THE END: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 17 (04/03/2012)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: THE END: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 17 (04/03/2012)  (อ่าน 95683 ครั้ง)

ออฟไลน์ ლїЯдςLΣϛlθTtεR

  • มิราเคิ้น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +355/-3
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 8 28/11/53
«ตอบ #180 เมื่อ02-12-2010 20:04:59 »

คาแบลท์พลาดชิมิ
ไหนๆก็ไหนๆแล้วน่าคาแบลท์
จำยอมเถอะ

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :jul3:

ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 9 (06/12/10)
«ตอบ #181 เมื่อ06-12-2010 20:16:39 »

    ผมผลักแกสลงไปบนพื้นหลังจากที่ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องของผมได้ ตอนนั้นผมอยู่ในสภาพที่เมาสุดๆแถมยังอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ


“คาแบลท์ คุณจะทำบนพื้นจริงๆเหรอ” แกสถามผมขณะที่ผมไซร้ซอกคอของหมอนั่นแล้วถอดกางเกงของหมอนั่นไปด้วย


        ก่อนที่ผมจะได้ตอบเขาก็ผลักผมแล้วดึงผมขึ้นมาจากพื้นแล้วลากผมเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นเราก็ต่างถอดเสื้อผ้าออกจนหมด ลงไปแช่ในอ่างน้ำโดยไม่สนใจว่าน้ำที่มีอยู่มันมีแค่ข้อเท้าของเรา เราต่างอาบน้ำกันไปและอุ่นเครื่องไปด้วย และอาบน้ำอีกรอบหลังจากที่เสร็จกิจรอบแรกภายนอก ผมก็อุ่นเครื่องใหม่อีกหนแล้วลากเขามาที่เตียง คราวนี้ผมเปิดเกมส์รักกับแกสอย่างหนักหน่วง หลังจากที่เสร็จไปรอบที่สองผมก็เปลี่ยงถุงยางใหม่แล้วสอยเขาอีกรอบไม่ยั้งทั้งหนักหน่วงและรุนแรงยิ่งขึ้น เสร็จรอบที่สามผมก็นอนหันหลังแล้วเข้าสู่นิทราจนเกือบลืมไปว่าแกสยังนอนอยู่ข้างๆ



        ผมมารู้สึกตัวอีกทีก็ราวๆตีห้าเพราะแขนที่หมอนั่นกอดเอวผมไว้คลายลงและหมอนั่นก็พลิกตัวนอนหันหลังให้ผมแทน ผมสังเกตว่าหลังของหมอนี่มีจุดไฝเล็กๆสามสี่จุดตรงแผ่นหลังจนผมอดไล้นิ้วไม่ได้


“คาแบลท์ ตอนนี้กี่โมงแล้ว” เขาขยับตัวเล็กน้อยแล้วหันมาถามผมอย่างเบลอๆ


“ตีห้า” ผมตอบแล้วพลิกตัวหันหลังให้เขาอีกรอบ


“ผมขอนอนต่ออีกนิดนะ” เขาบอก แล้วขยับมาชิดตัวผมจากนั้นก็เข้ามากอดเอวผม จากนั้นเราก็หลับกันไปอีกรอบ




    ผมตื่นอีกทีราวๆแปดโมงเช้าในสภาพที่ความทรงจำและสติครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อนึกได้ว่าเมื่อคืนผมหิ้วใครมาผมก็แทบคลั่ง แต่นับว่าโชคดีไม่น้อยที่ตื่นมาแล้วผมก็ไม่พบว่าหมอนั่นมันนอนอยู่ข้างๆเตียง ทำให้ความคลั่งสุดขีดของผมลดลงมาอีกหน่อย


“เฮ้” แกสทักผมขณะเดินเข้ามาในห้องนอน เขาสวมเสื้อยืดและกางเกงบอลขอสั้นของผม


“ทำไมคุณยังอยู่ที่นี่” ผมถามเขาอย่างหงุดหงิด


“โทษที เมื่อคืนคุณทำกระดุมเสื้อผมขาด ผมแค่จะมาบอกว่าผมขอยืมชุดของคุณก่อนได้ไหม”


“เชิญ แต่ฉันต้องการอาหารเช้า” ผมคงโง่น่าดูถ้าไม่เอาเปรียบเขาไว้ก่อน


“ได้เลย คุณจะเอาอะไรล่ะ ไข่ดาว เบคอน หรือแพนเค้ก...” เขารีบเสนอ


“ทั้งหมดนั่นแหละ แต่เมื่อคืนนายสัญญากันฉันไว้ด้วยนี่ว่าจะดูดให้ฉันทุกที่ ทุกเวลา เอาล่ะตอนนี้ฉันต้องการมันเป็นของว่างเดี๋ยวนี้” ผมออกคำสั่ง เขาจัดการดูดให้ผมจากนั้นก็รีบพาตัวเองไปซุปเปอร์มาร์เกตแล้วกลับมาจัดการเรื่องอาหารเช้าให้ผม




    เอาก็เอาวะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว...ผมก็เป็นอย่างนี้แหละคุณ
    เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมไม่สอยผู้หญิงที่หน้าตาต่ำกว่ามาตรฐานมา ผมจะโมโหตัวเองมากจึงต้องลงโทษตัวเองด้วยการทนเห็นหน้าแล้วก็นอนกับเธอต่อไป ไม่ใช่ว่าผมจะแกล้งทำเป็นสานสัมพันธ์กับเธอนะคุณ...ผมซื่อสัตย์ในเรื่องความรู้สึกของตัวเองเสมอ แต่เหมือนว่าผมควรจะต้องเสียอะไรบางอย่างไปเพื่อให้สาสมกับการที่ไปเผลอใจล่อผู้หญิงที่หน้าตาออกสาธารณชนไม่ได้...แต่กรณีของแกสนี่ยิ่งกว่าผู้หญิงพวกนั้น.....



    หลังจากที่หมอนั่นจัดการดูดให้ผมเรียบร้อย(เขาทำได้ดีทีเดียว) ผมก็ไปนั่งดูโทรทัศน์ฆ่าเวลาขณะที่เขาไปทำอาหารเช้า ผมไม่คิดเหมือนกันว่าบุคลิกดูเป็นคุณหนูสวมสูทและเสื้อผ้าราคาแพงของหมอนั่นจะสามารถทำอาหารเช้าที่เรียกได้ว่าเยี่ยมมากๆให้ผมได้ มีไข่เจียวไส้กรอกชีส กระเทียมทอดแบบไม่มันกับหอมใหญ่ย่าง เบคอนฉ่ำๆแบบที่ผมชอบ บริทิชมัฟฟินเนย นมพร่องมันเนยเย็นเจี๊ยบแบบที่ผมชอบอีกเหมือนกัน แล้วก็กาแฟคาปูชิโน่ที่ผสมได้อย่างกลมกล่อม(ผมมีเครื่องทำกาแฟแต่แทบไม่ได้ใช้มันเลย) พอกินเสร็จผมแทบจะปรบมือให้เขาเลยล่ะ...แต่ผมขอจัดการเขาอีกรอบเป็นของหวานดีกว่า



    ตลอดหนึ่งเดือน ผมทำตัวชั่วสุดขีด ผมมักไปหาเขาที่คอนโดตอนตีสองในสภาพเมาแอ๋โดยไม่โทรไปบอกล่วงหน้า ฟันเขาอย่างไม่ปราณีเหมือนเขาติดหนี้ผมอยู่ นอนอยู่ห้องเขาทั้งวันตอนที่เขาออกไปทำงาน แถมพอเขากลับมาถึงก็ให้เขาทำอาหารเย็นให้อีก จากนั้นผมก็ออกไปกินเหล้าโดยให้เขาเลี้ยงแล้วไล่เขากลับก่อนที่เพื่อนๆหรือเหยื่อคนอื่นที่ผมนัดไว้จะมา วันไหนที่เขามาที่ห้องผม เขาต้องซื้อซี่โครงจากร้านคาร์สัน ไก่จากร้านฮาโรลด์ หรืออาหารอื่นที่หรูๆมาฝากผมด้วย เขาซักเสื้อผ้าให้ผม ทำความสะอาดห้องให้ผม รองรับอารมณ์ผมและทำตามคำสั่งทุกอย่างของผมไม่ว่าจะเป็นฟันหรือดูด แล้วผมก็ไล่เขากลับโดยไม่ยอมให้เขานอนค้างอีกต่างหาก ทำได้ซักพักผมก็เริ่มรู้สึกเบื่อและรู้สึกว่าชักจะเลวเกินไปแล้วแหะ



     สำหรับสุภาพชนทั้งหลายที่อ่านเรื่องของผมอยู่ คุณกรุณาโยนคู่มือสร้างความสัมพันธ์ หรือคำแนะนำเกี่ยวกับการทำให้ผู้ชายหลงรักทั้งหลายของคุณลงโถส้วมไปซะ เพราะผมจะบอกสิ่งที่คุณควรรู้ให้เอง ผู้ชายจะปฏิบัติต่อคุณอย่างที่คุณปล่อยให้มันเป็น ในใจของพวกเขาจะไม่มีคำว่า”การให้เกียรติตามสมควร”พวกคุณจะได้รับในสิ่งที่คุณบอกความต้องการเท่านั้น ถ้าคุณยอมให้ล่อคุณทางก้น พ่นพิษใส่หลังคุณ แถมยังกินเบียร์คุณจนหมดตู้เย็น เขาก็จะทำอย่างนั้น แต่หากคุณแสดงให้เขาเห็นว่าคุณต้องการให้เขาให้เกียรติคุณ เขาก็จะทำตามที่คุณขอหรือไม่ก็เลิกยุ่งกับคุณไปเลย

     หรือไม่คุณก็ทำแบบแกสเพื่อที่จะได้รับผลแบบเดียวกับเขา




     จุดเปลี่ยนสำหรับผมในเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อผมรู้สึกว่าจะต้องหยุดพฤติกรรมที่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างของตัวเองเสียที วันนั้นเขามาหาผมในชุดเสื้อโค้ทสุดหรูพร้อมกับรอยยิ้ม ส่วนผมอยู่ในชุดออกกำลังกายนั่งเอกเขนกดื่นเบียร์ไปด้วยขณะดูฟุตบอลอยู่บนเก้าอี้นวม
“มาทำไมเนี่ย แล้วข้างนอกนั่นไม่หนาวไม่ใช่เหรอ ใส่เสื้อโค้ทมาทำไม” ผมถามเขา

     เขาไม่ตอบแต่ถอดเสื้อคลุมออก เผยให้เห็นเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นตัวตัวที่ขาว บนเสื้อผ้าทั้งสองชิ้นมีข้อความพิมพ์อยู่

เสื้อ – หน้าอกนี้เป็นของคาแบลท์ ฮูแซก

กางเกง – ของในนี้เป็นของคาแบลท์ ฮูแซก

     ถ้าตอนนั้นผมอายุ 17 ผมคงคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เยี่ยมที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา แต่ตอนนี้ผมอายุ 30 กว่า สิ่งเดียวที่ผมเห็นได้ก็คือความฉิบหายที่กำลังจะเกิดขึ้นเพราะไอ้หนุ่มลูกคุณหนูนี่กำลังตกหลุมรักผม


      แต่ยังก่อน...คืนนั้นผมยังนอนกับหมอนั่นตามปกติ


     แต่หลังจากวันนั้นผมไม่โทรหาเขาอีกเลย ผมหลบเขาทุกครั้งเมื่อเห็นเขายืนรอผมอยู่หน้าอพาร์ทเม้นท์ของผม ผมค่อนข้างมั่นใจว่าผมทำให้เขาแทบคลั่งจนย้ายกลับไปบ้านเดิมของเขาแทนที่จะมาอาศัยอยู่ที่เพนเฮ้าหรือคอนโดของเขา เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมคือสายจากเขาที่ผมไม่ได้รับกว่า 50 สายต่อวันและอีเมลล์พรรณาขอความอ้อนวอนอีกกว่า 100 ฉบับ ผมก็เลยจัดการบล็อกเมลล์ของเขาแล้วเปลี่ยนเบอร์มือถือตัวเองซะ แล้วทิ้งเรื่องที่เหลือให้ระบบอีเมลล์จัดการ


        


                                                ผมก็หวังนะคุณว่าเรื่องมันคงจบแค่นั้น...แต่มันไม่ใช่แค่นั้นนี่สิ


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------


 :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-12-2010 20:21:14 โดย SweetSacrifice »

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 9 (06/12/10)
«ตอบ #182 เมื่อ06-12-2010 20:42:58 »

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ค้าง!!!!

มันไม่ใช่แค่นั้นแล้วยังไงต่อคะ???
พี่ปุ๋ยใจร้าย รีบมาแปะตอนต่อไปนะคะ
เพราะไม่แน่ว่าอีกสักสองสามวันนุ่นต้องไปหาชาวเขา
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ปล.คาแลท์ โก้ดแบดดดดดดดด แกสจ๋า โอ๋ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :กอด1:

ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 9 (06/12/10)
«ตอบ #183 เมื่อ06-12-2010 20:47:00 »

เดี๋ยวรอนุ่นกลับมาค่อยแปะต่อ
ปีนึงก็จะรอ อิอิ

ออฟไลน์ ლїЯдςLΣϛlθTtεR

  • มิราเคิ้น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +355/-3
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 9 (06/12/10)
«ตอบ #184 เมื่อ06-12-2010 20:54:13 »

เลวววว
อิเลววววววว

อิคาแบลท์  อิเลวววววว   :angry2: :angry2:
โอ๊ย คลั่ง  :fire:



แกสมาซบอกเตอร์นี่มา
ฮาๆๆๆ  :laugh:  :haun4:

ออฟไลน์ penda

  • ~~^v^~~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 9 (06/12/10)
«ตอบ #185 เมื่อ06-12-2010 21:39:40 »

ตามมาอ่านแล้ววววว
แต่ยังอ่านไม่ทัน  555+


อ่านทันแล้วมาเม้นใหม่ :bye2:
 :pig4:

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 9 (06/12/10)
«ตอบ #186 เมื่อ06-12-2010 22:58:22 »

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :serius2:

อะไรเนี่ย!!!  :angry2:

คาเบลท์ชั่วถึงแก่นจริงๆ

เลวสมใจเลยเชียว


เลววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

เลวแม่งได้อีก

สงสารแกสวะ


คลั่ง!!!!!!!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-12-2010 23:00:37 โดย ┗◎┗◎ »

kihaezzzzzz

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 9 (06/12/10)
«ตอบ #187 เมื่อ08-12-2010 18:55:27 »

เลว!

สงสารเเกสอ่ะ มาชอบทำมั้ย ย

รีบมาต่อนะ

getto

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 9 (06/12/10)
«ตอบ #188 เมื่อ08-12-2010 22:30:32 »

คาแบลท์ทำยังไงก็ทิ้งแกสไม่ได้แล้วล่ะงานนี้ :laugh:
อยากอ่านตอนคาแบลท์ตกหลุมรักแกสจัง

 :กอด1:ป้า

ออฟไลน์ ๛゙★βra_11!☆゙

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 503
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 9 (06/12/10)
«ตอบ #189 เมื่อ08-12-2010 22:58:36 »

โห๊ย
ตาตาแบลท์มันไปทำยาเสน่ห์กับแม่หมอที่ไหนมาเนี่ย  :z3:

หนูแกสหยั่งกะนางทาสอ้ะ :a5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 9 (06/12/10)
« ตอบ #189 เมื่อ: 08-12-2010 22:58:36 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ლїЯдςLΣϛlθTtεR

  • มิราเคิ้น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +355/-3
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 9 (06/12/10)
«ตอบ #190 เมื่อ11-12-2010 21:28:34 »

ต่อเร๊ววว
ป้าต่อเร๊ว

อยากเกลียดอิคาแบลท์ต่อละ
(ย้อนกลับไปดูข้างหน้าแล้วรู้สึกว่าตัวเองเม้นว่าชอบคาแบลท์ ฮาำๆ)

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 9 (06/12/10)
«ตอบ #191 เมื่อ11-12-2010 22:40:34 »

ต่อด่วนๆๆๆๆ  :3123:

อยากรู้คาเบลท์มันจะชั่วได้ขนาดไหน

ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #192 เมื่อ12-12-2010 15:42:47 »

   

           ผมเปลี่ยนไปทำงานที่สำนักงานกฎหมายเฟนวิคแอน์เวสต์หลังจากที่ว่างงานอยู่ราวๆสองเดือน นั่นเป็นช่วงสองเดือนที่ผมมีความสุขมากๆถ้าไม่นับเรื่องแกสที่มีส่วนถึงหนึ่งเดือน แต่จะว่าไปเรื่องแกสก็ไม่ได้แย่มากนักหรอกนะ ผมได้ทั้งเซกส์ ประหยัดเงินค่าอาหาร ค่าเหล้า เบียร์ แถมยังมีคนทำความสะอาดให้ฟรีๆอีก


      อันที่จริงผมรู้ว่าผมเกลียดการเป็นนักกฎหมายแค่ไหน แต่ก่อนการเป็นนักกฎหมายที่ผมเคยคิดนั้นไม่เคยมีภาพของการนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่ในสำนักงานที่ไร้ชีวิตชีว่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ห้อมล้อมด้วยกลุ่มคนที่โคตรน่าเบื่อืและต้องทำงานที่แสนจะไร้สาระ แต่โชคร้ายและไอ้ที่ผมว่ามาทั้งหมดนี้เป็นงานที่นักกฎหมายต้องทำ เมื่อคุณมีอาชีพเป็นนักกฎหมาย งานของคุณคือการจัดการปัญหายุ่งยากให้คนอื่น ประทับตรายางเพื่อให้งานของใครซักคนถูกกฎหมาย และที่สำคัญเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินให้แก่คนที่มัวแต่ไปทำเรื่องอื่นๆที่เขาคิดว่าสำคัญกว่า คนที่ทำงานให้กับยาฮู คิสโก และเน็ตวิคโซลูชั่น(พวกนี้เป็นลูกค้าของสำนักงานที่ผมทำอยู่ทั้งนั้น) ต่างก็ได้อะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน ส่วนผมน่ะเหรอ?ต้องมานั่งทำอะไรไม่รู้ที่แสนจะปัญญาอ่อน ไร้สาระและเฮงซวยที่สุดโยเฉพาะที่นี่



      เวลาที่ผมเบื่อหรือเซ็งจัดๆผมจะงุ่นง่านเหมือนลิงลงแดงจนกว่าจะหาอะไรที่ผมทำแล้วรู้สึกดีขึ้นได้ ตอนนี้ในสำนักงานกฎหมายทำให้ผมเบื่อสุดๆ คุณว่าผมควรทำไงดี? อดทนกับความเบื่อหน่ายต่อไป หรือใช้พลังงานแห่งความสร้างสรรค์ที่ผมมี? เปล่าเลย ผมไม่ได้ทำอะไรที่ว่ามานั่นซักอย่าง ผมเลือกที่จะเมาหัวราน้ำและทำตัวงี่เง่าไปวันๆ(ตอนนั้นผมโทษความสบายช่วงสองเดือนที่ว่างงาน ทำให้ผมเคยตัวกับความรื่นเริง) ผมเมามันทุกวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานที่มีเหล้าให้กินฟรี ในตอนนั้นผมมีหลักการว่า ถ้าการเป็นนักกฎหมายที่นี่มันไม่น่าสนใจ ผมจะทำให้มันน่าสนใจเอง!



      วันศุกร์แรกที่ผมอยู่ที่นั่น สำนักงานมีการจัดประชุมเพื่อวางแนวทางความร่วมมือทางธุรกิจในช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึง แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาผมกับรูมเมท(คาลอสเป็นทั้งรูมเมทและเพื่อนร่วมงานที่นั่นของผม)ไปร่วมงานเปิดตัวนิตยสารโซม่าที่ซานฟรานซิสโกมา แน่นอนผมเมาสุดๆแถมยังหิ้วนางแบบในงานนั้นไปนอนด้วยอีกต่างหาก เช้าวันศุกร์ผมตื่นขึ้นมาในตอนหกโมงเช้าและพบว่าตัวเองนอนอยู่ที่บ้านของแม่สาวคนนั้นที่โอ๊คแลนด์ ผมรู้ตัวทันทีว่าเมื่อคืนผมทำอะไรไม่ได้คิดถึงอนาคตเลย ก็โอ๊คแลนด์กับที่ทำงานของผมมันอยู่ใกล้ๆกันซะที่ไหนล่ะ แถมผมต้องไปถึงที่ทำงานตอนเก้าโมงเช้าเพื่อเข้าประชุมด้วย



      สิ่งแรกที่ผมทำคือ ค้นกระเป๋าถือของเธอ ซึ่งนอกจากจะเจอถุงยางเพียบแล้ว แล้วก็ยังเจอใบขับขี่ของเธอ ซึ่งทำให้ผมรู้จักชื่อของเธอในที่สุด จากนั้นผมก็ปลุกเธอ เธอบอกผมว่าเมื่อคืนเธอขับรถมาให้ผม แต่เธอขับไปที่พักผมที่เม้าเทนวิวไม่ไหว แล้วเธอก็มีธุระที่ไหนซักแห่งตอนสิบโมงด้วย นั่นก็หมายความว่าผมจะต้องใส่ชุดไปเที่ยวเมื่อคืนไปทำงาน มันก็ไม่เลวร้ายหรอกถ้าไม่นับคราบเหล้า อ้วก แล้วก็ฉี่ (เป็นไปได้ว่าอาจจะมีคราบของเหลวอื่นๆอีกด้วย)



       คืนนั้นระหว่างทางเราแวะเข้าไปในร้านแจ็คอินเดอะบ็อกซ์ คุณไม่ต้องถามผมหรอกนะว่าอาหารขยะที่เธอกินเข้าไปนั้นมันทำให้หุ่นเธอแห้งเป็นหุ่นไล่กาได้ยังไง ผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ แต่ถ้าให้ผมเดานะ เธอคงเป็นประเภทที่กินอะไรเข้าไปแล้วก็ล้วงคอให้อ้วกเพื่อรักษาหุ่นน่ะ



       ตอนที่จอดรถ เหล้าที่ผมดื่มมาในระดับน่าจะตายได้ทำให้ผมอยู่ในสภาพเมาเละ ผมโซเซลงจากรถของเธอไปหลังพุ่มไม้ แล้วก็อ้วกและฉี่ไปพร้อมๆกัน ลองคิดดูว่าลำพังการบังคับไม่ให้อ้วกเลอะตัวเองเวลาเมามันยากขนาดไหน แล้วนี่ผมต้องทำมันไปพร้อมๆกับฉี่ แน่ล่ะมันเลอะตัวเองแหงๆอยู่แล้ว ตอนนั้นผมแก้ปัญหาโดยการใช้ที่ดับกลิ่นปากและซ่อนคราบฉี่ไว้จนมันแห้ง แถมแม่นางแบบนั่นยังยอมให้ผมสอยอยู่อีกต่างหาก ผมแน่มั้ยล่ะ






      ในที่สุดผมก็มาถึงที่ประชุมด้วยสภาพเมาค้าง ตาแดงก่ำ กลิ่นตัวเหม็นเหมือนขยะ แต่ถึงอย่างนั้นก็เหอะ ผมก็ประคองตัวรอดมาได้จนพักเที่ยง ช่วงบ่ายบริษัทให้เราจับคู่กับพันธมิตรทางธุรกิจจากนั้นก็ให้แนะนำถึงสิ่งต่างๆของกันและกัน  เพื่อที่จะมานำเสนอให้ที่ประชุมรู้ว่าเราได้ข้อมูลอะไรมาบ้าง เมื่อจับคู่เสร็จผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับไอ้คนที่เป็นคู่ผมดี ผมเลยบอกเขาไปว่า เมื่อคืนผมออกไปเที่ยวมาทั้งคืน ทำให้วันนี้ผมมองไม่เห็นอะไรเลย เพราะคอนแทคเลนส์ของผมหล่นหายไประหว่างที่พยายามจีบสาวๆอยู่ แล้วเขาก็ดันทะลึ่งลุกขึ้นประกาศเรื่องนี้ให้ทุกๆคนฟัง ผมก็ว่ามันตลกดี แต่เจ้านายผมไม่ยักขำ ไอ้เวรเอ๊ย! กูโปรงานอยู่...



      สัปดาห์ต่อมา จอร์ช คาโนวา เจ้านายของผมมาที่ห้องทำงานที่ผมซึ่งมีเด็กฝึกงานอีกสองสามคนนั่งตกลงงานกับผมอยู่ เขาพล่ามอะไรให้เราฟังเยอะแยะ แต่ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับเวบบอร์ดกรีดี้แอสโซซิเอท และเขาแทบไม่เชื่อว่าค่าจ้างสำหรับพวกโปรงานและเด็กฝึกงานของสำนักงานเฟนวิคจะขึ้นได้เร็วขนาดนี้ และสิ่งเหล่านี้ทำให้การทำสิ่งต่างๆของสำนักงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ผมจะสรุปเรื่องสำคัญๆให้ฟังแล้วกัน



      ในช่วงใบไม้ผลิที่ผ่านมา สำนักงานเฟนวิคเพิ่งจะประกาศว่าจะจ่ายค่าจ้างเด็กฝึกงานอาทิตย์ละแค่ 2,100เหรียญและค่าจ้างคนโปรงานแค่ 5,000 เหรียญ ซึ่งต่ำกว่าสำนักงานส่วนใหญ่ในนิวยอร์ค ลอสแอนเจลลิชและชิคาโก ซึ่งให้อาทิตย์ละ 2,400 และ 5,500 เหรียญ เท่ากับสำนักงานในเมืองใหญ่อื่นๆ



      แล้วไอ้เรื่องที่ว่ามันสำคัญยังไงล่ะ ผมนี่แหละที่มีส่วนอย่างมากในการทำให้สำนักงานเฟนวิคและสำนักงานอื่นๆในซิลิคอนวัลเลย์เพิ่มค่าจ้างเท่ากับสำนักงานส่วนใหญ่ คุณสงสัยล่ะสิว่ามันเป็นไปได้ยังไง ผมต้องยกความดีความชอบให้กับอินเตอร์เนทและอิทธิพลของเวบ infirmation.com



      Information.com เป็นเว็บไซด์เกี่ยวกับอาชีพนักกฎหมาย นอกจากนั้นในเว็บไซด์ยังมีเวบบอร์ดที่ใครจะเข้าไปฝากข้อความไว้ก็ได้ เว็บบอร์ดจะแบ่งเป็นหลายกระดานตามเขตต่างๆเช่นนิวยอร์ค ซิลิคอนวัลเลย์ ชิคาโกและที่อื่นๆ เว็บบอร์ดเหล่านี้เรียกว่ากรีดี้แอสโซซิเอชั่น ซึ่งเป็นช่องทางที่สำนักงานต่างๆ จะเข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับค่าจ้าง สวัสดิการ เงื่อนไขในการจ้างงานฯลฯ โดยไม่ต้องเปิดเผยชื่อจริง เหตุการณ์ที่เป็นตัวจุดชนวนเกิดขึ้นเมื่อกุลเดอสันซึ่งเป็นสำนักงานเล็กๆในแถบซิลิคอนวัลเลย์ ขึ้นเงินเดือนเด็กฝึกงานของสำนักงานตนเองจากเดือนละ 10,000 เหรียญเป็นเดือนละ 12,500 เหรียญส่วนของพวกโปรงานก็อีกเท่าตัวของเด็กฝึกงาน แล้วนำข้อมูลดังกล่าวมาเผยแพร่ไว้บนเว็บบอร์ด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเด็กฝึกงานและพวกโปรงานแบบผมก็มาแลกเปลี่ยน ข้อมูลเกี่ยวกับผลประโยชน์ต่างๆของสำนักงานของตนผ่านเว็บบอร์ดกรีดี้แอสโซซิเอชั่น



       เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หุ้นส่วนของสำนักงานใหญ่ๆให้ความสนใจกับเว็บบอรืดนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่ามีข่าวซุบซิบอะไรเกี่ยวกับสำนักงานของตนหรือคู่แข่งหรือไม่ พวกเขาไม่อยากตกข่าว เพราะสมติว่าหากสำนักงานเอ มีการเปลี่ยนแปลงการให้ผลประโยชน์ อาจทำให้นักกฎหมายและพนักงานกับเด็กฝึกงานไหลไปอยู่กับสำนักงานนั้นแทน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าสำนักงานบี อาจจะต้องเสียบุคลากรไป



      แล้วไอ้เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ? ในตอนนั้นสำนักงานในนิวยอร์คประกาศออกมาว่าจะให้ค่าจ้าง 5,500และ 2,400 เหรียญสำหรับเด็กฝึกงาน พวกเราทุกคนต่างก็ตั้งตารอให้สำนักงานในซิลิคอนวัลเลย์ประกาศบ้าง(ตอนนั้นสำนักงานเฟนวิคมีคู่แข่งสำคัญๆอยู่ 3 รายคือ คูเลย์ วิลสัน และโบรแบ็ค) เฟนวิคเป็นสำนักงานแรกที่ประกาศออกมาว่าจะจ่ายแค่ 2,100 และ 5,000 เหรียญเท่านั้น


      ผมเซ็งสุดๆ ผมเลยรีบเอาข้อมูลนี้ไปตั้งกระทู้ในเว็บบอร์ดเขตซิลิคอนวัลเลย์ของเวบ information ทันทีแล้วใช้นามแฝงอีก 4-5 ชื่อเข้าไปปั่นกระทู้ว่าการตัดสินในของเฟนวิคมันเฮงซวย กดขี่ข่มเหงแค่ไหน ใครจะไปยอมรับข้อเสนอถูกๆของมันได้ฯลฯ นอกจากนั้นผมยังใช้ชื่ออื่นๆเข้ามาเล่นบทฝ่ายตรงข้ามอีกเพื่อความแนบเนียน วันแรกที่มีคนเข้ามาตอบกระทู้ราว 20 นั้นเป็นของผมเสียเอง 10 ผมยังปฏิบัติการของผมต่อไปอีก 3 วันโดยให้ความถี่น้อยลงนิดหน่อย


      หลังจากที่เฟนวิคประกาศนโยบายมาได้อาทิตย์หนึ่ง กระทู้ที่ผมตั้งกลายเป็นกระทู้ฮอตจนทำให้วิลสันตัดสินใจประกาศว่าจะจ่ายค่าจ้างให้ 5,500 และ2,400สำหรับเด็กฝึกงาน ทำให้สำนักงานอื่นๆในซิลิคอนวัลเลย์ตัดสินใจอย่างรวดเร็วรวมทั้งเฟนวิคด้วย


     เอาล่ะกลับมาที่เรื่องของเรากันดีกว่า และแล้วผมก็มานั่งอยู่ที่นี่ ฟังผู้รับผิดชอบในการจ้างพนักงานของสำนักงานกฎหมายรายใหญ่ในซิลิคอนวัลเลย์เล่าให้ฟังเรื่องกระทู้ที่ผมเป็นคนปั่นเองเพื่อให้ได้ค่าจ้างที่ผมพอใจ
“ตอนแรกผมก็ไม่คิดหรอกนะว่าพอประกาศจะจ่ายอาทิตย์ละ2,100 และ5,000เหรียญเว็บบอร์ดนั่นแทบจะระเบิด แล้วสำนักงานอื่นๆก็แห่กันเพิ่งค่าจ้างกันหมด เรื่องมันเป็นอย่างนี้แหละ” จอร์ชสรุป


     ให้ตายเหอะ!ตลอดเวลาที่ผมนั่งฟังเขาพูด ผมให้ความพยายามทั้งหมดให้การกลั้นขำหัวเราะ และคิดในใจว่า”ไอ้ความเอ๊ย กูนี่แหละเป็นคนปั่นกระทู้เอง”



     หลังจากนั้นจอห๋ชก็ขอคุยกับคมเป็นการส่วนตัว เขาพาผมเข้าไปในห้องประชุมสองต่อสอง แล้วก็เริ่มตักเตือนผมเกี่ยวกับชื่อเสียงของผม ด้านไหนน่ะเหรอ? ก็ด้านความเป็น “พ่อหนุ่มเจ้าสำราญ” ในหมู่พนักงานด้วยกันไง ซึ่งผมไม่ได้รู้สึกแย่หรอกนะที่มีชื่อเสียงด้านนี้ ที่ผมทำตัวอย่างนั้นไม่ใช่ผมไม่ชอบหรอกนะที่ได้เงินอาทิตย์ละห้าพันห้าร้อยเหรียญ แต่ผมเกลียดการเป็นนักกฎหมายก็เท่านั้นเอง เขาพยายามทำให้ให้สนทนาดูไม่สลักสำคัญอะไรและเตือนแบบอ้อมๆ แต่ผมไม่ใช่พวกที่ตีความคำเตือนอ้อมๆเก่งกาจอะไรหรอก และถึงผมจะตีความออกมันก็เรื่องอะไรล่ะที่ผมต้องเชื่อเขา



      สองสามวันต่อมาผมยังคงทำตัวงี่เง่าอีกสอสามเรื่อง แต่ผมจำรายละเอียดไม่ได้หรอกนะ เพราะไอ้เรื่องที่ผมทำน่ะ สมองผมไม่ได้คิดว่าเป็นเหตุการณ์สลักสำลัญอะไร แต่คนอื่นๆกลับมองว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ เช่นมีวันหนึ่ง ผมนั่งโทรศัพย์อยู่ในสำนักงาน จู่ๆก็มีเจ้าหน้าที่สรรหาพนักงานใหม่เข้ามาในห้องผม เธอถามผมว่าผมคุยโทรศัพท์กับใครอยู่ ผมตอบเธอว่า “อ๋อ ผมโทรไปฟังฮอตไลน์สายสยิวอยู่น่ะครับ” แน่ล่ะใครจะโทรไปจริงๆแต่แม่นี่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงแถมคิดว่ามันเป็นเรื่องบัดสีมาก



      วันต่อมาผมถูกเรียกให้ไปนั่งประชุมร่วมกับผู้ที่จะมาเป็นลูกค้า หุ้นส่วนฝ่ายบริหารและนักกฎหมายอาวุโส ลูกค้าที่ว่าไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นก็คือเด็กโง่ท่าทางเป็นลูกคุณหนูที่เพิ่งเรียนจบจากสแตนฟอร์ดมาหมาดๆ ผมก็เพิ่มรู้เหมือนกันว่าแกสเป็นจิตกรด้วย เพราะจากที่ผมรู้แค่เบื้องต้นคือเขาทำงาน(ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าตำแหน่งไหน)ในบริษัทกางเกงยีนส์ราคาแพง  นักลงทุนที่เป็นศิษย์เก่าของสแตนฟอร์ดดแนะนำว่าแกสควรจะร่วมมือกับเขา และกำหนดราคาเริ่มต้นของผลงานศิลปะของเขา ถึงแม้ผมจะเคยหักอกเขามาก่อนแต่เขากลับฟังข้อเสนอของผม ผมบอกกับเขาตรงๆว่าไม่เคยได้ยินว่าใครจะต้องการร่วมมือกับศิลปินหน้าใหม่มาก่อน นี่มันเรื่องตลกหรือเปล่า ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องอนาคตความมั่นคงในการทำงานและการขายหุ้นของเขาด้วยซ้ำ ถ้าเป็นเดวิด โบวี่(*) คงแนะนำให้เขารับข้อเสนอที่ว่าอย่างเป็นทางการแล้วขายหุ้นออกไปเพื่อให้มีคนทำงานให้เขา แต่ผมบอกให้เขาสนใจเลิกสนใจไอ้นักลงทุนนั่น เพราะมันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับศิลปะเลย แต่มันคงต้องการเข้ามาเป็นนายหน้าหรือผู้จัดการให้เขาทำงานศิลปะออกขายและแสดงมากกว่า ดังนั้นการเข้าร่วมครั้งนี้จะทำให้เขาเสียผลประโยชน์ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ข้อเสนอแบบที่ว่ามานี่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในแวดวงศิลปะ และที่สำคัญที่สุด มันเป็นข้อเสนอที่ปัญญาอ่อนสิ้นดี ผมคิดว่าการประชุมครั้งนี้กำลังไปได้สวย แต่หุ้นส่วนบริหารกลับไม่คิดอย่างนั้น เขาอดูจะไม่ชอบใจเอามากๆ ที่ผมบอกว่าข้อเสนอของนักลงทุนนั่นปัญญาอ่อน(ผมเดาว่านักลงทุนนั่นคงเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งในซิลิค่อนวัลเลย์) หลังเราประชุมเสร็จแกสพยายามเดินเข้ามาคุยแบบส่วนตัวกับผม แต่ค่อนข้างโชคดีที่ผมสามารถเลี่ยงออกมาได้ ทำให้ผมข้ามผ่านบทสนทนาที่อาจจะชวนกระอักกระอ่วนไปได้



      วันต่อมาจอร์ช คาโนวาเรียกผมเข้าไปพบในห้องทำงาน แล้วเขาก็เตือนผมเรื่องความประพฤติอีกครั้ง ผมคงไม่ต้องบอกนะว่าไม่มีใครในเฟนวิคบอกว่า จะไม่ทนกับผมอีกแล้ว อันที่จริงตอนนี้ก็ไม่มีใครทนผมแล้วแล้วล่ะ แต่เรื่องที่ตามมากลับเป็นข่าวดี นักฎหมายกับหุ้นส่วนบริหารที่ผมเข้าไปประชุมด้วยเมื่อวันก่อนบอกว่าผมทำงานดีมาก และพวกเขาก็ชอบผม แน่นอน ผมถือเอาสิ่งที่จอร์ชบอกเป็นหลักยึดว่าผมจะทำอะไรก็ได้ที่ผมอยากทำ(เพราะตราบใดก็ตามที่ผลงานของผมออกมาดี ก็ไม่มีใครมีปัญหาใช่ไหม? แต่ไม่ใช่ตอนที่ผมทำตัวแบบ คาแบลท์ ฮูแซกที่แท้จริงหรอกนะ) แล้วเขาก็ปิดท้ายว่า “ผมเห็นคุณที่ทำในเวบเอสเอฟเกิร์ลเมื่ออาทิตย์ก่อนนะ ผมว่ามันตลกดี”

      อะไรนะ! เขารู้ได้ยังไง ผมนึกในใจ จอร์ชพูดอีกว่า “เรื่องกรงหมาน่ะขำสุดๆ ขำจนผมน้ำตาไหลเลย ขนาดเมียผมมาเห็นเข้ายังว่าขำเลยคุณ แน่ละ ผมไม่อยากให้คุณเอ่ยชื่อสำนักงานเฟนวิค หรือนักเต้นระบำโป๊อ้วนๆชาวเปอร์โตริโก้ลงไปในนั้นหรอก ต่คุณรู้ไหม ว่าผมรู่ว่าคนที่เอาเรื่องไปลงน่ะคุณแน่ๆ” ผมว่าผมไม่เคยบอกใครในเฟนวิคเลยนะ ตอนนั้นผมก็เลยรู้สึกว่าตัวเองเหมือนทอม ครูซ ในเรื่องเดอะเฟริ์ม(**)เลยนะคุณ แต่ต่างกันตรงที่ผมตัดสินใจที่จะไม่สนใจต่อคำเตือนและจะเป็นตัวของตัวเองต่อไป
     

            วันศุกร์ต่อมาสำนักงานของผมมีจัดงานประมูลขึ้นที่ซิลเวอร์ราโดเรนซ์ในนาปาวัลเลย์ ผมกับคาลอสขับรถไปที่นั่นตอนบ่ายวันศุกร์เพื่อเปิดห้องพักที่โรงแรม จากนั้นก็มารวมตัวกับคนอื่นๆที่ล็อบบี้ โดยงานเลี้ยงเริ่มตอนประมาณทุ่มหนึ่ง โดยเริ่มเสิร์ฟค็อกเทลกับออเดิร์ฟก่อน พอสามทุ่มการประมูลเพื่อการกุศลก็เริ่มขึ้น ผมลงไปที่นั่นตอนหกโมงสิบห้านาที ยังไม่มีอะไรให้กิน แต่มีซุ้มเครื่องดื่มที่เพียบไปด้วยเหล้านานาชนิดอยู่หลายซุ้ม อ้อ! แต่ก็มีกุ้งค็อกเทลกับบัคลาวา(***) นิดหน่อยอาจจะพอกินได้สามสี่คน แต่นั่นก็ถือว่ายังไม่มีอาหารให้กินเป็นชิ้นเป็นอันอยู่ดี คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ คนที่จัดงานนี้ไม่เคยรู้หรือไงว่าถ้ากินเหล้าโดยไม่มีอะไรรองท้องจะเกิดอะไรขึ้น....




--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


David Bowie นักร้อง นักแสดง นักแต่งเพลงชาวอังกฤษ มีความสามารถหลากหลาย


The Firm ภาพยนตร์จากนวนิยายของจอห์น กริชแมนเป็นเรื่องเกี่ยวกับนักกฎหมายหนุ่ม(แสดงโดยทอม ครูซ)ที่เข้าไปพันพันกับความลับของสำนักงานกฎหมายที่ตัวเองทำงานอยู่


Baklava ขนมพื้นเมืองแถบคาบสมุทรบอลข่าน ทำจากแป้งคล้ายๆพาย ไส้ทำจากถั่วต่างๆบดผสมกับน้ำตาลและน้ำผึ้ง

 :pig4:


edit เพิ่มรูปคาเรกเตอร์คาแบลท์ ฮูแซก





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-12-2010 21:36:04 โดย SweetSacrifice »

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #193 เมื่อ12-12-2010 18:49:23 »

สงสัยแกสจะเป็นมาโซ

เจ็บแล้วมีความสุขตลอด  :z10:

และก็ดีใจที่ได้เห็นคาเบลท์ชั่ว

อ่ะงั้น ตูก็เป็นซาดิสต์อ่ะดิ  o22


ขอแกสอีกได้ไหม

เดี๋ยวนี้

หลงรักแกสหมดใจ  :กอด1:


ปล. ขอบคุณคุณป้า ยุ่งๆแต่ก็ยังพยายามต่อให้  :3123:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-12-2010 18:51:38 โดย ┗◎┗◎ »

ออฟไลน์ berlyn

  • Put Van The Man on the jukebox then we start to dance
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #194 เมื่อ12-12-2010 20:53:54 »

คาแบลท์ ฮูแซก นายนี่มัน ทำตัวได้คุ้มค่ากับชีวิตสุดๆ แถมรู้สึกว่าติสด้วยมั้ง...นะ

getto

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #195 เมื่อ12-12-2010 21:23:36 »

ลิงลงแดงนี่เป็นยังไง :really2:
คาแบลท์สุดยอดละ ฉี่พร้อมกับอ้วกได้ :laugh:
ตอนนี้ยาวมาก มีสาระด้วย
 :กอด1:

ออฟไลน์ ლїЯдςLΣϛlθTtεR

  • มิราเคิ้น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +355/-3
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #196 เมื่อ13-12-2010 21:48:00 »

ตอนนี้ทำไมมันฉุดอารมณ์โมโหไปไหนหมดแล้วอ่ะ
แต่คาแบลท์ก็แบดคือเก่า
แง่มๆๆ


แกสชั่งเปนคนดีศรีภรรยา
งามแท้แลตะลึง


งามเหมือนป้าเลย
คุคุ :-[

kihaezzzzzz

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #197 เมื่อ14-12-2010 19:58:46 »

เเกสน่าสงสารอย่างจริงจัง

เเกเลวมาก คาเเบลท์ 55.

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #198 เมื่อ14-12-2010 20:10:52 »

มาแบบขยักขย่อน

หงิงๆ


แกสจ๋าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา :กอด1:
คาแบลท์นี่ค่าตัวถูกมากนะ บทเยอะจริงจัง จะเอาแกสสสสสสสสสสสสสสส

(ก็มันเรื่องของคาแบลท์นี่เนอะ ชื่อเรื่องก็บอกอยู่ทนโท่ แต่ๆๆๆ นุ่นจะเอาแกสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส)

ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #199 เมื่อ15-12-2010 17:56:22 »

งานเยอะ
ดูผู้ชายแก้เครียดดีกว่า







ปล.เจอกันปีหน้าเลยนะคะ
 :z2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-12-2010 18:01:16 โดย SweetSacrifice »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
« ตอบ #199 เมื่อ: 15-12-2010 17:56:22 »





anajulia

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #200 เมื่อ15-12-2010 18:14:49 »

ปีหน้าเลยเร้ออออออออออออออออออออออออออออออคร้า?

หงิงๆ



งื้ดๆ


พี่ปุ๋ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #201 เมื่อ15-12-2010 22:14:17 »

ไหนว่าสต็อคไว้ 20 ตอน

เอามาลงดิๆๆๆๆ  :seng2ped:

ออฟไลน์ CanonDNattari

  • ☆.•:*´เชื่อในสิ่งที่เห็นและต้องการให้เป็น ¨`*:•☆
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #202 เมื่อ16-12-2010 10:21:12 »

อยากตบ คาเบลท์  :z6: :beat:

:call: มาต่อเลยนะปุ๋ยยยยยย

ปล. ได้ข่าวเพิ่งจะอ่านจบ :laugh:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #203 เมื่อ16-12-2010 11:06:52 »

คาร์แบลท์เลวได้ใจจริง ๆ  ดีแล้วที่ระยะทางทำให้ห่างจากเนท (สุดที่รักของชั้น)
ส่วนแกสไม่มีอะไรจะกล่าว  นอกจากเธอช่างมาโซสุด ๆ  โดนเขาทำถึงขนาดนั้นยังหลงรักไปได้

ออฟไลน์ ლїЯдςLΣϛlθTtεR

  • มิราเคิ้น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +355/-3
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #204 เมื่อ16-12-2010 20:31:33 »

มีสตอกอยุ่ทำไมมะอาวลงงงง

อยากอ่านต่อเด้~ :impress2:

ออฟไลน์ CanonDNattari

  • ☆.•:*´เชื่อในสิ่งที่เห็นและต้องการให้เป็น ¨`*:•☆
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 701
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #205 เมื่อ22-12-2010 10:17:46 »

 :call: จงลง :call:จงลง :call:จงลง :call:



 :laugh:

ออฟไลน์ ლїЯдςLΣϛlθTtεR

  • มิราเคิ้น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 729
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +355/-3
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #206 เมื่อ27-12-2010 20:03:38 »

PART 2~!!!









อยากอ่านแล้วอ่ะแม่,,,

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #207 เมื่อ03-01-2011 20:55:14 »


ปล.เจอกันปีหน้าเลยนะคะ
 :z2:


ข้ามปีแล้วป้าาาาา  :z13:

getto

  • บุคคลทั่วไป
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 1 (12/12/10)
«ตอบ #208 เมื่อ03-01-2011 21:21:56 »


ปล.เจอกันปีหน้าเลยนะคะ
 :z2:


ข้ามปีแล้วป้าาาาา  :z13:
ขอโคว้ท
ตามน้าน

ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
Re: ปฐมบทแบดบอย ตอนที่ 10 part 2 (06/01/11)
«ตอบ #209 เมื่อ06-01-2011 19:58:35 »



          ขณะที่งานประมูลเริ่มขึ้นนั้นผมก็เมามากแล้ว ผมเริ่มเดินไปรอบๆงานโดยมีไวน์แดงอยู่ในมือซ้ายและไวน์ขาวอยู่ในมือขวา ดวดซ้ายทีขวาที พลันสายตาผมก็เห็นร่างผอมๆผิวขาวซีดๆและหน้าตาที่ผมคุ้นเคยดี เขาโบกมือให้ผมแต่ผมแกล้งทำเป็นไม่สนใจแล้วเบี่ยงตัวหลบไปให้พ้นระยะตายตาของเขา จากนั้นก็ก้าวขาไปเรื่อยๆแล้วดวดไวน์เข้าปากหนักกว่าเดิม วิธีนี้ดูจะโง่ซักหน่อยแต่มันก็ทำให้ผมมองเห็นแกสอย่างลางๆ ในที่สุดผมก็มานั้งแหมะอยู่ที่โต๊ะข้างๆเวทีกับเพื่อนร่วมห้องของผมแล้วมีเด็กฝึกงานอีกสามสี่คน โดยที่มือสองข้างยังกำขวดไวน์แน่น



      งานประมูลครั้งนี้จัดขึ้นโดยเฉพาะสำหรับคนที่ทำงานหรือที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสำนักงาน(รวมถึงคู่แต่งงานของพวกเขา) งานนี้จึงมีจำนวนคนที่มาร่วมงานราวๆห้าร้อยคน ส่วนของที่นำมาประมูลก็มาจากสำนักงานต่างๆนั่นแหละ เช่น การที่หุ้นส่วนบริหารจะไปทำอาหารเย็นให้คุณกิน การอนุญาติให้คุณสามารถตบหัวหุ้นส่วนบริหารได้(แต่หลังจากงานประมูลแล้วผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง) หรืออาจจะเป็นเก้าอี้จากห้องทำงานของหุ้ส่วนคนไหนซักคน แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าเขาจะเอาเงินไปที่ได้ไปทำอะไรกัน บางทีอาจจะเป็นบ้านเด็กกำพร้าหญิงที่เป็นหนองในทวารหนักก็ได้ ใครจะไปรู้ล่ะคุณ การประมูลนี้มันโคตรจะปัญญาอ่อน ผมจึงนั่งดูไปพร้อมกับดวดไวน์อย่างเอาจริงเอาจัง ขณะที่ผมกำลังเมาได้ที่ของประมูลชิ้นสำคัญก็ขึ้นมาบนเวที นั่นคือการให้ จอร์ช คาโนวา นายจ้างของผมเป็นคนขับรถคาลิแล็กของเขาเองพาเที่ยวหนึ่งคืน ผมใช้สมองที่มึนด้วยฤทธิ์ของสุราตัวเองคิดว่าถ้าผมประมูลของชิ้นนี้ได้ พวกเขาจะต้องเสนอสัญญาจ้างงานให้ผมแน่ๆ คุณว่าผมเมาแค่ไหนล่ะนั่น



      ราคาประมูลเริ่มต้นจาก 50 เหรียญ จากนั้นก็ค่อยๆเพิ่มเป็น 60 80 และ 100 ตามลำดับ ผมรำคาญมากก็เลยลุกขึ้นยืนแล้วชูป้ายประมูลของผมขึ้น พอผู้ดำเนินการเห็นป้ายประมูลของผม เขาก็ตะโกนถามว่าจะให้เท่าไหร่โดยไม่สนใจผู้ประเมินคนอื่นเลย ผมตวาดให้คนอื่นๆเงียบแล้วเสนอราคา 600 เหรียญ กำลังมีอีกคนสองคนที่ทำท่าจะประมูลแข่งกับผม แต่จอห์นก็ขึ้นมาบนเวทีแล้วบอกว่า หากนักศึกษาฝึกงานหรือพวกโปรงานประมูลชนะเขาจะช่วยจ่ายครึ่งหนึ่ง ราคาที่เรียกกันก็เลยกลายเป็นเกทับกันทีละเท่าตัวเลยทีเดียว



      ราคาขึ้นไปเป็น 2000 เหรียญ ตอนนั้นผมคิดว่าถ้าเกทับอีกทีต้องชนะแน่ๆ คงไม่มีใครเรียกราคาสู้ผมแล้ว แต่แมทธิวซึ่งกำลังโปรงานเหมือนผมรู้สภาพผมดีว่าว่าผมเมาเละ และเขาเป็นพวกที่ชอบเอาชนะอย่างแรง เขาไม่ยอมหยุดและผมก็ยังไม่ยอมหยุดประมูลไม่ว่าราคาจะพุ่งสูงไปเท่าไหร่ แมทธิวมีหุ้นส่วนสองสามคนที่คอยหนุนหลังเขาอยู่ เขาก็เลยเกทับผมไปเรื่อยๆจาก 2,200   2,300  2,400…..





      พอรู้ตัวอีกทีผมก็ขึ้นไปยืนอยู่บนเวที แย่งไมโครโฟนมาจากผู้ดำเนินการประมูล แล้วตะโกนใส่แมทธิวในเชิงล้อเล่นอย่างที่ผมชอบ “เฮ้! แมทธิว นายจะป่วนฉันไปถึงไหนกันวะ นายไม่มีปัญญาจ่ายหรอกน่า ฉันต้องประมูลไอ้นี่ให้ได้ พวกเขาจะได้จ้างฉันทำงาน” พอสิ้นเสียงคนในงานก็ฮากันตรึม ผมหันไปสบตาเข้ากันแกสที่ยืนขำก้ากอยู่พอดี เขารีบหุบปากแล้วชูนิ้วให้ผมอย่างถูกใจ จริงๆแล้วผมไม่ได้อยากจะตลกหรอกนะ แต่เวลาผมกินเหล้าแล้วคุณไม่มีทางเดาถูกหรอกว่าผมจะทำอะไรได้บ้าง



       ผู้ดำเนินรายการไล่ผมลงจากเวทีอีกครั้ง ตอนนั้นราคาประมูลสูงขึ้นไปกว่า 3,000 เหรียญแล้ว ผมปีนขึ้นไปบนเวทีอีกครั้ง ยื้อไมค์จากเขาอีกครั้งแล้วตะโกนสุดเสียง “ไม่ยุติธรรมนี่หว่า นายมีหุ้นส่วนคอยหนุนหลัง ส่วนฉันมีแต่เด็กฝึกงานจนๆเป็นพวก แมทธิว ฟังนะ! ฉันสั่งให้แกหยุดเดี๋ยวนี้” แน่นอนผมเรียกเสียงฮาครืนได้อีกครั้ง
   ราคาเพิ่มขึ้นไปจนเกือบจะถึง 3,800 เหรียญ คราวนี้ผู้ดำเนินการประมูลชิงพูดขึ้นก่อน “เฮ้ ฮูแซก ขึ้นมาเลย ฉันรู้ว่าต่อให้ห้านนายยังไง นายก็ขึ้นมาอยู่ดี” เขาถามผมว่าจะเรียกราคาเพิ่มเป็น 3,900 หรือเปล่า


      พอไมค์มาอยู่ในมือ ผมก็ตะโกนต่อหน้าทุกคน “เอาสิวะ! จะสู้กูอีกมั้ย”
      เรื่องที่น่าขำก็คือทุกคนคิดว่าสิ่งที่ผมทำผมอาจจะต้องโดนไล่ออกจากงานแน่ๆ แต่ไม่ใช่เลย หลังจากนั้นหุ้นส่วนบริหารเข้ามาคุยกับผมว่าสิ่งที่ผมทำเป็นเรื่องสนุกที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยร่วมงานของสำนักงานต่างๆมา หุ้นส่วนอีกคนบอกว่าผมเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก ตลอดตืนนั้นผมกลายเป็นดาราในงานไปเลย เชื่อมั้ยล่ะ!


“คาแบลท์ คาแบลท์ คาแบลท์” แกสเรียกผมขณะที่ผมกำลังจะเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับแมทธิว ผมมองพวกเขาสองคนอย่างงงๆ



“เฮ้! ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอก ผมขอให้เขาพามาที่งานนี่เพราะรู้ว่าคุณต้องมาแน่ๆ...แล้วคุณก็มาจริงๆ ผมช่างโชคดีซะจริง” ประโยคหลังแกสเอ่ยออกมาด้วยเสียงเบาๆ


“หมายความว่าไงกัน!” แมทธิวดึงแกสไปถาม ผมเห็นว่าถึงตรงนี้มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับผมซักหน่อย ผมจึงค่อยๆพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์ที่เริ่มจะดราม่าของพวกเขาอย่างเงียบเชียบ แต่ดูเหมือนแกสผู้มีสายตาว่องไวจะไวกว่าสายตาว่องไวและสติแบบคนเมาอย่างผม เขาดึงมือผมไว้แล้วมายืนชิดอยู่ข้างๆผมแทน


“เฮ้ ปล่อยฉันเหอะ นี่มันเรื่องของพวกนาย แล้วตอนนี้ฉันก็ปวดฉี่มากด้วย นายก็รู้นี่ถ้าฉันปวดฉี่มากๆฉันจะเป็นไง” ผมบอกเขาอย่างรำคาญ


“แต่ผมไม่ได้เดทกับเขานะ คุณหายไปเพราะคิดว่าผมเดทกับเขางั้นเหรอ...ไม่นะฮูแซก เขาเป็นเพื่อนตอนมหาลัยของผม คุณเห็นผมกับเขาหลังจากคืนที่ผมทำเสื้อและกางเกงบอกรักคุณใช่ไหม? ....โอ้วไม่นะ คุณกำลังเข้าใจผิดมันไม่ได้เป็นแบบนั้น เราเจอกันโดยบังเอิญ...” แกสยังพล่ามไปเรื่อยๆตามสไตล์ของเขา ผมจึงตัดสินใจได้ไว้ไม่ว่ายังไงซะหมอนี่ก็คงยังพล่ามไม่หยุดแน่ๆ และผมก็คงยืนฉี่รดกางเกงอยู่ตรงนี้ ผมจึงตัดสินใจเดินไปเข้าห้องน้ำซะ แน่นอนเขาเดินตามผมมาแล้วยังพล่ามไปเรื่อยๆไม่หยุดปาก


“คุณช่วยจับมันไว้หน่อยได้ไหม ถ้าผมจับเองผมต้องฉี่เลอะกางเกงแน่ๆ” ผมบอกแกส เขารีบเดินเข้ามาปรนนิบัติผมอย่างดี จากนนั้นเมื่อผมเสร็จภารกิจฉี่แล้วแกสก็เริ่มพล่ามเรื่องที่เขาหลงไหลในตัวผมต่อ  คุณว่าเขาจะหยุดตอนไหน? เอาเป็นว่าตอนนี้เราออกมาจากห้องน้ำ แล้วมาเจอแมทธิวยืนนิ่งอยู่หน้าห้องน้ำตอนนั้นเขาก็ยังไม่หยุด แล้วมองไม่เห็นแมทธิวที่กำลังง้างมือชกกำแพงอยู่แน่ๆ


“แกส!” แมทธิวตวาดเรียกเขา ขณะที่เขาเดินตามผมต้อยๆผ่านหน้าแมทธิว  


“อะไรเหรอ” เขาหยุดแล้วหันไปมองแมทธิว โดยที่มือเขากระชากมือผมให้หันไปตามเขาด้วย แน่ล่ะคุณ สติแบบคนเมาที่แม้แต่จะเดินยังเดินไม่ค่อยได้อย่างผมย่อมไปตามแรงแบบมีสติแบบแกสอยู่แล้วล่ะ


“คุณทำแบบนี้กับผมได้ยังไง” แมทธิวเริ่มบทละครน้ำเน่า ผมคิดว่าต่อให้ผมต้องคลานกลับไปยังไงซะผมขอไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกนี้ดีกว่า ผมเริ่มแกะมือแกสออกจากมือผมแล้วพยายามเดินออกมาจากตรงนั้น แต่ยิ่งแกะแกสก็ยิ่งกระชับมือให้แน่นยิ่งขึ้น


“ผมไม่ได้ทำอะไร ผมรักคาแบลท์” แกสบอก


“คาแบลท์” แมทธิวเรียกผมแล้วยิ้มล้อๆด้วยสายตาแบบคนขี้อิจฉา


“ฉันไม่เกี่ยวกับเรื่องของพวกนายโว้ย” ผมชิงบอก


“เฮ้ นายรู้แล้วใช่ไหมว่าหมอนี่เป็นคนฝรั่งเศสน่ะ” แมทธิวเปิดเกมส์


“เฮ้ย! คุณเป็นฝรั่งเศสจริงเหรอ” ผมถามด้วยความตกใจ


“พ่อแม่ผมเป้นคนฝรั่งเศส แต่ผมย้ายมาอยู่ที่นี่ แล้วเราก็มีธุรกิจที่นี่ด้วย” แกสตอบผม ผมรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดของผมแล้วสะบัดมือเขาออกทันที


“ไอ้เวรเอ้ย ฉันเหม็นกลิ่นฝรั่งเศสจากนายนี่เอง ไอ้เราก็นึกว่ามีฝรั่งเศสคนอื่นอยุ่แถวนี้ งี้ถ้าฉันพูดเยอรมันใส่นายซะตั้งแต่แรกนายก็คงรีบแจ้นไปนานแล้วใช่ไหม พวกฝรั่งเศสอย่างคุณน่ะไม่ควรได้รับความขอบคุณแม้แต่นิดเดียว คุณมันก็ไอ้ตะเภาเดียวกันกับบรรพบุรุษคุณนั่นแหละ” เลือดเกลียดฝรั่งเศษของผมขึ้นหน้าทันที


“แต่คุณก็มีชื่อแบบฝรั่งเศสนี่” แกสงึมงัมเบาๆ


“หุบปากน่า! นั่นคือสิ่งเดียวที่ฉันเกลียดในตัวฉัน เพราะไอ้ชื่อฝรั่งเศสเฮงซวยนี่ไงล่ะ เอาล่ะ ถอยๆไปซะ ฉันเหม็นขี้หน้าแกเกินทนแล้วไอ้ฝรั่งเศส ไอ้กร๊วก” ผมปัดมือไล่แกสขณะที่เขากำลังเดินตามผมมาด้วยน้ำตาที่นองหน้า หลังจากนั้นผมก็ไม่รู้หรอกว่าแกสเป็นยังไงต่อ เขาจะคุกเข่าร้องไห้อยู่หน้าห้องน้ำ หรือเดินไปร้องไห้ไปขณะกลับบ้าน หรืออาจจะถูกแมทธิวลากไปข่มขืนที่ไหน....? ผมจะรู้ได้ยังไงล่ะคุณ มันไม่ใช่เรื่องของผมซักหน่อย




      สุดท้ายผมก็กลับไปที่โรงแรม แล้วไปที่ห้องสวีทของใครซักคนซึ่งทุกคนรวมตัวอยู่ที่นั่น มีทั้งเด็กฝึกงาน นักกฎหมายฝึกหัด นักกฎหมาย พวกเรานั่งเล่นโป๊กเกอร์ ดื่มเหล้ากันแล้วก็นั่งคุยกัน ความทรงจำแจ่มชัดสุดท้ายที่ผมจำได้ก่อนจะวูบไปก็คือ ผมบอกให้เด็กฝึกงานคนหนึ่งเกทับนักกฎหมายอีกคน เพราะไอ้หมอนั่นลักไก่ เช้าวันรุ่งขึ้น คาลอสบอกผมว่า ผมพยายามจะนอนกับเด็กฝึกงานคนนึง แต่ทั้งหมดที่ผมทำได้คือหมดสติไปบนตัวเธอเท่านั้น...




---------------------------------------------------

หายไปน๊านนานเน๊อะ

ด่ามันเล้ย!

 :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด