มาซะดึก ไปฉลองวันชดเชยมา ก่ากๆๆ ต่อเลยดีกว่า จะไปนั่งท่องประมวลต่อ เวลาเมาๆนี่แหละไหลดี ^^
“ ไอคิม เมื่อไหร่มึงจะกลับไปเรียนได้ ” ไอเร เพื่อนที่เคารพถามผม
“ พรุ่งนี้ก็ออกได้แล้วมั้ง แต่ไปเรียนได้เมื่อไหร่ไม่รู้ ” แม่ไอวากว่างั้นนี่
“ มีสาวเดินไปถามหามึงถึงคณะด้วย พี่ๆถามกันใหญ่ มึงไปได้กันตอนไหน ”
“ ชื่อซันหรือปล่าว ” ผมแอบยิ้มในใจ ซันแอบไปถามหาผมถึงคณะ ฮ่าๆ ที่แท้แอบงอนนี่เอง
“ ชื่อไรวะ ” ไอเรหันไปถามพวกสาวๆ
“ ไม่รู้ รู้แต่หน้าตาดี ” ยัยนัทตอบเซงๆ
“ สวยกว่าเตงด้วยใช่ไหมล่ะ ” ผมแซวบ้าง ยัยนี่พักนี้เอาใหญ่ละ แซวผมเป็นว่าเล่น
“ ย่ะ ” ฮ่าๆๆ
“ พี่ดิษอยู่ชั้นล่างนี่เองไม่ใช่เหรอ เยี่ยมพี่ดิษกันปะ อีนี่เห่าได้แล้ว ไม่ตายหรอก ” ปาดๆๆๆๆๆ มันเอาคืนครับ เจ็บถึงลำไส้เลย
“ เออ เอาเหอะ งั้นไอโต้งมึงเฝ้ามันนะ ” ไอนี่นั่งเงียบๆครับ ไม่พูดไม่จา พอพวกนั้นออกไป ผมเลยกะจะทักทายมัน
“ ทำไมเงียบจังวะมึง ”
“ คิม กูมีเรื่องจะคุยด้วย ปรึกษาน่ะ ” ท่าทางจะไม่ใช่เรื่องดี หน้าตาเหี่ยวย่นมาเลย
“ ว่าไป ”
“ กูว่ากูไปกับนัทไม่ได้ว่ะ ” ไม่ได้แปลกใจหรอกครับ รู้ๆอยู่ว่าคู่นี้มันไม่สมกัน ผมเห็นตั้งแต่แรกๆแล้ว ทั้งนิสัย ทั้งอารมณ์ต่างกันมาก ที่ได้คบกันเพราะแรงยุของเพื่อนๆมากกว่า
“ มึงค่อยๆทำแล้วกัน ถนอมน้ำใจหน่อย ยังไงต้องเจอกันอีกหลายปี ”
“ มึงไม่ว่าอะไรหน่อยเหรอวะ ”
“ จะให้ว่าอะไรล่ะ มึงไม่ชอบกันแล้ว เลิกกันก็ไม่เป็นไร ” มันยิ้มให้ ไอนี่หน้าตาหล่อดีเนอะ เวลายิ้มโลกสดใสเลยทีเดียว อ้าวๆ กูเป็นอะไรไปล่ะนี่
“ ตกลงเรื่องงาน ... ” มันนั่งคุยกับผมเรื่องงานในคณะ บอกว่าเค้าเริ่มวางโครงร่างเสนออาจารย์กันแล้ว แต่เรื่องประเพณีกับความเคร่งเครียดยังไม่ได้ตกลง เพราะวากเกอร์ป่วยพร้อมกันทั้งสองคน พี่ปันก็วางมือไปแล้ว
“ สงสัยกลับไป งานเยอะแน่ๆเลยกู ” ผมบ่นกับตัวเอง
“ นั้นแหละ ยังไงดูแลสุขภาพด้วย ” ผมนึกภาพไออ้วนตอนประถมไม่ออกเลยจริงๆ ที่นึกออกคงมีเพียงเรื่องเดียว คือมันนิสัยดีเหมือนเดิม
คืนนี้ไอโต้งกลับไปที่มหาลัย เพื่อนๆก็ด้วย ไม่มีคนเฝ้าผม อันนี้ผมตั้งใจเอง เพราะถ้าพรุ่งนี้ได้ออก จะได้ไม่ต้องลำบากเพื่อนๆ
“ คิม ต้องกินยาตัวนี้ให้หมด พยายามอย่าลืมนะ ” แม่ไอวากเดินมาตรวจผมช่วงค่ำๆ
“ ครับน้า ขอบคุณมากนะครับ ”
“ เดี๋ยวน้าจะให้คนมาดูแลนะ พักผ่อนเถอะจ้ะ ” ผมเอนตัวลงนอน ว่าแต่ใครที่จะมาดูแลผม
“ นอนสบายเลยนะ หึหึหึหึหึ ” อ้าว อิ๋บอ๋ายเลยล่ะ เสียงนี้ชัดเจน ไอวากนรก
“ มึงยัง ...ทำไมไม่ใส่ชุดคนไข้ ” มันอยู่ในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อยืดรัดรูป โชว์หุ่นเต็มที่ นี่ถ้าไม่รู้จักนึกว่ามันเป็นเกย์นะ ... เกย์ หรือไอนี่มันเป็นเกย์
“ กูไม่ป่วยนี่ ใครจะอ่อนแอ โดนนิดโดนหน่อยแกล้งป่วย ”
“ แหมๆๆ ทีมึงล้ม นอนพะงาบๆ แม่งไม่คุย อีตุ๊ด ” ผมสวนมันคืนครับ ไอนั่นไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน แถมยังเดินย่างเข้ามาอีก
“ มึงว่าตุ๊ดเหรอ ตุ๊ดที่ไหนจะหน้าตาดีเท่ากู มึงนั่นแหละตุ๊ด ” มันนี่หน้าไม่อายเนอะ
“ ตุ๊ดตรงไหน ” ผมถามไอตัวควายข้างหน้า
“ หึหึ ดูสิ มึงตัวสูงก็จริง แต่หน้าอกน้อย ... ไม่ดิก็แน่นอยู่ กล้ามท้องก็ ... เออมีแฮะ ”
“ ไอเหี้ยดิษ ... มันธุระอะไร มาจับนู้นจับนี้น่ะเฮ้ย ” ไอเวร มันจับหน้าอกผมบีบเล่น แถมยังมาลูบหน้าท้องผมอีก เป็นผู้ชายด้วยกันก็มีเสียวนะเว้ย
“ เหรอ ” มันทำหน้าล้อเลียนผม แม่ง
“ งั้น ขอลองดูดปากทีดิ๊ ว่ามึงรู้สึกยังไง ”
“ ไอดิ ... อู้ ... อื้อ ” มันกดปากเบียดริมฝีปากกับผมอย่างจัง มันเอามือประคองหน้าของผมไว้ ผมดิ้นไปไหนไม่ได้เลย และด้วยท่านอนของผม มันเลยกดผมได้สบายๆ
“ อือ ... อือ ” แรกๆมันทำรุนแรง แต่พอผมอ่อนลง มันก็ค่อยๆทำอย่างนุ่มนวล นี่ผมกำลังจูบปากกับผู้ชาย !
“ เป็นไง ” ผมยอมถอนริมฝีปากออก แต่ผมสิ น้ำตาซึม
“ ไอดิษ มึงจะเอาอะไรจากกู มึงทำกับกูเหมือนกะหรี่ไม่ได้นะเว้ย ” มันตกใจเล็กน้อย ที่เห็นน้ำตาของผม ปกติผมไม่ร้องไห้ให้ใครเห็นง่ายนัก แต่ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ ผมแสดงอาการแบบนี้นับครั้งไม่ถ้วน
“ มึงคิดว่ากูเห็นมึงเป็นอย่างนั้นหรือไง ถ้ามึงเป็นกะหรี่ กูไม่นั่งทำแบบนี้กับมึงหรอก ” ตอนนี้ผมเสียความมั่นใจไปหมดเลย ตั้งแต่ที่มันถึงเนื้อถึงตัวผม
“ แล้วนี่ล่ะ คิดจะทำห่าอะไรก็ทำ กูเป็นผู้ชายนะเว้ย ”
“ กะหรี่น่ะมีไว้เอา แต่มึงน่ะไม่ใช่ มึงได้ยินแล้วนี่ว่ากูชอบมึง ” พอมันย้ำตรงนี้ ผมแทบด่าไม่ออก
“ มึงไม่เข้าใจหรือไง ผู้ชายมันต้องคู่กับผู้หญิงสิวะ ”
“ แน่ใจนะ แล้วตอนนี้ล่ะ มึงคิดแบบนั้นหรือปล่าว ถ้ามึงแน่ใจแล้ว ทำไมมึงต้องมานั่งเถียงกับกูเรื่องนี้ ผู้ชายไม่ได้คู่กับหญิงเสมอไปหรอก ” มันมาเป็นชุดอย่างกับอึดอัดมานาน
“ มึงอะ พยายามจะดึงกูไปหาล่ะไม่ว่า ถ้ามึงปล่อยกูห่างๆสิ เรื่องแบบนี้ไม่มีวันเกิดขึ้น ”
“ แล้วอย่างงั้นจะเรียกว่าจีบได้ไง กูอยากได้มึงเป็นแฟน ก็ต้องดึงมึงมาหาสิ ” มันชักจะมากไปแล้วครับ
“ งั้นมึงฟังไว้ กูไม่ชอบมึง ” มันยืนยิ้ม มองผมขันๆ ทำอย่างกับผมเป็นเด็กน้อยที่พูดไม่ฟังงั้นเลย
“ งั้นมึงฟังกูด้วย กูไม่สน มึงเผลอเมื่อไหร่ กูจับยัดตูดแน่ ฮ่าๆ ”ไอวากเดินหันหลังไปนั่งไขว่ห้างที่โซฟา ผมล่ะเหลืออดแล้วครับ
“ ไอนรก ไอวิปริต ไอ ... ” มันลุกพรวดขึ้นมา
“ วิปริตน่ะคือมึง มึงไม่ยอมรับว่าหวั่นไหวกับกู แล้วกำลังจะทำให้เรื่องยุ่งด้วยการไปเอาคนอื่นมาเกี่ยว มึงนั้นแหละวิปริต มึงอ้างว่าชายชอบชายไม่ได้ แต่มึงกลับเฉยเวลาไอวาฬบอกว่าชอบผู้ชาย มึงนั้นแหละวิปริต ” มันพูดจนผมจนแต้ม พูดต่อไปไม่ได้ ไอวาฬงั้นเหรอ ไอวากนรกรู้เรื่องไอวาฬอยู่แล้ว แต่ทำไมมันถึงเลือกพูดเอาตอนนี้
“ ที่สำคัญ มึงไม่รู้ตัวหรอก ว่ามึงเป็นแม่เหล็กดูดคนเข้ามา ต่อไปมึงทำใจเถอะ กูไม่ห่างมึงอีกแล้ว ”
“ ฮุ้วววววววววว !!!!! ” ผมรำคาญมากๆ แม่งพูดจนผมปวดหัวไปหมดแล้ว กูนอนหลับดีกว่า
“ ระวังด้วยนะ ตอนดึกๆน่ะ ”
“ ไอสัด ! ” มันหัวเราะไม่หยุด แม่ง กูจะนอนไม่หลับล่ะวันนี้ ผมเริ่มนึกไปถึงเหตุการณ์เก่าๆ ช่วงที่มันไปป้วนเปี้ยนที่บ้านผม ไหนจะมีคนมาทำมิดีมิร้ายกับผม ตอนนี้ผมมั่นใจว่าเป็นไอตัวนี้แน่นอน แต่จะมั่นใจแค่ไหนก็ช่าง ผมไม่กล้าถามหรอก กลัวมันจะทำบ้าๆตอนผมไม่มีแรงสู้
เช้าวันต่อมา ผมกลับมาเป็นคิมผู้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง เริ่มด้วยการตื่นไปตบกบาลไอวากนรกคืนหนึ่งที มันก็ดีครับ แค่งัวเงียๆๆ แล้วก็เดินไปเข้าห้องน้ำ
“ วันนี้มึงจะออกโรงพยาบาลเลยไหม ” มันถามผมหลังจากเดินออกมา
“ เออเด้ ไม่ใช่บ้านกูนี่ ”
“ พูดจากวนตีน น่าจับ-วยยัดปาก ” ปาด เล่นแรงแท้
“ ไอดิษ มึงอย่ามาทำตัวหลงเพศแถวนี้ดีกว่า กูไม่ค่อยชอบ ” นี่ผ่านไปแค่สองวัน ผมว่ามันจะลึกลงเรื่อยๆนะ ไอเรื่องลามกเนี่ย
“ มึงสิหลงเพศ กูไม่เคยหลงเลย ... แต่อาจจะมีบ้างนะ หลงไปจีบสาวน่ะ ”
“ กูว่ามึงทำถูกแล้วล่ะ แม่งน่าจะหลงต่อไป ” มันไม่ตอบครับ ยักไหล่ ยักคิ้ว ท่าของมันเลยแหละ
“ เดี๋ยวกูไปบอกแม่ให้ มึงไม่ได้เอาอะไรมานอกจากชุดนักศึกษาใช่มะ ”
“ เออ สมบัติกูมีแค่นั้นอะ ”
“ มีกูอีกคนไง ”
“ ไอเชี้ย !! ” มันรู้ทันครับ ไม่ทันได้ด่า มันเดินออกไปแล้ว ฮุ้ว ชีวิตกูจะเป็นไงวะเนี่ย มีเกย์ตัวควาย แต่ดันเป็นขวัญใจของสาวๆมาทำแบบนี้ ไม่สิ ถ้าคิดแบบนั้นนับวันผมยิ่งจะแย่ลง ผมคงไม่พลาดถึงขนาดทำอย่างที่มันต้องการหรอก
“ ท่านวากกลับมาแล้ว !!! ” พวกเพื่อนที่หอนี่นั่งอยู่ใต้อาคารร้องเรียก พวกมันไม่มีเรียนกันหรือไงวะ
“ ไม่ต้องเลยพวกมึง ทำไมไม่ไปเรียนวะ ” ผมถามพวกมัน
“ กูพูดกับพี่ดิษ มึงอะเผือก ”
“ อ้าว ไอเชี้ย ... เออ กูมันคนไม่สำคัญ ” เซงเลยครับ นึกว่าจะได้เป็นคนสำคัญ
“ ทำใจตุ๊ดอีกล่ะ ”เวรกู โดนด่าอีก
“ หึหึ ฮ่าๆๆ ” ไอดิษมันหัวเราะอร่อยมาก แม่งสะใจอะไรนักหนา
“ ต่อไปนี้ใครเรียกกูตุ๊ด รับน้องปีหน้ากูเล่นหนักอะ ” พวกมันหันไปมองหน้ากัน
“ มึงเป็นไรปะ ปกติแม่งก็โดนล้อทุกวัน ” ไอดิษมันผิวปาก ผิวๆๆๆ นี่ถ้าไม่เกรงใจจะถีบแม่ง
“ เออ กูไม่เอาแล้วล่ะ ลองมึงโดนด่าว่าขาโก้ง ตูดน้อยบ้างมึงจะว่าไง ” ไอคนที่แซวผมอยู่นี่ มันตัวเล็กๆครับ
“ จริงของมึง ” กว่าจะเงียบได้ แม่งต้องให้ใช้ไม้เด็ด ก่ากๆ
“ กระรอกน้อย เย็นนี้ที่คณะนะจ้ะ ” กรรม ไอวากนรก มันเอาฉายาผมมาล้อครับ พวกที่นั่งๆอยู่ฮือฮากันใหญ่แล้ว โอยกูเพิ่งหนีตุ๊ดได้แท้ๆ
“ กระรอกน้อยนี่อะไรพี่ ” ไอดิษมันยิ้มมุมปาก ก่อนจะกระโดดไปร่วมวงสนทนา ส่วนผมอะไม่เอาละครับ กูกลับไปเก็บของ รอไปเรียนคาบเย็นดีกว่า ผมเดินดุ่ยๆขึ้นมาบนหอ มาหยุดตรงหน้าห้องของผม ทำไมมีรองเท้าสองคู่วะ ที่สำคัญประตูแง่มอยู่ด้วยครับ
“ มึงอย่าเอาไปบอกใครนะโต้ง ” เสียงพี่โจนี่หว่า
“ ไม่หรอกพี่ ... ทำไมพี่ถึงคิดว่าเป็นอย่างนั้นล่ะ ” หืม ไอโต้ง
“ ทีแรกกูนั่งฟังพี่ดิษพูดถึง กูรำคาญมาก คนอะไรจะรักคนๆนึงได้ขนาดนั้น แต่ไปๆมาๆ กูว่ากูรู้สึกแปลกๆนะ ” พี่โจเป็นอะไรวะ ผมหามุมเหมาะยืนฟังคนเค้าคุยกัน
“ กูเริ่มเห็นที่พี่ดิษพูด ว่าจริงของเค้า คิมมีอะไรที่ไม่เหมือนผู้ชายทั่วไป มึงไม่คิดเหรอว่า บางทีมึงสบายใจกว่าอยู่กับผู้หญิงอีก ” เฮ้ย มีชื่อผมด้วย
“ มันก็ใช่นะพี่ ” อ้าวๆๆ
“ กูไม่นึกว่าพี่ดิษจะหลงคิมขนาดนี้ ” สองอ้าวๆๆ
“ พี่ ถ้ายังไม่แน่ใจพี่อย่าทำให้คิมรู้สึกไม่ดีเลยนะพี่ ผมว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่กับพี่ดิษคิดหรอก ดูสิมันปกติจะตาย ตอนนี้ก็มีสาวมาติดด้วย ” โต้งเพื่อนรัก มึงนี่โฆษกประจำตัวกูชัดๆ ฮ่าๆ ... ว่าแต่ดีใจไปทำไมวะ สองคนนั้นกำลังพูดถึงเรื่องไม่ดีกับตัวผมอยู่นี่
“ กูเคยผิดไปแล้วครั้งนึงโต้ง ตอนนั้นกูเอาตัวรอดแบบโดยทำให้คิมเสียหาย แต่ตอนนี้มันไม่ใช่ กูไม่มองคนอื่นนอกจากคิม ” ผมตกใจจริงๆครับ บอกตรงๆว่าผมช็อกยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่าพี่โจหลอกเมื่อครั้งก่อนซะอีก ตอนนั้นพี่โจมีสาวคบอยู่ ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว พี่โจคิดแบบเดียวกับไอดิษงั้นเหรอ
“ มึงทำอะไร ”
“ ชู่วววววว ” ไอดิษเดินมาพอดี ผมให้มันเบาเสียง
“ พี่อาจจะแค่อิจฉาที่พี่ดิษเคยหักหลัง เอาแฟนพี่ไปหรือปล่าว พอพี่ดิษหวงคิม พี่เลยอยากแย่ง ” ไอวากตัวดีเริ่มขมวดคิ้ว
“ ไม่ๆ ตอนนั้นพี่ดิษช่วยกู เรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่คนเข้าใจกัน ... นี่แหละที่กูลำบากใจ กูไม่กล้าแย่งคนที่พี่ดิษจอง ”
“ กูบอกแล้วใช่ไหม มึงอะๆ ” ไอดิษมันแอบกระซิบผม หน้าตามันบอกบุญไม่รับเลย ไปโกรธอะไรมากมายวะ
“ พี่แน่ใจได้ยังไงว่าพี่ชอบจริงๆ ” ไอโต้งพยายามถามต่อ
“ ... กูเคยแตะต้องคิมแล้ว มันไม่น่าขยะแขยงอย่างที่คนว่ากัน ”
“ ไอเหี้ยโจ !!! ” เฮ้ยๆๆ ไอดิษมันเดินไปผลักประตู แล้วเดินเข้าไป ผมรีบวิ่งไปดึงตัวมันไว้
“ พี่ดิษ ... คิม ”
“ มึงเองเหรอ ที่ทำกับมัน ” พี่โจตกใจสุดชีวิตเลยมั้ง บังเอิญมีคนมารู้ความลับเข้า แล้วเป็นความลับที่มีกับผมด้วย
“ พี่ดิษ ใจเย็นก่อนนะพี่ ” ไอโต้งไวครับ มันเดินมากันไอวากไว้อีกคน ตอนนี้ไม่น่ามีอันตรายแล้วครับ เพราะผมกับไอโต้งก็ตัวใหญ่พอสมควร
“ ต่อไปมึงแยกห้องกับมันเลย ห้ามนอนด้วยกัน ” จริงๆมึงไม่ต้องบอกกูหรอกไอพี่วาก ยังไงกูคงไม่นอนรอให้ใครมาทะลวงหลังหรอก
“ มึงสองคนนั่นแหละ ”
“ คิม ” สองคนนั้นพูดชื่อผมแทบจะพร้อมกัน
“ หลีก กูจะเก็บของไปเรียน ” ผมเบื่อกับการที่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้แล้วครับ คนพวกนี้เป็นอะไรไป ทำไมจู่ๆถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ผมไม่ใช่ตัวประหลาดที่คิดจะทำอะไรก็ได้นะ ผมเข้าไปเปลี่ยนชุดนักศึกษาในห้องน้ำ ก่อนออกจากห้อง ผมส่งสายตาเหี้ยมโหดใส่ไอสองคนนั้น ส่วนไอโต้งยังอึ้งอยู่
“ แล้วอย่าปากสว่างทำให้กูโมโหล่ะ ถ้าคนอื่นนินทากูเรื่องนี้ กูจะเอาจริงกับพวกมึงแล้วนะ เวลากูเอาจริงพวกมึงไม่เคยเห็นหรอก จำใส่หัวไว้ด้วยว่ากูไม่ใช่อันธพาล แต่กูไม่กลัวใคร ” ผมเดินออกมาจากห้อง ปรอทเกือบแตก ผมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา ไม่ลังเลที่จะโทรหาซัน ผมอยากหาที่พึ่งครับ
“ ซัน นี่คิมนะครับ ”
“ อื้ออ ... คิม เป็นไงบ้าง ไม่สบายเหรอ ” เฮ้อ ค่อยสบายใจหน่อย คนที่ผมจะชอบต้องแบบนี้ดิ ไม่ใช่ตัวใหญ่อย่างกับควายเหมือนสองคนนั้น
“ หายแล้ว เย็นนี้กินข้าวกันปะ ”
“ อืมๆๆ ไว้ซันโทรหานะ ” ลืมไปซะสนิทเลยว่าต้องเข้าคณะ แต่ช่างเถอะ วันนี้ต้องหาอะไรบังเทิงใจซะบ้าง ไม่อย่างงั้นอารมณ์อาจจะรุนแรงกว่านี้ก็ได้