจัง....(by คุณ meae)...
«ตอบ #488 เมื่อ21-11-2010 16:22:09 »

เรียกร้องให้รวมเล่ม
ขี้เกียจอ่านทีละหน้า
เพราะว่าเจ็บตาค่ะ
รวมหน่อยน้า

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
อยากที่หัวกระทู้บอกเรยค่ะ :m15: คุณหมี คุณหมีเค้า

รักจัง....(by คุณ meae)..กรี๊ดดดด 18ทีติด คุณหมีอัพตอนพิเศษคร๊าพี่น้อง

เป็นตอนพิเศษวันลอยกระทงค่ะ ยังไง คนโพสขอไปอ่านก่อนนะค่ะ

ส่วนที่เล้านี่ o18 ขอดูฟีดแบ็ก FC กิมมิค & คุณหมีก่อนนะคะ

ถ้ากระแสตอบรับดีนี่ก็จะมาโพสคืนนี้และคร๊า  :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
โพสสสสสสสสสเลยค่ะ นั่งเฝ้ารอเลยเนี่ย
มิคกิม มิคกิม มิคกิม มิคกิม มิคกิม


รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
จริงนะคะ มาจริงๆนะ

คุณหมีขราาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
พลีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

รอ ร้อ รอ ด้วยใจจดจ่อรุนแรง :m13:

ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9

pay-it-forward

  • บุคคลทั่วไป
โพสเลยๆ รอตอนพิเศษด้วยคน
 :call:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เข้ามารอ ตอนพิเศษเหมือนกันค่ะ

 :call:

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6

ออฟไลน์ i1_to*pp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +683/-5

ออฟไลน์ polartotty

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
มารอตอนพิเศษด้วยค้าาาาาาาาาาาาาาาา
มาโพสเถอะนะๆๆๆๆๆๆ

lasom

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Me_kame_nishi

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 917
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15

pantanakan

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามานั่งรอค่ะ  ตื่นเต้น  ตื่นเต้น  อ่านไปแล้วสองรอบนะเนี่ย

ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
มาปูเสื่อนอนรอตอนพิเศษด้วยคนค่ะ
ตื่นเต้นเหมือนกัน ดีใจจัง ดีใจจัง ...
 :z2: :z2:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
อ่า...คนโพสใจร้าย
ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
รอตอนพิเศษ ลอยกระทงอยู่น๊า
นั่งรอ นอนรอ ยืนรอ  :call:

ออฟไลน์ Wr@iTh

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
รอๆๆๆๆๆๆๆ   :impress2:
โชคดีจังที่เข้ามาดู

ออฟไลน์ PeeYaR

  • >///<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย
ตอนพิเศษษษษษษษษษษษษษษ
เค้ารออยู่น้าาาาาาา

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
ไล๊เหลี่ยวไล้เหลี่ยววววววววว  มาแล้วจ๊า

รักจัง ลอยกระทง


ช้าไปสองวัน แต่ยังไงก็สุขสันต์วันลอยกระทงนะคะ


ตอนพิเศษ ลอยกระทง



“ปุจฉา กูมียีราฟหนึ่งตัวกับตู้เย็นหนึ่งหลัง กูอยากเอายีราฟตัวนี้เข้าไปอยู่ในตู้เย็น ถามว่าต้องทำยังไง” คำถามบั่นทอนปัญญาจากไอ้อ่อนดังขึ้นกลางวงข้าวกลางวัน เหมือนเคย

“อ้าว ยีราฟของมึง ตู้เย็นก็ของมึง แล้วทำไมพวกกูต้องเป็นคนตอบ” ไอ้โยมทะลุกลางป้องพลางจิ้มลูกชิ้นปิ้งจากถุงกลางโต๊ะใส่ปาก

“ใช่ เกิดช่วยตอบไป มึงได้ไอเดียดี นำยีราฟส่งออกนอกกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของประเทศ ปีนึงทำเงินได้หลายร้อยล้าน ปล่อยพวกกูเป็นบัณทิตตกยากส์ ทำงานเงินเดือนเท่าขี้แกล… โอ้ย”

“สาด ไอ้พวกคิดการไกล คิดไม่ออกก็บอกมาเหอะ” ไอ้อ่อนว่าหลังเบิ้ดกระโหลกไอ้โอ้ไปเต็มมือ

“ฆ่าหั่นศพยีราฟก่อนเลย ตัวใหญ่ๆยาวๆอย่างนั้นต้องหั่นสักห้าส่วนครึ่ง เริ่มจากคอตามด้วยขา” ไอ้บีตอบมาหน้าตายก่อนสูดน้ำกระเจี๊ยบให้หยดย้อยประกอบคำตอบ

“โหดไปแหละไอ้บี ยีราฟนะไม่ใช่ไก่ตอน มึงเห็นตามันปิ้งๆยังงั้นมึงชำแหละมันลงหรือไง… นี่เลย เอาตู้เย็นสัปรังเคไปขายแล้วซื้อตู้แช่ขนาดใหญ่พิเศษ บ้านกูมี ตัดสินใจตอนนี้ลดยี่สิบสองเปอร์เซ็นต์เลยไอ้อ่อน” ไอ้เดย์เริ่มประพฤติตัวเป็นนายหน้า

“เฮ้ย หรือไม่มึงก็ไปขอยืมไฟฉายย่อส่วนจากโดเรม่อนพี่ชายโดเรมี”

แต่ละคนที่นั่งล้อมวงกันอยู่ร่วมสิบชีวิตตะโกนตอบกันไปคนละทางสองทาง ฟังแต่ละคำตอบแล้วไม่น่าเชื่อว่าอีกไม่เกินปี ไอ้พวกนี้จะออกไปใช้ความรู้พัฒนาประเทศ

“โอเคเพื่อน พวกมึงทำให้กูรู้แล้วว่าสอบคราวต่อไปไม่ควรลอกใคร ไหนไอ้กิม อย่ามัวแต่เหม่อคิดถึงแฟน ช่วยตอบคำถามให้กูอย่างชาญฉลาดหน่อยเหอะ”

“ปัญหามึงยากส์โคตร ไม่น่าแปลกใจทำไมไม่มีใครตอบได้” ผมว่าพลางคว้าชามะนาวขึ้นจิบลดอาการฝืดคอ “โง่ๆอย่างกูเนี่ย คงทำอะไรไม่ได้นอกจากเปิดตู้เย็นแล้วจูงยีราฟเข้าไป”

“ถูก! ถูกต้องนะคร้าบ ค่อยยังชั่วเว้ยเฮ้ย เพื่อนกูยังหาที่สมองปกติได้อยู่” ไอ้อ่อนตบโต๊ะดังป๊าบ แล้วยิงคำถามต่อทันที

“แล้วช้างล่ะ ถ้ากูยังมีช้างอีกตัว อยากเอาช้างเข้าตู้เย็นต้องทำไง?”

“มึงปิดตู้เย็นไปยังล่ะ ถ้ายังไม่ปิดก็จูงช้างเข้าไปซิวะ” ไอ้โยมชักเห็นมัน อยากมีส่วนร่วมขึ้นมาทันควัน

“ผิดล่ะมึง ถ้าเล่นงี้มึงต้องไล่ยีราฟออกมาก่อน ใช่เปล่าไอ้อ่อน” ไอ้จั๋วเริ่มจับจุดได้

“ถูก งั้นเอาไปอีกข้อ” ไอ้อ่อนทำท่าคิดเหมือนจะตั้งโจทย์ฟิสิกส์ “ป่าแห่งหนึ่งมีสิงโตเป็นเจ้าป่าน่าเกรงขาม เจ้าป่าเรียกประชุมสัตว์ทุกตัวในพื้นที่ แต่มันจะมีสัตว์ประเภทหนึ่งที่ไม่ได้เข้าร่วม ขอถามว่าสัตว์ที่ว่าคืออะไร”

“กูว่าหมูป่าชัวร์ แม่ง มัวแต่ไล่ขวิดคน” ไอ้โอ้ตอบมาให้ได้นึกภาพตาม

“กูเดาว่าไม่พ้นสิงโตเจ้าป่า มันลืมไง เรียกประชุมแล้วลืมเอง ป๊าด”

“เดี๋ยวๆ อย่าพึ่งเฉลย ให้เวลากูคิดอีกสองวิ” ไอ้เดย์ถ่วงเวลา “… อะนั่นๆแน่ ช้างใช่เปล่าไอ้อ่อน มึงขังช้างไว้ในตู้เย็นมันเลยไปประชุมไม่ได้”

“เออ เก่งมาก! งั้นเจอคำถามเด็ดกู มึงยืนอยู่ริมแม่น้ำที่มีไอ้เข้ไอ้โขลงคลุมพื้นที่ตลอดสาย มึงจะข้ามฟากไปอีกฝั่ง ต้องทำไง บอกก่อนนะเว้ย งานนี้ไม่มีสะพานไม่มีเรือ ไม่มีชุบชีวิต ความสามารถล้วนๆ”

“ไม่ต้องรอให้ถึงมือไอ้กิม งานนี้กูตอบให้เอง มึงก็เตะขาเหยียบปากไอ้เข้ ใช้วิชาตัวเบาลอยละล่องท่องไปให้ถึงอีกฝั่ง จริงเปล่าวะ” ประโยคสุดท้ายไอ้จั๋วหันมาทางผมแทนที่จะเป็นไอ้อ่อน ดูจากสีหน้าแล้วเพื่อนยังเคืองคำแนะนำในเวลาคับขันของไอ้กิมอยู่ไม่น้อย

“ห่านจั๋ว ตอนนั้นกูตกใจคิดอะไรไม่ออก เห็นหน้าซีดเป็นตูดไก่ของมึงกูก็อยากช่วย” ผมเบ้ปาก “แล้วแค่จะข้ามคลองทำไมต้องใช้กำลังภายใน มึงก็ว่ายน้ำข้ามเอาซิวะ ไอ้เข้ไอ้โขลงมันไปประชุมป่าอยู่นู่น”

“ป๊าด กูว่าแล้วมันต้องมาไม้นี้” ไอ้โอ้ตบเข่าฉาด หน้าตาขัดใจที่โดนตอบตัดหน้า

“เฮ้ย!? วันนี้พวกมึงไปแอบโด๊ปอมิโนเป็บไทด์ที่ไหนมา ทำไมฉลาดกันได้โล่ห์” ไอ้อ่อนมีสีหน้ามึนงง ถึงขั้นคีบผิดคีบถูกจากลูกชิ้นหมูในชามตัวข้ามไปเจอลูกชิ้นกุ้งในชามไอ้บี

“แล้วนี่ไอ้มิคไปไหนใครช่วยบอก ปล่อยสาวมานั่งแอบมองกูอยู่ได้ ไอ้กิม?” ไอ้โยมเหล่ข้ามโต๊ะมาทางผมที่นั่งหัวโด่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“อ้าวเฮ้ย เงียบอย่างนี้ ทะเลาะกันอีกแล้วดิ” ไอ้โยมตั้งข้อสันนิษฐาน “อะไรของพวกมึงวะ ยังไม่ทันได้แจกของชำร่วยก็มีปากมีเสียงกันซะแล้ว งานนี้มึงงี่เง่าอะไรอีก”

ผมคว้าชามะนาวขึ้นดูด ขบฟันบี้เม็ดมะนาวที่สูดติดมากับหลอดให้เละคาปาก แล้วยื่นมือไปตบกระโหลกคนถามดังป๊าบก่อนคว้าหัวไอ้โยมข้ามโต๊ะมาล็อคเข้ารักแร้แบบไม่ให้มันตั้งตัว ไอ้โยมที่ต้องทะลึ่งขึ้นยืนพยายามหาทางหนีโดยการทำตัวพลิ้วไปซ่อนหลังไอ้จั๋ว แต่โดนไอ้อ่อนสะกัดดางรุ่งดึงศูนย์หน้าฉีกไปอีกทาง

“โอ้ยย! ไอ้มิคช่วยกูด้วย” ไอ้โยมยังมีการหลอกล่อ ตะโกนชื่อบุคคลที่สามขึ้นหลอกจนผมชะงัก เปิดจังหวะให้คนใต้รักแร้ดึงหัวหลุดไปยืนหัวเราะหน้าดำหน้าแดงก่อนหันไปเล่นงานไอ้อ่อนคู่กรณีใหม่

ผมทิ้งก้นนั่งแบบหมดอารมณ์จะสานต่อแล้วคว้าชามะนาวที่เหลือแต่น้ำแข็งขึ้นสูดเต็มโฮก ก่อนเหลือบไปเห็นอะไรวิ้งๆแว็บๆเคลื่อนที่ตรงมา ไม่ต้องหันคอมองให้เต็มตาก็รู้ บุคคลที่สามของไอ้โยมนั่นเอง

บุคคลที่สามเดินหล่อเข้ามาถึงโต๊ะแล้วพยักหน้าตอบรับคำทักทายจากเพื่อนฝูงด้วยหน้านิ่งสนิท ก่อนทิ้งมือหนักๆลงบนไหล่ผมที่คว้าข้าวเหนียวหน้ากุ้งไอ้เดย์มากินกลบเกลื่อนอารมณ์ ผมเคี้ยวข้าวเหนียวในปากแบบแทบจะไล่บี้ทีละเม็ด ยืดเวลาไม่เงยหน้ามองเจ้าของมือหรือแม้แต่จะเปิดปากทักทาย คนข้างหลังผมที่แม้ว่าจะยังวางมืออยู่บนไหล่ แต่ไอ้มิคก็แค่ยืนเฉย ไม่มีการก้มมาเอ่ยทักแบบสนิทชิดเชื้อเหมือนที่ทำอยู่ทุกคราว

อาการเงียบและท่าทางที่ผิดแผกระหว่างผมกับอีกคนเหมือนจะทำให้เพื่อนร่วมวงที่กำลังเฮฮากับปัญหาเชาว์ไอ้อ่อนหยุดชะงัก ไอ้โอ้ไอ้โยมที่กำลังจะเอ่ยแซวตามนิสัยถึงกับหุบปากฮุบลมแล้วมองกันไปมา ไอ้เดย์ที่นั่งอยู่ชิดติดผมถึงกับเขยิบก้นเบียดไอ้จั๋วแทบตกเก้าอี้ ขยับที่เปิดทางให้ไอ้มิคได้ทิ้งก้นมาข้างไอ้กิม

ไอ้มิคที่ก้าวข้ามเก้าอี้ลงนั่งชักมือตัวเองกลับไปไว้กับเนื้อกับตัวแล้วล้วงมือถือขึ้นกดรับโดยไม่ได้เหลือบแลมาทางผมที่นั่งอยู่ชิดติดกันแม้แต่น้อย เสียงทุ้มๆกรอกซาวว์แทร็กตอบรับคู่สนทนาไม่กี่ประโยคด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนกดวางสาย ไอ้มิคหยุดนิ่งไปหนึ่งจังหวะหายใจก่อนหันมาทางผม หน้าหล่อเหลาคุ้นตาเปิดยิ้มบาง แต่กลับเป็นยิ้มที่ทำให้ช้อนในมือผมชะงัก ทำให้อะไรบางอย่างในใจมันวูบโหวง ยิ้มที่ไม่ต้องพยายามมองก็รู้ว่าฝืนใจ

“เย็นนี้คงไปรับช้าหน่อย” คนที่ยังมียิ้มจางติดริมฝีปากบอก ก่อนหันไปทางไอ้โอ้ไอ้อ่อนที่เริ่มเปิดวงตั้งคำถามกันอีกรอบ

“ยุ่งเหรอวะ” ผมถามและได้คำตอบเป็นการพยักหน้า ไอ้มิคตอบรับโดยไม่ได้หันมาก่อนล้วงมือถือขึ้นกดรับอีกครั้ง วันนี้ของทุกปีไอ้มิคจะถูกตามตัวกลับบ้านไปทำหน้าที่กิตติมศักดิ์ต่างๆนาๆในฐานะลูกชายคุณหญิงแม่ ไปออกงานการกุศลนู้นนี้ กว่าจะโผล่หน้ามาร่วมวงเหล้าฉลองวันลอยกระทงกับเพื่อนกับฝูงได้ก็ล่วงเลยวันใหม่ไปแล้วประจำ

“... คืนนี้กูไปกับพวกไอ้อ่อน นัดกันไว้แล้วที่หอกู มึงไม่ต้องมารับหรอก” ผมบอกเมื่ออีกฝ่ายกดวางสาย “คนเยอะ รถติด ขับวนไปวนมา เสียเวลามึงเปล่าๆ อยู่ลอยกระทงกับที่บ้านไปเหอะ”

“....................”

“ทางนี้ยังไงก็ลอยกระทงหมู่อยู่แล้ว เดี๋ยวกูอธิฐานเผื่อ... ไว้พรุ่งนี้เจอกันคาบเช้าเลยแล้วกัน” ผมว่าไปอย่างนั้น ยิ้มอย่างเคย ตบไหล่อีกฝ่ายแล้วลุกออกจากโต๊ะมาโดยไม่รอฟังคำตอบ ที่จริงถึงผมไม่รีบลุกรีบเดินออกมาอย่างนี้ผลก็คงไม่ต่างกัน เพราะไอ้มิคก็คงไม่มีคำตอบ คงนิ่งเฉย เหมือนกับที่อีกฝ่ายไม่ได้ก้าวตามผมมาเหมือนทุกที

เรื่องระหว่างผมกับไอ้มิคมันกลายมาเป็นแบบนี้ตอนไหน ระหว่างทางที่ก่อร่างสร้างสัมพันธ์ เปลี่ยนความสนิทจากคำว่ามิตรภาพระหว่างเพื่อนเป็นความผูกพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างคนสองคน ผมว่าทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดีไม่มีอะไรผิดไม่มีอะไรเพี้ยน แล้วเมื่อไหร่กันที่รอยยิ้มของไอ้มิคไปไม่ถึงตา เมื่อไหร่กันที่ใจผมมันวูบโหวงเวลาเห็นอีกฝ่าย รอยยิ้มคุ้นตาแต่ไม่คุ้นใจ ความหวิวโหวงที่เข้ามาแทนที่ความยินดี

จะว่าไปจุดเริ่มคงเป็นเพราะอาการหยุดชะงัก หยุดชะงัก ตาสว่าง และคิดได้ของคนที่เคยบอกกับผมว่าความรักนี้จะไม่มีวันเปลี่ยน ใจไอ้กิมที่ได้ไปจะไม่โดนเปลี่ยนไม่โดนคืน มาวันนี้เจ้าของคำสัญญากลับตาสว่างว่าสิ่งที่ได้ไปก็แค่ความรู้สึกของคนๆหนึ่ง ไม่ได้มีค่ามากมายเหมือนที่คิด เหมือนที่เคยอยากได้

สิ่งที่ทำให้ไอ้มิคตาสว่างคงเป็นเพราะคำปฏิเสธการโอนสัมโนครัวเข้าไปอยู่ร่วมคอนโดไฮโซครั้งแล้วครั้งเล่าของผม ในครั้งแรกๆของการบอกปัดคำชวน ไอ้มิคยังคนตื้อ ตื้อยกเรื่องเดิมมาเป็นประเด็นทุกครั้งหลังอาหาร แต่หลังจากผมปฏิเสธอย่างจริงจังในครั้งสุดท้าย บอกไปว่าหากยังยกเรื่องเดิมเรื่องเดียวเรื่องนี้มาพูดอีกครั้ง ไอ้กิมจะโกรธจริงไม่โกรธเล่น จะยึดกุญแจดอกเดียวดอกเดี่ยวของหอคืน โทษฐานทำตัวพูดไม่รู้เรื่อง หลังจากโดนไม้นี้ไอ้มิคก็เงียบไป ไม่มีการยกเรื่องแพ็คเสื้อผ้าลงกล่องลงลังย้ายที่อยู่กันอีก ไอ้มิคเงียบแล้วใช้การปล่อยรังศีออกมากดดันกันแทน ผมที่เจออีกฝ่ายเล่นไม้นี้เลยงัดไม้นิ่มไม้นวมเข้าสู้ เอาอกเอาใจ ง้อไว้ก่อนทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้แสดงออกว่างอนหรือไม่พอใจอะไรอย่างโจ่งแจ้ง

ที่จริงแล้วไอ้มิคไม่ได้แสดงอาการปั้นปึ้งบึ้งตึงกับเรื่องนี้เรื่องนั้นหรือเรื่องไหนแม้แต่น้อย ไอ้มิคยังคงทำตัวเหมือนเคย เทคแคร์ดูแลไอ้กิมไม่ขาดตกบกพร่อง มีเพียงบางครั้ง บางครั้งที่เจ้าตัวอาจไม่รู้ว่าผมเห็น บางครั้งที่ดวงตาสีอ่อนจ้องมาด้วยแววที่เปลี่ยนไป บางครั้งที่รอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลามันฝืดเฝื่อน บางครั้งที่กลายเป็นบ่อยครั้ง บ่อยครั้งที่ทับทมพอกพูนจนผมเองต้องเป็นฝ่ายเสหน้าหลบสายตา

สำหรับผม สิ่งที่เห็นอยู่เต็มสองตาตีความได้ไม่ยาก ไอ้มิคที่ไม่เคยเอ่ยปากขออะไรกับใคร เพราะผู้คนรอบข้างพร้อมจะนำเสนอ จะเอาใจ ไอ้มิคที่ไม่เคยได้รับคำปฏิเสธ สิ่งที่ผมแสดงออก คำปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าของผมคงทำให้อีกฝ่ายเซ็ง เซ็งจนหยุดชะงัก หยุดคิด สุดท้ายก็ได้สติ ว่าทำไมเล่า ทำไมคนอย่างไอ้มิคถึงต้องมาคอยรับคำปฏิเสธของไอ้กิม ทำไมคนที่เป็นที่ต้องการของใครต่อใครอีกเป็นร้อยเป็นพันต้องมารู้สึกว่าไม่เป็นที่ต้องการสำหรับคนอย่างผม


__________________________________
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2010 22:09:44 โดย DraCo_SLa13 »

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
“คืนนี้มึงไปกับพวกไอ้อ่อนไอ้เดย์ใช่เปล่า กูไปด้วย เดี๋ยวได้ฤกษ์เดินขบวนแล้วมาเคาะห้องกูด้วยนะ” ไอ้อ่ำส่งเสียงมาตามสาย นาฬิกาบอกเวลาห้าโมงตรง

“เป็นอะไรมากเปล่าไอ้อ่ำ ห้องอยู่ติดกันเดินมาบอกกูก็ได้นะ แล้วไหนว่าปีนี้จะขอทำบุญร่วมกระทงกับน้องติดตี่ ไม่ให้พวกกูไปเสนอหน้าไง” ผมถามพลางกดรีโมท์เปิดโทรทัศน์

“ก็น้องติดตี่เสือกเปลี่ยนไป เปลี่ยนใจไม่อยากไปรำวงร่วมกับคนหน้าตาดีซะงั้น” ไอ้อ่ำว่า ฟังจากสำเนียงไม่ค่อยชัดถ้อยชัดคำของมันแล้วเดาได้ว่าเพื่อนคงกำลังพอกหน้าเตรียมออกงาน

“อ้าวเฮ้ย ไหนมึงว่าคนนี้ของแท้ไม่มีเทียม คบกันมาม่าไม่ทันนิ่มซะงั้น”

“โอ้ย ใครมันจะไปเกิดมามีชีวิตเพื่อกันและกันเหมือนคนข้างห้องกู” ไอ้อ่ำแขวะมาให้ได้เจ็บจีดส์ในใจ “ของกูเนี่ย มันเรียกว่าทุกข์ของคนหล่อ น้องติดตี่มองหน้ากูอยู่ดีๆ แม่งก็บอก พี่อ่ำเราเลิกกันเถอะ ติดตี่รู้สึกว่าอยู่กับพี่แล้วหมอง ไม่มีสง่าราศี”

แล้วไอ้อ่ำก็ร่ายความทุกข์ใจของคนหล่อต่อไปอีกเกือบยี่สิบนาที ผมฟังหูซ้ายทะลุหูขวาพลางกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปแก็กๆ ตาจ้องภาพในจอ หูฟังเสียงไอ้อ่ำ แต่สิ่งที่หลุดเข้าสมองกลับมีเพียงหน้าใครอีกคนที่ไอ้อ่ำดันพาดพิงถึง คำไอ้อ่ำอาจถูกแต่ถูกเพียงครึ่ง มาถึงตอนนี้ไอ้กิมคงต้องยอมรับว่าชีวิตนี้ที่เกิดมาแม้ไม่ถือว่าเกิดมาเพื่อใครแต่ก็ยกทั้งใจให้คนๆหนึ่งไปแล้วแบบหมดหน้าตัก หมดตัว

เสียงมือถือดึงผมออกจากความมืดมนส่วนตัวที่ช่วงนี้มักเกิดเป็นพักๆ ไอ้อ่อนโทรมาส่งสัญญาณว่าอีกสิบนาทีจะโฉบมาถึงพร้อมไอ้จั๋ว ผมคว้ากระเป๋าตังค์ ปิดโทรทัศน์ ยกมือลูบหน้าให้พอแจ่มใสแล้วเดินออกจากห้องไปเคาะห้องไอ้อ่ำ ระหว่างยืนรอเพื่อนมาเปิดประตู มือถือก็ส่งเสียงให้ต้องยกขึ้นรับอีกครั้ง

“พวกกูรออยู่ข้างล่าง ไอ้อ่ำไปด้วย รถมึงซ้อนสามได้เปล่าวะ” ผมกรอกเสียงทันทีที่กดรับพอดีกับที่ไอ้อ่ำเปิดประตูออกมาประหนึ่งจะไปเดินแบบ หน้านี่เด้งยิ่งกว่าตัวแทนนางนพมาศ

“ไอ้อ่อน มึงกลับไปเปลี่ยนรถเก๋งมาทันเปล่าวะ ให้ซ้อนมอเตอร์ไซด์เดี๋ยวผมไอ้อ่ำจะปลิวเสียทรงก่อนขึ้นเวทีประกวด” ผมว่าพลางสอดส่ายสายตาหามอเตอร์ไซด์เพื่อน

“... ให้พวกมันไปกันก่อน กิมรอได้ไหม” เสียงของคนที่อยู่ในความคิดผมตลอดเวลาแว่วมาจากปลายสายแทนที่จะเป็นเสียงไอ้อ่อนไอ้จั๋ว “ไม่เกินครึ่งชั่วโมงครับ”

“..................”

“กิม”

“... แล้วงานแม่มึงล่ะ” ผมถามพลางส่งสัญญาณให้ไอ้อ่ำไปกับไอ้อ่อนที่มาถึง แล้วเดินกลับเข้าห้อง “อย่าบอกนะว่าหนีมา”

“ไม่ได้หนี ปีนี้มีตัวแทน” เสียงทุ้มตอบมามีแววขำ “บอกแม่ว่ามีคนรอลอยกระทงอยู่”

“..................” คำพูดอย่างเคยๆพาเอาบรรยากาศเก่าๆลอยมากับสายลม บรรยากาศที่เหมือนว่าไอ้มิคจะสามารถส่งยิ้มให้ผมได้จากปากถึงตา ช่วงเวลาที่เหมือนว่าใจของคนพูดยังอยู่กับผมทั้งใจ

“... ใช่ไหม” เสียงไอ้มิคเปลี่ยนเป็นจริงจังดึงผมให้หลุดจากภวังค์

“... ใช่อะไรวะ?”

“ยังมีคนคอยอยู่...” เสียงคนพูดไม่ได้แผ่วแต่กลับมีแววลังเล ไม่แน่ใจ “กิม ยังรออยู่ใช่รึเปล่า”

“...................”

“...................”

“... ทำไมวะ... มันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเราวะไอ้มิค” ผมโพล่งออกไปในที่สุด โพล่งสิ่งที่คิดแต่ไม่เคยนึกถาม ไม่มีวันจะถาม ไม่มีวันพูดออกไปให้มันมีโอกาสเป็นจริง

“ทำไมมึงถึงไม่แน่ใจว่ากูจะรอ... ทั้งที่กูไม่เคยไปไหน... แล้วทำไมกูเอง ทำไมวะ กูเองก็กลับไม่แน่ใจเลยว่ามึงอยากให้รอเหมือนที่พูดออกมา”

“..................”

“... ความไม่แน่ใจเฮงซวยพวกนี้มันมาจากไหนวะไอ้มิค” ผมถามออกไปเสียงแผ่ว รู้สึกจุกในอกจนแทบพูดไม่ออก

คู่สนทนาผมไม่ตอบ เสียงจากโทรศัพท์มีเพียงความเงียบก่อนปลายสายถูกกดตัด แล้วร่างกายสูงใหญ่กับใบหน้าหล่อเหลาที่ผมคงไม่มีทางมองผิดกับใครในชีวิตนี้ก็ก้าวผ่านประตูเข้ามาให้เห็น ไอ้มิคยังอยู่ในกางเกงสแล็คกับเชิ๊ตสีอ่อน ผมที่เริ่มยาวกว่าการสกินเฮ็ดถูกหวีถูกแต่งอย่างเนี้ยบ แม้แต่รองเท้ายังเป็นหนังไม่มีแม้รอยตำหนิ เครื่องแต่งกายที่แสดงให้รู้ว่าเจ้าตัวคงกระโดดขึ้นรถทันทีที่ออกจากงาน รีบเร่งรีบมาเพราะอยากมาเห็นหน้าให้ชื่นใจ แต่ทำไมใบหน้าที่ผมเงยขึ้นเจอกลับหม่นหมอง ดูยังไงก็ไม่ใช่สีหน้าของคนที่ดีใจในการมาอยู่ตรงนี้

“ถ้าไม่ใช่เพราะความคิดเปลี่ยนไป ความไม่แน่ใจก็คงไม่มี”

ไอ้มิคที่ก้าวมาหยุดอยู่ห่างไปเพียงเอื้อมมือ ไม่ได้ตอบเพียงคำพูด สายตาที่จ้องตรงมาย้ำประโยคให้เท้าผมที่กำลังจะก้าวเข้าหาอีกฝ่ายหยุดชะงักอยู่กับที่

“... นี่คือคำตอบของมึงหรือ” ผมกลั้นใจถามออกไปเต็มเสียง “ความคิดมึงเปลี่ยนไปแล้ว...”

สีหน้าไอ้มิคเปลี่ยนจากเคร่งขรึมจริงจังเป็นเกือบจะเหยเกกับคำถามของผม และโดยไม่มีคำพูดฝ่ามือที่อุ่นจนร้อนก็ยื่นมาคว้าคอให้เข้าไปหา ฝ่ามือที่บังคับให้ผมต้องมองเข้าไปในดวงตาสีอ่อน ที่โขกหน้าผากเข้ามาชิดติดกัน

“ใครกันแน่ที่ไม่เหมือนเดิม” เสียงไอ้มิคสั่น สายตาที่จ้องเขม็งตรงมาไม่ยอมกระพริบหลบแม้จะวูบไหว “ใครกันแน่ที่เปลี่ยนใจ ที่อยากจะไปจากตรงนี้!”

“คนที่เริ่มไม่ว่าง ที่ไม่อยากให้อยู่กินข้าวด้วย... คนที่ดันหลังกูออกจากห้อง ที่หันหนีไปทางอื่นมันมึงไม่ใช่หรือไงกิม”

“...............” สิ่งที่ได้ยินกับขอบตาแดงก่ำของไอ้มิคทำให้ผมน้ำตาตก ปากที่ควรจะเปิดตอบโต้กลับแห้งผาก

“ที่กิมคิดว่ากูเปลี่ยนใจ มันเพราะใจมึงต่างหากที่อยากให้เป็นอย่างนั้น”

ความหมายของหนึ่งประโยคกับมือบนคอ มือที่ยังคว้าต้นคอผมไว้มั่น กับสองตาที่แม้ว่าจะถูกกลบด้วยม่านน้ำแต่ก็ยังจ้องตรงมาไม่หวั่นไหว ทำให้ผมรู้ว่าเจ้าของมือจะไม่มีวันปล่อยไม่ว่าคนใดคนหนึ่งระหว่างเราจะเป็นคนที่เปลี่ยนไป

ผมยกมือลูบหน้า ขยี้ตาให้ความขุ่นมัวจางหายแล้วคว้าคอไอ้มิคที่แนบหน้าผากอยู่ห่างเพียงลมหายใจเข้ามาประกบปาก ลดช่องว่างทั้งหลายแหล่ กำจัดความไม่แน่ใจทั้งหมดทั้งมวลด้วยริมฝีปากที่แนบลงไปไม่นุ่มนวล กดย้ำไว้อย่างนั้นจนความรู้สึกจุกแน่นในอกค่อยบางเบา ไอ้มิคที่โดนผมดึงปากมากระแทกเกร็งตัวเหมือนไม่แน่ใจก่อนคลายความเกร็งแล้วแนบหน้ามาแบ่งปันลมหายใจ

“กูไม่เคยเปลี่ยนใจ ไม่เคยคิดให้มึงเปลี่ยนใจ” ผมเค้นเสียงที่ติดจะแหบ พูดสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในใจออกไปแบบหมดเปลือก

“ที่กูหันไปทางอื่น เพราะไม่อยากเห็นยิ้มที่ไม่ได้มาจากใจ... ตอบกูมาคำเดียวไอ้มิค อะไรทำให้มึงต้องฝืนยิ้ม เป็นเพราะมึงต้องฝืนอยู่กับกูหรือเปล่า”

ไอ้มิคที่ยังชนหน้าผากอยู่กับผมปล่อยมือจากต้นคอแล้ววาดสองแขนขึ้นมาพาดไหล่ ร่างกายสูงใหญ่ขยับก้าวเข้ามาจนไม่เหลือระยะห่าง

“ถ้าจะมีเรื่องต้องฝืนก็คือการไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ไม่ได้กอดไว้อย่างนี้” เสียงเข้มไม่มีแววล้อเล่นหรือโกหก
“ยิ้มที่กิมเห็นว่าไม่จริงใจกูไม่เคยทำ และจะไม่มีวันทำ”

“จะไม่มีวันไหนที่ไอ้มิคคนนี้จะฝืนยิ้ม จะเปลี่ยนใจ เปลี่ยนความคิด เพราะมันรักไอ้กิมยิ่งกว่าหัวใจของมันเสียอีก”

“.................”

“So, please say you love me too.”

น้ำเสียงยืนยันหนักแน่นที่แผ่วปลายในประโยคหลังทำให้ความรู้สึกมากมายหลายหลากมันปรี่ขึ้นมาอยู่ในตา จนต้องยกสองมือขึ้นกระชับใบหน้าหล่อเหลา เบียดอกสามศอกเข้าไปประชิดติดกับอีกฝ่ายจนรับรู้จังหวะการเต้นของหัวใจอีกดวง แล้วบอกออกไปไม่กระซิบ

“ไอ้กิมคนนี้ก็รักไอ้มิคยิ่งกว่าตัวมันเอง เหมือนกันว่ะ”


___________________________________



ส่งท้าย ลอยกระทง (ซักที)

“อยู่ไหนแล้วมึง พวกกูกำลังจะหย่อนกระทงลงคลองแล้วนะ ยังไม่โผล่หัวมาอีก” เสียงไอ้จั๋วรัวมาจากปลายสายทันทีที่ผมกดรับ ฉากหลังมีเสียงโหวกเหวกฟังไม่ได้ศัพท์ให้สมกับเป็นงานรื่นเริง

“ไอ้โยมฝากบอกว่าถ้ามึงมาไม่ทัน บุญส่วนของมึงมันเหมาแต่ค่ากระทงหารเท่าว่ะ”

“บอกไอ้โยมว่ากูอุทิศให้ ค่ากระทงหารเท่าไม่เป็นไร แต่ค่าเหล้าส่วนกูให้มันจ่าย” ผมว่าพลางทำเนียน ใช้จังหวะการเบียดเสียดของผู้คน เอนตามการดึงของเจ้าของแขนที่พาดอยู่บนไหล่ “กูอยู่บนรถไฟฟ้ากับไอ้มิค คงอีกพัก คนเยอะโคตร พวกมึงลอยกันไปก่อนเลย กูคงไปไม่ทัน”

“อ้าว ทำบุญไม่ครบชาติ ตักบาตรไม่ครบขัน ลอยกระทงไม่พร้อมกัน อย่างนี้ชาติหน้าเกิดมา มึงไม่เจอพวกกูจะทำไง” ไอ้จั๋วทำน้ำเสียงจริงจังถามลอดออกมา ก่อนต่อ “อ๋อ กะว่าปีนี้จะขอปลีกวิเวกไปทำโรแมนติกซ์ลอยกระทงกันสองต่อสองกับไอ้มิคใช่เปล่าวะ ไม่บอกกูก่อนจะได้ตามไปแห่นำขบวน”

น้ำเสียงไอ้จั๋วช่างน่าถีบ แต่ก่อนที่ผมจะได้ตอบอะไร เสียงจากปลายสายก็โหวกเหวกโวยวายก่อนวางไปไม่มีล่ำลา และรถไฟฟ้าก็เข้าท่า ปล่อยผู้คนที่อัดอยู่เต็มขบวนไหลออกจากสถานนีตอนอีกสิบนาทีสี่ทุ่ม ผมที่หลุดออกจากขบวนรถเดินปะปนกับฝูงชนตามแรงดันเอื่อยๆจากแขนบนบ่า ไอ้มิคที่เปลี่ยนมาใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ยังคงหล่อเทพจนสาวพากันเหลียวหลัง แม้ว่าตาคมๆยังมีรอยแดงจากเหตุการณ์แสดงอารมณ์กับไอ้กิมเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน

ผมเดินตามผู้คนโดยมีไอ้มิคพาดแขนอยู่บนไหล่ ท่ามกลางผู้คนเป็นสิบเป็นร้อย ใบหน้าหล่อเหลาหันมาชวนคุยเรื่อยเปื่อย แสดงความสนิทชิดใกล้เกินพอดีโดยไม่แคร์สายตาใคร เสียงหัวเราะทุ้มต่ำกับรอยยิ้มจางติดริมฝีปาก รอยยิ้มคุ้นตาที่ผมมองไม่เห็นอีกแล้วว่ามันฝืดเฝื่อน ไอ้มิคกลับมาเป็นไอ้มิคของไอ้กิมที่ไม่มีอะไรเปลี่ยน จนเหมือนว่าสาเหตุที่ทำให้เราทะเลาะกันไม่เคยมี

“ได้เห็นหน้ามึงก่อนเข้าวันใหม่คืนวันลอยกระทงนี่แปลกดี ทุกปีต้องตอนตั้งวงไปแล้ว” ผมบอกระหว่างมองกระทงขนมปังในมือกับอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ที่เดินกันมาถึงริมคลองท่ามกลางคนเป็นร้อย

“แถมมาไม่ได้กิน มาทำหน้าที่รับคนเมากลับบ้าน” ไอ้มิคต่อแล้วป้องมือจุดเทียน เสี้ยวหน้าที่เห็นจากแสงจันทร์มีมิติดูหล่อเหลาเกินบรรยาย

“เออ แต่ปีนี้คงไม่ได้เมา ปีนี้อยากแจ่มใส” ผมว่าพลางล้วงกระเป๋าหาเศษเหรียญ “เดี๋ยวลอยเสร็จ หาอะไรกินแล้วกลับเลยดีกว่า ถ้าไปเจอพวกไอ้อ่อนเดี๋ยวจะปลิ้นถึงเช้า”

ไอ้มิคไม่ได้ตอบอะไร เพียงเงยหน้าจากการจุดไฟขึ้นมาส่งสายตาสื่อความนัย สายตามันวิบๆวับๆจนผมไม่แน่ใจว่าหรือไอ้กิมจะไม่ควรมีสติแจ่มใสในคืนนี้ ไม่อยากเชื่อว่าแม้ขณะจะยกกระทงขึ้นจ่อหัวอธิฐานเพื่อนก็ยังคึกได้ ทั้งที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนพึ่งนัวเนียปลอบขวัญกันไปหมาดๆ

“แปลกๆว่ะ ลอยกันแค่สองคน ทุกปีต้องกระทงหมู่ นับจำนวนคนแล้วเกือบหารบุญไม่พอ” ผมว่าเบี่ยงประเด็น แต่ไอ้มิคที่ยังไม่ยอมละสายตาไปกลับอาศัยความมืดท่ามกลางฝูงชนช้อนมือมาวางทาบใต้กระทง

“ปีนี้ ปีหน้า ปีถัดไป กิมก็จะถือกระทงโดยมีกูเป็นคนจุดเทียนอย่างนี้” คนไม่อายใครขยับย่นระยะเหมือนทั้งคลองทั้งทุ่งมีเพียงเราสอง เสียงเข้มที่เอ่ยออกมาฟังจริงใจไม่จริงโจ้จนไม่กล้าเหลือกลูกตาหลบ

“จะไม่มีอีกแล้วที่กูจะยอมถูกเดินหนีโดยไม่ตาม ไม่มีอีกแล้วที่เราจะทะเลาะกันว่าใครมันเปลี่ยนไป อีกห้าปี สิบปี กูก็จะอยู่ตรงนี้ ตรงที่ๆมีกิม”

ไอ้มิคพูดทุกคำออกมาอย่างมั่นใจ เหมือนว่าสิ่งที่ออกมาจากปากเป็นความจริงแท้ของโลกไม่ใช่เพียงคำสัญญา ใบหน้าคุ้นตาที่เห็นจากเพียงเปลวเทียนเคร่งขรึมจริงจังเหมือนจะรอให้สารที่ส่งผ่านซึมซับเข้ามายังคนฟังที่ได้แต่ยืนบื้อใบ้อย่างผม

ผมยืนนิ่ง ไม่ตอบรับไม่หือไม่อือ ไม่ใช่เพราะไม่เชื่อสิ่งที่อีกฝ่ายบอกออกมา มาถึงตอนนี้ ความลังเลไม่แน่ใจ ความสงสัยในความรู้สึกของอีกคนไม่มีอยู่อีกแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ผมได้แต่ยืนจ้องตาไอ้มิคไม่เปิดปากเป็นเพราะหลายสิ่งหลายอย่างที่ประทุอยู่ในอก ความรู้สึกหลายหลากทำให้พูดไม่ออก ทำให้ขอบตามันร้อนจนหน้าเหย

“ว่าไงว่าตามกันว่ะ”

ผมบอกออกไปด้วยหน้าที่เริ่มเบี้ยว ไอ้มิคเปิดยิ้มชนิดว่าพลุที่จุดเปรี้ยงปร้างขึ้นฟ้าต้องดับแสง มือร้อนๆที่ผมคุ้นเคยหนักหนายื่นมาคว้าคอให้เข้าไปหาจนแก้มชนกระทบไหล่ เสียงพึมพำบอกความรู้สึกที่ได้ยินอยู่ชิดติดหูทำให้ต้องกระชับอ้อมแขน ดึงคนที่เป็นของผมทั้งใจกายให้ใกล้เข้ามาจนไม่เหลือช่องว่าง

ดีที่เวลานี้มันย่ำค่ำ แสงไฟที่ส่องให้เห็นมีเพียงแสงจันทร์แสงเทียน คนเป็นสิบเป็นร้อยที่เดินผ่านไปมาเลยไม่ต้องหยุดสะดุดสะดุ้ง แต่ถึงตอนนี้จะเป็นเที่ยงวันมีแสงอาทิตย์แสงไฟฟ้า ผมก็คงจะยังจะก้าวเข้าหาคนที่ยื่นมือมา แล้วยกสองแขนขึ้นตอบรับสัมผัส ดึงไอ้มิคเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดโดยไม่แคร์สายตาใคร ก็มาถึงป่านนี้ คนที่ผมต้องแคร์ ต้องคิดถึงความรู้สึก คงไม่พ้นอีกคนที่ถือกระทงร่วมกันอยู่คนนี้คนเดียว

สุขสันต์วันลอยกระทงครับ


จบตอนพิเศษ ลอยกระทง

=========================================================================

ขอโทษนะคะ FC กิมมิค&คุณหมี เพราะคุณหมีอัพตอนนี้ตั้งแต่วันที่23 แต่คนโพส มิรู้เรื่องแต่อย่างใด มัวทำการบ้านคร๊า(ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันไหนวันลอยกระทง..ยังด่ามันอยู่เรยตอนทำการบ้านอ่ะ ว่าโอ๊ย เมิงจะจุดพลุกันทำเตี่ยไงว่ะ ...บลาๆ)


ออฟไลน์ MyTeaMeJive

  • MyTeaMeJive
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1894
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3313/-9
มิเป็นไร
มาเมื่อไหร่ก็ตามมาอยู่ดี

ขอบคุณครับ
สุขสันต์ในทุกๆวันนะครับ

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
ซึ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

บอกรักกันสิคะ บอกบ่อยๆ บอกทุกวันทั้งด้วยคำพูด ด้วยสายตา ด้วยการกระทำ
บอกรักจนทั้งกิมทั้งมิคมั่นใจและไม่ต้องกลัวไปคนเดียวว่าอีกฝ่ายจะเปลี่ยนไป

ขอบคุณทั้งคนแต่งคนโพสเลยค่ะ :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด