“เต้ยทำไร มานี่ดิ”
“เต้ยเล่นเกมส์อยู่ ฮุ” เต้ยกำลังมันส์กับเกมส์เลยไม่สนใจพี่คิว เต้ยรัวเม้าท์อย่างบ้าคลั่ง อ๊ากกกก สะใจๆตาย ตายให้หมดไอ้พวกแมลงยักษ์
“เต้ย”
“อื้อ อะไร”เต้ยหันไปมองพี่คิวแล้วรีบหันมาหาเกมส์ต่อ คนกำลังอินจะเรียกทำไมก็ไม่รู้ เต้ยเห็นแว่บๆว่าพี่คิวเหมือนจะแต่งตัวเกือบเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ใส่เสื้อ
“อย่าให้กูต้องพูดซ้ำอีกนะ เรียกน่ะให้ได้ยินบ้าง มานี่” ฮึ่ย ทำไมต้องดุเต้ยด้วย สุดท้ายเต้ยก็ต้องเดินไปหาพี่คิว
“เรียกเต้ยทำไม”
“ติดกระดุมเสื้อให้หน่อย”ชริส์เรื่องแค่นี้ทำเองไม่ได้รึไง เต้ยยู่จมูกใส่พี่คิวก่อนจะลงมือติดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้ แต่ติดไปได้สามเม็ดก็รู้สึกเหมือนพี่คิวมันจ้องเต้ย พอเงยหน้าดู ก็ใช่จริงๆ พี่คิวกำลังอมยิ้มจ้องหน้าเต้ยแบบไม่กระพริบตาเลย ถ้าจ้องกันขนาดนี้เต้ยก็เกร็งนะ เขินด้วย
“พี่คิวมองไร”
“มองหน้ามึง”
“แล้วมองทำไมล่ะ” พี่คิวไม่ตอบแต่แสยะยิ้มก่อนจะก้มลงจูบเต้ย มือของเต้ยยังวางทาบบนอกพี่คิวส่วนมือพี่คิวก็รั้งเอวเต้ยให้เข้ามาชิดกัน
“หื้อออ พี่คิว มันเป็นรอยนะ”พี่คิวจูบจนพอใจก็ลากจมูกมาคลอเคลียที่คอเต้ยจนเต้ยทำตัวไม่ถูกแล้วพี่คิวมันก็ดูดคอเต้ยด้วย เจ็บขนาดนี้ต้องเป็นรอยแน่ๆ
“ก็เป็นดิ กูตั้งใจให้มันเป็น เมื่อกี้มึงยังบอกกูให้จุ๊บๆอยู่เลย แล้วไอ้พวกเสื้อคอปาดๆคอกว้างๆนี่อย่าใส่มาให้กูเห็นอีกนะ เดี๋ยวกูเอาไปเผาไฟแม่งให้หมด”พี่คิวจัดเสื้อให้เต้ยและจุ๊บเต้ยเบาๆก่อนจะเดินไปแต่งตัวเอง
“ก็เต้ยชอบแบบนี้ พี่คิวอ่ะ เป็นรอยเลย เดี๋ยวหม่าม๊าก็เห็นหรอก”
“เห็นก็บอกไปสิว่ากูเป็นคนทำ แม่ยายกูแนว เข้าใจอยู่แล้ว”
“งั้นให้เต้ยทำให้พี่คิวบ้างนะ นะๆ”
“หึ”พี่คิวหันมายิ้มให้เต้ยที่เกาะแขนพี่คิวอยู่ และเต้ยก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ^^
เต้ยกับพี่คิวมาถึงเซ็นทรัลลาดพร้าวก็เกือบบ่าย พี่คิวก็บ่นๆว่าดูหนังที่ไหนมันก็เหมือนกัน ทำไมต้องถ่อมาถึงเซ็นลาดฯ เค้าโชว์เชิดสิงโตในโรงหนังหรือแจกพันธุ์มะละกอรึไง บลาๆๆๆๆ ก็เต้ยอยากมาดูที่นี่อ่ะเต้ยเบื่อที่เดิมๆ
“ตกลงว่ามึงจะกินอะไรครับคุณเต้ยครับ นี่พากูเดินวนไปวนมาหลายรอบแล้วนะ ทีตอนอยู่บ้านล่ะหิวจนแทบจะลงแดงตาย”ก็คนมันคิดไม่ออกนี่ หิวก็จริง แต่เอาเข้าจริงๆเต้ยก็ไม่รู้ว่าจะกินอะไรดี เลยควงพี่คิวเดินร่อนไปร่อนมาอวดคนอื่นเล่นๆ
“อ้าพี่คิวๆ เต้ยคิดออกแล้ว เต้ยอยากกินอาหารเวียดนาม”
“……………..…….” พี่คิวก็มองหน้าเต้ยพลางดึงแขนออกจากมือเต้ย แล้วยัดเงินห้าร้อยใส่มือก่อนจะจับไหล่เต้ยทั้งสองข้างให้หันกลับไปทางประตู
“มึงเห็นประตูมั้ยเต้ย มึงเดินออกไปนะแล้วไปเรียกแท็กซี่ บอกเค้าว่าจะไปหมอชิตแล้วมึงก็ขึ้นรถกรุงเทพ-หนองคายไปแดกแหนมเนืองให้หนำใจเลยนะ ไป๊”
“พี่คิวก็ไปกับเต้ยสิ ไปดูหลินปิงด้วย”
“หลินปิงพ่องอยู่หนองคาย” พี่คิวส่ายหน้า ก่อนจะกอดคอเต้ยเข้าฟูจิ สุดท้ายก็จบลงที่อาหารญี่ปุ่น เบื่อๆๆๆๆๆแต่ถ้าบ่นอีกคราวนี้พี่คิวมันคงลากเต้ยกลับบ้านแน่ๆระหว่างที่รออาหารมาเสิร์ฟ ก็มีสาวๆกลุ่มนึงเดินเข้ามา น่ารักทั้งกลุ่มเลย และเหมือนเค้าจะรู้ตัวว่ามีคนมอง เลยหันมาแล้วยิ้มให้เต้ยด้วย
“เอ้า มอง มอง มึงไม่เดินไปขอปี้แม่งเลยล่ะ”
“เต้ยไม่เหมือนพี่คิวนะ ดูเสร็จแล้วต้องคลำด้วย” พี่คิวกำลังจะกลายร่าง ตาแดงๆเหมือนจะปล่อยแสงมาฆ่าเต้ย ทั้งที่โทรศัพท์พี่คิวร้องลั่นร้านว่ามีสายเข้าพี่คิวยังไม่รับเลย เอาแต่จ้องเต้ยอย่างเดียว
ที่บอกว่าผู้ชายเจ้าชู้ขี้หึงนี่จริงมากๆเลย พี่คิวมันเคยทำอะไรไว้ ก็กลัวว่าเต้ยจะทำ อย่างโทรศัพท์นี่พี่คิวก็เอาไปเช็คตลอด แต่พี่คิวไม่รู้หรอกว่าเต้ยก็แค่แกล้งมองให้พี่คิวหึงไปงั้นเอง ฮี่ฮี่ พี่คิวชี้หน้าเต้ยก่อนจะรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล…… เออ กูอยู่เซ็นลาดกำลังจะแดกข้าว……..อืมกับไอ้เต้ย…….. มาดูหนัง…..… หนังหน้าอย่างมึงมั้งแคระ เออๆมึงก็ลงเส้นไปก่อน เดี๋ยวเย็นๆกูไปหา…….… ว่าแต่มึงอยู่ส่วนไหนของแผนที่โลกวะ…….. อ๋ออยู่บ้านเหรอ กูก็นึกว่าอยู่ในกรงทอง หึหึ……. พ่อมึงแหละตาย เออ แค่นี้นะ”
“เฮียพีมเหรอพี่คิว”
“อืม วันนี้เต้ยจะไปซ้อมเต้นตอนไหน”
“ก็เวลาเดิม เย็นๆ ทำไมอ่ะ พี่คิวจะไม่ไปรอเต้ยหรอ”
“วันนี้คงไม่ได้อยู่รอเพราะพี่จะไปแก้งานกับไอ้พีม แต่จะไปส่ง แล้วเดี๋ยวจะมารับ”
“อ่าฮะ งั้นเอาหนมเค้กร้านพี่พีมมาฝากเต้ยด้วยนะ”
“อืม เดี๋ยวซื้อไปให้หม่าม๊าด้วย แลกกับของที่เอามาฝาก”
“พี่คิวนี่เป็นสุดยอดลูกเขยกตัญญูเลย น่ารัก”
“หึหึ ฟังดูหดหู๊หดหู่เนอะ มานั่งฝั่งนี้มา พี่ไม่มีที่วางแขน” เต้ยรีบย้ายมานั่งข้างๆพี่คิวตามคำสั่งเพื่อให้พี่คิวได้มีที่วางมแขนบนไหล่เต้ย และแลกกับการที่เต้ยไม่ต้องตักอาหารเอง ^^
กินข้าวดูหนังเสร็จพี่คิวก็เอากีต้าร์ไปเปลี่ยนสาย คงนึกขึ้นได้ว่าเอากีต้าร์ติดรถมาด้วย ปกติเต้ยก็เห็นพี่คิวเปลี่ยนสายเองนะ คราวนี้คงขี้เกียจทำละมั้ง
ระหว่างที่นั่งรอก็ไม่มีไรทำ พี่คิวมันนั่งเล่นเกมส์ในโทรศัพท์ เต้ยก็เล่นโทรศัพท์ของตัวเอง กำลังอัพรูปที่ถ่ายคู่กันกับพี่คิวในห้องน้ำตอนที่ออกจากโรงหนัง ลงเฟสแล้วก็แท็กไปให้พี่คิวพร้อมกับข้อความว่า
“รักคนข้างหลัง^^”เพราะเป็นรูปที่พี่คิวยืนซ้อนหลังเต้ย แล้วซบไหล่ทำเหมือนจะหอมแก้ม เพื่อนเต้ยมันเคยถามว่าทำไมเต้ยกล้าอัพรูปที่ถ่ายคู่พี่คิวลงเฟส ไม่กลัวคนอื่นรู้แล้วจะว่าเหรอ เต้ยไม่กลัวหรอกใครจะรู้จะว่ายังไงก็ช่าง ในเมื่อป๊ากับหม่าม๊าเต้ยยังไม่ว่าอะไร แล้วทำไมเต้ยต้องแคร์คนอื่น จริงป่ะ
แต่ที่น่าตกใจคือพี่คิวกับเต้ยมีแฟนคลับด้วยนะในเฟสบุ๊คอ่ะ เค้าเรียกว่าอะไรนะ สาววายเหรอ น่าจะใช่นะเต้ยก็ไม่แน่ใจ พี่ๆเค้าน่ารักดี ชอบมากรี๊ดในwallเต้ยฮ่าๆ แล้วก็มาอวยพร คอยให้กำลังใจ ถามไถ่ด้วย เต้ยเคยเล่าให้พี่คิวฟัง พี่คิวมันบอกว่า สาววายคืออะไร สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่เหรอ ฮา
หลังจากที่เต้ยแชร์รูปไปได้ซักพักก็ได้ยินเสียงพี่คิวมันหัวเราะ เต้ยเลยยื่นหน้าไปดู เห็นพี่คิวกำลังเปิดเฟสบุ๊คพี่คิวยักคิ้วให้เต้ย และไม่ถึงนาทีก็มีเม้นตอบกลับมาว่า
“แรดนักนะมึง หึหึ”เต้ยเลยอัพอีกรูปเป็นรูปที่เต้ยแอบถ่ายพี่คิวตอนล้างมือพร้อมกับโพสข้อความติดไปว่า
“แฟนใครอ่ะ หล่อจังเลย จีบได้ป่ะคับ”พี่คิวหันมามองเต้ยแล้วหัวเราะ และก็มีเม้นกลับมา
“ไม่ได้ แฟนกูหวง”
“ว๊า มีแฟนแระ เด๋วนี้คนโสดมะค่อยมีเรย”“มึงพิมพ์ภาษาเหี้ยไรมาเนี่ย ประเทศชาติจะวิบัติชิบหายเพราะแม่งใช้ภาษาไทยผิดๆเพี้ยนๆนี่แหละ”คราวนี้พี่คิวไม่เม้น แต่มันด่าเต้ยออกอากาศเลย พี่เจ้าของร้านที่นั่งเปลี่ยนสายกีต้าร์ถึงกับงง ฮี่ฮี่เต้ยก็เม้นต่อ
“ใจร้าย”
“ร้ายแล้วรักมั้ย”
“ร้ากกกกกกค้าบบบบบบบบ รักพี่คิวเท่าดาวพฤหัสเลย”
“ทำไมต้องดาวพฤหัสวะ”
“ก็มันใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะจักรวาลไง”“ท่าทางจะอาการหนักว่ะ” เป็นเม้นจากเฮียภูมิ
“อย่าว่าแฟนกู แฟนกูไม่ค่อยเต็ม ฮ่าๆ”
“โป้งเฮียภูมิ โป้งพี่คิว ง้อเค้าๆ”
“กรี๊ดดดดดด น่ารักมากค่ะน้องเต้ย หล่อทั้งคู่เลย”เป็นเม้นจากพวกพี่ๆสาววาย ฮ่าๆ
“ขอบคุณคับ เขิลๆ”
“สงสารห้องน้ำ แหยะๆ”ไอ้แมทชั่วมันว่าเต้ย
“คนอวดผี”อันนี้เฮียปันมาเม้น
“ค_ย”ทั้งที่เต้ยเพิ่งอัพรูปลงแต่เม้นก็พุ่งเร็วมาก แต่ส่วนมากจะเป็นเม้นที่เฮียปันกับพี่คิวด่ากัน -_-
………………………………
“พี่คิวๆ พี่คิวค้าบบบ เราจะไปไหนกันต่อ” เต้ยจับมือพี่คิวแกว่งไปมาระหว่างเดินไปที่จอดรถ
“ไปส่งมึงซ้อมเต้นไง”
“แต่ยังไม่ถึงเวลานัดเลยนะ เต้ยไม่อยากไปรอ เต้ยอยากอยู่กับพี่คิว” พี่คิวหัวเราะก่อนจะกระชับมือเต้ยและสายกระเป๋ากีต้าร์ที่สะพายอยู่บนไหล่
“งั้นไปร้านพี่โอ้มั้ย”เต้ยยิ้มให้พี่คิว เพราะคำตอบพี่คิวโดนใจเต้ยสุดๆ
“ไปๆๆๆ ไปกินนมปั่นกับพี่ดินสอ” พี่คิวขยี้หัวเต้ยจนยุ่งก่อนจะเอากีต้าร์ไปไว้เบาะหลังแล้วเราก็ไปร้านพี่โอ้กัน
วันไหนที่เต้ยกับพี่คิวว่างๆและไม่รู้ว่าจะไปไหน ร้านพี่โอ้มักเป็นที่ที่เราเลือกเสมอ บางครั้งก็ไปนั่งแช่เป็นวันๆ บางทีพี่คิวก็เอางานมาวาดด้วย เต้ยก็คอยช่วยแต่พี่คิวชอบบอกว่าเต้ยเป็นตัวกวน T^T เต้ยน่ะรู้สึกดีทุกครั้งที่กลับมาที่นี่ ยิ่งได้มากับพี่คิวในฐานะคนรัก เต้ยก็โคตรมีความสุขเลยเพราะที่นี่คือที่แห่งความทรงจำของเรา
“อ้าว แขกประจำมาแล้ว น้องคิวน้องเต้ยโหวันนี้หล่อมาทั้งคู่เลย ไปไหนกันมาเนี่ย”
“หวัดดีครับพี่โบว์ พี่คิวพาเต้ยไปดูหนังมาพี่คิวกอดเต้ยในโรงหนังด้วย อิจฉามั้ย แล้วพี่โอ้ล่ะครับ”
“จ้า อิจฉาๆ อย่างคิวน่ะขอแค่ได้เดินผ่านพี่ก็ปลื้มแล้ว ถ้าได้กอดคงเพ้อเป็นปีๆ พี่โอ้ไปส่งแฟนค่ะ ปล่อยพี่ดูร้านคนเดียวเลยเนี่ย คงซักพักน่ะถึงจะกลับ”
“บ๊ะ บ๊ะ เอาสาวมาคั่วถึงร้านเลย แรงว่ะพี่เรา” พี่คิวแซวพี่ชายเค้าให้น้องสาวเค้าฟัง
“คนนี้เด็ดสะระตี่มากคิว พี่แทบเป็นลม ชีใส่กระโปรงสั้นมาก เสื้อนี่นะคว้านลงไปแทบเห็นจุก”
“ฮ่าๆๆจริงดิพี่โบว์ พี่โอ้นี่มีของดีไม่แบ่งน้องว่ะ”
“แบ่งไร”
“โอ๊ย เจ็บนะเต้ย มึงตีกูทำไมเนี่ย”ยังจะมาถามอีก ก็พี่คิวอ่ะจะไปขอแบ่งอะไรกับพี่โอ้ล่ะ
“ฮ่าฮ่า อย่าเพิ่งมาฆ่ากันในร้านพี่นะ เดี๋ยวลูกค้าพี่ตกใจ ไปนั่งกันได้แล้ว โต๊ะเดิมว่างเสมอจ๊ะหนุ่มๆ ไวท์ช็อคโกแลตเค้ก แล้วก็นมปั่นสองเหมือนเดิมใช่มะ”
“ครับ ของเต้ยราดน้ำผึ้งเยอะๆนะ”
“จ้า รอสักครู่นะคะ”
เต้ยแลบลิ้นใส่พี่คิวที่เอาแต่หัวเราะและเดินตามหลังเต้ยมานั่งโต๊ะติดกระจกตัวเดิม พี่คิวลูบหัวเต้ยก่อนจะนั่งลงตรงข้าม นั่นถือเป็นการง้อของพี่คิว และแค่นี้เต้ยก็หายแล้ว อิอิ
พี่คิวเอากีต้าร์ขึ้นมาดีดคงจะลองสายที่เพิ่งเปลี่ยนมาละมั้ง เวลาที่พี่คิวเล่นกีต้าร์ หรือเวลาที่กำลังจ้องวาดรูปนะ พี่คิวของเต้ยน่ะเท่สุดๆ มีเสน่ห์มากๆเลย
“พี่คิว พี่คิวว่าเรารักกันง่ายไปมั้ย แค่คุยผ่านโพสท์อิทก็รักกันแล้วอ่ะ” พี่คิวเงยหน้าจากกีต้าร์แล้วขมวดคิ้วใส่เต้ยที่นั่งเท้าคางรอคำตอบ
“มึงอยากได้ยากๆเหรอ ทำไมไม่บอกล่ะกูจะได้เขียนตารางธาตุกับสูตรฟิสิกส์ให้ด้วย”
“หื้อออ พี่คิวอ่ะไม่ใช่แบบนั้น เต้ยหมายความว่า เราไม่เคยเจอกัน ไม่ได้ไปเดทกัน แต่ทำไมเราผูกพันกันขนาดนั้น พี่คิวว่าบนโลกนี้จะมีความรักของคู่ไหนที่เกิดขึ้นแบบปาฏิหาริย์อย่างเราบ้างป่ะ”
“ปาฏิหาริย์เลยเหรอ หึหึ อืมมม…..ก็คงมีล่ะมั้ง ก็ความรักน่ะมีหลายแบบ ความมหัศจรรย์ของมันก็คือเราไม่รู้ว่ามันจะมาตอนไหน จะเกิดขึ้นแบบใด และกับใคร”
“เหมือนไกรทองกับชาละวัน พระอภัยมณีกับนางเงือกเนอะพี่คิวเนอะ”
“……….ฮ่าๆนี่คืออุปมาของน้องเต้ยใช่มั้ยครับ แล้วไกรทองมีเมียชื่อชาละวันด้วยเหรอวะ ฮ่าๆๆ” พี่คิวขำก๊ากเลย แล้วเต้ยพูดผิดตรงไหน เต้ยเคยอ่านพวกนิตยาสารอ่ะ ประสบการณ์ความรักที่ซึ้งๆ เรื่องที่ไม่น่าเชื่อแต่มันก็เกิดขึ้นจริง แล้วพระอภัยมณีตลกตรงไหน แต่เห็นพี่คิวขำเต้ยก็เลยขำตาม
“อะแฮ่ม นมปั่นกับเค้กได้แล้วค่า โห คิว เอากีต้าร์มาเล่นด้วยเหรอ”
“ครับ เพิ่งเปลี่ยนสายน่ะพี่โบว์”
“มิน่า สาวๆในร้านถึงได้มองมาทางโต๊ะนี้ น้องเต้ยระวังนะเดี๋ยวถูกฉกไป”
“ไม่ต้องห่วงครับ พี่คิวของเต้ยใครก็แตะไม่ได้”
“ฮ่าฮ่าๆเด็กของคิวนี่เด็ดจกว่าเด็กพี่โอ้อีก งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ ต้องการอะไรเพิ่มเรียกได้นะจ๊ะ”
“ครับพี่โบว์สุดสวย”พี่โบว์กลับไปที่เคาน์เตอร์เต้ยก็ชวนพี่คิวกินเค้กที่พี่คิวไม่ชอบ ฮี่ฮี่
“พี่คิวกินเค้กเร็ว เต้ยป้อน”
“ฮื่อ ไม่ชอบมันเลี่ยน”
“ฮื้อออ นะๆๆ เต้ยป้อนๆ อ้ามมม”
“มึงนี่นะ” ถึงจะบอกว่าไม่ชอบไม่กิน แต่เต้ยก็ทำให้พี่คิวกินได้ ฮ่าฮ่า ก็มันอร่อยนิเต้ยเลยอยากให้พี่คิวกินด้วยกัน
“เต้ย เหนื่อยมั้ยที่รักคนอย่างกู ที่ทำเพื่อกูมาตลอดมึงเหนื่อยรึเปล่า”อยู่ๆพี่คิวก็ถามอะไรแปลกๆ เต้ยคาบช้อนงงเลย
“เห๋?ไม่เหนื่อยนิ เหนื่อยทำไมอ่ะ ถึงพี่คิวจะดีกว่านี้หรือจะชั่ว จะเลว จะเหี้ยกว่านี้ แต่ถ้ายังเป็นพี่คิวเต้ยก็ยังรัก ฮ่าๆๆ ทำไมหน้าอย่างนั้น”
“กูจะพยายามคิดว่ามึงไม่ได้ด่ากูแล้วกันนะ”
“ฮ่าๆ พี่คิวอ่ะ โอ๋ๆๆๆ แล้วพี่คิวล่ะเหนื่อยมั้ยที่รักเต้ย ไม่เสียดายใช่มั้ยที่ไม่เลือกคนอื่นที่เค้าดีกว่าเต้ย” พี่คิวยิ้มขำๆและโน้มตัวมาดึงแก้มเต้ย
“ทำไมคิดแบบนั้น กูไม่เสียดายคนดีๆหรอก เพราะความรักดื้อๆซนๆอย่างมึงก็ดีที่สุดสำหรับกูแล้ว”
“^__^ความรักหล่อๆอย่างพี่คิวก็ดีที่สุดสำหรับเต้ยเหมือนกัน”พี่คิวหัวเราะและยกแก้วนมปั่นขึ้นไปดูด
“เต้ย ฟังเพลงมั้ย”
“ฟังๆ พี่คิวจะร้องให้เต้ยเหรอ”
“อืม หึหึ ไม่ต้องตั้งใจขนาดนั้นก็ได้กูไม่ได้จะติวข้อสอบให้มึงนะ”
พี่คิวเริ่มเกากีต้าร์และร้องเบาๆ เต้ยเห็นสาวๆโต๊ะข้างๆบิดๆเขินๆ ข่วนกันสนุกสนานเลย เสียงของพี่คิวนุ่มมากๆเลย เต้ยเอาหลอดคนๆนมปั่นแก้เขิน แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ค่อยได้หรอก เพราะแค่เงยหน้าสบตากับพี่คิว เต้ยก็สั่นแล้ว
http://www.4shared.com/embed/70805885/3612d60cบนโลกนี้ มีคนเป็นล้านคน
ทุกคนมีเป็นล้านใจ ฉันก็ไม่ใช่ใคร ก็แค่คนหนึ่ง
โลกเราดูช่างกว้างใหญ่
ท้องฟ้าดูช่างกว้างไกล เธอแปลกใจบ้างไหม
มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ
มันเกิดขึ้นจริงๆ หรือฝันไป
การที่เรานั้นได้เพบกันที่บนโลกนี้
ก็ไม่รู้จะพูดมันอย่างไร แต่หมดทั้งหัวใจที่ฉันมี
ฉันเชื่อว่าสิ่งนี้...
คือเรื่องมหัศจรรย์ ที่เราได้พบกัน
คือเรื่องมหัศจรรย์ ที่ฉันได้รักเธอ
คือเรื่องมหัศจรรย์ที่สุด ที่ฉันเคยได้เจอ
ฉัน..ฮืมม...คือเรื่องมหัศจรรย์
วันที่ฉันนั้นได้บอกรักเธอ
เหมือนฉันนั้นได้เจอทุกสิ่ง เหมือนฉันได้พบความจริงในหัวใจ
ฉันจะยืนอยู่ข้างเธอ นับตั้งแต่บัดนี้ไป
และจะไม่ไปไหน
มันเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ
มันเกิดขึ้นจริงๆ หรือฝันไป
การที่เรานั้นได้พบกันที่บนโลกนี้
ก็ไม่รู้จะพูดมันอย่างไร แต่หมดทั้งหัวใจที่ฉันมี
ฉันเชื่อว่าสิ่งนี้...
คือเรื่องมหัศจรรย์ ที่เราได้พบกัน
คือเรื่องมหัศจรรย์ ที่ฉันได้รักเธอ
คือเรื่องมหัศจรรย์ที่สุด ที่ฉันเคยได้เจอ
ฉัน..ฮืมม...คือเรื่องมหัศจรรย์เพลงที่พี่คิวร้องให้เต้ยเหมือนจะตอบคำถามเรื่องราวต่างๆระหว่างเราว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันคือเรื่องมหัศจรรย์เต้ยไม่เคยเสียดายหรือเสียใจเลยนะที่ได้ทำเพื่อความรักของเต้ย สิ่งที่เต้ยได้ทำมาทั้งหมดเต้ยว่ามันคุ้มมากๆ เต้ยดีใจที่วันนั้นกล้าบอกรักพี่คิว ดีใจที่ได้ทำตามคำแนะนำของพวกเฮีย ^^
เต้ยอยากให้ทุกคนทำตามหัวใจแบบที่เต้ยทำ ไม่ต้องกลัวผิดหวัง ไม่ต้องแคร์ผลที่จะตามมา แค่บอกออกไปบอกไปเลย บอกคนที่คุณแอบชอบแอบรัก แค่ได้ทำตามหัวใจซักครั้งเหมือนที่ศาสดาสตีฟจ็อบของเต้ยบอกไว้ไงว่า
There is no reason not to follow your heart เต้ยเอาใจช่วยทุกคนนะครับ
“พี่คิวก็เป็นเรื่องมหัศจรรย์ของเต้ยเหมือนกันนะ งั้นเรามาเล่นอะไรหนุกๆป่ะ”
“อะไร”ใบหน้าที่มีรอยยิ้มของพี่คิวเปลี่ยนเป็นความสงสัยไม่ไว้ใจขึ้นมาทันที ที่ได้ยินไอเดียดีๆของเต้ย
“นี่ไง เราจะไม่พูดกัน แต่จะเขียนโพสท์อิทคุยกันเวลามาร้านพี่โอ้ดีมั้ยครับพี่คิว”
“เพื่อ?”
“ก็เต้ยอยากรำลึกถึงวันเก่าๆของเราอ่ะ”
“แล้วถ้ากูไม่เล่นล่ะ”
“เต้ยก็จะไม่พอใจ แล้วจากนั้นเต้ยก็จะงอน แล้วเต้ยก็จะไม่พูดกับพี่คิว แล้ว…..”
“พอๆ เอาโพสท์อิทมา” เย้ๆ พี่คิวยอมเล่นกับเต้ยด้วย พี่คิววางกีต้าร์ แล้วก็ถอนหายใจซะดัง ฮ่าฮ่า ถึงพี่คิวจะชอบว่าเต้ยแต่พี่คิวก็ตามใจเต้ยอยู่ดี
“เริ่มเลยนะ นี่ๆเต้ยเตรียมโพสท์อิทมาด้วยสองสี สีฟ้าของเต้ย สีเขียวของพี่คิว”
“นี่มึงวางแผนมาล่วงหน้าใช่มั้ยเต้ย”
“ใครบอก เต้ยก็พกโพสท์อิทติดกระเป๋าตลอด เอานะ เริ่มนะ”
เต้ยเริ่มเขียนและแปะโพสท์อิทแผ่นแรกที่กระจกฝั่งพี่คิว พี่คิวถึงกับหลุดหัวเราะ แล้วหันมามาองหน้าเต้ยพลางส่ายหน้าเพราะคำว่า
“พี่คิวหล่อจัง:D”“อยากได้อะไรอีกล่ะ”พี่คิวก็ตอบกลับมาและแปะไว้ที่หน้าผากเต้ยอ๊ากก เต้ยไม่ใช่ผีจีนนะ
“อยากได้พี่คิว”
“รออีกปีนึงนะ กูจะจัดเต็มให้เลย”
“ทำไมปีนึงอ่ะ ต้องสองปีสิ ไหนบอกว่ารอเรียนจบก่อนไง”
“ก็ถูกแล้วไง อีกปีเดียวกูก็จบแล้ว”
“อ้าววว ที่พูดว่าเรียนจบหมายถึงพี่คิวหรอ ขี้โกงอ่ะ ต้องให้เต้ยเรียนจบสิ”
“หึหึ ตอนที่กูบอกทำไมมึงไม่ถามให้ดีๆล่ะครับน้องเต้ย”เต้ยจ้องหน้าพี่คิวอยากตะโกนด่านัก แต่พี่คิวกลับชี้ใส่โพสท์อิทและทำท่ารูดซิบปาก ฮึ๋ย แต่…เต้ยก็ชอบนะ ฮ่าๆ
“ก็ดีเหมือนกัน พี่คิวจะได้กอดเต้ยเร็วๆ”พอเต้ยแปะแล้วพี่คิวอ่านเสร็จก็ถึงกับชะงัก แล้วจ้องหน้าเต้ยเขม็งเลย
“ทะลึ่งๆ กูไม่ใช่พระถังซัมจั๋งนะ ตบะกูแตกเป็น”
“ฮ่าฮ่า แต่ยังไงเต้ยก็ขอบคุณนะ ขอบคุณพี่คิวที่อดทนเพื่อเต้ย” คนที่เดินผ่านหน้าร้านหรือคนที่นั่งอยู่ในร้านถ้ามองเข้ามา อาจจะคิดว่าเราสองคนบ้าก็ได้ที่เขียนอะไรส่งไปมาแล้วก็ยิ้มก็หัวเราะให้กัน
โพสท์อิทแผ่นสุดท้ายที่เต้ยแปะไว้ข้างแก้วนมปั่นของพี่คิว เต้ยเขียนเป็นคำถามและเป็นตัวย่อแต่มันก็ทำให้พี่คิวยิ้ม และทำให้เต้ยมีความสุขที่เห็นพี่คิวตอบกลับมา
“ร ต ป ?”
“ร ม”………………………..
- ขอโทษที่มาช้าคร๊า คิวเต้ยเล่นเอาตาลต้องพักจิบน้ำกับพารา ตอนแรกกะจะให้คิวเล่า แต่ตาลเข้าไม่ถึงความอินดี้ติสท์แตกของมัน เลยเอาน้องเต้ยมาเล่า แต่มันก็ไม่ต่างกันเลย ที่มาช้าเพราะว่ามันปั่นไม่ออก ฮา ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะคะ เปิด word มาเพื่อนั่งจ้องตากันเล่นๆ พยายามอย่างที่สุดแล้วก็ได้เท่านี้ หวังว่าจะถูกใจแม่ยกคิวเต้ยนะจ๊ะ
- บ้านตาลน้ำไม่ท่วมนะคะ ใครมาแช่งว่าเค้าขนของ กร้ากกก ไม่ท่วมจ้าตาลหนีน้ำทัน ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง แต่มหาลัยท่วมอ่ะ เลื่อนเปิดเทอม เลื่อนอัพนิยายสนองนโยบายรัฐ กรั่กๆ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ น้ำมาก็คิดซะว่าเดี๋ยวมันก็ไป สู้สู้ๆนะคะ อดใจรออีกซักนิด เดี๋ยวตอนหน้าหนุ่มๆจะไปช่วยกรอกทราย แต่ใครจะไปบ้าง ไปเขตไหนคงต้องรอติดตาม รักทุกคนเสมอ จุ๊บๆๆ
- และต้องขอบคุณคนอ่านทุกคนสำหรับการกดโหวตในเด็กดี การโหวตเซ็งเป็ดอวอร์ดในเล้าเป็ด ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆๆๆนะคะ