We are...คือ เรารักกัน ตอนพิเศษ ด้วยความคิดถึง100%... 16/12/13 [P.314]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: We are...คือ เรารักกัน ตอนพิเศษ ด้วยความคิดถึง100%... 16/12/13 [P.314]  (อ่าน 3347863 ครั้ง)

Zhangaiyi

  • บุคคลทั่วไป
รออออออ :):-[

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
เหมือนรอนานจังเลย

slurpeez-69Nes

  • บุคคลทั่วไป
ลอยคอ รออยู่ รำไรร รรรร TT

ออฟไลน์ dragonnine

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-16
อย่างฮา 55555555555555555555

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ฮามากก พีมน่ารักสุดๆเลยจ้า
รอมาต่อนะคะ ใจจะขาดหน้าคอมแล้ว5555
^^

dog

  • บุคคลทั่วไป
โอ้โห นานได้อีก
รอบนี้หายไปนานม๊ากกกกกกกกกกกกกก
กลับมาต่อเถ๊อะ

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
หายไปไส รออยู่เด๊อ

mamew13 jk

  • บุคคลทั่วไป
 คุนตาลลค๊ หายไปนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  รอจนอกแตกตายละเนี๊ยะ 55555

ออฟไลน์ papa

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 818
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-3
เข้ามารอ และ ดัน  ค่า

คิดถึงหนูพีม มาอัพเร็วๆ น้า  :m13:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
มาอ่ะยังงงงงง

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

fffx

  • บุคคลทั่วไป
ดันนนนนนนน

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 76 ค่ายอาสา

 “อีปาร์คคคคคคคค”
“คร้าบบบบบบบบบบบบบครับๆๆๆอีเจ้”

“กูเรียกตั้งนานสองนานทำไมมึงยังไม่เสด็จอีกห๊า แล้วนี่แต่งองค์ขนาดนี้บ้านมึงอยู่เกาะชิชิลีรึไงย๊ะอีบ้ามึงหนาวอะไรขนาดนั้นกูว่ามันน้อยไปนะผ้าพันคอบนคอมึงหน่ะสนใจเอาผ้าดิบอีกซักผืนไปคลุมหน้าไหมคะอีชะมดเอาไหม มึงไปช่วยพี่พีมยกตะกร้าเดี๋ยวนี้เลยนะไป๊”

เสียงอีกรีนวี๊ดๆแต่เช้าพวกเราชาวสวัสดิการก็แบบนี้แหละครับต้องตื่นก่อนนอนทีหลัง(นางทาสยังอาย)เพราะต้องรีบตื่นมาทำกับข้าวตอนกลางคืนก็ต้องหุงข้าวไว้เพราะถ้ารอหุงตอนเช้าเดี๋ยวไม่ทันเราไม่ได้ใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้านี่หว่า

แต่อีกรีนแม่งโคตรเทพมันใช้วิธีหุงแบบโบราณน่ะแต่ข้าวก็สุกนะที่พวกเราชาวค่ายไม่ตายมีข้าวให้กินตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ต้องยกความดีความชอบให้อีกรีนมัน พอผมชมมันว่าทำไมมึงเก่งจังวะกรีนมันก็ยิ้มหน้าบานแข่งกับฝาชีเลยทีเดียว

และผมถึงกับหลุดหัวเราะที่เห็นมันยืนเท้าเอวชี้หน้าด่าไอ้น้องปาร์คอย่างออกรสเหตุเกิดเพราะไอ้ปาร์คมันมัวแต่แต่งองค์ทรงเครื่องหนาว เหมือนจะไปเดินแบบมิลานวินเทอร์แฟชั่นวีคโดยไม่สนใจเลยว่าคนอื่นเขาเร่งมือทำมื้อเช้ากันวุ่นวายแค่ไหนอีกรีนก็เลยองค์ประทับอย่างที่เห็นนี่แหละครับ

 
คือผมเข้าใจผมรู้ว่าตอนเช้าของที่นี่อากาศค่อนข้างหนาวมากแถมยังมีหมอกหนาน้ำค้างตรึมอีกต่างหาก เรียกว่าแทบไม่อยากจะโดนน้ำกันเลยแต่ถึงจะหนาวแค่ไหนผมว่าไอ้ปาร์คมันก็….เยอะไปจริงๆนะทั้งหมวกไหมพรมเอยเสื้อโค้ทเอยไหนจะผ้าพันคอที่มองไกลๆกูนึกว่าอนาคอนด้ารัดคอมัน

 
“โหยอีเจ๊เซาะกราวว่ะเค้าเรียกว่าแฟชั่นแบบผู้ดีบริทิชเว้ยกะเทยชราอย่างเจ๊ไม่รู้จักละสิ”

 “นะนะนะ หน้อย หน๊อยยยยยยไอ้ผู้ดีอังกฤษ? ถุ้ยอย่างแกน่ะแฟชั่นพาหุรัดก็หรูแล้วมึงไปเลยนะไปช่วยไอ้พีมยกหม้อยกเขียงไปล้างเดี๋ยวนี้เลยนะไป๊”

ฮ่าๆรู้แล้วใช่ไหมครับว่าผู้ชายที่อยู่ฝ่ายสวัสดิการทำอะไรบ้างหน้าที่หลักๆก็มียก แบก หาม ตักน้ำ เชือดไก่ สับหมู ยกกระทะใหญ่ๆอะไรที่หนักๆที่พวกผู้หญิงเขาทำไม่ได้พวกผมก็ทำหมดและนี่คือประโยชน์ของผู้ชายฝ่ายสวัสดิการ T^T

“แกก็ปล่อยมันเถอะกรีนนานน๊านนนมันถึงจะได้ใส่ถ้าอยู่กรุงเทพคงไม่มีโอกาสได้แต่งตัวแบบนี้เว้นแต่มันจะไปเดินเล่นในโรงงานน้ำแข็ง”



พี่เมย์ที่กำลังชงกาแฟและโอวัลตินให้ชาวค่ายบอกพลางยืนขำไอ้ปาร์ค ขนาดพวกผู้หญิงเขาใส่แค่เสื้อกันหนาวกับผ้าพันคอก็จบไอ้ปาร์คมันก็บ่นอุบที่ไม่มีใครเข้าใจแฟชั่นของมัน มันตามแกล้งอีกรีนอยู่ซักพักถึงยอมวิ่งมาช่วยผมยกหม้อยกกระทะไปล้าง ส่วนพวกจานชามที่ใช้ในแต่ละมื้อก็ผลัดเวรกันล้างตามสี อ๋อ คือมีการแบ่งสีเล่นกีฬาน่ะครับเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลังนะเพราะมันเป็นอะไรที่วิลิศมาหรามาก


“โหพี่พีมนี่เราต้องล้างหมดนี่เลยเหรอพี่อีเจ๊กรีนแม่งโหดดดดดด น้ำยิ่งเย็นๆอยู่ผมต้องถอดถุงมือด้วยใช่ไหมเนี่ย” สรุปแม่งห่วงแอคเซสซอรี่หรอกเหรอเชี่ยปาร์ค

 
“มึงจะล้างทั้งถุงมือกูก็ไม่ว่านะเลิกบ่นแล้วไปตักน้ำมาปะ” ไอ้น้องปาร์คมันก็บ่นนู่นบ่นนี่แต่พอพวกพี่เมย์น้องกุ๊กแล้วก็พวกผู้หญิงมาช่วยล้างมันก็ยิ้มแป้น



ก็ปล่อยผู้หญิงเขาล้างกันไปส่วนผมกับไอ้ปาร์คก็มีหน้าที่ตักน้ำในบ่อปูนขึ้นมาให้ที่จริงบนนี้มีน้ำประปานะครับไฟฟ้าก็มีรู้สึกจะใช้พลังงานจากแผงโซลาเซลแต่เห็นบอกว่าถ้าใช้มากๆมันจะหมดเพราะงั้นเลยต้องเก็บไว้ใช้ตอนกลางคืน



พอได้ฟังแบบนี้ก็นึกถึงตอนเราอยู่กรุงเทพฯเนอะไม่รู้เปิดอะไรบ้างทั้งแอร์ คอมฯ ทีวี พัดลม ตู้เย็นเปิดแม่งให้หมดบางทีไม่ได้ใช้ยังเปิดเล้ยยไม่ได้ว่าใครนะว่าตัวผมเองนี่แหละ คนเมืองใช้แบบไม่รู้ค่าต่างกับคนที่เห็นค่าแต่กลับไม่ค่อยมีให้ใช้ คึ ระหว่างที่ล้างจานพวกสาวๆเขาก็แซวผมบ้างแซวไอ้ปาร์คบ้างเพราะมีผู้ชายอยู่แค่สองคนก็ขำๆเล่นๆไปถูกแซวจนชินตั้งแต่วันแรกแล้ว



ตีห้ากว่าๆคนอื่นๆก็เริ่มตื่นกันหมดแล้วพอตื่นมาชาวค่ายอาสาก็สร้างประโยชน์ให้แก่สังคมด้วยการวิ่งเตะวิ่งเล่นกันอย่างกับเด็กๆโดยเฉพาะพวกพี่โต้งพี่แป๋วทั้งที่กำลังจะเป็นบัณฑิตในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพราะถ้าจะนับกันจริงๆพวกพี่ๆปีสี่ที่มาเขาเรียนจบแล้วพวกผมสิปีสี่ตัวจริง ^o^


ผมเลยมองหากลุ่มตัวเองว่าพวกมันฟื้นคืนชีพมาสูดออกซิเจนยามเช้ากันรึยังมองหาอยู่ซักพักก็เห็นไอ้แทนไอ้คิวไอ้แมทเตะบอลอยู่กับพวกพี่โจ๊กพวกไอ้ดลไอ้เอ็มข้างๆสนามมีไอ้เต้ยนั่งหลับพิงไหล่ไอ้ฟ่างที่นั่งยองๆเท้าคางหาวหวอดๆดูไอ้แทนเตะบอลแบบสลึมสะลือ


ส่วนไอ้คู่ดูโอ้นิชมิคและปันคิบอมนั้นหายไปไหนไม่รู้และพอมองไปมองมามองหาคนที่ผมอยากเจอก็เห็นหลังภูมิไอ้เชนไอ้เบียร์อยู่แถวๆลำธารสงสัยพวกมันคงไปล้างหน้าแปรงฟันกันมั้ง

และจากตรงนี้เหมือนไอ้ภูมิกับไอ้เบียร์รวมหันกันแกล้งไอ้เชนด้วยการจะจับโยนลงน้ำ ผมยักไหล่ส่ายหัวให้กับความปัญญาอ่อนของพวกมันก่อนจะหันกลับมาสนใจกะละมังถ้วยถังที่สาวๆเขาล้างเสร็จแล้วและผมมีหน้าที่เอาไปเก็บ


จากนั้นไม่นานเสียง8.9ริกเตอร์ของอีเฟรนก็ดังลั่นไปทั่วดอยมันแผดเสียงผ่านโทรโข่งว่าให้ทุกคนรีบล้างหน้าล้างตาแล้วไปรวมกันที่ลานหน้าเสาธงเพื่ออกกำลังกายตอนเช้าก่อนที่น้องๆจะมาโรงเรียน

 
“สิบนาทีนะฮ้าสิบนาทีขอให้ทุกคนมารวมกันที่หน้าเสาธงอย่างด่วนจี๋เลยนะค๊า ย้ำว่าทุกคนยกเว้นอีพวกพ่อครัวแม่ครัวไม่ต้องมานะย๊ะเดี๋ยวพวกชั้นจะไม่ได้กินข้าว” พวกผมชาวครัวเลยส่งเสียงโห่ไปให้ผู้นำออกกำลังกายอย่างอีเฟรน

 
ภูมิมันคงได้ยินเสียงผมมั้งมันเลยหันมามองทั้งที่ยังคาบแปรงสีฟันอยู่เหมือนว่ามันจะยิ้มแล้วกวักมือเรียกหรือไล่ผมก็ไม่แน่ใจเพราะระยะประมาณนี้บอกตรงๆว่ากูเห็นหน้ามึงไม่ชัดว่ะภูมิ ฮ่าๆ ก็ตรงที่ล้างจานกับลำธารมันก็ค่อนข้างไกลกันอยู่จะไม่ให้ไกลได้ไงเกิดน้ำล้างจานไหลลงลำธารคงได้สนุกกันทั้งค่ายละมิ้งงงง



และหลังจากพวกฝ่ายอื่นมันออกกำลังกายพร้อมบำเพ็ญประโยชน์ด้วยการเก็บขยะทำความสะอาดบริเวณโรงเรียนเสร็จก็ได้เวลาเรียกพวกมันมากินข้าวเมนูอาหารเช้าวันนี้ได้แก่ข้าวต้มหมู คะน้าหมู ไข่เจียวหมูสับ โอวัลตินหมู เฮ้ย ไม่ใช่ๆฮ่าๆโอวัลตินธรรมดาและขนมปังปิ้งย่างครับ




ที่เรียกแบบนี้เพราะพี่ฝนแม่งเอาขนมปังขึ้นย่างบนเต่าถ่านจริงๆเลย กร้ากก มันต้องแบบนี้แหละถึงจะเรียกว่าขนมปังปิ้งของแท้พี่แกนั่งจุดไฟตั้งแต่ตีสี่เลยนะครับเพราะเราจะทำแจกน้องๆด้วย กูว่าเอาคุ้กกี้ที่คนเขาบริจาคมาไปให้น้องมันจะไม่ง่ายกว่าเหรอครับพี่




อ่อ อีกอย่างผักคะน้าที่เราใช้ทำกับข้าวชาวบ้านเขาเอามาฝากแหละครับสดๆจากไหล่เขา ฮ่าๆ แม้ว่าชาวบ้านรวมถึงน้องๆที่นี่จะค่อนข้างขี้อายไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้าต่างถิ่นอย่างพวกผมซักเท่าไรแต่พวกเขาก็ใจดีมากๆเลยครับและแม้พวกเขาจะยังไม่กล้าคุยแต่ทุกคนก็มักจะมีรอยยิ้มให้พวกเราเสมอ

 
ชาวบ้านที่นี่เป็นชาวไทยภูเขาภาษาพูดก็เป็นภาษาชาวเขาแต่เขาก็พูดกลางได้นะสำเนียงน่ารักดี(ซึ่งไอ้มิคติดใจแล้วเรียบร้อยมันฝึกพูดกับพวกผมทุกวันใกล้จะเป็นพม่าเข้าไปทุกที)การแต่งตัวก็ยังยึดตามประเพณีเผ่าตัวเองอยู่น่ารักมากๆ


และสิ่งสำคัญที่พวกเราสัมผัสได้จากชาวบ้านและน้องๆที่นี่คือความจริงใจใสซื่อและความมีน้ำใจของพวกเขา การออกค่ายอาสาไม่ใช่แค่พวกเราเท่านั้นที่เป็นฝ่ายให้ชาวบ้านเองก็หยิบยื่นความรู้สึกดีๆและมิตรไมตรีให้พวกเราเช่นกัน

 

“กินข้าวค่ากินข้าวมากินข้าวไวๆจะได้ไปใช้แรงงานกันเร็วๆนะค๊า อีเพื่อนเฟรนคะมึงจะแดกโทรโข่งแทนข้าวใช่ไหมอีหอยปล่อยบรรดาชะนีและสามีกูมากินข้าวได้แล้ว” อีกรีนเดินนวยนาดพลางตะโกนเรียกพวกพ้องชาวค่ายมากินข้าว พวกผมก็ช่วยกันยกหม้อข้าวกับข้าวจานช้อนส้อมมาวางไว้ให้พวกมันบริการตัวเอง

 

“วะ วะ ว้าวววววว่าไงจ๊ะแม่ครัวตัวแคระหน้ามันแพล่บเชียวนะเพื่อนแล้วมื้อนี้ทำอะไรให้พวกพี่กินเหรอจ๊ะ”


ผมกำลังจะเอากระติกไปรองน้ำจากแท็งค์แต่ต้องหยุดปะทะฝูงหมาในปากกับไอ้คิวซะก่อนพร้อมๆกับไอ้พวกกลุ่มเพื่อนตัวดีที่ดาหน้าเขามาอย่างพร้อมเพรียง พวกมันดูเหมือนจะยิ้มๆล้อๆผมยังไงไม่รู้โดยเฉพาะไอ้ภูมิที่ยิ้มจนจะกลายเป็นหัวเราะ


 “ของมึงกูเตรียมเพดดิกรีไว้ให้แต่ถ้าไม่ถูกใจจะเอาไก่เป็นตัวๆไปกินในลำธารก็ได้”



“โอ๊ะโอ กูไม่ใช่แมวนะ”





“เหี้ยเหอะคิว” ก่อนกินข้าวพวกสัมภเวสีมันก็มาร้องขอส่วนบุญแบบนี้แหละครับสงสัยต้องแบ่งข้าวไปวางที่โคนต้นไม้แล้วจุดธูปเรียกมันมารับส่วนกุศล ผมมองหน้าไอ้คิวที่หยิบยื่นรอยยิ้มอันล่อมือล่อตีนของผมให้คันยิบๆผมแกว่งกระติกกระแทกหลังไอ้คิวก่อนจะรีบเดินออกมาและแน่นอนว่าต้องมีคนเดินตาม

 



“เมื่อเช้าทำไมไม่ปลุกกูฮึเตี้ย” ภูมิขึ้นมาเดินข้างๆผมและแย่งกระติกน้ำไปถือผมยักไหล่เหลือบมองมันนิดๆรู้จักทำตัวมีประโยชน์ด้วยเว้ย

 


“ปลุกทำไมปลุกแล้วมึงจะมาช่วยกูหั่นผักหั่นหมูรึไงปล่อยให้นอนน้ำลายยืดอ่ะดีแล้ว”

 

“อย่ามามั่วใครกันแน่ที่นอนน้ำลายยืด”


“ก็มึงไง”



“นอนกับมึงกูไม่เคยน้ำลายยืดหรอกแต่ถ้าน้ำอย่างอื่นน่ะไม่แน่” เหยดดดดดดดดดแม่มเดี๋ยวกูโบกหัวทิ่มแท็งค์น้ำ ภูมิมันยิ้มกว้างก่อนจะเปิดน้ำใส่กระติกแล้วหันมาผลักหัวผมเบาๆมันมอบรอยยิ้มให้ผมเป็นรอยยิ้มที่เหมือนว่ามันได้ครองโลกทั้งใบ เชี่ยยยยยเรื่องเสื่อมๆนี่เร็วนักนะผมเลยเตะน่องมันกลับอีกรอบต้องเอาให้เข็ดแม่งชอบกินในที่ลับแล้วเอามาประจานในที่แจ้ง???

 

“อ้าวๆสองคนนี้มาหวีดไรข้างแท็งค์น้ำครับชอบทำตัวเป็นโปรโตซัวหากินตามที่ชื้นนะพวกมึงเนี่ย ไปๆไปกินข้าวได้แล้ววันนี้ต้องเชื่อมเหล็กนะครับคุณภูมิให้ไวๆ” ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหนของแผนที่โลกไอ้ปันก็สามารถตามมาก่อกวนอยู่ร่ำไป




“แล้วมึงมาทำไรแถวนี้วะปัน อ่อตรงนี้เป็นที่เดียวที่มีสัญญาณโทรศัพท์นิแล้วเป็นไงบ้างวะโทรได้ไหมพี่องุ่นตื่นรึยัง” คะ คะ คะ เค เย้(ซาวด์สะเก็ดข่าว)ผมตาเหลือกมองภูมิแบบทึ่งๆภูมิทำไมมึงร้ายกาจและฉลาดขนาดนี้ หึหึ

 


ผมหันไปมองไอ้ปันพร้อมมอบรอยยิ้มเอียงๆให้มัน เชี่ยปันแม่งอ้าปากพะงาบๆมองพวกผมเหวี่ยงๆก่อนจะรีบเดินจากไปโดยไร้คำลาผมกับภูมิเลยเป่าปากแซวตามหลัง โห่ไม่แน่จริงนี่หว่าไอ้ประธานว่าแต่ว่ามันโทรหาพี่องุ่นจริงหรอวะ บนนี้มีสัญญาณด้วยเหรอ

 


“ภูมิๆมึงรู้ได้ไงอ่ะว่าไอ้ปันมันมาคุยโทรศัพท์” ผมกระโดดและเขย่งตัวเพื่อกอดคอไอ้หล่อ(อนาถชิบหาย)




“หอมก่อนดิแล้วจะบอก” ภูมิก้มมองผมด้วยสายตาระยิบระยับน่าจับดินทรายกรอกทั้งสองกระบอกตาแถมมันยังยกยิ้มมุมปากได้กวนมากจริงๆ



“ตีนกูนิ”


“หอมแก้มก็พอไม่ต้องหอมตีนกูหรอก หึหึ”


=_=



“น้ำล้นแล้วสาดดดรีบหิ้วตามกูมาเลยไอ้หื่น” กระโดดกัดติ่งหูไอ้ภูมิขาดแอนตาซินจ่ายเท่าไรกูอยากรู้ พอผมไม่สบอารมณ์มันก็ยิ่งหัวเราะอย่างสุขขีแม่งนิดๆหน่อยๆจะหากำไรจากร่างกายกูตลอด >O<

 

“เฮ้ยเตี้ยรอด้วยดิ” เสียงตะโกนปนเสียงหัวเราะที่ลอยมาตามหลังทำเอาเส้นขมับผมเต้นตุบๆกูไม่รอแม่งรีบไปกินข้าวดีกว่าปล่อยมันยกกระติกน้ำหนักๆคนเดียวเลยอยากแกล้งกูดีนัก

 


หลังจากอิ่มแปล้กับมื้อเช้าแต่ละฝ่ายก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองส่วนชาวครัวอย่างพวกผมว่างเลยไปช่วยทีมอื่นๆเขาทำงาน พวกผู้หญิงบางคนก็ไม่ช่วยทีมวิชาการสอนน้องๆบางคนก็ไปช่วยทาสีอาคารส่วนผมไม่ได้ไปไหนเพราะต้องช่วยอีกรีนปั้นบัวลอย แม่งกูปั้นจนหน้าจะกลมแข่งกับลูกบัวลอยแล้วนะโว้ยยยปล่อยกูไปได้แล้ว



“อีพีมมมมมมอีดอกฝอยทองนั่นลูกบัวลอยหรือลูกนิมิตคะอีนี่มึงทำเล็กๆสิ โอ๊ยยยกูบอกจนมดลูกจะย้อยแล้วนะ”



“เออๆกูก็ทำเล็กแล้วนี่ไงทีน้องปิ๊งทำใหญ่กว่ากูมึงไม่เห็นว่าเลย” น้องปิ๊งนั่งหัวเราะผมกับอีกรีนตั้งแต่เราเริ่มปั้นบัวลอยและน้องก็ยิ่งขำเมื่อผมยกตัวอย่างฝีมือมาเปรียบเทียบกัน



“โหพี่พีมปิ๊งทำอันเล็กๆเองนะของพี่พีมอ่ะตลก ฮ่าๆ”

 

“ใช่ มึงเอารูสะดือดูเหรอย๊ะถึงเห็นว่าของนังปิ๊งมันใหญ่กว่ามึงไม่ต้องเถียงกูเลยนะพีมหรือมึงอยากถูกเนรเทศออกไปใช้แรงงานห๊ะ” อีกรีนถลึงตาใส่ผมนั่นขนตารึแผงม้าวะอะไรจะหนางามงอนขนาดนั้นคิดดูเอาเถอะว่ามาค่ายอาสามันยังพากันแต่งหน้าอีกรีนนี่ยังดีเพราะมันมุ่งงานครัว ผมอยากให้พวกคุณเห็นอีสวีทอีจีอีเคมันจัดเต็มมากแต่อีเฟรนไม่เท่าไรเพราะมันไม่แต่งหญิง


“ไปๆๆๆมึงจะปล่อยกูไปแล้วใช่ไหมกรีนนะครับกรีนคนสวยปล่อยพีมไปเถอะนะครับ”

 







ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
จองที่

.........

พี่ภูมิน่ารักอ่าาาาา อ๋ายยยยยย

หื่นได้อีกค่าาาาาาพี่ขาาาาาาาาาาาาาา หุหุหุ

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด อยากไปซุ่มดูแทนฟ่างอ่าาาาาาาา  :haun4: :haun4: :haun4:

พี่เชนขาาาาาาาาแล้วที่พี่ได้ยินมาอ่ะ ตกลงว่าเป็น ท่าไหนเหรอขาาาาา

งานกีฬาสีงานนี้เป็นงานที่ ฮา ที่ สุดเท่าที่เคยเห็นมา อ๊าาาาาาา อยากขึ้นดอยยยยยยย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-05-2012 00:49:18 โดย DarkAki »

ออฟไลน์ patchybelle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
อร๊ายยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ Na_RimKLonG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
ขยันขันแข็ง กันดีจริงๆ

ฮ่าไม่เสื่อมคลาย 55555555555   :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-05-2012 00:08:30 โดย Na_RimKLonG »

ออฟไลน์ imissyou

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
มาแล้น ๆ

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
ฮาค่ายแตกเหมือนเดิม
ตลกทุกสองวิจริงๆ  :m20: :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
ถึงกับขำออกสื่อ  :jul3:

 :pig4:นะคะ

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6
อรั๊ยยะ ออกค่ายกันสักที ! จะสนุกขนาดไหนนะ !  :impress2: :L2:

ออฟไลน์ papa

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 818
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-3
กรี๊ดดดดดดดด   น้องตาลมาแล้ววววว  :impress2:

ออฟไลน์ Inamning

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สนุกค่าาาาาาาาาาาาาาาาาา มาต่ออีกๆๆๆๆๆ  :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ duckool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 273
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
ขาดผึงกลางอากาศ..ซะดื้อๆ

ALittleN

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อแล้ว :3123:
ออกค่ายกันท่าทางน่าสนุก><

ออฟไลน์ oomossoo

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ง่ะ ยังต้องรอต่อ
เคๆ ได้ๆ
เรื่อยๆ
.....

งื้ออออ พี่พีม

ออฟไลน์ gumrai3

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-4
กริ๊ดมาเเล้วๆ เย้ๆ :o8:


ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ 76 ค่ายอาสา


 “อีปาร์คคคคคคคค”


“คร้าบบบบบบบบบบบบบครับๆๆๆอีเจ้”


“กูเรียกตั้งนานสองนานทำไมมึงยังไม่เสด็จอีกห๊า แล้วนี่แต่งองค์ขนาดนี้บ้านมึงอยู่เกาะชิชิลีรึไงย๊ะอีบ้ามึงหนาวอะไรขนาดนั้นกูว่ามันน้อยไปนะผ้าพันคอบนคอมึงหน่ะสนใจเอาผ้าดิบอีกซักผืนไปคลุมหน้าไหมคะอีชะมดเอาไหม มึงไปช่วยพี่พีมยกตะกร้าเดี๋ยวนี้เลยนะไป๊”


เสียงอีกรีนวี๊ดๆแต่เช้าพวกเราชาวสวัสดิการก็แบบนี้แหละครับต้องตื่นก่อนนอนทีหลัง(นางทาสยังอาย)เพราะต้องรีบตื่นมาทำกับข้าวตอนกลางคืนก็ต้องหุงข้าวไว้เพราะถ้ารอหุงตอนเช้าเดี๋ยวไม่ทันเราไม่ได้ใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้านี่หว่า


แต่อีกรีนแม่งโคตรเทพมันใช้วิธีหุงแบบโบราณน่ะแต่ข้าวก็สุกนะที่พวกเราชาวค่ายไม่ตายมีข้าวให้กินตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ต้องยกความดีความชอบให้อีกรีนมัน พอผมชมมันว่าทำไมมึงเก่งจังวะกรีนมันก็ยิ้มหน้าบานแข่งกับฝาชีเลยทีเดียว


และผมถึงกับหลุดหัวเราะที่เห็นมันยืนเท้าเอวชี้หน้าด่าไอ้น้องปาร์คอย่างออกรสเหตุเกิดเพราะไอ้ปาร์คมันมัวแต่แต่งองค์ทรงเครื่องหนาว เหมือนจะไปเดินแบบมิลานวินเทอร์แฟชั่นวีคโดยไม่สนใจเลยว่าคนอื่นเขาเร่งมือทำมื้อเช้ากันวุ่นวายแค่ไหนอีกรีนก็เลยองค์ประทับอย่างที่เห็นนี่แหละครับ

 
คือผมเข้าใจผมรู้ว่าตอนเช้าของที่นี่อากาศค่อนข้างหนาวมากแถมยังมีหมอกหนาน้ำค้างตรึมอีกต่างหาก เรียกว่าแทบไม่อยากจะโดนน้ำกันเลยแต่ถึงจะหนาวแค่ไหนผมว่าไอ้ปาร์คมันก็….เยอะไปจริงๆนะทั้งหมวกไหมพรมเอยเสื้อโค้ทเอยไหนจะผ้าพันคอที่มองไกลๆกูนึกว่าอนาคอนด้ารัดคอมัน

 
“โหยอีเจ๊เซาะกราวว่ะเค้าเรียกว่าแฟชั่นแบบผู้ดีบริทิชเว้ยกะเทยชราอย่างเจ๊ไม่รู้จักละสิ”

 “นะนะนะ หน้อย หน๊อยยยยยยไอ้ผู้ดีอังกฤษ? ถุ้ยอย่างแกน่ะแฟชั่นพาหุรัดก็หรูแล้วมึงไปเลยนะไปช่วยไอ้พีมยกหม้อยกเขียงไปล้างเดี๋ยวนี้เลยนะไป๊”

ฮ่าๆรู้แล้วใช่ไหมครับว่าผู้ชายที่อยู่ฝ่ายสวัสดิการทำอะไรบ้างหน้าที่หลักๆก็มียก แบก หาม ตักน้ำ เชือดไก่ สับหมู ยกกระทะใหญ่ๆอะไรที่หนักๆที่พวกผู้หญิงเขาทำไม่ได้พวกผมก็ทำหมดและนี่คือประโยชน์ของผู้ชายฝ่ายสวัสดิการ T^T


“แกก็ปล่อยมันเถอะกรีนนานน๊านนนมันถึงจะได้ใส่ถ้าอยู่กรุงเทพคงไม่มีโอกาสได้แต่งตัวแบบนี้เว้นแต่มันจะไปเดินเล่นในโรงงานน้ำแข็ง”


พี่เมย์ที่กำลังชงกาแฟและโอวัลตินให้ชาวค่ายบอกพลางยืนขำไอ้ปาร์ค ขนาดพวกผู้หญิงเขาใส่แค่เสื้อกันหนาวกับผ้าพันคอก็จบไอ้ปาร์คมันก็บ่นอุบที่ไม่มีใครเข้าใจแฟชั่นของมัน มันตามแกล้งอีกรีนอยู่ซักพักถึงยอมวิ่งมาช่วยผมยกหม้อยกกระทะไปล้าง ส่วนพวกจานชามที่ใช้ในแต่ละมื้อก็ผลัดเวรกันล้างตามสี อ๋อ คือมีการแบ่งสีเล่นกีฬาน่ะครับเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลังนะเพราะมันเป็นอะไรที่วิลิศมาหรามาก


“โหพี่พีมนี่เราต้องล้างหมดนี่เลยเหรอพี่อีเจ๊กรีนแม่งโหดดดดดด น้ำยิ่งเย็นๆอยู่ผมต้องถอดถุงมือด้วยใช่ไหมเนี่ย” สรุปแม่งห่วงแอคเซสซอรี่หรอกเหรอเชี่ยปาร์ค

 
“มึงจะล้างทั้งถุงมือกูก็ไม่ว่านะเลิกบ่นแล้วไปตักน้ำมาปะ” ไอ้น้องปาร์คมันก็บ่นนู่นบ่นนี่แต่พอพวกพี่เมย์น้องกุ๊กแล้วก็พวกผู้หญิงมาช่วยล้างมันก็ยิ้มแป้น


ก็ปล่อยผู้หญิงเขาล้างกันไปส่วนผมกับไอ้ปาร์คก็มีหน้าที่ตักน้ำในบ่อปูนขึ้นมาให้ที่จริงบนนี้มีน้ำประปานะครับไฟฟ้าก็มีรู้สึกจะใช้พลังงานจากแผงโซลาเซลแต่เห็นบอกว่าถ้าใช้มากๆมันจะหมดเพราะงั้นเลยต้องเก็บไว้ใช้ตอนกลางคืน


พอได้ฟังแบบนี้ก็นึกถึงตอนเราอยู่กรุงเทพฯเนอะไม่รู้เปิดอะไรบ้างทั้งแอร์ คอมฯ ทีวี พัดลม ตู้เย็นเปิดแม่งให้หมดบางทีไม่ได้ใช้ยังเปิดเล้ยยไม่ได้ว่าใครนะว่าตัวผมเองนี่แหละ คนเมืองใช้แบบไม่รู้ค่าต่างกับคนที่เห็นค่าแต่กลับไม่ค่อยมีให้ใช้ คึ ระหว่างที่ล้างจานพวกสาวๆเขาก็แซวผมบ้างแซวไอ้ปาร์คบ้างเพราะมีผู้ชายอยู่แค่สองคนก็ขำๆเล่นๆไปถูกแซวจนชินตั้งแต่วันแรกแล้ว

ตีห้ากว่าๆคนอื่นๆก็เริ่มตื่นกันหมดแล้วพอตื่นมาชาวค่ายอาสาก็สร้างประโยชน์ให้แก่สังคมด้วยการวิ่งเตะวิ่งเล่นกันอย่างกับเด็กๆโดยเฉพาะพวกพี่โต้งพี่แป๋วทั้งที่กำลังจะเป็นบัณฑิตในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพราะถ้าจะนับกันจริงๆพวกพี่ๆปีสี่ที่มาเขาเรียนจบแล้วพวกผมสิปีสี่ตัวจริง ^o^

ผมเลยมองหากลุ่มตัวเองว่าพวกมันฟื้นคืนชีพมาสูดออกซิเจนยามเช้ากันรึยังมองหาอยู่ซักพักก็เห็นไอ้แทนไอ้คิวไอ้แมทเตะบอลอยู่กับพวกพี่โจ๊กพวกไอ้ดลไอ้เอ็มข้างๆสนามมีไอ้เต้ยนั่งหลับพิงไหล่ไอ้ฟ่างที่นั่งยองๆเท้าคางหาวหวอดๆดูไอ้แทนเตะบอลแบบสลึมสะลือ


ส่วนไอ้คู่ดูโอ้นิชมิคและปันคิบอมนั้นหายไปไหนไม่รู้และพอมองไปมองมามองหาคนที่ผมอยากเจอก็เห็นหลังภูมิไอ้เชนไอ้เบียร์อยู่แถวๆลำธารสงสัยพวกมันคงไปล้างหน้าแปรงฟันกันมั้ง

และจากตรงนี้เหมือนไอ้ภูมิกับไอ้เบียร์รวมหันกันแกล้งไอ้เชนด้วยการจะจับโยนลงน้ำ ผมยักไหล่ส่ายหัวให้กับความปัญญาอ่อนของพวกมันก่อนจะหันกลับมาสนใจกะละมังถ้วยถังที่สาวๆเขาล้างเสร็จแล้วและผมมีหน้าที่เอาไปเก็บ


จากนั้นไม่นานเสียง8.9ริกเตอร์ของอีเฟรนก็ดังลั่นไปทั่วดอยมันแผดเสียงผ่านโทรโข่งว่าให้ทุกคนรีบล้างหน้าล้างตาแล้วไปรวมกันที่ลานหน้าเสาธงเพื่ออกกำลังกายตอนเช้าก่อนที่น้องๆจะมาโรงเรียน

 
“สิบนาทีนะฮ้าสิบนาทีขอให้ทุกคนมารวมกันที่หน้าเสาธงอย่างด่วนจี๋เลยนะค๊า ย้ำว่าทุกคนยกเว้นอีพวกพ่อครัวแม่ครัวไม่ต้องมานะย๊ะเดี๋ยวพวกชั้นจะไม่ได้กินข้าว” พวกผมชาวครัวเลยส่งเสียงโห่ไปให้ผู้นำออกกำลังกายอย่างอีเฟรน

ภูมิมันคงได้ยินเสียงผมมั้งมันเลยหันมามองทั้งที่ยังคาบแปรงสีฟันอยู่เหมือนว่ามันจะยิ้มแล้วกวักมือเรียกหรือไล่ผมก็ไม่แน่ใจเพราะระยะประมาณนี้บอกตรงๆว่ากูเห็นหน้ามึงไม่ชัดว่ะภูมิ ฮ่าๆ ก็ตรงที่ล้างจานกับลำธารมันก็ค่อนข้างไกลกันอยู่จะไม่ให้ไกลได้ไงเกิดน้ำล้างจานไหลลงลำธารคงได้สนุกกันทั้งค่ายละมิ้งงงง


และหลังจากพวกฝ่ายอื่นมันออกกำลังกายพร้อมบำเพ็ญประโยชน์ด้วยการเก็บขยะทำความสะอาดบริเวณโรงเรียนเสร็จก็ได้เวลาเรียกพวกมันมากินข้าวเมนูอาหารเช้าวันนี้ได้แก่ข้าวต้มหมู คะน้าหมู ไข่เจียวหมูสับ โอวัลตินหมู เฮ้ย ไม่ใช่ๆฮ่าๆโอวัลตินธรรมดาและขนมปังปิ้งย่างครับ

ที่เรียกแบบนี้เพราะพี่ฝนแม่งเอาขนมปังขึ้นย่างบนเต่าถ่านจริงๆเลย กร้ากก มันต้องแบบนี้แหละถึงจะเรียกว่าขนมปังปิ้งของแท้พี่แกนั่งจุดไฟตั้งแต่ตีสี่เลยนะครับเพราะเราจะทำแจกน้องๆด้วย กูว่าเอาคุ้กกี้ที่คนเขาบริจาคมาไปให้น้องมันจะไม่ง่ายกว่าเหรอครับพี่


อ่อ อีกอย่างผักคะน้าที่เราใช้ทำกับข้าวชาวบ้านเขาเอามาฝากแหละครับสดๆจากไหล่เขา ฮ่าๆ แม้ว่าชาวบ้านรวมถึงน้องๆที่นี่จะค่อนข้างขี้อายไม่ค่อยคุยกับคนแปลกหน้าต่างถิ่นอย่างพวกผมซักเท่าไรแต่พวกเขาก็ใจดีมากๆเลยครับและแม้พวกเขาจะยังไม่กล้าคุยแต่ทุกคนก็มักจะมีรอยยิ้มให้พวกเราเสมอ

ชาวบ้านที่นี่เป็นชาวไทยภูเขาภาษาพูดก็เป็นภาษาชาวเขาแต่เขาก็พูดกลางได้นะสำเนียงน่ารักดี(ซึ่งไอ้มิคติดใจแล้วเรียบร้อยมันฝึกพูดกับพวกผมทุกวันใกล้จะเป็นพม่าเข้าไปทุกที)การแต่งตัวก็ยังยึดตามประเพณีเผ่าตัวเองอยู่น่ารักมากๆ

และสิ่งสำคัญที่พวกเราสัมผัสได้จากชาวบ้านและน้องๆที่นี่คือความจริงใจใสซื่อและความมีน้ำใจของพวกเขา การออกค่ายอาสาไม่ใช่แค่พวกเราเท่านั้นที่เป็นฝ่ายให้ชาวบ้านเองก็หยิบยื่นความรู้สึกดีๆและมิตรไมตรีให้พวกเราเช่นกัน

“กินข้าวค่ากินข้าวมากินข้าวไวๆจะได้ไปใช้แรงงานกันเร็วๆนะค๊า อีเพื่อนเฟรนคะมึงจะแดกโทรโข่งแทนข้าวใช่ไหมอีหอยปล่อยบรรดาชะนีและสามีกูมากินข้าวได้แล้ว” อีกรีนเดินนวยนาดพลางตะโกนเรียกพวกพ้องชาวค่ายมากินข้าว พวกผมก็ช่วยกันยกหม้อข้าวกับข้าวจานช้อนส้อมมาวางไว้ให้พวกมันบริการตัวเอง

 “วะ วะ ว้าวววววว่าไงจ๊ะแม่ครัวตัวแคระหน้ามันแพล่บเชียวนะเพื่อนแล้วมื้อนี้ทำอะไรให้พวกพี่กินเหรอจ๊ะ”

ผมกำลังจะเอากระติกไปรองน้ำจากแท็งค์แต่ต้องหยุดปะทะฝูงหมาในปากกับไอ้คิวซะก่อนพร้อมๆกับไอ้พวกกลุ่มเพื่อนตัวดีที่ดาหน้าเขามาอย่างพร้อมเพรียง พวกมันดูเหมือนจะยิ้มๆล้อๆผมยังไงไม่รู้โดยเฉพาะไอ้ภูมิที่ยิ้มจนจะกลายเป็นหัวเราะ

“ของมึงกูเตรียมเพดดิกรีไว้ให้แต่ถ้าไม่ถูกใจจะเอาไก่เป็นตัวๆไปกินในลำธารก็ได้”

“โอ๊ะโอ กูไม่ใช่แมวนะ”

“เหี้ยเหอะคิว” ก่อนกินข้าวพวกสัมภเวสีมันก็มาร้องขอส่วนบุญแบบนี้แหละครับสงสัยต้องแบ่งข้าวไปวางที่โคนต้นไม้แล้วจุดธูปเรียกมันมารับส่วนกุศล ผมมองหน้าไอ้คิวที่หยิบยื่นรอยยิ้มอันล่อมือล่อตีนของผมให้คันยิบๆผมแกว่งกระติกกระแทกหลังไอ้คิวก่อนจะรีบเดินออกมาและแน่นอนว่าต้องมีคนเดินตาม


“เมื่อเช้าทำไมไม่ปลุกกูฮึเตี้ย” ภูมิขึ้นมาเดินข้างๆผมและแย่งกระติกน้ำไปถือผมยักไหล่เหลือบมองมันนิดๆรู้จักทำตัวมีประโยชน์ด้วยเว้ย


“ปลุกทำไมปลุกแล้วมึงจะมาช่วยกูหั่นผักหั่นหมูรึไงปล่อยให้นอนน้ำลายยืดอ่ะดีแล้ว”

“อย่ามามั่วใครกันแน่ที่นอนน้ำลายยืด”


“ก็มึงไง”


“นอนกับมึงกูไม่เคยน้ำลายยืดหรอกแต่ถ้าน้ำอย่างอื่นน่ะไม่แน่” เหยดดดดดดดดดแม่มเดี๋ยวกูโบกหัวทิ่มแท็งค์น้ำ ภูมิมันยิ้มกว้างก่อนจะเปิดน้ำใส่กระติกแล้วหันมาผลักหัวผมเบาๆมันมอบรอยยิ้มให้ผมเป็นรอยยิ้มที่เหมือนว่ามันได้ครองโลกทั้งใบ เชี่ยยยยยเรื่องเสื่อมๆนี่เร็วนักนะผมเลยเตะน่องมันกลับอีกรอบต้องเอาให้เข็ดแม่งชอบกินในที่ลับแล้วเอามาประจานในที่แจ้ง???


“อ้าวๆสองคนนี้มาหวีดไรข้างแท็งค์น้ำครับชอบทำตัวเป็นโปรโตซัวหากินตามที่ชื้นนะพวกมึงเนี่ย ไปๆไปกินข้าวได้แล้ววันนี้ต้องเชื่อมเหล็กนะครับคุณภูมิให้ไวๆ” ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหนของแผนที่โลกไอ้ปันก็สามารถตามมาก่อกวนอยู่ร่ำไป


“แล้วมึงมาทำไรแถวนี้วะปัน อ่อตรงนี้เป็นที่เดียวที่มีสัญญาณโทรศัพท์นิแล้วเป็นไงบ้างวะโทรได้ไหมพี่องุ่นตื่นรึยัง” คะ คะ คะ เค เย้(ซาวด์สะเก็ดข่าว)ผมตาเหลือกมองภูมิแบบทึ่งๆภูมิทำไมมึงร้ายกาจและฉลาดขนาดนี้ หึหึ


ผมหันไปมองไอ้ปันพร้อมมอบรอยยิ้มเอียงๆให้มัน เชี่ยปันแม่งอ้าปากพะงาบๆมองพวกผมเหวี่ยงๆก่อนจะรีบเดินจากไปโดยไร้คำลาผมกับภูมิเลยเป่าปากแซวตามหลัง โห่ไม่แน่จริงนี่หว่าไอ้ประธานว่าแต่ว่ามันโทรหาพี่องุ่นจริงหรอวะ บนนี้มีสัญญาณด้วยเหรอ

“ภูมิๆมึงรู้ได้ไงอ่ะว่าไอ้ปันมันมาคุยโทรศัพท์” ผมกระโดดและเขย่งตัวเพื่อกอดคอไอ้หล่อ(อนาถชิบหาย)

“หอมก่อนดิแล้วจะบอก” ภูมิก้มมองผมด้วยสายตาระยิบระยับน่าจับดินทรายกรอกทั้งสองกระบอกตาแถมมันยังยกยิ้มมุมปากได้กวนมากจริงๆ

“ตีนกูนิ”

“หอมแก้มก็พอไม่ต้องหอมตีนกูหรอก หึหึ”

=_=

“น้ำล้นแล้วสาดดดรีบหิ้วตามกูมาเลยไอ้หื่น” กระโดดกัดติ่งหูไอ้ภูมิขาดแอนตาซินจ่ายเท่าไรกูอยากรู้ พอผมไม่สบอารมณ์มันก็ยิ่งหัวเราะอย่างสุขขีแม่งนิดๆหน่อยๆจะหากำไรจากร่างกายกูตลอด >O<

 
“เฮ้ยเตี้ยรอด้วยดิ” เสียงตะโกนปนเสียงหัวเราะที่ลอยมาตามหลังทำเอาเส้นขมับผมเต้นตุบๆกูไม่รอแม่งรีบไปกินข้าวดีกว่าปล่อยมันยกกระติกน้ำหนักๆคนเดียวเลยอยากแกล้งกูดีนัก

 
หลังจากอิ่มแปล้กับมื้อเช้าแต่ละฝ่ายก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเองส่วนชาวครัวอย่างพวกผมว่างเลยไปช่วยทีมอื่นๆเขาทำงาน พวกผู้หญิงบางคนก็ไม่ช่วยทีมวิชาการสอนน้องๆบางคนก็ไปช่วยทาสีอาคารส่วนผมไม่ได้ไปไหนเพราะต้องช่วยอีกรีนปั้นบัวลอย แม่งกูปั้นจนหน้าจะกลมแข่งกับลูกบัวลอยแล้วนะโว้ยยยปล่อยกูไปได้แล้ว


“อีพีมมมมมมอีดอกฝอยทองนั่นลูกบัวลอยหรือลูกนิมิตคะอีนี่มึงทำเล็กๆสิ โอ๊ยยยกูบอกจนมดลูกจะย้อยแล้วนะ”


“เออๆกูก็ทำเล็กแล้วนี่ไงทีน้องปิ๊งทำใหญ่กว่ากูมึงไม่เห็นว่าเลย” น้องปิ๊งนั่งหัวเราะผมกับอีกรีนตั้งแต่เราเริ่มปั้นบัวลอยและน้องก็ยิ่งขำเมื่อผมยกตัวอย่างฝีมือมาเปรียบเทียบกัน

“โหพี่พีมปิ๊งทำอันเล็กๆเองนะของพี่พีมอ่ะตลก ฮ่าๆ”

 
“ใช่ มึงเอารูสะดือดูเหรอย๊ะถึงเห็นว่าของนังปิ๊งมันใหญ่กว่ามึงไม่ต้องเถียงกูเลยนะพีมหรือมึงอยากถูกเนรเทศออกไปใช้แรงงานห๊ะ” อีกรีนถลึงตาใส่ผมนั่นขนตารึแผงม้าวะอะไรจะหนางามงอนขนาดนั้นคิดดูเอาเถอะว่ามาค่ายอาสามันยังพากันแต่งหน้าอีกรีนนี่ยังดีเพราะมันมุ่งงานครัว ผมอยากให้พวกคุณเห็นอีสวีทอีจีอีเคมันจัดเต็มมากแต่อีเฟรนไม่เท่าไรเพราะมันไม่แต่งหญิง

“ไปๆๆๆมึงจะปล่อยกูไปแล้วใช่ไหมกรีนนะครับกรีนคนสวยปล่อยพีมไปเถอะนะครับ”


“ไม่!!!!!!!!!!!ดูปากกูนะคะเพื่อนชายว่าไม่!!!!มึงไม่ต้องพูดมากรีบๆปั้นไป” ขัดขวางความต้องการของมนุษย์เป็นงานของพวกแม่มดสินะ

“อะแฮ่มมีอะไรให้ช่วยไหมคะ”

พวกผมพร้อมใจกันเงยหน้ามองคนมาใหม่มันก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไอ้หมอฟันนั่นเอง ผมกับอีกรีนสบตากันก่อนจะกรอกตามองหน้าไอ้เชนอีกหนแต่มันไม่ได้มองพวกผมเลยซักนิดเพราะกำลังส่งยิ้มหวานๆสายตาฉ่ำๆให้ผู้หญิงคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงนี้

ใช่ครับเป้าหมายล่าสุดของไอ้เชนคือน้องปิ๊งสาวน้อยน่ารักจากคณะเภสัชจึงไม่แปลกที่จะเห็นหน้าไอ้เชนมาป้วนเปี้ยนแถวครัวจนผมเริ่มเอียน

นอกจากไอ้ภูมิที่แวะเวียนมาให้สาวๆในครัวได้กรี๊ดบ่อยๆ(มันมาหาผมแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมสาวๆถึงกรี๊ดมันนักแม่งหล่อตรงไหนวะ ^_<) ก็มีไอ้เชนนี่แหละที่โผล่มาวนเวียนแถวนี้ทุกครั้งที่มันมีโอกาส
ทุกครั้งที่มันมามันก็จะแกล้งแอ๊บว่ามาหาผมแต่ความจริงคือมาจีบสาวและดูเหมือนว่าสาวเจ้าก็อาจจะเล่นด้วยช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยยยย

ผมว่าจะหาโอกาสบอกน้องปิ๊งอยู่เหมือนกันว่าอย่าไปหลงหน้าตาคารมไอ้เชนเลยผมสงสารน้องน่ะ ถ้าผมช่วยน้องปิ๊งให้หลุดพ้นจากบ่วงกรรมครั้งนี้ได้ผมคงจะได้มหาบุญกุศลไปหลายภพหลายชาติว่าไหมครับ

“แหมๆๆๆไม่ไปแจกวัคซีนแจกยาตรวจสุขภาพช่องปากเด็กๆแล้วหรอคะพี่หมอขา รู้สึกว่าพักหลังๆจะขยันเข้าครัวบ่อยซะจริ๊งงงไม่รู้มีอะไรดี หนูพอจะรู้ไหมคะน้องปิ๊งว่าที่นี่มีอะไรดีคุณหมอหนุ่มหล่อถึงได้เทียวเข้าเทียวออกบ่อยขนาดนี้”

น้องปิ๊งยิ้มเขินๆมองไอ้เชนอย่างอายๆก่อนจะก้มหน้าก้มตาปั้นแป้งเป็นก้อนๆต่อ ผมส่ายหน้าใส่ไอ้เพื่อนรักมันยิ้มหวานส่งซิกให้ผมขยับออกมาและผมก็ไม่ขัดศรัทธารีบเฟตตัวเองไปสู่ที่ใหม่เพื่อให้ไอ้เชนได้นั่งข้างน้องปิ๊งสมใจก็นะช่วยเพื่อนหน่อยล่ะครับจะดีจะชั่วจะมั่วจะเจ้าชู้ยังไงมันก็เป็นเพื่อน ฮ่าๆ แหมก็คนเขาจะมีความรักเราก็ต้องหนับหนุนๆใช่มะ

“กรีนบัวลอยหม้อนี้มึงไม่ต้องเติมน้ำตาลนะแค่นี้มดก็เกาะแล้วว่ะ”

“ต๊ายตายอิพีมมึงคิดเหมือนกูเลยค่ะถ้าได้ไบกอนมาฉีดซักหน่อยคงดีเพราะถ้าหวานกว่านี้กูคงล้วงคออาเจียนอ่ะค่ะ” ฮ่าๆผมกับอีกรีนก็ทำตัวเป็นลูกคู่ตัวชงให้ไอ้เชนจีบน้องปิ๊งอย่างสวัสดิภาพยิ่งกว่าบริษัทรับจัดหาคู่อีกเหอะ


ไอ้หมอฟันดะมันก็หยอดมุขฮาบ้างมุขหวานบ้างแกล้งปั้นแป้งเป็นรูปหัวใจให้น้องปิ๊งบ้างน้องก็เขินๆตีไหล่ชกแขนไอ้เชนบ้างให้พวกผมอิจฉาเล่นๆแม่งมาค่ายอาสามันยังหาโอกาสอัพเลเวลสะสมแต้มเก็บคลอเลคชั่นได้กูอยากมอบโล่เกียรติยศพร้อมสายสะพายชายกลางให้มึงจริงๆเพื่อน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-05-2012 08:06:03 โดย ทะเลหัวใจ »

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป
“มึงชอบน้องเค้าจริงๆหรอเชน” ผมถามไอ้เชนระหว่างที่เราเดินออกมาจากครัวมุ่งหน้าสู่อาคารก่อสร้าง(อีกรีนตะโกนตามหลังผมมาอย่างโหยหวนแต่ดีที่น้องปิ๊งช่วยจับไว้ ดีมากครับน้องสมแล้วที่จะได้มาเป็นแฟนเพื่อนพี่ คึ)

“เอ๊ามึงก็ถามแปลกนะพีมถ้าไม่ชอบกูจะจีบเหรอวะ”


“เหรอออออออเมื่อก่อนกูก็ไม่เห็นว่ามึงจะชอบใครซักคนแม่งยังพาไปนอนด้วยเลย” ที่โวยวายนี่ไม่ใช่อะไรนะครับคือหมั่นไส้มันโว้ยยยยยยยทำไมไม่มีสาวมาชอบกูมั่งผู้หญิงสมัยนี้สเป็คไม่ได้เรื่องเล้ยยแบบไอ้เชนหล่อตรงไหน โด่ ผมดูดีกว่ามันตั้งเยอะ


“ฮ่าๆ เชี่ยพีมมึงก็เข้าใจพูดแล้วมึงเคยเห็นกูบังคับรึไงก็สมัครใจกันทั้งนั้น เอาน่าเพื่อนมึงจะมีแฟนใหม่ทั้งทีต้องยินดีสิถึงจะถูก” มันกอดคอผมแล้วหัวเราะชอบใจ


“แฟนใหม่คนที่เท่าไรละครับเพื่อนนนน เออๆจะจีบจะคบกันกูไม่ว่าหรอกแต่อย่าทำอะไรในค่ายละมึงแค่ไอ้แทนกับไอ้ฟ่างกูก็จะสำรอกแล้ว”


หึหึผมมีเรื่องจะกอซซิบครับทำตัวเป็นกูรูรู้แจ้งเรื่องชาวบ้านเข้าไปทุกทีแล้วกู คืองี้เมื่อคืนหลังจากที่พวกผมเตรียมตัวเข้านอนไอ้คู่รักตัวอย่างมันก็ชวนกันไปอาบน้ำไม่รู้มันพากันไปอาบที่อาเจนติน่ารึอย่างไรก็ไม่ทราบเพราะแม่งหายไปเป็นชั่วโมงและก็ไม่รู้มันอาบมันขัดสีฉวีวรรณกันซอกไหนมุมไหนบ้างกลับมาไอ้ฟ่างเดินซะเพลียเลยครับ


“ฮ่าๆเออเมื่อคืนกูโคตรขำไอ้ฟ่างมันคิดว่ากูหลับมั้งด่าไอ้แทนซะกูคิดท่าตามได้”


“กร้ากกกจริงดิกูก็นึกว่ามีกูคนเดียวซะอีกที่รู้พวกมันเกินคำบรรยายจริงๆนะมึงแม่งในค่ายอ่ะในค่ายยย” แม้จะไม่รู้ว่าไอ้แทนกับไอ้ฟ่างมันไปอาบน้ำถึงขั้นไหนแต่ผมกับไอ้เชนก็นินทาไอ้คู่รักนั่นอย่างสะใจไอ้เชนมันนอนติดไอ้ฟ่างไงครับเลยได้ข้อมูลมาเยอะ


“เฮ้ยๆๆๆๆคนแคระขึ้นดอยเว้ยพวกมึงเคยเห็นไหมมาดูๆ”


มีอยู่ตัวเดียวเท่านั้นแหละที่จะทักผมแบบนี้อย่าเรียกว่าทักเลยเรียกว่าประกาศสงครามจะดีกว่า สิ้นเสียงไอ้คิวพวกก่อสร้างทั้งหลายก็หัวเราะอย่างมีความสุขสนุกสนานสราญฤทัยนี่กูจะมาช่วยนะพวกมึงทำกับกูแบบนี้เหรอห๊ะ


“ปากอย่างมึงเอาปูนโบกไว้ประเทศไทยคงเจริญขึ้นเยอะว่ะคิว”


มันยักไหล่และผสมปูนต่อไปพลางล้อเลียนคำพูดผมไปด้วย พวกทีมก่อสร้างมันเฮฮาดีครับร้องเพลงบ้างตะโกนด่าตะโกนแซวคนนู้นคนนี้บ้าง ผมกับไอ้เชนไม่รู้จะทำอะไรเลยยืนดูไอ้คิวผสมปูนดูอยู่ซักพักภูมิก็ถือค้อนกับตะปูเดินเข้ามาหา


มันใส่เสื้อยืดมอมๆทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวใส่หมวกสานสีส้มๆแบบชาวไร่ชาวสวนน่ะแล้วก็ใส่ถุงมือด้วย พวกกรรมกรทีมก่อสร้างส่วนมากก็แต่งตัวแบบนี้แหละครับ อ่อมีอีกพวกที่ถอดเสื้อแล้วใส่แค่กางเกงบอลอาทิเช่นไอ้แทนกับไอ้คิวแต่ภูมิใส่แบบนี้ก็ดูดีไปอีกแบบเพราะมันขึ้นมุงหลังคาด้วยมั้งเลยต้องมิดชิดหน่อยเพราะร้อนมากๆ


“ในครัวว่างแล้วหรอ”


“ในครัวว่างแย้วหยอ” ผมกำลังจะอ้าปากตอบภูมิแต่ไอ้คิวมันเบะปากดัดเสียงล้อเลียนพูดตามซะก่อนภูมิมันเลยเตะไอ้คิวไปที น่าจะเตะก้านคอสักป้าบนะกูว่าถึงจะสาสมกับความสาระแนของมัน


“ว่างแล้วเลยมาช่วยไงมีไรให้ทำป่ะ”


“มีไรให้เค้าทำป่าวอ่ะตัวเยงงงงง” ถ้าฆ่าไอ้คิวโบกปูนจริงๆจะมีใครคัดค้านไหมวะ ไอ้เชนมันหัวเราะตบหัวไอ้คิวก่อนจะเดินไปช่วยไอ้เบียร์กับไอ้แทนยกตู้หนังสือเก่าออกไปซ่อมแล้วก็ทาสีกันข้างนอก

พี่ๆน้องๆบางส่วนก็ช่วยกันก่ออิฐบล็อกเพราะเหลืออีกด้านเดียวที่ยังไม่เสร็จ บางคนก็ฉาบบ้างไปทาสีห้องน้ำทาสีอาคารเรียนเก่าบ้าง แต่ก็แปลกนะทั้งที่งานที่ทำค่อนข้างจะหนักแต่ผมก็เห็นพวกมันเฮฮาสนุกสนานไม่รู้สึกเหนื่อยมีแต่รอยยิ้มแถมยังมีเสียงเพลงจากพวกพี่โจ๊กพี่โต้งด้วย




มีไม้กระดาน  กระเบื้องมุงหลังคา
มีเสาเอามา ไม่รอช้า  สร้างบ้านเรา
มีค้อนตะปู  ตีตอกดังไม่เบา
มีกบเลื่อยแต่งเสา  แต่งกระดานตามต้องการ
มีเงิน   มีเลื่อย มีไม้ ยังไม่เป็นบ้าน
แรงงาน   ของคนสิสร้างทุกสิ่งสรรค์ได้
เกรียงไกร    ผู้ใช้แรงงาน   สร้างโลกโสภา
แรงเหงื่อและแรงงาน  เป็นบ้านอาศัยมา
ควรมองเห็นค่า แห่งแรงงานกรรมกร
ฮุย  ฮุย  ฮุย  เล้  ฮุย ฮุย  ฮุย  ฮุย  เล้ ฮุย
*เพลง คนสร้างบ้าง



แอบได้ยินหนุ่มวิศวะแถวนี้ร้องคลอไปกับเขาด้วย พวกน้องกระปุกอีเฟรนลี่ที่พาน้องๆเล่นมอญซ่อนผ้าอยู่แถวนั้นยังลุกขึ้นมาเต้นเหอๆ เพลงคนสร้างบ้านมันยังเต้นกันได้ผมละนับถือจริงๆ

จากวันแรกจนถึงวันนี้ห้องสมุดของน้องๆก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้วครับมันเกิดขึ้นมาได้จากแรงกายแรงใจของพวกเราทุกคนแม้แต่อีสวีทที่ใส่เฟอร์มาทั้งชุดยังช่วยขนก้อนอิฐบล็อกทั้งวันถึงมันจะทำไปกรี๊ดไปก็เถอะ

ส่วนทีมวิชาการมันก็ซี้กับน้องๆไปแล้วอย่างไอ้เต้ยน่ะเด็กติดมันเป็นพรวนเลยครับ เมื่อวานมันพาน้องๆไปปลูกผักสวนครัวด้วยจนไอ้คิวที่ขึ้นมุงหลังคาตะโกนแซวไม่หยุดสร้างความรำคาญไปทั่วทุกหัวระแหง


ส่วนไอ้เชนมันอยู่ทีมวิชาการก็จริงแต่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องสาธารณสุขดูแลสุขภาพของชาวบ้านมันจัดกลุ่มคุณหมอสร้างทีมแพทย์อาสาแบบย่อมๆออกตรวจสุขภาพชาวบ้านแล้วก็พวกสัตว์เลี้ยงด้วยเมื่อวานมันไปตามฉีดยาหมูยาหมาด้วยครับ ฮ่าๆ


“มีไรให้ช่วยไหมครับเพื่อน” ผมเดินหางานอยู่ซักพักก็มาเจอไอ้ฟ่างที่ก้มๆเงยๆเพ้นรูปอยู่ที่ผนังของอาคารน้องๆประถม มันใส่เสื้อร.ดมัดผมจุกแขนและขาเลอะสีเป็นหย่อมๆ


“ช่วยสูงขึ้นอีกนิดดิ”


“สัส”


“หึหึ ไปวาดรูปตรงนั้นหน่อยไปฝีมือง่อยๆอย่างมึงวาดรูปนักเรียนได้ใช่ไหม” สาดดดดดดดด กูเอกจิตรกรรมนะเชี่ยฟ่างงงดรออิ้งบีพลัสตลอดสามปีโว้ยยย พอผมมาวาดรูปไอ้ฟ่างก็ไปทาสีผนังต่อและอยู่ๆผมก็นึกเรื่องเมื่อคืนขึ้นมาได้ คึคึ แกล้งไอ้ฟ่างหน่อยละกันถือเป็นการเอาคืนผมเลยนั่งจ้องมันแล้วก็ยิ้มผมจ้องอยู่ซักพักไอ้ฟ่างก็หันมามองหน้า


“พ่อเสียเหรอ ยิ้มค…ยไร”


“เปล๊ากูอารมณ์ดีก็ยิ้มไปเรื่อย” ผมยกคิ้วให้มันอีกสองที หึ วันนี้แหละที่กูจะเป็นเดอะวินเนอ เอ้อ เอ้อ เอ้อ คราวนี้ไอ้ฟ่างหันมามองผมตรงๆพร้อมกับวางแปรงทาสีลง

“มึงคงอยากไปชมนรกพร้อมเพื่อนมึงสินะ” อ่า มันเดินเข้ามาแล้ว อ๊ากกกไม่นะถอยทันไหมวะกูและก่อนที่ไอ้ฟ่างจะถึงตัวผมก็มีผู้ใจดีมาช่วยไว้ทันแต่ผมไม่รู้ว่าควรจะดีใจรึเสียใจกับการช่วยเหลือครั้งนี้ดี



“เฮ้ยไอ้แทนไอ้ภูมิเมียมึงแอบเล่นเลส”



เชี่ยมิคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค




การไปช่วยไอ้ฟ่างทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตไม่ปลอดภัยแถมยังถูกไอ้มิคบ่อนทำลายชื่อเสียงผมเลยอพยพไปหางานใหม่ถามว่าทำไมไม่ไปอยู่กับภูมิคือกูไม่กล้าปีนขึ้นหลังคาครับไอ้หล่อมันไปซ่อมหลังคานู่นนนน เซ็งเลยคนดี(และหล่อ)ไม่มีที่อยู่


“เฮ้ยทำไรวะ” ผมเดินมาทักไอ้เบียร์ที่เลื่อยไม้อยู่มันเงยหน้ามองก่อนจะมอบรอยยิ้มแบบผู้ดีมาให้เออคนจะหล่อแม้เหงื่อซกเต็มหน้าใส่เสื้อแลคตาซอยกางเกงขาสั้นก็หล่อได้เนอะ

“ซ่อมขาเก้าอี้มึงมาพอดีช่วยกูจับหน่อย”

“จับตรงไหนวะ”

“ตรงหัวใจ โอ๊ย” เปล่านะ ผมไม่ได้เป็นคนตบหัวไอ้เบียร์นะแม้จะคลื่นไส้กับมุขโหลยโท่ยของมันแต่ผมก็ไม่ได้ทำอะไรนะ

“ลามปามๆ” ภูมิชี้หน้าเพื่อนซี้มันก่อนจะเอาค้อนตีตะปูกับถังใส่ตะปูจากไป


“มึงหึงแม้แต่กับกูเหรอภูมิ” ไอ้เบียร์ตะโกนกวนตีนไอ้ภูมิไอ้หล่อนั่นเลยหันกลับมามอง




“ก็แฟนกู”



>////////<






…………………………………….





หลังจากไปช่วยพวกทีมก่อสร้างในช่วงสายๆตอนบ่ายพวกผมก็ได้รับมอบหมายจากไอ้ประธานให้พาน้องๆไปทำภารกิจปลูกป่า หึ พูดซะดูดีที่จริงก็แค่ปลูกต้นกล้วยปลูกผักสวนครัวเองครับคุณ


เมื่อได้รับคำสั่งเหล่าเดอะแก๊งค์กลุ่มผมก็เอาจอบเอาเสียมมาขุดดินบริเวณหลังโรงเรียนรอไอ้เต้ยไอ้เชนไอ้ปันมาน้องๆมาและระหว่างรอไอ้คิวก็ก่อกวนพวกผมไปเรื่อยมันแซวไอ้ฟ่างกับไอ้แทนเรื่องเมื่อคืนอย่างเปรมปรีดาโดยมีพวกผมเป็นลูกกระจ๊อกช่วยแหย่อีกทีฮ่าๆกูว่าอีกหน่อยไอ้ฟ่างต้องตบะแตกโยนจอบใส่กบาลพวกผมแน่ๆ


ต่างจากไอ้แทนที่อารมณ์ดีเหลือเกินก็แน่ล่ะเมื่อคืนมันสนุกสนานเต็มที่กับชีวิตยิ่งกว่าเป็บซี่อีกมั้ง ไอ้แทนมันอารมณ์ดีมากกกกกพวกผมพูดอะไรมันก็เอาไปร้องเป็นเพลงหมด จนไอ้ฟ่างลั่นวาจาว่ากลับจากค่ายเมื่อไรจะพาไอ้แทนไปรักษาที่ถ้ำกระบอก เอ่อ ฟ่างผิดที่เปล่าวะ


แถมไอ้แทนมันโอบต้นกล้วยแล้วเด้งหงึกหงักสามทีมันบอกว่า “เป็นเคล็ดกล้วยจะได้ลูกดก” สาดดดดดดดดด กูว่าถ้ากล้วยมันมีปากมันคงวิ่งไปฟ้องคุณปวีณาเพราะถูกมึงทำอนาจารอ่ะเชี่ย


“เฮ้ยพวกมึงกูว่าเราลองเอาส่วนสูงของกลุ่มเรามาหาค่าเฉลี่ยดีไหมวะกูอยากรู้ว่าไอ้พีมจะแตะค่ามีนรึเปล่า” แสรดดดดดดเกิดอยากจะฉลาดคณิตศาสตร์อะไรตอนนี้ไอ้เหี้ยคิว ไอ้ชั่ว ไอ้เลว ระยำ แม่ง สันดานหมาชาติกระบือพ่นไฟใส่หน้าแม่ง

“ฮ่าๆ” เออขำกันเข้าไปทำไรใครไม่ได้ก็เตะไอ้ภูมิไว้ก่อนละวะมันอ่ะขำเสียงดังสุดเลย

“ใครว่าไอ้พีมไม่สูงมันแค่เอาส่วนสูงไปฝากธนาคารไว้เฉยๆเดี๋ยวพอโตเป็นสาวมันก็ไปเบิกมาใช้เองแหละ” ไอ้แทนนนนนนนนนนนนนนนนน มึงๆๆๆๆๆๆๆ


“อ้าวจริงดิพี่แทนผมเพิ่งรู้นะเนี่ย งั้นพี่พีมรีบไปเอามาใช้เลยนะผมสงสารพี่ภูมิอ่ะเดี๋ยวเป็นโรคหมอนรองกระดูกชำรุด”

“ทำไมวะแมท”   

“ก็หมอบคุยกับแฟนเป็นระยะเวลานานเกินไปไงพี่เบียร์ กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกก” ไอ้เหี้ยน้องแมทนับแต่นี้ต่อไปมึงไม่ใช่น้องกู


“หึหึ พวกมึงเลิกล้อมันได้แล้วถึงไอ้พีมมันจะเตี้ยก็ไม่เป็นไรยังไงกูก็รัก”


ฮิ้ววววววววววววววววววววววว


กูเพลียกับพวกเวรนี่จริงๆ พวกผมก่อกวนป่วนประสาทกันอยู่นานในที่สุดไอ้ประธานค่ายไอ้หมอฟันและไอ้เด็กบีบอยที่ผันตัวมาเป็นครูดอยก็ได้นำเหล่าน้องๆเกือบยี่สิบคนเดินขบวนพาทางนี้เหมือนไอ้ปันที่เดินนำหน้าจะสอนน้องทำอะไรพิเรนทร์ๆเพราะมันเดินร้องเพลงพร้อมกำมือชูกำปั้นแบบที่พวกประท้วงเค้าชอบทำต่างกันที่ไอ้ปันมันพาร้องเพลง



ยามอาทิตย์สีแดง สาดทอแสงทั่วหล้า
ปลุกหัวใจชาวประชา โลกถลาเอาชัย
สังคมเก่าอยุติธรรม(อยุติธรรมๆ) มวลชนระกำหมองไหม้
สู้เพื่อชีวิตใหม่ อันสดใสเสรี
โอ้ประชาชน(ประชาชนๆ) ต้องทุกข์ทนขื่นขม
เจ็บปวดร้าวระบม สังคมไม่เหลียวแล
ภารกิจของเรา เยาวชนทั่วหล้า
ยอมพลีชีวา เพื่อประชาชูชัย
* เพลงเพื่อชีวิตใหม่



“สวัสดีครับ…พ่อแม่พี่น้อง!!!!…..ที่เคารพรักทุกท่าน” พอมาถึงไอ้ปันมันก็กำมือเป็นสัญญาณให้น้องหยุดมันทำเสียงประหนึ่งเป็นแกนนำ……อะไรซักอย่าง กร้ากกกเหมือนลัทธิที่ไม่ค่อยเต็มเลยว่ะ สงสารก็แต่น้องๆที่ไม่รู้ถูกไอ้ปันล้างสมองสอนอะไรบ้างแต่ดูเหมือนน้องๆจะชอบนะครับยิ้มกันใหญ่


ไอ้เต้ยก็อีกคนที่ยืนเป็นเลขาไอ้ปันทำตามทุกอย่างไอ้คิวที่ยืนอยู่ข้างผมยังชมเลยว่า “กู่ไม่กลับแล้วแฟนกู” ส่วนไอ้เชนมันขำๆส่ายหัวเพลียๆก่อนจะเดินออกมายืนกับพวกผมแทน

“เฮ้!!!!!!!!!!!!!!” พอไอ้ปันพูดน้องก็ชูกำปั้นแล้วตะโกน ฮ่าๆ มันต้องสอนน้องมาแน่ๆ

“วันนี้!!!!!กระผมนายปันคุกิมิยะ” เชี่ย คุกิมิยะ?????????????????????? มึงกล้ามากกล้ามากจริงๆไอ้ปัน

“เฮ้!!!!!!!!!!!”

“จะพาทุกคนมาปลูกผักสวนครัวนะคร้าบบบบบบบบบบ” พูดจบมันก็กางแขนออกพร้อมโค้งลงรับเสียงปรบมือ

“ไงกูเท่ไหม” มันเงยหน้ามายิ้มให้พวกผม

“เท่ โดยเฉพาะตอนที่มึงก้มลงไปแล้วไม่เห็นหน้าน่ะแม่งโคตรเท่” ไอ้ฟ่างบอกก่อนจะพาน้องๆเดินออกไปทำแปลงปลูกผัก ไอ้ปันเลยถึงกับเซ

“มึงไปหลอกเอาลูกใครมาเยอะแยะขนาดนี้วะเต้ย” ไอ้แมทถามเพื่อนมันที่มายืนยิ้มอยู่ตรงหน้าไอ้คิว ห่ากูหลอนแทน

“นี่ลูกศิษย์กูเว้ยยยยกูสอนเองกับมือกูสอนเก่งไงน้องๆเลยติด พี่คิวๆลูกศิษย์เต้ยน่ารักไหม อ่ะน้องๆถ้าเจอพี่ๆต้องทำไงคร้าบบบ” ผมว่าเพราะมันเอาขนมไปล่อลวงน้องๆมากกว่าเด็กเลยติดมันขนาดนี้


“ส่าหวาดดดดีค่า/ครับ”น้องๆก็ไหว้พวกผมอย่างสวยงามเด็กๆทำอะไรก็น่ารักไปหมดแหละครับไม่ได้เกี่ยวกับคนสอนเลยซักนิด ฮ่าๆ

“ป๊ะล๊าๆเจ๋งป่าว ป่ะพี่คิวเราพาน้องๆไปปลูกผักกันดีกว่า ป่ะๆ”

ไอ้ฟ่าง ไอ้เบียร์ ไอ้เต้ย ไอ้ปัน ไอ้แมท ไอ้เชนพาน้องทำแปลงปลูกผักส่วนผม ภูมิ ไอ้แทน ไอ้คิว ไอ้มิคกับน้องๆอีกกลุ่มก็ช่วยกันปลูกกล้วยเราต้องไปแบกต้นกล้วยจากในหมู่บ้านนู่นนน

เด็กๆน่ารักมากครับผมถามอะไรก็ยิ้มฮ่าๆเห็นแล้วคิดถึงลูกผมเลย อ่ะอย่าตกใจๆลูกผมก็น้องภูไงตั้งแต่มาแม่แจ่มก็ไม่ได้โทรหาน้องเลยป่านนี้ลืมพี่พีมรึยังก็ไม่รู้ครั้งล่าสุดที่ผมโทรคุยกับลุงนพว่าจะขอพาน้องภูมาเที่ยวเชียงใหม่แกก็ไม่ว่าอะไรผมกะว่ากลับจากค่ายจะไปเยี่ยมน้องภูเลยเพราะภูมิก็อยากเจอน้องเหมือนกัน
   
เสียงหัวเราะของเด็กๆเสียงโวยวายของพวกพี่ๆ(พวกกูนี่แหละฮา)เป็นบรรยากาศที่ดีมากๆเลยครับเราช่วยกันปลูกต้นกล้วยจนเสร็จแต่ผักสวนครัวยังเหลืออีกสามแปลงพวกน้องๆก็ได้เวลากลับบ้านเพราะใกล้ถึงเวลาโรงเรียนเลิกแล้ว พอน้องกลับไปพวกผมก็ช่วยกันทำต่อซักพักตัวช่วยของพวกเราก็มาเป็นบุคคลที่แสนล้ำค่าที่สุดของค่ายนั่นก็คือ..............


พวกอีเฟรนอีกรีนอีเคที่อีจี้อีสวีทมันยกขบวนมาทั้งกลุ่มงานนี้ก็เสร็จไอ้คิว แต่ไอ้เบียร์ดิครับเกิดปฏิกิริยารีเฟรคชั่นทุกครั้งที่เจอหน้าอีจี้ฮ่าๆๆเพราะหลังจากวันนั้นที่ไอ้เบียร์(ถูกบังคับ)บอกรักอีจี้ อีจี้มันก็สถาปนาตัวเองเป็นคนมียศถาบรรดาศักดิ์ทันทีจากอีจี้คนธรรมดาสามัญกลายเป็น หญิงจี้ ณ ชายเบียร์ กร้ากกกกก ภูมิยังแซวไอ้คุณชายบ่อยๆเลยว่าจะพาแฟนไปกราบหม่อมแม่เมื่อไร


“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด อ๊าย อ๊ายๆๆๆๆๆ” อีสวีทเดินมากรี๊ดใส่หน้าไอ้ปัน กร้ากกกแม่งฮาชิบหายกรี๊ดเสร็จมันก็เดินหนีโคตรกวนตีนไอ้ปันตั้งตัวได้เลยวิ่งตามไปจัดการบีบนมบีบก้นมัน


“ผัวคิวขามึงไปทำไรมาทำไมสิวขึ้นปาก” อีกรีนนี่ก็ช่างตาดีผมอยู่กับไอ้คิวทั้งวันยังไม่เห็นว่าหน้ามันจะมีสิวซักเม็ดแล้วที่อีกรีนทักแม่งก็เล็กกระติ๊ดนึง


“ไม่ได้ทำไรกูแค่ชอบเลยอัญเชิญขึ้นหน้ามึงมีปัญหาไรไหม”

“โหดบาดจิตค่าอิเป็ดระบำ”

“แล้วนี่พวกมึงแห่กันมาทำไรนักหนาใครไปจุดธูปอันเชิญมาห๊ะยังไม่ถึงงานสารทเดือนสิบประตูนรกเขาเปิดให้พวกมึงออกมาเริงร่าหาส่วนบุญแล้วหรอ” ไอ้คิวปากมึงนี่……….

“ทำเป็นพูดดีกูก็เจอมึงแย่งขนมราพวกกูแดกไงจำไม่ได้เหรอ” อีเฟรนก็แพ้ซะที่ไหน

“พวกกูมาช่วยเพราะคนสวยๆอย่างกูสวยทั้งรูปกายทั้งจิตใจ มึงเคยได้ยินมั้ยสวยแบบมีจิตวิญญาณ” อีเคที่มึงสวยมาก ฮ่าๆ ท่ากัดปากมึงสวยได้อีก

“สวยแบบมีจิตวิญญาณ????กูต้องหลับตาหรือไม่ก็จุดธูปก่อนใช่ไหมถึงจะเห็นฮ่าๆ”

“มึงหุบปากห่วยๆได้แล้วคิว ภูมิขาว่าไงคะมีไรให้น้องกรีนช่วยหรือไม่ที่รัก”

กร้ากกกกกกกกกกกกก กรีนมึงเปลี่ยนเป้าหมายแล้วหรอ

“เอ่อ ไม่มีครับ” หึหึ เมื่อไรมึงจะเลิกกลัวอีกรีนวะภูมิ


“มึงก็แซวไอ้ภูมิไอ้เบียร์อยู่ได้ที่มึงเห็นหล่อๆน่ะของปลอมทั้งนั้นแหละพวกมันแค่ใส่เคทเหมือนไอโฟนไอแพดอ่ะพอมันถอดเคทออกมันก็จะไม่ได้หน้าอย่างงี้เว้ย” ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดลบันดาลให้ไอ้มิคมีความคิดแบบนี้


“กูเบื่อไอ้แทนไอ้ฟ่างมากจากใจ” อีเฟรนเบ้ปากใส่ไอ้คู่รักสามพันท่าที่ไม่สนใจใครเอาแต่หลุดเข้าสู่โลกสีชมพูวิ้งๆของพวกมัน  อย่างที่รู้กันว่าภูมิมันแพ้กุ้งใช่ไหมครับภูมิแพ้กุ้งฉันใดไอ้แทนก็แพ้เมียฉันนั้นอยู่ห่างกันไม่ได้เดี๋ยวผื่นขึ้น ไอ้ฟ่างมันยักคิ้วยิ้มมาให้ ปล่อยมันสองคนไปครับเขาจะเอารางวัลคู่รักแห่งปีมาดูอีจี้ขมเหงน้ำใจไอ้เบียร์ดีกว่า กร้ากกก


“เด็ดพี่เพคะมีอะไรให้หญิงทำมั้ยคะ ขุดทองเอ้ยขุดดินหรอคะเด็ดพี่มาๆน้องช่วยนะคะ” ไอ้เบียร์โยนคราดทิ้งเลยอ่ะ อีจี้มันหัวเราะมีความสุขที่แกล้งไอ้เบียร์ได้ก่อนจะหันหลังกลับมารื้อฟื้นความหลังกับผมอีกครั้ง

   
“อีจี้มานี่ๆ” ไอ้คิวกวักมือเรียกอีจี้ที่กำลังนัวเนียผม


“มีไรมิทราบย๊ะ” อีนี่ก็ใจง่ายเกินฮ่าๆถึงมันจะดูเหมือนไม่ค่อยไว้ใจไอ้คิวเท่าไรแต่ก็ยอมเดินไปหาพอไปถึงไอ้คิวก็กอดคอมันก่อนจะชี้ให้ดูอะไรบางอย่าง


“มึงดูนั่นเห็นไหม” ไอ้คิวชี้ไปที่จอมปลวกครับ “ดีใจไหมจี้มึงได้กลับบ้านแล้วมึงรีบไปกราบพ่อกราบแม่และพี่น้องมึงซะสิ เร็วๆ”

“กรี๊ดดดดดดดอีหอกหักบ้านมึงก็อยู่ข้างๆบ้านกูนิได้ข่าวป่ะงั้นเรากลับบ้านด้วยกันนะ”
   

“ตุ๊ดไปช่วยกูตักน้ำรดผักหน่อย”


“มึงเรียกใครตุ๊ดห๊ะอีหมอ” ไอ้เชนโดนแล้วมึง


“ใช่ใครบอกว่าพวกกูเป็นตุ๊ด พวกกูเป็นผู้ช๊ายแป้งพงแป้งพัพไม่รู้จักเดี๋ยวกูก็แบกปูนตอกตะปูสร้างบ้านแล้ว จริงไหม เฮ้ย จริงไหมวะพวกเรา” กร้ากกกกอีสวีทมันทำเสียงใหญ่ๆแมนๆก่อนจะถูกไอ้เชนกอดคอลากไปตักน้ำที่ลำธารได้ยินแต่เสียงกรี๊ดและเสียงด่าแว่วมาตามลม


“ว๊ายอีเห็ดสดถังรั่ววววว กรี๊ดๆๆ”


“มึงจะกรี๊ดทำติ่งไรรีบบีบสิลิโคนจากนมมึงมาอุดเร็วๆฮ่าๆ” ได้ยินไอ้เชนกับอีสวีททะเลาะกันภูมิก็เอาแต่ขำ หึ ทีงี้ล่ะขำพอมันมาใกล้ละกลัว


“เจ๊กรีนคนสวยเย็นนี้มีเมนูอะไรหรอเต้ยเริ่มหิวแล้วอ่ะ” ไอ้เต้ยที่นั่งพักถามอีกรีนที่กำลังโชว์ความแกร่งด้วยการขุดดิน


“น้องเต้ยอยากกินอะไรล่ะลูกเจ๊อะแด๊ปให้หมดถ้าหนูว้อน”


“กูอยากกินไก่ผัดผงกระหรี่” เป็นไอ้มิคที่ตอบ


“สลิด เมื่อวานก็หมูผัดผงกระหรี่เมื่อเช้าก็แกงกระหรี่กูผัดจนจะเป็นกระหรี่แล้วอีห่ามึงกินอย่างอื่นได้ไหมย๊ะ” ฮ่าๆๆไอ้เต้ยหัวเราะจนหงายหลังไอ้เบียร์ที่อยู่ใกล้ๆต้องดึงแขนมันขึ้นมา


“กูว่าอย่างมึงก็เป็นอยู่แล้วไม่ใช่หรอ” มาแล้วครับศัตรูหมายเลขหนึ่งของกะเทยไทยไอ้นิรันดร


“แหม๊ ได้เป็นก็ดีสิมึงว่ามันเป็นได้ง่ายๆหรออาชีพนี้อีพวกหน้าปลวกๆเป็นไม่ได้นะค๊านี่แหละอาชีพที่เคที่ใฝ่ฝันพ่อกับแม่กูจะต้องภูมิใจมากแน่ๆ”


“งั้นมึงก็ได้แค่ฝันแหละ เฮ้ยเชี่ยนี่มันกระเทยหรือกระทิงวะแม่งโคตรล่ำ” ไอ้คิวมันตกใจอีเฟรนที่โผล่มาข้างหลัง


“ไม่ใช่ทั้งสองอย่างเพราะกูเป็นกระสือ ฮา” เออมึงก็ดีเนอะเฟรนแม่งกัดตัวเองก็เป็น


“เออเจ๊เฟรนผมได้ข่าวว่าเจ๊ขายตัวซื้อบีบีให้ผัวเหรอ” ไอ้น้องแมทถามฮ่าๆมึงไปได้ข่าวมาจากไหนวะแมท


“มึงนี่ก็ถามไม่คิดนะแมทมึงดูหน้าอีเฟรนดิอย่างมันขายตัวใครจะซื้อให้ฟรีแถมข้าวเปลือกกูยังไม่เอาเลย” ไม่น่าเชื่อว่ามันสองคนจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน


“ถูกค่ะผัวขา เพื่อนกูเป็นเอเย่นค้ามนุษย์เพศผู้ฮ่าๆ”


“แหมมม พูดดีนะคะอีดอก ถ้ากูเป็นเอเย่นมึงก็ลูกค้าหลักผูกขาดแหละค่ะ อย่าให้กูเซดค่ะกระเทย” อีเฟรนเท้าเอวหันไปวีนใส่อีกรีน


“ทำอะไรก็ระวังคุกระวังตารางนะพวกมึงดีไม่ดีเดี๋ยวโดนหลอก”ผมบอกเพราะก็ได้ข่าวมาว่าอีเฟรนมันป๋าเอ๊ยเจ๊กับเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน


“มึงไม่ต้องห่วงหรอกพีมเพราะกูโดนเป็นประจำ ฮา ไอ้รายล่าสุดถ้ามันยกตู้เย็นไปได้กูว่ามันคงเอาไปด้วยนี่มันหนักเฉยๆหรอก” อีเฟรนมันเผาตัวเองอย่างมีความสุข


“นั่นผัวหรือน้ำท่วมวะมาทียกไปทั้งบ้าน เออเฟรนพรุ่งนี้วันเกิดมึงใช่ไหมแม่งเจ๋งว่ะได้ฉลองวันเกิดบนดอย”


“ใครบอกคะวันเกิดกูเดือนหน้าโว้ยอีแมงเม่ามึงจำผิดแล้ว” โดนด่ายับเลยกู


“อ้าวแล้วมึงเกิดวันที่เท่าไร”


“โอ๊ะมึงอย่าใช้คำว่าเกิดกับมันพีมอย่างอีเฟรนต้องใช้คำว่าขุดค้นพบและถ้ามึงอยากรู้อายุมันมึงต้องเอาคาร์บอน14หาครึ่งชีวิตก่อนเพราะดูจากสภาพหนังหน้ากูขอทำนายว่าแม่งคงตายตั้งแต่สมัยเสียกรุงครั้งที่สองใช่ไหมอีเวนกร้ากก อ๊ากกก อีเวนนนนน ปล่อยเจี๊ยวกู”


“ปากดีนัก ปากดีนักใช่ไหมห๊ะ แห๊ม ของไม่ได้ซื้อไม่ได้ขายมึงได้มาฟรีกูขอจับแค่นี้ทำเป็นงกไปได้” ฮ่าๆๆๆกว่าจะจับไอ้คิวกับอีเฟรนแยกกันได้พวกผมก็รู้สึกว่าเหงือกแห้งไปหมด


เราช่วยกันปลูกผักจนท้องฟ้าเปลี่ยนสีพวกผมก็นั่งพักให้หายเหนื่อยเพราะช่วงนี้ก็ไม่มีอะไรทำแล้ว เวลาที่พวกอีกรีนมาช่วยก็เหมือนเวลาผ่านไปเร็วมากไม่รู้มันไปขุดหาเรื่องตลกจากไหนมาเล่านักหนาคนเส้นลึกอย่างภูมินั่งฟังยังขำตามแต่ตอนนี้พวกผมชักจะคันฮ่องกงฟูดยิบๆเพราะสำเนียงความดัดจริตเกินรับได้ของอีสวีทนี่แหละ


“พวกมึงเข้าใฌใฌ่บ่ะ Ye you know อ่ำบั่บว่า so hot my skin itสะ แวรี่ๆแสบบั่บมึง get ใฌ้บ่ะ sometime I เอิ่ม like”


“โว้ย!!!!!!!!! อีปลวกอาวุโสมึงลิ้นไก่สั้นหรือเพดานโหว่ห๊ะถ้ามันจะลำบากขนาดนั้นมึงก็พูดอังกฤษเลยเหอะ บั่บๆอยู่นั่นเดี๋ยวกูเตะให้หายเป็นตุ๊ดเลย” กร้ากกกกกก

ไอ้คิวแกล้งบีบคออีสวีทจนมันหัวสั่นหัวคลอน ฮ่าๆผมลืมบอกไปว่าอีสวีทมันมีความสามารถพิเศษเวลาพูดคือมันสามารถพูดไทยสำเนียงอังกฤษได้ครับ ฮ่าๆ ได้ดีซะด้วยบางทีกูแทบแปลไทยเป็นไทยย้ายเวิร์บกันมันส์พะยะค่ะ accent มึงดีไปนะเพื่อน


“มึงข้ามมาจากฝั่งนู้นใช่ไหมกูว่าใช่แน่ๆเฮ้ยคิวบอกมันร้องเพลงชาติดิ” ไอ้มิคบอก


“ร้องเพลงชาติซิร้องได้ไหม” เออมึงก็บ้าจี้นะคิว อีสวีทสะบัดผมก่อนจะลุกขึ้นยืนอย่างมั่นใจ


“ร้อด้า เพช่าใช่มะ วาเพเดือสิสอน้าในคอเตตาหลี่” ทำเอาฮาทั้งก๊วนไอ้แทนถึงกับลุกไปเชคแฮนอีสวีทเลยทีเดียว

“มึงยังไม่ได้สัญชาติไหมสวีท” ไอ้แทนทั้งถามทั้งหัวเราะ

“ฮ่าๆ พูดเรื่องพม่าแล้วชั้นคิดถึงเรื่องเดือนที่แล้ว”


“เรื่องอะไรวะ” ผมหันไปถามอีเฟรนที่นั่งอยู่ข้างๆ


“คือบัตรประชาชนฉันหมดอายุใช่ไหมแกเออฉันก็ไปทำพอไปถึงฉันก็เดินสวยๆขึ้นไปบนที่ว่าการค่าคนก็เยอะมากอีดอกวุ่นวายมาก ฉันก็งงๆว่ามันต้องไปติดต่ออะไรตรงไหนก่อนก็มองๆอยู่ซักพักเห็นอีนังพนักงานโต๊ะประชาสัมพันธ์มันกำลังวุ่นวายกับคนที่มาจดทะเบียนอะไรซักอย่างน่าจะเป็นเรื่องหย่าเพราะฉันเห็นอีผู้หญิงชี้หน้าด่าๆผัว ด่ากันเสียงดังมาก

ฉันก็ไม่รู้จะทำยังไงใช่ไหมแกแต่นอกจากอิพนักงานคนนั้นก็ไม่มีใครพอจะให้คำแนะนำชั้นได้ ฉันก็เลยเดินเข้าไปถามนางแบบมีมารยาทแบบผู้ดีสุดๆ ฉันก็ถามว่า เอ่อ ขอโทษนะคะ คุณพี่คะขอโทษนะคะไม่ทราบว่า….ฉันยังพูดไม่จบนางก็หันมาจิกตาใส่ฉันแล้วก็ตะโกนเสียงดังลั่น “บัตรต่างด้าวไปถ่ายรูปตรงนู้น!!!!!!!!!!!”



“กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก”


“กูล่ะอยากเผาที่ทำการให้มอดไหม้หน้ากูพม่าหรออีห่าหน๊อยถ้าหน้าหล่อนดีกว่าชั้นชั้นก็คงไม่อะไรหรอกแต่นี่มันก็ปลวกเหมือนกันแหละวะ”


“ฮ่า แล้วมึงทำไง”


“กูก็ด่าสิคะจะปล่อยไว้ทำแม่หรอ”



อีเฟรนลี่แม่ทุกสถาบัน



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-05-2012 08:12:40 โดย ทะเลหัวใจ »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด