We are...คือ เรารักกัน ตอนพิเศษ ด้วยความคิดถึง100%... 16/12/13 [P.314]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: We are...คือ เรารักกัน ตอนพิเศษ ด้วยความคิดถึง100%... 16/12/13 [P.314]  (อ่าน 3347465 ครั้ง)

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป


…………………………………..



อีกสามวันพวกเราก็จะต้องจากแม่แจ่มแล้วครับคิดแล้วก็ใจหายเนอะแม้จะเป็นเวลาแค่สองสัปดาห์กว่าๆแต่ว่าผมก็รู้สึกผูกพันกับที่นี่ทุกเช้าตื่นมาฟังอีกรีนบ่นตกบ่ายไปช่วยพวกทีมก่อสร้างตอนเย็นก็กินข้าวทำกิจกรรมด้วยกันกับเพื่อนพ้องน้องพี่ ได้รับรอยยิ้มจากชาวบ้านได้วิ่งเล่นกับน้องๆไม่รู้เมื่อไรถึงจะได้กลับมาอีก เฮ้ออ แต่เอาเป็นว่าเรามาใช้เวลาที่เหลือให้มันคุ้มดีกว่าเนอะ
 

อ่อลืมบอกว่าห้องสมุดที่เราสร้างก็เสร็จสมบูรณ์เกือบร้อยเปอร์เซนต์แล้วนะครับเห็นภูมิบอกว่าเหลือเก็บรายละเอียดตรวจสอบความเรียบร้อยอีกนิดหน่อยแล้วก็จะมีพิธีรับมอบให้กับโรงเรียนแล้วก็จะมีกีฬากระชับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราชาวค่ายกับน้องๆและชาวบ้านด้วย


หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จเราก็เลยมีการประชุมและทำมีกิจกรรมสนุกๆเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา แถมช่วงนี้มีแบ่งเล่นกีฬาสีตอนกลางวันด้วยครับเวลากินข้าวเย็นก็ต้องนั่งกับสีตัวเอง เราแบ่งเป็นสี่สีได้แก่ สีเขียว สีส้ม สีฟ้าและสีชมพู


พวกเราชาวเดอะแก๊งค์ก็กระจัดกระจายกันไปผมโชคดีได้อยู่สีเขียวกับไอ้เชน ส่วนสีนี่ฟ้าเป็นสีในดวงใจสาวๆครับเพราะผู้ชายหน้าตาดีไปกองอยู่สีนั้นกันเยอะทั้งพี่กันต์ไอ้น้องฟลุค(เฟรชชี่ปี1หมาดๆคณะนิติ)และตัวเรียกเสียงกรี๊ดทั้งภูมิไอ้แทนและคุณชายเบียร์ไม่รู้มันยื่นซองใต้โต๊ะขออยู่ด้วยกันรึเปล่า


ส่วนสีส้มเป็นสีรวมตัวประหลาดเลยครับพวกพี่โจ๊กพี่ห้อยจริงๆพี่แกชื่อนาวแต่ห้อยเป็นฉายาที่เพื่อนแกตั้งให้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรห้อย ฮ่าๆรู้แค่ว่าพี่แกฮามากทำผมอัฟโฟ่ฟูๆด้วย ที่สำคัญไฮไลท์ของสีนี้ก็คือไอ้ปันไอ้มิคไอ้เต้ยไอ้เอ็มไอ้น้องปาร์คน้องกระปุกฮาๆบ้าๆกันทั้งนั้นส่วนสีสุดท้ายสีชมพูผมภูมิใจนำเสนอมากเพราะมีทั้งไอ้ฟ่างไอ้แมทและไอ้คิว เหอๆกูว่านรกแตกแน่ๆไอ้คิวกับไอ้ฟ่างอยู่ด้วยกัน


“ทุกคนๆฟังเฟรนลี่ก่อนนะค้าวันนี้เฟรนลี่กับคุณประธานค่ายมีเกมส์มาให้เล่นค่า” ทันทีที่อีเฟรนพูดจบก็มีเสียงโห่เสียงลุ้นว่าเกมส์อะไร


“มีรางวัลไหมอีงาม” ไอ้คิวกอดกีต้าร์คู่ใจอยู่ในกลุ่มสีชมพูมันตะโกนถามอีเฟรนที่ยืนอยู่ตรงบนเวทีเตี้ยๆที่พวกทีมก่อสร้างมันเนรมิตขึ้นมา แล้วมันยังสร้างอัฒจรรย์สี่อันสำหรับสี่กลุ่มเป็นอัฒจรรย์เล็กๆสูงแค่สามชั้นแน่นอนว่ามันนั่งไม่พอก็นั่งกับพื้นบ้างยืนบ้าง


พอได้ยินเสียงไอ้คิว ไอ้เต้ยที่ซดบัวลอยไข่เค็ม(อีกรีนมันเห็นเกลือเป็นน้ำตาลจากของหวานเลยแทบกลายเป็นกับข้าว)มันเงยหน้าขึ้นมองแฟนแล้วทำปากขมุบขมิบใส่ไอ้คิว ที่ผมเห็นการกระทำของไอ้เต้ยเพราะอัฒจรรย์สีเขียวกับสีส้มอยู่ใกล้กันแต่ไอ้คิวมันคงไม่เห็นหรอกเพราะมัวแต่หัวเราะล้ออีเฟรนอยู่


ต่างจากไอ้แทนที่มันก้มกระซิบอะไรซักอย่างกับไอ้เบียร์แล้วก็ยิ้มๆชี้ๆมาทางสีชมพูที่มีไอ้ฟ่างนั่งยักคิ้วอยู่ ไอ้แทนมันเสพติดไอ้ฟ่างจริงๆนะเนี่ยและจากตรงนี้ผมก็เห็นภูมิทั้งจามทั้งไอไม่หยุด เอาละสิคืนนี้คงมีคนเป็นไข้อีกแน่ๆ

   
“น้ำหน้าอย่างผู้ชายคนนี้ก็คงมีแต่เรื่องแบบนี้สินะคะ รางวัลน่ะมีแน่นอนว่าแต่ว่าของรางวัลคืออะไรนะคะคุณประธาน” อีเฟรนหันไปถามไอ้ปันที่ยืนเก๊กอยู่ข้างๆ


“รถโตโยต้าแจ๊สป้ายแดง”


กร้ากกกกกกกกกกกกกกกก


“พ่อมึงสิ” ฮ่าๆโตโยต้าแจ๊ส


“ที่ไหนขายวะโตโยต้าแจ๊ส ฮ่าๆ งั้นตอนนี้กูก็คงขับฮอนด้ามาชแล้วล่ะไอ้ปันนนนนน” พี่โจ๊กตะโกนแซวไอ้ปันมันเลยขำกับมุขแป้กๆของตัวเอง


“เอาละคะๆอย่ามัวทำตัวปัญญาอ่อนให้ชาวค่ายต้องรู้สึกสมเพชเวทนามากไปกว่านี้เลยนะคะเกมส์นี้ที่เราจะเล่นมีชื่อว่าThe Killer”



โหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห รู้สึกได้ใช่ไหมครับว่าทุกคนตอบรับอีเฟรนดีมากๆ ฮ่าๆ


“เจ๊เฟรนทำไมไม่เล่นจับกระสือกระหังอ่ะ”


“เบื่อแล้วย๊ะหล่อนจะจับกระสือทุกครั้งที่ออกค่ายหรอห๊ะ”  เออก็จริงของอีเฟรนมัน


“แล้วมันเล่นยังไงอ่ะครับพี่เฟรน”   


“เล่นไม่ยากค่าน้องฟลุคขาเดี๋ยวพี่เฟรนจะอธิบายให้ฟังคร่าวๆ” ดูความจริงใจของมันทีผู้หญิงถามละจิกเอาๆพอผู้ชายถามตอบซะเสียงหวาน “The killerเนี่ยนะคะบางคนอาจจะเคยเล่นแล้ว กติกาก็มีอยู่ว่าเราจะให้ทุกคนจับฉลากแล้วในนั้นก็จะเขียนชื่อชาวค่ายไว้และมีคำสั่งให้ทำ



พวกหล่อนแค่ทำยังไงก็ได้ให้คนคนนั้นทำตามคำสั่งในกระดาษ เช่น เฟรนจับได้ไอ้คุณปันแล้วในนั้นเขียนว่า “ถ้าปันพูดคำว่าลวกเพี่ยปันตาย” แล้วทีนี้เฟรนก็ไปแกล้งไปล้อจนไอ้ปันมันหลุดพูดคำนี้ออกมาก็ถือว่าเฟรนฆ่าอีปันสำเร็จแล้วปันก็ต้องเอาฉลากที่ปันจับได้มาให้เฟรนจากนั้นเฟรนก็ไปฆ่าคนต่อๆไป เก็ทไหมคะ”


“อ๋ออออออออออออออออออ”



“แล้วถ้าพี่ปันก็ฆ่าคนอื่นมาแล้วล่ะคะคุณเจ้


“ขอบคุณสำหรับคำถามค่ะ ฉลากที่อิปันมีทั้งหมดก็จะตกเป็นของเจ้ไงจ๊ะ คนที่มีฉลากเยอะสุดและอยู่เป็นคนสุดท้ายนั่นแหละคือผู้ชนะ” เกมส์นี้ถ้าไม่สนิทกันเล่นไม่ได้นะเนี่ยเพราะพวกเราต้องรู้จุดอ่อนของคนๆนั้นเพราะงั้นตอนนี้คงไม่มีปัญหาเพราะว่าอยู่ด้วยกันมาหลายวันแล้ว

ข้อดีอีกอย่างของเกมส์นี้ผมว่ามันเป็นอุบายนะเผื่อว่าบางทีเราอาจจะยังไม่สนิทกับบางคนแต่ถ้าเกิดจับได้ชื่อคนนั้นก็เหมือนทำให้เราต้องเข้าไปพูดคุยกับเขาด้วย เออดีๆๆ



“แบบนี้ก็จะมีพวกที่รอฆ่าใช่ไหมคะเจ๊เฟรนลี่แบบว่ารอให้คนอื่นฆ่ากันเยอะๆก่อนแล้วก็รอสังหารทีเดียว”


“ก็ถ้าฉลาดและคิดว่าจะรอดก็ทำไปเถอะค่ะ อ่อ เกมส์นี้ช่วยกันได้นะให้เพื่อนช่วยเราได้และมีเวลาสำหรับเกมส์นี้จนถึงวันปิดค่ายเราจะหานักฆ่าที่ชนะบนรถไฟตอนขากลับ โอเคนะคะเอาละๆถ้าเข้าใจกติกาแล้วก็จับฉลากเลยคร่า”


และแล้วเราก็ได้จับฉลากกันครับของผมไม่ค่อยยากเท่าไร “ถ้าพี่แป๋วกรี๊ด….ตายยยย” หึหึแค่ทำให้พี่แป๋วกรี๊ดสินะปกติพี่แกก็กรี๊ดเป็นเรื่องปกติขิงชีวิตอยู่แล้ว


“มึงได้ไรวะเชน” ผมโผล่หัวไปส่องดูกระดาษเล็กๆในมือไอ้เชน


“หึหึ คนในกลุ่มนี่แหละ” มันยิ้มให้ผมก่อนจะก้มมากระซิบผมถึงกับหลุดหัวเราะเสียงดังจนอีน้องอ้นที่นั่งส่องกระจกอยู่ข้างล่างหันมามองหน้า


กูขอสาบานด้วยเกียรติของนักศึกษาวิชาทหารสามปีว่ากูจะช่วยมึงฆ่าไอ้คนนั้นอย่างเต็มที่เลยเชนและหลังจากได้เริ่มเล่นเกมส์นักฆ่าพวกเราก็เกิดอาการหวาดระแวงกันเป็นหย่อมๆครับใครมาใกล้นี่แม่งกลัวไปหมดไม่กล้าจะคุยเลย ฮ่าๆ ยิ่งถ้ามาเป็นกลุ่มกูยิ่งกลัวและผมพอจะรู้แล้วว่าใครจะมาฆ่าผม


“พีมมมมมมมว๊ายยยจะไปแปรงฟันหรอเคที่ไปด้วยๆ” ตั้งแต่เลิกประชุมอีเคที่ก็เข้ามาชวนผมคุยตลอดขนาดที่ว่ามันไม่สนใจไอ้เชนบุคคลที่มันเคยคลั่งไคล้เลยด้วยซ้ำ


“มึงก็ไปกับแก๊งค์นางงามมึงสิ”


“แหม เล่นตัวนะมึงกูไม่ไปก็ได้ ชริส์” ผมกับไอ้เชนมองหน้ากันงงๆที่อีเคที่มันสะบัดบ็อบแหว่งๆของมันใส่พวกผม


“กูว่าไม่ใช่เคที่หรอกแต่คงมีใครใช้มันมาหลอกให้มึงตายใจ” บ๊ะๆเพื่อนกูแม่งหลักแหลมลึกซึ้ง อืมมมที่ไอ้เชนพูดก็น่าคิดแฮะ


“ขงเบ้งมาเองเลยเว้ยฉลาดมากครับคุณชนาธิป” ผมบอกไอ้เชนก่อนจะเดินไปหาภูมิที่เดินสะลึมสะลือเหมือนจะหลับออกมาหลังจากประชุมสีของมันโดยมีไอ้แทนที่กอดคอไอ้เบียร์เดินตามมาติดๆ


“ภูมิหน้ามึงซีดๆนะเป็นไข้อีกแล้วใช่ไหม” ผมถามและแตะหน้าผากภูมิแต่มันส่ายหน้าบอกว่าไม่เป็นไรแต่เสียงไปแล้วขึ้นจมูกแล้วเรียบร้อยสามวันดีสี่วันไข้จริงๆไอ้หล่อเอ๊ย


“แค่เจ็บคอน่ะไม่เป็นไรแล้วข้าวฟ่างละ” ไอ้ภูมิเสียงขึ้นจมูกสงสัยหวัดแดกเพราะมันแพ้อากาศอากาศบนดอยก็นะตอนกลางวันร้อนเหมือนอยู่แบกแดด ตกดึกหนาวเหมือนแอนตากติก้า ผิวคุณหนูอย่างไอ้ภูมิก็ต้านไม่ไหวไปตามระเบียบ


“เออ เมียกูล่ะ” ไอ้แทนยืดคอมองหาไอ้ฟ่างเลยถูกไอ้เบียร์ผลักหัวด้วยความหมั่นไส้มึงจะขาดกันไม่ได้เลยใช่ไหม พวกผมยืนรอสมาชิกในก๊วนจนครบก็ได้เวลาไปนอนทุกคนสภาพง่วงสุดๆแถมอากาศตอนนี้หนาวไปไหมมมเย็นไปถึงกระดูกภูมิมันมายืนซ้อนข้างหลังผมแล้วเอามือซุกกระเป๋าเสื้อกันหนาวผมด้วย เอ่อจริงๆก็อายอ่ะนะแต่ภูมิมันหนาวก็……ปล่อยๆมันละกัน แฮ่


แต่ที่บอกว่าเรามีสภาพเหน็ดเหนื่อยผมไม่นับรวมไอ้ปันกับไอ้มิคนะครับเพราะมันสองตัวยังลัลลากอดคอกันพูดภาษาต่างดาวแล้วขำคิกๆกันสองคนและไอ้เด็กไฮเปอร์ที่วิ่งวนหน้าวนหลังจนผมเริ่มมึนหัวคือมึงพลังงานเยอะไปไหมเต้ย เหนื่อยบ้างก็ได้นะ เพลียหน่อยก็ดีเมื่อไรมันจะถ่านหมดวะ


“เฮียยยยยยๆๆๆๆรู้ไหมว่าพวกเฮียน่ะโชคดีแค่ไหนที่ได้รู้จักกับเต้ยเมื่อกี้มีคนชมเต้ยว่าหล่อด้วย”


“ใครวะ ใครพูดเดี๋ยวกูไปแจ้งตำรวจจับมันให้เพราะมันใส่ร้ายมึง”


“พี่คิว!!!!!!!!”   


“ฮ่าๆ” ไอ้คิวคว้าคอไอ้เต้ยมากอดแล้วเดินนำหน้าเข้าที่นอนของพวกเรา


“ไอ้แทนมึงกัดกูทำส้นตีนไรห๊ะเป็นหมาหรอแม่ง” ผม ภูมิ ไอ้เบียร์ ไอ้เชนพร้อมใจกันหันหลังไปมองอีกคู่ที่เหมือนจะเล่นอะไรกันอยู่



“หมั่นเขี้ยวหนาวๆๆๆโว้ยยยยไปนอนกอดแฟนดีกว่าป่ะที่รัก” ไอ้แทนมันยิ้มให้แฟนและยักคิ้วให้พวกผมก่อนจะลากไอ้ฟ่างตามไอ้คิวไปอีกคู่


“ผมว่าพี่แทนกับพี่ฟ่างชักจะออกแนวซาดิสแล้วนะพี่” ไอ้แมททำท่าขนลุกประกอบคำพูด


“มึงพึ่งรู้เหรอแมทอีหน่อยมันคงซื้อแส้ซื้อกุญแจมือพกติดตัวมั้งกูว่า” ไอ้เบียร์ตอบยิ้มๆ


“หึมึงรู้จักของพวกนี้ด้วยเหรอเบียร์” แม้จะเสียงแหบและไอจนตัวโยนภูมิก็ยังจะกวนตีนเพื่อนมัน


“ก็ดูมาจากคลิปที่มึงแชร์มาให้ไงเพื่อนรัก หึหึ ได้ใช้กับไอ้พีมรึยังวะ”


“เชี่ย” ไอ้เบียร์หัวเราะอย่างมีความสุขผมเงยหน้ามองไอ้ภูมิแบบไม่เต็มตาเท่าไรคือมันจะเอาอะไรมาใช้กับผมเหรอครับ กูไม่รู้กูอินโนเซ้น กร้ากกก “อย่าไปเชื่อมันนะเตี้ย”


“ก็ยังไม่ได้ว่าอะไร รีบเข้าไปนอนกันดีกว่าเดี๋ยวโดนหมอกจะยิ่งแย่” ฮ่าๆหน้าไอ้ภูมิแม่งโคตรจริงจังจากที่ผมไม่คิดอะไรก็ชักจะสงสัยเพราะสีหน้าไอ้แห้งนี่แหละ ผมเลยจูงมือมันเข้ามานอน



และลำดับการนอนของพวกเราก็เป็นดังนี้ครับผมนอนติดผนังถัดมาก็ภูมิ ไอ้เบียร์  ไอ้มิค ไอ้ปัน ไอ้เต้ย ไอ้คิว ไอ้แมท ไอ้แทน ไอ้ฟ่าง ไอ้เชน ผมห่มผ้าให้ภูมิก่อนจะหาถุงเท้ามาให้มันใส่เท้าจะได้อุ่นๆและไม่ทันไรภูมิก็หลับ มันคงเพลียแล้วไหนจะไม่สบายอีก แต่ว่าพวกผมที่เหลือนี่สิระหว่างที่ทุกคนเริ่มควานหาผ้าห่มมาห้อหุ้มร่างกายเพราะอากาศแม่งหนาวสัดก็ได้ยินเสียงไอ้ปันถามไอ้เชนแม่งมันถ่อไปหาไอ้เชนได้ไงวะ


“มึงทำไรวะเชน”


“ถนอมหนังหน้า” ไอ้เชนมันอารมณ์ประมาณพี่โดม ปกรณ์อ่ะครับ อืมจะว่าไปบางมุมมันก็แอบคล้ายนะและที่ยิ่งเหมือนมากไปกว่านั้นคือมันเป็นผู้ชายที่ชอบดูแลตัวเองมากกกกหนังหน้ามันคงบอบบางกว่าผู้หญิงอีกมั้ง แม่งขึ้นมาอยู่ที่ห่างไกลความสิวิไลขนาดนี้มันยังพกเครื่องปรนนิบัติผิวมาเป็นกุรุด


“กูทำด้วยๆแม่งหลอดนี้ใช้ไงวะ” เสียงไอ้ปันถาม


“บีบใส่มือเอาลิ้นแตะเคี้ยวสองสามที กลืน”


“ไม่เคี้ยวแต่กลืนเลยได้มั้ยไอ่สัด” ฮ่าๆพอมันก่อกวนไอ้เชนเสร็จมันก็กลับมาที่ตัวเองและที่ผมมองเห็นไม่ใช่ว่าตาดีในที่มืดนะคือกูชินแล้วครับผมเดาว่ามันคงล้มตัวลงนอนแล้วล่ะแต่ทำไมมันไม่ยอมนอนวะผมได้ยินเสียงมันเสียงไอ้มิคไอ้เต้ยยังหัวเราะคิกๆเหมือนพวกมันดูคลิปอะไรซักอย่างในมือถือ



“ไอ้สองตัวนั้นจะนอนรึยังหรือต้องให้ตีนกูกล่อมถึงจะหลับ” เสียงโหดๆของไอ้ฟ่างทำพวกมันเงียบไปซักพักพักเดียวจริงๆมันก็กลับมาอีก เฮ้อ


“เต้ยนอนได้แล้วไอ้ปันมึงอย่าพามันเล่นได้ไหมกูรำคาญ” คราวนี้เป็นเสียงไอ้คิวและเสียงก็ค่อยๆเงียบลงไป

“เชี่ยยยยยยแม่งหนาวว่ะไข่กูเย็นจนจะเป็นลูกเห็บแล้วสัดกูหิวว่ะใครมีไรแดกมั้งวะ” สาดดดดดเชี่ยมิคกูจะได้นอนไหมคืนนี้


“เต้ยมีๆๆ เต้ยมีหนมปัง”ไอ้เต้ยก็เปิดไฟฉายค้นอยู่ซักพักก่อนจะหอบขนมปังไส้ต่างๆมากองตรงหน้าไอ้มิค

“ไหนเอามาดูซิหมดอายุรึยัง อ๊ากกกหมดพรุ่งนี้ตอนนี้กี่ทุ่มแล้ววะ”


“ห้าทุ่มห้าสิบอ่ะเฮีย”


“มึงรีบแดกเลยไอ้สัดอีกสิบนาทีมันจะหมดอายุ” ไอ้ปันบอกก่อนที่พวกมันสามตัวจะช่วยกันกินขนมปังที่ยังไม่หมดอายุ เหอๆๆๆ กว่าพวกมันจะยอมหลับยอมนอนแม่งกูได้นอนกันแล้วโว้ยยยยยหนาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


“ไอ้แทนไอ้ฟ่างจะเอากันไปเอาข้างนอก” สัดเชนตะโกนดังมากพวกผมฮาครืนนนกันยกกลุ่ม ฮ่าๆ เพื่อนคร้าบบบบบให้กูได้นอนเห๊อและในที่สุดพวกตัวป่วนมันก็หลับซะทีได้ยินเสียงกรนของไอ้มิคชัดแจ๋วมากและอยู่ๆภูมิก็ขยับตัวผมเลยลืมตาก็เห็นว่ามันลืมตาอยู่เหมือนกัน


“หนาวเหรอภูมิปวดหัวไหม”


“ก็นิดหน่อย” นิดหน่อยของมันคือปางตายของคนอื่นได้นะครับเรื่องปากแข็งนี่ขอให้บอกคุณภูมินทร์ก็หนึ่งในใต้หล้าเหมือนกัน
“เดี๋ยวกูไปเอาผ้าห่มกับยาแก้ปวดที่พวกพี่กานต์ให้นะ” มันส่ายหัวไม่ให้ผมไปแถมยังขดตัวมุดเข้าซุกอกผมงุดๆเหมือนมีลูกชายเลยกู


“ภูมิเป็นไรวะพีม”


“คงเป็นไข้ว่ะ มึงยังไม่หลับหรอเบียร์” ผมเอี้ยวคอหันมามองไอ้คุณชายที่นอนติดภูมิอีกข้างฝ่าความมืด


“กูนอนไม่หลับว่ะแม่งหนาวแล้วภูมิไม่สบายหรอ” จะว่าไปคืนนี้มันหนาวกว่าทุกคืนเลยนะครับ

“อืมมึงเอาผ้าห่มเพิ่มมั้ยเดี๋ยวกูเอามาให้เพราะกูจะออกไปเอายามาให้ภูมิด้วย”


“ไม่เป็นไรเดี๋ยวกูไปเอามาให้เอง ยานี่ขอกับพวกพี่หมอกานต์ใช่มั้ย”


“เอองั้นก็ฝากด้วยนะมึง”   


“อืมเดี๋ยวกูมาเฮ้ยเชน ไอ้เชนไปเอาผ้าห่มเป็นเพื่อนกูหน่อย” แล้วไอ้เบียร์กับไอ้เชนก็ออกไปเอายากับผ้าห่มภูมิมันหนาวจนตัวสั่นนิดๆผมก็ทำอะไรไม่ถูกได้แต่กอดมันไว้ ซักพักไอ้เบียร์ก็กลับมาผมเลยปลุกภูมิลุกมากินยา


“ภูมิ ภูมิครับลุกมากินยาก่อน” มันลุกมากินยาแบบไม่ค่อยมีสติเท่าไรนักผมต้องคอยจับแก้วน้ำให้


“พามันไปผิงไฟกับพวกพี่โต้งมั้ยเมื่อกี้กูเห็นพวกพี่ๆเขากินเหล้าผิงไฟอยู่ข้างนอก” ไอ้เบียร์เสนอ


“กูว่าไม่ดีกว่าว่ะเดี๋ยวโดนน้ำค้างมันจะยิ่งแย่ มันหลับไปแล้วล่ะมึงก็นอนเถอะ”


“อืมถ้ามีอะไรก็ปลุกกูแล้วกันฝันดีมึง”


“เหมือนกันฝันดี” ผมบอกฝันดีไอ้เบียร์ก่อนจะเอามาห่มที่ได้มาใหม่คลุมผมกับภูมิไว้ ผมตะแคงกอดภูมิไว้แต่ไม่กล้าหลับเพราะกลัวมันจะเป็นอะไรแต่ซักพักภูมิก็ขยับตัวให้สูงกว่าผมผมเงยหน้าสบตากับตาคมๆคู่นั้นอย่างแปลกใจ


“หืม???” สงสัยได้ไม่นานภูมิ มันก็สอดแขนข้างนึงมารองใต้หัวผมและใช้แขนอีกข้างโอบผมเข้าไปกอดแนบกับอก อากาศหนาวๆได้อยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆมันก็รู้สึกดีนะครับ ภูมิหลับตาลงแล้ว ผมก็ต้องนอนเหมือนกัน



“ฝันดีครับ” ภูมิบอกฝันดีพร้อมกับฝากสัมผัสอุ่นๆไว้ที่หน้าผากของผม


“อื้ม….. ฝันดีนะ”   



.............................




ชีวิตชาวค่ายก็ยังเป็นไปอย่างสนุกสนานและมีคนค่อยๆตายไปทีละคนจากเกมส์ The killer เมื่อเช้าไอ้มิคก็โดนอีเฟรนฆ่าเพราะถ้าไอ้มิคกำนมอีเฟรนไอ้มิคตายและมันก็หลับสบายไปแล้วครับ ฮ่าๆๆ


“ไอ้พีมมึงว่างมั้ยไปช่วยพวกไอ้เมย์เก็บผักกับชาวบ้านที่เชิงเขาหน่อยสิ มันมีแต่ผู้หญิงไปดูแลมันหน่อย” พี่โต้งเดินมาบอกผมถึงครัว “เอาไอ้ปาร์คไปด้วยก็ได้”


“ครับพี่โต้ง” ผมวางมีดที่กำลังผ่าฟืนลงก่อนจะไปตามหาไอ้ปาร์คไปเป็นเพื่อนแต่ที่ไหนได้มันนำหน้าไปกับพวกพี่เมย์แล้ว


“เตี้ย ไปไหนวะ” เสียงตะโกนดังมาจากหลังคาห้องสมุดใหม่ที่ผมเดินผ่านผมหันกลับไปมองก็เห็นว่าเป็นภูมิที่ส่งเสียงเรียก มันยืนหันหลังให้แสงแต่ผมหันหน้าเข้าหาพระอาทิตย์เลยต้องเอามือป้องหน้าหยีตาคุยกับมัน


“ไปเก็บผักที่เชิงเขา” มันพยักหน้าพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานๆมาให้ผมเลยยิ้มกลับเช่นกันแต่ดันมีเสียงพวกเปรตร้องขอส่วนบุญไอ้แทนกับไอ้คิวแซวซะก่อ ผมเลยต้องรีบวิ่งตามพวกพี่เมย์ไป แซวกูแล้วได้อะไรว๊า


“เพื่อนพีมนี่หล่อกันทั้งกลุ่มเลยเนอะแถมยังฮาด้วย” เอ่อ เดี๋ยวนะคำว่าเพื่อนพีมแสดงว่าไม่รวมพีมแต่คำว่าทั้งกลุ่มมันหมายถึงทั้งหมดแล้วประโยคนี้เป็นประโยคความรวมรึประโยคความเดียววะแต่สรุปง่ายๆไอ้ที่บอกว่าหล่อพี่เมย์แกไม่รวมผมแน่นอน เหอๆ


“อ่อ พวกมันก็บ้าๆบอๆแบบนี้แหละพี่”


“หล่อขนาดนี้คงมีแฟนกันหมดเลยสิเนี่ยชั้นล่ะอุตส่าห์เล็งคุณเบียร์” พี่บางคนหรือน้องๆที่ไม่สนิทกับไอ้คุณชายก็จะให้เกียรติเรียกมันว่าคุณอ่ะครับก็นะอย่างที่รู้ๆกันว่าไอ้เบียร์มันมีคำนำหน้าชื่อบอกตระกูลซะขนาดนั้น


“อีเมย์มึงหวังสูงมากว่าแต่น้องภูมิมีแฟนรึยังอ่ะพีม ฮ่าๆ” อื้อหือ จุดใต้ตำตอมากๆพี่ฝนเส้นผมบังภูเขาบังยอดดอยได้อีก


“เอ่อผมก็ไม่รู้อ่ะพี่ฝนลองไปถามมันดูสิ” แฟนไอ้ภูมิหรอครับ หึหึ ถ้าพี่หันมาทางนี้แล้วทำมุมซักสี่สิบห้าองศาเส้นทแยงลิปดาเหนือก็จะเห็นเองแหละ คึคึ พวกสาวๆก็แซวก็แหย่ผมเล่น ดีนะที่มีไอ้ปาร์คมาด้วย ไม่งั้นผมคงโดนรุม



และแล้วค่ำคืนก่อนวันที่จะต้องลาจากพวกเราก็มีงานปาร์ตี้บนดอยแม่แจ่มแบบเจ๋งๆเป็นการแสดงของกลุ่มสีต่างๆหลังจากที่เมื่อตอนกลางวันเราได้แข่งขันกีฬากระชับความสัมพันธ์กับน้องๆกันไปอย่างสนุกสนานและได้มีพิธีรับมอบอาคารห้องสมุดใหม่ให้กับทางโรงเรียนไปเป็นที่เรียบร้อยบรรยากาศก็ซาบซึ้งประทับใจอีกตามเคยครับ ตอนนี้พวกเราก็นั่งตามอัฒจรรย์สีใครสีมันดูพิธีกรปากกรรไกรอย่างอีน้องกระปุกกับตัวแม่อย่างอีเฟรน



“โชว์แรกของเราเป็นโชว์ที่สิริรวมอายุของผู้แสดงทั้งหมดรวมกันคงจะได้ประมานพันเศษๆอ่ะค่ะ” พอน้องกระปุกพูดจบก็ได้รับเสียงโห่จากพวกพี่ๆว่าที่บันทิตใช่แล้วครับมันเป็นการแสดงของพวกที่เพิ่งเรียนจบไปหมาดๆ และพอแนะนำเสร็จเสียงเพลงคุ้นหูก็ดังขึ้น อ่อวันนี้พวกเราได้สิทธิ์ใช้ไฟฟ้าครับเครื่องเสียงพร้อม ไมค์พร้อมและแสงก็พร้อมมัง ฮ่าๆ ก็ใช้เท่าที่มี และไม่น่าเชื่อครับว่าอดีตประธานค่ายอาสาอย่างพี่โต้งจะพาเพื่อนๆออกมาเต้นเพลง


“บอกมาคืนนี้ อยากได้กี่ครั้ง” ฮ่าๆๆ ได้เสียงฮาเสียงโห่ไปเต็มๆจากนั้นก็มีการแสดงของน้องๆปีหนึ่งมันทำล้อเลียนพี่ๆในค่าย ฮ่าๆมึงกล้ามากครับน้องและก็มาถึงการแสดงของสีชมพูของพวกไอ้คิวพวกมันเล่นละครเรื่องมโนราห์VSเดอะสตาร์


“พี่ริทคะมโนราห์ไม่ยอมนะคะ มโนราห์ก็อยากเป็นแชมป์เหมือนกัน” อีกรีนรับบทนางมโนราห์หลงยุคพวกสาวๆที่เป็นแฟนคลับเดอะสตาร์ก็กรี๊ดกันลืมตายแหละครับเพราะคนที่มารับบทริทนั้นไอ้คิว กร้ากกก


“พี่ริทว่ามโนราห์ใจเย็นๆดีกว่านะครับมึงลองไปฝึกกับพี่แกงส้มดีไหมครับอีมโนราห์”


“ไม่ค่ะมโนราห์จะไม่ฝึกกับใครทั้งนั้นถ้าไม่ใช่พี่โตโน่ พี่โตโน่ พี่โตน่าขาออกมาหาน้องหน่อยค่า” แล้วไอ้แมทก็เดินออกมาเสียงกรี๊ดโคตรถล่มทลายมันโบกมือให้ทุกคนก่อนจะ


“บอกว่าอย่าขอหมอลำ บอกว่าอย่าขอหมอลำไม่รู้หมอลำเขาลำแบบไหน……….งึกๆงักๆมันเป็นงึกๆงักๆจั่งซี่มันต้องถอนจั่งซี่มันต้องถอนนนนนน” กร้ากกก โอยมึงฮาไปไหมแมทเชี่ยน้องแมทฟีลลิ่งมึงเยี่ยมมากสำเนียงเป๊ะอีกต่างหาก
 

กลุ่มแรกผ่านไปแบบฮาๆมาถึงกลุ่มสีเขียวของพวกผมเราเล่นละครใบ้กันครับอ่อไม่ใช่สิต้องบอกว่าเป็นละครที่ใช้เสียงภาคโดยที่อีเฟรนพากเป็นเสียงพระเอกน้องม่านที่เป็นทอมพากษ์เป็นนางเอก พระเอกแม่งเสียงโคตรแรดส่วนนางเอกก็เสียงห้าวทุ่มมากสงสารก็แต่ไอ้เชนที่รับบทพระเอกและพี่ดาวเป็นนางเอกส่วนผมรับบทเป็นต้นไม้


“ต้นไม้น่ารักจังเลยคร้าบบบบบ” ไอ้พวกเชี่ยเพื่อนผมมันส่งเสียงแซวผมเลยเหลือบมองนิดๆเห็นภูมิมันยืนกอดอกยิ้มมองผมที่ถูกเพื่อนมันแซว สาดดดดด ละครพากษ์ครั้งนี้รันทดยิ่งกว่าละครนอกละครในละครดึกดำบรรพ์เพราะแม่งมีคนพากษ์แค่สองคนแล้วมันพากษ์เกือบสิบตัว บางทีบทนางเอกไอ้เชนดันอ้าปากพูดซะงั้น กร้ากกกก อีเฟรนนอกบทก็มีหรือมันคิดสดๆก็ไม่รู้บางทีมันก็แกล้งบอกว่า



“น้องหญิงจ๊ะ เดี๋ยวพี่จะเซิ้งให้น้องดูน้องหญิงจะได้รู้ว่าพี่รักและเทิดทูนบูชามากแค่ไหน” แล้วไอ้เชนจะทำไรได้ล่ะครับนอกจากจะลุกขึ้นเซิ้ง ฮ่าๆ


“โอ้ววววว คุณเจ้คะเป็นไงบ้างคะกับสุดยอดการแสดงสองชุดที่เพิ่งผ่านพ้นไป”


“ดิฉันไม่มีคอมเม้นและความเห็นใดๆนอกจากอีคนพากษ์เมื่อกี้สวยมากค่ะ ฮา” อิพิธีกรประจำงานมันอวยตัวเองครับทั้งที่ยังหอบแฮ่กๆเพราะเหนื่อยกับบทบาทเมื่อครู่



“โห่หหหหหหหหหหหหหห”



“โห่อะไรมิทราบคะรับความจริงไม่ได้หรอพวกเทอ เอาล่ะค่ะการแสดงชุดต่อไปเป็นการแสดงที่ชะนีเก้งกวางทั้งหลายตั้งตารอชมและรอคอยเพื่อไม่ให้พวกหล่อนทรมานอยากมากไปกว่านี้ขอเชิญพบกับมนต์รักลูกทุ่งบนดอยยยยยยยยยยยค่า”


ซาวด์เพลงดังยังไม่ดังเท่าเสียงกรี๊ดของพวกสาวแท้สาวเทียมที่วิ่งไปกองกันอยู่หน้าเวทีเมื่อไอ้ภูมิเดินจูงมือเจ๊แป๋วออกมาพร้อมกับร้องเพลง


“หอมเอยหอมดอกกระถินรวยระรินเคล้ากลิ่นกองฟาง” กร้ากกกกกกกกกกกกก อ๊อที่แอบไปซุ่มซ้อมตั้งแต่ตอนบ่ายๆเพราะเหตุนี้นี่เองผมกับไอ้เชนหัวเราะหงายหลังเลยครับกับลุคลูกทุ่งของไอ้หล่อ เสื้อลายสก๊อตกางเกงยีนขาดๆแถมมีผ้าขาวม้าผูกเอว ฮ่าๆ


แต่ก็ต้องยอมรับว่าเชี่ยนี่ใส่อะไรแม่งก็หล่อลองให้ผมไปใส่ดูสิควายวิ่งมาหาเลยอ่ะมันคิดว่าเจ้าของจะพาไปไถนา แล้วพี่แป๋วก็ฮามากครับแกแกล้งทำท่าเขินๆอายๆเอียงหน้าแล้วทำท่าปาดน้ำลายเหมือนว่าไอ้ภูมิเสร็จแน่ พวกเพื่อนพี่แป๋วกรี๊ดด่าอิจฉากันใหญ่



เพราะไอ้ภูมิมันน่ะ มันป็อบปูล่ามากครับสาวๆในค่ายกรี๊ดมันมากเวลามีกิจกรรมนันทนาการตอนเย็นๆภูมิจะถูกทำโทษตลอดทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเพราะสาวๆชาวค่ายรีเควสจะให้พี่ภูมิน้องภูมิโดน ฮ่าๆ ผมก็เบิกบานเริงร่าสิครับสมน้ำหน้าแม่งอยากหล่อดีนักโดนซะบ้างเถอะมึง


มันก็เล่นบทเข้าพระเข้านางแล้วประมานว่าพี่ทองกวาวแป๋วต้องเข้ากรุงเทพแล้วก็มาสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าให้ไอ้ภูมิรอพวกมันร้องเป็นเพลงนะครับเพราะมาในตีมละครเพลง แล้วก็มีอีสวีทเดินถือป้ายผ่านหน้าว่าสองเดือนผ่านไปเหมือนที่เขาถือตามเวทีมวยว่ายกสองยกสามอ่ะครับ


ไอ้ภูมิก็มานั่งร้องรำพึงรำพันว่าเมื่อรทองกวาวจะกลับมาแล้วซักพักพี่แป๋วก็เดินออกมาพร้อมควงแขนพี่ป้างพี่ป้างแกเป็นหนุ่มถาปัดครับลูกพี่พวกไอ้ฟ่างแถมยังเป็นเพื่อนพี่ห้อยหน้าตาแม่งก็โจรไม่ต่างกันด้วย กร้ากกแต่แต่งซะหล่อแบดบอยแบบหนุ่มกรุงเทพ


พี่แป๋วก็สะบัดหน้าใส่ไอ้ภูมิ ไอ้พี่เคล้ามันก็ถามว่าทำไมทำแบบนี้พี่ผิดอะไรแต่หน้าไอ้ภูมิเหมือนกลั้นยิ้ม ใครเห็นหน้าพี่ป้างแล้วไม่ขำมึงก็บ้าแล้วว่ะ แล้วพี่ป้างก็เดินเข้าไปใกล้ๆไอ้ภูมิแล้วก็ทำนิ้วโป้งกลับหัวใส่หน้า กร้ากกกกกกกกกกกกกกกก พวกพี่ๆผู้หญิงข้างหน้ากรี๊ดกันใหญ่ด่าพี่ป้างซะยับว่าช่างกล้าแล้วเขาก็ทิ้งไอ้ภูมิไปซักพัก


ไอ้แทนกับไอ้เบียร์ก็เดินออกมา เสียงกรี๊ดถล่มทลายแต่รู้สึกว่าเสียงโห่จะมาจากสีชมพูนะเสียงไอ้ฟ่างแหละคนนึงกูจำได้ ไอ้แทนกับไอ้เบียร์ก็แต่งตัวสไตล์เดียวกับภูมิเลยเสื้อลายสก็อตกางเกงยีนเก่าๆและผ้าขาวม้าคาดเอว มันกอดปลอบกันไปกอดกันมาพี่แป๋วก็ออกมาอีกครั้งร้องไห้บอกว่าโดนทิ้งอยากมาคืนดีกับภูมิ


ไอ้แทนกับไอ้เบียร์เพื่อนพระเอกเลยลุกขึ้นร้องเพลงและเต้นเพลงนี้ครับ “มาทำไมให้อายบ้านนาเล่านวลน้องไม่ต้องกลับคืนมา วันจะไปไม่ลาหนีหน้าไปกับหนุ่มเมืองหลวง” ไอ้แทนนี่ไม่เท่าไรแต่คุณชายเบียร์มึงฉีกลุคมาก



และภูมิก็มองหน้าแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็คือ……………..



“ว๊ายมาทำไมชะนี” เย้สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสเข้สรุปเชี่ยภูมิเป็นตุ๊ดพวกไอ้เบียร์ไอ้แทนก็เป็นมันทำท่าขี้นิ้วแบบพวกอีกรีนทำเอาเสียงกรี๊ดเสียงฮาดังจนต้องปิดหู แล้วพวกมันก็ร้องเพลงเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆชาวค่ายไปอีกรอบกับเพลงที่ทำให้พิธีกรสองคนขึ้นไปเต้นบนเวทีด้วยอย่างเมามันส์

 

โอ๊ย..น้อ..นอ...คนบ้านเฮา
คนบ้านเดียวกัน
แค่มองตากันก็เข้าใจอยู่
รู้ว่าเหนื่อยแค่ไหน
ว่าหนักแค่ไหนบนหนทางสู้
ยังมีคำปลอบโยน
ยังมีคำปลอบใจ
มีคำว่าซำบายดีบ่ให้กันเสมอ
เด้อคนบ้านเฮา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-05-2012 08:16:37 โดย ทะเลหัวใจ »

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป


“พีมไอ้ภูมิมันไปซ้อมตอนไหนวะ ฮ่าๆแม่งซุ่มเว้ย” ไอ้เชนก้มมากระซิบผมผมก็ได้แต่ขำไม่รู้เหมือนกันว่ะเชนสำเนียงอาจจะไม่เทพเท่าไอ้แมทลีลาอาจไม่ดีเท่าไอ้คิวแต่ความหล่อและน้ำเสียงมันสามคนเอาอยู่ครับ


“โอยยยยยยยเหนื่อยแฮ่ดมากค่าทั้งหล่อทั้งร้องเพลงเก่งว่าแต่ชะนีแก่ๆข้างหน้าเป็นไงบ้างคะมีใครตายรึยังเอาวิญญาณกลับมาด้วยนะย๊ะ แหม๊นั่งเพ้อมองกันตาฉ่ำเลยนะคะพวกหล่อนคงมโนสินะว่าไอ้แทนไอ้ภูมิมันมองมันมองก็จริงแต่โฟกัสสายตามันน่ะนู่นนเสาธงนู่น


“ทำไมคะอีเฟรน”


“พวกมันตาเหล่ย๊ะ รมณ์เสีย”กร้ากกกก” อีเฟรนมันฮาได้ทุกวินาทีจริงๆนะครับ


“ฮ่าๆค่ะและแล้วเราก็มาถึงโชว์สุดท้ายแล้วนะคะโชว์ต่อไปเป็นโชว์จากสีส้มค่ะ คือดิฉันอยากจะบอกว่าโชว์นี้เราภูมิใจเป็นอย่างมากอลังมากๆ” น้องกระปุกมันอวยสีตัวเองมันก็คงอลังจริงๆแหละก็ตัวเป้งๆมากองอยู่สีนี้กันหมดนี่หว่า


“เพราะว่าเป็นสีของหล่อนใช่ไหมจ๊ะถึงได้อวยขนาดนี้”


“มีส่วนค่ะคุณเจ้แต่ระดับสีส้มเราจะมาโชว์ลิเกไก่กามนต์รักลูกทุ่งเบๆไม่ได้แน่นอน อ๊ อะ อ่า เป็นโชว์ที่เราอิมพอร์ตศิลปินระดับเอเชียมาเลยนะค๊า”


“ขึ้นมาที่ดอยนี่เหรอคะคุณน้อง”   


“ถูกค่ะคุณพี่”


“เออ เก๋เนาะ”   



“และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอเสียงกรี๊ดดังๆให้กับ……………. Super Juniorrrrrrrrrrrrr”



กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด


แค่คำว่าsuper juniorก็ทำเอาดอยเกือบแตกเสียงกรี๊ดลั่นจนผมต้องเอามืออุดหู อะไรวะแค่พูดถึงก็กรี๊ดกันขนาดนี้เลยเหรอ พร้อมกับไฟที่ดับลงก่อนจะมีดนตรีจังหวะหนักๆดังขึ้น


“เฮ้ฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ”


บัม บัม บัม บัม บัม


“SJ like this” มีเสียงคนพูดประโยคนี้ก่อนที่ไฟจะเริ่มส่องแสงสลัวส่องให้ภาพชายหนุ่มราวเจ็ดแปดคนยืนเก๊กเป็นกระจุก มีเสียงกรี๊ดดังไม่หยุดและเสียงโห่เสียงฮาเมื่อเห็นชัดว่ามีใครบ้าง



ไอ้ปัน ไอ้มิค ไอ้เอ็ม พี่โจ๊ก น้องเบิร์ด เชี่ยน้องปาร์ค ไอ้พี่เบิ้ม กร้ากกกกกกกกกก ใส่สูทใส่แว่นตาทุกคนเลยกูสงสารศิลปินตัวจริงๆที่มีวงแบบนี้เต้นเลียนแบบ หนังหน้าแต่ละคนใส่แว่นแล้วเหมือนจะไปนั่งสีซอบนสะพานลอยมากกว่ามาเต้นนะ


“Super Junior We Are Super Super Man” แล้วซาวด์เพลงก็เปลี่ยนไปกลายมาเป็นเพลงที่ผมคุ้นหูบ้าง


Sorry Sorry Sorry Sorry
แนกา แนกา แนกา มอนชอ
เนเก เนเก เนเก ปาจยอ
ปาจยอ ปาจยอ บอรยอ เบบี้
Sorry Sorry Sorry Sorry
(Shawty Shawty Shawty Shawty)


กร้ากกกกกกกกกกกมันทำท่าเอาหลังมือถูกันแล้วแหวกออกเหมือนมันกำลังเปิดพงหญ้าหากบหาเขียดแดกประทังชีวิตเลยว่ะ กูเคยดูนะรู้สึกว่าเขาไม่ได้เต้นแบบนี้ไม่ใช่เหรอวะแล้วพวกมันก็หยุดมีเพลงใหม่ขึ้นมาอีกที่มันเต้นท่าสะบัดๆมืออ่ะครับ


Because You Naughty, Naughty
Hey!  Mr. Simple    
Because You Naughty, Naughty


“เฮ้ยยยประตูหนีบมือหรอวะสะบัดอยู่ได้” พวกสีกากเอ้ยสีชมพูมันตะโกนแซวเรียกเสียงฮาจะใครล่ะก็ไอ้คิวนั่นแหละ


“กูว่าโดนน้ำร้อนลวกมากกว่าไปทายาหม่องไป๊ไม่ต้องมาเต้น” และนี่ก็เสียงจากไอ้ฟ่างพวกมันเต้นโคตรพร้อมกันมาก(กูประชด) ท่าอะไรไม่รู้รู้แต่ว่าผมฮามาก


สุดท้ายไอ้ปันก็นำทีมจบด้วยท่อนที่ว่า “The last man standing!!!!!” แล้วมันก็ขว้างแว่นตาทิ้งก่อนจะจัดแถวยืนนิ่งหล่อๆ(เหรอ)


กร้ากกกกกกกกกกกกก แม่งอย่างฮาพวกสาวๆน้องสี่ห้าคนที่นั่งข้างหลังผมสงสัยเป็นแฟนคลับพวกเกาหลีมั้งกรี๊ดแบบดังมากกกก ฮ่าๆ คือน้องไม่แคร์ว่าหน้าคนโคฟเป็นไงแม่งขอให้เป็นวงที่ชอบก็กรี๊ดไว้ก่อน พี่ว่าน้องควรจะดูหนังหน้าพวกมันแต่ละคนก่อนก็ดีนะครับ

ถึงผมจะไม่ใช่แฟนเกาหลีแต่ผมก็รู้จักนะSuper Junior 2PM ดงบังอะไรนี่แค่ไม่รู้ว่าใครเป็นใครแค่นั้นเองและที่ผมรู้ชัวร์ๆเลยก็คือพวกเขาหล่อกว่าไอ้พวกนี้จนผมไม่กล้าเปรียบเอาเป็นว่าคะแนนความพร้อมเพรียงติดลบ คะแนนหน้าตาลบร้อย คะแนนความกล้าเกินล้าน คะแนนความหน้าด้านให้เต็ม



“ขอเสียงกรี๊ดดังๆให้กับศิลปินของเอเชียอีกครั้งนะค๊าหล่อมากกกกกหล่อมากๆค่า”


โห่หหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห คราวนี้มีแต่เสียงโห่ ฮ่าๆดูพวกมันแม่งยืนเก๊ก กร้ากก เชี่ยมิคมึงใส่แว่นตาดำแล้วแหงนหน้ายิ่งเหมือนว่ามึงตาบอดนะเพื่อน

“เรามาสัมภาษณ์พวกเขาซักหน่อยดีไหมคะ”

“สัมภาษณ์พวกนี้น่ะเหรอคะคุณน้อง เอ่อ กูกลัวมันกัด” ฮ่าๆ ไอ้แทนตะโกนแซวว่ามึงอ่ะจะไปกัดเค้าก่อนอีเฟรน

“ไม่กัดค่ะคุณเจ้เอาล่ะค่ะล่าม ล่ามคะเชิญค่า” ล่ามก็ไม่ใช่ใครไหนอื่นไอ้เต้ยนั่นเองเออคนที่เต้นเป็นอย่างไอ้เต้ยดันให้มาเป็นล่าม ฮ่าฮ่า แต่กูว่าคนที่มาเป็นล่ามน่าจะเอาคนที่พูดจารู้เรื่องกว่านี้นะ ผมกำลังขำพวกไอ้ปันไอ้มิคก็มีคนมาสะกิดพอหันไปมองก็เป็นพี่เคล้าเอ้ยไอ้หล่อที่มายืนดูด้วย


“อันยองฮาเซโย” ไอ้เต้ยก้มหัวทักทายศิลปินเกาหลี ก๊าก

“อันยองฮาเซโย”

“ล่ามๆๆ นี่คือคุณคอยบังตอเป็นล่ามโซ่ของเราค่ะ” สาบานว่านั่นชื่อ คอยบังตอ ฮ่าๆ

“ไม่ใช่ล่ามโซ่ค่าคุณเจ้ ล่ามเฉย”

“อ่อเหรอๆเอ่อคุณล่ามช่วยถามพวกเขาให้หน่อยสิคะว่าสถานการณ์แถวเขาพระวิหารเป็นไงบ้าง” ฮาอีเฟรนมึงแรงว่ะเพื่อน

“ไม่ใช่ๆค่ะคุณเจ้เราต้องถามว่าเวียงจันทร์ร้อนไหมคะบ้าหรอนี่เกาหลีค่า”


“อ่อๆพอดีเห็นหน้าเลยทำให้นึกไปถึงเขตชายแดนที่พิพากษ์กันอยู่ถ้าอย่างไอ้เอ็มเป็นsuper juniorได้ ดิฉันก็เทียบได้กับgirl generation ได้เหมือนกัน” แล้วอีเฟรนมันก็ร้องและเต้น “ we bring the boy out เนกาเชงชาล่ากา” กร้ากกกกก

มันแหกขาแต่ปรากฏว่ามันยืนขึ้นไม่ได้อีน้องกระปุกต้องไปฉุดขึ้นมา โอยยยยกูปวดท้องและไอ้คนข้างๆก็เนียนยกแขนมาโอบผมนะผมเหลือบมองภูมินิดๆก่อนจะหันไปสนใจพวกบนเวทีต่อ


“นั่นมึงเต้นหรือถูกน้ำมนต์วะ” ไอ้คิวตะโกนแซวคู่กัดมัน

“ว่าไม่ได้นะคะนางอาจจะเกิดมาเพื่อฆ่าชะนีเกิร์ลกรุ๊ปฝั่งเกาหลีก็ได้” อีจี้ก็แซวเพื่อนตัวเองอย่ามันส์ปาก

“เพื่อนกูนี่แหละคือสิ่งที่JYPตามหา เกิลเจนก็เกิลเจนเถ้อเจอเกิลปลวกแล้วจะหนาว” ตามมาด้วยอีเคที่ ฮ่าๆ


“หุบปากค่าอีพวกปรสิตคุณล่ามคะช่วยถามพวกเขาหน่อยว่าพูดไทยได้ไหม” เมื่อได้รับคำสั่งจากอีเฟรนแล้วไอ้เต้ยก็หันไปถามไอ้มิคว่า


“วือยองๆไทยอะบิดๆกระปิดกะปอย” กร้ากกกกก ล่ามมึงพูดภาษาอะไรได้ยินเสียงไอ้คิวหัวเราะก๊ากเลย

“ออนขื่อมันบังดงปิ๊ดๆ” เชี่ยมิคก็ตอบไรมาไม่รู้แต่ไอ้เต้ยแปลได้เทพป่ะล่ะน้องกับเพื่อนกู

“คุณชีวิน”

“ชีวอน!!!!!!!”

“ครับคุณชีวอนบอกว่าก็พูดได้นิดหน่อย”


“หรอคะงั้นให้แนะนำตัวทีละคนได้ไหมคะ” แล้วไอ้เต้ยก็แปลพวกมันก็เริ่มแนะนำตัว

“สวัสดีคับผม ชื่อ ทงเฮคึบ” แอ๊บพูดไทยไม่ชัดนะมึงไอ้เอ็ม

“ผมลีดเดอร์อีทึก” พี่เบิ้มเออพี่โคตรถึกเลยว่ะพี่เบิ้ม ฮาาาาา

“ส่าหวัดดีคร๊าบผมชื่อ เอ่อ กูชื่อไรนะปัน”

“ซองมินพี่ซองมิน” พี่เบิร์ดดดดดดดดด พี่ลืมชื่อตัวเองหรอวะ “ครับผมชื่อซองมิน”


“ผมชื่อเยซองคลับ” พี่โจ๊กหน้าพี่แกดูภูมิใจกับบทบาทครั้งนี้มาก

“ผมชื่ออึนฮยอก” ไอ้น้องปาร์ค


“สวัสดีครับผมชื่อคยูฮอน” เชี่ยปันมันพูดจบก็เก็กหน้าที่คิดว่าหล่อพร้อมกับชี้นิ้วชี้กับนิ้วกลางแล้วทำ “ปัง” เป็นท่ายิ่งปืนและเดินถอยหลัง สาดดดด ถ้าไม่มั่นใจว่าหนังหน้าตัวเองดีจริงไม่กล้าทำนะท่านี้แต่ไอ้ปันมันทำและมันก็เดินถอยหลังไปสะดุดสายไฟเกือบหงายหลังอีเฟรนขำจนหลุดเสียงแมน


“ผมชื่อชีวอนคึบ”  ไอ้มิคแม่งตอแหลมึงเนี่ยนะซีวอนโอ้วมายบุดดา


“เฮ้ยเป็นคางทูมกันหรอหรือปวดฟันคุดวะ” ก็ยังเป็นพวกไอ้คิวที่ตะโกนกวนตีนไม่หยุด


“เอ่อไม่ทราบว่าคุณเยซองประสบอุบัติเหตุดั้งไปฟาดขอบหน้าต่างมารึเปล่าคะดูมันยุบๆไปนะคะ” อีเฟรนมึงก็สรรหาจริงๆคำถามเนี่ยทำเอาพี่โจ๊กหัวเราะหันหน้าหนีแล้วโบกมือ


“ให้เกียรติศิลปินด้วยครับ” ไอ้เต้ยพูดทั้งที่กำลังขำ


“อ่อค่ะขอโทษค่ะแล้วเอ่อคือซุปเปอร์จูเนียร์ปกติมี13คนไม่ใช่หรอคะทำไมมาแค่นี้แล้วอีกหกคนไปไหน”


“อีกโหกโคนปายน้าย” ถ้าจะลำบากขนาดนั้นมึงพูดไทยก็ได้นะเต้ย


“รันจองึนบอ” ไอ้ปันคว้าไมค์มาตอบ


“อะไรนะคะ” อีเฟรนเงี่ยหูฟัง


“รับจ้องันบอ”   


“ห๊ะ”


“ไปรับจ๊อบงานบวชอิสัส” ชัดแจ๋ว super junior ไปงานบวชพ่องเชี่ยปัน กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกก และค่ำคืนนี้ความสนุกสนานก็ยังอีกยาวไกลครับขอผมไปพักเอากรามลงซักแปบนะ อ่อ จะไปขอถ่ายรูปกับศิลปินเกาหลีด้วย ฮ่าๆ






………………..


แฮ่ก หมดแรงค่า อีกสิบที่เหลือ(เอาไรวัดวะ)จะมาพรุ่งนี้นะคะ มันเบลอๆไปนิดก็ทนหน่อยนะคะพรุ่งนี้จิมาลงและแก้ให้ใหม่ เหอๆ ไปแล้วค่า



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-05-2012 08:20:55 โดย ทะเลหัวใจ »

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป
หลังจากการแสดงของแต่ละสีจบลงพวกเราก็มีการสังสรรค์ต่ออีกนิดหน่อยคนอื่นๆเขากินข้าวกินขนมแต่อีเฟรนกินไมค์ครับโรคเดียวกับไอ้ปันแม้จะไม่ได้พูดแต่ขอแค่ได้ถือไว้และไอใส่ก็ยังดี พวกเรากินมื้อดึกกันไปฟังอีเฟรนกับอีกรีนเปิดคาเฟ่ไปแม่งมันส์ยิ่งกว่าเดี่ยวพี่โน้สอีกครับพี่น้อง


แถมระหว่างกินยังมีการฆ่ากันเกิดขึ้นคงเป็นกลุ่มพวกพี่หมอกานต์มั้งครับเพราะได้ยินเสียงเฮลั่นว่า มึงตายแล้วๆๆๆๆๆ ฮ่าๆว่าแต่ไอ้หล่อพี่เคล้ามันหายไปไหนวะไอ้แทนไอ้เชนไอ้เบียร์ก็ไม่เห็นหัว แม่งพากันแอบไปก๊งเหล้าแน่ๆหรือไม่ก็คงพาไอ้เชนไปนั่งจีบน้องปิ๊งแหงๆ


แต่ก็ช่างเถอะตอนนี้ผมมีของกินอยู่ตรงหน้ามีสุราเมรัยอีกนิดหน่อยแถมยังมีคนร้องเพลงให้ฟัง(แม้มันจะฟังดูโหยหวนออกไปทางบทสวดสรภัญญะมากกว่าก็เถอะ)แต่แค่นี้ก็เปรมแล้วใครจะไปจะมากูไม่สนโว้ยขอกินก่อนแล้วกันเดี๋ยวไม่ทันไอ้คิวกับไอ้เต้ย



เพล้งงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!



“เฮ้ยแม่งใจเย็นๆดิวะมึงไม่อายน้องบ้างเหรอ”


“ไม่อายโว้ยไอ้คนที่มันขโมยของกูมันยังไม่อายแล้วทำไมกูต้องอายด้วยวะ”


“ไอ้เอ็มกูขอเหอะกลับไปเคลียที่กรุงเทพได้ไหมพรุ่งนี้ก็จะกลับบ้านแล้วอย่ามีเรื่องกันเลยว่ะ”


“มึงก็พูดได้ดิเชนมึงไม่โดนแบบกูนิไอ้เหี้ยตัวไหนเอาของกูไปกูไม่จบง่ายๆแน่ๆกูจะค้นเรียงตัว ปล่อยกู”


“มึงเงียบก่อนได้ไหมห๊ะเอ็มกูก็บอกแล้วว่าเดี๋ยวจะถามให้จะช่วยกันหา”


“หึ แม่งคงเจอหรอกพี่เบิร์ดไอ้คนที่มันขโมยไปมันคงถือมาคืนหรอกนะ ถุ้ย ค่ายอาสา?แค่มือถือยังขโมยแล้วเงินชมรมจะไปเหลืออะไรวะ”


เสียงโวยวายข้างนอกทำเอาบรรยากาศสนุกๆหายวับไปในพริบตา อีเฟรนอีกรีนที่เรียกเสียงฮาอยู่เมื่อครู่ก็หน้าเจื่อนไปตามๆกันส่วนพวกเราที่กินข้าวอยู่ก็ลุกออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นภาพที่เห็นคือไอ้เชนกำลังดึงไอ้เอ็มที่เหมือนกำลังโมโหสุดๆไว้ มีพวกไอ้ดลไอ้ภูมิแล้วก็อีกหลายคนยืนมุงอยู่ ตอนนี้เสียงเพลงสนุกๆถูกปิดลงแล้วและบรรยากาศอึมครึมมากเลยครับ


“เฮ้ยมันจะมากไปแล้วนะของๆมึงหายก็อย่าพาลไปทั้งค่ายสิวะมึงอาจจะเสร่อทำหล่นตรงไหนก็ได้นี่หว่า” ไอ้แทนผลักอกไอ้เอ็มไปที ผมว่ามันชักจะเริ่มส่อแววไม่ดีแล้วสิมึงอย่านะแทนอย่าใช้อารมณ์เหมือนเมื่อก่อนเพราะมึงโตแล้วนะเพื่อน เมื่อเห็นท่าไม่ดีไอ้ฟ่างก็ลุกออกไปยืนข้างๆไอ้แทนและเหมือนจะบอกว่าให้ใจเย็นๆ


“กูไม่ได้ทำตกไอ้ฟลุคมันก็เห็นตอนที่กูเก็บไว้ในกระเป๋าในห้อง”


“แล้วมึงจะอะไรหนักหนาวะของมันก็หายไปแล้วพี่เบิร์ดก็บอกอยู่ว่าจะช่วยหามึงอย่าทำตัวให้มีปัญหาได้ไหมห๊ะ”


“เออ!!!!กูมีปัญหากูไม่ได้รวยอย่างมึงนิไอ้สัด” ไอ้เอ็มตั้งท่าจะกระโดดเข้าชกไอ้แทนพวกไอ้ภูมิไอ้เบียร์วิ่งกรูเข้าไปแยกแทบไม่ทันรวมถึงผมที่ไม่รู้วิ่งเข้าไปถึงตัวไอ้แทนตั้งแต่เมื่อไร


“ไอ้แทนใจเย็นๆดิวะ” ภูมิดึงแขนไอ้แทนไว้แต่ต้องอาศัยทั้งแรงไอ้เบียร์แรงไอ้ฟ่างแล้วก็ผมถึงเอาไอ้แทนอยู่



“พวกมึงเป็นเหี้ยไรกันห๊ะ!!!!เป็นบ้าอะไรกันแดกข้าวด้วยกันทุกวันยังจะกัดกันเหมือนหมามึงไม่อายน้องๆมันบ้างเหรอ” พี่โต้งเดินเข้ามาห้ามได้ทันทำให้มันสองตัวยอมอยู่นิ่งๆแต่ก็ยังจ้องหน้ากันเหมือนพร้อมจะกระโจนใส่อีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ “ใครที่ไม่เกี่ยวกลับไปกินข้าวต่อแล้วถ้าเสร็จแล้วอีแป๋วอีเฟรนพาน้องผู้หญิงไปนอนพรุ่งนี้ต้องเดินทางแต่เช้าส่วนไอ้พีมไอ้ดลพาน้องผู้ชายปี1ปี2ทั้งหมดไปนอนที่ห้องสมุดเก่า”



“ครับพี่โต้ง” ผมรับคำสั่งพี่โต้งและสบตากับภูมิมันพยักหน้าและยิ้มให้นิดๆ ผมพาน้องๆกลับเข้าไปกินข้าวตามคำสั่งของพี่โต้งแต่ก็เหมือนว่าทุกคนจะกินต่อได้แค่นิดเดียวก็ใครจะไปกินลงล่ะครับเมื่อกี้พึ่งเห็นรุ่นพี่เกือบต่อยกันไปหยกๆ



“เฮียมีเรื่องอะไรกันเหรอ”ไอ้เต้ยเดินมาเกาะแขนผมระหว่างที่ผมเดินนำน้องๆมานอน



“ไอโฟนไอ้เอ็มหายน่ะ”



“มีขโมยในค่ายหรอพี่”ไอ้เด็กปี1อีกคนถาม



“อืม”



“แล้วพี่เอ็มเขาสงสัยใครรึเปล่า”


“กูไม่แน่ใจนะแต่ถ้าฟังไม่ผิดน่าจะเป็นผู้ชายรุ่นน้องเพราะห้องพักเราก็แยกกันผู้หญิงคงไม่กล้าเข้าไปหรอก” ไอ้ดลอธิบาย


“ไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้เลยว่ะพรุ่งนี้ก็จะกลับกันแล้ว”


“เออนั่นดิกูประทับใจพวกพี่ๆมากเลยนะเว้ยใครแม่งขโมยวะ” พวกน้องๆมันก็บ่นๆคุยๆกันไปตลอดทางผมกับไอ้ดลก็ได้แต่มองหน้ากัน


น้องๆมันนอนแล้วแต่ผมกับไอ้ดลยังคงนั่งเฝ้าอยู่และซักพักก็มีเสียงโวยวายดังขึ้นทำเอาพวกที่พึ่งจะหลับถึงกับสะดุ้งตื่น


“ลุก !!!!!!ปี1ปี2ลุกเดี๋ยวนี้!!!!!!กูให้เวลาสามนาทีออกมารวมกันข้างนอก” ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเสียงไอ้แทนพวกน้องๆก็สะดุ้งตื่นเสียงทุบประตูทุบหน้าต่างปังๆและเหมือนจะมีคนวิ่งกันวุ่นวาย



“เฮ้ยพวกมึงลุกๆๆเร็วออกไปข้างนอก” ผมกับไอ้ดลรีบปลุกน้องให้ตื่นน้องบางคนก็ยังเบลอๆงงๆว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะมันพึ่งหลับแถมอากาศตอนนี้แม่งก็โคตรหนาวคงไม่มีใครอยากถูกรบกวนปลุกให้ตื่นในเวลาแบบนี้หรอกแต่น้องๆก็ต้องรีบวิ่งออกมานั่งอย่างพร้อมเพรียงกันบริเวณด้านหลังห้องสมุดเก่าซึ่งมีพี่ๆปี4ก็คือรุ่นผมยืนคุมอยู่


“มึงเข้าแถวไม่เป็นกันรึไงห๊ะ!!!!!จัดแถวตอนลึกแบ่งหญิงชายปฏิบัติ!!!!!” น้องๆหลายคนดูงงๆและตื่นกลัวการว้ากแบบไร้สาเหตุของพี่ว้ากแห่งคณะที่ขึ้นชื่อว่าโหดสุดๆอย่างวิศวะ ทุกคนรีบเข้าแถวตามคำสั่งโดยแยกชายหญิงและหันหน้าเข้าหากันไอ้แทนกับไอ้ภูมิยืนอยู่ตรงกลางส่วนพวกเราก็ยืนอยู่รอบๆน้องอีกที



“หมอบลงไป!!!” ภูมิสั่งแม้ว่ามันไม่ได้ตะคอกตะโกนแบบไอ้แทนแต่น้ำเสียงมันก็เฉียบขาดน่ากลัวไม่น้อยไปกว่ากัน “กูบอกให้หมอบ!!มึงหูแตกรึไงห๊ะหมอบลงไปปป!!!!” ทั้งน้องผู้หญิงผู้ชายรีบนอนคว่ำหมอบไปกับพื้นดีที่ตรงนี้เป็นหญ้าแต่ว่ามันก็ชื้นแฉะจากหมอกจากน้ำค้างอยู่เหมือนกันแต่ในสถานการณ์ที่ถูกกดดันและทำโทษอยู่แบบนี้คงไม่มีใครสนใจเรื่องนั้นกันหรอกครับ


“กูไม่คิดเลยนะว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นที่ค่ายอาสาค่ายที่พวกเราใช้ชีวิตด้วยกันช่วยเหลือซึ่งกันทำงานหนักมาด้วยกัน กูคิดเสมอว่าเราเป็นเหมือนพี่เหมือนน้องแต่สำหรับพวกมึงคงไม่นับกูเป็นพี่ใช่ไหม” คำถามของภูมิไม่ได้รับคำตอบ


“มึงไม่เอาปากมารึไงพี่ภูมิถามก็ตอบเด้!!!!!!!!!!!!”


“ไม่ใช่ครับ/ค่ะ”


“ถ้าไม่ใช่แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในค่าย…..ทุกคนคงรู้เรื่องที่มือถือของพี่เอ็มหายแล้วใช่ไหม”


“ครับ/ค่ะ”


“เฮ้ยปันมึงมาคุยสิกูไม่อยากคุยกับคนพวกนี้แล้ว” ไอ้แทนถอยออกไปและไอ้ปันก็เดินเข้ามายืนแทนที่


“อย่างที่ทุกคนรู้ว่ามือถือพี่เอ็มหายและตอนนี้พวกพี่ก็รู้แล้วว่าใครเป็นคนเอาไปพี่จะให้โอกาสคนนั้นยอมรับและสารภาพผิดแล้วพี่จะไม่เอาเรื่องจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นซึ่งพี่คุยกับพี่เอ็มแล้วพี่เอ็มก็ตกลงแต่ถ้าไม่มีคนยอมรับพี่จะลงโทษทั้งปีหนึ่งและปีสองทั้งหมดเพราะคนที่เอาไปอยู่ในชั้นปีนี้”



“…………………..” เงียบทุกอย่างเข้าสู่สภาวะตึงเครียดและกดดัน



“กูจะนับหนึ่งถึงสิบ” ไอ้แทนบอก


“……………………” แต่น้องก็ยังเงียบ


“ถือว่ากูให้โอกาสแล้วนะ“หนึ่ง……… สอง


สาม


สี่


ห้า


หก



…..เจ็



“ผมเองครับ” อยู่ๆไอ้น้องฟลุคก็ลุกขึ้นยืนน้องๆที่หมอบอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองกันหมด ทุกคนต่างมีสีหน้าตกใจและเหมือนจะคิดแบบเดียวกันด้วยว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนๆนั้นจะเป็นไอ้ฟลุค


“มึงเองเหรอ” ภูมิเดินเข้าไปถามใกล้ๆ


“ครับ” น้องฟลุคตอบเสียงดังมันยืนตรงเผชิญหน้ากับภูมิอย่างคนที่เรียกว่าลูกผู้ชาย


“แล้วคนสมรู้ร่วมคิดกับมึงล่ะ”


“ผมทำคนเดียวครับ”


“หึ ทำคนเดียว?เท่เหรอพระเอกเหรอมึง” ไอ้แทนยังใส่ไม่หยุด


“ผม…..”


“ผมเองครับพี่แทน” ไอ้แมท!!!!! ผมกับไอ้ฟ่างหันมามองหน้ากันแทบจะทันที ไอ้เต้ยที่หมอบอยู่ข้างๆรีบกระตุกขากางเกงเพื่อนก่อนจะลุกขึ้นยืน


“ถ้าไอ้แมททำงั้นเต้ยก็ทำ” ไอ้เด็กพวกนี้ มึง………..


“หนูก็ด้วยค่ะพี่” จากนั้นน้องๆก็ลุกขึ้นยืนยอมรับผิดกันหมด


“หึพวกมึงเห็นเป็นเรื่องตลกรึไง รักกันมาก? รักกันมากใช่ไหม….ดี!!!!!งั้นกูก็จะลงโทษทั้งหมดนี่แหละ พี่ปีสี่เอาผ้าปิดตาน้องด้วยครับ”


พอปิดตาน้องหมดพวกผมก็ให้น้องมันจูงมือกันเป็นแถวยาวมุ่งหน้าไปที่ห้องสมุดใหม่ที่เราเพิ่งสร้างเสร็จและพึ่งมีงานฉลองไปเมื่อตอนเย็น แน่นอนว่าที่แห่งนั้นจะมีความจริงรอน้องๆอยู่ พวกผมคอยเดินอยู่ข้างๆคอยดูน้องอยู่ห่างๆเมื่อน้องจะสะดุดหรือมือหลุดจากกันเราก็จับมือน้องให้จับกันใหม่และพอใกล้ถึงห้องสมุดก็ได้ยินเสียงเพลงเสียงกีต้าร์แว่วมาตามลม



อย่ากลับคืนคำ เมื่อเธอย้ำสัญญา
อย่าเปลี่ยนวาจาเมื่อเวลาแปรเปลี่ยนไป
ให้เธอหมายมั่นคง แล้วอย่าหลงไปเชื่อใคร
เดินทางไป อย่าหวั่นไหวใครขวางกั้น

มีดวงตะวันส่องเป็นแสงสีทอง(แสงสีทอง...)
กระจ่างครรลอง ให้ใฝ่ปองและสร้างสรรค์
เมื่อดอกไม้แย้มบาน ให้คนหาญสู้ไม่หวั่น
คือรางวัล แด่ความฝันอันยิ่งใหญ่ ให้เธอ

บนทางเดินที่มีขวากหนาม
ถ้าเธอคร้ามถอยไป ฉันคงเก้อ
ฉันยังพร้อมช่วยเธอเสมอ
เพียงตัวเธอ ไม่หนีไปเสียก่อน

จะปลอบดวงใจให้เธอหายร้าวราน
จะเป็นสะพานให้เธอเดินไปแน่นอน
จะเป็นสายน้ำเย็น ดับกระหายยามโหยอ่อน
คอยอวยพร ให้เธอสมดังหวังได้ นิรันดร์




และตอนนี้น้องๆก็มาอยู่ท่ามกลางวงล้อมของพี่ๆแล้วครับพวกเราเฝ้ามองด้วยรอยยิ้มแสงเทียนและคบไฟที่ถูกจุดไว้รอบๆทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นมาก “เอาผ้าปิดตาออกได้ครับ” สิ้นเสียงของพี่โต้งพวกมันก็เปิดผ้าปิดตาออก น้องๆต่างอึ้งๆงงๆกันไปหมดน้องผู้หญิงบางคนถึงกับทรุดลงไปนั่งกอดกันร้องไห้น้องผู้ชายก็ยิ้มๆเกาหัวพร้อมโวยวายนิดๆที่รู้ตัวว่าโดนหลอก


“พวกพี่ๆก็ขอโทษด้วยนะที่อาจจะทำน้องๆตกใจนิดหน่อยเนอะเอ็มๆไหนมึงลองโชว์ไอโฟนให้น้องดูหน่อยดิ” ไอ้เอ็มขำก๊ากก่อนจะแกว่งไอโฟนไปมา


“โห่หหหหหหหหห”


“ก็ถือว่าเป็นเซอร์ไพรส์เล็กๆจากพวกพี่นะครับและเหมือนน้องๆของเราจะขวัญเสียกันใช่ไหมง้นให้พี่ๆเอาด้ายขาวมารับขวัญน้องหน่อยแล้วกัน”


พี่โต้งพูดเสร็จพวกเรารุ่นพี่ก็ขยายวงกลมออกแล้วนั่งลงน้องก็นั่งตาม “น้องๆเข้าไปหาพี่ๆให้พี่ๆผูกข้อมือให้นะครับ” พวกมันก็คลานเข้าเข้ามาหาแต่ละคนแม่งน้ำตาเต็มหน้าเลยยิ่งมีเสียงกีต้าร์ของไอ้คิวสียงร้องของพวกพี่ดาวและเสียงเทียนที่ถูกจุดไว้รอบๆยิ่งทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่นซาบซึ้ง


โอ...โอ้ละเน้อ...น้องเอย
ลา...ลาลาลาลาลา...ล้าลาลาลาลาลา
โอ้เจ้าน้องเอย พี่นี่ขอชื่นเชย จะมิเลยแรมไกล
จะรักเจ้า ดังดวงใจ มิคลายหน่ายนา

ลาลาลาลาลา ล้า ลาลาลาลาลา
พี่จะรับขวัญเจ้า เอามาเข้าเป็นขวัญจิต
จะรักดั่งชีวิต ใจคิดกรุณา

ลาลาลาลาลา ล้า ลาลาลาลาลา
พี่จะรับขวัญเจ้า เอามาเข้าเป็นขวัญจิต
จะรักดังชีวิต ใจคิดกรุณา
ลาลาลาลาลา ล้า ลาลาลาลาลา
ขอจงหายโศก พ้นภัยหายโรค ให้มีโชคนะน้องยา
จะเอาด้ายยาว ขาวบริสุทธิ์

ลาลาลาลาลาลา
พันมัด ผูกไว้ ที่ข้อมือของเจ้า
ลาลาลาลาลาลา

เหมือนดัง...ใจพี่ ผูกพันเจ้าไว้ ไม่หน่ายหนี
เออ..เอ้อ เออ เอิงเอย...
ใจผูกพัน





“ฮ่าๆร้องไห้ทำไมครับน้องปิ๊ง” น้องปิ้งเวียนมาอยู่ตรงหน้าผมแก้มใสๆเปรอะไปด้วยน้ำตาจมูกรั้นๆก็แดงทั้งน่ารักทั้งดูตลก


“หนู ฮึก หนู ซึ้งอ่ะ หนูขอกอดพี่พีมได้ไหมคะ” ไม่ใช่แค่ผมที่แปลกใจกับคำขอไอ้คนที่นั่งข้างๆผมก็ชะงักจากการผูกข้อมือให้น้องแล้วหันมามอง เอ่อ ภูมิมึงคงไม่แสดงอภินิหารต่อหน้าผู้หญิงนะ


“ถ้าไม่กลัวพี่เชนว่าก็..ได้ดิ มาๆกอดๆ”แล้วน้องก็โถมมากอดผมเอาขี้มูกมาเช็ดเสื้อรึเปล่าเนี่ย ฮ่าๆ แต่กอดได้ไม่นานไอ้หล่อข้างๆก็คันคอไอเหมือนจะตายผมเลยต้องดันน้องปิ๊งออกและผูกข้อมือให้น้องพร้อมกับอวยพร


“ขอให้น้องปิ๊งเจอแต่สิ่งดีๆนะครับตั้งใจเรียนแล้วก็เป็นน้องที่น่ารักของพวกพี่ไปนานๆนะ”


“ฮึกค่ะขอบคุณค่ะพี่พีม” แล้วน้องก็คลานเข่าไปหาไอ้ภูมิต่อ


“กอดซะแน่นเลยนะ” ไอ้หล่อมันก้มลงมากระซิบผมก็ทำหูหนวกไม่ได้ยิน คึ

“กูกอดแบบบริสุทธิ์ใจเว้ยไม่ได้คิดอะไร”

“จะกอดแบบไหนกูก็หึง โอเค๊”

“ไม่โอเค โอ๊ยยย” มันดีดหน้าผากผมรับมันดีดหน้าผากโผ้มมมมมผมกับภูมิก็งิ้งๆใส่กันได้ไม่นานเพราะมีน้องๆมาให้ผูกข้อมือ น้องทุกคนดูจะซาบซึ้งมากน้องผู้ชายอาจจะไม่เท่าไรแต่ผู้หญิงยังร้องไห้ไม่หยุดไม่ใช่แค่น้องๆหรอกครับที่ประทับใจรุ่นพี่อย่างพวกเราก็มีความสุขไม่ต่างกัน เสียงเพลงค่ายของพวกพี่ดาวยังคงขับกล่อมบรรยากาศดีๆเสียงไอ้คิวก็ดูอบอุ่นดีแฮะวันนี้


ถ้าหากฉันเกิดเป็นนกที่โผบิน
ติดปีกบิน ไปให้ไกล ไกลแสนไกล
จะขอเป็นนกพิราบขาว
เพื่อชี้นำชาวประชา สู่เสรี

ถ้าหากฉันเกิดเป็นเมฆบนนภา
จะนำพาความร่มเย็นเพื่อท้องนา

หากฉันเกิดเป็นเม็ดทราย
จะถมกายเป็นทางเพื่อมวลชน

ชีวา ยอมพลีให้
มวลชน ที่ทุกข์ทน
ขอพลีตน ไม่ว่าจะตายกี่ครั้ง





“เฮียยยยยย ฮืออออ หลอกเต้ยยยหลอกเต้ยทำไมมมม” มาแล้วครับไอ้น้องเต้ยมันมาแล้วไอ้เต้ยกับไอ้แมท ตอนนี้พวกเรายืนกันหมดแล้วเพราะน้องต้องเดินไปหาพี่ที่ยังไม่ได้ผูกให้เลยออกจะชุลมุนนิดๆ ไอ้เต้ยตรงดิ่งมากอดภูมิกับไอ้แทน ส่วนไอ้แมทถูกไอ้เชนกับไอ้มิคกอดคอรุมเขกหัวมัน


“เท่สาดอ่ะน้องกูแม่งยืนรับผิดแบบแมนๆมึงกับไอ้ฟลุคโคตรหล่ออ่ะแมท” พอถูกไอ้มิคชมซึ่งๆหน้าไอ้น้องแมทมันก็เกาหัวเขินๆ


“ฮ่าๆแล้วพวกมึงร้องไห้ทำไมวะ” ผมแกล้งแซวมันสองตัวบ้าง
 
“พวกเฮียอ่ะหลอกเต้ยยยยยยย”


“ใช่พี่ผมล่ะโคตรกลัวพี่แทนกับพี่ภูมิเลย” ไอ้แมทก็รีบฟ้องเรียกเสียงหัวเราะจากไอ้พี่ว้ากจอมสร้างสถานการณ์ทั้งสอง เสร็จงานนี้ไอ้เอ็มไอ้แทนไอ้ภูมิสมควรได้รับรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมส่วนพวกผมก็คงได้รางวัลตัวประกอบยอดเยี่ยมล่ะครับ

“พวกมึงโง่ใครเลยถูกพวกมันหลอก” ถึงฟ่างจะพูดแบบนี้แต่มันก็ลูบหัวไอ้เต้ยแถมยังยิ้มให้เป็นยิ้มที่ไอ้ฟ่างโคตรหล่อ ไอ้เต้ยเลยผละจากไอ้ภูมิมากอดฟ่างซะแน่นถ้าไอ้มือกีต้าร์เห็นคงมีเคลียกันยาว


“มึงก็พระเอกนี่หว่ายืนรับผิดทั้งที่ไม่ได้ทำ ลูกผู้ชายมากน้องรัก” ไอ้เบียร์กอดคอไอ้แมทไอ้เด็กลูกครึ่งก็ทั้งซึ้งทั้งเขิน แล้วพิธีผูกข้อมือก็ผ่านไปเวลาที่ต้องปิดค่ายจริงๆก็มาถึงแล้วครับ ไอ้ปันประธานค่ายของปีนี้ก็ขึ้นมาบนเวที

“เฮ้ยหมอบๆๆๆ” มันแกล้งสั่ง ไอ้แทนกับไอ้เอ็มคู่อริปลอมๆที่ยืดกอดคอกันถึงกับชี้หน้าไอ้ปันที่บังอาจล้อเลียนส่วนภูมิก็ยืนขำอยู่ข้างๆผมนี่แหละที่จริงการว้ากของภูมิมันเป็นอินเนอร์ครับ ฮ่าๆ“เป็นไงของขวัญจากพวกพี่…น้องๆประทับใจไหม”


“โห่หหหห โหดมากพี่ปันพี่ภูมิพี่แทนน่ากลัว” น้องคนนึงตอบเรียกเสียงหัวเราะ


“แล้วยังจะชอบพวกมันอยู่ไหม ฮ่าๆ ครับที่พวกพี่ต้องรับปีสองด้วยเพราะปีที่แล้วน้ำท่วมเรายังไม่เคยรับน้องของชมรมให้ปีสองเลยถือโอกาสนี้รับพร้อมกันซะเลยก็อาจจะช้าไปเป็นปีคงไม่ว่ากันเนอะ…….”


“คร้าบบบบบบบ” ไอ้เต้ยที่ยืนอยู่ข้างหน้าผมตอบซะเสียงดังทำเอาไอ้คิวที่อยู่ข้างเวทีหันมามองมันหัวเราะพร้อมกับชู้ด้ายขาวแล้วกวักมือเรียกให้ไอ้เด็กไฮเปอร์ไปหา พวกผมก็โห่แซวนิดๆไอ้เต้ยถึงกับรีบวิ่งหนีไปเลย


“พี่โต้งจะพูดอะไรกับน้องไหมพี่” ไอ้ปันหันไปถามพวกพี่โต้งที่ยืนอยู่อีกข้างของเวทีพี่โต้งพยักหน้าและยิ้มให้เป็นการบอกว่าพี่เขามอบหน้าที่ทั้งหมดให้ปัน


“ครับงั้นพี่ในฐานะประธานค่ายก็จะขอเป็นตัวแทนของพี่ๆทุกคนพี่นะครับ…..จากเหตุการณ์ในวันนี้รวมถึงตลอดเวลาที่เราได้มาอยู่ค่ายอาสาด้วยกันพี่อยากบอกว่าพวกพี่ภูมิใจมากที่เห็นน้องๆมีความกล้าหาญรักเพื่อนมีความเสียสละและสามัคคีกัน

สิ่งเหล่านี้มีค่ามากนะครับเพราะชีวิตของการเป็นนิสิตในมหาลัยไม่ใช่แค่เรียนให้จบแล้วรอรับใบปริญญาคุณค่าที่แท้จริงไม่ได้อยู่แค่ในหนังสือหรือห้องเรียน ชีวิตมันมีอะไรมากกว่านั้นมันมีอะไรหลายๆอย่างให้พวกเราออกไปค้นหา ชีวิตคนเรามันสั้นใช้มันให้เต็มที่ทำทุกวันให้มีค่านั่นหมายถึงการทำเพื่อคนอื่นด้วย

และพี่เห็นแล้วว่าน้องทุกคนทำได้ พวกพี่ก็หวังว่าน้องๆจะได้รับประสบการณ์ดีๆจากค่ายอาสาครั้งนี้และที่สำคัญพี่ก็หวังว่าทุกคนจะได้รับมิตรภาพดีๆกลับไปนะครับ……..

ค่ายอาสาครั้งนี้สำเร็จลุล่วงได้เพราะพวกเราทุกคนผมขอบคุณทีมวิชาการที่ได้มอบรอยยิ้มให้เด็กๆขอบคุณว่าที่คุณหมอทุกคนที่ดูแลสุขภาพพวกเราชาวค่ายรวมถึงชาวบ้าน ขอบคุณทีมนันทนาการที่หากิจกรรมสนุกๆสร้างสีสันและเสียงหัวเราะตั้งแต่วันแรกที่เราออกเดินทางจนถึงวันสุดท้าย ขอบคุณทีมก่อสร้างที่ลำบากทำงานหนักแต่ก็ไม่เคยบ่นเหน็ดเหนื่อยเลยซักครั้ง ขอบคุณสวัสดิการที่ทำอาหารอร่อยๆให้พวกเรา

และสุดท้ายก็ขอฝากน้องๆ อย่างที่รู้ว่าพวกพี่โต้งก็เรียนจบกันแล้วและปีหน้าก็คงเป็นพวกพี่บ้างต่อไปพวกพี่ก็ขอฝากชมรมค่ายอาสาด้วยนะครับ พี่ขอฝากความหวังฝากพลังที่จะอาสาเพื่อเป็นกลุ่มเล็กๆที่จะอุทิศตัวเพื่อประเทศไทยของเรา ขอให้น้องๆทุกคนเป็นเสียงเทียนที่จะคอยส่องนำทางให้มวลชนต่อไปนะครับ ขอบคุณครับ”




ปันได้รับเสียงปรบมือจากพวกเราชาวค่าย ได้รับน้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจ ถึงมันจะดูเฮฮาบ้าบอไปวันๆเป็นตัวป่วนของพวกเราแต่ผมรู้ว่ามันเหนื่อยมากกับการทำค่ายครั้งนี้แต่มันก็ยังยิ้มเสมอและผมก็ภูมิใจในตัวเพื่อนคนนี้มากเหมือนกันครับ เราร่วมร้องเพลงด้วยกันเป็นเพลงสุดท้ายเพลงปิดค่ายที่จะอยู่ในความทรงจำของพวกเราไปอีกนานแสนนาน





เทียนหนึ่งถูกจุดที่นี่ เทียนนี้ถูกจุดลุกไสว
เทียนนี้ถูกจุดที่ใจ เปลวไฟถูกจุดขึ้นมา...

เปลวไฟแห่งเทียนลุกไหม้ เปลวไฟแห่งการศึกษา
เปลวไฟต่อสู่มายา เปลวไฟกล้าท้าผองภัย...

บางครั้งเทียนกระพริบริบหรี่ เมื่อมีลมกระโชกโบกใบ้
บางครั้งเทียนแทบดับไป แทบไม่อาจต้านลมแรง...

...ศักดิ์ศรีที่เทียนส่องอยู่ เชิดชูศรัทธากล้าแกร่ง
แม้เป็นเทียนน้อยด้อยแสง แต่แฝงศรัทธาเนืองนอง


เทียนหนึ่งถึงคราวมอดดับ ลาลับไปจากเพื่อนผอง
แต่ ณ ที่นี้เรืองรอง ขอเทียนน้องส่องทดแทน...





ขอบคุณค่ายอาสาขอบคุณเพื่อนๆขอบคุณน้องๆขอบคุณชาวบ้านที่ใจดี ขอบคุณวันเวลาและประสบการณ์ดีๆที่พวกเราได้ทำร่วมกัน แม้มันจะเป็นเพียงแค่หนึ่งเรื่องราวในชีวิตของผมแต่ผมก็จะจดจำมันไว้……ตลอดไป






แล้วพวกเราจะกลับมาเยี่ยมอีกนะครับแม่แจ่ม







TBC >>>>>>>>>>>>




………………………….



-   ตอนหน้าก็ถึงเส้นชัยแล้วเนอะ ช่วงที่ผ่านมาต้องขอโทษจริงๆนะคะที่ลงช้า ทั้งที่ว่างแต่สมองตีบตัน ฮ่าๆ ยังไงก็ขอโทษด้วยนะจ๊ะ

-   ที่ผ่านมาตาลตาลอาจจะเป็นคนเขียนที่ไร้ระเบียบวินัย บางครั้งก็ผิดสัญญา บางทีก็ไม่ค่อยมาคุยกับคนอ่านไม่ได้ตอบคอมเม้น บางคนทิ้งแบนเนอร์ไว้ให้ตาลก็ลืมเอาขึ้น ความผิดเหล่านี้ขอรับไว้และขอโทษจากใจจริงนะคะ

-   และมีหลายๆคำถามที่ถามเข้ามาตาลก็จะขอตอบแบบรวมๆเลยนะคะ

-   มหาลัยของอิพวกเดอะแก๊งคือมหาลัยสีชมพูรึเปล่าและตาลได้เรียนที่นั่นไหม คำตอบ คือ ไม่ใช่นะจ๊ะ ฮ่าๆ ก็ไม่รู้อะไรที่ทำให้คนอ่านคิดไปได้พวกเทอเพ้ออ่ะ ตาลไม่ได้เจาะจงจะให้เป็นมหาลัยไหนเพราะมันไม่มีอยู่จริง กร้ากกก แต่ประเด็นคือไม่ว่าจะมหาลัยไหนก็คงมีรับน้องมีกิจกรรมและทุกคนก็ต้องมีกลุ่มเพื่อนทั้งนั้นใช่ไหมคะ เอาเป็นว่าประเด็นนี้เคลียเนอะ


-   สอง มีคนสงสัยว่าตาลไม่ใช่ผู้หญิง อันนี้ฮาบรรลัย ขอยืนยันนอนยืนสวิงกิ้งยันว่าตาลเป็นหญิงแท้ร้อยเปอร์เซ็นนะคะ ใครข้องใจก็ขอให้ส่งพี่ชายน้องชายมาพิสูจน์ได้ แบร่

-   สาม มุขฮาๆไปหามาจากไหน อืม อันนี้เหมือนถามว่าทำไมตาลถึงสวย คือ ก็ไม่รู้จะตอบยังไงมันมาเองแต่บางมุขเราก็ไปเจอมาได้ยินเพื่อนพูดก็มีบ้างค่ะ

-   แล้วมาบอกลาพวกหนุ่มๆกันตอนหน้านะคะ รักทุกคนเสมอ(ใช้คอมเพื่อนต้องรีบทอร์ค อิห่านจิกนี่ก็จะออนเฟช แสรดดด เม้าท์ไม่มันส์เลยไว้จะมาเม้าท์อีกนะเคอะ จ๊วฟฟฟ)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2012 22:41:36 โดย ทะเลหัวใจ »

ทะเลหัวใจ

  • บุคคลทั่วไป
จองอีกเผื่อไม่พอ แฮ่ พรุ่งนี้จะมาเม้ามอย

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
รอพรุ่งนี้ ><

ออฟไลน์ Horizon

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1731
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-22
ค่ายนี้สนุกสุดยอด o13 :laugh:
คิดถึงวันวานเช่นกัน :เฮ้อ:
พอเรียนจบ ทำงาน ความมุ่งมั่นดีๆ เหล่านั้นหายไปไหน
+1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-05-2012 04:05:30 โดย Horizon »

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
+1 :o8: พีมเป็นแจ๋ว ในครัวอิอิ น้องภูมิก็อ้วนดิงานนิ้ อั๊ยย่ะ ปันเถียง ภูมิม่ะได้อิอิ :m20:

ออฟไลน์ kisskiss

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
 :sad4: SJ โคพได้เริศมากคะ

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
อย่างฮา มันทำกันไปได้

ออฟไลน์ HaruCiel

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แปะไว้ก่อน เดี๋ยวครบร้อยแล้วจะได้เม้นทีเดียว

แต่ฮาปวดท้องมาก คนเขียนเหนื่ิอย คนอ่านก็เหนื่อยค่ะ เยอะสะใจจริงๆ :)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Joo onn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
  จะฮาไปไหนนนนนนนนน

  :m20: :pigha2:

ออฟไลน์ NannY

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +125/-1
ศิลปินเ้กาหลี หรือคณะตลกค้า 555555555555555555555555555

 :m20: :m20: :m20: :m20:

ออฟไลน์ pochu52

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-0
อ่านกันยาว แต่ฮาสมกับที่รอคอย 5555

ออฟไลน์ topphy

  • มีสิทธิ์ไหมที่จะรักใครสักคน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 219
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
 :m20: โอ๊ย ไม่ไหวจะฮาา

เป็นกำลังใจให้คร้าบบบ o13

monkeyyimz

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ jeeu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
ท่านปันปัน แอบโทรหาพี่องุ่นจริงเหรอ...^^
ถ้าเป็นแบบนั้น ปลื้มตายเลย
พี่พีมกับน้องภูมิน่ารักมากกกจ้า

Zhangaiyi

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย สมกับการรอคอยมาก อ่านไปหัวเราะไปจนแทบตกเก้าอี้  :m20:
5555555555555555555555 ฮาไปไหนเนี่ยยยยยยย!!! รอีก 10% นะฮับ
เค้ารอพีมกับภูมิสวีทๆๆๆ ><  :o8: :o8: :o8:

dog

  • บุคคลทั่วไป
อูยยยยยยยยยย
อยากหนาวอย่างเค้าบ้าง
บ้านป้าร้อนตับแล่บ แค่นั่งเยี่ยวก็เหงื่อแตกแล้ว
55555555555

ออฟไลน์ MoMoRin

  • I am Fujoshi! (・∀≦)ゞ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ฮาไม่ไหวจะทนค่าาาาา // ขำจนปวดแก้มหมดแล้วเนี่ยยยยย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ imissyou

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 703
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
ฮากันเข้าไป  :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jny_jija

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 28
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ยาว สมการรอคอยเลย มาแปะไว้ๆๆ ยังอ่านไม่จบตอนเลยอ่ะ

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ลูกฮา.... มีให้ตลอด
ส่วนงานครัวนี่นึกภาพตาม คนเป็นแม่งานนี่แหละสุดยอด เพราะต้องบริหารเวลาให้ลงตัว
ไหนผู้ช่วยส่วนมาก บอกได้เลยว่าไม่เคยทำ ต้องมาคอยบอกคอยสอน ( สั่งแบบเน้นเสียงด้วย )  :jul3:
+1 นี้ฝาำกให้อีกรีนนนนนน นะครับ

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
คุณตาลมาแล้วววววววววว
มาพร้อมกับความฮาเหมือนเดิมเลย
ฮามันแทบทุกบรรทัดอ่ะ
อยากไปค่ายนี้จิงๆ
ว่าแต่ภูมิพีมไม่ไปอาบน้ำแบบแทนฟ่างมั่งหรอ อิอิ

tippy

  • บุคคลทั่วไป
ไม่มีไรจะพูดได้แต่ :m20: :m20: :m20: และ :jul3: :jul3: :jul3: :jul3:

ออฟไลน์ My_yunho

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1683
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
มาแล้วววววววววว


อยากอ่านมากๆๆๆๆๆ

พีม ภูมิ

ออฟไลน์ myd3ar

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4
ฮากระจาย  ภูมิทำได้ด้วย 555

มหาฯลัยนี้เค้าสอนแต่ความฮาใช่มั้ย

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป

lovely1714

  • บุคคลทั่วไป
กร้ามถึงกับค้าง
ไม่ไหวจะฮา
ขำจนปวดท้อง
คิดถึงเดอะแก็งค์มากๆๆๆๆๆ

nuttapat_t

  • บุคคลทั่วไป
รักนะจุ๊บ จุ๊บ
+1

ออฟไลน์ nunamicky

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +182/-3
โอ้ย ปวดแก้มไปหมดแล้ว :m20:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด