@@@writer's talk@@@
อ้าว จุนจังมีแฟนแล้วอีกตั่งหาก
ทำไม
สถานการณ์แย่ขนาดนี้เนี้ย มีพันธทั้งคู่เลยอ่ะ 
แล้วจะทำไงต่อดีล่ะยังไม่มีใครรู้สึกตัวทั้งคู่เลยด้วย
p.s กว่าจะได้คิสยากจริงๆด้วย จูบทีเดียวหนีไป12ปีเลยอ่ะ
หุหุ เป็นเรื่องอดีตนมนานกาเลของสองหนุ่มค่ะ แหม คิส แล้วทิ้ง มีที่ไหน โชคชะตานำพากลับมาเจอกัน
มีพันธะกันอีกทั้งคู่แบบนี้...เรื่องจะเป็นยังไงต่อไปก็ต้องติดตามนะคะ หุหุ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ค่ะ เป็นกำลังใจได้มากจริงๆ
################
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ในตอนสายของวันอาทิตย์ ช่วยเรียกให้ชายหนุ่มผมยาวหันมาสนใจเครืองมือสื่อสารแทนที่จะเป็น จอ โทรทัศน์ตรงหน้า
" อ้าว ว่าไง? "ชายหนุ่มที่กำลังง่วนอยู่กับหนังสือในมือรับโทรศัพท์แทบไม่ทัน
"เอ่อ...วันนี้หยุดรึเปล่า ? " เสียงที่คุ้นเคยของเจ้าบ่าวหนุ่มที่ถามมานั้น ฟังดูไม่แน่ใจซักเท่าไรนัก
" อื้อ อยู่ที่ห้องน่ะ มีอะไรรึเปล่า? "
"พอดีตอนนี้อยู่หน้าอพาร์ตเม้นท์นายน่ะ มาตามนามบัตร... เปิดประตูข้างล่างให้หน่อยได้ไหม... " เพราะว่าไม่รู้เบอร์ห้อง รู้เพียงแค่เบอร์โทรศัพท์มือถือ ทำให้ ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลต้องเลือกวิธีนี้แทน ในการติดต่อ
" อื้อ " ชายหนุ่มรับคำก่อนจะรีบเปิดประตูห้อง บานประตูที่เปิดออกมาให้เห็นทำให้ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ยิ้มพลางโบกมือให้อีกฝ่ายเห็นจากข้างล่าง
"เดี๋ยวจะขึ้นไปละกัน " ชายหนุ่มตะโกนบอก ก่อนจะเดินขึ้นไปข้างบน "มากวนหรือเปล่า... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลว่าพลาง มองหน้าเจ้าของห้อง
เมื่อเดินขึ้นมาตามบันได ห้องพักของจุนอยู่ทีี่ชั้นสาม หันหน้าออกมาที่ระเบียง ประตูด้านล่างเป็นระบบเปิดล็อคจากในตัวห้อง การรักษาความปลอดภัยของที่นี้ไม่ได้จัดว่าดีเยี่ยมเพราะบางทีก็มีคนสวมรอยเดินเข้ามาพร้อมกับเจ้าของห้องคนอื่นๆ...แต่ก็คงดีกว่าไม่มีอะไรเลย
" เปล่า ไม่ไดกวนหรอก เข้ามาสิ " เจขยับให้อีฝ่ายเข้ามาในห้องก่อนจะถาม " กินอะไรมารึยัง? "
"ยังเลย..." คิโยโนบุ ตอบพลางยิ้ม ก่อนจะ ยกถุงที่หิ้วมาให้อีกฝ่ายดู
"อันที่จริง วันนี้ มีโจทย์ชิ้นที่สองมาให้ เห็นว่ามันสวยดี ก็เลยอยากให้นายดูเร็วๆ ก็เลยรีบตรงมานี่เลย "
จานกระเบื้องเคลือบสองใบถูกวางบนโต๊ะอย่างทะนุถนอม แน่นอนว่ามันราคาแพงมากเลยทีเดียว ใบหนึ่งลักษณะคล้ายจะเป็นถ้วยน้ำชา มากเสียกว่าจะเป็นจาน ด้วยขอบที่ยกสูง ขึ้น สีม่วงอ่อน กับการวาดลายดอกฟูจิ ดูอ่อนช้อย ทำให้นึกถึงช่วงก่อนหน้าร้อน ที่บ้านเกิดที่จะได้กลิ่น ดอกฟูจิหอมระรื่น มาเสมอเวลา ที่ วิ่งผ่าน ด้านหลังของโรงเรียน อีกใบหนึ่งเป็นจานใบเล็กๆ น่าจะเหมาะสำหรับวาง ของว่าง ที่เข้าคู่กันกับ ถ้วยน้ำชาใบแรก
"คิดว่าไง.. " คนกำลังจะเป็นเจ้าบ่าวยิ้ม
" ขนม... ต้องขนมสิ "ดวงตารีมองจานกับถ้วย " ถ้วยน้ำชา .. ให้เป็นชาเขียวกลิ่นผลไม้ที่เข้ากับ อะไรดีล่ะ เค้ก? "
"ชาเขียวแบบดั้งเดิมดีกว่าไหม.... เอาใจผู้ใหญ่เขาน่ะ " คิโยโนบุถามกลับ "แต่เรื่องเค้ก.....อืม...เค้กงานแต่งก็ต้องได้กินกันอยู่แล้ว... จัดไว้ท้ายสุดเลยเป็นไง " มือเรียวคว้าถ้วยชามา ดู
"คิดถึงที่โรงเรียนเหมือนกันนะ... เห็นดอกฟูจิแบบนี้...นายกลับไปที่บ้านบ่อยไหม "
" ไม่ค่อยได้กลับหรอก งานยุ่ง เอ่อ เรื่องชากับขนมน่ะ ลองดูก็แล้วกัน นายตั้งโจทย์เองนะ ไหนๆ จะ fusion แล้วนี่ก็เอาให้มันสุดๆเลยแล้วกัน "หนุ่มผมยาวเอาหนังยางที่ข้อมือมารวบผมตนเอง แล้วเดินเข้าไปในครัว ที่มีของค่อนข้างพร้อมสำหรับทำอาหารแต่สำหรับทำขนมแล้วเขาเองก็ไม่แน่ใจ
"เหรอ...จะแปลกไหมนะ ถ้าจะบอกว่า ตั้งแต่ เจอนายเนี่ย ฉันชอบคิด
เรื่องเก่าๆเรื่อย" ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลว่า พลาง ขยับเอนตัวลงพิงพนักเก้าอี้ เพื่อมอง ท่าทางของอีกฝ่ายที่อยู่ในครัวได้อย่างถนัดตา มันยังน่าเหลือเชื่ออย่ดีที่เด็กหนุ่มท่าทางเอาแต่เที่ยวแะลเกเกเรคนนั้น จะกลายเป็น เชฟที่ดูเอาจริงเอาจังคนนี้ไปได้
" เฮ้ย ดูเหมือนต้องไปซื้อของเพียบเลยว่ะ "เจหันมาทางคนที่นั่งสบายอารมณ์
"งั้นไปซื้อกันไหมล่ะ ฉันจะได้ดูราคาของด้วย ...คนจ่ายตังค์เขาจะได้ไม่ด่าฉันมากนักถ้ามันไม่เกินงบที่ตั้งไว้" คำพูดนั้นเหมือนจะตลกแต่เป็นการ เหน็บแนมตัวเองเสียมากกว่าที่ต้องให้ ผู้ใหญ่ทั้งหลาย มาจัดการเรื่องงานแต่งงาน
" งั้นรอแป๊บ " เจว่าก่อนจะถอดเสื้อยืดที่สวมอยู่ออก
"อื้ม.... " ชายหนุ่มรับคำเบาๆ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมองร่างของ ชายหนุ่มร่างสูง พลาง หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อนึกเปรียบเทียบ กับ ตัวเขาเองในตอนนี้ แม้จะเป็น ครูสอนวิชาพละ แต่ตัวเขากลับไม่ค่อยจะมีกล้ามเนื้อแบบที่ชายหนุ่มยาวมีซักเท่าไร "นี่ใครเป็นครูสอนพละ ใครเป็นพ่อครัวกันแน่เนี่ย ... "
" หืม? " เชฟหนุ่มหันมาแบบงงๆ
"เปล่า.. ก็แค่อิจฉานาย... หุ่นดูดีทีเดียว... " ว่าที่เจ้าบ่าวว่าพลางก็หรี่ตามอง ทำท่ามีเลศนัย เป็นเชิงหยอกล้อ ร่างสูงยิ้มรับคำนั้น แล้วเดินมาอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย
" พ่อครัวไม่ได้ใช่งานสบายๆนี่ครับ อาจารย์ แบกกระสอบข้าวเอย อะไรเอย ผมก็ต้องทำทั้งนั้นล่ะ "
"อ้อ..ขอโทษที ไอ้เรามันก็มองจากฝั่งคนกินตลอด เห็นยิ้มเพล่มาเรื่อย เหมือนไม่เหนื่อย "คิโยโนบุตอบพลางยิ้ม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง
" ไปเถอะ เดี๋ยวอดกินขนม "เจดึงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น
"พูดเหมือนเป็นเด็กๆกันอยู่ได้นะ..." คิโยโนบุว่าพลางลุกขึ้นตามแรงดึงนั้น สัมผัสแกร่งบนท่อนแขนนั้นทำให้อดที่จะยิ้มไม่ได้ "
เมื่อก่อนนายก็ชอบดึงแบบนี้ "
" ไปได้ยัง ชอบพูดเรื่องเก่าอยู่เรื่อย "ชายหนุ่มตัดบทแล้วเดินนำอีกฝ่ายออกไปนอกห้อง
"เหรอ..โทษทีนะที่ทำให้นายหน้าแดง.. " น่าแปลกที่ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลจะทายความรู้สึกของอีกฝ่ายออกว่ากำลังเขิน
" ไปได้แล้ว โว้ย "
"เอ...หรือว่าที่พูดตัดบทฉันตั้งแต่เมื่อกี้นี่เขินมาตลอดเลยเหรอ... " ชายหุ่มผมสีน้ำตาลรีบเดินตามไปให้ทันคนที่เดินนำหน้าไป
.........................
ซุปเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆกับอพาร์ตเมนต์ของเชฟหนุ่มคือที่หมายของพวกเขา เจหยิบเอาโพยวัตถุดิบที่ต้องซื้อออกมาแล้วยื่นให้อีกฝ่าย
" เอา ตามนี้ "
"โห...จุน...ฉัน...ไม่แน่ใจว่าจะแปลหมดนี่ออก " มือเรียวคว้าแขนของอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดืนไปไหน เพราะเขา ไม่คิดว่า จะอ่านลายมือของอีกฝ่ายที่เขียนเป็นภาษาอังกฤษเอาไว้ออก...และถึงจะอ่านออก ก็คงจะแปลความหมายไม่รู้เรื่องอยู่ดี
" หืม อ้าว อ๋อ ภาษาอังกฤษนิ โทษนะ มันชินน่ะ เชฟใหญ่เขาเป็นฝรั่ง เลยเขียนภาษาอังกฤษง่ายกว่า "เจรับเอาโพยนั้นมาแล้วเดินนำอีกฝ่ายที่เข็นรถเข็นตามมา
จะว่าไปโรงแรมที่จุนทำงานอยู่นั้นก็ออกจะเป็นโรงแรมที่แปลกไม่น้อย เพราะทำอาหารออกมาแทบจะทุกสัญชาติ และมีเชฟใหญ่เป็นชาวต่างชาติตัวอ้วนกลม ที่ชื่นชอบการใส่ชุดพ่อครัวแบบญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก การทำงานแม้จะเป็นแบบฝรั่งแต่เสื้อผ้ากลับเป็นแบบญี่ปุ่น บางครั้งก็จะมีเสียงบ่นๆจากพ่อครัวอาหารจีนมาบ้างเพราะเวลาจะจับกระทะก็ไม่มีแขนเสื้อช่วยจับตามเคยชิน ใช่ว่าเสื้อผ้าแบบญี่ปุ่นจะเหมาะกับการทำอาหารทุกชนิด
"เดี๋ยวนี้ นอกจากจะทำกับข้าวเก่งยังเก่งภาษาอังกฤษอีก...เท่ห์จริงๆเล้ยเพื่อนเรา" เสียงคนเดินตามหัวเราะออกมาเบาๆ
" แป้งเค้กนะ เอายี่ห้อนี้ แล้วก็ ชาเขียว "เจชี้ไปที่แผนกวัตถุดิบเบเกอรี่
"อื้ม..."คิโยโนบุรับคำพลาง เดินไปหยิบของมาตามที่อีกฝ่ายว่า อดนึกในใจไม่ได้ว่าถูกตัดบทอีกแล้วหรือเปล่า
" แล้วก็ ลูกพลับแห้ง "ชายหนุ่มก้มๆเงยๆ เลือกผลไม้แห้งด้วยตนเอง
"อืมมม.... "ส่วนคนที่คอยเดินเข็นรถตาม ได้แต่มอง วัตถุดิบ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พลางพยายามจินตนาการรสชาตและสีสันที่น่าจะเป็นไป
"อร่อยแน่เลย " คิโยโนบุว่าพลาง จับวัตถุดิบต่างๆ ให้อยู่เป็นระเยียบ "ใช่ไหม "
" กินแล้วนายก็ได้คำตอบเองแหละว่า อร่อย หรือ เอาไปทิ้ง ฮะ ฮะ "เจพูดติดตลก
"ก็เห็นไหมละว่าฉันกินหมดทุกที... "
" นายกินได้ก็ไม่ได้แปลว่าทุกคนกินได้ซักหน่อย ใช่ปะ? ที่งานผู้ใหญ่เยอะนี่ " ชายหนุ่มขมวดคิ้ว " อื้อ รสชาติแบบผู้ใหญ่ๆ "ว่าแล้วก็เดินไปหาวัตถุดิบเพิ่ม
…………………………….
ข้าวของมากมายถูกทั้งสองคนช่วยกันหิ้วและมามันกลับมายังอพาร์ตเมนต์ของเชฟหนุ่ม
" ฟู่~ " มือแกร่งปัดกันไปมาแล้วขยับต้นคอเพื่อคลายความเมื่อย
"มากวนจริงๆด้วยซิ่นะ " คิโยโนบุพูดพลาง ค่อยๆหยิบของออกจากถุง "วันหยุดของนายแท้ๆเลย โทษทีนะ "
" ช่างเถอะ งานเพื่อนทั้งที อีกอย่าง ถ้างานนี้ฉันทำสำเร็จ ก็อาจจะได้เป็นเชฟใหญ่เร็วขึ้น " เจเดินไปเปิดตู้เย็นแล้วเปิดกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่ม
" มันก็ได้ผลประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย "เชฟหนุ่มดึงยางมัดผมมามัดผมตนเองสูงขึ้นแล้วเดินไปหยิบตำราเบเกอรี่เล่มเก่าๆ กระดาษ และปากกามาขีดเขียนอะไรบางอย่าง
"เป็นลูกร้านอาหารญี่ปุ่น แต่ก็ทำอาหาร แบบฝรั่งได้ นี่ยังทำขนมได้อีก... " ว่าที่เจ้าบ่าวว่าพลางชะโงกหน้าเข้าไปดู "เขียนอะไรน่ะ "
" สูตร เดี๋ยวนะ " เจไม่เงยหน้าจากกระดาษ ก่อนจะกดฮอตคีย์ที่คุ้นเคย " อาการิ ถามอะไรหน่อยสิ พอดีวันนี้จะลองทำเค้ก เอ่อ รูปโดมน่ะ ใช่ คิดเหมือนกันเลย ราดครีมเกาลัดผสมชาเขียว " ดวงตาของหนุ่มผมยาวฉายแววยินดี เมือ่ปลายสายคิดเมหือนเขา
ท่าทางในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนั้น ทำให้คนที่นั่งรอ...จะกิน... อดที่จะมองอย่างศึกษาไม่ได้ เขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายที่มีสีหน้าแบบนี้ซักเท่าไหร่..แต่ก็อย่าให้พูดไปเลย เพราะการที่เขาได้พูดคุยกับอีกฝ่ายแบบใกล้ชิดครั้งสุดท้ายนั่นก็สิบกว่าปีมาแล้วเห็นจะได้ ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ลุกเดินไปสำรวจห้อง ของชายหนุ่มผมยาว เมื่อเห็นว่า บทสนทนาทางโทรศัพท์ในคราวนี้คงจะนานไม่น้อย
" โอเค จะลองดู .. รู้แล้ว จะเหลือให้ พาร์ติเช่ ชิมด้วย ไม่อร่อยอย่าบ่นล่ะ "เจว่าก่นอจะวางสาย " โอเค ต่อไป ตาเจ้าบ่าว นายมาเป็นลุกมือฉัน "เขาเดินเข้าไปในครัวพร้อมกับสูตร แน่นอน เป็นภาษาอังกฤษ
"มีคนช่วยออกความเห็นด้วยเหรอ... " เสียง คิโยโนบุเอ่ยถาม มือยกกรอบรูปของชายหนุ่มกับหญิงสาวผมหยักศกยาวถึงกลางหลัง ...ท่าทางจะเป็นคนร่าเริงและเป็นกันเองไม่เบา
" เขาเป็นพาติเช่ ของโรงแรม ..จะว่าไงดีล่ะ กำลังดูๆกันอยู่ "ชายหนุ่มยื่นตะกร้อมือกับชามให้อีกฝ่าย " เดี๋ยวตวงแป้ง ผงฟู ชาเขียวใส่ลงไปในนี้ ใช้ไอ้นี่กวนๆ แล้วก็ร่อนแป้งใส่กระดาษไข "
"หา...จะไหวไหมเนี่ย... " คิโยโนบุ พูดเสียงสูงก่อนจะมองข้าวของที่อยู่ในมือ "ไม่เคยทำนะ "
" ลองดู ไม่ใช่เรื่องยากหรอก " เจว่าก่อนจะฉวยชามอีกฝ่ายมาใส่วัตถุดิบที่เขาตวงไว้
" แล้วนี่ที่ร้อนแป้ง ร่อนเบาๆ ไม่งั้นฟุ้งหมด ใช่ฝ่ามือตบขอบเบาๆ ไม่ใช่เขย่า "
"อา...ฮะ" รับคำพลางก็ลองทำตาม แต่ด้วยว่า มือหนักไปหน่อย ในคราวแรกทำให้ แป้งฟุ้งออกมาไม่น้อย "อุ๊บ...แค่ก... " เผลอสูดเอาแป้งเข้าไปจนได้ แต่เมื่อรู้ว่า ที่กำลังทำอยู่นั้น มันแรงเกินปก็พยายาม เบามือลงอีกซึ่งก็ดีขึ้นไม่น้อย
" โอเค ต่อไป ตีไข่ กับน้ำตาล " เจตอกไข่ใส่ชาม ตามด้วยน้ำตาลเม็ดเล็กก่อนจะเอาไปตั้งไว้บนหม้อน้ำร้อนๆ แล้วใช้ตะกร้อมืออีกอันคนๆ จนมันมีควันลอยขึ้นแต่ แต่ไข่ยังไม่สุก " เอา ตีแบบนี้ ดูๆ " มือแกร่งจับด้ามตะกร้อมือแล้วหมุนให้ปายตะกร้อเอียงกับก้นชามแสตนเลสก่อนจะตวัดมือขึ้นเร็วๆ
" ตีเร็วๆ หมุนข้อมือเป็นครึ่งวงกลม จนไข่กับน้ำตาลละลาย ตีเร็วๆให้มันข้นเหนียว "เขายื่นชามพร้อมอุปกรณ์ให้อีกฝ่าย" เร็ว อาจารย์พละ เรื่องแค่นี้ นายทำได้อยู่แล้ว "
"อ่าๆ..."ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลรับคำพลางทำอย่างที่อีกฝ่ายทำให้ดูเมื่อครู่ ตอนแรกแม้จะรู้สึกงงๆ และยุ่งยากไปบ้างแต่ก็ชักจะเริ่มสนุกขึ้นมาบ้าง เมื่อเห็นว่าส่วนผสมเริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว "แบบนี้โอเคยัง " ถามพลางก็หันไปถามความเห็น ส่วนผสมเริ่มข้นแต่ยังไม่เหนียวพอ ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมา
" ยัง เร็วกว่านี้ให้เหนียวเลย "
"โอเค.. " ชายหนุ่มเลียริมฝีปากบาง พลางเร่งมือ ตีส่วนผสมนั่นให้เร็วขึ้นอีก "พอจะโอเคขึ้นยัง " ผ่านไปครู่หนึ่ง ว่าที่เจ้าบ่าวก็หันมาถามความเห็นอีกรอบ เพราะกลัวว่าจะมันส์มือมากเสียจนทำเสียของไปเสีย
" โอเค "เขาขอชามมาจากอีกฝ่ายก่อนจะยื่นช่มแป้งที่ร่อนแล้วให้อีกฝ่าย" ตักใส่ทีละช้อน ฉันเป้นคนผสม "
"ได้ๆ ... "ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล รับคำ พลางค่อยๆตักใส่ลงไปทีละช้อนในขณะที่อีกฝ่ายเป็นคนออกแรงต่อ "เออ...แล้ว... ที่ว่า
"ดูๆกันอยู่"เนี่ย..เมื่อไหร่จะจริงจังซักทีล่ะ " เมื่อเห็นว่าในห้องครัวไม่มีเสียงอะไรนอกจากเสียงของอุปปกรณ์ จึงเอ่ยถามออกไปแบบนั้น ทำลายความเงียบ ทำเอาเชฟหนุ่มชะงักมือเล็กน้อย แล้วสนใจกับการคนแป้งกับครีมอย่างเบามือต่อ
" ไม่รู้ .. ว่าแต่อย่าพูดมากตอนที่กำลังใช้สมาธิซิ "
"ก็... มันเงียบนี่หว่า แล้วนายก็ทำหน้าจริงจังซะ... เห็นหน้านายตอนจริงจังใกล้ๆนี่มันก็ ..คงไม่มีใครอยากให้อยู่เงียบๆหรอก" คนถามย้อน มือก็ยังตักส่วนผสมใส่ลงไปเรื่อยๆ
" ช้าๆสิ "คนตัวสูงกว่าขมวดคิ้วแล้วค่อยๆคนแป้งนั้นอย่างเบามือ " ใส่เร็วไปแล้ว ถ้ากวนนาน เค้กเหนียวนะ "
"อ่ะ..ขอโทษๆ " คิโยโนบุลดความถี่ในการตักใส่ลงไปให้ช้าลง
" แล้วก็ นม กับเนยในไมโครเวฟ นมนี่เทลงไปเลยนะ ส่วนเนย เอาออกมาคนก่อนแล้วใส่ทีละช้อน ช้าๆ "เขาชี้ไปที่โต๊ะ
"ช้าๆ....ช้าๆ.... "ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล พึมพำไปพลางก็ทำตามมขั้นตอนที่อีกฝ่ายบอก "แล้วหลังจากนี้ทำอะไรต่ออ่ะ... "
" เทใส่พิมพ์นั่นเลย ฉันทาไขมันไว้แล้ว ค่อยๆนะ "ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลพยักหน้ารับคำพลาง ค่อยๆเทส่วนผสมลงไป จนเรียบร้อย
"ฟู่...ตื่นเต้นเป็นบ้า" เขาแทบจะปาดเหงื่อเมื่อวางภาชนะว่างเปล่าลงกับโต๊ะ
" เดี๋ยวอบก็รู้ว่า กินได้หรือทิ้ง "ชายหนุ่มไม่วายขู่แล้วเอาใส่เตาอบที่เปิดทิ้งไว้ตั้งแต่กับมาถึงบ้านแล้วก่อนจะหันไปสนใจกล่องวิปปิ้งครีม
"ขู่อีก... เอาเถอะ ถ้ามันไม่น่ากินนักก็ทิ้ง... มันคงเป็นเพราะฝีมือของฉันมากกว่า "
" เอานี่ จะสอนตีครีม " อยู่ๆ เจก็เปลี่ยนเรื่อง แล้วยื่นชามแสตนเลสกับตะกร้อมือให้อีก " ตวงครีม เอาทั้งตะกร้อ ครีม ชาม ใส่ช่องฟรีซให้เย็นจัดๆเลย "
"เปลี่ยนเรื่องอีกแล้วนายนี่... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลพูดขึ้นพลางหัวเราะ ออกมาเบาๆ "นึกว่าจะได้มานั่งคุยด้วยสบายๆนะเนี่ย กลายเป็น ว่าได้มาออกกำลังกายแขนกันซะอย่างนั้น"
" คราวนี้เข้าใจรึยังว่างานทำอาหารเนี่ย ออกกำลังดีๆนี่เอง "เจหัวเราะเบาๆ " ได้กล้ามด้วย ดีกว่าเล่นเวท เป็นไหนๆ "
"ครับครับ คงไม่สามารถเถียง คนหุ่นดีกว่าได้... " ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ กลิ่นหอมๆของเค้กชาเขียวตลบอบอวลไปทั่วห้องครัวหลังจากนั้นเพียงสิบห้านาที
" ไปเอาครีมออกมาตีเลย ตีแบบตีไข่เมื่อกี้เลย " ชายหนุ่มที่โดนสั่งส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะเอาครีมออกมาตีครีมเหมือนอย่าง อย่างที่เคยทำเมื่อครู่
"แล้ว... เธอคนนั้นก็ทำเค้กเหรอ... "
" เก่งเลยล่ะ "เขาอดที่จะชมอาการิไม่ได้ เพราะเธอเก่งมากจริงๆ
"อืม.... " ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน จ้องมองครีมสีขาวที่เริ่มข้นขึ้นเรื่อยๆ "
ก็ดีแล้วล่ะ... ที่นาย มีความสุข "
" พูดอย่างกับตอนนี้นายไม่มีความสุข " เจสวนขึ้นมา " เป็นเจ้าบ่าวนะ ร่าเริงหน่อย ต้องมีความสุขซี่ "
"ก็...นะ จะว่ามีความสุขไหม มันก็มีอยู่หรอก... " ชายหนุ่มโคลงศรีษะเบาๆ
....เพียงแต่มันรู้สึก.....
.....แปลกๆ....."เอาเถอะ
ฉันเป็นเจ้าบ่าวนี่นา ฉันต้องมีความสุขอยู่แล้ว " ชายหนุ่มตัดบทความคิดตัวเองพลางเงยหน้า ขึ้นมายิ้มให้กับอีกฝ่าย
" ดีแล้ว…. เอาล่ะ รอแต่งหน้าเค้กละกัน สงสัย เค้กจะได้แล้ว " เจว่า ก่อนจะเดินไปเปิดเตาอบ กลิ่นหอมของเค้กชาเขียวอบอวลไปทั่ว
"โห...กินแบบนี้เลยได้ป่ะ... " คนที่กำลังตีครีมอยู่ชะโงกหน้ามาดู "ว่าแต่ครีมนี่พอยังอ่ะ "
" พอแล้วๆ " เจจัดการคว่ำเค้กลงกับตะแกรงแล้วลอกกระดาษที่ปูฐานเอาไว้ออก " ต้องทิ้งไว้ให้อุ่นหน่อย เดี๋ยวค่อยแต่ง "
"แล้ว...ไงต่อ" คิโยโนบุว่าพลาง วางชามอ่างที่พยายามตีครีมสีขาวนั่นเสียจนเนียนสวยเลยทีเดียว
" ม้วนเค้กนะ ทำแบบนี้ " เขาวางกระดาษไขลงกับโต๊ะแล้วโรยน้ำตาลเล็กน้อย ก่อนจะเอาแผ่นเค้กบางๆนั้นวางอย่างเบามือ " เอ้าปาดครีมบางๆหน่อย "
"หา...ปาด?...เอาอะไรปาด ? ไอ้นี่เหรอ " ว่าพลางก็หยิบเอาไม้พายพลาสติคขึ้นมาด้วยความงุนงง
....เดี๋ยว สรุปใครทำให้ใครกินกันแน่เนี่ย....แต่ถึงจะคิดไปแบบนั้นก็ไม่ได้ถามออกไปจริงๆ
" ไม่ใช่ อันนี้ สปาร์ตูล่า นี่น่ะ " เจดึงไม้พายออกจากอีกฝ่ายแล้วยื่นที่ปาดครีมแสตนเลสให้แทนแล้วก็ต้องฉวยเอามาทำเองจนได้ " นายไปเอาลูกพลับแห้งไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ " เห็นท่าทางแบบนั้นของ ชายหนุ่มร่างสูงก็ทำเอาผู้ช่วยเชฟจำเป็นหน้าเจื่อนไปไม่น้อย
"ฉันคงทำให้นายยุ่งมากกว่าจะช่วยนะเนี่ย " ว่าพลางก็เดินไปเอาลูกพลัมแห้งมา หั่นเป็นชิ้นเล็กๆตามที่อีกฝ่ายบอก การใช้มีดของครูพละหนุ่มว่าที่เจ้าบ่าวแม้จะไม่ได้เรียกว่าดีนัก แต่ก็ ยังดีที่เจ้าตัวยังไม่ได้ตัดนิ้วตัวเองให้เลือดอาบ
" ได้รึยัง จะม้วนแล้วนะ "เจเร่งอีกฝ่าย ราวกับกำลังอยู่ในครัวของโรงแรม
"โอ้ย..." ชายหนุ่มที่โดนเร่งร้องเสียงหลง ก่อนจะยื่นถ้วยใส่ลูกพลัมที่สับละเอียดแล้วให้กับอีกฝ่าย ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบเดินที่อ่างล้าง โดนมีดบาดเข้าให้จนได้ นั่นทำให้เจต้องเดินตามไปฉวยมือนั้นเอาไว้ แล้วดึงให้เดินตามไปที่โซฟา
" ซุ่มซ่ามชะมัด " เจส่ายหน้าไปมาแล้วเดินไปหยิบกล่องพยาบาลมาทำแผลให้อาจารย์หนุ่มอย่างคล่องแคล่ว
"ปรกติก็ไม่ได้ซุ่มซ่ามหรอก... แต่พอดีว่าโดนเร่ง เลยเผลอไปหน่อย" คิโยโนบุอดไม่ได้ที่จะกัดพ่อครัวใหญ่ตรงหน้า ก่อนจะยิ้มเมื่ออีกฝ่ายปิดพลาสเตอร์ยาให้บนปลายนิ้ว "นายนี่ใจดีไม่เปลี่ยนเลยนะ...ใจดีไม่เข้ากับหน้าเท่าไหร่"
" แล้วต้องใจร้ายรึไง ถึงจะเหมาะ? "หนุ่มผมยาวสบตาอีกฝ่าย
"อืม...แต่นายก็อดไม่ได้หรอก... " ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลยิ้ม เขารู้ดีตั้งแต่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายจากด้านหลังในตอนที่จุนเข้ามาเข็นรถเข็นให้เขาที่โรงพยาบาลในตอนนั้นแล้ว รอยยิ้มนั่นทำให้เจต้องหันไปทางอื่น
" รออยู่นี่แหละ เดี๋ยวทำเอง " เขาว่าแล้วก็ลุกไปทำเค้กในครัว
"เยี่ยม... ทีนี้จะได้เห็นฝีมือเชฟของตริงเสียที... " ชายหนุ่ม หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเท้าคางนั่งมองอีกฝ่าย ทำเค้กต่อไป
" ไม่ต้องมองเลย ไปดูทีวีไป "หนุ่มผมยาวใช้สปาตูล่าในมือที่เลอะครีมชี้หน้าอีกฝ่าย
"อ้าว ไล่ทำไมล่ะ...จะนั่งมองก็ไม่ได้เหรอ ฉันแทบจะไม่เคยเห็นนายตอนทำกับข้าวเลยนะ" คิโยโนบุเลิกคิ้ว ถาม "นั่งดูแบบนี้ล่ะ จะได้ประเมินด้วยไงว่า...เชฟที่จองตัวเอาไว้นี่ ทำกับข้าวแบบ ถูกหลักอนามัยหรือเปล่า... "ก่อนจะพูดต่อแบบติดตลก
" ในครัว เขาไม่ให้ลูกค้าเห็น มันทำลายสมาธิ " เจบอกก่อนจะก้มหน้าก้มตาม้วนเค้กได้อย่างสวยงาม เขาใช้มีดลวกน้ำร้อนตัดเค้กโรลนั้นออกมาได้สิบชิ้น ชายหนุ่มเอาพิมพ์รูปโดมวางเค้กเรียงลงไป ก่อนจะ หันไปจัดการทำมูสถั่วแดงต่อแล้วเทลงไปจนเต็ม เขาเอามันแช่ตู้เย็นเอาไว้แล้วเก็บกวดครัวให้เรียบร้อย
.......................
ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ทำเสียงในลำคอเบาๆ ก่อนจะเดินปลายเท้าไปนั่งที่หน้าโซฟา เปิดทีวีเสียงเบาที่สุด เชฟใหญ่เสียสมาธิ
"นี่ เชฟโอโนเสะ เสร็จรึยัง... " แม้จะพยายามอยู่เงียบๆแต่ความที่อยากจะเห็นเหมือนกันว่า ของหวานแบบไหนจะถูกเสริฟในจานที่จะนำมาใช้ในงานแต่งงานของตัวเองก็ทำให้อยู่เงียบไม่ได้ซักเท่าไร
เมื่อเจทำความสะอาดครัวเรียบร้อยเขาก็เดินไปเปิดตู้เย็นแล้วจับพิมพ์นั้นคว่ำกับจานที่คิโยโนบุเอามาให้ คิ้วเรียวขมวดอย่างใช้ความคิดแล้วก็ใช้วิปครีมตกแต่ง โรยด้วยผงชาเขียว และ ถั่วแดงบดที่เหลือจากการทำมูศนั่นเขาก็เอาไปทำซอสด้วยการเพิ่มน้ำและแป้งข้าวโพดลงไป ราดเป็นลายด้านข้างของจาน หนุ่มผมยาวยักไหล่เล็กน้อยก่อนจะเอาจานขนมใส่ถาด ตามด้วยชาเขียวที่ผสมกลิ่นผลไม้แห้งเอาไว้ เขาเอามันมาวางตรงหน้าคิโยโนบุ
" ถ้าไม่เวิร์กก็จะให้ อาคาริ มาทำให้ล่ะ "
"ก็....น่าอร่อยดีออก... " ชายหนุ่มมองของหวานตรงหน้าตาค้างไปเลยทีเดียว เพราะมันสวยงามมากเกินกว่าจะคิดว่า ส่วนหนึ่งในส่วนผสมนั้นเขาเป็นคนตี "แน่ใจนะว่า ไม่ได้เป็น คนทำขนมด้วยเนี่ย... อาการิซังนี่สอนนายมาดีชัวร์"
" เขาขอให้ช่วยบ่อยๆน่ะ "หนุ่มผมยาวยิ้มเมือ่นึกถึงเธอคนนั้น
"โอ๊ะๆ...หน้าของคนกำลังมีความรักนี่นา" คิโยโนบุอดจะแซวไม่ได้ก่อนจะตักเค้กเข้าปาก รสชาตของชาเขียวนั้นนุ่มนวลขึ้นมากจากครีมสดและหวานละมุนในแบบที่เป็นรสชาตเฉพาะตัวของคนญี่ปุ่นด้วยมูสถั่วแดง แบบนี้ไม่ว่าแขกจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็คงจะชอบไม่น้อย
"อร่อย...."
" ลูกพลับแห้งนั่นน่ะ เป็นยังไง? "เชฟหนุ่มถามถึงสิ่งที่เขากังวล
"อร่อย... เพิ่มสัมผัสดี.... กินไหม"ว่าพลางก็ตักยื่นให้อีกฝ่ายลองบ้าง
" ฉันไม่ชอบของหวานนี่นะ นายกินเถอะ " เชฟหนุ่มปฏิเสธอีกฝ่าย
"คนทำไม่ชิมได้ไงกัน.... " ชายหนุ่มมองหน้าของอีกฝ่าย ก่อนจะหันช้อนเข้าปากตัวเอง "แบบนี้เสริฟกับชาเขียวได้สบาย...เหมือนขนมญี่ปุ่น ...........” เสียงพึมพำเบาๆนั้นเงียบไปเมือต้องเคี้ยวขนมหวานแสนอร่อยนั่นให้หมด ก่อนที่จะตักคำต่อไป และต่อไปเรื่อยๆ โดยที่มีคนทำนั่งดูอยู่ไม่ห่าง
"นี่...จุน...
จำตอนที่ฉันจะย้ายมาได้ไหม" อาจารย์หนุ่มเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่เงียบไปนานพอสมควร
" เรื่องไหนล่ะ? " เชฟหนุ่มหันไปถาม ก่อนจะหยิบรีโมทเปลี่ยนช่องโทรทัศน์และเร่งเสียง
"เรื่อง...
จูบนั่นน่ะ" เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นเบาๆ
"หือ? " เชฟหนุ่มหันไปอย่างแปลกใจเพราะเสียงโทรทัศน์ทำให้เขาได้ยินไม่ถนัดนัก
"เรื่องจูบน่ะ..."คิโยโนบุพูดเสียงดังขึ้นพลางขยับเข้าไปใกล้
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง...เขาไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมต้องยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด อันที่จริงเขาลืมเรื่องนี้ไปนานพอสมควรแล้วจนกระทั่งมาเจอหน้าอีกฝ่ายอีกครัง มันเหมือนกับว่า ภาพเก่าๆบางส่วนที่ถูกเก็บเอาไว้ในความทรงจำค่อยๆฟื้นกลับมา อย่างไม่ทราบสาเหตุ และทำให้ใจของเขาสั่นไหว แปลกๆ เพราะความที่อีกฝ่ายนั้นยังเหมือนเดิมมากเหลือเกิน เทียบกับคนที่อยู่ในความทรงจำคนนั้น
" ทำไมเหรอ? " เจพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ ทั้งๆที่ตอนนี้เขากำลังมองที่ริมฝีปากที่ขยับเข้ามาใกล้นั่น
"คือ...นายคิดยังไง....ตอนนั้น " เสียงที่ถามออกไปนั้นฟังดูประหม่าไม่น้อย ในใจของคิโยโนบุได้แต่คิดว่า
...นี่จะถามไปทำไมกัน...เรื่องแบบนั้น....ตอนนี้ ... " แล้วนายล่ะคิดยังไง? " เชฟหนุ่มรู้สึกได้ถึงลมหายใจของว่าที่เจ้าบ่าว
"ไม่รู้ซิ่.. ตอนนั้นมันก็แบบว่า ฉันอาจจะกำลังสับสน แล้วมันก็...ยังไงดีล่ะ...เด็กน่ะนะ .... อยากรู้อยากลองล่ะมั้ง... " ชายหนุ่มพูดเสียงเบา ลมหายใจของเชฟหนุ่มนั้นทำให้รู้สึแปลกๆ
...แล้วตอนนั้นฉันก็ไม่มีใคร... ก่อนจะต้องสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด แล้วขยับเข้าไปแตะริมฝีปากกับอีกฝ่ายเบาๆ แล้วถอยกลับออกมา ดวงตาสีน้ำตาลสบตาของอีกฝ่ายนิ่ง ... ตกใจกับการกระทำของตัวเอง...
..............................................to be con
@@@talk@@@
ตอนนี้ก็หวานนะ....(แน่ละล่อเค้กเป็นก้อน) 