รักจัง ตอนพิเศษ อีกด้านของความรัก
[/color]
สายฝนที่ตกลงมาในยามเย็นแม้จะเป็นเพียงฝนปรอยแต่ก็ทำให้การจราจรบนท้องถนนของเมืองกรุงเกิดอาการติดขัดไปทั่วทุกแห่ง ผู้คนเดินเท้าเร่งรีบไม่อยากเปียก รถเมล์รถส่วนตัวบีบแตรแย่งช่องทางจราจร เสียงสบถของคนขี่มอเตอร์ไซค์ที่ลัดเลาะซอกแซกมาเจอกันจนต้องเบรคกันตัวโก่ง มลพิษทางเสียง ความตึงเครียดในบรรยากาศกับความหม่นหมองของท้องฟ้า พาให้ใครต่อใครรู้สึกเหนื่อยหน่าย พาให้อารมณ์มันหดหู่ขึ้นมาทั้งที่ไม่ตั้งใจ ไม่เว้นแม้แต่ชายหนุ่มที่นั่งประจำที่คนขับอยู่ในบีเอ็มสีควันบุหรี่
ใบหน้าหล่อจัดที่ใครได้เห็นเป็นต้องเหลียวมองไม่แสดงอารมณ์ใดๆให้รับรู้ สายตาสีอ่อนเพราะการผสมข้ามเชื้อชาติจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าด้านข้างของอีกคนในรถ คนที่ตั้งแต่ขึ้นรถมาก็เอาแต่คุยโทรศัพท์จนเหมือนลืมไปแล้วว่ามีเขาอยู่ตรงนี้ คนที่แม้จะมองอยู่เป็นนานก็ไม่มีทีท่าจะหันมาสนใจ ไม่มีแม้แต่จะหันมามองเมื่อรถคันหลังบีบแตรไล่ให้ออกตัว
ชายหนุ่มดึงสายตากลับสู่การจราจรที่เริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้งด้วยอารมณ์ที่ไม่ได้ราบเรียบเหมือนสีหน้า แม้จะได้ยินอยู่ชัดเจนว่าคนที่อีกฝ่ายคุยด้วยคือน้องสาว โทรมาเพราะมีเรื่องปรึกษาและดูจะไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่คุยได้ผ่านๆ เพราะคนที่อยู่ในสายตายกมือขึ้นเกาคางอยู่หลายครั้ง ลักษณะอาการที่มักแสดงออกเวลาครุ่นคิดจริงจัง แม้เจ้าของมือจะไม่รู้ตัวว่าติดนิสัยนี้แต่เขารู้ เขารู้ทุกอย่าง ทุกเรื่องถ้าเกี่ยวกับคนที่แคร์ยิ่งกว่าใครคนนี้
และใช่ เขารู้ว่ากิมไม่ได้ตั้งใจทำเมิน ไม่ได้เอาแต่เหม่อมองไปนอกรถเพราะเจตนา แต่ทั้งๆที่รู้ อารมณ์ขมๆจนฝาดเฝื่อนที่ไม่เคยได้รู้จักจนกระทั่งมาเจออีกฝ่ายก็ผุดขึ้นเต็มใจ แม้ว่าคนที่กิมคุยด้วยจะเป็นน้อง เป็นคนในครอบครัวที่ไม่มีวันผันความสัมพันธ์ไปในเชิงชู้สาว แต่ความรู้สึกที่เหมือนโดนแย่งความสนใจไปจากตน การที่เห็นคนข้างๆให้ความสนใจคนอื่น แม้เพียงน้อยนิด เพียงไม่กี่นาทีของวัน ก็ทำให้อารมณ์ขมๆที่ฝาดเฝื่อนอยู่ในอกมันพุ่งขึ้นมาจนแทบล้นทะลัก ความรู้สึกที่แม้ไม่ใช่หึงแต่ก็หวง หวงจนเกินพอดี เกินไปจนตัวเองยังแทบรับไม่ได้ และเขาก็รู้ดียิ่งกว่าใครว่าหลายครั้งหลายหนคนที่โดนหวงก็อึดอัดขัดข้องจนต้องแอบถอนใจ รู้ แต่ก็หยุดความหวงจนเกินพอดีนี้ไม่ได้ ดูท่าเขาจะอาการหนักเกินไปเสียแล้ว อาการหนักจนเกินเยียวยา
ดอมินิค แม็คแกรน ผ่อนลมหายใจอย่างหงุดหงิดกับความคิดที่เริ่มจะอึมครึมของตน ก่อนคว้าโทรศัพท์ที่สั่นครืดคราดอยู่ในช่องใส่ของข้างกระปุกเกียร์มากดรับสายโดยไม่สนใจมองชื่อหรือเบอร์ที่แสดงให้เห็น ก็เพราะมีไม่กี่คนที่รู้เบอร์ ไม่กี่คนที่ชายหนุ่มยอมให้โทรหา
“ครับ”
เสียงเข้มตอบรับแล้วนิ่งไปชั่วครู่ เพราะเสียงหวานใสจากอีกปลายสายที่รีบเอ่ยแนะนำตัว บอกว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครได้เบอร์มาอย่างไร โทรมาเพราะคุณแม่ของพี่มิคบอกว่าพี่มิคอาจให้คำปรึกษาเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยที่น้องจะเข้าเรียนได้ เสียงใสๆพูดไปไม่มีติดขัด น้ำเสียงรื่นหู คำพูดคำจาน่าฟัง แสดงออกถึงความกระตือรือร้นในการโทรมาอย่างเต็มที่ หากแต่สิ่งที่ลอยเข้าหูชายหนุ่มกลับเป็นเสียงทุ้มๆของคนที่ไม่ได้ให้ความสนใจในตัวเขา เสียงทุ้มๆที่เจ้าตัวหันหน้าเข้ากระจกเหมือนไม่ต้องการให้คนที่นั่งอยู่ร่วมรถได้ยิน
เสี้ยวหน้าด้านข้างของคนที่ทิ้งหัวพิงเบาะกับเสียงที่พยายามกดให้เบาเหมือนไม่ต้องการให้เขาร่วมรับรู้เรื่องที่คุย ทำให้หัวคิ้วบนใบหน้าหล่อเหลาของคนขับเริ่มขมวดปม เสียงเข้มๆพูดตัดเสียงจากอีกปลายสายว่าให้ไปถามเรื่องที่อยากรู้กับน้องสาวเขาที่เรียนอยู่มหาลัยเดียวกัน แล้วกดสายทิ้งโดยไม่รอฟังคำตอบก่อนโยนมือถือส่งๆไปข้างกระปุกเกียร์
บีเอ็มสีควันบุหรี่หักเลี้ยวเข้าซุปเปอร์มาเก็ตเจ้าประจำที่มักแวะมาหาซื้อของสดไว้ทำอาหารในช่วงวันหยุด วันหยุดที่เริ่มตั้งแต่คืนวันศุกร์ วันเสาร์และอาทิตย์ที่ตกลงกันไว้ว่ากิมจะมาค้างที่คอนโด เย็นวันศุกร์อย่างนี้กว่าจะหาที่จอดรถของซุปเปอร์ได้ก็ต้องวนรถขึ้นมาเกือบถึงชั้นบนสุดของตึกจอดรถที่ไม่มีรถจอดอยู่ซักคัน เจ้าของรถถอยรถเข้าที่จอด ดับเครื่อง แล้วหันไปมองอีกคนที่ปลดเข็มขัดนิรภัยออกจากตัวอย่างเก้ๆกังๆเพราะมีโทรศัพท์อยู่แนบหู พอปลดเข็มขัดได้ก็เปิดประตูออกไปยืนรอ
เวลาผ่านไปเป็นนาทีจนคนที่คุยโทรศัพท์รอผิดสังเกตก้มมามองผ่านกระจกฝั่งคนขับ มือที่กำลังจะยกขึ้นเคาะเรียกชะงักอยู่กลางอากาศเมื่อสบเข้ากับตาอีกคู่ที่จ้องตัวเองอยู่ คนโดนจ้องกระพริบตางงๆอยู่หลายทีก่อนจะเดินย้อนกลับมาดึงประตูเปิดแล้วก้าวกลับเข้ามานั่งที่เดิม แต่เที่ยวนี้คนที่ส่งเสียงตอบรับหือๆอือๆใส่โทรศัพท์เลือกที่จะนั่งแบบหันมาทางคนขับทั้งตัว มือข้างว่างยื่นมาคว้ามืออีกคนไปวางบนตักก่อนเริ่มบีบๆนวดๆเหมือนจะเอาใจ
มือที่โดนอีกฝ่ายคว้าไปบีบๆนวดๆให้ความรู้สึกอุ่นๆ ความอุ่นที่มากจากอุณหภูมิของอีกคน ความอุ่นที่เกิดจากความใส่ใจของอีกคน กิมสอดนิ้วเข้าประสานมือเขาแล้วยกขึ้นจูบแบบมีเสียงติดๆกัน เจ้าของจูบเปิดหัวเราะเหมือนขันการกระทำของตัวเองก่อนดึงมือที่ยังเกาะกุมกันอยู่ไปคลึงเล่นบนตัก เมื่อเห็นว่าเขายังไม่ยอมยิ้มเจ้าตัวก็ฉีกยิ้มให้ดูจนเห็นเขี้ยวเหมือนจะให้ทำตาม ตาเรียวเหมือนตัวปลาที่เขาล้อบ่อยๆ ที่เขาชอบหนักหนา ถูกการยกยิ้มทำให้ยิบหยีจนเกือบปิด เช่นเดียวกับความหงุดหงิดในหัวใจเขาที่ระเหยหายไปไม่มีหลอ
แต่ยังก่อน แม้ความหงุดหงิดจะจางหาย แม้จะไม่ได้โกรธอีกคนตั้งแต่ต้น แต่ไม่ว่าเวลาไหนคนอาการหนักอย่างเขาก็ต้องการความสนใจจากอีกฝ่ายแบบเต็มกำลัง ต้องการให้ความคิดความสนใจของกิมอยู่ที่เขาคนเดียว ไม่มีทางยอมแบ่งให้ใคร และในตอนนี้แม้จะได้รอยยิ้มยิบหยี ได้มืออุ่นๆที่ประสานกันอยู่ หากแต่ความคิดส่วนหนึ่งของอีกคนยังอยู่กับคู่สนทนาในโทรศัพท์ คนขี้หวงจนเกินเยียวยาอย่างเขาจะพอใจได้อย่างไรกัน
ใบหน้าหล่อจัดไม่มีรอยยิ้มละสายตาจากคนที่กำลังฉีกยิ้มตรงมาแล้วหันหนีไปอีกทาง มือที่โดนเกาะกุมไม่ได้ดึงออกแต่ก็ไม่ตอบรับสัมผัส ปล่อยให้คนที่รอยยิ้มเริ่มจืดเจื่อนจับไว้เฉยๆ เสียงพูดคุยที่ได้ยินทิ้งช่วงไปหลายนาทีก่อนคนที่ยังจับมือเขาอยู่จะบอกลาน้องสาวแล้วกดตัดสาย เกิดเป็นความเงียบที่เงียบสนิทขึ้นในรถ
“… ไอ้แก้มโทรมา มันทะเลาะกับแม่เรื่องจะขอไปเที่ยวเชียงใหม่กับเพื่อน” คนพูดมองหน้าเขาระหว่างเปิดปากอธิบาย
“ดูท่าจะอัดอั้นตันใจมากเพราะแม่ไม่เคยยอมให้ไปไหน บอกแต่ว่าให้จบมัธยมก่อนแล้วค่อยว่ากัน มันเลยอาละวาดบ้านแทบแตก แต่สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ก็เลยโทรมาร้องไห้กับกู”
“……………”
“ไอ้มิค… อ้ายมิค โกรธอะไรคร้าบ โกรธที่กูเอาแต่คุยโทรศัพท์ไม่ช่วยมองทางหรือ หรือเหงาปากที่ไม่มีเพื่อนคุย เอ๊ะ หรือคนที่โทรมาเมื่อกี้จะทำให้อารมณ์เสีย ใช่ไหม เมื่อกี้มีโทรศัพท์มานี่”
คนที่พยายามง้างปากเขาให้พูดยื่นมือมาจับหน้าให้หันไปหา ตาเรียวๆจ้องเป๋งมาสังเกตอาการก่อนหุบยิ้มแล้วทำหน้าหน้าจริงจัง
“ยิ้มหน่อยน่า ยิ้มตอนนี้แล้วเดี๋ยวค่อยไปบึ้งต่อในห้าง ขอแบบเข้มๆโหดๆอย่างนี้เลยนะเว้ย จะได้ไม่มีใครกล้ามอง แฟนหวง” คนพูดจบคำด้วยการพยักหน้าสำทับคำพูดตนเป็นจริงเป็นจัง
เจอมาอย่างนี้ไอ้ที่ว่าจะแกล้งตีหน้าขรึมเรียกร้องความสนใจอีกซักหน่อยเลยต้องหยุด หยุดแกล้ง หลุดเก็ก แล้วคว้าคอคนปากดีเข้ามาจูบให้สมใจ จูบย้ำๆซ้ำๆ จนคนที่ดิ้นขลุกขลักยอมตะกายข้ามกระปุกเกียร์มานั่งคร่อมตัก ยอมให้จูบจนหายใจหายคอไม่ทัน ยอมให้เขาล้วงมือเข้าลูบหลังลูบท้อง แล้วก็ยอมกระซิบคำรักกลับเมื่อโดนเขาพร่ำบอกคำเดียวกันครั้งแล้วครั้งเล่า
กิมที่โดนเขาจูบไปทั่วจนปากเจ่อหัวยุ่งซบหน้าลงมาบนไหล่ทั้งที่ยังหอบหายใจแรง ตัวเขาเองแม้จะเรียบเรียงลมหายใจได้เร็วกว่าแต่ก็ยังต้องสูดอากาศเข้าปอดลึกๆหลายครั้งเพื่อระงับอารมณ์ที่ประทุอยู่ในใจ อารมณ์ที่ทำให้อยากจับคนที่นั่งตัวอ่อนคร่อมกันอยู่กินเข้าไปทั้งตัวทั้งเลือดทั้งเนื้อ ทั้งหัวใจ ทั้งวิญญาณ อารมณ์ที่ทำให้พาลแต่จะอยากจูบ อยากสัมผัส อยากเข้าไปในตัวอีกฝ่ายให้ลึกที่สุด ให้แนบสนิทที่สุดทุกที่ทุกเวลา อารมณ์ที่หลอมรวมความต้องการของร่างกายและจิตใจจนแยกไม่ออก
กิมที่ดูจะหายใจได้คล่องขึ้นยันตัวออกจากเขาแล้วมองมาแบบพยายามทำหน้าให้เคร่ง ปากเจ่อๆขยับเป็นคำด่าให้รู้ว่าเคืองที่โดนแสดงความรักแบบหนักหน่วงไปนิดกลางลานจอดรถ แม้จะมีรถติดฟิลม์ทึบจอดอยู่คันเดียว แต่ก็เป็นที่โล่งแจ้ง ไม่ใช่ห้องหับมิดชิด อีกฝ่ายว่า ว่าแล้วก็ขยับตัวพยายามจะข้ามกลับไปที่นั่งอีกฝาก แต่เพราะโดนเขากอดไว้ทั้งตัวซ้ำยังไม่ยอมช่วยขยับที่ทาง คนที่ตวัดขาไม่พ้นพวงมาลัยรถเลยต้องนั่งกลับลงมาเหมือนเก่า
“สาดมิค จะนั่งกันอยู่ในนี้ทั้งคืนหรือไง ช่วยขยับก้นดันตูดกูออกไปหน่อยจะได้ไหม”
สีหน้ากวนๆทั้งที่ผิวหน้าผิวคอยังแดงจนลามไปถึงหูกับหัวที่ยังยุ่งทำให้รู้สึกหมั่นเขี้ยวขึ้นมาติดหมัด จนต้องคว้าคอคนพูดลงมากดจูบหนักๆอีกหลายที ก่อนจะตัดใจเอื้อมมือไปผลักประตูข้างคนขับให้เปิดออกแล้วขยับให้อีกฝ่ายที่ทุบอักลงมาเต็มอกได้ยักแย่ยักยันออกไปจากรถ พอยืนได้เต็มสองเท้าบนสองขา คนที่โดนเขาแสดงความรักจนหัวเหอกระเซิงก็ยกมือเสยผมลวกๆแล้วก้าวดุ่มๆตรงไปยังทางเข้าลิฟท์โดยไม่รอ
ร้อนถึงเขาต้องรีบล็อครถแล้วก้าวเร็วๆตามไป ตามไปยืนรอลิฟท์แบบประชิดตัว แล้วใช้เวลาที่ลิฟท์ดิ่งลงจากชั้นเก้าไปชั้นหนึ่งทำให้คนที่เดินไม่รอยอมให้เกี่ยวมือไปจับอีกครั้ง และเมื่อลิฟท์เปิดออกแขนเขาก็พาดอยู่บนไหล่คนข้างๆอย่างเป็นธรรมชาติ พาดเพื่อให้เดินอยู่ชิดติดกัน พาดเพื่อกันแมงหวี่แมงวันที่อาจบินเฉียดเข้ามา ก็บอกแล้วว่าคนอาการหนักอย่างเขามันขี้หวงจนเกินเยียวยา ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนก็เลยต้องแสดงความเป็นเจ้าของกันไว้ก่อนเป็นธรรมดา